ประเทศไทยจะเกิดอุบัติภัยอย่างที่ทำนายกันจริงๆหรือไม่

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย koymoo, 25 มกราคม 2005.

  1. อบ.

    อบ. เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    430
    ค่าพลัง:
    +1,538
    เพิ่มอีกวัด . .

    วัดปทุมวนาราม ราชวรวิหาร

    หมายกำหนดการตามที่จำได้

    ศุกร์ ๓๑ ธันวาคม ๒๕๕๓

    ๗.๐๐ น. พระสงฆ์บิณฑบาตรในสวนป่าพระราชศรัทธา นำโดยพระราชพิพัฒนาทร (หลวงพ่อถาวร จิตฺตถาวโร)

    ๗.๓๐ น. ถวายภัตตาหาร ให้พร แสดงธรรม

    ๑๐.๐๐ น. ใส่บาตร ถวายสังฆทาน

    ๑๑.๐๐ น. ถวายเพล

    ๑๓.๐๐ น. แสดงธรรม

    ๑๘.๓๐ น. สวดมนต์ทำวัตรเย็น เวียนเทียนรอบพระบรมสารีริกธาตุ และพระอรหันตธาตุ

    ๑๙.๐๐ น. แสดงธรรม

    ๒๐.๐๐ น. ปฏิบัติธรรมตลอดคืน (เนสัชชิก)

    ๒๔.๐๐ น. สวดมนต์ส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่



    เสาร์ที่ ๑ มกราคม ๒๕๕๔

    ๑.๐๐ น. ถวายพระพุทธรูป ๕ พระองค์

    ๔.๐๐ น. สวดมนต์ทำวัตรเช้า

    ๗.๐๐ น. พระสงฆ์บิณฑบาตรในสวนป่าพระราชศรัทธา นำโดยพระราชพิพัฒนาทร (หลวงพ่อถาวร จิตฺตถาวโร)

    ๗.๓๐ น. ถวายภัตตาหาร ให้พร แสดงธรรม

    ๑๐.๐๐ น. ใส่บาตร ถวายสังฆทาน

    ๑๑.๐๐ น. ถวายเพล

    ๑๓.๐๐ น. แสดงธรรม

    ๑๘.๓๐ น. สวดมนต์ทำวัตรเย็น เวียนเทียนรอบพระบรมสารีริกธาตุ และพระอรหันตธาตุ

    ๑๙.๐๐ น. แสดงธรรม


    หมายเหตุ
    หากผิดพลาดหรือคลาดเคลื่อน ก็ขออภัยด้วยค่ะ จดมาคร่าวๆ ประมาณนี้นะคะ

    วัดปทุมวนาราม ราชวรวิหาร ตั้งอยู่ที่ ถนนพระรามที่ 1 แขวงปทุมวัน เขตปทุมวัน กรุงเทพมหานคร อยู่ระหว่างศูนย์การค้าสยามพารากอนและห้างเซ็นทรัลเวิลด์ วัดนี้เป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูปพระเสริมศักดิ์สิทธิ์ พระพุทธรูปสร้างพร้อมกัน จำนวน 3 องค์ ได้แก่ พระเสริมพระแสน และ พระสุก

    วัดปทุมวนาราม ราชวรวิหาร ยังเป็นตั้งของพระเจดีย์ ที่เป็นที่ประดิษฐานพระบรมอัฐิ พระราชสรีรางคาร และพระอัฐิของพระเจ้าอยู่หัวและพระราชวงศ์ในราชสกุลมหิดลหลายพระองค์ เช่น สมเด็จพระศรีสวรินทิราบรมราชเทวี พระพันวัสสาอัยยิกาเจ้า สมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก สมเด็จพระราชปิตุจฉา เจ้าฟ้าวไลยอลงกรณ์ กรมหลวงเพชรบุรีราชสิรินธร พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอานันทมหิดล และสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี


    วัดปทุมวนารามราชวรวิหาร - วิกิพีเดีย
     
  2. อบ.

    อบ. เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    430
    ค่าพลัง:
    +1,538
    “วัดปทุมวนาราม” แดนสงบงามกลางป่าคอนกรีต<HR>[​IMG]
    พระเสริมและพระแสน ภายในพระวิหาร




    ถ้าจะพูดถึงแหล่งที่มีห้างสรรพสินค้ามารวมกันอยู่มากที่สุดในกรุงเทพฯ คงต้องยกให้ย่านสยามสแควร์ เพราะลองนับๆ ดูแล้วแถวนี้มีห้างสรรพสินค้าอยู่เกือบสิบแห่งทีเดียว ไม่ว่าจะเป็นสยามสแควร์ สยามเซ็นเตอร์ สยามดิสคัฟเวอรี่ สยามพารากอน เซ็นทรัลเวิลด์พลาซ่า เกษรพลาซ่า อัมรินทร์พลาซ่า และอื่นๆ อีกมากมาย เป็นต้น แน่นอนว่าจำนวนของผู้คนที่เดินทางผ่านไปมาในย่านนี้ก็ต้องยิ่งมากทวีคูณเข้าไปอีก

    แต่ในวงล้อมของห้างสรรพสินค้าป่าคอนกรีต ความจอแจของผู้คนโดยเฉพาะเด็กแนวสายเดี่ยว รวมไปถึงรถราที่หนาแน่นทั้งหลายนี้ มีสถานที่อยู่แห่งหนึ่งที่ดูเหมือนจะอยู่เหนือความพลุกพล่านทั้งหมด และยังคงความสงบอยู่ได้อย่างไม่น่าเชื่อ ที่แห่งนั้นก็คือ “วัดปทุมวนาราม” หรือ “วัดปทุมวนาราม ราชวรวิหาร” นั่นเอง

    [​IMG]
    พระบรมราชานุสาวรีย์ของรัชกาลที่ 4


    เคยได้ยินชื่อเสียงของวัดปทุมวนารามมานานแล้ว ว่าเป็นวัดกลางเมืองที่มักจะมีผู้คนมานั่งสมาธิปฏิบัติธรรมกันมาก ก็ให้สงสัยยิ่งนักว่าจะมีความสงบได้จริงหรือในสิ่งแวดล้อมเช่นนี้ คราวนี้จึงต้องมาพิสูจน์ด้วยตนเอง ลงจากรถไฟฟ้าสถานีสยาม ก็เดินตรงเข้ามายังวัดปทุมวนาราม พร้อมกับนึกถึงประวัติของวัดที่รู้มาว่า พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 4 ทรงมีพระราชประสงค์ให้จัดทำรมณียสถาน หรือพูดง่ายๆ ก็คือ สถานตากอากาศ ที่อยู่นอกพระนคร โดยทรงมีนาหลวงอยู่บริเวณทุ่งพญาไท ริมคลองบางกะปิ ซึ่งเป็นที่ลุ่มต่ำมีน้ำขังตลอดเวลาและมีบัวขึ้นอยู่ทั่วไป บริเวณดังกล่าวเป็นที่อยู่ของชาวล้านช้าง หรือชาวลาวที่ถูกกวาดต้อนเข้ามาตั้งแต่สมัยกบฏเจ้าอนุวงศ์เวียงจันทน์

    ในการก่อสร้างครั้งนั้น ได้มีการจ้างชาวจีนมาขุดลอกสระ 2 สระเชื่อมต่อกัน สระทางด้านเหนือเรียกว่า สระใน เป็นเขตหวงห้ามส่วนพระองค์และฝ่ายใน ส่วนทางด้านใต้เรียกว่า สระนอก ทรงอนุญาตให้ข้าราชการและราษฎรทั่วไปมาเล่นเรือกันได้ และภายในสระทั้งสองนั้นก็ปลูกบัวพันธุ์ต่างๆ ไว้ ไม่ว่าจะเป็นบัวสาย บัวผัน บัวเผื่อน บัวหลวง ฯลฯ ออกดอกงดงามเต็มสระ

    [​IMG]
    พระอุโบสถวัดปทุมวนาราม


    และบริเวณสระบัวนั้นยังได้สร้างที่ประทับสำหรับพระองค์ และเรือนฝ่ายในเป็นที่ประทับของเจ้าจอม รวมไปถึงโรงเรือนโรงครัวต่างๆ ซึ่งพระองค์ให้พระราชทานนามให้แก่สถานที่แห่งนี้ว่าปทุมวัน และทรงเรียกบริเวณที่ประทับว่า วังสระปทุม

    ไม่ใช่เฉพาะแต่ที่ประทับเท่านั้น แต่พระองค์ยังได้ทรงสร้างวัดขึ้นบริเวณด้านทิศตะวันตกของสระนอก เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแก่ สมเด็จพระเทพศิรินทราบรมราชินี พระมเหสี และพระราชทานนามวัดว่า “วัดปทุมวนาราม” แต่ชาวบ้านมักเรียกว่า วัดสระปทุม โดยในเวลาที่พระองค์เสด็จมาประทับที่วังสระปทุมนี้ ก็จะทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้พระสงฆ์จากวัดปทุมวนารามพายเรือเข้าไปบิณฑบาตในสระนี้ด้วย

    มาจนถึงวันนี้ แม้ดอกบัวที่เคยมีอยู่เต็มสระจะเหลือเพียงแค่ไม่กี่ดอกอยู่ในอ่างบัวเท่านั้น แต่ภายในวัดปทุมฯ ก็ยังมีสิ่งที่น่าสนใจหลายสิ่งด้วยกัน สิ่งแรกก็ต้องเป็นเรื่องของพระพุทธรูป เพราะที่วัดแห่งนี้เป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์จากฝั่งลาวถึง 3 องค์ด้วยกัน นั่นก็คือ “พระเสริม” , “พระแสน” และ “พระสายน์”

    [​IMG]
    ทิวทัศน์ของวัดกลางเมือง


    สำหรับพระเสริมและพระแสนนั้นประดิษฐานอยู่ด้วยกันในพระวิหาร “พระเสริม” นั้นเป็นพระพุทธรูปพี่น้องกับ “พระสุก” และ “พระใส” ซึ่งพระราชธิดาของกษัตริย์ล้านช้างทั้ง 3 พระองค์ เป็นผู้สร้างขึ้นและถวายนามของพระองค์เองให้เป็นชื่อของพระพุทธรูปด้วย

    ต่อมาในสมัยรัชกาลที่ 3 กองทัพสยามเดินทางไปตีเมืองเวียงจันทน์เพื่อปราบกบฏเจ้าอนุวงศ์ เมื่อกองทัพจะเดินทางกลับบ้านเมือง ก็ได้อัญเชิญพระพุทธรูปมาจากเมืองเวียงจันทน์มาด้วยหลายองค์ด้วยกัน รวมทั้ง พระสุก พระใส และพระเสริมด้วย

    แต่ในขณะที่เคลื่อนย้ายพระพุทธรูปมาทางลำน้ำงึมออกแม่น้ำโขง ก็ได้เกิดพายุฝนตกหนัก จนทำให้พระสุกหล่นจากแท่นประดิษฐานจมลงใต้แม่น้ำ บริเวณนั้นต่อมาจึงเรียกกันว่าเวินพระสุก หรือเวินสุก ส่วนพระเสริมและพระใสก็ได้อัญเชิญข้ามมายังฝั่งไทยได้อย่างปลอดภัย แต่เมื่อจะอัญเชิญต่อมายังกรุงเทพฯ ก็ปรากฏว่าเกวียนที่ประดิษฐานพระใสนั้นเกิดหักลงอยู่ตรงหน้าวัดโพธิ์ชัย เมืองหนองคาย ทำอย่างไรก็ไปต่อไม่ได้ จึงต้องอัญเชิญพระใสให้ประดิษฐานไว้ที่วัดโพธิ์ชัย เป็นพระคู่บ้านคู่เมืองหนองคายมาแต่บัดนั้น ส่วนพระเสริมนั้นอัญเชิญต่อมาได้จนถึงกรุงเทพฯ และมาประดิษฐานไว้ที่วัดปทุมวนารามอย่างที่เห็นในปัจจุบัน

    [​IMG]
    ประชาชนมานั่งสมาธิภายในศาลาพระราชศรัทธา


    ส่วน “พระแสน” พระพุทธรูปอีกองค์หนึ่งซึ่งประดิษฐานอยู่ในวิหารเดียวกันกับพระเสริมนั้น เดิมประดิษฐานอยู่ในถ้ำที่เมืองมหาไชย แขวงล้านช้าง แต่ได้อัญเชิญมายังกรุงเทพฯ เมื่อรัชกาลที่ 4 มีพระราชประสงค์จะอัญเชิญพระพุทธรูปโบราณจากล้านช้างมาประดิษฐานไว้ในพระอารามที่ทรงสร้างขึ้นใหม่หลายแห่ง

    เช่นเดียวกับ “พระสายน์” ซึ่งประดิษฐานอยู่ในพระอุโบสถของวัดปทุมวนาราม ก็เป็นพระพุทธรูปที่อัญเชิญมาจากเมืองมหาไชย แขวงล้านช้าง ในสมัยรัชกาลที่ 4 เช่นกัน โดยพระแสนและพระสายน์นั้นต่างก็มีความศักดิ์สิทธิเหมือนกัน ตรงที่เมื่อใดเกิดฝนแล้ง ก็จะอัญเชิญท่านออกมาบูชากลางแจ้งและบูชาขอฝนจากท่านได้

    นอกจากพระพุทธรูปทั้งสามองค์นี้แล้ว ระหว่างพระวิหารและพระอุโบสถก็ยังมี พระเจดีย์ ซึ่งเป็นที่ประดิษฐานรอยพระพุทธบาทจำลองทำด้วยหินอ่อน และพระพุทธไสยาสน์หินอ่อนซึ่งได้มาจากลังกาอีกด้วย ส่วนด้านหลังพระเจดีย์ตรงข้ามกับพระวิหารนั้นก็มี พระมณฑปของรัชกาลที่ 4 ซึ่งเป็นผู้ทรงสร้างวัดนี้ขึ้นมา

    [​IMG]
    พระเจดีย์บรรจุพระสรีรังคารของสมเด็จพระมหิตลาธิเบศรฯ


    หากกราบพระเรียบร้อยแล้ว อย่าลืมเดินไปทางด้านหลังพระวิหารออกประตูเล็กๆ ไปเพื่อกราบพระเจดีย์ที่ตั้งอยู่ด้านหน้าหอพระปริยัติธรรม ซึ่งภายในพระเจดีย์นั้นเป็นที่บรรจุพระสรีรังคารของ สมเด็จพระมหิตลาธิเบศรอดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก หรือพระราชบิดาของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช หรือในหลวงของเรานั่นเอง

