ประวัติ แม่ชี ณัฐทิพย์ ตนุพันธ์ พอสังเขป

ในห้อง 'พุทธศาสนา และ ธรรมะ' ตั้งกระทู้โดย hongsanart, 15 สิงหาคม 2006.

  1. อักขรสัญจร

    อักขรสัญจร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    4,514
    ค่าพลัง:
    +27,181
    อิอิ เริ่มมากันใหญ่แล้ว
     
  2. MOUNTAIN

    MOUNTAIN เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    15,035
    ค่าพลัง:
    +132,081
    ตามกลิ่นพี่ฝุ่นมาครับ(b-oneeye)
     
  3. MOUNTAIN

    MOUNTAIN เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    15,035
    ค่าพลัง:
    +132,081
    แม่ชีมายัง...............[​IMG]...เหอ..ยังไม่มา
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 95702fm9.gif
      95702fm9.gif
      ขนาดไฟล์:
      6.4 KB
      เปิดดู:
      1,321
    • 9011-10.jpg
      9011-10.jpg
      ขนาดไฟล์:
      5.9 KB
      เปิดดู:
      110
    • 20067291244571.gif
      20067291244571.gif
      ขนาดไฟล์:
      15 KB
      เปิดดู:
      1,317
  4. อักขรสัญจร

    อักขรสัญจร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    4,514
    ค่าพลัง:
    +27,181
    ข้าวโพดคั่วมั้ยฮะ
     
  5. kanlayanee

    kanlayanee เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 ธันวาคม 2006
    โพสต์:
    127
    ค่าพลัง:
    +399
    มารอเหมือนกัน โฆษณานานจัง เลยช่องเนี้ย
     
  6. MOUNTAIN

    MOUNTAIN เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    15,035
    ค่าพลัง:
    +132,081
    การ์ตูนคั่นรายการ ฮับ[​IMG]
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  7. MEW

    MEW เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    301
    ค่าพลัง:
    +1,237
    คั่นรายการด้วยอีกคนจ้า!!!

    ระหว่างรอ...ดูรูปกันไปพลางๆ ก่อนนะคร้าบบบบ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 27 มิถุนายน 2007
  8. hongsanart

    hongsanart เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มิถุนายน 2005
    โพสต์:
    1,332
    ค่าพลัง:
    +10,468
    เจริญธรรม...
    ประวัติตอนที่ 25 (ตอนจบ)

    เมื่อซื้อที่ดินพร้อมบ้านในเกาะยอ จังหวัดสงขลา จำนวนสองไร่ มัดจำเงินเจ้าของที่ไป เฮ้ย...มีแต่เรื่องทำให้วุ่นวายใจทุกวัน คนโน้นก็จะเอาอย่างนี้ คนนี้ก็จะเอาอย่างนั้น "จะให้แม่ชีตามใจทุกคนนั้นไม่ได้หรอก"

    "แปลกจริงๆ ทำไมไม่มีใครตามใจเราบ้างเลย" แม่ชีบ่นออกมาดังๆและก็บ่นในใจ บ่นเท่าไรก็ไม่มีใครฟัง เฮ้อ...

    สุดท้ายมีปัญหามากมาย เบื่อมากกับควายและหนูปนกัน (คน) อยากจะทิ้งแล้วหนีไปให้ไกลๆ แต่ก็ทำไม่ได้
    เพราะความรับผิดชอบมีมากกว่า บ่นมันทุกวันจนน้องชายและลูกศิษย์ติดสามีหนีกันไปหมด "นี่แหละหนา

    ยามเขาเดือดร้อนมีที่ผ่อนบรรเทาให้เขาหายทุกข์ คือเรา ยามเราเดือดร้อนจะหาที่ซุกให้หายร้อนตรงไหนเล่า?

