นักปฏิบัติอย่างเราจะจัดการยังไงดี ถ้ารู้ว่า มีโปรแกรมเถื่อนอยู่ในคอมพ์ ของตัวเอง ?

คุณ blank123 มาถามคำถามแบบนี้ในเวบบอร์ดแห่งนี้เพื่ออะไรกันแน่ครับ
ต้องการคำตอบเพื่อนำไปใช้

หรือเพื่อรับประทาน

เรื่องโปรแกรมเถื่อนมันเป็นเรื่องของใคร
ถ้าเป็นเรื่องของคุณ คุณก็น่าจะจัดการเองได้นะ
ไม่น่ามาถามในนี้

 

ทั่นเฉียวฯ ว่า...

หมายเหตุ :

อนึ่ง หลักฐานข้างล่างนี้ไม่เรียกว่า โปรเจคชั่น นะเจ้าคะ
แต่เรียกว่า นินทาระยะเผาขน ว่ะ หุหุ
เฮ้ออ ผู้ชายขี้เอา นี่ มันมักจะ ขี้ตั๋ว ทุกตัวเลยไหมเนี่ย :'(


<table id="post6410615" class="tborder" align="center" border="0" cellpadding="6" cellspacing="0" width="100%"><tbody><tr><td class="thead" style="font-weight:normal; border: 1px solid #FFFFFF; border-right: 0px"> 16-07-2012, 09:47 PM </td> <td class="thead" style="font-weight:normal; border: 1px solid #FFFFFF; border-left: 0px" align="right"> #28 </td> </tr> <tr valign="top"> <td class="alt2" style="border: 1px solid #FFFFFF; border-top: 0px; border-bottom: 0px" width="175"> "เฉียวฟง"
สมาชิก



วันที่สมัคร: Apr 2012
ข้อความ: 181
ได้ให้อนุโมทนา: 7
ได้รับอนุโมทนา 35 ครั้ง ใน 15 โพส
พลังการให้คะแนน: 45


</td> <td class="alt1" id="td_post_6410615" style="border-right: 1px solid #FFFFFF"> เครื่องผมมีโปรแกรมเถื่อน แต่ไม่ได้ขโมยมาเสียตังซื้อมาทุกตัวครับผม
</td> </tr> <tr> <td class="alt2" style="border: 1px solid #FFFFFF; border-top: 0px"> </td> <td class="alt1" style="border: 1px solid #FFFFFF; border-left: 0px; border-top: 0px" align="right"> </td> </tr> </tbody></table> <table id="post6410647" class="tborder" align="center" border="0" cellpadding="6" cellspacing="0" width="100%"><tbody><tr> <td class="thead" style="font-weight:normal; border: 1px solid #FFFFFF; border-right: 0px"> 16-07-2012, 09:54 PM </td> <td class="thead" style="font-weight:normal; border: 1px solid #FFFFFF; border-left: 0px" align="right"> #29 </td> </tr> <tr valign="top"> <td class="alt2" style="border: 1px solid #FFFFFF; border-top: 0px; border-bottom: 0px" width="175"> blank123
สมาชิก

วันที่สมัคร: Dec 2011
ข้อความ: 281
ได้ให้อนุโมทนา: 14
ได้รับอนุโมทนา 27 ครั้ง ใน 24 โพส
พลังการให้คะแนน: 411


</td> <td class="alt1" id="td_post_6410647" style="border-right: 1px solid #FFFFFF"> อ้างอิง:
<table border="0" cellpadding="6" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td class="alt2" style="border:1px inset"> ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ "เฉียวฟง"
เครื่องผมมีโปรแกรมเถื่อน แต่ไม่ได้ขโมยมาเสียตังซื้อมาทุกตัวครับผม
</td> </tr> </tbody></table>
เอ ? สังสัยต้องไปถามประธานศาล รธน. ซะละมั้ง
ว่า อีแบ่บนี้มันเข้าข่าย รับซื้อของโจร หรือไม่
และ ต้องจับ ไอ้เจ้าพวกพูชายขี้เอา เหล่านี้ไปขังคุกขี้ไก่กี่ปี


บ๊ายบาย จร้าาาา เด๋วต้องไปเม้าส์ ก๊ะ แควนขับ
ที่บล็อกสุมหัว นินทาชาวบ้าน ต่อแระจร้าาาา อิอิ


__________________
ยื้ม ล็อกอิน ของน้องชาย มาใช้เจ้าค่ะ ^ 0 ^
</td> </tr> <tr> <td class="alt2" style="border: 1px solid #FFFFFF; border-top: 0px"> </td> <td class="alt1" style="border: 1px solid #FFFFFF; border-left: 0px; border-top: 0px" align="right"> </td></tr></tbody></table>

 

อืม...บางทีอิฉัน อาจจะเข้ามา
เพื่อตามหารักแท้ อยู่ก็ได้มั้ง อิอิิ


อา... คลาริซ จ๋าาาาาาาาาา

ถ้าลูกแกะหยุดกรีดร้อง เมื่อไร
ฉันสัญญาว่าจะเลิก ตามหาเธอ
และตอนนี้ฉันจำเป็นต้องไปดินเนอร์กับเพื่อนเก่าก่อน !

 

เอาเข้าไป เสียเงินซื้อชีวิตและเลือดเนื้อที่เขาไม่เต็มใจจะให้
เขาปล้นมาขาย เธอซื้อมากิน
บางทีอาจจะเคยสั่งให้เขาฆ่ามาให้ด้วยซ้ำไปยังลอยตัว
ลอยหน้ายังกินต่อไปได้เรื่อยๆ

แต่กับแค่้เสียตังจ่ายค่าโปรแกรม300บาทได้ครบชุด แล้วขอลอยตัวบ้าง..
ทำเป็นแยะนะเธอ แยะนะเธอ

 

ไหนๆก็คุยเรื่องลิขสิท...แล้วขอถามนอกปรเด็นสักหน่อย
เคยได้ยินมาว่าลิขสิทยารักษาโรคยังมีระัยะเวลาสิ้นสุด
ลิขสิทสิ่งประดิษก็มีระยะเวลาสิ้นสุด
ไม่ทราบว่าจริงหรือไม่

 

อืม...ถ้านักปฏิบัติคนไหนมี ภูมิศีล ที่เข้มแข็งเพียงพอ
เขาก็คงจะไม่ถูก ทั่นด๊อกฯ เลคเตอร์ ฆ่าหั่นศพ
แล้วเอาไปรับประทานเป็น ดินเนอร์ หรอกนะ
ไม่ได้ดู ไซเลน ออฟ เดอะ แลมป์ หรือไง
ว่า ส่วนใหญ่ คนที่ ทั่นด๊อก เชือดเอามาหม่ำ
ล้วนแล้วแต่ มี ความดำมืดหมกเม็ด อยู่ในเจตนา เสมอ



เลี่ยงไม่ได้จริง ๆ หรือ บ่ายเบี่ยง
เพียงเพื่อสนองตัณหา แห่งตน


อันนี้ คนที่ตอบได้ดีที่สุด
ก็คือ ตัวเอง นั่นแหล่ะ
นักปฏิบัติ ที่แท้ น่ะ
เขาต้อง ซื่อสัตย์กับตัณหา และ อัตตาตัวเอง
ตลอดจน ยอมรับความจริง
ที่เป็นด้านมืดของจิตในตน นะ



อาเ้หล่าม่าเองไม่ได้ ใจร้าย
ขนาด คิดจะฆ่าปาดคอลูกหลาน ตัวเอง
แล้วเอามารับประทานเป็นมื้อ ดินเนอร์ ซะหน่อย น้าาา
อาเหล่าม่าก็แค่ ยื่นมีดยื่นพร้า ให้ลูกๆหลาน ๆ
เอาไป แผ้วถางหญ้าคาป่ารกในใจ ให้มันโล่งเตียน ตะหาก
แต่ถ้า ลูกหลานมันเจื๋อกโง่ ไม่รู้วิธีใช้
ทะลึ่งเอามีดเอาพร้าที่ตรูยื่นให้
ไปเชือดคอหอยตัวเอง อันนี้ก็คงต้อง...

ปล่อยให้มันตายอยู่ในป่า นั่นแหล่ะ



( อาเหล่าม่าชอบเล่นบท คนสวยใจดำ เหอ...เหอ...)


ปอลิง

เอ ? ว่าแต่ ลูกกระรอก เอ๊ย ลูกแกะ
ก็ยังมิได้หยุดที่จะกรีดร้อง ซะหน่อยนิ
แล้วเหตุใดหนอ ? ไยลูกพี่กระรอกโพธิสัตว์
จึงต้อง มากำจัด ตัวหนังสือของตัวเอง ออกจากกระทู้นี้ด้วย
แหม๊ ? เห็นอุส่ามีน้ำใจสละเวลาอันมีค่า
มาช่วยเพิ่มเรทติ้ง ให้ตั้ง 1 โพสแหน่ะ หุหุ

 

ผมใช้ของแท้จากศูนย์โซนี่ แต่ไม่เข้าใจว่าทำไมเขาไม่มีซีดีของแท้มาด้วย มีแต่เครื่อง NB กับสติ๊กเกอร์ใต้เครื่องของไมโครซอฟ ??


แล้วที่ว่ารณรงค์ของแท้น่ะ ไปฟิวเจอร์ทีไรดูหนังจบเป็นเรื่องๆเลย ...
สงสัยไหมทำไมเขายังขายกันหน้าตาเฉยเลย อยากได้เรื่องไหนรอแป๊ปเดียวไรท์มาให้เลยไม่เกิน 20 นาที แล้วทำไมไม่จับ ?
แล้วสงสัยไหมข่าวที่ว่าเด็กยากจนเอาซีดีแท้ไปขายตลาดนัดโดนจับปรับตั้งหลายตังค์ ?

แล้วสงสัยไหมว่าระบบราชการมันเป็นแบบปลาใหญ่กินปลาเล็กมาตั้งแต่ต้น ?
แล้วสงสัยไหมว่าคนที่ชอบเรียกร้องประชาธิปไตยเผาบ้านเผาเมืองสุดท้ายอยากเป็นอำมาตย์เอาเสียเอง ?
แล้วสงสัยไหมใครเป็นคนบงการให้รัฐบาลทำนั่นโน่นนี่ ?
แล้วสังสัยไหมทำไมคนสั่งเผาเมืองยังนั่งรัปทานอาหารโต๊ะใหญ่ๆ ทั้งๆที่คนที่เข้ากระบวนการด้วยบางรายยังกินอดๆอยากๆอยู่เลย..?

เพราะว่ากฏหมายมันดี แต่คนพยายามแก้กฏหมายเพื่อผลประโยชน์ตนเองและพวกเท่านั้น


เร็วๆนี้แหละจะได้เห็นอำนาจที่แท้จริงจากความยุติธรรมสั่งลงโทษพวกเผาเมืองนายถลนตากล่าวตู่ทั้งคู่ตาจะเหลือกจะกระอักเลือด ราวกับว่าชาตินี้เกิดมาเสพแต่ของโสโครกพอรู้ตัวก็กระอักอวกออกมาทั้งลำไส้

 

อิอิ ตั้งแต่ถือศีลมา ยังไม่เคยสั่งฆ่าสัตว์ เอามากินสักตัวนะ
รู้ป่ะ ข้อแตกต่าง ระหว่าง ซากชีวิตของสารพัดสัตว์
ที่เรา เอามาแดร่กกัน มันต่างจาก ลิขสิทธิ์ทางปัญญาตรงไหน
เมื่อสัตว์ตาย สัตว์มันย่อมไม่มีคิดเล็กคิดน้อย
ยึดเอา ซากนั้น มาเป็น ของมัน ไง


ซากนั้น จึง ไม่ถูก ยึดถือ เป็น ของมัน
การกินซากที่ตาย แล้ว ปฏิฆะ
ระหว่างกันจึงไม่เกิดรุนแรง
แต่ไม่ได้หมายถึง ไม่บาปนะ
ไงถ้ายังเสพเนื้อสัตว์โดยปราศจากการพิณา
ประมาณว่า ตรูจะอยู่เพื่อกิน
ยังไงซะ ภวตัณหาในตน ก็ยังมี
ก็รับเวรรับกรรมกันไปตามมีตามเกิด



แต่ลิขสิทธิทางปัญญานั้น
ผู้คิด มันยังยึดติด ใน สมบัติของอยู่ อย่างแรงกล้่า นิ
ความเบียดเบียนจึงเกิด ปฏิฆะจึงเกิด



แล้ว ก็ไม่ต้องมาย้ำคิดย้ำทำ
ทะลึ่ง มาโปรเจคชั่น
เรื่อง การกินเนื้อเถื่อน มากนักก็ได้ย่ะ
เด๋ว ตรูนึกครึ้มเกิด ปวารณาตน
เป็น คนกินผักตลอดชีวิต ขึ้นมา
เจ้าสัวซีพี อาจล้มละลายได้นะยะ
( ลูกบ้า ตรูยิ่งเยอะอยู่ด้วย หุหุ )


แต่อิฉันก็ไม่ได้ทำเป็น แยะ อะไร นี่
ก็แค่ มองเห็น อะไรที่ มันอาจจะช่วยสะกิดเตือน
แล้วทำให้ ศีลที่ชาวบ้านแบกไว้ มันละเอียดขึ้นได้
ตามแต่วาสนาจริต และ สติปัญญาของพวกเขานั้นแหล่ะ


เฮ้อออออออ

"ใจคับแคบดั่งถ้วยชา ใส่เกลือเม็ดเดียวก็เค็มได้
ใจกว้างดั่งนที เทเกลือทั้งนาน้ำนั้นก็ไม่กระผีกรสเค็ม"


ปอลิง


อิอิ คุยกับอิฉันน่ะ แค่ซื่อสัตย์กับอัตตาตัวเอง
ถ้า ทำไม่ได้ ก็บอกว่าทำไม่ได้ แค่นั้น มันก็จบแล้ว
แต่ถ้าเสือกมาทำโปรเจคชั่น มัวแต่แถนู้นแถนี่
ก็ต้องถูก ทั่นด๊อกฯ หมั่นไส้ แล้วจับไปรับประทานเป็น ดินเนอร์ ตามระเบียบ หุหุ :boo:

 

ผมก็ยอมรับโดยดุษฏีนะ ว่าใช้ Software ปลอม ไม่แถเลย และัผมยินดีผลกรรมที่ทำไว้กัีบเจ้าของลิขสิทธิ๋ทุกประการ

จากประสบการณ์ในสายงานโปรแกรมเมอร์ บอกได้เลยว่าวงการ Software ไทยไม่มีทางพัีฒนาได้ไกล อันนี้ผลกรรมโดยตรงจากที่คนไทยชอบใช้ Software เถื่อน เหมือนๆกับที่บิลเกตแสดงความคิดเห็นไว้จากข้อความด้านล่าง


แสบๆ คันๆ !!! Bill Gates เยาะเย้ย Software เถื่อนเมืองไทย กระทบคนไทย โปรแกรมเมอร์ไทยและบริษัทไทยมากกว่า MS
--------------------------------------------------
ผู้ก่อตั้งบริษัทไมโครซอฟต์ยังกล่าวถึงการละเมิดลิขสิทธิ์ซอฟต์แวร์ในไทยว่า ในส่วนของไมโครซอฟต์เห็นว่าซอฟต์แวร์ละเมิดลิขสิทธิ์ไม่ได้ลิดรอนรายได้ของบริษัทเท่าใดนัก หากเทียบกับยอดขายในภาพรวม อย่างในสหรัฐอเมริกานั้น บริษัทตั้งแต่ขนาดกลางถึงใหญ่ ส่วนใหญ่ใช้ซอฟต์แวร์ลิขสิทธิ์เท่านั้น นอกจากนี้ไมโครซอฟต์ยังเป็นบริษัทที่ทำธุรกิจทั่วโลก มีรายได้จากการขายสินค้าให้ประเทศต่างๆ ที่จะได้รับผลกระทบจริงๆ น่าจะเป็นบริษัทซอฟต์แวร์ในประเทศมากกว่า เพราะบริษัทเหล่านี้มีรายได้จากค่าลิขสิทธิ์เป็นหลัก และส่วนใหญ่ขายในประเทศ

———————————————————

ขออนุญาตสรุป ที่ บิลเกตส์ บอกให้นะครับ

1. ประเทศไทย ใช้ software microsoft เถื่อนทั้งประเทศ เขาก็ยังรวยอันดับ 1 ของโลก

2. มันเป็นการฝึกวินัยผู้ใช้ และ ช่วยเหลือ นักพัฒนา software ของประเทศไทยเอง ว่าควรละอายใจและต้องจ่ายเงินเพื่อซื้อ software บ้าง มิฉะนั้น อุตสาหกรรม software ในประเทศไม่เติบโตแน่นอน ไม่ต้องคิดไปแข่งในตลาดโลก

 

เฉียว ว่า ....

