ประสบการณ์รอดตายจากคมกระสุนด้วยบารมีธรรมหลวงปู่โต๊ะวัดประดู่ฉิมพลี

ในห้อง 'ประสบการณ์ เรื่องเล่า' ตั้งกระทู้โดย munee, 7 พฤษภาคม 2007.

  1. เฉียวฟง

    เฉียวฟง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    1,190
    ค่าพลัง:
    +4,913
    ขอบคุณมากครับ...พรใดให้มาขอให้พรนั้นส่งถึงคุณ ปูอัน และ คุณ Norragate เช่นกันครับ
     
  2. เฉียวฟง

    เฉียวฟง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    1,190
    ค่าพลัง:
    +4,913
    บทความธรรมะ ของหลวงปู่โต๊ะ


    [​IMG]
    [​IMG]
    หลวงปู่โต๊ะ อินฺทสุวณฺโณ : รู้โลก - เรียนธรรม (๓)
    เป็นผู้ดู

    พระพุทธเจ้าทรงสอนให้ซึ้งลงไป
    กว่าศาสดาที่เขาสอนกันอยู่แต่ก่อน

    สอนบุคคลาธิษฐานนี่แหละ
    ให้เห็นว่ามันไม่เที่ยง

    มันเป็นอย่างไรจึงไม่เที่ยง
    มันเปลี่ยนไป ๆ ตามสภาวะของมัน
    ถ้าเราไปฝืนสภาวะ
    ถึงคราวมันเปลี่ยนไป
    จะโกรธขึ้นมา

    อย่าไปฝืน
    ดูมัน
    ยืนดูความเปลี่ยนของมัน
    ยืนดูความทุกข์ของมัน
    ยืนดูความเป็นอนัตตาของมัน

    อย่าไปหวั่น
    ถ้าหวั่นไปนั้น
    ไม่ใช่เป็นเรื่องของสภาวะ

    ถ้าเราไปตามสภาวะเช่นนั้นด้วยแล้ว
    เดือดร้อน
    ความไม่เที่ยงเกิดขึ้น
    เดือดร้อน
    ความเป็นทุกข์เกิดขึ้น
    เดือดร้อน
    ความไม่เป็นตัวของตัวเกิดขึ้น
    เดือดร้อน

    อย่าเป็นไปตามมัน
    ยืนเฉย ๆ

    ดูความเปลี่ยนของเขา
    ดูทุกข์ของเขา
    ดูความไม่ใช่ตัวไม่อะไรของเขา
    ยืนดู
    [​IMG]
    [​IMG]
    [​IMG]
    เราดูเราเห็น

    แล้วเราจะต้องยืนดูทำไม
    เราจะเห็นตัวความไม่เที่ยง
    มันเปลี่ยนไปอย่างนี้เชียวนะ
    ทุกข์ก็ตาม มันเปลี่ยนไป
    อ้อ มันไม่อยากอยู่กับคนอย่างนี้เชียวนะ

    แล้วอะไรจะเกิดขึ้น
    เมื่อเห็นแล้ว ธรรมะเกิดขึ้น
    เกิดขึ้นแล้ว
    แกจะอยู่กับ
    ความไม่เที่ยง เป็นทุกข์ เป็นอนัตตา
    นี่น่ะรึ

    แกอยู่มากี่ร้อยพันชาติแล้ว
    แกได้ลิ้มรสอะไรกับเขาบ้าง

    เกิดแก่เจ็บตาย
    เอ้อ ยังจะชอบอยู่ยังปรารถนาอยู่กับสิ่งเหล่านี้
    มันไม่เข็ดบ้างหรืออย่างไร
    ถามตัวเรา

    นี่
    ตัวธรรมะจะเกิดขึ้น

    [​IMG]
    [​IMG]
    คัดลอกจาก...
    หนังสือพุทธโอวาท หน้า ๑๕๐ - ๑๕๑
     
  3. คนกันเอง

    คนกันเอง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    7,441
    ค่าพลัง:
    +8,975
    เดือดร้อน
    ความไม่เที่ยงเกิดขึ้น
    เดือดร้อน
    ความเป็นทุกข์เกิดขึ้น
    เดือดร้อน
    ความไม่เป็นตัวของตัวเกิดขึ้น
    เดือดร้อน

    อย่าเป็นไปตามมัน
    ยืนเฉย ๆ

    สาธุ สาธุ สาธุ
     
  4. เฉียวฟง

    เฉียวฟง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    1,190
    ค่าพลัง:
    +4,913
    บทความธรรมะ ของหลวงปู่โต๊ะ



    <table class="blog_center_data"> <tbody><tr> <td>
    [​IMG]
    [​IMG]
    หลวงปู่โต๊ะ อินฺทสุวณฺโณ : รู้โลก - เรียนธรรม (๔)
    ทางไปสู่ความไม่เกิด

    เอ้อ
    แล้วทำไมจึงจะพ้นจากขันธ์ ๕ เหล่านั้นนะ
    ก็พระท่านว่า
    ไม่เกิดแหละดี ไม่เกิดเป็นตัวเหตุ ไม่เกิด

    เออ ไม่เกิดนี่
    แล้วทำอย่างไรจึงจะไม่เกิด

    ทานบ้าง ศีลบ้าง ภาวนาบ้าง ปัญญาบ้าง
    และอื่น ๆ

    ทานให้แก่ใครไม่ทราบ
    ที่เรียกว่าทำทาน

    ท่านทำทานของท่านจบแล้วหรือยัง
    ท่านรักษาศีลของท่านจบแล้วหรือยัง
    ท่านเจริญสมาธิของท่านแล้วหรือยัง
    ปัญญาของท่านเกิดขึ้นแล้วหรือยัง