    อัตตาหิ อัตตะโน นาโถ. นึกถึงคำสอนของพระพุทธศาสนาแล้วต้องยกนิ้วให้ สุดยอดและเยี่ยมจริงๆ นี่คือความงามของคำสอน ที่ไม่เคยตายเลย

    กลับไปดูที่บนเขาวัดอุทัยธรรมาราม ใจหายเหมือนกัน เหล่าผู้คิดว่าที่ดินของตน ขุดและไถดิน จนแหว่งเกือบหมดภูเขา
    กุฏิจะร่วง จะพังลงมาตามดินที่ไหลลงมา เฮ้อ!!!เวรกรรมอีกแล้ว คิดในใจ เอาละหว๋า!!!! เดินหน้าลูกเดียว

    "เรารึสอนลูกหลานของพวกเขาให้รักแผ่นดิน ตอบแทนคุณของแผ่นดินและธรรมชาติ เหนื่อยแทบตาย พวกผู้ใหญ่เห็นแก่ได้
    ไถเอาๆ ดี...สร้างความเจริญให้ แต่พวกเขาทำลาย ถ้าอย่างนั้น ช่างหัวมัน..."


    คืนหนึ่งขณะเก็กซิม ยืนคิดอะไรเพลินๆที่ระเบียงบ้าน บนเกาะยอ เห็นใครก็ไม่รู้ดูแปลกๆ แต่งตัวเหมือนพระเอกลิเก
    เสื้อก็ไม่ใส่ มีสร้อยสังวาลพาดบ่า ดูหน้าตาก็หล่อดีเหมือนกัน ท่านพูดว่า
    "แม่ชีเอ๋ย...อย่าวุ่นวายใจไปเลย สร้างเราสิ เราจะช่วยเจ้าเอง"

    แม่ชีจึงย้อนถามไปว่า "ท่านเป็นใครกัน?" "เราคือพระเจ้าศรีธรรมาโศก เจ้าเมืองนครศรีธรรมราช

    เราไม่ได้ชื่อจตุคามสักหน่อย คนเรียกเราอย่างนั้น เจ้าสร้างเราเถอะ แต่ต้องสร้างรูปเรา คือ มือขวาถือพระขันธ์
    มือซ้ายถือจักร ""อ้าว!!! ท่านจะเป็นพระศรีอริยเมตไตรหรือ?" แม่ชีย้อนถาม "เราหวังเช่นนั้น เมื่อสร้างเราและสร้างที่แห่งนี้แล้ว
    จงอุทิศอานิสงค์นี้แก่เรานะ" "ได้เจ้าค่ะ" แม่ชีรับปาก

    หลังจากนั้นมาก็เตรียมวางแผนสร้างจตุคามกับลูกศิษย์ แม่ชีจึงคิดว่า "ถ้าสร้างจตุคามอย่างเดียวจะกระไรอยู่
    จึงสร้างพระพุทธเจ้าทรงเครื่องใหญ่ และพระแม่กวนอิมฯไปด้วย" ทุกฝ่ายตกลงตามแม่ชี

    ได้มวลสารในการสร้างมากมายทั่วจักรวาล ประมาณ 3,000 กว่าชนิด ในวันงานก็ยังกังวลมาก

    พระที่จะนิมนต์มาสวดและร่วมในพิธีมาไม่ได้ เนื่องจากติดวันวิสาขบูชา ตายละหว๋า!!! จะทำอย่างไรดี?

    ไม่กี่วันมีผู้คนเข้ามาถามว่าจะให้ช่วยอะไร? ตกลงมีคนมาช่วยมากมาย คนนั้นติดต่อพระ คนนี้ติดต่อเครื่องใช้
    คนกรุงเทพฯก็ประสานงานต่างๆกันตลอด เจ้าหน้าเรื่องบล๊อกก็วิ่งกันจ้าละหวั่น คนผสมมวลสารก็สนุกกับ
    การบด การหั่น การปั่น ส่วนแม่ชีก็เหมือนทศกัณฑ์ ทั้งวิ่งทั้งเดินสายยิ่งกว่านักร้องลูกทุ่งเสียอีก เดี๋ยวไปโผล่ที่โน่นที่นี่ ก็ได้รสชาติไปอีกแบบ

    ระลึกถึงพระเดชพระคุณ พระที่คิดว่าเป็นพระจริงๆ จึงโทรหากันจ้าละหวั่น ทุกท่านก็เมตตาแม่ชีมาก ไม่ต้องคิดมาก
    รับปากรับคำทันที (ไม่เสียทีที่คิดถึง ฮ้าๆๆๆ)

