ประเทศไทยจะเกิดอุบัติภัยอย่างที่ทำนายกันจริงๆหรือไม่

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย koymoo, 25 มกราคม 2005.

  1. พนมกุเลน

    พนมกุเลน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 เมษายน 2008
    โพสต์:
    2,455
    ค่าพลัง:
    +7,618
    แต่ไหนแต่ไรเถาวัลย์กับป่า ก็เป็นส่วนหนึ่งของกันและกัน พึ่งพิงกันแบพอดีๆ แต่วันนี้ ไหงเถาวัลย์กลายเป็นผู้รุกราน ที่จะทำให้ป่าล่มสลายแล้วล่ะ

    อันนี้ก็เป็นภัยที่กำลังคุกคามป่า น่าจะหลายแห่ง ไม่ใช่แค่แก่งกระจาน คิดดู ถ้าป่าเสื่อมโทรม ไปจนถึงป่าหมด สมดุลธรรมชาติ จะเป็นยังไง




    <TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%"><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>จนท.แก่งกระจาน ลงพื้นที่ตัดถางเถาวัลย์-กรมอุทยานฯ เร่งศึกษาภายใน 6 เดือน</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=middle><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4><TBODY><TR><TD class=body vAlign=middle align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=middle align=left>7 ตุลาคม 2553 </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=middle align=center>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%"><TBODY><TR><TD class=body vAlign=top align=center><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>นายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร หัวหน้าอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน เปิดเผยความคืบหน้ากรณีเถาวัลย์รุกพื้นที่ป่า ในเขตอุทยานแห่งชาติแก่งกระจานว่า ปัญหาที่เกิดขึ้นถือว่าหนักมาก

    หากปล่อยทิ้งไว้จะทำให้ป่าสูญหายไปอย่างแน่นอน โดยขณะนี้ได้จัดทีมพิทักษ์ป่าลงพื้นที่ตัดถางเถาวัลย์ออกทุกวัน

    โดยเน้นจุดที่วิกฤตก่อน เพื่อป้องกันความเสียหายที่จะเพิ่มมากขึ้น ล่าสุดต้นไม้ใหญ่ริมถนนเข้าอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน ถูกเถาวัลย์ดึงรั้งจนโค่

    นล้มขวางถนน ทำให้ไม่สามารถสัญจรได้ ต้องใช้เวลากว่า 1 ชั่วโมงเคลื่อนย้ายออก

    สำหรับการแก้ปัญหาเต็มรูปแบบ คงต้องรอผลการศึกษาวิจัยของคณะทำงาน ที่กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช จัดตั้งขึ้นก่อน เพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบต่อส่วนอื่นๆ ของป่า

    คาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 6 เดือนจึงจะทราบผล และดำเนินงานตามผลการศึกษาต่อไป


    ภาวะป่าถล่ม เถาวัลย์แก่งกระจาน

    เถาวัลย์ คือพรรณที่เป็นเถา หรือพรรณไม้เลื้อย พบได้ทั่วไปมีความหลากหลายสูง มีการแบ่งเถาวัลย์อยู่ในหลายวงศ์สกุล เช่น Apocynaceae (ลั่นทม) วงศ์ Annonaceae (การเวก) วงศ์ Vitaceae (วงศ์องุ่น) วงศ์ Curcubitacaea (แตงกวา) วงศ์ Asclepiadaceae (พวก Hoya ตัวอย่างเช่น ประกายแก้ว ป้าง ต้างใหญ่) เป็นต้น

    โดยจะพบว่าป่าทางภาคใต้ของประเทศไทยจะมีความหลากหลายของเถาวัลย์ค่อนข้างสูงกว่าภาคอื่น ชนิดของเถาวัลย์ที่คนทั่วไปมักจะรู้จักกันเช่น Tetratigma spp.

    ถ้าพูดเป็นชื่อชนิดอย่างนี้คนทั่วไปอาจจะเกิดความสงสัย แต่ถ้าบอกว่า เถาวัลย์ชนิดนี้คือเถาวัลย์ที่ตัดแล้วจะมีน้ำไหลออกมา สามารถกินน้ำได้ ก็จะนึกออกกัน ถ้าทำการระบุชนิดของเถาวัลย์ทั่วโลกน่าจะมีมากกว่า 10,000 ชนิด


    [​IMG]


    ในช่วงหนึ่งเดือนที่ผ่านมามีข่าวเกี่ยวกับการตายของต้นไม้ที่เกิดจากกการปกคลุมของเถาวัลย์ผืนป่าแก่งกระจานจนเกิดภาวะป่าถล่ม เถาวัลย์ปกคลุมผืนป่าในอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน จังหวัดเพชรบุรี กินพื้นที่กว่า 3 แสนไร่

    จนส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อต้นไม้ใหญ่และสัตว์ป่าทุกชนิด เรื่องนี้เป็นเหตุการณ์ที่ค่อนข้างใหม่กับประเทศไทย แต่หลายประเทศได้ประสบปัญหานี้มาแล้ว ล่

    าสุดทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องต่างออกมาร่วมกันวางแผน เพื่อหยุดยั้งการเจริญเติบโตของเถาวัลย์และหาทางแก้ไข พร้อมทั้งสั่งตรวจสอบทุกผืนป่าในประเทศไทย ที่อยู่ในความรับผิดชอบของกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช

    ในช่วงนี้ทางอุทยานได้เดินหน้าสางเถาวัลย์ในจุดอันตรายอย่างต่อเนื่อง พร้อมทั้งมอบหมายให้ ดร.วัฒนา ศักดิ์ชูวงศ์ นักกีฏวิทยาชำนาญการพิเศษเป็นหัวหน้าโครงการศึกษาวิจัยแก้ไขปัญหาเถาวัลย์

    จากการสำรวจของคณะทำงานเดินทางไปยังบริเวณ กม.7 เพื่อสร้างเส้นทางสำรวจธรรมชาติเพื่อเตรียมรองรับนักท่องเที่ยวและประชาชนทั่วไปที่ให้ความสนใจกับปรากฎการณ์เถาวัลย์ที่กำลังรุกรานผืนป่า

    พบว่า ต้นไม้ทั้งขนาดใหญ่และเล็กส่วนมากถูกเถาวัลย์ปกคลุมจนไม่เห็นแสงแดด อยู่ในสภาพที่ใกล้ตายตั้งแต่โคนต้นไปจนถึงเรือนยอด และที่ร้ายแรงที่สุดคือการยืนต้นตาย ตัวอย่างต้นไม้ที่พบ

    เช่น ต้นเสลาใบเล็ก ต้นปอหูช้าง ต้นตะเคียน มะค่าโมง ตะแบก อินทนิล เป็นต้น บางต้นมีขนาด 1-2 คนโอบ โดยเฉพาะต้นเสลาใบเล็ก ซึ่งเป็นต้นไม้ยืนต้นขนาดใหญ่และเป็นไม้เศรษฐกิจ พบมากในป่าแก่งกระจาน

    แต่ปัจจุบันกำลังถูกทำลายด้วยเถาวัลย์จนแทบไม่พบเห็น ส่วนเถาวัลย์ที่เป็นปัญหาอยู่ในขณะนี้ประกอบด้วย เครือออน ชะแล ม้ากระทืบโรง รางแดง หมามุ่ยใหญ่ ต้นแก้วมือไว เถารกฟ้า หนามหัน และสะแกวัลย์ เถาวัลย์พวกนี้มีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 5-24 นิ้ว


    [​IMG] [​IMG]


    ปกติแล้วเถาวัลย์มีการเจริญเติบโตที่รวดเร็ว เถาวัลย์หนึ่ง
    ยอดสามารถเติบโตได้วันละ 15 เซนติเมตร โดยเถาวัลย์สามารถดูดน้ำได้ 3 ทาง คือ ทางราก ทางปมรากข้างลำต้น และยอด แต่เถาวัลย์ในป่ามีจำนวนหลายแสนยอด

    การแพร่ขยายจึงเป็นไปอย่างรวดเร็วมาก เมื่อเปรียบเทียบกับการเจริญเติบโตของต้นไม้ปกติแล้ว 1-6 ปี มีการเจริญเติบโต 1-3 เมตรเท่านั้น มีการศึกษาเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างเถาวัลย์กับต้นไม้ที่เถาวัลย์ไปเกาะ

