ธรรมหลังกึ่งกลางพุทธกาลเป็นต้นไป เป็นธรรมบัวบาน จะเปิดเผยครั้งแรกในยุคนี้นะ

ปากบอกว่ารัก แต่การกระทำเขาก็ยังดูดบุหรี่กินเหล้า พอเกิดโรคภัย พ่อแม่ ลูกเมียก็เป็นทุกข์ในสิ่งที่เกิดขึ้นกับเรา ก็คงจะเรียกว่ารักกันไม่ได้ เพราะไม่เห็นคุณค่าของตัวเอง เพราะในจุดที่เขาเป็นไม่มีใครมาแทนตัวเขาได้

 

ผมก็ไม่เข้าใจนะ ว่าทำไมคนชอบไปแย่งตู่
พวกเสื้อแดงอะไรนั่น ทำไมไปว่าตู่เขา


เขาทำความ "ดีออก"

 

ใช่ค่ะ เขาจะต้องจัดการกับตัวเขาเองให้ได้ก่อน เมื่อคุณค่าที่เขามีอยู่มันได้ถูกทำลายไป ความสูญเสียตัวตนที่เก็่บไว้ในจิตติดรหัสไว้ข้างในไม่หนีหาย เมื่อเหตุปัจจัยมันมีให้ไว้ ทำอย่างไรก็ต้องเป็นไปตามเหตุปัจจัยของมันค่ะ นอกจากเขาจะลบรหัสนั้นออกให้หมดไป แต่ว่ามันจะใช้ระยะเวลานานแค่ไหน ถ้าไม่มีสิ่งใดมากระทบ เขาจะรู้ได้อย่างไร และจะนำมาเป็นบทเรียนเพื่อลบรหัสออกไปจากใจได้อย่างไร ใช่ไหม่ค่ะ

 

คุณ "คนโง่โง่" เคยผ่านประสบการณ์ที่พระพุทธเจ้ามาโปรด
หรือยังครับ? อยากให้ลองแชร์ประสบการณ์ว่ามีจริงน่ะฮะ

 

เคยเห็นไหมค่ะ ภาษาจิตสื่อจิต

ผู้ใดรับได้ ผู้นั้นย่อมเข้าใจในจิตสื่อจิต

ไม่ได้ตู่ แต่เพียงชี้แจงว่า ไม่มีใครเป็นเงา หรือ เป็นตัวแทน หรือเป็นตัวปลอม ทุกคนย่อมเป็นตัวจริงในการทำความดี อย่าไปว่าใครให้เสียกำลังใจค่ะ

ไม่ได้เกี่ยวกับการเมืองนะคะ กำลังเกี่ยวกับตัว jityim เอง และ คำของท่าน และคำของอีกท่านหนึ่งที่เกี่ยวโยงกันค่ะ

ก็เลยอยากย้ำว่า "เขากำลังทำความดีอยู่ อย่าทำให้เขาเสียกำลังใจ เพราะอาจเป็นสิ่งสุดท้ายที่เขามีอยู่ก็ได้ค่ะ"

 

พวกต่างดาวจะอยู่คล้ายปัจเจก แต่ไม่ใช่ปัจเจกฯ
เพราะใจของเขาเชื่อมโยงกับดาวแม่และพวกพ้อง
เผอิญว่าเราอยู่ห่างไกลกระจายทั่วกันไปในโลกนี้
เราจึงดูเหมือนดวงดาวที่โดดเดี่ยวกลางอวกาศแค่นั้น

พวกที่มาจากดาวสุริยะ, ดาวจันทระ ก็ไม่ต่างกันครับ

 

ยกตัวอย่างตู่นี่แหละ ทุกคนที่มาอ่านจะได้เข้าใจง่ายๆ
ถ้ายกตัวอย่างเรื่องส่วนตัวของใครก็ไม่รู้ คนอ่านก็งงนะ

 

ตู่ นี่เป็นใครค่ะ ในเสื้อแดง หรือ ว่าคนละตู่ อย่างที่คิดไว้
ถ้าเป็นคนละตู่อย่างที่คิดไว้จริง แล้วเดี๋ยวจะมีนิมิตรความฝันมาเล่าให้ฟังค่ะ
แจ่มชัดเหมือนเห็นจริง เลยค่ะ

 

ขนาดระบบยังรวนเลยครับท่านดอกไม้ บางคนสภาวะกายหยาบยังไม่พร้อม แต่มี จิตเก่าเข้ามาซ้อน 2ดวงทำให้ควบคุมอารมณ์ไม่ได้ ระบบก็เพี้ยนได้เหมือนกันนะครับ อันนี้เพื่อนทางธรรมบอกกล่าวกันให้ฟังครับก็แก้ไขไปแล้วดูอาการอยู่

 

ตู่ ก็ ...

