ประเทศไทยจะเกิดอุบัติภัยอย่างที่ทำนายกันจริงๆหรือไม่

<TABLE border=0 width=670 bgColor=#ffffff><TBODY><TR bgColor=#ffcae3><TD> 'มรดกโลก'เดือด'นพดล'โต้'มาร์ค' </TD></TR><TR><TD> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width=668><TBODY><TR><TD class=A2 vAlign=top> คมชัดลึก :'นพดล' ออกแถลงการณ์ สวนหมัด 'อภิสิทธิ์' กรณี 'ไทย-กัมพูชา' ลั่น กล่าวหาเป็นเท็จ จวก ไร้วุฒิภาวะ ทำเพื่อหวังผลการเมือง



ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายนพดล ปัทมะ ที่ปรึกษากฎหมายพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ในฐานะอดีตรมว.ต่างประเทศ

ได้ออกแถลงการณ์ผ่านเฟซบุ๊ค ถึงกรณีที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ รักษาการนายกรัฐมนตรี ได้เขียนจดหมายฉบับที่ 8 ในเฟซบุ๊ค กรณีปัญหาไทย - กัมพูชาซึ่งมีข้อความหลายตอนที่กล่าวหาพาดพิงถึงเป็นการส่วนตัวว่า การกล่าวหาที่เป็นเท็จดังกล่าวนั้น ถ้าปล่อยทิ้งไว้ก็จะทำให้พี่น้องที่อ่านความเท็จเข้าใจผิด

ตนไม่นึกไม่ฝันว่านายอภิสิทธิ์จะกล้าใช้ความเท็จใส่ร้ายป้ายสีตนขนาดนี้ ทั้งๆ ที่ตนไม่เคยทำร้ายท่าน นายอภิสิทธิ์จะหาเสียงก็ว่าไป เพราะตนเป็นผู้ถูกตัดสิทธิทางการเมือง ไม่สามารถใช้สิทธิเลือกตั้งหรือลงสมัครรับเลือกตั้งได้ ตนไม่อยากตอบโต้ท่าน แต่ขอใช้สิทธิชี้แจงเพื่อปกป้องตนเอง และที่สำคัญกว่าเกียรติยศและชื่อเสียงของตนก็คือความจริง พี่น้องคนไทยมีสิทธิที่จะรู้ความจริงว่าในอดีตและปัจจุบันนั้นใครปกป้องดินแดน ทั้งนี้ การชี้แจงของตนนั้นไม่เกี่ยวกับพรรคการเมืองใดๆ ทั้งสิ้น และไม่เกี่ยวกับตำแหน่งที่ปรึกษาพ.ต.ท.ทักษิณ

ปัญหาปราสาทพระวิหารนั้นมีที่มาที่ไปและซับซ้อน ขอสรุปให้เข้าใจง่ายๆ คือ

1. ในปี 2505 ไทยแพ้คดีในศาลโลกในคดีที่หม่อมเสนีย์ ปราโมช ว่าความ รัฐบาลจอมพลสฤษดิ์จึงจำใจและจำยอมยกปราสาทพระวิหารให้กัมพูชาตามคำตัดสินของศาลโลกเมื่อ 46 ปีที่แล้ว นายสมัคร สุนทรเวช อดีตนายกรัฐมนตรี หรือตนไม่ใช่คนยกปราสาทพระวิหารให้กัมพูชา นอกจากนี้ ปี 2549 กัมพูชาไปยื่นคำขอขึ้นทะเบียนปราสาทพระวิหารเป็นมรดกโลก โดยแผนที่ที่ยื่นนั้นรุกล้ำและผนวกเอาพื้นที่ทับซ้อน 4.6 ตารางกิโลเมตรที่ไทยอ้างสิทธิเข้าไปด้วย

กล่าวคือกัมพูชายื่นขอขึ้นทะเบียนตัวปราสาทและพื้นที่ทับซ้อน จากนั้นปี 2550 ในสมัยรัฐบาลพลเอกสุรยุทธ์ไทยคัดค้านไม่ให้กัมพูชานำพื้นที่ทับซ้อนไปขึ้นทะเบียน จนคณะกรรมการมรดกโลกเลื่อนการพิจารณาการขึ้นทะเบียนปราสาทจากปี 2550 ไปเป็นก.ค. 2551 ต่อมา เดือนก.พ. 2551 รัฐบาลคมช.หมดวาระลง รัฐบาลนายสมัครเข้ามาจึงต้องรับช่วงแก้ปัญหา และรัฐบาลเสมือนถูกไฟลนก้นเพราะเหลือเวลาเพียง 5 เดือนก่อนประชุมมรดกโลกในเดือนก.ค. 2551 ต้องเร่งเจรจาให้กัมพูชาตัดพื้นที่ทับซ้อนออกก่อนให้ได้ เพราะแผนที่ที่กัมพูชายื่นคาไว้ตั้งแต่ปี 2549 นั้นผนวกเอาพื้นที่ทับซ้อนไปขึ้นทะเบียนไว้ด้วย

พื้นที่ทับซ้อน 4.6 ตารางกิโลเมตรนั้นต่างฝ่ายต่างอ้างสิทธิ ไทยก็อ้างเป็นเจ้าของ กัมพูชาก็อ้างว่าเป็นเจ้าของ รัฐบาลนายสมัครและตนพยายามเจรจาให้กัมพูชาตัดพื้นที่ทับซ้อนออก และห้ามนำไปขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก เพราะหากกัมพูชาขึ้นทะเบียนพื้นที่ทับซ้อนเป็นมรดกโลกสำเร็จไทยจะสุ่มเสี่ยงเสียอธิปไตยในพื้นที่ทับซ้อน

ทั้งนี้ การดำเนินการที่รัฐบาลนายสมัครและตนทำไปนั้นดำเนินการเป็นขั้นเป็นตอน

หน่วยงานของรัฐและข้าราชการประจำทุกฝ่ายร่วมกันทำและเห็นด้วย เช่น กระทรวงการต่างประเทศ กองทัพไทย สภาความมั่นคงแห่งชาติ กรมแผนที่ทหาร ครม. พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา อดีตผบ.ทบ. และพล.อ.วินัย ภัทยกุล หากรัฐบาลนายสมัครและตนไม่คัดค้านอย่างแข็งขันและเจรจาจนสำเร็จ กัมพูชาจะผนวกเอาพื้นที่ทับซ้อนไปขึ้นทะเบียนด้วยแล้วเราจะแย่กว่านี้ พวกตนเป็นผู้ปกป้องดินแดนไทย

คำแถลงการณ์ร่วมที่ครม.นายสมัครอนุมัติให้ตนไปเซ็นนั้นขณะนี้สิ้นผลไปแล้วตามหนังสือยืนยันของรมต.ต่างประเทศกัมพูชา และตอนที่กัมพูชาขึ้นทะเบียนปราสาทเป็นมรดกโลกในเดือนก.ค. 2551 นั้น คณะกรรมการมรดกโลกก็ห้ามไม่ให้นำคำแถลงการณ์ร่วมเข้าประกอบการพิจารณาตามที่ไทยขอระงับผลตามคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวของศาลปกครอง แสดงว่าไทยจะสนับสนุนการขึ้นทะเบียนตัวปราสาทหรือไม่ก็ไม่ได้มีความสำคัญเลย กัมพูชาขึ้นทะเบียนเฉพาะตัวปราสาทได้อยู่ดี

อย่างไรก็ตาม คำแถลงการณ์ร่วมทำให้กัมพูชายอมรับเป็นครั้งแรกว่ามีพื้นที่ทับซ้อนทั้งๆ ที่ปฏิเสธมาโดยตลอด และโชคดีที่ในการประชุมที่แคนาดาในปี 2551 กัมพูชาขอขึ้นทะเบียนปราสาทพระวิหารโดยไม่เอาพื้นที่ทับซ้อนขึ้นทะเบียนด้วย และโชคดีที่กัมพูชาทำตามแนวทางของแถลงการณ์ร่วมแม้ว่าจะไม่ผูกพันเขาเพราะไทยระงับผลไว้ก็ตาม

2. ในเรื่องปราสาทพระวิหาร กลุ่มพันธมิตรฯ เคยกล่าวหานายอภิสิทธิ์ว่าขายชาติ ตนเป็นคนพูดเองว่านายอภิสิทธิ์ไม่ได้เป็นคนขายชาติ ไม่มีนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีต่างประเทศคนไหนจะทำอย่างนั้นแน่





</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width=668><TBODY><TR><TD class=A2 vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD></TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width=668><TBODY><TR><TD class=A2 vAlign=top>3. นายอภิสิทธิ์กล่าวในจดหมายฉบับที่ 8 ในเฟซบุ๊คว่า ตนไม่มีสิทธิที่จะมาตำหนิรัฐบาลของนายอภิสิทธิ์เพราะตนเป็นผู้สร้างความเสี่ยงให้ไทยต้องอยู่ในภาวะอันตรายต่ออธิปไตยของชาติ เนื่องจากเป็นผู้ไปลงนามสนับสนุนให้กัมพูชาขึ้นทะเบียนปราสาทพระวิหารเป็นมรดกโลกแต่เพียงฝ่ายเดียวในปี 2551 สิ่งที่ควรทำคือการนั่งนิ่งๆ แล้วถามตัวเองว่าได้ทำอะไรลงไปกับประเทศชาติจนทำให้นายอภิสิทธิ์ต้องต่อสู้เพื่อรักษาสิทธิและอธิปไตยของไทยที่ตนกับพวกเกือบจะยกใส่พานให้กัมพูชาไปแล้วหากไม่มีการเปลี่ยนแปลงรัฐบาลเสียก่อนนั้น

นายอภิสิทธิ์ไม่รู้จริงๆ หรือแกล้งไม่รู้ น่าจะมีวุฒิภาวะและละอายแก่ใจบ้างว่าสิ่งที่รัฐบาลนายสมัครได้ทำไปนั้นก็เพื่อปกป้องดินแดนและพื้นที่ทับซ้อน 4.6 ตารางกิโลเมตร ไม่ให้กัมพูชาเอาไปขึ้นทะเบียนมรดกโลก และเจรจาสำเร็จจนกัมพูชายอมตัดพื้นที่ทับซ้อนออกไป รัฐบาลยนายสมัครและตนจึงเป็นผู้ปกป้องดินแดนไม่ได้เป็นผู้ทำให้เสียดินแดนหรือสร้างปัญหาเอาไว้ นายอภิสิทธิ์อุตส่าห์ประดิษฐ์ประดอยถ้อยคำซึ่งเป็นความเท็จและเป็นการใส่ร้ายทั้งสิ้น รัฐบาลนายสมัครและตนไม่เคยยกอธิปไตยใส่พานให้กัมพูชา

4. กรณีที่นายอภิสิทธิ์กล่าวหาว่ารัฐบาลนายสมัครและตนไปสนับสนุนให้กัมพูชาขึ้นทะเบียนปราสาทพระวิหารเป็นมรดกโลกฝ่ายเดียวในปี 2551 นั้น นายอภิสิทธิ์พูดความจริงครึ่งเดียว ท่านพูดถูกที่ว่าตนได้ลงนามในคำแถลงการณ์ร่วม แต่ท่านพูดเท็จตรงที่ว่า คำแถลงการณ์ร่วมมีผลเป็นการสนับสนุนให้กัมพูชาขึ้นทะเบียนมรดกโลกได้ จะเห็นได้ว่าการพิจารณาและในมติของที่ประชุมคณะกรรมการมรดกโลกในปี 2551 มีการระบุอย่างชัดเจนถึงการไม่อ้างอิง ไม่พิจารณา ไม่คำนึงถึง และห้ามนำแถลงการณ์ร่วมฉบับวันที่ 18 มิถุนายน 2551 มาใช้ประกอบการพิจารณาตามการตัดสินใจของรัฐบาลไทยที่จะระงับแถลงการณ์ร่วมดังกล่าวตามคำสั่งศาลปกครองกลาง

ดังนั้น จึงสรุปได้ชัดเจนจากเอกสารว่า คณะกรรมการมรดกโลกมีมติขึ้นทะเบียนปราสาทพระวิหารเป็นมรดกโลกโดยพิจารณาจากคุณค่าสากลอันโดดเด่นของตัวปราสาทเอง ไม่เกี่ยวกับแถลงการณ์ร่วมหรือร่างแถลงการณ์ร่วม หรือการสนับสนุนของไทย

นายอภิสิทธิ์เรียนกฎหมายมาน่าจะเข้าใจถึงหลักกฎหมายพื้นฐานในข้อนี้ดีว่า เอกสารที่ห้ามใช้หรือเป็นโมฆะนั้น ย่อมไร้ผลทางกฎหมาย ดังนั้น คำแถลงการณ์ร่วมที่คณะรัฐมนตรีนายสมัครอนุมัติให้ตนไปเซ็นจึงไม่มีผลใดๆ ทางกฎหมายเลย เอกสารคำแถลงการณ์ร่วมจึงไร้ผลทางกฎหมาย ซึ่งแม้แต่ทางกัมพูชาเองก็ยอมรับว่ามันไม่มีผลทางกฎหมายใดๆ เลย เพราะฉะนั้นการกล่าวหาว่าตนไปเซ็นเอกสารและสร้างความเสียหายจึงเป็นการกล่าวหาที่เป็นเท็จโดยสิ้นเชิง

5. นายอภิสิทธิ์ กล่าวในหน้าที่ 2 ของจดหมายฉบับที่ 8 ในเฟซบุ๊คว่า บอกตรงๆ ว่ารู้สึกละอายใจแทนตนที่จนถึงวันนี้ยังไม่ได้สำนึกเลยว่า ต้นตอปัญหาที่รัฐบาลตนสร้างขึ้นกำลังส่งผลร้ายแรง คุกคามชีวิตพี่น้องประชาชนตามแนวชายแดนอย่างที่ไม่ควรจะเกิดขึ้นเลยนั้น ตนดีใจที่นายอภิสิทธิ์ก็เป็นคนที่รู้สึกละอายใจได้เหมือนคนทั่วไป แต่แปลกใจว่าตอนที่มีคนตาย 91 คนและบาดเจ็บ เกือบ 2 พันคนนั้น ไม่เห็นท่านรู้สึกเช่นนั้น ไม่เห็นท่านแสดงความรับผิดชอบอะไรเลย

ทั้งนี้ นายอภิสิทธิ์ไม่ต้องละอายใจแทนตน เพราะรัฐบาลนายสมัครและตนเป็นผู้เจรจาปกป้องดินแดนพื้นที่ทับซ้อน และรัฐบาลนายสมัครและตนไม่ได้สร้างปัญหาไว้อย่างที่นายอภิสิทธิ์กล่าวหา และไม่มีการเสียดินแดนหรือผลร้ายแรงใดๆ นายอภิสิทธิ์เคยออกทีวีช่อง 11 ดีเบทกับกลุ่มพันธมิตรฯ ก็เคยพูดไว้ว่า กัมพูชาขึ้นทะเบียนเฉพาะตัวปราสาทและไม่มีการเสียดินแดน ลองไปเปิดเทปดูจะช่วยเตือนความจำได้

6. ในหน้าที่ 2 ของจดหมายฉบับที่ 8 ในเฟซบุ๊ค นายอภิสิทธิ์กล่าวหาด้วยความเท็จว่า รัฐบาลนายสมัครโดยรมว.ต่างประเทศในขณะนั้น ออกแถลงการณ์ร่วมไทย-กัมพูชาลงวันที่ 18 มิถุนายน 2551 มีเนื้อหาสนับสนุนให้กัมพูชาขึ้นทะเบียนปราสาทพระวิหารเป็นมรดกโลกแต่เพียงฝ่ายเดียว และยอมรับแผนที่ 1 ต่อ 200,000 หรือแผนที่ฝรั่งเศสให้ใช้เป็นแผนการพัฒนาบริหารจัดการพื้นที่อนุรักษ์รอบปราสาทพระวิหารนั้น ข้อความนี้เป็นเท็จโดยสิ้นเชิง

ไม่มีความตอนใดของคำแถลงการณ์ร่วมที่มีการยอมรับแผนที่ 1 ต่อ 200,000 หรือแผนที่ฝรั่งเศสเลย เพราะทุกคนในกระทรวงการต่างประเทศ และรัฐมนตรีต่างประเทศรู้ว่าเราไม่ยอมรับแผนที่ระวางนี้ที่เป็นสาเหตุให้ไทยแพ้คดี จะมีการเขียนถึงก็คือในบันทึกความตกลงปี 2543 ที่รัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์ไปเซ็นกับกัมพูชาเท่านั้น

และ 7. ในความตอนล่างของหน้าที่ 2 ของจดหมายฉบับที่ 8 ในเฟซบุ๊ค ที่นายอภิสิทธิ์ระบุว่า มิอาจยับยั้งการใช้แถลงการณ์ดังกล่าวเป็นใบเบิกทางให้กัมพูชาขึ้นทะเบียนปราสาทพระวิหารแต่เพียงฝ่ายเดียวได้ เพราะคณะกรรมการมรดกโลกได้มีมติขึ้นทะเบียนปราสาทพระวิหารเป็นมรดกโลกแต่เพียงฝ่ายเดียวในวันที่ 8 ก.ค. 2551 เช่นเดียวกันนั้น นายอภิสิทธิ์เขียนให้คนเข้าใจผิดว่าเป็นเพราะคำแถลงการณ์ร่วมจึงทำให้กัมพูชาขึ้นทะเบียนปราสาทเป็นมรดกโลกได้ ซึ่งเป็นความเท็จ เพราะเอกสารนี้ไร้ผลทางกฎหมาย และคณะกรรมการมรดกโลกตัดเอกสารนี้ไม่ให้นำเข้าพิจารณา การเขียนของนายอภิสิทธิ์เป็นการเขียนความเท็จที่คิดเอาเอง ไม่มีแหล่งอ้างอิง และเป็นการใส่ร้ายป้ายสีอย่างน่าละอาย