ประเด็นนี้เคยถกไว้ ก๊ะ ไอ้ทึ้งแระ
ลองอ่าน ดูป่ะ ( แต่อ่านแล้วตาแฉะไม่รู้นะว้อยยย หุหุ)




<table bgcolor="#EDEDE5" cellpadding="0" cellspacing="0" width="95%"> <tbody><tr> <td width="57"></td> <td background="../template/theme/8/images/everyday_frame_03.gif">
</td> <td width="56"></td> </tr> <tr> <td background="../template/theme/8/images/left.gif" width="57">
</td> <td> <table border="0" cellpadding="3" cellspacing="0" height="387" width="363"><tbody><tr><td>
</td><td></td></tr> <tr> <td>
เออ นี่ ๆ ไอ้โซ๊ยตี๋ เอ๋ย
ไหน ๆ อิเจ้ก็มาโพสแระ
ขอถามเจ้าคนหัวหมอจ้อความ หน่อยจิ
ในฐานะที่ลื้อเป็นทั้งนักปฏิบัติ และ นักกฏหมาย
ลื้อมีฟามเห็นไง ก๊ะ สองเคสนี้

http://www.doctor.or.th/node/704


http://thaimedicalerror.blogspot.com/2007/06/blog-post_2905.htm


มาแร่พมาฉ่อย ให้ฟังหน่อยจิ
ว้าาา ตีหนึ่งกว่าแระ ไปนอนดีกว่าเรา อิอิ
</td> </tr></tbody></table></td> <td background="../template/theme/8/images/right.gif" width="56">
</td> </tr> <tr> <td width="57"></td> <td background="../template/theme/8/images/everyday_frame_15.gif">
</td> <td width="56"></td> </tr> </tbody></table>
โดย: นู๋บี วันที่: 2 พฤศจิกายน 2554 เวลา:1:03:52 น.




<table bgcolor="#EDEDE5" cellpadding="0" cellspacing="0" width="95%"> <tbody><tr> <td width="57"></td> <td background="../template/theme/8/images/everyday_frame_03.gif">
</td> <td width="56"></td> </tr> <tr> <td background="../template/theme/8/images/left.gif" width="57">
</td> <td> <table border="0" cellpadding="3" cellspacing="0" width="100%"><tbody><tr><td>
</td><td></td></tr> <tr> <td>เรื่องที่เจ้ถาม มันเป็นเรื่องดราม่าแนวกระล้อนปลิ้นปล้อน
อยู่ในสังคมมันต้องมีหลักการ หรือข้อตกลงอันเดียวกัน
สังคมถึงจะอยู่ด้วยกันได้ เรื่องนี้มันก็คล้ายเรื่องไอ้ฟัก
ของเจ้ เพียงแต่คนที่ใช้อำนาจทำตามกฎหมาย
กลายเป็นไอ้ฟักไป

ดูๆแล้วถ้าเราลบภาพดราม่าออกไป มันก็เป็นเรื่องของ
ความเห็นแก่ตัวเอาแต่ได้ โดยพยายามเบียงเบนประเด็น
ความถูกต้องให้เป็นสิ่งที่โหดร้าย เพียงเพราะตนเองถูก
กระทบจากผลของความถูกต้องนั้นๆ

ดราม่าที่ถูกนำมาใช้เป็นเครื่องมือก็คือ ความเมตตา
ไอ้ความเมตตานี้ มันทำให้คนคิดผิด ทำผิดมานักต่อนัก
อย่าลืมว่าในพรหมวิหารสี่ ข้อสุดท้ายมีเรื่องของ อุเบกขาอยู่
บางคนเข้าใจว่า ความเมตตาเป็นความดีความงาม แท้จริง
แล้วมันก็เป็นกิเลสตัวหนึ่ง ซึ่งเป็นได้ทั้งด้านดีและเลว
พระธรรมจึงมีการวางอุเบกขากำหนดไว้

ตัวลครในเรื่องนี้มี3ตัว มีหมอ นายทุน และยัยเจ้วิ่งสู้ฟัด
กัดไม่ปล่อย ทั้งสามคนสามจำพวก มันมีความเห็นแก่ตัว
เข้าครอบง้ำครับ แต่การแสดงออกจะซ่อนเร้นสิ่งนี้ไว้
จะแสดงให้คนอื่นเห็นว่า ความเมตตาจะค้ำจุนโลก
ไอ้สิ่งนี้แหล่ะเป็นจุดอ่อนของชาวโลก แม้กระทั้งพระโพธิสัตว์

พูดกันตามหลักธรรมเลย สำหรับหมอในเรื่องสิทธิบัตรยา
จะพูดแต่เรื่องหลักของธรรม เพราะหมอกำลังเอาจุดอ่อน
ของ มนุษย์มาเข้าข้างตัวเอง ผมว่าหมอกำลังหลอกชาวบ้านให้หลงประเด็น หลักการสำคัญหมอกำลังทำผิดศีลธรรมอยู่ หมอกำลังแสดงความเห็นแก่ตัวของหมอ ด้วยการ
ชุบมือเปิบสิทธิทางปัญญาของคนอื่น

พอมีเจ้าหน้าที่หรือผู้มีหน้าที่รับผิดชอบ
เข้า มาแก้ไขหมอก็เล่นบทนักการเมือง จุดประสงค์ก็เพื่อเอามวลชนที่ขาดหลักการ หรือขาดการไตร่ตรองด้วยปัญญามาเป็นพวก เพียงแค่นี้ก็รู้ได้ว่าจุดประสงค์สุดท้ายของหมอ
ต้องการอะไร อ่านแล้วยังไม่รู้อีก ก็ไปดูหมอที่กำลังมีเรื่อง
ราว กับสื่อ โดนสื่อออกมาแฉ่ ว่า ต้องการเป็นกรรมการในองกรณ์ต่างๆ จะได้คอยบงการนักการเมืองและขอผลประโยชน์จากฝ่ายที่ได้เป็นรัฐบาล

ทำให้เรารู้ว่าหมอมันก็เป็น ปุถุชนคนธรรมดา ก็แค่เรียนมากรู้มาก วิธีการเล่ห์เหลี่ยมเลยมากตามไปด้วย

คุณหมอครับ ถ้าคุณหมอเป็นคนดีจริง เสียสละจริงแล้ว
และคุณหมอรับไม่ได้กับ ระเบียบกฎเกณณ์ต่างๆ
ที่มีกำหนดไว้ก่อนที่คุณหมอจะเข้ามาอยู่ในสถานที่แห่งนั้น
คุณหมอจะอยู่ต่อไปเพื่ออะไรครับ ทำไมไม่ออกมาให้มัน
เป็นเอกเทศ ไปตั้งคลีนิกเองรับรักษาคนโดยไม่คิดค่า
รักษา ผมว่าวิธีนี้เป็นวิธีเดียวที่คุณหมอจะแสดงให้ชาวบ้าน
รู้ว่าหมอเป็นคนดีมีเมตตาไม่หวังผลประโยชน์ในเบื้องปลาย
เหมือนกับหมอที่กำลังตกเป็นข่าวในขณะนี้

อีกทั้งยังเป็นหนทางที่คุณหมอจะเข้ามาเปลี่ยนแปลงระบบ
ที่คุณหมอไม่ชอบได้ วิธีที่ผมว่า ก็คือคุณหมอต้องสร้าง
บารมีให้กับตัวเองก่อนครับ คุณหมออาจมีเงินทองไม่มาก
แต่คุณหมอก็สามารถใช้ ความรู้ความสามารถรักษาคนแบบ
ไม่คิดค่ารักษาได้นี่ครับ เมื่อมีบารมีพอก็สามารถลงสมัคร
รับเลือกตั้ง ถ้าบารมีมากพออาจได้เป็นรมต หมอก็สามารถ
แก้ระบบที่คุณหมอต้องการได้ วิธีนี้เป็นการกระทำที่ถูกต้อง
กฎหมายและศีลธรรมครับ

คุณหมอครับ รู้จัก ความหมายของกาขาว กาดำหรือยังครับ
</td> </tr></tbody></table></td> <td background="../template/theme/8/images/right.gif" width="56">
</td> </tr> <tr> <td width="57"></td> <td background="../template/theme/8/images/everyday_frame_15.gif">
</td> <td width="56"></td> </tr> </tbody></table>
โดย: โอทึ้ง IP: 58.9.118.49 วันที่: 2 พฤศจิกายน 2554 เวลา:5:42:11 น.




<table bgcolor="#EDEDE5" cellpadding="0" cellspacing="0" width="95%"> <tbody><tr> <td width="57"></td> <td background="../template/theme/8/images/everyday_frame_03.gif">
</td> <td width="56"></td> </tr> <tr> <td background="../template/theme/8/images/left.gif" width="57">
</td> <td> <table border="0" cellpadding="3" cellspacing="0" width="100%"><tbody><tr><td>
</td><td></td></tr> <tr> <td>

ไอ้ตี๋ ตีห้า ว่า....
เรื่องที่เจ้ถาม มันเป็นเรื่องดราม่าแนวกระล้อนปลิ้นปล้อน
อยู่ในสังคมมันต้องมีหลักการ หรือข้อตกลงอันเดียวกัน
สังคมถึงจะอยู่ด้วยกันได้ เรื่องนี้มันก็คล้ายเรื่องไอ้ฟักของเจ้
เพียงแต่คนที่ใช้อำนาจทำตามกฎหมายกลายเป็นไอ้ฟักไป


ดูๆแล้วถ้าเราลบภาพดราม่าออกไป
มันก็เป็นเรื่องของความเห็นแก่ตัวเอาแต่ได้
โดยพยายามเบียงเบนประเด็นความถูกต้องให้เป็นสิ่งที่โหดร้าย
เพียงเพราะตนเองถูกกระทบจากผลของความถูกต้องนั้นๆ

++++++++++++++++++++++++++++

อิเจ้ซินเดอเรลล่า ว่า.....
เฮ้ยยยย ไอ้โซ๊ยตี๋เอ๋ย
อิเจ้สู้อุตสาห์ยกให้ลื้อเป็นน้องน้อย
แต่เจ้รู้สึกผิดหวังมากเลยว่ะ
ไอ้หอยเอ๊ยยย ทำไมลื้อถึงเป็นผู้ชายใจด๊ำดำ
เป็นอีกาแบบนี้ไปได้นะ อ่ะซิก...อ่ะซิก...

เมื่อก่อน เจ้ก็เห็นลื้อเป็นผู้ชายปากร้ายใจดี
ยังรู้สึกปลื้มไม่หายที่ลื้อเป็นคนโอบอ้อมอารี
เกิดมาตรูก็ไม่ค่อยจะเคยพบเคยเห็น
ไอ้พูชาย ที่ไหนมันจะเซ้นซิทีฟ มากมาย
ถึงขนาดที่ไม่ยอมกินเนื้อน้องหมู
เพราะใจอ่อนฉงฉานมัน


แต่มาตอนนี้บอกได้คำเดียวว่าเสียความรู้สึกว่ะ
เคยคิดว่าลื้อนั้นเป็นคนแข็งนอกอ่อนใน
แต่ที่ไหนได้ กลับมาทำตัวอำมหิตเป็นยักษ์เป็นมาร
ไม่มีฟามเมตตาอารีต่อ คนไข้ตาดำ ๆ เอาซะเรยยย
คนเรามันต้อง รู้จักทำตัวเป็น นักบุญคนบาป
ยอมที่จะมือเปื้อนเลือด เพื่อ คนไข้ที่น่าสงสารซะมั่งนะเว้ย


เฮ้ย ตี๋ เจ้จะท่อง พุทธวจนะให้ลื้อฟัง นะว่า
โลโกปตฺถมฺภิกา เมตฺตา
อันเมตตาธรรม นั้น เป็นเครื่องค้ำจุนโลก

นี่ ๆ ลื้อเคยสำเหนียก กับ สโลแกนอันนี้บ้างอ๊ะปล่าว วะ
เฮ้อออ ทำไมลื้อชอบทำตัวเป็นคนแล้งน้ำใจงี้นะ
หัดคิดถึง ใจเขาใจเรา มั่งสิยะ
ถ้า คนไข้ผู้ยากไร้เหล่านั้น
เป็นโคตรพ่อโคตรแม่ลื้อบ้าง ลื้อจะรู้สึกไง ?

ฮือ ๆ คอยดูนะเจ้ขอสาปแช่งให้สักวันนึง
ลื้อต้องเจอกับโรคภัยไข้เจ็บ เป็นซิฟิลิสขึ้นสมอง
เป็นหนองในขั้นโคม่า จะตายแหล่มิตายแหล่
แล้วเจอแต่การ ขูดรีดเรียกค่ายาแพง ๆ
จากบริษัทยาที่มันแล้งน้ำใจ ซะมั่ง
ถึงวันนั้น เจ้ก็หวังว่า ลื้อจะสำนึกได้ว่า
เวรกรรม มันมีจริง !


เฮ้อออออ ลื้อจะเอา กฏหมู่ มายึดเป็นหลัก
แล้วบอกว่า เป็นฟามถูกต้องชัวร์ ๆ ได้ไงวะ
ไอ้คนไร้มนุษยธรรม ใจด๊ำดำเป็นอีกา
นี่ ๆ เจ้ขอแนะนำ ให้ ลื้อไปหา หนังสือเล่มนี้มาอ่าน



ไม่ก็ ไปหา เรื่องนี้มาดู




ลื้อ รู้ไหม ? ว่า ทั่น ดร.กฤษณา เภสัชกรยิปซี
ผู้ปิดทองหลังองค์พระปฏิมาของเจ้
ต้อง ระหกระเหเร่ร่อน ยืนหยัดต่อสู้กับอำนาจมืด อะไรมาบ้าง
เพื่อให้ได้มาซึ่ง สิทธิอันชอบธรรม ในซีแอลยา
สำหรับคนไข้อนาถาตาดำ ๆ ที่ยากไร้ของเจ้

http://www.krisana.org/2011-04-20-15-09-55/225-2011-04-15-17-08-51.htm

ไม่รู้ล่ะ ลื้อยังหน้ามืดตามัว
ถลำตัวไปเข้าข้างซือแป๋ลื้อแบ่บสุดลิ่มทิ่มประตูได้เลย
ไงซะ อิเจ้ก็ขอจะ ยืนหยัดเข้าข้างแม่นางฟ้า
ยิปซีผู้ปิดทองที่หลังองค์พระปฏิมา
แบ่บสุดใจขาดดิ้นเหมือนกัน


โอ๊ย คิดแล้วก็ปวดตับ
เห็นลื้อแสดงฟามเห็นกลับกลอก
ไม่ถูกใจเจ้ดอกบัวป่อง แบ่บนี้
บอกตรง ๆ เจ้ไม่ปลื้ม ว่ะ!
เฮ้ออ สงสัยลื้อคงหมดวาสนา
จะได้มารองรับน้ำเหลืองเจ้ แล้วล่ะ ฯลฯ
-------------------------------------------------



อิอิ ขออภัย นะจ๊ะไอ้โซ๊ยตี๋
แบ่บว่า อิเจ้นึกครึ้ม ง่ะ
เรย ลองเล่นบทดราม่าดู
เจ้ ตีบทแตก ป่ะ เธอว์
เผื่อจะได้ส่งเข้าชิงออสการ์มั่ง เหอ ...เหอ...


