ประวัติ และอภินิหารย์หลวงปู่ตี๋ ฉันทธัมโม สุพรรณบุรี ศิษย์ 3 ต.

ในห้อง 'ประสบการณ์ เรื่องเล่า' ตั้งกระทู้โดย hellotawan, 10 กรกฎาคม 2012.

  1. hellotawan

    hellotawan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    1,156
    ค่าพลัง:
    +5,233
    [​IMG]

    ขอเล่าประวัติเหรียญรุ่น ๑ สักนิดครับ
    อย่างที่เคยกล่าวไปแล้วตอนต้นว่าเหรียญรุ่นนี้เป็นรุ่นแรก สร้างปี ๒๕๑๒ แต่อออกให้บูชาจริงปี ๑๕๑๓ สังเกตุด้านหลังจะมีการตีเลขซึ้ำที่เหรียญ เหรียญรุ่นนี้สร้างเนื้อรมดำอย่างเดียวจำนวน ๑๐๐๐๐ เหรียญ โดยหลวงปู่ตี๋ท่านได้ไปขอชนวนจากอาจารย์ของท่าน
    หลวงพ่อแขก วัดหัวเขา ท่านจารฝาบาตรให้ พร้อมทั้งให้เอากระดิ่งเเล็กๆ ไปผสมเป็นชนวนด้วย
    หลวงพ่อมุ่ย วัดดอนไร่ จารตะกรุดฝาบาตรเต็มสูตรให้ พร้อมทั้งจาร นะโทพุทธายะ ลงให้กระดิ่งให้อีก ๕ ใบ
    หลวงพ่อกวย จารฝาบาตรมาให้
    หลวงปู่ทิม และหลวงปู่บุดดา จารตะกรุดฝาบาตรมาให้
    หลวงพ่อจวน จากตะกรุดฝาบาตร และให้ถาดทองเหลือมา
    หลวงปู่เย็น จารตะกรึดฝาบาตร และให้ขันสัมฤทธิ์มา

    มีเรื่องเล่าเมื่อตอนหลวงปู่ตี๋ไปขอชนวนจากหลวงพ่อกวยว่า
    เมื่อหลวงปู่ตี๋แจ้งความประสงค์ต่อหลวงพ่อกวยแล้ว หลวงพ่อกวยท่านได้หยิบฝาบาตรมาจารโดยไม่พูดอะไรใดๆ เลย แม้แต่ถามก็ไม่ตอบ เมื่อท่านจารเสร็จก็เดินถือถาดไปที่หน้าบันไดกุฏิโดยยังไม่พูดใดๆ เคาะไปที่เสาบันได ๓ ที ทันใดนั้นหน้ากุฏิที่เงียบสงบกลับมีสัตว์ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นหมา แมว นก และสัตว์ต่างๆ พากันออกมายืนอยู่ที่หน้ากุฏิของหลวงพ่อมากมายไปหมด หลวงพ่อกวยท่านยังคงยืนสงบนิ่งอยู่ จากนั้นสักพักท่านก็ว่าคาถาไปพร้อมกับในมือที่ถือฝาบาตรไว้ จากนั้นท่านกระทืบเท้า ๓ ครั้ง เพียงเท่านั้นสัตว์น้อยใหญ่ที่สงบนิ่งรวมกันอยู่ต่างวิ่งหนีแตกตื่น สงเสียงร้องราวกับตกใจกลัวอะไรสักอย่าง สักพกัหลวงพ่อกวยท่านก็กล่าวว่า "เอ้าสำเร็จแล้ว เอาไปได้"

    เมื่อหลวงปู่ตี๋ท่านรวบรวมชนวนจากอาจารย์ของท่านแล้วก็ทำการนำมาหลอมรวมกันและปั้มเป็นเหรียญรุ่นแรกขึ้น และนำมาให้หลวงพ่อมุ่ยท่านเสกเดียวอยู่นาน จากนั้นก็นำไปให้หลวงพ่อกวยเสกอยู่อีกหลวงเดือน และนำไปให้อาจารย์ของท่านเสกจนครบ ซึ่งในระหว่านี้ท่านก็เสกปิดมาเรื่อยๆ และออกให้จำหน่ายในครั้งแรกเหรียญละ ๑๐ บาท สลับกับแจกฟรีไปด้วย หลวงปู่ตี๋ท่านเป็นหนี้ค่าปั้มเหรียญรุ่นนี้อยู่นานถึง ๑๑ ปีเลยทีเดียว