    หากใครที่เข้ามาชมวัดตรงบริเวณนี้แล้ว ถ้ายังคิดว่าวัดปทุมวนารามยังสงบไม่พอ ก็ต้องไปที่ “สวนป่าพระราชศรัทธา” ซึ่งตั้งอยู่บริเวณด้านหลังของวัด ที่เรียกว่าสวนป่าก็เนื่องจากว่าบรรยากาศในแถบนี้ร่มครึ้มเต็มไปด้วยต้นไม้ใหญ่ร่มรื่น และมี “ศาลาพระราชศรัทธา” ซึ่งเป็นที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุให้ผู้ที่ศรัทธามากราบไหว้ รวมทั้ง ศาลาแห่งนี้ยังเปิดให้ประชาชนเข้าไปนั่งสมาธิ และฟังธรรมได้ โดยจะมีเทปธรรมะเปิดให้ฟังตลอดทั้งวันอีกด้วย หรือหากใครต้องการเดินจงกรมก็สามารถทำได้เช่นกัน

    [​IMG]
    บรรยากาศร่มครึ้มของต้นไม้ในสวนป่าพระราชศรัทธา


    ในตอนที่เดินชมพระอุโบสถและพระวิหารอยู่นั้น ก็รู้สึกขัดตาอยู่บ้างกับตึกสูงทั้งหลายที่ล้อมรอบวัดอยู่ แต่เมื่อเข้ามายัง “สวนป่าพระราชศรัทธา” แห่งนี้แล้ว บรรยากาศเหล่านั้นก็ถูกบดบังไปด้วยต้นไม้ใหญ่หลากหลายนานาพันธุ์มากมายที่อยู่เต็มบริเวณ ซึ่งทำให้เชื่อแล้วว่า แม้ว่าวัดปทุมวนารามจะอยู่ในย่านที่มีผู้คนพลุกพล่านที่สุด แต่ก็ยังคงมีความสงบ ร่มรื่น และมีบรรยากาศของความเป็นวัดอยู่ครบถ้วนไม่ตกหล่นไปไหนจริงๆ

    ดังนั้น หากใครที่ต้องการมาสัมผัสบรรยากาศสงบของวัดที่อยู่ท่ามกลางชุมชน อยากมานั่งสมาธิ ฟังธรรม หรือสนใจอยากจะไปร่วมทำบุญเนื่องในวันอาสาฬหบูชาและวันเข้าพรรษาที่วัดปทุมวนาราม ก็ขอเชิญมาได้ ซึ่งนอกจากจะได้มาร่วมทำบุญถวายสังฆทาน ตักบาตรพระประจำวันเกิด และไหว้พระพุทธรูปสำคัญๆ ภายในวัดแล้ว ก็ยังมีการถวายเทียนพรรษาและผ้าอาบน้ำฝน รวมทั้งมีการเวียนเทียน และแสดงพระธรรมเทศนา 1 กัณฑ์ในวันอาสาฬหบูชาอีกด้วย...โอกาสนี้ก็ขอเชิญเด็กแนวทั้งหลายแถวสยามมาลิ้มรสพระธรรมด้วยเสียเลยก็แล้วกัน

    [​IMG]
    พระอุโบสถวัดปทุมวนาราม


    * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *

    วัดปทุมวนาราม ราชวรวิหาร ตั้งอยู่ที่ ถนนพระรามที่ 1 แขวงปทุมวัน เขตปทุมวัน กรุงเทพมหานคร อยู่ระหว่างศูนย์การค้าสยามพารากอน และห้างเซ็นทรัลเวิลด์ พลาซ่า มีรถประจำทางสาย 2 15, 16, 25, 40, 45, 48, 54, 73, 79, 204, 79 ฯลฯ ผ่าน หรือสามารถนั่งรถไฟฟ้ามาลงที่สถานีสยาม แล้วเดินมาทางที่จะไปแยกเฉลิมเผ่า วัดจะอยู่ทางซ้ายมือ เปิดให้เข้าชมทุกวัน ในเวลา 07.00-18.00 น. สอบถามโทร. 0-2251-6469

    * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *

    โดย ผู้จัดการออนไลน์ 24 กรกฎาคม 2550 16:14 น.

    :: �ҹ�����ѡ� :: :: ��ҹ - ��Ѵ����ǹ����� ᴹʧ������ҧ��Ҥ͹��յ


    วัดปทุมวนารามฯ เปิดให้ประชาชนทั่วไปสามารถเข้าร่วมสวมดมนต์ทำวัตรเช้า –เย็น นั่งสมาธิ ฟังธรรม สวดมนต์ เดินจงกรม หรือทำกิจทางศาสนาอื่นได้ตามอัธยาศัยทุกวัน โดยจะมีเทปธรรมะเปิดให้ฟังตลอดทั้งวัน และทุกวันอาทิตย์ที่ 1 และ 3 ของเดือนจะมีการนิมนต์พระจากวัดต่าง ๆมาเทศน์ ในช่วง 13.00 น.

    สำหรับ “ศาลาพระราชศรัทธา” นี้ สามารถเข้า-ออกได้ตลอด 24 ชม. มีห้องน้ำและน้ำดื่ม มีบริการให้ตลอด

    http://www.pendulumthai.com/smf/index.php?topic=2115.0;wap2
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 23 ธันวาคม 2010
  3. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    นครสวรรค์-แม่น้ำเจ้าพระยาเริ่มแห้งขอด

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    ระดับแม่น้ำเจ้าพระยาที่จังหวัดนครสวรรค์ลดลงอย่างน่าเป็นห่วง ล่าสุดปริมาณน้ำไหลผ่านเพียง 448 ลบ.ม./วินาที ชลประทาน เตือนเกษตรกรเตรียมกักเก็บน้ำไว้ใช้ในฤดูแล้ง และควรใช้น้ำอย่างประหยัด

    จากเมื่อปลายเดือนตุลาคมที่ผ่านมาระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาสูงมีปริมาณน้ำไหลผ่านสูงถึง 2,815 ลบ.ม./วินาที แต่ในวันนี้ระดับน้ำลดลงอย่างน่าเป็นห่วงจนสามารถเดินลงไปกลางแม่น้ำได้แล้ว โดยล่าสุดอยู่มีปริมาณน้ำไหลผ่านเพียง 448 ลบ.ม./วินาที ทั้งยังมีแนวโน้มลดลงอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ชลประทานจังหวัดนครสวรรค์ เผยปริมาณน้ำของแม่น้ำทุกสาย เช่น แม่น้ำเจ้าพระยา แม่น้ำปิง และแม่น้ำน่าน น้ำลดลงอย่างต่อเนื่องช่นกัน

    ขอให้เกษตรกรกักเก็บน้ำไว้ใช้ในหน้าแล้งนี้ ไม่ควรวิดสระเพื่อจับปลา และควรหันมาปลูกพืชใช้น้ำน้อยหรือพืชตระกูลถั่วแทนการปลูกข้าว เนื่องจากฤดูแล้งปีนี้มีแนวโน้มจะยาวนานและรุนแรง

    ข่าวทีวีช่อง 3 วันพฤหัสบดี ที่ 23 ธันวาคม พ.ศ.2553

    ที่มา http://www.krobkruakao.com/
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 2.jpg
      2.jpg
      ขนาดไฟล์:
      28.7 KB
      เปิดดู:
      2,201
    • 3.jpg
      3.jpg
      ขนาดไฟล์:
      24.5 KB
      เปิดดู:
      91
    • 6.JPG
      6.JPG
      ขนาดไฟล์:
      29 KB
      เปิดดู:
      2,205
    • 7.JPG
      7.JPG
      ขนาดไฟล์:
      32.2 KB
      เปิดดู:
      2,182
    • 9.jpg
      9.jpg
      ขนาดไฟล์:
      28.2 KB
      เปิดดู:
      2,193
    • 10.jpg
      10.jpg
      ขนาดไฟล์:
      31.1 KB
      เปิดดู:
      2,192
  4. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    เพื่อนบ้านของโลกมาเยือนทุกๆรอบ 13,000 ปี

    [​IMG]

    ของจริงที่กำลังมาปรากฏให้เห็นด้วยตา เป็นดาวฤกษ์ดวงหนึ่งที่ ทางองค์การนาซ่าตรวจพบเมื่อ ค.ศ.1982 และติดตามสังเกตการณ์เรื่อยมา จนข้อมูลมาต่อเชื่อมกับดาวดวงเดียวกันกับที่ชาวสุเมเรียลได้บันทึกเอาไว้ในอดีต หลายพันปี ปัจจุบันนี้ชาวออสเตรเลียและนิวซีแลนด์ ได้เห็นดาวสีส้มโตเท่าลูกกอล์ฟขึ้นทางทิศใต้เป็นปกติ นั่นคือ ดาวนิบิรุ ที่มีลักษณะรีคล้ายลูกรักบี้เป็นดาวฤกษ์ใหญ่กว่าดาวพฤหัสบดีประมาณ 2 เท่า โคจรเป็นวงรีควง 2 กาแลกซี่รอบดวงอาทิตย์ 2 ดวง ในเพลนทะแยงมุม 30 องศากับระนาบวงโคจรของโลกและดาวเคราะห์อื่นๆในระบบสุริยะ

    เราลองแวะดูข่าวสารข้อสรุป ของ AndrosEnigmax ในวิดีโอนี้ เพื่อเสริมสร้างสติปัญญาของเรา ที่ชาวโลกได้เริ่มมองเห็นดาวดวงนี้ด้วยตาเปล่ากันมากขึ้นแล้ว ช่วงระยะที่ ดาวนิบิรุ ทำยูเทิร์นดวงอาทิตย์ด้วยวงรีจะเร่งอัตราความเร็วเนื่องจากอยู่ในโค้งข้อศอก และเป็นขณะเดียวกับโลกโคจรรอบดวงอาทิตย์เข้าไปในระหว่างระยะทางของนิบิรุและดวงอาทิตย์พอดี ช่วงนั้นพลังเส้นแรงแม่เหล็กของดาวนิบิรุและดาวบริวารอีก 5 ดวง ซึ่งมีขนาดใหญ่พอๆกับโลก จะเหนี่ยวนำให้ขั้วเหนือแม่เหล็กโลก เคลื่อนโน้มลงประมาณ 90 องศา
    นักดาราศาสตร์คาดการณ์เอาไว้ว่าจะเกิดขึ้นประมาณ 14 ก.พ. 2013 ดาวนิบิรุ เป็นดาวฤกษ์ที่มีขนาดพอๆกับดาวพฤหัสฯ มีผงฝุ่นฟุ้งกระจายอยู่รอบตัวและมีส่วนหางยาว ดังนั้นประมาณ กลางปี ค.ศ. 2011 เป็นต้นไปช่วงที่โลกโคจร รอบดวงอาทิตย์ และเข้าไปอยู่ใต้ดาวดวงนี้ซึ่งมีระนาบโคจรทะแยงมุมกับระนาบโคจรของสุริยะจักรวาลประมาณ 30 องศา โลกจะได้รับปรากฏการณ์ฝนดาวตก ลงมาจากผงฝุ่นและส่วนหางของดาวนิบิรุ ซึ่งอาจมีโลหะหรือของแข็งที่ไหม้ไม่หมด ในชั้นบรรยากาศของโลก หลุดรอดลงมาถึงพื้นโลกได้

    ซึ่งได้ทราบเพิ่มเติมจากญาณทัสสนะของ พระอาจารย์รัตน์ว่า ขั้วเหนือใหม่จะไปอยู่ที่สฟิงซ์ที่ประเทศอียิปต์ ในช่วงเวลานี้ที่จะมีปรากฏการณ์ธรรมชาติมากมายเกิดขึ้นแก่โลก ที่อาจเรียกว่าเป็นการร่อนตะแกรงครั้งสุดท้ายของธรรมชาติ ที่มนุษย์ชาติที่เหลือรอดตายประมาณ 10 % ตามพุทธทำนาย ส่วนผู้เตรียมวิดีโอนี้ ได้สรุปไว้ว่า ประชากรของโลกจะสูญเสียรอบแรกไป 2 ใน 3 ส่วนที่เหลือจะอดอยากและเผชิญความแร้นแค้นในระยะ 6 เดือนไปอีก 2 ใน 3 ทั้ง 2 ช่วง ก็จะมีประชากรโลกรอดชีวิตอยู่ประมาณ 10 %

    ดาวนิบิรุจะโคจรมาทำยูเทิร์นกับดวงอาทิตย์ของระบบสุริยะ เริ่มเข้าใกล้โลกและจากไปกินเวลาประมาณ 2 ปี ชาวโลกที่ยังมีชีวิตอยู่จะได้เห็นพระอาทิตย์ขึ้น 2 ดวง จนดาว นิบิรุ เริ่มตีวงจากไกลดวงอาทิตย์ออกไป ทั้งนี้มีความเห็นจากนักดาราศาสตร์ไว้ว่า ต้นปี 2012 ที่ นิบิรุ ได้เริ่มโคจร เข้าใกล้โลก จะมีฝนดาวตกจากเศษดาว นิบิรุ ลงมาที่โลก และอาจมีวัตถุก้อนใหญ่ๆ ที่อาจไหม้ในบรรยากาศของโลกไม่หมดจะตกลงมาเป็นอันตรายต่อชาวโลก โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในระยะ 7 วัน ที่โคจรเฉียดโลกมากที่สุด

    ระหว่างที่ ดาวนิบิรุ เดินทางผ่าน กลุ่มอุกาบาต ที่ลอยเป็นแนวยาวอยู่ในระบบสุริยะระหว่างดาวพฤหัสบดีและดาวอังคาร จะดึงดูด เศษอุกาบาตน้อยใหญ่ในย่านนี้ ให้ตกลงมายังผิวโลกก่อนที่มนุษย์จะมองเห็นดาวหางอย่างใกล้ชิดเป็นเวลา 7 วัน เนื่องจากระนาบวงโคจรของดาวหางและดาวบริวารมีระนาบเอียงประมาณ 30 องศากับระนาบของสุริยะจักรวาล หรืออาจเกิดการชนกันขึ้นในอวกาศก็ได้

    การเดินทางของดาวหางนิบิรุ และดาวบริวารอีก 5 ดวงขนาดพอๆกับโลก หากเดินทางผ่านแนวขยะอวกาศ (Asteroid) ที่ลอยอยู่ในอวกาศระหว่างดาวพฤหัสบดีและดาวอังคารนั้น จะไปกระตุ้นให้ขยะขนาดใหญ่เหล่านี้ หลุดลอยออกจากกลุ่ม ติดตามแรงดึงดูดของ ดาวหางนิบิรุ พุ่งตรงเข้ามาในชั้นบรรยากาศของโลก ได้อย่างง่ายดาย โดยเฉพาะขณะนี้ชั้นบรรยากาศชั้น Magnetosphere ของโลกอ่อนแรงด้วย ขยะจากชั้นนอกโลก จึงมีโอกาสหลุดลอดลงมาบนพื้นผิวโลกได้มากยิ่งขึ้น ​

