นอนกอดผีบนบ้าน

ในห้อง 'เรื่องผี' ตั้งกระทู้โดย Penty, 30 ธันวาคม 2014.

  1. mai261

    mai261 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2014
    โพสต์:
    258
    ค่าพลัง:
    +508
    พี่นพค่ะ มีเรื่องจะถามกำลังคิดอยู่ว่าจะเล่าเรื่องนี้ดีมั้ย คนอื่นจะว่าเราเพี้ยนหรือเปล่าหนอ คิดกลับไปกลับมา สรุปว่า เล่า ดีกว่า น้องสาวใหม่ เค้าแอบฝึกสมาธิจนควบคุบตัวเองไม่ได้ อีกสักหน่อยก็เป็นปกติ และเคยได้ตั้งกระทู้ไว้และคงโดนลบไปแล้ว 555
    พอตกกลางคืน ใหม่ สวดมนต์และตอนกำลังจะแผ่เมตตาไป เรารู้สึกเหมือน ตัวเรา ส่ายไปมาโดยไม่รู้สึกตัวเวียนหัวและเบลอเล็กน้อย คล้ายๆกับชายแก่ท่านนี้ดูดพลังเราไป เลยหันหลังไปเห็นชายแก่ใส่ชุดสีขาว มานั่งข้างๆ อันนี้เห็นด้วยตาเปล่านะคะ สักพักก็แวปหายไป พอใหม่นอนหลับ ชายแก่ชุดขาวท่านนี้เลยมาเข้าฝันใหม่ว่า ท่านเป็นเทพที่คุ้มครองน้องสาวใหม่ ตอนนี้พลังน้องสาวไม่เพียงพอ เลยต้องมาขอพลังที่ใหม่ (ตอนท่านพูด ก็นั่งท่าขัดสมาธิพร้อมกับประกบมือถ่ายทอดพลังให้น้องสาวใหม่ไปพร้อม) เราเห็นแบบนั้น รู้สึก แปลกใจมากๆ เพราะเรายังเด็กจะไปมีพลังอะไรให้ พูดตรงๆเลยนะคะ อีกใจนึงก็ทั้งขำและ งง ไปพร้อม แต่ไม่ได้หลบหลู่ท่านหรอกนะคะ เราแค่คิดว่า เรายังเด็กทำไมต้องเจอเรื่องแบบนี้บ่อยจัง แค่นั้้นเอง
    พี่ว่าใหม่อุปทานไปเองมั้ยค่ะ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 2 มกราคม 2015
  2. บุรุษไร้เงา

    บุรุษไร้เงา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2007
    โพสต์:
    8,425
    ค่าพลัง:
    +35,040
    อืมถือว่าเล่าขำๆเนาะ...ไม่นิครับเห็นจริงนั่นหละคับ ตำ่แหน่ง
    เหนือระหว่างกลางคิ้วน้องใหม่มันเชื่อมกับครูบาร์อาจารย์ข้างบนอยู่คับ
    แล้วที่ดีก็คือช่วงที่เห็นได้มักจะควบกับการทำอะไรที่พิเศษๆเสมอ
    จะว่าไปนะ แนวกะแสทางเดินของจิตมันมีเรื่องพลังงานด้วยนะคับ
    จิตที่มีแบบนี้จะมีความสามารถรักษาคนได้ด้วยนะ เพียงแต่ตอนนี้
    กระแสพลังงานมันยังไม่เชื่อมรวมกับกระแสครูบาร์อาจารย์
    เพราะมันมีกระแสของความคิดเราเองในเรื่องนี้มีกำลังพอสมควร
    มันคอยต้านคอยรังไว้อยู่ ทำให้มันหมุนวนภายในสมอง
    ในแนวตั้งฉากกับพื้นหรือหมุนวนลงมาถึงคอนั่นหละ
    คล้ายๆยังไม่ค่อยเชื่อไม่ค่อยสนใจนั่นหละ๕๕๕
    เรื่องพลังงานเทพเทวดาประจำตัวตกก็เรื่องปกติ
    ถ้าไม่ได้รับการอุทิศส่วนกุศลนะครับ ไม่แปลก
    . ถ้ามีก็ช่วยเราได้หลายครั้งแบบเราคาดไม่ถึง
    ที่มาขอเราได้ก็เพราะเราเป็นสายเลือดและอุทิศส่วนกุศลได้
    นี่ก็ไม่แปลก และพลังงานของดวงจิตนี้มันจะเกี่ยวข้อง
    การได้มาจากเหตุเพราะเห็นทุกข์เรื่องเลิฟๆซะด้วยจิ ๕๕๕
    ส่วนน้องสาวกะแสมันหมุนวนภายใต้กะโหลกศีรษะในแนวขนานกับพื้นออกไปโยงกับ
    ตรงเหนือระหว่างคิ้วบ้างแต่ไม่เห็นระดับดีๆนะ
    และเป็นการหนุนตรงนี้จากพลังงานภายนอกที่เจาะเข้ามา
    ทางท้ายท้อยด้วยนะซิคับและยังเกี่ยวพันธ์กับเรื่องเลิฟๆด้วย ก็อาจจะตึงๆ
    หลังช่วงกลางบ้าง ตึงๆบริเวนศรีษส่วนบนบ้าง บริเวนศรีษช่วงกลาง
    บริเวนหลังหูซ้ายบ้าง และจะเอาแต่ใจ. เด่วซักพักพอกระแสเชื่อมข้างบน
    ได้ปกติก็คงไม่มีอะไรคับแต่ใช้เวลาบ้างพอสมควร

