ประเทศไทยจะเกิดอุบัติภัยอย่างที่ทำนายกันจริงๆหรือไม่

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย koymoo, 25 มกราคม 2005.

  1. Falkman

    Falkman พลังจิตนานาชาติ ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    19,726
    ค่าพลัง:
    +77,791
    [​IMG]
     
  2. Cutie Kung

    Cutie Kung เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    240
    ค่าพลัง:
    +1,283
    <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td align="center" valign="middle">[​IMG]</td> </tr> </tbody></table>
    <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td align="center" valign="middle">[​IMG]</td> </tr> </tbody></table>
    <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td align="center" valign="middle">[​IMG]</td> </tr> </tbody></table>
    [​IMG]

    พิจิตร
    - พ่อเมืองชาละวัน ควงนายกเหล่ากาชาด นั่งเรือท้องแบนดูน้ำท่วมทับคล้อ พร้อมแจกถุงยังชีพ คาดยังมีน้ำท่วมขังอีกไม่ต่ำกว่า 3 วัน ด้าน สพฐ.สั่งปิด 8 โรงเรียนไม่มีกำหนด ชี้พื้นที่ต่อไปคือ ตะพานหิน เตือนเตรียมพร้อมรับมือ


    นายสุวิทย์ วัชโรทยางกูร ผู้ว่าราชการจังหวัดพิจิตร พร้อมด้วยนางกนกพร วัชโรทยางกูร นายก เหล่ากาชาด จังหวัดพิจิตร ได้ลงพื้นที่ตรวจสภาพน้ำท่วมตลาดทับคล้อ ในวันนี้(31 ส.ค.53)ซึ่งพบว่าระดับน้ำยังคงทรงตัวท่วมบ้านเรือนในย่านธุรกิจและชุมชน ประมาณ 1,700 หลังคาเรือนถูกน้ำท่วมกันถ้วนหน้า บางจุดระดับน้ำลึกกว่า 1 เมตร ชาวบ้านต้องใช้เรือเป็นพาหนะในการติดต่อกับโลกภายนอก จึงได้สั่งการให้นายวิมลเดช สุขเอี่ยม นายกเทศมนตรีเทศบาลทับคล้อ ใช้งบฉุกเฉินภัยพิบัติแจกถุงยังชีพและหุงหาอาหารทำข้าวกล่องวันละ 6,000 กล่อง พร้อมน้ำดื่มแจกชาวบ้าน 3 มื้อ เนื่องจากไม่สามารถช่วยเหลือตนเองได้ในการดำรงชีพ ซึ่งคาดว่าถ้าไม่มีฝนตกลงมาซ้ำอีก 3 วัน ก็คงจะเข้าสู่สภาวะปกติ แต่ที่น่าเป็นห่วง คือ น้ำกำลังไหลหลากไปยัง อ.ตะพานหิน ที่จะต้องเตรียมตัวรับมือกับน้ำท่วมต่อไป

    ด้านนายพงษ์ชัย ไทยวรรณศรี ผอ.สพท.พิจิตร เขต 2 เปิดเผยว่า จากสถานการณ์ที่เกิดฝนตกน้ำป่าไหลหลากจากเทือกเขาเพชรบรูณ์ นอกจากจะทำให้บ้านเรือนและพื้นที่ทำการเกษตรถูกน้ำท่วมแล้ว น้ำยังได้ไหลเข้าท่วมโรงเรียนในสังกัด สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาปฐมศึกษาพิจิตรเขต 2 ที่มี 19 โรงเรียนใน 3 อำเภอ คือ อ.ตะพานหิน , อ.ทับคล้อ , อ.ดงเจริญ โดยมีโรงเรียนที่ถูกน้ำท่วมหนัก 8 แห่ง คือ เขต อ.ตะพานหิน ได้แก่ ร.ร. ดงตะขบ ,เขตอ.ทับคล้อ ได้แก่ ร.ร.วังหินเพลิง ร.ร.วัดป่าเรไร ร.ร.วัดเขาส้าน ,เขต อ.ดงเจริญ ได้แก่ ร.ร.วังกะทะ , ร.ร.อนุบาลดงเจริญ , ร.ร.วัดวังหินแรง , ร.ร.บ้านวังบงก์ โดยส่วนใหญ่สนามโรงเรียนและอาคารเรียนชั้นล่างรวมถึงห้องสมุดจะถูกน้ำท่วม จึงต้องสั่งปิดการเรียนการสอนเป็นการชั่วคราวจนกว่าระดับน้ำจะลด ซึ่งยังไม่มีกำหนดที่แน่นอนและถ้าน้ำลดแล้วจึงจะประกาศเปิดทำการเรียนการสอน ต่อไป เพื่อความปลอดภัยของเด็กๆ ภายในโรงเรียน

    ที่มา : Manager Online
     
  3. Cutie Kung

    Cutie Kung เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    240
    ค่าพลัง:
    +1,283
    ตะเกียบใช้แล้วทิ้งกว่า 45,000 ล้านคู่ในประเทศจีน ทำให้เสียป่าไป 100 เอเคอร์ทุกวัน

    [​IMG]





    แปลและเรียบเรียง กรวิกา วีระพันธ์เทพา
    ด้วยวัฒนธรรมการกินของชาวแดนมังกร ทำให้ปัญหาตะเกียบใช้แล้วทิ้งมีมาเนิ่นนาน แต่ตอนนี้กระทรวงพาณิชย์ของจีนเขาตั้งใจเร่งแก้ปัญหาเรื่องตะเกียบเหล่านี้ เสียที โดยเมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมามีประกาศเตือนต่อผู้ผลิตตะเกียบว่า “การผลิต การใช้ และการรีไซเคิลตะเกียบใช้แล้วทิ้งจะต้องได้รับการควบคุมอย่างเข้มงวด”ด้วย เหตุผลว่าตะเกียบจำนวน 45,000 ล้านคู่ที่ผลิตในประเทศต่อปี (ส่งออกประมาณ 18,000 ล้านคู่ต่อปี) หรือ 130 ล้านคู่ต่อวัน ทำให้ประเทศต้องสูญเสียป่าไม้จำนวนมาก และประเทศจีนก็กำลังพยายามเพิ่มพื้นที่ป่าจาก 8% ในปี 1949 ให้ได้ 12-13% ในปีนี้
    ✚ รู้หรือไม่ ✚ ------------ ------- ----
    กลุ่มกรีนพีซประเทศ จีนประมาณตัวเลขว่าการผลิตตะเกียบให้ได้ตามความต้องการ ต้องใช้ต้นไม้ 16-25 ล้านต้นต่อปี สูญเสียพื้นที่ป่าไป 100 เอเคอร์ในทุกๆ วัน คิดง่ายๆ ว่าพื้นที่ใหญ่กว่าจัตุรัสเทียนอันเหมิน หรือสนามอเมริกันฟุตบอล 100 สนาม -- -
    การตัดไม้ทำลายป่าถือเป็นหนึ่งในปัญหาสิ่งแวดล้อมที่สำคัญของจีนซึ่งนำไป สู่ปัญหาการพังทลายของหน้าดิน ความขาดแคลนอาหาร อุทกภัย การปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ พื้นที่กลายสภาพเป็นทะเลทราย และการสูญพันธ์ของสิ่งมีชีวิตสายพันธุ์ต่างๆ
    น่าเศร้าตรงที่ความพยายามลดการใช้ตะเกียบเป็นไปอย่างเชื่องช้า แม้ว่าการเรียกร้องต่อผู้ที่มีพฤติกรรมใช้แล้วทิ้งมีมาตลอดระยะเวลา 10 ปี ในปี 2006 นักอนุรักษ์มีกิจกรรมที่แข็งขันมากขึ้น ภาคประชาชนเริ่มดำเนินโครงการ BYOC (Bring Your Own Chopsticks) ซึ่งต่อมาก็มีการเคลื่อนไหวอยู่เรื่อยๆ และกลุ่มกรีนพีซประเทศจีนก็สนับสนุนแคมเปญ "Say no to disposable chopsticks" ต่อมาในปี 2008 กลุ่มรณรงค์ที่แต่งกายเป็นลิงอุรังอุตังก็เข้าไปรณรงค์ตามโรงอาหารในบริษัท ขนาดใหญ่ เช่น ไอบีเอ็ม ไมโครซอฟต์ และอินเทล เพื่อกระตุ้นให้เกิดความตระหนักถึงการตัดไม้ทำลายป่ามาเป็นตะเกียบ
    แต่ถึงเวลาจะผ่านมานานแล้ว ปัญหาตะเกียบในเมืองจีนก็ยังไม่ดีขึ้น เพราะอะไรกันนะ?
    ข้อแรกเลย อุตสาหกรรมการผลิตตะเกียบในประเทศจีน ซึ่งมีโรงงานกว่า 300 โรง สร้างงานให้ลูกจ้างกว่า 100,000 คน ถือได้ว่าเป็นธุรกิจที่เฟื่องฟูที่สุด เหลียน กวน ประธานสมาคมผู้ค้าตะเกียบกล่าวกับหนังสือพิมพ์ไชน่าเดลี่ว่า “อุตสาหกรรมตะเกียบสร้างงานให้กับคนจนจำนวนมากในพื้นที่ที่มีการใช้ไม้” แถมให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า ตะเกียบเมลามีน เรซิน นั้นเป็นตัวเลือกที่แทบไม่ได้สุขอนามัยเนื่องจากมีส่วนประกอบของฟอร์ มัลดีไฮด์เป็นปริมาณมาก
    [​IMG]เหตุผล ข้อต่อมาคือร้านอาหาร ที่มีวิธีแก้ปัญหาด้วยการการฆ่าเชื้ออุปกรณ์ต่างๆ เช่น พลาสติก เหล็ก หรือตะเกียบไม้ชนิดทนทานหลังการใช้แต่ละครั้ง
    แต่ "ราคา" ก็เป็นอุปสรรคสำคัญ
    ตะเกียบที่ใช้แล้วทิ้ง 1 อันราคาประมาณ 1 เพนนี (ไม่ถึง 1 บาท) ในขณะที่ตะเกียบที่ฆ่าเชื้อโรคแล้วมีมูลค่าตั้งแต่ 15-70 เซ็นต์ (ประมาณ 5-20 บาท)
    บรรดาร้านอาหารโดยเฉพาะระดับราคาถูกต่างกังวลที่จะต้องคิดราคาเพิ่มกับ ลูกค้า เพราะกลุ่มผู้บริโภคชาวจีนจาก 21 เมืองได้เผยแพร่จดหมายเปิดผนึกเมื่อเดือนมีนาคม อ้างถึงกฏหมายความปลอดภัยทางอาหารที่กำหนดว่าร้านอาหารต้องจัดหาเครื่องใช้ บนโต๊ะอาหารที่สะอาด ปลอดภัย โดยไม่มีค่าใช้จ่าย เพราะฉะนั้นประชาชนไม่ควรจะเป็นผู้จ่ายค่าทำความสะอาด
    การประกาศเตือนจากกระทรวงพาณิชย์ดูเหมือนจะเป็นการไปในทิศทางที่ถูกที่ ควร แต่ในความเป็นจริงยังดูเหมือนห่างไกลเป้าหมาย เนื่องจากในประกาศไม่ได้ระบุข้อห้ามและบทลงโทษที่ชัดเจน และที่สำคัญ ไม่มีการแต่งตั้งตัวแทนรับผิดชอบเพื่อบังคับใช้มาตรการลดการใช้ตะเกียบใช้ แล้วทิ้ง
    ตอนนี้ สิ่งที่ยังพอสร้างความหวังได้ก็คือบรรดาชาวจีนที่ฐานะดีมีมากขึ้น ร้านอาหารจึงสามารถหาเครื่องมือในการทำความสะอาดและฆ่าเชื้อโรคให้ตะเกียบ สามารถนำกลับมาใช้ใหม่
    แม้จะเป็นเรื่องน่ายินดีว่าผู้นำของจีนเห็นความสำคัญของการลดใช้ทรัพยากร แต่ในที่สุดแล้วก็ขึ้นอยู่กับประชาชนนั่นเอง ที่จะเป็นผู้ตัดสินใจว่าการนำตะเกียบไปเองและยอมรับค่าใช้จ่ายสำหรับตะเกียบ ที่นำกลับมาใช้ใหม่ได้คุ้มค่ากับการรักษาผืนป่าที่กำลังหายไปอย่างรวดเร็ว หรือไม่

    ที่มา : เพื่อความเข้าใจในสิ่งแวดล้อมไทย Welcome to Greenworld Foundation Thailand
     
  4. Cutie Kung

    Cutie Kung เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    240
    ค่าพลัง:
    +1,283
    <table class="contentpaneopen"><tbody><tr><td class="contentheading" width="100%">วิถีโลก วิถีธุรกิจ / ขยะไฮเทคจะล้นโลก..? </td> <td class="buttonheading" align="right" width="100%"> [​IMG] </td> </tr> </tbody></table> "การใช้คอมพิวเตอร์และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์เริ่มเลวร้ายลงอย่างเห็นได้ชัดในช่วงรอบ 10 ปี ที่ผ่านมา ตามข้อมูลวิจัย พบว่า ปริมาณการเติบโต และการบริโภคสินค้าไอทีสวนทางกับการนำกลับไปใช้ใหม่ และความสามารถในการทำลายสินค้าหมดอายุ โดยขณะนี้มีอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่เป็นขยะเหลือทิ้งรอการทำลายหรือการนำไปรีไซเคิลกว่า 400 ล้านชิ้นทั่วโลก และมี 12% ที่สามารถนำกลับไปสู่กระบวนการผลิตได้ "
    [​IMG]

    ในวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี ให้ความหมายไว้ว่า ขยะอิเล็กทรอนิกส์ หรือ "อีเวสต์" (e-waste) เป็นของเสียที่ประกอบด้วย เครื่องใช้ไฟฟ้าหรืออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่ เสียหรือไม่มีคนต้องการแล้ว ซึ่งขยะไฮเทคเหล่านี้ได้กลายเป็นประเด็นวิตกกังวลมาหลายปีเพราะ ชิ้นส่วนหลายชิ้นในอุปกรณ์ถือว่าเป็นพิษ และไม่สามารถย่อยสลายได้ตามธรรมชาติ ยิ่งขณะนี้ความก้าวหน้าด้านเทคโนโลยี ทำให้สินค้าไฮเทคตกรุ่นเร็วมากขึ้น อย่างเช่น คอมพิวเตอร์พีซี มีอายุใช้งาน 3-5 ปี และมือถือ มีอายุใช้งานเฉลี่ย 18 เดือน ซึ่งนับวันอายุใช้งานเหล่านี้ก็จะยิ่งสั้นขึ้น ทำให้ปริมาณขยะไฮเทคเพิ่มจำนวนสูงขึ้นตามไปด้วย ลองคิดดูเฉพาะผู้ใช้บริการมือถือ มีข้อมูลจากสำนักงานด้านสื่อสารโทรคมนาคมของสหประชาชาติ(ยูเอ็น) เผยว่า ตัวเลขผู้ลงทะเบียนใช้โทรศัพทือถือทั่วโลกภายสิ้นปีนี้จะมีจำนวนไม่น้อยกว่า 5,000 ล้านคน เข้าไปแล้ว !ล้วเคยสงสัยใหมว่า แหล่งทิ้งซากอิเล็กทรอนิกส์เหล่านี้จากทั่วโลก เขาไปทิ้งกันที่ไหน... ก็ต้องบอกว่า ไปแถวๆ อินเดีย , ไอวอรีโครสต์, ไนจีเรีย,จีน แม้กระทั่งประเทศไทยก็เป็นประเทศปลายทางของการทิ้งเจ้าขยะไฮเทคพวกนี้ โดย แฝงมาในรูปของการนำเข้าสินค้าคอมพิวเตอร์และมือถือที่ใช้แล้วจากต่างประเทศ ซึ่งมีอายุการใช้งานสั้นและพร้อมจะเป็นขยะอิเล็กทรอนิกส์ ที่สร้างปัญหามลพิษต่อไป "Agbogbloshie" สลัมชานเมือง ACCRA ก็ป็นสถานที่สำคัญอีกแห่งหนึ่งที่นิวยอร์ก ไทมส์เคยนำมาเสนอว่า เป็นแหล่งทิ้งขยะอิเล็กทรอนิกส์จาก และ ยุโรปด้วย ซึ่งมักจะมีภาพปรากฏอยู่เสมอๆว่า จะมีเด็กเข้าไปหารายได้ โดยการนำขยะอิเล็กทรอนิกส์มาเผาแยกโลหะมีค่าออกมาเช่น ทองแดง, อลูมิเนียม, เหล็ก ฯลฯ เมื่อหลายปีที่ผ่านมา ถ้าจำไม่ผิด " บ็อบ เฮย์เวิร์ด " นักวิจัยทางสิ่งแวดล้อม จากองค์กรวิจัยสปริงบอร์ด (Springboard Research) ให้ข้อมูลว่า "การใช้คอมพิวเตอร์และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์เริ่มเลวร้ายลงอย่างเห็นได้ชัดในช่วงรอบ 10 ปี ที่ผ่านมา ตามข้อมูลวิจัย พบว่า ปริมาณการเติบโต และการบริโภคสินค้าไอทีสวนทางกับการนำกลับไปใช้ใหม่ และความสามารถในการทำลายสินค้าหมดอายุ โดยขณะนี้มีอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่เป็นขยะเหลือทิ้งรอการทำลายหรือการนำไปรีไซเคิลกว่า 400 ล้านชิ้นทั่วโลก และมี 12% ที่สามารถนำกลับไปสู่กระบวนการผลิตได้ " ทั้งนี้ เขายังคาดการณ์ว่า ภายในปี 2555 จะมีปริมาณขยะเพิ่มขึ้นจากปัจจุบันอย่างน้อย 3 พันล้านชิ้นทั่วโลก หรือกว่า 12 เท่า! ก็ ต้องบอกว่า ขยะไฮเทคเหล่านี้กำลังเป็นมหันตภัยคุกคามโลก โดยเฉพาะในประเทสกำลังพัฒนา และกำลังจะล้นโลก หากไม่มสามารถบริหารจัดการได้อย่างมีประสิทธิภาพที่ประเทศอินเดียก็เป็น ประเทศหนึ่งที่ออกโรงมาคัดค้านการเปิดเสรีการค้าในการนำสินค้าเก่ามาผลิตซ้ำ หรือทำเป็นผลิตภัณฑ์สำเร็จรูปใหม่ ซึ่งเสนอโดยประเทศพัฒนาแล้ว เนื่องจากกลัวว่าอาจเป็นภัยต่อุตสาหกรรมในประเทศและส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ซึ่งคณะกรรมาธิการย่อย องค์การการค้าโลก(ดับบลิวทีโอ) กล่าวว่า อินเดียเผยว่า ยังไม่พร้อมเปิดเสรีสินค้ามือสอง แม้ จะเข้าร่วมหารือเพื่อแสดงความเข้าใจและการกำหนดสินค้าที่จะนำกลับมาผลิตใหม่ ที่อาร์เจนตินา บราซิล เอกวาดอร์และเวเนซูเอล่าให้การสนับสนุน เจ้าหน้าที่กระทรวงพาณิชย์อินเดียกล่าวว่า อินเดีย ไม่ต้องการผลักดันการทำข้อตกลงเปิดตลาดสินค้านำกลับมาผลิตซ้ำ และย้ำว่า สหรัฐฯ สวิตเซอร์แลนด์ และญี่ปุ่น เป็นประเทศที่ฝังรากลึกกับธุรกิจดังกล่าว การ หารือเรื่องสินค้าผลิตซ้ำได้เข้ามามีส่วนร่วมในการเจรจาการค้าโลกที่ดับบลิว ทีโอ หรือ การเจรจารอบโดฮา เปิดเสรีการค้าทั้งด้านสินค้าและภาคบริการ ที่คาดหมายส่งผลต่อประมาณการณ์ตลาดมูลค่า 282,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ แต่อินเดีย ยังไม่มีแนวทางที่ชัดเจนกับสินค้าผลิตซ้ำ โดยยอม ให้นำเข้าสินค้าที่ต่อต้านภายใต้การอนุญาตเป็นบางชนิดเท่านั้น เช่น สินค้าทุน แต่สินค้าอื่นๆ เช่นรถยนต์มือสองยังต้องห้ามอย่างเข้มงวด โดยภาคอุตสาหกรรมเห็นด้วยกับแนวทางของรัฐบาลอินเดีย โดย ฟิคซิ เลขาธิการ อามิต มิทรา ชี้ว่า หากไม่ควบคุมการนำเข้าสินค้าผลิตซ้ำจะส่งผลกระทบต่อการผลิตในประเทศและยัง เสี่ยงต่อการลดมาตรฐานความปลอดภัยและกลายเป็นแหล่งดัมพ์ขยะอิเล็กทรอนิกส์ ด้วย เมื่อไปมองดูการค้าโลกในส่วนการผลิตซ้ำ มีมูลค่าทั่วโลก 100,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ฯ ซึ่งบริษัทส่วนใหญ่ เช่น จีอี ซีร็อกซ์ และแคปเปอร์พิลลาร์ แย้งว่า เป็นสินค้าผลิตซ้ำ และประเทศที่ส่งเสริมการค้าในการผลิตซ้ำอ้างว่า "เป็นการช่วยทั้งประเทศพัฒนาแล้วและประเทศกำลังพัฒนาในการเพิ่มการเข้าถึงสินค้าต้นทุนต่ำ แต่มีคุณภาพสูง และยังเป็นการช่วยบริหารของเหลือใช้และสนับสนุนการถ่ายทอดเทคโนโลยีและความเชี่ยวชาญด้านนี้อีกด้วย" แต่อินเดียกลับมองเรื่องนี้ในทางตรงกันข้าม และหวั่นเกรงว่า จะนำไปสู่การนำเข้าสินค้าราคาถูก คุณภาพต่ำ และลึกๆ แล้วเป็นการถ่ายเท "ขยะไฮเทค" จากประเทศพัฒนาแล้วมาสู่ประเทศกำลังพัฒนามากกว่า อย่างไรก็ตาม มีข้อมูลจากการศึกษาล่าสุด โดยศูนย์วิทยาศาสตร์และสิ่งแวดล้อม(ซีเอสอี) ระบุว่า ขยะอิเล็กทรอนิกส์ที่นำเข้าอย่างผิดกฎหมายมีประมาณ 50,000 ตันต่อปี โดยใช้ช่องว่างทางกฎหมาย เช่น การบริจาคคอมพิวเตอร์เพื่อการศึกษา รวมไปถึงบริจาคให้สถาบันต่างๆ และโรงพยาบาล เป็นต้น โดยเฉพาะในอินเดียตัวเลขในปี 2550 มีขยะอิเล็กทรอนิกส์จำนวน 330,000 ตันเท่ากับ แล็ปท็อปจำนวน 110 ล้านเครื่อง ซึ่งจำนวนขยะอิเล็กทรอนิกส์นี้อาจหมดไปได้ ถ้าการนำเข้าสินค้าผลิตซ้ำไม่มีการเปิดเสรี นอกจากนี้อินเดียยังมองว่า อาจเป็นอันตรายต่ออุตสาหกรรมการผลิตในประเทศ เช่น รถยนต์และไอที ที่สินค้าสำเร็จรูปราคาถูกเข้ามาตีตลาด และท้ายที่สุดจะเป็นการฆ่าอุตสาหกรรมของตัวเอง ถ้ายอมเปิดให้มีการนำเข้าสินค้าผลิตซ้ำ แนว โน้มที่เกิดขึ้นกับประเทศอินเดีย เชื่อว่า จะขยายตัวลุกลามไปยังประเทศกำลังพัฒนาอื่นๆ ที่เป็นแหล่งปลายทางทิ้งขยะไฮเทค ที่อาจออกมาคัดค้าน และต่อต้านเกี่ยวกับเรื่องนี้ อย่าง ไรก็ตาม ทั่วโลกเริ่มตื่นตัวที่จะรับมือกับขยะอิเล็กทรอนิกส์มากขึ้น อย่างเช่น สหภาพยุโรปได้ออกระเบียบว่าด้วยเศษซากผลิตภัณฑ์เครื่องใช้ไฟฟ้า และอิเล็กทรอนิกส์ (WEEE) และระเบียบว่าด้วยการจำกัดการใช้สารอันตรายบางชนิดในผลิตภัณฑ์ไฟฟ้า และอิเล็กทรอนิกส์ (RoHS)ซึ่งมีผลบังคับใช้กับผู้นำเข้าสินค้าดังกล่าวตั้งแต่ปี 2549 แต่ปัจจุบันก็ยังไม่ทราบว่า ผลของการออกกฏหมายทั้ง 2ฉบับนี้จะสามารถแก้ไขปัญหาขยะอิเล็กทรอนิกส์ได้มากแค่ไหน เมื่อเทียบกับอัตราการเติบโต และการใช้งานของสินค้าอิลเกทรอนิกส์ในขณะนี้ แต่ในอนาคตข้างหน้า WEEE ควรจะมีเป้าหมายให้ผู้ผลิตคำนึงถึงตลอดช่วงของวงจรชีวิตการใช้งานของผลิตภัณฑ์ ตั้งแต่เริ่มผลิตไปจนถึงเมื่อหมดสภาพการใช้งาน เพื่อให้การออกแบผลิตภัณฑ์มีประสิทธิภาพมากขึ้นในด้านของสิ่งแวดล้อมหลายๆ ประเทศในเอเชียก็เริ่มตื่นตัวในเรื่องนี้มากขึ้น เพื่อรับมือกับปัญหาขยะอิเล็กทรอนิกส์ที่มีมากขึ้นในขณะนี้ กรณีของไทยเคยมีการยกร่างกฏหมายที่จะใช้ควบคุมปัญหาของขยะอิเล็กทรอนิกส์เช่นกัน และอยู่ภายใต้ความรับผิดชอบของ กรมควบคุมมลพิษ และกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม แต่ก็ต้องบอกว่า "ถึงเวลานี้ยังไม่มีการดำเนินงานอย่างจริงจัง และเข้มงวด ขณะที่ปริมาณขยะไฮเทคในบ้านเราเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ" งานนี้ก็ต้องฝากถามไปถึง "สุวิทย์ คุณกิตติ" รมว.กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมว่า ตอนนี้ทั่วโลกและเอเชียตื่นตัวเรื่องนี้กันมาก แล้วไทยจะยืนอยู่ตรงไหน และจัดการอย่างไร กับปัญหาขยะไฮเทคเหล่านี้....