    คนที่มาไม่ได้ก็ส่งมวลสาร ส่งกำลังใจมาให้ไม่ขาดสาย

    ถึงวันพิธีท้องฟ้ามืดครึ้มมาแต่ไกล ลมหอบเอาฝนกลุ่มใหญ่มาทิ้งไว้ก่อนพิธีเริ่ม ตกมาห่าใหญ่
    พลันก็หายไปเหมือนปลิดทิ้ง (แปลกแต่จริง) พระที่คิดว่ามาไม่ได้ อยู่ๆท่านก็โผล่มา กลายเป็นว่า พระที่เจริญพระพุทธมนต์
    มีถึง 12 รูป นั่งปรกอีก 4 รูป หวยงวดนั้นเลยออกตรงๆเลย ญาติโยมผู้มีโชคต่างได้เงินใช้กันไปตามๆกัน
    แหม๋!!! ไม่บอกเรามั่ง? เฮ้อ!!!ตั้งแต่บวชมาไม่เคยมีลาภแบบนี้เลย ไม่รู้มันหายไปไหนหมด...แต่ช่างเถอะ ได้ลาภใหญ่ก็พอแล้ว

    ก่อนที่เรือจะออกจากฝั่ง เหมือนมีปาฏิหาริย์หรือเรือติดโคลนก็ว่าได้ เรือลำแรกแล่นออกไปไกล แต่เรือพิธีออกจากฝั่งไม่ได้
    เสียงวิพากษ์ วิจารย์มากมาย เช่น ท่านจตุคามยังไม่ให้ออกเพราะยังไม่ถึงฤกษ์ที่กำหนดไว้ บ้างก็ว่าหลวงปู่ทวด
    ให้เชิญท่านก่อน บ้างก็ว่าพระยานาคมาทำปาฏิหาริย์ บ้างก็ว่าสมณะเกาะยอให้รอก่อน แต่ใครก็ไม่รู้มากระซิบที่ข้างหูของแม่ชี

    บอกว่า "มึงลืมเชิญกูนี่หว่า" แม่ชีจึงถามว่า "ใครวะ?" "พ่อมึงไง" เสียงที่กระซิบข้างหูตะโกนใส่ แม่ชีจึงหยิบธูปโยนลง ทะเลบอกกล่าวเชิญเสียงนั้น เรือวนเหมือนกระทำประทักษิณา หลังจากนั้นก็แล่นออกไปได้ตามปกติ

    ระหว่างทำพิธีบนเรือ ญาติโยมและพระก็สนุกกันใหญ่ ตกลงพิธีนี้มีเสียงหัวเราะ รอยยิ้มและความประทับใจ
    ท้องฟ้าแจ่มใส พระอาทิตย์ทรงกลด ลมพัดสบาย ทั้งๆที่บริเวณใกล้เคียงมีฝนตกหนักมาก ในพิธีนี้ได้ทิ้งจตุคาม ลงในทะเลสาบหนึ่งลัง เซ่นเจ้าที่เจ้าทางกันหน่อย

    พิธีในวันนั้นจบลงด้วยดี มีผู้คนทะยอยกันมาจองวัตถุมงคลตามสมควร ได้ทำบุญ ได้ของที่ระลึก ก็นับว่าเป็นความงามของ ชาวพุทธและชาวไทยเรา ที่ไม่เคยแล้งน้ำใจ

    ทำให้แม่ชีมีกำลังใจมากขึ้น สละอุทิศตนที่จะทำประโยชน์
    เพื่อตอบแทนคุณแผ่นดิน ช่วยเหลือแบ่งปันความสุขและรอยยิ้มให้แก่พลโลกต่อไป จนกว่าลมหายใจจะสิ้น

    เมื่อนั้นก็สุดสิ้นการเดินทางของชีวิต รางวัลที่ได้ก็คือความสุขที่เป็นอมตะตลอดกาล

    มีปัญหายินดีให้น้ำคำ น้ำใจ ให้กำลังใจทุกเวลา ติดต่อได้ที่ ทิพยสถานธรรม 4/1 ม.7 ต.เกาะยอ อ.เมือง จ.สงขลา
    โทรฯ 074 - 450242 หรือ 081- 9590736 , 081- 8974149


    จบเรื่องราวชั่วขณะ แต่ชีวิตยังดำเนินต่อไป ขอให้ผู้อ่านโชคดีมีสุข ทุกข์น้อย สมหวังทุกประการ

    บุญรักษา ธรรมะสวัสดีค่ะ!!!!
     