    เออ ยัง
    ถ้ายังก็ทำไป ๆ ๆ จนกว่ามันจะจบ

    อะไรบ้าง
    สร้างโบสถ์ สร้างวิหาร สร้างศาลาการเปรียญ
    สร้างสะพาน ขุดบ่อ สร้างพระเจดีย์
    อะไรก็สร้างไปเถอะ

    ทานเด็กเล่น
    แกมัวไปสร้างทานเด็กเล่นนี้ละก็
    แกจะสร้างไปอีกกี่ร้อย กี่พันปี

    นี่ เด็กทำได้
    เด็ก ๆ ก็ทำได้ถ้ามีเงินมีทอง

    เอ้า
    ถึงปีก็ทอดกฐิน ไปทอดผ้าป่า
    วัดนั้นสร้างโบสถ์ วัดนั้นสร้างวิหาร
    ไม่ต้องทำอะไรกัน
    สร้างโบสถ์วิหารการเปรียญ
    เอ้อ
    วัดโน้นมาอีก
    เพลิน ๆ ไป

    ตายแล้วก็ไปวิมาน
    ได้วิมานทั้งนั้น
    เออ อยากได้ก็ว่ากันไป
    เพลินตายไป ชาติหนึ่ง ๆ
    เกิดแก่เจ็บตายได้
    ได้เท่านั้น
    กี่ร้อยกี่พันครั้ง

    เพราะอะไร
    เพราะหาทางออกไม่ถูก
    นี่เขาชอบอย่างนั้น

    โลกนี้เขาชอบอะไร
    เขาชอบสร้างโบสถ์สร้างวิหาร
    เอ้า
    ไปสร้างโบสถ์หลังเบ้อเร่อเท่อ
    และกุฏิวิหาร
    เขาว่าขุดบ่อดี
    เอ้า
    ไปขุดบ่อ

    เข้าในเรื่องสอง
    เราก็เพลินเหมือนกัน
    เพราะครูบาอาจารย์ท่านแนะนำให้ทำอย่างนั้น
    เราก็ต้องทำไป

    ถ้าท่านทำถูก
    ท่านยืนยันว่าท่านทำถูกแล้ว
    เราเป็นลูกศิษย์ก็ต้องทำถูกไปจุดหนึ่ง
    แต่ไม่ถูกทั้งจุด

    มีความมุ่งหมายในทางพระพุทธศาสนา
    นั้นเหมาะสม
    เราก็ทำกันไปอย่างนี้
    ผิด ๆ ถูก ๆ

    ถูกก็หมดไป
    ทรัพย์สมบัติพ้สถานอะไร ๆ ที่มีอยู่
    ก็หมดไป
    ท้ายที่สุดก็แตกดับไป
    เมื่อกิเลสยังมีอยู่ก็กลับมาอีก
    สร้างชาติขึ้นอีกติดต่อกันเรื่อย ๆ ไป
    นี่เรียกว่า
    มาสร้างกันต่อไป

    อ้อ
    การเกิดนี่มันทุกข์ใหญ่
    แล้วจะทำอย่างไร

    ทานก็ให้พอสมควร
    ศีลก็ให้พอสมควร
    สมาธิก็ให้พอสมควร

    ทำไป ๆ ก็เบื่อ
    เบื่อในทาน เบื่อในศีล เบื่อในสมาธิ เบื่อในปัญญา

    วันหนึ่ง
    เราจะทำสักสามชั่วโมง
    ไม่ได้
    เมื่อย
    นั่ง ๆ ชักเมื่อย
    นั่ง ๆ ชักง่วง
    เป็นอย่างนั้น

    ที่ทางที่เราดำเนินไม่สละสลวย
    มันขลุกขลักในระหว่างที่เราเดิน
    นี่นะ
    ควรจะหยุดพัก
    หยุดพักเสีย

    ไม่เห็นความเกิดว่าทุกข์
    ไม่เห็นว่านี่ตัวเกิด
    ไม่เห็นก็คือที่ท่านว่าโง่ อยากยึด
    นี่แก้พวกนี้ไม่ไหว
    นี่มันอยู่ตรงนี้
    อยู่ตรงนี้

    เราจะแก้กันอย่างไร
    ยึดเป็นอย่างไร
    อวิชชา ตัณหา อุปาทาน
    ยึดด้วยธรรมะไว้แก้ตรงนี้
    แก้กันไปทำกันไปเถอะ
    ทำไปเท่าไร เราก็ได้เท่านั้น
    เราก็สั่งสม ๆ
    มันแก่กล้า มันก็ละได้ขันธ์ ๕

    นี่บุคลาธิษฐาน
    พระพุทธเจ้าสอนลงไปว่า
    พวกนี้ไม่มีอะไร
    ไม่มีอะไรนะท่านนะ
    ท่านอย่าเข้าใจผิด
    ดิน น้ำ ลม ไฟ อากาศ วิญญาณ
    เหล่านี้ไม่มีอะไร

    ไอ้ที่ว่า
    เป็นรูป เป็นเวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ น่ะ
    โลกนะ
    โลกเขาสมมติ
    จะได้รู้กันว่าชื่อนั้นชื่อนี้
    ลงท้ายที่สุดไม่มี
    เป็นอนัตตา

