ประเทศไทยจะเกิดอุบัติภัยอย่างที่ทำนายกันจริงๆหรือไม่

วันที่ 08 กรกฎาคม พ.ศ. 2554 ปีที่ 21 ฉบับที่ 7526 ข่าวสดรายวัน


นิ้ว'เปื่อย'กลไกหยิบจับในน้ำ




<TABLE cellSpacing=5 cellPadding=0 width=360 align=left border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle bgColor=#e0e0e0>

</TD></TR></TBODY></TABLE>
การอาบน้ำนานๆ โดยเฉพาะน้ำร้อนทำให้นิ้วเปื่อย คนส่วนใหญ่อาจเข้าใจว่า เกิดจากผิวหนังดูดซับน้ำเข้าไปมาก เนื่องจากร่าง กายคนไม่ได้ออกแบบมาให้อยู่ในน้ำ แท้จริงแล้วการที่ผิวหนังเปื่อย เป็นกระบวนการเอาตัวรอดตามธรรมชาติในสภาพแวดล้อมที่เป็นน้ำ เพื่อให้เราหยิบจับและเกาะกับพื้นผิวได้ดี

ทีมวิจัยจากรัฐไอดาโฮ สหรัฐ ค้นพบว่า มนุษย์วิวัฒนาการกลไกนี้ตั้งแต่เมื่อหลายพันปีก่อน รอยยับย่นที่ขยายตัวบนนิ้วทำหน้าที่เหมือนดอกยางล้อรถ ให้น้ำไหลผ่านสะดวกและช่วยให้หยิบจับได้ดีขึ้นเมื่ออยู่ในน้ำ

มาร์ก ชานกิซี ผู้นำการวิจัยกล่าวกับนิตยสารเนเจอร์นิวส์ว่า นิ้วที่เส้นประสาทเสียหายจะไม่เปื่อย ซึ่งแสดงให้เห็นว่าปรากฏการณ์นิ้วเปื่อยควบคุมด้วยระบบประสาทมากกว่าจากปัจจัยภายนอก

อย่างไรก็ตาม ซื่อ เฉิน มหาวิทยาลัยโคลัมเบีย อ้างว่า รอยยับย่นบนนิ้วเกิดจากเส้นเลือดบีบตัวเมื่อเจอน้ำร้อน ทำให้เนื้อเยื่อใต้ผิวหนังหดตัวด้วย แต่ทฤษฎีของเฉินไม่ได้อธิบายว่าทำไมนิ้วถึงเปื่อยแม้แต่ในน้ำเย็น

ญี่ปุ่นผุด'หม้อสนาม'ชาร์จไฟสมาร์ทโฟนยามฉุกเฉิน




<TABLE cellSpacing=5 cellPadding=0 width=360 align=left border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle bgColor=#e0e0e0>

</TD></TR></TBODY></TABLE>
คนญี่ปุ่นเป็นต้นตำรับของการพลิกวิกฤตเป็นโอกาส จากภัยแผ่นดินไหวและ สึนามิที่เกิดขึ้นเมื่อ วันที่ 11 มี.ค. ที่ผ่านมาเป็นแรงบันดาลใจ ในการประดิษฐ์ 'ฮัต ซูเดน นาเบะ' อุปกรณ์สำหรับใช้ในภาวะฉุก เฉิน นอกจากใช้เป็นภาชนะปรุงอาหารยังช่วยชาร์จไฟให้กับอุปกรณ์อิเล็ก ทรอนิกส์ทั้งหลายที่ใช้การไม่ได้เพราะไม่มีไฟฟ้าในช่วงเวลายากลำบากด้วย

นายคาสุฮิโร ฟูจิตะ ประธานบริษัททีอีเอส นิว เอเนอร์จี เมืองโอซาก้า กล่าวว่า มันคือหม้อสนามใช้ต้มน้ำร้อน หรือปรุงอาหารได้ด้วยเตาถ่าน ก้นหมอเป็นแผ่นเซรามิกเก็บความร้อนซึ่งจะแปลงเป็นพลังงานไฟฟ้าจากค่าความต่างอุณหภูมิระหว่าง 550 องศาเซลเซียส ส่วนน้ำในหม้อมีอุณหภูมิ 100 องศาเซลเซียส

เมื่อต้องการใช้งาน สามารถนำอุปกรณ์เสริมสายยูเอสบี ของอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์มาเชื่อมต่อได้เลย ไม่ว่าจะเป็นไอโฟนหรือสมาร์ทโฟนอื่นๆ หม้อจะชาร์จไฟฟ้าให้พร้อมไปกับที่ปรุงอาหารให้ด้วย

อียูแฉเมล็ดพืชอียิปต์ต้นตอ'อี.โคไล'ระบาด เตือนกินผักสุก-งดกินทั้งเปลือก




<TABLE cellSpacing=5 cellPadding=0 width=360 align=left border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle bgColor=#e0e0e0>

</TD></TR></TBODY></TABLE>
กระแสความตื่นกลัวเชื้ออี.โคไล แบคทีเรียร้ายสายพันธุ์ใหม่ ยังคงคุกคามพลเมืองโลกนับตั้งแต่เกิดการระบาดหนักที่เยอรมนีจนมีผู้เสียชีวิต 48 ราย และติดเชื้อกว่า 4,000 คน ล่าสุดมีผู้เสียชีวิตอีกในฝรั่งเศส

ประเทศในยุโรปโทษกันไปมาว่าชาติใดเป็นต้นตอแพร่เชื้อซึ่งทำให้เกิดอาการท้องเสีย เม็ดเลือดแดงแตก ถ่ายเป็นเลือดและไตวายกระทั่งเสียชีวิต ทีแรกเยอรมนีโทษว่าเชื้อมาจากแตงกวานำเข้าจากสเปน ทำให้สเปนโกรธเคืองเนื่องจากกระทบต่อตลาดค้าผัก จนภายหลังเยอรมนีตรวจพบเชื้อในฟาร์มผักของตัวเอง ต้นตอมาจากถั่วงอก แต่พยายามเสริมว่าเมล็ดผักเหล่านี้นำเข้ามาจากหลายประเทศ

ล่าสุดศูนย์ป้องกันควบคุมโรคแห่งสหภาพยุโรปออกราย งาน ชี้ว่า เชื้ออี.โคไล อาจมาจากเมล็ดผักของอียิปต์ แม้จะยังมีความไม่แน่ชัดอยู่มาก แต่เมล็ดเฟนยูกรีกจากอียิปต์ที่นำเข้าระหว่างปี 2552-2553 อาจอยู่เบื้องหลังการระบาดของโรคนี้

เฟนยูกรีกเป็นพืชสมุนไพรขนาดเล็ก ใช้ปรุงแต่งอาหาร โดยใช้ใส่ในแกงและใช้เป็นยา ยุโรปนำเข้าเมล็ดพืชนี้จากอียิปต์และนิยมกินในรูปเมล็ดพืชเพาะงอก คล้ายที่คนเอเชียกินถั่วงอก ในช่วงที่กระแสการกินอาหารอินทรีย์ ที่ปลูกโดยไม่ใช้ยาฆ่าแมลง กระทั่งไม่ใช้ปุ๋ยเคมีและกระแสการกินอาหารสดๆ โดยเฉพาะสลัดที่ใช้ถั่วงอกกำลังมาแรงในยุโรป

คนไข้เกือบทั้งหมดของเชื้ออี.โคไลอยู่ในเยอรมนีหรือเดินทางไปเที่ยวที่นั่น นอก จากนี้ ยังพบคนไข้ในแคว้นบอร์โดซ์ของฝรั่งเศส จึงสันนิษ ฐานได้ว่า เชื้อดังกล่าวมาจากอียิปต์น่าจะระบาดผ่านบริษัทส่งออกเมล็ดพืชของอังกฤษ

เชื้ออี.โคไล พันธุ์นี้ถูกเรียกขานว่า สายพันธุ์ 飀' มีความสามารถในการสร้างกาวเหนียว ทำให้เชื้อเกาะติดหนึบกับอุจจาระหรืออาหาร เช่น เมล็ดพืช เปลือกผัก เปลือกผลไม้ ใบไม้ได้ดี ซึ่งล้างออกยากมาก

รายงานดังกล่าวเตือนว่า มีความเป็นไปได้ที่จะเกิดการระบาดขึ้นอีกทั้งในยุโรปและทั่วโลก แนะวิธีป้องกันตัวให้ประ ชาชนเลือกกินอาหารสุก ผักสุก แทนอาหารสดในช่วงที่มีการระบาด ใช้ฟองน้ำล้างจาน ใช้น้ำยาล้างจานฟอกผิวไข่ เปลือกผลไม้ และปอกเปลือกผลไม้แทนการกินผลไม้ทั้งเปลือก

รีเทิร์น-รีไซเคิล

แยกประชาชื่น
ล็อกล้อ


หลังการเลือกตั้งระยะหลังนี้ เหมือนจะกลายเป็นธรรมเนียมปฏิบัติของพรรคประชาธิปัตย์

ถ้าหัวหน้าพรรคนำพรรคไปพ่ายแพ้การเลือกตั้งแบบยับเยิน ก็ต้องแสดงสปิริตทางการเมืองด้วยการลาออกจากตำแหน่ง

แม้จะไม่ใช่กฎกติกาที่กำหนดไว้ แต่ผลจากการเลือกตั้งครั้งนี้ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ก็ตัดสินใจประกาศลาออกจากหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ไปแล้ว

ขณะที่แวดวงการเมืองก็คาดกันว่า อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ จะรีเทิร์นกลับมาเป็นหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์อีกครั้ง

แต่ปรากฏการณ์อย่างหนึ่งที่เกิดขึ้นหลังการเลือกตั้งเป็นประจำทุกครั้ง

คือ การเก็บป้ายหาเสียงของบรรดาผู้สมัครออกจากข้างถนน และในพื้นที่สาธารณะทั้งหลาย แบบหายวับไปจากสายตาตั้งแต่ยังไม่ถึงช่วงเวลาปิดหีบบัตรนับคะแนนด้วยซ้ำ

อย่างที่เห็นกันอยู่คนล่าป้ายหาเสียงเกือบทั้งหมดจะเป็นบรรดาซาเล้ง หรือคนเก็บของเก่าไปขาย

ไม่ว่าป้ายหาเสียงจะเป็นพี.พี.บอร์ด ฟิวเจอร์บอร์ด หรือผ้าใบไวนิล ล้วนแต่ชั่งกิโลขายเป็นขยะรีไซเคิลทั้งนั้น

อย่างป้ายหาเสียงส่วนใหญ่ที่ใช้พี.พี.บอร์ด ในการเลือกตั้งครั้งที่แล้ว หรือปี 2550 ร้านรับซื้อของเก่าให้ราคาสูงถึงกิโลกรัมละ 10 บาท ก่อนจะขนไปส่งขายที่โรงงานรีไซเคิลได้ราคากิโลกรัมละ 14-15 บาท

มาถึงพ.ศ.นี้ผ่านมาร่วม 4 ปี ข้าวของขึ้นราคาจนชาวบ้านโอดครวญไม่มีปัญญาซื้อข้าวผัดกะเพรากิน

ไม่รู้ราคารับซื้อพี.พี.บอร์ด อยู่ที่กิโลกรัมละเท่าไหร่

โดยเฉพาะในยุคขยะรีไซเคิลขายได้ราคาอย่างปัจจุบันนี้

ก็ไม่น่าแปลกใจที่ป้ายหาเสียงที่มีรูปนักการเมืองยืนตระหง่านในป้ายจะหายไปในชั่วพริบตา

ก็เพราะขยะรีไซเคิลยังมีประโยชน์สามารถนำกลับมาทำเป็นผลิตภัณฑ์ชิ้นใหม่

เป็นการยืนยันทฤษฎีที่ว่า สสารไม่สูญหายไปจากโลก

เว้นแต่ขยะจะไร้ประโยชน์และเป็นอันตราย ถึงจะถูกทำลาย

เพื่อไม่ไปสร้างพิษภัยให้ใครอีก

ลุ้นระทึกก.ย.-ธ.ค.จ่อขึ้น เฮก.ค.ค่าไฟลด6ตังค์



นายดิเรก ลาวัณย์ศิริ ประธานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ. หรือเรกกูเลเตอร์) เปิดเผยว่า ขณะนี้ได้เปิดรับฟังความคิดเห็นการปรับโครงสร้างอัตราค่าไฟฟ้าของประเทศไทยที่จะใช้ระหว่างปี"54-58 ผ่าน www.erc.or.th หลังจากเปิดรับฟังความคิดเห็นประมาณ 1 สัปดาห์คาดว่าจะสรุปผลและนำเข้าสู่การพิจารณาของ กกพ.อีกครั้งในช่วงวันที่ 13 ก.ค. เพื่อสรุปตัวเลขให้ชัดเจน นำไปใช้ในบิลค่าไฟฟ้างวดสิ้นเดือนก.ค.นี้

สำหรับโครงสร้างใหม่นี้ได้รวมการรับภาระการอุดหนุนค่าไฟฟ้าให้กับผู้ใช้ไฟฟ้าประเภทบ้านอยู่อาศัย ประเภท 1.1 ซึ่งติดตั้งมิเตอร์ไฟฟ้าขนาด 5 (15) แอมแปร์ และใช้พลังงานไฟฟ้าไม่เกิน 90 หน่วย/เดือน คิดเป็นวงเงินประมาณ 12,000 ล้านบาท/ปี คิดเป็นเงิน 12 ส.ต./หน่วย โดยภาระดังกล่าวผู้ที่ต้องแบกภาระคือ กิจการขนาดกลาง ขนาดใหญ่ และกิจการเฉพาะ รวมถึงผู้ใช้ไฟฟ้าที่เป็นลูกค้าตรงของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) และผู้ผลิตไฟฟ้าเอกชน ส่วนผู้ที่ได้รับการยกเว้นไม่ต้องมารับภาระไฟฟรีคือ ผู้ใช้ไฟฟ้าประเภทบ้านอยู่อาศัย กิจการขนาดเล็ก และประเภทสูบน้ำเพื่อการเกษตร

อย่างไรก็ตาม กกพ.ได้คำนึงถึงภาระค่าใช้จ่ายของประชาชนผู้ใช้ไฟฟ้า จึงได้นำเงินที่เรียกคืนจากการลงทุนที่ต่ำกว่าแผนของการไฟฟ้าทั้งสามแห่ง (คลอว์แบ็ค) ในปี"51-53 มาลดค่าไฟฟ้าอัตโนมัติ (เอฟที) ให้กับผู้ใช้ไฟฟ้าทุกรายจำนวน 6 ส.ต./หน่วย คิดเป็นเงินประมาณ 1,500 ล้านบาท เริ่มในเดือนก.ค.-ส.ค. ซึ่งเดิมเงินดังกล่าวมีอยู่ประมาณ 9,500 ล้านบาท แต่ได้นำไปลดค่า เอฟทีให้ประชาชนเมื่อช่วงเดือนพ.ค.-มิ.ย.ไปแล้ว 2,600 ล้านบาท จึงเหลือเงินอีก 6,900 ล้านบาท เมื่อนำไปใช้ในเดือนก.ค.-ส.ค. 1,500 ล้านบาทแล้ว เงินที่ยังเหลืออยู่อีก 5,400 ล้านบาท จะนำไปเฉลี่ยลดค่าเอฟทีในงวดต่อๆ ไป