  9. dont_worry

    dont_worry เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    107
    ค่าพลัง:
    +1,221
    ^^ กราบแม่ชีณัฐทิพย์ค่ะ อ่านแล้วยิ้มทุกทีเลยค่ะ
    แล้วมีภาคพิเศษมั้ยคะ อยากฟังอีกน่ะค่ะ
     
  10. sacrifar

    sacrifar เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    551
    ค่าพลัง:
    +3,221
    จบซะแล้ว วันหลังมีเรื่องอาไรหนุกๆก็มาเล่าบ้างนะครับแม่ชี
     
  11. MOUNTAIN

    MOUNTAIN เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    15,035
    ค่าพลัง:
    +132,081
    กราบโมทนาในเรื่องราวของแม่ชี..มีคติ..ได้ข้อคิด...เป็นกุศล อย่างมากๆๆๆๆ..สาธุๆๆ

    [​IMG] [​IMG] [​IMG]
     
  12. hongsanart

    hongsanart เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มิถุนายน 2005
    โพสต์:
    1,332
    ค่าพลัง:
    +10,468
    เจริญธรรม...

    ประวัติที่เล่ามานั้นเป็นเพียงบางส่วนเท่านั้น อยากให้เป็นอุทาหรณ์สำหรับผู้ที่ท้อในชีวิต
    ชีวิตของคนเรา ไม่ใช่ในละครที่จบเป็นตอนๆ ละครจบลงแล้วเปลี่ยนเรื่องใหม่ แต่ชีวิตของเรายังไม่จบลง เหมือนเรื่องในละคร ชีวิตยังดำเนินต่อไป

    ขอให้จำไว้เถิดว่า จงอย่าฟูมฟายกับชีวิตหนหลังที่ผ่านมา แม้จะเลวร้าย หรือดีเพียงใด มันก็ได้ผ่านมาแล้ว

    ขอให้เราเริ่มต้นใหม่ในวันนี้ ทำให้ดีที่สุด นั่นคือการแก้กับปัญหาที่กำลังเจอะเจอ อย่างผู้มีสติ

    ถ้าไม่รู้ก็ถามแนวทาง จากผู้มีประสบการณ์ แล้วนำมาดัดแปลงเพื่อให้เข้ากับตัวเรา

    สิ่งหนึ่งที่คนเราทำไม่ได้ นั่นเพราะความไม่เข้าใจ เนื่องจากไม่รู้ จงลดอคติเดิมๆและการต่อต้านที่ผิดลงเสีย วางใจให้
    เป็นกลางๆ เตือนตัวเองอยู่เสมอว่า

    "ต่อไปนี้เราจะดู หูจะฟังเรื่องราว จะอ่านอย่างผู้มีใจเป็นกลาง ไม่โอนเอียงเพราะรัก หรือชังในทุกเรื่อง เราจะพิจารณาอารมณ์ที่เกิดกับตัวเราเองก่อน ว่าเป็นอย่างไร? เมื่อเราเข้าใจกับอารมณ์ของเรา

    เมื่อนั้นเราจะเข้าใจธรรมชาติของคนได้เกือบทั้งหมด การปรับตัวย่อมเป็นการง่าย เมื่อเราเข้าใจ การปรับตัวเป็นสิ่งที่ผู้เจริญ
    ควรทำเป็นอย่างยิ่ง เพื่อความสงบสุขแห่งตนและคนรอบข้าง

    จงพยายามสะสมปัญญาที่ดีไว้ ปัญญาเป็นที่มาของการมีสติ
    สติก่อเกิดเป็นปัญญา ขอให้ทุกคนฝึกและสะสมการมีปัญญากันทุกท่าน

    บุญรักษา ธรรมะสวัสดี!!!
     