ความจริงยังมีอีกหลายประเด็นที่มีการบิดเบือนในจดหมายฉบับที่ 8 ในเฟซบุ๊คกรณีปัญหาไทย - กัมพูชา ซึ่งตนขอสงวนสิทธิ์ชี้แจงในภายหลัง แต่ในเบื้องต้นนั้นขอชี้แจงประเด็นสำคัญและข้อกล่าวหาที่เป็นเท็จที่ต้องรีบชี้แจงเพื่อขจัดความสับสน

ทั้งนี้ แม้ตนจะไม่มีสิทธิเลือกตั้งแต่ก็อยากเห็นการรณรงค์หาเสียงอย่างสร้างสรรค์ อยากเห็นนักการเมืองและนักการเมืองแต่ละพรรคนำนโยบายและเสนอแนวทางแก้ไขปัญหาให้ประเทศ ถ้านโยบายพรรคประชาธิปัตย์ดีกว่าประชาชนก็จะสนับสนุนพรรคประชาธิปัตย์ ถ้านโยบายพรรคเพื่อไทยดีกว่าประชาชนก็จะสนับสนุนพรรคเพื่อไทย ประชาชนคิดเป็นและเลือกเป็น

แต่การที่นักการเมืองเอาความเท็จมาใส่ร้ายป้ายสีคนอื่นโดยไม่ละอายและไร้ซึ่งวุฒิภาวะนั้นตนไม่เชื่อว่าการทำเช่นนี้จะทำให้ได้คะแนน เพราะเป็นการดูถูกสติปัญญาคนไทยที่ต้องการนักการเมืองที่พูดความจริงทั้งหมด ไม่ใช่พูดความจริงเพียงครึ่งเดียว หรือแย่ยิ่งกว่านั้นคือการเอาความเท็จมาพูด สิ่งที่นายอภิสิทธิ์เขียนในเฟซบุ๊คนั้นเป็นความพยายามที่จะใส่ร้ายป้ายสีตน นายอภิสิทธิ์อาจจะพยายามทำลายเกียรติยศและศักดิ์ศรีของตน ซึ่งตนอดทนได้และอโหสิกรรมให้ นายอภิสิทธิ์อาจจะพยายามเหยีบย่ำตนได้แต่ตนจะไม่ยอมให้นายอภิสิทธิ์เหยียบย่ำทำลายความจริง และตนจะปกป้องความจริงจนสุดกำลัง

ถ้าหากมองเนื้อหาการเขียนจดหมายฉบับที่ 8 ในทางที่ดีนั้น จะแสดงให้เห็นว่านายอภิสิทธิ์อาจเป็นผู้นำที่ไม่ได้ศึกษาหาความรู้และดูความเป็นมาของกรณีปราสาทเขาพระวิหารจากข้อเท็จจริงและเอกสารของราชการ ทั้งๆ ที่บริหารประเทศมาเกือบ 3 ปี แต่ถ้ามองในทางที่แย่ แสดงว่านายอภิสิทธิ์ไร้วุฒิภาวะและความเป็นนายกรัฐมนตรี ทำทุกอย่างเพื่อหวังผลทางการเมือง ใช้แม้กระทั่งความเท็จกล่าวหาผู้อื่นอย่างไร้จริยธรรมของผู้นำ ตนสัญญาจะต่อสู้กับความเท็จและการใส่ร้ายป้ายสีอย่างไม่ย่อท้อ
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์คมชัดลึก
</CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

Mthai News: สำนักข่าวต่างประเทศเผยแพร่ภาพ ถ้ำแร่ยิปซัมที่ยาวที่สุดในโลก โดยเหล่านักถ่ายภาพใต้น้ำประเทศรัสเซีย
โดยถ้ำนี้คือ ถ้ำออดา อยู่ทางตะวันออกของเขตเทือกเขายูแร็ลส ซึ่งอยู่ห่างจากช่องเขาตามธรรมชาติที่เกิดจากน้ำไปเพียง 3 ไมล์ (4.8 กม.) ดังนั้นนักดำน้ำจึงสามารถเห็นวิวที่อยู่ข้างหน้าได้ไกลถึง 50 หลา (ประมาณ 45.5 ม.)
ทั้งนี้ วิคเตอร์ ไลย์กุชเกน นักข่าวและช่างภาพวัย 40 ปี จากประเทศรัสเซียกล่าวว่า ก่อนหน้านี้เมื่อ 6 เดือนที่แล้ว เขาและทีมงานเคยลงสำรวจถ้ำแห่งนี้มาแล้ว แต่อุณหภูมิขณะนั้นเย็นจนแทบจะเป็นน้ำแข็ง ซึ่งครั้งนี้เขากับทีมงานก็พบว่ามันคือความงามที่ธรรมชาติรังสรรค์ขึ้น และบอกว่า หากใครต้องการมาสัมผัสความงดงามเหล่านี้ด้วยตนเอง จะต้องมีประสบการณ์ในการดำน้ำลึกมาพอสมควร
นอกจากนี้ ไลย์กุชเกนยังกล่าวต่ออีกว่า การลงสำรวจในครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งของการสร้างความหวงแหนและตระหนักในความสวยงามและความเปราะบางของธรรมชาติ แม้อาจจะต้องเจออันตราย แต่พวกเขาพร้อมจะเผชิญมันโดยไม่ลืมคำนึงความปลอดภัย ซึ่งสิ่งตอบแทนที่คุ้มค่าก็คือ การได้เห็นความสวยงามของธรรมชาติในแบบที่ไม่เคยเห็นมาก่อน
อย่างไรก็ตาม นักวิทยาศาสตร์ให้ความสนใจกับถ้ำแร่ยิปซัมนี้อย่างมาก ซึ่งได้ให้ทีมของ ไลย์กุชเกน เก็บตัวอย่างน้ำ โคลน และแร่ธาตุจากถ้ำ เพื่อนำมาพัฒนาต่อ
Mthai news
เกาะติดทุกข่าวเด่น ประเด็นร้อน ในรอบวันกับ Mthainews บน facebook คลิ๊กเลย

<EMBED height=349 type=application/x-shockwave-flash width=560 src=http://www.youtube.com/v/E1_DQPvOS2k?version=3&hl=en_US allowscriptaccess="always" allowfullscreen="true"></EMBED>



Photo:: Victor Lyagushkin // Barcroft Media

แท็ก : ถ้ำ, รัสเซีย, แร่ยิปซัม

 

จะไม่ให้แตกแยกได้อย่างไร ในเมื่อพรรคการเมืองและนักการเมืองที่จะเข้ามาบริหารประเทศ ที่จะต้องทำให้ประเทศเป็นนิติรัฐ ที่จะต้องรักษากฎหมายให้เป็นกฎหมายอย่างแท้จริง ได้ละเมิดกฎหมายในการเลือกตั้งแทบทั้งหมดอย่างโจ่งครึ้ม แทบไม่มีใครไม่ละเมิดกฎหมายบ้านเมืองเลย และหน่วยงานของรัฐที่รักษากฎหมายบ้านเมือง ต่างละเว้นในการทำหน้าที่ โดยเฉพาะ กตต.แทบไม่มีบทบาทสกัดนักการเมืองที่ละเมิดกฎหมายแม้แต่น้อย และยังหน่วยงานอื่น ๆ ไม่ว่าตำรวจ ทหาร ฯลฯ ต่างก็นิ่งเฉยไม่ยอมปฏิบัติหน้าที่อย่างเข้มแข็ง เพราะเกรงกลัวนักการเมืองหรือเปล่า จึงปล่อยให้นักการเมืองต่างย่ำยี่เหยียบย่ำกฎหมายบ้านเมืองอย่างไม่เกรงกลัวแต่อย่างใด ใครละเมิดกฎหมายมากกว่าก็อาจชนะการเลือกตั้ง แล้วอย่างนี้ หลังจากการเลือกตั้ง ใครเขาจะยอมรับการเลือกตั้งครั้งนี้ ยิ่งฝ่ายที่แพ้ ก็ยิ่งออกมาต่อต้าน ฟ้องร้องวุ่นวายแน่นอน ไม่มีใครยอมรับการเลือกตั้งหรอกครับ ในเมื่อยังไม่ทันที่ประชาชนจะหย่อนบัตร นักการเมืองก็ละเมิดกฎหมายกันเป็นว่าเล่น โดยผู้มีหน้าที่รักษากฎหมายต่างนิ่งเฉยเกรงกลัวนักการเมือง ไม่ทำหน้าที่แม้แต่หน่วยงานเดียว อมิตตพุทธ ประเทศชาติและประชาชนคนไทย

 

=====================================


28 มิ.ย. 54


ปิดฐานผาแบ่น

เหลืออีกสองวันผมก็จะปิดฐานฯการรับบุคคลเพื่อจะหนีภัยในยามเกิดภัยพิบัติ
พื้นที่ๆยังเหลืออยู่ก็จะกันไว้ให้สำหรับคนในและผู้ไม่ทานเนื้อสัตว์สายดอนเมือง
ตามที่หน่วยเหนือได้บัญชาเอาไว้

ความจริงผมจะปิดตั้งแต่วันที่ผมได้กลับจากการขึ้นไปสร้างบ้านน็อคดาวน์ที่
ฐานฯแต่ก็ยังห่วงคนที่ยังไม่รู้จะไปอยู่ที่ใดผมจึงดึงเวลามาถึงสิ้นเดือนมิถุนายน
ช่วงที่ผมได้เปิดรับก็มีผู้ที่สนใจเข้ามาคุยอยู่สามรายแต่ละรายก็แสดงความจำ
นงค์อยากจะไปอยู่ด้วย บางรายไม่ค่อยมีเงิน ผมก็ให้ค่อยทะยอยส่งตามกำลังที่
เขาจะช่วย บางรายเมื่อเห็นตัวเงินที่แนวร่วมที่ได้เข้ามาช่วยก็หายไปทันที การที่
เราจะไปอยู่ที่ใดก็แล้วแต่ ไม่ว่าวัดหรือที่อื่นๆที่เขาเปิดรับเราต้องไปช่วยเขาทำ
งาน ออกเงินในการเตรียมการเพราะการหนีภัยไม่ใช่การไปพักผ่อน เรายังไม่รู้
ว่าเมื่อไปอยู่จะอยู่นานเท่าใด อาจเป็นเดือน เป็นปีหรืออาจตลอดชีวีต ดังนั้น
การเตรียมความพร้อมของทุกพื้นที่จึงต้องใช้เงินในการจัดการ

สำหรับท่านที่สนใจก็เข้ามาคุย ผมให้เวลาแค่สองวันที่เหลือเพราะผมให้เวลา
มาสองปีแล้ว




องค์อินทร์ ๙๗
ทำการแทน

======================================
ภาพฐานผาแบ่นค่ะ(tanphaban.blogspot.com)
ที่มา นาม "องค์อินทร์ ๙๗"

 

วันที่ 29 มิถุนายน พ.ศ. 2554 ปีที่ 21 ฉบับที่ 7517 ข่าวสดรายวัน


กฟผ.ชี้ท่อก๊าซรั่วกระทบค่าไฟ2.5ส.ต. ชาวบ้านลุ้นระทึกแบกภาระเอฟทีงวดก.ย.-ธ.ค.นี้



น.พ.มารุต มัสยวาณิช รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ในที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันที่ 28 มิ.ย. นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ได้แสดงความเป็นห่วงสถานการณ์ก๊าซธรรมชาติในอ่าวไทย ของบริษัท ปตท. จำกัด(มหาชน)รั่ว ส่วนที่มีความเป็นห่วงว่าอาจเป็นสาเหตุทำให้ค่าไฟฟ้าเพิ่มขึ้นนั้น เรื่องนี้ไม่เป็นความจริง

นายณอคุณ สิทธิพงศ์ ปลัดกระทรวงพลังงาน กล่าวว่า กระทรวงได้ยืนยันกับนายกฯ ว่าสามารถบริหารจัดการได้จะไม่ทำให้เกิดการขาดแคลนไฟฟ้า ก๊าซเอ็นจีวี และก๊าซแอลพีจี ซึ่งเป็นประเด็นที่ครม.แสดงความเป็นห่วง และสั่งการให้ระวังการผลักภาระค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นไปยังประชาชน ซึ่งกระทรวงจะไปหารือร่วมกับปตท. การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) และสำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (เรกกูเลเตอร์) ถึงเรื่องนี้ต่อไป โดยจะมีการประเมินรูปแบบการจัดการปัญหาอีกครั้งในวันพุธที่ 29 มิ.ย.นี้

ด้านนายสุทัศน์ ปัทมสิริวัฒน์ ผู้ว่าการกฟผ. กล่าวว่า ปตท. แจ้งมาล่าสุดว่าหากความเสียหายเกิดขึ้นที่ท่อเล็กซึ่งเชื่อมต่อจากแหล่งปลาทองมาท่อใหญ่ คาดว่าจะใช้เวลาซ่อมประมาณ 2 สัปดาห์ ซึ่งกฟผ.คาดว่าต้องใช้น้ำมันเตาผลิตไฟฟ้าประมาณ 9-10 ล้านลิตร/วัน คิดเป็นมูลค่าตลอด 2 สัปดาห์ประมาณ 1,000 ล้านบาท คิดเป็นต้นทุนไฟฟ้าประมาณ 2.5 ส.ต./หน่วย แต่ถ้าเกิดความเสียหายกับท่อใหญ่จะใช้เวลาซ่อมประมาณ 2 เดือนผลกระทบต่อค่าไฟฟ้าจะอยู่ที่ประมาณ 10 ส.ต./หน่วย

"หากผลกระทบแค่ 2 สัปดาห์ กฟผ.ยังสามารถดูแลการผลิตไฟฟ้าให้มีเพียงพอ แต่ถ้านานถึง 2 เดือนไม่แน่ว่าจะรับมือไหวหรือไม่ เพราะขณะนี้สำรองน้ำมันเตามีเพียง 10 วัน หากการผลิตไฟฟ้าจากน้ำมันเตาไม่เพียงพออาจต้องเดินเครื่องจากดีเซลแทน ซึ่งดีเซลจะมีต้นทุนแพงกว่าน้ำมันเตาถึง 2 เท่า" นายสุทัศน์กล่าว

นายประเสริฐ บุญสัมพันธ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ ปตท. กล่าวว่า จากการตรวจสอบล่าสุดพบว่าท่อก๊าซที่รั่วในอ่าวไทยเป็นท่อย่อยขนาด 24 นิ้วเท่านั้น ไม่ได้เกิดปัญหาบริเวณท่อก๊าซเส้นที่ 1 หรือท่อประธานที่มีขนาด 34 นิ้ว จึงคาดว่าระยะเวลาซ่อมแซมจะสั้น และคาดว่าปริมาณก๊าซที่หายไปจะอยู่ที่ 120-150 ล้านลูก บาศก์ฟุต/วัน ซึ่งเป็นก๊าซมาจากแหล่งปลาทอง 1 เท่านั้น ดังนั้น จะใช้น้ำมันเตาในการผลิตไฟฟ้าน้อยลงกว่าคาดการณ์เดิม จากที่ขณะนี้ก๊าซหายไปรวม 600 ล้านลูกบาศก์ฟุต/วัน ส่วนต้นทุนที่เกิดขึ้นนั้นผู้ที่รับผิดชอบคงจะเป็นบริษัทรับเหมา คือบริษัท ฮุนได และทางปตท.เจ้าของท่อ แต่ภาพรวมผลกระทบที่เกิดขึ้นใครจะรับผิดชอบ เรกกูเลเตอร์คงจะดูทั้งหมดอีกครั้ง

นายดิเรก ลาวัณย์ศิริ ประธานเรกกูเลเตอร์ กล่าวว่า ขณะนี้รอให้การแก้ปัญหาก๊าซรั่วจบก่อน จึงจะพิจารณาว่าใครจะต้องรับผิดชอบภาระที่เกิดขึ้น โดยจะพยายามไม่ให้เกิดผลกระทบต่อค่าไฟฟ้าอัตโนมัติ (เอฟที) ที่ประชาชนต้องจ่าย หากจะมีผลกระทบคงจะเป็นค่าเอฟทีงวดหน้า เดือนก.ย.-ธ.ค.นี้

ศาลโลกให้จับ'กัดดาฟี'สั่งฆ่าม็อบ



<TABLE cellSpacing=5 cellPadding=0 width=360 align=left border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle bgColor=#e0e0e0>
</TD></TR></TBODY></TABLE>เอเอฟพีรายงานว่า เมื่อ 28 มิ.ย. รัฐบาลลิเบียไม่ยอมรับศาลอาญาระหว่างประเทศ หรือไอซีซี ที่ออกหมายจับพ.อ.โมอัมมาร์ กัดดาฟี ผู้นำลิเบีย พร้อมด้วยนายเซฟ อัล อิสลาม บุตรชายของกัดดาฟี วัย 39 ปี และนายอับดุลลาห์ อัล เซนุสซี วัย 62 ปี หัวหน้าหน่วยข่าวกรองลิเบีย ในข้อหาก่ออาชญากรรมต่อมนุษยชาติ กรณีสมคบคิดกันสังหารพลเรือนหลายร้อยคนในช่วงของการลุกฮือประท้วงกลางเดือนก.พ.