    ที่มา http://www.siamrath.co.th
     
  5. Lazaza

    Lazaza เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    991
    ค่าพลัง:
    +5,549
    ======================================


    31 ส.ค. 53

    อาคิดว่าจะเปิดนัดพบกับแนวร่วมรายใหม่ที่สถานีรถไฟดอนเมืองเหมือนเช่นที่
    เคยทำมา เมื่อมาคิดทบทวนเรื่องต่างๆที่ผ่านเข้ามาในช่วงระยะสามปีจนกระทั่ง
    เดี๋ยวนี้ จึงต้องงดไว้ จากประสบการณ์ที่ผ่านมา ทำให้อาทราบว่าคนส่วนใหญ่
    ยังคงติดอยู่กับอำนาจเงินตรา ทรัพย์สมบัติ ความสุขส่วนตน ถามเขาว่าอยาก
    หนีไหม? ทุกคนอยากหนีแต่ไม่อยากเสียเงินในการเตรียมการ มีเงินเที่ยวแต่ไม่
    มีเงินสำหรับเตรียมการให้ความปลอดภัยกับชีวิตของตัวเองและครอบครัว น่า
    เศร้าและน่าสงสารจริงๆ แต่ปัญหาเหล่านี้มิใช่หน้าที่ๆจะต้องมาใส่ใจ เป็นปัญหา
    ที่คนเหล่านี้ต้องคิดและแก้ไขกันเอง ว่าจะไปเพื่ออยู่หรืออยู่เพื่อไป?



    องค์อินทร์ - ๙๗
    ทำการแทน

    ======================================
    ภาพฐานผาแบ่นบางส่วนค่ะ
    ภาพความคืบหน้าฐานผาแบ่น
    ที่มา นาม "องค์อินทร์ ๙๗"







    ---------------------------------------------------------------------
    หลงทางเสียเวลา แต่ไหนแต่ไรมา พระพุทธเจ้าท่านสอนแต่เรื่องทุกข์ และการพ้นทุกข์เท่านั้น
     
  6. doodee1

    doodee1 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    458
    ค่าพลัง:
    +1,718
    วันที่ 31 สิงหาคม พ.ศ. 2553 เวลา 12:57 น. ข่าวสดออนไลน์


    น่านฝนตกทั้งคืนน้ำป่าทะลัก-หลายฝ่ายเร่งระดมช่วย

    <STYLE> P { margin: 0px; } </STYLE>

    ผู้สื่อข่าวจากจังหวัดน่านว่าจากการที่ฝนตกหนักตลอดทั้งคืนส่งผลให้น้ำจากลำห้วยสนุกและลำห้วยน้อย ล้นสปริงเวย์ อ่างเก็บน้ำห้วยน้อยหลากเข้าท่วมบ้านเรือนราษฎรที่บ้านผาตูบ ต.ผาสิงห์ อ.เมือง กว่า 50 หลังคาเรือน ด้านพ.ท.เทพฤทธิ์ เรือนคำ ผู้บังคับกองพันทหารม้าที่ 15 นำกำลังพลทหาร ม.พัน 15 พร้อมด้วยกู้ภัยอบจ.น่านและกู้ภัยอบต.ผาสิงห์ เร่งช่วยชาวบ้านผาตูบ ผาสิงห์ ต.ผาสิงห์ อ.เมืองน่าน ขนย้ายทรัพย์สิน เครื่องใช้ไฟฟ้า สัตว์เลี้ยงขึ้นไว้ที่ปลอดภัยแล้ว เร่งช่วยกันบรรจุกระสอบทรายจำนวนกว่าร้อยถุง ปิดกั้นไม่ให้น้ำท่วมเข้าภายในตัวบ้านบางหลังที่สามารถปิดกั้นป้องกันไว้ก่อนได้

    ขณะเดียวกันที่ อ.สันติสุข ในช่วงเช้าเวลาประมาณ 7.30 น. ฝนตกหนักติดต่อกันนานกว่า 2 ชั่วโมงส่งผลให้น้ำในระดับน้ำจากลำน้ำพงษ์เพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็วโดยเช้านี้ น้ำทะลักไหลเข้าท่วมพื้นที่การเกษตรและกัดเซาะถนนริมน้ำในหมู่บ้านบ้านหัวนา หมู่ที่ 9 ตำบลพงษ์ เป็นถนนเชื่อมไปบ้านป่าแดด หมู่ที่ 1 ตำบลพงษ์ เสียหายไม่สามารถใช้การได้ ท่อประปาเข้าหมู่บ้านขาดชาวบ้านขาดน้ำใช้ และเสาไฟฟ้าหักโค่นหลายแห่ง ต้นไม้ลงมาปิดเส้นทางระหว่างหมู่บ้านบ้านศรีนาม่าน หมู่ที่ 7 ตำบลพงษ์ กับบ้านหลักลาย 2 จุด


    ชาวนาเมืองคอนเศร้าฝนทิ้งช่วงยาวเสียหายหมื่นไร่

    <STYLE> P { margin: 0px; } </STYLE>วันที่ 30 ส.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ชาวนาในหลายอำเภอพื้นที่ จ.นครศรีธรรมราช หรือเขตลุ่มน้ำปากพนัง ซึ่งมีพื้นที่ปลูกข้าวทำนาปีจำนวนนับหมื่นไร่ กำลังประสบความเดือดร้อนอย่างหนักเนื่องจากเข้าช่วงฤดูทำนาปี โดยได้ไถหว่านพันธุ์ข้าวไปแล้วจำนวนมาก แต่ปรากฏว่าฝนไม่ตกตามปกติเหมือนฤดูกาลก่อนๆ ทำให้เกิดความแห้งแล้ง พันธุ์ข้าวที่หว่านไว้ไม่งอก บางส่วนถูกสัตว์เก็บกิน ทำให้ประสบความเดือดร้อนอย่างหนัก ทั้งนี้ จากการสำรวจพื้นที่ ม.7 ต.ท่าไร่ อ.เมือง พบว่าแปลงนาจำนวนมากมีการไถกลบอย่างเรียบร้อยแล้ว แต่ละแปลงหว่านพันธุ์ข้าวไว้เสร็จสิ้นแล้ว แต่เวลาผ่านมากว่า 2 สัปดาห์ ไม่มีฝนตก ทำให้ข้าวไม่แตกหน่อ คิดเป็นพื้นที่ความเสียหายรวมจำนวนนับหมื่นไร่
    นายธีระพงศ์ ทองคำ อายุ 43 ปี อยู่ ม.3 ต.ท่าไร่ กล่าวว่า ช่วงนี้ฝนไม่ตกลงมาเลย ข้าวที่หว่านไว้จะเสียหายทั้งหมด ต.ท่าไร่ อ.เมือง นั้นชาวนาได้หว่านข้าวไปแล้วทั้งตำบล แต่เมื่อฝนไม่ตกก็จะเสียหายทั้งหมด ไม่รู้ว่าจะแก้ปัญหาอย่างไร ระบบชลประทานไม่มี และน้ำเค็มรุกเข้ามา ต้องปล่อยไปตามธรรมชาติตามยถากรรม
    ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับพื้นที่นาลุ่มน้ำปากพนังที่ได้รับความเสียหายจากภาวะฝนทิ้งช่วง หากคิดประมาณพื้นที่แล้วมีไม่น้อยกว่า 1 หมื่นไร่ หรืออาจสูงถึง 30,000 ไร่ พันธุ์ข้าวนาปีสูญเสียไปแล้วกว่า 300-600 ตัน ซึ่งเป็นต้นทุนที่สูงมาก
    [​IMG]

    ไทยช่วยน้ำท่วมปากีฯ



    วันที่ 30 ส.ค. นายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต เลขานุการ รมว.ต่างประเทศ กล่าวว่า กระ ทรวงการต่างประเทศประชุมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งทางสมาคมต่างๆ ทั้งภาครัฐและเอกชนเกี่ยวกับเหตุการณ์น้ำท่วมครั้งรุนแรงที่สุดในหลายรอบปีของปากีสถาน ส่งผลให้มีการติดต่อทางเชื้อโรคที่มาทางน้ำ ในเบื้องต้น กระทรวงให้เงินช่วยเหลือ 75,000 ดอลลาร์สหรัฐ หรือ 2,500,000 บาท ส่งผ่านไปยังสถานเอกอัครราชทูตไทยประจำปากีสถานเรียบร้อยแล้ว รอเพียงการส่งมอบให้กับทางปากีสถาน สำหรับประชาชนที่ต้องการร่วมช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่ามในปากีสถาน ร่วมบริจาคได้ที่กระ ทรวงการต่างประเทศ ชื่อบัญชี รวมน้ำใจไทยช่วยผู้ประสบภัยปากีสถาน เลขที่บัญชี 111-4-26911-9 ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) สาขาถนนตะนาว สอบถามเพิ่มเติมได้ที่สำนักนโยบายและแผนกระทรวงการต่างประเทศ หรือโทร. 0-2644-6705 โทรสาร 0-2620-6463

    5มหันตภัยจากจักรวาล รุกราน-ทำลายล้างโลกมนุษย์



    <TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=left border=0><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>[​IMG]


    </TD></TR></TBODY></TABLE>"โลกสีฟ้า" หรือ "แพลเน็ต เอิร์ธ" ทุกวันนี้มีปัญหารุมเร้ามากมายและส่วนใหญ่ล้วนเกิดจากน้ำมือ "มนุษย์" ผู้อยู่อาศัย

    ทั้งการเผาผลาญทรัพยา กร การก่อมลพิษ-มลภาวะ วิกฤตสิ่งแวดล้อม ฯลฯ

    จนส่งผลก่อให้เกิดปรากฏ การณ์ร้ายแรงที่เรียกว่า "ภัยโลกร้อน" ทำให้สภาพอากาศแปรปรวนไปทั่วทุกภูมิภาค

    แต่ประชาคมโลกก็ยังนิ่งเฉย

    ไม่มีมาตรการความร่วมมือใดๆ ออกมาเป็นรูปธรรม

    ขณะที่ "ฟิล เพลต" นักดาราศาสตร์และนักฟิสิกส์ชื่อดังชาวอเมริกัน ผู้เชี่ยวชาญด้านพยากรณ์จุดจบของโลก เตือนว่า

    มนุษย์ไม่ต้องเร่งร้อนทำลายล้างโลกกันนักหรอก

    เพราะสักวันหนึ่งในอนาคตโลกก็จะถึงจุดจบด้วยตัวมันเองอยู่ดีด้วยวิถีแห่งจักรวาล

    ฉะนั้นยามมีโอกาสหายใจอยู่บนโลกจงทะนุถนอมและช่วยกันดูแลรักษาเอาไว้เถิด

    โดยความเป็นไปได้ที่วงจรของจักรวาลจะทำให้เกิด "วันสิ้นโลก" ตามทัศนะของฟิลมี 5 ลักษณะด้วยกัน ดังนี้!



    ดาวเคราะห์น้อยพุ่งชน

    ฟิล เพลต ระบุว่า ในบรรดาวัตถุในห้วงอวกาศที่มีโอกาสพาโลกไปสู่หายนะสูงสุด ก็คือ

    ดาวเคราะห์น้อย หรือ Asteroid

    ปัจจุบันโลกตั้งอยู่ท่ามกลางแนวพุ่งชนของวัตถุในอวกาศน้ำหนักมากกว่า 100 ตัวเป็นประจำทุกวัน

    และความเสี่ยงโดนพุ่งชนจนเกิดอันตรายร้ายแรง ตกประมาณ 200-300 ปีต่อครั้ง <TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=right border=0><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>[​IMG]
    1.ดาวละเบิด

    2.แบล็กโฮล



    </TD></TR></TBODY></TABLE>

    "ถ้าคุณลองไปถามไดโนเสาร์ ซึ่งสูญพันธุ์ไปแล้วดูว่าดาวเคราะห์น้อยน่ากลัวขนาดไหน มันคงบอกให้คุณระวังตัวเต็มที่"

    ฟิลกล่าว และว่า ในกลุ่มนักวิทยาศาสตร์เองก็ไม่ได้นิ่งนอนใจกับปัญหานี้ เช่น มีการรวมตัวในนามมูลนิธิ "บี 612" เพื่อระดมสติปัญญาหาทางป้องกันไม่ให้เผ่าพันธุ์มนุษย์ต้องเหลือแต่โครงกระดูกในพิพิธภัณฑ์เหมือนไดโนเสาร์

    โดยวิธีขจัดไม่ให้ดาวเคราะห์น้อยก้อนมหึมาพุ่งชนใส่โลก ได้แก่ การส่งยานอวกาศไปชนหัวดาวเคราะห์น้อยดวงนั้นๆ เพื่อเปลี่ยนวงโคจรและส่งยานอีกลำไปสร้างแรงดึงดูด ดึงดาวเคราะห์น้อยออกไปให้ไกลจากโลก



    ดาวระเบิด

    เมื่อ "ดาวฤกษ์" ที่มีมวลขนาดใหญ่มากๆ ถึงจุดจบสิ้นอายุขัยนั้น จะเกิดปรากฏการณ์ "ซูเปอร์โนวา"

    หรือการระเบิดที่ปลดปล่อยพลังงานและคลื่นรังสีออกมาจำนวนมหาศาล เมื่อมองจากกล้องโทรทรรศน์ดูสว่างวาบแสนสวยงาม แต่แฝงไปด้วยอันตราย

    ดวงดาว หรือวัตถุใดๆ ที่อยู่ใกล้จะได้รับผลกระทบไปเต็มๆ ถึงขั้น "ตาย" ตามไปด้วย

    อย่างไรก็ตาม เคราะห์ยังดีที่โอกาสเกิดซูเปอร์โนวาใกล้ๆ โลกมนุษย์ถือว่ามีน้อยมาก

    คาดว่าช่วงเวลาใกล้ที่สุดที่โลกมีความเสี่ยงกระเด็นกระดอนเพราะซูเปอร์โนวา คือ เมื่อ 2-3 ล้านปีก่อน

    ถามเมื่อรู้อย่างนี้แล้วจะป้องกันได้อย่างไร

    คำตอบสั้นๆ จากฟิล คือ ไม่มี ฉะนั้นอย่ากังวลใจไปเลย ถ้ามันจะต้องเกิดขึ้นจริงๆ <TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=left border=0><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>[​IMG]
    ภาพลักษณะอาทิตย์ก่อนดับ



    </TD></TR></TBODY></TABLE>



    พระอาทิตย์ดับ

    ดวงอาทิตย์ มีความสำคัญต่อโลกมนุษย์มากถึงมากที่สุด

    ทำหน้าที่เป็นทั้งแหล่งให้พลังงาน แหล่งกำเนิดชีวิต และให้ความอบอุ่น

    แต่ในเชิงฟิสิกส์ประเมินกันว่า ขณะนี้วงจรชีวิตของดวงอาทิตย์ถ้าเทียบกับคนเราก็เดินมาถึง "ครึ่งทาง"แล้ว

    (4.5 พันล้านปี)

    พูดง่ายๆ ก็คือ เริ่มเข้ายุคนับถอยหลังสู่จุดจบ หรือยุคที่หมดสิ้นไม่เหลือหลอพลังงาน

    และ "ดับ" ไปกลายเป็นดาวสีแดงเฉยๆ

    "จากนี้คงเป็นหน้าที่ของเหลนๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ และเหลนของผม ที่ต้องคิดวิธีแก้ปัญหาพระอาทิตย์ดับกันต่อไป"

    ฟิลกล่าวติดตลก



    "แบล็กโฮล" หลุมดำกลืนกินทุกสรรพสิ่ง

    หนังฮอลลีวู้ดอาจสร้างความเข้าใจ-การรับรู้ผิดๆ เกี่ยวกับ "หลุมดำ" หรือ "แบล็กโฮล" ในห้วงจักรวาล ว่า

    เป็นจอมอันธพาล ไล่ตระเวนกลืนกินทุกสิ่งทุกอย่างที่ขวางหน้าในอวกาศ โดยเฉพาะดาวเคราะห์ต่างๆ

    แต่ความเป็นจริงหลุมดำก็มีทิศทางการโคจรใน "ทางช้างเผือก" เฉกเช่นเดียวกับดวงดาวอีกหลายแสนล้านดวง

    แต่อย่างไรก็ดี มีความเป็นไปได้ที่แบล็กโฮลหลุมใดหลุมหนึ่งอาจโคจรมาใกล้โลกมากจนเกินไป

    ซึ่งถ้าเกิดขึ้นจริงวงโคจรโลกจะเสียกระบวน ทำให้โลกหล่นตุ้บเข้าไปอยู่ในดวงอาทิตย์ หรือถูกกระแทกออกไปลอยคว้างอยู่ในห้วงอวกาศอันไกลโพ้น (แล้วลองคิดดูเล่นๆ ก็ได้ว่าอะไรจะเกิดขึ้นต่อจากนั้น?)

