น้ำมันมนต์ครูบาสุรินทร์ แก้คุณไสย หลวงพ่อเกษม ***พระสุปฏิปันโน ภาคเหนือ เหรียญบาท พญาครุฑ ปี 17

ในห้อง 'พระเครื่อง วัตถุมงคล' ตั้งกระทู้โดย kyetip, 19 เมษายน 2014.

สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้
  1. kyetip

    kyetip เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 ตุลาคม 2012
    โพสต์:
    5,367
    ค่าพลัง:
    +855
    ขอบคุณครับ :cool:
     
  2. kyetip

    kyetip เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 ตุลาคม 2012
    โพสต์:
    5,367
    ค่าพลัง:
    +855
    พระครูปลัดกฤต ฐิตวิริโย (พระอาจารย์โต) วัดพระบาทปางแฟน อ.ดอยสะเก็ด จ.เชียงใหม่

    [​IMG]
    พระอาจารย์กฤต ฐิตวิริโย (พระอาจารย์โต) สกุล อินทรานาคะไชย ผู้เป็นหน่อเนื้อนาบุญของพุทธศาสนา หนึ่งในไตรลักษณ์ของศาสนา ที่จาริกเดินบนเส้นทางแห่งพระสุปฏิปัณโณ สืบทอดตามแนวทางของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระบรมศาสดา ที่แตกหน่อชูช่อบานสะพรั่งพลิ้วไสวเล่นลม หมดหวนบน แผ่นดินล้านนา นับเป็นรูปล่าสุดในปัจจุบัน ที่เราสามารถสัมผัสรังสี แห่งธรรมได้ กับพระอาจารย์โต แห่งวัดพระบาทปางแฟน อ.ดอยสะเก็ด จ.เชียงใหม่

    พระอาจารย์กฤต ฐิตวิริโย ถือกำเนิดเมื่อ วันพุธ ที่ 28 ม.ค. 2519 ที่บ้านทุ่งแล้ง อ.ลอง จ.แพร่ เป็นบุตร ของโยมพ่อสันติ์ โยมแม่บัวผัด อินทรานาคะไชย เป็นบุตรคนโต ในจำนวนพี่น้อง 5 คนดังนี้

    พระอาจารย์กฤต ฐิตวิริโย
    นายมนุญ อินทรานาคะไชย
    นายพินิจ อินทรานาคะไชย
    คุณศศิธร อินทรานาคะไชย
    นายสุริยา อินทรานาคะไชย

    โยมแม่ของพระอาจารย์ โต เล่าให้ฟังว่า ขณะตั้งครรถ์แก่จวนคลอด ได้นิมิตเห็นมีดวงแก้วสีเขียว สดใสมากดวงหนึ่ง ดวงโตเท่าลูกมะพร้าวลอยมาหา และลอยหายไปในท้องจึงได้ตกใจตื่น และปวดท้องจะคลอด พอดีวันนั้นฝนตกหนักมากคุณพ่อจึงได้ไปตามหมอตำแยในหมู่บ้านมาดู และช่วยทำคลอด ในขณะที่พระอาจารย์โตคลอดนั้นก็ได้เกิดเหตุมหัศจรรย์ขึ้นคือ แผ่นดินไหวพอดี เหมือนเป็นปาฏิหาริย์ และปรากฏว่าพอพระอาจารย์คลอดออกมา มีสายรกนั้นพันอยู่เต็มรอบตัว ซึ่งชาวล้านนาส่วนใหญ่เชื่อกันว่าเด็กที่เกิดมาแล้วมีสายรกพันตัวนั้นคือผู้มีบุญมาเกิด และจะได้บวชในพระพุทธศาสนา เมื่ออายุได้ 4 ขวบคุณพ่อได้พาไปหาคุณปู่ที่บ้านสองแคว อ.เมืองแพร่ ซึ่งคุณปู่ท่านก็บอกกับคุณพ่อว่า หลวงปู่พระเจ้าคุณดาบส สุมโณ ซึ่งได้มาจำพรรษาที่ป่ามะม่วง ของคุณปู่ที่บ้านสองแควและคุณปู่คอยอุปถัมภ์ท่านเสมอ ๆ จนกระทั่งวันหนึ่ง ท่านได้บอกกับคุณปู่ว่าอีกไม่นานจะได้เห็นหลานชายเป็นผู้มีบุญมาเกิด คือฝนจะตก แผ่นดินจะไหว และที่สำคัญจะมีสายรกพันตัวด้วย และเมื่อเขาพอจะจำความได้ ให้มอบของพวกนี้ให้กับหลานคนแรก

    ที่ถือกำเนิดมาตอนแผ่นดินไหว และเมื่อเขา (ของเหล่านั้นที่หลวงปู่ดาบสมอบให้พระอาจารย์ขอปิดเป็นความลับ) โตขึ้นจะได้บวชในพระพุทธศาสนาจะเป็นคนมีชื่อเสียง และจะได้เป็นที่พึ่งของปวงชน แต่เมื่ออายุครบ 30 ปีแล้วก็จะหมดบุญแต่จะมีผู้มีบุญบารมีมากๆ มาช่วยขอต่ออายุให้ และขอให้ช่วยกันเลี้ยงให้ดีๆ จากนั้นท่านก็เดินจากไปจำพรรษาที่ถ้ำจักรพรรดิ์ อ.ลอง ก่อนจะไปอยู่จำพรรษาที่อาศรมไผ่มรกต จ.เชียงราย จนกระทั่งมรณภาพ และทิ้งหัวใจที่ไฟไม่ไหม้ไว้ให้ดูต่างหน้า ให้ผู้คนได้รำลึกไว้เสมอว่า ไม่มีอะไรในโลกนี้ ที่เป็นไปไม่ได้

    สัมผัสสิ่งศักดิ์สิทธิ์ีครั้งแรก ชีวิตในวัดเด็กของพระอาจารย์โตนั้น ก็เหมือนเด็กชาวบ้านทั่วไป ที่ต้องมีหน้าที่รับผิดชอบช่วยพ่อแม่ทำงานบ้านทุกอย่าง ทั้งตักน้ำ ผ่าฝืน ทำอาหาร แต่เป็นที่น่าแปลกอย่างหนึ่งคือ พระอาจารย์ไม่ชอบฆ่าสัตว์ วันหนึ่งพระอาจารย์เกิดป่วยอย่างหนักตัวร้อนเหมือนไฟเผา ทานยายังไงก็ไม่หายทานอาหารก็อาเจียนออกมาหมด มีอาการอ่อนเพลียมาก ตาแดงก่ำด้วยพิษไข้ จนรู้สึกเบลอๆ ไป ขณะนั้นเองก็มีความรู้สึกว่ามีผู้หญิงสวยมากคนหนึ่ง นุ่งห่มผ้าสีสันสวยงาม เดินเข้ามาหา ตรงหน้านั่งอยู่ข้างๆ และเอามือลูบศรีษะพระอาจารย์เบาๆ พูดด้วยเสียงนุ่มนวลว่า ไม่ต้องกลัวนะต่อไปนี้ จะคอยตามดูแลตลอดไป พักผ่อนนะเดี๋ยวทุกอย่างจะดีเอง พระอาจารย์ก็พูดไม่ออกในตอนนั้น ขยับเขยื่่อนก็ไม่ได้ แต่เธอก็ยิ้มให้อย่างมีเมตตา แล้วก็หายไป พอรุ่งเช้าอาการป่วยของพระอาจารย์ที่หนักเจียนตาย กลับหายไปอย่างน่าอัศจรรย์ จึงได้ถามพ่อแม่ว่ามีใครมาหาบ้างตอนที่นอนป่วยอยู่ และแต่งตัวอย่างที่เห็น ก็ได้รับคำตอบว่าไม่มี พระอาจารย์จึงเก็บความสงสัยนั้นไว้ตลอดมา สำหรับส่วนตัวของพระอาจารย์เองนั้น มีนิสัยชอบที่จะไปพบหาพระธุดงค์หลายรูป จึงทำให้พระอาจารย์มีความผูกพันกับชีวิตพระธุดงค์ จึงได้ตั้งความปรารถนาว่า เมื่อโตขึ้นในภายหน้าจะต้องบวชเรียน และเดินธุดงค์ตามรอยครูบาอาจารย์ทั้งหลาย ดังนั้นพระอาจารย์จึงติดนิสัยชอบปลีกหาความวิเวก ไปอยู่ตามป่าเขาเสียเป็นส่วนใหญ่