นายโมฮัมเหม็ด อัล-คามูดี รมว.ยุติธรรมลิเบีย แถลงว่า ศาลไอซีซีไม่มีความชอบธรรมที่จะปรักปรำลิเบียและไม่มีอำนาจสั่งจับกัดดาฟีและบุตรชาย เนื่องจากเป็นเพียงเครื่องมือของนาโต้ที่พยายามลอบสังหารกัดดาฟีและครอบครัว ควรจะไปออกหมายจับนาโต้มากกว่า

ด้านนายคาเล็ด คาอิม รมช.ต่างประเทศลิเบีย กล่าวว่า ปัญหาด้านสิทธิมนุษยชนและคดีอาญาใดๆ ที่เกิดขึ้นในลิเบีย ลิเบียจะใช้ศาลของตัวเองจัดการแก้ไขปัญหาเอง

ดัน"ซูเปอร์ทราย"ใช้กรองน้ำดื่มได้



<TABLE cellSpacing=5 cellPadding=0 width=360 align=left border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle bgColor=#e0e0e0>
</TD></TR></TBODY></TABLE>ปัญหาที่ประชากรในกลุ่มประเทศกำลังพัฒนาทั่วโลกประสบอยู่ไม่น้อยหน้ากันคือเรื่องขาดแคลนน้ำดื่มสะอาด ข้อมูลจากองค์การอนามัยโลกระบุว่า มีประชากรในทะเลทรายสะฮาราของแอฟริกาเพียงร้อยละ 60 ที่มีน้ำดื่มสะอาด ส่วนประชากรในโอเชียเนีย หรือเกาะเล็กเกาะน้อยในมหาสมุทรแปซิฟิกมีเพียงร้อยละ 50 ที่มีน้ำดื่มสะอาด

วารสารแอพพลายแมตทีเรียลส์แอนด์อินเตอร์เฟซของสมาคมเคมีอเมริกัน รายงานว่า ภูมิปัญญาที่คนโบราณใช้ทรายกรองน้ำดื่มได้รับการต่อยอดโดยสติปัญญาของนักวิจัยมหาวิทยาลัยไรซ์ ในรัฐเท็กซัส สหรัฐ ออกมาเป็น "ซูเปอร์ทราย" ที่เกิดจากนำเม็ดทรายมาเคลือบด้วยกราไฟต์ ด้วยรูปแบบคล้ายๆ กับการทำดินสอ โดย ศ.พูลิกเกล อาจายัน ผู้นำการวิจัย กล่าวว่า ซูเปอร์ทรายทำมาจากทรายทั่วไป ทรายเป็นวัตถุดิบราคาถูกและมีประสิทธิภาพในการกรองน้ำ แต่หากน้ำปนเปื้อนเชื้อโรคหรือโลหะหนักจำเป็นต้องใช้ทรายละเอียดซึ่งน้ำจะไหลผ่านได้ช้ามาก แต่นวัตกรรมใหม่นี้นอกจากมีทรายละเอียด ยังมีทรายหยาบที่ทำหน้าที่ดักจับสิ่งปนเปื้อนที่ชิ้นใหญ่และช่วยให้น้ำไหลคล่องขึ้น นักวิจัยกล่าว

แผ่นดินไหวตรัง เร่งศึกษา-อย่าแตกตื่น

คอลัมน์ หมุนก่อนโลก
วิทยา ผาสุก wittayapasuk@hotmail.com


เหตุแผ่นดินไหวขนาดเล็กในพื้นที่ "จังหวัดตรัง" เกิดขึ้นช่วงราวห้าทุ่มเศษๆ ของคืนวันศุกร์ 24 มิถุนายน ที่ผ่านมา ทำให้ชาวบ้านอกสั่นขวัญผวาไม่น้อย

ระดับความแรง สำนักเฝ้าระวังแผ่นดินไหว ประกาศเอาไว้...

อยู่ที่ 3.5 ริกเตอร์

ศูนย์กลางอยู่ใน ตำบลบ้านหวี กิ่งอำเภอหาดสำราญ

ละติจูด 7.29 องศาเหนือ ลองจิจูด 99.57 องศาตะวันออก

สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยตรัง ตรวจสอบพบว่า

แรงสั่นสะเทือนทำให้บ้านเรือนชาวบ้านได้รับผลกระทบ รวม 3 อำเภอ ได้แก่

อ.กันตัง พบบ้านมีรอยร้าว 6 หลัง คือ ใน ต.คลองชีล้อม 5 หลัง และ ต.วังวน 1 หลัง

อ.เมืองตรัง บ้านเกิดรอยร้าว 8 หลัง ใน ต.ควนปริง

และอ.ย่านตาขาว พบบ้านเกิดรอยร้าว 5 หลัง ในต.ทุ่งกระบือ

สาเหตุของแผ่นดินไหว ขณะนี้ทราบข่าวว่า คุณเลิศสิน รักษาสกุลวงศ์ ผอ.สำนักธรณีวิทยาสิ่งแวดล้อมและธรณีพิบัติภัย กรมทรัพยากรธรณี กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) กำลังสั่งการให้เจ้าหน้าที่ธรณีวิทยาลงพื้นที่เข้าตรวจสอบข้อมูลแล้ว

อย่างไรก็ตาม ในเบื้องต้นคุณเลิศสินระบุว่า นับตั้งแต่ไทยเริ่มเก็บบันทึกสถิติการเกิดแผ่นดินไหว รวมถึงจากข้อมูลเท่าที่มีในอดีตนั้น

"จังหวัดตรัง" ไม่เคยเผชิญแผ่นดินไหวมาก่อน

จึงถือเป็นปรากฏการณ์ใหม่ด้านพิบัติภัยธรรมชาติซึ่งต้องเร่งสอบรายละเอียดโดยเร็ว

สำหรับวิธีวิเคราะห์ว่าจุดไหนในตรังได้รับผลกระทบจากธรณีพิโรธ 24 มิ.ย. 54 โดยตรง

สามารถดูได้จากลักษณะของ "รอยร้าว" ที่เกิดขึ้นกับบ้านประชาชน

เพราะรอยร้าวจากแผ่นดินไหว (จะมีร่องรอยโดนแรงเฉือน) จะไม่เหมือนกับรอยร้าวที่เกิดจากเหตุแผ่นดินยุบ หรือหลุมยุบ ซึ่งพบบ่อยในตรัง

ขณะเดียวกัน เมื่อเจอตำแหน่งที่เจอแผ่นดินไหวเขย่าชัดเจนแล้ว ก็ต้องตรวจสอบให้ลึกลงไปอีกว่า

เป็นแรงสั่นสะเทือนที่แผ่มาจาก "รอยเลื่อนเก่า" หรือ "รอยเลื่อนใหม่"

โดย 1 ในรอยเลื่อนเก่าที่มีพลัง ซึ่งพาดผ่านจังหวัดภาคใต้ ตั้งแต่สุราษฎร์ธานี พังงา ภูเก็ต คือ "รอยเลื่อนคลองมะรุ่ย"

แต่ก็ประเมินกันว่า มีโอกาสไหวแรงสุดไม่เกิน 5 ริกเตอร์ เช่นเดียวกัน "รอยเลื่อนระนอง"

"ไม่ต้องการให้ประชาชนในพื้นที่แตกตื่นจนเกินเหตุ เนื่องจากเป็นแผ่นดินไหวขนาดเล็ก และยังไม่ก่อเสียหาย โดยเจ้าหน้าที่จะเร่งทำความเข้าใจกับประชาชนในพื้นที่ รวมทั้งเร่งตรวจสอบโดยเร็วแล้ว" คุณเลิศสิน กล่าว

ถ้ามีความคืบหน้าใดๆ เกี่ยวกับการตรวจสอบที่มาแผ่นดินไหวตรัง หน้าข่าววิทยาการจะรายงานให้ทราบต่อไปครับ

 

ถูกใจจังครับ ปตท.รวยเอาผลกำไรไปแบ่งเศรษฐีกิน

 

แผ่นดินถล่มจีน และน้ำท่วมที่สหรัฐ​

​

สถานการณ์น้ำที่ไหลทะลักเข้าท่วมโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ในรัฐเนบราสก้าของสหรัฐขณะนี้อยู่ขั้นปลอดภัย สามารถรับมือได้ ขณะที่สถานการณ์ฝนตกหนัก ที่มณฑลกุยโจวของจีนทำให้เกิดแผ่นดินถล่มในหลายพื้นที่ ถนนหลวงหลายสายถูกสั่งปิด เพื่อความปลอดภัย

ฝนที่ตกลงมาอย่างหนักตั้งแต่วันอาทิตย์ที่ผ่านมา ต่อเนื่องมาจนถึงเช้าวันจันทร์ โดยเฉพาะในพื้นที่ซีซุย และ กิวโจว ทางตอนเหนือของมณฑลกุยโจว ของจีน ส่งผลให้เกิดแผ่นดินถล่ม มาทับปิดกั้น ทางแยกบนถนนหลวงซีซิน เป็นเหตุให้รถยนต์หลายร้อยคันต้องติดค้าง สัญจรไปมาไม่ได้ ด้านเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นจีนเร่งดำเนินการเพื่อให้ถนนสามารถใช้การได้ แต่ก็เตือนให้ประชาชนใช้ความระมัดระวังในการใช้รถใช้ถนน เพราะกลัวว่าจะเกิดแผ่นดินถล่มซ้ำอีก

ส่วนสถานการณ์น้ำที่รั่วไหลเข้าไปในอาคารกังหันของโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ Fort Calhoun ในรัฐเนบราสก้าวันนี้ คาดว่าไม่เป็นปัญหาต่อความเสี่ยงในเรื่องความปลอดภัย โดยปั๊มสูบน้ำ ยังสามารถรับมือได้ และว่าตัวอาคารโรงไฟฟ้าปลอดภัย

เหตุน้ำไหลทะลักเข้าตัวอาคารดังกล่าวมีขึ้น หลังจากที่กั้นซึ่งออกแบบให้รับมือกันน้ำที่ท่วมสูงเกิดพังถล่มลงมา อันเนื่องมาจาก ฝนตกหนักและการละลายของหิมะ ทำให้ระดับน้ำในแม่น้ำมิสซูรี่ เพิ่มสูงขึ้นและไหลทะลักเข้าท่วมอาคารบ้านเรือนที่อยู่ริมฝั่งแม่น้ำ อย่างโรงไฟฟ้า อย่างไรก็ตาม โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ Fort Calhounถูกสั่งปิดดำเนินการตั้งแต่เดือนเมษายนแล้ว และคาดว่าจะปิดต่อไปจนกว่าระดับน้ำจะลดลงในอยู่ในระดับปกติ

ข่าวทีวีช่อง 3 วันอังคาร ที่ 28 มิถุนายน พ.ศ. 2554

สหรัฐฯเผชิญทั้งน้ำท่วมและไฟป่า​

​

สหรัฐฯเริ่มสำรวจความเสียหายจากอุทกภัยที่รัฐนอร์ท ดาโกต้า ขณะที่สถานการณ์ไฟป่าที่รัฐนิว เม็กซิโกยังคงน่าเป็นห่วง

โดยหนึ่งในศูนย์วิจัยอาวุธนิวเคลียร์ลอส อะลามอส ในรัฐนิว เม็กซิโกต้องปิดต่ออีกในวันนี้ ขณะที่เจ้าหน้าที่ดับเพลิงกำลังควบคุมเพลิงไม่ให้ลุกลามเข้ามายังศูนย์วิจัยดังกล่าวและมั่นใจว่าจะสามารถควบคุมได้ เจ้าหน้าที่ยังได้ตรวจสอบรังสีในพื้นที่ดังกล่าวแล้ว ซึ่งก็ไม่พบว่า มีรังสีรั่วไหลออกมาจากศูนย์วิจัย นิวเคลียร์ รายงานระบุว่า ไฟป่าที่เกิดขึ้นทำให้ต้องอพยพประชาชน 1 หมื่นคนในเมืองลอส อะลามอสไปยังที่ปลอดภัย และเพลิงได้เผาผลาญพื้นที่ป่าไปแล้วกว่า 150,000 ไร่ ขณะที่ประชาชนที่เมืองซานตา เฟ่ วิตกกังวลอย่างหนักต่อสถานการณ์ไฟป่าที่เข้าใกล้ยังเขตแนวสันเขาเจเมซ

ส่วนที่รัฐนอร์ท ดาโกต้า ประชาชนในเมืองมีน็อท ยังถูกสั่งให้ใช้น้ำในปริมาณที่จำกัด หลังจากกระแสน้ำจากอุทกภัยครั้งรุนแรงที่เกิดขึ้นทำให้ท่อน้ำประปาขนาดใหญ่แตก ซึ่งเจ้าหน้าที่เตรียมติดตั้งท่อใหม่ภายในวันนี้ ส่วนสถานการณ์น้ำในแม่น้ำซูริสที่เมืองมิน็อทแม้จะเริ่มลดลงแล้ว แต่ก็ยังเป็นไปอย่างช้าๆและคาดว่า น้ำจะยังอยู่ในระดับสูงต่อไปอีกจนถึงวันชาติสหรัฐฯในวันที่ 4 กรกฎาคมนี้ ทั้งนี้ประชาชนราว 12,000 คนในเมืองดังกล่าวยังต้องเฝ้าระวังน้ำที่ยังเอ่อล้นฝั่ง ขณะที่เมื่อวานนี้ผู้ประสบภัยได้พบกับเจ้าหน้าที่เพื่อร่วมประเมินความเสียหายจากอุทกภัยที่เกิดขึ้น หลังจากแม่น้ำซูริสเพิ่มขึ้นสูงสุดในรอบ 130 ปี

ข่าวทีวีช่อง 3 วันพุธ ที่ 29 มิถุนายน พ.ศ. 2554

ยุโรปเผชิญคลื่นความร้อน ส่วนบราซิลหิมะตก​

​

ตอนนี้ที่ยุโรป โดยเฉพาะสเปนและฝรั่งเศส อากาศกำลังร้อนจัดทีเดียวจากคลื่นความร้อน ขณะที่อีกซีกโลกหนึ่งที่บราซิลปรากฏว่าเกิดหิมะตกในพื้นที่หลายเมือง อุณหภูมิลดลงต่ำกว่าศูนย์องศาเซลเซียสแล้ว

ยุโรปต้องเผชิญกับสภาพอากาศที่ร้อนจัดเมื่อวานนี้ โดยที่กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศสและแมดดริด ประเทศสเปน ประชาชนต้องพากันออกมาคลายร้อนกันที่น้ำพุและนั่งพักกันตามร่มไม้ อุณหภูมิในกรุงปารีสและแมดริด อุณหภูมิทะยานขึ้นไปเกิน 30 องศาเซลเซียส หลายคนต้องกางร่ม ขณะเดินทางออกจากบ้าน หลายคนอยากจะกระโดดลงไปในบ่อน้ำพุกันเลยทีเดียว อย่างไรก็ตามก็มีนักท่องเที่ยวที่มาจากนิวซีแลนด์กลับชอบใจกับภาพอากาศแบบนี้เพราะที่นิวซีแลนด์หนาว

และนอกจากสเปนและฝรั่งเศสแล้ว ที่อังกฤษก็ต้องเผชิญกับวันที่อากาศร้อนที่สุดไปเมื่อวานนี้เช่นกัน โดยวัดอุณหภูมิได้ 32.8 องศาเซลเซียส ทั้งนี้คาดว่าคลื่นความร้อนที่แผ่ปกคลุมยุโรปต่อเนื่องไปจนถึงวันพรุง่นี้

ข้ามไปอีกซีกโลกหนึ่งที่บราซิล ปรากฏว่าที่นี่ต้องเผชิญกับอากาศที่เย็นยะเยือกแบบขั้วโลกในรัฐทางภาคใต้ของประเทศโดยอุณหภูมิลดต่ำลงกว่าศูนย์องศา ซึ่งนักท่องเที่ยวและประชาชนที่อาศัยอยู่ในแถบนั้นก็มีโอกาสได้เห็นหิมะตกในพื้นที่ดังกล่าวในช่วงกลางคืนซึ่งไม่ค่อยจะเกิดขึ้น

รายงานแจ้งว่า พื้นที่ 4 เมืองในรัฐซานตา คาตาริน่าถูกปกคลุมไปด้วยหิมะขาวโพลน ขณะที่เทอร์โมมิเตอร์ตัวเลขติดลบ 5.7 องศาเซลเซียสในเมือง อุรูบุชี่ ขณะที่ประชาชนในรัฐโจอาคิมก็ต้องตื่นตาตื่นใจกับภาพต้นไม้ที่มีน้ำแข็งเกาะเต็มต้นในช่วงเช้าวานนี้ ส่วนนักท่องเที่ยวก็พบกับความพิศวงเมื่อเห็นท้องถนนเต็มไปด้วยหิมะ และยอมอยู่จนดึกเพื่อจะได้เห็นหิมะตกลงมา หลายคนบอกว่าที่อากาศหนาวแต่ยังไม่เคยเห็นว่ามีหิมะตกมาก่อน

ส่วนที่รัฐริโอ กรานเด้ โด ซุล ซึ่งอยู่ทางใต้สุดของบราซิลก็เผชิญกับหิมะที่ตกลงมาอย่างหนักใน 3 เมือง ทางการต้องระงับการเรียนการสอนใน 8 โรงเรียนเนื่องจากอุณหภูมิต่ำกว่าจุดเยือกแข็ง ทั้งนี้อากาศหนาวในบราซิลเริ่มอย่างเป็นทางการมาตั้งแต่วันที่ 21 มิถุนายนซึ่งจะมีทั้งหิมะตกและอากาศที่เย็นยะเยือก

ข่าวทีวีช่อง 3 วันพุธ ที่ 29 มิถุนายน พ.ศ. 2554

ที่มา http://www.krobkruakao.com

 

พบ งูหลามสองหัว ที่ประเทศเยอรมันนี
Mthai news: สำนักข่าวต่างประเทศเผยแพร่ภาพ งูหลามสองหัว (Python) ที่ดูเหมือนว่ามันจะดูคล่องแคล่วว่องไว หากถูกกระตุ้นจากสิ่งเร้า โดยงูหลามสีดำลายทองตัวนี้เกิดที่เมือง วิลลิงเง่น ชเว็นนิ่งเง่น ตอนใต้ของประเทศเยอรมันนี

นายสเตฟาน โบรคแฮมเมอร์ เจ้าของบอกว่า งูหลามสองหัวตัวนี้ เป็นงูหลามสองหัวตัวที่สองของโลกเท่าที่พบมา โดยขณะนี้มันมีความยาว 20 นิ้ว แต่มันก็อยู่ด้วยกันเป็นอย่างดี ถึงแม้ว่าจะมีสองหัวก็ตาม นอกจากนี้ มันยังไม่มีพิษหากมันโตขึ้นอาจมีความยาวถึง 4 ฟุต
Mthai news

Pics: EPA

<TABLE border=0 width=670 bgColor=#ffffff><TBODY><TR bgColor=#ffcae3><TD>อุตุฯเตือนทั่วปท. รวมกทม.-ปริมณฑลยังมีฝนเฉลี่ยร้อยละ60ของพื้นที่ </TD></TR><TR><TD> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width=668><TBODY><TR><TD class=A2 vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD></TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
กรมอุตุนิยมวิทยารายงานสภาพอากาศประจำวันที่ 30 มิถุนายน 2554 ดังนี้

ลักษณะอากาศทั่วไปเมื่อเวลา 04:00 น. มรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยมีฝนกระจาย และมีฝนตกหนักบางพื้นที่ในด้านรับลมมรสุมของภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตก สำหรับในทะเลอันดามัน มีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ชาวเรือควรเดินเรือด้วยความระมัดระวังในระยะนี้

พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทยตั้งแต่เวลา 06:00 วันนี้ ถึง 06:00 วันพรุ่งนี้.

