บันทึกของพระคุณลุงคนเชียงใหม่ถึงหลานๆ เรื่องภัยพิบัติ

ยาและเวชภัณฑ์ชุดใหม่เพิ่งมาถึงร้อนๆครับเดี๋ยวถ่ายมาลงให้ดูกันว่าอันนี้ไม่รวมที่ลี้อีกมากกว่า4เท่าครับ
แล้ววันประชุมผมมีของที่ระลึกแจกเป็นset kidยาฉุกเฉิน7อย่างแจกท่านละกล่องครับ ไว้เจอกันครับ

 

ขอยกมือสนับสนุน

ดิฉันเห็นด้วยกับความคิดของคุณ โดยขอเสนอดังนี้ ขอให้รัฐนำเงินภาษีของประชาชนมาลงทุน โดยให้ประชาชนผ่อนส่งในการซื้อแผ่นโซล่าเซลล์ ให้ติดทุกครัวเรือน เมื่อประชาชนไม่อยู่บ้านก็ขายไฟฟ้านั้นให้รัฐ อายุการใช้งาน 20 ปี คุ้มอยู่แล้ว แถมเป็นพลังงานสะอาดไม่ก่อมลพิษอีก ประเทศไทย โซล่าเซลล์ เหมาะสมที่สุด

 

รูปที่เกร่นไว้ครับ เดี๋ยววันศุกร์นี้มาอีกLot มโหราฬกว่านี้ครับ ว่าจะขนขึ้นลี้ต้นเม.ย.ต้องขนกลางคืนเพราะยาจะได้ไม่เสียครับ
พอเจอด่านก็ให้เขาตรวจให้ละเอียดยิบเลยแล้วก็หันมาค้อนใส่เราว่าให้ผมเหนื่อยทำไมครับ

 

ขอบคุณครับ.. คุณ Nirvana

ใช่แล้วครับ.. หลายรายการก็ไม่ได้ลดราคาเอาเสียเลย เทียบกับร้านภายนอกก็พอๆกัน..
ผมถึงว่า... " ขาดวัสดุอุปกรณ์อะไรก็ลองไปเช็คราคาเลือกหาดูกันครับ.. "

แต่.. ก็มีสินค้าราคาลดพิเศษ ที่ทาง Homepro ขอแต่ละบริษัทให้ช่วยจัดรายการลดราคาเป็นพิเศษ เพื่อดึงดูดลูกค้าให้เข้ามาร่วมงานของเขา..

ผมเชื่อว่า.. แต่ละท่าน ก่อนจะซื้ออะไร คิดแล้วคิดอีก..
คุ้ม..ไม่คุ้ม.. จดราคาเปรียบเทียบกันทุกท่านแหละครับ..!!!

งั้น.. ผมขอสรุปรวมรวบ งานแสดงสินค้าที่น่าสนใจ ( ในมุมมองผมนะครับ.. )

BIG & BIH 2013....
BANGKOK INTERNATIONAL GIFT FAIR, BANGKOK INTERNATIONAL HOUSEWARE FAIR (BIG+BIH APR 2013)
Public:22-23 April 2013 (10:00 - 21:00 hrs.)
จัดที่ BITEC วันเสาร์ที่ 22- วันอาทิตย์ที่ 23 เมษายน 56
รวมเหล่าของใช้ & ตกแต่งภายในบ้าน... ผมขอแนะนำอย่างยิ่ง และควรไปตั้งแต่ 10:00 น. วันเสาร์เลยครับ.. เพราะว่าสินค้าหลายๆร้านจะนำเอาของผลิตเกิน order ส่งออก ซึ่งมีจำนวนไม่มากมาขายให้ครับ..
รวมทั้งแต่ละโรงงานนำสินค้าของตน มาลดราคากันในราคาถู๊ก..ถูก..ด้วยครับ!!!

อ้างอิง : BIG+BIH APR 2013

งานสถาปนิก '56...
งานแสดงเทคโนโลยีทางด้านวัสดุ-อุปกรณ์ก่อสร้างและตกแต่ง
วันที่ 30 เมษายน - 5 พฤษภาคม 2556
เวลา 11.00-21.00 น.
ณ ชาเลนเจอร์ฮอลล์ 1-3 อิมแพ็ค เมืองทองธานี
ซึ่งจะมีวัสดุอุปกรณ์รวมทั้งเทคโนโลยีการก่อสร้างใหม่ๆมาแสดง..
รวมทั้งแต่ละบริษัท ยังจัดสินค้าลดราคาพิเศษให้ด้วยครับ..

ถ้ามีโอกาส..ว่างๆ.. ลองแวะไปชมงานดูสิครับ..
โดยเฉพาะงาน BIG & BIH ที่จะจัดทุก 6 เดือน..
น่าจะมีของถูกใจให้คุณได้เลือกซื้อกันจนขนกลับบ้านไม่ไหวเลยล่ะครับ..!!!

 

คูณพี่เด็กผู้ชายครับ ตอนนี้เศรษฐกิจแย่ ท่านเล่นแนะนำที่ไฮโซ แต่มันดีสำหรับคนที่ต้องการเทคโนโลยีที่ไว้ต้านภัยพิบัติเพราะที่อื่นๆมักจะไม่มีครับ คนส่วนใหญ่จะไปที่ร้าน ไทวัสดุ กันครับ ถูกดีแต่ต้องตาถึงพอควรนะครับ

 

555.... !!!
แหม.. ไม่ได้เป็นไฮโซ.. ไฮซ้อ..อะไรหรอกครับคุณหมอ... 555

Homepro... Homework... Do-Home... ไทวัสดุ... บุญถาวร... ผมไล่เก็บสแปร์มาหมดครบทุกที่เลยครับ..

ส่วนพวกงานแสดงเฉพาะกิจ.. งานสถาปนิกสยาม... งานBuiltTec... งานบ้านและสวนแฟร์... งานBIG&BIH... ตลอดเวลา 3 ปีที่ผ่านมา.. พวกงานแสดงเฉพาะกิจเหล่านี้ผมไปครบทุกงานเลยครับ

ไล่หา..ไล่เก็บข้อมูล..วัสดุอุปกรณ์ก่อสร้างรวมทั้งเทคโนโลยีใหม่ๆ เพื่อให้สามารถสร้างบ้านได้ตาม"เป้าหมาย" แต่คงไว้ซึ่ง"ราคา" ที่สมเหตุสมผลไม่แพงน่ะครับ..

เดี๋ยววันงาน meeting... ผมจะอธิบายรายละเอียดให้ฟังกันอีกทีนึงครับ. !!!

..........................................................................................

ขอต่อที่ติดไว้เรื่อง.. "การรักษาโรค แบบไม่ต้องไปหาหมอ..ไม่ต้องกินยา"..