    ในปี 2531 ขณะนั้นได้บรรพชาเป็นสามเณร อยู่ที่วัดศรีดอนคำ ซึ่งเป็นวัดที่พระนางจามเทวีสร้างบรรจุพระบรมสารีริกธาตุของพระพุทธเจ้าไว้ ด้วยความเป็นคนที่ขอบในการปฏิบัติธรรมมาตั้งแต่เกิด จึงทำให้พระอาจารย์เคารพในสิ่งศักดิ์สิทธิ์สวดมนต์ไหว้พระเสมอๆ และรำลึกนึกถึงบุญคุณของพระนางจามเทวี ที่ได้สร้างสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ ไว้ให้ได้บูชาสักการะ คืนวันหนึ่ง พระอาจารย์ได้นิมิตไปว่ามีสตรีวัยกลางคนมาหา แต่ไม่ใช่ีคนเดิมที่เคยเจอก่อนบวช เพราะดูมีอายุกว่ามาบอกว่า ท่านคือ พระนางจามเทวี ปฐมวีรกษัตริย์แห่งเมืองหริภุญชัย มาเพื่อจะบอกว่าในวันข้างหน้า พระอาจารย์โตนั้นจะเป็นผู้มีส่วนช่วยท่านเสริมสร้างบารมี ให้ขจรขจายไปทั่วสารทิศ เพราะเคยมีอดีตชาิติที่เกื้อหนุนกันมาก่อน ท่านยังบอกในนิมิตว่าพรุ่งนี้เช้าหากท่านไปบิณฑบาต จะมีคนนำสไบสีเขียวมาถวาย ใ้ห้ท่านนำไปห่มอนุสาวรีย์ของท่านที่วัดศรีดอนคำ อ.ลอง จ.แพร่ให้ด้วย จากนั้นท่านก็หายไป จนกระทั่งเช้า พระอาจารย์ก็ไปบิณฑบาิตเดินจนเกือบจะถึงวัด ก็ยังไม่มีใครเอาสไบสีเขียว มาถวายสักผืน จึงไม่ได้ใส่ใจคิดว่าฝันก็คือฝัน แต่ขณะกำลังจะก้าวเข้าสู่ประตูวัดก็ได้ยินเสียงหญิงชาวจีน วัยกลางคนนิมนต์รับบาตร เขาหยิบข้าวและอาหารคาวหวานครบ และสิ่งที่ทำให้พระอาจารย์ตกใจมาก ก็คือผ้าผืนสีเขียวตองอ่อนผืนหนึ่ง ที่เขาบรรจงหยิบขึ้นมา พร้อมกับกล่าวว่า เมื่อคืนพระนางจามเทวี มาเข้าฝัน ให้เอาผ้าสไปสีเขียวมาใส่บาตรถวายเณรรูปร่างลักษณะอย่างนี้ๆ ก็เฝ้ารอตั้งนานแต่ไม่พบ จนมาพบพระอาจารย์จึงคิดว่าใช่ตามที่ฝัน จึงมาดังรอใส่บาตร พระอาจารย์จึงได้นำผ้าสไบชิ้นนั้น ไปห่มถวายอนุสาวรีย์องค์ท่านทันที และเริ่มสนใจศึกษาเกี่ยวกับองค์เทพ พรหมและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ว่ามีอยู่จริงหรือไม่ และเริ่มหักเหชีวิตจากฝักใฝ่ในการเรียนก็กลับเริ่มฝึกปฏิบัติกรรมฐานตั้งแต่นั้นมา

    ชีวิตหันเหจากเรียนเป็นธุดงค์ จากการที่พระอาจารย์ชื่นชอบการปฏิบัติกรรมฐานในพระธุดงค์เป็นอย่างมาก จึงได้แอบไปตามป่าเขาลำเนาไพร หรือที่เรียกว่าธุดงค์ จุดมุ่งหมายจุดแรกของการออกเผชิญชีวิตของสามเณร ซึ่งเมื่ออยู่ที่วัดก็ถูกเหยียดหยามจากพวกพระภิกษุสารเณรด้วยกัน หาว่าบ้าเพราะไม่ยอมเข้าสังคมเอาแต่นั่งสวดมนต์ หนังสือหนังหาไม่ยอมเรียน จึงคิดหลบไมหาที่สงบ ไปนั่งในป่าช้าบ้าง ตามชายป่าบ้าง แต่หาได้พ้นสายตาของผู้คน กลับพากันมารบกวน และเล่าลือกันไปต่างๆ นาๆว่า สารเณรโตนี้คงจะเพี้ยน เพราะสวดมนต์มากจนเกินไป จึงขอลาหลวงปู่เจ้าอาวาสคือหลวงปู่แก้ว (พระครูเกษมรัตนคุณ) วัดศรีดอนคำ โดยบอกว่าจะไปออกแสวงหาครูบาอาจารย์สอนกรรมฐาน มีจุดมุ่งหมายไปที่อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย เพื่อแสวงหาครูบาอาจารย์ฝึกสอนกรรมฐาน โดยได้รับคำแนะนำจากครูบาสมจิต จิตคุตโต วัดสะแล่งก่อนมาว่า ขอให้ตั้งใจบำเพ็ญเพียรให้ดี แล้วจะสำเร็จตามที่ตั้งใจ จึงตั้งใจไปหาพระอาจารย์วิชัย เขมีโย วัดถ้ำผาจม แต่บังเอิญช่วงนั้นท่านได้เดินทางไปต่างประเทศ ทางวัดจึงจัดที่พักค้างคืนได้ 7 วัน พระอาจารย์จึงใช้สถานที่ในถ้ำผาจมนั้นบำเพ็ญภาวนา นี่เป็นช่วงชีวิตที่หักเหเริ่มธุดงค์ครั้งแรกในชีวิต

    วันต่อมาพระอาจารย์ได้พบภิกษุลึกลับที่จำพรรษาอยู่บริเวณเดียวกันกับวัดถ้ำผาจม ซึ่งท่านได้เมตตาสอนการปฏิบัติกรรมฐานอยู่อย่างพระธุดงค์ โดยเดินทางข้ามไปฝั่งพม่า เข้าป่าฝึกธุดงค์กรรมฐาน ด้วยการกำหนดจิตขั้นพื้นฐาน ด้วยการปล่อยวางไม่เข้าไปยึดมั่นถือมั่น ในเหตุปัจจัยแห่งสัญญาของรูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ ทำให้อาจารย์ได้รู้สัจธรรมความจริงของชีวิต ทั้งด้านดี และเลวอย่างถ่องแท้

    นอกจากนี้อาจารย์ยังได้ศึกษาเรียนรู้การเจริญอาณาปานสติกรรมฐาน ด้วยการกำหนดสมหายใจเข้าออกที่สามารถกระทำการเจริญได้ 4 อัปกริยา ด้วยการยืนทำสมาธิ เดินจงกรม นั่งสมาธิและนอนทำสมาธิ