    มีความเป็นไปได้น้อย ที่แบล็กโฮลจะโผล่มากลืนโลกหายไปทั้งใบ

    หรือถ้ามาป้วนเปี้ยนแถวๆ นี้จริง น่าจะใช้เวลาอีกนับล้านล้านปี

    จุดจบตามกฎธรรมชาติ

    ทุกสรรพสิ่งในธรรมชาติ ไม่ว่าจะดีหรือร้ายต้องเดินทางไปถึงจุดจบ

    "จักรวาล" (Universe) ของเราเองก็หนีไม่พ้นกฎ หรือสัจธรรมข้อนี้

    จากการคำนวณทางฟิสิกส์ ปัจจุบันจักรวาลของเรามีอายุประมาณ 13,000 ล้านปี

    แต่หลังจากนั้นไกลออกไปอีกนับล้านล้านปี ล้านล้านล้านปี หรืออภิมหาล้านล้านล้านปี ฯลฯ อะไรจะเกิดขึ้น

    ดาวทั้งหลายจะ "ตาย" กันไปจนหมดสิ้น

    ถ้าทฤษฎีควอนตัมในวันนี้ถูกต้อง เมื่อถึงเวลานั้นแม้แต่แบล็กโฮลยังจะระเหิดหายไป โปรตอนก็จะหมดซึ่งความเสถียรและสลายไปได้เช่นกัน

    เท่ากับจักรวาลนี้ไม่มีสิ่งใดเหลืออยู่ ยกเว้นการวิ่งชนกันไปมาอย่างบางเบาของอิเล็กตรอนกับโปรตอนท่ามกลางความว่างเปล่า

    "คำแนะนำของผมก็คือ ในวันนี้ขอให้เราออกไปยืนมองท้องฟ้า อิ่มเอมกับการชื่นชมความงามของพระอาทิตย์ พระจันทร์ และหมู่ดาว"

    ฟิลกล่าวเป็นปริศนาธรรมส่งท้ายให้มนุษย์โลกร่วมกันขบคิดถึงคุณค่าของการมีชีวิตอยู่ในโลกและจักรวาล

    ข้อมูล : เว็บพ็อพพิวลาร์เมคานิกส์/ดิสคัฟเวอรี่ชาแนล

    ทีมโคลัมเบียเจอลิงพันธุ์ใหม่-ป่าอะเมซอน



    <TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=left border=0><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>[​IMG]

    </TD></TR></TBODY></TABLE>องค์กรอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมนานาชาติประกาศรับรองว่าลิงซึ่งทีมวิจัยจากมหาวิทยาลัยแห่งชาติโคลัมเบียค้นพบว่าซ่อนตัวอยู่ในป่าลึกของลุ่มน้ำอะเมซอน ในรัฐกาเควตา ใกล้กับเปรู เป็นลิงชนิดใหม่ที่ไม่เคยพบมาก่อน แต่ลิงหน้าใหม่เหล่านี้กำลังตกอยู่ในภาวะเสี่ยงสูญพันธุ์ เหลืออยู่ไม่ถึง 250 ตัว เพราะป่าไม้ซึ่งเป็นบ้านของมันกำลังถูกคุกคามทำลาย

    การค้นพบตีพิมพ์ในวารสารไพรเมต คอนเซอร์เวชั่น ระบุว่า ลิงชนิดนี้ได้รับการตั้งชื่อว่า "กาเควตา ติตี" ตามชื่อแหล่งที่พบ โดยมีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Callicebus caquetensis ศ.เจฟ ฟรีย์ เฟรนช์ นักชีววิทยาและจิตวิทยาจากมหา วิทยาลัยเนบราสก้า ซึ่งศึกษาลิงในป่าอะเม ซอนของบราซิล กล่าวว่า ลิงชนิดนี้เป็นลิงที่จับคู่ผัวตัวเมียแบบผัวเดียวเมียเดียว ซึ่งแตกต่าง จากลิงส่วนใหญ่ที่มีการเปลี่ยนคู่ โดยออกลูกปีละตัวและจะไปไหนมาไหนกันเป็นกลุ่ม กลุ่มละ 4 ตัว

    "เอ็มไอที"คิด"ไวรัส"ชาร์จแบตเตอรี่



    <TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=left border=0><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>[​IMG]

    </TD></TR></TBODY></TABLE>นักวิทยาศาสตร์จากสถาบันเทคโนโลยีแมสซาชูเส็ตต์ (เอ็มไอที) ของสหรัฐ ประสบความสำเร็จในการพัฒนา "เอ็ม 13 แบคเทอริโอฟาจ" ไวรัสซึ่งสามารถทำหน้าที่ชาร์จประจุ ไฟฟ้าให้กับแบตเตอรี่อนุภาคลิเธียมได้ โดยไวรัสดังกล่าวสามารถถูกพ่นลงบนเสื้อผ้าที่ใช้สวมใส่ และวัตถุชนิดอื่นเพื่อใช้เป็นแหล่งเก็บประจุไฟฟ้าสำรองได้อีกด้วย โดยคณะนักวิจัยคาดว่าจะนำไปประยุกต์ใช้กับทหารในกองทัพที่ต้องแบกอุปกรณ์ไฟฟ้ามากมายขณะรบพุ่ง หนำซ้ำยังต้องผนวกเอาแบต เตอรี่จำนวนมากเพื่อเป็นแหล่งพลังงาน ทำให้ร่างกายต้องแบกรับน้ำหนักจำนวนมาก ซึ่งเทคโนโลยีดังกล่าวจะทำให้ทหารพกแบตเตอรี่น้อยลง

    ด้านเสื้อผ้าที่สามารถทำหน้าที่เป็นแหล่งเก็บประจุไฟฟ้าได้นั้น นักวิจัยระบุว่า จะมีอัตราการสูญเสียประจุ เวลาในการชาร์จ และประสิทธิภาพในการใช้งานแตกต่างจากแบต เตอรี่อนุภาคลิเธียมเพียงเล็กน้อย

    ดร.มาร์ก อัลเลน นักวิจัยเอ็มไอที กล่าวว่า สิ่งประดิษฐ์ดังกล่าวเป็นต้นแบบของศาสตร์ด้านเคมีที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เนื่องจากวัสดุส่วนประกอบ และปฏิกิริยาสามารถสร้างขึ้นได้ที่อุณหภูมิห้อง ทั้งยังมีอันตรายน้อยกว่าแบตเตอรี่อนุภาคลิเธียมด้วย เพราะเกิดความร้อนน้อยกว่า

    ผลงานการคิดค้นดังกล่าว คล้ายคลึงกับการพัฒนาอนุภาคนาโนซึ่งสามารถสร้างประจุ ไฟฟ้าจากการเคลื่อนที่ของร่างกาย ของคณะนักวิจัยมหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนียเมื่อปีที่ผ่านมา

    5 ปีแคทรีนาถล่ม



    <TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=left border=0><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>[​IMG]
    </TD></TR></TBODY></TABLE>กล้องดิจิตอลรักษาสภาพเปื้อนโคลนไว้ เพื่อเป็นที่รำลึกเหตุการณ์พายุแคทรีนาซัดถล่มเมืองนิว ออร์ลีนส์ ครบรอบ 5 ปี กล้องดังกล่าวพบในบ้านของช่างภาพหนังสือพิมพ์ไทมส์-ปิกายูน ในนิวออร์ลีนส์ ตอนนี้จัดแสดงอยู่ในนิทรรศการ "ฟื้นจากแคทรีนา" ในพิพิธภัณฑ์ข่าว กรุงวอชิงตัน สหรัฐ เพื่อบอกเล่าการทำงานของสื่อมวลชนในช่วงเกิดเหตุการณ์ที่มีผู้เสียชีวิต 1,800 ราย (ภาพ-เอเอฟพี)




    ผู้หญิงปฏิบัติธรรม

    เก็บเรื่องมาเล่า

    ชนา ชลาศัย



    <TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=left border=0><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>[​IMG]
    </TD></TR></TBODY></TABLE>ผู้หญิงทุกวันนี้หันมาปฏิธรรมมากขึ้น นิตยสาร "ซีเคร็ต" ฉบับล่าสุด แนะนำสถานที่ปฏิบัติธรรมสำหรับผู้หญิง 5 สไตล์ ดังนี้

    1.เสถียรธรรมสถาน - สำหรับหญิงสาวแสนอบอุ่น

    อยู่บริเวณรอบนอกกรุงเทพฯ แวดล้อมไปด้วยต้นไม้ใบหญ้า สอนวิปัสสนาแบบอานาปานัสสติ ถือศีล 8 กติกา - งดใช้โทรศัพท์มือถือ ไม่เข้าไปในพื้นที่หวงห้าม ปฏิบัติอย่างตั้งใจเพื่อเกื้อกูลตัวเองและเพื่อนผู้ร่วมปฏิบัติ ติดต่อ - 0-2510-6697, 0-2510-4756, 0-2509-0085 www.sdsweb.org

    2.พุทธธรรมสถาน "ผาซ่อนแก้ว" - สำหรับสาวหัวใจอาร์ติสต์

    ตั้งอยู่บริเวณเนินเขา หมู่บ้านทางแดง ต.แคมป์สน อ.เขาค้อ จ.เพชรบูรณ์ ล้อมรอบด้วยขุนเขา สอนปฏิบัติธรรมภาวนา ตามแนวทางสติปัฏฐาน 4 กติกา - งดใช้โทรศัพท์มือถือ งดพูดคุยเสียงดัง งดฟังวิทยุ ติดต่อ - มูลนิธิบ้านอารีย์ www. baanaree.net โทร.0- 2279-7838 หรือ 08-4494-1262 www.phasornkaew.org

    3.The Middle Way Meditation Retreat - สำหรับสาวทำงานยุคใหม่

    ติดอันดับ 1 ใน 10 สถานปฏิบัติธรรมดีที่สุดในโลก สถานที่ตั้งอยู่กลางหุบเขาสวนป่าหิมวันต์ อ.ภูเรือ จ.เลย เปิดหลักสูตรปฏิบัติธรรมนานาชาติสอนเป็นภาษาอังกฤษ กติกา - รับผู้ปฏิบัติธรรมอายุ 18 ปีขึ้นไป งดใช้โทรศัพท์มือถือ งดฟังเพลง งดการอ่านหนังสือ ติดต่อ - www.meditationthai.org หรือโทร.08-2333-3082

    4.วัดป่าสุนันทวนาราม - สำหรับสาวผู้รักการค้นหา

    ตั้งอยู่ท่ามกลางธรรมชาติบริสุทธิ์ บ้านท่าเตียน ต.ไทรโยค อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี สอนอบรมปฏิบัติภาวนา ตามแนวทางอานาปานัสสติ กติกา - ปิดเครื่องมือสื่อสารทุกชนิด ติดต่อ - โทร.08-7045-7232 อีเมล์ watpahsunan@windowslive.com

    5.ธรรมาศรม ธรรมมาตา - สำหรับสาวผู้รู้จริงทำจริง

    สถานปฏิบัติธรรมเล็กๆ สำหรับผู้หญิงโดยเฉพาะ ตั้งอยู่ภายในธรรมาศรมนานาชาติ (สวนโมกข์นานาชาติ) ต.เสม็ด อ.ไชยา จ.สุราษฎร์ธานี สอนอานาปานัสสติภาวนา 16 ขั้นของท่านพุทธทาสภิกขุ กติกา - งดการพูดคุย ห้ามใช้ถุงพลาสติก ไม่สวมรองเท้า ติดต่อ - 0-7743-1596-7, 0-7743-1661-2

    เลือกสถานที่ตามความศรัทธาและความสะดวก

    <TABLE cellSpacing=3 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=left>ชาวบ้านอลหม่าน น้ำหลากท่วมหลายจังหวัด

    <STYLE> P { margin: 0px; } </STYLE>พระองค์โสมฯทรงช่วยชาวบ้านน้ำท่วม
    เมื่อวันที่ 29 ส.ค. พระเจ้าวรวงศ์เธอพระองค์เจ้าโสมสวลี พระวรราชาทินัดดามาตุ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ นางสมถวิล ยังอยู่ ผู้ช่วยเลขานุการในพระองค์ นำกำลังพลของกองทัพเรือ ลำเลียงถุงยังชีพพระราชทานมูลนิธิอาสา เพื่อนพึ่งภายามยากสภา กาชาดไทย ขึ้นรถบรรทุกชานต่ำของ กรมสรรพาวุธทหารเรือ และ อู่ราชนาวีมหิดล อดุลยเดช กรมอู่ทหารเรือ รวม 2 คัน จำนวน 4 ตู้ คอนเทนเนอร์ เพื่อนำไปช่วยเหลือราษฎรที่ได้รับความเดือดร้อน 1,435 ถุง พระภิกษุสามเณร 40 ถุง ในเวลา 10.00 น.วันที่ 30 ส.คที่หอประชุมร.ร.ฟากท่าวิทยา จ.อุตรดิตถ์ และเวลา 14.00 น. นำไปช่วยเหลือราษฎร 983 ถุง พระภิกษุสามเณร 40 ถุง ที่หอประชุมองค์การบริหารส่วนตำบลสถาน อ.นาน้อย จ.น่าน โดยรถตู้คอนเทนเนอร์ทั้งสองคันจะออกเดินทางจากสนามบินอู่ตะเภา กองการบินทหารเรือ อ.บ้านฉาง จ.ระยอง ในเวลา 21.15 น. วันที่ 29 ส.ค.

    พิจิตรน้ำหลากช่วงดึก
    เมื่อเวลา 00.30 น. วันที่ 29 ส.ค. 2553 เกิดฝนตกลงมาอย่างหนักในพื้นที่จังหวัดพิจิตร และเกิดน้ำป่าจากจากอำเภอวังโปร่ง จังหวัดเพชรบูรณ์ ไหลเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชน บ้านเกาะยิงลิง บ้านโคกสนั่น บ้านตลิ่งชัน บ้านวังเรือน หมูที่ 1หมู่ที่ 2 หมู่ที่ 3 หมูที่ 4 หมู่ที่ 10 ตำบลวังงิ้ว เหนือ อำเภอดงเจริญ จังหวัดพิจิตร กว่า 1,000 หลังคาเรือน น้ำท่วมสูงกว่า 1 เมตร ชาวบ้านต้องรีบเคลื่อนย้ายสิ่งของสัตว์เลี้ยงขึ้นไปอยู่บนถนน เนื่องจากน้ำป่าไหลหลากอย่างรวดเร็ว ประกอบกับเป็นช่วงเวลากลางคืน

    นอกจากนี้ ถนนสายหลัก ระหว่างถนนทางหลวงดงขุย-วังงิ้ว และดงขุย- ตลิ่งชัน ซึ่งเป็นเส้นทางเข้าบ้านพักของพลตรี สนั่น ขจรประศาสน์ รองนายกรัฐมนตรี 2 เส้นทาง ถูกน้ำท่วม สูงกว่า 1 เมตร รถไม่สามารถสัญจรไปมาได้ เจ้าหน้าที่ตำรวจพร้อมด้วย เจ้าหน้าที่ อำเภอ ช่วยกันนำป้ายมาติดไว้เนื่องจากเกรงว่า จะได้รับอันตรายต่อประชาชนที่จะใช้เส้นทางนี้ ส่วนความเสียหายจากไร่นา อยู่ระหว่างการสำรวจ

    ลำปางน้ำยังสูง-ผู้ว่าฯเร่งช่วยเหลือ
    เวลาประมาณ 06.00 น. วันที่ 29 ส.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า น้ำป่าไหลหลากเข้าท่วมบ้านเรือนในพื้นที่ 3 หมู่บ้านของต.บ้านแลง อ.เมือง จ.ลำปาง คือ บ้านวังยวม หมู่ 10 บ้านแม่อาง หมู่ 4 และบ้านดง หมู่ 5 เนื่องจากตั้งแต่กลางดึกวันที่ 28 ส.ค.ที่ผ่านมา มีฝนตกลงมาอย่างต่อเนื่อง ทำให้น้ำลำห้วยแม่อางมีปริมาณเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว ไหลเข้าท่วมบ้านเรือนสองฝั่งของลำห้วยกว่า 50 หลังคาเรือน ปริมาณน้ำสูง 1-1.50 เมตร เบื้องต้นยังไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต ส่วนทรัพย์สินและสัตว์เลี้ยงบางส่วนถูกน้ำท่วมขังและไหลไปกลับกระแสน้ำที่ไหลเชี่ยวอย่างมาก


    มาร์คให้ชาวบ้านติดตามข่าว
    เวลา 09.00 น. นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวในรายการเชื่อมั่นประเทศไทยกับนายกฯ อภิสิทธิ์ ว่า ช่วงนี้มีฝนตกหนักขึ้นในหลายพื้นที่ ครม.ได้กำชับทุกหน่วยงานและรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องดูแลเอาใจใส่ผลกระทบที่จะเกิดขึ้น ขอให้ประชาชนติดตามการพยากรณ์อากาศ เพราะเวลามีฝนตกแรง มีพายุ ก็มีความเสี่ยงที่จะเกิดอุบัติเหตุ อุบัติภัยต่างๆ และขอให้ใช้ความระมัดระวัง อย่าประมาท


    3 เขื่อนใหญ่ปล่อยน้ำทำร้อยเอ็ดจม
    นายสำเริง บุญค้ำ เกษตรอำเภอจังหาร จ.ร้อยเอ็ด เปิดเผยว่า เกิดฝนตกหนักในพื้นที่จ.ร้อยเอ็ด ติดต่อกันมาหลายวัน ประกอบกับเขื่อนสิริกิติ์ จ.ชัยภูมิ เขื่อนอุบลรัตน์ จ.ขอนแก่น และเขื่อนลำปาว จ.กาฬสินธุ์ ซึ่งรับน้ำกว่า 90 เปอร์เซ็นต์ กลัวเขื่อนแตก จึงปล่อยน้ำออกเต็มที่กว่า 15 ล้านลบ.ม.ต่อวัน ทำให้น้ำไหลลงลำน้ำชีที่อยู่ตอนล่าง ไหลบ่าล้นตลิ่งเข้าท่วมบ้านเรือนชาวบ้าน ในอำเภอที่อยู่ติดลำน้ำชี ของจ.ร้อยเอ็ด คือ อ.จังหาร, เชียงขวัญ, โพธิ์ชัย, เสลภูมิ, อาจสามารถ, พนมไพร และทุ่งเขาหลวง สร้างความเดือดร้อนให้กับชาวบ้านอย่างหนัก
    ขณะนี้นาข้าวจมอยู่ใต้น้ำแล้วกว่า 20,000 ไร่ ระดับน้ำสูง 1-2 เมตร โดยเฉพาะที่อ.จังหาร น้ำท่วมนาข้าวต.ผักแว่น 8 หมู่บ้าน

    แม่ปิงทะลักเข้าตัวเมืองเชียงใหม่
    ที่จ.เชียงใหม่ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เกิดฝนตกหนักที่จ.เชียงใหม่ ตั้งแต่เวลา 07.20 น ต่อเนื่องกว่า 2 ชั่วโมงติดต่อกัน ส่งผลให้เกิดน้ำท่วมขังในหลายพื้นที่ 3 อำเภอของจ.เชียงใหม่ ตลอดช่วงวันที่ผ่านมา คือที่เขตอ.เมือง อ.แม่ริมน้ำและอ.สันทราย