    (ส่วนทำไมจึงมาเลือกตกลงในเขตประเทศที่เคยเป็นมหาอำนาจ ในแถบเมดิเตอร์เรเนียนนั้น ก็ต้องมองย้อนไปถึงกรรมดำในอดีตที่คนในประเทศเหล่านี้ได้สะสมเอาไว้มากมายมหาศาลทีเดียว ช่างเทคนิค หรือเจ้ากรรมนายเวรจึงเป็นผู้ที่เลือกจะเอาระเบิดเพลิงไปลงที่ไหน)​

    สำหรับผู้คนทางภาคตะวันออก ไม่คุ้นเคยภูมิประเทศ และเมืองต่างๆที่นอสตราดามุส กล่าวถึง ก็อาศัยภาพถ่ายดาวเทียม ลองแพนดู ต้องการดูพื้นที่ส่วนไหน ก็ขยายดูได้ ก็จะช่วยให้ท่านติดตามภาพอนาคต ที่นอสตราดามุส ได้บันทึกคำเตือนลูกหลานภายหน้าเอาไว้ ส่วนใครจะดูแล้วผ่านเลยไป ก็เป็นสิทธิของแต่ละคน การดูภาพต่างๆจะให้ชัดเจนยิ่งขึ้นน่าจะสลับกับแผนที่โลกใหม่ ของนายกอร์ดอนไปด้วย จะให้เรื่องราวรายละเอียดแก่ทุกๆท่านได้ชัดเจนยิ่งขึ้น

    ส่วนผู้ที่ติดตามสิ่งแวดล้อมโลกมาตลอด คงจะไม่ลืมว่า พระอาจารย์รัตน์ ได้ให้คำแนะนำไว้ว่า หากต้องบินไปทำธุระในต่างประเทศ ก็ขอให้รีบทำให้เสร็จเสียภายในปี 2010 นี้ หาก ปีหน้าท่านยังเดินทางได้อยู่ แต่จะไม่มีขากลับ ท่านกล่าวไว้เพียงแค่นั้น ส่วนจะมีสาเหตุอันใดเกิดขึ้น ก็ต้องเสาะหารายละเอียดเพิ่มเติมกันเอาเอง ปกติทั่วไปเครื่องที่บินระหว่างประเทศ หากขาดสัญญาณนำทางจากหอบังคับการระหว่างประเทศ การบินก็ไม่สามารถทำได้ เมื่อขาดสัญญาณเรดาร์รับช่วงกัน ทางเรือก็เช่นเดียวกัน ถ้ายิ่งเกิดมีวัตถุภูเขาเกือบ 2 กม.ที่กำลังลุกไหม้แดงฉานจากนอกโลกที่นอสตราดามุส มองเห็นกำลังวิ่งลงมาชนโลก ที่บริเวณมหาสมุทรเมดิเตอร์เรเนียนตอนเหนือ ระหว่างเมืองมอนาโค และอิตาลี่นั้น ยิ่งไม่ต้องพูดถึงการเดินทางใดๆ

    ด้วยขนาดของดาวหางนิบิรุ เท่าๆกับดาวพฤหัสฯ โคจรในทิศสวนทางกับโลกในระยะใกล้ ตอนทำยูเทิร์นรอบดวงอาทิตย์ สนามแม่เหล็กจำนวนมหาศาลของดาวหาง จะเหนี่ยวนำให้แกนพลังงานของโลกหมุนเคลื่อนที่ไปประมาณ 90 องศา ขั้วโลกเหนือใหม่จะอยู่ที่สฟริงซ์ประเทศอียิปต์ ซึ่งในอนาคตอียิปต์ทั้งประเทศจะจมหายลงไปใต้ทะเลอีกวาระหนึ่ง

    เมื่อโลกย้ายแกนพลังงาน เปลือกโลกทุกแผ่นก็ต้องปรับสมดุล ให้โลกหมุนต่อไปได้ราบเรียบ นั้น ย่อมส่งผลกระทบ ต่อชั้นบรรยากาศ เกิดลมพายุ แผ่นดินไหวเป็นเวลานานหลายชั่วโมงติดต่อกัน เกิดภูเขาไฟระเบิดทั้งบนบกและใต้ทะเล เกิดคลื่นสึนามิขนาดใหญ่ทั่วโลก เกิดฝนตกหนักและแผ่นดินถล่ม เปลือกโลกมีทั้งลอยขึ้นและจมลง ดังที่นายกอร์ดอน เห็นภาพล่วงหน้าเมื่อ 2521 ในแผนที่โลกใหม่ ​

    การเปลี่ยนแปลงของโลกหลังโลกย้ายแกน ย่อมมีความรุนแรงกว่า ตอนที่ดาวหางเริ่มเข้ามาใกล็โลก สัก 5-6 เดือนล่วงหน้า ซึ่งจะเกิดฝนดาวตก ที่จะมีเศษอุกาบาตตกลงมาด้วย เมื่อส่วนต่างๆของโลกหันพื้นที่ส่วนนั้นไปรับสายฝนอุกาบาต ที่ดาวหางนิบิรุนำมาจาก แถบเศษดาว ที่ลอยเคว้งอยู่ในอวกาศระหว่างดาวพฤหัสฯและดาวอังคาร ​

    เข้ามาในบรรยากาศของโลก เป็นการโหมโรง ก่อนที่ดาวนิบิรุจะมาปรากฏตัวให้ชาวโลกได้ชมอย่างใกล้ชิดเป็นเวลา 7 วัน ผู้ที่ทราบเรื่องราวล่วงหน้า และได้เตรียมเซฟเฮ้าส์เอาไว้แล้ว ค่อยๆติดตามข่าวและรับทราบความเปลี่ยนแปลงของธรรมชาติ ก็จะทราบชัดว่า เมื่อไรจะถึงเวลาที่ท่านจะต้องเร่งอพยพ)​

    ผลดีของการมาของดาว นิบิรุ ในรอบนี้ จะช่วยปรับย้ายระบบสุริยะและโลก ไปสู่แรงดึงดูดของ กาแลกซี่ ไตรแอง กุลัม หรือกาแลกซี่เบาทางด้านทิศตะวันออก โลกจะได้รับพลังคลื่นสีขาว เหลือง หรือพลังดี เป็นพลังปราณ และพลังมโนธาตุและธาตุว่างอย่างเต็มที่ ตรงกันข้ามกับธาตุหนักของกาแลกซี่ทางช้างเผือก เป็นการนำโลกไปสู่ยุคใหม่ใต้อิทธิพลของกาแลกซี่นี้ไปอีก 13,000 ปี แล้วจึงจะสลับกลับมาสู่กาแลกซี่ทางช้างเผือกอีก 13,000 ปี เป็นวัฏจักรของสุริยะจักรวาล และกาแลกซี่อื่นๆที่ครอบสุริยะจักรวาลอยู่​

    สำหรับหลายๆท่านยังต้องการจะรู้จักดาวดวงนี้ให้ละเอียดละออยิ่งขึ้น ก็ลองแวะที่นี่ได้..http://www.yowusa.com/
    [​IMG]
    การที่ระบบสุริยะจักรวาลทั้งหมดจะย้ายที่ได้นั้น ย่อมต้องการทั้งแรงดูดและแรงผลักในอวกาศเกิดขึ้นทั้ง 2 อย่าง แรงดูดนั้นปัจจุบันกาแลกซี่ไตรแองกุลัมได้ดูดสุริยะจักรวาลเข้ามาใกล้ขอบแล้ว ยังขาดแต่แรงผลักจากกาแลกซี่ทางช้างเผือกเท่านั้น ซึ่งคาดว่าจะเกิดขึ้นในปลายปี ค.ศ.2012 เป็นต้นไป ลั่นไกเมื่อดาวทุกดวงในระบบสุริยะและดาวนิบิรุมาเข้าแถวอยู่ในระนาบเดียวกันเป็นเส้นตรง ส่งเชื่อมพลังสนามแม่เหล็ก บวก-ลบ ๆ เพิ่มกำลังแรงแม่เหล็กเต็มที่ ส่งพลังไปยังศูนย์กลางของกาแลกซี่ทางช้างเผือก จุดประกายขึ้นทั่วจักรวาล ทั้งแสงและเสียง ส่งพลังคลื่นแม่เหล็กสะท้อนกลับมายังดาวต่างๆ ที่เข้าแถวอยู่ให้เคลื่อนตัวไปสู่กาแลกซี่ไตรแองกุลัม เริ่มขบวนการเปลี่ยนแปลงตั้งแต่กลางดึกของ 21-12-2012

    ก่อนที่บ้านที่กำลังสร้างใหม่ จะตกแต่งให้เรียบร้อย ความยุ่งเหยิงเกะกะรกเต็มไปหมด ด้วยเศษวัสดุก่อสร้างต่างๆเกิดขึ้นฉันใด ผลกระทบต่อมวลมนุษย์และสรรพสัตว์และทุกๆสิ่งบนเปลือกโลกในโซนต่างๆ ย่อมจะได้รับในระดับต่างๆแตกต่างกันออกไป ทุกๆด้าน ทั้ง ดิน น้ำ ลม ไฟ แสง เสียง ที่มีเสกลที่อาจรุนแรง ที่มนุษย์จะค่อยๆสัมผัสมากยิ่งขึ้นไปโดยลำดับ ตั้งแต่เวลานี้เป็นต้นไป ผสมกับแรงกรรมทั้งดีและชั่ว ที่มนุษย์ได้สะสมมาเป็นเวลาหมื่นๆปี ที่เจ้ากรรมนายเวรจะถือโอกาสนี้ชำระสะสางกรรมเก่า ที่เคยก่อต่อกันเอาไว้ แปลงพลังความแค้นเคืองเป็นพิบัติภัยทางธรรมชาติ และโรคภัยไข้เจ็บและโรคระบาดต่างๆที่เคยสงบไปเป็นเวลานาน กลับมาระบาดอย่างรุนแรงอีกคำรพหนึ่ง

    ความเห็นเรื่องโลกย้ายแกนและน้ำท่วมโลกของอดีตพนักงานองค์การนาซ่ามีรายละเอียดที่ สหรัฐฯได้ตระเตรียมเอาไว้อย่างไรบ้าง
    http://www.ainews1.com/modules.php?name=Web_Board&file=view&No=196

    จึงมีความจำเป็นที่ผู้ไม่ประมาทจะทำการแก้ไขเสียแต่เนิ่นๆ ให้เจ้ากรรมนายเวรหายแค้นเรา และสร้างภูมิคุ้มกันโรค และตระเตรียมเคลื่อนย้ายสู่สถานที่ปลอดภัย พร้อมทั้งสะสมสะเบียงกรัง เครื่องนุ่งห่ม ยารักษาโรค และโซนของดินแดนสุวรรณภูมิจะย้ายเข้าใกล้ขั้วโลกเหนือใหม่ เหลือเพียง 1 ใน 3 ของระยะทางปัจจุบัน คงจะหนาวเย็นไม่แพ้เมืองคุณหมิงในปัจจุบัน วกกลับมาโซนที่ปลอดภัย พระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้วางแนวทางล่วงหน้า ประมาณ 2583 ปี เริ่มตั้งแต่พระพุทธองค์มีพระชนม์มายุได้ 57 พระพรรษา เตรียมการสำหรับการมาอุบัติครั้งใหม่ของพระพุทธองค์หลังกึ่งพุทธกาลหรือ พ.ศ. 2550 แวะศึกษารายละเอียดที่ http://ainews1.com/article300.html

    สิ่งต่างๆที่กล่าวข้างต้น ทุกท่านต้องตอบคำถามให้แก่ตนเองให้ได้ก่อนว่า ปัจจุบันตัวท่านกำลังอยู่ที่ไหน และภารกิจที่มาเกิดในยุคนี้เพื่อจะทำอะไรให้แก่ตนเองบ้าง เนื่องจากวิถีชีวิตของทุกๆท่านมาเกิดอยู่ตรงรอยต่อของโลกพลิกขั้วพอดี จึงเป็นเหตุการณ์ที่อาจจะทั้งดี และร้ายพอๆกัน แล้วแต่สติปัญญาและความไม่ประมาทที่แต่ละชีวิต จะต้องใช้เวลาศึกษาให้ถ่องแท้แก่ตนเอง มิใช่พอได้ทราบข้อมูลจะไปสรุปเลยว่าใช่ หรือ ไม่ใช่ เนื่องด้วยเหตุการณ์อย่างนี้ประวัติศาสตร์ของโลกไม่เคยบันทึกเอาไว้ สำหรับให้คนรุ่นนี้ได้ใช้อ้างอิง นอกเสียจากต้องใช้ญาณทัสสนะ ไม่ใช่ใช้ การคิดนึก หรือสติปัญญา อย่างที่มนุษย์เคยชิน หรือหากใช้ย่อมจะเกิดความคลาดเคลื่อนได้มากทีเดียว

    แต่อย่างไรก็ดี ทางองค์การนาซ่ารู้จักดาวดวงนี้ดีพอสมควร เนื่องจากได้ติดตามศึกษามาตั้งแต่ ค.ศ. 1982 เป็นต้นมา และทาง ดร.อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์ ก็ได้ยืนยันถึงความเป็นไปได้ที่ขั้วโลกจะเกิดการพลิกขึ้น และผู้เชี่ยวชาญทางดาราศาสตร์ก็ได้ทำการศึกษาวิจัยแล้วว่า ในอดีตประมาณ 12,000 ปี ขั้วโลกเหนืออยู่ที่บริเวณทะเลสาปมิชิแกน หรืออเมริกาเหนือ ก่อนที่จะเปลี่ยนมาอยู่ในตำแหน่งปัจจุบันในเวลานี้