    พระอาจารย์ได้อยู้ศึกษาการเจริญสติกรรมฐาน พร้อมวิชาการต่างๆ อยู่ระยะหนึ่ง ก็ลาจากภิกษุลึกลับ กลับมาฝั่งไทย ที่อ.แม่สาย ก่อนลาจากภิกษุลึกลับกลับท่านได้เรียกเข้ามาพบ และได้ยื่นคัมภีร์เก่าๆ ให้อาจารย์ พร้อมกำชับให้ไปศึกษาคาถาในคัมภีร์ให้เข้าใจ เพื่อจะได้นำเอาไปสงเคราะห์ญาติโยมในวันข้างหน้า ตราบใดที่ยังไม่ได้เป็นเจ้าอาวาส ห้ามนำเอาออกมาใช้อย่างเด็ดขาด เพราะจะเป็นภัยกับตัวเณรเอง

    เมื่อลาจากภิกษุลึกลับแล้วก็เดินทางกลับมาที่แพร่ และเตรียมเดินทางต่อไปภาคกลาง โดยมีจุดมุ่งหมายที่ จ.สิงค์บุรี คือที่ัวัดชูศรีเจริญสุข กราบฝากตัวเป็นศิษย์กับหลวงปู่บุดดา ถารโร อยู่กับท่านเกือบสองเดือน ก็พอดีหลวงพ่อคง จตตมโล วัดเขาสมโภชน์ อ.ชัยบาดาล จ.ลพบุรี ได้มากราบหลวงปู่บุดดา ท่านจึงฝากให้ไปเรียนวิชาธรรมเปิดโลกกับหลวงพ่อคง พอฝึกจนคล่องพอตัว จากนั้นก็กราบลาท่านลงไปใต้ โดยมีคนแนะนำพาไป จ.สงขลา อ.นาทวี และได้รับใช้หลวงปู่พระครูประสูตโสภณ (อั้น คุณกาโม) ณ.วัดในวัง

    อุปสมบท (ในพระราชูปถัมภ์) ในปีนั้นสมเด็จย่าทรงประชวรบ่อย ทางหลวงพ่อเจ้าอาวาสจึงบอกให้อาจารย์อุปสมบทเป็นพระภิกษุเพื่อถวายเป็นพระราชกุศลทางหลวงพ่อจึงได้นำเรื่องขึ้นทูลถวายสมเด็จย่าจึงได้พระราชทานทุนทรัพย์ส่วนพระองค์
    จัดงานอุปสมบท ณ วัดในวังพระอารามหลวงในพระราชูปถัมภ์

    สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี และสมเด็จพระเจ้าที่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยานิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ เมื่อวันที่ 9 พฤษภาคม 2538 โดยมีพระเดชพระคุณพระสุนทรราชมานิตเถร เจ้าอาวาสวัดในวัง (พระอารามหลวง ในพระราชูปถัมภ์) เจ้าคณะ อ.นนทวี เป็นพระอุปัชฌาย์ พระครูวิธานธรรมรัตน์ เจ้าคณะตำบลนาทวี วัดในวังเป็นพระกรรมวาจาจารย์ พระครูพิพัฒกิตติสุนทร เจ้าคณะตำบลคลองทราย วัดลำขิง เป็นพระอนุสาวนาจารย์ พระครูประสูติโสภณ (อั้น คุณกาโม) วัดในวัง อายุ 98 พรรษา เป็นพระศีลาจารย์ พระธรรมกิจโกศล (นอง ธัมมภูโต) วัดทรายขาว จ.ปัตตานี เป็นพระอาจารย์สอนกรรมฐาน ได้รับฉายาว่าฐิตวิริโย แปลว่า ผู้มีความเพียรอันตั้งมั่น

    ฝึกเรียนวิชาอาคม ในด้านวิชาอาคม พ่อท่านนองบอกว่า การเล่นวิชาอาคมมั้นใจต้องนิ่ง และหนักแน่น เพราะถ้าใจเป็นสมาธิ จะทำให้การเรียนก้าวหน้าและสำเร็จดังใจหวัง ถ้าหากใจไม่มีสมาธิย่อมไม่ับังเกิดความเข้มขลัง ก่อนเรียนคาถาอาคม ให้จัดดอกไม้ ธูปเทียน ไปกล่าวขอขึ้นครูกับพระประธานในอุโบสถก่อน เป็นสิ่งที่เป็นอนัตตา คือไม่มีตัวตน เป็นเีพียงศาสตร์แขนงหนึ่งเท่านั้นเอง ท่านให้จัดพานครูแล้วก็ให้ห่มผ้า ไปนั่งสมาธิในอุโบสถ จุดเทียนธูปบูชาพระรัตนตรัยและเป็นการบูชาครูบาอาจารย์ ให้ตั้งสัจจะอธิฐานว่า ข้าพเจ้าจะขอศึกษาสรรพวิชาต่างๆ นี้จากตำราโบราณและโอษฐ์ของครูบาอาจารย์ พร้อมกล่าวต่อไปว่า ขอเดชะสิ่งศักดิ์สิทธ์ ด้วยดวงจิตและวิญญาณอันบริสุทธิ์ของข้าพเจ้า ข้าพเข้าชื่อ...........ขอระลึกถึงเหล่าพราหมณ์และฤษีทั้งหลายทั้งปวงผู้รู้เวทย์มนต์ทั้งสิ้น และขอให้พราหมณ์ และเหล่าฤษีทั้งหลายเหล่านั้น ได้เป็นสักขีที่ข้าพเจ้าจะได้ศึกษาพระเวทย์มนตราจากตำราและจากครูบาอาจารย์ ขอทุกๆท่านได้โปรดมาอำนวยพรเพื่อเสริมบารมีให้ข้าพเจ้าดุจประหนึ่งว่า พระอาทิตย์ผู้ให้แสงสว่างในเวลากลางวัน พระจันทร์ผู้ให้แสงสว่างในเวลากลางคืน แต่ด้วยอำนาจฤทธิ์เวทมนต์ของข้าพเจ้าขอให้ข้าพเจ้าจงมีอิทธิฤทธิ์ทั้งกลางวันกลางคืน ขอได้โปรดจงเกื้อหนุนด้วยชะตาของข้าพเจ้า หากข้าพเจ้าจะกระทำกิจการงานใดจงสำเร็จสมประสงค์ ด้วยเดชและอำนาจของท่าน จงทำให้คำอธิษฐานของข้าพเจ้าสัมฤทธิ์ผล บังเกิดสิริมงคลในกิจที่ทำ โอมสิทธิริ เอหิ เอหิ อาคัจฉามะ

    อนึ่งหลวงปู่อั้นนั้น เป็นที่นับถือของพ่อท่านนอง วัดทรายขาวเป็นอย่างยิ่ง เพราะเป็นสหธรรมิกกับพระอาจารย์ทิม วัดช้างให้ อ.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานี และได้ร่วมกันสร้างพระหลวงปู่ทวดเนื้อว่านรุ่นแรก ปี 2497 ด้วย อนึ่ง อ.นาทวี จ.สงขลา และอ.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานีห่างกันเีพียงแค่ 60 กิโลเมตร การสัญจรไปมาสะดวกสบายใช้เวลาเดินทางแค่ประมาณ 1 ชั่วโมงก็ถึง เมื่อหลวงปู่อั้นได้ฝากตัวอาจารย์ไปศึกษาวิทยาคมต่างๆ กับพ่อท่านนอง พ่อท่านนองจึงไม่ขัดข้อง และยอมสอนวิชาให้แต่โดยง่าย ปกติพ่อท่านนองจะไม่รับใครเป็นศิษย์ แต่ด้วยความเคารพและความเกรงใจหลวงปู่อั้น พระอาจารย์จึงถือว่าโชคดีที่ได้ฝึกกรรมฐานและวิชาอาคมต่างๆ จากท่าน วิชาที่โดดเด่นที่สุดคือวิชา สาลิกาเหินฟ้า สุดยอดเมตตามหานิยมอันลือลั่น ที่พระอาจารย์นำมาสงเคราะห์ญาติโยม พร้อมด้วยวิชาแก้กรรมพลิกดวงเสริมบารมี ตามตำราของพระภิกษุลึกลับในป่าผู้เป็นอาจารย์