    ดินก็ไปส่วนดิน
    น้ำก็ไปส่วนน้ำ
    ไฟก็ไปส่วนไฟ
    ลมก็ไปส่วนลม
    อากาศก็ไปส่วนอากาศ
    วิญญาณก็ไปส่วนวิญญาณ
    ปล่อย ๆ ๆ

    ปล่อยกับถือไว้
    มันต่างกันอย่างไร
    ใครจะได้รับความสุขกว่ากัน
    ที่เราถือกับไม่ถือ

    ที่เราถือ
    เพราะอวิชชา
    ที่เราไม่ถือ
    เพราะอาศัยธรรมะ

    เห็นหรือยัง
    อย่างที่พระองค์ตรัส

    ความยึดถือก็เบาลง ๆ
    มันก็ถอยไป ๆ
    ทีละน้อย ๆ
    มันทนอยู่ไม่ได้ในที่สุด

    ไปที่ไหน
    มันไปที่โน้น ๆ
    พอที่เราจะแตกทำลายขันธ์ไป

    ที่เรามานี่
    ก็มาเที่ยว มาค้าขาย มาทำอะไร ๆ
    ก็ว่าไปเถอะ
    เที่ยวแล้วก็ไป ๆ

    ทีนี้ก็มาถามว่า
    เอ้อ
    ไอ้ที่เกิดมานี่
    เข็ดบ้างไหม
    ไม่เข็ด

    ทีนี้
    เมื่อไม่เข็ด
    จะว่าอย่างไร
    เกิดเรื่อยไป

    เอ้า
    ถ้าเข็ด
    ก็หาทาง หาทาง หาเอาเอง
    ตถาคตเพียงแต่แนะทางให้
    จะไปหยิบยกให้ก็ไม่ได้

    ท่านทำของท่านเอง
    ท่านดูของท่านเอง
    ท่านได้ของท่านเอง

    พยายามทำไปจนกว่ามันได้มันจะถึง
    จะไม่เลิกละเรื่องการกระทำ

    โลกเราก็อ่านออกแล้ว
    ธรรมเราก็อ่านออกแล้ว
    พอจะเอาตัวรอดไปบ้าง
    [​IMG]
    [​IMG]

    คัดลอกจาก...
    หนังสือพุทธโอวาท หน้า ๑๕๒ - ๑๕๕
    </td> </tr> </tbody></table>
     
  5. คนกันเอง

    คนกันเอง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    7,441
    ค่าพลัง:
    +8,975
    :cool: ขอบคุณครับ พี่เฉียวฟง หาอ่านได้ยากมากครับ อ่านแล้วรู้สึกดีจริงๆครับ
     
  6. chainerror

    chainerror เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    2,783
    ค่าพลัง:
    +7,901
    รบกวนศิษย์หลวงปู่โต๊ะคุณเฉียวฟงและเพื่อนสมาชิกหลายๆท่าน
    ช่วยพิจารณาองค์นี้ให้หน่อยครับว่าดูดีมั้ยครับ
    พอดีจะไปประมูลแข่งสู้กับซักเขาหน่อยครับ ขอบคุณครับ

    พระสีวลีรูปไข่ เนื้อผงใบลาน

    [​IMG]

    [​IMG]
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  7. เฉียวฟง

    เฉียวฟง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    1,190
    ค่าพลัง:
    +4,913
    ครับคุณเชน..ส่วนตัวผมชอบนะ องค์นี้ดูดี ครับ ขอให้โชคดีกับการประมูลด้วย ไม่ทราบว่าราคาเปิดมาแรงไหมครับ.....
     
  8. เฉียวฟง

    เฉียวฟง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    1,190
    ค่าพลัง:
    +4,913
    บทความธรรมะ ของหลวงปู่โต๊ะ



    <table class="blog_center_data"> <tbody><tr> <td>
    [​IMG]
    [​IMG]
    หลวงปู่โต๊ะ อินฺทสุวณฺโณ : รู้โลก - เรียนธรรม (๕)
    อ่านโลก

    เมื่อจิตสงบแล้ว
    ปัญญาจะเกิดขึ้น
    อ่านออก

    อ่านอารมณ์ที่ล่วงไปแล้วก็ดี
    ที่จะมาข้างหน้าก็ดี
    หรือในปัจจุบันก็ดี

    รู้หมด

    รู้อะไร
    รู้เท่าทันตัวอารมณ์

    อารมณ์เป็นอะไร
    เป็นโลก
    อารมณ์เป็นโลก

    อารมณ์ดีให้ผลอย่างไร
    ปัญญาจะเกิดขึ้นได้
    ในเวลาที่เราพิจารณาว่า
    อ้อ
    อารมณ์ดีจะมีประโยชน์
    แก่ผู้ต้องการจิตสงบ

    มีประโยชน์อะไร
    และกำจัดอะไรได้บ้าง

    กำจัดนิวรณ์
    กามฉันทะมีไหม
    พยาบาทมีไหม
    ถีนมิทธะมีไหม
    อุทธัจจะกุกกุจจะมีไหม
    วิจิกิจฉามีไหม

    ไม่มีในจิตสงบ ไม่มี
    เมื่อเรามองดูแล้วไม่มี
    ปลอดโปร่งไปหมด
    เพราะปัญญากับสติเข้าไปคุมจิตไว้