    ในการสร้างวัตถุมงคลของท่าน ท่านจะต้องให้ครูบาอาจารย์ หรือศิษย์ในสายเสกเท่านั้น ถ้าครูบาอาจารย์ท่นไม่อยู่ท่านก็จะเสกเดี่ยวของท่าน โดยท่านมักกล่าวกับศิษย์อยู่เสมอว่า "ของของกู ก็ขอทำเอง เสกเอง กูไม่ค่อยถนัดมวยหมู่ที่ต้องมารุมเสกกันมากมายกูขอรับผิดชอบเอง ถ้าใช้ไม่ไดี ไม่ได้จริงก็มาด่ากูคนเดียวพอ กูก็ศิษย์มีครูคนหนึ่งเหมือนกัน"

    เคยมีศิษย์ท่าหนึ่งนำเหรียญรุ่นนี้ไปลอง โดยเอาเหรียญแขวนไว้กับต้นไม้ ปรากฏว่าพอยกปืนประทับเล็งเตรียมยิง เหรียญแกว่งหมุนไป หมุนมา ไม่อยู่นิ่ง ทั้งที่ในขณะนั้นไม่มีลมพัดมาเลย ศิษย์ท่านนั้นจึงต้องจับเหรียญไว้ให้อยู่กับที่ แล้วก็ลั่นไกทันที แต่ปืนกลับไม่ลั่นยิงไม่ออก เหรียญนี้จึงมีประสบการณ์ทางแคล้วคลาดคงกระพันสูง

    เหรียญนี้จัดเป็นเหรียญหายากอีกเหรียญหนึ่งเลยทีเดียว
     
  2. jaguarnusing

    jaguarnusing เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 มกราคม 2011
    โพสต์:
    4,901
    ค่าพลัง:
    +15,583
    งามแท้เหลาาาาาาาาาาาาาา :cool::cool::cool:
     
  3. hellotawan

    hellotawan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    1,156
    ค่าพลัง:
    +5,233
    [​IMG]
    ภาพโดย teeisking

    นำตะกรุดหายากมาให้ชมครับ เป็นตะกรุดขุนศึก ดีทางคงกระพัน แคล้วคลาด ป้องกันพยันต์อันตราย ขนาด 8 นิ้ว มีเพียงดอกเดียวครับ
     
  4. hellotawan

    hellotawan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    1,156
    ค่าพลัง:
    +5,233
    [​IMG]
    [​IMG]

    หนังกลองจารของหลวงปู่ตี๋ เด็ดมากครับด้านหน้าเป็นยันต์พระสีวลี ด้านหลังเป็นนางกวัก หนังกลองของหลวงปู่ขึ้นชื่อมาก เด่นด้านชื่อเสียง ความโด่งดัง
     
  5. สมันดง

    สมันดง Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 พฤศจิกายน 2012
    โพสต์:
    62
    ค่าพลัง:
    +97
    เคยไปกราบท่านมาครั้งนึงเหมือนกันครับ แต่ไม่ได้อะไรเลยเนื่องจากกุญแจกุฏิหายหลวงปู่เข้าห้องไม่ได้ เลยให้ท่านลงกระหม่อมให้แทน ต้องบอกเลยว่าต้องแต่เคยลงกระหม่อมมาหลวงปู่ท่านพลังสูงมากครับ ท่านเป็นพระรูปเดียวที่ใช้นิ้วลงกระหม่อมแล้วร้อนลงไปถึงหลัง ซึ่งถ้าพิจารณาแล้วสายหลวงปู่กวยจะพลังสูงเหมือนกันหมดครับ อีกรูปนึงคือหลวงปู่แป๋ววัดดาวเรือง รูปนี้ลงแล้วตัวสั่นครับ (เป็นประสบการณ์ส่วนตัวที่พบมากับสายหลวงปู่กวยครับ)
     