"ผู้ที่ต้องมาช่วยรับภาระไฟฟรีนั้นจะได้รับผลดีจากการนำเงินคลอว์แบ็คช่วยลดเอฟที 6 ส.ต. จากภาระที่ต้องรับไป 12 ส.ต. จะเหลือภาระที่ต้องแบกรับจริงๆ ประมาณ 6 ส.ต.เท่านั้น กกพ. มองว่าภาระตรงนี้ไม่มาก เชื่อว่าผู้ประกอบการและภาคอุตสาหกรรมจะสามารถแบกรับภาระตรงนี้ได้" นายดิเรกกล่าว

ทั้งนี้ หลังจากเดือนส.ค.เป็นต้นไป กกพ.จะพิจารณาต้นทุนเอฟทีทุก 4 เดือนตามปกติ โดยค่าเอฟทีที่จะเรียกเก็บงวดแรกในเดือนก.ค.นี้จะมีค่าเริ่มต้นเท่ากับศูนย์ (0) ส่วนค่าไฟฟ้าฐานจะพิจารณาทบทวนอัตราค่าบริการฐานภายในระยะเวลา 2 ปีหรือจะมีการทบทวนในปี"56 เพื่อการประกาศใช้ต่อไปอีก 3 ปี

รายงานข่าวแจ้งว่า ค่าเอฟทีรอบใหม่เดือนก.ย.-ธ.ค.54 มีแนวโน้มปรับขึ้นเนื่องจากราคาน้ำมันปรับขึ้น ส่งผลให้ราคาก๊าซธรรมชาติปรับขึ้นด้วย และยังมีปัญหาท่อก๊าซฯ ในอ่าวไทย ของบมจ.ปตท.ที่เกิดการรั่ว ดังนั้น คงจะต้องพิจารณาอีกครั้งว่าเงินคลอว์แบ็คที่เหลืออีก 5,400 ล้านบาทจะช่วยลดภาระเอฟทีได้แค่ไหน คงต้องรอตัวเลขต้นทุนจริงที่จะพิจารณาช่วงเดือนส.ค.-ก.ย.อีกครั้ง

ตรวจเข้ม - อัฌษไธค์ รัตนดิลก ณ ภูเก็ต รองอธิบดีกรมการขนส่งทางบก ตรวจความพร้อมและมอบนโยบายการตรวจเข้ม การฝ่าฝืนกฎหมายว่าด้วยการขนส่งทางบก แก่เจ้าหน้าที่กองตรวจการขนส่งทางบก ที่กรมการขนส่งทางบก


ขึ้นเงินป.ตรี 1.5หมื่นป่วน-ใช้งบอื้อซ่า เอสเอ็มอีกระอักค่าแรง300บ.แบกต้นทุน13%



รายงานข่าวจากกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า กรมบัญชีกลางได้ตรวจสอบเงินเดือนข้าราชการระดับปริญญาตรีในส่วนที่ได้รับเงินเดือนต่ำกว่า 1.5 หมื่นบาท พบว่าหากต้องขึ้นเงินเดือนเป็นเดือนละ 1.5 หมื่นบาท ตามนโยบายของพรรคเพื่อไทย (พท.) จะต้องใช้งบประมาณเพิ่มเดือนละ 1,000 ล้านบาท หรือทั้งปีต้องใช้เงิน 1.2 หมื่นล้านบาท และกรมบัญชีกลางได้ทำข้อสังเกตว่า การปรับขึ้นเงินเดือนของ พท.จะทำ ให้เกิดปัญหาโครงสร้างเงินเดือนในระบบราชการไม่เป็นธรรม และจะต้องมีการปรับขึ้นเงินเดือนทั้งโครงสร้าง ซึ่งจะส่งผลกับภาระงบประมาณที่สูงมาก

รายงานข่าวระบุว่า หากให้เงินเดือน 1.5 หมื่นบาท เฉพาะข้าราชการปริญญาตรีที่เข้าใหม่ ก็จะเกิดปัญหากับข้าราชการปริญญาตรีที่ทำงานอยู่ก่อนหน้าที่ได้เงินเริ่มต้นประมาณ 1 หมื่นบาท เพราะหากไม่ปรับให้ปริญญาตรีที่ทำงานอยู่ก่อน ข้าราชการดังกล่าวต้องทำงานอีกอย่างน้อย 6-8 ปี ถึงจะได้เงินเดือน 1.5 หมื่นบาท นอกจากนี้ ในส่วนของข้าราชการปริญญาโท ที่ปัจจุบันเงินเดือนเริ่มต้นประมาณ 1.3 หมื่นบาท ก็จะได้รับต่ำกว่าเงินเดือนของปริญญาตรีเข้าใหม่ ดังนั้น หากจะปรับขึ้นเงินเดือนก็ต้องปรับขึ้นทั้งหมด ขณะที่ในส่วนของรัฐวิสาหกิจจะมีปัญหาเช่นเดียวกัน

รายงานข่าวระบุว่า สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ได้ศึกษาผลกระทบนโยบายของพรรคพท. โดยเฉพาะการปรับขึ้นเงินเดือน 1.5 หมื่นบาท และการขึ้นค่าแรงเป็นวันละ 300 บาท จะส่งผลกระทบกับอัตราเงินเฟ้อให้สูงขึ้น จนกระทบกับเสถียรภาพของเศรษฐกิจมากน้อยขนาดไหน อย่างไรก็ตาม นายอารีพงศ์ ภู่ชอุ่ม ปลัดกระทรวงการคลัง จะเรียกประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อหารือการดำเนินการตามนโยบายของรัฐบาลชุดใหม่ โดยเฉพาะเรื่องเงินเดือนและค่าจ้าง รวมถึงนโยบายเกี่ยวกับเกษตรกร ในวันที่ 8 ก.ค.นี้

รายงานข่าวจากสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) เปิดเผยว่า สสว.ได้ศึกษาผลกระทบต่อการปรับเพิ่มค่าจ้างแรงงานขั้นต่ำเป็นวันละ 300 บาท พบว่าโครงสร้างต้นทุนค่าใช้จ่ายด้านแรงงานและเงินเดือนของเอสเอ็มอีคิดเป็น 16.2% ของต้นทุนปัจจัยการผลิตทั้งหมด ดังนั้น หากค่าจ้างแรงงานขั้นต่ำเพิ่มขึ้น 1% จะส่งผลให้ต้นทุนค่าใช้จ่ายด้านแรงงานเพิ่มขึ้น 0.16% ซึ่งค่าจ้างแรงงานขั้นต่ำเฉลี่ยขณะนี้วันละ 175.8 บาท ดังนั้น นโยบายการขึ้นค่าแรงงานขั้นต่ำเป็นวันละ 300 บาท เท่ากันทั่วประเทศ จะส่งผลกระทบ ต่อภาคธุรกิจเอสเอ็มอีอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ทั้งนี้ เมื่อดูการจ้างงานเอสเอ็มอีพบว่ามีการจ้างงาน 10.5 ล้านคน จากจำนวน เอสเอ็มอี 2.9 ล้านรายการ ปรับขึ้นค่าจ้างเป็นวันละ 300 บาท จะต้องจ่ายค่าแรงเพิ่มขึ้นเฉลี่ย 35.7-75.4% หรือต้องแบกรับต้นทุนค่าใช้จ่ายด้านแรงงานเพิ่มขึ้น 6.4-13%

นายสมเกียรติ ฉายะศรีวงศ์ ปลัดกระทรวงแรงงาน ในฐานะประธานคณะกรรมการค่าจ้างกลาง (บอร์ดค่าจ้าง) กล่าวว่า คณะกรรมการจะประชุมในวันที่ 11 ก.ค.นี้ แต่ยังไม่รู้ว่าจะมีวาระพิจารณาเรื่องการปรับค่าจ้างขั้นต่ำหรือไม่ หากมีวาระคงต้องให้ที่ประชุมพิจารณาว่าควรจะรอฟังนโยบายค่าจ้างขั้นต่ำ 300 บาททั่วประเทศของ รมว.แรงงานคนใหม่หรือไม่ ก่อนที่จะพิจารณาปรับค่าจ้างขั้นต่ำ

จี้รัฐปรับนโยบายเรียนฟรี



ศ.ศรีราชา เจริญพานิช ผู้ตรวจการแผ่นดิน กล่าวในการระดมสมองนโยบายเรียนดีเรียนฟรี 15 ปี ว่า พบปัญหาตั้งแต่ระดับนโยบาย ภาคปฏิบัติ และคุณภาพผู้เรียนที่ไม่กระเตื้องขึ้นเลย กลับมีแนวโน้มจมดิ่ง จากการวิจัยด้วยการสังเคราะห์เอกสารและสัมภาษณ์ผู้บริหารด้านการศึกษา คณะครู 68 คนจาก 33 โรงเรียน มีการแยกกลุ่มอภิปรายเพื่อหาทางแก้ปัญหานโยบายดังกล่าว ผู้เข้าร่วมประชุมและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการวัดและประเมินคุณภาพผู้เรียน เช่น สมศ. สสวท. นักการศึกษา ผู้ปกครอง และเด็กนักเรียน ซึ่งผลการวิจัยเบื้องต้นที่ประชุมได้เสนอแนวทางแก้ปัญหาที่สำคัญไว้หลายประเด็น เช่น ควรคงนโยบายนี้ไว้ แต่ควรเปลี่ยนชื่อนโยบายเพื่อไม่ให้เกิดความเข้าใจผิด ควรจัดสรรงบประมาณบนฐานความแตกต่างของเศรษฐกิจ สังคม พื้นที่ กลุ่มคน และขนาดโรงเรียน โดยให้ความสำคัญกับการพัฒนาครูและคุณภาพกระบวนการเรียนการสอน ที่ประชุมยังได้เสนอแนะวิธีการในการเพิ่มคุณภาพผู้เรียนโดยการแก้ปัญหาคุณภาพครูอย่างเป็นระบบ ด้วยการผลิตพัฒนาครูด้านครุศาสตร์ เช่น พัฒนาหลักสูตร การสอน สื่อ การวัดประเมินผลจิตวิทยา รวมถึงการสร้างจิตวิญญาณความเป็นครู

แพลงกิ้ง

เอิ๊กอ๊ากอินเตอร์



<TABLE cellSpacing=5 cellPadding=0 width=360 align=left border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle bgColor=#e0e0e0>

</TD></TR></TBODY></TABLE>
เจ้ากระรอกตัวนี้อยากเลียนแบบมนุษย์ที่ชอบทำ 'แพลงกิ้ง' กันจัง

มันคงคิด "ง่ายนิดเดียว แค่นอนเฉยๆ เอง"

โจแอน วิลเลียม ผู้บันทึกภาพน่ารักนี้ได้ กล่าวว่า ภาพสัตว์ส่วนใหญ่ก็ไม่ต่างจากคน มีทุกอิริยาบถ

สุดท้ายเจ้ากระรอกน้อยแอ๊กท่าจนเมื่อย เลยนอนหลับไปเลยดีกว่า... คร่อกฟี้ !?!



บันไดเลื่อนผิดทิศ-ด.ช.ปักกิ่งดับ!




<TABLE cellSpacing=5 cellPadding=0 width=360 align=left border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle bgColor=#e0e0e0>

</TD></TR></TBODY></TABLE>
เดลี่เมล์รายงานว่า วันที่ 7 ก.ค. จากเหตุสยองขวัญบันไดเลื่อนในสถานีรถไฟใต้ดินของสถานีสวนสัตว์กลางกรุงปักกิ่ง ทำงานผิดพลาด กระตุกอย่างแรงและเลื่อนกลับในทิศทางตรงกันข้าม ส่งผลให้คนที่อยู่บนบันไดเลื่อนกระแทกและล้มทับใส่ฝูงชนที่ต่อคิวขึ้นบันไดเลื่อนล้มระเนนระนาดนั้น ล่าสุดเด็กชายวัย 7 ขวบเสียชีวิตแล้ว ส่วนยอดผู้บาดเจ็บมี 28 คน

ผู้เห็นเหตุการณ์เล่าว่า เด็กชายเคราะห์ร้ายซึ่งมาเที่ยวสวนสัตว์กับพ่อและน้องสาวถูกแถวของคนที่ยืนเบียดอยู่บนบันไดล้มใส่ทำให้สามคนพ่อลูกถูกทับอยู่ด้านล่าง โดยผู้เป็นพ่ออาการหนักและอยู่ในห้องไอซียู ส่วนลูกสาวได้รับบาดเจ็บที่ศีรษะ เหตุการณ์ชุลมุนวุ่นวายเนื่องจากช่องทางขึ้นลงสถานีรถไฟใต้ดินคับแคบ

ด้านเจ้าหน้าที่ระบบขนส่งสาธารณะกรุงปักกิ่งเผยว่า ยังไม่ทราบสาเหตุที่บันไดเลื่อนทำงานผิดพลาด แต่กำลังตรวจสอบ รวมถึงหาคำตอบว่าเหตุใดระบบฉุกเฉินที่ติดตั้งอยู่เพื่อป้องกันอุบัติเหตุเช่นนี้จึงไม่ทำงาน โศกนาฏกรรมดังกล่าวทำให้ต้องปิดสถานีรถไฟใต้ดินดังกล่าวนานหลายชั่วโมง เพื่อขนย้ายผู้บาดเจ็บ ในจำนวนนี้มี 2 คนที่เสื้อถูกดึงเข้าไปติดในบันไดเลื่อน