    โดยพิจารณาปัจจัย 3 ปัจจัย คือ แสงสว่าง น้ำ และการดูดซึมไนโตรเจน พบว่า เถาวัลย์ต้องอาศัยใหญ่ในการรับแสง เนื่องจากเถาวัลย์ไม่สามารถรับแสงที่ส่องมาในช่วงปกติได้อย่างเต็มที่

    ดังนั้น เถาวัลย์จึงต้องอาศัยในต้นไม้ใหญ่ในการช่วยลดความเข้มแสง เมื่อเถาวัลย์มีการเจริญเติบโตแล้วไปบดบังการรับแสงของต้นไม้ใหญ่ ซึ่งจะก่อผลกระทบตามมาทีหลัง การดูดซึมน้ำของเถาวัลย์และต้นไม้ใหญ่ (Host tree)

    พบว่า ในช่วงศึกษาเถาวัลย์ไม่ลดการดูดซึมน้ำของต้นไม้ ส่วนการศึกษาการดูดซึมไนโตรเจนของเถาวัลย์และต้นไม้พบว่า การดูดซึมไนโตรเจนระหว่างเถาวัลย์กับต้นไม้จะเกิดการแข่งขันกัน

    โดยมีความสัมพันธ์แปรผันตามกันระหว่างปริมาณไนโตรเจนที่บริเวณใบของเถาวัลย์กับเส้นผ่านศูนย์กลางของต้นไม้ที่เถาวัลย์ไปเกาะ (Dillenburg et al., 1993)

    และอีกสาเหตุที่ทำให้เถาวัลย์จำเป็นต้องมีต้นไม้ใหญ่ เพราะว่าเถาวัลย์เถาวัลย์จำเป็นต้องหลีกเลี่ยงสภาพแวดล้อมที่สุดขั้วเกินไป เช่น แสงแดดมากเกินไป ณหภูมิสูงเกินไป การขาดสมดุลของน้ำจากสิ่งแวดล้อม

    จึงจำเป็นต้องใช้ต้นไม้ใหญ่เป็นโล่กำบังและปรับสมดุล นอกจากนี้เถาวัลย์บางชนิดมีการปรับตัวโดยการพัฒนาปมรากบริเวณลำต้นให้สามารถแทรกเข้าไปในลำต้นของต้นไม้เพื่อแย่งน้ำและแร่ธาตุ


    [​IMG] [​IMG]


    ปัญหาเถาวัลย์ที่พบในพื้นที่ป่าแก่งกระจานนี้ เกิดจากการให้สัมปทานตัดไม้ในพื้นที่เมื่อ 20 ปีที่ผ่านมา ทำให้ต้นไม้ใหญ่ที่ปกติจะมีใบรับแสงอาทิตย์และดักไว้ก่อนถึงพื้นป่าด้านล่างหายไป

    เมื่อต้นไม้ใหญ่หมดไปแสงอาทิตย์ก็สามารถส่องลงมาพื้นล่างมากขึ้น เกิดการเจริญเติบโตของไม้ชั้นล่างที่มากเกินไป ประกอบกับการเจริญเติบโตที่รวดเร็วของเถาวัลย์ที่มีอัตราการเจริญเติบโตรวดเร็วกว่าไม้ยืนต้นค่อนข้างมาก

    ทำให้เถาวัลย์มีการแผ่ขยายครอบคลุมพื้นที่ได้มากขึ้น และเป็นอุปสรรคให้กับการเจริญเติบโตของไม้ยืนต้นรุ่นหลัง ส่วนไม้ยืนต้นที่มีอยู่ในพื้นที่ เถาวัลย์จะไปปกคลุมทำให้การรับแสง การดูดซึมแร่ธาตุลดลง

    ทำให้ต้นไม้พวกนี้อ่อนแอ เมื่อเถาวัลย์ไปบังแสง ก็จะทำให้เชื้อรา แมลง และโรคพืชอื่นๆ ไปจัดการต้นไม้ใหญ่ ทำให้ตายและเกิดการหัดโค่นลง จนทำให้สมดุลของป่าในพื้นที่เกิดการเปลี่ยนแปลงจากเดิม ที่มีไม้ยืนต้นเป็นพืชชนิดเด่น (Dominant Species)

    เปลี่ยนเป็นเถาวัลย์เป็นพืชชนิดเด่น ในประเทศสหรัฐอเมริกาก็พบปัญหาการบุกรุกของเถาวัลย์ปกคลุมต้นไม้ในป่าธรรมชาติ ซึ่งจัดว่าเป็นปัญหาใหญ่มาก โดยเฉพาะเถาวัลย์ที่มีชื่อสามัญว่า Kudza (Pueraria lobata) เป็นปัญหาในหลายรัฐทางตอนใต้ของอเมริกา มีสภาพเหมือนที่เกิดขึ้นในอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน

    การใช้สารเคมีกำจัดไม่สามารถกระทำได้ เนื่องจากมีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและสิ่งมีชีวิตในป่า การควบคุมปัญหาบุกรุกที่ได้ผลคือ การตัดทำลายโคนรากของเถาวัลย์ระดับพื้นดิน

    วิธีการนี้ทำให้เถาวัลย์ที่ปกคลุมต้นไม้ตายและไม่จำเป็นต้องขนย้ายซากออกจากลำต้นของต้นไม้ที่ถูกปกคลุมแต่อย่างใด แต่ต้อ งใช้กำลังคนและงบประมาณในการจัดการกับปัญหานี้

    [​IMG] [​IMG]


    นอกจากนี้ยังมีปัญหาอีกประการที่เป็นผลต่อเนื่องมาจากการปกคลุมของเถาวัลย์ คือ การอพยพของสัตว์ป่า โดยเฉพาะช้างที่ไม่สามารถหากินในพื้นที่เดิมได้ เพราะพืชอาหารช้างถูกเถาวัลย์ปกคลุมจนตายทั้งหมด

    เมื่อไม่มีอาหาร ทำให้ช้างจำต้องอพยพไปตามแนวตะเข็บชายแดนเข้าพม่าและไม่กลับมาอีก พบรอยมูลช้างเป็นหลักฐานในการอพยพ นอกจากช้างแล้วยังมีสัตว์อื่นอีกที่ได้รับผลกระทบจากการบุกรุกของเถาวัลย์ คือ วัวแดง กระทิง เก้ง กวาง

    รวมไปถึงสัตว์ที่อาศัยอยู่ตามเรือนยอดของต้นไม้ทั้ง ชะนี ค่างแว่น ลิง เพราะเมื่อไม้ยืนต้นถูกเถาวัลย์บุกปกคลุมบนเรือนยอด ทำให้สัตว์พวกนี้ไม่สามารถห้อยโหนจากต้นไม้ต้นหนึ่งไปอีกต้นหนึ่ง

    แม้กระทั้งนกเหยี่ยวที่อาศัยอยู่บนต้นไม้ซึ่งไม่ยอมใช้พื้นราบ เนื่องจากหวาดกลัวสัตว์กินเนื้อ เช่น แมวป่า เสื้อโคร่ง เสือดาว เสือดำ หมาใน เป็นต้น กัดกินเป็นอาหาร


    ปัญหาเกี่ยวกับเถาวัลย์ไม่ใช่เป็นปัญหาที่เพิ่งเกิดขึ้น แต่เป็นปัญหาที่ค่อยๆเกิดขึ้น เมื่อมองจากภายนอกจะเป็นป่าที่มีความอุดมสมบูรณ์ เขียวชอุ่ม

    เมื่อพิจารณาองค์ประกอบของป่าจะพบว่าจากเดิมที่มีต้นไม้ใหญ่เป็นพืชชนิดเด่นของป่า ได้ทยอยลดลง แล้วเกิดการแทนที่ของเถาวัลย์

    ถ้ามองจากภาพถ่ายหรือมองจากระยะไกลจะเห็นว่าพื้นที่ไม่มีการเปลี่ยนแปลง แต่เมื่อพิจารณาในพื้นที่จะพบว่าป่ามีความเสียหายไปมากแล้ว

    ตอนนี้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องหาทางกำจัดเถาวัลย์เป็นการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าก่อนเพื่อให้ทันเหตุการณ์

    และให้ทีมวิจัยดำเนินการศึกษาเพื่อหาวิธีควบคุมไม่ให้เหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นกับป่าผืนอื่นของประเทศไทย



    www.vcharkarn.com/varticle/41529








    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  2. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,696
    ค่าพลัง:
    +51,932
    *** ป่า ****

    เป็นป่าก็ดีแล้ว...สัตว์จะได้มีที่ไปเกิด
    ที่ผ่านมามนุษย์ทำลายป่ามาก จนสัตว์ไม่มีที่จะเกิด
    จึงมาเกิดเป็น คนสันดานสัตว์ จิตใจโหดร้ายเหมือนสัตว์ ไม่เหมือนมนุษย์

    - " หนุมาน ผู้นำสาร "
     
  3. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,696
    ค่าพลัง:
    +51,932
    *** มีคำตอบ ****

    ที่ผ่านมาอาตมาไปต่างประเทศ
    อายมาก ที่เขาถามว่าเราเป็นเมืองพุทธ แต่ทำไมทรุดลง ...