  6. hellotawan

    hellotawan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    1,156
    ค่าพลัง:
    +5,233
    แค่ได้ลงกระหม่อมก็สุดยอดแล้วครับ ท่านสำเร็จกสินไฟ และแสดงฤทธิ์ได้ตั้งแต่พรรษาต้นๆ ด้วยท่านเรียนมาจากสายนี้ ครูจะแรงมากครับ
     
  7. hellotawan

    hellotawan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    1,156
    ค่าพลัง:
    +5,233
    ประกาศให้ทราบ และ ช่วยบอกกันต่อๆไปด้วย ว่า วันที่ 23 ธ.ค. 55. นี้ ขอให้ศิษย์ ที่สมัครเรียน วิชา ๙ บท มารวมตัวกัน เพื่อเปิด ปฐมนิเทศ วันแรก ขอให้ศิษย์ เตรียมตัวดังนี้ ดอกไม้ ธูป เทียน บุหรี่ หมาก-พลู พร้อมเงิน 12 บาท สมุด 1 เล่ม ปากกา 1ด้าม เท่านี้ครับ เราจะเปิดปฐมนิเทศ ในวันที่ 23 ธ.ค.55 นี้ เวลา 12.00 น. นะครับ ขอให้บอกต่อๆกันไปด้วยนะครับ แล้วเจอกับนะครับ
     
  8. ภัฏ

    ภัฏ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    23
    ค่าพลัง:
    +28
    ผมเป็นลูกศิษย์ปู่มหา(อ.ตู่) ,และพระเดชพระคุณหลวงปู่ตี๋ ฉันทธัมโม คนหนึ่ง ที่ได้ดิบได้ดีมียศศักดิ์ทุกวันนี้เพราะมหาและหลวงปู่ตี๋ อำนวยอวยพรให้ โอกาสหน้าจะมาแบ่งปันประสพการณ์ให้เป็นการบูชาคุณครู ครับ
    (เชื่อว่าปัจจุบันคงไม่มีอาจารย์สักยันต์ท่านใด บูชาครูแค่ดอกไม้ธูปเทียนเงิน 12.-บาท เพราที่นี่ของจริง ขอบอก)
     
  9. hellotawan

    hellotawan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    1,156
    ค่าพลัง:
    +5,233
    เมื่อวันเพ็ญ ลอยกระทงที่ผ่านมา คณะศิษย์หลวงปู่ตี๋ได้ทำพิธีเสกน้ำมนต์ดอกบัวบานขึ้น เลยนำภาพมาให้ทุกท่านได้ลองชมครับ วันนั้นวุ่นพอสมควรเพราะหาดอกบัวสีชมพูไม่ได้ เลยต้องใช้ดอกบัวขาวแทน แต่ก็บานตามความคาดหมาย
    [​IMG]
    หม้อน้ำมนต์ใบใหญ่ เตรียมไว้สำหรับอาบ

    [​IMG]
    ถังใส่ดอกบัวเพื่อทำน้ำมนต์ อาจารย์ผู้กระทำพิธีจะทำน้ำมนต์ในถังใบยี้ให้ดอกบัวบานตามฤกษ์ที่กำหนดไว้ คือ ประมาณ 21.38 น.

    [​IMG]
    เมื่อเริ่มกระทำพิธีฟ้าก็เริ่มเปิดให้เห็นแสงจันทร์

    [​IMG]
    จุดเทียนทำน้ำมนต์อัญเชิญบารมีครูบาพลาจารย์ตั้งแต่หลวงปู่อิ่ม ลงมาจนถึง หลวงปู่ตี๋

    [​IMG]

    [​IMG]
    เมื่อถึงเวลาดอกบัวที่กระทำพิธีเสกก็บานให้เห็นกันครบทั้ง 5 ดอก เป็นที่อ้ศจรรย์

    [​IMG]
    ภาพนี้ก็ทำให้งวดที่ผ่านมาศิษย์หลายคนรับทรัพย์ไป

    [​IMG]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 4 ธันวาคม 2012
  10. hellotawan

    hellotawan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    1,156
    ค่าพลัง:
    +5,233
    [​IMG]
    คณะศิษย์หลวงปู่ตี๋ที่ทราบข่าวการอาบน้ำมนต์บัวบานก็มารออาบน้ำมนต์ในวันนั้น