http://www.siamrath.co.th/web/?q=node/42726

เชียงใหม่รับอานิสงค์สึนามิญี่ปุ่น/คาดกลุ่มลองสเตย์โตเพิ่ม 20 %

ชาวญี่ปุ่นมีความต้องการที่พำนักใหม่ ที่มีปลอดภัยและมีค่าใช้จ่ายที่ไม่สูง ซึ่งจังหวัดเชียงใหม่ถือเป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่อยู่ในความสนใจ
นายณรงค์ คองประเสริฐ ประธานหอการค้าจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า จากเหตุการณ์แผ่นดินไหว สึนามิ และการรั่วไหลของกัมมันตภาพรังสีที่เกิดขึ้นในประเทศญี่ปุ่น จะทำให้อัตราการเติบโตของกลุ่มลองสเตย์หรือกลุ่มพำนักระยะยาวชาวญี่ปุ่นเพิ่มขึ้นอีก 20% จากเดิมที่ตั้งเป้าอัตราการเติบโตไว้เพียง 10%
“เวลานี้ญี่ปุ่นถือว่าเป็นประเทศที่มีความเสี่ยงภัยสูงในการเกิดภัยพิบัติ อีกทั้งชาวญี่ปุ่นยังมีความวิตกกังวล และหวาดกลัวกับกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งจากเหตุการณ์ดังกล่าวน่าจะส่งผลให้ชาวญี่ปุ่นมีความต้องการที่พำนักใหม่ ที่มีปลอดภัยและมีค่าใช้จ่ายที่ไม่สูง สำหรับจังหวัดเชียงใหม่ถือเป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่อยู่ในความสนใจของชาวญี่ปุ่น และเชื่อว่าน่าจะมีชาวญี่ปุ่นจำนวนมากหลั่งไหลเข้ามาพำนักในจังหวีดเชียงใหม่เพิ่มมากขึ้นอย่างแน่นอน” นายณรงค์ กล่าว
ทั้งนี้ นายณรงค์ ยังกล่าวต่อว่า แต่ละปีกลุ่มผู้สูงอายุหรือวัยปลดเกษียณชาวญี่ปุ่นมีจำนวนประมาณ 8 แสน - 1 ล้านคน และมีผู้ที่อายุเกิน 60 ปีในประเทศญี่ปุ่นประมาณ 7 – 8 ล้านคน โดย 18% ของจำนวนคนวัยดังกล่าวจะชอบเดินทางไปพำนักในประเทศอื่นๆ และประเทศที่ได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่อง คือ ประเทศไทย โดยเฉพาะจังหวัดเชียงใหม่
ด้วยจุดเด่นของจังหวัดเชียงใหม่ที่เป็นความชื่นชอบของกลุ่มผู้สูงอายุชาวญี่ปุ่น เพราะมีสภาพแวดล้อมที่เงียบสงบล้อมรอบด้วยภูเขา มีอากาศที่ไม่หนาวเย็นจนเกินไป มีสถานที่พักและสาธารณูปโภคพื้นฐานในราคาที่ไม่สูง ประกอบกับเชียงใหม่เป็นเมืองที่มีศิลปวัฒนธรรม ประเพณีล้านนาที่งดงาม รวมทั้งความเป็นมิตรของคนเชียงใหม่ จึงทำให้ชาวญี่ปุ่นรู้สึกปลอดภัย และที่สำคัญยังเป็นศูนย์กลางทางด้านการแพทย์อีกด้วย
อย่างไรก็ตาม นายณรงค์ กล่าวว่า เวลานี้กลุ่มลองสเตย์ชาวญี่ปุ่นได้รวมตัวกันเป็นชมรมผู้พำนักระยะยาวญี่ปุ่น ชื่อว่า เชียงใหม่ ลองสเตย์ ไลฟ์ คลับ หรือ ซีแอลแอล คลับ โดยมีจำนวนผู้พำนักระยะยาวชาวญี่ปุ่นกว่า 3,000 คน โดยแต่ละคนมีการใช้จ่าย 400,000 บาท ต่อปี สร้างรายได้ให้กับจังหวัดเชียงใหม่ต่อปีไม่ต่ำว่า 1,200 ล้านบาท ซึ่งถือว่าเป็นส่วนสำคัญในการช่วยเพิ่มสัดส่วนโครงสร้างด้านการท่องเที่ยวในกับจังหวัดเชียงใหม่ แทนที่จะมีการส่งเสริมให้มีการท่องเที่ยวในเชิงวัฒนธรรมเพียงอย่างเดียว
สำหรับแผนการตลาดในปีนี้ นายณรงค์ กล่าวว่า ทางหอการค้าจังหวัดเชียงใหม่ และสำนักงานการท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดเชียงใหม่ จะเดินหน้าทำกิจกรรม ลองสเตย์ ซิตี้ เพื่อกระตุ้นกลุ่มลองสเตย์ชาวญี่ปุ่นให้เดินทางเข้ามาพำนักในจังหวัดเชียงใหม่ โดยจะเดินทางไปประชาสัมพันธ์ในประเทศญี่ปุ่น และการจัดแฟรมทริป เชิญสื่อมวลชนและกลุ่มคนที่พักอาศัยในประเทศญี่ปุ่นได้เข้ามาสำรวจศักยภาพของจังหวัดเชียงใหม่ ประกอบกับการจัดทำหนังสือ และเว็บไซต์ภาษาญี่ปุ่น
นอกจากนี้ยังได้ร่วมกับหน่วยงานภาครัฐ และเอกชนต่างๆในจังหวัดเชียงใหม่ จัดโครงการ “ช่วยเหลือผู้ประสบภัยที่ประเทศญี่ปุ่นจากใจชาวเชียงใหม่” ระหว่างวันที่ 19-27 มีนาคม 2554 ณ บริเวณลานอนุสาวรีย์สามกษัตริย์ โดยภายในงานจะมีการแสดงและการจัดจำหน่ายสินค้าจากสมาชิกของหอการค้าจังหวัดเชียงใหม่ สภาอุตสาหกรรมจังหวัดเชียงใหม่ และกลุ่มผู้ประกอบการด้านสินค้าหัตถกรรมต่างๆ ซึ่งจะบริจาคเงินรายได้จากการจำหน่ายสินค้าทั้งหมด ไม่หักค่าใช้จ่ายให้กับผู้ประสบภัยชาวญี่ปุ่น และจะมีการตั้งกล่องรับบริจาคตามหน่วยงานต่างๆทั่วทุกอำเภอในจังหวัดเชียงใหม่ด้วย

 

​

อุตุฯรายงานภาคเหนือ-ตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน มีฝนฟ้าคะนองเพิ่มมากขึ้น
วันนี้ (9ก.ค.) กรมอุนิยมวิทยารายงานว่า หย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมอ่าวตังเกี๋ย ส่งผลให้ภาคเหนือด้านตะวันออก
และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน จะมีฝนฟ้าคะนองเพิ่มมากขึ้น และมีลมกระโชกแรงบางแห่ง ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรงที่เกิดขึ้นในระยะ1-2 วันนี้

อนึ่งในช่วงวันที่ 10-13 ก.ค. 2554 มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุม ทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยจะมีกำลังแรงขึ้น ทำให้ประเทศไทยมีฝนเพิ่มขึ้น ส่วนคลื่นลมในทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบนจะมีกำลังแรงขึ้น

​

หนุ่มรับจ้างขับรถบรรทุก ก่อเหตุทุบหัวเมียรักที่กำลังตั้งครรภ์ก่อนตัดสินใจผูกคอตายตาม หนีปัญหาชีวิต

วันนี้ (8 ก.ค.) เมื่อเวลา 10.30 น. ร.ต.อ.พรนรินทร์ เปรื่องกระโทก พนักงานสอบสวน สภ.พระอินทร์ราชา อ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา รับแจ้งเหตุมีผู้เสียชีวิต 2 ราย ภายในห้องเช่า บ้านเลขที่ 24 ม.9 ต.เชียงรากน้อย จึงไปตรวจสอบพร้อมด้วย พ.ต.อ.อดุลย์ เม่นบางผึ้ง ผกก. แพทย์เวร รพ.บางปะอิน และมูลนิธิร่วมกตัญญู

ที่เกิดเหตุบนที่นอนพบศพ น.ส.ปิยฉัตร กิจเกษม อายุ 23 ปี สภาพสวมชุดนอนสีเทายาว มีบาดแผลถูกทุบด้วยของแข็งที่ศีรษะและใบหน้าเป็นแผลฉกรรจ์ ใกล้กันพบศพนายศราวุธ ไทยอุสาห์ อายุ29 ปี สภาพสวมเสื้อโปโลสีขาว กางเกงขาสั้นสีขาวดำ ใช้สายไฟผูกคอกับช่องระบายอากาศเสียชีวิต แพทย์ระบุทั้งคู่เสียชีวิตมาแล้วประมาณ 1-2 วัน นอกจากนี้ที่ฝาผนังห้องมีข้อความเขียนด้วยปากกาเมจิก ว่า “ขอโทษพี่ถามเราแล้ว แต่เราก็ไม่ว่าอะไร นี่แหละที่บอกว่าถ้าพี่ตายจะเอาเราไปอยู่ด้วย ขอโทษทุกคนเราเลือกทางออกไม่ได้”

ต่อมาแพทย์ได้ทำการชันสูตรศพ น.ส.ปิยฉัตร ถึงกับต้องผงะเมื่อพบว่าที่บริเวณช่องคลอดพบถุงน้ำคล่ำไหลออกมาและมีก้อน เนื้อคล้ายทารกคาอยู่ โดยนายชัยพันธุ์ ฉายศรีรุ่งศิริ อายุ 48 ปี เจ้าของห้องเช่าเปิดเผยว่า ผู้เสียชีวิตทั้ง 2 คน เป็นสามีภรรยากันมาเช่าห้องอยู่ได้ประมาณ 1 เดือนครึ่ง โดยนายศราวุธ มีอาชีพขับรถบรรทุก ส่วนภรรยาไม่ได้ทำงานอะไรแต่จะออกติดตามสามีไปด้วยทุกครั้ง และไม่เคยได้ยินเสียงหรือเห็นว่าทั้ง 2 คนมีปากเสียงกัน เมื่อช่วงเช้ามีลูกน้องมาบอกว่าได้กลิ่นเหม็นโชยออกมาจากห้องจึงสั่งให้เปิด ประตู จึงพบว่าทั้งคู่เสียชีวิตแล้ว

พ.ต.อ.อดุลย์ เปิดเผยว่า เบื้องต้นสันนิษฐานว่า นายศราวุธก่อเหตุทำร้ายร่างกายภรรยาตนเองจนเสียชีวิต จากนั้นได้ผูกคอฆ่าตัวตายตาม ส่วนสาเหตุคาดว่าคงมีปัญหาเรื่องชีวิตคู่ หรือปัญหาเรื่องของลูกที่อยู่ในท้อง และหาทางออกไม่ได้ โดยเขียนข้อความระบายออกมาไว้ที่ฝาผนังก่อนที่จะจบชีวิต อย่างไรก็ตามมอบศพให้เจ้าหน้าที่นำไปชันสูตร ที่สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ รพ.ธรรมศาสตร์ รังสิต เพื่อหาสาเหตุการเสียชีวิตอีกครั้ง.

 

เรื่องน่าคิดจากคัมภีร์ไบเบิ้ล...​

​

<!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->april_28<!-- google_ad_section_end --><SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_146548", true); </SCRIPT> สมาชิก

ผมเคยอ่านไบเบิ้ลมา เลยมีเรื่องน่าคิดเล่นๆครับ ว่าจริงๆแล้วพระเจ้าน่าจะเป็นมนุษย์ต่างดาว ไม่ทราบว่ามีใครคิดเหมือนผมไหม ผมไม่ได้บ้าลัทธิราเอเลี่ยนนะครับ ในไบเบิ้ลอ่านแล้วมันมีจุดที่ทำให้น่าคิดว่าพระเจ้าของศาสนาคริสต์เป็นมนุษย์ต่างดาว

1. ในไบเบิ้ล นักบุญมัธธิว บันทึกไว้ว่า ในวันที่พระเยซูประสุติ ได้มีดวงดาวสุกใสดวงหนึ่งปรากฎเหนือหมู่บ้านเบทเลแฮม แต่ในปัจจุบันยังไม่มีนักดาราศาสตร์คนใดยืนยันได้ว่าดาวดวงนั้นคือดาวอะไร เป็นไปได้ไหมในวันที่พระเยซูประสูติ ดาวดวงนั้นแท้จริงคือ ยาน UFO ที่กำลังเฝ้าดูผลงานการส่งพระเยซูประสูติ

2. พระนางมารีย์ผู้เป็นมารดาของพระเยซูเป็นหญิงสาวบริสุทธิ์ ที่ตั้งครรภ์ได้เอง มีความเป็นไปได้ไหมทางวิทยาศาสตร์ แท้จริงแล้วพระนางมารีย์อาจถูกมนุษย์ต่างดาวจับตัวไปและทำการทดลอง เหมือนในวิทยาการสมัยปัจุบันในการฝากครรภ์ผสมเทียม ฯลฯ แล้วจึงถูกลบความจำส่งตัวลงมาเพื่อให้กำเนิด พระเยซู

3. พระเยซูเป็นบุตรเพียงพระองค์เดียวของพระเจ้า ที่ถูกส่งมาเพื่อไถ่ปาปแก่มนุษย์ พระเยซูอาจเกิดจาก การโคลนนิ่งจาก DNA ของมนุษย์ต่างดาว(พระเจ้า) แล้วจึงนำมาฝากไว้ไนครรภ์ของพระนางมารีย์ก่อนที่จะลบความทรงจำและส่งพระนางมารีย์ลงมา

4. ในวันที่พระเจ้าสร้างโลกตามพระคำภีร์ไบเบิ้ลกล่าวว่า พระเจ้าสร้างโลกขึ้นใน 7 วัน หลังจากนั้นจึงสร้างอดัมขึ้นมาก่อน และจึงสร้างอีฟขึ้นมา พระเจ้าอาจเป็นมนุษย์ต่างดาวดวงใดดวงหนึ่งซึ่งมีวิทยาการที่ก้าวไกลและล้ำหน้ากว่ามนุษย์ในปัจจุปัน ได้ขนตัวอย่างพืชและสัตว์ มาทดลองสร้างสิ่งมีชีวิตไว้บนโลก และตรงที่พระเจ้าได้สร้างต้นไม้และสัตว์ต่างๆไว้บนโลกที่แรกก็คือสวนอีเดน ตามที่ในคำภีร์ไบเบิ้ลกล่าวไว้ ในวิทยาการของมนุษย์ปัจจุบันก็มีการทดลองนำสิ่งมีชีวิตอย่าง ลิง สุนัข และพืชต่างๆ ส่งขึ้นยานอาวกาศ ไปทดลองในดวงดาวต่างๆ เช่นดวงจันทร์ ดาวอังคาร มนุษย์เราอาจจะเป็นสิ่งที่มนุษย์ต่างดาวที่เราเรียกว่าพระเจ้าสร้างขึ้น ก่อนที่จะสร้างมนุษย์พืชและสัตว์ขึ้นมา ดาวโลกของเรามีสิ่งมีชีวิตอยู่ก่อนแล้วคือไดโนเสาร์ พระเจ้าหรือมนุษย์ต่างดาวกลัวว่าจะเป็นภัยต่อสิ่งที่จะทดลองเลยทำการล้างเผ่าพันธุ์ไดโนเสาร์ก่อน

5. ในวันสุดท้ายที่พระเจ้าได้สร้างโลก พระเจ้าได้สร้างอดัม มนุษย์คนแรกขึ้นมาตามในคำภีร์ไบเบิ้ลกล่าวว่า อดัมถูกสร้างมาให้คล้ายกับพระเจ้า คิดว่ามนุษย์ต่างดางมีหน้าตาคล้ายๆกับมนุษย์เรา

6.หลังจากสร้างอดัม มนุษย์ผู้ชายคนแรกขึ้นมา พระเจ้าได้สร้างอีพขึ้นมาจากกระดูกซี่โครงด้านซ้ายของอดัม ในวิทยาการปัจจุบันมีความสามารถใกล้เคียง คือ การโคลนนิ่ง

7. พระเจ้าได้ให้อดัมและอีฟเฝ้าสวนอีเดน และสั่งห้ามไม่ให้กินแอปเปิ้ล แต่อดัมและอีฟถูกซาตานล่อลวง จึงกินแอปเปิ้ล ทำให้พระเจ้าโกรธและขับไล่อดัมและอีฟออกจากสวนอีเดน สวนอีเดนคือสวนทดลองที่มนุษย์ต่างดาวสร้างขึ้นมา และสร้างอดัมและอีฟขึ้นมาเพื่อจะศึกษาว่ามนุษย์ต่างดาวนั้นสามารถมีชีวิตอยู่ในบรรยากาศโลกนี้ได้หรือไม่ แต่เกิดเหตุผิดพลาดเพราะบรรยากาศของโลกมนุษย์ไม่สามารถมีอายุยืนยาวได้เหมือนร่างแม่ คือมนุษย์ต่างดาวพระเจ้า มีอายุเพียงไม่เกิน 100 ปี และซาตาน พระเจ้าบอกว่าคือปีศาจร้าย ซาตานอาจเป็นมนุษย์ต่างดาวหรือสัตว์ทดลองที่ผิดพลาด มีนิสัยชั่วร้าย หรือมนุษย์ต่างดาวที่มาด้วยกัน (มนุษย์เรายังมีทั้งคนดีและไม่ดี) ไม่ถูกกัน เพราะในไบเบิ้ลซาตานคือคู่ปรับของพระเจ้า