    ของศักดิ์สิทธิ์ประจำตัว เนื่องด้วยพระอาจารย์นั้นปฏิบัติธรรมมาตั้งแต่เด็กจึงทำให้พบปะกับพระเกจิเถราจารย์ต่างๆ มากมาย รวมทั้งครูบาอาจารย์คฤหัสถ์จอมขมังเวทย์ทั้งหลาย ต่างก็มอบของวิเศษ ของศักดิ์สิทธิ์ให้ไว้คู่บารมีดังนี้

    [​IMG]
    1.ประคำเหล็กไหล
    2.ขวานฟ้าผ่า
    3.งากำจัด
    4.นาคบ่วงบาศ
    5.เขี้ยวหมูตัน
    6.เขี้ยวเสือ
    7.คตมะขาม
    8.คตขมิ้น
    9.คตสัมป่อย
    10.หงอนพญานาค
    11.เพขรพญานาค
    12.เก้ากวาง
    13.ไม้ไผ่ตันแทงทลุต้นไม้
    14.กะลาตาเดียว
    15.ปรอทกรอ
    16.ชานหมากกลายเป็นหิน
    17.ลูกอมเทวดา
    18.หินธิเยตแกะเป็นท้าวเวสสุวรรณ อายุกว่า 1,000 ปี
    เส้นพระเจ้า

    (ปัจจุบันประอาจารย์โตยังคงเก็บรักษาของวิเศษเหล่านี้ไว้อย่างดี)
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 111.jpeg
      111.jpeg
      ขนาดไฟล์:
      86.9 KB
      เปิดดู:
      8,208
    • 221.jpg
      221.jpg
      ขนาดไฟล์:
      66 KB
      เปิดดู:
      6,825
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 11 พฤษภาคม 2014
  3. kyetip

    kyetip เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 ตุลาคม 2012
    โพสต์:
    5,367
    ค่าพลัง:
    +855
    พญาครุฑมหาราช
    วัดพระบาทปางแฟน ต.ป่าเมี่ยง อ.ดอยสะเก็ด จ.เชียงใหม่

    พญาครุฑวัดพระบาทปางแฟน มวลสารจากขวานฟ้าผ่า แร่เหล็กไหลเขาอึมครึม นำมาหลอมทำเป็น พญาครุฑ อานุภาพในการป้องกันภูติผี วิญญาณ
    เสนียด เป็นเลิศ จิกงาน จิกเงิน ปลุกเสกโดย พระอาจารย์โต หลวงปู่แขก หลวงปู่คำบุ หลวงพ่อสมชาย เจ้าคุณธงชัย หลวงพ่อรักษ์ หลวงพ่อจำเนียร ฯลฯ
    เหมาะสำหรับ ประชาชนทั่วไป ข้าราชการ ไว้ป้องกันตัว แก้อาถรรพ์ ต่างๆ เสริมบารมี รับทรัพย์ ครับ

    [​IMG]

    พลังอำนาจของครุฑผู้เป็นเจ้าแห่งฟากฟ้า เป็นพลังอำนาจที่ยิ่งใหญ่อันเป็นตัวแทนของพลังที่เหนือดินและน้ำ
    ฉะนั้นบ้านหรือร้านค้า บริษัทติดทางสามแพร่ง ปลูกทับบ่อ ทับตอไม้เก่า เจ้าที่แรง
    ทำให้มีปัญหาทะเลาะกันเป็นประจำ เงินทองไม่เข้าบ้าน เข้ามาก็ออกจนหมดไม่เหลือเก็บ
    ที่เป็นวัดร้างเก่า ติดป่าช้า ติดโรงพยาบาล ติดเรือนจำ ติดห้องขัง ติดสุสาน ทางน้ำแทง อยู่ที่อับโชคติดสะพาน
    ซื้อรถมือสองที่เคยมีอุบัติเหตุมีคนเจ็บคนตายมาแล้วโดยที่ไม่รู้ มีเลขทะเบียนรถ สีรถชงกับคนขับ ขับอยู่ดีๆ โดนเบียดโดนชน

    หากนำครุฑมาบูชาจะรู้ว่าอำนาจครุฑนั้นมีจริง เพราะครุฑนั้นเป็นเครื่องรางที่ช่วย จับ จิก ตี จับดวงวิญญานร้าย
    และสัมภเวสีที่ให้โทษกับมนุษย์กิน ถึงแม้ครุฑจะเป็นพาหนะของพระนารายณ์ และเป็นศัตรูกับนาคซึ่งเป็นบริวารของอนันตนาคราช และ
    คอยจับนาคกิน แต่เมื่อ พระพุทธเจ้าได้แสดงมหาสมัยสูตร ครุฑกับนาคจึงได้เป็นมิตรต่อกันด้วยอำนาจพุทธบารมี

    [​IMG]
    และพระนารายณ์ได้ขออนุญาตท้าวเวสสุวรรณ ให้ครุฑจับสัมภเวสี และวิญญานร้ายที่คอยเบียดเบียนมนุษย์กินเป็นอาหารได้
    ยิ่งไปกว่านั้นอำนาจครุฑจะกางปีกพัดพาความวิบากขัดสน ความขัดแย้ง ปัญหาความวิบัติขัดแย้ง
    ที่เกิดจากวิญญานร้ายทั้งหลายก็จะหมดไป ร้านค้าใดที่กิจการซบเซา ครอบครัวใดมีแต่ปัญหาทะเลาะกันประจำ
    ทำงานราชการมาไม่เคยได้รับความชอบธรรมหรืออยากเลื่อนยศเลื่อนตำแหน่งให้บูชาครุฑนี้ แล้วจะสำเร็จในสิ่งที่ปรารถนา

    หากต้องการทำน้ำมนต์เพื่อปัดเป่าเสนียดจัญไร ออกไปจากตัว หรือแก้อุบาทว์อันเกิดจากการต้องธรณีสารต่างๆ
    ให้นำองค์เทียนหนัก 2 บาท 1 เล่ม เงิน 12 บาท ท่องคาถา 7 จบ นำน้ำมนต์ไปรดรอบบ้าน หรืออาบน้ำก็ได้
    หรือผู้ที่จะเสี่ยงโชคก็ทำน้ำมนต์เช่นนี้อาบก่อนก็ได้เช่นกัน พลังของครุฑมหาราช จะทำสิ่งที่เป็นอวมงคลทั้งหลายให้ดีขึ้น กลายเป็นมงคลตามความปรารถนา

    อนึ่งถ้าจะกันโจรผู้ร้ายมิให้ทำอันตรายแก่เรา ให้นำทรายมาแล้วเอาน้ำมนต์นี้ประพรมบนทรายนั้น แล้วเอาหว่านโปรยรอบบ้าน อฐิษฐานขอบารมี พระพุทธคุณ พระธรรมคุณ พระสังฆคุณ บารมีพญาครุฑ บารมีหลวงปู่พระพิราพจงมา
    ช่วยกันคุ้มครองป้องกัน ทั้งคนและผีที่มาคิดร้าย หากเหยียบผ่านทรายเข้ามา ขอให้มีอันเป็นไปต่างๆนานา ไม่สามารถทำร้ายเราได้

    วัตถุมงคลรุ่นนี้ ตกอยู่กับผู้ใดผู้นั้นจะเจริญในลาภยศมิรู้ขาด ถึงจะมีอุปสรรคอันตราย เคราะห์กรรมรบกวนสักเท่าไรก็ดี ก็สามารถที่จะฝ่าฟันไปได้มิยากเลย คุ้มครองป้องกันเสนียดจัญไรสารพัด นำติดตัวไปในทุกทิศ ศัตรูพ่ายแพ้ไปสิ้น เป็นที่รักของมหาชน ทรงอานุภาพเหลือคณานับ ประสิทธิทุกประการตามแต่จะใช้เถิด