    [​IMG]
    รูปหล่อองค์จริงของหลวงปู่ตี๋

    [​IMG]
    ก่อนเริ่มพิธีทีมงานลูกศิษย์ช่วยกันม้วนตะกรุดจันทร์เพ็ญที่จารในคืนนั้นได้ทั้งสิ้น 89 ดอก

    [​IMG]
    ลงด้วยยันต์ตามตำราของหลวงปู่ตี๋ หลวงปู่อิ่ม หลวงพ่อกวย

    [​IMG]
    นอกจากตะกรุดแล้ว ก็มีการกวนน้ำมันช้างประสมโขลงด้วย

    [​IMG]
    น้ำมันเดือดๆ ผสมด้วยว่านทางเมตตา และน้ำมันเสน่ห์จากขวดเก่าที่ตกทอดมาตั้งแต่ครูบาอาจารย์

    [​IMG]
    สีเหลืองทอง หอมรัญจวนมากครับ

    [​IMG]
    ปิดท้ายด้วยการลงนะหน้าทอง
     
  11. hellotawan

    hellotawan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    1,156
    ค่าพลัง:
    +5,233
    สวัสดีปีใหม่ ๒๕๕๖ ทุกท่านครับ
    [​IMG]
    ปีใหม่นี้ท่านใดไปกราบรูปหล่อหลวงปู่ตี๋ ก็สามารถขอรับภาพนี้ไว้เป็นที่ระลึกได้ครับ
     
  12. ศุ_เกษตร

    ศุ_เกษตร สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 พฤศจิกายน 2012
    โพสต์:
    3
    ค่าพลัง:
    +2
    รบกวนอยากสอบถามพี่ว่า อ.ตู่อยู่แถวไหน จะติดต่อยังไงครับ
     
  13. Big_thOm

    Big_thOm เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    50
    ค่าพลัง:
    +187
    กราบ กราบ กราบหลวงปู่ตี๋ครับ
     
  14. hellotawan

    hellotawan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    1,156
    ค่าพลัง:
    +5,233
    สวัสดีพี่ๆ ชาวพลังจิตทุกท่าน ห่างหายไปนานด้วยภาระกิจมากมาย คราวนี้กลับมาผมเลยอยากเล่าถึงวิชาสักของหลวงปู่ตี๋ที่เป็นวิชาหลักๆ ให้บางท่านได้ทราบกันบ้าง เพราะเราจะทราบกันแต่เพียงว่าหลวงปู่ตี๋ท่านสืบวิาสักมาจากหลวงปู่แขก วัดหัวเขา และหลวงพ่อกวย วัดโฆษิตาราม

    ในตำราสักของหลวงปู่ตี๋นั้นมีกล่าวไว้ว่า วิชาที่สักให้กับศิษย์นั้นจะมี 2 อย่างที่เป็นสุดยอดวิชาเส้าหลินก็ว่าได้ คือ ทางด้านคงกระพัน และมหานิยม ในตำราได้บอกไว้ว่า วิชาทั้งสองนี้เป็นวิชาที่หลวงปู่อิ่ม วัดหัวเขาได้จดบันทึกมาจากตำราของหลวงปู่ศุข แห่งวัดปากคลองฯ ซึ่งท่านทั้งสองเป็นสหธรรมิกกัน และตำราดังกล่าวก็ได้ตกทอดลงมายังหลวงปู่ตี๋ สุพรรณบุรี
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 21 เมษายน 2013
  15. hellotawan

    hellotawan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    1,156
    ค่าพลัง:
    +5,233
    วิชาบัว ๙ สาย