8. พระเจ้าหรือมนุษย์ต่างดาวยังมีความห่วงและสนใจต่อมนุษย์ทดลองหรือมนุษย์เรา จึงได้ส่งศาสดาต่างๆลงมาเพื่อสั่งสอนธรรมให้คนเป็นคนดี ในคำภีร์กล่าวว่าพระเจ้าอยู่ทุกหนทุกแห่ง ไม่มีใครมองเห็นพระเจ้าได้ แสดงว่ามนุษย์ต่างดาวจับตามองดูเราอยู่

9. ในไบเบิ้ลตอนที่ศาสดาโมเสส เดินข้ามทะเลได้ร้องขอพระเจ้า (ในเวลาเดินทางตามคำภีร์กล่าวว่ามีไฟส่องสว่างจากบนฟ้านำทางให้โมเสสเดินทาง) และพระเจ้าได้แหวกทะเลเพื่อให้โมเสสได้เดินข้าม ลูกไฟที่คอยนำทางให้โมเสสคือยาน UFO ในตอนที่แหวกทะเลยาน UFO น่าจะยิงอาวุธอะไรลงมา

10.ในไบเบิ้ลตอนศาสดาโมเสสแม้แต่พระเยซูเองเวลาพบพระเจ้า ต้องขึ้นไปที่ภูเขาโดยคนอื่นไม่สามารถขึ้นไปได้ (จำชื่อภูเขาไม่ได้ ) แสดงว่ายาน UFO ของมนุษย์ต่างดาวหรือพระเจ้านั้นจะลงจอดอยู่ในที่สูงและจะปล่อยรังสีอะไรสักอย่างออกมา เพื่อไม่ไห้มนุษย์ขึ้นไปและหากใครถูกรังสีนั้นจะต้องตาย พระเยซูและโมเสสขึ้นไปได้เพราะได้รับอนุญาต

11. ในคำภีร์ไบเบิ้ลเวลาที่พระเจ้าปรากฏตัว อย่างในตอนที่ปรากฏแก่ เปาโล กล่าวว่ามีแสงสว่างล้อมรอบตัวเปาโล ลงมาจากฟากฟ้าเป็นแสงสว่างมากพร้อมด้วยเสียงของพระเจ้า แสงที่ส่องส่งมานั้นมาจากยาน UFO เพื่อใม่ให้เปาโลได้เห็นตัวยานและเสียงที่ถ่ายทอดลงมาจากฟ้า ก็คือเสียงที่มนุษย์ต่างดาวส่งโทรจิตลงมาคุย

12. ในไบเบิ้ลพระวิญญาญบริสุทธิ์หรือทุตสวรรค์ ที่ปรากฏตัวต่อสาวกหรือแม้แต่พระเยซู มีร่างโปรงใสมีแสงสว่าง หน้าตาเหมือนมนุษย์ คิดว่านั่นคือมนุษย์ต่างดาว และตัวมนุษย์ต่างดาวเองมีรูปร่างเช่นนี้

13. ในตอนที่พระเยซูถูกตรึงบนไม้กางเขนก่อนที่จะสิ้นพระชนม์ ได้แหงนหน้าขึ้นไปบนฟ้าและร้องว่า "พระเจ้าของข้าพระองค์ ไฉนทรงทอดทิ้งข้าพระองค์เสีย" และกล่าวคำว่า "สำเร็จแล้ว" หลังจากนั้นจึงสิ้นพระชนม์ วันที่พระองค์สิ้นพระชนม์ท้องฟ้ามืดเหมือนกลางคืนทั้งที่ไม่มีเมฆ เพราะนั้นเป็นเงาของยาน UFO ของพระเจ้าบังแสงของพระอาทิตยไว้อยู่และพรางตัวไว้เพื่อไม่ให้ใครเห็น พระเจ้าหรือมนุษย์ต่างดาวได้มองดูจากบนยานอวกาศอยู่ ดังนั้นพระเยซูจึงร้องเรียก เมื่อพระเยซูสิ้นลมหายใจพระเจ้าหรือมนุษย์ต่างดาวจึงโกรธ ยิงอาวุธใส่วิหารแต่ระงับความโกรธเอาไว้ทันจึงเพียงทำให้ผ้าม่านในวิหารขาด

14. พระเยซูพื้นจากความตาย ศพของพระเยซูถูกเก็บไว้ในอุโมงค์โดยมีก้อนหินขนาดใหญ่ปิดไว้ ในวันที่พระองค์ฟื้น ก้อนหินถูกกลิ้งออกจากอุโมงค์ ยาน UFO ได้นำร่างของพระเยซูขึ้นไปทำการรักษาและชุบชีวิตด้วยวิทยาการทางการแพทย์ที่ก้าวหน้า

15. ในวันที่พระเยซูเสด็จสู่สวรรค์ได้กล่าวสัญญาว่าเราจะกลับมา สาวกทั้งหลายเห็นพระเยซูลอยขึ้นไปบนทองฟ้า ก็คือ UFO ได้ดูดพระเยซูขึ้นไปในยานอวกาศ

12-11-2005, 02:53 PM

เกษม สมาชิก

ข้อคิดของคุณ april 28 นับว่าน่าสนใจและมีเหตุผลอยู่ไม่น้อย ผมเองก็คิดอยู่เหมือนกันว่าคัมภีร์ไบเบิ้ลอาจจะเขียนขึ้นโดยมนุษย์ต่างดาว โดยใช้เครื่องคอมพิวเตอร์เขียนขึ้นมา จึงสามารถซ่อนคำทำนายเหตุการณ์ต่างๆ ในโลกนี้ได้อย่างน่ามหัศจรรย์ จนมนุษย์ในยุคปัจจุบันสามารถสร้างเครื่องคอมพิวเตอร์ขึ้นมา จึงสามารถถอดรหัสลับในคัมภีร์ไบเบิ้ลออกมาได้

ใครที่นับถือศาสนาคริสต์ก็อย่าเพิ่งโกรธกันนะครับ เหตุการณ์มันชวนให้คิดไปแบบนั้นจริงๆ ซึ่งอาจจะไม่ใช่อย่างนั้นก็ได้ เป็นการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันเท่านั้นอย่าคิดมากครับ อย่าคิดมาก.....

12-11-2005, 04:35 PM

๙๙๙๙๙๙๙๙๙ สมาชิก

ถ้าผมจำไม่ผิด ผมเคยเห็นเค้าเอาภาพวาดสมัยโบราณมาให้ดู ตอนที่พระเยซูท่านสิ้นใจ ในภาพนั้นบอกว่ามีรูปดาวดวงหนึ่งบินขึ้นฟ้าไป นั้นคือความคิดของคนโบราณแน่ รูปดาวนั้นมันเป็นรูป UFO ชัดๆ อย่าถือสากันนะแค่เคยเห็นเค้าเอาออก tv ให้ดู ก็เห็นมาแบบนั้นก็ว่าไปตามนั้น<!-- google_ad_section_end -->

13-11-2005, 12:27 AM
<!-- google_ad_section_end -->
<!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->ตุ๊กเข้แมน<!-- google_ad_section_end --><SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_147061", true); </SCRIPT> สมาชิก

พวกชาวอียิปต์หรือพวกเผ่ามายันต์ ก็มีรูปพระเจ้าของเขา ซึ่งแต่งตัวเหมือนกับมนุษย์อวกาศมากๆ<!-- google_ad_section_end -->

13-11-2005, 04:29 PM

เรื่องน่าคิดจากไบเบิ้ล พระเจ้าคือมนุษย์ต่างดาว - PaLungJit.com<!-- google_ad_section_end -->

<HR style="BACKGROUND-COLOR: #ffffff; COLOR: #ffffff" SIZE=1>

 

แย่งซื้อข้าวเปลือกหวังผลเก็งกำไร

วันเสาร์ ที่ 09 กรกฎาคม 2554 เวลา 9:13 น

​

<table id="ext-gen5" class="x-tabs-strip" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"><tbody><tr id="ext-gen4"><td class=" on" style="width: 72px;" id="ext-gen10">เนื้อหาข่าว</td></tr></tbody></table>


ขาดตลาด-รอจำนำในช่วงรัฐบาลใหม่

โรงสี-ผู้ส่งออกแย่งกันซื้อข้าวเปลือกทั่วประเทศจนหายเกลี้ยงจากตลาด เหตุหวังเก็งกำไร-รอขายเข้าโครงการรับจำนำข้าวของรัฐบาลใหม่ เพราะจะได้ราคาสูงถึงตันละ 1.5 หมื่นบาท ระบุส่งผลให้ข้าวในประเทศแพงลิ่ว ด้านผู้ส่งออกเอกชนจมูกไวงดรับออร์เดอร์จากลูกค้าต่างประเทศ คาดรอ ส.ค.นี้โครงการรับจำนำข้าวมาแน่ ด้านโรงสีเมืองกรุงเก่าปฏิเสธกว้านซื้อข้าว-กักตุนเพื่อเก็งกำไร เชื่อเป็นการปล่อยข่าว ส่วนชาวนากาฬสินธุ์เรียกร้อง “ยิ่งลักษณ์” ควบคุมราคาปุ๋ยเคมี-ค่าแรง ไม่เช่นนั้นอนาคตมืดมนแน่

เมื่อวันที่ 8 ก.ค. รายงานข่าวจากวงการผู้ค้าข้าว เปิดเผยว่า ขณะนี้ผู้ส่งออกข้าวและโรงสีได้แข่งกันกว้านซื้อข้าวเปลือกจากชาวนาทั่ว ประเทศมาเก็บไว้ เพื่อรอเก็งกำไรรับช่วงการเปิดโครงการรับจำนำข้าวเปลือกตันละ 15,000 บาท ของรัฐบาลพรรคเพื่อไทย จนส่งผลให้ข้าวเปลือกในหลายพื้นที่หมดเกลี้ยงอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะ จ.อุตรดิตถ์ กำแพงเพชร และชัยนาท ที่ข้อมูลจากเว็บไซต์โรงสีไทยแจ้งว่าข้าวเปลือกในพื้นที่หมด ส่วนจังหวัดอื่นแม้มีข้าวเปลือกเหลือ แต่ก็พบว่าราคาข้าวปรับสูงขึ้นจากช่วงก่อนการเลือกตั้งถึงตันละ 1,000-1,500 บาท โดยก่อนหน้านี้ข้าวเปลือกเฉลี่ยตันละ 8,500-9,500 บาท เพิ่มเป็นตันละ 9,800-10,500 บาท และราคายังมีแนวโน้มปรับเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

นอกจากนี้ยังพบว่าโรงสีหลายแห่งได้ประกาศงดขายข้าวสารออกมา เพื่อเก็งกำไรรอขายเข้าโครงการรับจำนำ เพราะจะได้ราคาสูงถึงตันละ 15,000 บาท ขณะที่ผู้ส่งออกก็ได้เร่งซื้อข้าวเพิ่มในช่วงนี้ เพราะเกรงว่าหากมีการเปิดโครงการรับจำนำจะยิ่งทำให้ต้นทุนข้าวเพิ่มขึ้น และทำให้การแข่งขันการส่งออกกับประเทศเวียดนามทำได้ลำบาก

ทางด้านนายสุเมธ เหล่าโมราพร ประธานผู้บริหารฝ่ายปฏิบัติการ บริษัท ซี.พี.อินเตอร์เทรด จำกัด เปิดเผยว่า ขณะนี้ผู้ประกอบการส่งออกข้าวไทย ส่วนใหญ่ไม่กล้ารับคำสั่งซื้อข้าว (ออร์เดอร์ข้าว) จากลูกค้าต่างประเทศ โดยจะรับเพียงออร์เดอร์จากลูกค้าประจำในจำนวนไม่มากนัก เนื่องจากคาดการณ์ว่าพรรคเพื่อไทย ซึ่งเป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาลใหม่ จะนำนโยบายการรับจำนำข้าวตันละ 15,000 บาท ตามที่ได้ประกาศหาเสียงไว้มาใช้ทันที ซึ่งจะส่งผลให้ราคาข้าวในประเทศพุ่งสูงขึ้นกว่าราคาข้าวในตลาดโลก และจะทำให้ผู้ส่งออกขาดทุนในที่สุด

“ผู้ส่งออกส่วนใหญ่คาดการณ์ว่า รัฐบาลใหม่ที่มีพรรคเพื่อไทยเป็นแกนนำ จะนำนโยบายรับจำนำมาใช้ทันที ในช่วงเก็บเกี่ยวข้าวนาปรังรอบที่ 2 ในเดือน ส.ค.-ก.ย. 54 นี้ เพราะเป็นช่วงรอยต่อการเก็บเกี่ยวผลผลิตพอดี ประกอบกับในทางปฏิบัติการรับจำนำสามารถทำได้ง่าย เนื่องจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการดำเนินการนโยบายจำนำราคา เช่น องค์การคลังสินค้า (อคส.) กรมการค้าภายใน กรมการค้าต่างประเทศ สามารถปรับเปลี่ยนการทำงานได้อย่างไม่มีปัญหา เพราะคุ้นเคยกับนโยบายการรับจำนำอยู่แล้ว”

นายสุเมธ กล่าวว่า นโยบายจำนำข้าวของพรรคเพื่อไทยมีผลต่อราคาข้าวในประเทศตั้งแต่เริ่มนำมาหา เสียงแล้ว เห็นได้จากช่วงก่อนหน้านี้ที่ชาวนาเริ่มชะลอการขายข้าวของตนเองออกไป เพราะเชื่อว่าราคาข้าวจะสูงขึ้น ส่งผลให้ราคาข้าวในประเทศมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นตามลำดับ นอกจากนี้ยังส่งผลให้ราคาข้าวในตลาดโลกเพิ่มสูงขึ้นด้วย เช่น ราคาข้าวขาว 5% เพียงสัปดาห์เดียวเพิ่มขึ้นถึงตันละ 20 ดอลลาร์สหรัฐ จากราคาตันละ 490 ดอลลาร์สหรัฐ มาอยู่ที่ตันละ 500-510 ดอลลาร์สหรัฐในสัปดาห์นี้ เพราะตลาดต่างประเทศปรับตัวตามนโยบายข้าวของไทยเช่นกัน เพราะไทยเป็นผู้ส่งออกข้าวอันดับหนึ่งของโลก มีสัดส่วนการส่งออกประมาณ 30% ของปริมาณข้าวในตลาดโลก

ขณะที่นายฐิติวัฒน์ กลีบมาลัย อายุ 41 ปี เกษตรกร ต.มารวิชัย อ.เสนา จ.พระนคร ศรีอยุธยา เปิดเผยว่า ขณะนี้บรรดาโรงสีต่างพากันออกมาซื้อข้าวของเกษตรกรถึงที่ โดยเฉพาะที่ อ.บางบาล ซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีการเก็บเกี่ยวผลผลิตแล้ว แต่ก็ยังนับว่าน้อย เนื่องจากมีอีกจำนวนมากที่ยังไม่สามารถเก็บเกี่ยวได้ เมื่อเก็บผลผลิตแล้วเกษตรกรก็จะขายทันทีไม่มีการเก็บตุน เนื่องจากข้าวมีราคาดี เกวียนละ 9,000-9,200 บาท ซึ่งนับว่าสูงมาก โดยเชื่อว่าสาเหตุที่โรงสีมากว้างซื้อข้าว เพื่อนำไปเก็บตุนไว้ รอดูรัฐบาลใหม่จะทำให้ราคาข้าวดีขึ้น โดยบรรดา โรงสีส่วนใหญ่บอกว่ามีความเชื่อมั่นในรัฐบาลใหม่