นันทิดา แก้วบัวสายไง
ไม่รู้จักเหรอ?

 

ลองพิมพ์ ตอบในกระทู้ ใจมันสั่น จะ pm ไปตอบท่านดอกไม้ ไฟก็ดับ
สงสัยจะพูดอะไรมากไม่ได้ครับ
ต้นธาตุจริงๆของผมก็คล้ายๆ จิตจักรวาลละครับ ผู้ดูแลท่านแรกก็เป็นทายาทพระผู้ทำลายครับ เพราะอดีตผมค่อนข้างจะแรงอยู่
เคยรับการคืนธาตุ จากองค์พระบิดาและพระมารดาของโลกครับ พระพุทธเจ้าก็เคยคุยครับ ท่านอมิตาภะก็เคยสัมผัสถึงองค์ท่านครับ
แต่ผมมองว่าพุทธเกษตร ก็มีที่เดียวนะครับ อยู่ที่พระองค์จะแสดงมาในภาคใดมากกว่าถ้าเป็นส่วนที่เกี่ยวกับพระอรหันต์ จะเกี่ยวข้องกับท่านอมิตาภะโดยตรง เพราะการชำระอดีตของเหล่าอรหันต์จะนั่งชำระในดอกบัว จนกว่ากรรมจะหมดซึ่งใช้เวลานานมากๆๆๆ ส่วนของท่านศากยมุณีก็น่าจะเป็นอีกภาคละครับอยู่ที่ท่านจะแสดงในรูปแบบใดมากกว่าซึ่งก็ไม่มีขีดจำกัดอยู่แล้ว
คนที่รู้และสัมผัสได้ว่ามีก็ว่ามีละครับ แต่คนที่ไม่เชื่อก็มองว่าไม่มีละครับท่านดอกไม้

 

ได้ปริศนาธรรมเป็นอะไรครับ?
อาจารย์กับผมได้ธรรมจักรกับพระจันทร์

 

เขียน ๒๑.๓๖

บอกแล้วเหมือนกัน ว่าเราเป็นผู้ใหญ่แว๊นซ์ จึงไม่สิ้นฤทธิ์
และมังกรของเราก็ไม่ไปไหนด้วยอ่ะ ยังอยู่ทั้งสอง
ทั้งมังกรฟ้าที่ได้มาจากศาลเจ้ามังกรฟัา
และมังกรยักษ์ นามว่าปฎิพัทธ์

ที่ได้มาจากการ รวมธาตุสิทิด นิมิตรสะท้อน
รวมยักษ์ ก๊ะมังกร สมการยอกย้อน คลอด.มังกรยักษ์
ตัวใหญ่ หลายสิบโล ชั้นร้องโอ้โฮ โม้ปล่าววะนั่น
จะใหญ่ ถึงไหนกัน สองตาจิตฉัน หนาวสั่นยินดี


กระต่ายป่า ข้างวัด / มังกรคู่ สู้สิบทิศ
.

 

พูดตรงๆผมไม่ทราบเลยครับหรือลืมไปหมดแล้ว ผมชำระตัวตนในอดีตให้พุทธะกลายเป็นศรีอริยะก็เลยไม่รู้จะเรียกว่าต่อสายธรรมกันยังไง แต่ก็เพราะรักถึงทำให้ ไม่งั้นใครจะเจ็บตัวฟรีๆตั้งนาน และจะเป็นธรรมใดก็ตามผมรู้และเข้าใจแล้วก็จะทิ้งรูปแบบหลักการทั้งหมดละครับ เพราะใครถามอะไรผมก็จะยกข้อเบียดเบียนข้อเดียวก็ครอบคลุมทั้งหมดอยู่แล้วครับ ไม่เบียดเบียนก็คือรักตัวเอง ย่อมมีคุณสมบัติที่จะรักผู้อื่นและทุกสิ่งได้อย่างเต็มที่ ข้อเดียวยาวไกลเลยครับไม่ต้องมีมาก
ท่านดอกไม้ก็น่าจะสอบได้นี่ครับว่าที่ผมกล่าวมาจริงหรือเปล่า

 