    เมื่อท่านผู้ไม่ประมาทต่อความเปลี่ยนแปลงของโลกและทุกๆสิ่งอยู่ตลอดเวลา ตามที่พระพุทธองค์ได้ทรงตรัสบอกมวลมนุษย์เอาไว้นานแล้ว ในปลายปี 2012 นี้ ละครฉากเดิมก็จะปิดฉากลง และเมื่อได้ติดตามค้นหาความจริงของโลกที่กำลังเกิดขึ้น และที่จะวิกฤตยิ่งขึ้นในอนาคตข้างหน้า ทำให้สภาพต่างๆของประเทศไทยถอยหลังไปอีกประมาณ 50 ปี จนตนเองเข้าใจตรงกับความเป็นจริงที่จะต้องเผชิญแล้ว สิ่งที่ควรจะมานั่งลงไตร่ตรองต่อไปเช่น :-
    • ตารางเวลาเหตุการณ์ต่างๆเท่าที่เราจะค้นหา และพอเชื่อถือได้
    • สภาวะปัจจุบันที่เรากำลังใช้ชีวิตปกติเดิมๆอยู่ ลองประเมินดูว่าจะมีผลกระทบต่อการเป็นอยู่ของเราอย่างไรบ้าง
    • หากเราจำเป็นจะต้องเคลื่อนย้าย ควรพิจารณาโซนไหนของประเทศที่เราน่าจะปลอดภัยที่สุด และสะดวกในการเดินทางไปให้ถึงเซฟเฮ้าส์ในเวลาที่จำกัด
    • ความพร้อมทางการเงินในการเตรียมการและทุนสำรองที่จำเป็น
    • หากยังมีปัญหาทางการเงิน ควรหาทางเลือกแก้ปัญหานี้ให้ลุล่วงโดยเร็ว ให้เรามั่นใจตนเองทุกปัญหาสามารถแก้ได้
    • ศึกษาและคาดการณ์ เหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้น และมีความเป็นไปได้ ที่เราจะต้องเตรียมการเรื่องที่อยู่อาศัยแบบใดให้เราปลอดภัย ในช่วงเกิดพิบัติภัยของโลก ตรงนี้ต้องใช้ความรอบรู้ทางวิศวกรรมโยธาเข้ามาช่วย สำหรับใช้แก้ปัญหาที่จะเกิดในอนาคต
    • ข่าวสำหรับผู้อาศัยในที่ราบลุ่ม ในระดับสูงกว่าน้ำทะเล 100 เมตรลงมา ให้ลองติดตามข่าวพิบัติภัยต่างๆทั่วโลกประกอบเป็นระยะๆไป และสิ่งที่จะนำอัฟเดทให้ทราบเป็นคราวๆไป สำหรับผู้ที่จะติดตามข้อมูลนำไปประกอบการพิจารณาของท่านเองโดยอิสระ ยังไม่ต้องปักใจเชื่อแต่ประการใด
    • ทำเลที่จะใช้อาศัยเป็นเชฟเฮ้าส์ เมื่อได้จัดเตรียมการเอาไว้พร้อมแล้ว เมื่อถึงเวลาอพยพให้ใช้การเดินทางถึงที่หมายให้ได้ภายในเวลา 6 ชั่วโมง ในเส้นทางที่ดัดเลือกและซักซ้อมไว้เป็นประจำ พร้อมเส้นทางสำรองอื่นๆหากจำเป็นต้องใช้
    • ทำเลหลบภัย แน่นอนต้องมีสิ่งจำเป็นในการดำรงชีวิตอย่างพอเพียง สำรองไว้ใช้ในกลุ่มของตน 4-6 เดือน และเตรียมอุปกรณ์สำหรับการเกษตร ที่จะใช้สำหรับการดำรงชีวิต ที่เน้นด้านมังสวิรัติ ที่เป็นประโยชน์ต่อชีวิต
    • ระหว่างใช้ชีวิตอยู่ในเซฟเฮ้าส์ ภารกิจของทุกๆชีวิตคืออยู่อย่างพอเพียง ทั้งกายและใจ กายต้องการอาหารหล่อเลี้ยงที่พอเพียง ส่วนจิต จะไม่มีงานมากนักในทางโลกหรือจำเป็นต้องดิ้นรนอะไรมาก จิต จึงเป็นโอกาสในการกำหนดดู 'ทาง' หรือ มรรค อย่างต่อเนื่องสม่ำเสมอ เตรียมพร้อมสำหรับการตายครั้งสุดท้ายได้ทุกเวลา
    • ส่วนพ่อแม่ที่ยังมีลูกเล็กๆ ต้องเตรียมอุปกรณ์การเรียนการสอนต่างๆให้แก่ลูกๆของตนเองเอาไว้ล่วงหน้า
    • ตระเตรียมเครื่องมืออุปกรณ์ง่ายๆสำหรับใช้สกัดสารอาหารธรรมชาติ ที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกายใช้รับประทานสดๆรายวัน
    • ตระเตรียมเครื่องมือการเกษตร ชีวะเคมีธรรมชาติสำหรับปลูกพืชครบวงจร ยุ้งฉางเก็บข้าวเปลือก เครื่องสีข้าวขนาดเล็ก
    • เตรียมเมล็ดพันธุ์พืช และต้นพันธุ์ไม้สมุนไพรจำเป็นต่างๆสำหรับใช้ยามฉุกเฉิน
    • ศึกษาข้อมูลการผลิตปุ๋ย และฮอร์โมนธรรมชาติ จากมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ และเตรียมสำรองหัวเชื้อสำเร็จรูปเอาไว้ใช้ในระยะยาว
    • เตรียมปลูกพืชต่างๆที่ใช้เป็นอาหาร สมุนไพร และใช้ผลิตเชื้อเพลิงแทนดีเซล
    • ศึกษาเตรียมการผลิตกาซเชื้อเพลิงธรรมชาติ สำหรับผลิตใช้เองในครอบครัว
    • เตรียมเสื้อผ้าเครื่องนุ่งห่ม สำหรับใช้ยามอากาศหนาว ตั้งแต่ 5 องศาเซลเซียสขึ้นไป ให้เพียงพอ
    • ระบบป้องกันภัยตนเองจากโจรผู้ร้าย และสัตว์มีพิษต่างๆที่ต่างหนีตายเอาตัวรอด
    • สำรองเครื่องเวชภัณฑ์ต่างๆ ที่ใช้อยู่เป็นประจำให้เพียงพอ
    • เตรียมอาหารแห้งที่เก็บได้ระยะยาว และเกลือแกง
    • เตรียมเชื้อเพลิง และเตาประหยัดพลังงาน อย่างน้อย 2 ระบบ
    • เตรียมระบบน้ำใช้สำรอง ทั้งด้านบริโภค และเพื่อใช้ภาคเกษตรกรรมแบบประหยัดน้ำ
    • เตรียมสำรองปูนขาว สำหรับกวนกับน้ำฝนที่เป็นกรดกำมะถันอ่อนๆ อันเป็นผลจากเถ้าภูเขาไฟในชั้นสตราโตสเฟียร์จำนวนมากที่ถูกภูเขาไฟทั้งบนบกและใต้น้ำพ่นขึ้นไปรวมกับเมฆฝน และมลภาวะภูเขาไฟอาจลอยอยู่ในอากาศนานหลายปี จึงน่าเป็นห่วงการปลูกพืชผักนาๆชนิดอย่างยิ่ง
    • การเกิดภูเขาไฟระเบิดขึ้นทั่วโลก ทำให้เมฆหมอกของเถ้าภูเขาไฟบดบังแสงอาทิตย์ โลกจึงอาจเย็นลงมากกว่าปกติ และผลิตผลทางภาคเกษตรกรรมจะเป็นปัญหามาก
    • เตรียมเชื้อเห็ดและโรงเพาะเห็ดเล็กๆ เอาไว้ปลูกเห็ดรับประทานเป็นอาหารโปรตีน
    • เตรียมทรัพย์สำรองสำหรับการแลกเปลี่ยน สิ่งของจำเป็นในการดำรงชีวิต เช่นทองคำ
    • อุปสรรคการเดินทางโดยรถยนตร์ .. สะพานลอยคนข้ามหล่นลงมาขวางทางจราจรตามที่ต่างๆ เนื่องจากตัวสะพานไม่ได้ ยึดกับตอม่ออย่างมั่นคง
    ลองฝากประเด็นเอาไว้แค่นี้ก่อน แล้วจะค่อยๆนำมาสนทนากันต่อไป ว่ายังมีประเด็นใดบ้างที่จะต้องนำมาพิจารณา รวมทั้งการติดตามจากข่าวสารต่างๆในปัจจุบัน ที่มีเหตุการณ์ต่างๆเกิดขึ้นทั่วโลก และควรจะทราบให้ได้ว่าต้นเหตุนั้นมันมาจากที่ไหนบ้างเป็นหลักใหญ่ๆตามความเป็นจริงของสิ่งแวดล้อมโลก ที่กำลังเป็นปัญหาร้ายแรงมากยิ่งขึ้นโดยลำดับ ส่วนใหญ่มาจากน้ำมือของมนุษย์ในรอบ 2 ศตวรรษ ที่ผ่านมาแทบทั้งสิ้น

    ส่วน มนุษย์ในยุคใหม่ที่ดีเอ็นเอเปลี่ยนไป หลังจากโลกย้ายแกนใหม่แล้ว และสุริยะจักรวาลพร้อมกับโลก ได้สลับจากกาแลกซี่ทางช้างเผือก เคลื่อนไปสู่แรงดึงดูดของ กาแลกซี่ไตรแองกุลัม ทาง ทิศตะวันออก ของยุคชาวศิวิไลซ์ ซึ่งเน้นความดี มีศีลธรรม แทนสังคมเงินทอง ซึ่ง หลวงปู่ประเสริฐ อวยชัยให้พรให้ลูก หลานปัจจุบัน พยายามนำพาชีวิตอยู่ไปให้ถึงยุคใหม่ให้ได้...

    'ปี 2555 เมืองไทยจะเกิดวิกฤติ จนถึงขั้นอาจตกต่ำลงไป' ซึ่งพ่อเจ้าราชครูโพนสะเม็กกล่าวเตือนลูกหลานเอาไว้​

     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  5. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    ฝนอุกกาบาตถล่มโลก

    [​IMG]

    บทความจากคุณ Chayutt<SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_373938", true); </SCRIPT> สมาชิก

    เมื่อวันที่ 9 มิ.ย.49 ที่ผ่านมานี้ ผม(chayutt)ได้ไปถวายเงินผ้าป่าสร้างพระ (รอบที่2) กับท่าน พ.ธรรมรังสี ที่วัดสระแก จ.อยุธยา ท่านได้เล่าให้ฟังว่า ภัยพิบัติที่ได้เกิดขึ้นไปแล้วนั้น(สึนามิ) ท่านเองก็ทราบมาก่อนเหมือนกัน และมันก็ได้เกิดขึ้นไปแล้วจริงๆ​

    แต่ที่ท่านบอกว่าท่านอกสั่นขวัญแขวนก็คือ ภัยพิบัติที่กำลังจะมาถึงในอนาคตนี้ต่างหากหละ ท่านบอกว่าท่านเห็นลูกไฟมากมายตกลงมาจากท้องฟ้า เป็นห่าลูกไฟห่าใหญ่ ท่านก็พาคนกลุ่มหนึ่งวิ่งเข้าไปหลบในถ้ำได้อย่างปลอดภัย ส่วนคนที่วิ่งหนีกระเจิดกระเจิงเข้าป่าไปนั้น ก็ถูกลูกไฟตกใส่ เผาไหม้ร้องโอดโอยทั้งคนทั้งป่า ไหม้หมดเลย

    <!-- google_ad_section_end -->
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 3iepnp4o.jpg
      3iepnp4o.jpg
      ขนาดไฟล์:
      79.4 KB
      เปิดดู:
      95
    • 518.jpg
      518.jpg
      ขนาดไฟล์:
      70.1 KB
      เปิดดู:
      2,129
    • Meteor1.jpg
      Meteor1.jpg
      ขนาดไฟล์:
      32.7 KB
      เปิดดู:
      83
    • ฝนอุกา~1.JPG
      ฝนอุกา~1.JPG
      ขนาดไฟล์:
      54.5 KB
      เปิดดู:
      86
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 24 ธันวาคม 2010
  6. Aqua-ma-rine

    Aqua-ma-rine เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 เมษายน 2008
    โพสต์:
    820
    ค่าพลัง:
    +1,242
    ฝนอุกาบาตถล่มโลก ? ในพระคัมภีร์ชาวคริสต์พูดถึงการกลับมาพิพากษามนุษย์โดยพระเจ้าว่า จะมีการล้างโลกด้วยไฟ ต่างจากยุคโนอาห์ที่ตอนนั้น ล้างด้วยน้ำน่ะ


    webcache.googleusercontent.com/search?q=cache:6jrGVIfWumwJ:www.tyrannusthai.com/index.php%3Flay%3Dshow%26ac%3Darticle%26Id%3D137328%26Ntype%3D3+%E0%B8%9E%E0%B8%B4%E0%B8%9E%E0%B8%B2%E0%B8%81%E0%B8%A9%E0%B8%B2%E0%B8%94%E0%B9%89%E0%B8%A7%E0%B8%A2%E0%B9%84%E0%B8%9F+%E0%B8%9E%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B9%80%E0%B8%88%E0%B9%89%E0%B8%B2&cd=3&hl=th&ct=clnk&gl=th


    "การงานของแต่ละคนก็จะได้ปรากฎให้เห็น เพราะวันเวลาจะให้เห็นได้ชัดเจนเพราะว่าจะเห็นชัดได้ด้วยไฟ ไฟนั้นจะพิสูจน์ให้เห็นการงานของแต่ละคนว่าเป็นอย่างไร" (13) เมื่อพระเจ้าได้ทรงพิพากษาลงโทษคนในสมัยโนอาห์ พระองค์ได้ทรงสัญญาว่า จะไม่พิพากษาด้วยน้ำอีก แต่จะพิพากษาด้วยไฟ

