เพื่อการกุศล บุญสร้างเหรียญสมเด็จพระพุทธโมกข์ มงคลเศรษฐี ทองคำ เงิน นวะ ทองแดง และ กฐิน 20 วัด

เรียนคุณ มหาหิน

ผมขอร่วมเป็นเจ้าภาพสร้างเหรียญ สมเด็จพุทธโมกข์
เป็น ประธานกรรมการ ๕,๙๙๙ บาท ซึ่งอาจจะไม่ทันใส่ชื่อในใบฎีกาก็ไม่เป็นไรครับ

นอกจากนี้ผมขอฝากเงินทำบุญกฐิน ๒๐ วัด กับ คณะเกศแก้ว ของคุณพัชรบูลย์ ผ่านคุณอีก ๑,๐๐๐ บาท

ผมได้โอนเงินให้วันนี้ ที่ SCB date 14.10.10 Time 10:38
To AC 181 225 2394 Amount 7,000.00

 

สวยบาดใจ ถ้ามีเงินพอจะเหมาชุดทองคำให้หมดเลย

 

ขอร่วมทำบุญเป็นกรรมการสร้างเหรียญสมเด็จพระพุทธโมกข์ 5,598 เหรียญ เพื่อเข้าร่วมในกองกฐิน ในวันที่ 20 พ.ย. 2553 ที่ วัดพุทธโมกข์ จำนวน 100+50 บาท และทอดกฐินสามัคคี 20 วัด กับคณะเกศแก้วด้วยค่ะ
รายละเอียดตามด้านล่างค่ะ

วันที่ทำรายการ : 14/10/2010 04:50:27 PM.
หมายเลขอ้างอิง : KBKR101014447487
โอนเงินจากบัญชี : xxx-x-xxxxx-x
ธนาคารของบัญชีผู้รับโอน : SIAM COMMERCIAL BANK
เพื่อเข้าบัญชี : 181-2-25239-4 มหาหิน มีเนตร์ขำ
ชื่อเจ้าของบัญชีในฐานข้อมูล : MAHAHIN MEENE
จำนวนเงิน (บาท) : 150.0
ค่าธรรมเนียม (บาท) : 25.0
บันทึกช่วยจำ : เจ้าภาพร่วมบุญ สร้างเหรียญสมเด็จพระพพุทธโมกข์ 5,598 เหรียญ
เพื่อเข้ากองกฐิน ในวันที่ 20 พ.ย. 2553 ที่ วัดพุทธโมกข์

วันที่ทำรายการ : 14/10/2010 05:07:43 PM.
หมายเลขอ้างอิง : KBKR101014455242
โอนเงินจากบัญชี : xxx-x-xxxxx-x
ธนาคารของบัญชีผู้รับโอน : BANGKOK BANK
เพื่อเข้าบัญชี : 148-0-39260-2 คุณพัชรบูลย์ สุตันติวรคุณ
ชื่อเจ้าของบัญชีในฐานข้อมูล : PACHARABOON S
จำนวนเงิน (บาท) : 200.0
ค่าธรรมเนียม (บาท) : 25.0
บันทึกช่วยจำ : ร่วมเป็นเจ้าภาพรวมทำบุญกฐิน 20 วัดกับคณะเกศแก้ว

ขออนุโมทนาบุญกับคุณมหาหิน คุณพัชรบูลย์ และทุกๆท่านที่ร่วมทำบุญด้วยค่ะ โมทนา สาธุค่ะ

 

ในวันนี้ที่ ๑๔ / ๑๐ / ๕๓ ผมได้โอนเงินทำบูญกฐิน ๒๐ วัดกับคณะกลุ่มเกศแก้วที่พี่มหาหินบอกบุญไว้
โอนเข้า ธนาคารกรุงเทพ สาขาวงเวียน ๒๒ กรกฏา ชื่อบัญชี คุณพัชรบูลย์
สุตันติวรคุณ กรุงเทพ 148-0-39260-2 Fvog;]k โอนเวลา ๑๕.๑๗น.
ขอทุกๆท่านอนุโมทนาด้วยกันนะครับ และขออนุโมทนาบุญกับพี่มหาทุกๆอย่างครับและทุกคนครับ
โอนเงินเข้าธนาคารจำนวนเงิน ๑,๐๐๐ บาทครับ โอนจากบัญชี 619-0-15742-4 ธนาคารกรุงไทย สาขาอุทัยธานี ชื่อบัญชี บุญทรง ทองคง

 

ท่านที่ร่วมงานบุญ เป็นเจ้าภาพต้นทุนสร้างเหรียญ สมเด็จพระพุทธโมกข์
ที่ได้ดำเนินการ โอนเงินบุญเข้ามาแล้ว นั้น....