    ปล.ประมาณนี้เนาะ
     
  3. The eyes

    The eyes เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    968
    กระทู้เรื่องเด่น:
    3
    ค่าพลัง:
    +2,638
    จะว่าเรื่องฝัน แล้วคิดว่าใช่จริงๆ ก็มีอยู่เรื่องหนึ่ง คือสมัยเด็กๆ ตอนนั้นอาศัยอยู่บ้านยาย แบบครอบครัวใหญ่ บ้านลูกๆยายก็จะอยู่ระแวกเดียวกัน มีคืนหนึ่งฝันเห็นชายชราในชุดขาวแบบชีปะขาว บอกให้มาขุดสมบัติใต้ต้นโกงกางที่ขึ้นติดกับบ้านลุง (ปลูกบ้านในคลอง) แต่ด้วยความยังเด็กก็ไม่รู้เรื่อง จึงไม่ได้คิดอะไรมาก พอโตได้อีกหน่อยก็เล่าให้แม่ฟัง (มันจำได้แม่นค่ะ ไม่ลืม) เท่านั้นแระ แม่ก็เล่าว่าลุงก็ฝัน ซึ่งลุงก็ไม่ได้สนใจจะขุดเหมือนกัน และด้วยต้องเรียนหนังสือและมีการย้ายบ้าน ก็ลืมเรื่องนี้ไป จนมานึกได้อีกทีก็หลังจากลุงเสียชีวิตแล้ว ใจก็เลยอยากลองขุดดู แต่ติดตรงไม่กล้า ปล่อยเวลาผ่านไป ก็ฝันอีกว่าไปขุดสมบัติตรงนั้น พบไห3ใบ แต่เพียงเห็นไหก็แตก ภายในไหมีเศษกระดูก โคลน.ไม่มีสมบัติอะไร ในฝันเข้าใจว่า สมบัติต่างๆได้ละลายลงดินไปหมดแล้ว ToT. และเมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมา ก่อนที่ตรงนั้นจะถูกขายให้คนอื่น ก็ฝันถึงชายชราคนเดิม มาลา.บอกว่าจะไปอยู่ที่อื่นแล้ว ดูแกยิ้มแย้มแจ่มใส แถมใส่เสื้อผ้าแบบสไตคนเที่ยวทะเล คือเสื้อเชิตลายดอกไม้สีสดใสกับกางเกงขาพอดีเข่า ที่จำได้เพราะนวดเคราแกยาวมากๆ สีขาวทั้งศรีษะทั้งหนวด แล้วที่ตรงนั้นก็ถูกถมกลายเป็นที่จอดรถแล้ว สรุปคือแห้วกิน ToT. มีความเป็นไปได้ไหมคะ ที่สมบัติจะละลายลงดิน ถ้าแบบว่าเขาตามให้มาขุดแล้วไม่มีใครใส่ใจ เป็นสิบๆปี

    ปล.คุณนพเหนื่อยตอบรึยังคะ? หุหุ มีแต่คำถามแบบกิเลสทั้งนั้น555 (นานๆถี่)หุหุ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 2 มกราคม 2015
  4. Penty

    Penty เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มกราคม 2014
    โพสต์:
    475
    ค่าพลัง:
    +1,580
    ดีค่ะอ่านตาแฉะเพลินๆ อิอิ
     
  5. Superwoman1

    Superwoman1 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 มีนาคม 2012
    โพสต์:
    58
    ค่าพลัง:
    +244
    เมื่อวานวันปีใหม่ซื้อของโปรดของแม่พร้อมพวงมาลัยไปให้แม่ จากนั้นก็ขึ้นไปห้องพระเพื่อถวายพวงมาลัยและเติมน้ำหน้าหิ้งพระและที่ของบรรพบุรุษ แล้วก็ไปที่ตู้ไม้ที่ประตูตู้ด้านหน้าเป็นกรอบกระจกที่แม่เก็บพระพุทธรูปและน้ำมนต์ แป้งที่หลวงปู่บุดดาปลุกเสก กะจะนำมาโปรยใส่ศีรษะของตนเองเพื่อขอพรปีใหม่. ก่อนที่มือจะไปจับที่จับ เห็นแสงใสๆแว่บๆไม่ใหญ่นักแป๊บนึงที่กระจก ยังสงสัยว่าอาจจะเป็นแสงสะท้อนไฟก็ได้มั้ง สมัยยังอยู่กับแม่ที่บ้านหลังนี้ยังเคยแอบคิดว่าที่นี่อาจมีวิญญาณอยู่ด้วย
     
  6. mai261

    mai261 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2014
    โพสต์:
    258
    ค่าพลัง:
    +508
    จิงๆค่ะพี่นพปลงเรื่องรักแล้วค่ะ เห็นเปนความไม่เที่ยง เอ้ย ต่อไปมะกล้าถามแล้ว แอบรุ้จิตเราได้ด้วยอ่ะ เสียลุคหญิงแกร่งหมดเลย555 ส่วนที่ว่าไม่ค่อยเชื่อนั้นก็จิงนะค่ะเพราะโดยส่วนตัว ใหม่เปนคนรักสวยรักงามพอตัวแต่งตัวก่อนออกจากบ้าน 1 ช.ม. ค่อยไป หัวสมัยใหม่ เหมือนกัน ดูขัดแย้งกับบุคลิคมากค่ะ มีครุบาอาจายร์ท่านหนึ่งก็เคยบอกคล้ายๆพี่นบเหมือนกันค่ะ ว่าใหม่ยังไม่ ประสา อะไรเลย พร้อมหัวเราะ แกบอกว่าแกไม่พุดเองนะ ครุบาอาจารย์ข้างบนท่านพุดมาแบบนี้
     