    คาถาบูชาพญาครุฑ

    จะ อะ ภะ คะ กะ ยะ พะ ตัง
    วะโมทุ ทันตานัง พญาครุฑ
    คะรุทานัง นะระปูชิโต
    โสระโร ปัจจะจายะ
    ทิมหิ มหาลาภัง ภะวันตุเมฯ

    ข้าพเจ้าขออำนาจบารมีของพญาครุฑ จงคุ้มครองรักษาเคหะสถานบ้านเรือน ทรัพย์สินเงินทอง ยวดยานพาหนะ ตำแหน่งหน้าที่การงาน พร้อมวิถีชีวิตของข้าพเจ้า จงบังเกิดมีแต่ความสุขสวัสดี ศัตรูผู้คิดร้ายขอเร่งพินาศ โรคภัยอุบาวห์ ภูตผี
    ปีศาจ และเคราะห์ร้ายอย่าได้มารบกวน ขอให้ข้าพเจ้าจงมีแต่ความเจริญด้วยอนุภาพแห่งพระรัตนตรัยและเดชานุภาพของ
    พญาครุฑ จงบันดาลให้ข้าพเจ้าปรารถนาสิ่งใด ให้สำเร็จผล เจริญด้วยเกียรติยศ มีอายุยืน สุขสดชื่นสมหวังดังปรารถนาเทอญ


    มีอยุ่ 3 องค์ ครับ ท่านผู้สนใจ จองได้บนบอร์ด เลยครับ

     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 11 กุมภาพันธ์ 2015
  4. kyetip

    kyetip เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 ตุลาคม 2012
    โพสต์:
    5,367
    ค่าพลัง:
    +855
    รายการที่ 75

    พระพรหมธาดา เนื้อสัตตโลหะ ผสมขวานฟ้าผ่า กายสิทธิ์ รุ่นพรหมประสิทธิ พระอาจารย์โต วัดพระบาทปางแฟน

    "พระครูปลัดกฤต ฐิตวิริโย" (พระอาจารย์โต) เจ้าอาวาสวัดพระบาทปางแฟน อ.ดอยสะเก็ด จ.เชียง ใหม่ จัดสร้างวัตถุมงคลท้าวมหาพรหมธาดา รุ่นพรหมประสิทธิ กำหนดจัดสร้างในฤกษ์เสาร์ 5 ตรงกับวันที่ 28 ม.ค.2555 มี พล.อ.ชัยพัฒน์ ธีรธำรง ผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษ กองทัพบก ในฐานะประธานจัดสร้าง และนายกร ทัพพะรังสี อดีต รองนายกรัฐมนตรี เป็นที่ปรึกษา และ พ.อ.สายัณห์ เมืองศรี ผู้บังคับการกรมรบพิเศษที่ 5 อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ ในฐานะที่ปรึกษาจัดสร้าง ร่วมกับคณะศรัทธาประชาชนทั่วประเทศ เข้าร่วมพิธี

    การจัดสร้างวัตถุมงคลดังกล่าว ได้รับเมตตาจากหลวงปู่ซา คำแดง พระเกจิจากประเทศกัมพูชา เป็น ผู้จารแผ่นยันต์และอธิษฐานจิต ชนวนมงคล พร้อมอธิษฐานจิตขอบารมีองค์ท้าวมหาพรหมธาดา รุ่นพรหมประสิทธิ

    นอกจากนี้ ยังมีพระเกจิอาจารย์ชื่อดัง เดินทางร่วมประกอบอธิษฐานจิตปลุกเสก อาทิ หลวงพ่อสมชาย พุทธสโร วัดโพรงอากาศ อ.บางน้ำเปรี้ยว จ.ฉะเชิงเทรา, หลวงพ่อจำเนียร สีลเสฏโฐ วัดถ้ำเสือ จ.กระบี่, หลวงปู่แขก ปภาโส อ.บางระกำ จ.พิษณุโลก, หลวงพ่อรักษ์ อนาลโย วัดสุทธาวาส จ.พระนครศรีอยุธยา และพระเกจิอาจารย์ทั่วประเทศ บริกรรม คาถา เมื่อวันที่ 28 ม.ค.2555

    วัตถุประสงค์ในการจัดสร้าง เป็นทุนในการบูรณะอุโบสถวัดพระบาทปางแฟน อ.ดอยสะเก็ด จ.เชียงใหม่ ให้เป็น สถานที่ปฏิบัติธรรมของพระสงฆ์ ผู้จัดสร้างคือกองทุน บารมีสมเด็จองค์ปฐม วัดพระบาทปางแฟน

    ชาวไทยจำนวนไม่น้อย ให้ความเลื่อมใสศรัทธาองค์ พระพรหม ด้วยมีความเชื่อว่า องค์พระพรหม สามารถบันดาลความเจริญรุ่งเรือง ความสำเร็จ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการงาน สติปัญญา เมตตา โชคลาภ แคล้วคลาดปลอดภัย

    ส่วนวัตถุมงคลท้าวมหาพรหมธาดา รุ่นพรหมประสิทธิ ประกอบด้วย รูปหล่อองค์ท้าวมหาพรหม ใต้ฐานฝังแร่เขา อึมครึม ขนาด 12 นิ้ว ฐาน 21 นิ้ว เนื้อโลหะเพนต์สี, องค์ท้าวมหาพรหมธาดา ใต้ฐานฝังแร่ ขนาด 7 นิ้ว ฐาน 12 นิ้ว เนื้อโลหะเพนต์สี, เหรียญองค์ท้าวมหาพรหมธาดา เนื้อโลหะฤทธิ์ ชนวนมงคลนำฤกษ์, พญาครุฑจิตสุบรรณ รุ่นมหาราช มีเนื้อชนวนขวานฟ้าผ่าและสายล่อฟ้า เนื้อเหล็กไหลเขาอึมครึม, รูปหล่อท้าวเทพสุวรรณ เนื้อทองระฆัง โบราณ, กุมารทองเก้าโกฏิ เนื้อผงอาถรรพ์นครวัด, พระราหู เนื้อแร่เหล็กไหล และแหวนพญาครุฑจิตสุบรรณ มีเนื้อเงินบรรจุมวลสารศักดิ์สิทธิ์ และเนื้อทองระฆัง
    เหรียญท้าวมหาพรหม เนื้อสัตโลหะ ชนวนนำฤกษ์ ผสมขวานฟ้าผ่ากายสิทธิ์

    สร้างครั้งแรกและครั้งเดียว ตาม ตำราโลหธาตุกายสิทธิ์ เสกกำกับ ด้วยพุทธาคมทรงไว้ซึ่งความศักดิ์สิทธิ์

    อ้างอิง ข้อมูล

    http://www.khaosod.co.th/view_news.php?newsid=TUROaWRXUXdPREUyTURFMU53PT0=


    [​IMG]


    [​IMG]
    บูชา 750 บาทพร้อมส่ง ems
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 14 พฤษภาคม 2014
  5. kyetip

    kyetip เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 ตุลาคม 2012
    โพสต์:
    5,367
    ค่าพลัง:
    +855

    ท่านท้าวเวสสุวรรณ

    ท้าวเวสสุวรรณหรือท้าวกุเวรเป็นเทพหรือยักษ์ที่ปรากฏอยู่ทั้งในศาสนาพุทธและพราหมณ์และมี
    บูชาท้าวเวสสุวรรณอย่างไรให้เฮงผู้นิยมกราบไหว้กันมาก ตามคติความเชื่อทางศาสนาพุทธกล่าวไว้ในพระสูตรที่ชื่อว่า “อาฏานาฏิยะ”ว่า ท้าวกุเวรเป็นหนึ่งในท้าวจตุมหาราชผู้ครองสวรรค์ชั้น จตุมหาราชิกา (สวรรค์กามาวจร ชั้นที่ 1)