    </TD><TD vAlign=top align=left>




    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=295 border=0><TBODY><TR><TD width=21 height=21>[​IMG]</TD><TD background=images/line_top.gif></TD><TD width=21 height=21>[​IMG]</TD></TR><TR><TD background=images/line_left.gif></TD><TD width="100%"><TABLE cellSpacing=3 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=left>
    [​IMG]
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD background=images/line_right.gif></TD></TR><TR><TD width=21 height=21>[​IMG]</TD><TD background=images/line_bottom.gif></TD><TD width=21 height=21>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=295 border=0><TBODY><TR><TD width=21 height=21>[​IMG]</TD><TD background=images/line_top.gif></TD><TD width=21 height=21>[​IMG]</TD></TR><TR><TD background=images/line_left.gif></TD><TD width="100%"><TABLE cellSpacing=3 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=left>
    [​IMG]
    ภาพ : พิจิตร
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD background=images/line_right.gif></TD></TR><TR><TD width=21 height=21>[​IMG]</TD><TD background=images/line_bottom.gif></TD><TD width=21 height=21>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=295 border=0><TBODY><TR><TD width=21 height=21>[​IMG]</TD><TD background=images/line_top.gif></TD><TD width=21 height=21>[​IMG]</TD></TR><TR><TD background=images/line_left.gif></TD><TD width="100%"><TABLE cellSpacing=3 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=left>
    [​IMG]
    ภาพ : พิษณุโลก
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD background=images/line_right.gif></TD></TR><TR><TD width=21 height=21>[​IMG]</TD><TD background=images/line_bottom.gif></TD><TD width=21 height=21>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=295 border=0><TBODY><TR><TD width=21 height=21>[​IMG]</TD><TD background=images/line_top.gif></TD><TD width=21 height=21>[​IMG]</TD></TR><TR><TD background=images/line_left.gif></TD><TD width="100%"><TABLE cellSpacing=3 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=left>
    [​IMG]
    ภาพ : อุตรดิตถ์
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD background=images/line_right.gif></TD></TR><TR><TD width=21 height=21>[​IMG]</TD><TD background=images/line_bottom.gif></TD><TD width=21 height=21>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=295 border=0><TBODY><TR><TD width=21 height=21>[​IMG]</TD><TD background=images/line_top.gif></TD><TD width=21 height=21>[​IMG]</TD></TR><TR><TD background=images/line_left.gif></TD><TD width="100%"><TABLE cellSpacing=3 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=left>
    [​IMG]
    ภาพ : เลย
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD background=images/line_right.gif></TD></TR><TR><TD width=21 height=21>[​IMG]</TD><TD background=images/line_bottom.gif></TD><TD width=21 height=21>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=295 border=0><TBODY><TR><TD width=21 height=21>[​IMG]</TD><TD background=images/line_top.gif></TD><TD width=21 height=21>[​IMG]</TD></TR><TR><TD background=images/line_left.gif></TD><TD width="100%"><TABLE cellSpacing=3 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=left>
    [​IMG]
    ภาพ : ลำปาง
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD background=images/line_right.gif></TD></TR><TR><TD width=21 height=21>[​IMG]</TD><TD background=images/line_bottom.gif></TD><TD width=21 height=21>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 31 สิงหาคม 2010
  7. kananun

    kananun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2006
    โพสต์:
    10,282
    ค่าพลัง:
    +114,775
    น้ำมาอย่างเห็นได้ชัดเจนในหลายพื้นที่ของประเทศไทยแล้วครับ

    มีภัยอีกประการหนึ่งที่คุกคามเงียบๆอยู่คือ ภัยจากโรคภัยไข้หวัดใหญ่ ซึ่งหลายๆโรงพยาบาลทั้งรัฐบาลและเอกชนที่เตียงเต็มหมด จากโรคหวัดครับ ทั้ง ไข้หวัด2009 และไข้หวัดใหญ่(ซึ่งอาจพัฒนาตัวเองไปจนเกิน 2009แล้วก็เป็นได้)

    รักษาสุขภาพกันเอาไว้ให้มากๆครับ
     
  8. Cutie Kung

    Cutie Kung เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    240
    ค่าพลัง:
    +1,283
    แนะนำให้ ทานอาหารที่ สร้างภูมิคุ้มกัน เช่นผัก โดยเฉพาะเห็ดหลินจือ
    [​IMG]


    <table class="MsoTableGrid" style="width: 504pt; margin-left: 81pt; border-collapse: collapse;" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="672"><tbody><tr style=""><td style="width: 504pt; background: none repeat scroll 0% 0% rgb(255, 237, 219); padding: 0cm 5.4pt;" valign="top" width="672">สรรพคุณทางยา :
    สมุนไพรเห็ดหลินจือ ได้รับการยอมรับในการนำมารักษาโรคด้วยวิธีทางธรรมชาติ ด้วยหลักการแห่งความสมดุลของหยินหยาง เพื่อสร้างความสมบูรณ์แขงแรงของร่างกายให้ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพทั้ง 3 ระบบได้แก่
    1. ระบบทางเดินอาหาร โรคกระเพาะอักเสบ ลำไส้อักเสบ ท้องผูก ตับอักเสบ

    <!--[if !supportLineBreakNewLine]-->
    <!--[endif]--><o:p></o:p>

    </td> </tr> <tr style=""> <td style="width: 504pt; background: none repeat scroll 0% 0% rgb(255, 237, 219); padding: 0cm 5.4pt;" valign="top" width="672"> 2. ระบบทางเดินหายใจ โรคหลอดลมอักเสบ โรคหอบหืด โรคภูมิแพ้
    <!--[if !supportLineBreakNewLine]-->
    <!--[endif]--><o:p></o:p>

    </td> </tr> <tr style=""> <td style="width: 504pt; background: none repeat scroll 0% 0% rgb(255, 237, 219); padding: 0cm 5.4pt;" valign="top" width="672"> 3. ระบบไหลเวียนของโลหิต โรคความดันโลหิต โรคหัวใจ โรคเม็ดเลือดขาวต่ำ ขจัดสารพิษในหลอดเลือด <o:p></o:p>
    </td> </tr> <tr style=""> <td style="width: 504pt; background: none repeat scroll 0% 0% rgb(255, 237, 219); padding: 0cm 5.4pt;" valign="top" width="672"> < บรรเทาอาหารปวด โรคประสาท โรคตับแข็ง โรคไตอักเสบ โรคเบาหวาน โรคมะเร็ง เช่น พร้อมทั้งยังสามารถบรรเทาอาการของโรคอื่นๆได้>



    http://www.it-gateways.com/charoenvej/Herb/linjue2.htm

    </td></tr></tbody></table>
     
  9. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    คัมภีร์เปลี่ยนเส้นเอ็นของวัดเส้าหลิน

    [​IMG]

    การบริหารแกว่งแขน - คัมภีร์เปลี่ยนเส้นเอ็น

    ต๋า โม๋ อี้ จิน จิง หรือ คัมภีร์เปลี่ยนเส้นเอ็น มีอายุกว่า 1,400 ปี สืบทอดมาจากพระโพธิธรรม (ปรมาจารย์ตั๊กม้อ) ซึ่งเป็นที่รู้จักกันดีในบ้านเราว่า กายบริหารแกว่งแขน

    คำว่า “เปลี่ยนเส้นเอ็น” ไม่ได้หมายถึง ผ่าตัดเปลี่ยนเอาเส้นเอ็นออกมาตามความเข้าใจของการแพทย์แผนปัจจุบัน แต่เป็นการปรับเปลี่ยนแก้ไขสภาพของเส้นเอ็น ด้วยการออกกำลังกายโดยวิธีแกว่งแขน ซึ่งจะส่งผลให้เลือดลมภายในโคจรไหลเวียนได้สะดวก เป็นปกติไม่ติดขัด

    ต่อมา ”คัมภีร์เปลี่ยนเส้นเอ็น” นี้ได้ถูกเรียกชื่อเสียใหม่ว่า “กายบริหารแกว่งแขนบำบัดโรค” เพื่อให้คนทั่วไปสามารถเข้าใจได้ง่ายขึ้น กายบริหารแกว่งแขนนี้ ทำง่ายหัดง่ายและเป็นเร็ว นอกจากนี้ยังมีประสิทธิภาพในการบำบัดโรคได้รวดเร็วอีกด้วย โรคเรื้อรังมากมายหลายชนิด ก็สามารถรักษาให้หายขาดได้โดยวิธีทำกายบริหารแบบนี้

    การแกว่งแขนต้องอาศัยความอดทน การแกว่งแขนแต่ละครั้งจะมากหรือน้อย ย่อมขึ้นอยู่กับร่างกายของแต่ละคน ว่าอ่อนแอหรือแข็งแรงเพียงใด อย่าใจร้อน อย่าฝืน แต่ก็ไม่ใช่ทำตามสบาย เพราะหากปล่อยตามใจชอบแล้ว ก็จะขาดความเชื่อมั่นต่อการออกกำลังกาย และจะไม่เกิดผลเมื่อ เริ่มปฏิบัติอย่าออกแรงหักโหมมากเกินไป ให้แกว่งแขนไปตามปกติ ทำอย่างนิ่มนวล ไม่ใช่แกว่งอย่างเอาเป็นเอาตาย ควรทำจิตใจให้เป็นสมาธิ อย่าฟุ้งซ่าน ถ้าหากไม่มีสมาธิแล้วเลือดก็จะหมุนเวียนสับสนไม่เป็นระเบียบ ทำให้การปฏิบัติไม่สัมฤทธิ์ผลเท่าที่ควร

    การบริหารแกว่งแขนนี้เมื่อปฏิบัติอย่างสม่ำเสมอเป็นประจำ สามารถบำบัดโรคร้ายแรง และเรื้อรังต่าง ๆ ให้หายได้ ส่วนผู้ที่มีร่างกายปกติ หากปฏิบัติเป็นประจำจะช่วยเสริมสร้างสุขภาพพลานามัยให้ดียิ่งขึ้น ช่วยให้อารมณ์แจ่มใสจิตใจเบิกบานและเป็นสุข หลังจากการทำกายบริหารแกว่งแขนแล้ว ควรเดินพักตามสบายเพื่อผ่อนคลายร่างกายและจิตใจ

    กายบริหารแกว่งแขนกับการรักษาโรคสายตา

    การทำกายบริหารแกว่งแขนมีคุณประโยชน์ต่อผู้ป่วยที่เป็นโรคตา มีบางท่านใช้แว่นสายตาหนามาก แต่เมื่อได้ทำกายบริหารแกว่งแขนระยะหนึ่ง กลับไม่ต้องใช้แว่นอีกเลย มีบางคนอ่านหนังสือพิมพ์รู้สึกลำบาก มองไม่ค่อยจะเห็นอ่านแต่ละตัวต้องเพ่งแล้วเพ่งอีก หนังสือ (เน่ยจัง)คัมภีร์แพทย์เล่มแรกของจีนกล่าวไว้ว่า “ตาเมื่อได้รับเลือดหล่อเลี้ยงจึงสามารถมองเห็น”แสดงว่าปัจจัยสำคัญอยู่ที่เลือด เมื่อเลือดเดินไปไม่ทั่วถึงทุกส่วนของร่ายกายก็จะเกิดโรคต่าง ๆ อย่างแน่นอน

    ส่วนต่างๆ ของร่างกายทั่วร่างกายมีส่วนสัมพันธ์กันทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็น ชีพจร เส้นเลือด ทางลมหากเลือดหมุนเวียนทั่วทุกส่วน เราก็จะรู้สึกสบาย ไม่เจ็บป่วย ถ้าใครคิดว่าดวงตานั้นมีระบบอยู่อย่างเอกเทศ ตัดขาดจากกล้ามเนื้อส่วนอื่น ๆ ของร่างกายนั้นจึงเป็นความเข้าใจที่ไม่ถูกต้อง นอกจากนี้เมื่อเราได้ทำกายบริหารแกว่งแขนทั่ว ๆ ไปจะรู้สึกเจริญอาหาร เดินกระฉับกระเฉง นอนหลับสบาย ท้องก็ไม่ผูกซึ่งเป็นข้อบ่งชี้ว่า ระบบการเผาผลาญอาหารในร่างกาย (METABLISM) นั้นทำงานดี

    ที่มา http://thaiio.com/Appdown/health.htm

    หมายเหตุ

    การแกว่งแขนนี้สามารถรักษาโรคได้หลายอย่าง แต่ที่ผมได้หยิบยกเอาเฉพาะเรื่องของโรคสายตา ก็เพื่อให้เนื้อหาต่อเนื่องกับข้อมูลที่ผมได้นำลงมาให้ได้อ่านกันก่อนหน้านี้นะครับ เพราะผมเห็นว่าเพื่อนๆน้องๆ ในเว็บพลังจิตหลายท่าน มีปัญหาเกี่ยวกับสายตาสั้นกันหลายคนรวมทั้งตัวผมด้วย จะได้นำความรู้นี้ไปใช้ให้เกิดประโยชน์ได้บ้างไม่มากก็น้อย

    การแกว่งแขนนี้ ความจริงก็คือการเดินลมปราณแบบเดียวกับการฝึกมวยไท่เก็กนั่นเอง ทำให้เลือดลมเดินสะดวก สามารถล้างสารพิษตกค้างที่ติดอยู่ในกระแสเลือดให้หมดไปได้อย่างง่ายดาย โดยไม่ต้องเสียเงินแพงๆไปหาหมอให้เสียเวลา ท่านที่สนใจก็เข้าไปศึกษารายละเอียดได้ตามลิ้งค์ที่มาของข้อมูลนี้นะครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 31 สิงหาคม 2010
  10. ~:*พนมวัน*:~

    ~:*พนมวัน*:~ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    274
    ค่าพลัง:
    +1,214
    อาจารย์อาจอง ออกมาพูดหลายครังแล้วว่า กรุงเทพฯ จะมีปัยหาหนักเรื่องน้ำและแผ่นดินทรุดในอีกไม่กี่ปีข้างหน้านี้ค่ะ อาจารย์เสนอให้ย้ายเมืองหลวง คือต้องรีบทำตอนนี้ ไม่งั้นอาจจะไม่ทันการณ์

    คมชัดลึก (วันเสาร์ ที่ 14 พฤศจิกายน 2552)

    [​IMG]

    จากกรณีที่องค์การกองทุนสัตว์ป่<WBR>าสากล (World Wild Life Fund for Nature หรือ WWF) เปิดเผยผลการศึกษาสภาพภูมิอากาศ<WBR>ของเมืองใหญ่ ในภูมิภาคเอเชีย
    ...

    ซึ่งกรุงเทพมหานคร ติดโผเมืองใหญ่ที่มีความเสี่ยงส<WBR>ูง คือ ระดับ 5 ที่จะเกิดภัยธรรมชาติ เนื่องจากภาวะโลกร้อน ซึ่งเป็นกลุ่มเดียวกับนครโฮจิมิ<WBR>นห์ ประเทศเวียดนาม และเซี่ยงไฮ้ ประเทศจีน

    โดยได้มีนักวิชาการออกมาสนับสนุ<WBR>นผลการศึกษา และหวาดวิตกกับเหตุการณ์ที่จะเก<WBR>ิดขึ้น ดร.อาจอง ชุมสาย ณ อยุธยา นักวิทยาศาสตร์ กล่าวในเรื่องนี้ว่า

    สิ่งที่ตนเคยคาดการณ์ไว้ว่า ประเทศไทยจะมีหิมะตก โดยเฉพาะทางบนภูเขาทางภาคเหนือ ไม่ใช่เรื่องที่เหนือความคาดหมา<WBR>ย ขณะนี้ขาดเพียงความชื้นเท่านั้น<WBR>

    ขณะที่พื้นที่กรุงเทพฯ ถือเป็นพื้นที่เสี่ยงภัยธรรมชาต<WBR>ิ เนื่องจากระดับน้ำทะเลสูงขึ้นเร<WBR>ื่อยๆ จนในอนาคตกรุงเทพฯ จะอยู่ใต้น้ำทะเล รวมถึงจังหวัดอื่นๆ ด้วย จากนี้ไม่เกิน 10 ปี จะเริ่มเห็นอย่างชัดเจน

    ดังนั้น กทม.ควรเตรียมความพร้อมในการย้า<WBR>ยเมืองหลวงไปอยู่ที่อื่น ซึ่งสถานที่ที่ปลอดภัย และมีความเหมาะสมที่สุด คือ อีสานใต้ เพราะสูงจากระดับน้ำทะเลเกินกว่<WBR>า 100 เมตร และไม่มีรอยร้าวในแผ่นดิน

    ขณะที่จังหวัดทางภาคเหนือ มีรอยร้าวของเปลือกโลกที่กำลังเ<WBR>คลื่อนไหวอยู่ หากไม่ย้าย ควรวางแผนสร้างเขื่อนในอ่าวไทย ความสูง 30 เมตร ตั้งแต่สัตหีบ จ.ชลบุรี ถึง ประจวบคีรีขันธ์ เพื่อสูบน้ำออกไปข้างนอก จึงจะสามารถป้องกันไม่ให้น้ำทะเ<WBR>ลทะลักเข้ามา

    ทั้งนี้ เป็นเรื่องที่รัฐบาลจะต้องให้คว<WBR>ามสำคัญและเร่งศึกษาโดยเร็ว หากไม่ดำเนินการ น้ำเค็มจะเริ่มเข้ามาในพื้นที่ กทม. และเมื่อน้ำเค็มเข้าสู่ระบบประป<WBR>า ประชาชนจำนวนมาก จะได้รับความเดือดร้อน

    "รัฐบาลต้องรีบดำเนินการว่าจะเก<WBR>็บรักษาจังหวัดทางภาคกลางไว้ หรือจะย้ายเมืองหลวงไปที่อื่น หากไม่ย้ายก็ต้องสร้างเขื่อนในอ<WBR>่าวไทย เพื่อป้องกันไม่ให้น้ำทะเลเข้าม<WBR>า เพราะน้ำทะเลจะสูงขึ้นเรื่อยๆ

    หากไม่รีบทำจังหวัดในภาคกลาง ทั้งกรุงเทพฯ และโบราณสถานสำคัญใน จ.อยุธยา จะจมอยู่ใต้น้ำทะเลทั้งหมด

    วันนี้ รัฐบาลควรรีบตัดสินใจ ไม่อย่างนั้นจะไม่ทันการณ์ และการที่จะย้ายรัฐสภาไปอยู่ที่<WBR>เกียกกายก็ไม่ดี เพราะจะไม่เกิดผลอะไร ควรย้ายไปในที่ๆ เมืองหลวงใหม่จะไปอยู่"
    ดร.อาจอง กล่าว

    นายพิจิตต รัตตกุล ผู้อำนวยการศูนย์ป้องกันภัยพิบั<WBR>ติแห่งเอเชีย (Asian Disaster Preparedness Center-ADPC) กล่าวว่า ภัยธรรมชาติที่อาจจะเกิดขึ้นในพ<WBR>ื้นที่ กทม.นั้น ตามรายงานการติดตามของศูนย์เอดี<WBR>พีซี.พบว่า จะมี 2 อย่าง ที่จะเกิดขึ้นได้ คือ

    ปริมาณน้ำทะเล และน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาเอ่อล้น<WBR>เข้าท่วมพื้นดิน ได้นานกว่าปกติ ตลอดจนกระแสลมที่มีความรุนแรงมา<WBR>กขึ้น ซึ่งพื้นที่ กทม.นั้น ถือว่าเป็นพื้นที่ต่ำ

    และขณะนี้พบว่า ระดับความสูงของพื้นดินนั้นสูงเ<WBR>พียง 40 เซนติเมตร จากระดับน้ำทะเลปานกลาง ซึ่งจะทำให้เกิดปรากฎการณ์น้ำทะ<WBR>เลหนุนสูง น้ำในแม่น้ำเจ้าพระยา หรือ คลองเอ่อล้น เข้าท่วมพื้นที่ได้มากยิ่งขึ้น

    แม้ว่า กทม.จะมีระบบระบายน้ำ ระบบแก้ปัญหาที่รองรับ แต่ก็จะไม่สามารถแก้ไขสถานการณ์<WBR>ดังกล่าวได้อย่างมีประสิทธิภาพ

    ที่ผ่านมา มีสัญญาณเตือนแล้วคือ แผ่นดิน กทม.ในเขตบางขุนเทียนถูกกระแสลม<WBR> และคลื่นซัดแผ่นดินหายไป

    ซึ่งตามรายงานพบว่า ระยะเวลา 1 ปี พื้นดินเขตบางขุนเทียนถูกกระแสล<WBR>ม และถูกคลื่นกัดเซาะหายไปประมาณ 6-7 เมตรแล้ว

    วิธีที่ตนเคยเสนอคือ การสร้างเขื่อน สร้างคันกั้นน้ำในพื้นที่เสี่ยง<WBR>ของ กทม. และจังหวัดรอบข้างยังถือว่าเป็น<WBR>วิธีแก้ไขเฉพาะหน้าที่หน่วยงานท<WBR>ี่เกี่ยวข้องต้องเร่งทำ
     