    คนสองคนที่ตั้งอยู่ในสุจริตธรรม
    ธรรมที่ไม่ใช่ธรรมเข้าหาไม่ได้

    ทีนี้จิตจะสูงขึ้น
    สูงขึ้นเป็นลำดับ
    เกิดกำลังพลังกล้าหาญ
    กล้าหาญไม่หวั่นไหว

    อารมณ์ที่ดีก็ไม่ไปยึดไว้
    อารมณ์ที่ชั่วก็ไม่ไปยึดไว้
    อารมณ์ที่ไม่ดีไม่ชั่วก็ไม่ไปยึดไว้

    เพราะเห็นด้วยปัญญาว่า
    สิ่งทั้งหลายแหล่ที่มีอยู่ในโลก
    มันไม่มีอะไร

    มันแปรของมันไป
    มันเป็นทุกข์ของมันไป
    มันเป็นอนัตตาธรรมของมันไป

    เราไม่มีอำนาจ
    ที่จะบังคับบัญชาอะไรใครได้
    มันเป็นสภาวะของเขา
    อย่างนั้นเอง

    อ่านออก
    ดีก็รู้ไว้ ชั่วก็รู้ไว้
    แล้วก็ผลักมันออกไป
    ไม่ดีไม่ชั่วก็ผลักมันออกไป
    ไม่คุมไว้เป็นสมบัติของเรา
    เราไม่มีสมบัติอะไร
    มันเป็นของโลก ๆ

    เมื่อเราอ่านโลกออกแล้ว
    โลกมันก็ไม่ทับเรา

    โลกอะไร
    ได้ลาภ เสื่อมลาภ
    ได้ยศ เสื่อมยศ
    ได้สุข เสื่อมสุข
    ได้สรรเสริญ ประสบกับเสื่อมสรรเสริญ
    คือได้รับนินทา

    ใจเป็นอย่างไร ๆ
    เท่ากัน
    ได้กับเสื่อมเท่ากัน
    ได้ก็มีเสื่อม
    มันจะเป็นอะไร
    เมื่อมันมีได้มันเสื่อมไปได้
    มันก็ไอ้แค่นั้น
    อ่านออก ๆ

    เมื่อถูกวิชชา
    ความรู้ของเรา
    ประกอบด้วยสติปัญญา
    อ่านออกดูออก
    มันสักแต่ว่าเท่านั้น
    มันไม่จริงไม่จังอะไรกับมันหรอก

    ที่เราเห็นจริงจังนั่น
    เพราะอะไร
    กิเลส

    อะไรเรียกว่ากิเลส
    อวิชชา ตัณหา อุปาทาน
    นี่เอง
    ที่ทำให้หลงไปในโลก
    โดยทางที่ผิดทำนองคลองธรรม

    ใคร ๆ ล่ะเป็นผู้หลง
    เราต้องการเป็นผู้ไม่หลงใช่ไหม
    ใช่

    เป็นเพราะอะไรจึงหลงอยู่ล่ะ
    มันยังหาวิชชาอยู่
    เรายังเรียนวิชชาไม่พอ
    มันยังไม่พอ

    และไอ้ความอยากของเรา
    มันยังไม่พอลด
    ไพล่ไปยึดถือไว้อีกด้วย
    เอ้อ กิเลสบาปธรรมมันหมุนเรา

    ที่เรามาเรียนสมถกรรมฐาน
    ก็เพื่อหมุนมันกลับบ้าง
    หมุนกลับ
    หมุนออก ๆ
    ไม่ใช่หมุนเข้า

    เมื่อเรายังไม่ได้ทำสมถะ
    มันหมุนเรา

    กิเลสกรรมมันคลาย
    คลายจนหมดลาน
    หยุดเอง

    สติปัญญาเราก็มีขึ้น
    วิชชาเราก็มี
    สมุทัยก็มี
    คือความเป็นมา
    อุปาทานการยึดถือก็คลาย
    เฉย ๆ สบาย
    กล้าหาญขึ้นเป็นลำดับ
    [​IMG]
    [​IMG]

    คัดลอกจาก...
    หนังสือพุทธโอวาท หน้า ๑๕๕ - ๑๕๘


    </td> </tr> </tbody></table>
     
  9. เฉียวฟง

    เฉียวฟง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    1,190
    ค่าพลัง:
    +4,913
    บทความธรรมะ ของหลวงปู่โต๊ะ


    [​IMG]
    [​IMG]
    หลวงปู่โต๊ะ อินฺทสุวณฺโณ : รู้โลก - เรียนธรรม (๖)
    เราต้องทำเอง

    ที่พูดนี่นะ
    ได้มาจากอะไร
    มีอะไรเป็นเครื่องยืนยัน

    ก็แค่นั้น ๆ
    พระปริยัติ ก็เข้าใจในเรื่องพระปริยัติ
    แล้วเราก็นำเอาพระปริยัติมาปฏิบัติ
    เป็นปฏิบัติธรรม

    ปฏิบัติได้แค่ไหน

    ศีล
    ศีลหรือรักษาได้กี่ตัว
    ๕ ตัวรักษาได้หรือยัง
    ยังไม่ได้
    มันได้เป็นตัว ๆ

    ไอ้ที่ได้เป็นตัว ๆ
    มันก็ยังไม่อยู่กับตัว
    ไปอยู่กะอะไรต่ออะไรเสียหมด

    เป็นเพราะอะไร
    ศีล ๕ ตัวเท่านี้รักษาไม่ได้
    ถามตัวเอง
    ปุจฉาวิสัชนาของเรา
    เป็นเพราะอะไร