ภาคเหนือ มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 60 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดแม่ฮ่องสอน เชียงราย พะเยา น่าน แพร่ อุตรดิตถ์ และตาก
อุณหภูมิต่ำสุด 24-25 องศา
อุณหภูมิสูงสุด 31-34 องศา
ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่งบริเวณ จังหวัดเลย หนองคาย บึงกาฬ นครพนม มุกดาหาร อำนาจเจริญ และอุบลราชธานี
อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศา
อุณหภูมิสูงสุด 29-35 องศา
ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-35 กม./ชม.

ภาคกลาง มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40 ของพื้นที่
ส่วนมากบริเวณจังหวัดนครสวรรค์ อุทัยธานี และกาญจนบุรี
อุณหภูมิต่ำสุด 24-26 องศา
อุณหภูมิสูงสุด 34-35 องศา
ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-35 กม./ชม.

ภาคตะวันออก มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง
บริเวณจังหวัดระยอง จันทบุรี และตราด
อุณหภูมิต่ำสุด 23-26 องศา อุณหภูมิสูงสุด 31-34 องศา
ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-35 กม./ชม.
ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก) มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดนครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส
อุณหภูมิต่ำสุด 24-26 องศา อุณหภูมิสูงสุด 33-34 องศา
ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-35 กม./ชม.
ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก) มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 60 ของพื้นที่และมีฝนตกหนักบางแห่ง
บริเวณจังหวัดพังงา ภูเก็ต กระบี่ ตรัง และสตูล
อุณหภูมิต่ำสุด 23-26 องศา อุณหภูมิสูงสุด 31-32 องศา
ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 20-35 กม./ชม.
ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร

กรุงเทพมหานครและปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 60 ของพื้นที่
อุณหภูมิต่ำสุด 26-27 องศา อุณหภูมิสูงสุด 32-34 องศา
ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-35 กม./ชม.




</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์มติชน
</CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE border=0 width=670 bgColor=#ffffff><TBODY><TR bgColor=#ffcae3><TD>ตะลึง!ฟ้าพิโรธผ่านักเรียนตายหมู่19ศพ </TD></TR><TR><TD> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width=668><TBODY><TR><TD class=A2 vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD></TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width=668><TBODY><TR><TD class=A2 vAlign=top>ตะลึง!ฟ้าพิโรธในยูกันดา ผ่านักเรียนตายหมู่คร่า 19 ศพ ส.ส.แฉกลางสภาร้องรัฐออกมาตราการป้องกัน


วันนี้ (29 มิ.ย.) สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานจากกรุงกัมปาลา สาธารณรัฐยูกันดา ว่า เกิดเหตุฟ้าพิโรธผ่าเปรี้ยงลงบนหลังคาโรงเรียนแห่งหนึ่ง ทางตอนเหนือของประเทศยูกันดา ขณะฝนกำลังตกหนักเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา เป็นเหตุให้ครูและเด็กนักเรียนเสียชีวิตคาที่ 19 ศพ และบาดเจ็บอีก 39 คน โดยผู้บาดเจ็บทั้งหมดถูกนำส่งโรงพยาบาลประจำเมือง และมีถึง 15 คน อาการสาหัส

สำหรับเหตุการณ์ดังกล่าวถูกเปิดเผยในที่ประชุมรัฐสภา ในกรุงกัมปาลา

โดยระบุว่า โรงเรียนระดับประถมศึกษาอยู่ในเมืองคีร์ยันดองโก ห่างจากกรุงกัมปาลาไปทางเหนือราว 210 กิโลเมตร ขณะเกิดเหตุฝนกำลังตกหนัก และเป็นช่วงเลิกเรียน เด็กนักเรียนและครูกำลังรอฝนหยุดตกในห้องเรียน เพื่อจะเดินทางกลับบ้าน แต่จู่ ๆ ฟ้าเกิดผ่าลงมาที่ห้องเรียนหนึ่ง ทำให้ครูและนักเรียนที่อยู่ในห้องเสียชีวิตคาที่ 19 ศพ บาดเจ็บอีก 39 คน โดย ส.ส.ที่ลุกขึ้นเปิดเผย และอภิปรายเรื่องนี้ได้เรียกร้องให้รัฐบาลหาทางป้องกันเหตุการณ์ที่ถือ “วิกฤติ” เช่นนี้โดยด่วน

ทั้งนี้จากข้อมูลขององค์การอุตุนิยมวิทยาโลก ระบุว่า ยูกันดาเป็นหนึ่งในประเทศที่มีอัตราผู้เสียชีวิตจากฟ้าผ่ามากที่สุดในโลก โดยเฉพาะเมืองหลวงกรุงกัมปาลา มีอัตราฟ้าผ่าในแต่ละปีมากครั้งกว่าเมืองอื่น ๆ ของโลก.





</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์เดลินิวส์
</CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE border=0 width=670 bgColor=#ffffff><TBODY><TR bgColor=#ffcae3><TD> ไข้เลือดออกระบาดหนักพิษณุโลก </TD></TR><TR><TD> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width=668><TBODY><TR><TD class=A2 vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD></TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
ไข้เลือดออกระบาดหนักพิษณุโลก พบผู้ป่วยแล้วกว่า 600 ราย มากเป็นอันดับ 6 ของประเทศ

นายแพทย์บุญเติม ตันสุรัตน์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดพิษณุโลก กล่าวว่า สถานการณ์การระบาดของโรคไข้เลือดออก ในพื้นที่จังหวัดพิษณุโลก ซึ่งขณะนี้กำลังระบาดอยู่ในหลายพื้นที่ โดยที่จังหวัดพิษณุโลก มีสถิติที่น่าเป็นห่วง เนื่องจากขณะนี้ มียอดผู้ป่วยอยู่อันดับที่ 6 ของประเทศ สำหรับสถานการณ์ของจังหวัดพิษณุโลก ขณะนี้ พบผู้ป่วยแล้วทั้งหมด 582 ราย โดยอำเภอเมือง มียอดผู้ป่วยสูงสุดจำนวน 220 ราย รองลงมาได้แก่อำเภอวังทอง มีผู้ป่วยทั้งหมด 101 ราย อ.นครไทย 74 ราย อ.พรหมพิราม 51 ราย อ.บางระกำ 49 ราย อ.ชาติตระการ 34 ราย อ.บางกระทุ่ม 18 ราย และอำเภอที่มีผู้ป่วยน้อยที่สุด คือ อ.วัดโบสถ์ พบผู้ป่วย 9 ราย

ซึ่งขณะนี้ทาง สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดพิษณุโลก ก็ได้เร่งลงพื้นที่ และประสานไปยังท้องถิ่นต่างๆ ในการแก้ปัญหาดังกล่าวโดยด่วนแล้ว

นอกจากนี้ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดพิษณุโลก ก็ได้ฝากเตือนไปยังพี่น้องประชาชนตามพื้นที่ต่างๆ ให้ช่วยกันระมัดระวังโรคดังกล่าว โดยเริ่มจากการทำลายแหล่งเพาะพันธุ์ลูกน้ำยุงลาย และระมัดระวังอย่าให้ยุงกัด พร้อมทั้งบอกว่าหากพบผู้ป่วยที่มีอาการเป็นไข้ อาเจียน วิงเวียน และปวดท้องอย่างรุนแรง ก็ให้รีบไปพบแพทย์หรือไปโรงพยาบาลใกล้บ้านให้เร็วที่สุด เพื่อให้ทันต่อการรักษา

ส่วนรายงานการเสียชีวิตจากโรคไข้เลือดออกในขณะนี้ ยังไม่พบแต่อย่างใด




</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว และรูปภาพ คุณภาพดี โดย: INN NEWS
</CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE border=0 width=670 bgColor=#ffffff><TBODY><TR bgColor=#ffcae3><TD>ชายแดนศรีสะเกษไทย-กัมพูชาสับเปลี่ยนกำลัง </TD></TR><TR><TD> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width=668><TBODY><TR><TD class=A2 vAlign=top>กัมพูชาดาหน้ากล่าวหาไทยรุกรานดินแดน พร้อมกำลังรบ แม่ทัพภาค2ชี้ทหารตรึงกำลังเผชิญหน้าอาจปะทะได้ตลอดเวลาพร้อมปกป้องอธิปไตยไทย


เมื่อเวลา 14.30 น. วันที่ 29 มิ.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานสถานการณ์ บริเวณด่านสะพานห้วยดาน ถนนวิหาร ม.12 ต.เสาธงชัย อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ห่างจากปราสาทพระวิหาร 10 กม. ทหารพรานติดอาวุธ หน่วยเฉพาะกิจ กรมทหารพรานที่ 23 กองกำลังสุรนารี กองทัพภาคที่ 2 ได้ตั้งด่านตรึงกำลังเข้มเรียงรายหลายจุด มีการสร้างบังเกอร์ เหล็กกั้น ท่อปูนซีเมนต์ รั้วลวดหนามวางขวางถนน พร้อมนำรถฮัมเมอร์ และรถจี๊ปติดตั้งปืนกลยิงเร็ว วิ่งลาดตระเวนตลอดเส้นทาง บรรยากาศคึกคักกว่าทุกวัน เพราะกองกำลังทหารติดอาวุธ จากกองพลทหารราบที่ 6 เข้ามาเสริมกำลังทหารพราน และตรวจค้นเข้มงวด


พ.อ.(พิเศษ) ประวิทย์ หูแก้ว โฆษกกองทัพภาคที่ 2 กล่าวยอมรับว่า มีรายงานทหารกัมพูชาได้สับเปลี่ยนกำลังด้าน ต.กันตร๊วจ อ.จอมกระสาน จ.พระวิหาร

ฝั่งตรงข้าม ต.เสาธงชัย อ.กันทรลักษ์ ขณะนี้ทหารทั้ง 2 ฝ่ายเตรียมพร้อมในที่ตั้ง กัมพูชามีการเสริมกำลังตลอดทั้งวันแต่ไม่ผิดสังเกตมากนัก ส่วนไทยไม่ได้เสริมกำลังพล และอาวุธยุทโธปกรณ์มากนัก มีปกติอยู่แล้วโดยใช้กำลังทหารพราน หน่วยเฉพาะกิจ กรมทหารพรานที่ 23 กองกำลังสุรนารี กองทัพภาคที่ 2 เป็นกำลังหลัก แต่ถ้าเกิดเหตุการณ์เกิดขึ้น เฉพาะกำลังทหารหน่วยเฉพาะกิจพระวิหาร 1 ก็ปกป้องอธิปไตยได้แน่นอน


ด้าน พล.ท.ธวัชชัย สมุทรสาคร แม่ทัพภาคที่ 2 กล่าวว่า กองทัพภาคที่ 2 สับเปลี่ยนกำลังทหาร

และเตรียมความพร้อมตลอดแนวชายแดนเพราะการปะทะระหว่างไทยกับกัมพูชาอาจ เกิดขึ้นได้ตลอดเวลา เนื่องจากทหารทั้งสองฝ่าย มีการตรึงกำลังเผชิญหน้ากันอยู่ ยืนยันว่า ไทยยังไม่เสริมกำลังเข้าพื้นที่ชายแดนเพิ่ม ตรึงกำลังอยู่แค่แนวหน้า ส่วนประชาชนที่ต้องการไปเที่ยวปราสาทตาเมือนธม ต.ตาเมียง อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ ต้องรอให้สถานการณ์ชายแดน ดีขึ้นกว่านี้ และอุทยานแห่งชาติเขาพระวิหาร ต.เสาธงชัย กองทัพภาคที่ 2 ยังไม่อนุญาตให้ผ่านขึ้นไปท่องเที่ยว เพราะเป็นพื้นที่เสี่ยงภัย




</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width=668><TBODY><TR><TD class=A2 vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD></TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width=668><TBODY><TR><TD class=A2 vAlign=top>ส่วน พล.ท.สรัย ดึ๊ก ผบ.กองพลน้อยสนับสนุนที่ 3 กองทัพบกกัมพูชา และ ผบ.ทหาร จ.พระวิหาร กล่าวว่า

ไทยได้เสริมกำลังทหาร และอาวุธยุทโธปกรณ์จำนวนมาก ตามแนวตะเข็บชายแดน สถานการณ์ชายแดนขณะนี้ไม่สู้ดีนัก หลังจากไทยประกาศถอนตัว จากภาคีสมาชิกองค์การยูเนสโก กองทัพกัมพูชาไม่ได้รุกรานดินแดนไทยแม้แต่คืบเดียว เราอยู่แต่ในดินแดนเรา ป้องกันปราสาทเราเท่านั้น ตอนนี้ที่ชายแดนปราสาทพระวิหาร ปราสาทตาควาย และปราสาทตาเมือนธม ทหารกัมพูชากองพันปกป้องพรมแดนทางบก ได้เสริมกำลังเตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์


ขณะเดียวกัน พล.อ.กุน กีม รอง ผบ.และเสธ.ร่วม กองทัพแห่งชาติกัมพูชา พร้อมด้วย พล.อ.เจีย ดารา รอง ผบ.สส.

ได้เดินทางมาเยี่ยมนายทหาร และพลทหารที่ประจำการ ตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ในพื้นที่ปราสาทตาควาย ต.โคกคะปั๊วะ ปราสาทตาเมือนธม และพื้นที่ทมอดูน อ.บันเตียอำปึล จ.อุดรมีชัย โดย พล.อ.กุน กีม กล่าวให้กำลังใจทหารชายแดนว่า ไทยพ่ายแพ้ในการประชุมคณะกรรมการมรดกโลก ที่กรุงปารีส แล้วมาก่อสงครามที่ชายแดนกับกัมพูชา เปรียบเหมือนเป็นประเทศที่ไม่รู้ และไม่เกรงกฎหมาย กระหายสงคราม ด้วยเหตุนี้เวลาไทยโจมตี ทำสงครามกับเขมรหลายครั้งทั้งผู้นำ ทั้งพวกหลงประวัติศาสตร์ กำลังแสดงอำนาจตั้งตนเป็นใหญ่ ในภูมิภาคเอเชียอาคเนย์ และสร้างความเป็นศัตรูกับประเทศเพื่อนบ้าน กัมพูชาเป็นประเทศเล็ก ประเทศกำลังพัฒนา หลังถูกทำลายด้วยสงครามกลางเมือง ก็ไม่ได้หมายความว่าจะกลัวไทย รัฐบาลกัมพูชาที่มีสมเด็จฮุน เซน ได้บัญชาการอย่างมีประสิทธิภาพ ในการสกัดกั้น กลศึกสงครามรุกรานของไทย และความต้องการที่จะครอบครอง ปราสาทพระวิหารร่วมกับกัมพูชาไม่มีส่วนไหนที่ไทยเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์


พล.อ.เจีย ดารา กล่าวว่า ขอให้ผู้นำไทยยุติเอาปัญหาชายแดนกัมพูชาโดยเฉพาะปราสาทพระวิหาร ไปเป็นหมากรุกพาตนออกจากความวุ่นวาย ทางการเมืองในประเทศของตน เท่านั้น แต่กลายเป็นว่าได้เคลื่อนระเบิด เคลื่อนทหารมาที่ชายแดนและใช้ภาษาข่มขู่ว่าจะก่อสงครามกับกัมพูชา กัมพูชามีประชาชน 14 ล้านคนทุกคนเป็นทหารถือว่ามีกำลัง14ล้านคน ถ้าไทยเข้ารุกรานเราพร้อมต้อนรับทั้งเล็กและใหญ่


นายไพ ซีพาน เลขาธิการและโฆษกสำนักนายกรัฐมนตรีกัมพูชา กล่าวว่า มีเหตุผลหลายอย่างที่กัมพูชาเห็นชัดแล้วว่า

การเจรจาทวิภาคีในอนาคตกับไทย จะไม่ได้รับผลอะไรทั้งสิ้น เพราะไทยไม่เคารพการพูดคุยของตนเอง กัมพูชากำลังเตรียมเรื่องสำคัญ เพื่อส่งให้คณะกรรมการมรดกโลก ขอสนับสนุนความช่วยเหลือ ในการดูแลรักษา คุ้มครอง และทำการซ่อมแซมปราสาทพระวิหาร ที่ได้รับความเสียหายจากการยิงปืนใหญ่ของไทย ส่วนปัญหาอธิปไตยของกัมพูชา และงานการรักษาคุ้มครองปราสาทพระวิหาร เป็นเรื่องที่แยกจากกัน.