แต่ช้าแต่ ลื้ออย่าเพิ่งมางอล อิเจ้เรย น้าาาา
เพราะว่า จิง ๆ แร้ว ไอ้เรื่องซีแอลยา
อิเจ้ก็คิดเหมือนลื้อ นั่นแหล่ะ
มิเสียแรง ที่คอยรองรับน้ำเหลืองกันมา นาน
น่า ยกตำแหน่ง นอมินี กิติมศักดิ์
หั้ยมัน นะเนี่ย เอิ๊ก ๆ


เฮ้ออ บางทีนะ ไอ้ฟัก เวอร์ชั่นนี้
ทั่นผู้กินกับ คงอยากจะนำเสนอ มุมมองที่แตกต่างมั้ง
เรยส่ง ไอ้ฟักไป เรียนกฏหมาย กับ มสธ. ทางไปรษณีย์
ไอ้นี่มันเรยกลายเป็นพวกหัวหมอ
ที่มีเขี้ยวมีเล็บ มีปากมีเสียง เป็นอีลูกช่างเถียง
ไม่ยอมทนเจ็บยอมโดนตื้บแต่เพียงฝ่ายเดียว


แถมยัง ประยุกต์เอา ดราม่า
เรื่อง เมตตาธรรมค้ำจุนโลก
มาเป็น แบ๊คกราวน์ ซะด้วย
อืม...รู้จักเปลี่ยน วิกฤต เป็นโอกาส งี้
นับว่า ไอ้ฟัก เวอร์ชั่นนี้ มันเป็นผู้มีการศึกษา
เป็นเนติบัณฑิตที่พัฒนาแร้วววววววววว อิอิ


อืม...เรื่อง ซีแอลยา นี่ มันก็ เหมือน ๆ กับ ..
ปัญหาเรื่องลิขสิทธ์ทางปัญญาเรื่องอื่น ๆ
อาทิ เรื่อง โปรแกรมเถื่อน

BlogGang.com : :

ที่เคยทำหั้ยศีลข้อ 2 ของอิเจ้ต้องแปดเปื่อน นั่นแหล่ะ
นี่เจ้ยังม่ะได้บริจาคตังค์ทำบุญใช้หนี้ อีตาบิลเกต
ตามที่ตั้งใจไว้เรยว่ะ (เงื้อง้ามานานแระ แหะ ๆ )


.
</td> </tr></tbody></table></td> <td background="../template/theme/8/images/right.gif" width="56">
</td> </tr> <tr> <td width="57"></td> <td background="../template/theme/8/images/everyday_frame_15.gif">
</td> <td width="56"></td> </tr> </tbody></table>
<table align="center" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td>โดย: นู๋บี วันที่: 3 พฤศจิกายน 2554 เวลา:0:13:52 น. </td> <td>
</td> </tr> </tbody></table>
<table bgcolor="#EDEDE5" cellpadding="0" cellspacing="0" width="95%"> <tbody><tr> <td width="57"></td> <td background="../template/theme/8/images/everyday_frame_03.gif">
</td> <td width="56"></td> </tr> <tr> <td background="../template/theme/8/images/left.gif" width="57">
</td> <td> <table border="0" cellpadding="3" cellspacing="0" width="100%"><tbody><tr><td>
</td><td></td></tr> <tr> <td>ไอ้ตี๋ ว่า...
ตัวลครในเรื่องนี้มี3ตัว มีหมอ นายทุน และยัยเจ้วิ่งสู้ฟัด
กัดไม่ปล่อย ทั้งสามคนสามจำพวก มันมีความเห็นแก่ตัว
เข้าครอบง้ำครับ แต่การแสดงออกจะซ่อนเร้นสิ่งนี้ไว้
จะแสดงให้คนอื่นเห็นว่า ความเมตตาจะค้ำจุนโลก
++++++++++++++++++++++++++++++


อิเจ้ ว่า ....
อิอิ เห็นลื้อพูดถึงเรื่องนี้ แล้ว
เจ้นึกถึงคำพูดที่เจ้เคยแพล่มไว้
ในกาทู้ บ่นเรื่อยเปื่อย อ่ะนะ

----------------------------------------------
ในสายตาของเจ้บุคคล มี 4 ประเภท นะ

1.ผู้ที่มีน้ำใจให้คนอื่น แล้วไม่หวังจะได้รับสิ่งใดเป็นการตอบแทน
2.ผู้ที่มีน้ำใจให้คนอื่น แล้วพยาม เรียกร้องบางสิ่ง เป็นการตอบแทน
3.ผู้ที่ไม่มีน้ำใจให้ผู้อื่น แล้วยังเจื๋อกแหกปาก เอ๊ย แร้วพยามเรียกร้องเอาทุกอย่าง
4.ผู้ที่ไม่มีน้ำใจให้ผู้อื่น แล้วก็ไม่ใส่ใจ จะเรียกร้องอะไร จากใคร

สำหรับเจ้เอง เลือกที่จะเป็น คนสวยใจดำ จำพวกที่ 4 น่ะ
แบ่บว่า เจ้ยึดถือ สโลแกนเดวก๊ะ ชาวเยอรมันว่ะ
กรูจะไม่เอาเปรียบใคร แต่ก็จะไม่ยอมให้ ใคร เอาเปรียบกรู !

( เพราะงี้ไง เจ้ถึง ติดแหง่ก วนเวียนอยู่ที่ ศีล 5 ในฮาเร็ม
ไม่ได้กาดื้บขึ้นไป แทะเล็ม เบญจธรรม 5 ข้อ เสียที แหะ ๆ )


อืม..คำพูดนึง ของ อิตา ตะลึงจังงัง ที่เจ้ชอบมาก
คือ คำพูด ที่มันโพส ในกาทู้ นึง ที่พันติ๊ป ประมาณ ว่า

ที่เห็น เหล่าอาจารย์เซน ทั้งหลาย
ดูใจดำและแล้งน้ำใจ ไม่ให้ความช่วยเหลือใครนั้น
จริง ๆ แล้ว ท่านหาได้ไร้ความเมตตาต่อสรรพสัตว์ ไม่
แต่ท่านทำไป เพราะ เคารพในกฏแห่งธรรมชาติ

อ่ะนะ เพราะมันทำให้เจ้มีข้ออ้างอันชอบธรรม
ที่จะดำรงตน เป็น คนสวยใจดำ ไง เอิ๊ก ๆ

-------------------------------------------------

อืม....อิเจ้คาดว่า
หมอ นายทุน และยัยเจ้วิ่งสู้ฟัด
จัดอยู่ในประเภท 2 หรือ 3 อ่ะ
แต่กับอิเจ้วิ่งสู้ฟัด ( ปรียนันท์ )
นี่ อิเจ้ ก็สงสารเหมือนกันนะเหนื่อยแทนอี ด้วยว่ะ
จำได้ว่า ตอนที่รู้ข่าว ศาลพิพากษายกฟ้อง
เพราะคดีหมดอายุความ นี่อีร้องไห้ซะเป็นเผาเต่าเรยอ่ะ


แต่ คิดอีกที ที่ศาลตัดสินแบบนี้
ก็ถือว่าเป็นทางออกที่ดีที่สุดแล้ว
บางทีการตัดสิน
เพราะถ้า อีชนะคดี มันก็จะกลายเป็น บรรทัดฐาน
ให้ชาวบ้านฟ้องหมอกันอิรุงตุงนัง
คราวนี้แหล่ะ มรึงเอ๋ย
คงวุ่นพิลึก เพราะเวลาเจ็บไข้ได้ป่วย
ชาวบ้านตาดำ ๆ คงต้องนั่งรอหมอมาตรวจจนเหงือกแห้ง
เพราะคุณหมอทั้งหลายมัวแต่วิ่งวุ่นไปขึ้นโรงขึ้นศาล เหอะๆ



ปล.
อิอิ วันนี้ มัวแต่ ละเลง ดราม่า เพลินไปหน่อย
เด๋ว ค่อยมาแพล่มต่อ วันอื่นก็แระกันเน๊าะ
เพราะไง เจ้ก็ตั้งใจไว้ตั้งแต่แรกแล้วว่า


พอลื้อพ้นโทษแบนเมื่อไร
เจ้ก็ว่า จะหั้ย เฮียหยาม อีตาเมส และไอ้ตี๋บุ้งกา
มารับช่วงเป็นเพื่อนคุย(แก้เฉาปาก)ให้ลื้อ ต่อว่ะ


ส่วนเจ้ ก็กะะจะปลีกวิเวก
ไปพับเสื่อพับฐาน และไปพับนกกระดาษ
เพื่อ ปฏิบัติธรรมอยู่ใน กะลาครอบอันแสนสุข ต่อแระ
กะจะพักน้ำลายสักระยะ น่ะ
ปีหน้าค่อยโผล่หัวมาซ่าส์ต่อ
เพราะ ขืนแพล่มไม่หยุดงี้
ตรูกัวเป็นมะเร็งปาก ว่ะ อิอิ


อืม....ไงเด๋ว อาทิตย์หน้า
เจ้จะเข้ามาถกประเด็นต่าง ๆ
ที่แพล่มค้าง ๆ คา ๆ กับลื้อน้าาาา
และหากเสร็จกิจนิมนต์เรื่องเคลียร์น้ำลายก๊ะลื้อ เมื่อไร
เด๋ว เจ้ก็จะ ขอ นุยาด ชิ่งไปเก็บเลเวทางธรรม มั่งล่ะ
อู้มานานแระ ตรู แหะ ๆ


</td> </tr></tbody></table></td> <td background="../template/theme/8/images/right.gif" width="56">
</td> </tr> <tr> <td width="57"></td> <td background="../template/theme/8/images/everyday_frame_15.gif">
</td> <td width="56"></td> </tr> </tbody></table>
<table align="center" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td>โดย: นู๋บี วันที่: 3 พฤศจิกายน 2554 เวลา:0:15:48 น. </td> <td>
</td> </tr> </tbody></table>
<table bgcolor="#EDEDE5" cellpadding="0" cellspacing="0" width="95%"> <tbody><tr> <td width="57"></td> <td background="../template/theme/8/images/everyday_frame_03.gif">
</td> <td width="56"></td> </tr> <tr> <td background="../template/theme/8/images/left.gif" width="57">
</td> <td> <table border="0" cellpadding="3" cellspacing="0" width="100%"><tbody><tr><td>
</td><td></td></tr> <tr> <td>อิเจ้นูบี ที่ลื้อบอกว่ารู้สึกสงสาร อีเจ้วิ่งสู้ฟัด มันเป็นเพราะ
ลื้อสงสารตัวเอง เพราะอะไรรู้มั้ย เพราะมันเป็นเรื่องที่
เกี่ยวข้องกับลูก ถ้าเจ็ป่องเอาความรู้สึกนี้ไปเปรียบกับ
ป้าปวีณา หงษ์สกุล ลองให้ป้าเข้าไปช่วยเด็กซักคน
ที่เกิดจากการรักษาของหมอ ให้ทำแบบยัยเจ้วิ่งสู้ฟัดทำ
เพียงแต่ป้าปวีณาเป็นคนอื่นไม่ใช่แม่ รับรองได้ป้าแกโดน
ประชาชีก่นด่า เป็นยัยมารร้ายเอาเด็กมาหากินแน่ๆ

เรื่องของความดีมีเมตตาต้องแยกให้ออก การที่แม่ช่วยลูก
มันไม่ใช่เป้นเรืองความดีความชั่ว มันเป็นเพียง
พฤติกรรมของสัตว์โลก ผลที่เราเห็นเป็นดีชั่วเพราะ
เราเอาความเห็นแก่ตัวเราเข้าไปตัดสิน

ที่ศาลตัดยกฟ้อง ไม่ใช่ดีกับหมอ แต่มันดีกับตัว
ยัยเจ้กัดไม่ปล่อยเอง ถ้าลองปล่อยให้มีการพิจารณาตามฟ้อง รับรองได้อีเจ้จะต้องชอกชำระกำทรวงมากกว่านี้
ตุลาการจะพิจารณาความเขาต้องคำนึงถึงขบวนการต่างๆ
ขององค์กรณ์นั้น และยิ่งเป็นองค์ที่เกี่ยวกับแพทย์ของไทย
ศาลย่อมรู้ดีอยู่แล้วว่าระบบมันเป็นแบบนี้

การแก้ไขต้องแก้ที่ระบบ โดยให้ทางรัฐเป็นผู้แก้
แต่การหวังให้คนอื่นมาแก้ไขให้เป็นไป ในสิ่งที่ตัวต้องการ
มันยาก ดังนั้นเราต้องแก้ที่ตัวเอง ด้วยการขยันทำมาหากิน ิ ใช้จ่ายแต่ในเรื่องปัจจัยสี่ พูดง่ายๆว่า...
อย่าทำเป็นเงินในกระเป๋าไม่ได้แต่ใจรัก หรืออีกนัย
ก็คืออย่าเสือกเกิดมาจน

อีเจ้วิ่งสูฟัดนี้ก็อีกคนหวังผลประโยชน์จากคนอื่น
พอไม่เป็นดังหวัง ก็อาละวาดไม่เลิกลา
การรักลูกมันไม่ผิด แต่อย่าจับจุดอ่อนของคนเพื่อ
หวังเอามาเป็นพวกมันบาป

พูดก็พูดเหอะอีเจ้วิ่งสู้ฟัดกัดไม่ปล่อยนี่ มันไม่ได้เป็น
ทั้งกาดำและกาขาวว่ะ แต่มันเป็นกาเหว่า หวังแต่จะให้
เหล่าอีกาเลี้ยงลูกให้ตัวเอง และก็เห็นเหล่ากาขาวตีปีกกัน
พรึบพรับ

นอกเรื่องหน่อยเจ้ว่าระหว่าง มหาเถระสมาคมกับพระเกษม
เจ้ว่าใครเป็นหงษ์ ใครเป็นกา หรือใครเป็นกาดำ ใครเป็น
กาขาว ติ๊กต๊อกๆๆๆ อย่าตอบตรงๆ อ้อมบ้างก็ได้
</td> </tr></tbody></table></td> <td background="../template/theme/8/images/right.gif" width="56">
</td> </tr> <tr> <td width="57"></td> <td background="../template/theme/8/images/everyday_frame_15.gif">
</td> <td width="56"></td> </tr> </tbody></table>
<table align="center" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"><tbody><tr><td>โดย: โอทึ้ง IP: 58.11.14.103 วันที่: 3 พฤศจิกายน 2554 เวลา:5:03:32 น. </td> <td>
</td></tr></tbody></table>



<table bgcolor="#EDEDE5" cellpadding="0" cellspacing="0" width="95%"> <tbody><tr> <td width="57"></td> <td background="../template/theme/8/images/everyday_frame_03.gif">
</td> <td width="56"></td> </tr> <tr> <td background="../template/theme/8/images/left.gif" width="57">
</td> <td> <table border="0" cellpadding="3" cellspacing="0" width="100%"><tbody><tr><td>
</td><td></td></tr> <tr> <td>อืม... จิง ๆ ช่วงนี้ อิเจ้ว่า จะไปซุ่มหมักดองน้ำลาย
เพื่อเขียนตัวหนังสือมาโพส ทิ้งทวน ในบล็อก
ก่อนจะหวนคืนสู่กะลา อ่ะนะ

แต่อ่านตัวหนังสือของไอ้โซ๊ยตี๋
แร้ว ก็อดใจไม่ไหว...
คันหู เอ๊ย คันปาก ยิก ๆ ว่ะ
กัวว่า เด๋วมันจะหน้ามืด เห็น กงจักรเป็น ดอกบัวป่อง
ขอนุยาดแว่บมาเม้าส์ แป๊บนึง เน๊าะ อิอิ


-----------------------------------
ไอ้ตี๋ ว่า...