    เพราะความเห็นกับธรรมที่เราปฏิบัติ
    มันยังไม่ตรงกัน
    มันก็ลงเอยกันไม่ได้ไปก่อน

    ศีล สมาธิ ปัญญา
    เมื่อของเรามีบริบูรณ์
    ความหลุดพ้นของเราก็มีได้

    ศีล ๕ เด็ดขาดไม่ต้องกระทำต่อไป
    เด็ดขาดไปเลย
    เป็นสมุจเฉทปหาน

    นี่
    ต้องอาศัยตัวเราเอง
    ทำของเราเอง
    ปลอบของเราเอง
    ขู่ของเราเอง

    แล้วการปฏิบัติของเรา
    มันก็ย่อหย่อน
    ไม่ได้ทำจริงทำจัง
    ทำตามเขาไปบ้าง

    เขารักษาศีล ก็รักษากับเขาบ้าง
    เขาภาวนา ก็ภาวนาบ้าง
    เขาทำปัญญา ก็ทำปัญญาบ้าง
    ทำพอเป็นไปตามประเพณีเท่านั้น

    ทีนี้
    เครื่องเวียนของเรามันก็พอกพูน
    เพราะการปฏิบัติเพื่อหลุดพ้น มีน้อย
    กิเลสมีมาก มีมากก็พูนสั่งสม

    เลยทอดทิ้ง
    ทิ้งศีลคว้าทรัพย์
    อะไรเหล่านี้ไปแล้ว ๆ

    เพราะฉะนั้น
    ช่องทางของการปฏิบัติ
    พระพุทธเจ้าทรงสอดส่องมาแล้ว

    ไม่ได้ ๆ
    ถ้าหากว่าเป็นฆราวาสอยู่เช่นนี้
    ต่อไปอีกแสนปี
    คำว่าตถาคตจะไม่เกิดแก่จิตศรัทธาเลย
    ทางพ้นจะไม่เกิดแก่จิตศรัทธาเลย
    คำว่าสัมมาอะระหังอะไรนั่น
    จะไม่เกิดแก่จิตศรัทธาเลย

    ทำไมทำที่บุคคลเขาเห็นกันว่าทำไม่ได้ ทำอะไร
    ทำอย่างที่มันจะทำได้

    อะไร
    เป็นลูกกษัตริย์ขัตติยะร่ำรวยทุกประการ
    จะทำได้ไหม
    ทำสิ่งที่คนอื่นเขาเห็นว่าทำไม่ได้ ทรงทำ

    แล้วก็เป็นอย่างไร
    เหมาะ ๆ ๆ แล้วก็คลำเรื่อย ๆ
    หลับหูหลับตาคลำ
    เสียสละ แล้วก็คลำ ๆ มาเรื่อย ๆ
    คลำมา ๔ อสงไขยกำไรมหากัปป์ คลำมาเรื่อย ๆ

    เพิ่งมาเจอที่โพธิพุทธคยาที่อินเดีย
    อีก ๖ ปีภายหลังเสด็จออกทรงผนวช

    คลำมาเรื่อย ๆ
    ทาน ให้เป็นปัญจมหาบริจาค
    ให้ ๆ อย่างที่มนุษย์เขาให้กันไม่ได้
    ท่านก็ทำ
    ลูกเมียให้หมด
    วัวควายช้างม้าให้หมด
    สมบัติพัสถานให้หมด
    ให้หมดทุกอย่าง

    ปัญจมหาบริจาคที่คนอื่นเขาทำกันไม่ได้
    แต่สิทธัตถะทำได้

    อย่างที่เขาทำกัน
    ทรัพย์สมบัติเอย ลูกเมียเอย
    มันก็ยังไม่พ้นไปจากทุกข์ ไม่ได้
    และพระองค์พิสูจน์

    แล้วที่ทำนี่เพื่ออะไร
    พ้นไปจากทุกข์ พ้นไปจากทุกข์

    เพราะพระองค์เห็นแล้ว
    เห็นทุกข์แล้ว
    เห็นฤทธิ์ เห็นเดช เห็นเพศ เห็นวัย
    ของเขามีอยู่อย่างไร ๆ

    แล้วผู้ที่จะออกจากทุกข์ล่ะมีไหม
    มี มีเยอะ ๆ ๆ มีแล้วลาเลิก

    "หกปี
    ถ้าไม่สำเร็จเป็นพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า
    ให้มันตายไปที่ต้นโพธินี่แหละ
    ตายดี ตายเสียที่นี่ดี"

    แต่
    ไม่ได้นั่งแกร่วอยู่อย่างนั้นน่ะ
    เดินจงกรมบ้าง นอนบ้าง นั่งบ้าง
    อะไร ๆ หลายอย่างตามอิริยาบถทั้งสี่

    ใช้ได้
    ทำถึงที่สุด สำเร็จในที่สุด
    ต้องทำจริง

    เอ้า
    ทำให้มันตาย
    ถ้ามันอยากตาย ตาย

    อธิษฐานว่า
    ต้องทำจริงทุกเรื่อง
    เอาไปชีวิต
    แต่ศีลทานการกุศลนั้นไม่ให้
    เพราะว่ามันหายาก