    [​IMG]
    <TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD>
    </TD></TR></TBODY></TABLE>
    ตอบ...เพราะไม่มีสัจจะ
    จึงขาดการตัดลดกิเลสนิสัยอย่างจริงจัง
    รับปาก แล้วไม่ทำ พูดไปแล้ว ไม่ทำ ความจริงไม่เกิด
    กลายเป็นโกหกตัวเอง ผิดสัญญาที่ทำไว้กับใจตนเอง

    - " หนุมาน ผู้นำสาร "
     
  4. Falkman

    Falkman พลังจิตนานาชาติ ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    19,726
    ค่าพลัง:
    +77,791
    คือ เมื่อวันก่อนได้มีโอกาส สนทนากับคุณพงษ์ (ไม่ทราบนามสกุล) คุณพงษ์บอกว่า คิดว่าคำว่า ถิ่นกาขาว กาขาว หมายถึง พระโพธิสัตว์ คือ ยุคที่พระโพธิสัตว์ มาบำเพ็ญบารมีกันมาก

    เลยลองมาหาข้อมูลดู

    [​IMG] <table width="680" cellpadding="0" cellspacing="0"> <tbody><tr bgcolor="#eeeeee"><td align="center" height="50">กาขาว</td></tr><tr><td>

    • ความสำคัญ
      กาขาว : เป็นวรรณกรรมทางศาสนา ซึ่งอธิบายเรื่องเกี่ยวกับพระโพธิสัตว์ทั้ง 5 คน ต้นฉบับบุดขาวชำรุดในตอนต้นและตอนปลาย แต่งด้วยกาพย์ยานี 11 และกาพย์ฉบัง 16 และกาพย์สุรางคนางค์ 28 โดยไม่ปรากฏที่มาของผู้แต่ง และปัจจุบันได้เก็บไว้ที่ สถาบันทักษิณคดี โดยมีที่มาดังนี้ เค้าเรื่องมาจากนิทานมุขปาฐะ ความว่า กาขาวผัวเมียออกหากิน ทิ้งไข่ไว้ในรัง 5 ฟอง เกิดพายุใหญ่ไข่ที่อยู่ในรังจึงตกหล่นลงในน้ำ ไข่นั้นก็ลอยไปติดกับตลิ่ง แม่ไก่ แม่นาค แม่เต่า แม่โค และแม่ราชสีห์ก็เก็บไว้ ต่อมาไม่นานไข่ก็ได้แตกออกเป็นมนุษย์ให้นามวงศ์ของแม่สัตว์(ทารกที่เกิดมา จากไข่ ซึ่งแม่ไก่เก็บให้นามว่ากุกกุสันโท ทารกที่เกิดมาจากไข่ ซึ่งแม่นาคไก่เก็บให้นามว่า โคนาคมทารกที่เกิดมาจากไข่ ซึ่งแม่เต่าเก็บให้นามว่ากัสสปะ)ทารกที่เกิดมาจากไข่ ซึ่งแม่โคเก็บให้นามว่า โคดมทารกที่เกิดมาจากไข่ ซึ่งแม่ราชสีห์เก็บให้นามว่า ขรีอาริย์เมื่อทารกได้เติบโตขึ้นก็ได้ถามทราบความจริงของแม่ ๆ ทังหลาย จึงคิดจะหาแม่ที่แท้จริงของตนเอง จึงได้ออกบวชเป็นฤาษี ภาวนาได้พบแม่จริง ๆ ในเรื่อง กาขาวนั้นตามคติพุทธ คือองค์พระโพธิสัตว์มุ่งสร้างบารมี และบำเพ็ญตนเพื่อชาวยเหลือเพื่อนมนุษย์ให้พ้นทุกษ์มิได้หวังความหลุดพ้น เพียงลำพัง คติอันนี้เป็นปณิธานอันสูงส่ง เรื่องกาขาวนั้นได้ปรากฏตอนพระกัสปะวา แม่เฒ่าเข้าป่าบำเพ็ญว่า

      (ลูกรักจักขอลา พระแม่ไปสู่ไพรสาณ)
      (จะทรงบรรพกิจ เป็นสหมิตรสิทธาจารย์)
      (สร้างสมโพธิญาณ ตั้งอธิษฐานให้บริสุทธิ์)
      (มุ่งมาดที่ปรารถนา เป็นพงศาบุพรางกูล)
      (ลูกรักจักเกื้อหนุน ให้ฝูงสัตว์จักภัย)
      (สร้างสมบารมีตา เป็นนาวาข้ามสมุทรไทย)
      (ฝูงสัตว์พลอยไปได้ พ้นจากภัยมรณาผลาญ)
      นอกจากนั้นยัง มุ่งสอนพุทธบริษัทให้เข้าใจหลักธรรมและแนวทางปฏิบัติ ตามครรลองศาสนา ธรรมที่กล่าวถึง "ไตรลักษณ์" ซึ่งหมายถึง สภาพความเป็นธรรมดาของชี วิต คือเป็นทุกข์ เป็นอนิจจัง และอนัตตา โดยเรื่องราวในเชิงเปรียบเทียบกับกาสองผัวเมีย เพื่อให้รู้เท่าทันทุกข์ว่า

      (รักควายรักวัว - รักเมียรักผัว - รักตัวรักตน
      อย่าได้หลงรัก - รักไม่เป็นผล - เมื่อจะสิ้นชนม์ มารประจญด้วยรัก
      รู้แล้วว่าบ่วง - อย่าข้องอย่าห่วง - อย่าหน่วงอย่าหนัก
      ไม่คิดอย่าหวน - อย่าชวนอย่าชัก - อย่าท้วงอย่าทัก
      อย่ารักอย่าหลง ฯลฯ)
      นอกจากนี้เรื่องกาขาวจะอธิบายประวัติตำนานพระโพธิสัตว์ที่จุติเป็นพระ พุทธเจ้าทั้ง ๕ พระองค์ดังกล่าวได้อธิบายความเป็นมาของประเพณีลอยกระทง ที่แปลกออกไปอีกกระแสหนึ่งว่า
      ประเพณีได้สืบเนื่องมาจากคำบอกเล่ากาพรหมมีต่อคนทั้ง ๕ ว่าให้ลอยประทีปในคืนเดือนเพ็ญ เดือนสิบสองเพื่อลำลึกบูชากาพรหม นั้นเอง กาขาวนั้น ยังมีหน้าที่เชื่อมโยงกับเรื่องพระเจ้าห้าองค์ โดยเรื่องกาขาวนั้นมีเนื้อความตอนต้น

    </td></tr><tr><td align="center"><table width="400" align="center" border="0"><tbody><tr><td colspan="5" bgcolor="#aa5500" height="1">
    </td></tr><tr align="center"><td>[​IMG]</td><td>[​IMG]</td><td>[​IMG]</td><td>[​IMG]</td><td>[​IMG]</td></tr><tr><td colspan="5" bgcolor="#aa5500" height="1">
    </td></tr></tbody></table></td></tr><tr><td>

    • เอกสารอ้างอิง
      หนังสือ สรานุกรรมวัฒนธรรมภาคใต้ จัดทำโดย : ธนาคารไทยพาณิชย์
    </td></tr></tbody> </table> <form><input value=" ปิด " type="submit"></form>