ในส่วนนายอุทัย พันธ์ศิริปทุมพร เจ้าของโรงสีข้าวสุขเจริญพานิชย์ หมู่ 3 ต.พระยาบันลือ อ.ลาดบัวหลวง จ.พระนครศรีอยุธยา เปิดเผยถึงกรณีที่มีข่าวว่ามีโรงสีกว้านซื้อข้าวและกักตุนข้าวเป็นล้านตัน ว่า เชื่อว่าเป็นการปล่อยข่าว ซึ่งตอนนี้ในสต๊อกโรงสีตนมีการระบายออกอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากมีการคำสั่งซื้อมามากขึ้น ทั้งนี้น่าจะเกิดจากความต้องการของวิกฤติโลกเช่นภัยธรรมชาติในหลายประเทศ ไม่น่าจะเกี่ยวกับการซื้อไปเพื่อตุนรอราคาจากรัฐบาลใหม่

ที่ จ.กาฬสินธุ์ นายทองหล่อ ภูผลิน อายุ 45 ปี ชาวนาบ้านหนองขาม ต.ดอนสมบูรณ์ อ.ยางตลาด กล่าวว่า การทำนาในปีนี้ประสบปัญหาหลายด้าน โดยเฉพาะต้นทุนการผลิต เช่น ปุ๋ยเคมี ยากำจัดศัตรูข้าว และค่าแรงงานที่สูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ปีที่ผ่านมาปุ๋ยเคมีราคาถุงละประมาณ 600 บาท ค่าแรงงานวันละ 200 บาท ค่าจ้างรถไถนาไร่ละ 200 บาท รถเกี่ยวข้าวไร่ละ 600 บาท ต้นทุนเฉลี่ยไร่ละประมาณ 5,000 บาท ได้ผลผลิตไร่ละประมาณ 500-700 กก. แต่ปีนี้มีแนวโน้มที่ต้นทุนการทำนาจะสูงกว่าเดิมหลายเท่าตัว เพราะทันทีที่เริ่มทำนา ปุ๋ยเคมีราคา 780 บาท ค่าแรงวันละ 350 บาท รถไถนาไร่ละ 400 บาท และคาดว่าจะมีการปรับสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ที่จะทำให้ชาวนาประสบปัญหาขาดทุนซ้ำซาก จึงวอนให้รัฐบาลใหม่กำหนดมาตรการควบคุมด้วย โดยเฉพาะปุ๋ยเคมี ยาปราบศัตรูข้าว และประกันราคาข้าวเปลือกสูงขึ้น เพราะหากไม่มีมาตรการควบคุมที่ชัดเจน ปล่อยให้นายทุนปรับราคาเอง อนาคตชาวนาคงจะมืดมน ไม่มีโอกาสลืมตาอ้าปากได้ จึงวิงวอนให้รัฐบาลยิ่งลักษณ์ชูปัญหาของชาวนา เป็นวาระเร่งด่วนที่จะต้องเร่งแก้ไขด้วย.

http://www.dailynews.co.th/newstartpage/index.cfm?page=content&categoryID=561&contentID=149967
---------------------------------------------------------------


ระวังข้าวสารถูกจำกัดการซื้อนะครับ ใครมีทุนมี


เวลาก็รีบไปซื้อไว้นะครับ ผมว่าอีกไม่นานราคาขึ้น


แน่นอน

 

จีน..น้ำท่วมหนักที่มณฑลเสฉวน​

​

จีนยังเผชิญกับภัยน้ำท่วม ที่มณฑลเสฉวน หลังจากเกิดฝนตกหนักระลอกใหม่

เกิดฝนตกระลอกใหม่นานถึง 3 วัน ในมณฑลเสฉวน ทางตะวันตกเฉียงใต้ของจีนสร้างความเสียหายอย่างหนักให้กับบ้านเรือนประชาชน และมีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 25 คนในช่วงไม่ถึง 1 สัปดาห์ที่ผ่านมา โดยที่เมืองปาซ่ง และกวงหยวน มีฝนตกหนักที่สุด วัดปริมาณน้ำฝนได้มากกว่า 300 มิลลิเมตร นอกจากนี้ที่หมู่บ้านอิ่งซิ่ว ชาวบ้านยังพบซากหมีแพนด้าเพศผู้นอนตายอยู่ด้วย คาดว่าตายเพราะจมน้ำ

สถานการณ์ฝนตก น้ำท่วมและดินถล่มที่เกิดขึ้นในภาคตะวันออกและภาคใต้ของจีน ซึ่งเริ่มมาตั้งแต่เดือนมิถุนายนจนถึงปัจจุบัน ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตและสูญหายมากกว่า 260 คนแล้ว ขณะที่ปฏิบัติการกู้ภัยเหมืองถ่านหินในเขตปกครองตนเองกวางสีจ้วง ขณะนี้ยังคงไม่มีความคืบหน้า

หลังจากที่ฝนตกหนัก ทำให้เกิดน้ำท่วมเหมืองมาตั้งแต่วันเสาร์ ล่าสุดพบว่าจำนวนคนงานเหมืองที่ติดอยู่เพิ่มเป็น 42 คน ส่วนยอดผู้เสียชีวิตที่ยืนยันแล้วอยู่ที่ 3 คน

ข่าวทีวีช่อง 3 วันศุกร์ ที่ 8 กรกฎาคม พ.ศ. 2554

เกาหลีใต้นอนโลงศพเรียนรู้ชีวิต​

​

ชาวเกาหลีใต้ ค้นหาความหมายของชีวิต ด้วยการลงไปนอนในโลงศพที่ปิดสนิท เพื่อค้นหาความหมายในชีวิต ซึ่งเป็นอีกหนึ่งตัวช่วยในการลดการฆ่าตัวตายในประเทศได้

เป็นที่ทราบกันดีอยู่ว่า เกาหลีใต้เป็นหนึ่งในประเทศที่มีอัตราการฆ่าตัวตายสูงที่สุดในโลก โดยหนึ่งในจำนวนนั้น รวมถึง อดีตประธานาธิบดีโนห์ มู-เฮียน ของเกาหลีใต้ ที่ตัดสินใจกระโดดหน้าผาฆ่าตัวตาย หลังเจอคดีฉ้อโกง เมื่อปี 2009 เช่นเดียวดาราเกาหลีใต้หลายๆคน ที่ฆ่าตัวตายในรูปแบบต่างๆ ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา สร้างความตกตะลึงต่อสังคมและสื่อเป็นอย่างมาก

และเพื่อผู้คนมองเห็นคุณค่าของชีวิตให้มากขึ้น ที่กรุงโซลมีการจัดสัมนาเรียนรู้ถึงความตาย ทั้งๆที่มีชีวิตอยู่ โดยมีประชาชนราว 70 คนเข้าร่วมฟัง ซึ่งหนึ่งในกิจกรรมของการสัมนาครั้งนี้ คือ การเปิดโอกาสให้คนลงไปนอนในโลงศพที่ปิดสนิท เพื่อค้นหาความหมายในชีวิต และทบทวนในสิ่งที่ตัวเองทำลงไป

นางลี เมียง-ฮี แม่ลูกสอง วัย 42 ปี เผยว่า การเข้าไปนอนในโลงศพ ทำให้เธอรู้ว่าเธอรักครอบครัวมากแค่ไหน และว่าไม่คิดว่าเร็วเกินไปที่จะพูดถึงเรื่องความตาย

ขณะที่อาจารย์สอนการพยาบาล ประจำมหาวิทยาลัย Sahmyook ซึ่งเป็นผู้จัดการสัมนาในครั้งนี้ เผยว่า การเรียนรู้นี้ มีความหมายต่อชาวเกาหลีใต้ ในช่วงอายุ 20 , 30 และ 40 ปี ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีฆ่าตัวตายเป็นจำนวนมาก เพราะสามารถเปลี่ยนและเปิดโอกาสให้กับชีวิตตัวเองอีกครั้ง เหมือนเป็นการเกิดใหม่

ข่าวทีวีช่อง 3 วันพฤหัสบดี ที่ 7 กรกฎาคม พ.ศ. 2554

ญี่ปุ่นสร้างศิลปินด้วยคอมพิวเตอร์กราฟฟิค​

​

ญี่ปุ่นยังคงพยายามรักษาสถานะความเป็นผู้นำด้านการบุกเบิกผลงานคอมพิวเตอร์กราฟฟิค ที่กำลังฮือฮากันมากในขณะนี้ก็คือการสร้างศิลปินเพลงป็อปจนกลายเป็นไอดอลที่ทำให้วัยรุ่นแฟนเพลงหลงไหล เพราะตอนแรกเข้าใจผิดคิดว่าเป็นคนจริง แต่แม้จะรู้ในภายหลังว่าไม่ใช่คนจริงๆ ก็ยังคงหลงรักเหมือนเดิม

ศิลปินเพลงป็อป ไอมิ อิคูชิ เป็นหนึ่งในศิลปินเกิร์ลกรุ๊ป ซึ่งแท้จริงไม่ใช่คนจริงๆ แต่คือความลงตัวในการผสมผสานส่วนที่สวยและจุดเด่นของศิลปินเกิร์ลกรุ๊ป AKB48 ทั้ง 6 คนเข้าด้วยกันด้วยเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์กราฟฟิค

กลุ่มศิลปินเพลงป๊อปที่ใหญ่ที่สุดของญี่ปุ่น มีไอมิเป็นจุดขายและเป็นการโชว์พลังของเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ของญี่ปุ่น ผู้สร้างกล่าวว่าไอมิก็คือผู้หญิงในฝันที่เกิดจากการสร้างสรรค์อย่างสมบูรณ์แบบที่สุด 1 สัปดาห์เต็มที่แฟนเพลงต่างคิดว่าไอมิมีตัวตนจริงๆ แต่เมื่อรู้ความจริงแล้วก็ยังคงรักไอมิอยู่ดี และยังมีความรู้สึกว่าเธอเป็นคนจริงๆและยังอยู่ในใจของพวกเขา

ไม่ใช่แค่ไอมิเท่านั้นที่กลายเป็นศิลปินโด่งดังในญี่ปุ่น มิกุ ฮาโซเนะ เป็นป็อปสตาร์อีกคนหนึ่งที่เป็นฮอลโลแกรมขนาดใหญ่และแสดงสดต่อหน้าแฟนเพลงนับพันคน และเปิดรอบปฐมทัศน์ในสหรัฐในวันที่ 4 กรกฏาคมซึ่งเป็นวันชาติสหรัฐ ด้วยการแสดงคอนเสิร์ตที่ลองแองเจลีสสุดสัปดาห์นี้หลังจากเธอกลายเป็นซูเปอร์สตาร์ในญี่ปุ่นเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยมีผลงานติดท็อปชาร์ททั้งปีที่แล้วและปีนี้และยังเป็นนางแบบโฆษณาด้วย

บริษัทผู้ผลิตรถยนต์ยักษ์ใหญ่ของญี่ปุ่นใช้ฮอลโลแกรมแทนที่จะใช้ดาราฮอลลีวู้ดเพื่อโฆษณาโคโรลลา ผู้สร้างไอมิกล่าวว่า ต้องเตรียมพร้อมสำหรับการต้อนรับศิลปินในอนาคต โดยเชื่อว่าในวันหนึ่งข้างหน้าศิลปินกราฟฟิคหรือฮอลโลแกรมจะเข้ามาแทนที่ศิลปินคนจริงๆ เรามีความสุขกับศิลปินที่เรารัก แต่ก็ได้เข้าสู่ยุคที่เราสามารถสร้างศิลปินได้เองแล้ว และหากใครยังรู้สึกว่าไม่ได้ศิลปินดั่งใจ ก็ใช้เทคโนโลยีคอมพิวเตอร์กราฟฟิคแก้ไขได้ จนถึงวันหนึ่งอาจพูดได้ว่าศิลปินกราฟฟิคได้ฆ่าศิลปินที่เป็นคนจริงๆ

ข่าวทีวีช่อง 3 วันศุกร์ ที่ 8 กรกฎาคม พ.ศ. 2554

ที่มา http://www.krobkruakao.com

 

=====================================


6 ก.ค. 54


รอดอย่างไร?

คิดจะรอด---------รอดอย่างไร?------จะบอกให้
ท่านต้องให้-------คุณความดี---------ที่มีอยู่
เป็นเกราะป้อง-----คุ้มกัน-------------คอยค้ำชู
ช่วยเอ็นดู---------ปกป้องภัย---------ยามภัยมา

อีกทั้งต้อง--------หาพื้นที่--------ที่ปลอดภัย
เก็บเอาไว้--------ใช้สอย---------ยามต้องหนี
ที่กำหนด---------เอาไว้----------ก็ยิ่งดี
เพื่อชีวี-----------ปลอดภัย-------ไร้ปัญหา

ที่กำหนด---------ท่านต้องไป------เข้าช่วยเหลือ
เอาไว้เพื่อ--------มีกินใช้----------ไม่ขัดสน
กับครอบครัว------เพื่อนพ้อง-------อีกทั้งตน
จะไม่รน----------เมื่อภัยมา--------ก็ได้กิน

อยากขอเตือน------เพื่อนรัก--------มักคิดผิด
เพราะยึดติด--------คิดว่า----------ความดีพอ
หวังพึ่งพระ---------พึ่งเจ้า---------ดีแล้วหนอ
เลยไม่ขอ----------เตรียมการ------สิ่งใดๆ

คิดเช่นนี้----------แม้แต่พระ---------ช่วยไม่ไหว
เพราะจงใจ-------ไม่คิดช่วย---------ตัวเองก่อน
หวังแต่พึ่ง--------พึ่งอย่างเดียว------ไม่ทุกข์ร้อน
ก็ต้องจร----------ก่อนใครๆ----------เมื่อภัยมา

คิดช่วยเรา-------ก็ต้องคิด---------ช่วยเขาด้วย
บุญจะช่วย-------ให้รอดพ้น--------ยามเกิดภัย
ทั้งพระเจ้า-------จะคุ้มครอง-------ให้รอดตาย
เพื่อเอาไว้-------สืบเผ่าพันธุ์-------แห่งความดี

ถ้าคิดว่า----------จะเอาเปรียบ------ต่อผู้อื่น
ไม่ยอมตื่น--------ลุกขึ้นมา---------หาความจริง
ไม่ช่วยออก-------ช่วยทำ-----------จะถูกทิ้ง
เป็นเรื่องจริง------ฟ้าไม่โปรด-------ไม่อภัย

จะช่วยมาก--------ช่วยน้อย--------ถือว่าช่วย
เข้าร่วมด้วย-------ช่วยกัน---------อย่างขันแข็ง
ถ้ามีมาก----------ช่วยมาก--------ไม่ออมแรง
ช่วยกันแบ่ง--------มากน้อย-------ไม่ว่ากัน




องค์อินทร์ ๙๗
ทำการแทน

======================================
ภาพฐานผาแบ่นค่ะ(tanphaban.blogspot.com)
ที่มา นาม "องค์อินทร์ ๙๗"

 

<TABLE border=0 width=670 bgColor=#ffffff><TBODY><TR bgColor=#ffcae3><TD> เหนือ-อีสานตอนบนฝนฟ้าคะนอง </TD></TR><TR><TD> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width=668><TBODY><TR><TD class=A2 vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD></TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
อุตุฯรายงานภาคเหนือ-ตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน มีฝนฟ้าคะนองเพิ่มมากขึ้น