  13. อักขรสัญจร

    อักขรสัญจร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    4,514
    ค่าพลัง:
    +27,181
    ขอกราบขอบพระคุณในคำสอนขอรับ
     
  14. DevilBitch

    DevilBitch เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มกราคม 2005
    โพสต์:
    9,776
    ค่าพลัง:
    +36,838
    แม่ชีคะ เห็นว่าช่วงนี้เดินสายบรรยายธรรม พักผ่อนเพียงพอไหมเจ้าคะ
     
  15. hongsanart

    hongsanart เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มิถุนายน 2005
    โพสต์:
    1,332
    ค่าพลัง:
    +10,468
    เจริญธรรม...

    สาธุ!!!กับยายผีป่าที่เป็นห่วงแม่ชี ช่วงนี้มีสอนธรรมตามสถาบันพอสมควร
    กะว่าจะโก่งค่าตัวสักหน่อย เพราะค่าน้ำลายน้อยมากจ้า ฮ่าๆๆๆ

    ไปสอนธรรมร่วมกับพระ เห็นพระท่านพูดแต่เรื่องเรียกร้องโน่น เรียกร้องนี่ตลอด
    ขอสิทธิ์โน่นและขอสิทธิ์นี่ แม้กระทั่งเงินค่าเดินทางและค่าบรรยาย

    อยากจะบอกกับท่านว่า แม่ชีไม่เห็นอยากเรียกร้องอะไรเลย นั่นก็เพราะเราเลือกสถานภาพนี้เอง ไม่มีใครบังคับให้บวชสักหน่อย

    ข้อนี้แม่ชีได้สติ เพราะคำเตือนจากท่านหัวหน้าสถาบันแม่ชีไทย เพราะเคยบอกกับท่านให้เรียกร้องบ้าง
    ท่านกล่าวว่า "แม่ชี...ใครบังคับให้บวชล่ะ? เมื่อเต็มใจและเลือกสถานภาพนี้ แล้วจะโวยวายทำไม?
    ถ้าอยากจะเรียกร้องก็ลาสึกไปใช้สิทธิ์อย่างผู้อื่นเขาดีกว่า"

    คำกล่าวนั้นทำให้แม่ชีได้สติทันที จึงไม่เดือดร้อนเพราะไม่มีสิทธิ์อะไรเยี่ยงใครๆล่ะจ้า...
    ส่วนเรื่องประวัติที่เขียนมา 25 ตอนนั้นเป็นตอนที่ไม่ค่อยจะดีในสายตาของบางคน มีการกล่าวว่า
    "ประวัติไม่เห็นดีเลย อย่างนี้จะสอนคนอื่นให้ดีได้อย่างไร?"
    จะมีใครบ้างเล่าที่เอาประวัติที่ไม่ดีของตนมาเล่า มาบอกให้คนอื่นฟัง มีแต่เอาส่วนที่ดีนิดเดียว แต่ส่วนไม่ดีปิดบังไว้
    มองให้ดีจะมีข้อคิดมากมายในประวัติที่ดูเหมือนเลวร้ายนั้น ยังไม่จบหรอกนะ เพราะยังไม่ได้เขียนส่วนดีมากลงไป
    กลัวผู้อ่านจะว่า เว่อร์น่ะ ส่วนดีๆเยอะกว่าอีก ไม่อยากเล่าก็เท่านั้นเอง...

    ส่วนคนที่คิดว่าคนอื่นไม่ดีอุบาทว์ ก็ลองหันกลับมาดูความคิดของตัวเองดูสิว่า ดีหรืออุบาทว์กว่ากัน...
    เจตนาดีไม่มีเปลี่ยน ถึงแม้เขียน ไม่ดีไว้
    อ่านดีดี มีเหตุผล สะท้อนใจ ดีกว่าเขียน ดีเข้าไว้ แต่ใจทราม...