อิเจ้นูบี ที่ลื้อบอกว่า
รู้สึกสงสาร อีเจ้วิ่งสู้ฟัด
มันเป็นเพราะลื้อสงสารตัวเอง
เพราะอะไรรู้มั้ย เพราะมันเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับลูก

++++++++++++++++++++++
อิเจ้ ว่า...
แหม๊ นอกจากจะเรียน กฏหมายมาแล้ว
ลื้อนี่ถ้าจะเรียน จิตวิเคราะห์ มาด้วยวุ้ย
วิเคราะห์ปมทางจิตของตรู ซะเตลิดเปิดเปิง เรย หุหุ

เฮ้ย ไอ้ตี๋ เจ้น่ะ ดอกบัวป่อง นะจ๊ะ ทูนหัวววว
เจ้ม่ะช่าย ดอกบัวเกี๋ยง นะเฟร้ย
จะได้ แข็งนอกอ่อนใน ใจอ่อนขี้สงสาร
ชอบมาร้องไห้น้ำตาคลอ ออกทีวี
เหมือนเจ้ปูนิ่มของลื้อน่ะ

เฮ้อออ สงสัยต้องให้ลื้อมาเดินตามต้อย ๆ
คอยรับน้ำเหลืองเจ้ แบ่บข้ามภพข้ามชาติซะละมั้ง
ถึงจะเข้าใจว่า อิเจ้เป็๋นคนสวยใจดำ จิง ๆ เหอ...เหอ...
นี่ ๆ จะบอกอะไรให้นะ สัญชาตญาณความเป็นแม่ของเจ้น่ะ
มันห่วยขั้นเทพพอ ๆ กับอิลำยองทองเนื้อเก้า เรยนะยะ
ดังนั้น ที่ลื้อวิเคราะห์มานั้น มันไม่น่าจะใช่มั้ง

เพราะที่เจ้ สงสาร อิเจ้สู้ฟัด เนี่ย
เจ้สงสารอี แบบเดียวกับที่เจ้สงสารไส้เดือนสักตัว
เวลาที่เห็นมันพยามดิ้นรน แถก ๆ กระดื๊บ ๆ ไปหาที่ร่ม
แค่สุดท้ายก็ต้องมานอนตายกลางแดด บนพื้นซีเมนต์ ร้อนเปรี้ยง ๆ น่ะ
ม่ะลู้ดิ คงเป็นเพราะเจ้รู้สึกถึง ทิฐิมานะ
ที่แผ่รังสีคอสมิกร้อนฉ่า ออกมาจากตัวอีมั้ง
เรยรู้สึกทั้งขำทั้งเหนื่อย แทนอีว่ะ


ยังคิดเล่น ๆ เลยว่า ถ้าเป็นลูกกรู
กรูจะยอมเหนื่อยยาก สู้เพื่อลูก
แล้วลุกขึ้นมา เต้นงิ้วแบ่บอีไหมเนี่ย ?
แต่ ดูแล้วคงไม่หรอกมั้ง
เพราะอิเจ้ไม่นิยมเป็น ไส้เดือนตายแดดว่ะ


ถ้าเด็กสักคนบังเอิญมาอาศัยมดลูกเจ้เพื่อเกิด
แล้วมันทะลึ่งดวงซรวย เหมือนลูกยัยปรียานันท์
เจ้ก็คง มองแค่ว่า มันเป็นกรรมของเด็ก มั้ง
เจ้เชื่อเรื่อง ทุกสิ่งเกิดตามเหตุปัจจัย ว่ะ
สิ่งนี้ มี สิ่งนี้จึงมี สิ่งนี้เกิด สิ่งนี้จึงเกิด
เด็กมันทำเหตุปัจจัยมาแบ่นี้ มันก็เป็นเช่นนี้
ถึงเราจะเป็นแม่มัน แต่ทุกข์ไป ก็ไลฟ์บอย ง่ะ
เปล่าประโยชน์ เอาเวลาไปทำอย่างอื่น
น่าจะเกิดมรรคผล ดีกว่ามานั่งทุกข์ว่ะ



อ้อ เห็นด้วยกับ คำพูดของลื้อนะ

การแก้ไขต้องแก้ที่ระบบ โดยให้ทางรัฐเป็นผู้แก้
แต่การหวังให้คนอื่นมาแก้ไขให้เป็นไป ในสิ่งที่ตัวต้องการ
มันยาก ดังนั้นเราต้องแก้ที่ตัวเอง ด้วยการขยันทำมาหากิน ิ
ใช้จ่ายแต่ในเรื่องปัจจัยสี่ พูดง่ายๆว่า...
อย่าทำเป็นเงินในกระเป๋าไม่ได้แต่ใจรัก หรืออีกนัย
ก็คืออย่าเสือกเกิดมาจน

อ่านถึงประโยคสุดท้าย
แล้วก็ขำจนพุงกระเพื่อมเรยวุ้ย เอิ๊ก ๆ



</td> </tr></tbody></table></td> <td background="../template/theme/8/images/right.gif" width="56">
</td> </tr> <tr> <td width="57"></td> <td background="../template/theme/8/images/everyday_frame_15.gif">
</td> <td width="56"></td> </tr> </tbody></table>
<table align="center" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td>โดย: นู๋บี วันที่: 4 พฤศจิกายน 2554 เวลา:0:20:46 น. </td> <td>
</td> </tr> </tbody></table>



<table bgcolor="#EDEDE5" cellpadding="0" cellspacing="0" width="95%"> <tbody><tr> <td width="57"></td> <td background="../template/theme/8/images/everyday_frame_03.gif">
</td> <td width="56"></td> </tr> <tr> <td background="../template/theme/8/images/left.gif" width="57">
</td> <td> <table border="0" cellpadding="3" cellspacing="0" width="100%"><tbody><tr><td>
</td><td></td></tr> <tr> <td>อิเจ้บัวป่อง....

ลื้อ รู้ไหม ? ว่า ทั่น ดร.กฤษณา เภสัชกรยิปซี
ผู้ปิดทองหลังองค์พระปฏิมาของเจ้
ต้อง ระหกระเหเร่ร่อน ยืนหยัดต่อสู้กับอำนาจมืด อะไรมาบ้าง
เพื่อให้ได้มาซึ่ง สิทธิอันชอบธรรม ในซีแอลยา
สำหรับคนไข้อนาถาตาดำ ๆ ที่ยากไร้ของเจ้
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

พุดโท! นางฟ้าผู้ปิดทองหลังพระ ก็ได้ถ้าลื้อเข้าใจแบบนั้น
แต่ลื้อไม่คิดหรือว่า ทองที่อีนางฟ้าของเจ้เอามาปิดหลังพระ
มันเป็นทองของใคร มันเป็นทองของคนอื่นเขา

เจ้ป่อง เจ้ลองดูซิว่า ยัยนางฟ้าแกทำงานอะไร
ขวด ถ้วยถังกาลามัง หม้อ มันเป็นขององค์การเภสัชกรรม
อีนางฟ้าเล่นชุบมือเปิบครับ อีเล่นจะเอาทั้งเงิน จะเอาทั้ง
กล่อง ทำงานได้เงินเดือนไม่พอเอาชื่อเสียงมาเป็นของตัว

พอมีชื่อเสียงเข้าหน่อยแม่เล่นลาออกหน้าตาเฉย แถมมา
ตีหน้าซื่อ อยากอุทิศตน ไม่สนใจเงินเดือน อพิโท! ใช่ซิ
อค์การเภสัชมันหมดประโยชน์กับเจ้แล้วนี่

ชื่อเสียงในเมืองไทยมันเด็กๆ อย่างฉันมันต้อง โนเบลไพรซ์ พูดได้คำเดียวครับ เนรคุณได้ใจเลย

ถ้ายัยนางฟ้านี้เก่งจริงดีจริง ประเทศจีนมันก็สุดยอด
อัฉริยะแล้ว มันมีอะไรบ้างในโลกที่เมืองจีนทำไม่ได้
แล้วทำไมเขาถึงได้ประนามเมืองจีน ก็เพราะมันไปเอา
ความคิดริเริ่มของเขา ความสำคัญมันอยู่ตรงนี้

อย่างยัยนางฟ้านี่ ถ้าเอดิสันยังอยู่ คงกระชากผมยัยนี่แล้ว
ตบซ้ายตบขวา แล้วตะคอกใส่เป็นภาษาอังกฤษสำเนียง
แยงกี้ F-U-C-K YOU อิหน้าด้าน

อีเจ้ป่อง เจ้เรียนเคมี เจ้ย่อมรู้ว่า การคิดค้นอะไรใหม่ๆได้
มันต้องคิดค้นสารประกอบตัวใหม่ได้ ไม่ใช่เอาสารประกอบ
ที่เขาคิดได้ มาทำเป็นของผสม แล้วมาแหกปากร้องว่า
ฉันคิดเคมีตัวใหม่ได้

คนที่อยู่ในวงการแพทย์ หรือวงการยา ไม่มีใครเขากล้า
วิจารณ์ เพราะต้องฝากผีฝากไข้ แต่อั้วกล้าเพราะอี
ไม่รู้จักอั้วฮาๆๆ

หมอถ้ารักษาคนไข้ แล้วคนไข้ตายไม่ผิด แต่ถ้าหมอไป
ขโมยยาคนอื่นมารักษาคนไข้มันผิด มองอีกมุม ถ้าคนไข้
ไปขโมยยาของคนอื่นเพื่อมารักษาตัวเองมันไม่ผิด
หวังว่า เจ้จะเข้าใจอั้ว ที่พูดนี่ตามหลักพรหมวิหารสี่เลยนะ
</td> </tr></tbody></table></td> <td background="../template/theme/8/images/right.gif" width="56">
</td> </tr> <tr> <td width="57"></td> <td background="../template/theme/8/images/everyday_frame_15.gif">
</td> <td width="56"></td> </tr> </tbody></table>
โดย: โอทึ้ง IP: 58.11.44.110 วันที่: 4 พฤศจิกายน 2554 เวลา:5:08:51 น.



<table bgcolor="#EDEDE5" cellpadding="0" cellspacing="0" width="95%"> <tbody><tr> <td width="57"></td> <td background="../template/theme/8/images/everyday_frame_03.gif">
</td> <td width="56"></td> </tr> <tr> <td background="../template/theme/8/images/left.gif" width="57">
</td> <td> <table border="0" cellpadding="3" cellspacing="0" width="100%"><tbody><tr><td>
</td><td></td></tr> <tr> <td>อิเจ้โรบินฮู้ด...

เฮ้ย ตี๋ เจ้จะท่อง พุทธวจนะให้ลื้อฟัง นะว่า
โลโกปตฺถมฺภิกา เมตฺตา
อันเมตตาธรรม นั้น เป็นเครื่องค้ำจุนโลก

นี่ ๆ ลื้อเคยสำเหนียก กับ สโลแกนอันนี้บ้างอ๊ะปล่าว วะ
เฮ้อออ ทำไมลื้อชอบทำตัวเป็นคนแล้งน้ำใจงี้นะ
หัดคิดถึง ใจเขาใจเรา มั่งสิยะ
ถ้า คนไข้ผู้ยากไร้เหล่านั้น
เป็นโคตรพ่อโคตรแม่ลื้อบ้าง ลื้อจะรู้สึกไง ?

+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
อิเจ้เรื่องแบบนี้ มันก็คล้ายๆกับเรื่องของ นักบวชเซน
หรือเรือง มดกับหนอนที่อั้วไปอาละวาดในเว็บลานทำสาวฯ

มันมีเยี่ยงอย่างที่ไหน อยากให้คนอื่นพ้นทุกข์ แต่ดันไป
ทำให้อีกคนเป็นทุกข์ อยากจะช่วยเนื้อสมัน ออกจากปาก
เสือ มันต้องเอาเนื้อหนังมังสาตัวเองไปแลกถึงจะถูก
ไม่ใช่เอามีดไปฟันเสือ ไม่ให้มันกินอาหาร

ไอ้เมตตาธรรมค้ำจุนโลกของลื้อ มันต้องพิจารณาให้ดี
ไม่งั้นมันจะเป็นเมตตาธรรมค้ำถ่อค้ำฐานะตัวเองให้สูง
อั้วเคยโดนอีเจ้ข้างบ้านมันว่า เพราะมันเห็นอั้วให้เงิน
คนแก่แต่งตัวสกปรก มือถือหัวสิงโตขอทานตามบ้าน
มันว่าอั้ว เฮียให้มันทำไมเดี๋ยวก็เอาไปกินเหล้า
พุดโท !เงินแค่ห้าบาท มันจะเอาไปทำอะไรได้ว่ะ
อั้วแค่อยากแสดงให้คนแก่เขาเห็นว่า ยังมีคนที่
ไม่รังเกียจแก อยากให้แกมีสุขทางใจเล็กๆน้อยๆ
ไม่อยากให้แกคิดว่า ชีวิตแกบัดซบ แล้วยังต้องมาเจอคนบัดซบอีก พูดถึงอีเจ้ข้างบ้าน เช้าๆงี้เสียงสวดมนต์ดังลั่น
อั้วยังคิดในใจว่า มันสวดในใจไม่เป็นหรือว่ะ หรือกลัว
คนอื่นไม่รู้ว่า ฉันเป็นคนดีนะ ฉันเป็นคนธัมมะธัมโมนะ

เงินห้าบาทที่อั้วให้คนแก่ไป ถ้าแกจะเอาไปกินเหล้า
มันก็แค่ เป็กครึ่งเป็ก มันเป็นกระสายแก้อาการลงแดง
อีเจ้ข้างบ้านมันไม่รู้ว่า คนที่ได้น้ำตาลจากแอลกอฮอล์
นานๆ ถ้าวันไหนขาดน้ำตาลตัวนี้มันจะช็อกถึงตายได้
เนี้ยวิเคราะห์จากประสบการณ์จริงเลย

อั้วเป็นนักวิเคราะห์ และสามารถวิเคราะห์เหตุการณ์ข้างบน
ที่เล่าให้ลื้อฟังแบบนี้ ลื้อยังกล้ามาชี้หน้าด่าอั้วว่า ไม่เอาใจ
เขามาใส่ใจเราหรือเปล่า
เรื่องแบบนี้มันต้องเอาใจ"พวกเขา" ไม่ใช่ใจเขาว่อย

และถ้าโครตพ่อ โครตแม่อั้ว ต้องตกอยู่ในสภาพที่ต้องให้
โจรหรือหัวขโมยมาช่วยชีวิต อั้วจะยืนดูพ่อแม่อั้วตายไปต่อ
หน้าเลยดีกว่า
จะเป็นลูกที่ดีมันต้องดีตั้งแต่รู้ความ ไม่ใช่มาดีตอน
ที่พ่อแม่กำลังจะตายหรือว่าตายไปแล้ว มันต้องรู้จักเก็บ
เงินทองในส่วนที่เอาไว้รักษาพ่อแม่ เราเจอพ่อแม่ทุกวัน
มันเป็นเครื่องเตือนอยู่แล้วว่า ตาเฒ่า ยายแก่สองคนนี้
ซักวันต้องเข้าโรงพยาบาล ถ้ายังไม่สำเหนียก
แล้วมาแหกปากด่าชาวบ้านว่า ไม่เอาใจเขามาใส่ใจเรา
แบบนี้มันน่าตื้บมั้ยล่ะ

ว่าก็ว่าเหอะ อันนี้พ่อแม่ก็ต้องมีส่วนด้วยว่ะ ส่วนใหญ่
พวกลูกหลานมังกร มันจะโดนเมมเมอรี่ว่า พ่อแม่มีคุณ
เหนือฟ้ากว้างกว่าแผ่นดิน จนลืมว่าอย่างไหนดี
อย่างไหนชั่ว คิดว่าการช่วยพ่อแม่เป็นบุญที่ยิ่งใหญ่

อันนี้อยากสมมุติ ถ้าลื้อเป็นหมอที่ต้องฉีดยาฉีดเซรุ่มแก้พิษงูที่มีอยู่เข็มเดียว ลื้อจะฉีดให้ใครระหว่างพ่อของตัวเอง
กับตาแก่ที่ถือหัวสิงโตขอทาน อีเจ้ป่องถ้าอั้วบอกว่า
อั้วเลือกที่จะฉีดเซรุ่มให้ตาแก่ขอทานคนนั้น ลื้อว่าอั้วจะเป็นคน ที่ไม่เอาใจเขามาใส่ใจเรามั้ยว่ะ

</td> </tr></tbody></table></td> <td background="../template/theme/8/images/right.gif" width="56">
</td> </tr> <tr> <td width="57"></td> <td background="../template/theme/8/images/everyday_frame_15.gif">
</td> <td width="56"></td> </tr> </tbody></table>
<table align="center" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td>โดย: โอทึ้ง IP: 58.11.47.40 วันที่: 5 พฤศจิกายน 2554 เวลา:5:44:09 น. </td> <td>
</td> </tr> </tbody></table>


<table bgcolor="#EDEDE5" cellpadding="0" cellspacing="0" width="95%"> <tbody><tr> <td width="57"></td> <td background="../template/theme/8/images/everyday_frame_03.gif">
</td> <td width="56"></td> </tr> <tr> <td background="../template/theme/8/images/left.gif" width="57">
</td> <td> <table border="0" cellpadding="3" cellspacing="0" width="100%"><tbody><tr><td>
</td><td></td></tr> <tr> <td>อืม...ไหน ๆ ก็ตื่นมาเชคเรทติ้งในบล็อคก่อนกลับบ้านแระ
แวะมา แพล่มซะหน่อย อิอิ

นี่แหน่ะ ไอ้โซ๊ยตี๋ข้ใจน้อย
หนอยทำมาเป็น งอแง ตัดพ้อต่อว่า

เจ้ยังกล้ามาชี้หน้าด่าอั้วว่า ไม่เอาใจ
เขามาใส่ใจเราหรือเปล่า


ก็บอกแร้ว ว่า ไดอะล็อก ที่เขียนส่วนนั้นน่ะ
อิเจ้ เขียน ดราม่า แหย่ลื้อเล่น
ตอนพิมพ์ไปเจ้ยังมานั่งขำตัวเองไปเล๊ย
ว่าทำไม ตรูตอแหล้ ได้ซะขนาดนี้ 555

รู้ไหม ? ลื้อน่ะคล้ายเจ้ แต่สิ่งที่ทำให้ลื้อแตกต่างจากเจ้
ลื้อมันเป็นคนแข็งนอกอ่อนไม แบ่บแม่ดอกบัวเกี๋ยง
ส่วนแม่ดอกบัวป่องอย่างเจ้น่ะ
มันแข็งโปีก ทั้งนอกและใน แบบทักกี้ว่ะ หุหุ


อืม...ไม่ต้องเอาเรื่องสมมุติ
เอาเรื่องที่เคยเกิดขึ้นจริงเลยไหม
ถ้าพ่อตัวเองกำลังจะต้องถูกศาลพิณา คดี
แต่ลื้อสามารถอาศัยช่องว่างทางกฏหมาย
ตีซี้กับหมอ ขอให้หมอบอกให้พ่อลื้อเป็นคน ทุกคลภาพ ได้
ลื้อจะทำไหมล่ะ ?