  11. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>ปากีสถาน เผชิญเคราะห์ต่อเนื่องน้ำท่วมหนักลามไปอีก 2 เมือง</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=center align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=center align=left>31 สิงหาคม 2553 17:31 น.</TD></TR></TBODY></TABLE>
    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    </TD></TR></TBODY></TABLE>เอเอฟพี - ปากีสถานเผชิญน้ำท่วมต่อเนื่อง ล่าสุด วันนี้ (31) กระแสน้ำได้พัดไปยังเมืองเล็กๆ ทางตอนใต้ของประเทศอีก 2 เมือง ขณะที่ทางการพยายามอุดรอยแตกร้าวของเขื่อนกั้นแม่น้ำสินธุ เพื่อป้องกันน้ำท่วมเมืองธัตตาที่อยู่ใกล้เคียง

    ฮาดี บากช์ กัลโฮโร เจ้าหน้าที่อาวุโสของเมืองธัตตา เผยว่า ทั้งทหาร และคนงานได้ช่วยกันซ่อมแซมเขื่อนกั้นที่ถูกน้ำในแม่น้ำสินธุซัดทำลายเสร็จสิ้น และป้องกันน้ำท่วมเมือง ซึ่งประชากรราว 300,000 คนได้หนีอุทกภัยไปก่อนล่วงหน้า ได้สำเร็จ

    อย่างไรก็ตาม เขาชี้ว่า กระแสน้ำเชี่ยวกราก ที่ทำให้เมืองสุชาวัลจมลงใต้น้ำไปแล้วในวันอาทิตย์ (29) ที่ผ่านมานั้น กำลังจะท่วมเมืองจาตี และ ชูฮาร์ จามาลี ซึ่งเจ้าหน้าที่ประกาศเตือนให้ชาวบ้านโดยรวมกว่า 100,000 คน อพยพไปก่อนแล้วเช่นกัน

    กัลโฮโร เสริมว่า ชาวบ้านส่วนใหญ่ได้เดินทางกลับเมืองธัตตา ซึ่งอยู่ทางตะวันตกของแม่น้ำสินธุแล้ว แต่ในเมืองสุชาวัลนั้นว่างเปล่า เนื่องจากน้ำได้ท่วมถนนหนทางหมด ทหารต้องลงเรือยางเพื่อช่วยประชาชนที่ยังหลงเหลืออยู่

    ด้าน จามิล สุมโร โฆษกรัฐบาลสินธุ์ ระบุว่า ในจังหวัดสินธุ์พบผู้เสียชีวิตแล้ว 147 ราย ส่วนใหญ่ล้มป่วยตายด้วยโรคที่มากับภัยน้ำท่วม และส่วนใหญ่ก็เป็นผู้หญิง และเด็ก

    ฝนที่ตกลงมาอย่างหนักจากอิทธิพลลมมรสุมได้เคลื่อนตัวจากทางเหนือของประเทศลงไปทางใต้ในช่วงเดือนที่ผ่านมา ทำให้พื้นที่ 1 ใน 5 ของประเทศ และประชากร 17 ล้านคน ได้รับผลกระทบ โดยเฉพาะในจังหวัดสินธุ์ ซึ่่งน้ำท่วมไปถึง 19 จาก 23 ตำบล

    ทั้งนี้ รัฐบาลปากีสถาน ยืนยันว่า เหตุน้ำท่วมครั้งร้ายแรงที่สุดในประวัติศาสตร์นี้ทำให้มีผู้เสียชีวิตแล้ว 1,645 คน บาดเจ็บ 2,479 คน และอีกหลายล้านคนต้องประสบภาวะขาดแคลนอาหาร และเผชิญโรคติดต่อ

    ด้าน ยูเอ็น เตือนว่า ยังมีประชาชนอีกราว 800,000 คนทั่วประเทศ ที่จำเป็นต้องได้รับความช่วยเหลือ แต่ถูกตัดขาดจากโลกภายนอก เนื่องจากน้ำท่วมหนัก พร้อมกับเรียกร้องให้มีการส่งเฮลิคอปเตอร์จัดส่งเสบียงทางอากาศเพิ่มขึ้นด้วย

    ที่มา http://www.manager.co.th/Around/ViewNews.aspx?NewsID=9530000121807
    </TD></TR></TBODY></TABLE>
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  12. Lazaza

    Lazaza เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    991
    ค่าพลัง:
    +5,549
    ======================================


    31 ส.ค. 53

    การอยู่รอด

    มีหลายคนกำลังมองหาซื้อพื้นที่ในที่ราบสูง ผมขอแนะนำว่าให้ซื้อใกล้กับวัดที่
    มีรอยพระพุทธบาทโดยเฉพาะทางภาคอีสานจะปลอดภัยกว่าทางเหนือ เมื่อเกิด
    เหตุการณ์จะได้โยกย้ายคนเข้าขออาศัยได้ทันท่วงที

    ส่วนผู้ที่จะไปอาศัยอยู่ในพื้นที่ต่างๆที่ตัวเองคิดว่าปลอดภัยพอ ก็ให้เข้าช่วย
    เหลือตระเตรียมสิ่งจำเป็นต่างๆที่ต้องใช้ในช่วงที่เกิดภัย เตรียมพร้อมมาก
    เท่าใดความทุกข์ก็น้อยเท่านั้น

    ข้อสำคัญที่สุดคือความดีที่ได้สะสมมาต้องพอ การเสียสละต้องสูง ภัยครั้งนี้
    ต้องเดิมพันด้วยชีวิต การคิดช่วยเหลือและคิดเผื่อแผ่ผู้อื่นเป็นสิ่งจำเป็นที่ผู้คิด
    จะหนีภัยต้องมี

    สำหรับผู้ที่กำลังหาที่หลบภัยอยู่ เห็นว่าที่ใดเหมาะสมกับตัวเองและครอบครัว
    ก็เข้าไปติดต่อช่วยเหลือการเตรียมการอย่างเต็มกำลัง ไกลใกล้ไม่ใช่ปัญหา
    เพราะผู้นำจะเป็นผู้เตือนเรื่องเวลาของการหลบหนีให้ทราบล่วงหน้า


    องค์อินทร์ - ๙๗
    ทำการแทน


    -----------------------------------------------------------------------


    เมื่อคืนมีสัญญาณเข้ามาแต่อายังตีความหมายไม่ออกคือในนิมิต อาได้เชิญ
    เศียรพ่อใหญ่ของหน่วยเหนือมาในราคาเจ็ดร้อยบาท จากนั้นเศียรก็ค่อยๆ
    เปลี่ยนสภาพเป็นตรีมูรติ(มหาเทพทั้งสาม) ภาพได้ตัดไปยังแม่น้ำใหญ่ อาเห็น
    ผู้ชายอายุกลางคนพายเรือเข้าหาฝั่งในระยะไกล เขาพายเรือลับตาไปแล้ว สัก
    พักก็มีมหาเทพหนุ่มมากเปลือยกายท่อนบนถือตรีศูรย์เดินเข้ามาหาอา
    สัญญาณนี้คงเกี่ยวกับเรื่องภัยพิบัติ(สังเกตุจากราคาเจ็ดร้อยบาท) หรือว่าน้ำ
    กำลังเดินทางเข้าหาฝั่ง

    เหลืออีกไม่ถึงสองเดือนก็เข้าเทศกาลทอดกฐินอีกแล้ว ปีนี้ที่วัดพระพุทธบาท
    ภูควายเงินคงจะจัดทอดช่วงวันปิยะเช่นเคย หมายกำหนดการยังไม่รู้แน่ชัด อา
    ก็ขอเชิญชวนหลานๆถ้ามีเวลาก็ไปร่วมทำบุญทอดกฐินด้วยกันพร้อมทั้งไปดู
    สถานที่ฐานผาแบ่นด้วยกัน แนวร่วมทุกรายควรจะเดินทางสำรวจเส้นทางการ
    หลบหนีเสียแต่เนิ่นๆ สักครั้งไปถึงฐานผาแบ่น

    อาเค


    องค์อินทร์ ๙๗
    ทำการแทน



    ======================================
    ภาพฐานผาแบ่นบางส่วนค่ะ
    ภาพความคืบหน้าฐานผาแบ่น
    ที่มา นาม "องค์อินทร์ ๙๗"







    ---------------------------------------------------------------------
    หลงทางเสียเวลา แต่ไหนแต่ไรมา พระพุทธเจ้าท่านสอนแต่เรื่องทุกข์ และการพ้นทุกข์เท่านั้น
     
  13. Kongp

    Kongp เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    1,696
    ค่าพลัง:
    +3,909
    เตรียมไว้เหมือนกันครับ เป็นที่สูง ติดแม่น้ำด้วยครับ แต่น้ำท่วมไม่ถึง จะไปท่วมอีกฝั่งแทนมากกว่า มีบ้าน มีโรงประปา พร้อม สูบน้ำจากแม่น้ำ ผ่านเครื่องกรองชั้นหิน และทราย เบ็ดเสร็จ มีถังน้ำ เรียบร้อย จุน้ำไว้ใช้ได้แน่นอน ครับ

    พื้นที่ใช้สอย สามารถทำเศรษฐกิจพอเพียงได้สบายครับ

    อยู่ใกล้รอยพระพุทธบาท เช่นเดียวกันครับ

     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 1 กันยายน 2010
  14. วรเดช

    วรเดช เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    1,753
    ค่าพลัง:
    +6,146
    <TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 bgColor=#e2e2e2 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ecfae0>เหนือ-อีสานระวังน้ำท่วม-กทม.มีฝนบางแห่ง</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ffffff><TABLE class=A14 border=0 cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" align=center><TBODY><TR bgColor=#cccccc><TD vAlign=center> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top>จากอิทธิพลร่องมรสุมกำลังปานกลางพาดผ่านภาคเหนือและอีสานตอนบน มรสุมตะวันตกเฉียงใต้พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย ทำให้มีฝนตกชุกหนาแน่นอาจมีน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง ส่วนผู้ที่เดินทางไปจีนให้ระวังพายุ "ไลออนร็อก" และ "น้ำเทิน"...


    กรมอุตุนิยมวิทยา รายงานพยากรณ์อากาศประจำวันที่ 1 ก.ย.2553 ลักษณะอากาศทั่วไปเมื่อเวลา 04:00 น.

    ร่องมรสุมกำลังปานกลางพาดผ่านภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย ทำให้บริเวณประเทศไทยมีฝนตกชุกหนาแน่นและมีฝนตกหนักบางแห่ง จึงขอให้ประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัยตามที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านโดย เฉพาะในภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ยังต้องระวังอันตรายจากสภาวะน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง ที่เกิดขึ้นได้ในระยะนี้

    อนึ่ง สำหรับผู้ที่จะเดินทางไปประเทศจีนด้านตะวันออก ฮ่องกง และ ไต้หวัน ควรตรวจสอบสภาพอากาศก่อนออกเดินทางเนื่องจากมีพายุโซนร้อน“ไลออนร็อก“ (LIONROCK) และพายุดีเปรสชัน “น้ำเทิน” (NAMTHEUN) อยู่ใกล้บริเวณดังกล่าว

    พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทยตั้งแต่เวลา 06:00 วันนี้ ถึง 06:00 วันพรุ่งนี้.


    กรุงเทพมหานครและปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 25 องศา สูงสุด 34 องศา ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.


    ภาคเหนือ มีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไป ร้อยละ 70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่งบริเวณจังหวัดเชียงราย เชียงใหม่ พะเยา น่าน ลำปาง แพร่ อุตรดิตถ์ ตาก กำแพงเพชร พิษณุโลก และเพชรบูรณ์ อุณหภูมิต่ำสุด 22 องศา สูงสุด 32 องศา ลมแปรปรวน ความเร็ว 10-30 กม./ชม.

    ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไป ร้อยละ 70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่งบริเวณจังหวัดเลย หนองคาย หนองบัวลำภู อุดรธานี สกลนคร นครพนม มุกดาหาร อำนาจเจริญ สุรินทร์ ศรีสะเกษ และอุบลราชธานี อุณหภูมิต่ำสุด 23 องศา สูงสุด 33 องศา ลมแปรปรวน ความเร็ว 10-30 กม./ชม.

    ภาคกลาง มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนมากบริเวณจังหวัดนครสวรรค์ อุทัยธานี ลพบุรี และกาญจนบุรี อุณหภูมิต่ำสุด 24 องศา สูงสุด 33 องศา ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.

    ภาคตะวันออก มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง บริเวณจังหวัดนครนายก ระยอง จันทบุรี และตราด อุณหภูมิต่ำสุด 23 องศา สูงสุด 34 องศา ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-35 กม./ชม.ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร

    ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก) มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 60 ของพื้นที่ส่วนมากบริเวณจังหวัดเพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง และสงขลา อุณหภูมิต่ำสุด 24 องศา สูงสุด 34 องศา ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.ทะเลมีคลื่นสูง ประมาณ 1 เมตร

    ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก) มีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไป ร้อยละ 70 ของพื้นที่และมีฝนตกหนักบางแห่งบริเวณจังหวัดระนอง ตรัง และสตูล อุณหภูมิต่ำสุด 23 องศา สูงสุด 32 องศาลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร ส่วนบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองมีคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร


    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ
    [​IMG]</CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 bgColor=#e2e2e2 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ecfae0>ยุ่นร้อนสถิติ64ปี รัสเซียระอุดับอื้อ</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ffffff><TABLE class=A14 border=0 cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" align=center><TBODY><TR bgColor=#cccccc><TD vAlign=center> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top>เมื่อ 30 ส.ค. เอเอฟพีรายงานว่า ข้อมูลจากสำนักงานอุตุนิยมวิทยาญี่ปุ่นบ่งชี้ว่า

    เดือน ส.ค.ที่ผ่านมา เป็นเดือนสิงหาคมที่มีอุณหภูมิสูงที่สุดนับตั้งแต่เริ่มเก็บสถิติหลังสิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่สอง ในปี 2489 หรือช่วง 64 ปี โดยส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากสภาวะอากาศโลกแปรปรวน หรือวิกฤตโลกร้อน เกิด จากความกดอากาศสูงในมหาสมุทรแปซิฟิก และทวีปเอเชีย มีผู้เสียชีวิต 132 ราย และเข้ารับการรักษาตัวกว่า 30,000 คน ด้วยอาการภาวะลมแดด มีทั้งล้มฟุบลงหรือไข้ที่เกิดจากการถูกความร้อนนานเกินไป จากอุณหภูมิที่พุ่งสูงกว่า 37 องศาเซลเซียส

    ด้านกระทรวงสาธารณสุขของรัสเซีย เปิดเผยเป็นครั้งแรกว่า อัตราการเสียชีวิตของชาวรัสเซียในกรุงมอสโกเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 50

    เป็น ผลมาจากคลื่นความร้อนที่รุนแรงที่สุดของรัสเซียในเดือนก.ค.ที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม ทาง การรัสเซียยังคงไม่ยินยอมที่จะเปิดเผยจำนวนผู้เสียชีวิตที่แน่นอน แม้จะยอมแย้มตัวเลขคร่าวๆ ออกมาว่า มีผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นหลายร้อย รายในแต่ละวันในกรุงมอสโก

    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์ข่าวสด
    [​IMG]</CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 bgColor=#e2e2e2 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ecfae0>เตือน'กันยาสยอง'กรุงเทพฯ อัมพาตหนัก น้ำทุกทิศไหลสกรัม</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ffffff><TABLE class=A14 border=0 cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" align=center><TBODY><TR bgColor=#cccccc><TD vAlign=center> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top>คนกรุงสยอง 2 เดือนทิ้งทวนฤดูฝนเต็มรูปแบบ นักวิชาการดัง เตือน ก.ย.สุดอันตรายทั้งเขื่อนใหญ่ปล่อยน้ำ น้ำป่ารุนแรง น้ำทะเลหนุนหนัก เร่งภาครัฐรับมือ...

    นายอังสุมาล ศุนาลัย อธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา กล่าวผ่าน"ไทยรัฐออนไลน์"

    ถึงสถานการณ์อากาศปัจจุบันว่า แม้ที่ผ่านมาถือว่าไม่น่าเป็นห่วงมาก เนื่องจากเป็นช่วงที่ฤดูฝนพักยก หลังจากที่ตกหนักติดต่อมาหลายวัน แต่นับจากเดือนกันยายนเป็นต้นไป จะเข้าฤดูฝนตกหนักเต็มรูปแบบทั่วทุกพื้นที่ โดยเฉพาะกรุงเทพฯ

    “สาเหตุที่ระยะนี้ฝนไม่ค่อยตกตามเวลาเหมือนเดิมมาจากอิทธิพลของร่องความกดอากาศ ที่อ่อนกำลัง และจะลงมาใหม่อีก 3-4 วัน ส่วนเรื่องพายุที่บอกว่า จะเข้ามาในประเทศไทยหลายลูกนั้น ถือว่าโชคดีมาก ที่พายุหลายลูกพัดเข้าไปจีน และญี่ปุ่นกันหมด อย่างไรก็ดีสิ่งที่ต้องเฝ้าระวังมากในระยะเวลาอันใกล้ คือ ปริมาณน้ำสะสมตามเขื่อนต่างๆ เช่น เขื่อนจากภาคเหนือ และภาคอีสาน และหากฝนยังตกหนักแบบนี้ กลางเดือนหน้ากรุงเทพฯ จะวิกฤตมากๆ เนื่องจากเขื่อนต่างๆ จะปล่อยน้ำที่เต็มเขื่อนออกมา ถึงเวลานั้น สิ่งที่น่าเป็นห่วงไม่แพ้กันก็คือ เวลาน้ำมากๆ พอเข้าฤดูหนาวภาคเหนือ-อีสานจะหนาวหนักขึ้นไปอีก จึงอยากจะให้ประชาชนเตรียมตัวรับมือกับสถานการณ์เช่นนี้ตั้งแต่เนิ่นๆ”

    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>ด้าน ดร.สมิทธ ธรรมสโรช ประธานกรรมการมูลนิธิเตือนภัยพิบัติแห่งชาติ

    อธิบายถึงอิทธิพลของพายุเฮอร์ริเคน “เอิร์ล” ระดับ 4 (กว่า 200 กิโลเมตรต่อชั่วโมง) ซึ่งรุนแรงมากๆ ที่กำลังพัดถล่มหลายประเทศแถบทะเลแคริบเบียนอยู่ขณะนี้ว่า ประเทศไทยจะไม่ได้รับผลกระทบ แต่สิ่งที่คนไทยต้องตระหนักเดือนหน้าไทยจะได้รับอิทธิพลจากพายุโซนร้อนที่ เพิ่งเข้าเกาะไต้หวัน และประเทศจีน 2 ลูก ส่งผลให้ลมตะวันตกเฉียงใต้รุนแรงมากขึ้นแล้วก็พาฝนเข้ามาประเทศไทยมากมาย

    “ตอนนี้ภัยแล้งได้หมดไปจากประเทศไทย แต่กลายสภาพมาเป็น “ลานิญ่า” จากน้ำท่วมแทน เนื่องจากสถานการณ์ปริมาณน้ำมาก ซึ่งจากข้อมูลที่เกาะติดพบว่าเดือนกันยายนน้ำจะเยอะมากๆ ในภาคกลาง แต่สิ่งที่ผมเป็นห่วงมากๆ ก็คือปริมาณน้ำใน “เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์” จังหวัดลพบุรี ซึ่งก็มีปริมาณน้ำก็เริ่มเต็มที่และจะต้องปล่อยน้ำออกมา ดังนั้นน้ำจะท่วมเต็มกรุงเทพฯ โดยเฉพาะในช่วงเดือนพฤศจิกายน-ธันวาคมน้ำทะเลก็หนุน น้ำป่าไหลหลากซ้ำแถมน้ำเหนือวิ่งมา จาก จ.พิจิตร จ.พิษณุโลก จ.สุโขทัย เข้ามาที่ จ.ชัยนาท จะมาท่วมสะสมที่ จ.นครสวรรค์ หลังจากนั้นก็จะวิ่งเข้ากรุงเทพฯปลายๆ เดือนกันยายนพร้อมกัน”

    ทั้งนี้ บริเวณที่เป็นพื้นที่วิกฤตมากที่สุดนั้นคือ จังหวัดสมุทรปราการ จังหวัดสมุทรสาคร จังหวัดสมุทรสงคราม และกรุงเทพฯ

    “ด้วยสถานการณ์น้ำไหลมาร่วมกันมากมายเช่นนี้ผมเชื่อว่ามันจะทำให้กรุงเทพฯเป็นอัมพาตจากน้ำท่วมขังได้ จึงประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนอยู่ในที่ราบรับมือด้วย” ประธานกรรมการมูลนิธิเตือนภัยพิบัติแห่งชาติ กล่าวในที่สุด