    มาว่ากันที่วิชามหานิยมกันก่อน ในตำราได้กล่าวถึงวิชามหานิยมที่ถือว่าเป็นสุดยอดไว้หนุ่ึ่งยันต์ก็คือ วิชาบัว ๙ สาย ซึ่งในตำราได้กล่าวเอาไว้ว่า มีพุทธคุณที่จะทำให้ เรามีเสน่ห์ และ มีเพศตรงข้ามมาหา อาจารย์ผู้กระทำพิธีจะลงด้าน เมตตา มหานิยม ให้แก่ผู้มาทำการสัก แต่ด้วยว่า บัว ๙ สายนี้เป็นวิชาเสน่ห์ที่มีพุทธคุณสูงจึงไม่ได้ทำการสักทั่วไปให้แก่ผู้ที่ต้องการ เนื่องจากผู้นั้นอาจจะนำไปใช้ในทางไม่ดี ได้เขาแล้วไม่รับผิดชอบ หรือใดๆ ก็ตาม บาปกรรมก็จะตกแก่ครูบาอาจารย์ และศิษย์ผู้นั้น ยันต์นี้จึงไม่ค่อยมีใครได้รับการสัก โดยเฉพาะสักคนเดียว และถ้าจะสักก็จะสักให้เฉพาะผู้ที่มีภรรยาแล้วเท่านั้น หากคู่สามีภรรยาใดได้รับการสักยันต์บัว ๙ สายนี้ คู่นั้นจะครองรักกันจนตายพร้อมกัน อยู่กันจนแก่เฒ่าไม่มีใครตายก่อนใคร วิชานี้จึงเป็นวิชาเสน่ห์ มหานิยมที่มีคุณอนันต์ และมีโทษมหันต์ นอกจากนั้นยันต์นี้ยังกำหยดให้สักเฉพาะน้ำมันต์เสน่ห์เท่านั้น ห้ามลงหมึกเด็ดขาด เพื่อเป็นการรักษาวิชาให้อยู่เฉพาะในศิษย์ที่ได้รับการไว้วางใจให้สืบทอดเท่านั้น และไม่ให้วิชาตกไปอยู่ในคนไม่ไดี

    ขอบอกก่อนว่ายันต์นี้ไม่ได้ทำการลงให้กับผู้ใดแล้ว และเคล็ดบางอย่างก็ไม่สามารถจะนำมาลงได้หมด แต่คนหลังๆ จะได้ทราบว่าวิชาในตำราของหลวงปู่นั้นมีอะไรบ้างที่เป็นสุดยอด
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 21 เมษายน 2013
  16. hellotawan

    hellotawan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    1,156
    ค่าพลัง:
    +5,233
    วิชา ว พันตัว

    วิชา ว พันตัว เป็นสุดยอดวิชาที่ว่าด้วยเรื่องแคล้วคลาด คงกระพัน กันภัย
    โดยผู้ที่จะทำการลงจะต้องมีเครื่องกำนัลครูธูปเทียน หัวหมู ดอกไม้สามสี หมากสามคำ บุหรี่สามมวน และเงินค่าครู ๑๒ บาท และจะกระทำการสักให้ในวันเวลาที่มีฤกษ์เท่านั้น โดยจะทำการสัก ว จนครบทั้งพันตัวตั้งแต่เวลาเวลาพระบิณฑบาตรจนถึงก่อนพระอาทิตย์ตกในวันเดียวก็ได้(ถ้าทนไหว) หรืออาจจะทำการสักวันละนิดไปจนกว่าจะรบพันตัวก็ได้ แต่ต้องเสร็จก่อนวันไหว้ครูในแต่ละปี และต้องสักด้วยนำ้มันว่านเท่านั้น ไม่มีการลงหมึก

    นี่คือสองสุดยอดวิชามหานิยม และคงกระพัน ที่เรียกว่า ว พันตัว บัว ๙ สาย ที่มีกล่าวไว้ในตำราของหลวงปู่ตี๋ ที่ตกทอดมาจากหลวงปู่ศุข หลวงปู่อิ่ม

    และในปีนี้ได้ทำการสัก ว พันตัวอีกครั้ง โดยกำหนดไว้เพียง ๑๙ คนเท่านั้น และจะทำการสักด้วยน้ำมันว่านของหลวงพ่อกวย ที่ตกมาอยู่กับหลวงปู่ตี๋ ตามฤกษ์ยามที่่ถูกกำหนดไว้เท่านั้น

    คราวหน้าผมจะมาเล่าต่อถึง การทำให้วิชาไม่เสื่อม และเมื่อสักไปแล้วอาจารย์ผู้ทำการสักก็สามารถเรียกวิชาคืนได้ หากศิษย์ผู้นั้นอยู่นอกรีดทำตัวไม่ดี คิดล้างครู แต่โดยทั่วไปก็จะไม่มีการเรียกคืนกัน แต่อยากจะบอกว่าอาจารย์ผู้นั้นๆ สามารถเรียกคืนได้ เพราะตำราได้กล่าวไว้มีผูก ก็มีแก้เป็นของวคู่กัน
     