โปรดแจ้ง ที่อยู่ ให้กระผมได้ทราบ ด้วยนะครับ
หากแจ้ง ลำดับที่ ที่ผมแจงตารางบุญ ก็จะขอบพระคุณยิ่ง (ทำให้หาได้ง่าย)

เหรียญ สำหรับแจกให้ กรรมการ
คาดว่า น่าจะสามารถจัดส่งมาถึงพวกเรา ในปลายเดือน พ.ย.นี้

จึงขอเรียนมาเพื่อทราบ โดยทั่วกัน

................................................................................................................................................

 

<CENTER>เหรียญ สมเด็จพระพุทธโมกข์ (ลองพิมพ์)

</CENTER>

<HR style="COLOR: #ffffff; BACKGROUND-COLOR: #ffffff" SIZE=1>

​

​

​

ลองพิมพ์ เป็น โลหะตะกั่ว
ขอนำภาพ มานำเสนอ ให้พวกเราได้ยลกัน นะครับ

บุญ สร้างเหรียญ สมเด็จพระพุทธโมกข์
รุ่น มงคลเศรษฐี 5,598 เหรียญ

เพื่อร่วมกองบุญกฐินทาน

วันสิ้นสุด การจอง
ภายใน วันที่ 20 ตุลาคม 2553

เราต้อง "ทุน" เพื่อใช้ในการนี้
จึงต้องมี "ปัจจัย" เข้ามาก่อน ที่จะสั่ง กดพิมพ์
หากไม่มี เงินทุน ก็จะสั่งได้ลำบาก

การโอนเงิน เข้ามาเร็ว
จึงสำคัญยิ่ง

ชื่อบัญชี ในร่วมบุญ….
(จะรายงานยอดเงินบุญ ทุกสัปดาห์)

ธนาคาร ไทยพาณิชย์ สาขาตลาดยิ่งเจริญ

ชื่อบัญชี มหาหิน มีเนตร์ขำ
บ/ช ออมทรัพย์ 181-225239-4

......................................................................................................................................

ท่านที่ร่วมงานบุญเป็นเจ้าภาพต้นทุนสร้างเหรียญ สมเด็จพระพุทธโมกข์
ที่ได้ดำเนินการ โอนเงินบุญเข้ามาแล้ว นั้น....

โปรดแจ้ง ที่อยู่ ให้กระผมได้ทราบ ด้วยนะครับ
หากแจ้ง ลำดับที่ ที่ผมแจงตารางบุญ ก็จะขอบพระคุณยิ่ง (ทำให้หาได้ง่าย)

เหรียญ สำหรับแจกให้ กรรมการ
คาดว่า น่าจะสามารถจัดส่งมาถึงพวกเรา ในปลายเดือน พ.ย.นี้

สำหรับท่านที่ ยังไม่ได้ลงชื่อจอง
หรือ จองแล้ว
แต่หากว่า ยังไม่ได้โอนเงินเข้ามา

หากเป็นไปได้
โปรดช่วยเหลือกัน โอนเงินเข้ามา
ภายในวันที่ 20 ต.ต.53 คือว่า.. ยิ่งเร็วก็คงจะยิ่งดี

เพราะว่า ยังมีค่าใช้จ่ายที่ค้างอยู่อีกหลายอย่าง
- ค่าสร้างเหรียญ อีกประมาณ 150,000 บาท
- ค่ากล่องบรรจุ ค่าทำโค๊ด ตอกโค๊ด อีกประมาณ 20,000 บาท

และ ตั้งใจจะเดินทาง นำเหรียญฯ ทั้งหมด ไปที่วัดฯ
ในวันศุกร์ ที่ 29 ต.ค.53 นี้
เพื่อท่านพระอาจารย์ หลวงพ่อหนุนฯ จะได้ทำพิธีพุทธาภิเษก