ถ้ามีโยมอุปฐาก มาซิกแซก อำนวยความสะดวก
ขอให้ช่วยหยิบยาในห้องยาให้พระที่ป่วย
โดยไม่พาพระมาตรวจ ( แต่รู้ว่าต้องกินยาอะไร )แถม ไม่คิดจะจ่ายเงินค่ายาด้วย
( พระรูปนี้ใช้สิทธิชำระเงินเอง เบิกฟรีไม่ได้ )
เป็นลื้อ ลื้อจะหยิบยาในห้องยา ให้เขาไหมล่ะ


ถ้าถามโรบินฮูด อย่างเจ้
เจ้หยิบหั้ยนะ ( เพราะ ตรูเคยทำมาแล้วกับมือ เอิ๊ก ๆ)

แหม๊ ? เจ้ขโมยยาคนอื่นมารักษาคนไข้มันงี้
ลื้อจะฟ้องศาลโลก หั้ยลากเจ้เข้าตะแลงแกงไหมล่ะ ?
ฝากหั้ยเอาไปคิดเล่น ๆ ว่าถ้าเป็นลื้อ ลื้อจะทำไง


ว้า ได้เวลาจะต้องเตรียมตัวไปธุระแระ
บ๊ายบายจร้าาาา อิอิ
</td> </tr></tbody></table></td> <td background="../template/theme/8/images/right.gif" width="56">
</td> </tr> <tr> <td width="57"></td> <td background="../template/theme/8/images/everyday_frame_15.gif">
</td> <td width="56"></td> </tr> </tbody></table>
โดย: นู๋บี วันที่: 5 พฤศจิกายน 2554 เวลา:6:56:54 น.



<table bgcolor="#EDEDE5" cellpadding="0" cellspacing="0" width="95%"> <tbody><tr> <td width="57"></td> <td background="../template/theme/8/images/everyday_frame_03.gif">
</td> <td width="56"></td> </tr> <tr> <td background="../template/theme/8/images/left.gif" width="57">
</td> <td> <table border="0" cellpadding="3" cellspacing="0" width="100%"><tbody><tr><td>
</td><td></td></tr> <tr> <td>
-----------------------------------------------------------

อิเจ้บัวป่อง ว่า....

ลื้อ รู้ไหม ? ว่า ทั่น ดร.กฤษณา เภสัชกรยิปซี
ผู้ปิดทองหลังองค์พระปฏิมาของเจ้
ต้อง ระหกระเหเร่ร่อน ยืนหยัดต่อสู้กับอำนาจมืด อะไรมาบ้าง
เพื่อให้ได้มาซึ่ง สิทธิอันชอบธรรม ในซีแอลยา
สำหรับคนไข้อนาถาตาดำ ๆ ที่ยากไร้ของเจ้

เร่ร่อน ชีวิตที่ไร้จุดหมายปลายทาง



------------------------------------------
ไอ้ตี๋ว่า....

พุดโท! นางฟ้าผู้ปิดทองหลังพระ ก็ได้ถ้าลื้อเข้าใจแบบนั้น
แต่ลื้อไม่คิดหรือว่า ทองที่อีนางฟ้าของเจ้เอามาปิดหลังพระ
มันเป็นทองของใคร มันเป็นทองของคนอื่นเขา

เจ้ป่อง เจ้ลองดูซิว่า ยัยนางฟ้าแกทำงานอะไร
ขวด ถ้วยถังกาลามัง หม้อ มันเป็นขององค์การเภสัชกรรม
อีนางฟ้าเล่นชุบมือเปิบครับ อีเล่นจะเอาทั้งเงิน จะเอาทั้ง
กล่อง ทำงานได้เงินเดือนไม่พอเอาชื่อเสียงมาเป็นของตัว

พอมีชื่อเสียงเข้าหน่อยแม่เล่นลาออกหน้าตาเฉย แถมมา
ตีหน้าซื่อ อยากอุทิศตน ไม่สนใจเงินเดือน อพิโท! ใช่ซิ
อค์การเภสัชมันหมดประโยชน์กับเจ้แล้วนี่

ชื่อเสียงในเมืองไทยมันเด็กๆ อย่างฉันมันต้อง โนเบลไพรซ์
พูดได้คำเดียวครับ เนรคุณได้ใจเลย

ถ้ายัยนางฟ้านี้เก่งจริงดีจริง ประเทศจีนมันก็สุดยอด
อัฉริยะแล้ว มันมีอะไรบ้างในโลกที่เมืองจีนทำไม่ได้
แล้วทำไมเขาถึงได้ประนามเมืองจีน ก็เพราะมันไปเอา
ความคิดริเริ่มของเขา ความสำคัญมันอยู่ตรงนี้

อย่างยัยนางฟ้านี่ ถ้าเอดิสันยังอยู่ คงกระชากผมยัยนี่แล้ว
ตบซ้ายตบขวา แล้วตะคอกใส่เป็นภาษาอังกฤษสำเนียง
แยงกี้ F-U-C-K YOU อิหน้าด้าน

อีเจ้ป่อง เจ้เรียนเคมี เจ้ย่อมรู้ว่า การคิดค้นอะไรใหม่ๆได้
มันต้องคิดค้นสารประกอบตัวใหม่ได้ ไม่ใช่เอาสารประกอบ
ที่เขาคิดได้ มาทำเป็นของผสม แล้วมาแหกปากร้องว่า
ฉันคิดเคมีตัวใหม่ได้


+++++++++++++++++++++++++++++++++++++

อิเจ้ว่า....


อืม...สมัยเรียน Med-Chemฯ
เจ้โดดบ่อยซะด้วยดิ ( แบ่บว่า จารย์ ไม่ได้เชคชื่อ 555)
แร้วงี้ เจ้จะแกล้งทำไม่รู้ไม่ชี้ กับ คำถามนี้ ได้ไหมเนี่ย เอิ๊ก ๆ
เอ ? แต่จะว่าไป ตอนนั่งสัปหงกเรียนวิชากฏหมาย
เจ้ ก็ได้รู้เกี่ยวกับเรื่อง สิทธิบัตรยา เหมือนกันนะ
เรยขออนุยาดแพล่ม ซะหน่อย อิอิ


อืม...ลื้อคิดว่า อะไรคือเหตุปัจจัย
ที่ทำให้เกิดเงื่อนไขกฏหมายในสิทธิบัตรยา ล่ะ
มันก็แค่ การที่รัฐพยามใช้หลักนิติสาด
มารักษาสมดุลของผลประโยชน์
ระหว่าง บริษัทยา ก๊ะ ประชาชน ตาดำ ๆ อ่ะนะ



ถามจริงเหอะ ถ้าไม่เป็นเพราะ พวกบริษัทยา
มันต้องการความคุ้มครองจากรัฐ (ป้องกันการก๊อปฯ)
ป่านนี้ ไอ้พวกบริษัทยาทั้งหลาย
มันคงจะหาเรื่องแทงกั๊ก ปกปิดสูตรการผลิต
ไว้เป็นฟามลับสุดยอดของตระกูล
ไม่ยอมถ่ายทอดให้คนนอก
แล้วปล่อยให้องค์ความรู้ทั้งหลายนั้น
มันตายไปพร้อมกับตัวเอง
(แบบเดียวกับที่คนจีนชอบทำ นั่นแหล่ะ )


และ ถ้าเลือกได้ บริษัทยาทั้งหลายก็คงจะโลภมาก
เลือกที่จะผูกขาดทางการตลาด
เก็บสูตรยาไว้ทำกำไรไปตลอดปีตลอดชาติ เรยล่ะมั้ง
เผลอ ๆ ถ้ากระเตงสูตรลับการทำยา ไปใช้ชาติหน้าได้
มันเก๊าะคงจะหอบไปด้วยแระ
ความโลภ มันเข้าใครออกใคร ที่ไหนล่ะ เอิ๊ก ๆ


ที่พูดมาทั้งหมดนี้ อิเจ้ ก็ม่ะได้คิดจะชักแม่น้ำทั้ง 5
มาสาธยาย โน้มน้าวให้ลื้อเห็นว่า
เรื่องซีแอลยา นั้นมันถูกต้อง หรอกนะ
เรื่องบางเรื่อง แม้จะถูกต้องตามหลักกฏหมาย
แต่ถ้าไม่ ชอบธรรม ตามหลักของกฏแห่งกรรม แร้วไซร้
อิเจ้ก็ไม่ได้คิดจะยอมรับ หรอกนะ


และเผลอๆ ถ้า เอาหลักของศีล มาวินิจฉัย
แค่ เจอคำว่า ทรัพย์นั้น มีเจ้าของ
เจ้าของเค้าหวง เค้าไม่เต็มใจจะหั้ย
ถึง สิทธิบัตรของยานั้น มันหมดอายุไปแล้ว
เจ้ก็ยังถือว่า มันผิดศีล อยู่ดีว่ะ
แหม๊? จิง ๆ อืเจ้ก็จ่ายออกจะบ่อยนะ
ไอ้พวกยาเอดส์ ปของ อิเจ้ กฤษณา
อืม... แร้วงี้ตรูจะเจอ ข้อหาสมรู้ร่วมคิด ก๊ะ เจ้กฤษณา
จน ศีลข้อ 2 ถลอกปอกเปิก ไหม เนี่ย ?
เฮ้ออ สงสัย อิเจ้ป่องคงต้องก้มหน้าก้มตา
รับวิบากกรรมไปตามมีตามเกิด อ่ะนะ อิอิ


แต่ถึงงั้น อิเจ้ ก็ขอเตือนลื้อหน่อยน้าาาาา
ว่า อย่าไปเพ่งโทษโกรธเคือง อาราย อิเจ้กฤษณา ทั่นเล๊ยยย
ไงลื้อก็ระวัง จะเกิด ปฏิฆะ ต่อกัน ด้วยนะว้อย
อะโหย เล่นเห่าแว้ด ๆ เป็นชุด เรยเว้ยเฮ้ยยย
แหม ?นี่ถ้า ซือเจ้กฤษณา ของเจ้ มาอยู่ตรงหน้า
ถ้าจะโดนไอ้พิทบูลหน้ามืด มันโดดขย้ำคอหอยแหง๋ ๆ


โถ ๆ สงสัยลื้อนี่ ท่าจะเป็นพวกชอบ โปรเจคชั่น อ่ะ
ประมาณว่า ในอดีตเคยถูกสาวสุราดทำให้เกิดแผลเก่าฝังใจ
ลื้อก้อเรยรู้สึกไม่ดี มีอคติ และ ชอบเหมารวมแบบยกโหล
เวลามองเห็นสาวสุราดคนไหนผ่านเข้ามาในสายตา
ไอ้ตี๋โอทึ้ง จึงเห็นว่า อีพวกนี้เป็นนางมารร้ายไปโม้ดดดดดด



อืม..ไม่แน่นะ บางที ตอนนี้อิเจ้กฤษณา
แกคงกะลังพยามจะ บำเพ็ญเพียร
สะสมบารมี กับคนยากไร้
แบ่บ พระโพธิสัตว์ทั้งหลายอยู่ล่ะมั้ง อิอิ
เฮ้ออ จิง ๆ อิเจ้ ก็ไม่ได้หลงไหลได้ปลื้ม
หรือ เห็น ดร.แก เป็น ไอดอล อะไรหรอกจร้าาาา
แค่ได้ยินชื่อแว่ว ๆ เข้าหูซ้ายทะลุหูขวา นิดหน่อย
แต่ได้อ่าน ชีวประวัติแบ่บละเอียด ๆ
ก็ตอน ไปเสิร์ชอากู๋ มาเป็น Ref. เถียงสู้ก๊ะลื้อนั่นแหล๊ะ 5555


และเท่าที่ อ่าน บทสัมภาษณ์ ของดร.แก ในลิงค์นี้

เร่ร่อน ชีวิตที่ไร้จุดหมายปลายทาง


ก็รู้สึก ชื่นชมแนวคิด ก๊ะ ปรัชญาชีวิต ของด๊อคทั่น
ในบางเรื่อง เหมือนกันน้าาาาาาาาาาา
อย่างน้อย อิเจ้ก็รู้สึกเอ็นดู ทั่น ดร. กฤษณา
มากกว่า ซือแป๋ตะหมูกชมพู่ ล่ะว้าาาา อิอิ



อืม...ว่าแร้วอิเจ้ผ่องก็ขอเป็นทนายแก้ต่าง
ให้ แม่นางฟ้า ของอิเจ้ จั๊กหน่อยดีฝ่า
เผื่อว่า ศาลฎีกา ทั่นฟังแร้วจะเมตตา
ลดหย่อนโทษทัณฑ์ หั้ยมั่ง 555
(อันนี้ อิเจ้ว่าความหั้ย ตามหลักกฏหมาย อ่ะนะ
ไม่ใช่ ว่าความตามหลักของกฏแห่งกรรม
เพราะถ้าเป็น อี อย่างหลัง ไงก็คงหลุดยากส์ ว่ะ เอิ๊ก ๆ )





ประเด็น ที่ลื้อยื่นฟ้องมาว่า
-----------------------------------------------
อีเจ้ป่อง เจ้เรียนเคมี เจ้ย่อมรู้ว่า การคิดค้นอะไรใหม่ๆได้
มันต้องคิดค้นสารประกอบตัวใหม่ได้ ไม่ใช่เอาสารประกอบ
ที่เขาคิดได้ มาทำเป็นของผสม แล้วมาแหกปากร้องว่า
ฉันคิดเคมีตัวใหม่ได้
+++++++++++++++++++++++

อิเจ้ ขอ ชี้แจงแทนจำเลย ว่า
ไอ้เรื่อง คิดสารเคมีตัวใหม่ได้นั้น
ทั่นด๊อคแก ม่ะได้แหกปากเองนะยะ
แต่พวกสื่อทั้งหลายมันก็ตีไข่ใส่สีไปเองอ่ะ
เฮ้ออ ลื้อก็น่าจะรู้นี่หน่า