    ตถาคตหามาถึง ๔ อสงไขยกำไรมหากัปป์
    เพิ่งพบที่ต้นโพธินี่เอง

    เพราะฉะนั้น
    ชีวิตเอาไป
    ชีวิตสิบห้าปีกลับมาเกิดเป็นมนุษย์ต่อไป
    ศีลทานการกุศลนั้นหายาก
    ต้องเอาชีวิตเข้าแลกศีลทานการกุศล
    ชีวิตช่างมันเอาไป
    ขอศีลทานการกุศลไว้

    ที่เราทำ ๆ กันนี้
    เราเคยอบรมมาแล้วพอสมควร

    เพราะฉะนั้น
    เราจึงมีนิสัยปัจจัย
    รักษาศีลภาวนาเจริญปัญญาเรื่อย ๆ ไปก่อน

    เพื่อ
    ส่งเสริมสั่งสมบารมีให้แก่กล้า
    เท่าที่จะแก่กล้าได้

    อดีตเต็ม
    อดีตบุญกุศลเต็ม
    อนาคตบุญกุศลเต็ม
    ปัจจุบันกุศลเต็มทำไว้
    ต้องการบุญกุศลล่อไว้ทำไว้ ๆ

    นี่
    เราสร้างบารมีล่อไว้
    อดีตนั้นเต็มอนาคตมันเต็ม
    ปัจจุบันมันเต็มพร้อมไป
    สั่งสมไว้ในตัวเองทีละน้อย

    จนกว่า
    จะถึงคราวร่วมเป็นอันเดียวกัน
    มาพร้อมกันหมด

    เต็ม ๆ จนไม่มีอะไรจะใส่
    เต็มหมด

    น้ำเต็มหมดทั้ง ๓ ตุ่ม
    เต็มเปี่ยมจะเพิ่มอะไร ๆ ไม่ได้

    มันเต็มแล้วก็ไป
    ไม่อยู่ ไปเอง

    เพราะ
    เราทำของเรามาเอง
    เราก็ไปของเราเอง
    จะมีอะไรมาล่อหรืออะไร
    ไม่สน อดทน ไม่โอนเอนไปตาม

    นี่เราทำไปเพื่อผล
    คือพ้นไปจากทุกข์
    เพื่อพ้นจากทุกข์
    คือเราเข็ดเกิด แก่ เจ็บ ตาย ๆ ๆ ๆ
    อยู่อย่างนี้
    เราไม่รู้จะไปไหน

    มันเกิดแล้วก็แก่ แล้วก็ตาย
    เกิดแล้วก็แก่ แล้วก็เจ็บ แล้วก็ตาย
    มีแต่ทุกข์ โสกะปริเทวะ ทุกขะ โทมนัส อุปายาส
    มีแต่ปกิณณกทุกข์
    เป็นอยู่อย่างนี้

    เพราะฉะนั้น
    เราก็หนีมันเถอะ หนีไปไหนดี
    บวช ๆ ๆ บวช ว่างดี หมด
    เพราะฉะนั้นจึงนิยมในการบวช ว่างดี

    พวกที่ยังๆไม่บวขก็ทำไปก่อน
    ทำไปจนสละได้จริง ๆ
    ก็บวชเข้ามา ๆ ๆ

    มันมีช่องทางที่จะทำความดีได้มากกว่าฆราวาส
    ทำได้ดีกว่า
    ศีลก็ดีกว่า สมาธิก็ดีกว่า ปัญญาก็ดีกว่า
    ได้เปรียบกว่า
    เพราะธุรกิจของฆราวาสมีมาก

    ฆราวาสที่เขาทำได้อย่างนี้
    เขาอบรมมามาก
    เขาก็ทำได้ตามกำลังที่ได้อบรมมา

    เพราะฉะนั้น
    เราจะทำได้มากก็เป็นกำไรของชีวิต
    เราจะทำได้น้อยก็เป็นกำไรของชีวิต
    เรากระทำไม่ได้มันก็ขาดทุน
    [​IMG]
    [​IMG]
    คัดลอกจาก...
    หนังสือพุทธโอวาท หน้า ๑๕๘ - ๑๖๒


     
  10. ปูอัน

    ปูอัน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    304
    ค่าพลัง:
    +721
    แล้วการปฏิบัติของเรา
    มันก็ย่อหย่อน
    ไม่ได้ทำจริงทำจัง
    ทำตามเขาไปบ้าง

    เขารักษาศีล ก็รักษากับเขาบ้าง
    เขาภาวนา ก็ภาวนาบ้าง
    เขาทำปัญญา ก็ทำปัญญาบ้าง
    ทำพอเป็นไปตามประเพณีเท่านั้น


    หลวงปู่กล่าวได้ตรงจริงๆ ตัวผมเองก็เป็นอย่างนั้น อ้างว่าไม่พร้อมบ้าง ไม่มีเวลาบ้าง ทุกวันนี้ ได้แต่สวดมนต์ตอนเช้าอย่างเดียวครับ
     
  11. markerkab001

    markerkab001 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    471
    ค่าพลัง:
    +780
    พระปิดตาวัดโคนอนปี 15 ที่หลวงปู่โต๊ะท่านไปเสกให้ อันนี้ใช้แทนพระเครื่องของท่านที่แพง ๆ ได้เลยหรือเปล่าครับ ?
     