555..... คุณหมอพรานและคุณหมอท่านอื่นๆอย่าพึ่งตกอกตกใจไปครับ.. เดียวเล่าให้ฟังครับ..

เมื่อเย็นวันนี้.. ตัวมิเตอร์วัดอุณหภูมิและความชื้นอากาศแบบ Digital ที่บ้านผม มันแสดงค่าติดๆดับๆ
อ๋อ !!.... เป็นเพราะว่าถ่านมันจะหมดนี่เอง 555!!!
พอเปลี่ยนเอาถ่านไฟฉาย AAA ก้อนใหม่ใส่ลงไป.. การทำงานทุกอย่างก็เป็นปกติครับ !!!

อุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าทุกอย่างในบ้านของเรา.. พอแรงดันไฟฟ้ามันตก
พวกอุปกรณ์เหล่านั้น.. มันก็ทำท่าจะรวน..จะไม่ยอมทำงานเอาเสียซะงั้น..???

เมื่อราว 10 ปีที่ผ่านมา.. ผมมีโอกาสได้เข้ารับการอบรมการรักษาโรค แบบไม่ได้ใช้ยารักษา... ซึ่งเปิดอบรมให้"ฟรี"ครับ..

แนวความคิดของการรักษาศาสตร์นี้ก็คือ.. จากเรื่องไฟตก..อุปกรณ์ไฟฟ้าก็รวน..นี่แหละครับ..
ในร่างกายของคนเราก็มีแหล่งจ่ายไฟฟ้าเช่นกันครับ..

ตามศาสตร์ที่ได้อบรมมานั้น.. กล่าวว่า
ร่างกายเรามีแหล่งจ่ายพลังงานไฟฟ้าทั้งหมด 7 แหล่งด้วยกัน โดยแต่ละแหล่งจะรับผิดชอบจ่ายไฟไปยังระบบต่างๆในร่างกายเรา.. ให้ทำงานได้อย่างปกติ

ดังนั้น.. การที่เราเจ็บไข้ได้ป่วย ก็เพราะว่าแหล่งจ่ายพลังงานไฟฟ้าในร่างการเราก็บกพร่องขึ้น.. หรือไฟตกนั่นเองครับ..!!!

วิธีการรักษาอาการเจ็บไข้ได้ป่วย ก็คือ.. การเติมพลังงานให้แหล่งจ่ายพลังงานไฟฟ้านั้นให้เต็ม เพี่อให้แหล่งจ่ายพลังงานนั้นสามารถจ่ายไฟฟ้าได้ตามสเปคที่ควรจะเป็นครับ..

ครับ.. ที่ผมเล่าให้ฟังนั้น ก็คือ... ศาสตร์เรื่อง"พลังจักรวาล" ครับ..!!!

ปล. : เดี๋ยวมาเล่าเรื่องนี้ และประสบการณ์ให้ฟังเพิ่มเติมครับ..

 

คุณเด็กผู้ชาย รอฟังอยู่นะคะ

 

ตอน... การรักษาโรคภัยไข้เจ็บ โดยไม่ต้องใช้ยารักษา (ต่อ)

สมัยตอนเด็กๆ.. ดูหนังจีนกำลังภายใน
เห็นจอมยุทธเขาเอาฝ่ามือมาแปะไว้ที่หลังจอมยุทธอีกคนนึงที่บาดเจ็บจากการประลองยุทธมา
โอ้..จอมยุทธเขาถ่ายพลังช่วยให้กันด้วยแฮะ..!!!

สมัยนั้น.. ก็ดูมันส์ๆไปตามเรื่องตามราวน่ะครับ ไม่ได้คิดอะไร..

พอมาถึงช่วงที่ผมเคยเลาว่า.. ช่วง"ลองของ" ของผมนั้น..
จริงๆแล้ว ก็ไม่ได้มีอะไรมากหรอกครับ..
มันมีหลายคำถาม.. หลายข้อสงสัย..ที่ไม่รู้ว่ามันคืออะไร???
เลยออกไปล่าหาคำอธิบาย.. หาคำตอบดู..!!!

ช่วงนั้น.. มีรุ่นพี่มาเล่าเรื่องการใช้พลังจักรวาล รักษาโรคได้
ผมก็สนใจ.. มันรักษาอย่างไรกันหรือ ???
หา..!!!.... อบรมฟรีด้วยหรอก ???..... น่าลองอบรมดูแฮะ !!!

หลักสูตรพื้นฐาน.. อบรมกันวันละ 3 ชั่วโมง.. เป็นเวลาถ้าจำไม่ผิดก็ 7 วันติดต่อกันนะครับ..
อธิบายถึงความเป็นมาของวิชานี้.. ความสัมพันธ์ของระบบต่างๆในร่างกายคนเรา
ว่าเรามีแหล่งจ่ายพลังงานทั้ง 7 จุดมันตั้งอยู่ที่ตรงไหนบ้าง แต่ละแหล่งมันจ่ายพลังงานให้กับอวัยวะอะไรบ้าง..ระบบไหนบ้าง..น่ะครับ..

ซึ่งระหว่างที่อบรมอยู่นั้น.. ก็มีผู้ที่ป่วยมาเข้ารับการรักษา "ฟรี" เช่นกันครับ..
ก็รักษาโดยพี่ๆป้าๆอาๆลุงๆ.. ที่จบการอบรมรุ่นก่อนๆ และอาสาสมัครมาเป็นคุณหมอเฉพาะกิจนั่นแหละครับ..

สำหรับการรักษา.. เริ่มจาก
ทางศูนย์จะให้ผู้ป่วยไปหาหมอจากโรงพยาบาลมาก่อนเลยครับว่า.. คุณหมอว่าคุณป่วยเป็นโรคอะไร??? ( คือต้องการจะตัดเรื่องการวินิจฉัยโรคออกไปนะครับ..ซึ่งผู้ที่เรื่องหมอน่าจะวิฉัยได้ดีกว่า.. !!!)

พอทราบว่าผู้ป่วยเป้นโรคอะไร.. ทางผู้รักษาก็จะใช้ฝ่ามือไปวางในตำแหน่งของแหล่งพลังงานที่บกพร่องนั้น เป็นการถ่ายพลังงานจากตนเองไปยังผู้ป่วย..

การถ่ายพลังแต่ละครั้งไม่นานหรอกครับ.. แต่ต้องทำอีกหลายๆครั้ง และหลายวันตามแต่ความหนักเบาของอาการป่วย

ถามว่า.. ถ้าเราอยู่คนเดียว แล้วใครมันจะมาช่วยเราล่ะนี่..???
ก็เราเองนั่นแหละครับ.. เราป่วยเพราะแหล่งพลังงานเราบกพร่อง
ทางที่อบรม..เขาจะสอนวิธีเติมพลังงาน หรือการชาร์ทพลังงานเข้าตนเองด้วยครับ..