  17. ekarad

    ekarad เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 เมษายน 2007
    โพสต์:
    2,196
    ค่าพลัง:
    +6,264
    สวัสดีครับ ผมอยากรู้ว่าหลวงปู่ตี๋ได้วิชาจากหลวงพ่อกวยมาเยอะหรือเปล่าครับ
     
  18. hellotawan

    hellotawan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    1,156
    ค่าพลัง:
    +5,233
    ตอบเท่าที่ทราบ และข้อสันนิษฐานส่วนตัวนะครับ ผมว่าได้มาเยอะที่สุด

    ผมให้ทัศนะไว้ 3 กรณีคือ
    หนึ่ง ท่านเป็นหนึ่งในศิษย์สามตอ ที่หลวงพ่อกวยท่านได้เคยกล่าวถึงบ่อยๆ และเคยกล่าวไว้ว่า เมื่อหมดท่านไปแล้ว ถ้าจะให้วัดท่านกลับมามีชื่อเหมือนเดิม ต่้องให้ศิษย์ท่านทั้งสามคนมาอยู่วัดท่านด้วยกัน เรื่องนี้สอบถามทางอาจารย์ เฒ่า สุพรรณได้ครับ เมื่อกล่าวถึงลูกศิษย์หลวงพ่อกวยแล้วก็จะทราบกันดีว่าท่านมีศิษย์ที่เรียนจริงจังได้ตำราไปมี 3 รูปเท่านั้น คือ อาจารย์เตี๊ย อาจารย์ตั๊ว และอาจารย์ตี๋(หรือหลวงปู่ตี๋) โดยหลวงปู่ตี๋ท่านเป็นศิษย์รูปแรกในบรรดาสามตอ และกำหนดวันมรณะภาพหลังสุด

    สอง คือ ท่านฝากตัวเป็นศิษย์หลวงพ่อกวย ต่อจากหลวงพ่อมุ่ย ด้วยเห็นว่าหลวงพ่อกวยท่านเป็นศิษย์ที่ได้ร่ำเรียนวิชามาจากหลวงปู่อิ่มแห่งวัดหัวเขาซึ่งเป็นพ่อบุญธรรมของท่าน แต่ตัวหลวงปู่เองเมื่อโตพอที่จะเรียนวิชาได้ หลวงปู่อิ่มก็มรณะภาพเสีย ทิ้งไว้แต่ตำราที่หลวงปู่อิ่มฝากไว้กับบิดาของหลวงปู่ตี๋ ท่านจึงต้องตามเรียนกับศิษย์ต่างๆ ที่พอทราบว่ามาเรียนกับหลวงปู่อิ่ม โดยเมื่อท่านเข้ากราบหลวงพ่อกวยตามคำแนะนำของหลวงพ่อมุ่ยแล้ว หลวงพ่อกวยก็ให้บทขึ้นครูมาท่อง แต่ปรากฏว่าท่านได้บทขึ้นครูมาแต่ครั้งเรียนกับหลวงพ่อแขก หลวงพ่อมุ่ยแล้ว หลวงพ่อกวยท่านจึงรับไว้เป็นศิษย์ทันที และสอนวิชาให้ทันทีภายในกุฏิ เพียงสองรูปเท่านั้น นอกจากนั้นยังได้มอบตำรา แะน้ำมันว่านสำหรับสักไว้ให้กับหลวงปู่ตี๋ด้วย และยังมีวัตถุมงคลต่างๆ ที่มอบไว้ให้อีก สมัยนั้นท่านจะโบกรถเมย์ไปยังวัดหลวงพ่อกวย เพื่อไปเรียนวิชาเสมอๆ คนเก่าแก่แถววัดจะทราบกันถึงพระรูปหนึ่งที่มักมาที่วัดและมีเด็กชายอ้วนๆ ตามมาด้วยเสมอ ปัจจุบันตำราก็ถูกเก็บรักษาไว้อย่างดี(หลวงพ่อซ่อนไว้ในโลงศพท่าน เนื่องจากท่านเคยถูกขโมยตำรา เลยกลัวว่าตำราสำคัญจะถูกโมยอีก) นำ้มันว่านของหลวงพ่อกวยปัจจุบันก็ยังใช้สักอยู่ มีข้อแม้ประการเดียวคือ ห้ามแห้ง แต่น้ำมันโหล่นั้นก็ไม่เคยแห้งเลย และมีรูปภาพบูชาขนาดใหญ่ที่หลวงพ่อกวยท่านจารและมอบไว้ให้หลวงปู่ตี๋เป็นรูปกรอบวิทยาศาสตร์ มีคราวหนึงเกิดไฟไหม้ขึ้น แต่ภาพนี้ไม่ไหม้ไฟ ก็ยังถูกเก็บรักษาไว้อย่างดี อย่างวิชาสักนี่ยังมีอีกเยอะในตำราของหลวงพ่อกวย แต่เราจะไม่ทราบกัน จะทราบเฉพาะที่เห็นเค้าเขียนไว้ตามเว็บ ตามหนังสือ แต่ในตำรามีอีกมากที่เว็บ หรือหนังสือไม่ได้กล่าวถึงเพราะคนเขียนเขาไม่มีตำราอยู่ ก็จะไม่รู้ว่ามีอะไรบ้าง อย่าง ว. พันตัว บัว ๙ สาย หมี อินทรีย์ มหาทมึน จักรพรรดิ์ มหาระงับ มหากาฬ ในตำราก็มีกล่าวไว้ ยันต์ที่จะสักบางอย่างก็ห้ามลงหมึกเพื่อบังวิชา หรือถ้าลงหมึกอักขระจะคาถาลงไม่หมด จะใช้เสกเข้าแทน เพื่อบังคาถาไว้ นี่จึงเป็นเคล็ดเล็กน้อยในตำราของหลวงปู่ตี๋ กระดาษจดคาถาลายมือหลวงพ่อกวยก็ยังมีอยู่บ้างบางส่วน