จึงขอเรียนมา เพื่อ..
ได้ช่วยกันสร้าง วิถีทางแห่งความสำเร็จ นะครับ

ขอน้อมโมทนาอย่างยอดยิ่ง

มหาหิน มีเนตร์ขำ
โทร.081-1700 567

................................................................................................................................................<!-- google_ad_section_end -->

 

<TABLE class=tborder id=post3886339 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 0px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid">07-10-2010, 07:46 PM </TD><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 0px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid" align=right> #2403 </TD></TR><TR vAlign=top><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 0px solid" width=175><!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->อนูดิน<!-- google_ad_section_end --><SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_3886339", true); </SCRIPT>
สมาชิก



วันที่สมัคร: Nov 2007
ข้อความ: 587
Groans: 2
Groaned at 4 Times in 2 Posts
ได้ให้อนุโมทนา: 4,107
ได้รับอนุโมทนา 6,986 ครั้ง ใน 651 โพส
พลังการให้คะแนน: 199


</TD><TD class=alt1 id=td_post_3886339 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid"><!-- google_ad_section_start -->อ้างอิง:
<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: 1px inset; BORDER-TOP: 1px inset; BORDER-LEFT: 1px inset; BORDER-BOTTOM: 1px inset">ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ มหาหิน
มงกุฏเพชร<!-- google_ad_section_end --><SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_3836906", true); </SCRIPT>
สมาชิก PREMIUM

ตามโพส ลำดับที่ 241 ของ....
http://palungjit.org/threads/กฐิน-20-วัด-บุญสร้างเหรียญสมเด็จพระพุทธโมกข์-มงคลเศรษฐี-เนื้อทองคำ-เงิน-นวะ-และทองแดง.255335/page-13

กระผม ขอเติมข้อมูลของ หลวงพ่อหนุน อีกนิดนะครับ

คือ หลวงพ่อหนุน นี่..
ท่านไม่ได้สรงน้ำมาเกิน 10 กว่าปี แล้วครับ

แต่น่าแปลก และอัศจรรย์มาก
ที่ ท่าน ไม่มีกลิ่นเหม็นใด ๆ เลย

แม้กระทั่ง สบงจีวรนาน ๆ ท่านจะซัก หรือเปลี่ยนที
บางที สบงจีวรท่านเก่า ขาดแล้วขาดอีก ปะแล้วปะอีก

ผมเคยเอามาดมดู กลับไม่มี กลิ่นสาป หรือ เหม็นใด ๆ เลย

มีอยู่วันหนึ่ง หลวงตาน้อย ขออนุญาต หลวงพ่อหนุน
จะเอาจีวรของท่านไปซักให้

ก่อนซัก เอามาให้ผมดม
แล้วบอกว่า นี่ จีวรครูบาอาจารย์ กลิ่นเป็นอย่างไรบ้าง

ผม ดมแล้ว ไม่มีกลิ่นเหม็น
แต่กลับเป็นกลิ่นเย็น ๆ บอกไม่ถูก

หลวงตาน้อย บอกว่า ไม่ได้ซักมานานแล้ว

ผมฟังแล้ว ทึ่ง เลย
ปกติ ผ้าที่เราสวมใส่กันเกิน 3 วัน 7 วัน ก็มีกลิ่นเหม็นอับแล้ว

แต่นี่ น้ำ ท่านก็ไม่ได้อาบมา 10 กว่าปี

กลิ่นตัว ก็ไม่มี น่าอัศจรรย์ ไหมล่ะครับ

.......................................................................................................................................................<!-- google_ad_section_end -->
</TD></TR></TBODY></TABLE>
ตามตำราว่าไว้ว่า บุคคลผู้คล่องในสติปัฎฐานสี่ กลิ่นกายจะไม่มีครับ
ตามความเห็นผมคือ "เป็นผู้มีสติสัมปชัญญะบริบูรณ์สมบูรณ์พร้อม"

ปล. พี่มหาหินครับ ไม่ทราบว่า ปิดบัญชีโคมไฟระย้า แล้วหรือยังครับ
(ไม่ทราบว่า จะร่วมบุญได้อีก หรือไม่)<!-- google_ad_section_end -->
</TD></TR></TBODY></TABLE>Link จาก....
http://palungjit.org/threads/★บุญโคมไฟระย้าดวงเอก☼-ดวงรอง-۩-วิหารแก้ว☆สมเด็จองค์ปฐม♥-ณ-วัดพระพุทธบาทห้วยต้ม.126120/page-121

...................................................................................................................................................................................