  7. บุรุษไร้เงา

    บุรุษไร้เงา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2007
    โพสต์:
    8,425
    ค่าพลัง:
    +35,040
    วัตถุอะไรก็ตามเนาะที่ปกติสายตาปกติเราไม่สามารถมองเห็นได้..
    วัตถุพวกนี้มันจะข้ามเรื่องมิติและรื่องเวลาได้.
    และการที่จะสามารถประกอบขึ้นมาเป็นรูปเป็นร่างได้หรือเป็นรูปธรรมได้.
    ให้เราสามารถสัมผัสได้จับต้องได้นั้น.มองเห็นเป็นสีสันต่างๆได้นั้น
    ไม่ว่าจะวัตถุอะไรก็ตาม รวมทั้งที่เป็นรูปร่างต่างๆอะไรก็ตาม....
    กำเนิดขึ้นได้จากการรวมธาตุต่างๆไม่ว่า ธาตุดิน ธาตุน้ำ ธาตุลม ธาตุไฟ
    โดยมีอากาศธาตุซึ่งมีอยู่ภายนอกอยู่แล้วเป็นตัวเชื่อม
    หลอมหลวมจนเป็นชิ้นนั้นๆขึ้นมาได้.รวมเป็นรูปร่างนั้นๆขึ้นมาได้
    แต่การที่มันจะขึ้นมาเป็นรูปธรรมอย่างนั้นได้จะต้องประกอบด้วย
    ๑.กำลังจากตัวจิตดวงหนึ่งในการในการที่จะสร้างให้ธาตุต่างๆเหล่านี้รวมกันขึ้นมาได้.
    และ ๒.สัญญาจากดวงจิตภายนอกอีกดวงจิตหนึ่ง..
    ที่จะเป็นตัวเชื่อมกับพลังงานต่างๆที่หลอมรวมขึ้นมาเป็นวัตถุนั้นๆร่วมด้วย
    ถึงจะรักษาสภาพวัตถุนั้นๆให้มีความคงตัวอยู่ได้...

    ..ถ้าหากว่าขาดอย่างใดอย่างหนึ่งในสองส่วนนี้..
    วัตถุนั้นๆก็จะสลายไปได้ของมันเองเป็นปกติเอง...
    เนื่องจากว่าในชีวิตปกติของเราเห็นแต่วัตถุที่ถูกสร้างขึ้นจากองค์ประกอบ
    ทางเคมีและสะสารต่างๆมาหลอมหลวมกับเป็นวัตถุและมัน
    มีระยะเวลานานมากเราเลยไม่คุ้นเคยกับการสลายตัวเนื่องจาก
    วัตถุที่ถูกสร้างขึ้นโดยมนุษย์มันมีระยะเวลาในการสลายตัวที่นาน
    และไม่ได้ถูกสร้างจากกำลังที่เกิดจากดวงจิตนั้นเอง.
    ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องปกติที่จะเข้าใจอย่างนี้หรือไม่เข้าใจขั้นตอนการสลาย
    ตัวของวัตถุที่ถูกสร้างขึ้นจากดวงจิตจากการรวมธาตุ.

    ส่วนดวงจิตดวงวิญญานมีอยู่ทุกที่.เนื่องจากเป็นพลังงานอย่างหนึ่ง.
    มีความความถี่ที่แตกต่างกันไปตามแต่ระดับของพลังงาน บางทีพลังงาน
    ตรงนี้เราเรียกว่าพลังบุญ พลังบาป.และมันก็อยู่รอบๆตัวเราจนกลืนเป็น
    หนึ่งด้วยกันและเป็นธรรมชาติรอบๆตัวเราจนเราจับสังเกตุอะไรไม่ได้..
    ที่นี้พอเราทำอะไรซักอย่างที่เป็นการเพิ่มพลังงานคลื่นความถี่พวกนี้
    ทำให้เกิดพลังงานต่างๆเหล่านี้ออกจากตัวเรา ทำให้รอบๆจิตเราตัว
    เรามีคลื่นพลังงานที่สูงขึ้น..พอพลังงานมันสุงขึ้น.จึงเป็นผลทำให้พลัง
    งานพวกนี้ปรับระดับไปชนคลื่นพลังงานที่สูงขึ้นรอบๆตัวของเรา..
    เป็นผลทำให้เราสามารถสัมผัสได้ รับรู้ได้ถึงพลังงานต่างๆนั้นเอง..
    แต่เราเรียกกันเพื่อให้เข้าใจง่ายๆว่า เป็นดวงวิญญาน เป็นดวงจิตนั้น
    ดวงจิตโน้นประมาณนี้หละครับ...
    ปล.พอจะเข้าเนาะ......
     
  8. Superwoman1

    Superwoman1 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 มีนาคม 2012
    โพสต์:
    58
    ค่าพลัง:
    +244
    พอจะเข้าใจแล้ว ดังนั้นจึงควรทำความดีทั้งทานและภาวนาให้สม่ำเสมอ ให้มากพอที่จะทำให้พลังงานรอบตัวเราสูงขึ้น
     
  9. The eyes

    The eyes เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    968
    กระทู้เรื่องเด่น:
    3
    ค่าพลัง:
    +2,638
    เข้าใจแล้วค่ะ ไม่เคยนึกถึงกรณีแบบนี้มาก่อน เพราะเข้าใจว่า ของที่มีอยู่เช่นแก้วแหวนเงินทอง มันไม่มีทางจะหายไปทั้งดุ้นได้ภายในร้อยสองร้อยปี ไม่เคยนึกถึงกรณีแบบนี้มาก่อน ขอบคุณค่ะ^_^ (แสดงว่าอาจเป็นแบบท่านชายชราสงสารเลยอยากให้ เลยดลบันดาลให้ แต่เรามันมีกรรมมาบัง เลยไม่กล้า 555 ไม่เอาก็หายไปเบย อิอิ)
    วันนี้มาขอความรู้อย่างหนึ่งคะ อย่างคนหลงป่าเพราะผีบังตา รึอะไรก็แล้วแต่ที่ดึงจิตเราให้เขวได้ อันนี้นอกจากตัวพลังงานภายนอกที่เหนือเราแล้ว นอกจากความจำแล้ว ยังมีเพราะเหตุใดอีกคะ? เหตุใดผีป่าจึงมีฤทธิ์มากทั้งๆที่ไม่มีใครอุทิศบุญให้ ตลอดจนเราควรระวังอย่างไร เพื่อไม่ให้เกิดการลวงกันได้คะ? ที่แปลกใจเพราะสงสัยว่าสามารถซ่อนสายตาจากคนมากมายที่ตามหาและคนถูกกระทำ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 3 มกราคม 2015
  10. บุรุษไร้เงา