    อ้างอิงมาจากมาจากเวบนี้
     
  5. Falkman

    Falkman พลังจิตนานาชาติ ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    19,726
    ค่าพลัง:
    +77,791
    <center>คาดปีนี้หนาวกว่าปกติเริ่มต.ค.เดือนธ.ค.-ม.ค.หนาวสุด กทม.ต่ำกว่า20องค์ศา

    </center> นายสมชาย ใบม่วง รองอธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา กล่าวว่า ประเทศไทยจะเริ่มเข้าสู่ฤดูหนาวประมาณกลางเดือนตุลาคม โดยในปีนี้คาดว่าจะมีอากาศหนาวกว่าปีที่แล้ว รวมทั้งอุณหภูมิจะต่ำกว่าค่าปกติเล็กน้อยในรอบ 30 ปีที่ผ่านมา ช่วงที่มีอากาศหนาวมากที่สุดอยู่ในช่วงปลายเดือนธันวาคม 2553 ถึงมกราคม 2554

    นอกจากนี้ยังมีการคาดการณ์ว่า ในระยะต้นของฤดูหนาวเดือนตุลาคมถึงพฤศจิกายน ประเทศไทยตอนบนจะยังคงมีฝนตกชุกในบางพื้นที่ ส่วนภาคใต้จะมีอากาศเย็นในบางวันส่วนมากทางตอนบนของภาค โดยจะมีฝนตกหนักถึงหนักมากหลายพื้นที่ในช่วงกลางเดือนตุลาคมถึงเดือนธันวาคม โดยเฉพาะทางฝั่งตะวันออกตั้งแต่จังหวัดชุมพรลงไป

    "การที่มีฝนตกในช่วงฤดูหนาวและมีอุณหภูมิต่ำกว่าค่าปกติ เนื่องจากไทยได้รับอิทธิพลจากปรากฎการณ์ลานีญา ส่งผลให้อุณหภูมิเย็นกว่าปกติและเกิดฝนตกในปริมาณมาก ทั้งนี้ในภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือจะมีอากาศหนาวถึงหนาวจัด
     
  6. Falkman

    Falkman พลังจิตนานาชาติ ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    19,726
    ค่าพลัง:
    +77,791
    แขวงการทางแปดริ้วเร่งหาสาเหตุถนนทรุดลึก 10 เมตร

    [​IMG]
    ฉะเชิงเทรา 7 ต.ค. - นางสุมิตรา ศรีสมบัตร รองผู้ว่าราชการจังหวัดฉะเชิงเทรา นำเจ้าหน้าที่แขวงการทางเข้าตรวจสอบสภาพถนนสายบางน้ำเปรี้ยว-บ้านสร้าง ต.บางขนาก อ.บางน้ำเปรี้ยว หลังรับแจ้งจากผู้สัญจรว่า ผิวถนนทรุดตัวเป็นหลุมลึก และเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บางขนาก นำเครื่องกั้นรถยนต์ให้เลี่ยงจุดดังกล่าว เพื่อป้องกันอันตราย เพราะเป็นเส้นทางที่มีผู้สัญจรจำนวนมาก

    จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่า ถนนยุบตัวลึก 10 เมตร กว้าง 2 เมตร และใต้พื้นถนนยังยุบตัวไปตลอดแนวกว่า 20 เมตร อย่างไรก็ตาม ทางจังหวัดจะประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง เพื่อหาสาเหตุของถนนทรุดก่อนดำเนินการปรับซ่อมให้แข็งแรง.- สำนักข่าวไทย


    <table width="98%" align="center"><tbody><tr><td width="75%" align="right"> ที่มา : สำนักข่าวไทย </td> <td width="25%" align="center"> [​IMG] </td></tr></tbody></table>
     
  7. marine24

    marine24 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    2,223
    ค่าพลัง:
    +15,633
    พิจิตรทึ่งเหตุแปลก! แผ่นดินเลื่อน ส้วมแตก (ไอเอ็นเอ็น)

    จ.พิจิตร เกิดเหตุประหลาด แผ่นดินเคลื่อนตัวเสียงดังสนั่น ดันท่อบ่อบาดาลระเบิด เจ้าหน้าที่กรมทรัพยากรธรรมชาติ คาดอาจมีแก๊สอยู่ใต้ดิน

    นายวิชัย เนตรทอง อายุ 59 ปี อยู่บ้านเลขที่ 24/2 หมู่ที่ 4 ต.ป่ามะคาบ อ.เมือง จ.พิจิตร และ นายสมบัติ จำปาทอง เล่าเหตุการณ์แปลกประหลาดจนทำให้แทบหัวใจวายว่า ตนเองเลี้ยงเป็ดอยู่กลางนา และมานอนหลับเอาแรงที่บริเวณห้างนาที่มีบ่อน้ำบาดาลขุดลึกลงไปใต้ดิน และฝังท่อวงปูน หรือวงส้วมที่มีเส้นผ่าศูนย์กลาง 1.20 เมตร ลึกไปในดินถึง 16 วง ความลึกกว่า 20 เมตร โดยเหตุประหลาดที่เกิดขึ้นคือ ขณะที่ นายสมบัติ นอนอยู่ ได้เกิดเสียงดังคล้ายฟ้าผ่าอยู่ใต้ดิน โดยเสียงลอดออกมาทางวงปูนดังกล่าว จากนั้นแผ่นดินสั่นสะเทือนและมีแรงดัน ดันเอาท่อวงปูน ที่ฝังอยู่ใต้ดินค่อยๆ เด้งขึ้นมาจากผืนดินทีละวงๆ คล้ายกับว่าจะมีสัตว์ประหลาดเหมือนอย่างในหนัง ที่โผล่ออกมาจากใต้ดิน ตนเองตกใจจึงวิ่งสุดชีวิต มาตั้งหลักห่างจากที่เกิดเหตุประมาณ 100-200 เมตร เมื่อเสียงสงบลง จึงค่อยเข้าไปดู ก็พบว่า ท่อวงปูนที่ฝังอยู่ใต้ดิน เด้งขึ้นมาอยู่บนผิวดินถึง 8 วง โดยเด้งขึ้นมาทะลุหลังคาโรงนา ดังกล่าว

    เบื้องต้น เจ้าหน้าที่กรมทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จ.พิจิตร ได้เข้าไปดู และวินิจฉัยเบื้องต้นว่า อาจมีแก๊สอยู่ใต้ดิน จึงได้เกิดเหตุการณ์ประหลาดดังกล่าวขึ้น แต่ล่าสุดบรรดาคอหวยนับร้อยคน ต่างแห่ไปกราบไหว้วงปูน หรือวงส้วม เพื่อขอเลขเด็ด ตามความเชื่อว่า เป็นเรื่องมหัศจรรย์
     
  8. Falkman

    Falkman พลังจิตนานาชาติ ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    19,726
    ค่าพลัง:
    +77,791
  9. Falkman