</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์เดลินิวส์
</CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE border=0 width=670 bgColor=#ffffff><TBODY><TR bgColor=#ffcae3><TD>เกาหลีใต้จะเปิดโรงเรียนผลิตบุคลากรทำสงครามบนโลกไซเบอร์ </TD></TR><TR><TD> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width=668><TBODY><TR><TD class=A2 vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD></TD></TR><TR><TD align=middle>ขอบคุณ ภาพจาก mcot</TD></TR></TBODY></TABLE>
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width=668><TBODY><TR><TD class=A2 vAlign=top>โซล 29 มิ.ย.-กองทัพเกาหลีใต้จะตั้งโรงเรียนสงครามบนโลกไซเบอร์ เพื่อฝึกบุคลากรให้รับมือการโจมตีทางอินเทอร์เน็ตที่เพิ่มขึ้นจากเกาหลี เหนือ

กองทัพเกาหลีใต้ร่วมมือกับมหาวิทยาลัยโคเรียน เตรียมเปิดโรงเรียนทำสงครามบนโลกไซเบอร์ในปีหน้า ซึ่งตามหลักสูตร 4 ปีจะรับนักศึกษาปีละ 30 คน วิชาที่เรียนประกอบด้วยวิธีต่อต้านการใช้อินเทอร์เน็ตที่มุ่งร้าย วิธีการทางจิตวิทยาเตรียมทำสงครามในโลกไซเบอร์ รวมถึงเรียนรู้เทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อป้องกันการโจมตีที่อาจเกิดขึ้น

กองทัพจะเป็นผู้ออกค่าเล่าเรียนให้กับนักศึกษาที่ผ่านการคัดเลือก และเมื่อจบการศึกษาแล้วจะได้รับการบรรจุเป็นนายทหารในหน่วยที่เกี่ยวกับการ ทำสงครามบนโลกออนไลน์เป็นเวลา 7 ปี

การตั้งสถาบันแห่งนี้มีขึ้นหลังจากมีรายงานว่าเกาหลีเหนือมีหน่วยเจาะระบบ คอมพิวเตอร์ ทำให้เกาหลีใต้ต้องตั้งกองบัญชาการพิเศษเพื่อรับมือ กรณีการโจมตีบนโลกออนไลน์โดยเกาหลีเหนือมีขึ้นเมื่อเดือนพฤษภาคม อัยการเกาหลีใต้กล่าวว่าหน่วยข่าวกรองทางทหารของเกาหลีเหนือโจมตีบนโลกไซ เบอร์ส่งผลให้การทำธุรกรรมของธนาคารแห่งใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของเกาหลีใต้ เป็นอัมพาต.-สำนักข่าวไทย

</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย:"ข่าวเข้ม ฉับไว เป็นกลาง"
</CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

<TABLE border=0 width=670 bgColor=#ffffff><TBODY><TR bgColor=#ffcae3><TD>ไม่ง้อมรดกโลกวธ.ยันแนวทางรักษามรดกไทย </TD></TR><TR><TD> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width=668><TBODY><TR><TD class=A2 vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD></TD></TR><TR><TD align=middle>ผืนป่าดงพญาเย็น-เขาใหญ่</TD></TR></TBODY></TABLE>
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width=668><TBODY><TR><TD class=A2 vAlign=top> ชี้ไทยถอนตัวมรดกโลกไม่กระทบแนวทางอนุรักษ์พื้นที่ คุณค่าโบราณสถาน-แหล่งวัฒนธรรมก็ยังคงอยู่เช่นเดิม ไม่จำเป็นพึ่งป้ายมรดกโลก เผยเดินหน้าร่วมมือท้องถิ่นคุ้มครองสมบัติชาติต่อไป

เมื่อวันที่ 28 มิถุนายน นายเอนก สีหามาตย์ รองอธิบดีกรมศิลปากร กล่าวถึงกรณีประเทศไทยประกาศถอนตัวออกจากการเป็นภาคีสมาชิกอนุสัญญาการคุ้มครองมรดกโลก ว่า เตรียมหารือกับนางโสมสุดา ลียะวณิช อธิบดีกรมศิลปากร ซึ่งขณะนี้อยู่ที่ประเทศฝรั่งเศส เมื่อเดินทางกลับประเทศไทยแล้วจะประชุมด่วนเพื่อเรียกหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องเข้ารับทราบถึงแนวทางปฏิบัติให้ถูกต้อง ทั้งในส่วนอุทยานประวัติศาสตร์ที่ยูเนสโกขึ้นทะเบียนมรดกโลกแล้ว รายการที่ส่งเอกสารขึ้นบัญชีชั่วคราวแล้ว คือ อุทยานภูพระบาท จังหวัดอุดรธานี และเส้นทางอารยธรรมขอม ปราสาทหินพิมาย-พนมรุ้ง ตลอดจนรายการที่อยู่ระหว่างการจัดทำเอกสารประกอบการขอขึ้นทะเบียนมรดกโลก 5 แหล่ง คือ วัดพระบรมธาตุนครศรีธรรมราช ภูมิทัศน์สองฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา ผลงานสถาปัตยกรรมในกรมพระยานริศรานุวัดติวงศ์ พระปฐมเจดีย์ และเส้นทางวัฒนธรรมล้านนา ทั้งนี้ การถอนตัวออกจากคณะกรรมการมรดกโลกก็จะไม่มีผลกระทบต่อแนวทางอนุรักษ์พื้นที่ และการเรียนรู้ศึกษาคุณค่าทางวิชาการอย่างแน่นอน


</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width=668><TBODY><TR><TD class=A2 vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD></TD></TR><TR><TD align=middle>ผืนป่าดงพญาเย็น-เขาใหญ่</TD></TR></TBODY></TABLE>
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width=668><TBODY><TR><TD class=A2 vAlign=top>นายเอนกกล่าวว่า แม้ว่าการขึ้นทะเบียนมรดกโลกทางวัฒนธรรมทั้งหมดจะต้องยกเลิกไป แต่เรื่องการอนุรักษ์ทั้งการบูรณะซ่อมแซมและการบริหารจัดการพื้นที่เพื่อปกป้องคุ้มครองโบราณสถานสำคัญของชาติ ก็ยังคงดำเนินการต่อไปภายใต้หลักวิชาการและกฎหมาย อีกทั้งยังสามารถรักษาคุณค่าความสำคัญไว้ได้อย่างสมบูรณ์ครบถ้วนโดยไม่จำเป็นต้องพึ่งป้ายมรดกโลก ที่ผ่านมายูเนสโกช่วยเหลือในการจัดทำแผนบริหารจัดการพื้นที่ เช่น ไม่สร้างสิ่งใหม่ขึ้นเป็นสิ่งแปลกปลอมเพื่อรักษาความเป็นของแท้ดั้งเดิมไว้ มีการส่งผู้เชี่ยวชาญให้คำปรึกษาแนะนำ แต่ไม่ได้มีงบประมาณสนับสนุนแต่อย่างใด
"ผมทำงานด้านโบราณสถาน 30 กว่าปี มองว่าประเทศไทยไม่จำเป็นต้องพึ่งพามรดกโลก เราก็สามารถดูแลรักษาคุณค่าทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมได้ไม่มีตกหล่นหายไป เช่น ที่วัดพระบรมธาตุนครศรีธรรมราช เป็นโบราณสถานทางพระพุทธศาสนา มีอายุเก่าแก่นับพันปี ขณะนี้จัดทำเอกสารขอขึ้นทะเบียนใกล้เสร็จแล้ว ก็จะหารือกับทางจังหวัดให้เดินหน้าตามแผนอนุรักษ์โดยไม่ต้องคำนึงว่าจะได้ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกหรือไม่ แต่เน้นให้ประชาชนในท้องถิ่นมีส่วนร่วมมากที่สุด" รองอธิบดีกรมศิลปากรเผย

นายสุนันต์ อรุณนพรัตน์ อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช กล่าวว่า สัปดาห์นี้เตรียมนัดประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ว่าการถอนตัวครั้งนี้จะมีผลกระทบอย่างไรต่อแหล่งมรดกโลกทางธรรมชาติของไทย 2 แห่งที่ขึ้นทะเบียนไปแล้ว คือ เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่-ห้วยขาแข้ง และผืนป่าดงพญาเย็น-เขาใหญ่ แต่เชื่อว่าการมีป้ายมรดกโลกหรือไม่มีป้ายมรดกโลก ก็คงไม่ส่งผลกระทบกับการท่องเที่ยวในพื้นที่แน่นอน โดยเฉพาะคนไทยรับรู้ถึงคุณค่าความสำคัญของแหล่งท่องเที่ยว ว่ามีความงดงามและสร้างความประทับใจได้มากกว่าการมีสัญลักษณ์การเป็นมรดกโลกอย่างแน่นอน
"อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ต้องรอคำสั่งที่ชัดเจนจากกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมก่อน ว่าจะมีผลของคำสั่งทางกฎหมายเรื่องความเป็นมรดกโลกทั้ง 2 แหล่งหรือไม่ ส่วนทะเลอันดามันที่อยู่ระหว่างการสำรวจและศึกษาเพื่อจัดทำเอกสารประกอบการขอขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกทางทะเลแห่งแรก รวมทั้งกลุ่มป่าแก่งกระจาน ซึ่งขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกแล้ว คาดว่าคงไม่กระทบเช่นกัน" นายสุนันต์เผย.
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width=668><TBODY><TR><TD class=A2 vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD></TD></TR><TR><TD align=middle>เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่-ห้วยขาแข้ง</TD></TR></TBODY></TABLE>
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width=668><TBODY><TR><TD class=A2 vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD></TD></TR><TR><TD align=middle>เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่-ห้วยขาแข้ง</TD></TR></TBODY></TABLE>
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

หากป้ายมรดกโลกแพงระยับจนต้องเอาดินแดนไทยตลอดชายแดนไทยเขมรไปแลก อาจรวมถึงทรัพยากรทางทะเลของไทย ควรถอนป้ายมรดกโลกทิ้งดีกว่า

 

มรดกโลก เลยลืมมรดกไทย ที่บรรพบุรุษเคยปกป้องหวงแหนเพื่อแผ่นดิน
อยากขอให้ขึ้นเป็นมรดกไทยก่อน เพื่อคนไทยก่อนที่คนอื่นจะบอกว่าเป็นมรดกโลก

 

จริงหรือมั่ว ชัวร์หรือไม่

<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%"><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>มหันตภัยดาวเคราะห์ชนโลก อังกฤษ-สหรัฐฯ แทบไม่เหลือซาก</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=middle><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4><TBODY><TR><TD class=body vAlign=middle align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=middle align=left>30 มิถุนายน 2554 </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=middle align=center></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%"><TBODY><TR><TD class=body vAlign=top align=center><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center><TBODY><TR><TD vAlign=top align=center><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width=400><TBODY><TR><TD vAlign=top width=400 align=center> </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD height=5 vAlign=top align=center></TD></TR></TBODY></TABLE>เดลิเมล์ - ถ้าคุณอาศัยอยู่ในอังกฤษ สหรัฐฯ หรือจีน ควรเริ่มเตรียมตัวตั้งแต่บัดนี้ หลังนักวิทยาศาสตร์คาดหมายว่าประเทศเหล่านี้จะได้รับผลกระทบร้ายแรงที่สุดในมหันตภัยดาวเคราะห์ชนโลกที่ส่อแววคืบคลานเข้ามา

การคาดคะเนดังกล่าวนับเป็นครั้งแรกที่เหล่านักวิทยาศาสตร์บ่งชี้ว่าประเทศใดที่ต้องประสบหายนภัยครั้งร้ายแรงที่ต้องสูญเสียชีวิตผู้คนจำนวนมาก หรือได้รับความเสียหายจนแทบไม่สามารถฟื้นฟูคืนมาได้เลย

ประเทศพัฒนาแล้วอยู่ในรายชื่อลำดับต้นๆ ทว่า จีน อยู่ในข่ายนั้นเช่นกัน สืบเนื่องจากแนวโน้มผู้เสียชีวิตจำนวนมหาศาล กระนั้นก็ดีชาติเล็กๆ อย่างสวีเดนก็ตกอยู่ในอันตรายใหญ่หลวงสืบเนื่องจากโครงสร้างพื้นฐานของพวกเขา

อันดับรายชื่อดังกล่าวรวบรวมโดยนักวิจัยจากมหาวิทยาลัยเซาท์แฮมป์ตันของอังกฤษ โดยใช้ซอฟต์แวร์ที่เรียกว่านีโออิมแพกเตอร์ ซอฟต์แวร์ซึ่งใช้สำหรับโครงการศึกษากรณีวัตถุใกล้โลกของนาซา หรือ “นีโอ” (Near Earth Object)

โดยรวมแล้ว 10 อันดับแรกของประเทศที่เสี่ยงได้รับผลกระทบรุนแรงจากเหตุดาวเคราะห์น้อยพุ่งชนโลกมากที่สุด คือ จีน อินโดนีเซีย อินเดีย ญี่ปุ่น สหรัฐฯ ฟิลิปปินส์ อิตาลี สหราชอาณาจักร บราซิล และไนจีเรีย


</TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center><TBODY><TR><TD vAlign=top align=center><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width=450><TBODY><TR><TD vAlign=top width=450 align=center> </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD height=5 vAlign=top align=center></TD></TR></TBODY></TABLE>แต่หากดูจากความเสี่ยงที่จะต้องสูญเสียชีวิตพลเรือน สหรัฐฯ จีน อินโดนีเซีย อินเดียและญี่ปุ่น คือประเทศที่อันตรายมากที่สุด ขณะที่ชาติที่อาจต้องเผชิญหายนะใหญ่หลวงต่อโครงสร้างพื้นฐานได้แก่ สหรัฐฯ จีน ญี่ปุ่น และสวีเดน

ตัวอย่างแห่งภัยคุกคามของดาวเคราะห์เพิ่งปรากฏให้เห็นสดๆ ร้อนๆ เมื่อวันจันทร์ (27) หลังดาวเคราะห์ 2011 เอ็มดี (2011 MD) ขนาดใหญ่เท่าบ้าน เคลื่อนตัวพุ่งเฉียดโลก ห่างไปแค่ 7,500 ไมล์เท่านั้น

ขณะที่นักดาราศาสตร์พบเห็นความเคลื่อนไหวของมันก่อนเกิดเหตุเพียงไม่กี่วัน แถมตอนแรกยังคิดว่าเป็นเพียงแค่ชิ้นส่วนขยะอวกาศเท่านั้น

ก่อนหน้านี้เมื่อเกือบ 100 ปีก่อน ณ ดินแดนห่างไกลใกล้แม่น้ำทังกัสกาของรัสเซีย มีผู้พบเห็นดาวเคราะห์เทียบกับวัตถุขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 50 เมตรระเบิดกลางอากาศ

อันนับเป็นดาวเคราะห์ขนาดใหญ่ที่สุดที่ตกกระทบโลกในช่วงชีวิตปัจจุบัน ขณะที่ นิค บาลีย์ ผู้พัฒนาซอฟต์แวร์นีโออิมแพคเตอร์ ชี้ว่าหากดาวเคราะห์ดังกล่าวเกิดระเบิดเหนือลอนดอน มันอาจกวาดล้างทุกสิ่งในรัศมี 25 ไมล์เลยทีเดียว

จากข้อมูลของ www.DailyGalaxy.com ระบุว่าดาวเคราะห์เส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 12 ไมล์ ก็สามารถทำลายล้างสิ่งมีชีวิตบนโลกนี้จนหมดสิ้น และสันนิษฐานว่าดาวเคราะห์น้อยขนาดเท่านี้
คือสาเหตุแห่งการสูญพันธุ์ของไดโนเสาร์เมื่อ 65 ล้านปีก่อน



</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

น่ากลังมาก ไม่อยากให้เกิดขึ้นเลย


งานรายไดพิเศษ | งานทำที่บ้าน

 

MThai News: สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานว่า เกิดคลื่นสึนามิยาวประมาณ 250 ไมล์ ในแม่น้ำสายหนึ่งที่เมืองคอร์นวอลล์ ประเทศอังกฤษ เมื่อเช้าวันจันทร์ที่ผานมา
โดยผู้เห็นเหตุการณ์เล่าว่า เกิดน้ำลดลงอย่างรวดเร็วที่ปากแม่น้ำ จนกลายเป็นคลื่นสึนามิขนาดเล็ก เคลื่อนผ่านจากทิศตะวันตกไปทางทิศตะวันออก ในเขตเพนแซนไปจนถึงเขตพอร์ตเมาท์ ในเวลาไม่ถึง 1 นาที
ทั้งนี้ ดร.มาติน เดวิสัน จากมหาวิทยาลัยพลีมัท กล่าวว่า ปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นนี้อาจเป็นผลมาจากทรายหรือโคลนที่อยู่ใต้น้ำเกิดถล่ม ซึ่งไม่ใช่ปรากฏการณ์น้ำขึ้นน้ำลงตามปกติ และไม่เกี่ยวข้องกับแผ่นดินไหวด้วย
อย่างไรก็ตาม ปรากฏการณ์นี้สร้างความแตกตื่นและงุนงงให้คนที่เห็นไม่น้อย บางคนกระโดดหนีด้วยความตกใจ บางคนกลัวจนไม่กล้าขยับตัว เพราะเป็นปรากฏการณ์ที่ไม่เคยเกิดมาก่อนในอังกฤษ
Mthai news
เกาะติดทุกข่าวเด่น ประเด็นร้อน ในรอบวันกับ Mthainews บน facebook คลิ๊กเลย