 

ทำบุญด้วยเงินน้อยๆ
“หลวงพ่อครับ การทำบุญวิหารทาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเคยร่วมกุศลไปกับวิหารแก้ว 100เมตร ของวัดท่าซุง ที่กระผมสงสัยก็คือว่า ทำน้อยเกินไปไม่ถึงหมื่นบาท คนอื่นเขาทำเป็นแสนๆ แสดงว่าอานิสงส์ที่ผมได้ก็คงจะน้อยกว่าเขามากไหมขอรับ ผมเสียใจอยากจะทำต่อไปอีก แต่ว่าการเงินไม่สะดวกเลยขอรับ....?”
เอางี้ก็แล้วกัน ตายไปก็มีวิมานแก้วเหมือนกัน แต่หลังเล็กหน่อย
“มีวิมานเหมือนกัน แต่ว่าเล็กไปหน่อย”
ใช่ๆ มีวิมานเหมือนกัน ถ้าตายไปเกิดเป็นคนก็จะมีปราสาทแก้ว 7 ประการอย่างโชติกเศรษฐีเขาสร้าง
“รูปแปลนแผนผังนี่หลวงพ่อคิดเองหรือมาไงไปไงครับ.....?”
ก็ คิดเอง แต่ไม่ได้ทำเองช่างเขาทำ คือว่าพระพุทธเจ้าท่านสั่งน่ะ ส่วนสัดต่างๆนี่สั่งหมด ฉันไม่ต้องคิดอะไรเลย จะเอาแบบไหนท่านสั่งแต่เพียงผู้เดียว
“เวลาสั่งมีภาพแสดงให้เห็น”
ใช่ มีภาพให้ดู
“มิน่าเล่า ดีไซน์แบบออกมา พุทธแบบถึงได้สวยใหญ่”
ใช่
ที่วัดท่าซุงนี่ส่วนมากจะเป็นแบบของพระพุทธเจ้า ตั้งแต่ปี 21 พุทธแบบ เพราะตอนนั้นฉันจะเลิกสร้าง แต่ท่านให้สร้างต่อ บอกท่านว่าการเงินไม่มี ท่านบอกไม่เป็นไรฉันจะหาเอง ตั้งแต่ปี 21 เป็นต้นมาใครทำบุญถือว่าทำบุญตรงกับพระพุทธเจ้า
“เพราะว่าเป็นงานของพระองค์ท่าน”
ใช่ ท่านหาสตังค์ด้วย จะโกงก็ไม่ได้นะ รู้ด้วย อย่างมาที่นี่ (บ้านสายลม) จะได้เท่าไหร่บอกมาเสร็จ...................

จากหนังสือธรรมปฏิบัติ เล่มที่26 __________________

 

การบำเพ็ญบุญ ที่นานนับเนื่องมาแต่อดีต ของพวกเราทั้งหลาย
จะเป็นไปตาม ความเนื่องกันมาของแต่ละบุคคล แต่ละคณะ....

หมายถึง ว่า..
ในอดีตชาติ ที่ผ่านพ้นมา นั้น..
กว่าที่ พวกเรา จะพอเข้าถึงธรรม ชอบฟังธรรม ชอบปฏิบัติในข้อธรรม

พวกเรา ต้องผ่าน การว่ายเวียน เกิด ตาย กันมาแล้ว นับชาติไม่ถ้วนทั่ว
มันเป็น ล้าน ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ยกกำลัง ล้าน ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ นับไม่ถ้วน

บางคน ก็อาจจะแย้ง ว่า จะจริงหรือ.. คุณรู้ได้อย่างไร....
เพราะว่า หาก ตัวเรา ไม่บรรลุธรรม ย่อมจะไม่เห็นธรรม นั้น
ดังนั้น เรื่องที่กระผม ไม่รู้ นั้น.. ก็คงจะจริง..