แล้ว..เอาพลังงานจากไหนมาชาร์ทล่ะ???
ก็พลังงานจากดวงอาทิตย์.. พลังงานจากธรรมชาติ จากจักรวาลในรูปรังสีที่ส่องมายังโลกนั่นแหละครับ..
คือ.. เขาจะมีท่าบริหารร่างกาย ซึ่งเป็นท่าที่เป็นการชาร์ทพลังงานจากธรรมชาติเข้าสู่แหล่งพลังงานแต่ละจุดในร่างกายเรา.. ท่านึงก็ชาร์ทแหล่งนึงครับ..

ซึ่งการชาร์ทแต่ละครั้งก็จะชาร์ทไม่เกิน 5 นาทีก็พอครับ..
ตอนนั้น มีรุ่นพี่ที่ทำงานผมเอง มาลงอบรมด้วย..
เป็นประเภท.. คิดว่าเยอะๆสิดี..!!!
เขาสอนให้ชาร์ทไม่เกิน 5 นาที.. รุ่นพี่ผมแกกลัวว่าจะไม่เต็ม เล่นชาร์ทรวมกันร่วมชั่วโมง..!!!

ผลก็คือ.. แกเล่าว่า..มันร้อนภายในร่างกายแกมากๆ
ร้อนจนทนไม่ไหว.. จะทำให้มันหายร้อนอย่างไรก็ไม่รู้???

สุดท้ายแกบอกว่า.. แกให้ที่บ้านไปซื้อน้ำแข็งมาหลายถุง
แล้วเอามาใส่อ่างอาบน้ำ ที่รองน้ำเอาไว้เต็มอ่าง เสร็จแล้วแกก็ลงไปนอนแช่ในอ่างเป็นชั่วโมงเลยครับ.. กว่าแกจะรู้สึกหายร้อนภายใน

หลังจากนั้น.. แกก็เลยเข็ดกับการทำอะไรที่นอกเหนือข้อแนะนำไปเลย..

เล่าเรื่องของรุ่นพี่ที่ทำงานผมท่านนี้อีกนึงครับ.. พี่เขาผ่านประสบการณ์มาเยอะดีครับ.. ด้วยความที่สนิทกัน ก็เลยมักจะมาแชเรื่องต่างๆให้ฟังอยู่บ่อยๆ ( ไว้มีโอกาสจะเล่าห้ฟังครับ.. )

พี่ท่านนี้.. จบวิศวะจากขอนแก่นครับ.. สมัยยังเรียนวิศวะอยู่แกชอบพวกเรื่องแนวอิทธิฤทธิ์เอาเรื่องอยู่ ไปฝึกวิชาสมาธิกับพระดังๆ ด้วยความอยากรู้เห็นมาก็ไม่น้อย..

พอแกจบอบรมเรื่องพลังจักรวาล..
พี่เขาก็บวชพระ..จำพรรษาอยู่ที่วัดป่าสาละวัน ของหลวงพ่อพุธ ฐานิโย โคราชโน้น..

ทุกวันหลวงพ่อพุธ.. ท่านจะนำพระลูกวัดมานั่งสมาธิ

พี่เขาเล่าว่า.. วันนึงระหว่างที่นั่งสมาธิกันอยู่นั้น..
พี่เขาเห็นเลยว่า..ขณะหลวงพ่อพุธท่านนั่งสมาธิอยู่นั้น จะมีรังสีหรือแสงออกมาจากตัวของท่านมายังเหล่าลูกพระศิษย์ที่นั่งสมาธิกันอยู่นั้น เป็นแสงสีทองสว่างมาก
แต่พอแสงนั้นมาผ่านพระบวชใหม่รูปนึงเข้า.. แสงนั้นได้เปลี่ยนเป็นสีม่วง
จนพอผ่านพระรูปนั้นไปแล้ว ก็กลับมาเป็นสีทองตามเดิม..

จากการอบรมเรื่องพลังจักรวาลมา.. ทำให้พี่เขาเข้าใจและทราบเลยว่า..
หลวงพ่อพุธท่านมีเมตตากับพระบวชใหม่รูปนั้นจริงๆ..

เพราะแสงสีม่วงที่ท่านเจตนาส่งไปยังพระรูปนั้น มันหมายถึงการรักษาอาการเจ็บไข้ได้ป่วยนะสิครับ..
พระบวชใหม่รูปนั้น..พึ่งจะเลิกจากการติดยาเสพติดจึงมาบวชพระ หวังออกจากทางนรกนั่น.. ท่านก็เลยอนุเคราะห์ช่วยรักษาอาการอยากยาให้..!!!

ปล. : ยังมีต่อครับ..

 

ยังไงๆ อย่าลืมเอาสมุนไพร ที่ตากแห้งแล้วบางตัวที่มีความหลากหลายของสรรพคุณติดไว้บ้างนะครับ ผมว่ามันจะมีประโยชน์ไม่น้อยไปกว่า แผนปัจจุบันนะครับเก็บง่าย ราคาไม่แพง และขอชื่นชมและเป็นกำลังทุกๆท่าน ที่มีความพร้อมที่ไม่เฉพาะตัวเองแต่เพื่อคนรอบข้างด้วย อนุโมทนาอย่างสูงครับ.....สาธุ

 

ขอยืนยันเรื่อง พลังจักรวาลรักษาโรค นะครับ

ส่วนตัว Nirvana เคยไปร่ำเรียนอยู่เหมือนกัน
แต่ละเลยมาพอสมควร คงจะต้องไปหมุนจักระให้ให้สนิมหลุดออกมั่ง...อิอิอิอิ

ยังคิดอยู่ว่าถึงเวลาภัยพิบัติ คงจะหาหยูกยาอุปกรณ์อะไรยากสักหน่อยหรืออาจจะไม่มีเลยก็ได้ ฉะนั้นวิธีการนี้ที่มีแต่ร่างกายและจิตคงจะช่วยเหลือผู้คนได้มากทีเดียว แถมเป็นพลังงานที่ไม่มีวันหมดสิ้นสามารถดูดเอาจากธรรมชาติรอบตัวได้ตลอดเวลา