    [​IMG]
    ท้าวกุเวร หรือ ท้าวเวสสุวรรณนั้นยังมีชื่ออีกหลายชื่อ เช่น ธนบดี หมายถึง “ผู้เป็นใหญ่ในทรัพย์ ธเนศวร” หมายถึง ผู้เป็นเจ้าแห่งทรัพย์ ชื่ออื่นๆคือ “อิจฉาวสุ” หมายถึง “ความมั่งมีได้ตามใจ” ชื่อ ยักษ์ราชอันหมายถึง “เจ้าแห่งยักษ์” หรือชื่อมยุราช หมายถึง “เป็นเจ้าแห่งกินนร” ชื่อรากษเสนทร์ หมายถึง “ผู้เป็นใหญ่ในพวกรากษส” ส่วนในวรรณคดีเรื่องรามเกียรติ์เรียกท้าวเวสสุวรรณว่า “ท้าวกุเรปัน” เป็นต้น

    ในทางพระพุทธศาสนา ได้กล่าวถึงอดีตชาติของท้าวกุเวร เอาไว้ใน พระสุตตันตปิฎก ทีฆนิกาย ปาฏิกวรรค เล่ม 3 ภาค 2 หน้าที่ 151 ว่า ในสมัยที่โลกยังว่างจากพระพุทธศาสนาไม่มีพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเสด็จอุบัติขึ้นในโลกนั้น มีพราหมณ์ผู้หนึ่งนามว่า “กุเวร” เป็นคนใจดีมีเมตตากรุณา ประกอบอาชีพสุจริต ด้วยการทำไร่อ้อยแล้วนำต้นอ้อยมาตัดใส่ลงไปในหีบยนต์เพื่อบีบน้ำอ้อยขายเลี้ยงชีวิต

    ต่อมากิจการได้เจริญขึ้นจนเป็นเจ้าของหีบยนต์สำหรับบีบน้ำอ้อยถึง 7 เครื่อง จึงสร้างที่พักสำหรับ คนเดินทางและได้บริจาคน้ำอ้อยจากหีบยนต์เครื่องหนึ่งซึ่งมีปริมาณน้ำอ้อยมากกว่าหีบยนต์เครื่องอื่น ๆ ให้เป็นทานแก่คนเดินผ่านไปมาจนตลอดอายุขัย

    ด้วยอำนาจแห่งบุญกุศลที่บริจาคน้ำอ้อยให้เป็นทานนั้นทำให้หนุ่มกุเวรผู้นี้ได้ไปเกิดเป็นเทพบุตร บนสวรรค์ชั้นจาตุมหาราชิกา มีนามว่า “กุเวรเทพบุตร” ต่อมากุเวรเทพบุตรได้รับการเทวาภิเษก (ขึ้นครองราชย์)เป็นผู้ปกครองดูแลพระนครสวรรค์ชั้นที่ 1ด้านทิศเหนือจึงได้มีพระนามว่า “ท้าวเวสสุวรรณ”

    ตามหลักฐานในคัมภีร์ทางพุทธศาสนายืนยันว่า “ท้าวเวสสุวรรณ” ผู้ซึ่งเป็นเทวราชพระองค์นี้ได้สำเร็จเป็นพระอริยบุคคลชั้นโสดาบันเมื่อครั้งที่ “จุลสุภัททะปริพาชก” เกิดความสงสัยในความเป็นมาแห่ง องค์พระพุทธเจ้า ท่าน “ท้าวเวสสุวรรณ” องค์นี้เอง ที่ได้เสด็จไปร่วมต้อนรับด้วย และ ยังเป็นประจักษ์พยาน เรื่องพระมหาโมคคัลลานะ ใช้เท้าจิกพื้นไพชยนตวิมานของพระอินทร์ จนเกิดการสั่นสะเทือนไปทั้งสวรรค์ชั้นดาวดึงส์สวรรค์ชั้นที่สองอันเป็นการเตือนสติพระอินทร์อีกด้วย และก็มีความเชื่อในฤทธานุภาพอันทรงฤทธิ์ของท่านตาม ฎีกามาลัยเทวสูตร พระสุตตันตปิฎก สังยุตตนิกาย สคาถวรรค เล่ม 1 ภาค 2 – หน้าที่ 435 ว่า



    “คฑาวุธ ของท้าวเวสสุวรรณนั้นเป็นยอดแห่งศาสตราวุธที่มีอานุภาพสามารถทำลายโลกใบนี้ให้เป็นจุณได้ในพริบตา”

    จากคติความเชื่อทางพระพุทธศาสนา จะเห็นได้ว่า ท้าวกุเวรหรือท้าวเวสสุวรรณนั้นท่านเป็นเทพที่สำคัญยิ่งใหญ่พระองค์หนึ่งที่มีหน้าที่ “คอยพิทักษ์รักษาพระพุทธศาสนา” ไม่ยิ่งหย่อนไปกว่าท่านท้าวสักกะเทวราชเลย

    ตามวัดวาอารามต่าง ๆนั้นจะมีรูปปั้นยักษ์ 1 ตน หรือ 2 ตนบ้าง คอยยืนถือกระบองค้ำพื้น ส่วนมากจะมี 2 ตน เฝ้าอยู่หน้าประตูโบสถ์ หรือ วิหารที่เก็บของมีค่ามีพระพุทธรูป และโบราณสมบัติล้ำค่าของทางวัดบรรจุอยู่ด้านละ 1 ตนหรือไม่ก็ปรากฏอยู่ในบริเวณลานวัดหรือที่ที่มีคนผ่านไปมาแล้วเห็นโดยง่ายนั่นหมายถึงท้าวเวสสุวรรณนั่นเอง



    เคล็ดการบูชาท้าวเวสสุวรรณ

    จุดสักการะธูป 9 ดอก และถวายดอกกุหลาบ 9 ดอก แล้วตั้งนะโม 3 จบ ระลึกถึงคุณบิดา มารดา และครูบาอาจารย์ ทั้งหลาย ที่ประสิทธิประสาทวิชามาแล้วระลึกถึง พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ แล้วท่องคาถาท้าวเวสสุวรรณดังนี้

    “อิติปิ โส ภะคะวา ยมมะราชาโน ท้าวเวสสุวรรณโณ มะระณัง สุขัง อะหัง สุคะโต นะโม พุทธายะ ท้าวเวสสุวรรณโณ จาตุมะหาราชิกา ยักขะพันตาภัทภูริโต เวสสะ พุสะ พุทธัง อะระหัง พุทโธ ท้าวเวสสุวรรณโณ นะโม พุทธายะ”

    การจะบูชาให้ได้ผลอย่างแท้จริงต้องนำเอาหลักความดีของท่านมาน้อมนำปฏิบัติด้วยคือ ต้องดำรงตนให้เป็นผู้มีศรัทธาในพระพุทธศาสนาคอยปกป้องพระพุทธศาสนาไม่ให้เสื่อมจากคนไม่ดีตลอดจนต้องหาเลี้ยงชีพด้วยความสุจริต หมั่นบริจาคทานเพื่อเป็นกุศลแก่ทั้งตัวเองและเพื่อประโยชน์สุขของผู้อื่นอยู่ตลอดเวลา ผู้ที่ได้ทั้งบูชาด้วยการไหว้และนำคุณธรรมของท่านไปปฏิบัติด้วยจะส่งผลให้เจริญก้าวหน้าและร่ำรวยมีความสุขอย่างแน่นอน
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 11 พฤษภาคม 2014
  6. kyetip

    kyetip เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 ตุลาคม 2012
    โพสต์:
    5,367
    ค่าพลัง:
    +855
    รายการที่ 76

    ท้าว เวสสุวรรณ เสริมทรัพย์ รุ่น 1 เนื้อทองระฆัง พระอาจารย์โต วัดพระพุทธบาทปางแฟน

    การจัดสร้างวัตถุมงคลดังกล่าว ได้รับเมตตาจากหลวงปู่ซา คำแดง พระเกจิจากประเทศกัมพูชา เป็น ผู้จารแผ่นยันต์และอธิษฐานจิต ชนวนมงคล พร้อมอธิษฐานจิตขอบารมีองค์ท้าวมหาพรหมธาดา รุ่นพรหมประสิทธิ