ว่า หลักการเขียนสกู๊ปข่าวน่ะ หมากัดคน ไม่เป็นข่าว
ต้อง คนกัดหมา เท่านั้น หนังสือจึงจะขายได้
ทั่นด๊อกฯ เองก็คงจะเข้าใจประเด็นนี้มั้ง
ก็เรยต้องเลยตามเลย ไม่ไปพื้นฝอยหาตะเข็บด้วย
และ ไงอิเจ้ก็คิดว่า ด๊อคแกคงไม่กล้าแหกปากว่า
ชั้นคิดเคมี ตัวใหม่ ได้ หรอกนะ


ขืนพูดชี้ชัดไปงั้น เด๋วจะหน้าแตก
เวลาที่มีคนในแวดวงยา มาอ่านเจอ อ่ะดิ
เพราะ ถ้าอยู่ในวงการแพทย์ วงการยาน่ะ
มันก็เข้าตำรา ไก่เห็นตีนงู งูเห็นนมไก่ อ่ะนะ
ถ้า เมคอัพสร้างภาพ แล้วไม่เนียน
มันจะเห็นช่องโหว่รูเบ้อเริ่ม
ที่สำคัญ อาจโดนฝ่ายตรงข้ามถล่มเอาได้
พวกหมั่นไส้ NGO น่ะมี อยู่ตรึม เอิ๊ก ๆ




อืม....ถ้าลื้ออ่านจาก ลิ้งค์ที่อิเจ้ เอามาแปะ
ลื้อก็จะเห็นว่า สิ่งที่ ด๊อกฯ ทั่นทำ และ นำเสนอ
มันเป็นเรื่องของการพัฒนาในแง่ของรูปแบบผลิตภัณฑ์
เพื่อช่วยให้ คนไข้กินยาได้สะดวกขึ้นเท่านั้น
( รวมตัวยาหลายชนิด ให้มาอยู่เป็นเม็ดเดียว )
ไม่ได้ไปคิดค้น ตัวยาอะไรใหม่เล๊ยยยยยยยยยย



สารที่ใช้เป็นตัวยาก็ยังสั่งซื้อ จาก ตปท.
มันก็คล้าย ๆ กับ การที่เราซื้อ ไก่จ้อ 5 ดาวมาทอด
เอามาคลุกผสมกับฮอทดอก แล้วปรุงรสทำยำรวมมิตรกินเองที่บ้าน
แทนการซื้อ แบบทำสำเร็จ จาก ร้านขาย ล่ะมั้ง



จิง ๆ มันก็ไม่ได้ยากเย็นอะไรหรอกนะ
อาซิ้มอาซ้อ ที่ไหนก็ทำได้ ว่ะ
แค่ คลุก ๆ ปั่น ๆ เอาตัวยามาผสมกับผงแป้ง
เติม นู่นนิดนี่หน่อย แล้ว เทเข้าเครื่องตอกอัดเป็นเม็ด
ง่ายพอ ๆ กับการทำยาบ้า เรยแหล่ะ อิอิ
แต่ ปัญหา ก็คือ มันไม่มีใครคิดจะทำไง
ทุกคนคิดแต่จะเป็น เป็ดง่อย
อ้าปากรอคอย บริษัทยาต้นแบบ
หยิบยื่นยามาหั้ยแล้วก้อกินไปตามมีตามเกิด


อืม...วยามันเป็นปัจจัย สี่ เหมือน อาหาร
แต่มันไม่ใช่อาหาร และ จำเพาะเจาะจงกว่า อาหาร นี่นะ
ถ้าเราหิวอยากกินไก่จ๊อห้าดาว
ทว่ากินไม่ได้เพราะสิทธิบัตรมันตำคอ
เราก็ยังหันไปกิน ไก่ย่างส้มตำ แก้หิวแทนได้
แต่ยามันไม่ใช่ อ่า ถ้าลื้อเป็นเอดส์
ต่อให้กินซีม่าโลชั่นไปเป็นโหล มันก็รักษาไม่ได้
มันจึงเกิดระบบผูกขาดทางการตลาดแต่เพียงผู้เดียว ของบริษัทยา
จ้างหั้ย บริษัทยาเจ้าของลิขสิทธิ ก็ไม่กระตือรือล้น
จะพัฒนารูปแบบผลิตภัณฑ์ เพื่อผู้บริโภคหรอกนะจ๊ะ
เพราะมันสิ้นเปลืองโคตร ๆ ไง





สมมุติ ถ้าลื้อ ทำการวิจัยผลิตยา A ขึ้นมา
ลื้ออาจมีค่าใช้จ่าย ต่าง ๆ
เกี่ยวกับการทดลองทางคลินิก พันล้านบาท


ถ้าลื้อ ทำการวิจัยผลิตยาB ขึ้นมา
ลื้ออาจมีค่าใช้จ่าย ต่าง ๆ
เกี่ยวกับการทดลองทางคลินิก พันล้านบาท


แต่ถ้าลื้อ เอาผงยา A มาผสมกับ ผงยาB แล้วตอกเป็นเม็ด
( แบบ เวลาทำแหนมคลุก )
ลื้อก็จะต้อง เริ่มนับ หนึ่ง
ทำการวิจัยใหม่หมด และ มีค่าใช้จ่าย ต่าง ๆ
เกี่ยวกับการทดลองทางคลินิก
เพิ่มขึ้น อีกพันล้านบาท


แล้วงี้บริษัทยา มันจะยอมเพิ่มต้นทุนการผลิต ทำติ้งไรล่ะ
ไงคนไข้เอดส์ มันก็เป็น หมูในอวย อยุ่แล้วนิ เหอะ ๆ



ดังนั้นการที่ ด๊อคแก มีความคิดริเริ่มสร้างสรรน์
อยากให้ คนไข้กินยาง่าย ๆ สะดวก ๆ
ไม่ต้องกิน ทีละหลาย ๆ เม็ด
ก็ถือว่า ไม่ใช่เรื่องที่ เลวร้ายอะไรนี่หว่า
( อันนี้ หมายถึง ยาที่ สิทธิบัตรหมดอายุ
แล้วเอามาพัฒนารูปแบบผลิตภัณฑ์ ต่อยอด อ่ะนะ
แต่ ถ้าในส่วนของ คดี ซีแอล ยา นี่
ไง อิเจ้ก็หลับหูหลับตา แก้ต่างให้ไม่ไหวเหมียนกันว่ะ
เพระว่ามัน ตะขิดตะขวงใจ ถ้าจะต้องปกป้องด๊อค ในเคสนี้



และ ในสายตาของอิเจ้ คดีซีแอล ยา เนี่ย
ถ้ามองในภาพรวม หาก ศาล ให้ด๊อคแกชนะคดีทำนองนี้บ่อย ๆ
มันก็มีผลกระทบเป็นลูกโซ่ ต่อ การพัฒนา และ วิจัยยา นะ
คิดดูดิ การพัฒนายาสักตัวเนี่ย ค่าใช้จ่ายมันไม่ใช่บาทสองบาท นะเว้ย
พอคิดค้นยาได้สำเร็จ ถอนทุนคืนยังได้กำไรไม่หนำใจเรย
ก็โดนไอ้พวกโรบินฮู้ด มาชุบมือเปิบ
แย่งตัวยา ไปทำขายตัดราคา ซะแระ
แร้วงี้ บริษัทยาที่ไหน มันจะอยากคิดค้น ตัวยาใหม่ ๆ ล่ะ
บรัษัทยานะจ๊ะ ไม่ใช่ องค์กรสาธารณกุศล
จะได้กินแกลบแทนข้าว แล้วยอมเชือดเนื้อตัวเองแจกให้คนไข้กิน




ถ้าอิเจ้เป็น เจ้าของบริษัทยา
แร้วโดน ฟ้องงี้บ่อย ๆ อ่ะนะ
ตรูจะยุบโครงการวิจัยยาเอดส์
แล้ว หันไปผลิตแต่ ไวอะกร้า มาขายว่ะ
เพราะทั้งสบายใจ กำไรดี
แถมไม่มี เรื่อง ซีแอล ยา
มาให้วุ่นวายหัวใจด้วย เอิ๊ก ๆ



เฮ้ออ เรื่อง ซีแอล นี่
มันก็เป็น สนามโคลอสเซียม
การห่ำกันระหว่าง ความโลภ ของบริษัทยา
กับ ความมีเมตตาต่อคนไข้จนเกินพอดี ของเหล่า NGO ล่ะมั้ง
สุดท้าย ไม่ว่า ใครจะชนะ
คนที่ซรวยก็ไม่พ้นคนไข้ตาดำ ๆ นั่นแหล่ะ
และถ้าจะแก้ไข ที่รากเหง้า จริง ๆ อ่ะนะ
เจ้ว่า มันต้อง แก้ที่สันดานของคน
ให้มีจิตสำนึก และ เลิกสำส่อน แล้ว ถือศีล 5 ว่ะ
ถ้าทำได้ อ่ะนะก็จะไม่มีคนเป็นเอดส์
และปัญหาเรื่อง ซีแอล ยา ก็จะหมดไปโดยปริยาย ฮาฮา


แต่ พวก NGO มันคงพิณาดี แร้วมั้ง
ว่า ให้ตรูไปตบตี ก๊ะบริษัทยาเพื่อขอให้ศาล อนุมัติ
เรื่อง ปัญหาซีแอลยา มันยังจะง่ายซะกว่า
การไปจัดแคมเปญ รณรงค์ หั้ยปุถุชน หันมา ถือศีล5 อิอิ








---------------------------------------------------
ไอ้ตี๋ว่า ....
พุดโท! นางฟ้าผู้ปิดทองหลังพระ ก็ได้ถ้าลื้อเข้าใจแบบนั้น
แต่ลื้อไม่คิดหรือว่า ทองที่อีนางฟ้าของเจ้เอามาปิดหลังพระ
มันเป็นทองของใคร มันเป็นทองของคนอื่นเขา

เจ้ป่อง เจ้ลองดูซิว่า ยัยนางฟ้าแกทำงานอะไร
ขวด ถ้วยถังกาลามัง หม้อ มันเป็นขององค์การเภสัชกรรม
อีนางฟ้าเล่นชุบมือเปิบครับ อีเล่นจะเอาทั้งเงิน จะเอาทั้ง
กล่อง ทำงานได้เงินเดือนไม่พอเอาชื่อเสียงมาเป็นของตัว
+++++++++++++++++++++++++++++++++++

อิเจ้ขอแก้ตัว เอ๊ย แก้ต่าง ให้จำเลยว่า..
อัน ขวด ถ้วยถังกาลามัง หม้อ
มันเป็นขององค์การเภสัชกรรม ก็จริงอยู่
แต่ มันก็จัดเป็น สินทรัพย์ที่เสื่อมสภาพ
แต่ไม่สึกหรอ แบ่บ ยางลบ ดินสอ นี่หว่า ?



ถ้า ดร. แก เขียนโครงการขออนุญาตทำการวิจัยพัฒนายา
ให้กับองค์กร แบบถูกต้อง
องค์กร ยินยอมพร้อมใจให้กระทำ
มันก็ไม่น่าจะมีปัญหาอะไรนิ
ยกเว้น อิเจ้แกแอบงุบงิบ แอบ ๆ ซ่อน ๆ ทำเอง
ถ้า ใช้ทั้งไฟหลวง น้ำหลวง เครื่องมือหลวง
แถม ยังซุ่มซ่าม ไปทำ หลอดทดลองแตก อีก
อันนี้ ก็ว่าไปอย่าง แต่ดูแล้ว มันก็ไม่น่าจะใช่นะ




ส่วน ที่ดร.แก เคยให้สัมภาษณ์ บอกว่า
------------------------------------------------
ตอนที่ทำยาก็ไม่มีใครเห็นด้วย เราก็ทำของเราเอง
คือความที่ไม่ได้แคร์ตำแหน่ง เงินเดือน
เราก็ทำของเราเอง ก็ทำอยู่ตั้ง 6 เดือน ทำคนเดียว
ทั้งผลิตเอง วิเคราะห์เอง วิจัยเอง ไม่มีใครทำด้วยเลย
เพราะเขามองว่าขั้นตอนการทดลองอาจจะมีอันตรายต่อสุขภาพ
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

ที่ บอกว่า ไม่มีใครเห็นด้วย นี่
มันก็ไม่ได้หมายความว่า
เค้าจะไม่สนับสนุน
ไม่อนุมัติงานวิจัยที่เสนอไปนี่หว่า
ในฐานะอิเจ้เคยทำวิจัย ซีเนียร์โปรเจค สมัยอยู่ปี 5
อิเจ้ก็พอจะเข้าใจเรื่อง ขั้นตอนการอนุมัติโครงการวิจัย อยู่บ้าง


ส่วนใหญ่ ถ้ามีใครเขียนโครงการขอพัฒนาวิจัยยา เนี่ย
พวกมหาวิทยาลัย และ องคการเภสัช
ก็มักจะ อนุมัติ ให้ง่าย ๆ นะ
เต็มใจ เสียยิ่งกว่า เต็มใจ
ที่จะหั้ยยื้ม ถ้วยไห กาละมัง นู้นนี่นั่น
พร้อมโปรโมรชั่น น้ำฟรี ไฟฟรี มีเนต หั้ยเล่น อยู่แร้วจร้าาา
เผลอ ๆ จะประเคน โอที หั้ยทำวิจัยนอกเวลาด้วยซ้ำ
เพราะเรื่องพวกนี้ มันเป็นประโยชน์ เป็นชื่อเป็นเสียง
และ เป็นหน้าเป็นตา ให้กับองค์กร


ถ้าเป็น ความสัมพันธ์ในเชิงนิเวศน์ วิทยา
ก็คงเป็น ความสัมพันธ์ ประเภท Protocoperation
ไม่จำเป็นต้องอยู่ร่วมกันตลอดไป
แต่ต่างฝ่ายต่างได้รับประโยชน์ร่วมกัน อ่ะนะ


ซึ่ง มันก็ไม่ได้เสียหายอะไรนี่
หรือลื้อจะให้ ดร. ทั่น ดักดาน เอ๊ย เคียงคู่อยู่ก๊ะองค์การเภสัช
ไปตราบจนสิ้นกาลปวสาน หรือไงว้าาาาาาาาา
เฮ้ย นี่มันเป็นฟามสัมพันธ์
แบบ ลูกจ้างก๊ะนายจ้าง นะเว้ยเฮ้ย
ไม่ใช่ ฟามสัมพันธ์ ฉันชู้สาว
จะได้ต้องติดแหง่กอยู่ด้วยกัน
เป็นฝาแฝดอินจันไปทั้งปีทั้งชาติ



นี ๆ ถามหน่อยเหอะ
ถ้าลูกน้องที่ทำงานกะลื้อ
มันได้รับข้อเสนอที่ดีกว่า
จากนายจ้างคนไหม่
พร้อมก๊ะแจกโปรโมรชั่นพิเศษ
ถ้าแอบกินเหล้าเมาค้าง
นายจ้างก็ไม่ด่าไม่ตี ด้วยนะจ๊ะตัวเอ๊งงงง
แบบนี้ ถ้าลูกน้องลื้อลาออก
ลื้อจะด่าไล่หลัง ว่า มันเนรคุณไหมล่ะ ?
กรณี ทั่น ดร. แกก็เหมือนกันนั่นแหล่ะย่ะ



และเท่าที่อ่านบทสัมภาษณ์ ของ ดร. ทั่นแร้ว
คิดว่า ดร. ทั่นก็มี ความรับผิดชอบค่อนข้างสูงนะ
ก็ขนาดจะไปประท้วงเหย็ง ๆ
ก๊ะพวก NGO อียัง ลาพักผ่อนไปเรยนี่หว่า
ดังนั้น อีคงไม่ทำอะไรที่มันเป็นการ
เบียดบังทรัพย์สินของทางราชการ
ไปใช้ในงานส่วนตัวหรอกมั้ง
และ หากทำลงไปจริง ๆ
ก็คงจะทำไปโดยไม่เจตนา
ด้วยรู้เท่าไม่ถึงการณ์ว่ะ




ซึ่งถ้าเป็นงั้น แล้ว ลื้อมาพนันก๊ะ อิเจ้ไหมล่ะ
ว่า หาก ดร.ทั่น รับรู้ว่า ในอดีตนั้น
ทั่นเคยกระทำการอันเป็นไปในทาง อกุศล
เป็นเหตุทำให้เกิดการเบียดบังทรัพย์สินของหลวง แล้วไซร้
ทั่นจะแสดงความรับผิดชอบ ทั้งหลายทั้งปวงหรือไม่ อย่างไร?