ถ้าผู้ใดฝึกพลังจักรวาลลองไปหาบู๊สเตอร์เทอร์โบ มาช่วยมั่งก็จะดีนะครับ เบาแรงไปเยอะ เทอร์โบที่ว่านี้คือ แรงพลังสกาล่าร์ ในเมืองไทยก็มีแหล่งแร่นี้อยู่เหมือนกัน เจ้าแร่ตัวนี้มันทำให้พลังงานของเรา รับ/ส่งได้มากขึ้นระดับยกกำลังเลย นะครับ แต่ผิด/ถูก ใช่/ไม่ใช่อย่างไร คงไม่ถกเถียงกับใครในเวปนี้นะครับ เพราะเป็นเรื่องสื่อทางจิตไม่ใช่คำพูด

ก็อยากให้มีท่านผู้มีความสามารถใช้พลังงานอันนี้ได้อยู่ในหมู่คณะของท่านด้วยแล้วกัน

 

ตอน... การรักษาโรคภัยไข้เจ็บ โดยไม่ต้องใช้ยารักษา (ต่อ 2)

ขอบคุณ.. คุณ nirvana มากๆเลยครับ ที่มาช่วยให้ความรู้เพิ่มเติม
ผมเองก็..ร้างเรื่องพลังจักรวาลมานานมากเช่นกันครับ.. สนิมเพียบเลยครับ.. 555!!!

ผมเอง..เข้ารับการฝึกอบรมจากคุณย่าเยาวเรศ ประชานิเวศน์1 ประชาชื่นครับ..

งั้น.. ขอต่อเลยนะครับ..

ในการชาร์ทพลังงานนั้น.. นอกจากท่าบริหารร่างกายที่ใช้เพื่อชาร์ทพลังแล้ว
ยังมีการใช้การสัมผัสก้อนหิน หรือก้อนแร่ หลายๆชนิด ก็ช่วยเพิ่มพลังงานด้วยเช่นกันครับ..

เรื่องก็คือว่า.. หินสีหรือก้อนแร่ แต่ละชนิดจะปล่อยพลังงานออกมา
ซึ่งหินสีชนิดนึงจะมีคุณสมบัติในการให้พลังงานแก่แหล่งจ่ายพลังงานในตัวเราจุดนึง..

ดังนั้น.. ถ้าเราอยากจะชาร์ทพลังงานล่ะก็ การเอามือไปสัมผัสกับก้อนหินสีหรือก้อนแร่เท่านั้นเองครับ.. ทำให้ถึงคนโบราณที่เขาใส่พวกเครื่องประดับหินสีพวกนี้.. ที่นักโบราณคดีลงความเห็นว่าเป็นเครื่องประดับในยุคนั้น บางทีจริงๆแล้วมันอาจจะไม่ใช่เป็นเพียงเครื่องประดับก็ได้นะครับ..???

ก่อนที่จะเล่าต่อนั้น..
ผมขอต้องมีเงื่อนไขกับท่านผู้อ่านเรื่องราวต่อไปที่ผมจะเล่าสัก 2 ข้อก่อนเลยนะครับ..

เงื่อนไข.. ก็คือ
1. ทำความดี ได้ดี... ทำความชั่ว ได้ชั่ว... แปลตรงๆตัวเลยละครับว่า.. คนที่ทำความดีต้องได้รับสิ่งที่ดี คนที่ทำชั่วก็ต้องได้รับกรรมชั่ว
2. ตายแล้วไม่สูญ... แปลว่าตรงๆเช่นกันครับว่า.. ตายแล้วไม่สูญ ตราบใดยังไม่หมดกิเลส ตายไปก็ยังคงมาเกิดใหม่ เวียนว่ายตายเกิดอย่างนี้..

คือ.. ถ้าคุณไม่รับในเงื่อนไข 2 ข้อนี้..
ผมแนะนำให้คุณข้ามไปอ่านกระทู้ของท่านอื่นๆได้เลยครับ..
จะคุย..จะเล่าอะไร.. มันก็น่าจะคุยอยู่บนพื้นฐานความรู้ความเข้าใจที่ไปแนวเดียวกันครับ
ไม่งั้น.. มานั่งถกเถียงเรื่องโน้นเรื่องนี้กันปล่าวน่ะครับ..!!!
.......................................................................

ขอกลับมาที่ รุ่นพี่วิศวะขอนแก่นท่านเดิมต่อหน่อยนะครับ..

ตอนที่ยังบวชเป็นพระอยู่ที่วัดป่าสาละวันอยู่นั้น... วันป่าสาละวันเป็นวัดที่สร้างขึ้นบนพื้นที่ป่าช้าเดิมครับ.. เริ่มจะสยองขึ้นมานิดๆแล้วใช่มั๊ยครับ..??? อิอิ

ที่คุณนึกเอาไว้ถูกต้องแล้วครับ.....!!
พี่เขาเล่าให้ฟังว่า.. "เป็นพระบวชใหม่ใช่มั๊ย..???"
"การควบคุมจิต รวมถึงการปฎิบัติตัวของพระใหม่ มันก็หลุดๆรั่วๆ"
"เจอดีเข้าให้นะสิ..!!!"
...."มันเป็นอย่างไรเหรอพี่???".... ผมถามต่อ
"ก็ตอนนั้น.. ผมนั่งอยู่ในกุฏิ.. เล่นโผล่ออกมาจากผนังห้องเลย!!!!"
"ก็โผล่ออกมาจากผนังครึ่งตัวนั่นแหละ หันมามองผม.. แล้วบอกผมว่า "ท่านทำตัวให้ดีๆหน่อย!!!"...."
( โอ้!!... เป็นพระ เจอผีออกมาเตือนให้ตัวให้ดีๆ )

.... "แล้วพี่ไม่กลัวเหรอ???"..... ผมถามต่อ
"มันยังไม่ทันจะกลัวนะสิ!!.... มันตกใจมากกว่า อยู่ๆก็โผล่ออกมา!!!"

สุดท้าย.. พี่แกเลยสรุปว่า ก็มีพระบวชใหม่หลายรูปเหมือนกัน น่าจะทำตัวไม่ดี เจอเจ้าทีเล่นซะกระเจิงเผ่นออกจากวัดไปเลย...

 

ตอน... การรักษาโรคภัยไข้เจ็บ โดยไม่ต้องใช้ยารักษา (ต่อ 3)

เรื่องพลังจักรวาล รักษาโรคนี้... ใครๆที่ผ่านการอบรมก็สามารถทำการรักษาได้ครับ..
ไม่ใช่เรื่องยากอะไรเลยครับ..

คนที่ผ่านการฝึกอบรมแล้ว และอยากจะรักษาได้เก่งๆ ก็จะมาขอเป็นอาสาสมัครช่วยรักษาผู้ป่วยให้ครับ..

ระหว่างพักเบรคช่วงที่อบรมอยู่นั้น.. ผมก็เข้าไปคุยสอบถามจากคนที่เขารักษาเก่งๆว่ามีโรคอะไรบ้างที่รักษาไม่ได้มีบ้างมั๊ย???