    บุรุษไร้เงา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2007
    โพสต์:
    8,425
    ค่าพลัง:
    +35,040
    ดวงจิตทุกดวงถ้าไม่มีกายแล้วและยังไม่ถึงเวลาที่ตนเองจะเปลี่ยนภพภูมิแล้วไซร์
    ตัวจิตสามารถมีกำลังเพิ่มขึ้นได้จากการที่อยู่อาศัยมานานมากๆ ให้สังเกตุสีผิว
    ดูยิ่งอยู่นานยิ่งดำมาก ดำแห้งๆเหมือนถ่าน..บางกลุ่มก็เสวยบุญอยู่ก็มีแต่ยังติด
    วัตถุอยู่ก็มี..บางกลุ่มที่เราเห็นอยู่ในป่า
    เค้าอยู่มาก่อนตั้งแต่สมัยพุทธกาลก็มี
    อายุหลักหลายร้อยปีมันเรื่องธรรมดามาก.
    อย่าไปนึกว่าเค้าจะเป็นญาติๆกับรุ่นปู่รุ่นตาเราหละ๕๕๕
    เรียกว่าอยู่มาเป็นพันๆปีก็มี อยู่เป็นหมื่นๆปีก็มี.
    และด้วยความคิดที่มีอยู่เดิมล่าสุดนั่นหละเป็นตัวที่ค่อยๆเพิ่มกำลัง
    ให้กับจิต ที่นี้ก็ขึ้นอยู่กับว่าความคิดจะออกไปทางกุศลหรืออกุศล
    และความคิดพวกนี้นี่หละที่มันกำลังมากเป็นเหตุให้จิตเค้าวางไม่ได้
    เป็นกลางไม่ได้เลยไม่ได้ไปผุดไปเกิดหรือเปลี่ยนภพภูมิซักที..

    ..กลุ่มอสูรกายที่เค้าเก่งๆชนิดที่ห่มเหลืองที่ว่าตนแน่ๆ ก็เปลี่ยนภพภูมิมาเยอะแยะ
    ยักษ์บางตนที่อยู่มาก่อนสมัยพุทธกาลเค้าไม่สนหรอกว่าเป็นคนเป็นอะไร
    ถ้าเค้าห่วงถิ่นเค้าก็เล่นงานเราทั้งหมดนั้นหละ..
    .เค้าถึงว่าถ้าไม่แน่จริง ไม่รอบรู้ทั้งสมุนไพร ไม่เข้าใจ
    ธรรมชาติของป่า ไม่มั่นใจว่าตนเองมีครูบาร์อาจารย์คุ้มครอง
    ไม่แน่ใจในความดีที่ตนเองมีจริงๆ รวมทั้งเมตตาที่ออกจากจิตได้จริงๆ
    เหมือนครูบาร์มีชื่อหลายๆท่าน.. ไม่ควรเข้าป่าคนเดียว.
    .ป่าในที่นี้คือป่าลึกนะ ไม่ใช่ป่ามีถนนตัดผ่าน ๕๕๕

    ในสมัยพุทธกาลผู้เป็นเลิศท่านจึงได้แนะให้สวดบทคาถาที่แสดงเมตตา
    ของตนเองให้มากๆ สำหรับท่านที่ห่มเหลืองไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น
    ห้ามออกจากกลดตนเองเป็นอันขาดเพราะมีเอกทัตคะท่านหนึ่ง
    ยังคอยดูแลอยู่..สำหรับบุคคลที่มีความสามารถภายในท่านให้ขอ
    บารมีพระคุ้มครองตนเองอยู่ตลอดเวลา..ท่านที่พอมีกำลังจิตยังไงๆ
    ก็ต้องโดนทดสอบ.แต่วัดกันด้วยการใช้ความสามารถในการประนี
    ประนอมและผูกมิตร.มิได้หวังผลเพื่อการแพ้ชนะ..แต่อย่างมนุษย์
    เราๆจะสู้ห่มเหลืองมีฤิทธิ์ไม่ได้ ตรงที่ท่านยังมีปัญญาทางธรรม
    ที่พวกนั้นเค้ายอมรับในความดีสะสมที่ท่านได้สะสมมา...ไอ้เรื่องบังตา
    มันเรื่องธรรมดาสุดแสนธรรมดามาก
    มัวแต่เก็บมาคิด มันแต่ค้นหาคำตอบ มันไม่มีในตำราหรอกนะ..
    โน้นท่านให้สร้างสติให้มากๆ สติเป็นธาตุรู้เด่วมันจะเข้าใจได้เอง
    ภพภูมิท่านถึงไม่เปิดให้เรารับรู้ซักที
    ขนาดเรื่องพื้นฐานยังมองเป็นเรื่องแปลก(อันนี้เหน็บ ๕๕๕)
    เจ้ากรรมนายเวรก็ทำได้.พวกนี้พลังงานจากกสิณสีก็ทำได้..
    แค่เค้าใช้กำลังตัดสัญญาจากจิตที่จะไปเชื่อมยังวัตถุหรือเชื่อมสถานที่
    ต่างๆเพื่อไม่ให้มีสัญญาในจิตเรา.แล้วเชื่อมสัญญาตัวใหม่เค้ากับจิตเรา
    .ตัวเราก็มองไม่เห็นได้แล้ว เอาแค่ของ
    ตรงหน้าเราถ้าเค้าทำเราก็มองไม่เห็นแล้ว จะให้ภูเขาทั้งลูกเราก็มองไม่เห็น
    ถ้าเค้าเชื่อมสัญญาใหม่เป็นทุ่งนาอะไรทำนองนี้..