    สาม คือ เมื่อครั้งท่านเป็นเจ้าอาวาสวัดกระเสียว หรือเขาเขียวไม่แน่ใจ ท่านได้จัดพิธีพุทธาภิเษกขึ้นง่ายๆ ตามแบบวัดบ้านนอกเงินน้อย โดยได้นิมนต์อาจารย์ของท่านมาร่วมปลุกเสกทุกรูป ซึ่งวัตถุมงคลเหล่านั้นก็ตกทอดมาปัจจุบันหลายชิ้น แต่ปัจจุบันมีการพยายามยัดกรุเยอะ ว่าหลวงปู่ตี๋สร้าง หลวงพ่อกวยเสก อย่างหนุมานหักศรเนื้อดินหลังเรียบ มีคนนำมาถวายหลวงปู่ตี๋ให้เสก เสกแล้วก็ยกกลับทิ้งไว้ให้แค่ไม่กี่ร้อยองค์ นานวันไปก็โผล่ออกมาบอกว่าหลวงปู่ตี๋สร้าง หลวงพ่อกวยเสกก็มีครับ

    จากข้อสันนิษฐานดังกล่าว ผมเลยคิดว่าหลวงปู่ตี๋ ท่านน่าจะได้วิชาจากหลวงพ่อกวยมาเยอะพอสมควร ผมใช้คำว่าน่าจะเพราะตัวผมเองเกิดไม่ทัน แต่สันนิษฐานจากหลักฐาน และคำบอกเล่าของเด็กชายอ้วนที่ตามหลวงปู่ตี๋ไปด้วยแทบทุกครั้งที่ไปกราบหลวงพ่อกวย
     
  19. hellotawan

    hellotawan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    1,156
    ค่าพลัง:
    +5,233
    กรึงมนต์ เรียกมนต์

    มาต่อจากที่ค้างไว้ว่า วิชาสัก หรือของที่ลงให้ลูกศิษย์ไปแล้วสามารถกรึงไว้ไม่ให้เสื่อม และสามารถเรียกกลับได้ หากศิษย์ผู้นั้นประพฤติตนไม่เหมาะสม หรือคิดล้างครู