วันนี้ (9ก.ค.) กรมอุนิยมวิทยารายงานว่า หย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมอ่าวตังเกี๋ย ส่งผลให้ภาคเหนือด้านตะวันออก

และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน จะมีฝนฟ้าคะนองเพิ่มมากขึ้น และมีลมกระโชกแรงบางแห่ง ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรงที่เกิดขึ้นในระยะ1-2 วันนี้

อนึ่งในช่วงวันที่ 10-13 ก.ค. 2554 มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุม ทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยจะมีกำลังแรงขึ้น ทำให้ประเทศไทยมีฝนเพิ่มขึ้น ส่วนคลื่นลมในทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบนจะมีกำลังแรงขึ้น



</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์เดลินิวส์
</CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE>

<TABLE border=0 width=670 bgColor=#ffffff><TBODY><TR bgColor=#ffcae3><TD> เมายาใช้มีดจี้คอ2ขวบเป็นตัวประกัน-แทง8แผลเด็กดับ </TD></TR><TR><TD> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width=668><TBODY><TR><TD class=A2 vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD></TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width=668><TBODY><TR><TD class=A2 vAlign=top>เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 9 ก.ค. พ.ต.ท.สมศักดิ์ มงคลคุณกร สวป.สน.ประเวศ

รับแจ้งทางวิทยุของสน.เกิดเหตุคนร้ายจับเด็กเป็นตัวประกัน ภายในบริษัทนัมเบอร์วัน คลีนนิ่ง เซอร์วิส จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทรับทำความสะอาดอาคาร เลขที่ 558 ซ.เฉลิมพระเกียรติ ร.9 แขวงและเขตประเวศ กทม. จึงรุดไปตรวจสอบ ที่เกิดเหตุเป็นอาคารพาณิชย์ 3 ชั้น มีชาวบ้านมุงดูเป็นจำนวนมาก บริเวณชั้นลอยพบนายทวีชัย นาทองบ่อ อายุ 47 ปี เป็นพนักงานทำความสะอาดของบริษัทดังกล่าว ใช้มีดปอกผลไม้ยาวประมาณ 5 นิ้ว จี้ที่คอของด.ช.โอม (นามสมติ) อายุ 2 ปี
ขณะที่เจ้าหน้าที่เข้าไปพบว่าเด็กอยู่ในสภาพหมดสติ มีเลือดไหลเต็มตัว มีบาดแผลที่บริเวณลำคอ และลำตัวหลายแผล

ขณะที่นายทวีชัยมีอาการหวาดระแวงอยู่ตลอดเวลาลักษณะคล้ายคนเมายา โดยขู่ว่าหากใครเข้ามาใกล้จะใช้มีดแทง ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องถอยออกมาก่อน โดยได้โทรศัพท์ติดต่อมารดาของเด็กก่อนเปิดลำโพงเพื่อให้เจรจากับคนร้ายแต่ไม่เป็นผล โดยคนร้ายได้ร้องขอโทรศัพท์มือถือ เจ้าหน้าที่ได้เจรจาให้แลกกับตัวประกัน เมื่อคนร้ายลงมารับโทรศัพท์มือถือ เจ้าหน้าที่จึงได้เข้าชาร์จตัวคนร้ายไว้ได้ ก่อนควบคุมตัวมาสอบปากคำที่สน.ประเวศ พร้อมนำส่งเด็กไปร.พ.สิรินธร เนื่องจากถูกแทงที่บริเวณลำคอตัดเส้นเลือดใหญ่และลำตัวรวม 8 แผล ทำให้เสียเลือดมาก จึงทนพิษแผลไม่ไหวเสียชีวิตในเวลาต่อมา

จากการสอบสวนนายทวีชัยให้การวกวนคล้ายคนเมายาว่า ตนทำงานเป็นพนักงานทำความสะอาดที่บริษัทมา 7 เดือน

เมื่อคืนที่ผ่านมามีผู้หญิงนำยาเม็ดสีขาวมาให้ตนกิน ตื่นมาตอนเช้าตนก็รู้สึกไม่สบายจึงขอหยุดงาน ซึ่งนายจ้างก็ให้ตนอยู่เฝ้าบริษัท กับน้องโอมเพียง 2 คน ช่วงสายๆ ตนได้ออกไปซื้อเบียร์มาดื่ม 1 ขวด ก่อนขึ้นจะไปนอนพักบริเวณชั้น 2 ขณะนั้นรู้สึกหวาดระแวงว่าจะมีคนมาตามฆ่า จึงใช้มีดจี้จับน้องโอมเป็นตัวประกันไว้ ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ปักใจเชื่อในคำให้การ ขณะเดียวกันจากการตรวจปัสสาวะเบื้องต้นเป็นสีม่วง ประวัติของคนร้ายทราบว่าเคยต้องคดีจำหน่ายยาเสพติด(เฮโรอีน) เมื่อปี 2537 ในท้องที่สน.ทุ่งมหาเมฆและถูกศาลสั่งจำคุก 5 ปี

พ.ต.ต.จตุภูมิ มุดซาเคน พนักงานสอบสวน สน.ประเวศ กล่าวว่า เบื้องต้นได้ควบคุมตัวผู้ต้องหาส่งไปตรวจหาสารเสพติดที่โรงพยาบาล และรอสอบปากคำอย่างละเอียดอีกครั้ง โดยแจ้งข้อหาฆ่าผู้อื่น ก่อนควบคุมตัวดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ขณะที่บิดาและมารดาน้องโอม มาดูลูกในอาการเศร้าเสียใจ ร้องไห้ตลอดเวลา ด้านมารดา กล่าวว่า

ก่อนเกิดเหตุตนได้พาพนักงานของบริษัทไปทำความสะอาดที่โรงเรียนแห่งหนึ่งย่านถ.วัชรพล โดยฝากลูกไว้กับพี่เลี้ยงที่บ้าน เมื่อออกจากบ้านได้เพียง 20 นาที จากนั้นได้มีเจ้าหน้าที่ตำรวจโทรศัพท์มาหาตนแจ้งว่ามีคนร้ายจับลูกชายเป็นตัวประกัน จะให้ตนช่วยเจรจาต่อรองกับคนร้าย ที่ผ่านมาทราบว่านายทวีชัยดื่มเบียร์เป็นประจำ คาดว่าคงเกิดความเครียดหรืออยากเสพยาจนเกิดอาการประสาทหลอนมีคนมาตามฆ่าจึงมาก่อเหตุกับลูก ซึ่งตนยังทำใจไม่ได้กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 9 ก.ค. พ.ต.ท.สมศักดิ์ มงคลคุณกร สวป.สน.ประเวศ รับแจ้งทางวิทยุของสน.เกิดเหตุคนร้ายจับเด็กเป็นตัวประกัน ภายในบริษัทนัมเบอร์วัน คลีนนิ่ง เซอร์วิส จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทรับทำความสะอาดอาคาร เลขที่ 558 ซ.เฉลิมพระเกียรติ ร.9 แขวงและเขตประเวศ กทม. จึงรุดไปตรวจสอบ ที่เกิดเหตุเป็นอาคารพาณิชย์ 3 ชั้น มีชาวบ้านมุงดูเป็นจำนวนมาก บริเวณชั้นลอยพบนายทวีชัย นาทองบ่อ อายุ 47 ปี เป็นพนักงานทำความสะอาดของบริษัทดังกล่าว ใช้มีดปอกผลไม้ยาวประมาณ 5 นิ้ว จี้ที่คอของด.ช.โอม (นามสมติ) อายุ 2 ปี



</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์ข่าวสด
</CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE>

ชายแดนไทย กัมพูชา

กัมพูชาอนุมัติประชาชน 8,000 คนเข้าทำงานในไทย
9 ก.ค.รายงานข่าวแจ้งว่า ทางการกัมพูชาได้อนุมัติให้ชาวกัมพูชาจำนวน 8,000 คนเข้ามาทำงานในประเทศไทยได้ ทำให้มีบริษัทจัดหางานเปิดขึ้นใหม่จำนวนมาก เพื่อรองรับชาวกัมพูชาที่แห่กันไปสมัครงาน เนื่องจากต้องการได้รับอานิสงส์จากการขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำวันละ 300 บาท ที่เป็นนโยบายของพรรคเพื่อไทย
ทั้งนี้ ทหารกองกำลังบูรพาร่วมกับเจ้าหน้าที่ ตม.สระแก้วและศุลกากรอรัญประเทศ ตั้งจุดตรวจบริเวณทางเข้าตลาดโรงเกลือใกล้กับด่านอรัญประเทศ พบชาวกัมพูชากว่า 100 คน และกระเป๋าสัมภาระเดินเท้าข้ามแดนเข้ามา จึงขอตรวจสอบเอกสารและกระเป๋าสัมภาระ พบเป็นชาวกัมพูชาที่ได้รับอนุญาตให้เข้ามาทำงานในโรงงานอุตสาหกรรมของไทย
อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่จึงทำประวัติก่อนให้ตัวแทนโรงงานอุตสาหกรรมมารับตัวไป เพราะเกรงว่าจะมีชาวกัมพูชาที่ไม่ได้รับอนุญาตถือโอกาสปะปนเข้ามาขายแรงงาน
Mthainews



มาเลเซียประท้วง

ตำรวจยิงแก๊สน้ำตาสลายการชุมนุน จับกุมคนกว่า 700
9 ก.ค. ที่ประเทศมาเลเซีย ผู้ชุมนุมกลุ่มต่อต้านรัฐาลมีจำนวนกว่า8,000 คน ได้ออกมาชุมนุมกันบนท้องถนนในกรุงกัวลาลัมเปอร์ เพื่อเรียกร้องให้มีปฏิรูปการเลือกตั้งให้เป็นธรรมมากขึ้น แม้ว่าตำรวจจะประกาศห้ามการชุมนุมในตัวเมืองตั้งแต่ช่วงเที่ยงคืนที่ผ่านมาก็ตาม พร้อมปิดหลายเส้นทางเพื่อสกัดการชุมนุมก็ตาม
ทั้งนี้ ล่าสุด ตำรวจได้สลายการชุมนุมด้วยการใช้แก๊สน้ำตา และใช้น้ำฉีด และจับกุมผู้ชุมนุมไปประมาณ 700 คน โดยหลายฝ่ายกังวลว่าจะเกิดความรุนแรง เนื่องจากกลุ่มผู้สนับสนุนรัฐบาลก็ประกาศจะออกมาชุมนุมแสดงพลังกลุ่มผู้ต่อต้านรัฐบาลเช่นกัน
ขณะที่ นายกรัฐมนตรี นาจิบ ราซัคของมาเลเซีย ได้แถลงว่าเจ้าหน้าที่ไม่ได้ใช้กำลังรุนแรงกับกลุ่มผู้ชุมนุมประท้วงแต่อย่างใด โดยยืนยันว่าระบบการเลือกตั้งเป็นไปอย่างบริสุทธิ์ยุติธรรมตามระบอบประชาธิปไตย




กรุงเทพ

คว้ารางวัล World Best City จากผลโหวตของนักท่องเที่ยว
9 ก.ค.รายงานข่าวแจ้งว่า ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เปิดเผยว่า จากการจัดลำดับเกี่ยวกับการท่องเที่ยวเป็นประจำทุกปี ของ เทรเวล แอนด์ เลชเชอร์ (Travel & Leisure) นิตยสารด้านการท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมสูงสุดในสหรัฐอเมริกา ซึ่งผลโหวตล่าสุดจากการออกแบบสอบถามผู้อ่าน ปรากฎว่า กรุงเทพมหานครสามารถได้รางวัลเมืองท่องเที่ยวที่ดีที่สุดของโลก หรือ World ‘s Best Award ประจำปี 2011 มาครองได้สำเร็จ ด้วยคะแนนโหวต 90.99 % ตามมาด้วยเมืองฟลอเรนซ์ ประเทศอิตาลี คะแนน 89.92 % และกรุงโรม ประเทศอิตาลี คะแนน 88.45 % ตามลำดับ
ทั้งนี้ กรุงเทพมหานครได้รับราวัล World’s Best Award เป็นครั้งที่สาม จากที่เคยได้รับมาแล้วในปี 2008 และปี 2011 ที่ผ่านมา โดยรางวัลเมืองท่องเที่ยวที่ดีที่สุดของโลกได้พิจารณาจากสถานที่ ทัศนียภาพ ความสวยงาม ร่มรื่น ศิลปวัฒนธรรม ประเพณี อาหารการกิน แหล่งช้อปปิ้ง ความเป็นมิตรของผู้คน และความคุ้มค่าของเงิน
ขณะที่ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ มีกำหนดเดินทางไปรับรางวัลด้วยตัวเองในวันที่ 14 กรกฎาคม 2554 นี้ ณ นครลอสแองเจลิส สหรัฐอเมริกา ส่วนการจัดอันดับ World’s Best Award 2011 โดยผู้อ่านนิตยสาร Travel & Leisure 10 อันดับ มีดังนี้
อันดับ 1 กรุงเทพมหานคร ประเทศไทย อันดับ 2 เมืองฟลอเรนซ์ ประเทศอิตาลี อันดับ 3 กรุงโรม ประเทศอิตาลี อันดับ 4 นครนิวยอร์ค ประเทศอันดับ 5 นครอิสตันบู ประเทศตุรกี อันดับ 6 เมืองเคป ทาวน์ ประเทศอาฟาริกาใต้ อันดับ 7 เมืองเสียมเรียบ ประเทศกัมพูชา อันดับ 8 นครซิดนีย์ ประเทศออสเตรเลีย อันดับ 9 เมืองบาเซโลน่า ประเทศสเปน และอันดับ 10 กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส
อนึ่ง การใช้ กรุง นำหน้าหมายถึงเมืองหลวงของประเทศนั้นๆ ส่วน นคร หมายถึงเมืองใหญ่หรือเมืองท่าที่มีความสำคัญต่อเศรษฐกิจ

Mthainews



หวยออนไลน์

ชี้มีการทำระบบไว้พร้อมหมดแล้ว
9 ก.ค. รายงานข่าวแจ้งว่า นายสมชาย พูลสวัสดิ์ รองปลัดกระทรวงการคลัง ในฐานะประธานกรรมการสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล เปิดเผยว่า ช่วงที่ผ่านมาสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลเตรียมแนวทางการออกหวยออนไลน์ โดยดำเนินการต่อเนื่องจากรัฐบาลชุดที่ผ่านมา เพื่อเสนอให้รัฐบาลชุดใหม่พิจารณา ในการนำสลากการกุศลที่มีอยู่มาปรับระบบขายเป็นหวยออนไลน์
ทั้งนี้ เนื่องจากมีการวางระบบไว้พร้อมแล้ว และสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาพิจารณาแล้วว่าสามารถดำเนินการได้ ตอนนี้สำนักงานสลากฯ อยู่ระหว่างศึกษาข้อดี-ข้อเสียของการออกหวยออนไลน์ เพื่อสรุปให้รัฐบาลชุดใหม่พิจารณา ซึ่ง ในการประชุมกรรมการสลากกินแบ่งรัฐบาล สัปดาห์หน้า จะให้นำข้อสรุปเกี่ยวกับการออกหวยออนไลน์เสนอที่ประชุม
อย่างไรก็ดี ต้องพิจารณาว่า การออกรางวัลจะมีรูปแบบอย่างไรบ้าง มีรางวัลแจ็กพอตหรือไม่ เพราะต้องอยู่ภายใต้เงื่อนไขการส่งเงินรายได้เข้าคลังร้อยละ 28 ของรายได้ และอีก 60 % เป็นเงินรางวัล และต้องดูว่าจะออกรางวัลเป็นเลข 6 ตัว เหมือนเดิมหรือไม่ เนื่องจากสลากการกุศลที่รัฐบาลได้อนุมัติเพิ่มเติมไว้อีก 14,900 ฉบับ ขณะนี้มีสลากการกุศลถึง 18 ล้านฉบับ โดยมีปริมาณเพียงพอต่อการออกรางวัล และที่สำคัญต้องการแก้ปัญหาสลากฯ เกินราคาที่มีอยู่ในปัจจุบัน

Mthainews

 

<TABLE border=0 width=670 bgColor=#ffffff><TBODY><TR bgColor=#ffcae3><TD>พยากรณ์อากาศฝนยังตกหนัก </TD></TR><TR><TD> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width=668><TBODY><TR><TD class=A2 vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD></TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>กรมอุตุนิยมวิทยารายงานสภาพอากาศ ลมแรง ฝนตกหนักทั่วไทย กับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง ในภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคตะวันออก


วันนี้ (10 ก.ค.) กรมอุตุนิยมวิทยา รายงานสภาพอากาศ หย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมประเทศเวียดนามตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย จะมีกำลังแรงขึ้น ลักษณะเช่นนี้ทำให้ทั่วประเทศจะมีฝนเพิ่มขึ้น และมีฝนตกหนัก กับมีลมกระโชกแรงบางแห่งบริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคตะวันออก ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักในระยะนี้ ส่วนคลื่นลมในทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบนจะมีกำลังแรงขึ้นในช่วงวันที่ 10-13 ก.ค. 2554 ขอให้ชาวเรือบริเวณดังกล่าวระมัดระวังอันตรายในการเดินเรือในช่วงนี้


พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทยตั้งแต่เวลา 06:00 วันนี้ ถึง 06:00 วันพรุ่งนี้.