    ไม่ต้องพวกในป่ามาฤิทธิ์หรอก.
    นั่นมันเรื่องเด็กๆสำหรับพวกนั้น ขึ้นอยู่กับว่าเค้าจะทำหรือเปล่าตรงนี้
    เป็นประเด็นสำคัญ.และอย่าลืมว่าพวกนี้เค้ามองเห็นเราเค้าดูตัวจิต
    คลื่นความคิดที่ออกจากตัวจิตนั้นหละเป็นเรื่องสำคัญ เค้าก็อยู่ภูมิเดียว
    อยู่ภูมิใกล้เคียงกับเรา ก็ยังมีกิเลส พอๆกับเรานั่นหละ ไปทำอะไรก็ตาม
    ที่แสดงความไม่เคารพ ท้าทาย ล่วงเกิน โดยไม่คิดให้ดีๆ ว่าอะไรควรไม่ควร
    ส่วนมากก็โดนกันหมดครับ.
    ลองคิดดูดวงจิตที่อยู่กับความเป็นทิพย์มาตั้งแรก กับพึ่งมาฝึกตอนมีกายใครจะเก่ง
    กว่ากันใครจะชำนาญกว่ากัน.เพราะอะไรเค้าถึงไม่ทำอะไรเรา.เพราะเราเก่งกว่า
    หรือเพราะเค้าอยากให้เราคิดว่าเราเก่งอยู่อย่างนั้นคิดดูเอง...
    แต่ในบางกรณีก็มีบางกลุ่มที่เค้าทดสอบกำลัง
    ผู้ปฏิบัติก็มีตรงนี้ก็ต้องแยกแยะประเด็นด้วย..บางกลุ่มเป็นพวกบำเพ็ญเพียร
    มาก่อน มีทั้งฤิทธ์ ทั้งความสามารถทางจิตพิเศษ ให้เรามีพอมีความสามารถ
    เราก็จะสู้เค้าไม่ได้ เพราะความชำนาญมันต่างกันมาก ประเด็นสำคัญก็คือ
    เราจะทำอย่างไรให้เค้ามาเป็นมิตรกับเราให้ได้..นั่นก็คือการสร้างเมตตาให้
    ออกจากจิตตัวเองให้มันได้ นอกจากความสามารถทางจิตพื้นฐานที่เราควรมี
    เป็นทุน.จิตใจอยู่กับครูบาร์อาจารย์ตลอดเวลาและควรมากมายด้วยพันธ์มิตร
    ทางภพภูมิเพื่อเป็นภูมิป้องกันเราในตรงนี้ ซึ่งต้องสร้างด้วยตัวเอง..ถ้าไม่คิดว่า
    ตนเองจะต้องสำเร็จระดับจิตธาตุ มีความสามรถ สามารถหยิบจับอะในอากาศได้
    ก็อยู่ในเมืองหรือริมๆป่าก็พอ ทำตัวให้มีเมตตาให้มันมากๆ สร้างความดีให้มาก
    ให้ตัวจิตเรามันมีกระแสเย็นๆจากเมตตาตรงนี้ออกไปภายนอก ให้มีกระแสความดี
    จากการสะสมการสร้างบารมีไม่ว่าทางด้านไหนๆ..ไปไหนเค้าก็จะเกรงใจเราด้วย
    นั้นหมายถึงด้วยพื้นฐานจิตเราจะต้องมีกำลังความดีกว่าเค้าร่วมด้วย.
    .

    แต่ยังอีกกรณีพิเศษหน่อย.
    ถ้าเราสามารถสร้างให้มีกำลังจิตพื้นฐานจากกสิณได้แล้วอย่างน้อยต้อง ๕ กองนะ
    และสามารถนำพลังงานพวกนี้มาใช้ได้และมีเมตตาที่ออกไปภายนอกมา
    เชื่อมจนสร้างเป็นอาวุธทิพย์พิเศษจนเป็นแก้วใสขึ้นมาได้แล้ว..
    อาวุธบางอย่างที่สร้างขึ้นมาจะสามารถป้องกันการตัดสัญญา
    และเชื่อมสัญญาใหม่จากพลังงานภายนอกพวกนี้ได้ ถ้ามาถึงตรงนี้ไม่ต้อง
    ไม่บอกกลุ่มบุคคลพวกนี้เพราะเค้าจะรู้ดีว่ามันใช้อะไรได้บ้าง.
    เพราะอาวุธทิพย์ทุกชิ้นจะได้รับการส่งเสริมจากภพภูมิที่แตกต่างกันไป
    เพราะฉนั้นคิดเอาเองว่าทำตัวประมาณไหนเค้าถึงจะให้เราใช้ได้..
    เคยเห็นห่มเหลืองบางท่านไหม..ที่มีโลโก้เป็นอาวุธบางอย่างนั่นหละ
    ท่านสร้างจนมีของท่านได้.แต่ตาปกติเราธรรมดาเราจะมองไม่เห็น
    แต่พวกนามธรรมเค้าจะมองออก.ความเกรงใจที่ได้รับจึงแตกต่างกันนั่นเอง..
    เหมือนคนพกปืนไปขอร้องให้เค้าช่วยเหลือเราดีๆนั่นหละ..
    มันต่างกับคนที่ไม่อะไรไปขอร้องให้เค้าช่วยนั่นหละครับ..