    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ
    [​IMG]</CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  15. วรเดช

    วรเดช เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    1,753
    ค่าพลัง:
    +6,146
    <TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 bgColor=#e2e2e2 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ecfae0>สื่ออิหร่านแรงด่าสตรีหมายเลข1ฝรั่งเศสเป็น"โสเภณี" หลังออกมาต้านประหารชีวิตผู้หญิงด้วยก้อนหิน</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ffffff><TABLE class=A14 border=0 cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" align=center><TBODY><TR bgColor=#cccccc><TD vAlign=center> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top>[FONT=Tahoma, 'Ms Sans Serif', Helvetica, sans-serif]หนังสือพิมพ์อิหร่านออกมาขนานนาม "นางคาร์ล่า บรูนี่" สตรีหมายเลข 1 ของประเทศฝรั่งเศส ว่าเป็น "โสเภณี" หลังนางบรูนี่ออกมาโจมตีทางการอิหร่าน ที่จะลงโทษประหารชีวิตผู้หญิงรายหนึ่งด้วยการปาก้อนหินใส่

    โดยบรูนี่ได้ร่วมรณรงค์เพื่อเรียกร้องให้มีการไว้ชีวิตนางซากิเนห์ โมฮัมมาดี แอชเทียนี่ สตรีชาวอิหร่าน ซึ่งเป็นแม่ลูกสองวัย 43 ปี ที่ถูกเจ้าหน้าที่รัฐกล่าวโทษว่าคดโกงสามีของตนเอง และมีส่วนร่วมกับการสังหารชีวิตเขาในเวลาต่อมา

    ทางการฝรั่งเศสได้ออกมากระตุ้นให้สหภาพยุโรปเพิ่มมาตรการกดดันประเทศอิหร่าน ภายหลังเกิดกรณีดังกล่าว ขณะที่ประชากรในหลายเมืองได้ร่วมกันเดินขบวนเพื่อเรียกร้องให้มีการไว้ชีวิตนางแอชเทียนี่ โดยมีประธานาธิบดีนิโกลาส์ ซาร์โกซี และนางบรูนี่ ให้การสนับสนุนอย่างแข็งขัน

    สตรีหมายเลข 1 ของฝรั่งเศสได้เขียนจดหมายเปิดผนึกไปยังสตรีชาวอิหร่านผู้กำลังจะถูกลงโทษประหารชีวิตด้วยการปาก้อนหินใส่ โดยส่วนหนึ่งของจดหมายฉบับดังกล่าวมีข้อความว่า

    "ทำไมเธอต้องหลั่งเลือด และลูกๆ ของเธอต้องพลัดพรากจากแม่ของพวกเขา"

    "ก็เพราะเธอมีชีวิต เพราะเธอมีความรัก เพราะเธอเป็นผู้หญิง และเพราะเธอเป็นชาวอิหร่าน? ซึ่งฉันขอปฏิเสธที่จะยอมรับเงื่อนไขเหล่านั้นอันทำให้เธอต้องถูกลงโทษ"

    หลังการเคลื่อนไหวดังกล่าว บทบรรณาธิการหนังสือพิมพ์เคย์ฮานของรัฐบาลอิหร่านได้แสดงจุดยืนต่อต้านนางบรูนี่ โดยให้ชื่อบทบรรณาธิการชิ้นนั้นว่า "โสเภณีชาวฝรั่งเศสผู้เข้าร่วมขบวนการเคลื่อนไหวทางสิทธิมนุษยชน" และเขียนกล่าวโทษสตรีหมายเลข 1 ของฝรั่งเศส ว่าเป็นเพียงสตรีในแวดวงสังคมชั้นสูงผู้มีความเสแสร้ง

    ทางด้านสถานีโทรทัศน์ของรัฐบาลอิหร่านก็ได้กล่าววิจารณ์นางบรูนี่ว่า เธอพยายามเคลื่อนไหวรณรงค์ทางสิทธิมนุษยชนเพื่อสร้างความชอบธรรมให้แก่วิถีปฏิบัติอันผิดทำนองคลองธรรมของตนเอง[/FONT]

    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์มติชน
    [​IMG]</CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
    [​IMG]
    ผู้เชี่ยวชาญ เชื่อ ยานวอยเอเจอร์-2 ถูกมนุษย์ต่างดาวยึดไปแล้ว
    หลังจากที่รัฐบาล สหรัฐฯ โดยองค์การนาซา ปล่อยยานวอยเอเจอร์-2 (voyager-2) ขึ้นสู่อวกาศตั้งแต่วันที่ 20 ส.ค. 1977 เพื่อสำรวจดาวพฤหัส ดาวเสาร์ ดาวยูเรนัส และดาวเนปจูน รวมถึงค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับความเป็นไปได้ในการมีสิ่งมีชีวิตนอกโลกนั้น
    ล่าสุด (31.สค.) สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า ยานดังกล่าวมีการส่งสัญญาณประหลาดที่ไม่สามารถตีความได้กลับมายังโลก ซึ่ง ฮาร์ทวิจ เฮาส์ดอร์ฟ ผู้เชี่ยวชาญด้านการค้นคว้าเกี่ยวกับมนุษย์ต่างดาวชื่อดัง ชาวเยอรมนีคาดว่าขณะนี้ ยาน วอยเอเจอร์ -2 ถูกมนุษย์ต่างดาวยึดไปแล้ว
    สอดคล้องกับคำกล่าวของเฮาส์ ดอร์ฟ วัย 54 ปี เจ้าของผลงานเขียนเรื่อง “UFOs – They Are Still Flying” ที่ระบุว่า ยานดังกล่าวเริ่มส่งสัญญาบางอย่างที่ผิดแปลกไปจากเดิมกลับมายังโลกนับตั้งแต่ช่วงปลาย เดือน เม.ย.ที่ผ่านมา แม้แต่ผู้เชี่ยวชาญขององค์การบริหารการบินและอวกาศแห่งชาติ ของสหรัฐฯ หรือนาซาก็ยังไม่สามารถถอดรหัสได้
    อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีการแถลงอย่างเป็นทางการเกี่ยวกับสัญญาณประหลาดดังกล่าวจากองค์การนาซา หรือแม้แหล่งข่าวในรัฐบาลสหรัฐฯ ซึ่งไม่เปิดเผยชื่อจะออกมาระบุว่าสัญญาณประหลาดดังกล่าวเกิดขึ้นเพราะความ ผิดพลาดทางเทคนิคและไม่มีความเกี่ยวข้องใดๆกับสิ่งมีชีวิตนอกโลกก็ตาม แต่สัญญาณดังกล่าวก็ถือว่าเป็นข้อสันนิษฐานหนึ่ง
    เรียบเรียงข่าวโดย Mthai news
    <LI class=news_src_item>[​IMG]
     
  16. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    เตือน'กันยาสยอง'กรุงเทพฯ อัมพาตหนัก น้ำทุกทิศไหลสกรัม

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    คนกรุงสยอง 2 เดือนทิ้งทวนฤดูฝนเต็มรูปแบบ นักวิชาการดัง เตือน ก.ย.สุดอันตรายทั้งเขื่อนใหญ่ปล่อยน้ำ น้ำป่ารุนแรง น้ำทะเลหนุนหนัก เร่งภาครัฐรับมือ...

    นายอังสุมาล ศุนาลัย อธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา กล่าวผ่าน"ไทยรัฐออนไลน์"ถึงสถานการณ์อากาศปัจจุบันว่า แม้ที่ผ่านมาถือว่าไม่น่าเป็นห่วงมาก เนื่องจากเป็นช่วงที่ฤดูฝนพักยก หลังจากที่ตกหนักติดต่อมาหลายวัน แต่นับจากเดือนกันยายนเป็นต้นไป จะเข้าฤดูฝนตกหนักเต็มรูปแบบทั่วทุกพื้นที่ โดยเฉพาะกรุงเทพฯ

    “สาเหตุที่ระยะนี้ฝนไม่ค่อยตกตามเวลาเหมือนเดิม มาจากอิทธิพลของร่องความกดอากาศที่อ่อนกำลัง และจะลงมาใหม่อีก 3-4 วัน ส่วนเรื่องพายุที่บอกว่า จะเข้ามาในประเทศไทยหลายลูกนั้น ถือว่าโชคดีมาก ที่พายุหลายลูกพัดเข้าไปจีน และญี่ปุ่นกันหมด อย่างไรก็ดีสิ่งที่ต้องเฝ้าระวังมากในระยะเวลาอันใกล้ คือ ปริมาณน้ำสะสมตามเขื่อนต่างๆ เช่น เขื่อนจากภาคเหนือ และภาคอีสาน และหากฝนยังตกหนักแบบนี้ กลางเดือนหน้ากรุงเทพฯ จะวิกฤตมากๆ เนื่องจากเขื่อนต่างๆ จะปล่อยน้ำที่เต็มเขื่อนออกมา ถึงเวลานั้น สิ่งที่น่าเป็นห่วงไม่แพ้กันก็คือ เวลาน้ำมากๆ พอเข้าฤดูหนาวภาคเหนือ-อีสานจะหนาวหนักขึ้นไปอีก จึงอยากจะให้ประชาชนเตรียมตัวรับมือกับสถานการณ์เช่นนี้ตั้งแต่เนิ่นๆ”

    ด้าน ดร.สมิทธ ธรรมสโรช ประธานกรรมการมูลนิธิเตือนภัยพิบัติแห่งชาติ อธิบายถึงอิทธิพลของพายุเฮอร์ริเคน “เอิร์ล” ระดับ 4 (กว่า 200 กิโลเมตรต่อชั่วโมง) ซึ่งรุนแรงมากๆ ที่กำลังพัดถล่มหลายประเทศแถบทะเลแคริบเบียนอยู่ขณะนี้ว่า ประเทศไทยจะไม่ได้รับผลกระทบ แต่สิ่งที่คนไทยต้องตระหนักเดือนหน้าไทยจะได้รับอิทธิพลจากพายุโซนร้อนที่ เพิ่งเข้าเกาะไต้หวัน และประเทศจีน 2 ลูก ส่งผลให้ลมตะวันตกเฉียงใต้รุนแรงมากขึ้นแล้วก็พาฝนเข้ามาประเทศไทยมากมาย

    “ตอนนี้ภัยแล้งได้หมดไปจากประเทศไทย แต่กลายสภาพมาเป็น “ลานิญ่า” จากน้ำท่วมแทน เนื่องจากสถานการณ์ปริมาณน้ำมาก ซึ่งจากข้อมูลที่เกาะติดพบว่าเดือนกันยายนน้ำจะเยอะมากๆ ในภาคกลาง แต่สิ่งที่ผมเป็นห่วงมากๆ ก็คือปริมาณน้ำใน “เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์” จังหวัดลพบุรี ซึ่งก็มีปริมาณน้ำก็เริ่มเต็มที่และจะต้องปล่อยน้ำออกมา ดังนั้นน้ำจะท่วมเต็มกรุงเทพฯ โดยเฉพาะในช่วงเดือนพฤศจิกายน-ธันวาคมน้ำทะเลก็หนุน น้ำป่าไหลหลากซ้ำแถมน้ำเหนือวิ่งมา จาก จ.พิจิตร จ.พิษณุโลก จ.สุโขทัย เข้ามาที่ จ.ชัยนาท จะมาท่วมสะสมที่ จ.นครสวรรค์ หลังจากนั้นก็จะวิ่งเข้ากรุงเทพฯปลายๆ เดือนกันยายนพร้อมกัน”

    ทั้งนี้ บริเวณที่เป็นพื้นที่วิกฤตมากที่สุดนั้นคือ จังหวัดสมุทรปราการ จังหวัดสมุทรสาคร จังหวัดสมุทรสงคราม และกรุงเทพฯ

    “ด้วยสถานการณ์น้ำไหลมาร่วมกันมากมายเช่นนี้ผมเชื่อว่ามันจะทำให้กรุงเทพฯเป็นอัมพาตจากน้ำท่วมขังได้ จึงประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนอยู่ในที่ราบรับมือด้วย” ประธานกรรมการมูลนิธิเตือนภัยพิบัติแห่งชาติ กล่าวในที่สุด

    ไทยรัฐออนไลน์ วันพุธที่ 1 กันยายน พ.ศ.2553

    ที่มาข่าวไทยรัฐออนไลน์
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 1.jpg
      1.jpg
      ขนาดไฟล์:
      48.1 KB
      เปิดดู:
      1,521
    • 2.jpg
      2.jpg
      ขนาดไฟล์:
      35.5 KB
      เปิดดู:
      1,506
    • 3.jpg
      3.jpg
      ขนาดไฟล์:
      54 KB
      เปิดดู:
      1,534
    • 4.jpg
      4.jpg
      ขนาดไฟล์:
      47.4 KB
      เปิดดู:
      1,500
    • 5.jpg
      5.jpg
      ขนาดไฟล์:
      42 KB
      เปิดดู:
      1,537
  17. วรเดช

    วรเดช เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    1,753
    ค่าพลัง:
    +6,146
    กัมพูชา ปฏิเสธเงินสนับสนุนสร้างถนนจากไทย 41,200,000 ดอลลาร์สหรัฐ ยืนยันไม่เคยร้องขอสินเชื่อนี้จากไทย


    <!--<iframe scrolling="no" src="fullURLmain/include/adsense/indetail.php" frameborder="0" height="266" width="250"></iframe>--><SCRIPT type=text/javascript> google_ad_channel = '8724309246'; //slot number google_ad_type = 'text'; //media image, text, html, flash google_max_num_ads = '3'; //amount Ads //google_image_size = '338X280'; //google_skip = '3'; var ads_ID = 'Google-adsense-indetail'; // set ID for main Element div var displayBorderTop = false; // default = false; //var displayLandScape = true; // false=Default, true=landscape *** if set Landscape not arrow ad type image var position_ad_detail ='in'; // ''=Default, in=Intext, under=TextUnderDetail </SCRIPT><SCRIPT type=text/javascript src="http://www.bangkokbiznews.com/home/main/js/adsense/AdsenseJS.js"></SCRIPT><SCRIPT type=text/javascript src="http://pagead2.googlesyndication.com/pagead/show_ads.js"></SCRIPT><SCRIPT src="http://googleads.g.doubleclick.net/pagead/test_domain.js"></SCRIPT><SCRIPT src="http://pagead2.googlesyndication.com/pagead/render_ads.js"></SCRIPT><SCRIPT>google_protectAndRun("render_ads.js::google_render_ad", google_handleError, google_render_ad);</SCRIPT><SCRIPT language=JavaScript1.1 src="http://googleads.g.doubleclick.net/pagead/ads?client=ca-pub-1044823792492543&output=js&lmt=1283307306&num_ads=3&channel=8724309246&ad_type=text&adtest=off&ea=0&feedback_link=on&flash=10.0.22.87&url=http%3A%2F%2Fwww.bangkokbiznews.com%2Fhome%2Fdetail%2Fpolitics%2Fpolitics%2F20100901%2F350771%2F%E0%B9%80%E0%B8%98%C2%81%E0%B9%80%E0%B8%98%E0%B8%91%E0%B9%80%E0%B8%98%E0%B8%81%E0%B9%80%E0%B8%98%C2%9E%E0%B9%80%E0%B8%98%E0%B8%99%E0%B9%80%E0%B8%98%C2%8A%E0%B9%80%E0%B8%98%E0%B8%92%E0%B9%80%E0%B8%98%C2%9B%E0%B9%80%E0%B8%98%C2%8F%E0%B9%80%E0%B8%98%E0%B8%94%E0%B9%80%E0%B8%99%E2%82%AC%E0%B9%80%E0%B8%98%E0%B8%8A%E0%B9%80%E0%B8%98%C2%98%E0%B9%80%E0%B8%99%E2%82%AC%E0%B9%80%E0%B8%98%C2%87%E0%B9%80%E0%B8%98%E0%B8%94%E0%B9%80%E0%B8%98%C2%99%E0%B9%80%E0%B8%98%C2%81%E0%B9%80%E0%B8%98%E0%B8%99%E0%B9%80%E0%B8%99%C2%89%E0%B9%80%E0%B8%98%C2%81%E0%B9%80%E0%B8%99%C2%88%E0%B9%80%E0%B8%98%E0%B8%8D%E0%B9%80%E0%B8%98%E0%B8%8A%E0%B9%80%E0%B8%98%E0%B8%83%E0%B9%80%E0%B8%99%C2%89%E0%B9%80%E0%B8%98%E0%B8%92%E0%B9%80%E0%B8%98%C2%87%E0%B9%80%E0%B8%98%E2%80%93%E0%B9%80%E0%B8%98%C2%99%E0%B9%80%E0%B8%98%C2%99%E0%B9%80%E0%B8%98%C2%88%E0%B9%80%E0%B8%98%E0%B8%92%E0%B9%80%E0%B8%98%C2%81%E0%B9%80%E0%B8%99%C2%84%E0%B9%80%E0%B8%98%E2%80%94%E0%B9%80%E0%B8%98%E0%B8%82.html&dt=1283307306421&shv=r20100818&jsv=r20100830&correlator=1283307306421&frm=0&adk=2393667399&ga_vid=648059181.1283307307&ga_sid=1283307307&ga_hid=1279743710&ga_fc=0&u_tz=420&u_his=1&u_java=1&u_h=864&u_w=1152&u_ah=838&u_aw=1152&u_cd=32&u_nplug=0&u_nmime=0&biw=772&bih=460&fu=0&ifi=1&dtd=141"></SCRIPT>
    นายกอย เกือง โฆษกกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวว่า กัมพูชาจะไม่รับเงินกู้ยืม 41,200,000 ดอลลาร์สหรัฐ จากไทย และโครงการสร้างถนนจะดำเนินไปอย่างเสรี ทั้งนี้กัมพูชาก็ไม่เคยร้องขอสินเชื่อนี้ และ ไม่ต้องการเงินนี้ด้วย แต่จะใช้งบประมาณของตนเองเพื่อสร้างถนน และ โครงการนี้จะดำเนินไปในทิศทางที่ดี

    ทั้งนี้ ความคิดเห็นของนายกอย เกือง ถือเป็นการพลิกคำพูดจากวันก่อนในการแสดงข้อคิดเห็นเกี่ยวกับเงินกู้จากไทย ที่เขากล่าวว่า "ยินดีต้อนรับเงินช่วยเหลือทุกรูปแบบโดยปราศจากเงื่อนไข" ซึ่งก่อนหน้านี้ ตามการรายงานของสื่อไทย อ้างคำกล่าวของ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง ที่กล่าวขึ้นเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ว่าจะมีการกลับมาพิจารณาการให้ความช่วยเหลือจากทางการไทยอีกครั้ง ในสัญญาเมื่อเดือนสิงหาคมปีที่ผ่านมาเกี่ยวกับการขยายทางหลวงสาย 68 เชื่อมต่อกับชายแดนไทยกับจังหวัดอุดรมีชัยของกัมพูชา ในขณะที่ความสัมพันธ์ทางการทูตเข้าสู่ภาวะปกติ
    ทั้งนี้เมื่อเดือน พฤศจิกายนที่ผ่านมา สมเด็จฮุน เซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ได้ประกาศยกเลิกเงินช่วยเหลือจากไทยทั้งหมด หลังเกิดความขัดแย้งทางการทูต หลังกัมพูชาแต่งตั้ง อดีตนายกรัฐมนตรีทักษิณ ชินวัตร เป็นที่ปรึกษาทางด้านเศรษฐกิจให้แก่รัฐบาลกัมพูชา ขณะที่ นายธานี ทองภักดี รองอธิบดีกรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ กล่าวว่า ตนนั้นไม่ทราบจุดยืนของกัมพูชาเกี่ยวกับเงินทุน แต่ประเทศไทยก็พร้อมที่จะส่งเสริมความร่วมมือทวิภาคีกับกัมพูชา

    ผู้นำคิวบา บอกเล่าถึง "ชีวิตหลังความตาย" และเรื่องราวมากมายที่ต้องค้นหา

    [FONT=ms sans-serif, Tahoma, DB ThaiTextFixed, Thonburi]<STYLE> P { margin: 0px; } </STYLE>
    ในบทสัมภาษณ์ชิ้นหนึ่ง นายฟิเดล คาสโตร ผู้นำคิวบา ได้บอกเล่าถึงรายละเอียดเกี่ยวกับเรื่องสุขภาพเมื่อ 4 ปีที่แล้ว หลังจากที่อาจเขาต้องเข้ารับการผ่าตัดครั้งใหญ่ ซึ่งนั่นอาจทำให้เขาต้องก้าวลงจากอำนาจ เขาไม่คิดว่าเขาจะยอมรับการผ่าตัดดังกล่าว และแม้ว่าตอนนี้มันจะทำให้เขาประสบปัญหาด้านการเดินบ้างก็ตาม