ถ้าให้อิเจ้ เลือกข้าง อ่ะนะ
อิเจ้ก็คงถือหาง ดร. แกว่ะ
อิม..ไม่รู้สินะ อ่านบทสัมภาษณ์ของอีแร้ว
รู้สึกว่า อีมีนิสัยหลายอย่างคล้าย ๆ เจ้ว่ะ
ขนาดปริญญาบัตร ยังขี้เกียจไปรับเหมียนกันเยยย
ดังนั้น อีน่าจาเป็น คนมีความรับผิดชอบสูง
และ ปูชนียบุคคล เหมือน เจ้นะเว้ย 555



แต่ถ้า อีทำไม่ได้ตามที่เจ้คาดหวังไว้ จิง ๆ ก็ไม่เป็นไรอ่ะ
อิเจ้ก็ไม่คิดจะไป เหยียบย่ำกระทืบซ้ำ ขย้ำคอหอยอี
เหมือนไอ้พิทบูลจอมโหดบางตัว หร็อก
ตราบเท่าที่ ทองที่ อีเอาไปปิดหลังพระ
เป็นทองของคนอื่นมิได้เป็นทองของ อิเจ้ป่อง
ก็ถือว่า เราทั้งสองไม่เกิด ปฏิฆะ ต่อกัล อิอิ
( แต่ถ้าทะลึ่งขโมยทองกรูไป เมิงโดนเตะไส้แตก เหอ ๆ )




เฮ้อออ รู้ป่ะ ที่อิเจ้เคยบอกว่า
ลื้อเหมือนเจ้ ค่อนข้างมาก น่ะ
มันมีอีกสิ่งหนึ่ง ที่ทำให้ ลื้อแตกต่างจากเจ้
นั่น ก็คือ ลื้อค่อนข้างจะใจดีชอบเป็นห่วงเป็นใย
เรยมักจะพยามยัดเยียดสิ่งที่ลื้อคิดว่าดีให้คนรอบข้าง
และ ชอบเจ้ากี้เจ้าการ เข้มงวดกวดขันกับชาวบ้าน มากเกินไปอ่ะ



ในขณะที่อิเจ้ ชอบ เจ้ากี้เจ้าการ
และเข้มงวดเฉพาะแต่กับตัวเอง เท่านั้น
ส่วน ชาวบ้านจะเป็นไง หรือทำอะไร ไม่ถูกใจเจ้
ก็ช่าง แมงมัน อ่ะ อย่างมาก เจ้ก็แค่คิดว่า

" เออ อีด๊อกฯ นี่ มันก็คง ยังไม่ เจ๋ง เท่ากรู
เรย มิสามารถ เป็น ปูชนียบุคคล เหมือนกรูได้" โฮ่โฮ่



อืม...สิ่งไหนที่ ทั่นด๊อกฯทำแล้ว
อิเจ้รู้สึกว่า สิ่งนั้นดี (ถูกใจเจ้)
เจ้ก็ชื่นชมและดูเป็นเยี่ยง
แต่สิ่งไหน ที่อีทำแร้ว อิเจ้ รู้สึกว่า
สิ่งนั้นมันบ้องตื้น ( ไม่ถูกใจเจ้ )
อิเจ้ก็แค่ปลง แล้วใช้มันเป็นอุทาหรณ์
จะได้ไม่เอามาเป็นอย่าง



นี่แหล่ะ การตอบสนองที่อิเจ้ มีต่อบุคคลอื่น
เจ้ถึง ได้ย้ำให้ฟัง เพื่อเตือนชาวบ้านอยู่ บ่อย ๆ ไง ว่า
จงดูเยี่ยงกา แต่อย่าเอาอย่างกา



ก็บอกแล้วว่า อิเจ้ มันเป็นพวก ไร้ศรัทธาจริตโดยสิ้นเชิง
จึงไม่เคยคิดจะยกย่องใครใส่เกล้าใส่กระหม่อม
เทิดทูนเป็นศาสดาเอาไว้บนหิ้ง
ใครผิดจริง ก็ต้องว่าไปตามผิด ใครถูกก็ต้องว่า ไปตามถูก
ไอ้ครั้นจะให้ อิเจ้ ไปเป็น องครักษ์พิทักษ์เธอ
ปกป้องกันจนสุดลิ่มทิ่มประตู แบ่บลูกแหง๋ ( เป็นซือแป๋ข้า ใครอย่าแตะ )
อย่างที่คนบางคน มันเซ้นซิทีฟ พยามจะปกป้องซือแป๋ของมัน นั้น
บอกตรง ๆ อีแบบนี้ กรูก็ทำไม่ลง ว่ะ เหอะ ๆ




หรือ ถ้าจะให้อิเจ้ ไปจิกหัวตบใคร
แล้ว ร้องด่าเหย็ง ๆ แบบ เอดิสัน
ว่า F-U-CK U อีหน้าด้าน
อิเจ้ก็คงทำไม่ได้ อีกนั่นแหล่ะ
เฮ้อออ ตะขิดตะขวงใจ พิลึกว่ะ
เพราะ ศีล 5 มันค้ำคอ
เจ้ขี้เกียจมานั่ง ทวนศีลต่อศีล อยู่บ่อย ๆอิอิ


</td> </tr></tbody></table></td> <td background="../template/theme/8/images/right.gif" width="56">
</td> </tr> <tr> <td width="57"></td> <td background="../template/theme/8/images/everyday_frame_15.gif">
</td> <td width="56"></td> </tr> </tbody></table>
<table align="center" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td>โดย: นู๋บี วันที่: 12 ธันวาคม 2554 เวลา:5:29:04 น. </td> <td>
</td> </tr> </tbody></table>
<table bgcolor="#EDEDE5" cellpadding="0" cellspacing="0" width="95%"> <tbody><tr> <td width="57"></td> <td background="../template/theme/8/images/everyday_frame_03.gif">
</td> <td width="56"></td> </tr> <tr> <td background="../template/theme/8/images/left.gif" width="57">
</td> <td> <table border="0" cellpadding="3" cellspacing="0" width="100%"><tbody><tr><td>
</td><td></td></tr> <tr> <td>-----------------------------------------------------------
ไอ้ตี๋ว่า...
อิเจ้เรื่องแบบนี้ ( ซีแอลยา )
มันก็คล้ายๆกับเรื่องของ นักบวชเซน
หรือเรือง มดกับหนอนที่อั้วไปอาละวาดในเว็บลานทำสาวฯ

มันมีเยี่ยงอย่างที่ไหน อยากให้คนอื่นพ้นทุกข์ แต่ดันไป
ทำให้อีกคนเป็นทุกข์ อยากจะช่วยเนื้อสมัน ออกจากปาก
เสือ มันต้องเอาเนื้อหนังมังสาตัวเองไปแลกถึงจะถูก
ไม่ใช่เอามีดไปฟันเสือ ไม่ให้มันกินอาหาร

ไอ้เมตตาธรรมค้ำจุนโลกของลื้อ มันต้องพิจารณาให้ดี
ไม่งั้นมันจะเป็นเมตตาธรรมค้ำถ่อค้ำฐานะตัวเองให้สูง






คนที่อยู่ในวงการแพทย์ หรือวงการยา ไม่มีใครเขากล้า
วิจารณ์ เพราะต้องฝากผีฝากไข้ แต่อั้วกล้าเพราะอี
ไม่รู้จักอั้วฮาๆๆ

หมอถ้ารักษาคนไข้ แล้วคนไข้ตายไม่ผิด แต่ถ้าหมอไป
ขโมยยาคนอื่นมารักษาคนไข้มันผิด มองอีกมุม ถ้าคนไข้
ไปขโมยยาของคนอื่นเพื่อมารักษาตัวเองมันไม่ผิด
หวังว่า เจ้จะเข้าใจอั้ว ที่พูดนี่ตามหลักพรหมวิหารสี่เลยนะ


+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
อิเจ้ ....

อืม....ไอ้เรื่อง จุดยืนที่มั่นคง หยั่งก๊ะตอม่อโฮปเวล ของลื้อ
ในเรื่อง มดกับหนอน ที่ลื้อไปตบตีกับชาวบ้านร้านตลาด
ใน ลานทำสาวฯ นั้นน่ะ ทำไม เจ้จะไม่รู้ ล่ะยะ

เนี่ย ตอนอ่านที่ลื้อเคยโพส แว้ด ๆ บอกว่า

ถ้าคิดจะช่วยใคร มันต้องช่วยทั้งสองฝ่าย
คุณช่วยหนอนให้พ้นจากการเป็นอาหารของมด
คุณจะต้องช่วยมดให้มีอาหารอย่างอื่นมาทดแทน
เพราะมดต้องอดอาหาร มันเป็นการกระทำของคุณ
ถ้าคุณหาอย่างอื่นมาแทนหนอนไม่ได้หรือ
มดปฏิเสธที่จะกิน มันก็ต้องเป็นคุณ
ที่จะต้องเอาชีวิตของคุณไปแทนชีวิตหนอนตัวนั้น

มันต้องแบบนี้ ถึงจะเป็นการกระทำที่เป็นกุศล
และยุติธรรมแก่มดครับ

อ่านแร้ว อิเจ้ยังแอบอมยิ้ม
แล้วนึกเอ็นดูลื้อเลย ไอ้ตี๋เอ๊ยยยยย
ยังคิดในใจ ว่า เฮ้ย ' ไม ไอ้หมอนี่
มันถึงตอบได้ เกรียนซ้าหยั่งก๊ะว่า
แอบมาก๊อปฟามคิดในขมองตรู ไปโพสฟระ
( แมร่ง ! มัน ละเมิดลิขสิทธิทางปัญญาของตรูนะเนี่ย อิอิ )



ถึงได้บอกไง ว่า อิเจ้น่ะเข้าใจลื้อเสมอแหล่ะ
แต่ ลื้ออ่ะ ไม่ค่อยจะยอม เข้าใจเจ้เรย พับเผื่อย
และ ถึง จุดยืน ของเจ้ จะไม่มั่นคง แข็งโด่
เป็น ศิวลึงค์ บนแท่นหินโม่แป้ง แบบของลื้อ
แต่ จุดศูนย์ถ่วง เรื่อง ซีแอลยา ของเจ้
มันก็มี คอนเซปต์ เหมือนกับ เรื่อง ไส้เดือน กับ มด
ที่ อิเจ้เคยบนเรื่อยเปื่อยไว้ในพังจิต นั่นแหล่ะ
นู๋บี วันที่: 12 ธันวาคม 2554 เวลา:5:32:06 น. </td> <td>
</td> </tr> </tbody></table>
<table bgcolor="#EDEDE5" cellpadding="0" cellspacing="0" width="95%"> <tbody><tr> <td width="57"></td> <td background="../template/theme/8/images/everyday_frame_03.gif">
</td> <td width="56"></td> </tr> <tr> <td background="../template/theme/8/images/left.gif" width="57">
</td> <td> <table border="0" cellpadding="3" cellspacing="0" width="100%"><tbody><tr><td>
</td><td></td></tr> <tr> <td>--------------------------------------------------
ไอ้ตี๋ว่า...


ไอ้เมตตาธรรมค้ำจุนโลกของลื้อ มันต้องพิจารณาให้ดี
ไม่งั้นมันจะเป็นเมตตาธรรมค้ำถ่อค้ำฐานะตัวเองให้สูง
อั้วเคยโดนอีเจ้ข้างบ้านมันว่า เพราะมันเห็นอั้วให้เงิน
คนแก่แต่งตัวสกปรก มือถือหัวสิงโตขอทานตามบ้าน
มันว่าอั้ว เฮียให้มันทำไมเดี๋ยวก็เอาไปกินเหล้า
พุดโท !เงินแค่ห้าบาท มันจะเอาไปทำอะไรได้ว่ะ
อั้วแค่อยากแสดงให้คนแก่เขาเห็นว่า ยังมีคนที่
ไม่รังเกียจแก อยากให้แกมีสุขทางใจเล็กๆน้อยๆ
ไม่อยากให้แกคิดว่า ชีวิตแกบัดซบ
แล้วยังต้องมาเจอคนบัดซบอีก



พูดถึงอีเจ้ข้างบ้าน เช้าๆงี้เสียงสวดมนต์ดังลั่น
อั้วยังคิดในใจว่า มันสวดในใจไม่เป็นหรือว่ะ หรือกลัว
คนอื่นไม่รู้ว่า ฉันเป็นคนดีนะ ฉันเป็นคนธัมมะธัมโมนะ


เงินห้าบาทที่อั้วให้คนแก่ไป ถ้าแกจะเอาไปกินเหล้า
มันก็แค่ เป็กครึ่งเป็ก มันเป็นกระสายแก้อาการลงแดง
อีเจ้ข้างบ้านมันไม่รู้ว่า คนที่ได้น้ำตาลจากแอลกอฮอล์
นานๆ ถ้าวันไหนขาดน้ำตาลตัวนี้มันจะช็อกถึงตายได้
เนี้ยวิเคราะห์จากประสบการณ์จริงเลย


อั้วเป็นนักวิเคราะห์ และสามารถวิเคราะห์เหตุการณ์ข้างบน
ที่เล่าให้ลื้อฟังแบบนี้ ลื้อยังกล้ามาชี้หน้าด่าอั้วว่า ไม่เอาใจ
เขามาใส่ใจเราหรือเปล่า
เรื่องแบบนี้มันต้องเอาใจ"พวกเขา" ไม่ใช่ใจเขาว่อย

+++++++++++++++++++++++++++


อิเจ้ ว่า...

อ้าววววว....' ไม ลื้อ ไม่ยืนดู ตาแป๊ะสกปรก นั่น
มันชักแหง่ก ๆ แล้วลงแดงตาย ต่อหน้าต่อตาลื้อ
แบ่บที่ ลื้อ มองดู โคตรพ่อโคตรแม่ลื้อ ตาย5 ล่ะจ๊ะทูนหัว


อ้อ แร้วตอนที่ลื้อ ให้ตังค์ตาแก่นั่น
ไปซื้อเหล้าครึ่งเป๊ก เนี่ย
ลื้อได้แสดงธรรมบอกอี
เหมือนที่ แร่พโย่วเหย็ง ๆ
บอกอิเจ้วิ่งสู้ฟัด ไหมล่ะ ว่า


การหวังให้คนอื่นมาแก้ไข
ให้เป็นไป ในสิ่งที่ตัวต้องการมันยาก
ดังนั้นเราต้องแก้ที่ตัวเอง
ด้วยการขยันทำมาหากิน
ใช้จ่ายแต่ในเรื่องปัจจัยสี่

พูดง่ายๆว่า...อย่าทำเป็นเงินในกระเป๋าไม่ได้แต่ใจรัก
หรืออีกนัย ก็คืออย่าเสือกเกิดมาจน

( ถ้าลื้อไม่ได้ทำ เจ้จะขอเป็นโจทก์ ยื่นฟ้องลื้อ
ต่อศาลไคฟง ว่า ลื้อน่ะ มันเลือกปฏิบัติ
จัดเป็น พวกดับเบิ้ลสแตนดราด ตัวพ่อ อิอิ)



--------------------------------------------------

ไอ้ตี๋ ว่า ...

ถ้าโครตพ่อ โครตแม่อั้ว ต้องตกอยู่ในสภาพที่ต้องให้
โจรหรือหัวขโมยมาช่วยชีวิต อั้วจะยืนดูพ่อแม่อั้วตายไปต่อหน้าเลยดีกว่า
จะเป็นลูกที่ดีมันต้องดีตั้งแต่รู้ความ ไม่ใช่มาดีตอน
ที่พ่อแม่กำลังจะตายหรือว่าตายไปแล้ว มันต้องรู้จักเก็บ
เงินทองในส่วนที่เอาไว้รักษาพ่อแม่ เราเจอพ่อแม่ทุกวัน
มันเป็นเครื่องเตือนอยู่แล้วว่า ตาเฒ่า ยายแก่สองคนนี้
ซักวันต้องเข้าโรงพยาบาล ถ้ายังไม่สำเหนียก
แล้วมาแหกปากด่าชาวบ้านว่า ไม่เอาใจเขามาใส่ใจเรา

++++++++++++++++++++++++++

อิเจ้ ว่า....