    Falkman พลังจิตนานาชาติ ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    19,726
    ค่าพลัง:
    +77,791
    <table border="0" cellpadding="1" cellspacing="1"><tbody><tr><th align="center">MAG </th> <th align="center">UTC DATE-TIME
    y/m/d h:m:s
    </th> <th align="center">LAT
    deg
    </th> <th align="center">LON
    deg
    </th> <th align="center">DEPTH
    km
    </th> <th> Region</th> </tr> <tr><td valign="top" align="center" nowrap="nowrap">MAP</td><td valign="top" align="center" nowrap="nowrap"> 6.3 </td><td valign="top" align="center" nowrap="nowrap">2010/10/08 05:43:11 </td><td valign="top" align="right" nowrap="nowrap"> 2.754 </td><td valign="top" align="right" nowrap="nowrap"> 128.198 </td><td valign="top" align="right" nowrap="nowrap">144.9 </td><td valign="top"> HALMAHERA, INDONESIA</td></tr> <tr><td valign="top" align="center" nowrap="nowrap">MAP</td><td valign="top" align="center" nowrap="nowrap"> 4.6 </td><td valign="top" align="center" nowrap="nowrap">2010/10/08 05:41:01 </td><td valign="top" align="right" nowrap="nowrap"> 51.384 </td><td valign="top" align="right" nowrap="nowrap"> -175.294 </td><td valign="top" align="right" nowrap="nowrap"> 35.0 </td><td valign="top"> ANDREANOF ISLANDS, ALEUTIAN IS., ALASKA</td></tr> <tr><td valign="top" align="center" nowrap="nowrap">MAP</td><td valign="top" align="center" nowrap="nowrap"> 4.6 </td><td valign="top" align="center" nowrap="nowrap">2010/10/08 04:28:27 </td><td valign="top" align="right" nowrap="nowrap"> 51.287 </td><td valign="top" align="right" nowrap="nowrap"> -175.336 </td><td valign="top" align="right" nowrap="nowrap"> 35.0 </td><td valign="top"> ANDREANOF ISLANDS, ALEUTIAN IS., ALASKA</td></tr> <tr><td valign="top" align="center" nowrap="nowrap">MAP</td><td valign="top" align="center" nowrap="nowrap"> 5.3 </td><td valign="top" align="center" nowrap="nowrap">2010/10/08 04:19:18 </td><td valign="top" align="right" nowrap="nowrap"> 51.538 </td><td valign="top" align="right" nowrap="nowrap"> -175.376 </td><td valign="top" align="right" nowrap="nowrap"> 35.0 </td><td valign="top"> ANDREANOF ISLANDS, ALEUTIAN IS., ALASKA</td></tr> <tr><td valign="top" align="center" nowrap="nowrap">MAP</td><td valign="top" align="center" nowrap="nowrap"> 6.1 </td><td valign="top" align="center" nowrap="nowrap">2010/10/08 03:49:12 </td><td valign="top" align="right" nowrap="nowrap"> 51.499 </td><td valign="top" align="right" nowrap="nowrap"> -175.261 </td><td valign="top" align="right" nowrap="nowrap"> 35.0 </td><td valign="top"> ANDREANOF ISLANDS, ALEUTIAN IS., ALASKA</td></tr> <tr><td valign="top" align="center" nowrap="nowrap">MAP</td><td valign="top" align="center" nowrap="nowrap"> 3.2 </td><td valign="top" align="center" nowrap="nowrap">2010/10/08 03:27:21 </td><td valign="top" align="right" nowrap="nowrap"> 32.571 </td><td valign="top" align="right" nowrap="nowrap"> -115.740 </td><td valign="top" align="right" nowrap="nowrap"> 9.4 </td><td valign="top"> BAJA CALIFORNIA, MEXICO</td></tr> <tr><td valign="top" align="center" nowrap="nowrap">MAP</td><td valign="top" align="center" nowrap="nowrap"> 6.4 </td><td valign="top" align="center" nowrap="nowrap">2010/10/08 03:26:14 </td><td valign="top" align="right" nowrap="nowrap"> 51.421 </td><td valign="top" align="right" nowrap="nowrap"> -175.434 </td><td valign="top" align="right" nowrap="nowrap"> 20.6 </td><td valign="top"> ANDREANOF ISLANDS, ALEUTIAN IS., ALASKA</td></tr></tbody></table>
    Earthquake Report - 2010-10-08 : 05:43:10 - (M 6.3) Malaysia

    <table width="100%" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"><tbody><tr><td style="vertical-align: top;" width="150"> [​IMG]

    </td> <td style="vertical-align: top; text-align: right;" width="100%"> RSOE Emergency and Disaster Information Service
    Budapest, Hungary </td> </tr><tr> <td colspan="2" height="1"><hr noshade="noshade" size="1"></td> </tr> <tr> <td colspan="2" valign="top"> <table width="100%" border="0" cellpadding="2" cellspacing="2"> <tbody><tr> <td colspan="2" valign="top" width="100%">Preliminary Earthquake Report</td> </tr> <tr> <td valign="top" width="100%" align="left"> Earthquake details
    Magnitude: 6.3
    Depth: 144.90 km
    Latitude: <small>2.7537</small>
    Longitude: <small>128.1979</small>
    Date-Time:


    • 2010-10-08 at 05:43:10 UTC
    • Thursday, October 07, 2010 at 14:43 in the afternoon at epicenter
    Location:

    • Continent: Indonesian archipelago
    • Country: Malaysia
    • State/County/Gov.:
    • Location: Petaling Jaya
    • Distances: 3,132.40 km Course: É
    • Population: 520698 persons [Near the epicenter]
    Data source:
    <small>USGS</small>
    Data processing and analisys:
    <small>RSOE EDIS - Data Processing and Analisys System</small> </td> <td valign="top" width="500"> [​IMG] </td> </tr> </tbody></table> </td> </tr> <tr> <td colspan="2" valign="top">
    Risk Analisys
    Nuclear Power Plant: <small>There are no nuclear facilties nearby the epicenter.</small>
    Airport(s): <small>There are airports nearby the epicenter.</small>
    Port(s): <small>There are no marine ports nearby the epicenter.</small>
    Volcanoes: <small>There are no volcanoes nearby the epicenter.</small>
    </td></tr></tbody></table>
     
  10. Falkman

    Falkman พลังจิตนานาชาติ ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    19,726
    ค่าพลัง:
    +77,791
    ปีนี้โหดนะ

    แล้งก็แล้งจริงๆ - แม่น้ำโขงจะเดินข้ามได้เลย น้ำในเขื่อนหมดเกลี้ยง
    ฝนก็ฝนตกกระหน่ำ - แต่ละประเทศ โดนจนในหนังว่าน่ากลัวของจริงน่ากลัวกว่าเยอะ
    หนาว - เห็นว่าจะหนาวสุดในรอบ 1 พันปี (จริงหรือเปล่าเนี่ยะ)
    :boo:
     
  11. marine24

    marine24 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    2,223
    ค่าพลัง:
    +15,633
    คงจะต้องเริ่มตรวจเช็ค เสื้อกันหนาว ถุงมือ รองเท้าหุ้มข้อ(ถ้าหายาก รองเท้าบู๊ทยางที่ใส่ลุยน้ำทำงานในโรงงาน พอใช้แก้ขัดใส่แทนรองเท้าบู๊ทหนังไปก่อนได้ ) หมวกไหมพรม ถุงนอน ว่ายังมีอยู่ครบ หรือจำหน่ายไปแล้ว
     
  12. Nirvana

    Nirvana เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กุมภาพันธ์ 2005
    โพสต์:
    8,188
    ค่าพลัง:
    +20,865

    เวรกรรม จริงหนอ.....:'(
     
  13. บัวรองพุทธบาท

    บัวรองพุทธบาท เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    194
    ค่าพลัง:
    +745
    อืมมม Thailand Only
     
  14. bluejet

    bluejet เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    352
    ค่าพลัง:
    +2,181
    สถานการณ์ในเฮติ เรียบเรียงสรุปจากข่าวต่างประเทศ

    เป็นเวลา ๙ เดือนมาแล้ว นับจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวที่ เฮติ เมื่อวันที่ ๑๒ มกราคม ๒๕๕๓ เป็นผลให้มีผู้เสียชีวิตราว ๓ แสนคน และทำให้มีผู้ไร้ที่อยู่อาศัยอีกราว ๑.๓ ล้านคน ซึ่งปัจจุบันอาศัยอยู่ในค่ายพักชั่วคราวประมาณ ๑๓๐๐ แห่ง พบว่า ร้อยละ ๗๐ ของค่ายเหล่านั้น ขาดการบริหารจัดการที่เหมาะสมตามมาตราฐานนานาชาติ และเริ่มมีระดับความเสี่ยงสูงขึ้น ในเรื่อง ความรุนแรงทางเพศต่อผู้หญิงและเด็ก ความรุนแรงจากบรรดาแก๊งอันธพาล ความอดอยาก และ การโดนขับไล่ออกจากที่ดิน

    สำนักข่าว เอพี รายงานว่า ปัญหาหนึ่งก็คือว่า เงินที่รัฐบาลสหรัฐสัญญาไว้ว่าจะให้ กว่า ๑ พันล้านเหรียญนั้น ยังไม่ถึง เฮติ แม้แต่ เซ็นต์เดียว

    สรุปประเด็นมาให้ทราบ เพื่อเอาไว้เป็นอุทาหรณ์ ว่าหากเกิดภัยธรรมชาติรุนแรง จะมีอะไรตามมาอีกบ้าง
     