ภาคเหนือ มีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไป ร้อยละ 70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักกับมีลมกระโชกแรงบางแห่งบริเวณจังหวัดเชียงราย พะเยา น่าน อุตรดิตถ์ พิษณุโลก และเพชรบูรณ์ อุณหภูมิต่ำสุด 23-26 องศา อุณหภูมิสูงสุด 32-35 องศา


ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไป ร้อยละ 70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักกับมีลมกระโชกแรงบางแห่งบริเวณจังหวัดหนองคาย บึงกาฬ เลย หนองบัวลำภู อุดรธานี สกลนคร นครพนม ขอนแก่น ชัยภูมิ มุกดาหาร และกาฬสินธุ์ อุณหภูมิต่ำสุด 23-27 องศา อุณหภูมิสูงสุด 32-37 องศา

ภาคกลาง มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 60 ของพื้นที่กับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง ส่วนมากบริเวณจังหวัดนครสวรรค์ อุทัยธานี กาญจนบุรี สุพรรณบุรี และราชบุรี อุณหภูมิต่ำสุด 25-27 องศา อุณหภูมิสูงสุด 36-37 องศา

ภาคตะวันออก มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง บริเวณจังหวัดจันทบุรี และตราด อุณหภูมิต่ำสุด 24-27 องศา อุณหภูมิสูงสุด 31-36 องศา ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก) มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่ง ๆ ร้อยละ 30 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดเพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร สุราษฎร์ธานี และนราธิวาส อุณหภูมิต่ำสุด 24-25 องศา อุณหภูมิสูงสุด 32-35 องศา ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก) มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่ง ๆ ร้อยละ 30 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดระนอง พังงา และสตูลลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 20-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง ประมาณ 2 เมตร


กรุงเทพมหานครและปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไป ร้อยละ 70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 26-27 องศา อุณหภูมิสูงสุด 34-37 องศา .


</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์เดลินิวส์
</CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE border=0 width=670 bgColor=#ffffff><TBODY><TR bgColor=#ffcae3><TD>แผ่นดินไหวเกาะฮอนชู7.1ริกเตอร์ สะเทือนถึงโตเกียว </TD></TR><TR><TD> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width=668><TBODY><TR><TD class=A2 vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD></TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width=668><TBODY><TR><TD class=A2 vAlign=top>พบรายงานแผ่นดินไหวเกาะฮอนชู ประเทศญี่ปุ่น รุนแรง 6.8 ริกเตอร์ ทางการประกาศเตือนสึนามิ ยังไม่มีความเสียหาย

วันนี้ (10 ก.ค.) สำนักเฝ้าระวังแผ่นดินไหว กรมอุตุนิยมวิทยา รายงานว่า เกิดแผ่นดินไหวขึ้นที่บริเวณใกล้เกาะฮอนชู ประเทศญี่ปุ่น ตามเวลาประเทศไทย 07.57 น. พบมีความสั่นสะเทือน 6.8 ริกเตอร์ พร้อมมีการประกาศเตือนสึนามิ ขณะนี้ยังไม่มีรายงานความเสียหายใดๆ

ขณะเดียวกัน สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น ว่า คลื่นสึนามิขนาย่อมจากมหาสมุทรแปซิฟิก

เคลื่อนตัวถึงชายฝั่งทางตะวันอกเฉียงเหนือของญี่ปุ่นแล้ว โดยสำนักอุตุนิยมวิทยาญี่ปุ่น แจ้งว่า สึนามิความสูงประมาณ 10 ซม. (4 นิ้ว) เคลื่อนตัวถึงชายฝั่งเมืองโอฟูนาโตะ จังหวัดอิวาเตะ เมื่อเวลา 10.44 น. ตามเวลาท้องถิ่น (ตรงกับเวลา 8.44 น. ตามเวลาในประเทศไทย) หลังเกิดแผ่นดินไหวรุนแรง วัดแรงสั่นสะเทือนได้ 7.1 ริคเตอร์ ในมหาสมุทรแปซิฟิก

ก่อนหน้านี้ สำนักอุตุนิยมวิทยาญี่ปุ่น ออกประกาศเตือนภัยสึนามิ ในพื้นที่ตลอดแนวชายฝั่งเกาะฮอนชู ทางตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศ

โดยเฉพาะจังหวัดอิวาเตะ มิยางิ และฟูกูชิมะ หลังได้รับแจ้งจากสำนักงานสำรวจทางธรณีวิทยาแห่งชาติสหรัฐว่า เกิดแผ่นดินไหวขนาดรุนแรง วัดแรงสั่นสะเทือนได้ 7.1 ริคเตอร์ เมื่อเวลา 9.57 น. ตามเวลาท้องถิ่น (7.57 น. ตามเวลาในไทย) มีจุดศูนย์กลางอยู่ลึกใต้ทะเลประมาณ 10 กม. และอยู่ในโซนเดียวกันกับที่เคยไหวรุนแรง 9.0 ริคเตอร์ เมื่อวันที่ 11 มี.ค. ซึ่งทำให้เกิดสึนามิ สร้างความพินาศย่อยยับแก่พื้นที่ตามแนวชายฝั่งของ 3 จังหวัด

</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์เดลินิวส์
</CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

World’s Best Award 2011 โดยผู้อ่านนิตยสาร Travel & Leisure 10 อันดับ มีดังนี้
อันดับ 1 กรุงเทพมหานคร ประเทศไทย

น่าเสียดาย ๆๆ อนาคต ไม่มีอีกแล้ว

 

ฝนตกหนักที่ทะเลทรายชิลี​

​

พื้นที่ส่วนใหญ่ของชิลีกำลังเผชิญกับภ้ยแล้ง ทางเหนือก็เกิดฝนตกหนักอย่างผิดปกติ

ทะเลทรายอาตากามาและหลายพื้นที่ทางภาคเหนือของชิลีซึ่งปกติเป็นเขตที่แห้งแล้งที่สุดแห่งหนึ่งของโลกกำลังเผชิญกับฝนที่ตกหนักผิดปกติ ซึ่งเป็นปรากฎการณ์ทางธรรมชาติที่มักเกิดขึ้นทุก ๆ 7 ปี

โดยพื้นที่นี้มีฝนตกครั้งล่าสุดเกิดขึ้นเมื่อปี 2000 หรือ 10 ปีที่แล้ว และฝนที่ตกลงมามีปริมาณน้ำฝนมากกว่าโดยเฉลี่ยถึง 500 เท่าในช่วงเวลานี้ของปี หรือหนักที่สุดในรอบ 60 ปีเลยทีเดียว ทำให้ชาวบ้านประสบปัญหาหนักไม่รู้จะรับมืออย่างไร และต้องเร่งซ่อมหลังคาบ้านที่มีรูรั่วเนื่องจากฝนที่ตกหนักทำให้เกิดน้ำและโคลนไหลเข้าท่วมบ้านเรือน ขณะที่ต้นไม้และดอกไม้ก็แข่งกันบานรับน้ำฝนกันเต็มที่

ข่าวทีวีช่อง 3 วันเสาร์ ที่ 9 กรกฎาคม พ.ศ. 2554

เครื่องบินตกที่คองโก ตายกว่า 127 คน​

​

เกิดอุบัติเหตุเครื่องบินโดยสารตกที่สาธารณรัฐประชาธิปไตยคองโก เบื้องต้นมีรายงานผู้เสียชีวิต 127 คน

เครื่องบินโบอิ้ง 727 ของสายการบินเฮวา โบร่า เที่ยวบินจากกรุงคินชาซ่า ไปยังเมืองคิซานกานรี่และโกมา ประสบอุบัติเหตุตกลงกลางป่าทึบ ท่ามกลางพายุฝนฟ้าคะนอง ขณะพยายามร่อนลงจอดที่สนามบินนานาชาติคิซานกานี่ ทางตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศคองโก เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา เบื้องต้นมีรายงานผู้เสียชีวิต 127 คน

อย่างไรก็ตามจากแถลงการณ์ของกระทรวงคมนามคมคองโก ระบุว่า มีผู้รอดชีวิตจากเหตุเครื่องบินตกครั้งนี้ 51 คน นับเป็นโศกนากฏกรรมทางอากาศครั้งล่าสุดที่เกิดขึ้นในประเทศแอฟริกากลางแห่งนี้ ซึ่งได้ชื่อว่าเป็นหนึ่งในประเทศที่มีมาตรฐานด้านความปลอดภัยต่ำที่สุดในโลก ขณะที่สายการบิน เฮวา โบร่า ก็มีชื่ออยู่ในบัญชีดำสายการบินที่ถูกห้ามบินเข้าสหภาพยุโรป เนื่องจากเหตุผลเกี่ยวกับมาตรฐานด้านความปลอดภัยเช่นกัน

สำหรับผู้รอดชีวิตจากเหตุเครื่องบินตกดังกล่าว ซึ่งส่วนใหญ่ได้รับบาดเจ็บและร่างกายถูกเผาไหม้ ถูกนำตัวขึ้นเครื่องบินของประธานาธิบดีคาลิบา ไปยังกรุงคินชาซ่าแล้ว หลังจากที่ประธานาธิบดี เดินทางไปยังที่เกิดเหตุ

ส่วนปฏิบัติการกู้ภัยเป็นไปอย่างยากลำบาก แม้จุดที่ตกจะอยู่ห่างจากรันเวย์สนามบินเพียง 200 เมตร เนื่องจากเป็นป่าที่รกทึบ ขณะที่กองกำลังรักษาสันติภาพสหประชาชาติ ได้เข้ามาช่วยเหลือในปฏิบัติการกู้ภัยครั้งนี้ด้วย ทั้งนี้เมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา เกิดอุบัติเหตุเครื่องบินของสหประชาชาติตกขณะพยายามลงจอดที่สนามบินในกรุงคิชาซ่า มีผู้เสียชีวิต 32 คน

ข่าวทีวีช่อง 3 วันอาทิตย์ ที่ 10 กรกฎาคม พ.ศ. 2554

ไม่มีความเสียหายร้ายแรงจากแผ่นดินไหวที่ญี่ปุ่นวันนี้​

​

เกิดแผ่นดินไหวครั้งรุนแรงนอกชายฝั่งตะวันออกเฉียงเหนือของญี่ปุ่น เมื่อเช้าวันนี้ ต้องอพยพประชาชนและพนักงานโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ฟูกุชิมะไปยังที่ปลอดภัย แรงสั่นสะเทือนรู้สึกได้ถึงกรุงโตเกียว

พยากรณ์อากาศญี่ปุ่น ได้ปรับตัวเลขความรุนแรงของแผ่นดินไหว เป็น 7.3 ริกเตอร์ จากเดิมวัดได้ 7.1 ริกเตอร์ ขณะที่สำนักธรณีวิทยาสหรัฐฯวัดได้ 7.0 ริกเตอร์ นับเป็นความรุนแรงระดับ 4 จากทั้งหมด 7 ระดับ ศูนย์กลางแผ่นดินไหวอยู่นอกชายฝั่งเมืองเซนไดใน จังหวัดมิยางิไปทางตะวันออก 212 กิโลเมตร และอยู่ลึกลงไปใต้ทะเล 34 กิโลเมตร

ในเบื้องต้นญี่ปุ่นประกาศเตือนภัยสึนามิขนาด 50 เซนติเมตร พร้อมทั้งสั่งอพพยประชาชนที่อยู่ใกล้ชายฝั่งไปยังที่สูง ขณะที่บริษัทเทปโก้ ได้อพยพคนงานทั้งหมดที่โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ ฟูกุชิม่ะ ซึ่งได้รับความเสียหายจากแผ่นดินไหวและสึนามิ เมื่อวันที่ 11 มีนาคมที่ผ่านมา ไปยังที่สูง แต่ต่อมาก็ประกาศยกเลิกเตือนภัยสึนามิ ซึ่งมีรายงานว่า เกิดสึนามิเพียง 10 เซนติเมตร ที่ชายฝั่งเมืองโซม่ะและโอฟูนาต่ะ

ขณะที่เทปโก้ ออกแถลงการณ์แผ่นดินไหวดังกล่าวไม่ส่งผลกระทบต่อโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ฟูกูชิมะทั้งโรงที่ 1 และโรงที่ 2 ขณะที่โรงไฟฟ้านิวเคลียร์โนกาวะ ที่จังหวัดมิยางิ และโรงไฟฟ้าฮิกาชิโดริ ที่จังหวัดอาโอโมริ ไม่ได้รับผลกระทบ เตาปฏิกรณ์ของโรงไฟฟ้าทั้งสองแห่งไม่ได้เปิดการทำงานในช่วงที่เกิดแผ่นดินไหว

พยากรณ์อากาศญี่ปุ่น เผยว่า แผ่นดินไหวครั้งนี้น่าจะเป็นอาฟเตอร์ช็อคของแผ่นดินไหวเมื่อวันที่ 11 มีนาคมและเตือนว่า จะเกิดอาฟเตอร์ช็อคขึ้นอีกแต่ความถี่ก็จะน้อยลงเรื่อยๆ