พี่ท่านนั้นก็ตอบกลับมาว่า.. ที่ผ่านมาก็ทางศุนย์เคยรักษาผู้ป่วยที่เป็นเอดส์จนหายมาแล้ว แต่ก็ใช้เวลานานอยู่เหมือนกันกว่าจะหายได้..

แต่ก็มีเคสที่รักษาไม่ได้เหมือนกัน.... นั่นคือ
จะแบ่งสาเหตุการเจ็บป่วยออกเป็น 2 สาเหตุ คือ..

1. การเจ็บป่วยจากแหล่งจ่ายพลังงานบกพร่อง หรือ
2. การเจ็บป่วยจากพลังงานแฝง..???

....อะไรคือ "พลังงานแฝง" ที่เป็นสาเหตุให้เกิดการเจ็บป่วยได้???

พูดแบบภาษชาวบ้าน ก็คือ... "ผีเข้า" นั่นเอง !!!

เอ.. มาอบรมเรื่องพลังจักรวาล มีเรื่องผีเข้าด้วยแฮะ!!!
มันอย่างไรกันนี่...???

เรื่องของเรื่องก็คือว่า.. มีผู้ป่วยหลายกรณีมาให้ทางศูนย์ช่วยรักษา
เมื่อตรวจสอบลึกๆ ก็พบว่า.. ไม่ได้เกิดจากการบกพร่องของแหล่งจ่ายพลังงาน แต่เป็นเพราะว่า มีพลังงานในรูปแบบหนึ่ง มากระทำให้บุคคลผู้นั้นเจ็บไข้ได้ป่วยขึ้น

( สรุปว่า.. ทางศูนย์จะเรียก "ผีเข้า" ว่า "พลังงานแฝง" เพราะว่าไม่ต้องการให้ผู้อบรมที่ไม่ได้เชื่อเรื่องผีๆสางๆจะมองว่า.. ไม่เป็นวิทยาศาสตร์เอาเสียเลย )

ดังนั้น.. การรักษาผู้ที่โดนพลังงานแฝงเข้าเล่นงาน..
วิธีการรักษาก็คือ.. ต้องเอาพลังงานแฝงนั้นออกมาเสียก่อน ไม่งั้นรักษาให้ตายก็ไม่หายนะครับ..

ปล. : สำหรับวิธีอย่างไรที่จะรู้ว่ามีพลังงานแฝงอยู่หรือไม่??? และวิธีการเอาพลังงานแฝงออกมาอย่างไรนั้น???..
ผมไม่ทราบวิธีหรือขั้นตอนนะครับ.. เพียงแต่ว่า ในขั้นนี้ทำให้ผมทราบว่า ศาสตร์นี้ก็รู้จักเรื่องผีเข้าเหมือนกันแฮะ..!!!

เล่ามาตั้งนาน.. แล้วเคยเอาความรู้ในศาสตร์นี้มาลองใช้รักษาอะไรบ้างหรือไม่???
ก็มีบ้างนิดๆหน่อยๆนะครับ..
ผมเคยไอเจ็บคอตอนไปเที่ยวในป่า ยาก็ไม่ได้พบไปด้วย..
ไอตลอดเวลา.. เอางัยดีหว่า ???
เลยเอามือมาวางที่บริเวณลำคอ พร้อมทั้งกำหนดจิตลงไป
ก็ช่วยได้เยอะเลยละครับ.. สักพักใหญ่ก็ทุเลาอาการไอลง

ก็เลยนำมาเล่าให้ฟัง เป็นศาสตร์ความรู้อีกแขนงหนึ่งที่น่าสนใจมากเลยครับ
ใครๆก็สามารถทำได้ครับ เมื่อผ่านการฝึกอบรบแล้ว.. ยามฉุกเฉินก็สามารถช่วยเหลือตนเองรวมทั้งผู้อื่นได้ด้วยครับ...

ขอบคุณครับ..

 

up up ........................

 

ขอเล่่าประสบการณ์ จากการใช้การแพทย์ทางเลือกใช้พลังรักษาจากประการณ์ตรงที่ได้รับ เข้าอบรมเป็นนักบำบัดหลักสูตรที่ 3 เป็นเวลา 3 วันกลับถึงบ้านลูกตัวร้อนจี๋ ประมาณ 39 องศาที่ย้านขายยาแต่ลูกไม่ยอมกินยาสวมีบอกให้คุณแม่รักษา(อยากลองของ)ก็จำใจรักษาให้แต่ใจไม่ดีเลยกลัวลูกชักข้างตัวเอายาวางไว้ครบเช้ามาลูกไข้ลดลงหายเป็นปกติ มึครั้งทึ่สอง สาม ตามมาก็ผ่านได้โดยไม่ต้องให้ยาจนที่บ้านเริ่มมั่นใจขึ้นมา ตัวเองก็มั่นใจว่าถ้าอาการแบบนี้เอาอยู่ ปัจจุบันถ้าว่างก็จะเป็นอาสาสมัครรักษาให้ที่คลีนิค ที่คลีนิคจะตรวจโดยแพทย์ปัจจุบันจากกระทรวงสวธารณสุขส่งมา เมื่อตรวจเสร็จแล้วจะส่งต่อคนไข้มารักษาโดยใช้พลัง ตังเองได้เตรียมการโดยเก็บยาแผนปัจจุบันไว้เพียบแต่สนใจศาสตร์นี้เพราะไม่ต้องใช้ทรัพยากรในการรักษา เรียนไว้ใช้ช่วยเหลือคนในครอบตรัว ปัจจุบันมีงานวิจัยหลายชิ้นที่ทำออกมาจากการรักษาด้วยวิธีนี้ ต้วหนึ่งคือทำร่วมร.พ.แห่งหนึ่งว่าผู้ป่วยมะเร็งระยะสุดท้ายที่ได้รับการรักษาด้วยวิธีนี้บรรเทาอาการเจ็บปวดแตกต่างเป็นอย่างไรเมื่อเทียบกับผู้ที่ไม่ได้รักษาด้วยวิธีนี้

 

คุณหมอพรานครับ..

ตอนนี้ทางกลุ่มของผม.. มีทั้งติดงานด่วนท่านนึง และก็มีสนใจเข้าร่วม meeting เพิ่มอีก 2 ท่าน..
ดังนั้น.. พรุ่งนี้ช่วงหัวค่ำ ผมจะแจ้งยอดจำนวนผู้เข้า meeting จากทางกล่มผมอีกครั้งครับ..

ปล. : ถ้าไม่เป็นการรบกวนเพื่อนคุณหมอมากไป.. รบกวนติดใบเสนอราคากระสุนมาสักหน่อยนึงนะครับ..!!!
ตอนนี้ทางกลุ่มผมหลายๆท่าน..อยากจะหาเก็บเข้าคลังเพิ่มสักหน่อยนะครับ..!!!