  15. Lazaza

    Lazaza เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    991
    ค่าพลัง:
    +5,549
    ======================================


    8 ต.ค. 53

    หวยล็อค

    30 ธ.ค.-------นั้นเลขสวย-------วันหวยออก
    แต่ขอบอก------29 ธ.ค.---------นั้นสวยกว่า
    2 บวก 9-------เท่า 11----------นั้นเพราะว่า
    ที่ดีกว่า---------วัน 17-----------เด็ดกว่าแน่

    ถ้าหวยออก-------ต้อง 29---------ตามตำรา
    เรื่องแล้วมา-------ก็ได้ออก--------ให้ได้เห็น
    แต่ 17-----------อาจจะออก------อย่าใจเย็น
    จงอย่าเน้น--------วัน 30----------เดี๋ยวผิดเอย




    องค์อินทร์ ๙๗
    ทำการแทน


    ======================================
    ภาพฐานผาแบ่นบางส่วนค่ะ
    ภาพความคืบหน้าฐานผาแบ่น
    ที่มา นาม "องค์อินทร์ ๙๗"







    ---------------------------------------------------------------------
    หลงทางเสียเวลา แต่ไหนแต่ไรมา พระพุทธเจ้าท่านสอนแต่เรื่องทุกข์ และการพ้นทุกข์เท่านั้น<!-- google_ad_section_end -->
     
  16. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,193
    ขอนแก่น-เข้าคิวรอซื้ออาหารเจกันแต่เช้า

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    ประชาชนชาวจังหวัดขอนแก่นหันมาทานอาหารเจกันเพิ่มขึ้นกว่าปีที่แล้ว เนื่องจากเห็นว่าเป็นการพักผ่อนร่างกาย และขับสารพิษไปในตัว นอกจากนี้ยังเป็นการทำบุญกุศลไปในตัวด้วยการไม่ทานเนื้อสัตว์

    ปีนี้ที่จังหวัดขอนแก่นมีประชาชนหันมาทานอาหารเจมากเพิ่มขึ้นกว่าปีที่แล้ว จึงมีประชาชนออกมาหาซื้ออาหารเจกันไปทานกันเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะที่ตลาดสดบางลำพู ซึ่งทางเทศบาลนครขอนแก่น ร่วมกับทางสาธารณสุขจังหวัดขอนแก่นได้จัดบริเวณสถานที่สำหรับขายอาหารเจไว้เป็นพิเศษ พร้อมกับคัดสรรร้านค้าฝีมือดี มีคุณภาพในด้านการทำอาหารเจมาออกร้านจำนวน 15 ร้าน เพื่อให้ประชาชนได้ซื้ออาหารเจไปบริโภคกันอย่างทั่วถึง จึงทำให้ประชาชนมายืนเรียงคิวรอซื้ออาหารเจกันแต่เช้า เพราะรีบไปทำงาน

    ส่วนราคาอาหารเจนั้นก็ยังคงราคาปกติเท่ากับปีที่ผ่านมา ถึงแม้ว่าราคาพืชผักจะสูงขึ้นกว่าปกติก็ตาม โดยราคาขายอยู่ที่ถุงละ 15-20 บาท ถ้าต้องการรับประทาน ที่ร้านเลยโดยอาหารเจราดข้าวก็อยู่ที่ราคา กับข้าวอย่างเดียวจานละ 25 บาท อาหาร 2 อย่างจานละ 30 บาท

    ข่าวทีวีช่อง 3 วันศุกร์ ที่ 8 ตุลาคม พ.ศ. 2553

    นครสวรรค์-น้ำล้นคันดินกั้นน้ำไหลท่วมนาข้าวกว่า 1,000 ไร่

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    ฝนตกหนักประกอบกับแม่น้ำน่าน-ยม เอ่อล่นคันดินกั้นน้ำไหลเข้าท่วมนาข้าวเสียหายกว่า 1,000 ไร่

    ที่จังหวัดนครสวรรค์ ฝนที่ตกลงมาอย่างหนัก ประกอบกับได้รับผลกระทบจากแม่น้ำยมและแม่น้ำน่าน ทำให้ไหลล้นคันดินที่ป้องกันน้ำท่วมนาข้าว ทะลักเข้าท่วมนาข้าวของชาวนาในพื้นที่ บ้านห้วยรั้ว ม.8 ต.หนองเต่า อ.เมือง จ.นครสวรรค์ เสียหายกว่า 1,000 ไร่ ขณะที่ข้าวกำลังตั้งท้องรอการเก็บเกี่ยวในอีก 7 วันข้างหน้า ชาวนาจำใจเกี่ยวข้าวใต้น้ำขายทั้งที่รู้ว่าไม่ได้ราคา ล่าสุดองค์การบริหารส่วนตำบลฯ ได้เข้าพื้นที่และจัดเตรียมการช่วยเหลือเป็นการเร่งด่วนแล้ว

    นางละเอียด ส้มมีสี ชาวนาในพื้นที่ ม.8 ต.หนองเต่า อ.เก้าเลี้ยว จ.นครสวรรค์ กล่าวว่า คันดินที่ องค์การบริหารส่วนตำบลหนองเต่า ที่เคยสร้างไว้ป้องกันน้ำท่วมเข้านาสูงกว่า 1 เมตร กั้นน้ำไม่ไหวเนื่องจากฝนที่ตกลงมาอย่างหนักประกอบกับน้ำในแม่น้ำน่านและแม่น้ำยมไหลมาสมทบ ทำให้น้ำเอ่อล้นไหลเข้าท่วมนาข้าวของชาวบ้านเสียหายเป็นจำนวนมาก ขณะที่ข้าวกำลังตั้งท้องรอการเก็บเกี่ยวในอีก 7 วันข้างหน้า ตนจึงต้องเกณฑ์ชาวบ้านนำเรือ มาช่วยกันเกี่ยวข้าวใต้น้ำเพื่อนำไปขาย ทั้งที่รูว่าไม่ได้ราคา

    ขณะที่นาย ถวิล เจริญคง นายกองค์การบริหารส่วนตำบลหนองเต่า ได้ลงพื้นที่เพื่อสำรวจความเสียหาย พบว่า นาข้าวของชาวบ้านถูกน้ำท่วมเสียหายกว่า 1,000 ไร่ โดยบอกว่า ปีนี้ปริมาณน้ำมาไว และมากกว่าที่คาดการณ์เอาไว้ แม้ตนได้สร้างคันดินป้องกันน้ำซึ่งสูงกว่า 1 เมตร ยังรับน้ำไม่อยู่ ซึ่งตอนนี้ก็ได้ประสานไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อเตรียมช่วยเหลือชาวนาเป็นการเร่งด่วนแล้ว

    ข่าวทีวีช่อง 3 วันศุกร์ ที่ 8 ตุลาคม พ.ศ. 2553

    เชียงราย-รมต.สุวิทย์ ลงพื้นที่ตรวจดินทรุดดอยแม่สลอง

    [​IMG]

    รมต.สุวิทย์ ลงพื้นที่ตรวจการทรุดตัวของดินบนดอยแม่สลอง โดยให้เจ้าหน้าที่ตรวจพื้นดินทั้งหมดว่ามีความแข็งแรงหรือไม่พร้อมนำปัญหาเข้าหารือ ครม.อังคารที่ 12 ต.ค.นี้ เพื่อให้การช่วยเหลือชาวบ้าน

    นายสุวิทย์ คุณกิตติ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องในด้านธรณีวิทยา เจ้าหน้าที่ป่าไม่ เจ้าหน้าที่โยธา ลงพื้นที่ตรวจการทรุดตัวของดินจนเกิดรอยแยกยาวกว่า 300 เมตร ส่งผลให้มีบ้านเรือนประชาชนจำนวน 8 หลังคาเรือน โรงแรม 1 แห่ง ได้รับความเสียหาย บริเวณบ้านสันติคีรี หมู่ 1 ต.แม่สลองนอก อ.แม่ฟ้าหลวง จ.เชียงราย