     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 24 ธันวาคม 2010
  7. วรเดช

    วรเดช เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    1,753
    ค่าพลัง:
    +6,146
    [​IMG]
    ชาวบ้าน งง น้ำทะเล ชลบุรี หนุนสูงสุด ในรอบ 10ปี
    รายงานข่าวแจ้งว่า เมื่อช่วงเช้าวันนี้ (23 ธ.ค.) น้ำท่วมถนนสายพระยาสัจจา และถนนหน้าศาลากลางจังหวัดชลบุรี สาเหตุเนื่องจากระดับน้ำทะเลสูงขึ้นล้นริมตลิ่งกว่า 20 เซนติเมตร บางจุดสูงถึง 50 เซนติเมตร ทำให้การจราจรช่วงเช้าติดขัด และบริเวณพื้นที่ดังกล่าวมีโรงเรียนอนุบาลชลบุรี, โรงเรียนชลกันยานุกูลทำให้ผู้ปกครองและนักเรียนต้องจอดรถ จยย. ต่อรถสองแถวไปโรงเรียนให้ทัน แต่ขณะนี้ระดับน้ำลดลงแล้ว
    ทั้งนี้ จากเหตุการณ์ดังกล่าว ทำให้ชาวบ้านประหลาดใจ เนื่องจากนับว่าเป็นครั้งที่น้ำทะเลหนนุนสูงที่สุดในรอบ 10 ปี
    เรียบเรียงข่าวโดย Mthai news
    <LI class=news_src_item>[​IMG]
    [​IMG]
    ภาพเด็ด : ฮิปโป ช่วยชีวิต ลูกม้าลาย – ละมั่ง
    Mthai news: ที่แม่น้ำมารา ในแอฟริการใต้ เหตุการณ์ธรรมชาติอันน่าประทับใจถูกบันทึกโดยนักท่องเที่ยว ที่สามารถถ่ายภาพฮิปโปใจดี พยายามช่วยเหลือละมั่งแอฟริกาที่พลัดมาจากแม่ของมัน ซึ่งดูเหมือนว่ามันกำลังจะจมน้ำ แต่นักท่องเที่ยวก็เหลือบไปเห็นฮิปโปเพศเมียว่ายน้ำเพยายามเข้าไปช่วยเหลือ พร้อมกับดันตัวของละมั่งจนกระทั่งถึงฝั่ง รอดชีวิตในที่สุด
    [​IMG]
    นักท่องเที่ยวเล่าวว่า ภารกิจของฮิปโปใจดีไม่สิ้นสุดแค่นี้ ไม่กี่นาทีลูกม้าลายที่กำลังจะข้ามไปอีกฝั่งของแม่น้ำ แต่มันตะเกียกตะกายคล้ายจะจมน้ำ เจ้าฮิปโปจึงใช้ส่วนหัวดันตัวลูกม้าลายจนกระทั่งมันขึ้นฝั่งไปได้
    [​IMG]
    อับดุล คาริม (Abdul Karim) หัวหน้าทัวร์กล่าวว่า ทุกคนรู้สุกประทับใจที่เห็นภาพเหตุการณ์ดังกล่าว
    [​IMG]
    [​IMG]
    [​IMG]
    [​IMG]
    โดย Mthai news
    <LI class=news_src_item>[​IMG]
    MThai SMS News : ข่าวด่วนถึงมือคุณ ทันทุกเหตุการณ์ ไม่พลาดทุกข่าวร้อน
    สนใจรับข่าวกด *48259080066 แล้วโทรออก ทดลองใช้ฟรี 15 วัน
    สอบถามเพิ่มเติมโทร 02-1007000
     
  8. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,680
    ค่าพลัง:
    +51,926
    *** สอนมนุษย์ สัตว์ประเสริฐ ****

    สัตว์ เขาก็มีจิตใจเมตตา

    - " หนุมาน ผู้นำสาร "
     
  9. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,680
    ค่าพลัง:
    +51,926
    *** แอฟริกา ดินแดนพุทธทีปังกร ****

    [​IMG]
    [​IMG]

    - " หนุมาน ผู้นำสาร "
     
  10. Lazaza

    Lazaza เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    991
    ค่าพลัง:
    +5,549
    ======================================


    23 ธ.ค. 53


    สัญญาณเก่าที่ไม่เก่า

    5 ก.ย. 47
    3 ปลายักษ์
    จะเกิดภัยทางน้ำ 3 ครั้ง เกิดแล้ว 1 ครั้ง 26 ธ.ค. 47 เกิดซึนามิ

    16 ก.พ. 53
    กำลังเตรียมการเก็บกวาดครั้งที่ 2

    27 ก.พ. 50
    ตามหลังปลายักษ์ตัวที่ 2 เมื่อมีการเก็บกวาดครั้งที่ 2 ขอให้รีบขึ้นที่สูง

    16 ก.ย. 51
    เรื่องเล่าจากภาพ การทะเลาะวิวาท ผู้นำจากคนนอก แผ่นดินไหวจะตามมา



    องค์อินทร์ ๙๗
    ทำการแทน


    ======================================
    ภาพฐานผาแบ่นบางส่วนค่ะ
    ภาพความคืบหน้าฐานผาแบ่น1
    ภาพความคืบหน้าฐานผาแบ่น2
    ที่มา นาม "องค์อินทร์ ๙๗"







    ---------------------------------------------------------------------
    หลงทางเสียเวลา แต่ไหนแต่ไรมา พระพุทธเจ้าท่านสอนแต่เรื่องทุกข์ และการพ้นทุกข์เท่านั้น<!-- google_ad_section_end -->
     
  11. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    สถาบันวิชาการเกาหลีใต้เผยเกาหลีเหนืออาจทดลองระเบิดปรมาณูในปีหน้า

    [​IMG]

    โซล 24 ธ.ค.- สถาบันกิจการต่างประเทศและความมั่นคงแห่งชาติของเกาหลีใต้ รายงานว่า เกาหลีเหนืออาจทดลองระเบิดปรมาณูอีกครั้งหนึ่งในปีหน้าเพื่อเสริมสถานะให้แก่นายคิม จอง-อุน ว่าที่ผู้นำคนใหม่ของเกาหลีเหนือ

    สถาบันวิชาการแห่งนี้ระบุว่า เกาหลีเหนืออาจทดลองระเบิดปรมาณูเป็นครั้งที่ 3 เพื่อแสดงความกล้าหาญทางทหารของนางคิม จอง-อุน อีกทั้งเป็นการปรับปรุงประสิทธิภาพของระเบิดปรมาณูที่มีพื้นฐานจากพลูโตเนียมซึ่งจะยิ่งเพิ่มความตึงเครียดทางทหารบนคาบสมุทรเกาหลี โดยการทดลองครั้งใหม่จะอาศัยข้อมูลจากการทดลองครั้งที่ 2 เมื่อเดือนพฤษภาคมปีที่แล้ว

    เกาหลีเหนือดำเนินการมานานหลายสิบปีที่จะสร้างอาวุธปรมาณูที่มีพื้นฐานจากพลูโตเนียม และเมื่อเดือนที่แล้วก็ได้เปิดเผยโรงงานเสริมสมรรถนะยูเรเนียมแห่งใหม่ ซึ่งเป็นวิธีการใหม่ในการผลิตอาวุธนิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือ ดังนั้น เกาหลีเหนือจึงน่าจะสร้างระเบิดปรมาณูในปีหน้าและอาจทดลองระเบิดปรมาณูที่มีพื้นฐานจากยูเรเนียมเพื่อสร้างความตกตะลึงให้กับประชาคมโลกมากที่สุด.-สำนักข่าวไทย

    วันศุกร์ ที่ 24 ธ.ค. 2553

    ผู้นำรัสเซียย้ำชัดเจนให้ญี่ปุ่นเลิกหวังจะได้คืนหมู่เกาะที่เป็นข้อพิพาท

    [​IMG]

    มอสโก 24 ธ.ค. - ประธานาธิบดีดมิทรี เมดเวเดฟ ผู้นำรัสเซีย ประกาศอย่างชัดเจนว่า ญี่ปุ่นควรตระหนักได้แล้วว่า รัฐบาลรัสเซียจะไม่ยกเลิกการครอบครองหมู่เกาะที่เป็นกรณีพิพาทกับญี่ปุ่น แต่ผู้นำรัสเซียมีข้อเสนอว่าจะพิจารณาตั้งเขตเศรษฐกิจเสรีขึ้นที่บริเวณนี้

    ประธานาธิบดีเมดเวเดฟ ให้สัมภาษณ์สดทางโทรทัศน์ เนื่องในวาระสิ้นปีว่า หมู่เกาะเซาท์คูริลทั้งหมดเป็นอาณาเขตของรัสเซีย แต่รัสเซียและญี่ปุ่นสามารถพิจารณาดำเนินโครงการร่วมมือทางเศรษฐกิจที่หมู่เกาะแห่งนี้ได้ เขายืนยันว่า ไม่มีสิ่งใดที่จะนำทั้ง 2 ประเทศมาใกล้ชิดกันได้มากไปกว่าโครงการความร่วมมือทางเศรษฐกิจ ซึ่งจะทำให้ทุกฝ่ายได้ประโยชน์

    การแสดงความเห็นของผู้นำรัสเซีย มีขึ้นหลังจากที่ได้สร้างความโกลาหลเมื่อเดือนที่แล้ว ด้วยการเป็นผู้นำคนแรกของรัสเซียที่เดินทางไปเยือนเกาะแห่งหนึ่งที่เป็นกรณีพิพาทกับญี่ปุ่น การเยือนในครั้งนั้นทำให้เกิดวิกฤติทางการทูตที่เลวร้ายในรอบหลายปี และกลายเป็นประเด็นที่มีการหารือกันระหว่างผู้นำรัสเซียกับญี่ปุ่น ที่กรุงโตเกียว เมื่อเดือนที่แล้ว แต่ไม่ได้มีการเปิดเผยรายละเอียดข้อเสนอของฝ่ายรัสเซีย. - สำนักข่าวไทย

    วันศุกร์ ที่ 24 ธ.ค. 2553

    เกิดอุบัติเหตุรถตกเหวที่เอกวาดอร์มีผู้เสียชีวิต 41 คน

    [​IMG]

    กีโต 25 ธ.ค.-เกิดอุบัติเหตุรถโดยสารที่บรรทุกคนเกินพิกัดตกถนนลงไปในหุบเขาลึกที่ ประเทศเอกวาดอร์ ทำให้มีผู้โดยสารที่เดินทางกลับบ้านเพื่อไปฉลองคริสต์มาส เสียชีวิตอย่างน้อย 41 คน ในจำนวนนี้เป็นเด็ก 7 คน และผู้หญิง 13 คน

    เจ้าหน้าที่ช่วยเหลือกู้ภัยเปิดเผยว่า มีผู้รอดชีวิตประมาณ 30 คน แต่ได้รับบาดเจ็บ บางคนสาหัส รถโดยสารดังกล่าวเดินทางมาจากกรุงกีโต นครหลวงของเอกวาดอร์ ไปยังเมืองโชนและซาน อิซิโดร ซึ่งตั้งอยู่ห่างไปทางทิศตะวันออกเป็นระยะทางกว่า 250 กิโลเมตร

    ตำรวจกล่าวว่า รถคันนี้บรรทุกผู้โดยสารเกินพิกัดและดูเหมือนรถจะมีปัญหาที่ห้องเกียร์ ก่อนที่คนขับจะสูญเสียการควบคุม คาดว่าจำนวนผู้เสียชีวิตจะมีเพิ่มขึ้น ขณะนี้เจ้าหน้าที่ได้ระดมกำลังเพื่อกู้ซากรถออกมาจากหุบเขา

    อุบัติเหตุครั้งนี้เกิดขึ้นในวันที่มีการจราจรคับคั่งในเอกวาดอร์ เนื่องจากประชาชนหลายพันคนเร่งรีบเดินทางกลับบ้านที่อยู่ต่างจังหวัดเพื่อ ร่วมฉลองกับครอบครัวในวันคริสต์มาส ขณะที่เอกวาดอร์มีสถิติความปลอดภัยที่ย่ำแย่มากในการใช้ถนน สร้างความเสียหายต่อสังคมคิดเป็นมูลค่าเฉลี่ยปีละ 500 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และอุบัติเหตุบนท้องถนนก็เป็นสาเหตุการเสียชีวิตอันดับ 2 ของชาวเอกวาดอร์ ซึ่งมีประชากรทั้งประเทศ 13 ล้านคน.-สำนักข่าวไทย

    วันเสาร์ ที่ 25 ธ.ค. 2553

    ที่มาhttp://www.mcot.net
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  12. วรเดช

    วรเดช เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    1,753
    ค่าพลัง:
    +6,146
    <TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 bgColor=#e2e2e2 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ecfae0>สมเด็จพระสังฆราชประทานพรปีใหม่ให้คนไทยใช้ชีวิตอย่างมีค่าด้วยการทำความดี</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ffffff><TABLE class=A14 border=0 cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" align=center><TBODY><TR bgColor=#cccccc><TD vAlign=center> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top>กรุงเทพฯ 24 ธ.ค. - สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ประทานพระพรปีใหม่ 2554 ให้คนไทยใช้ชีวิตอย่างมีค่าด้วยการทำความดี โดยไม่ปล่อยชีวิตให้เปล่าประโยชน์ ประพฤติปฏิบัติแต่คุณงามความดี ทั้งส่วนตนและผู้อื่น

    สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ประทานพระพรปีใหม่ พุทธศักราช 2554 ให้แก่ประชาชนชาวไทย

    ความว่า ธมฺโม สุจิณฺโณ สุขมาวหาติ ธรรมที่ประพฤติดีแล้วนำสุขมาให้ โดยทั่วไปย่อมถือกันว่า ชีวิตเป็นสิ่งที่มีค่ายิ่งกว่าสิ่งใด เมื่อถึงคราวจำเป็นคนเราอาจสละทุกสิ่งทุกอย่างได้ เพื่อรักษาไว้ ซึ่งชีวิต หากพิจารณาตามแนวของพระพุทธศาสนาก็เป็นจริงเช่นนั้น พระพุทธศาสนาถือว่ารากฐานของชีวิตคือความดี หากมีความดีไม่ถึงขั้นจะไม่ได้ความเป็นมนุษย์ ดังที่พระพุทธองค์ได้ตรัสไว้ว่า ความได้เป็นมนุษย์เป็นการยาก

    เมื่อชีวิตมีค่า จึงควรที่เราจะต้องใช้ชีวิตให้สมค่าของชีวิต คือ การที่ได้มาเป็นมนุษย์ โดยการทำความดี คือ การไม่ทำบาปทั้งปวง

    การทำความดีให้ถึงพร้อม การทำใจของตนให้สะอาดบริสุทธิ์ และการประกอบประโยชน์ทั้งแก่ตนเองและผู้อื่น ไม่ปล่อยชีวิตให้เป็นไปอย่างเปล่าประโยชน์ ประพฤติปฏิบัติแต่คุณงามความดี ทั้งที่เป็นส่วนตนและผู้อื่น จึงได้ชื่อว่าสุชีวิต คือ ชีวิตที่ดีงาม

    ขออนุโมทนาสาธุการต่อคุณงามความดีที่ทุกท่านได้กระทำแล้วในปีเก่า และขออนุโมทนาสาธุการต่อคุณงามความดีที่ทุกท่านกำลังกระทำอยู่ในปัจจุบัน และในปีใหม่ พุทธศักราช 2554 ตลอดปี ขอธรรมคือคุณงามความดีที่ทุกท่านประพฤติแล้วจงนำสุขมาให้แก่ท่าน เทอญ ขออำนวยพร. - สำนักข่าวไทย