    นอกจากนี้ ยังมีพระเกจิอาจารย์ชื่อดัง เดินทางร่วมประกอบอธิษฐานจิตปลุกเสก อาทิ หลวงพ่อสมชาย พุทธสโร วัดโพรงอากาศ อ.บางน้ำเปรี้ยว จ.ฉะเชิงเทรา, หลวงพ่อจำเนียร สีลเสฏโฐ วัดถ้ำเสือ จ.กระบี่, หลวงปู่แขก ปภาโส อ.บางระกำ จ.พิษณุโลก, หลวงพ่อรักษ์ อนาลโย วัดสุทธาวาส จ.พระนครศรีอยุธยา และพระเกจิอาจารย์ทั่วประเทศ บริกรรม คาถา เมื่อวันที่ 28 ม.ค.2555


    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]



    บูชา 650 บาทพร้อมส่ง ems
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • DSC00246.JPG
      DSC00246.JPG
      ขนาดไฟล์:
      99.3 KB
      เปิดดู:
      3,204
    • DSC00250.JPG
      DSC00250.JPG
      ขนาดไฟล์:
      93.3 KB
      เปิดดู:
      116
    • DSC00251.JPG
      DSC00251.JPG
      ขนาดไฟล์:
      80.9 KB
      เปิดดู:
      144
    • DSC00253.JPG
      DSC00253.JPG
      ขนาดไฟล์:
      98.7 KB
      เปิดดู:
      135
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 14 พฤษภาคม 2014
  7. kyetip

    kyetip เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 ตุลาคม 2012
    โพสต์:
    5,367
    ค่าพลัง:
    +855
    รายการที่ 77

    พระพิฆเนศนั่งสังข์ เนื้อผงว่าน ฝังตะกรุดเงิน หลัง พระเศรษฐีนวโกฐิ
    พระอาจารย์โต วัดพระบาทปางแฟน

    [​IMG]
    บูชา 390 บาทพร้อมส่ง ems
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • DSC00255.JPG
      DSC00255.JPG
      ขนาดไฟล์:
      84.4 KB
      เปิดดู:
      133
    • DSC00256.JPG
      DSC00256.JPG
      ขนาดไฟล์:
      75.4 KB
      เปิดดู:
      4,444
    • DSC00258.JPG
      DSC00258.JPG
      ขนาดไฟล์:
      81.8 KB
      เปิดดู:
      142
    • DSC00259.JPG
      DSC00259.JPG
      ขนาดไฟล์:
      73.3 KB
      เปิดดู:
      134
  8. อาณัติ

    อาณัติ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 เมษายน 2006
    โพสต์:
    6,074
    ค่าพลัง:
    +22,254
    รายการที่ 69พระผงหลวงปู่มั่น
    มวลสารพระผงรุ่น “หลวงปู่มั่นค้ำดวง สร้างหอธรรมธาตุ"
    ๑๐ อังคารธาตุ ๗ โลหิตธาตุ
    บูชา 370 บาทพร้อมส่ง ems

    จององค์นี้ครับ...............................
     
  9. kyetip

    kyetip เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 ตุลาคม 2012
    โพสต์:
    5,367
    ค่าพลัง:
    +855
    รับทราบการจองครับ :cool:
     
  10. kyetip

    kyetip เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 ตุลาคม 2012
    โพสต์:
    5,367
    ค่าพลัง:
    +855
    ดาบสรีกัญไชยน้อย หลวงปู่ครูบาดวงดี วัดบ้านฟ่อน เชียงใหม่

    สร้างน้อยมากๆๆๆครับ อีก หน่อย แพง ตาม หลวงปุ่ ครูบาอิน แน่นนอครับ
    หลวงปู่ครูบาเจ้าดวงดี ยติโก วัดบ้านฟ่อน อ.หางดง จ.เชียงใหม่ (อายุ 98 ปี) ซึ่งโดยส่วนตัวชื่นชมท่านอย่างยิ่งว่า เหมือนกับเอาตบะเดชะอำนาจอันยิ่งของครูบาอิน วัดฟ้าหลั่งกับความเยือกเย็นสงบสันติของครูบาบุญปั๋น วัดร้องขุ้มมารวมเป็นหนึ่งเดียวกัน(ครบเครื่องทั้งบู๊และบุ๋นในหนึ่งเดียว)

    "พระครูบาสายเหนือซึ่งยังมีชีวิตอยู่ และมีพลังจิตที่เย็น ใกล้เคียงกับครูบาเจ้าบุญปั๋น วัดร้องขุ้ม(ซึ่งเป็นพระอรหันต์เจ้าผู้ขึ้นชื่อลือชาในความเย็นยะเยียบจับจิตจับใจที่สุดองค์หนึ่งแห่งยุค)มากที่สุด ก็เห็นจะมีแต่ครูบาดวงดี วัดบ้านฟ่อนนี่แหละ...!!!!!!!!!"

    ครูบาเจ้าเทือง นาถสีโล วัดเด่นสะหลีศรีเมืองแกน แม่แตง เชียงใหม่

    "ครูบาดวงดี วัดบ้านฟ่อนนี้ ท่านเก่งจริง และยังเปิดคือแสดงให้ดู(โดยตาใน)ได้ด้วย ตอนนั้นเคยเอานรสิงห์แบบพม่าไปให้ท่านเสก ครูบาดวงดีท่านเสกให้ปรากฏออกมาเป็นตัวเป็นตนได้เลย ในขณะที่พระองค์อื่นๆบางองค์ท่านปิด หากใช้ตาในไปส่องดูท่านทำท่านเสก อาจจะโดนดี โดนอัดโดยกระแทก(ด้วยจิต)ออกมาให้ถึงกับเดี้ยง ถึงกับเสียศูนย์ หาทางกลับบ้านไม่ถูกเลยก็ได้..!!!!!!!!"

    นักเล่นของสายล้านนา

    หมายเหตุพิเศษ , ในคราวเดียวกันนี้ ได้มี"คนตาดี"ซึ่งเป็นนักปฏิบัติธรรมสายหลวงพ่อชา วัดหนองป่าพงและศิษย์พระอาจารย์อิฏฐ์ วัดจุฬามณีจากจ.นครปฐมติดตามไปด้วย พบว่า
    "ครูบาดวงดี วัดบ้านฟ่อนเก่งมากๆ ได้ทั้งจิตและวิชชาครบถ้วน อำนาจจิตแรงกล้าสูสีกับครูบาอิน วัดฟ้าหลั่งเลยทีเดียว โดยจิตครูบาอินจะหวือหวา ออกไปในทางอิทธิฤทธิ์มากกว่า แต่ครูบาดวงดี วัดบ้านฟ่อนจะเย็นกว่า(ถึงบอกแล้วว่า ครูบาบ้านฟ่อนเป็นการรวมคุณพิเศษของครูบาอินและครูบาบุญปั๋นที่ครูบาเทืองรับรองว่า"เย็นที่สุด ไม่มีใดเทียม"ไว้เป็นหนึ่งเดียวอย่างน่าชื่นชมที่สุด) ซึ่งป๊า(พระอาจารย์อิฏฐ์ วัดจุฬามณี สมุทรสงคราม)ยังยกย่องว่า พระเก่งสุดยอดในยุคนี้ ภาคใต้ก็ต้องเป็นหลวงปู่สุภา วัดสีลสุภาราม ภาคเหนือก็ต้องยกให้ครูบาดวงดี วัดบ้านฟ่อนนี่แหละ...!!!!!!"