แต่ทว่า ผมเอง มีความมั่นใจในความคิดเห็นที่ถูกต้อง
เป็น สัมมาทิฐิ คือ น้อมจิต คิดเชื่อในพระธรรม คำตรัสสอน

ดังนั้น เรื่องที่กระผม กล่าวเกริ่นไว้ ก็มีมาในพระไตรปิฎก
หากว่า ใครไม่เชื่อในพระไตรปิฎก.. อย่างนี้ ก็คงไม่ได้คุยกัน

ความที่เนื่องด้วยการปฏิบัติธรรม กว่าที่จะบรรลุถึง พระนิพพาน

สาวกภูมิ ต้องบำเพ็ญบารมี อย่างน้อย 1 อสงไข กำไรแสนกัป

พระอัครสาวก ต้องบำเพ็ญบารมี อย่างน้อย 2 อสงไข กำไรแสนกัป

พระพุทธเจ้า ปัญญาบารมี ต้องบำเพ็ญอย่างน้อย 4 อสงไข กำไรแสนกัป
พระพุทธเจ้า ศรัทธาบารมี ต้องบำเพ็ญอย่างน้อย 8 อสงไข กำไรแสนกัป
พระพุทธเจ้า วิริยาบารมี ต้องบำเพ็ญอย่างน้อย 16 อสงไข กำไรแสนกัป

มีสมเด็จองค์ปฐม เท่านั้น ที่บำเพ็ญพระบารมี ถึง 40 อสงไข กำไรแสนกัป

ทีนี้ เรามาดูอย่าง พวกเรา ๆ ที่เป็น สาวกภูมิ
ต้องบำเพ็ญ 1 อสงไข กำไรแสนกัป นานไหม

ก็ต้องมาดู ที่หน่วยนับ 1 กัป (ไม่ใช่ อสงไขกัป) กันก่อน
ห้วงระยะเวลา 1 กัป นั้น นานแค่ไหน.. กี่ปี กันล่ะ

ตามพระไตรปิฎก ท่านเปรียบเทียบไว้หลายตัวอย่าง
ผมขอยกมา 1 ตัวอย่าง เพื่อให้เห็นภาพได้ง่ายขึ้น..

สมเด็จพระจองไตรฯ ท่านเปรียบเทียบ ไว้ว่า..
ห้วงระยะเวลา 1 กัป นั้น เปรียบเทีบกับ ว่า..

มี ถัง สี่เหลี่ยม กว้าง ยาว สูง ด้านละ 16 กิโลเมตร (1 โยชน์)
ภายใน ถัง บรรจุ เมล็ดพันธุ์ผักกาด (เล็กกว่า เมล็ดงา) ไว้ เต็มเปี่ยม
เมื่อเวลาผ่านพ้นไป 100 ปี ให้หยิบเมล็ดพันธุ์ผักกาด ออกไป 1 เมล็ด
ครบอีก 100 ปี ก็ให้หยิบเมล็ดพันธุ์ผักกาด ออกไป 1 เมล็ด
คือ ทุก ๆ 100 ปี ให้หยิบเมล็ดพันธุ์ผักกาด ออกไป 1 เมล็ด

หยิบไป กี่ปี.. เมล็ดพันธุ์ผักกาด จะหมดสิ้นไป.. นี่คือ ระยะเวลา 1 กัป
(นับ ปี ไม่ได้ ใช่ไหม ครับ)

แล้ว 1 อสงไข ล่ะ มีกี่ "กัป"

ที่อธิบายไว้ว่า 1 กัป.. นับปี ไม่ได้ นั้น
ทำนองเดียวกัน จำนวน 1 อสงไข.. ก็นับ กัป ไม่ได้....

ดังนั้น ลองคิดดูว่า..
นับปีไม่ได้ คูณด้วย นับปีไม่ได้ จะเป็น เท่าไร

ที่สำคัญกว่า....
จำนวนปี ที่นับมาทั้งหมดนี้ จะนับเฉพาะห้วงเวลาที่มีขันธ์ 5 เท่านั้น

หมายความว่า..
หากเรา ไปตกนรก ขึ้นสวรรค์ อยู่พรหม นานนนนน เพียงใด.. ก็ไม่นับรวม
จะนับเฉพาะที่เกิดมามีร่างกาย มีขันธ์ 5 เกิดอยู่ได้กี่ปี ตายไป ก็เก็บสะสมไว้
เกิดมาอีก กี่ปี.. ก็เก็บสะสมไว้อีก.. จนกว่า....