    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย:"ข่าวเข้ม ฉับไว เป็นกลาง"
    [​IMG]</CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 bgColor=#e2e2e2 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ecfae0>หลวงตาบัวอาการยังดีวัดบ้านตาดแถลง</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ffffff><TABLE class=A14 border=0 cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" align=center><TBODY><TR bgColor=#cccccc><TD vAlign=center> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top> คมชัดลึก :พระวัดบ้านตาดทำหนังสือแถลงอาการ "หลวงตาบัว" อาการยังดี แพทย์ระบุยังคงมีอาการคลื่นไส้ อาเจียนบ่อยครั้ง ไอแห้ง ๆ น้ำมูกลดลง ฉันอาหารได้เล็กน้อย ตอนกลางคืนมีไข้สูง และอ่อนเพลีย ผลการตรวจ X-Ray พบว่า กระเพาะอาหารและลำไส้โป่งพอง




    ผู้สื่อข่าวรายงานจาก จ.อุดรธานี ถึงความคืบหน้าอาการป่วย ของพระธรรมวิสุทธิมงคล หรือ หลวงตามหาบัว เจ้าอาวาสวัดป่าบ้านตาด อ.เมือง

    ที่มีอาการป่วยด้วยโรคลำไส้อุดตัน โดยคณะแพทย์จากโรงพยาบาลศิริราช กทม.โรงพยาบาลศรีนครินทร์ จ.ขอนแก่น และโรงพยาบาลศูนย์อุดรธานี ร่วมกันให้การรักษาอาการอาพาธของหลวงตาที่กุฏิ ภายในวัดป่าบ้านตาด โดยไม่อนุญาตให้ศิษยานุศิษย์เข้าไปเยี่ยม เนื่องจากเป็นการรบกวนเวลาพักผ่อนของหลวงตา



    สำหรับความคืบหน้าอาการอาพาธของหลวงตามหาบัว ทางคณะสงฆ์ได้ทำหนังสือ แถลงข่าวอาการอาพาธขององค์หลวงตา ประจำวันที่ 23 ธันวาคม 2553
    ว่าคณะแพทย์ได้กราบรายงานต่อคณะสงฆ์ว่า องค์หลวงตายังคงมีอาการคลื่นไส้ อาเจียนบ่อยครั้ง ไอแห้ง ๆ น้ำมูกลดลง ฉันอาหารได้เล็กน้อย ตอนกลางคืนมีไข้สูง และอ่อนเพลีย ผลการตรวจ X-Ray พบว่า กระเพาะอาหารและลำไส้โป่งพอง คณะแพทย์ได้กราบเรียนขอความเมตตาอนุญาต ใส่สารดูดของเสียในกระเพาะอาหาร ถวายยาปฏิชีวนะ และสารน้ำทางหลอดเลือด อาการดีขึ้น ไม่คลื่นไส้อาเจียน พักผ่อนได้ จึงประกาศมาให้ทราบโดยทั่วกัน ลงชื่อ คณะสงฆ์ผู้ถวายการอุปัฎฐาก วันที่ 24 ธันวาคม 2553

    ส่วนบรรยากาศที่วัดป่าบ้านตาดในวันนี้ มีพระเกจิสายพระป่า ได้เดินทางทางเข้ามาเยี่ยมหลวงตาอาการอาพาธของหลวงตามหาบัวที่กุฎิ

    ในขณะที่ยังคงมีศิษยานุศิษย์จำนวนมาก ที่เดินทางมาจากที่ต่าง ๆ เข้ามาทำบุญภายในวัดตลอดเวลา โดยเมื่อทราบข่าวว่าหลวงตามหาบัวอาพาธ ต่างได้เข้ามาคอยดูที่บริเวณทางเข้าไปยังกุฎิของหลวงตา โดยทุกคนบอกว่า แม้จะไม่ได้เห็นหลวงตา ก็ขอให้เห็นหลังคากุฎิก็พอ และตั้งจิตภาวนาให้หลวงตาหายจากการอาพาธโดยเร็ว


    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์คมชัดลึก
    [​IMG]</CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 bgColor=#e2e2e2 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ecfae0>เศียรพระโผล่ใต้ซุ้มต้นโพธิ์ ติดทัวร์ระดับโลก</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ffffff><TABLE class=A14 border=0 cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" align=center><TBODY><TR bgColor=#cccccc><TD vAlign=center> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top>ทัวร์นิยมไปดู ติดระดับโลก เศียรพระพุทธรูปหินทรายในต้นโพธิ์ วัดมหาธาตุ กรุงเก่า สุดฮอต

    ขึ้นแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมในเว็บไซต์ระดับโลก กรมศิลปากรเผยนักท่องเที่ยวต่างชาติแห่ถ่ายภาพต่อเนื่อง สถิติปี 53 ยอดเข้าชมอยุธยามากถึง 1.2 ล้านคน โดยนักท่องเที่ยวจากยุโรป อันดับ 1 ขณะที่ อธิบดีกรมศิลป์เร่งให้บริการเครื่องแปลภาษาบริการนักท่องเที่ยว

    เมื่อวันที่ 24 ธ.ค. นายเมธาดล วิจักขณะ ผู้อำนวยการอุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา สำนักศิลปากรที่ 3 พระนครศรีอยุธยา กรมศิลปากร

    เปิดเผยว่า ขณะนี้นักท่องเที่ยวจากทั่วโลกได้แห่กันมาชมเศียรพระพุทธรูปหินทรายที่ถูกห่อหุ้มด้วยรากของต้นโพธิ์ ภายในวัดมหาธาตุ บริเวณพื้นที่อุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา แหล่งมรดกโลก เนื่องจากจุดดังกล่าวได้ รับการโหวตในเว็บไซต์ Tripadvisor ซึ่งเชื่อมโยงกับเว็บไซต์ของยูเนสโก http:// whc.unesco.org/en/list/576 ว่าเศียรพระพุทธรูปหินทรายที่ถูกห่อหุ้มด้วยรากของต้นโพธิ์ภายในวัดมหาธาตุ เป็นหนึ่งในแหล่ง ท่องเที่ยวที่น่าสนใจ เพราะเว็บไซต์ Tripad visor ดังกล่าว ถือเป็นเว็บไซต์ท่องเที่ยวอันดับ 1 ของโลก ส่งผลให้เศียรพระพุทธรูปหินทรายกลายเป็นสถานที่นิยมถ่ายภาพของนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก

    นายเมธาดล กล่าวต่อว่า เศียรพระพุทธรูปนี้ถูกห่อหุ้มด้วยรากต้นโพธิ์มาแล้ว กว่า 50 ปี คนต่างประเทศมองว่าสวยงาม

    และเป็นสิ่งแปลกตาจึงได้รับความนิยมอย่างรวดเร็ว ขณะเดียวกัน วัดมหาธาตุก็ถือเป็นหนึ่งในอุทยานประวัติศาสตร์แหล่งมรดกโลกของไทยที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทย และชาวต่างประเทศ เมื่อนักท่องเที่ยวมาประเทศไทย ได้มาเจอกับเศียรพระพุทธรูปแห่งนี้ ก็นำไปเผยแพร่และเขียนบรรยายความรู้สึกในเว็บไซต์ดังกล่าวเป็นจำนวนมาก

    “เว็บไซต์ Tripadvisor อยู่ในเครือข่ายของเว็บไซต์ยูเนสโก ซึ่งนักท่องเที่ยวยุโรป นิยมหาข้อมูลท่องเที่ยวในเอเชีย พบว่า นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ไม่พลาดที่จะมาเยี่ยมชมแหล่งอุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา เศียรพระพุทธรูปหินทรายที่ถูกห่อหุ้มด้วยรากของต้นโพธิ์ ภายในวัดมหาธาตุ ถือว่าเป็นอันซีนอินไทยแลนด์ เพราะนักท่องเที่ยวเข้าใจว่าพระอยู่ใต้ต้นโพธิ์ ผุดขึ้นมา จึงทำให้นักท่องเที่ยวสนใจเป็นอย่างมาก ผมลองเข้าไปดูในเว็บไซต์ดังกล่าวมีการแสดงความคิดเห็นจำนวนมากเกี่ยวกับภาพเศียรพระพุทธรูปหินทรายดังกล่าว ทั้งนี้ในปี 2553 มีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติในยุโรป และเอเชียมาเที่ยวชมอยุธยามากถึง 1.2 ล้านคน จาก 92 ประเทศ อาทิ โปรตุเกส เยอรมนี ญี่ปุ่น ซึ่งประเทศแถบยุโรปถือเป็นอันดับ 1 ของนักท่องเที่ยวทั้งหมด” ผอ.อุทยานฯ กล่าว

    ด้านนางโสมสุดา ลียะวานิช อธิบดีกรมศิลปากร กล่าวว่า ขณะนี้กรมศิลปากร ร่วมกับภาคเอกชน

    จัดทำโครงการให้บริการเครื่องโสตทัศนาจร 2 ภาษา ไทย-อังกฤษ แก่นักท่องเที่ยวในพื้นที่มรดกโลกพระนครศรีอยุธยา ซึ่งเครื่องโสตทัศนาจรนี้จะใช้งานง่าย เมื่อถึงจุดที่ระบุหมายเลขการชมจะตรงกับหมายเลขในเครื่องโสตฯ นักท่องเที่ยวก็จะกดหมายเลขตามจุดเพื่อรับฟังการบรรยาย ทำให้ใช้งานง่าย ทั้งนี้ กรมศิลปากร จะนำร่องในพื้นที่วัดมหาธาตุ วัดพระศรีสรรเพ็ชญ และวัดไชยวัฒนาราม จึงถือว่าเป็นการให้บริการเครื่องโสตทัศนาจรครั้งแรกในอุทยานประวัติศาสตร์ของไทย และจากนี้ไปกรมศิลปากร จะขยายไปยังแหล่งมรดกโลกอื่น เพื่อให้บริการนักท่องเที่ยว ให้ได้รับทราบข้อมูลทางประวัติศาสตร์อย่างถูกต้องต่อไป.


    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์เดลินิวส์
    [​IMG]</CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  13. วรเดช

    วรเดช เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    1,753
    ค่าพลัง:
    +6,146
    <TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 bgColor=#e2e2e2 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ecfae0>อุตุฯเตือนตอนบนมีฝน หลัง25ธ.ค.อากาศจะเย็นลง ลมแรง กทม.เย็นสุด24องศา</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ffffff><TABLE class=A14 border=0 cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" align=center><TBODY><TR bgColor=#cccccc><TD vAlign=center> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD class=A14 vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD class=A14 vAlign=top>กรมอุตุนิยมวิทยารายงานสภาพอากาศประจำวันที่ 25 ธันวาคม 2553 ดังนี้
    ลักษณะอากาศทั่วไปเมื่อเวลา 04:00 น. บริเวณความกดอากาศสูงกำลังค่อนข้างแรงระลอกใหม่จากประเทศจีนได้แผ่ปกคลุมประเทศเวียดนามตอนบนแล้ว คาดว่าจะแผ่เสริมลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบนในวันนี้ (25 ธัวาคม) ทำให้บริเวณดังกล่าวมีฝนได้ต่อจากนั้นอุณหภูมิจะลดลงและมีลมแรง ส่วนคลื่นลมในอ่าวไทยจะมีกำลังแรงขึ้นในช่วงวันที่ 25-27 ธันวาคมนี้

    พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทยตั้งแต่เวลา 06:00 วันนี้ ถึง 06:00 วันพรุ่งนี้

    ภาคเหนือ อากาศเย็นกับมีหมอกในตอนเช้า และมีหมอกหนาในหลายพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 16-21 องศา
    สำหรับบริเวณยอดดอยอากาศหนาวถึงหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 7-13 องศา
    ลมตะวันออก ความเร็ว 10-25 กม./ชม.

    ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ อากาศเย็นกับมีหมอกในตอนเช้า โดยมีฝนบางแห่งร้อยละ 10 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 18-22 องศา
    สำหรับบริเวณยอดภูอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 9-15 องศา
    ลมตะวันออก ความเร็ว 10-30 กม./ชม.

    ภาคกลาง อากาศเย็นกับมีหมอกในตอนเช้า และมีหมอกหนาในบางพื้นที่ โดยมีฝนบางแห่ง ร้อยละ 10 ของพื้นที่
    อุณหภูมิต่ำสุด 22-23 องศา
    สำหรับบริเวณเทือกเขาอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 15-16 องศา
    ลมตะวันออก ความเร็ว 10-30 กม./ชม.

    ภาคตะวันออก
    อากาศเย็นกับมีหมอกในตอนเช้า โดยมีฝนบางแห่งร้อยละ 10 ของพื้นที่ ส่วนมากตามบริเวณชายฝั่ง
    อุณหภูมิต่ำสุด 22-23 องศา
    สำหรับบริเวณเทือกเขาอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 15-16 องศา
    ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.
    ทะเลมีคลื่นสูง ประมาณ 1 เมตร

    ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก) มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดชุมพรลงไป
    อุณหภูมิต่ำสุด 22-23 องศา
    ตั้งแต่จังหวัดชุมพรขึ้นมา: ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง ประมาณ 1 เมตร
    ส่วนตั้งแต่จังหวัดสุราษฎร์ธานีลงไป : ลมตะวันออก ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร

    ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก) มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่ง ๆ ร้อยละ 30 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดภูเก็ต ตรัง และสตูล
    อุณหภูมิต่ำสุด ประมาณ 20-23 องศา
    ลมตะวันออก ความเร็ว 15-30 กม./ชม.
    ทะเลมีคลื่นสูง ประมาณ 1 เมตร

    กรุงเทพมหานครและปริมณฑล มีหมอกในตอนเช้า และมีฝนบางแห่ง ร้อยละ 10 ของพื้นที่
    อุณหภูมิต่ำสุด 24-25 องศา
    ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.