    เป็นกำลังใจกับกับผู้ที่คิดดีจ้า...
    บุญรักษา ธรรมะสวัสดี
     
  16. วังพญา

    วังพญา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    91
    ค่าพลัง:
    +373
    ขอกราบอนุโมนาสาธุด้วยเจ้าค่ะ อ่านเรื่องราวของแม่ชีแล้ว ได้ข้อคิดอะไรหลายอย่างจริงๆ อ่านแล้ววางไม่ลงเลยเจ้าค่ะ ว่าจะทำรายงานส่งอาจารย์ก็ต้องวางไว้ก่อน ขออ่านให้จบก่อน :)

    ก่อนหน้านี้เคยคิดไว้ว่า คนเป็นพระ เป็นชี ต้องมีชีวิตที่ไม่วุ่นวาย สงบ ยิ่งถ้าเป็นพระดีๆ เป็นแม่ชีดังๆ คงจะไม่มีเรื่องเกี่ยวกับการติฉินนินทา ไม่มีการใส่ร้ายป้ายสี ไม่โกรธ ไม่เคือง

    แต่อ่านเรื่องราวของแม่ชีแล้ว มันไม่เป็นดังนั้นเลย ขนาดอยู่ในวัดวา ลอบรอบด้วยผู้บำเพ็ญศีล ภาวนา แม่ชียังเจอเหตุการณ์ต่างๆ มากมาย เป็นเหตุการณ์เดียวกันกับที่เราเจอๆกันในทางโลกเลย ครบทุกรส

    ดิฉันเคยคาดหวังไว้ว่า พระดีๆ จะต้องสงบ สำรวม ไม่มีการพูดทำร้ายจิตใจผู้อื่น เมื่อก่อนดิฉันเคยคิดตำหนิเวลาเห็นพระใช้โทรศัพท์มือถือ หรือใช้ของใช้ทางโลก เพราะเห็นว่าไม่สมควร ยิ่งเห็นพระที่ล้อมด้วยแม่ชีคอยปรนนิบัติดูแล ยิ่งไม่ชอบใจเพราะดูแล้วมันไม่งาม คิดว่าพระก็อยู่ส่วนพระสิ ให้พระรุ่นๆดูแลพระแก่ๆไป ส่วนแม่ชีก็อยู่ส่วนแม่ชี การเดินออกห้องกุฏิพระดึกๆดื่นๆ มันไม่งามจริงๆ

    ตอนนี้ได้เห็นแล้วว่า สิ่งเหล่านั้น มันเป็นสิ่งที่เราคาดหวังไว้ เราคิดเอาเองว่าควรจะเป็นแบบนั้นแบบนี้ พอไม่เห็นเป็นเช่นนั้นดังที่คาดหวัง ก็เกิดความรู้สึกไม่ศรัทธา อย่างเช่นเห็นพระและคิดว่าเป็นพระดี แต่พอได้ยินท่านเปล่งวาจาไม่น่าชม ก็ละหนีทันที คิดว่าพระดีๆคงไม่พูดจาแบบนี้ ไม่มีกริยาแบบนี้เป็นแน่ เคยได้ยินข่าวลือว่าพระวัดนี้เป็นกระเทย(แอบ) เนี่ย..เลี้ยงหนุ่มๆเยอะ วัยรุ่นอยากได้ตังค์ก็เข้าไปหาท่านเลย ดิฉันแทบไม่อยากไปวัดนั้นเอาเสียเลย แค่ข่าวลือดิฉันก็หมดศรัทธาเสียแล้ว

    ก็มีความคิดอยู่เหมือนกันเจ้าค่ะ ว่าวันนึงอยากจะบวชชีพราห์ม แต่ยังกล้าๆกลัวๆอยู่ (กลัวผีและกลัวการตื่นแต่เช้า :) เจ้าค่ะ) ไม่กล้าให้สัจจะตัวเอง เพราะยังไม่พร้อม นี่ถ้าไม่ได้อ่านเรื่องนี้ แล้ววันนึงได้ไปบวชพราหม์ ดิฉันคงเตลิดออกจากวัดในคราที่ได้เห็นการตำหนิ ต่อว่า กล้าวร้ายป้ายสี ในบรรดาพระ และชี เป็นแน่ เป็นบุญอย่างยิ่งที่ได้อ่านเรื่องนี้ จะได้เตรียมตัวเตรียมใจ รู้ทันทาง ก่อน