จะสามารถนับรวมได้ ครบ
(อันนี้ เขาก็นับเฉพาะในห้วงเวลาของ ปรมัตถบารมี เท่านั้นเอง)

ค่อย ๆ คิดดูว่า..
เราต้องเกิด ตาย กันกี่ครั้ง.. กี่ชาติ..
เกิดครั้งหนึ่งทุกข์เพียงใด เสียใจกี่ครั้ง ทรมานกายมากไหม....

แล้ว พวกเรา ยังอยากเกิด กันอีกไหม.. หรือว่า สนุกดี....

อันนี้.. ก็จะบอกให้ทุกคน "เบื่อเกิด" กันได้ทุกคน.. ก้เป็นไปไม่ได้
มันขึ้นอยู่กับ บารมี ของแต่ละคน ที่สะสมกันมามาก น้อย เพียงใด
ใกล้ครบ 1 อสงไข เศษอีก 100,000 กัป กันหรือยัง..

ถ้ายัง.. ก็ต้องเดินหน้า.. ฟันฝ่า กันไป ใช่ไหมครับ

ที่อธิบาย ข้อนี้มา เพียงเพื่อว่า....
ให้มองเห็นวิถีทางของพวกเรา ที่ต่างก็มุ่งหน้าฝ่าทะเลทุกข์
เพื่อเดินทางไปสู่ พระนิพพาน ให้ถึง ให้จงได้....

การเดินทาง คงเป็นไปไม่ได้ ที่เราจะโดดเดี่ยว เดินไปเพียงลำพัง
เกิดแต่ละครั้ง เดินทางแต่ละหน เราก็ต้องมีเพื่อร่วมเดินทาง เช่น..
พ่อ แม่ พี่ น้อง ญาติมิตร และ/หรือ คนที่ไปพบกันระหว่างทาง....
ร่วมเดินทางไปด้วยกัน คือ ร่วมทำบุญไว้ด้วยกัน หรือเป็นญาติกัน..

บุคคลที่เนื่องกันมา ก็คือ คนที่ร่วมทำบุญไว้ด้วยกัน เป็นญาติกันมา นั่นเอง

เมื่อเกิดมาก คนที่ร่วมทำบุญไว้ด้วยกัน เป็นญาติกัน ก็มีมาก เช่นกัน
ซึ่งจะเห็นว่า คณะใหญ่ ๆ ที่เป็นพุทธภูมิมาก่อน คนที่เนื่องกัน ก็ยิ่งมาก เช่น
หลวงปู่มั่นฯ หลวงปู่แหวน พระเดชพระคุณองค์หลวงพ่อฯ เป็นต้น

บางที เราก็จะไปแบ่งกันว่า สายโน้น สายนี้ อิสาน เหนือ ใต้ เป็นต้น
จริง ๆ แล้ว องค์หลวงพ่อฯ ท่านได้กล่าว ว่า.. ต่างก็คณะเดียวกัน คือ..
ในพระศาสนาของพระพุทธเจ้า พระองค์เดียวกัน เหมือนกัน คณะเดียวกัน คือ..
คณะของ พระพุทธเจ้า นั้นเอง

แต่ที่แบ่งว่า สายโน้น สายนี้ ก็เพราะว่า....

หากไม่เคยเนื่องกันมา ก็จะไม่เกิดความศรัทธาแก่กัน
พูดสิ่งใดมา ก็จะมีความรู้สึกว่า ไม่เข้าใจ
ต้องเป็นคนในคณะเดียวกัน จึงจะพูดกัน รู้เรื่อง....

เรื่องนี้ เคยได้รับฟังจาก พระเดชพระคุณ ท่านพระครูปลัดฯ
ท่านเจ้าอาวาส วัดท่าซุง เปรียบเทียไว้ ในทำนอง ว่า....

พระสุปฏิปันโน แต่ละท่าน ท่านสอนตรง สอนถูก ให้ไปพระนิพพาน ทั้งนั้น
แต่ทว่า บางทีเราไปพบ ไปอ่าน คำสอน คำแนะนำ แล้ว ไม่ค่อยเข้าใจ....
เหมือนกับว่า แกงอย่างเดียวกัน แต่..ถ้วยนี้ อร่อย.. ถ้วยนั้น ไม่อร่อย..
ใครชอบถ้วยไหน ก็กินถ้วยนั้น.. ก็ อิ่ม เหมือนกัน.