 

ได้ครับท่าน พามาได้ตามต้องการไม่อั้นครับ. ส่วนราคาammoนั้นทางเอเย่นมาเองคุยกันเองครับแต่ถ้าไม่มาหรือมาไม่ได้ผมมีราคาแล้วครับ ในวันนั้นผมสั่งกระสุนลูกซองเบอร์12เพิ่มอีกเขาคงต้องนำมาส่งครับ
ผมรอท่านอยู่ว่าจะรวมกันซื้อขนาด9มม.หัวรูเพิ่มจะได้ราคาต่ำลงอีกครับถ้ารวมกันเยอะๆ
ผมเพิ่งจะpackยาเสร็จเมื่อเย็นนี้โอยมันเยอะกว่าที่คิดมากครับของจากSingapore มาเยอะมากเกือบ10ลังน่ะครับขนกันมันส์เลยแล้วต้องมาแยกบรรจุอีก. ตอนนี้ยังขาดยาอีกไม่กี่ตัวก็จะครบตามแผนการแล้วว่าจะไปที่ร้านวิทูรย์อีกสักรอบครับ. ปัญหาที่ตามมาคือที่เก็บเริ่มจะไม่พอแล้วล่ะซิครับ ข้าวของและยาแน่นไปหมด คงต้องไปจัดการใหม่ต้นเมษานี้ครับ
ส่วนเรื่องการประชุมนั้นผมทำสไลด์เสร็จแล้ว กำหนดการก็ไปเรื่อยๆก็แล้วกันเป็นกันเองดีกว่าเพราะต้องคบกันนานค่อยๆดูกันไป ว่าจะให้เขานำชุดเครื่องมือลำเลียงที่พวกผมต้องทำงานประจำลงมาให้ดูกันครับแล้วก็ถ่ายรูปกันไป มีรายการยาที่จำเป็นพิมพ์มาแจกด้วยครับ แล้วมาเปิดกระเป๋ายาที่ผมได้เตรียมเอาไว้ยามหนีภัย6ใบดูกันครับ. แล้วพบกันครับ

 

สนใจ และ อยากทราบข้อมูลวิธีการรักษาโรคตามที่คุณ Suksangpr ได้กล่าวถึงข้างต้น

หากไม่ลำบากเกินไป หรือหากเป็นแนวที่ดิฉันสามารถฝึกได้ ก็อยากเรียนรู้ไว้เป็นวิชาติดตัว

เผื่ออนาคตอาจได้นำมาใช้กับตัวเอง หรือคนใกล้ชิด

คุณ Suksangpr ช่วยขยายความเพิ่มเติมอีกสักนิด

ว่าใช้หลักการใด ในการรักษาโรค สามารถสืบค้นจากที่ใดได้บ้าง ?

ขอบคุณล่วงหน้าค่ะ

 

กระสุนหัวรู น่าสนใจครับ พวก hydra shok กำลังมองหาอยู่เลยครับ แถววังบูรพาถูกๆ ก็นัดละ80 บาท

ถ้าพี่หมอมีราคาพิเศษ ขอร่วมด้วยครับ

 

Hydra-Shock.... ถ้ามี ผมก็ร่วมวงด้วยคนครับ..ผมเหลือติดแมกซ์อยู่ไม่กี่นัดเองครับ.. !!!

แต่ใจจริงอยากได้.. Black Talon มากกว่านะครับ..
เห็นว่าทางผู้ผลิตเปลี่ยนชื่อเป็นชื่อใหม่ไปแล้ว ไม่แน่ใจนะครับ ไม่ได้ตามเรื่อง ammo มานานเหมือนกันแล้วน่ะครับ..

อยากได้ที่มีอำนาจหยุดยั้ง ( stoping power ) สุดๆหน่อยน่ะครับ..
แต่ไม่แน่ใจว่าเป็น ammo ผลิตในบ้านเราใช่มั๊ยครับ
หรือว่า.. เป้นเอเย่นต์สั่งเอาเข้ามาขายน่ะครับ..???

9mm... ถ้าราคาน่าสนละก็... ???
ทางผมเอาด้วยครับ.. น่าจะเบื้องต้นสัก 500 นำไปก่อนนะครับ..

Note : ภาพที่ 1 = Hydra-Shock ก่อน/หลังบาน
ภาพที่ 2-3 = Black-Talon ก่อน/หลังบาน

Note 2 : ราคา Hydra-Shock แถวหลังวังบูรพา = 80 บาท/นัด
ผมว่าก็น่าจเป็นราคาปกติในปัจจุบันนะครับ.. เพราะว่าปัจจุบัน 9mm ก็ราวๆ 20 บาท/นัด

คือเมื่อราวปี 40.. ตอนนั้น 9mm ขายอยู่ 9 บาท/นัด
ผมซื้อ Hydra-Shock ต่อจากรุ่นพี่ที่ทำงานก็ 35 บาท/นัดครับ.. ตอนที่พี่เขาแบ่งขายให้นั้น แกบอกว่าขายให้เป็นราคาที่แกซื้อเก็บเอาไว้ปีกว่าๆแล้วน่ะครับ..!!!

 

ไปอ่านพบเช้า..เลย copy มาให้ลองอ่านกันดูครับ..!!!
Ref. : South - Manager Online - เขาว่าแสงแดดเมืองไทยไม่เข้มพอที่จะทำไฟฟ้าได้! / ประสาท มีแต้ม

" เขาว่าแสงแดดเมืองไทยไม่เข้มพอที่จะทำไฟฟ้าได้!!! ".... / ประสาท มีแต้ม

คอลัมน์ : โลกที่ซับซ้อน
โดย...ประสาท มีแต้ม

คุณรสนา โตสิตระกูล ส.ว.กรุงเทพมหานคร ได้เล่าให้ฟังว่า ในช่วงที่รัฐมนตรีพลังงานออกมาให้ข่าวเรื่อง “วิกฤตไฟฟ้า” ในช่วงต้นเดือนเมษายนนี้ หลังจากที่เธอได้โพสต์ภาพแผงโซลาร์เซลล์ผลิตไฟฟ้าที่อยู่ริมทางรถไฟในสหภาพยุโรปบน facebook ปรากฏว่า มีคนเข้าไปดูกว่าหนึ่งแสนคน มีการแสดงความเห็นต่างๆ นานา แต่หนึ่งความเห็นที่น่าสนใจคือ “แสงแดดในเมืองไทยมีความเข้มไม่พอที่จะนำมาผลิตกระแสไฟฟ้าได้”