    "ผมอยู่ที่ประตูแห่งความตาย" เขากล่าวกับผู้อำนวยการหนังสือพิมพ์ ลา ยอร์นาดา ซึ่งเป็นหนังสือพิมพ์ของกลุ่มฝ่ายซ้ายในเม็กซิโก ซึ่งตีพิมพ์เมื่อวันจันทร์ (30 สค.) ที่ผ่านมา

    "ผมไม่มีความปรารถนาที่จะอยู่ หรือมีก็แทบน้อยมาก" เขากล่าว

    "ผมถามตัวเองหลายครั้ง ว่าหมอจะปล่อยให้ผมอยู่ในสภาพอย่างนี้หรือจะปล่อยให้ผมตาย"

    อย่างไรก็ตาม ผู้นำวัย 84 ปีรายนี้ ไม้ได้บอกรายละเอียดเกี่ยวกับความเจ็บป่วยของเขาว่ามาจากสาเหตุใด

    เมื่อวันที่ 31 กรกฎาคม 2006 สถานีโทรทัศน์ของรัฐบาลช่องหนึ่ง ได้อ่านจดหมายของนายคาสโตร ซึ่งมีใจความตอนหนึ่งว่า เขากำลังถ่ายโอนอำนาจให้กับน้องชายของเขา "ราอูล คาสโตร" และหลังจากนั้นเขาก็ไม่ได้ปรากฏตัวต่อหน้าสาธารณชนอีก จนกระทั่งมีข่าวลือว่าเขาเสียชีวิตไปแล้ว โดยหลังจากนั้น เขาก็เริ่มเขียนสุนทรพจน์เพื่อเผยแพร่ทางสื่อมวลชนของรัฐ และปรากฏตัวเป็นระยะๆ

    เมื่อเดือนที่ผ่านมา นายคาสโตร ได้ปรากฏตัวต่อหน้าสื่อมวลชนอีกครั้ง เพื่อกระตุ้นให้สหรัฐอเมริกาออกมาปกป้อง ในสิ่งที่เขาเห็นว่าเป็นสิ่งล่อแหลม ที่อาจก่อให้เกิดสงครามนิวเคลียร์กับประเทศอิหร่าน แม้ว่าเขาจะปรากฏตัวต่อหน้าสาธารณชนบ่อยครั้งขึ้นในช่วงหลัง แต่น้อยครั้งที่เขาจะยอมให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนนานาชาติ

    นายคาสโตรกล่าวว่า น้ำหนักตัวของเขาเคยลดลงต่ำสุดถึง 66 กิโลกรัม แต่ตอนนี้เพิ่มขึ้นเป็น 86 กก.แล้ว

    "ผมอยากจะบอกกับคุณว่า ตอนนี้คุณกำลังมองตาของคนที่เพิ่งกลับมาจากความตาย" เขากล่าว "เมื่อเช้านี้ ผมสามารถเดินด้วยตัวเองได้ถึง 600 ก้าว โดยไม่ใช้ไม้เท้า หรือมีคนช่วยพยุง"

    จากบทสัมภาษณ์พบว่า นายคาสโตร "บริโภค" หนังสือ และอ่านข่าวไม่ต่ำกว่า 300 เรื่องต่อวัน และเมื่อถามถึงสาเหตุ นายคาสโตร ตอบว่า เขาไม่อยากอยู่ว่างๆ

    โลกนี้อยู่ในสภาวะที่ "น่าสนใจ และอันตราย" ต่อชีวิตความเป็นอยู่ของคนในปัจจุบัน และเขาก็ยังคงอยากยึดติดอยู่กับสิ่งต่างๆที่กำลังจะเกิดขึ้น "ผมยังมีเรื่องต่างๆที่ต้องทำอีกมาก"
    [/FONT]
     
  18. Kongp

    Kongp เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    1,696
    ค่าพลัง:
    +3,909
    ผมชักจะหวั่นๆ ว่า ภัยก่อการร้ายจะเริ่มเข้ามาใน กทม. อีกครับ วันก่อนก็ที่ป้ายรถเมล์บิ๊กซี ราชดำริ แล้วก็คิงพาวเวอร์ เมื่อวานก็ NBT

    เดินทางไปไหนมาไหน คอยระวัง ไม่ประมาท ตามป้ายรถเมล์ แหล่งชุมชนแออัด ห้างสรรพสินค้า ด้วยครับ
     
  19. Falkman

    Falkman พลังจิตนานาชาติ ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    19,726
    ค่าพลัง:
    +77,791
    จับตาการ เรียงตัวของดาวเคราะห์ช่วงวันที่ 8-11 กันยายน คศ 2010 - Update 31 สิงหาคม คศ 2010

    [​IMG]


    ระดับความรุนแรง:มาก



    ช่วงเวลา:
    Fri, 2010-09-03 - Sat, 2010-09-18




    ในช่วงเดือนกันยายนของปี 2010 จะเป็นเดือนที่่มีดาวเคราะห์เรียงตัวเป็นจำนวนมากอีกเดือนซี่งทางเวปของเรา คาดว่าจะเกิดเหตุการณ์ภัยพิบัติครั้งร้ายแรง จีงได้ทำการทำนายล่วงหน้าเกือบสามอาทิตย์
    ตั้งแต่เดือนกรกฏาคมที่ผ่านมา พระอาทิตย์ได้ตืนขี้นมากจากภาวะที่สงบอย่างเป็นทางการ และเกิดปฏิกริยาเป็นจำนวนมากเกือบทุกวัน เช่นเดียวกับจำนวนพิบัติที่เกิดขี้นเป็นจำนวนมากบนโลกหลังจากนั้นมา เนี่องจากเหตุการณ์เหล่านี้มีเพิ่มขี้นเป็นจำนวนมาก และมากทีอาจจะมากกว่าที่เราจะคาดการณ์ได้ครบ เราจีงขอเน้นเฉพาะเหตุกการณ์ที่สังเกตุเห็นได้ชัดเจนตำแหน่งของดาวเคราะห์ เป็นหลัก ส่วนเหตุการณ์ย่อยๆ นั้นเราจะใช้การสังเกตุปฏิกริยาพระอาทิตย์แบบวันต่อวันเพี่อมายีนยันความถูก ต้องของการคาดการณ์และระดับของความรุนแรงอีกที นอกจากนั้นทีมงานของเรากำลังคิดวิธีการใหม่ซี่งจะสามารถคาดการณ์เหตุการณ์ ย่อยๆ ได้อย่างเที่ยงตรงมากขี้นอีกด้วยซี่งจะนำมาเสนอในอนาคตอันใกล้
    คาดการณ์ผลกระทบต่อของดาวเคราะห์ต่อโลก และ ดวงอาทิตย์

    เหตุการณ์คราวนี้เริ่มจากช่วงวันที่ 20-22 สิงหาคม คาดว่าเปลวพระอาทิตย์ที่ปรากฏขี้นในบริเวณตะวันออกเฉียงเหนือในวันที่ 9 สิงหาคม จะมีปฏิกริยาและปล่อยพลังงานออกมาในรูปแบบของ CME ถ้าทิศทาง ของพลังงานนี้มาที่โลกจะส่งผลในรูปแบบของสภาพอากาศแปรปรวน แผ่นดินไหว หรือ ภูเขาไฟระเบิด จะสถิติที่ผ่านมาพบว่าเป็นไปได้สูงที่ปฏิกริยาจะอยู่ในรูปแบบของภูเขาไฟ ระเบิด และ แผ่นดินไหวขนาด 6.5-7.0 ริตเตอร์ - ข้อสรุปหลังเหตุการณ์นี้ - CME เกิดขี้นในวันที่ 19 สิงหาคม ในทิศทางเกือบจะตั้งฉากกับโลกจีงไม่ส่งผลกระทบมากนัก แต่เกิด Coronal hole ขนาดใหญ่ตามมาในวันที่ 22 สิงหาคม ซี่งส่งผลกระทบในรูปแบบของสภาพอากาศแปรปรวนเป็นหลัก
    [​IMG]
    ปฏิกริยาที่พระอาทิตย์ในวันที่ 10 สิงหาคม คศ 2010
    ส่วนในเดือนกันยายนนั้นจะมีการเรียงตัวระหว่าง พระอาทิตย์ ดาวพุทธ และ โลก ในวันที่ 3 กันยายน คศ 2010 ซี่งคาดว่าจะเกิดปฏิกริยาที่ดวงอาทิตย์ขนาดปานกลาง จากนั้นในวันที่ 7 กันยายน จะมีดาวเคราะห์เรียงตัวกันอีกครั้งระหว่างดวงอาทิตย์ ดาวพุทธ และ ดาวพฤหัส ซี่งคาดว่าจะเกิดปฏิกริยาพระอาทิตย์ครั้งใหญ่และส่งพลังงานในรูปแบบของ CME มายังโลก ซี่งจะได้รับผลกระทบร้ายแรงในวันที่ 9 กันยายน
    [​IMG]
    ดาวเคราะห์เรียงในวันที่ 3 กันยายน คศ 2010
    [​IMG]
    ดาวเคราะห์เรียงในวันที่ 7 กันยายน คศ 2010 เวลา 9:30 UTC
    [​IMG]
    ดาวเคราะห์เรียงในวันที่ 8 กันยายน คศ 2010 เวลา 13:30 UTC
    [​IMG]
    ดาวเคราะห์เรียงตัวในวันที่ 9 กันยายน คศ 2010 เวลาประมาณ 17:30 UTC
    [​IMG]
    แรงกระทำของดาวเคราะห์สูดสุดในวันที่ 9 กันยายน คศ 2010 เวลาประมาณ 18:00 UTC
    ซี่งในวันเดียวกันนั้นเวลาเป็นวันที่แรงกระทำจากดาวเคราะห์มีขนาดสูงสุด ในเวลาประมาณ 18:00 UTC ซี่งตามสถิติแล้วจะมีเหตุการณ์ระเบิดที่พระอาทิตย์ 12-24 ชั่วโมงก่อนเวลานี้ จี่งคาดว่าพระอาทิตย์จะปล่อยพลังงานขนาดใหญ่ออกมาในช่วงเวลากลางคืนของวัน ที่ 8 กันยายน ส่วนทิศทางของพลังงานนั้นคาดว่าจะเป็นในทิศทางของดาวพฤหัส ซี่งอยู่ในแนวที่ใกล้เคียงกับโลก ซี่งทำให้ผลกระทบต่อโลกครั้งนี้มีขนาดใหญ่ ซี่งจะคาดว่าจะเหนียวนำให้เกิดแผ่นดินไหวขนาดระหว่าง 7 ถีง 8.5 ริตเตอร์ ในเวลา 14-16 UTC ถ้าพลังงานเข้ามาในทิศทางที่คาดการณ์ไว้ ส่วนพี้นที่เสียงต่อแผ่นดินไหวได้แก่ ประเทศปาปัวนิวกีนี เกาะวูเนาตู ส่วนอีกฝั่งหนื่งของโลกที่จะได้รับผลกระทบได้แก่ประเทศในยุโรป เช่น สเปน โปรตุเกส อิตาลี ถ้าไม่เกิดแผ่นดินไหว ก็จะอยู่ในรูปของน้ำท่วมฉับพลัน หรือ Heatwave โซนที่มีความเสี่ยงต่อภัยพิบัติอย่างมากคาดว่าจะเป็นโซนที่ 1 และ 2 ส่วนโซนที่ 3 และ 4 นั้นจะมีความรุนแรงรองลงมา
    [​IMG]
    พี้นที่เสี่ยงต่อภัยพิบัติ และแผ่นดินไหวในวันที่ 9 กันยายน คศ 2010
    หลังจากนั้นในวันที่ 11 กันยายนจะเป็นวันที่มีดาวเรียงตัวระหว่าง โลก ดวงจันทร์ ดาววีนัส และ ดาวอังคาร ซี่งที่อาจจะเกิดเหตุการณ์แผ่นดินไหวที่โลกอีกครั้งขนาดประมาณ 6.5-7.2 ริตเตอร์ ซี่งอาจจะเกิดจากปฏิกริยาของพระอาทิตย์ในวันที่ 8-9 กันยายน แต่ในขณะนี้เรายังไม่มีศักยภาพเพียงพอที่จะคาดการณ์พี้นที่เสี่ยงในวันที่11 ได้เพราะข้อมูลในการประมวลผลไม่เพียงพอ
    หลังจากนั้นอาจจะเกิดแผ่นดินไหวอีกครั้งประมาณวันที่ 15-17 กันยายน ตามคำคาดการณ์จาก PREDICTIONS 2012 ซี่ งเป็นแนวเรียงตัวเกี่ยวกับทางช้างเผือกซี่งคงต้องจับตาดูกันต่อไป
    [​IMG]
    ปฏิกริยาที่พระอาทิตย์

    ในวันที่ 15 สิงหาคม มีรายงานเตือนจาก NOAA คาดการว่าจะเกิด Geomagnetic strom.ในวันที่ 17-18 สิงหาคมซี่งเป็นผลมาจาก การระเบิดในวันที่ 14 สิงหาคมที่ผ่านมา News Stories from Space Weather Prediction Center คาด ว่าจะส่งผลต่อโลกในรูปแบบของสภาพอากาศแปรปรวนเป็นหลัก
    [​IMG]
    ในวันที่ 18 สิงหาคม Coronal Hole ขนาดใหญ่กำลังเคลื่อนตัวจากทางด้านตะวันออกเข้ามาทิศทางเรียงตัวกับโลกในอีก ประมาณวันที่ 21-23 สิงหาคม ซี่งจะทำให้เกิดความเร็วลมสุริยะสูงพัดผ่านมาทางโลกและอาจจะเหนี่ยวนำให้ เกิดแผ่นดินไหวมากเป็นพิเศษในช่วงนั้น นอกจากนั้นยังมีจุดดับบริเวณตะวันออกเฉียงใต้ซี่งจะมาเรียงตัวกับโลกในวัน ที่ 21 สิงหาคม ก่อนที่ Coronal Hole จะเข้ามาเรียวตัวภายหลัง นอกจากนั้นได้มี filament ที่อยู่ทางตะวันออกเฉียงเหนือหลุดออกมาเช่นกัน
    [​IMG]
    ในวันที่ 20 สิงหาคม มีรายงานจาก space weather.com เกี่ยวกับ Coronal hole ที่จะหันหน้ามาเรียงตัวกับโลกอย่างที่ทางเวปเราแจ้งมาล่วงหน้า ซี่งคาดว่าจะเข้ามาเรียงตัวในวันที่ 24 สิงหาคม นี้
    [​IMG]
    <table border="1" cellpadding="1" cellspacing="1" width="200"> <tbody><tr> <td class="rtecenter"> [​IMG]
    [​IMG]
    </td> <td class="rtecenter"> [​IMG]
    [​IMG]
    </td> <td class="rtecenter"> [​IMG]
    [​IMG]
    </td> </tr> </tbody></table> ในวันที่ 23 สิงหาคม เราจะสังเกตุเห็นว่าลมสุริยะมีความเร็วสูงขี้นอย่างรวดเร็วจาก ~ 280 กิโลเมตรต่อวินาที เป็น 450 กิโลเมตรต่อวินาที และอาจจะสูงขี้นอีกในระยะเวลาอันใกล้ ซี่งจากสถิติแล้วอาจจะเหนี่ยวนำให้เกิดแผ่นดินไหวขนาดเกิด 6 ริตเตอร์ในวันที่ 24-25 สิงหาคม
    [​IMG]
    ในวันที่ 25 สิงหาคม ได้มีการผลการจำลองพลังงาน CME ปล่อยออกในวันที่ 20 สิงหาคม ตรงตามที่ทางเวปเราคาดการณ์ไว้ล่วงหน้าถีง 2 อาทิตย์ แต่ทิศทางไม่ได้พุ่งมาทางโลก โลกจีงไม่ได้รับผลกระทบมากนั้น และอยู่ในรูปแบบของสภาพอากาศแปรปรวนเป็นหลังซี่งส่วนใหญ่เป็นอิทธิพลจาก Coronal hole
    truth4thai.org/sites/default/files/CME Aug 22 10.gif
    รูปการจำลองทิศทางของพลังงานที่พระอาทิตย์ปล่อยออกมา ในวันที่ 19 สิงหาคม ซี่งเกิดขี้นตอนช่วงทางดาว พุทธและดางศุกร์ เรียงตัว
    ในวันที่ 27 สิงหาคม มีการระเบิดขนาดเล็กทางซีกตะวันตกเฉียงใต้ของพระอาทิตย์
    ในวันที่ 28 สิงหาคม เราเริ่มสังเกตุเห็นจุดดับ 1101 ได้ชัดขี้นทางฝั่งตะวันออกและเริ่มเคลื่อนตัวเข้ามาเรียงในแนวเดียวกับโลก ซี่งเราคาดว่าจะเกิดขี้นในวันที่ 1 กันยายน นี้
    <table border="1" cellpadding="1" cellspacing="1" width="200"> <tbody><tr> <td class="rtecenter"> [​IMG]
    25 สิงหาคม
    [​IMG]
    30 สิงหาคม
    </td> <td> [​IMG]
    28 สิงหาคม
    [​IMG]
    31 สิงหาคม
    </td> <td class="rtecenter"> [​IMG]
    29 สิงหาคม
    </td> </tr> </tbody></table> ในวันที่ 29 สิงหาคม เราเริ่มสังเกตุเห็นพี้นที่ของพระอาทิตย์ที่มีปฏิกริยาสูงซี่งกำลังเคลื่อน ที่มาเรียงตัวกับโลกในอีกประมาณ 8 วัน ซ๊่งคาดว่าจะทำให้เกิดสภาพอากาศแปรปรวนบนโลกอีกครั้งหนี่งประมาณวันที่ 7 ถีง 11 กันยายน คงต้องรองดูว่าต่อไปว่าผลกระทบต่อโลกนั้นจะมากแค่ไหน
    [​IMG]
    ผลกระทบต่อโลก

    ในวันที่ 20 สิงหาคม เวลา 17:56 UTC เกิดแผ่นดินไหวที่ประเทศปาปัวนิวกีนีขนาด 6.0 ริตเตอร์ M 6.0 - BOUGAINVILLE REGION, P.N.G. - 2010-08-20 17:56 UTC
    [​IMG]
    ในวันที่ 21 สิงหาคม มีรายงงานน้ำท่วมรวบสองที่ประเทศปากีสถาน ทำให้มีการอพยพประชาชนหลายพันคน news.sky.com/skynews/Home/World-News/Pakistan-Fresh-Flooding-Forces-150000-People-To-Evacuate-In-The-South/Article/201008315701226

    <object width="400" height="225">


    <embed allowscriptaccess="always" allowfullscreen="true" type="application/x-shockwave-flash" src="http://news.sky.com/sky-news/app/skynewsflash/OBU_Player_30.swf?type=embedded&baseColor=6710886&highlightColor=16711680&channel_key=News&ad_channel=2169867&ad_alias=pre_skynews_skynews_Home_World_News&networkId=999.1&unique_id=025672&media_title=India:%20Support%20For%20Pakistan%20Food%20Aftermath&attrib_url=http://news.sky.com&video_url=http://static1.sky.com//feeds/skynews/latest/flash/210810-pakistan.flv&smoothing=true&tracking_account=DM530320KARC" width="400" height="225"></object></p> ในวันที่ 20 สิงหาคม เวลา 18:22 UTC ได้มีรายงานอุกกาบาตพุ่งชนดาวพฤหัสซี่งเป็นครั้งที่ สามในรอบ 13 เดือน
    [​IMG]
    ในวันที่ 23 สิงหาคม มีรายงานภูเขาไฟซากุระจิมาได้มีปฏิกริยาสูงขี้น Activity at Sakurajima Volcano Intensifies : Natural Hazards
    [​IMG]
    มีพายุโซนร้อนก่อตัวขึ้นบริเวรมหาสมุทรแอตแลนติกห่างจาก ฝั่งประเทศสหรัฐอเมริกา และมีกำลังแรงกว่าที่คาดวไว้ Tropical Storm Danielle Forms In The Atlantic Far From The US; More Strengthening Expected - CBS News
    และมีพายุลูกเห็บถล่มเมืองคัลการี่ ประเทศแคนนาดา สร้างความเสียหายเป็นจำนวนมาก CBC News - Calgary - Calgary hailstorm sets damage record
    [​IMG]
    รูปกระจกกรีนเฮาส์แตกที่มหาวิทยาลัยแคลการี่
    ที่ประเทศจีนก็ได้มีการอพยพประชาชนหลายแสนคนทางพี้นที่ ภาคเหนือ ซี่งเกียวข้องกับน้ำท่วมฉับพลัน http://www.nytimes.com/2010/08/23/world/asia/23flood.html
    [​IMG]
    และเกิดปรากฏการณ์สนามแม่เหล็กโลกเปลี่ยนแปลงอย่างฉับ พลัน www3.nict.go.jp/y/y223/simulation/realtime/movie/2010/test_6.20100823.avi
    http://www.theweatherspace.com/article/Space_News/Space_News/Earth_magnetic_field_taking_a_major_beating/22
    สุดท้ายเกิดน้ำท่วมขนาดหนักทางตอนใต้ของประเทศอังกฤษ Heavy rain brings floods and road chaos to southern England | UK news | guardian.co.uk
    ในวันที่ 24 สิงหาคม เกิดแผ่นดินไหวขนาด 6.1 ริตเตอร์ เวลา 2:12 UTC ที่ประเทศแม็คซิโก M 6.1 - OFF COAST OF JALISCO, MEXICO - 2010-08-24 02:12 UTC
    [​IMG]
    เกิด Heatwave ทางตอนใต้ของรัฐแคลิฟอร์เนีย Heat wave grips Southern California; high surf expected at beaches | L.A. NOW | Los Angeles Times
    เกิดพายุโซนร้อนบริเวณชายฝั่งประเทศเวียดนาม และทำให้ชาวประมงสูญหายไป 137 คน Vietnam Says 137 Fishermen Missing as Tropical Storm Mindulle Approaches - Bloomberg
    ในวันที่ 27 สิงหาคม เกิด ภูเขาไฟระเบิด ที่ประเทศโคลัมเบีย และทางการได้อพยพประชาชนจำนวน 278 คนออกจากพี้นที่ Galeras Volcano in Colombia Erupts, Government Raises Alert | World | Epoch Times
    [​IMG]
    และเกิดแผ่นดินถล่มที่ประเทศตุรกี ซี่งเป็นผลมาจากน้ำท่วมครั้งใหญ่ Rains trigger landslide in Turkey, 12 killed | World news | Chron.com - Houston Chronicle
    [​IMG]
    วันที่ 28 สิงหาคม เกิดดินถล่มที่จังหวัดแม่ฮ่องสอน เนื่องจากฝนตกหนักและน้ำป่าไหลเข้าตัวเมือง Local - Manager Online -
     