  12. Sangthein

    Sangthein สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 กันยายน 2010
    โพสต์:
    12
    ค่าพลัง:
    +24
    ผมก็ไม่ทราบว่าจะใช้แทนพระแพงๆ ได้ไหม? ในประวัติการสร้างและพุทธาภิเษกบอกว่าใช้ชนวนเก่าหลวงปู่เอี่ยม และหลวงปู่เอี่ยมท่านก็มาช่วยทำให้ อีกอย่างพระคณาจารย์หลายรูปก็มีชื่อเสียงอยู่

    ใครเคยแขวน และรู้เรื่องราวช่วยยืนยันให้ด้วยครับ
     
  13. chainerror

    chainerror เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    2,783
    ค่าพลัง:
    +7,901
    ขอบคุณครับคุณเฉียวฟง
    แห้วไปแล้วครับราคาแรงจริงๆ 21K ยังปิดไม่ได้เลยครับ
    สงสัยหลวงพ่ออยากให้แขวนองค์เดียวพอมั้งครับ อิอิ

    [​IMG]
     
  14. คนกันเอง

    คนกันเอง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    7,441
    ค่าพลัง:
    +8,975
    แขวนได้เลยครับ ของดีครับ

    พระคุณเชนสวยมากครับ
     
  15. Norragate

    Norragate เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    19,518
    ค่าพลัง:
    +37,735
    ถ้าเป็นผม...แค่องค์นี้องค์เดียวก็สุดยอดแล้ววววสหายเชนนนนนน (^_^)..
    แต่สำหรับของหลวงปู่โต๊ะที่ผมใฝ่ฝันที่สุดในชีวิตก็คือ "รุ่นปลดหนี้" ครับ.. (>_<)..
     
  16. เตมินทร์

    เตมินทร์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 มกราคม 2008
    โพสต์:
    288
    ค่าพลัง:
    +302
    ศรัทธา หลวงปู่โต๊ะ มากๆครับ ตามที่ได้อ่านๆมาท่านเป็นพระที่เรากราบได้อย่างสนิทใจจริงๆครับ ขอบคุณพี่ๆ และศิษย์หลวงปู่โต๊ะ ทุกๆท่านที่มาเผยแพร่ ธรรมมะของหลวงปู่ให้ฟังด้วยน่ะครับ
    ใครก็ได้ช่วยดูให้ทีครับท่านเป็นอย่างไรบ้าง ขึ้นคอได้หรือไม่อย่างไรครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  17. เฉียวฟง

    เฉียวฟง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    1,190
    ค่าพลัง:
    +4,913
    บทความธรรมะ ของหลวงปู่โต๊ะ


    <table class="blog_center_data"> <tbody><tr> <td>
    [​IMG]
    [​IMG]
    หลวงปู่โต๊ะ อินฺทสุวณฺโณ : รู้โลก - เรียนธรรม (จบ)
    ทำเวลาไหนได้เวลานั้น

    ในเรื่องการกระทำความดี
    อย่างน้อย ๆ
    เดือนหนึ่ง ๔ ครั้งก็ยังดี
    ไปฟังพระเทศน์บ้าง
    ไปปุจฉาวิสัชนาที่วัดโน้นวัดนี้บ้าง

    เพื่ออะไร
    เพื่ออบรม
    มันแตกสานซ่านเซ็นกันอยู่เวลานี้
    เอามาให้เป็นสุขเป็นศีล สมาธิ ปัญญา
    เป็นสุขไปเลย
    ก็เป็นสุขเป็นประโยชน์น่ะ

    เราอย่านึกว่าเราไม่ได้
    ได้นะ
    เราสมาทานเช้า ได้บุญเช้า
    สมาทานกลางวัน ได้บุญกลางวัน
    สมาทานเย็น ได้บุญเย็น
    อกาลิโก

    พระธรรมให้ผลไม่มีกาลเวลา
    ไม่เหมือนผลไม้อื่น ๆ
    ต้องหน้าโน้นหน้านี้จึงจะได้

    เอ้า
    ทำไปซิ
    ทำดีเวลาไหน ได้ดีเวลานั้น
    ทำไป ๆ ๆ ๆ เรื่อย ๆ
    เกิดเราเบื่อการอะไร
    ก็กระทำเมื่อพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์
    พร้อมกันและยังไง
    เสมอกันด้วยคุณธรรม

    เราถึงพระพุทธ
    ก็ชื่อว่าถึงพระธรรม
    เราถึงพระธรรม
    ก็ได้ชื่อว่าถึงพระสงฆ์
    เราถึงพระสงฆ์
    ก็ชื่อได้ว่าถึงพระพุทธ
    เสมอด้วยการปฏิบัติ

    ปฏิบัติอย่างไร
    ศีล สมาธิ ปัญญา
    ทั้งสามประการนี้ก็ปรากฏพร้อมกัน

    พร้อมกันอย่างไร
    ถึงพระพุทธก็ได้ถึงพระธรรมและพระสงฆ์
    เป็นองค์เดียวกันแล้วก็ถึงเลยทำไป

    เราทำได้เท่าไหร่กำไรของเราเท่านั้น
    ทำไปเถอะได้ประโยชน์

    ทำดี ชั่วโมงเราก็ได้
    สองชั่วโมง สามชั่วโมง สี่ชั่วโมง ห้าชั่วโมง
    หรือสามสิบนาที หรือหนึ่งชั่วโมง

    ทำเท่าที่เราทำได้
    แต่ต้องขยัน ๆ
    ให้มันเลยครึ่งชั่วโมงหรือหนึ่งชั่วโมงกว่าไป