<EMBED height=349 type=application/x-shockwave-flash width=560 src=http://www.youtube.com/v/cuedSADrSLw?version=3&hl=en_US allowfullscreen="true" allowscriptaccess="always"></EMBED>
Photo:: SWNS

<TABLE border=0 width=670 bgColor=#ffffff><TBODY><TR bgColor=#ffcae3><TD>“เขมร”ขนรถถัง-ปืนใหญ่จ่อไทย </TD></TR><TR><TD> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width=668><TBODY><TR><TD class=A2 vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD></TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width=668><TBODY><TR><TD class=A2 vAlign=top>ชายแดนไทย-กัมพูชาตึงเครียด ทหาร 2 ฝ่ายเร่งสร้างบังเกอร์ โดยฝ่ายเขมรขนอาวุธหนักทั้งปืนใหญ่ ปืนค. และรถถังเตรียมพร้อมเต็มอัตราศึก


เมื่อเวลา 16.00 น. วันที่ 30 มิ.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานสถานการณ์ บริเวณด่านสะพานห้วยดาน ถนนวิหาร หมู่ 12 ต.เสาธงชัย อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ห่างจากปราสาทพระวิหาร 10 กม. ทหารพรานหน่วยเฉพาะกิจ กรมทหารพรานที่ 23 กองกำลังสุรนารี กองทัพภาคที่ 2 ได้ตั้งด่านตรึงกำลังเข้มเรียงรายหลายจุด มีการสร้างบังเกอร์ เหล็กกั้น ท่อปูนซีเมนต์ รั้วลวดหนามวางขวางถนน พร้อมนำรถฮัมเมอร์ และรถจี๊ปติดตั้งปืนกลวิ่งลาดตระเวนตลอดเส้นทาง บรรยากาศคึกคักกว่าทุกวัน เพราะกองกำลังทหารติดอาวุธ จากกองพลทหารราบที่ 6 ได้เข้ามาเสริมกำลังทหารพราน และมีการตรวจค้นอย่างเข้มงวด ห้ามบุคคลและยานพาหนะ ที่ไม่เกี่ยวกับกองทัพ ผ่านขึ้นไปบนอุทยานแห่งชาติ เขาพระวิหารโดยเด็ดขาด

ส่วนบรรยากาศตามหมู่บ้านตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ด้านต.เสาธงชัย ต.ภูผาหมอก ต.โนนสำราญ และ ต.รุง อ.กันทรลักษ์

ยังคงคึกคักเต็มไปด้วยกองทัพนักข่าวจากสำนักต่างๆ ทั้งรถตระเวนข่าว รถถ่ายทอดสด และรถทหารวิ่งกันขวักไขว่ ทางด้านพ.ต.ท.เปียว ทองแก้ว สว.สส.สภ.บึงมะลู กล่าวว่าชาวบ้านทุกคนยังทำมาหากิน ทำไร่มันสำปะหลัง สวนยางพารากันตามปกติ แต่ชาวบ้านส่วนใหญ่ก็ยังคงหวาดหวั่น กังวลว่าจะมีการปะทะกัน ระหว่างทหารไทยกับทหารกัมพูชา เกิดขึ้นอีกครั้ง ทั้งนี้หลายครอบครัวได้เตรียมพร้อม จัดกระเป๋าเสื้อผ้า ข้าวของเครื่องใช้ที่จำเป็น สามารถอพยพได้ทันที หากมีการปะทะเกิดขึ้น

สำหรับสถานการณ์บริเวณชายแดน ด้านปราสาทพระวิหาร ทหารไทยและทหารกัมพูชา ยังคงมีการตรึงกำลังในพื้นที่พิพาท รอบปราสาทเขาพระวิหาร

โดยทหารไทยได้เร่งสร้างบังเกอร์เพิ่มเติม ตลอดแนวด้านทิศตะวันตก ของปราสาทพระวิหาร ส่วนทหารกัมพูชาได้เคลื่อนรถถัง รุ่นที 55 จำนวน 5 คัน ขึ้นไปเสริมกำลัง โดยจอดรถถังติดกับปราสาทพระวิหาร หันปากกระบอกปืนเล็งมาที่ผามออีแดง อุทยานแห่งชาติเขาพระวิหาร ต.เสาธงชัย อ.กันทรลักษ์ ส่วนรถถังรุ่นที 54 และที 55 อีก 10 คัน ได้เคลื่อนมาเสริมกำลังที่บ้านโกมุย ต.กันตร๊วจ อ.จอมกระสาน จ.พระวิหาร ซึ่งเป็นฐานทัพกัมพูชา ที่อยู่ใกล้ปราสาทพระวิหารมากที่สุด ทั้งนี้ยังมีรถถังรุ่นที 54 อีก 10 คัน จอดประจำการอยู่ริมเทือกเขาพนมดงรัก ฝั่งตรงกันข้ามกับช่องโดนเอาว์ ต.รุง อ.กันทรลักษ์

ขณะเดียวกัน พล.ท.สรัย ดึ๊ก ผบ.กองพลน้อยสนับสนุนที่ 3 กองทัพบกกัมพูชา และ ผบ.ทหาร จ.พระวิหาร ได้สั่งการให้ทหารกัมพูชา

ทยอยกันขึ้นมาเสริมกำลัง บริเวณรอบปราสาทพระวิหาร โดยให้มารายงานตัวที่ด้านหลังวัดแก้วสิกขาคีรีสวาระ ห่างจากวัด 500 เมตร ก่อนกำลังทหารกัมพูชาส่วนหนึ่ง จะพากันแยกย้ายไปประจำการ ตามจุดที่เป็นที่ตั้งของปืนใหญ่ ปืนค.60 และปืนค.82 จุดละ 3-5 นาย รอบปราสาทพระวิหารด้านทิศตะวันตก ไปจนถึงช่องคานหัก พร้อมกับสร้างบังเกอร์ซีเมนต์ขนาดใหญ่ และเคลื่อนปืนใหญ่มาประจำการ ที่หน้าวัดแก้วสิกขาคีรีสวาระด้วย



</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์เดลินิวส์
</CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE>
+
<TABLE border=0 width=670 bgColor=#ffffff><TBODY><TR bgColor=#ffcae3><TD>ชายแดนศรีสะเกษไทย-กัมพูชาสับเปลี่ยนกำลัง </TD></TR><TR><TD> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width=668><TBODY><TR><TD class=A2 vAlign=top>กัมพูชาดาหน้ากล่าวหาไทยรุกรานดินแดน พร้อมกำลังรบ แม่ทัพภาค2ชี้ทหารตรึงกำลังเผชิญหน้าอาจปะทะได้ตลอดเวลาพร้อมปกป้องอธิปไตยไทย


เมื่อเวลา 14.30 น. วันที่ 29 มิ.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานสถานการณ์ บริเวณด่านสะพานห้วยดาน ถนนวิหาร ม.12 ต.เสาธงชัย อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ห่างจากปราสาทพระวิหาร 10 กม. ทหารพรานติดอาวุธ หน่วยเฉพาะกิจ กรมทหารพรานที่ 23 กองกำลังสุรนารี กองทัพภาคที่ 2 ได้ตั้งด่านตรึงกำลังเข้มเรียงรายหลายจุด มีการสร้างบังเกอร์ เหล็กกั้น ท่อปูนซีเมนต์ รั้วลวดหนามวางขวางถนน พร้อมนำรถฮัมเมอร์ และรถจี๊ปติดตั้งปืนกลยิงเร็ว วิ่งลาดตระเวนตลอดเส้นทาง บรรยากาศคึกคักกว่าทุกวัน เพราะกองกำลังทหารติดอาวุธ จากกองพลทหารราบที่ 6 เข้ามาเสริมกำลังทหารพราน และตรวจค้นเข้มงวด


พ.อ.(พิเศษ) ประวิทย์ หูแก้ว โฆษกกองทัพภาคที่ 2 กล่าวยอมรับว่า มีรายงานทหารกัมพูชาได้สับเปลี่ยนกำลังด้าน ต.กันตร๊วจ อ.จอมกระสาน จ.พระวิหาร

ฝั่งตรงข้าม ต.เสาธงชัย อ.กันทรลักษ์ ขณะนี้ทหารทั้ง 2 ฝ่ายเตรียมพร้อมในที่ตั้ง กัมพูชามีการเสริมกำลังตลอดทั้งวันแต่ไม่ผิดสังเกตมากนัก ส่วนไทยไม่ได้เสริมกำลังพล และอาวุธยุทโธปกรณ์มากนัก มีปกติอยู่แล้วโดยใช้กำลังทหารพราน หน่วยเฉพาะกิจ กรมทหารพรานที่ 23 กองกำลังสุรนารี กองทัพภาคที่ 2 เป็นกำลังหลัก แต่ถ้าเกิดเหตุการณ์เกิดขึ้น เฉพาะกำลังทหารหน่วยเฉพาะกิจพระวิหาร 1 ก็ปกป้องอธิปไตยได้แน่นอน


ด้าน พล.ท.ธวัชชัย สมุทรสาคร แม่ทัพภาคที่ 2 กล่าวว่า กองทัพภาคที่ 2 สับเปลี่ยนกำลังทหาร

และเตรียมความพร้อมตลอดแนวชายแดนเพราะการปะทะระหว่างไทยกับกัมพูชาอาจ เกิดขึ้นได้ตลอดเวลา เนื่องจากทหารทั้งสองฝ่าย มีการตรึงกำลังเผชิญหน้ากันอยู่ ยืนยันว่า ไทยยังไม่เสริมกำลังเข้าพื้นที่ชายแดนเพิ่ม ตรึงกำลังอยู่แค่แนวหน้า ส่วนประชาชนที่ต้องการไปเที่ยวปราสาทตาเมือนธม ต.ตาเมียง อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ ต้องรอให้สถานการณ์ชายแดน ดีขึ้นกว่านี้ และอุทยานแห่งชาติเขาพระวิหาร ต.เสาธงชัย กองทัพภาคที่ 2 ยังไม่อนุญาตให้ผ่านขึ้นไปท่องเที่ยว เพราะเป็นพื้นที่เสี่ยงภัย




</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width=668><TBODY><TR><TD class=A2 vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD></TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width=668><TBODY><TR><TD class=A2 vAlign=top>ส่วน พล.ท.สรัย ดึ๊ก ผบ.กองพลน้อยสนับสนุนที่ 3 กองทัพบกกัมพูชา และ ผบ.ทหาร จ.พระวิหาร กล่าวว่า

ไทยได้เสริมกำลังทหาร และอาวุธยุทโธปกรณ์จำนวนมาก ตามแนวตะเข็บชายแดน สถานการณ์ชายแดนขณะนี้ไม่สู้ดีนัก หลังจากไทยประกาศถอนตัว จากภาคีสมาชิกองค์การยูเนสโก กองทัพกัมพูชาไม่ได้รุกรานดินแดนไทยแม้แต่คืบเดียว เราอยู่แต่ในดินแดนเรา ป้องกันปราสาทเราเท่านั้น ตอนนี้ที่ชายแดนปราสาทพระวิหาร ปราสาทตาควาย และปราสาทตาเมือนธม ทหารกัมพูชากองพันปกป้องพรมแดนทางบก ได้เสริมกำลังเตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์


ขณะเดียวกัน พล.อ.กุน กีม รอง ผบ.และเสธ.ร่วม กองทัพแห่งชาติกัมพูชา พร้อมด้วย พล.อ.เจีย ดารา รอง ผบ.สส.

ได้เดินทางมาเยี่ยมนายทหาร และพลทหารที่ประจำการ ตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ในพื้นที่ปราสาทตาควาย ต.โคกคะปั๊วะ ปราสาทตาเมือนธม และพื้นที่ทมอดูน อ.บันเตียอำปึล จ.อุดรมีชัย โดย พล.อ.กุน กีม กล่าวให้กำลังใจทหารชายแดนว่า ไทยพ่ายแพ้ในการประชุมคณะกรรมการมรดกโลก ที่กรุงปารีส แล้วมาก่อสงครามที่ชายแดนกับกัมพูชา เปรียบเหมือนเป็นประเทศที่ไม่รู้ และไม่เกรงกฎหมาย กระหายสงคราม ด้วยเหตุนี้เวลาไทยโจมตี ทำสงครามกับเขมรหลายครั้งทั้งผู้นำ ทั้งพวกหลงประวัติศาสตร์ กำลังแสดงอำนาจตั้งตนเป็นใหญ่ ในภูมิภาคเอเชียอาคเนย์ และสร้างความเป็นศัตรูกับประเทศเพื่อนบ้าน กัมพูชาเป็นประเทศเล็ก ประเทศกำลังพัฒนา หลังถูกทำลายด้วยสงครามกลางเมือง ก็ไม่ได้หมายความว่าจะกลัวไทย รัฐบาลกัมพูชาที่มีสมเด็จฮุน เซน ได้บัญชาการอย่างมีประสิทธิภาพ ในการสกัดกั้น กลศึกสงครามรุกรานของไทย และความต้องการที่จะครอบครอง ปราสาทพระวิหารร่วมกับกัมพูชาไม่มีส่วนไหนที่ไทยเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์


พล.อ.เจีย ดารา กล่าวว่า ขอให้ผู้นำไทยยุติเอาปัญหาชายแดนกัมพูชาโดยเฉพาะปราสาทพระวิหาร ไปเป็นหมากรุกพาตนออกจากความวุ่นวาย ทางการเมืองในประเทศของตน เท่านั้น แต่กลายเป็นว่าได้เคลื่อนระเบิด เคลื่อนทหารมาที่ชายแดนและใช้ภาษาข่มขู่ว่าจะก่อสงครามกับกัมพูชา กัมพูชามีประชาชน 14 ล้านคนทุกคนเป็นทหารถือว่ามีกำลัง14ล้านคน ถ้าไทยเข้ารุกรานเราพร้อมต้อนรับทั้งเล็กและใหญ่


นายไพ ซีพาน เลขาธิการและโฆษกสำนักนายกรัฐมนตรีกัมพูชา กล่าวว่า มีเหตุผลหลายอย่างที่กัมพูชาเห็นชัดแล้วว่า

การเจรจาทวิภาคีในอนาคตกับไทย จะไม่ได้รับผลอะไรทั้งสิ้น เพราะไทยไม่เคารพการพูดคุยของตนเอง กัมพูชากำลังเตรียมเรื่องสำคัญ เพื่อส่งให้คณะกรรมการมรดกโลก ขอสนับสนุนความช่วยเหลือ ในการดูแลรักษา คุ้มครอง และทำการซ่อมแซมปราสาทพระวิหาร ที่ได้รับความเสียหายจากการยิงปืนใหญ่ของไทย ส่วนปัญหาอธิปไตยของกัมพูชา และงานการรักษาคุ้มครองปราสาทพระวิหาร เป็นเรื่องที่แยกจากกัน.

</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์เดลินิวส์
</CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE border=0 width=670 bgColor=#ffffff><TBODY><TR bgColor=#ffcae3><TD>น้ำท่วมมิด พระอุโบสถอายุ 200 ปีวัดพวงพะยอม จ.น่านทรุด </TD></TR><TR><TD> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width=668><TBODY><TR><TD class=A2 vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD></TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width=668><TBODY><TR><TD class=A2 vAlign=top>เมื่อ 30 มิ.ย. 54 สถานการณ์น้ำท่วมวันที่ 5 ในจังหวัดน่าน ขณะนี้หลายพื้นที่

ได้แก่อำเภอปัว ท่าวังผา และเมือง รวมทั้งในเขตเทศบาลเมืองน่านเริ่มคลี่คลายใกล้เข้าสู่ภาวะปกติ ระดับน้ำท่วมลดลงอย่างต่อเนื่องเหลือเพียงบางแห่งที่เป็นที่ราบลุ่มต่ำ และอยู่ติดริมแม่น้ำน่าน อย่างบ้านดอนศรีเสริม บ้านพวงพะยอม เขตเทศบาลเมืองน่าน ซึ่งยังมีน้ำท่วมขังอยู่สูงประมาณ 30-50 เซนติเมตร และเริ่มส่งกลิ่นเหม็น
นายสุรพล เธียรสูตร นายกเทศบาลเมืองน่าน ขอกำลังทหารนำเครื่องสูบน้ำเร่งสูบน้ำออก

อีกทั้งยังเร่งระดมเก็บขยะหลังน้ำลดจำนวนมากที่กระจายทั่วทุกมุม แต่สิ่งที่น่าห่วงคือโบราณสถาน และวัดเก่าแก่ต่างๆที่ถูกน้ำท่วม โดยเฉพาะอย่างยิ่งวัดพวงพะยอม ถูกน้ำท่วมขังมานานถึง 5 วัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งช่วง 3 วันแรกระดับน้ำสูงจนท่วมมิดหลังคาพระอุโบสถ ซึ่งได้ส่งผลให้ขณะนี้พระอุโบสถที่มีอายุกว่า 200 ปี ได้ทรุดตัว เป็นแนวรอยแตกยาวกว่า 2 เมตร

พระกฤตญาภรณ์ กิตติโสภโณ เจ้าอาวาสวัดพวงพะยอมชี้ให้ดูรอยแตกทรุดตัวของพระอุโบสถและบริเวณผนังโดยรอบของพระอุโบสถ รวมทั้งประตูซึ่งมีมีรอยแตกเห็นได้ชัด พร้อมกับวอนให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งสำรวจ และบูรณะ เนื่องจากหวั่นว่าพระประทานที่อยู่ในพระอุโบสถที่มีอายุกว่า 200 ปี จะได้รับผลกระทบเพราะเริ่มเอียงตามสภาพพระอุโบสถแล้ว