จิตของคนเรามี 3 ประเภท


เรียกว่า จิตโพธิยาน, จิตสาวกยาน และจิตปัจเจกยาน ดังนั้น คนเราจะต้องเดินธรรมไปตามสายยานของจิตในแบบที่ต่างกัน ทั้งหมดนี้จะผ่าน "พระธาตุนิพพาน" หมดนะ เมื่อผ่านพระธาตุนิพพานแล้วจะไม่เหลือความเป็นโพธิยาน, สาวกยาน และปัจเจกยานอีก จะเหลือแต่ "พุทธะ" เป็นทางเดียวเรียกว่า "เอกายนมรรค" ซึ่งมนุษย์ทุกคน จะเป็นเช่นนี้ทั้งหมดจะผ่านยานทั้งสามเพื่อไปสู่ยานเดียวกันนี้หมด ทุกคนมีศักยภาพในการเข้าถึงพุทธสภาวะเท่าเทียมกันทั้งหมด แต่จะต้องผ่าน "พระธาตุนิพพาน" ก่อน ผ่านนิพพานเพื่อทำให้ไม่เหลือความเป็นปัจเจกยาน, สาวกยาน และโพธิยาน จะเหลือเพียงพุทธะอย่างเดียว ซึ่งแต่ละยานมีมรรคาดำเนินไปแตกต่างกัน ดังนี้

สาวกยาน
จะผ่านพระธาตุนิพพานได้ด้วยการได้รับการสอนจากพระพุทธเจ้า โดยไม่ต้องตรัสรู้เอง เช่น ฟังธรรมจากพระพุทธเจ้าจนบรรลุธรรม อาทิเช่น พระอรหันตสาวกในสมัยพุทธกาลทั้งหลาย เมื่อจิตของท่านนิพพานด้วยพระธาตุนิพพานแล้ว ก็จะหมดสิ้นสาวกยาน จึงไปสู่ยานอื่นๆ ได้และมี "พุทธะ" เป็นทางสุดท้ายที่สุดเพียงทางเดียว ในยุคนี้ พระอรหันต์เหล่านั้นจะหมดสาวกยานแล้วมาต่อโพธิยาน

ปัจเจกยาน
จะผ่านพระธาตุนิพพานได้ด้วยการตรัสรู้ด้วยตนเอง จะไม่ยอมให้ใครมาสอน ไม่ยอมเชื่อใครทั้งนั้น จะไม่มีครูมาสอน แต่จะยังไม่ได้บรรลุธรรมในยุคนี้นะ ด้วยยังไม่ถึงยุคสมัยของพระปัจเจกฯ พวกเขาจะถูกหลอกว่าบรรลุธรรมแล้วด้วยการ "หลอกตัวเอง" ไปก่อน แล้วจะมีคนมากมายมายอมรับ เพื่อให้แนบเนียนสมจริง เท่านั้นเอง บางคนมีครูเป็นอมนุษย์ ซึ่งครูเขาก็เป็นสายปัจเจกฯ เหมือนกัน

โพธิยาน
จะผ่านพระธาตุนิพพานได้ด้วยการได้รับการโปรดจากพระพุทธเจ้า มีบุญวาสนามีครูได้ทั้งมนุษย์และอมนุษย์ ครูของท่านไม่ใช่พวกปัจเจกฯ เป็นสายพุทธะโดยตรง เช่น พระกวนอิม ครั้งบรรลุธรรมได้ถอดกายทิพย์ไปพบพระอามิตภะ แล้วได้รับการโปรด ได้รับการต่อสายธรรมจากท่าน พระโพธิสัตว์ทั้งหลายเมื่อบรรลุธรรมจะได้รับการต่อสายธรรมจากพระพุทธเจ้าทั้งสิ้น จะทำกิจรับใช้ท่านครับ

การต่อสายธรรมนำไปสู่การบรรลุธรรม เราต้องต่อสายให้ถูกครับ

 

อืมอดีตที่เป็นปัจจเจกก็มีนะครับ เพราะรู้เข้าใจแล้วไปสร้างมิติเป็นเอกเทศแยกไปอยู่คนเดียวกว่าจะนำออกมาได้เสียเวลาอยู่เหมือนกัน จะนำกลับต้องกลับให้หมดไปค้างที่ไหนก็ไม่ได้ หน้าที่หลักของผมจริงๆก็คือการดึงทุกตัวตนกลับมาชำระนี่ละก็คือการรวมธาตุแหละครับระหว่างรอเรียนรู้อะไรได้ก็ทำไป แต่ต้นธาตุจริงๆผมอยู่ด้านนอก อาจจะฟังดูแปลกๆนะครับสนใจก็คุยได้ ไม่สนใจก็ผ่านไปเลยครับ

 