    ขอความกรุณาแม่ชี ก๊อบประวัติของแม่ชี ปริ้นและส่งไปให้แม่ และน้าอีกสองคนที่บ้านนอกให้ได้อ่านด้วยเถอะเจ้าค่ะ พวกเขาไม่มีอินเตอร์เน๊ต น้าคนรองจากแม่ สามีเขาเสียชีวิตไปนานแล้ว อยู่คนเดียว ตอนนี้ก็มีโรคหัวใจรังควานอยู่ เขาไม่ค่อยลงลอยกับพ่อดิฉันสักเท่าไหร่นัก ดิฉันรักเขามาก พ่อไม่ให้ไปหาเขา แต่ดิฉันจะค้านคำพ่อไปหาเขาทุกครั้ง บอกพ่อว่า เรื่องของผู้ใหญ่ ขออย่าเอาหนูไปเกี่ยวข้องด้วยเลย ก็ไม่รู้จะทำไงดีค่ะ

    น้าอีกคน สามีเสียก็เสียไปแล้วเหมือนกัน เสียด้วยโรคเอดส์ และเขาก็เป็นโรคนี้เหมือนกัน เขามีลูกชายคนนึง มรสุมชีวิตรุมเร้าเขามากๆ ในตอนนี้ ดิฉันช่วยเขาได้เป็นบางอย่าง แต่ก็ไม่มาก เพราะทุกวันนี้ดิฉันก็พึ่งสามีอยู่ ไม่กล้าขอสามีมาจุนเจือญาติเรามาก

    จะเป็นบุญอย่างยิ่งถ้าพวกเขาได้อ่านเรื่องนี้ด้วยเจ้าค่ะ

    ขอความกรุณา
     
  17. hongsanart

    hongsanart เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มิถุนายน 2005
    โพสต์:
    1,332
    ค่าพลัง:
    +10,468
    เจริญธรรม...

    คุณวังพญาเอ๋ย...ยังมีเรื่องที่คนส่วนใหญ่คิดไม่ถึงอีกมากมายภายในวัดน่ะ แต่ไม่อยากเล่าหมด เดี๋ยวคนใส่ผ้าเหลืองจะสอนเอาอีกว่า "ความในอย่าเอาออก ความนอกอย่าเอาเข้า"

    เรื่องมันมีอยู่ว่า แม่ชีบรรยายธรรมเสียงตามสาย เรื่องที่ให้ญาติโยมเห็นใจและเข้าใจพระที่อยู่วัดบ้าง โดยนำเรื่องที่พระไพศาล เขียนไว้มากล่าวอ้างเรื่องที่ ร.4 ท่านห้ามพระขุดดิน เพราะถือว่าเป็นหน้าที่ของชาวบ้าน
    แม่ชีทิ้งท้ายไปว่า "ถ้าพระไม่ทำแล้วใครจะมาทำให้ฟรีล่ะ "สมัยนี้หายากที่ชาวบ้านจะทำให้ฟรีๆ มีแต่จะมาขูดเลือดเอากับพระในวัด เพราะได้เงินง่าย
    ถ้าพระท่านมีปัจจัย ท่านไม่หวงหรอกให้ทั้งนั้น
    ไม่รู้ว่าพระท่านอื่นฟังเป็นเรื่องอะไรไป แหม...โทรฯมาด่ากันใหญ่
    หาว่าด่าพระเป็นจับกัง...


    ปัดโธ่เอ๋ย...คนละเรื่องกันเลย ทีแรกฉุนเหมือนกันเดี๋ยวอาละวาดซะหรอก ฮ่าๆๆๆ

    แต่พอมาคิดๆดู จึงหายโกรธเพราะเข้าใจว่าพระไม่มีการศึกษาจึงไม่เข้าใจภาษาไทยที่พูด เฮ้อ...ท่านจึงสอนแม่ชีว่า

    พระพุทธเจ้าสอนว่า "ความในอย่าเอาออก ความนอกอย่าเอาเข้า" อยากจะบอกท่านเหลือเกินว่า แม่ชีไม่ใช่เมียท่านสักหน่อย

    นี่แหละหนา...คนในสมัยนี้ฟังเรื่องหนึ่งและเป็นเรื่องเดียวกัน แต่ดันกลายเป็นคนละเรื่องไปเสียนี่...เก๊กซิมจริงๆ

    หลายคนอาจเจอแบบนี้ แต่แม่ชีขอบอกสักนิดว่า "ช่างมันฉันไม่แคร์"เคยฟังกันไหมล่ะ? เพลงของพงษ์สิทธิ์ คัมภีร์ไง
    "ช่างมันฉันไม่แคร์ ช่างมันฉันไม่แคร์ ไม่แคร์อันใด...."จำไม่ได้แล้ว

    ทุกวันนี้ได้แต่นั่งขำ กลัวเหมือนกัน เดี๋ยวหาว่าแม่ชีบ้าอีก ยุ่งนะจ๊ะ...