ส่วนสถานการณ์อำเภอเวียงสาขณะนี้ นายนราธิป พรหมพฤกษ์ นายอำเภอเวียงสา

ได้เข้าสำรวจและพบว่าระดับน้ำเริ่มลดลงอย่างต่อเนื่อง จะมีที่ตำบลไหล่น่าน และตำบลขึ่ง บางหมู่บ้านที่อยู่ติดริมน้ำ และเป็นพื้นที่ลุ่มต่ำยังมีน้ำท่วมขังอยู่ประมาณกว่า 1 เมตร แต่อย่างไรเชื่อว่าภายในวันนี้สถานการณ์น้ำท่วมน่าจะลดลงจะหมดและเข้าสู่ภาวะปกติ

</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์ข่าวสด
</CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE border=0 width=670 bgColor=#ffffff><TBODY><TR bgColor=#ffcae3><TD>ด.ญ.แรกเกิดถูกยัดใส่ถุงดำดวงแข็งรอด </TD></TR><TR><TD> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width=668><TBODY><TR><TD class=A2 vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD></TD></TR><TR><TD align=middle>ขอบคุณรูปจาก INN News</TD></TR></TBODY></TABLE>
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width=668><TBODY><TR><TD class=A2 vAlign=top>[SIZE=+0]
พบ เด็กทารกเพศหญิง แรกเกิด ถูกพ่อแม่วัยรุ่น ยัดใส่ถุงดำ โยนทิ้งศาลาริมทาง เคราะห์ดี ชาวบ้าน ช่วยเหลือทัน ส่งรักษาต่อที่ ร.พ.ลำปาง

เจ้าหน้าที่กู้ชีพ ร.พ.ศูนย์ลำปาง เดินทางเข้ารับตัวเด็กทารก เพศหญิงแรกคลอด บริเวณศาลาที่พักริมทาง บ้านลำปางคูณ หมู่ 1 ต.พระบาท ถนนสายลำปาง-เด่นชัย อ.เมือง จ.ลำปาง เมื่อไปถึงพบเด็กทารกเพศหญิง กำลังร้องไห้หน้าตาแดงกล่ำ หน้าตาหน้ารักน่า เอ็นดู ใส่ห่อผ้าไว้ในสภาพที่ยังมีสายรกติดพันอยู่ เชื่อว่า เพิ่งเกิดมาได้ไม่ถึง 1 ชั่วโมง จากนั้น เจ้าหน้าที่กู้ชีพ ร.พ.ลำปาง รีบนำตัวเด็กทารกดังกล่าวไปดูแล และรักษาต่อยัง ร.พ.ลำปาง จากการ สอบสวน นายวุฒินันท์ อายุศรี อายุ 54 ปี ได้เล่าว่า ช่วงเช้าตรู่ ตนได้เดินข้ามถนนไปที่ข้างศาลาที่พักริมทาง พบถุงขยะสีดำ มัดปากถุงและวางทิ้งไว้ บนที่นั่งในที่พักศาลาริมทาง จึงรีบโทรศัพท์แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจและเจ้าหน้าที่กู้ชีพ มาช่วยเหลือได้ทัน โดยก่อนเกิดเหตุ พบ ชายหญิง 2 คน อายุประมาณ 20 ปี ขี่รถจักรยานยนต์ ไม่ทราบสีและทะเบียน นำถุงขยะสีดำมาโยนทิ้งที่ศาลาริมทางแล้ว ขี่รถหนีไปอย่างรวดเร็ว อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ตำรวจ จะได้เร่งสืบสวนหาตัวคนที่นำมาทิ้ง ดำเนินคดีต่อไป[/SIZE]


</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว และรูปภาพ คุณภาพดี โดย: INN NEWS
</CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

MThai News: สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานว่า เต่านับร้อยตัวบุกสนามบิน เจเอฟเค ของนิวยอร์ค เพื่อหาที่วางไข่
โดยเมื่อเวลา06.45น. ของเมื่อวานนี้ ตามเวลาท้องถิ่น เต่าราว 150 ตัว คลานเข้ามาบริเวณของสนามบิน จนกระทั่งเวลา 09.30 น. พวกมันก็คลานถึงรันเวย์ ทำให้เจ้าหน้าที่ของหอบังคับการบินต้องเปลี่ยนทิศทางชั่วคราว เพื่อใช้เวลานำเต่าออกจากรันเวย์ ส่งผลให้เครื่องบินขึ้นและลงช้ากว่ากำหนดราวครึ่งชั่วโมง
อย่างไรก็ตาม เหตุการณ์ดังกล่าว เกิดขึ้นที่สนามบินแห่งนี้เป็นประจำทุกปี เพราะเต่าจะขึ้นจากหาดเพื่อหาที่วางไข่ในช่วงฤดูผสมพันธุ์
Mthai news
เกาะติดทุกข่าวเด่น ประเด็นร้อน ในรอบวันกับ Mthainews บน facebook คลิ๊กเลย

แท็ก : นิวยอร์ค, สนามบิน, เต่า

<TABLE border=0 width=670 bgColor=#ffffff><TBODY><TR bgColor=#ffcae3><TD>แผ่นดินไหว 5 ริคเตอร์ เกาะสุลาเวสี อินโดนีเซีย ลึกจากผิวดินแค่ 2 กิโลเมตร </TD></TR><TR><TD> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width=668><TBODY><TR><TD class=A2 vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD></TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
กรมอุตุนิยมวิทยาของไทยรายงานว่า เมื่อวันที่1ก.ค.2554 เวลา00.19น.ได้เกิดเหตุแผ่นดินไหวที่เกาะสุลาเวสี ประเทศอินโดนีเซีย วัดแรงสั่นสะเทือนได้5.0ริคเตอร์ ลึกจากผิวดินแค่2กิโลเมตร


<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=2 width=450><TBODY><TR><TD bgColor=#abcdef height=25 colSpan=2 align=middle>แผ่นดินไหวที่ SULAWESI, INDONESIA </TD></TR><TR><TD>ขนาด</TD><TD>: 5.0 ริกเตอร์ </TD></TR><TR><TD>จุดศูนย์กลางแผ่นดินไหว</TD><TD>: SULAWESI, INDONESIA </TD></TR><TR><TD>วันที่</TD><TD>: 01 กรกฎาคม 2554 00:19 น. </TD></TR><TR><TD>ละติจูด</TD><TD>: 2° 39′ 36′′ ใต้ </TD></TR><TR><TD>ลองจิจูด</TD><TD>: 121° 51′ 00′′ ตะวันออก </TD></TR><TR><TD>ความลึกจากระดับผิวดิน</TD><TD>: 2 กิโลเมตร</TD></TR></TBODY></TABLE>


</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์มติชน
</CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

วันที่ 01 กรกฎาคม พ.ศ. 2554 เวลา 10:57 น. ข่าวสดออนไลน์


น่านพบรอยเลื่อนยาว 15 ม. ดินถล่มบ้านพัง เร่งอพยพชาวบ้าน

<STYLE> P { margin: 0px; } </STYLE>
วันที่ 1 ก.ค. ที่ จ.น่าน พบรอยเลื่อนยาวกว่า 15 เมตรผ่ากลางหมู่บ้านสกาดเหนือ ต.สกาด อ.ปัว จ.น่าน เจ้าหน้าที่ต้องเร่งอพยพชาวบ้านจำนวน 39 หลังคาเรือน รวม 136 คนออกจากหมู่บ้านไปอยู่ที่สถานีอนามัยบ้านสกาด
ที่ตั้งเป็นศูนย์พักพิงชั่วคราว และรอยเลื่อนยังตัดผ่ากลางบ้านของนายติ๊บ รกไพร บ้านเลขที่ 96/1 บ.สกาดเหนือ ต.สกาด อ. ปัว จ.น่าน นายบุญศรี รกไพร บ้านเลขที่70/1 บ.สกาดเหนือ ต.สกาด อ. ปัว จ.น่าน และนายรุจน์ ก้องเกียรติบูชา บ้านเลขที่ 122/1 บ.สกาดเหนือ ต.สกาด อ. ปัว จ.น่าน จำนวน 3 หลังคาเรือนพังเสียหายทั้งหลัง

นอกจากนี้ ยังมีดินไลด์ตัวมายังบ้านของนายชาญ รกไพร และนายสาร รกไพร บ้านสกาด หมู่ที่ 2 และหมู่ที่ 4 ชาวบ้านต้องเร่งช่วยกันเก็บข้าวของย้ายหนี ซึ่งทางจังหวัดได้ตัดสินใจรื้อบ้านทั้ง 2 หลังออกเพื่อป้องกันดินถล่มทับลงมาพัง

นายวัชรชัย ไชยมาศ ปลัดอบต.สกาพร้อมกับเจ้าหน้าที่ได้สำรวจบริเวณโดยรอบหมู่บ้านยังพบรอยแยกบริเวณทางเข้า ร.ร .บ้านสกาดพัฒนา ยาวประมาณ 12 เมตร ความลึกประมาณ 35 เซนติเมตร และห่างจากรอยแยกถนนหน้าโรงเรียนไปอีก 2 กิโลเมตร พบรอยแยกจุดที่ 2 ถนนแยกตัวและทรุดตัว ยาวประมาณ 6 เมตร ความลึกประมาณ15เซนติเมตร

นอกจากนี้ชาวบ้านยังพบรอยแยกจุดที่ 3 บนดอยทางด้านทิศใต้ของหมู่บ้าน มีความยาวประมาณ 500 เมตร ความลึกประมาณ 30 เซนติเมตร และพบรอยแยกจุดที่4 ทางทิศเหนือท้ายหมู่บ้าน ยาวประมาณ 50 เมตร ลึกประมาณ 20 เซนติเมตร





กกต.แนะกลุ่มเพศที่ 3 พกบัตรหลายใบไปเลือกตั้ง ยืนยันตัวจริง

<STYLE> P { margin: 0px; } </STYLE>
เมื่อวันที่ 1 ก.ค. นายสุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการ กกต. กล่าวถึงกรณีความเป็นห่วงว่ากลุ่มหลากหลายทางเพศ หรือกลุ่มเพศที่ 3 จะไม่กล้าออกมาใช้สิทธิเลือกตั้งเนื่องจากเกรงว่าจะเกิดความอับอายหากรูปในบัตรประจำตัวประชาชน จะไม่ตรงกับตัวจริง หรือถูกหัวเราะขบขันจากเจ้าหน้าที่กรรมการประจำหน่วย(กปน.) ว่าเรื่องดังกล่าวได้มีการประชุมกันในกกต.และให้นโยบายไปยังกกต.จว.ทุกจังหวัดว่า หากรูปในบัตรประจำตัวประชาชน ไม่ตรงกับหน้าตาของเจ้าของบัตร เนื่องจากเป็นกลุ่มหลากหลายทางเพศก็ขอให้สอบถามด้วยความสุภาพ ไม่ให้มีการหัวเราะขบขัน และผอ.กปน.หน่วยนั้นๆ เป็นผู้พิจารณาว่าเป็นเจ้าของบัตรตัวจริงหรือไม่

ส่วนข้อแนะนำไปยังกลุ่มหลากหลายทางเพศว่านอกจากจะพกบัตรประจำตัวประชาชนติดตัวไปด้วยแล้ว ก็ขอให้นำบัตรที่ทางราชการออกให้ใบอื่นติดตัวไปด้วย เพื่อยืนยันการเป็นเจ้าของสิทธิเลือกตั้งตัวจริง
ข่าวนี้ กกต มึนค่ะ

สุราษฎร์ตื่นทองผุดจากตาน้ำ แห่กราบไหว้บูชา

<STYLE> P { margin: 0px; } </STYLE>
วันที่ 1 ก.ค. ที่ จ.สุราษฎร์ธานี ชาวบ้านจำนวนมากพากันไปมุงดูอยู่บริเวณขอบสระน้ำในพื้นที่ ต.บางสวรรค์ อ.พระแสง จ.สุราษฎร์ธานี ซึ่งเชื่อว่ามีเปลวแผ่นทองคำพวยพุ่งขึ้นมาจากตาน้ำผุดของสระน้ำซึ่งอยู่ติดกับคลองอิปัน คลองสาขาของแม่น้ำตาปี

ส่วนวัตถุประหลาดที่ชาวบ้านเชื่อว่าเป็นแผ่นทองคำนั้นได้พุ่งขึ้นมาพร้อมกับน้ำผุดจากตาน้ำกลางสระ ลักษณะเป็นแผ่นขนาดเล็ก ๆ จำนวนมาก และรวมตัวกันเป็นสาย แต่ไม่กระจายตัวออกจากบริเวณตาน้ำ ซึ่งชาวบ้านที่พากันมามุงดู ต่างใช้ภาชนะตักน้ำในสระขึ้นมาเพื่อนำกลับไปบูชาตามความเชื่อ และบางส่วนพยายามที่จะตักชิ้นส่วนประหลาดดังกล่าวขึ้นมาด้วยแต่ไม่สำเร็จ และบางส่วนได้จุดธูปเพื่อขอขมาต่อศาลตาปะขาว ซึ่งตั้งอยู่ใต้ต้นไม้ใหญ่ริมขอบสระ

นายสนิท สุขสวัสดิ์ อายุ 64 ปี คนเก่าคนแก่ของพื้นที่ดังกล่าว กล่าวว่า บ่อน้ำผุดดังกล่าวมีมานานตั้งแต่สมัยโบราณ โดยก่อนหน้านี้สระแก้วเป็นส่วนหนึ่งของคลองอิปัน แต่น้ำบริเวณสระจะใสตัดกับน้ำขุ่นของคลอง ต่อมาในสมัยของ ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ปราโมทย์ เป็นนายกรัฐมนตรีได้เดินทางมาเยี่ยมชม และให้งบประมาณกั้นขอบสระ ให้แยกออกจากลำคลอง และในพระราชพิธีที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงครองราชย์สมบัติครบ 60 ปี ทางสำนักพระราชวังได้นำน้ำจากสระแก้ว ซึ่งเป็น 1 ในน้ำศักดิ์เข้าร่วมพระราชพิธีด้วย

ส่วนชาวบ้านในพื้นที่ต่างก็เชื่อว่าน้ำผุดที่เกิดขึ้นมาจากสระดังกล่าวเป็นน้ำศักดิ์สิทธิ์ โดยทุกวันขึ้น 1 ค่ำ เดือน 5 จะมีพิธีสมโภชน้ำ ก่อนำตักน้ำในสระแก้วไปทำพิธีสรงน้ำร่างหลวงพ่อปัญญา สาระสุนทร หรือ พ่อท่านล้อม อดีตเจ้าอาวาสวัดบางสรรค์ ที่ละสังขารมานานกว่า 13 ปี แต่ร่างกายไม่เน่าเปื่อย แต่ในปีนี้ไม่สามารถทำพิธีได้เนื่องจากเกิดอุทกภัยครั้งใหญ่ในช่วงดังกล่าวพอดี ชาวบ้านจึงเชื่อกันว่าการที่มีเหตุการณ์ดังกล่าวอาจจะเกิดอาเพสกับบ้านเมือง

นายสนิท กล่าวด้วยว่า เมื่อคราวเกิดเหตุสึนามิพัดถล่มพื้นที่ชายฝั่งอันดามัน ในช่วงเช้าก่อนคลื่นยักษ์เข้าถล่มนั้น ได้เกิดปรากฏการณ์น้ำในสระเหือดแห้งไปทั้งหมดนานประมาณ 1 ชั่วโมง หลังจากนั้นจึงกลับเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วจนเต็มสระ ต่อมาจึงทราบว่าเกิดเหตุคลื่นยักษ์พัดถล่มฝั่งอันดามัน และก่อนจะเกิดเหตุการณ์วัตถุประหลาดขึ้นมาจากตาน้ำในครั้งนี้ก็ทราบว่าเกิดแผ่นดินไหว ที่ จ.ตรัง ทำให้เกิดความหวาดกลัว และจัดทำพิธีสมโภชน้ำทันทีหลังเกิดเหตุการณ์ดังกล่าว







ชาวบ้านเฮไฟเขียวนั่งรถไฟ-เมล์ฟรี ภาคอุตฯอ่วมลอยตัวแอลพีจี-อุ้มไฟฟรี90หน่วย



นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เปิดเผยถึงการปล่อยลอยตัวราคาก๊าซหุงต้ม (แอลพีจี) ในภาคอุตสาหกรรม ว่า การปล่อยลอยตัวราคาก๊าซแอลพีจี ในภาคอุตสาหกรรมจะเป็นไปตามมติของคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) ซึ่งจะมีผลในเดือนก.ค.นี้

นายดิเรก ลาวัณย์ศิริ ประธานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.หรือ เรกกูเลเตอร์) กล่าวว่า ในสัปดาห์หน้า จะรับฟังความคิดเห็นเรื่องโครงสร้างค่าไฟฟ้าที่จะปรับใหม่ โดยจะมีการนำภาระค่าไฟฟรี 90 หน่วย เข้าไปบวกในค่าไฟฟ้าของผู้ใช้ไฟฟ้าขนาดกลางและใหญ่ ซึ่งจะเร่งจัดทำให้เสร็จ เพื่อนำมาใช้ในบิลค่าไฟฟ้างวดสิ้นเดือนก.ค.นี้ โดยในส่วนของค่าไฟฟรี 90 หน่วยเป็นมาตรการถาวรนั้นประกาศบังคับใช้ และมีผลในบิลค่าไฟฟ้างวดสิ้นเดือนก.ค.นี้เช่นกัน

รายงานข่าวจากเรกกูเลเตอร์ กล่าวว่า ตัวเลขภาระค่าไฟฟรี 90 หน่วย อยู่ที่ระดับ 11-17 สตางค์/หน่วย

