ประสบการณ์จากตัวข้าพเจ้าเอง..เรื่อง"ผีตายโหง"(ไม่ได้มีเรื่องเดียว)

ในห้อง 'เรื่องผี' ตั้งกระทู้โดย นายเมธี12, 24 เมษายน 2013.

  1. นายเมธี12

    นายเมธี12 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กรกฎาคม 2007
    โพสต์:
    620
    ค่าพลัง:
    +540
    ขอโทษนะครับ มีเหตุขัดข้องนิดหน่อย ก็เลยไม่ได้มาเล่าให้ฟังตามที่บอกไว้

    เล่นต่อครับ
    ในขณะที่ผมนั่งสมาธิ ตอนที่ผมยังทำงานอยู่ เซเว่น ผม ก็ได้ปฏิบัติธรรมนั่งสมาธิทุกวัน นั่งแล้วรู้สึกสงบ จนกระทั่ง นั่งไปได้สักพักนึง จู่ๆ ก็รู้สึกเหมือนมีจุดอะไรอยู่ในขณะที่ผมนั่งสมาธิหลับตา แล้วจุดๆนั้นค่อยๆขยายใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ โดย รัศมีรอบๆนั้นก็ไม่ได้ชัดเจนแต่ตรงกรางชัดเจนมาก เห็น สัตว์แปลกๆตัวนึง อยู่ขอบจักวาล มีแขนยั้วเยี้ยะ ถ้าหากเปรียบเทียบก็เหมือนกับขาแมลงสาบ แต่ ขาแมลงสาบยังดูดีหลายร้อยเท่า ซึ่งตรงปลายของแขนหลายข้างนั้น มีใบมีดที่แหลมคม ราวกับว่า มันเป็นส่วนนึ่งของร่างกาย ถ้าหากเปรียบสเมือน กระดูกของเราหรือเล็บที่มีความแหลมคุม ก็ไม่ปาน ผิว หนัง เป็นสีอะไรไม่ทราบได้แต่ ในขณะนั้นที่เห็น เป็นสีดำ ผิวมันวาว ราวกับ ผิวของแมลงปีกแข็ง ก็พวกแมลงสาบ ถ้าหากจะยกตัวอย่างง่ายๆ ก็คือแมลงสาบเอาใบมีดไปติดที่ขา แต่ไม่มีปีก บินไม่ได้ ส่วนหัวหน้าเกลียดหน้ากลัว แล้วแต่จะเป็นแบบไหน (random)ของความหน้าเกลียดประมาณนั้น ส่วนลำตัวยาวไม่มากนัก คอยาวเท่าลำตัว และมีลูกตาแต่มันเป็นเหมือนผิวหนังไม่มีตาดำตาขาว เพราะที่นั่น ไม่มีแสงสว่างแม้แต่น้อยแต่เห็นเพียงระยะช่วงแขนเท่านั้น แต่ตอนที่ผมนั่งสมาธินี้ผมมองเห็นรอบๆว่าที่ๆนั่นเป็นอย่างไร คือ แต่ละตัว ไม่มีเหมือนกัน บางตัวก็มีแขนเป็น10 บางตัวก็มีแขน2ข้าง บางตัวก็มีใบมีดอยู่ที่ปาก ไม่เหมือนกัน เกาะอยู่ขอบจักวาล ความหิวโหยไม่ต้องพูดถึง หากตัวไหนที่ไม่ใช่แขนเรากินทุกอย่างที่ขวางหน้า แต่ตอนนั้นที่ผมนั่งสมาธิแล้วมองตัวสัตว์ประหลาดตัวนี้ก็ระลึกได้เลยว่า เป็นตัวเราในอดีตเหมือนส่องตัวเองในกระจกโดยมีตัวเราอีกตัวในกระจก ทรมานสุดๆ หากไม่เกาะขอบจักรวาลดีๆก็ล่วงลงไปข้างล่างจะเป็นเหว นรก มีเปลวไฟ สีฟ้าๆน้ำเงินรึเปล่าไม่แน่ใจแต่ ล่วงลงไปแล้ว มันยิ่งกว่าไฟในนรกเพราะเศาไฟนรกร้อนกว่าไฟในเมืองมนุษร้อยเท่า อันนี้ยิ่งกว่า จุดเดือดของไฟจนมันเย็นสุดขั่ว แต่อยู่ที่นั้นไม่รู้สึกหนาวนะเพราะผิดหนังมันเป็นแมลงปีกแข็ง แต่รู้สึกทรมานเพราะ ไม่รู้ว่าเมื่อใครจะโดนกินหรือ หมดแรงก็ล่วงลงไป ตายแล้วก็ ผุดขึ้นมาใหม่เป็นอย่างนี้ นับไม่ถ้วน จนมีวันนึงมีแสงแว๊บเดียว ผมไม่รู้หรอกนะว่าแสงนั้นมาจากไหนโดยสัตว์นรกส่วนใหญ่มันไม่มีสมองให้คิดอะไรไม่รู้จักบาปบุญ ไม่มีสามัญสำนึก แต่แปลกตรงที่พอผมเห็นแสงแว๊บนั้น(ตอนที่อยู่ในนรก)ก็ประหลาดใจ แล้วมันก็หายไปจุดวงกลมใหญ่ๆก็ค่อยๆเล็กลงแล้วก็กลับมาสมาธิเหมือนเดิม ตอนนั้นนั่งไป4 ชม.เอง ไม่เท่ากับที่ไปพระนิพพาน ผมนั่งไป7-8 ชม. แต่เรื่องนี้ มัน ช่วยให้ผมมั่นใจว่าผมเป็นพุทธภูมิ เพราะ เหตุแห่งผู้ใดปราถนาที่จะเกิดมาเป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าแล้วจะต้องเกิดเป็นสัตว์ทุกชนิด เกิดเป็นสิ่งมีชีวิตทั้งมวลเพื่อให้เข้าใจในหลักของความเป็นอยู่และ จริตและความเป็นไปโดย ธรรม จะได้โปรดสัตว์เหล่านั้นได้อย่างแท้จริง ผมไม่ได้รู้เรื่องของ พระไตรปิฎก มากมายนักไม่ได้ศึกษาไม่ได้เป็นสายพระบ้าน แต่ชอบปฏิบัติ นั่งสมาธิ ชอบสายพระป่าซะมากกว่า หากสิ่งที่เล่ามาขัดกับความจริงในบันทึกของ พระไตรปิฎก ผมก็ขออภัย แต่ผมประสบมาแบบนี้ก็เล่าตามในสิ่งที่ผมเห็นและพบเจอ

    และหลังจากนั้นก็ค่อยๆเกิดในโลกนรกทุกๆชั้น ผมจำได้แค่บางชั้น จำไม่ทั้งหมด
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 15 ธันวาคม 2013

แชร์หน้านี้

Loading...