    ถ้าชั่วโมงทำได้ก็เลื่อนขึ้นไปถึงชั่วโมงครึ่งกว่า
    ว่าเรื่อย ๆ ไป แถมเรื่อย ๆ ไป
    ไม่ท้อถอย แถมเรื่อย ๆ
    เพื่อหัดกำลังสู้พญามาร
    ขันธมาร กิเลสมาร
    [​IMG]
    [​IMG]

    คัดลอกจาก...
    หนังสือพุทธโอวาท หน้า ๑๖๒ - ๑๖๓
    </td> </tr> </tbody></table> ขอบคุณที่มา okanation.net
     
  18. เฉียวฟง

    เฉียวฟง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    1,190
    ค่าพลัง:
    +4,913
    บทความธรรมะ ของหลวงปู่โต๊ะ


    <table class="blog_center_data"> <tbody><tr> <td>
    [​IMG]
    [​IMG]
    หลวงปู่โต๊ะ อินฺทสุวณฺโณ : รู้โลก - เรียนธรรม (จบ)
    ทำเวลาไหนได้เวลานั้น

    ในเรื่องการกระทำความดี
    อย่างน้อย ๆ
    เดือนหนึ่ง ๔ ครั้งก็ยังดี
    ไปฟังพระเทศน์บ้าง
    ไปปุจฉาวิสัชนาที่วัดโน้นวัดนี้บ้าง

    เพื่ออะไร
    เพื่ออบรม
    มันแตกสานซ่านเซ็นกันอยู่เวลานี้
    เอามาให้เป็นสุขเป็นศีล สมาธิ ปัญญา
    เป็นสุขไปเลย
    ก็เป็นสุขเป็นประโยชน์น่ะ

    เราอย่านึกว่าเราไม่ได้
    ได้นะ
    เราสมาทานเช้า ได้บุญเช้า
    สมาทานกลางวัน ได้บุญกลางวัน
    สมาทานเย็น ได้บุญเย็น
    อกาลิโก

    พระธรรมให้ผลไม่มีกาลเวลา
    ไม่เหมือนผลไม้อื่น ๆ
    ต้องหน้าโน้นหน้านี้จึงจะได้

    เอ้า
    ทำไปซิ
    ทำดีเวลาไหน ได้ดีเวลานั้น
    ทำไป ๆ ๆ ๆ เรื่อย ๆ
    เกิดเราเบื่อการอะไร
    ก็กระทำเมื่อพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์
    พร้อมกันและยังไง
    เสมอกันด้วยคุณธรรม

    เราถึงพระพุทธ
    ก็ชื่อว่าถึงพระธรรม
    เราถึงพระธรรม
    ก็ได้ชื่อว่าถึงพระสงฆ์
    เราถึงพระสงฆ์
    ก็ชื่อได้ว่าถึงพระพุทธ
    เสมอด้วยการปฏิบัติ

    ปฏิบัติอย่างไร
    ศีล สมาธิ ปัญญา
    ทั้งสามประการนี้ก็ปรากฏพร้อมกัน

    พร้อมกันอย่างไร
    ถึงพระพุทธก็ได้ถึงพระธรรมและพระสงฆ์
    เป็นองค์เดียวกันแล้วก็ถึงเลยทำไป

    เราทำได้เท่าไหร่กำไรของเราเท่านั้น
    ทำไปเถอะได้ประโยชน์

    ทำดี ชั่วโมงเราก็ได้
    สองชั่วโมง สามชั่วโมง สี่ชั่วโมง ห้าชั่วโมง
    หรือสามสิบนาที หรือหนึ่งชั่วโมง

    ทำเท่าที่เราทำได้
    แต่ต้องขยัน ๆ
    ให้มันเลยครึ่งชั่วโมงหรือหนึ่งชั่วโมงกว่าไป

    ถ้าชั่วโมงทำได้ก็เลื่อนขึ้นไปถึงชั่วโมงครึ่งกว่า
    ว่าเรื่อย ๆ ไป แถมเรื่อย ๆ ไป
    ไม่ท้อถอย แถมเรื่อย ๆ
    เพื่อหัดกำลังสู้พญามาร
    ขันธมาร กิเลสมาร
    [​IMG]
    [​IMG]

    คัดลอกจาก...
    หนังสือพุทธโอวาท หน้า ๑๖๒ - ๑๖๓
    </td> </tr> </tbody></table> ขอบคุณที่มา okanation.net - oka nation Resources and Information. This website is for sale!
     
  19. คนกันเอง

    คนกันเอง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    7,441
    ค่าพลัง:
    +8,975
    ขอบคุณพี่เฉียวฟงอีกครั้ง ธรรมมะ ดีๆ ของหลวงปู่

    หาดูยากครับ
     
  20. NEWESTTSEWEN

    NEWESTTSEWEN เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    484
    ค่าพลัง:
    +2,661
    รุ่นนี้ที่วัดยังพอมีเหลือไหมครับตอนนี้ ใครพอทราบบ้างครับ และทำบุญบูชาในอัตราเท่าเดิมหรือเปล่าครับ อยากได้พระเนื้อผงของหลวงปู่ไว้บูชาบ้าง เห็นในรูปพระผงแหวกม่านรูปแบบงดงามถูกใจมากเลยครับ

    รุ่นที่ทันท่านราคาไปไกลแล้ว คงเอื้อมไม่ถึง T_T

    ป.ล. ขอบคุณภาพของคุณ Norragate ครับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...