เมื่อพวกเรา ทราบ ระลึก คำนึง พิจารณา ให้ถ่องแท้แล้ว
ก็พึงมีความเมตตา กรุณา มุทิตา อุเบกขา แก่กันและกัน

ใคร เขา ที่เข้ามาเห็นเรื่องของเราปฏบัติ ประกอบกิจ บำเพ็ญเพียร
ก็อาจจะ ไม่เข้าใจ มีข้อคัดแย้งบ้าง เป็นธรรมดาวิสัย ใช่ไหมครับ

ที่เขาว่ามา จริงบ้าง ไม่จริงก็ดี..
หากเราตามติด.. อารมณ์จิต ติดเกาะในเรื่องนั้น ๆ
ใจเราก็จะหมอง.. ช่างมัน.. นี่เป็น คาถา ที่องค์หลวงพ่อฯ แนะนำไว้

หากเรามี "ช่างมัน" เสมอ ๆ นั้นก็คือ จะสามารถทรง อุเบกขารมณ์
ได้เป็น ปกติ.. อย่างนี้ ก็ใกล้ พระนิพพาน เต็มที

ส่วนที่เขาพูดมา ว่ามา กระทบกระเทียบ เปรียบเปรยมา..
กรรมดี.. กรรมชั่ว.. ก็เป็นเรื่องของใคร ก้ของมัน

องค์หลวงพ่อฯ ก็แนะนำ ให้ตามดูจิตของเรา เท่านั้น
จิตของเรา ยังคุมไม่ได้.. จะไปพูดต่อความยาว สอนจิตคนอื่น จะได้หรือ..

แต่ทว่า หากจะอธิบาย ข้อความจริง..
ก็พึงอธิบายไปได้ โดยมี พรหมวิหารธรรม คอยเกื้อหนุนส่ง

พูดอธิบาย เพื่อรักษาประโยชน์ของเขา อย่าให้เขาหมองเพิ่มไปอีก
ไม่พึง พูดกระทบ กระเทียบ แดกดัน มันก็มีแต่หมอง ร้อนแรงยิ่งขึ้น

เหมือนไฟลุกโชนอยู่ เราเติมฟืน เติมน้ำมันเข้าไป ไฟกองนั้นก็ร้อนยิ่งขึ้น
เรายืนอยู่ใกล้ ก็พลอยร้อน เพิ่มขึ้น ไปด้วย

คิดเสียว่า หากเขา เรา ไม่เนื่องกันมาก่อน ก็พูดกันไม่ใคร่จะรู้เรื่อง
หากเราจะไปพระนิพพาน.. เขาไม่ไป ก็เป็นเรื่องของเขา.. เราพึงเฉย

หากว่าเรา ยังไม่อยากไปพระนิพพาน
ทางที่ดี ก็ชวนเขา ทำบุญไว้กะเราเสียเลย

ชาตินี้ พูดไม่เข้าใจ
ชาติต่อไป จะได้คุยกันรู้เรื่อง เนื่องกันมาแล้ว..

วางแผนข้ามภพ ข้ามชาติ.. อย่างนี้ จะดีไหม

เอ้า.. ก็เป็นเรื่องของพวกเรา จะไปคิดต่อกันเอง
ตามวิสัยบารมี ของใคร ก็ของมัน.. ใช่ไหมครับ.

....................................................................................................................................................<!-- google_ad_section_end --> <!-- / message --><!-- sig --><!-- google_ad_section_end --><!-- / message --><!-- sig -->

 

ห้วงเวลาในอดีต....
(ณ ที่บ้านสายลม)

ท่านอาจารย์ยกทรง (วีระ งามขำ) ได้กราบเรียนถามองค์หลวงพ่อฯ ว่า..

"..หลวงพ่อครับ อานิสงส์ การสร้างพระพุทธรูปสมเด็จองค์ปฐม
เปรียบเทียบกับ สมเด็จองค์ปัจจุบัน จะแตกต่างกันไหม.."

องค์หลวงพ่อฯ ท่านเมตตา ตอบ ในทำนองว่า..
"..ก็เหมือน ๆ กันแหละ พระพุทธเจ้าเหมือนกัน ใช่ไหม..
เพียงแต่ หากทำบุญที่เนื่องด้วยกับ สมเด็จองค์ปฐม
อานิสงส์ จะไป พระนิพพาน เร็วมาก เป็นทางตรง.."