อืม...ทีงี้ ทำมาเป็นพูดดี นะยะไอ้โซ๊ยตี๋
นี่ตกลง ลื้อจะยืนดูโครตพ่อโครตแม่ลื้อตาย จิงอ่ะ
นึกว่า ถ้าลื้อเสือกเกิดมาจน
ลื้อจะบำเพ็ญตน เป็น โรบินฮู้ด
ทำให้ ศีลข้อ สอง ต้องมัวหมอง
ดัวยการไป ขโมยยา มารักษาโครตพ่อโครตแม่ ลื้อซะอีก อิอิ



เออ นี่ๆ อิเจ้ เห็น ใครก็ม่ะลู้
มันไป กระทู้ถาม แว้บ ๆ ที่ ลานธรรมจก ง่ะ
อ่ะโหย ทำเป็นโยนหินถามทาง ใช้ความใจอ่อนขี้สงสาร
และสัญชาตญาณความเป็นพ่อเป็นแม่ของคนอ่าน
มา ปุจฉา ตะล่อม ประมาณ ว่า



ส่วนเรื่องของสัมมากัมมันตะที่ความกับความประพฤติ
พระอริยะบุคคลไม่ได้สนใจในเรื่องทำดีทำชั่ว
ถ้าความหมายของความชั่วคือผิดศีล
ความดีคือไม่ผิดศีล พระอริยะท่านเน้นในเหตุผลของการกระทำ


ตัวอย่าง คุณมีลูกที่ไม่สบายมาก
ต้องกินยาในขณะที่คุณไม่มีเงินซื้อไปขอใครเขาก็ไม่ได้
คุณจะปล่อยให้ลูกตายไปต่อหน้าหรือครับ
มันก็ต้องหาทางเอายามา ด้วยการโขมยแหล่ะครับ
นี่แหล่ะการกระทำที่เป็นเหตุเป็นผลอธิบายง่ายๆให้ดู
(อธิบายยากเดี๋ยวไม่เข้าใจ จะว่าไม่มีเหตุผล ไม่เป็นสัมมาอีก)


แสดงกระทู้ - มรรคแปด กับ ไตรสิกขา • ลานธรรมจักร


แหม๊ ? ลื้อช่วยไปวิสัชนา ตอบไอ้หมอนั่น
ด้วยคอนเซปต์เดียวกับที่ลื้อ ตอบเจ้
เรื่อง โคตรพ่อโคตรแม่ ลื้อป่วย หน่อยสิจ๊ะ ทูนหัววววว


และถ้านึกไม่ออกว่า จะ ตอบไง
มามะ เด๋วอิเจ้ จะเขียนสคริปต์ให้นะจ๊ะ อิอิ


ถ้าลูกบังเกิดเกล้าของอั้ว เป็นเอดส์
แล้วต้องตกอยู่ในสภาพที่ต้องให้โจรหรือหัวขโมยมาช่วยชีวิต
อั้วจะยืนดูลูกอั้วตายไปต่อหน้าเลยดีกว่า
เอ ? หรือ อั้ว จะทำตัว เป็น อ้ายหัวขโมย
แบ่บโรบินฮู้ด ซะเองดีวะ ? เอิ๊ก ๆ



แหม ? ช่วยไม่ได้ ก็เสือกเกิดมาจน
แล้วไม่รู้จักวางแผนครอบครัวเองนิ หว่า
จะเป็นพ่อแม่ที่ดีมันต้องดีตั้งแต่คิดจะทำลูก
ไม่ใช่มาดีแต่ปาก ตอน ที่ลูกกำลังจะตายหรือว่าตายไปแล้ว


มันต้องรู้จักเก็บเงินทองในส่วนที่เอาไว้รักษาลูก
เราเจอหน้าลูกทุกวัน มันเป็นเครื่องเตือนอยู่แล้วว่า
ไอ้ลูกมนุษย์ที่แสนจะอ่อนแอพวกนี้
ซักวันมันก็ต้องเข้าโรงพยาบาล
ไหน ๆ เสือกทำให้มันเกิดมาแระ
ก็ต้องรับผิดชอบเลี้ยงดูมันให้ตลอดรอดฝั่ง
ที่สำคัญ ต้องสอนให้มัน รู้จักยีบยั้งชั่งใจ
สำเหนียกเรื่อง โทษความสำส่อน และ ความมักมากในกาม
หรือ ถ้าทำไม่ได้ ก็ต้องรู้จักสอนให้มันใช้ ถุงยางอนามัยด้วย



ถ้ามีลูกแล้วไม่มีปัญญาจะเลี้ยงดู
และ อบรมสั่งสอนมันให้ดีได้ตลอดรอดฝั่ง
ก็อย่าทะลึ่งไปสักแต่ว่า ผลิตมันขึ้นมา
เพื่อ โชว์ ความ มักง่าย ของตัวเอง เลยว่ะ




เฮ้ย อั้วขอถาม พระอริยะขี้ขโมย หน่อยสิจ๊ะ
ว่า ไอ้ยาราคาแพง ( เพราะติดปัญหาสิทธิบัตรยา )
ที่ลื้อ ไปฉกฉวยขโมยเขามาเนี่ย
เจ้าของทรัพย์ ( ร้านขายยา ) เขาจะเดือดร้อน ไหม ?
เขาก็มีลูก มีเมีย (และ มีกิ๊กอีก สามสี่คน )
ให้ต้องเลี้ยงดูเหมือนกันนะเว้ย เฮ้ย



นี่แหน่ะ ไอ้ตี๋ เรื่องแบบนี้
มันก็คล้ายๆกับเรื่องของ นักบวชเซน
หรือเรือง มดกับหนอน
ที่ลื้อไปอาละวาดในเว็บลานทำสาวฯ นั่นแหล่ะ


แมร่ง มันมีเยี่ยงอย่างที่ไหน กัน
อยากให้ลูกตัวเองพ้นทุกข์
แต่ดันเสือกไปทำให้อีกคนเป็นทุกข์


อนึ่ง หมาที่ไหน ม่ะลู้ บอกว่า
อยากจะช่วยเนื้อสมัน ออกจากปากเสือ
ก็ต้องเอาเนื้อหนังมังสาตัวเองไปแลกถึงจะถูก
ไม่ใช่เอามีดไปฟันเสือ ไม่ให้มันกินอาหาร



ไอ้เรื่อง ขโมยยามารักษาลูก นี่ก็เหมือนกันว่ะ
อยาจะช่วย เลือดเนื้อเชื้อไข ตัวเอง ให้หายเจ็บไข้ได้ป่วย
ลื้อก็ต้องเอา หยาดเหงื่อ แรงงาน ไปแบกกระสอบข้าวสาร
หาเงินมาเจือจาน ซื้ออาหารซื้อยามารักษาลูกลื้อ มันถึงจะถูก
หรือ ถ้าเหยียบขี้ไก่ไม่ฝ่อ ป้อแป้จนแบกกระสอบข้าวสารไม่ได้จิง ๆ
ลื้อ ก็ต้องไปขายไต ขายเลือด ขายซี่โครง
ไม่งั้น ก็ ไปเต้นอะโกโก้ ขายถั่วดำในบาร์เกย์
หาเงินมาซื้อยารักษาลูกสิวะ มันถึงจะเท่ห์ และ ถูกต้องชอยธรรม
ไม่ใช่ ว่าไปขโมย หรือ เอามีดไปจี้คอขอปล้นยาจากชาวบ้าน
ไอ้เมตตาธรรมค้ำจุนโลกของลื้อ มันต้องพิจารณาให้ดี
ไม่งั้นมันจะเป็นเมตตาธรรม ที่ค้ำถ่อแต่ตัณหาและอัตตาตัวเอง



เรื่องของความดีมีเมตตาต้องแยกให้ออก
การที่พ่อแม่ช่วยลูก ขโมยยา มารักษาลูกเนี่ย
มันไม่ใช่เป็นเรืองความดีความชั่ว
มันเป็นเพียงพฤติกรรมของสัตว์โลก
ผลที่เราเห็นเป็นดีชั่ว
เพราะเราเอาความเห็นแก่ตัวเราเข้าไปตัดสิน
ถ้ายังไม่สำเหนียก แล้วมาอ้าง สัมมากัมมันตะ
มันก็ทะแม้ง ๆ อยู่นา งิงิ




อ้อ อันนี้อยากสมมุติ
ถ้า ลูกลื้อกำลังจะคลอด
แล้วต้องกินยา AZT ทันที
เพื่อป้องกันการติดเชื้อHIV
( เนื่องจากพ่อมันสำส่อน เรยมีความเสี่ยงสูง )


แต่ตอนนี้ ยานั้นมีเหลืออยู่ขวดเดียว ในร้านยา
ลื้อเองก็เสือกเกิดมาจน ไม่มีเงินซื้อยา ซะด้วย
ถ้าสบโอกาส ลื้อจะแอบไปขโมยยานั้นมาให้ลูกลื้อกิน ไหมล่ะ ?
แล้วถ้า บังเอิญ ลื้อก็รู้แก่ใจว่า
ตอนนั้น เมียเจ้าของร้านยาเอง
ก็กำลังจะคลอดลูกและจำเป็นต้องกินยานี้ เหมือนกัน





อุ๊ยต๊ายยยยย นี่อิเจ้ พล่ามอะไร ออกไปเนี่ย
สงสัยเจ้ อิน กะตัวหนังสือ ของไอ้โซ๊ยตี๋
ที่แพล่ม ๆ ทิ้งไว้ในบล็อกนี้ ว่ะ
เรยเผลอ ละเมอ มาพล่าม ตามมัน เหอๆ





</td> </tr></tbody></table></td> <td background="../template/theme/8/images/right.gif" width="56">
</td> </tr> <tr> <td width="57"></td> <td background="../template/theme/8/images/everyday_frame_15.gif">
</td> <td width="56"></td> </tr> </tbody></table>
โดย: นู๋บี วันที่: 12 ธันวาคม 2554 เวลา:5:33:23 น.

 

แยะเกิน ไม่อ่าน

 

เจอโปรแกรมเถื่อน ก็ทำให้มันถูกต้อง

หาตัวแคร๊ก หรือ keygen มาล้างมลทินให้มันจิตใจผ่องแผ้ว

อยู่กับเราให้เราใช้งานไปได้นานๆ ง่ายๆ แค่นี้เองคร๊าบบบ

55555

(||)(||)(||)(||)(||)

 

ถ้าผมเป็นบิวเกก ผมจะเขียนซอฟแวร์ฟรี แจกให้ Homeuser เลยครับ และขายเฉพาะองค์กรใหญ่ ๆ เท่านั้น เพราะผมรวยมหาศาลแล้วววว

 

วันหนึ่งเดินหลงไปในป่า หิวจนตาลายโซซัดโซเซ เห็นลำธาร คิดว่าคงมีเจ้าของ เห็นผลไม้หล่นใต้ต้นไม้พอประทังชีวิตได้ ก็ปฎิเสธที่จะกิน ด้วยถือว่า มันมีเจ้าของอยู่ ยังไม่ได้ขอเขาไม่สมควรกิน ได้แต่ยืนมอง ลำธารและสายน้ำ นั่งเฝ้ามองผลไม้นั่นสุกจนแมลงวันตอม ไข่ทิ้ง หนอนไชกินไต่จนเน่าไป หนอนเน่าๆมีสิทธิ์แดกมากกว่า โง่กว่าหนอนละป่ะ:boo:
และก็พยายามคลานต่อไปอย่างอนาถาไอ้พวก โฮกิลดอง โดยหวังว่าจะได้ออกจากป่าที่รกรุงรัง กลับเรือนของตน เพื่ออาหารที่สมควรแก่ตนในเรือนนั้นโรบินฮู้ดขึ้นสมอง ขอให้ถึงบ้านเร็วๆนะค๊ะ จุ๊บๆ

 

กฎหมายนอกเหนือพุทธบัญญัติ และจริยธรรมคุณธรรมในพุทธบัญญัติ มันจะนำมาเปรียบเทียบ และร่วมทางเดินให้เสมอเหมือนเส้นทางเดียวกัน เป็นไปด้วยกันทั้งหมดไม่ได้ นี่ก็เป็นสาเหตุหนึ่ง ที่บางประเทศ นำคัมภีร์ศาสนาเป็นตัวหลักบัญญัติกฎหมายประจำชาติ เรื่องทุกเรื่องจึงเป็นไปด้วยกันได้ กฎหมายจึง อ่อนโยนสำหรับหรับผู้ประพฤติดี เข้มแข็ง ศักดิ์สิทธิ์สำหรับผู้ศรัทธาเชื่อฟัง รุนแรงป่าเถื่อนสำหรับผู้ละเมิด นำวิถีตามไปทั้งในโลกนี้ และโลกหน้า :boo:
ขออนุโมทนาบุญฯ

 

แจ่มมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมม

 

เฮ้อออ คนเรา นะสุดท้ายแล้ว
มันก็ต้อง กลับบ้านเก่า ด้วยกันทั้งนั้นแหล่ะ
ไอ้เรื่องเดินหลงป่า ไม่กล้ากินผลไม้
แล้วปล่อยให้ หนอนคาบไปแดร่ก เนี่ย
มันไม่สำคัญหรอกจร้าาาาา
ว่าเรา โง่ หรือ ฉลาดกว่าหนอน
แต่สิ่งสำคัญ ก็คือ เรา เป็น ....

the kind of person that we want to be.

แล้วหรือยัง ตะหาก จร้าาาา :'(

 

อิม...ไหน ๆ กาทู้นี้ก็ โดนถีบหลงหลุม(ดำ) แระ
ขอ นุยาด โพส ลิงค์ ของ เดอะซีรี่ย์ ชุด ปกติชนคนถือสาก
ไว้ เป็น ก้อนอุบาทว์ ในกระทู้นี้ อีก จั๊กดอกส์ เด้ออ :boo:


ตามล่าหาความจริง กับ คำว่า... มือถือสาก ... ปากถือศีล... ? ( ในห้อง อภิญญา ฯ )


มหากาพย์ปลาบู่ทอง ! ... ต้องใช้ธรรมะบทไหน ... ถึงจะทำให้ นังอิจฉากลับใจ ?


นี่ ๆ เหล่านักปฏิบัติจ๋าาา ใครบ้างคร้าาา ที่ยังถือศีล 5 อยู่มั่ง ขอเสียงหน่อยจร้าาา !


อันคำว่า ปกติชน ในสายตาของคนเป็นนักปฏิบัตินั้น มันวัดกันที่ตรงไหน ฤา ?


นักปฏิบัติในห้องนี้ มีใครที่ยังถือ ศีล 5 อยู่บ้างเจ้าคะ ?


นี่ ๆ เหล่านักปฏิบัติจ๋าาา ใครที่คิดว่า ตัวเอง ...มือถือสาก ปากถือศีล... ยกมือขึ้น !



:boo::boo::boo::boo::boo::boo::boo:

 

ไฮ ! คลาริซ ดินเนอร์กันไหม ? หุ...หุ...



​

<table class="tborder" border="0" cellpadding="6" cellspacing="1" width="100%"><tbody><tr><td class="thead">ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 2 คน ( เป็นสมาชิก 2 คน และ บุคคลทั่วไป 0 คน ) </td> <td class="thead" width="14%"> [ แนะนำเรื่องเด่น ] </td> </tr> <tr> <td class="alt1" colspan="2" width="100%"> blank123*, มหาวัฎร</td></tr></tbody></table>

 

ว่าแต่ 3 คนนี้ ใครกัน ?
ที่จะกลายเป็น ดินเนอร์ ล่ะหว่า :boo:


<table class="tborder" border="0" cellpadding="6" cellspacing="1" width="100%"><tbody><tr> <td class="thead"> ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 3 คน ( เป็นสมาชิก 3 คน และ บุคคลทั่วไป 0 คน ) </td> <td class="thead" width="14%"> [ แนะนำเรื่องเด่น ] </td> </tr> <tr> <td class="alt1" colspan="2" width="100%"> blank123*, Jt Odyssey, มหาวัฎร</td></tr></tbody></table>