    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์มติชน
    [​IMG]</CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 bgColor=#e2e2e2 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ecfae0>อากาศหนาวเย็นและหิมะตกหนักสร้างความปั่นป่วนทั่วยุโรป</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ffffff><TABLE class=A14 border=0 cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" align=center><TBODY><TR bgColor=#cccccc><TD vAlign=center> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top>ปารีส 25 ธ.ค.- ผู้โดยสารหลายพันคนติดค้างอยู่ที่สนามบินแห่งสำคัญในกรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส หลังจากที่มีการยกเลิกเที่ยวบินหลายร้อยเที่ยวบินในช่วงคริสต์มาส เนื่องจากสภาพอากาศที่หนาวเย็นและหิมะที่ตกอย่างกว้างขวางสร้างความโกลาหลให้แก่การเดินทางทั่วยุโรป

    เที่ยวบินประมาณ 400 เที่ยวบินทั้งขาเข้าและออกของสนามบินรอยซี-ชาร์ลส เดอ โกล ถูกยกเลิก

    ส่วนเที่ยวบินในประเทศเบลเยียมและเยอรมนีได้รับผลกระทบเช่นกัน ส่วนผู้เดินทางด้วยรถยนต์ในยุโรปตะวันตกไม่สามารถใช้ถนนในการสัญจรเพราะอากาศหนาวเย็นที่แผ่ปกคลุมครั้งล่าสุด เจ้าหน้าที่ของท่าอากาศยานชาร์ลส เดอ โกล ต้องอพยพผู้โดยสารประมาณ 2,000 คนออกจากเทอร์มินัล 2 อี เพราะเกรงว่าหิมะที่ก่อตัวอยู่บนเพดานจะพังถล่มลงมา ซึ่งเคยเกิดเหตุการณ์แบบนี้มาแล้วในปี 2547 ทำให้มีผู้เสียชีวิต 4 คน

    หิมะที่ตกลงมาอย่างหนักได้ปิดกั้นการสัญจรในถนนสายรองจำนวนมากทางเหนือและตะวันออก

    นอกจากนี้ หิมะยังทำให้ชาวฝรั่งเศสประมาณ 10,000 ครัวเรือนไม่มีไฟฟ้าใช้ ส่วนเมื่อคืนนี้มีหิมะตกลงมาในเบลเยียมวัดความสูงได้ 4-8 นิ้ว รถโดยสารประจำทางและรถแท็กซี่จำนวนมากในกรุงบรัสเซลส์งดให้บริการและต้องเลื่อนเที่ยวบินจำนวนมาก เช่นเดียวกับการเดินทางด้วยรถไฟ

    ส่วนที่เยอรมนีมีรายงานว่าหิมะตกทั่วประเทศ ต้องยกเลิกการเดินรถไฟหลายขบวนเมื่อคืนนี้

    และงดให้บริการเที่ยวรถไฟระหว่างเมืองฮันโนเวอร์ถึงกรุงเบอร์ลิน ส่วนที่ท่าอากาศดุสเซลดอร์ฟซึ่งใหญ่เป็นอันดับ 3 ของประเทศ มีรายงานว่าต้องปิดบริการเมื่อเช้าวันศุกร์ แต่กลับมาเปิดบริการในช่วงบ่ายวันเดียวกัน

    ทางด้านนักท่องเที่ยวหลายร้อยชีวิตบนเกาะบอร์นโฮล์มของเดนมาร์ก ต้องเข้าไปหลบอยู่ในค่ายทหารหรือบนเรือโดยสารข้ามฝาก ตลอดคืนที่ผ่านมาเนื่องจากหิมะตกหนักมาก ตำรวจเกาะบอร์นโฮล์มเตือนประชาชนให้อยู่แต่ในเคหสถาน เพราะเสี่ยงอันตรายถึงชีวิตหากออกมาเดินอยู่ข้างนอก.-สำนักข่าวไทย


    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย:"ข่าวเข้ม ฉับไว เป็นกลาง"
    [​IMG]</CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 bgColor=#e2e2e2 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ecfae0>สยบข่าวมั่วสึนามิซัด </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ffffff><TABLE class=A14 border=0 cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" align=center><TBODY><TR bgColor=#cccccc><TD vAlign=center> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top>มีจุดกำเนิดไกล กรมทรัพย์ฯ ยัน ไม่ถล่มอ่าวไทย สยบข่าวลือมหาพิบัติภัยส่งท้ายปี 53

    กรมทรัพยากรธรณียันไม่เกิดชัวร์ คลื่นยักษ์สึนามิซัดถล่มชายฝั่งอ่าวไทย-อันดามัน มึนรังสีคอสมิกไม่สัมพันธ์กับตำแหน่งดวงดาวเขย่าแผ่นดินสะเทือน เตือนรอยเลื่อนสะแกง-น้ำมา ขยับเกิน 6.9 ริคเตอร์ 147 อำเภอ 20 จังหวัดภาคกลางพัง!

    เมื่อวันที่ 24 ธ.ค. ที่กรมทรัพยากรธรณี นางพรทิพย์ ปิ่นเจริญ อธิบดีกรมทรัพยากรธรณี กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.)

    พร้อมด้วยนายอดิชาติ สุรินทร์คำ ผู้ตรวจราชการกรมทรัพยา กรธรณี นายเลิศสิน รักษาสกุลวงศ์ ผู้อำนวยการสำนักธรณีวิทยาสิ่งแวดล้อม และธรณีพิบัติภัย ร่วมแถลงข่าว “ฤา (ลือ) ..สึนามิ จะเกิดขึ้นจริง?”

    นางพรทิพย์ กล่าวว่า จากข่าวลือที่กล่าวถึงการเกิดคลื่นยักษ์สึนามิ ในทะเลฝั่งอ่าวไทยและทะเลอันดามัน

    โดยมีลักษณะของน้ำกระโจนเข้าชายฝั่งทั้งสองด้านพร้อมกันตั้งแต่เวลาเที่ยงคืนถึงตี 2 ของวันที่ 30 ธ.ค. นี้ ทางกรมทรัพยากรธรณียืนยันว่า ทางทฤษฎีไม่สามารถเป็นไปได้ เนื่องจากการศึกษาพบแหล่งกำเนิดแผ่นดินไหวในทะเล ที่จะสามารถก่อให้เกิดคลื่นยักษ์สึนามิมี 4 บริเวณ คือ 1. ตอนเหนือของหมู่เกาะนิโคบาร์ บริเวณหมู่เกาะอันดามัน 2 และ 3 บริเวณทิศตะวันตกเฉียงใต้ของเกาะสุมาตรา และ 4 ทิศตะวันตกของประเทศฟิลิปปินส์ (ทะเลจีนใต้) ซึ่งจุดนี้ถ้าเกิดแผ่นดินไหวก็จะมีคลื่นสึนามิเข้ามาทางอ่าวไทยตามที่มีการระบุไว้ได้จริง

    ทั้งนี้จากการทำแบบจำลองการเกิดสึ นามิในบริเวณอ่าวไทย โดยสมมุติเหตุการณ์เกิดแผ่นดินไหวขนาด 8.5 ริคเตอร์


    โดยมีจุดศูนย์กลางอยู่ที่ฝั่งทะเลจีนใต้ หรือทางตะวันออกของประเทศฟิลิปปินส์ คลื่นยักษ์จะเดินทางเข้ากระทบฝั่งบริเวณภาคใต้ที่ จ.นราธิวาส ใช้เวลา 9 ชั่วโมง และใช้เวลา 16 ชั่วโมง ถึงบริเวณปากแม่น้ำเจ้าพระยา แต่หากจุดศูนย์กลางขนาด 8.0 ริคเตอร์อยู่บริเวณตอนเหนือของหมู่เกาะนิโคบาร์ หมู่เกาะอันดามัน ประเทศอินเดีย จะเข้ากระทบฝั่งทะเลอันดามัน ประมาณ 2 ชั่วโมง ที่บริเวณที่ จ.ภูเก็ต ซึ่งปัจจุบันมีการตั้งทุ่นเตือนภัยสึนามิ 3 จุดในมหาสมุทรอินเดียและอันดามัน จึงสามารถเตือนภัยได้ทันที

    ด้านนายอดิชาติ กล่าวว่า จากข้อมูลทางวิชาการช่วง 20 ปีที่ผ่านมาคลื่นสึนามิล้วนเกิดจากการเคลื่อนตัวของแผ่นเปลือกโลก

    และไม่มีหลักฐานใดบ่งชี้ว่าแผ่นดินไหว มีสาเหตุจากปัจจัยนอกโลก โดยเฉพาะที่กล่าวอ้างกันว่าเกิดจากรังสีคอสมิก ไม่สัมพันธ์กับการเรียงตัวของดวงดาวต่าง ๆ ส่วนแผ่นดินไหวบนบกขนาดใหญ่ในไทยนั้น ที่น่าเป็นห่วงคือแผ่นดินไหวตามแนวรอยเลื่อนสะแกงบริเวณชายแดนไทย-พม่า และรอยเลื่อนน้ำมาของลาว หากมีขนาดใหญ่ถึง 6.9 ริคเตอร์ขึ้นไป อาจจะกระทบถึงพื้นที่ราบลุ่มภาคกลางของประเทศไทย ครอบคลุมพื้นที่ 147 อำเภอใน 20 จังหวัด รวมทั้งกทม. เนื่องจากชั้นดินอ่อนอาคารบ้านเรือน ไม่ได้ออกแบบเพื่อต้านทานแผ่นดินไหว.


    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์เดลินิวส์
    [​IMG]</CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 bgColor=#e2e2e2 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ecfae0>เกาหลีใต้ซ้อมรบครั้งใหญ่อีกรอบ</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ffffff><TABLE class=A14 border=0 cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" align=center><TBODY><TR bgColor=#cccccc><TD vAlign=center> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD align=middle>ภาพประกอบข่าวจากอินเตอร์เนท</TD></TR></TBODY></TABLE>
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top>กองทัพเกาหลีใต้ปฏิบัติการซ้อมรบครั้งใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยมีมาเมื่อวานนี้ ท่ามกลางความสัมพันธ์ที่ตึงเครียดกับเกาหลีเหนือ โดยทั้งรถถัง เฮลิคอปเตอร์ ฝูงบินรบ และทหารหลายร้อยนาย เข้าร่วมในการซ้อมรบด้วยกระสุนจริงทั้งทางอากาศและภาคพื้นดินที่สนามฝึกในบริเวณเทือกเขาเมืองโปชอน ห่างจากพรมแดนพิพาทกับเกาหลีเหนือประมาณ 20 กิโลเมตร

    รายงานข่าวระบุว่า รถถังวิ่งลงจากถนนตามเนินเขา ยิงปืนใหญ่เสียงดังกึกก้องไปทั่วหุบเขา และมีกลุ่มควันลอยขึ้นสู่ท้องฟ้าขณะที่ เฮลิคอปเตอร์ที่บินวนอยู่ด้านบนก็ยิงจรวดถล่มเป้าหมาย และเครื่องบินรบ เอฟ-15 ก็ทิ้งระเบิดใส่เป้าหมายดังสนั่นหวั่นไหว การซ้อมรบ ซึ่งใช้เวลาประมาณ 45 นาที เป็นการร่วมซ้อมรบของกองทัพใหญ่ที่สุดในปีนี้

    ความตึงเครียดบนคาบสมุทรเกาหลีพุ่งสูงขึ้นตั้งแต่เกาหลีเหนือยิงปืนใหญ่ถล่มเกาะยอนเปียงของเกาหลีใต้เมื่อเดือนที่แล้ว ซึ่งมีชาวเกาหลีใต้เสียชีวิต 4 ราย ประธานาธิบดีลี มยอง-บัค ของเกาหลีใต้ ให้คำมั่นว่าจะตอบโต้ทันทีหากเกาหลีเหนือโจมตีเกาหลีใต้อีก “ผมคิดว่าความอดทนจะนำสันติภาพมาสู่ภูมิภาคนี้ แต่ในความเป็นจริงแล้ว กลับไม่ใช่” เขาระบุในแถลงการณ์ หลังจากเดินทางไปตรวจเยี่ยมหน่วยทหารใกล้พรมแดน

    ส่วนนายคิม ยัง-ชุน รัฐมนตรีกลาโหมเกาหลีเหนือ เปิดเผยว่า กองทัพเกาหลีเหนือพร้อมทำ “สงครามศักดิ์สิทธิ์” กับเกาหลีใต้ โดยใช้อาวุธนิวเคลียร์ หลังจากเขาเรียกความพยายามของเกาหลีใต้ว่า เริ่มต้นสร้างความขัดแย้ง เขาย้ำข้อกล่าวหาของเกาหลีเหนือว่า เกาหลีใต้กำลังเตรียมเริ่มทำสงครามด้วยการซ้อมรบด้วยกระสุนจริงนอกชายฝั่งด้านตะวันตก

    ด้านจีนย้ำข้อเรียกร้องให้เกิดความสงบบนคาบสมุทรเกาหลี โดยเจียง หยู โฆษกหญิงกระทรวงต่างประเทศจีน กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า สถานการณ์บนคาบสมุทรเกาหลีซับซ้อนและอ่อนไหวมาก เธอย้ำข้อเรียกร้องของจีนให้รื้อฟื้นการเจรจา 6 ฝ่ายที่หยุดชะงักไปนานด้วย

    ขณะที่กลุ่มกู๊ด เฟรนด์ส ซึ่งมีสำนักงานในเกาหลีใต้รายงานว่า เกาหลีเหนือประกาศให้วันคล้ายวันเกิดของนายคิม จอง-อุน บุตรชายของนายคิม จอง-อิล ผู้นำเกาหลีเหนือเป็นวันหยุด ภายหลังจากเตรียมการให้เขาดำรงตำแหน่งทายาททางการเมืองต่อจากบิดา



    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์เดลินิวส์
    [​IMG]</CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  14. วรเดช

    วรเดช เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    1,753
    ค่าพลัง:
    +6,146
    [​IMG]
    ลูกแมวทั้งสองตัวผู้เคราะห์ร้าย ยังไม่รู้ชะตากรรมของตัวเอง
    ตามล่า โจ๋ใจโหด จับแมวใส่ถุงเครื่องดูดฝุ่น ให้ขาดอากาศหายใจ
    ผู้ใช้อินเตอร์เน็ตทั่วโลก ประณามพฤติกรรมวัยรุ่นใจบาป หลังจากที่มีการเผยแพร่วีดิโอ ปรากฎภาพวัยรุ่นชายคนหนึ่งถ่ายวีดิโอตัวเอง กำลังฆ่าลูกแมวสองตัว ด้วยการจับใส่ถุง แล้วใช้เครื่องดูดฝุ่นดูดอากาศออกมา แมวทั้งสองพยายามดิ้นรน จนมันขาดอากาศหายใจ และตายในที่สุด
    วัยรุ่นคนดังกล่าวกำลังถูกตามล่า เพื่อนำตัวมาลงโทษ โดยมีกลุ่มคนชาวเฟสบุคตั้งกลุ่มขึ้นมา พร้อมทั้งประณามพฤติกรรมดังกล่าว สมาชิกคนหนึ่งบอกว่า ทนเห็นภาพการทารุณสัตว์ไม่ได้ เขาทำกับสัตว์ที่ไม่รู้อิโหน่อิเหน่ได้อย่างไร หวังว่าคนที่ทำจะต้องได้รับโทษอย่างสาสม
    [​IMG]
    บางคนบอกว่า ชายดังกล่าวเป็นชาวลัตเวีย หรือ แถบๆยุโรปตะวันออก แต่บางคนสังเกตจากไอพีแอดเดรสที่โพส คาดว่าชายคนนี้น่าจะอยู่ในประเทศ เยอรมันนี
    วีดิโอ ถูกโพสขึ้นในเว็บไซต์ยูทูบ ซึ่งถูกลบออกในภายหลัง
    โดย Mthai news
    [​IMG]
    แมวทั้งสองถูกจับยังใส่ถุงพลาสติก
    [​IMG]
    [​IMG]
    ภาพ : เดลี่เมล์
    <LI class=news_src_item>[​IMG]
    MThai SMS News : ข่าวด่วนถึงมือคุณ ทันทุกเหตุการณ์ ไม่พลาดทุกข่าวร้อน
    สนใจรับข่าวกด *48259080066 แล้วโทรออก ทดลองใช้ฟรี 15 วัน
    สอบถามเพิ่มเติมโทร 02-1007000