..................................................................................................................................................<!-- google_ad_section_end -->

 

มหาเจดีย์ชัยมงคล (หลวงปู่ศรีฯ)
​

วันที่ 20 พฤศจิกายน 2553 <O</O
ทอดกฐิน ณ วัดพุทธโมกข์ โพนนาแก้ว สกลนคร (พระอาจารย์หนุนฯ)<O</O
(เดินทาง วันที่ วันที่ 19 พฤศจิกายน 2553)<O</O
เวลา 20.00 น. เดินทางออกจาก กทม. (การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค) ลาดยาว บางเขน<O</O
(ค่ารถปรับอากาศ VIP สำหรับการเดินทาง 1,500 บาท คุณวิชัยฯ โทร.089-6860043)

มหาบุญราศี เร่งรัดบารมี

1. บุญ กฐินทาน 3 วัด
2. บุญ เนื่องด้วย มหาเจดีย์ชัยมงคล (หลวงปู่ศรีฯ)
3. บุญ ไถ่ชีวิค โค-กระบือ 109 ตัว
4. บุญ ลอยกระทง

ทัวร์บุญ ในครั้งนี้ ได้รับความเมตตาจาก.... <O</O
พระคุณเจ้าพระครูสมุห์พิชิตฯ (โอ) วัดท่าซุง<O</O
พระคุณเจ้าชัยวัฒน์ฯ วัดท่าซุง<O</O
ร่วมเดินทาง บำเพ็ญบุญ

วันที่ 19 พฤศจิกายน 2553<O</O
เวลา 20.00 น. เดินทางออกจาก กทม. (การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค) ลาดยาว บางเขน

วันที่ 20 พฤศจิกายน 2553 <O</O
เวลา 10.00 น. ทอดกฐิน ณ วัดพุทธโมกข์ โพนนาแก้ว สกลนคร (พระอาจารย์หนุนฯ)<O</O
เวลา 15.00 น. แวะร่วมบุญ เจดีย์ชัยมงคล (หลวงปู่ศรี มหาวีโร) จังหวัดร้อยเอ็ด<O</O
เวลา 17.00 น. ทอดกฐิน ณ วัดป่าแสนธรรมคำวงศ์ โพนทอง ร้อยเอ็ด
<O</Oพักค้างแรม ที่วัดฯ หรือ รีสอร์ท (ต้องแจ้งประสาน กับ คุณ<?xml:namespace prefix = st1 ns = "urn:schemas-microsoft-com</st1ersonName>วิชัย คุ้มวัน)

<O</Oวันที่ 21 พฤศจิกายน 2553 <O</O
รับประทานอาหารเช้า แล้ว<O</O
เวลา 10.00 น.ทอดกฐิน และ ไถ่ชีวิต โค-กระบือ 109 ตัว<O</O
ณ วัดป่าสันติวนาวาส (วัดป่าหนองกุง) เสลภูมิ ร้อยเอ็ด<O</O
เวลา 20.00 น. ร่วมงานบุญ ลอยกระทง ณ หนองน้ำบุ่งตาหลั่ว นครราชสีมา<O</O
เวลา 24.00 น. กลับถึง กทม. โดยสวัสดิภาพ

<O</Oกำหนดการ อาจจะมีการเปลี่ยนแปลงตามความเหมาะสม

<O</Oสนใจร่วมเดินทางไปในงานบุญ ในครั้งนี้ ติดต่อ ได้ที่….
<O</Oคุณ<st1ersonName w:st="on" ProductID="วิชัย คุ้มวัน">วิชัย คุ้มวัน</st1ersonName> โทร. 089-6860043
<O</Oค่ารถปรับอากาศ VIP สำหรับการเดินทาง 1,500 บาท
<O</Oพักค้างแรม ที่วัดฯ หรือ รีสอร์ท<O</O
(ต้องแจ้งประสาน กับ คุณวิชัยฯ มีค่าที่พักเพิ่ม หากพักแรมที่รีสอร์ท)

<O</Oรายได้ ที่เหลือจากค่าใช้จ่าย
จะได้นำน้อมถวายเป็น ค่าอาหาร และชำระหนี้สงฆ์ต่าง ๆ<O</O

..................................................................................................................................................

 

หวัดดีครับ พี่แอ๊ด.................................

 

​

 

​

 

​

 

​

 

​

 

​

 

​

 

​