    ประมาณนี้
     
  11. The eyes

    The eyes เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    968
    กระทู้เรื่องเด่น:
    3
    ค่าพลัง:
    +2,638
    แหะๆๆ ^_^" ก่อนถามก็เตรียมตัวโดนเหน็บพิฆาตอยู่แล้วค่ะ แต่อยากให้ท่านอื่นๆได้อ่าน ข้อความนี้ ขอบคุณค่ะ มันมีประโยชน์มากๆเลย เพราะจะทำให้หลายๆคน เข้าใจว่า ปราบ.กับ ผูก มันต่างกันอย่างไร อะไรคือวิธีที่ดีที่สุด ( ToT อุดใจไว้ดีแล้ว ก่อนอ่านค่ะ 555 ไหลไปได้นะเรา ).
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 3 มกราคม 2015
  12. mai261

    mai261 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2014
    โพสต์:
    258
    ค่าพลัง:
    +508
    พี่นพค่ะใหม่เคยฝันว่ายายแก่ท่านหนึ่งชวนไปเล่นที่บ้านและบ้านท่านก็อยุ่ติดกับกำแพงบ้านใหม่เหมือนภพภมุซ้อนกันอยุ่ ใหม่ได้เข้าไปบ้านยายแก่ใส่ชุดขาว ท่านมีคนเฝ้าบ้านให้เปนชายใส่โจงกระเบนแดงถือหอกอยุ่หน้าบ้านตอนแรกชายคนนี้จะไม่ให้เข้าไปในบ้านแต่ยาย แก่ท่านบอกว่าใหม่มากับท่าน ชายคนนี้เลยให้เข้าไป ตอนแรกที่เราเข้าไป บ้านท่านเก่ามาก เราเข้าไปรุ้สึกสงสารมากในใจลึกๆ ใหม่พยายามจะประครองท่านตอนเดินขึ้นบันไดบ้าน แต่ท่านบอกไม่ต้อง เพราะท่านใช้แค่จิตคิดก็เดินได้แล้ว พอไปเที่ยวเส็ดก็กลับบ้าน ตกกลางคืนก็สวดมนแผ่บุญให้ท่าน อีกวันฝันอีก ยายท่านแกบอกว่าได้รับบุนจากเรา พอที่จะไปเกิดแล้ว ก่อนจะไปเกิด ท่านให้ไม้เท้าสีขาวกับใหม่หนึ่งอันมา
    พร้อมกับสอนเราว่า อย่าเปนคนเจ้าคิดเจ้าแค้นแบบท่านเพราะจะทำให้ฉุดรั้งทุกอย่างและเสียที่สุดคือเวลา กว่าจะได้ไปเกิดก็นานโข พอพุดเส็ดท่านก็หายไป ทุกท่านฟังเปนนิทานไปแล้วกันนะคะ เราก็ไม่รุ้ว่าอุปทานมั้ยแต่คำสอนท่านก็เปนคำสอนที่ดีอันหนึ่ง เหมือนกัน พี่นพค่ะ ลักษณะยายท่านนี้น่าจะอยุ่ภพภมุไหนค่ะ ทำไมมีชายผิวดำใส่โจงกะเบนแดงถือหอกเฝ้าบ้านให้
     
  13. บุรุษไร้เงา

    บุรุษไร้เงา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2007
    โพสต์:
    8,425
    ค่าพลัง:
    +35,040
    ตอนที่เจอในฝันเป็นภูมิกึ่งเทวดาครับแต่ว่าเป็นคนเอาแต่อารมย์ตัวเองพูดง่ายๆขี้หงุดหงิด
    ชายใส่โจงกระเบนก็ภูมิใกล้ๆกันเพียงแต่จิตใจเค้ายึดติดกับคุณยายมาก่อน.จึงกลายมาเป็น
    บริวารนั่นหละ..อ้าว!บริวารท่านนี้ยังอยู่นะเนี่ย...ส่วนยายแกเปลี่ยนขึ้นไปข้างบนก่อน
    แต่อยู่ไม่นานก็ลงมาเกิดเป็นคนแล้วอยู่ทางจังหวัดด้านทิศตะวันตกของประเทศไทยครับ..

    ปล.อ่านเป็นนิทานแล้วกันเนาะ ..
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 3 มกราคม 2015
  14. mai261

    mai261 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2014
    โพสต์:
    258
    ค่าพลัง:
    +508
    คงใช่แบบพี่นพพุดค่ะ เพราะคงข้างบ้านใหม่เล่าว่าเค้ามักเห็นชายไม่มีหัวใส่โจงกระเบนนั่งเล่นที่กำแพงบ้านใหม่บ่อยๆ แต่ไม่รุ้ว่าคนเดียวกันมั้ย ทำไมคุนยายมาเกิดเร็วจังพี่นพทำไม่ท่านถึงอยุ่ข้างบนแปบเดียวค่ะ แปลกใจหรือท่านอยากลงมาสร้างบุญแบบพี่นพค่ะ
     
  15. บุรุษไร้เงา

    บุรุษไร้เงา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2007
    โพสต์:
    8,425
    ค่าพลัง:
    +35,040
    เอ่อใหม่พอดีพี่นั่งอยู่ในห้องนอนเลยหลงทิศไปเล็กน้อยนะ น่าจะแก้ไม่ทันใหม่อ้างอิงมา.
    เป็นทางทิศตะวันตกนะ..เรื่องแกลงมาเกิดคงน่าจะประมาณใหม่เข้าใจนะ
    เพราะไปเกิดจังหวัดที่ชื่อย่อ อ ขึ้นต้นด้วยมีวัดที่มีชื่อเสียงโด่งดัง
    และมีผู้นับถือมากมายด้วย....แต่รายละเอียดจริงๆส่วนตัวก็ไม่ทราบนะ.
    การจะได้อยู่ข้างบนนานหรือไม่นานก็อยู่ที่กำลังบุญสะสมนะ ได้ลงมาเกิด
    เป็นคนเร็วๆก็ถือว่าดีแล้วนะ.ดีกว่าแว๊ปลงล่างนะ.
    .ส่วนบริวารที่เหลืออยู่คงเป็นหน้าที่ของใหม่เนาะ
    เพราะคงจะดูมีสัมพันธ์ใกล้ชิดกว่าคนอื่นๆเค้า..
    ประมาณนี้หละ..
     