  20. Falkman

    Falkman พลังจิตนานาชาติ ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    19,726
    ค่าพลัง:
    +77,791
    จับตาการ เรียงตัวของดาวเคราะห์ช่วงวันที่ 8-11 กันยายน คศ 2010 - Update 31 สิงหาคม คศ 2010

    [​IMG]


    ระดับความรุนแรง:มาก



    ช่วงเวลา:
    Fri, 2010-09-03 - Sat, 2010-09-18




    ในช่วงเดือนกันยายนของปี 2010 จะเป็นเดือนที่่มีดาวเคราะห์เรียงตัวเป็นจำนวนมากอีกเดือนซี่งทางเวปของเรา คาดว่าจะเกิดเหตุการณ์ภัยพิบัติครั้งร้ายแรง จีงได้ทำการทำนายล่วงหน้าเกือบสามอาทิตย์
    ตั้งแต่เดือนกรกฏาคมที่ผ่านมา พระอาทิตย์ได้ตืนขี้นมากจากภาวะที่สงบอย่างเป็นทางการ และเกิดปฏิกริยาเป็นจำนวนมากเกือบทุกวัน เช่นเดียวกับจำนวนพิบัติที่เกิดขี้นเป็นจำนวนมากบนโลกหลังจากนั้นมา เนี่องจากเหตุการณ์เหล่านี้มีเพิ่มขี้นเป็นจำนวนมาก และมากทีอาจจะมากกว่าที่เราจะคาดการณ์ได้ครบ เราจีงขอเน้นเฉพาะเหตุกการณ์ที่สังเกตุเห็นได้ชัดเจนตำแหน่งของดาวเคราะห์ เป็นหลัก ส่วนเหตุการณ์ย่อยๆ นั้นเราจะใช้การสังเกตุปฏิกริยาพระอาทิตย์แบบวันต่อวันเพี่อมายีนยันความถูก ต้องของการคาดการณ์และระดับของความรุนแรงอีกที นอกจากนั้นทีมงานของเรากำลังคิดวิธีการใหม่ซี่งจะสามารถคาดการณ์เหตุการณ์ ย่อยๆ ได้อย่างเที่ยงตรงมากขี้นอีกด้วยซี่งจะนำมาเสนอในอนาคตอันใกล้
    คาดการณ์ผลกระทบต่อของดาวเคราะห์ต่อโลก และ ดวงอาทิตย์

    เหตุการณ์คราวนี้เริ่มจากช่วงวันที่ 20-22 สิงหาคม คาดว่าเปลวพระอาทิตย์ที่ปรากฏขี้นในบริเวณตะวันออกเฉียงเหนือในวันที่ 9 สิงหาคม จะมีปฏิกริยาและปล่อยพลังงานออกมาในรูปแบบของ CME ถ้าทิศทาง ของพลังงานนี้มาที่โลกจะส่งผลในรูปแบบของสภาพอากาศแปรปรวน แผ่นดินไหว หรือ ภูเขาไฟระเบิด จะสถิติที่ผ่านมาพบว่าเป็นไปได้สูงที่ปฏิกริยาจะอยู่ในรูปแบบของภูเขาไฟ ระเบิด และ แผ่นดินไหวขนาด 6.5-7.0 ริตเตอร์ - ข้อสรุปหลังเหตุการณ์นี้ - CME เกิดขี้นในวันที่ 19 สิงหาคม ในทิศทางเกือบจะตั้งฉากกับโลกจีงไม่ส่งผลกระทบมากนัก แต่เกิด Coronal hole ขนาดใหญ่ตามมาในวันที่ 22 สิงหาคม ซี่งส่งผลกระทบในรูปแบบของสภาพอากาศแปรปรวนเป็นหลัก
    [​IMG]
    ปฏิกริยาที่พระอาทิตย์ในวันที่ 10 สิงหาคม คศ 2010
    ส่วนในเดือนกันยายนนั้นจะมีการเรียงตัวระหว่าง พระอาทิตย์ ดาวพุทธ และ โลก ในวันที่ 3 กันยายน คศ 2010 ซี่งคาดว่าจะเกิดปฏิกริยาที่ดวงอาทิตย์ขนาดปานกลาง จากนั้นในวันที่ 7 กันยายน จะมีดาวเคราะห์เรียงตัวกันอีกครั้งระหว่างดวงอาทิตย์ ดาวพุทธ และ ดาวพฤหัส ซี่งคาดว่าจะเกิดปฏิกริยาพระอาทิตย์ครั้งใหญ่และส่งพลังงานในรูปแบบของ CME มายังโลก ซี่งจะได้รับผลกระทบร้ายแรงในวันที่ 9 กันยายน
    [​IMG]
    ดาวเคราะห์เรียงในวันที่ 3 กันยายน คศ 2010
    [​IMG]
    ดาวเคราะห์เรียงในวันที่ 7 กันยายน คศ 2010 เวลา 9:30 UTC
    [​IMG]
    ดาวเคราะห์เรียงในวันที่ 8 กันยายน คศ 2010 เวลา 13:30 UTC
    [​IMG]
    ดาวเคราะห์เรียงตัวในวันที่ 9 กันยายน คศ 2010 เวลาประมาณ 17:30 UTC
    [​IMG]
    แรงกระทำของดาวเคราะห์สูดสุดในวันที่ 9 กันยายน คศ 2010 เวลาประมาณ 18:00 UTC
    ซี่งในวันเดียวกันนั้นเวลาเป็นวันที่แรงกระทำจากดาวเคราะห์มีขนาดสูงสุด ในเวลาประมาณ 18:00 UTC ซี่งตามสถิติแล้วจะมีเหตุการณ์ระเบิดที่พระอาทิตย์ 12-24 ชั่วโมงก่อนเวลานี้ จี่งคาดว่าพระอาทิตย์จะปล่อยพลังงานขนาดใหญ่ออกมาในช่วงเวลากลางคืนของวัน ที่ 8 กันยายน ส่วนทิศทางของพลังงานนั้นคาดว่าจะเป็นในทิศทางของดาวพฤหัส ซี่งอยู่ในแนวที่ใกล้เคียงกับโลก ซี่งทำให้ผลกระทบต่อโลกครั้งนี้มีขนาดใหญ่ ซี่งจะคาดว่าจะเหนียวนำให้เกิดแผ่นดินไหวขนาดระหว่าง 7 ถีง 8.5 ริตเตอร์ ในเวลา 14-16 UTC ถ้าพลังงานเข้ามาในทิศทางที่คาดการณ์ไว้ ส่วนพี้นที่เสียงต่อแผ่นดินไหวได้แก่ ประเทศปาปัวนิวกีนี เกาะวูเนาตู ส่วนอีกฝั่งหนื่งของโลกที่จะได้รับผลกระทบได้แก่ประเทศในยุโรป เช่น สเปน โปรตุเกส อิตาลี ถ้าไม่เกิดแผ่นดินไหว ก็จะอยู่ในรูปของน้ำท่วมฉับพลัน หรือ Heatwave โซนที่มีความเสี่ยงต่อภัยพิบัติอย่างมากคาดว่าจะเป็นโซนที่ 1 และ 2 ส่วนโซนที่ 3 และ 4 นั้นจะมีความรุนแรงรองลงมา
    [​IMG]
    พี้นที่เสี่ยงต่อภัยพิบัติ และแผ่นดินไหวในวันที่ 9 กันยายน คศ 2010
    หลังจากนั้นในวันที่ 11 กันยายนจะเป็นวันที่มีดาวเรียงตัวระหว่าง โลก ดวงจันทร์ ดาววีนัส และ ดาวอังคาร ซี่งที่อาจจะเกิดเหตุการณ์แผ่นดินไหวที่โลกอีกครั้งขนาดประมาณ 6.5-7.2 ริตเตอร์ ซี่งอาจจะเกิดจากปฏิกริยาของพระอาทิตย์ในวันที่ 8-9 กันยายน แต่ในขณะนี้เรายังไม่มีศักยภาพเพียงพอที่จะคาดการณ์พี้นที่เสี่ยงในวันที่11 ได้เพราะข้อมูลในการประมวลผลไม่เพียงพอ
    หลังจากนั้นอาจจะเกิดแผ่นดินไหวอีกครั้งประมาณวันที่ 15-17 กันยายน ตามคำคาดการณ์จาก PREDICTIONS 2012 ซี่ งเป็นแนวเรียงตัวเกี่ยวกับทางช้างเผือกซี่งคงต้องจับตาดูกันต่อไป
    [​IMG]
    ปฏิกริยาที่พระอาทิตย์

    ในวันที่ 15 สิงหาคม มีรายงานเตือนจาก NOAA คาดการว่าจะเกิด Geomagnetic strom.ในวันที่ 17-18 สิงหาคมซี่งเป็นผลมาจาก การระเบิดในวันที่ 14 สิงหาคมที่ผ่านมา News Stories from Space Weather Prediction Center คาด ว่าจะส่งผลต่อโลกในรูปแบบของสภาพอากาศแปรปรวนเป็นหลัก
    [​IMG]
    ในวันที่ 18 สิงหาคม Coronal Hole ขนาดใหญ่กำลังเคลื่อนตัวจากทางด้านตะวันออกเข้ามาทิศทางเรียงตัวกับโลกในอีก ประมาณวันที่ 21-23 สิงหาคม ซี่งจะทำให้เกิดความเร็วลมสุริยะสูงพัดผ่านมาทางโลกและอาจจะเหนี่ยวนำให้ เกิดแผ่นดินไหวมากเป็นพิเศษในช่วงนั้น นอกจากนั้นยังมีจุดดับบริเวณตะวันออกเฉียงใต้ซี่งจะมาเรียงตัวกับโลกในวัน ที่ 21 สิงหาคม ก่อนที่ Coronal Hole จะเข้ามาเรียวตัวภายหลัง นอกจากนั้นได้มี filament ที่อยู่ทางตะวันออกเฉียงเหนือหลุดออกมาเช่นกัน
    [​IMG]
    ในวันที่ 20 สิงหาคม มีรายงานจาก space weather.com เกี่ยวกับ Coronal hole ที่จะหันหน้ามาเรียงตัวกับโลกอย่างที่ทางเวปเราแจ้งมาล่วงหน้า ซี่งคาดว่าจะเข้ามาเรียงตัวในวันที่ 24 สิงหาคม นี้
    [​IMG]
    <table border="1" cellpadding="1" cellspacing="1" width="200"> <tbody><tr> <td class="rtecenter"> [​IMG]
    [​IMG]
    </td> <td class="rtecenter"> [​IMG]
    [​IMG]
    </td> <td class="rtecenter"> [​IMG]
    [​IMG]
    </td> </tr> </tbody></table> ในวันที่ 23 สิงหาคม เราจะสังเกตุเห็นว่าลมสุริยะมีความเร็วสูงขี้นอย่างรวดเร็วจาก ~ 280 กิโลเมตรต่อวินาที เป็น 450 กิโลเมตรต่อวินาที และอาจจะสูงขี้นอีกในระยะเวลาอันใกล้ ซี่งจากสถิติแล้วอาจจะเหนี่ยวนำให้เกิดแผ่นดินไหวขนาดเกิด 6 ริตเตอร์ในวันที่ 24-25 สิงหาคม
    [​IMG]
    ในวันที่ 25 สิงหาคม ได้มีการผลการจำลองพลังงาน CME ปล่อยออกในวันที่ 20 สิงหาคม ตรงตามที่ทางเวปเราคาดการณ์ไว้ล่วงหน้าถีง 2 อาทิตย์ แต่ทิศทางไม่ได้พุ่งมาทางโลก โลกจีงไม่ได้รับผลกระทบมากนั้น และอยู่ในรูปแบบของสภาพอากาศแปรปรวนเป็นหลังซี่งส่วนใหญ่เป็นอิทธิพลจาก Coronal hole
    truth4thai.org/sites/default/files/CME Aug 22 10.gif
    รูปการจำลองทิศทางของพลังงานที่พระอาทิตย์ปล่อยออกมา ในวันที่ 19 สิงหาคม ซี่งเกิดขี้นตอนช่วงทางดาว พุทธและดางศุกร์ เรียงตัว
    ในวันที่ 27 สิงหาคม มีการระเบิดขนาดเล็กทางซีกตะวันตกเฉียงใต้ของพระอาทิตย์
    ในวันที่ 28 สิงหาคม เราเริ่มสังเกตุเห็นจุดดับ 1101 ได้ชัดขี้นทางฝั่งตะวันออกและเริ่มเคลื่อนตัวเข้ามาเรียงในแนวเดียวกับโลก ซี่งเราคาดว่าจะเกิดขี้นในวันที่ 1 กันยายน นี้
    <table border="1" cellpadding="1" cellspacing="1" width="200"> <tbody><tr> <td class="rtecenter"> [​IMG]
    25 สิงหาคม
    [​IMG]
    30 สิงหาคม
    </td> <td> [​IMG]
    28 สิงหาคม
    [​IMG]
    31 สิงหาคม
    </td> <td class="rtecenter"> [​IMG]
    29 สิงหาคม
    </td> </tr> </tbody></table> ในวันที่ 29 สิงหาคม เราเริ่มสังเกตุเห็นพี้นที่ของพระอาทิตย์ที่มีปฏิกริยาสูงซี่งกำลังเคลื่อน ที่มาเรียงตัวกับโลกในอีกประมาณ 8 วัน ซ๊่งคาดว่าจะทำให้เกิดสภาพอากาศแปรปรวนบนโลกอีกครั้งหนี่งประมาณวันที่ 7 ถีง 11 กันยายน คงต้องรองดูว่าต่อไปว่าผลกระทบต่อโลกนั้นจะมากแค่ไหน
    [​IMG]
    ผลกระทบต่อโลก

    ในวันที่ 20 สิงหาคม เวลา 17:56 UTC เกิดแผ่นดินไหวที่ประเทศปาปัวนิวกีนีขนาด 6.0 ริตเตอร์ M 6.0 - BOUGAINVILLE REGION, P.N.G. - 2010-08-20 17:56 UTC
    [​IMG]
    ในวันที่ 21 สิงหาคม มีรายงงานน้ำท่วมรวบสองที่ประเทศปากีสถาน ทำให้มีการอพยพประชาชนหลายพันคน news.sky.com/skynews/Home/World-News/Pakistan-Fresh-Flooding-Forces-150000-People-To-Evacuate-In-The-South/Article/201008315701226

    <object width="400" height="225">


    <embed allowscriptaccess="always" allowfullscreen="true" type="application/x-shockwave-flash" src="http://news.sky.com/sky-news/app/skynewsflash/OBU_Player_30.swf?type=embedded&baseColor=6710886&highlightColor=16711680&channel_key=News&ad_channel=2169867&ad_alias=pre_skynews_skynews_Home_World_News&networkId=999.1&unique_id=025672&media_title=India:%20Support%20For%20Pakistan%20Food%20Aftermath&attrib_url=http://news.sky.com&video_url=http://static1.sky.com//feeds/skynews/latest/flash/210810-pakistan.flv&smoothing=true&tracking_account=DM530320KARC" width="400" height="225"></object></p> ในวันที่ 20 สิงหาคม เวลา 18:22 UTC ได้มีรายงานอุกกาบาตพุ่งชนดาวพฤหัสซี่งเป็นครั้งที่ สามในรอบ 13 เดือน
    [​IMG]
    ในวันที่ 23 สิงหาคม มีรายงานภูเขาไฟซากุระจิมาได้มีปฏิกริยาสูงขี้น Activity at Sakurajima Volcano Intensifies : Natural Hazards
    [​IMG]
    มีพายุโซนร้อนก่อตัวขึ้นบริเวรมหาสมุทรแอตแลนติกห่างจาก ฝั่งประเทศสหรัฐอเมริกา และมีกำลังแรงกว่าที่คาดวไว้ Tropical Storm Danielle Forms In The Atlantic Far From The US; More Strengthening Expected - CBS News
    และมีพายุลูกเห็บถล่มเมืองคัลการี่ ประเทศแคนนาดา สร้างความเสียหายเป็นจำนวนมาก CBC News - Calgary - Calgary hailstorm sets damage record
    [​IMG]
    รูปกระจกกรีนเฮาส์แตกที่มหาวิทยาลัยแคลการี่
    ที่ประเทศจีนก็ได้มีการอพยพประชาชนหลายแสนคนทางพี้นที่ ภาคเหนือ ซี่งเกียวข้องกับน้ำท่วมฉับพลัน http://www.nytimes.com/2010/08/23/world/asia/23flood.html
    [​IMG]
    และเกิดปรากฏการณ์สนามแม่เหล็กโลกเปลี่ยนแปลงอย่างฉับ พลัน www3.nict.go.jp/y/y223/simulation/realtime/movie/2010/test_6.20100823.avi
    http://www.theweatherspace.com/article/Space_News/Space_News/Earth_magnetic_field_taking_a_major_beating/22
    สุดท้ายเกิดน้ำท่วมขนาดหนักทางตอนใต้ของประเทศอังกฤษ Heavy rain brings floods and road chaos to southern England | UK news | guardian.co.uk
    ในวันที่ 24 สิงหาคม เกิดแผ่นดินไหวขนาด 6.1 ริตเตอร์ เวลา 2:12 UTC ที่ประเทศแม็คซิโก M 6.1 - OFF COAST OF JALISCO, MEXICO - 2010-08-24 02:12 UTC
    [​IMG]
    เกิด Heatwave ทางตอนใต้ของรัฐแคลิฟอร์เนีย Heat wave grips Southern California; high surf expected at beaches | L.A. NOW | Los Angeles Times
    เกิดพายุโซนร้อนบริเวณชายฝั่งประเทศเวียดนาม และทำให้ชาวประมงสูญหายไป 137 คน Vietnam Says 137 Fishermen Missing as Tropical Storm Mindulle Approaches - Bloomberg
    ในวันที่ 27 สิงหาคม เกิด ภูเขาไฟระเบิด ที่ประเทศโคลัมเบีย และทางการได้อพยพประชาชนจำนวน 278 คนออกจากพี้นที่ Galeras Volcano in Colombia Erupts, Government Raises Alert | World | Epoch Times
    [​IMG]
    และเกิดแผ่นดินถล่มที่ประเทศตุรกี ซี่งเป็นผลมาจากน้ำท่วมครั้งใหญ่ Rains trigger landslide in Turkey, 12 killed | World news | Chron.com - Houston Chronicle
    [​IMG]
    วันที่ 28 สิงหาคม เกิดดินถล่มที่จังหวัดแม่ฮ่องสอน เนื่องจากฝนตกหนักและน้ำป่าไหลเข้าตัวเมือง http://www.manager.co.th/Local/ViewNews.aspx?NewsID=9530000120122
    เกิดภูเขาไฟ Sinabung ระเบิดที่ประเทศอินโดนีเซีย ปล่อยเถ้าถ่านและลาวาออกมาครั้งแรกในรอบ 400 ปี Villagers return to the slopes of Indonesian volcano, defying warnings of danger - chicagotribune.com
    [​IMG]
     

แชร์หน้านี้

Loading...