    [​IMG]
    สลด! รถตกเหวที่เอกวาดอร์มีผู้เสียชีวิต 41 คน
    เกิดอุบัติเหตุรถโดยสารที่บรรทุกคนเกินพิกัดตกถนนลงไปในหุบเขาลึกที่ ประเทศเอกวาดอร์ ทำให้มีผู้โดยสารที่เดินทางกลับบ้านเพื่อไปฉลองคริสต์มาส เสียชีวิตอย่างน้อย 41 คน ในจำนวนนี้เป็นเด็ก 7 คน และผู้หญิง 13 คน

    เจ้าหน้าที่ช่วยเหลือกู้ภัยเปิดเผยว่า มีผู้รอดชีวิตประมาณ 30 คน แต่ได้รับบาดเจ็บ บางคนสาหัส รถโดยสารดังกล่าวเดินทางมาจากกรุงกีโต นครหลวงของเอกวาดอร์ ไปยังเมืองโชนและซาน อิซิโดร ซึ่งตั้งอยู่ห่างไปทางทิศตะวันออกเป็นระยะทางกว่า 250 กิโลเมตร
    ตำรวจกล่าวว่า รถคันนี้บรรทุกผู้โดยสารเกินพิกัดและดูเหมือนรถจะมีปัญหาที่ห้องเกียร์ ก่อนที่คนขับจะสูญเสียการควบคุม คาดว่าจำนวนผู้เสียชีวิตจะมีเพิ่มขึ้น ขณะนี้เจ้าหน้าที่ได้ระดมกำลังเพื่อกู้ซากรถออกมาจากหุบเขา
    อุบัติเหตุครั้งนี้เกิดขึ้นในวันที่มีการจราจรคับคั่งในเอกวาดอร์ เนื่องจากประชาชนหลายพันคนเร่งรีบเดินทางกลับบ้านที่อยู่ต่างจังหวัดเพื่อ ร่วมฉลองกับครอบครัวในวันคริสต์มาส ขณะที่เอกวาดอร์มีสถิติความปลอดภัยที่ย่ำแย่มากในการใช้ถนน สร้างความเสียหายต่อสังคมคิดเป็นมูลค่าเฉลี่ยปีละ 500 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และอุบัติเหตุบนท้องถนนก็เป็นสาเหตุการเสียชีวิตอันดับ 2 ของชาวเอกวาดอร์ ซึ่งมีประชากรทั้งประเทศ 13 ล้านคน.
    <LI class=news_src_item>[​IMG]
    MThai SMS News : ข่าวด่วนถึงมือคุณ ทันทุกเหตุการณ์ ไม่พลาดทุกข่าวร้อน
    สนใจรับข่าวกด *48259080066 แล้วโทรออก ทดลองใช้ฟรี 15 วัน
    สอบถามเพิ่มเติมโทร 02-1007000



    [​IMG]
    วิกิลีกส์ แฉ พันธมิตรฯ วางแผน ยั่วรัฐ ใช้ความรุนแรง ให้ทหารยึดอำนาจ
    วิกิลีกส์ เว็บไซต์จอมแฉ ได้เปิดเผยเอกสารรายงานของนายอีริค จี. จอห์น (Eric G. John) อดีตเอกอัครราชทูตสหรัฐประจำประเทศไทย โดยระบุว่า เมื่อวันที่ 6 พ.ย.2551 หลังจากเหตุการณ์7 ตุลาคม 2551 นายจอห์นได้รายงานการสนทนากับสมาชิกตระกูลมหาเศรษฐีของไทยคนหนึ่งที่มีเส้นสายกว้างขวาง แต่ไม่มีการเปิดเผยชื่อคนดังกล่าว เพียงแต่ใช้ชื่อสมมติว่านาย ก.
    ทั้งนี้ การสนนทนาในตอนหนึ่ง เป็นเรื่องเหตุการณ์ 7 ตุลาคม 2551 ที่อ้างว่า เหตุที่เกิดขึ้น เป็นการวางแผนของกลุ่มพันธมิตรฯ
    นาย ก.ยังเชื่อว่า กลุ่มพันธมิตรได้วางแผนให้เกิดการนองเลือดระหว่างประชาชนกับเจ้า หน้าที่ จนเป็นเหตุให้ทหารออกมายึดอำนาจ โดยอ้างว่า เมื่อวันที่ 6 ตุลาคม เขาร่วมทานอาหารเย็นกับผู้นำพันธมิตรคนหนึ่ง ซึ่งผู้นำพันธมิตรบอกกับเขาว่า
    พันธมิตรเตรียมยั่วยุให้รัฐใช้ความรุนแรง ในระหว่างการประท้วงหน้ารัฐสภาในวันที่ 7 ตุลาคม และคาดว่า ทหารจะออกมายึดอำนาจในคืนวันนั้น อีกทั้ง นาย ก.ยังยืนยันว่าขณะที่สนทนากันอยู่ พันธมิตรฯ ยังหวังจะสร้างสถานการณ์ปะทะขึ้นใหม่เพื่อให้มีผู้เสียชีวิตอีกกว่า 20 ศพเพื่อให้การที่ทหารออกมายึดอำนาจสมเหตุผล
    เรียบเรียงข่าวโดย Mthai news
    <LI class=news_src_item>[​IMG]
     
  15. วสุธรรม

    วสุธรรม พลังรักอมตะ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 พฤศจิกายน 2008
    โพสต์:
    2,323
    ค่าพลัง:
    +8,220
    สุขสันต์วันคริสมาสครับ
     
  16. ปกรณ์

    ปกรณ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    404
    ค่าพลัง:
    +3,761
    อนุโมทนาบุญกับ ฮิปโป โพธิสัตว์
     
  17. พลอยรุ้ง

    พลอยรุ้ง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    467
    ค่าพลัง:
    +2,088
    อนุโมทนาสาธุ กับคุณแม่ฮิปโปด้วยค่ะ น่ารักจริงๆเลย :cool:
     
  18. Lazaza

    Lazaza เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    991
    ค่าพลัง:
    +5,549
    ======================================


    25 ธ.ค. 53


    เมฆสีแดงกับการทะลายของตึก

    ในภาพได้เห็นก้อนเมฆสีแดงที่สามารถทำให้บ้านเกิดเพลิงไหม้ได้ อีกภาพได้
    เห็นอาคารหลายแห่งเกิดการถล่มทะลายลงมา

    ขอขยายภาพให้ชัดเจนขึ้นอีกนิด เมฆสีแดงที่ผมได้เห็นจะมีลักษณะทรงกลมรี
    ถ้ามองในภาพรวมก็จะเห็นเป็นสีแดงทั้งก้อนแต่ถ้ามองให้ชัด เมฆก้อนนี้จะสวย
    งามมีลายจุดหลากสีพอสมควร ไปถึงไหนก็จะบรรลัยที่นั่น เพราะสามารถทำ
    ลายเครื่องบินหรือทำให้เกิดเพลิงไหม้บ้านได้หรือทำลายอาคารบ้านเรือนให้
    เสียหายทันทีได้

    ผมไม่ทราบว่าจะเป็นเมฆก้อนเดียวกับดาวนิบิรุหรือเปล่า? เพราะผมไม่เคยเห็น
    ดาวนิบิรุ





    องค์อินทร์ ๙๗
    ทำการแทน


    ======================================
    ภาพฐานผาแบ่นบางส่วนค่ะ
    ภาพความคืบหน้าฐานผาแบ่น1
    ภาพความคืบหน้าฐานผาแบ่น2
    ที่มา นาม "องค์อินทร์ ๙๗"







    ---------------------------------------------------------------------
    หลงทางเสียเวลา แต่ไหนแต่ไรมา พระพุทธเจ้าท่านสอนแต่เรื่องทุกข์ และการพ้นทุกข์เท่านั้น<!-- google_ad_section_end -->
     
  19. Dear_Jung

    Dear_Jung เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 พฤศจิกายน 2008
    โพสต์:
    113
    ค่าพลัง:
    +143
    เทรนด์ใหม่กับการทารุณสัตว์ ให้สังคมวิจารณ์
    อยากดังในทางที่ผิด กระต่ายก็ทีนึงแล้ว
     
  20. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    จีนหนาวสุด ภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศติดลบ 45 องศาฯ

    [​IMG]

    จีน 25 ธ.ค. - จีนหนาวยะเยือก ขณะคลื่นความเย็นพัดผ่าน โดยภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศได้รับผลกระทบสูงสุดด้วยอุณหภูมิถึงติดลบ 45 องศาเซลเซียส

    หมู่บ้านนอร์ท โพลาร์ ในมณฑลเหยหลงเจียง ทางตะวันออกเฉียงเหนือของจีนกำลังตกอยู่ในความหนาวยะเยือก ที่อุณหภูมิติดลบ 45 องศาเซลเซียส กอรปกับลมหนาวและหิมะในบางพื้นที่ ขณะที่เมืองโมเฮ ในมณฑลเดียวกันมีอุณหภูมิติดลบ 43.5 องศาเซลเซียส คลื่นความเย็นนี้ยังทำให้มณฑลชานตง ทางตะวันออกมีหิมะตก และมณฑลซานซี ทางตะวันตกเฉียงเหนือมีหิมะตกเป็นครั้งแรกของปี สำนักอุตุนิยมวิทยาจีนเตือนด้วยว่าจีนจะตกอยู่ในสภาพหนาวเย็นอย่างนี้ต่อไป และจะทำให้มีหิมะตกระลอกสองทางตอนใต้ของประเทศ ทั้งในมณฑลหูหนาน และนครเซี่ยงไฮ้ด้วย. -สำนักข่าวไทย

    วันเสาร์ ที่ 25 ธันวาคม พ.ศ. 2553

    ที่มา http://www.mcot.net

    ปรากฎการณ์ดาราศาสตร์ปี 2011 ฝนดาวตกรับปีใหม่

    [​IMG]

    เปิดศักราชใหม่ปีหน้า ผู้ที่สนใจดาราศาสตร์จะได้ชมฝนดาวตกตั้งแต่ต้นปี และยังจะได้ชมจันทรุปราคาเต็มดวงรวมทั้งปรากฎการณ์ดาวเคราะห์ชุมนุมครั้งสำคัญด้วย

    สมาคมดาราศาสตร์ไทยเปิดเผยปรากฎการณ์ดาราศาสตร์ที่น่าสนใจต้อนรับปีใหม่ 2554 โดยชาวไทยจะได้ชมปรากฎการณ์ฝนดาวตกควอดแดรนท์ ในเช้ามืดของวันที่ 5 มกราคม 2554 โดยหันหน้าไปทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือ ตั้งแต่ 2 นาฬิกาไปถึง 6 นาฬืกาซึ่งสามารถชมได้ทั่วประเทศ

    แต่หากอยู่ในที่สูงก็จะเห็นได้ชัดเจนและจะเห็นได้นาทีละ 1 ดวง โดยฝนดาวตกควอดแดรนท์เกิดจากการทิ้งฝุ่นไว้ของดาวหาง 2003 อีเอ็ม 1 บริเวณกลุ่มดาวควอดแดรนท์ ซึ่งเป็นองค์ประกอบของกลุ่มดาวมังกร ขณะที่ในปี 2554 จะเกิดปรากฎการณ์จันทรุปราคาเต็มดวงในคืนวันที่ 15 มิถุนายน และวันที่ 10 ธันวาคม รวมทั้งจะเกิดดาวเคราะห์ชุมนุมครั้งสำคัญ ได้แก่ดาวอังคาร ดาวพุธ ดาวพฤหัสบดี และดาวศุกร์ ในช่วงต้นเดือนพฤษภาคม

    นายอารี สวัสดี นายกสมาคมดาราศาสตร์ไทยกล่าวว่า ปรากฎการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องของดาราศาสตร์ ซึ่งเป็นปรากฎการณ์ทางธรรมชาติ ไม่อยากให้คนไทยนำไปเกี่ยวข้องกับเรื่องโหราศาสตร์และไม่เชื่อว่าจะเกิดภัยธรรมชาติร้ายแรงในปลายปีนี้

    ข่าวทีวีช่อง 3 วันเสาร์ ที่ 25 ธันวาคม พ.ศ.2553

    สตูล-ฝนตกหนัก ดินยุบ เสาไฟฟ้าล้ม 11 ต้น

    [​IMG]

    ฝนตกหนักทำให้ดินที่เพิ่งถมใหม่ทรุดตัวริมถนนเส้นทางละงู-ทุ่งหว้า-ตรัง บริเวณพื้นที่ ม.9 ต.กำแพง อ.ละงู จ.สตูล

    โดยเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นในช่วงที่ฝนตกหนักประกอบกับเป็นถนนที่กำลังมีการขยายจาก 2 เลนเป็น 4 เลนทำให้เสาไฟฟ้าที่ปักอยู่ริมถนนเกิดการทรุดตัวเนื่องจากดินด้านข้างอ่อนตัวและยุบตัวลงประกอบกับช่วงดังกล่าวมีลมกระโชกแรงทำให้เสาไฟฟ้าแรงสูงที่กำลังติดตั้งแต่ยังไม่ได้ใช้งานหักโค่นลงจำนวน 11 ต้น

    เจ้าหน้าที่ไฟฟ้าเร่งดำเนินการซ่อมแซมเนื่องจากเป็นถนนสายหลักเกรงว่าจะเกิดอันตรายต่อการสัญจรไป-มา ของชาวบ้าน และนักท่องเที่ยว เนื่องจากเป็นเส้นทางสายหลักที่จะใช้ผ่านไปในแหล่งท่องเที่ยวทางทะเลของจังหวัด

    ข่าวทีวีช่อง 3 วันเสาร์ ที่ 25 ธันวาคม พ.ศ.2553

    ที่มา http://www.krobkruakao.com/
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

แชร์หน้านี้

Loading...