  16. ยศวดี

    ยศวดี ยายแก่แล้ว*_*

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 เมษายน 2010
    โพสต์:
    4,255
    กระทู้เรื่องเด่น:
    11
    ค่าพลัง:
    +5,796
    แชร์ประสบการ์ณบ้าง
    ตอนผ้าห่ม ค่อยๆ ดึงลง เจอมาแล้ว นอนไม่รู้เรื่อง ดึงขึ้นมาห่มต่อ
    อ้าว จะเอ๊ พี่ ตะเคียนสใบเขียว เดินรอบเตียงเลย
    เค ชัด ชัด เจน คะ
     
  17. kungzaza88

    kungzaza88 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    413
    ค่าพลัง:
    +536
    อ่านแล้วได้รู้เยอะแปลกๆดี ปต่ไม่เคยเห็นจังงแต่เหมือนสัมผัสรอบกายว่ามีอะไรที่มองไม่เห้นแน่ที่บ้านแต่เย็นๆน่าจะสิ่งดีเทวดา พญานาคมั้งเดาเอาครับ
     
  18. Apollo14

    Apollo14 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มกราคม 2011
    โพสต์:
    352
    ค่าพลัง:
    +199
    ไหน ๆ พี่นพก็เล่าเรื่อง "พวกมีฤทธิ์" ในป่าแล้ว ขอถามต่อหน่อยนะครับ

    คือ ผมชอบเข้าป่าคนเดียวไปหาที่สงบนะครับ เป็นภูเขาแถวบ้าน ไม่ใช่ป่าลึก(ถ้าชำนาญแล้วค่อยจะเข้าไปลึก ๆ ครับ) ส่วนตัวไม่มีความสามารถในการ "เห็น" อะไรนะครับ แต่มีขนลุก บ้าง
    คราวนี้เข้าประเด็นครับ เนื่องจาก ผมไม่สามารถเห็น หรือรับรู้อะไรได้ ทำให้กลัวว่าตัวเองจะเป็นอันตรายด้วย (แต่ก็ทำมรณานุสติก่อนขึ้นเขานะครับ แล้วระหว่างเดินก็สวดมนต์ไปด้วย) เลยอยากรู้ว่า จะสังเกตุได้อย่างไรครับว่า พวกที่อยู่ที่นั่นเขาไม่ชอบเรา หรือชอบเรา (ที่ผมสังเกตุได้คือ จะมีแมลงหวี่มากวน ผมก็รู้ตัวเองว่าถึงเวลาลงจากภูเขาแล้ว) หรือมีประเด็นอื่น ๆ เกี่ยวกับการเข้าป่าฝึกใจก็แนะนำได้นะครับ ขอบคุณครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 7 มกราคม 2015
  19. บุรุษไร้เงา

    บุรุษไร้เงา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2007
    โพสต์:
    8,425
    ค่าพลัง:
    +35,040
    ของคุณน้อง Apollo14 เนาะประเด็นสำคัญก็คือเรื่องการฝึกให้จิตมีกำลังครับ..
    พวกเรื่องการจะรู้ จะเห็นได้ ตรงนี้ไม่ใช่ประสำคัญหลักอะไรเลยครับ..
    ถ้าสมมุติว่าภพภูมิเค้าไม่ชอบเรา..ป่านนี้เราคงเข้าไปนั่งอยู่ตรงนั้นไม่ได้ตั้งแต่วันแรกครับ


    เพียงแต่ว่า..การจะผ่านด่านเรื่องการกำลังจิตตัวนี้..จำเป็นที่เราจะต้องตัดเรื่องสัญญา
    ความจำได้ที่ออกมาจิตที่มันเร็วมากๆ ก็คือเรื่องความกลัวนี่หละครับ..
    ส่วนมากเราจะเข้าใจไปเองว่าเราไม่กลัวครับ แต่ความจริงมันปรุงร่วมกับจิต
    ไปแล้วเพียงแต่เราอาจจะยังสังเกตุไม่ทันครับ..เด่วลองต่อดูนะว่าไม่ทันยังไง

    และประเด็นนี้เราจำเป็นที่จะต้องปล่อยให้จิตเค้ารับรู้ตรงนี้ด้วยการฝืนบ่อยๆครับ
    จนจิตมีกำลังขึ้นมาตรงนี้และมีปลายทางตรงที่ฝึกให้จิตไม่กลัวแม้กระทั่งความตาย
    เรียกว่ามันพร้อมที่จะตายตั้งแต่ตัวเรายังไม่ตายบวกกับเรื่องของ
    การฝึกตัดสัญญาต่างๆไปในตัวร่วมกันครับ.