    เบื้องต้นจากการตรวจสอบพบว่าเกิดจากสาเหตุน้ำใต้ดินที่กัดเซาะดินที่ลึกลงไปประมาณ 2-10 เมตร จนทำให้ดินทรุดตัวดังกล่าว และขณะนี้ก็ยังพบว่ามียังมีน้ำใต้ดินปริมาณมาก จึงไม่สามารถนำเครื่องจักรกลหนัดเข้าพื้นที่ได้ เพราะเกรงว่าดินจะทรุดตัวเพิ่มอีก ดังนั้นได้ให้ใช้กำลังคนในการรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างออกให้หมด เพื่อป้องกันความปลอดภัย

    ส่วนการช่วยเหลือชาวบ้านนั้นได้ให้ ทางองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและทางจังหวัดเข้ามาดูแลชาวบ้าน โดยให้ใช้งบกลางในการดำเนินการ ซึ่งในวันอังคารที่ 12 นี้ ทางกระทรวงฯ ก็จะนำเรื่องนี้เข้า ครม. เพื่อขออนุมัติในการช่วยเหลือชาวบ้านในระยะยาวต่อไป

    ส่วนการศึกษาพื้นดินบนดอยแม่สลองนั้น นอกเหนือจากจุดที่มีการทรุดตัวก็ได้ให้เจ้าหน้าที่ทำการสำรวจพื้นดินทุกตรางนิ้วของดอยแม่สลองว่ายังแข็งแรงอยู่หรือไม่ เพื่อป้องกันความปลอดภัยให้กับประชาชนที่อาศัยในพื้นที่และยังสามารถเป็นการสร้างความมั่นใจให้กับนักท่องเที่ยวว่าพื้นดอยแม่สลองนั้น ยังสามารถมาท่องเที่ยวได้ตามปกติ

    ขณะที่มีข้อมูลบางส่วนระบุว่าอาจมากจากเส้นทางน้ำไหลจากวัดสันติคีรี ซึ่งอยู่เหนือหมู่บ้านขึ้นไปนั้นได้มีการศึกษาเช่นกัน และหากพบว่ามีจริงก็จะให้มีการประชุมร่วมกับเจ้าหน้าที่ทหาร ป่าไม้ ในการศึกษาขุดเจาะแนวเขาเพื่อเปลี่ยนเส้นทางน้ำใต้ดินใหม่

    ข่าวทีวีช่อง 3 วันศุกร์ ที่ 8 ตุลาคม พ.ศ. 2553

    ที่มา http://www.krobkruakao.com
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  17. เมทิกา

    เมทิกา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    952
    ค่าพลัง:
    +2,393
    เป็นความฝันของเราคนเดียว..ไม่เกี่ยวกับใคร อิอิ

    ก่อนหลับ ครูบาอาจารย์ท่านมาสงเคราะห์ให้ค่ะ

    เห็นถนนราชดำเนิน อนุสาวรีย์ประชาธิไปไตย เราลอยอยู่ มองลงมา

    โอ้...ถนนเส้นนี้กลายเป็นเมืองร้างไปแล้ว คนและรถหายไปไหนหมด ไร้ซึ่งสิ่งมีชิวิตใดๆ
    เงียบกริบมากๆ เราสงสัยในใจว่าคนหายไปไหน

    ตัดมาภาพอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย เห็นแต่แท่งดาบตรงกลาง (ขออภัยเรียกไม่ถูก) รูปปั้นวีรบุรุษและวีรสตรีที่อยู่คู่ที่นี่อันตรธานหายไปไหน??

    เห็นสะพายแขวนเจ้าเดิมอีกแล้ว แต่มองในระดับสายตาเดียวกัน เห็นชัดเลยว่าเป็นสะพานพระรามเก้าชัวร์ๆ เห็นรถบนสะพานเต็มไปหมด และสะพาน + ทางด่วนอื่นๆมีแต่รถติดยาวเหยียดเต็มไปหมด (คงอพยพกันนี่เอง) น้ำสีน้ำเงินเข้มเริ่มปริ่มขึ้นมา เห็นแสงอะไรไม่รู้สีเหลืองสว่างจ้ามากๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ มาจากด้านหลังของสะพาน (เรามองจากแม่น้ำ มองเห็นสะพานในระดับสายตา ด้านหลังที่ว่าคงเป็นตึกต่างๆล่ะมั้ง) แล้วก็จบ...เห็นแค่นี้แล

    แฟนตาซีดีไหม เขานับถอยหลังวันกวาดล้างกันแล้วนะ ทุกอย่างเริ่มเข้าที่เข้าทางแน่นอนแล้วนะ ใครที่ไม่เชื่อ ไม่ต้องไปช่วยแล้วนะ น่าเบื่อ อุเบกขาไปเถอะ

    เอาเวลาไปสงเคราะห์ผู้ที่ควรสงเคราะห์จะดีกว่า
     
  18. วรเดช

    วรเดช เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    1,753
    ค่าพลัง:
    +6,146
    <TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 bgColor=#e2e2e2 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ecfae0>ฝนเริ่มลด เหนือ-อีสาน อากาศเย็นตอนเช้า</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ffffff><TABLE class=A14 border=0 cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" align=center><TBODY><TR bgColor=#cccccc><TD vAlign=center> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top>กรมอุตุนิยมวิทยารายงานสภาพาอากาศประจำวันที่ 8 ตุลาคม 2553

    ลักษณะอากาศทั่วไปเมื่อเวลา 04:00 น. บริเวณความกดอากาศสูงจากประเทศจีนยังคงปกคลุมประเทศไทยตอนบน ทำให้บริเวณดังกล่าวมีฝนลดลง ในขณะที่ภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือจะมีอากาศเย็นในตอนเช้า

    ร่องมรสุมที่พาดผ่านทะเลอันดามัน ภาคใต้ และ อ่าวไทย เริ่มมีกำลังอ่อนลง ทำให้ภาคตะวันออก และภาคใต้ มีฝนฟ้าคะนองกระจายในระยะนี้


    พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทยตั้งแต่เวลา 06:00 วันนี้ ถึง 06:00 วันพรุ่งนี้.


    ภาคเหนือ
    อากาศเย็นในตอนเช้า โดยมีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 30 ของพื้นที่
    ส่วนมากบริเวณจังหวัดแม่ฮ่องสอน เชียงราย เชียงใหม่ พะเยา น่าน ตาก และเพชรบูรณ์
    อุณหภูมิต่ำสุด 21 องศา สูงสุด 34 องศา
    ลมตะวันออก ความเร็ว 10-30 กม./ชม.



    ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

    อากาศเย็นในตอนเช้า โดยมีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 20 ของพื้นที่
    ส่วนมากบริเวณจังหวัดนครพนม มุกดาหาร อำนาจเจริญ นครราชสีมา และอุบลราชธานี
    อุณหภูมิต่ำสุด 22 องศา สูงสุด 33 องศา
    ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.



    ภาคกลาง
    มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 30 ของพื้นที่
    ส่วนมากบริเวณจังหวัดอุทัยธานี สระบุรี กาญจนบุรี ราชบุรี และสมุทรสงคราม
    อุณหภูมิต่ำสุด 24 องศา สูงสุด 34 องศา
    ลมตะวันออก ความเร็ว 15-30 กม./ชม.



    ภาคตะวันออก

    มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40 ของพื้นที่
    ส่วนมากบริเวณจังหวัดนครนายก ชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด
    อุณหภูมิต่ำสุด 25 องศา สูงสุด 34 องศา
    ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.
    ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ส่วนบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองมีคลื่นสูง ประมาณ 2 เมตร



    ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก)
    มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 60 ของพื้นที่
    ส่วนมากบริเวณจังหวัดชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส
    อุณหภูมิต่ำสุด 23 องศา สูงสุด 33 องศา
    ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.
    ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ส่วนบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองมีคลื่นสูง ประมาณ 2 เมตร



    ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก)
    มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 60 ของพื้นที่
    ส่วนมากบริเวณจังหวัดระนอง พังงา และภูเก็ต
    อุณหภูมิต่ำสุด 24 องศา สูงสุด 33 องศา
    ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 20-35 กม./ชม.
    ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองมีคลื่นสูง มากกว่า 2 เมตร



    กรุงเทพมหานครและปริมณฑล

    มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40 ของพื้นที่
    อุณหภูมิต่ำสุด 26 องศา สูงสุด 34 องศา
    ลมใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.