    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]


    ขนาดยาวประมาณ 5 นิ้ว ครับ

     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 11 กุมภาพันธ์ 2015
  11. Little Dragon

    Little Dragon เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มีนาคม 2012
    โพสต์:
    3,185
    ค่าพลัง:
    +5,362
    13/05/57 เวลา 07.29 น. ได้โอนเงิน = 740.04 บาท แล้วครับ
     
  12. kyetip

    kyetip เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 ตุลาคม 2012
    โพสต์:
    5,367
    ค่าพลัง:
    +855
    ขอบคุณครับ
     
  13. kyetip

    kyetip เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 ตุลาคม 2012
    โพสต์:
    5,367
    ค่าพลัง:
    +855
    EL113932175TH ขอบคุณครับ:cool::cool:
     
  14. kyetip

    kyetip เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 ตุลาคม 2012
    โพสต์:
    5,367
    ค่าพลัง:
    +855
    15 - 05 - 57

    EL117120124TH น.พ. การุณ

    EL117120115TH คุณ บุญชัย


    ขอบคุณครับ
     
  15. kyetip

    kyetip เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 ตุลาคม 2012
    โพสต์:
    5,367
    ค่าพลัง:
    +855
    EL117120124TH ขอบคุณครับ :cool::cool:
     
  16. zero3

    zero3 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    112
    ค่าพลัง:
    +108
    ยังมีอีกมั้ยครับ

     
  17. kyetip

    kyetip เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 ตุลาคม 2012
    โพสต์:
    5,367
    ค่าพลัง:
    +855
    มีอีก ครับ:cool: จองได้บนบอร์ดเลยครับ :cool:
     
  18. kyetip

    kyetip เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 ตุลาคม 2012
    โพสต์:
    5,367
    ค่าพลัง:
    +855


    พระผงเกศา ว่าน 108 ครูบาผัด วัดศรีดอนมูล จ เชียงใหม่ ปี 2534 หายากครับ


    "ครูบาผัด ผุสสิตธัมโม" หรือ "พระครูพิศิษฏ์สังฆการ"อดีตเจ้าอาวาสวัดศรีดอนมูล อ.สารภี จ.เชียงใหม่ ได้มรณภาพอย่างสงบในวิหารวัดศรีดอนมูล เมื่อวันที่ 18 พฤศจิกายน 2550 สิริอายุ 82 ปี

    เมื่อวันที่ 10 มิถุนายน 2553 คณะศิษย์วัดศรีดอนมูลได้เข้าไปทำความสะอาดกุฏิหลังเก่าของครูบาผัด ได้พบพระผงครูบาผัดที่มีอายุเก่าแก่ เป็นรุ่นแรก เมื่อปี พ.ศ.2534 เก็บไว้ในตู้โดยไม่มีใครไปแตะต้อง ลักษณะของพระผงครูบาผัดดังกล่าวสร้างด้วยมวลสาร 108 ผสมเกศาครูบาผัด เป็นพระผงผสมมวลสารสีขาว ด้านหน้าพระผงเป็นรูปนูนต่ำครูบาผัดนั่งขัดสมาธิ มีหน้าตักกว้าง 2 เซนติเมตร ด้านล่างใต้รูปเหมือนที่ฐานเขียนคำว่า "ครูบาผัด" ด้านหลังพระผงมีอักษรคาถาล้านนา เขียนคำว่า "ก๋าทุง" และระบุชื่อ "วัดศรีดอนมูล อ.สารภี จ.เชียงใหม่ ๒๕๓๔"

    เมื่อครั้งที่ครูบาผัดเป็นเจ้าอาวาสวัดศรีดอนมูล มีลูกศิษย์ลูกหาจำนวนมากเดินทางเข้ากราบไหว้ครูบาผัดอย่างไม่ขาดสาย กระทั่งครูบาน้อย เตชปัญโญ ศิษย์เอกครูบาผัด เล็งเห็นว่ากุฏิครูบาผัดนั้นมีสภาพคับแคบ ไม่สะดวกในการต้อนรับแขก จึงมีแนวคิดจัดสร้างกุฏิหลังใหม่ถวายให้ครูบาผัด ก่อนเริ่มดำเนินการบอกบุญ

    การก่อสร้างกุฏิสงฆ์ล้านนาประชาชนได้ร่วมบริจาคทรัพย์สินเงินทองในการสร้างเป็นจำนวนมาก ครูบาผัดจึงได้สร้างพระผงวัตถุมงคลไว้มอบเป็นที่ระลึกกับสาธุชนที่ร่วมทำบุญ คือ "พระผงครูบาผัด 108 ผสมเกศา"

    พระผงรุ่นดังกล่าวประกอบพิธีในช่วงวันเกิดครูบาผัด คือ วันพฤหัสบดีที่ 12 มิถุนายน 2534 ฤกษ์เวลา 10.59 น. โดยมีพระเกจิชื่อดังเข้าร่วมพิธีจำนวน 56 รูป รวมทั้งครูบาผัดได้ประกอบพิธีปลุกเสกเองด้วย

    กล่าวกันว่า พระผงครูบาผัดรุ่นนี้มีพุทธคุณครอบจักรวาล ด้วยมีมวลสารครบ 108 และมีส่วนสำคัญของเกศาธาตุของครูบาผัด ถือว่าครบทุกด้าน

    ในอดีตนั้นพระผงครูบาผัดได้แจกจ่ายในช่วงปี พ.ศ.2534 หลังจากที่ปลุกเสกทำพิธีในวันเกิดครูบาผัด ด้วยความที่วัตถุมงคลนี้ล้วนแต่มีทั้งพระเกจิชื่อดังที่มีวิทยาคมเข้มขลังเข้าร่วมพิธี จึงกลายเป็นวัตถุมงคลยอดนิยมอีกชิ้นหนึ่งของเมืองเชียงใหม่ และได้รับความนิยมในพื้นที่มาโดยตลอด

    บูชา บาทพร้อมส่ง Ems
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • DSC00322.JPG
      DSC00322.JPG
      ขนาดไฟล์:
      75.2 KB
      เปิดดู:
      133
    • DSC00324.JPG
      DSC00324.JPG
      ขนาดไฟล์:
      78.5 KB
      เปิดดู:
      137
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 2 สิงหาคม 2015
  19. kyetip

    kyetip เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 ตุลาคม 2012
    โพสต์:
    5,367
    ค่าพลัง:
    +855
    รายการที่ 79


    พระยอดขุนพล ทาทอง ผสมว่านดอกทอง ครูบาดวงดี วัดบ้านฟ่อน
    องค์นี้ตะกรุดด้านหน้าหลุดครับ เปิดราคาเบา

    ปิดครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • DSC00350.JPG
      DSC00350.JPG
      ขนาดไฟล์:
      84.2 KB
      เปิดดู:
      113
    • DSC00352.JPG
      DSC00352.JPG
      ขนาดไฟล์:
      85.5 KB
      เปิดดู:
      131
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 11 กุมภาพันธ์ 2015
  20. kyetip

    kyetip เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 ตุลาคม 2012
    โพสต์:
    5,367
    ค่าพลัง:
    +855
    รายการที่ 80



    พระยอดธง รุ่นแรกพระอาจารย์เปลี่ยน ปัญญาปทีโป วัดอรัญญวิเวก. แม่แตง เชียงใหม่เนื้อทองแดง


    a"]บูชา 399 บาทพร้อมส่ง Ems[]


    ======== ปิดครับ =========
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • DSC00344.JPG
      DSC00344.JPG
      ขนาดไฟล์:
      75.3 KB
      เปิดดู:
      111
    • DSC00345.JPG
      DSC00345.JPG
      ขนาดไฟล์:
      74.9 KB
      เปิดดู:
      127
    • DSC00346.JPG
      DSC00346.JPG
      ขนาดไฟล์:
      62.7 KB
      เปิดดู:
      102
    • DSC00348.JPG
      DSC00348.JPG
      ขนาดไฟล์:
      64.8 KB
      เปิดดู:
      111
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 29 พฤษภาคม 2014
สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้

แชร์หน้านี้

Loading...