    โดยเมื่ออาจารย์ผู้นั้นจะกระทำพิธีใดๆ ก็ตามเมื่อกระทำเรียบร้อยแล้วใมขั้นตอนสุดท้ายก็จะเป็นการใส่กุญแจมนต์ กรึงมนต์ พญามนต์ ผูกมนต์ไว้ด้วยพุทธคุณไม่ให้เสื่อมคลายซึ่งวิชานี้หลวงปู่ตี๋ได้ไปเรียนมาจาก หลวงตาจวน วัดไก่เตี๊ย สุพรรณบุรี หลวงปู่ตี๋ท่านจึงมันใจในวัตถุ เครื่องรางที่ท่านสร้างมากว่าจะไม่เสื่อม แต่พระพุทธคุณไม่มีวันเสื่อมอยู่แล้ว เว้นแต่เครื่องราง หรือของบางอย่างที่ทำเป็นการเฉพาะอาจมีการคัดถอน หรือแก้ได้ ท่านจึงลงกุญแจมนต์ไว้เสมอเพื่อป้องกันคนมาคัดถอนของท่าน

    ทีนี้ในกรณีที่ได้กระทำพิธีให้แก่ศิษย์ไปแล้ว เช่น สัก เมื่อพบว่า ศิษย์ผู้นั้นกระทำตัวไม่เหมาะสม เกะกะระรานผู้อื่นให้เดือดร้อน หรือประเภทศิษย์คิดล้างครู ในตำราก็ได้กล่าวไว้ว่า มีผูกก็มีแก้เป็นของคู่กัน อาจารย์ผู้นั้นก็จะกระทำการเรียกวิชากลับคืน โดยมีขั้นตอนที่พอบอกได้คร่าวๆ คือ จะทำการสมมุติ ฤาษี ขึ้น 4 ตน มาถอดและถอน ในเวลาใดก็ได้ โดยมีเครื่องบวงสรวงบูชา บายศรีตอ บายศรีหลัก บายศรีบัลลังค์ บายศรีเทพ บายศรีพรหม พร้อมเครื่องบรวงสรวงตามตำรา เมื่อเตรียมเครื่องครบแล้ว จึงกระทำการเรียกวิชากลับ เรียกว่า ถอดจากศิษย์ มนต์ต่างๆ ที่ลงไว้ก็จะออกจากตัวศิษย์ผู้นั้นทันที โดยมากมักกระทำการในพิธีไหว้ครู เนื่องจากมีเครื่องบูชาครบ

    แต่ว่าการถอดมนต์จากศิษย์นี้ไม่นิยมกระทำเท่าใด เมื่อให้ไปแล้วก็ถือว่าให้กันด้วยความเมตตา กรุณาไม่คิดอาฆาต เอาคืน มักมีแต่ศิษย์ที่จะคิดล้างครู
     
  20. hellotawan

    hellotawan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    1,156
    ค่าพลัง:
    +5,233
    เมื่อวันที่ 13 มกราคม 2556 ทงคณะศิษย์ของหลวงปู่ตี๋ ฉันทธัมโมได้เดินทางไปทำพิธีหล่อพระพุทธชาญปรีชญา ขนาดหน้าตัก 45 นิ้ว ณ วัดศรีธาตุ จ.ยโสธรครับ

    [​IMG]
    ท่าน พลตรีกนิษฐ์ ชาญปรีชญา และครอบครัว ประธานในพิธี

    [​IMG]

    [​IMG]
    ชาวบ้าน และประชาชนจากต่างอำเภอ และในตัวจังหวัดที่มาร่วมพิธี

    [​IMG]
    เวลากลางคืนก่อนวันงานพิธีหล่อ ชาวบ้านพร้อมใจนุ่งขาวห่มขาวมารวมพิธีสวดอิติปิโส ๑๐๘ จบ

    [​IMG]

    [​IMG]
    พระพุทธชาญปรีชญา หน้าตัก 45 นิ้ว เกศทองคำ

    [​IMG]
    เสร็จพิธีหล่อก็ร่วมกันถวายปัจจัย ผ้าป่าที่ทางพลตรีกนิษฐ์ ชาญปรีชญา และคณะศิษย์หลวงปู่ตี๋ร่วมกันทำ เป็นจำนวน 110,000 บาท ขอเชิญร่วมกันอนุโมทนา
     

แชร์หน้านี้

Loading...