    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์มติชน
    [​IMG]</CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  19. วรเดช

    วรเดช เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    1,753
    ค่าพลัง:
    +6,146
    [​IMG]
    เตือน!! ระวัง 4 กลุ่ม เตรียมก่อการร้าย สังหารผู้นำ
    ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายสมชาย แสวงการ สว.สรรหา ในฐานะประธานกรรมาธิการสิทธิมนุษยชน สิทธิเสรีภาพ และการคุ้มครองผู้บริโภค เรียกร้องให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ ติดตามตรวจสอบการเคลื่อนไหวของกลุ่มบุคคล 4 กลุ่ม ซึ่งได้รับรายงานจากหน่วยงานความมั่นคงว่ามีการเตรียมก่อเหตุรุนแรง
    ทั้งนี้ ประกอบด้วย
    -กลุ่มนายนิคม หรือจักร
    -กลุ่มนายชิดชัย หรือนายประโคน
    -กลุ่มพิราบขาว หรืออดีตการ์ดของกลุ่มคนเสื้อแดง
    -กลุ่มของนายธงชัย
    ซึ่งทั้ง 4 กลุ่ม มีเป้าหมายฝึกกองกำลังเตรียมก่อเหตุรุนแรงในพื้นที่ต่างๆ รวมถึงการลอบสังหารบุคคลสำคัญด้วย
    นอกจากนี้ยังพบว่าทั้ง 4 กลุ่มมีความสัมพันธ์แนบแน่นกับแกนนำกลุ่มคนเสื้อแดง และมีการเคลื่อนไหวตลอดเวลา ซึ่งหากประเมินจะพบว่ามีความสอดคล้องกับเหตุระเบิดที่สมานเมตตาแมนชั่น เนื่องจากนาย นายสมัย วงศ์สุวรรณ์ ชายผู้ต้องสงสัยว่าเป็นผู้ก่อเหตุระเบิด เคยร่วมการชุมนุมกับกลุ่มคนเสื้อแดง รวมถึงยังมีการตรวจพบอาวุธร้ายแรง ใกล้ที่ทำการพรรคเพื่อไทยเดิมด้วย
    โดย ทีมข่าว Mthai
    <LI class=news_src_item>[​IMG]


    <TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 bgColor=#e2e2e2 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ecfae0>หนุ่มคลั่งยาบ้าใช้"มีดอีโต้"สับหัว-ร่างเด็กอายุ 2 ขวบ ดับอนาถ </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ffffff><TABLE class=A14 border=0 cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" align=center><TBODY><TR bgColor=#cccccc><TD vAlign=center> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
    ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 10.00 น.วันที่ 8 ต.ค. ร.ต.อ.ประเสริฐ ดอนวิชา ร้อยเวร สภ.ปรางค์กู่ เปิดเผยว่า

    เมื่อเวลา 12.00 น.วันที่ 7 ต.ค. 52 ซึ่งเป็นวันแซนโดนตาหรือวันสาร์ทเขมร ได้เกิดเหตุหนุ่มคุ้มคลั่งเนื่องจากอาการเมายาบ้า ใช้มีดอีโต้สับหัวและร่างกายของ ด.ช.ศุภวุธ ประยศ อายุ 2 ขวบ

    ซึ่งกำลังนอนหลับอยู่ในเปลภายในบ้านเลขที่ 44 หมู่ 9 บ้านพล็อง ต.ตูม อ.ปรางค์กู่ จ.ศรีสะเกษ โดยขณะเกิดเหตุนางอัธยาพร แสงมาก อายุ 24 ปี แม่ของ ด.ช.ศุภวุธ กำลังไปช่วยเพื่อนบ้านห่อข้าวต้มเพื่อจัดงานแซนโดนตา และเมื่อได้ยินเสียงชาวบ้านร้องตะโกนโวยวาย นางอัธยาพรจึงได้รีบวิ่งกลับมาบ้านซึ่งอยู่ใกล้กัน เมื่อเห็นภาพลูกชายของตนกำลังถูกนายมนตรี ผิวหอม อายุ 21 ปี อยู่บ้านเลขที่ 6 หมู่ 9 หมู่บ้านเดียวกัน กำลังใช้มีดอีโต้สับหัวและสับร่างของลูกชายของตนเอง ทำให้นางอัธยาพรช็อคเป็นลมหมดสติไป ขณะที่ชาวบ้านที่เห็นเหตุการณ์ได้รวมกลุ่มกันและพากันเข้าไปจับตัวนายมนตรีเอาไว้ ซึ่งนายมนตรีจะใช้มีดอีโต้เป็นอาวุธต่อสู้กับชาวบ้าน แต่ถูกรุมจับเอาไว้ได้


    ร.ต.อ.ประเสริฐ กล่าวต่อไปว่า จากการสอบสวนเบื้องต้นทราบว่า

    นายมนตรีเคยไปทำงานอยู่ที่ จ.ชลบุรี และได้เสพยาบ้าเป็นประจำ จากนั้นได้กลับมาอยู่ที่บ้าน และเกิดการคุ้มคลั่งหิวยาบ้าอย่างหนัก โดยก่อนหน้านี้นายมนตรีได้ใช้มีดอีโต้เล่มเดียวกันนี้สับหัวไก่ที่เลี้ยงอยู่ในเล้าที่บ้านของตนเองตายกว่า 20 ตัว เพราะความคลุ้มคลั่งด้วยพิษยาบ้าอย่างรุนแรง ซึ่งในวันเกิดเหตุ นายมนตรีได้ถือมีดอีโต้เดินออกจากบ้านและได้เดินมาที่บ้านของนางอัธยาพร ซึ่งขณะนั้น ด.ช.ศุภวุธ อายุ 2 ขวบ กำลังนอนหลับอยู่ในเปลภายในบ้าน ขณะที่นางอัธยาพรไปช่วยเพื่อนบ้านห่อข้าวต้ม เพื่อทำบุญแซนโดนตาอยู่ใกล้กัน และด้วยความคุ้มคลั่งด้วยพิษยาบ้า นายมนตรีได้เข้ามาใช้มีดอีโต้สับที่หัวของ ด.ช.ศุภวุธจนเละแหลกละเอียดและสับตามร่างของ ด.ช.ศุภวุธ ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ควบคุมตัวนายมนตรีไว้ที่ สภ.ปรางค์กู่ และตั้งข้อหาว่าฆ่าคนตายโดยเจตนา ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป


    ร.ต.อ.ประเสริฐ กล่าวต่อว่า ขณะนี้นางอัธยาพรขณะนี้ยังไม่รู้สึกตัวเนื่องจากอาการช็อคอย่างรุนแรง ยังพักรักษาตัวอยู่ที่ รพ.ปรางค์กู่ ซึ่งอยู่ในการดูแลของแพทย์อย่างใกล้ชิด ส่วนศพของ ด.ช.ศุภวุธ ได้ถูกส่งไปที่ รพ.ศรีสะเกษ เพื่อแช่เย็นเอาไว้ รอญาติมารับไปประกอบพิธีทางศาสนาต่อไป

    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์มติชน
    [​IMG]</CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

    มันกลับมาอีกแล้วครับ....เฮ้อ
     
  20. เมทิกา

    เมทิกา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    952
    ค่าพลัง:
    +2,393
    คิดไปคิดมา สงสัยที่ว่าทำไมใช้เส้นสะพานพระรามเก้าเพื่อออกต่างจังหวัดกัน

    เพราะสะพานพระรามเก้าไปออกทางธบนุรี-ปากท่อไม่ใช่เหรอ???

    นึกไปนึกมาแว้บขึ้นมาได้ว่า เพราะสะพานพระรามเก้ามันสูงนี่เอง!!! ถูกป่ะ

    แล้วที่เราเห็นภาพนั้น ก็เห็นแต่รถติดหยุดนิ่งบนสะพานสูงๆ ถนนพื้นราบเงียบเป็นป่าช้า

    แต่ผู้ที่ไม่ได้มีบุญกุศลหนุนนำมาก่อน หนีขึ้นที่สูงอย่างเดียวก็ใช่ว่าจะรอดนะจ๊ะ หุหุ
     

แชร์หน้านี้

Loading...