บทความนี้ นอกจากจะแสดงหลักฐานเชิงวิทยาศาสตร์เพื่อแก้ข้อกล่าวหา (ที่ตลก และฝืนสามัญสำนึก) ดังกล่าวแล้ว ยังจะเสนอความก้าวหน้าของบางประเทศในเรื่องดังกล่าว พร้อมทั้งกลไกสำคัญที่จะทำให้พลังงานหมุนเวียน (ซึ่งแสงแดดเป็นส่วนหนึ่งของพลังงานหมุนเวียน) มีความเป็นไปได้ในเชิงปฏิบัติ สรุปก็คือ ผมจะนำเสนอ 3 ประเด็น ดังต่อไปนี้

ประเด็นแรก มาเริ่มกันที่ความเข้มของแสงแดด หรือพลังงานจากแสงอาทิตย์บนผิวโลกของประเทศต่างๆ ทั่วโลกกันก่อนครับ ภาพข้างล่างนี้เป็นแผนที่แสดงความเข้มข้นของพลังงานแสงอาทิตย์บนผิวโลกต่อพื้นที่หนึ่งตารางเมตร

กรุณาอย่าตกใจกับรายละเอียดบนแผนที่นี้นะครับ มันไม่ได้ยุ่งยากอย่างที่เรามักจะกลัวกัน

ดูภาพด้านล่างประกอบ.. ภาพ : World solar energy map

ก่อนอื่นโปรดสังเกตสีที่ใช้ระบายบนแผนที่นะครับ ทั้งหมดมีอยู่ 7 แถบสี (พร้อมดูรหัสบนมุมขวามือด้านบนของรูป) มีโทนสีน้ำตาลเข้ม อ่อน แล้วไล่มาเขียวอ่อน เขียวเข้ม จนถึงสีฟ้าอ่อน และสีฟ้าเข้ม

บริเวณที่ระบายด้วยสีน้ำตาลเข้ม คือ บริเวณที่มีพลังงานแสงแดดเข้มที่สุด โดยคิดเฉลี่ยตลอดทั้งปี ในขณะที่ระบายด้วยสีฟ้าเข้มจะได้รับพลังงานน้อยที่สุด



คราวนี้มาดูบริเวณพื้นที่ประเทศไทย ปรากฏว่า พื้นที่ส่วนใหญ่ของประเทศไทยมีความเข้มของพลังงานแสงอาทิตย์มากเป็นอันดับ 2 ของโลก ในขณะที่ในภาคใต้ของประเทศไทยได้รับพลังงานแสงอาทิตย์มากเป็นอันดับที่ 4 (อาจเพราะมีฝนตกมาก)

ในขณะที่ประเทศเยอรมนี (ซึ่งผลิตกระแสไฟฟ้าจากแสงอาทิตย์มากที่สุดในโลก) มีความเข้มของแสงแดดน้อยกว่าประเทศไทยเสียอีกคือ อยู่ในกลุ่มที่ 4 และ 5 เสียด้วยซ้ำ โปรดสังเกตอีกนิดนะครับว่า สหรัฐอเมริกา มีพื้นที่บางส่วนที่มีความเข้มข้นของพลังงานแสงอาทิตย์อยู่ในระดับสูงที่สุดของโลก

ตกลงความเห็นที่เชิงเป็นข้อกล่าวหาที่คุณรสนาได้รับในประเด็นที่หนึ่งนั้นไม่เป็นความจริงแต่ประการใดนะครับ ตรงกันข้าม เรามีแสงแดดดีเป็นอันดับ 2 และ 3 ของโลกเสียด้วยซ้ำ

ประเด็นที่สอง ความก้าวหน้าของบางประเทศ ขอเริ่มต้นที่เยอรมนีก่อนนะครับ

ในปี 2555 ทั้งๆ ที่เยอรมนีถูกจัดเป็นประเทศที่มีพลังงานแสงแดดอยู่ในอันดับที่ 4 และ 5 ของโลก แต่ก็สามารถผลิตพลังงานไฟฟ้าจากแสงแดดได้ถึง 28,500 ล้านหน่วย (ที่มา Renewable Electricity Generation in Germany) หรือประมาณ 18% ของที่ประเทศไทยใช้ซึ่งต้องถือว่าเยอะมากๆ

ในการประชุมสมัชชาวิชาการคุ้มครองผู้บริโภค (13-15 มีนาคม 2556) ผมได้นำเสนอในเรื่องนี้ด้วย ก็มีคนตั้งข้อกังวล 3 ประการคือ (1) การทำแผงโซลาร์เซลล์ต้องใช้พื้นที่เยอะมาก (2) ต้นทุนการผลิตยังแพง หน่วยละ 10 บาท และ (3) เป็นเทคโนโลยีที่ต้องนำเข้าจากต่างประเทศ อยากให้ประเทศไทยส่งเสริมการวิจัยเพื่อพัฒนาแผงโซลาร์เซลล์เป็นของตนเอง

ผมไม่ได้ตอบทุกคำถาม แต่ผมได้ตั้งคำถามกลับไปว่า ในโลกปัจจุบันนี้ ประเทศไทยผลิตอะไรได้เองบ้าง และใครเป็นเจ้าของ ตอนที่น้ำท่วมประเทศไทยปี 54 เราพบว่า อุปกรณ์ฮาร์ดดิสก์คอมพิวเตอร์ 60% ของโลกผลิตในประเทศไทย เมื่อคราวน้ำท่วมใหญ่ ชาวญี่ปุ่นไม่มีน้ำยาบ้วนปากมา 4 วัน เพราะโรงงานในประเทศไทยถูกน้ำท่วม คำถามก็คือ โรงงานดังกล่าวเป็นของใคร ไม่ใช่ของคนไทยหรอก

ความห่วงใยดังกล่าวเป็นสิ่งที่ดีมาก (ถ้าสามารถทำได้) แต่ในเรื่องพลังงานสิ่งที่ต้องคำนึงถึงมากๆ ก็คือ ชนิดของเชื้อเพลิงว่า มันก่อให้เกิดมลพิษต่อโลก และชุมชนหรือไม่ รวมถึงการกระจายรายได้ด้วย

ในเรื่องต้นทุนที่แพงนั้น งานวิจัยของมหาวิทยาลัย Duke ในบางรัฐของสหรัฐอเมริกาพบว่า ปัจจุบันต้นทุนไฟฟ้าจากแสงแดดมีราคาถูกกว่าโรงไฟฟ้านิวเคลียร์แล้ว และจะถูกลงไปอีกเรื่อยๆ ในขณะที่ต้นทุนนิวเคลียร์จะยิ่งแพงขึ้นไปอีก (บทความเก่าของผมเคยกล่าวถึง)