จิตประภัสสร ปรากฎหลัง "ขันธปรินิพพาน"
หรือ ขันธ์ นิพพานโดยรอบ เลยเผยให้เห็น
จิตประภัสสร ซึ่งหลังละสังขารจิตประภัสสร
จะไปสู่ที่ๆ หนึ่ง ซึ่งไม่ใช่ภพภูมิใดๆ เลย

ต่อมา คุณก็ไปเอาจิตประภัสสรเหล่านั้นกลับ

เพื่อจะได้ให้เขากลับมา "รวมธาตุ" แล้วจะได้
พระธาตุนิพพาน จึงหมดความเป็น "สาวกยาน"
แล้วเข้าสู่โพธิยาน เพื่อให้สุดโพธิยาน ก็จะได้
พุทธะ เป็น "ทางสายเดียว" (เอกายนมรรค)

 

เมื่อพระสมณโคดมนิพพานไม่หมด?


ตอนตรัสรู้ พระสมณโคดมได้ "ขันธปรินิพพาน" ครับ
เผยให้เห็น "จิตประภัสสร" ซึ่งในยุคนั้นไม่มีใครเข้าใจ
เพราะพราหมณ์ส่วนใหญ่ เข้าใจแค่เรื่องวิญญาณคิดว่า
วิญญาณเป็นตัวจิต แต่จริงๆ วิญญาณเป็นแค่ขันธ์ๆ นึง
ซึ่งหลังจากผ่าน "ขันธปรินิพพาน" แล้วจึงรู้ว่าจิตไม่ใช่
ขันธ์ ไม่ใช่วิญญาณ อย่างที่พวกพราหมณ์เข้าใจน่ะเอง

ทีนี้ พระอินทร์ก็มาดีดพิณเพื่อให้ท่านหยุดไว้ก่อน

เพื่ออะไร? เพื่อจะได้ใช้ "จิตประภัสสร" นั้น โปรดสัตว์
เพราะหากไม่หยุด แม้แต่จิตก็จะนิพพานด้วย ที่เรียกว่า
พระธาตุนิพพาน เมื่อจิตนิพพานแล้ว สาวกของท่านก็จะ
ไม่มีกรรมเชื่อมโยงท่านได้ หาท่านไม่เจอจึงต้องค้างไว้
แค่นั้นก่อน แล้วรอตอนละสังขารก็จะได้พระธาตุนิพพาน
หรือจิตนิพพานนี้ ภายหลัง ทว่า ตอนละสังขารท่านไม่มี
ไม่ได้ครับ ท่านละสังขารระหว่างญาณสามกับญาณสี่ดัง
ที่บันทึกไว้ จึงเหลือกิจ "พระธาตุนิพพาน" ค้างคาอยู่ที่
จะต้องกลับมา "กระทำใหม่" ตามคำทำนายที่ให้ไว้ครับ

ดังนั้น จึงต้องมีการไป "ดึงจิตประภัสสร" เหล่านั้นกลับมา

 

ท่านดอกไม้นี่ตัวกีต้าก็ดี เล่นกีต้าก็เก่งนะครับ ผมเล่นเป็นอย่างเดียว
เกิดมาตั้งนานไม่รู้เท่าไหร่ แล้วบรรลุชาติเดียวก็ไปแล้วมันคงไม่ใช่ละมั้งครับแล้วทุกครั้งที่มีการปฏิสนธิจิตก่อเกิดตัวตนใหม่ สรา้งเหตุมากมายแล้วจิตที่ตกค้างใครจะรับผิดชอบละครับ กินเองขี้เองก็ต้องเช็ดเองซิจะให้ใครมาเช็ดละ
เมื่อจิตนั้นสะอาดดีแล้วก็เคลื่อนไป เราก็มาทำความสะอาดอันที่เราทำมันเลอะเทอะนั่นละทำไปเรื่อยๆ จนกว่าจะหมด มีอันเลอะๆเหลือมันจะรวมกันได้ยังไง มีกายหยาบนี่ดีสุดแล้วครับ ไม่งั้นก็ต้องไปนั่งในดอกบัวนานโฮกๆ หรือไม่ก็ไปช่วยงานตามสายของท่านรอพระศรี
ถึงได้พยายามบอกว่าให้รักตัวเองให้มากๆ มนุษย์มีอะไรดีๆเยอะแยะครับ

 

ไม่ต้องเล่นให้เป็นก็ได้ครับ คนเล่นเป็นก็ต้องแสดง คนเล่นไม่เป็นตบมือเป็นเข้าจังหวะมันก็ไปกันได้ครับ สนุกได้เหมือนกันผ่านได้เหมือนกันครับ