    บุญรักษา/ธรรมะสวัสดี
     
  18. วังพญา

    วังพญา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    91
    ค่าพลัง:
    +373
    ขอน้อมรับคำกล่าวคำสอนทุกคำเจ้าค่ะ แม่ชีกล่าวได้ถูกแล้วเจ้าค่ะ ดิฉันชอบใจคำว่า ช่างมันฉันไม่แคร์ เป็นอย่างมาก

    น้าคนรองของดิฉันก็พูดคำนี้ออกบ่อยเจ้าค่ะ ไม่ว่าเขาจะเจอเหตุการณ์เลวร้ายต่างๆ ต้องต่อสู้กับขี้ปากชาวบ้านมากมาย เนื่องด้วยเขาเป็นคนแกร่ง ตั้งแต่สามีเสียก็ไม่แต่งงาน ทำนาเอง หนักแค่ไหนเขาก็ไม่ย่อท้อ บ้างครั้งพ่อบ้านคนอื่นๆก็เอาไปเปรียบกะเมียเค้าบ้าง พอน้าเราเอ่ยอะไรกะใคร ชาวบ้านก็เอาไปพูดเป็นอย่างอื่น อย่างโน้นอย่างนี้ มันก็เลยมีเรื่องการติฉิน นินทา จริงบ้างไม่จริงบ้าง เรื่องเก่าผ่านไป เรื่องใหม่เข้ามา มากมายไม่เคยจบสิ้น

    มีอยู่ครั้งนึง ชาวบ้านอยากให้น้ามีสามีใหม่ ก็เลยยุคนโน้นคนนี้ให้ แล้ววันนึงก็มีพ่อหม้ายแก่ๆเอาจักรยานไปจอดทิ้งไว้นอกรั้ว ข้างประตูทางเข้าของบ้านน้า น้าดิฉันก็รู้ว่าจักรยานใคร เพราะหมู่บ้านเล็กๆ อะไรของใครส่วนใหญ่จะรู้กัน แต่น้าก็ไม่เข้าใจว่าเขาเอามาทิ้งไว้ทำมัยที่หน้าบ้านหลายๆวัน น้าก็ไม่เก็บให้ด้วยค่ะปล่อยทิ้งตากฝนตากแดดยังไงก็ยังงั้นแหล่ะ ใจดำมั๊ยค๊ะ พอมารู้ทีหลัง เห็นเขาเล่ากันว่า นี่เป็นวิธีจีบ อย่างนึง ชาวบ้านเขาอยากรู้ว่า น้าจะมีใจเก็บจักรยานให้มั๊ย ถ้าเก็บให้เขาก็คิดกันว่าน้าเรามีใจถึงเจ้าของ เพราะเป็นห่วงสมบัติเขา ถึงอุตส่าห์เก็บให้ มันเป็นเรื่องที่ตลกดีเจ้าค่ะ

    เวลาคุยกันถึงเรื่องพวกนี้ เขาก็มักจะบอกดิฉันว่า ช่างมันฉันไม่แคร์ เขาทำเสียงตลกๆ ออกอารมณ์ขันคล้ายๆแม่ชีเลยเจ้าค่ะ :)

    ขออนุโมทนา สาธุ เจ้าค่ะ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 19 ตุลาคม 2007
  19. siriwan2527

    siriwan2527 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2007
    โพสต์:
    56
    ค่าพลัง:
    +172
    สนใจไปปฎิบัติธรรมกับแม่ชีอยากสมัครเป็นลูกศิษย์ต้องทำยังไงบ้างค่ะ
     
  20. siriwan2527

    siriwan2527 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2007
    โพสต์:
    56
    ค่าพลัง:
    +172
    สนใจไปปฎิบัติธรรมกับแม่ชีอยากสมัครเป็นลูกศิษย์ต้องทำยังไงบ้างค่ะ
     

แชร์หน้านี้

Loading...