ในระหว่างที่เขียนบทความนี้ เพื่อนใน facebook ของผมส่งข้อมูลมาให้พบว่า ไฟฟ้าที่ผลิตได้จากแสงแดดมีจำนวนเท่ากับโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ที่เดินเครื่องเต็มที่ถึง 22 โรง ผมนำภาพมาลงเป็นหลักฐานด้วย

ดูภาพที่ 2 ด้านล่างประกอบครับ.. ภาพ : German solar power plant

ในข่าวชิ้นเดียวกันนี้บอกว่า ตลาดแผงโซลาร์เซลล์ในสหรัฐอเมริกามีการเติบโตถึง 76% เมื่อเทียบกับปี 2554 ในขณะที่ต้นทุนการผลิตกลับลดลงถึง 27% ในรัฐ Maryland ลดลงถึง 33%

ผมนำภาพมาลงในที่นี้ก็เพื่อให้ท่านที่สนใจสามารถค้นหาความรู้เพิ่มเติมได้จากอินเทอร์เน็ต

ดูภาพที่ 3 ด้านล่างประกอบครับ.. ภาพ : US Solar market insight

ผมยังไม่ได้ตอบข้อกังวลของที่ประชุมว่า จะเอาพื้นที่ที่ไหนมาทำแผงโซลาร์เซลล์ ผมได้ตอบไปว่าทางที่ดีที่สุดก็คือ การทำบนหลังคาบ้าน อาคารสถานที่ซึ่งเรามีมากมาย

ผมได้เล่าให้ฟังว่า ในประเทศสเปนมีกฎหมายออกมาใหม่ว่า ศูนย์การค้าใหม่ทุกแห่งต้องติดแผงโซลาร์เซลล์ โรงพยาบาลทุกโรงต้องมีแผงต้มน้ำร้อนด้วยแสงแดดบนหลังคา คล้ายๆ กับบังคับว่าบ้านทุกหลังต้องมีส้วม

ขอย้อนมาที่แผนที่พลังงานแสงแดดโลกอีกครั้งครับ ถ้าเราเอาเม็ดถั่วเขียวไปวางบนแผนที่ดังกล่าวเพียง 6 เม็ด แล้วนำพื้นที่จริงขนาดเท่าเม็ดถั่วเขียวในแผนที่ไปสร้างแผงโซลาร์เซลล์ จากข้อมูลที่ผมค้นได้พบว่า พลังงานไฟฟ้าที่ผลิตได้จะเพียงพอต่อความต้องการของมนุษย์ทั้งโลกทั้งปีในปัจจุบัน

ดังนั้น ไม่ทราบจะบอกว่าอย่างไรดี

ประเด็นที่สาม กลไกสำคัญที่จะทำให้พลังงานหมุนเวียนมีความเป็นไปได้ในเชิงปฏิบัติ

เรื่องนี้ต้องขอยกประเทศเยอรมนีเป็นตัวอย่างอีกแล้วครับ เขาได้ออกกฎหมายที่เรียกว่า “กฎหมายเพื่อให้ความสำคัญกับพลังงานหมุนเวียนเป็นอันดับแรก (Law for the Priority of Renewable Energies)”

สาระสำคัญของกฎหมายดังกล่าวมี 3 ข้อ คือ ขาดข้อใดข้อหนึ่งจะเพี้ยนทันที

ข้อที่ 1 ใครก็ตามที่สามารถผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนได้ ให้สามารถป้อน (Feed In) กระแสไฟฟ้าเข้าสู่ระบบสายส่งได้ก่อนและไม่จำกัดจำนวน

ประเทศไทยเรามีระบบโควตาครับ เช่น มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค (ใกล้ๆ อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ กทม.) ได้ลงทุนติดตั้งด้วยเงินลงทุนประมาณ 1 ล้านบาท แต่ทางการไฟฟ้านครหลวงไม่รับซื้อ แต่รับไฟฟ้าไปฟรีๆ ในวันหยุดทำการ

เจ้าของโรงงานหีบน้ำมันปาล์มที่สุราษฎร์ธานี พยายามที่จะทำโรงไฟฟ้าชีวมวลจากของเสีย แต่ปรากฏว่า การไฟฟ้าภูมิภาคไม่รับซื้อ โดยอ้างว่า “เรามีโควตาแค่ 3 ราย คุณเป็นรายที่ 4”

ข้อที่ 2 เป็นสัญญาระยะยาวประมาณ 20-25 ปี สัญญาในประเทศไทยประมาณ 5 ปี แล้วใครจะกล้ามาลงทุนหากไม่ใช่พวกเดียวกันกับผู้มีอำนาจอนุญาต

ข้อที่ 3 ค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้น (บ้าง) ให้เป็นภาระของผู้ใช้ไฟฟ้าทั้งประเทศ

ขณะนี้คณะกรรมการองค์การอิสระเพื่อการคุ้มครองผู้บริโภคภาคประชาชน (องค์การตามรัฐธรรมนูญปี 2550 แต่รัฐบาลนี้ไม่ยอมออกกฎหมายให้) กำลังทำข้อเสนอให้แก่เครือข่ายผู้บริโภคทั่วประเทศร่วมกันผลักดันให้เป็นนโยบายครับ

ช่วยกันทำความเข้าใจ ช่วยกันเสนอ และผลักดันนะครับ

สรุป นักเคลื่อนไหวเรื่องพลังงานระดับโลกคนหนึ่งกล่าวว่า ความเป็นไปได้ของพลังงานหมุนเวียน (เขากล่าวถึงเฉพาะลมซึ่งก็คล้ายกับกรณีแสงแดด) ว่า หนึ่ง ไม่ได้ขึ้นกับความเร็วลม สอง ไม่ได้ขึ้นกับเทคโนโลยี สาม ไม่ได้ขึ้นกับต้นทุนการผลิต แต่ สี่ ขึ้นกับนโยบายของรัฐบาลเท่านั้น

โดยเฉพาะอย่างยิ่ง รัฐบาลที่สมคบกับพ่อค้าพลังงานไม่ว่าจะเป็นก๊าซธรรมชาติ ถ่านหิน และนิวเคลียร์ ร่วมกันผูกขาดทั้งเชื้อเพลิง และนโยบาย

อ้อ ถ้าอยากให้มีการใช้พลังงานแสงแดดกันมากๆ เร็วๆ ทางเดียวที่ง่ายที่สุด คือ การอนุญาตให้มีการออกโฉนดบนดวงอาทิตย์ แล้วเมื่อพ่อค้าเหล่านี้ได้โฉนดบนดวงอาทิตย์แล้ว เขาจะส่งเสริมการใช้แสงแดดอย่างแน่นอน เชื่อไหม..???