    .ซึ่งประเด็นเรื่องการฝึกตัดสัญญาตรงนี้ก็ต้องค่อยๆเป็นค่อยๆไปด้วยครับ
    ..เริ่มจากการที่เรารับรู้แบบไม่ทันมันก่อน
    เช่น อาการความคิดต่างๆที่ปรุงแต่งให้เรากลัวให้เลิกคิดซะ
    รวมทั้งกิริยาต่างๆที่มันเกิดขึ้นกับร่างกายต่างๆ อย่างเช่นขนลุกก็ใช่
    แบบไม่ได้คิดอะไร ใจเต้นแรงก็ใช่ ถ้าเป็นอย่างนี้แสดงว่าจิต
    มันรวมกับสัญญาความจำได้ต่างๆเรื่องความกลัวเข้าไปแล้วแต่ว่าเรายังไม่ทันครับ
    ถือว่าเป็นเรื่องปกตินะครับ ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรนะครับ...
    แม้ต่อไปจิตจะมีกำลังขึ้นมามันก็เกิดได้ แต่จิตจะตัดได้เร็วภายในเสี้ยววินาทีครับ..
    พอหลังจากนี้ก็ปล่อยให้จิตรับรู้อารมย์ตรงนี้ไปก่อน บวกกับการฝืนๆกลัวๆไปเรื่อยๆ
    เพื่อสะสมกำลังให้จิตแบบค่อยๆเพิ่มขึ้นย้ำว่าต้องฝืนนะครับ

    อย่าไปผลักไสด้วยการเปลี่ยนเรื่องคิด
    หรือการไปใช้บทสวดมนต์หรือการขอบารมีอะไรนะครับ..
    เพราะไม่งั้นจะเป็นการรับรู้เร็วแต่ว่าผลักไสออกไป.ซึ่งต่อไปก็จะเกิดอาการกลัวได้อีก
    พอจิตเลยหรือคุ้นเคยความกลัวตรงนี้ได้.แรกๆมันจะรู้สึกว่าเหมือนจิตมันเหงาๆ
    .แต่คืออาการปกติเพราะจิตมันเริ่มตัดสัญญาได้แต่ยังไม่กำลังมากไม่มีตัวสติ
    ที่จะเข้ามาทำหน้าที่แทนสัญญาความจำได้เดิมในจิต..
    และต่อไปพอจิตเริ่มมีกำลังขึ้นมาบวกกับการที่เราฝึกตัดสัญญาคือการไม่คิดอะไรนอก
    จากตามลมหายใจดูจิตตนเองร่วมด้วยซักพัก..จะเกิดตัวเพื่อนใหม่ที่จะมาคอย
    ควบคุมจิตก็คือตัวสติทางธรรมครับ..
    ต่อไปจิตก็จะตัดสัญญาต่างๆจากภายในตัวจิตเองที่จะผุดเรื่องต่างๆที่โน้ม
    ที่เคยทำให้เรากลัว.เพราะเพื่อนใหม่มันจะจับและตัดได้เร็วมาก
    ส่งผลให้จิตเรานิ่งๆ สงบรับรู้.
    .ก็จะส่งผลให้ไม่มีกระแสตัวนี้ออกไปเชื่อมกับสภาพแวดล้อม
    ภายนอกต่างๆที่มันเคยมาปรุงแต่งให้จิตเรากลัวและส่งผลต่อร่างกายเล็กๆน้อยๆ
    อย่างที่ผ่านมา...จิตก็จะเข้าสู่สภาวะรับรู้แต่ไม่ยึดกับการปรุงแต่งทั้งจากภายในจิต
    และการไปเชื่อมดึงการรับรู้ภายนอกต่างๆที่จิตเคยดึงเข้ามาปรุงแต่งให้เกิดความกลัว
    เหมือนเมื่อก่อนได้ของมันเองในอนาคตครับ....

    กรณีลองนึกเทียบเหมือนเราเห็นเฟอร์นิเจอร์ภายในบ้านเราทุกวัน แต่เราไม่เคยสนใจ
    มันนั้นหละครับ.เราจะเริ่มสนใจมันก็เมื่อเราคิดจะปัดกวาด ทั้งๆที่สายตาเราก็เห็นทุกๆวัน
    แต่มันก็ไม่ได้ส่งผลอะไรกับจิตเราไงครับ มันง่ายเพราะเป็นรูปธรรม..
    แต่ความกลัวมันเป็นสัญญาความจำได้ที่ฝั่งอยู่ในจิต มันเป็นนามธรรมครับ.
    มันรับรู้และปรุงแต่งได้เร็วมาก.โดยที่เราคาดไม่ถึงครับ.
    เราก็ต้องๆค่อยๆแก้ไปอย่างที่ได้เล่าให้ฟังมานั่นหละครับ.

    ปล.ส่วนเรื่องการเคารพสถานที่ การอุทิศส่วนกุศลเป็นประเด็นที่ควรทำเป็นปกติ

    เพื่อสร้างเมตตาจากภายในจิตให้ออกไปภายนอกครับ..
     
  20. Higtmax

    Higtmax เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    2,342
    ค่าพลัง:
    +4,818
    เคยได้ยินเคส คล้าย แบบนี้ครับ จากหลวงปู่ที่รู้จักเล่าให้ฟัง ว่าตอนหนุ่ม ท่านเคยขึ้นไปนั่งปฏิบัติกับอาจารย์ของท่าน แต่จู่ๆรู้สึกว่ามีอะไร นุ่มๆ ลืนๆ หนักๆ ที่หน้าตัก เลย ลืมตาดู ปรากฏว่ามีงูมาขดทับซะงั้น แต่คราวนี้มันมีปัญหาตรงที่ท่านปวดปัสสาวะ เลยต้องนั่งทนไปครึ่งค่อนวัน ปวดก็ปวด หนักก็หนัก ตอนหลังเอาว่ะเป็นไงเป็นกัน พอท่านลืมตายืนขึ้นงูก็ก็หายไปแล้ว อะไรกันนี่มาแกล้งกันหรือนี่ แถมยังต้องมารักษากะเพาะปัสสาวะ อักเสบตอนหลังอีก :'(
     

แชร์หน้านี้

Loading...