รายงานข่าวจากกระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า ขณะนี้กระทรวงยังไม่สามารถดำเนินการเรื่องขึ้นราคาแอลพีจีในภาคอุตสาหกรรมได้ เพราะนายกฯ ยังไม่ได้ลงนามคำสั่งเพื่อให้สอดคล้องกับมติกพช. เมื่อวันที่ 27 เม.ย.54 ที่เห็นชอบให้ทยอยปรับราคาขายปลีกแอลพีจีในภาคอุตสาหกรรมให้สะท้อนต้นทุนโรงกลั่นน้ำมันตั้งแต่เดือนก.ค.54 โดยปรับราคาขายปลีกไตรมาสละ 1 ครั้ง จำนวน 4 ครั้ง ครั้งละ 3 บาท/ก.ก. เพื่อลดการนำเข้า

โดยการนำเข้าแอลพีจีตั้งแต่เม.ย.51 กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงต้องใช้เงินอุดหนุน 4.7 หมื่นล้านบาท

ด้านนายยุทธนา ทัพเจริญ ผู้ว่าการการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เปิดเผยว่า ในการประชุมคณะกรรมการรฟท. เมื่อวันที่ 29 มิ.ย.ที่ผ่านมา ได้อนุมัติให้รฟท.ขยายระยะเวลารถไฟฟรีตามมาตรการลดภาระค่าครองชีพของประชาชน ต่ออีก 4 เดือน ระหว่างวันที่ 1 ก.ค.-31 ต.ค.54 และเมื่อครบกำหนด 4 เดือนจะหารือร่วมกันอีกครั้งว่าจะให้รฟท.ดำเนินการต่อในลักษณะใด ภายใต้เงื่อนไขว่ากระทรวงการคลังจะต้องจ่ายชดเชยให้กับรฟท.ในส่วนที่เป็นภาระของรฟท. เพราะรฟท.ประสบปัญหาขาดทุนมาโดยตลอด หากต้องสำรองจ่ายไปก่อนยาวติดต่อกันอย่างต่อเนื่อง รฟท.อาจรับภาระนี้ไม่ไหว และไม่ว่ามาตรการรัฐบาลใหม่จะออกมาในรูปแบบใดจะไม่ให้กระทบต่อภาคประชาชนอย่างเด็ดขาด

นายชัยรัตน์ สงวนชื่อ ประธานคณะกรรมการบริหารกิจการองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) เปิดเผยว่า คณะกรรมการเห็นชอบตามที่ขสมก. เสนอต่ออายุมาตรการลด ค่าครองชีพรถเมล์ฟรีให้กับประชาชนออกไปอีก 6 เดือน เริ่ม วันที่ 1 ก.ค.นี้

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การขยายเวลามาตรการดังกล่าว เนื่องจากกระทรวงการคลังและกระทรวงคมนาคม เห็นชอบต่ออายุมาตรการลดค่าครองชีพในส่วนของค่ารถเมล์และรถไฟฟรีอีก 6 เดือน จากเดิมที่จะสิ้นสุดในสิ้นเดือน มิ.ย.นี้ ซึ่งทำให้ขสมก.มีภาระต้นทุนเดือนละ 180 ล้านบาท ส่วนรฟท.เดือนละ 30 ล้านบาท

 

จากข้อข่าว สุราษฎร์ตื่นทองผุดจากตาน้ำ แห่กราบไหว้บูชา

วันที่ 1 ก.ค. ที่ จ.สุราษฎร์ธานี ชาวบ้านจำนวนมากพากันไปมุงดูอยู่บริเวณขอบสระน้ำในพื้นที่ ต.บางสวรรค์ อ.พระแสง จ.สุราษฎร์ธานี ซึ่งเชื่อว่ามีเปลวแผ่นทองคำพวยพุ่งขึ้นมาจากตาน้ำผุดของสระน้ำซึ่งอยู่ติดกับคลองอิปัน คลองสาขาของแม่น้ำตาปี เมื่อคราวเกิดเหตุสึนามิพัดถล่มพื้นที่ชายฝั่งอันดามัน ในช่วงเช้าก่อนคลื่นยักษ์เข้าถล่มนั้น ได้เกิดปรากฏการณ์น้ำในสระเหือดแห้งไปทั้งหมดนานประมาณ 1 ชั่วโมง หลังจากนั้นจึงกลับเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วจนเต็มสระ ต่อมาจึงทราบว่าเกิดเหตุคลื่นยักษ์พัดถล่มฝั่งอันดามัน และก่อนจะเกิดเหตุการณ์วัตถุประหลาดขึ้นมาจากตาน้ำในครั้งนี้ก็ทราบว่าเกิดแผ่นดินไหวจ.ตรัง
สายน้ำใต้ดินนั้นมีลักษณะเชื่อมต่อกันเหมือนใยแมงมุมใต้ดิน เมื่อน้ำทะเลลดลงคราวเกิดซึนามิได้พาน้ำใต้ดินไปด้วย สระน้ำที่อำเภอทุ่งใหญ่ จ.นครศรีฯ ห่างจากฝั่งอันดามันกว่า 100 กม. ก็เหือดแห้งไปเช่นกัน และเมื่อคลื่นซินามีเข้ามา น้ำกลับล้นขอบสระ
การเกิดปรากฏการณ์แปลกๆ ให้เห็นเหมือนกับต่างเตือนให้รับรู้ว่า อาจมีภัยพิบัติเกิดขึ้นอีก

 

แผ่นดินไหว 5.4 ริกเตอร์ที่ญี่ปุ่น​

​

เกิดเหตุแผ่นดินไหวญี่ปุ่น 5.4 ริกเตอร์เมื่อช่วงรุ่งเช้าที่ผ่านมา ทำให้มีผู้บาดเจ็บอย่างน้อย 7 คน

ชาวญี่ปุ่นต้องอกสั่นขวัญแขวนขึ้นอีกครั้ง หลังจากเมื่อรุ่งเช้าที่ผ่านมาประมาณ 6.16 นาฬิกาตามเวลาท้องถิ่นหรือ 8.16 นาฬิกาตามเวลาในประเทศไทยได้เกิดแผ่นดินไหววัดได้ 5.4 ริคเตอร์ขึ้นที่เมืองนางาโนะ ห่างจากกรุงโตเกียวไปทางตะวันตกเฉียงเหนือราว 170 กิโลเมตร โดยเกิดลึกลงไปใต้ดินราว 4 กิโลเมตร ทำให้เกิดแรงสั่นสะเทือนค่อนข้างรุนแรง ส่งผลให้มีผู้บาดเจ็บ 7 คนจากการถูกสิ่งของตกใส่ แต่ยังไม่มีรายงานความเสียหายรุนแรงแต่อย่างใด และไม่มีการเตือนภัยสึนามิ ญี่ปุ่นตั้งอยู่ในเขตวงแหวนแห่งไฟ ทำให้เกิดแผ่นดินไหวขึ้นบ่อยครั้ง รวมทั้งครั้งรุนแรง 9 ริคเตอร์เมื่อวันที่ 11 มีนาคมที่ผ่านมา ทำให้สึนามิและวิกฤตการรั่วไหลของโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ ทำให้มีผู้เสียชีวิตและสูญหายกว่า 22,000 คน

ข่าวทีวีช่อง 3 วันพฤหัสบดี ที่ 30 มิถุนายน พ.ศ. 2554

น้ำท่วมฟิลิปปินส์ ขณะที่เม็กซิโกเตรียมรับมือพายุอาร์ลีน​

​

ยอดผู้เสียชีวิตจากน้ำท่วมฉับพลันในฟิลิปปินส์เพิ่มขึ้นเป็น 25 คนแล้ว ขณะที่พื้นที่ภาคกลางเม็กซิโกเตรียมรับมือพายุโซนร้อนอาร์ลีนที่จะพัดถล่มในวันนี้

เจ้าหน้าที่ฟิลิปปินส์สรุปยอดผู้เสียชีวิตจากน้ำท่วมฉับพลันในพื้นที่ภาคใต้ฟิลิปปินส์มีอย่างน้อย 25 คนสูญหายอีกอย่างน้อย 15 คน ขณะที่ประชาชนราว 20,000 คนจาก 6 หมู่บ้านที่เมืองดาเวาไดรับผลกระทบ หลังจากฝนที่ตกลงมาอย่างหนักทำให้น้ำในแม่น้ำเพิ่มสูงขึ้นและเอ่อล้นเข้าท่วมหมู่บ้าน บางพื้นที่ถูกน้ำท่วมสูง 3 เมตร

ส่วนที่กรุงโซล ประเทศเกาหลีใต้ อิทธิพลของพายุมิอาริยังทำให้เกิดฝนตกหนักต่อเนื่องในช่วง 2 ถึง 3 วันที่ผ่านมา โดยที่กรุงโซลวัดปริมาณน้ำฝนได้ 30 มิลลิเมตรต่อชั่วโมง การจราจรกลายเป็นอัมพาต พยากรณ์อากาศเกาหลีใต้เตือนจะเกิฝนตกหนักลงมาอีกในวันนี้

ขณะที่เม็กซิโกเมื่อวานนี้ ทางการประกาศเตือนให้ประชาชนในพื้นที่ภาคกลางเตรียมรับมือกับพายุโซนร้อนอาร์ลีนที่กำลังจะพัดถล่มขึ้นฝั่งในตอนเช้าวันนี้ และก่อนที่จะขึ้นฝั่งจะทวีกำลังแรงเป็นเฮอริเคน ทางการเตือนอาจเกิดน้ำท่วมฉับพลันและดินถล่มได้ สำนักงานภาวะฉุกเฉินเม็กซิโกเตือนประชาชนที่อยู่ในเส้นทางพายุให้อพยพคาดว่า ประชาชนราว 200,000 คนจะได้รับผลกระทบ ขณะที่บริษัทน้ำมันของรัฐประกาศเตือนภัยและผลกระทบที่จะเกิดขึ้นกับโรงกลั่นน้ำมันในเส้นทางที่จะพายุพัดผ่านด้วย ขณะที่ทางใต้ของรัฐเท็กซัส สหรัฐอเมริกาก็จะได้รับอิทธิพลจากพายุลูกนี้ด้วย

ข่าวทีวีช่อง 3 วันพฤหัสบดี ที่ 30 มิถุนายน พ.ศ. 2554

จีน..น้ำท่วมมณฑลกวางตุ้ง​

​

เกิดน้ำท่วมฉับพลันในมลฑลกวางตุ้ง ทางภาคใต้ของจีน ทำให้ประชาชนกว่า 15,000คนต้องอพยพออกจากบ้านเรือน

ฝนฤดูมรสุมเริ่มโหมกระหน่ำดินดอนสามเหลี่ยมปากแม่น้ำเพิร์ล และเขตตะวันตกของมลฑลกวางตุ้ง เมื่อคืนวันอังคารที่ผ่านมาโดยเขตที่ได้รับผลกระทบหนักที่สุดคือเมืองยังเจียง ส่งผลให้ต้องอพยพประชาชนกว่า 13,000 คนและยังมีประชาชนประชาชนอีกเกือบ 2,000 คนต้องติดอยู่ในเขตน้ำท่วม

ทหารในเรือกู้ภัยต้องออกปฏิบัติภารกิจค้นหาประชาชนทีละบ้านเพื่อนำตัวไปยังที่ปลอดภัย มีรายงานว่าฝนที่ตกหนัก ทำให้เกิดน้ำท่วมหมู่บ้านอย่างน้อย 20 แห่งในเขตไทซัน การจราจรในหลายพื้นที่หยุดชงัก

นอกจากนี้ยังเกิดฝนตกหนักในมลฑลฝูเจี้ยน และเขตปกครองตนเองกว่างซีจ้วง ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องออกคำเตือนให้ระวังภัยพิบัติที่อาจจะมีขึ้น

ข่าวทีวีช่อง 3 วันศุกร์ ที่ 1 กรกฎาคม พ.ศ. 2554

ที่มา http://www.krobkruakao.com

 

สีเขียว vs สีเขียว​

(ภาพประกอบบทความ เนื่องจากดวงประเทศไทยกับอเมริกาคล้ายกัน)​

7 เม.ย. 2011 – บทความเปลว สีเงิน เปิดคำทำนาย 2 โหรระดับประเทศ ... ทหารไม่ปฏิวัติเด็ดขาด. ... ซึ่งอาจหมายถึงมีกบฏซ้อนเลือกตั้ง เกิดความวุ่นวาย ...(อ่านรายละเอียดได้ที่ลิ้งค์ข้างล่างนี้ครับ)

บทความเปลว สีเงิน เปิดคำทำนาย 2 โหรระดับประเทศ - - -"การก่อกบฎจะมา ...

คำทำนายของหมอนิด

"...ในเร็วๆ นี้อยากจะให้ระวัง.. “สีเขียวเสียดสี”...กันอย่างรุนแรงจะเกิดขึ้นอย่างไม่คาดคิด และผลจากการเสียดสีกันในครั้งนี้จะเกิด “ประกายไฟ” ขึ้นอย่างน่ากลัว...บ้านเมืองคงต้องบอบช้ำที่เกิดจากการ “เสียดสี” กันของ “สีเขียว”...เศรษฐกิจช้ำหนักขึ้น...ตลาดหุ้นสะเทือนอย่างรุนแรง... “คนเป็นใหญ่” จะเสียชีวิต... “ตะขาบเหล็ก” จะวิ่งพล่านทั่วเมือง...เสียงปืนดังไปทั่ว...เสียงระเบิดเกิดขึ้นเป็นแห่งๆ กองกำลังไม่ปรากฏสัญชาติจะร่วมกับแดงไม่ธรรมดา...ผู้คนจะล้มตาย...บุคคลระดับ VIP จะบินออกนอกประเทศ...ความชุลมุนวุ่นวายจะเกิดไปทั่ว...มองหาคน “รูปหล่อ” ไม่เห็น ไม่รู้ใครเป็นใคร...หากมัวแต่ทะเล่อทะล่าก็จบสิ้นทั้งอินทรีย์...ตาอินกะตานา...มัวแต่ทะเลาะกัน...ตาอยู่มาเดี๋ยวเดียวคว้าพุงปลาไปกิน..."

จับสัญญาณ"สงครามสีเขียว"! คมชัดลึก : การเมือง : ข่าวทั่วไป

 

<TABLE border=0 width=670 bgColor=#ffffff><TBODY><TR bgColor=#ffcae3><TD>รัสเซียจ่ายค่าข้าวให้พณ.แล้ว36ล้านเหรียญ </TD></TR><TR><TD> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width=668><TBODY><TR><TD class=A2 vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD></TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
รัสเซีย จ่ายค่าข้าวให้พาณิชย์แล้ว 36 ล้านเหรียญ ผ่าน เอ็กซิมแบงก์ คาดสัปดาห์หน้าโอนเงินเข้าคลังได้

จากที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ได้นำคณะผู้แทนไทยเดินทางเยือนประเทศรัสเซีย เพื่อลงนามในพิธีสารความตกลงการชำระหนี้ค่าข้าวระหว่างไทย-รัสเซีย ตั้งแต่วันที่ 31 พ.ค. 2554 จำนวนกว่า 36 ล้านเหรียญสหรัฐ ขณะนี้ทางกระทรวงพาณิชย์ ได้ประสานกับทางธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย หรือ Exim Bank เพื่อให้รับชำระเงินจำนวนดังกล่าวแล้ว โดยทางรัสเซีย ได้โอนชำระหนี้ตั้งแต่วันที่ 15 มิ.ย.ที่ผ่านมา โดยภายในสัปดาห์หน้าทางกระทรวงพาณิชย์ จะสามารถโอนเงินจำนวนดังกล่าวให้กับกระทรวงการคลัง ได้แล้วเสร็จ อย่างไรก็ตามหนี้ข้าวจำนวนดังกล่าวเกิดขึ้นตั้งแต่ปี 2533 โดยรัสเซียซื้อข้าวจากประเทศไทย จำนวน 2 แสนตัน เป็นการให้สินเชื่อที่ต้องชำระภายใน 2 ปี แต่เกิดปัญหาไม่สามารถผ่อนชำระได้ จนต้องมีการดำเนินการปรับโครงสร้างหนี้จนได้รับการชำระดังกล่าว




</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว และรูปภาพ คุณภาพดี โดย: INN NEWS
</CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE>

Mthai News: สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานว่าจีนเปิดตัวสะพานอ่าวเจียวโจว ซึ่งกลายเป็นสะพานที่ยาวสุดในโลก ด้วยความยาว 42 กม.
โดยสะพานอ่าวเจียวโจวนี้ เป็นสะพานข้ามทะเล เชื่อมต่อเมืองท่าชิงเต่ากับเกาะหวงเต่า มีความกว้าง 35 ม. ที่มณฑลซานตง ทางตะวันออกของจีน ใช้เงินลงทุนกว่า 10,000 ล้านหยวน (ประมาณ 46,000 ล้านบาท) ใช้เวลาก่อสร้าง 4 ปี ใช้ตอม่อมากกว่า 5,000 ต้น
ทั้งนี้ สะพานแห่งนี้ได้ผ่านการประเมินผลการทำงานไปแล้วเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา และเปิดบริการประชาชนแล้วเมื่อวานนี้
อย่างไรก็ตาม สถิติสะพานที่ยาวที่สุดในโลกก่อนหน้านี้คือ สะพานข้ามทะเลสาบพอนท์ชาร์เทรน คอสเวย์ ในรัฐหลุยส์เซียนาของสหรัฐฯ มีความยาวประมาณ 38 กม.
Mthai news
เกาะติดทุกข่าวเด่น ประเด็นร้อน ในรอบวันกับ Mthainews บน facebook คลิ๊กเลย


<EMBED height=349 type=application/x-shockwave-flash width=560 src=http://www.youtube.com/v/iSJC1SkRS6k?version=3&hl=en_US allowscriptaccess="always" allowfullscreen="true"></EMBED>





Photo:: Getty Images, EPA, AP