ส่วนที่บัลแกเรียต้องเผชิญกับคลื่นความร้อน โดยเมื่อวานนี้ทางการประกาศเตือนภัยระดับสีเหลืองใน 9 เขต เนื่องจากอุณหภูมิที่พุ่งสูงขึ้นผิดปกติเกิน 34 องศาเซลเซียส เมื่อวานนี้ บริเวณแม่น้ำอิสคาร์ ใกล้กรุงโซเฟีย ได้กลายเป็นที่อาบแดด และที่พายเรือของประชาชนจำนวนมาก พยากรณ์อากาศเตือนในบางพื้นที่ อุณหภูมิจะพุ่งสูงขึ้นอีกถึง 39 องศาเซลเซียส ขณะที่ประเทศเพื่อนบ้านยังฮังการี่ และโรมาเนีย ก็เผชิญกับคลื่นความร้อนเช่นเดียวกัน

ข่าวทีวีช่อง 3 วันอาทิตย์ ที่ 10 กรกฎาคม พ.ศ. 2554

ที่มา http://www.krobkruakao.com

 

<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%"><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>ชาวแอฟริกันนับแสนอพยพหาแหล่งน้ำ หลังประสบภัยแล้งรุนแรง</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=center><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4><TBODY><TR><TD class=body vAlign=center align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=center align=left>10 กรกฎาคม 2554 17:28 น.</TD></TR></TBODY></TABLE>

​

</TD></TR></TBODY></TABLE>ชาวแอฟริกันในภาคตะวันออกหลายแสนคนเดินเท้าหลายวันอย่างต่อเนื่อง เพื่อเสาะหาแหล่งน้ำในสภาพภัยแล้งที่รุนแรงที่สุดในรอบหลายสิบปี โดยพื้นที่ซึ่งผู้อพยพหนีภัยแล้งเข้ามารวมตัวเป็นจำนวนมาก ได้แก่ บริเวณพรมแดนของเคนยา ใกล้เอธิโอเปียและโซมาเลีย แพทย์ที่ให้การดูแลผู้อพยพ กล่าวว่า เด็กๆ ส่วนใหญ่อยู่ในสภาพขาดอาหารอย่างหนักจนเกิดอาการท้องร่วง หลายคนมีอาการผิวหนังลอกอย่างรุนแรงเนื่องจากขาดน้ำและอาหารเป็นเวลานาน รายงานแจ้งว่า ภัยแล้งรุนแรงนอกจากจะคุกคามชาวเคนยา โซมาเลีย และเอธิโอเปียแล้ว ขณะนี้ยังลุกลามไปยังยูกันดาและจิบูตีด้วย

องค์การช่วยเหลือเด็ก Save The Chrilldren ระบุว่า เด็กถึง 1 ใน 4 ของจำนวนเด็กทั้งหมดในเคนยากำลังเผชิญอันตรายจากภาวะขาดอาหารอย่างรุนแรงถึงขั้นอันตรายแล้ว

สำนักงานข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ หรือ UNHCR เผยว่า จำนวนผู้อพยพหนีภัยแล้งกำลังเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว เช่นเดียวกับจำนวนเด็กๆ ที่ขาดอาหารเข้าขั้นรุนแรง

ที่มา http://www.manager.co.th/Home/ViewNews.aspx?NewsID=9540000084668
</TD></TR></TBODY></TABLE>

 

<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%"><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>ชาวแหลมตะลุมพุกเฮ ได้จัดสรรที่ดินตั้งหมู่บ้านใหม่หลังถูกทะเลกลืนทั้งหมู่บ้าน</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=center><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4><TBODY><TR><TD class=body vAlign=center align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=center align=left>10 กรกฎาคม 2554 15:03 น.</TD></TR></TBODY></TABLE>

​

</TD></TR></TBODY></TABLE>นครศรีธรรมราช - ผู้ตรวจราชการแผ่นดินลงพื้นที่ เตรียมจัดสรรที่ดินตั้งหมู่บ้านใหม่ให้กับชาวแหลมตะลุมพุก 600 ครัวเรือน ทดแทนพื้นที่เก่าที่เสี่ยงต่อการเกิดเหตุคลื่นลมแรง หลังจากพื้นที่ถูกกัดเซาะและบ้านพังเสียหาย

วันนี้ (10 ก.ค.) นายจำเริญ ยุติธรรมสกุล ผู้ตรวจราชการสำนักนายกรัฐมนตรี และคณะเดินทางลงพื้นที่บ้านแหลมตะลุมพุก ตำบลแหลมตะลุมพุก อำเภอปากพนัง จังหวัดนครศรีธรรมราช เพื่อเข้าตรวจสอบสภาพพื้นที่และติดตามความเป็นอยู่ของประชาชนในพื้นที่หลังจากคณะรัฐมนตรีได้มีมติเมื่อวันที่ 3 พ.ค.2554 ให้ประชาชนในพื้นที่หมู่ที่ 1, 2 และ 3 ของตำบลแหลมตะลุมพุก จำนวน 600 ครัวเรือน เข้าใช้พื้นที่บริเวณป่าชายเลนซึ่งมีระยะห่างจากบริเวณที่อยู่อาศัยเดิมประมาณ 300 เมตร เพื่อเข้าอาศัยแทนพื้นที่เดิมที่มีความเสี่ยงต่อการเกิดเหตุคลื่นลมแรง และขณะนี้การดำเนินการอยู่ระหว่างการพิจารณาของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมคาดว่าจะแล้วเสร็จในเร็วๆ นี้

นายจำเริญ ยุติธรรมสกุล ผู้ตรวจราชการสำนักนายกรัฐมนตรีกล่าวว่า คณะรัฐมนตรีได้มีมติเมื่อวันที่ 3 พ.ค.2554 ให้ประชาชนจาก 600 ครัวเรือน เข้าใช้พื้นที่ป่าชายเลน จำนวน 150 ไร่ เพื่อเข้าอยู่อาศัยทดแทนพื้นที่เดิมที่ต้องได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์คลื่นลมกระโชกแรงเป็นประจำทุกปี และล่าสุด จากเหตุการณ์อุทกภัยเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา ความรุนแรงของสถานการณ์ส่งผลให้บ้านเรือนประชาชนพังเสียหาย คลื่นกัดเซาะพื้นดินในหมู่บ้านเข้าไปในเขตที่อยู่อาศัยของประชาชนได้รับความเดือดร้อนเป็นจำนวนมาก

สำหรับพื้นที่ป่าชายเลนในเขตพื้นที่ตำบลแหลมตะลุมพุก อำเภอปากพนัง มีเนื้อที่ครอบคลุมกว่า 28,000 ไร่ และในการขอเข้าใช้พื้นที่ครั้งนี้มีประชาชนที่เดือดร้อนแจ้งความประสงค์ขอใช้พื้นที่ จำนวน 600 ครัวเรือน รวมเนื้อที่ 150 ไร่ ซึ่งถือว่าไม่มากส่วนเขตหมู่บ้านเดิมจะกลายเป็นที่ดินสาธารณสมบัติ

ผู้ตรวจราชการสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า จากนี้จะมีการแต่งตั้งคณะทำงานเพื่อดูแลการอพยพประชาชนทั้ง 600 ครัวเรือน ดังกล่าวให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย ส่วนการดำเนินการหลังจากนั้นจะได้เร่งส่งเสริมดำเนินการด้านวัฒนธรรม ประเพณีท้องถิ่น และการส่งเสริมการท่องเที่ยวในพื้นที่ทั้งนี้เพื่อให้เกิดรายได้แก่ประชาชนที่ยั่งยืน

ผู้สื่อข่าวยังรายงานเพิ่มเติมอีกว่า นายจำเริญ ยุติธรรมสกุล ผู้ตรวจราชการสำนักนายกรัฐมนตรีในฐานะผู้ช่วยเลขานุการ คชอ.และเลขานุการศูนย์ประสานการช่วยเหลือผู้ประสบภัย ได้เดินทางต่อเข้าตรวจติดตามการใช้จ่ายงบประมาณ เพื่อใช้ในการก่อสร้างบ้านตามโครงการ “เรินน้ำใจ” และติดตามการฟื้นฟูเพื่อการช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติ ที่เป็นงบกลาง จำนวน 370 ล้านบาท ของจังหวัดนครศรีธรรมราช โดยเฉพาะในเรื่องของการก่อสร้างบ้านของประชาชนที่ได้รับคามเสียหายทั้งหลัง จำนวน 337 หลังคาเรือน การให้ความช่วยเหลือระยะแรก 232 หลัง ประกอบด้วย บ้าน “เรินน้ำใจ” 125 หลัง และส่วนอื่นๆ ภาคเอกชนได้เข้าร่วมอีกเป็นจำนวนมาก เป็นที่น่าพอใจในความช่วยเหลือเป็นอย่างยิ่ง

ที่มา http://www.manager.co.th/Local/ViewNews.aspx?NewsID=9540000084609
</TD></TR></TBODY></TABLE>

 

<OBJECT class=inlineimg title=Open-mouthed border=0 codeBase="http://download.macromedia.com/pub/shockwave/cabs/flash/swflash.cab#version=6,0,40,0" alt="" classid="clsid:d</OBJECT>
โผล่อีก! เด็กชายบราซิล โชว์เจ๋ง เป็นมนุษย์แม่เหล็ก
Mthai news: สำนักข่าวเดอะซัน รายงานว่า เด็กชายเดวิด อมอริม วัย11ปี ชาวบราซิล โชว์พลังพิเศษที่อ้างว่า เป็น “มนุษย์แม่เหล็ก” วัตถุต่างๆที่เป็นโลหะ ติดกับร่างของเขาได้โดยไม่ตกกับพื้น โดยนายจูเนียร์ พ่อของเด็กชายพิสูจน์ให้ช่างภาพดู ด้วยการหยิบช้อนส้อม มีด กรรไกร กระทะ กล้องถ่ายรูป และวัตถุอื่นๆที่เป็นโลหะวางไว้บริเวณหน้าอกและหน้าท้อง ซึ่งวัตถุเหล่านั้นยังคงติดอยู่กับร่างกายไม่ตกกับพื้นแม้แต่ชิ้นเดียว

พ่อของเขาบอกว่า หลังจากที่ได้รับทราบข่าวว่ามีเด็กชายชาวโครเอเชียรายหนึ่งเป็นมนุษย์แม่เหล็ก จากนั้นจึงได้ทดสอบกับลูกชายของตน ก็ต้องประหลาดใจเมื่อรู้ว่าลูกของตนก็เป็นอีกหนึ่งคนที่มีความสามารถพิเศษเช่นนี้

ก่อนหน้านี้ เด็กชายอิวาน สตอลจ์โควิค วัย 6 ขวบชาวโครเอเชีย โด่งดังไปทั่วโลก ความสามารถพิเศษของ อิวาน นั้นเหมือนกับตัวละคร Magneto ในการ์ตูนและภาพยนตร์ชื่อดัง “X-Men” ซึ่งมีความสามารถในการเคลื่อนย้ายและควบคุมแม่เหล็กหรือโลหะได้ พ่อแม่ของเขาบอกว่า Ivan สามารถแบกรับน้ำหนักได้ถึง 25 กก. ซึ่งได้รับการยืนยันเมื่อ Ivan สามารถแบกถุงปูนที่หนักถึง 50 ปอนด์ (22.67 กก.)ได้


นอกจากนี้ เด็กชายบอกจ์แดน วัย 7 ขวบ ชาวเซอร์เบีย ก็มีความสามารถพิเศษที่ไม่เหมือนเด็กคนอื่นๆ เมื่อนำวัตถุที่เป็นโลหะ ทั้งกล้องถ่ายรูป ไมโครโฟน ช้อนส้อม มาวางไว้ที่บริเวณหน้าอก ซึ่งก็ไม่มีวัตถุชิ้นไหนเลยที่ตกลงพื้น

อีกทั้งยังใช้มือเคลื่อนย้ายตำแหน่งได้ ที่น่าทึ่ง อีกอย่างหนึ่งคือ แม้กระทั่งวัตถุที่ไม่ใช่โลหะอย่าง จาน ถ้วยชาม ก็ยังติดอยู่ที่บนหน้าอกของเด็กชายบอกจ์แดน อีกด้วย

ทั้งนี้ ยังไม่มีการอธิบายทางการแพทย์ว่า กรณีเช่นนี้เกิดขึ้นจากสาเหตุใด

<OBJECT codeBase="http://download.macromedia.com/pub/shockwave/cabs/flash/swflash.cab#version=6,0,40,0" classid=clsid:d27cdb6e-ae6d-11cf-96b8-444553540000 width=560 height=349>
























<embed width="560" height="349" type="application/x-shockwave-flash" src="http://www.youtube-nocookie.com/v/zCkrkt3Df1s?version=3&hl=th_TH" allowFullScreen="true" allowscriptaccess="always" allowfullscreen="true"/></OBJECT>
</P>

 

<TABLE border=0 width=670 bgColor=#ffffff><TBODY><TR bgColor=#ffcae3><TD>11-13ก.ค.นี้ทั่วประเทศมีฝนเพิ่มขึ้น-กทม.มีฝน70%ของพื้นที่ </TD></TR><TR><TD> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width=668><TBODY><TR><TD class=A2 vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD></TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>

กรมอุตุนิมวิทยา พยากรณ์อากาศประจำวันที่ 11 กรกฏาคม 2554 ลักษณะอากาศทั่วไปเมื่อเวลา 04:00 น.


มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย มีกำลังแรง ประกอบกับมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมประเทศเวียดนามตอนบน ลักษณะเช่นนี้ทำให้ทั่วประเทศจะมีฝนเพิ่มขึ้น และมีฝนตกหนักกับมีลมกระโชกแรงบางแห่งบริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลางและภาคตะวันออก
ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักในระยะนี้ ส่วนคลื่นลมในทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบนจะมีกำลังแรงขึ้นในช่วงวันที่ 11-13 ก.ค. 2554 ขอให้ชาวเรือบริเวณดังกล่าวระมัดระวังอันตรายในการเดินเรือในช่วงนี้
พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทยตั้งแต่เวลา 06:00 วันนี้ ถึง 06:00 วันพรุ่งนี้.


ภาคเหนือ มีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไป ร้อยละ 70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักกับมีลมกระโชกแรงบางแห่งบริเวณจังหวัดเชียงราย แม่ฮ่องสอน พะเยา น่าน อุตรดิตถ์ พิษณุโลก และเพชรบูรณ์ อุณหภูมิต่ำสุด 23-26 องศา อุณหภูมิสูงสุด 32-35 องศา ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-25 กม./ชม.

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไป ร้อยละ 70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักกับมีลมกระโชกแรงบางแห่งบริเวณจังหวัดหนองคาย บึงกาฬ เลย หนองบัวลำภู อุดรธานี สกลนคร นครพนม ขอนแก่น ชัยภูมิ มุกดาหาร และกาฬสินธุ์ อุณหภูมิต่ำสุด 23-26 องศา อุณหภูมิสูงสุด 32-35 องศา ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.

ภาคกลาง มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 60 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง ส่วนมากบริเวณจังหวัดนครสวรรค์ อุทัยธานี กาญจนบุรี สุพรรณบุรี และราชบุรี อุณหภูมิต่ำสุด 25-26 องศา อุณหภูมิสูงสุด 35-36 องศา ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.

ภาคตะวันออก มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง บริเวณจังหวัดจันทบุรี และตราด อุณหภูมิต่ำสุด 24-26 องศา อุณหภูมิสูงสุด 31-35 องศา ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก) มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดเพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร สุราษฎร์ธานี และนราธิวาส อุณหภูมิต่ำสุด 24-25 องศา อุณหภูมิสูงสุด 32-35 องศา ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก) มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง บริเวณจังหวัดระนอง พังงา และสตูล อุณหภูมิต่ำสุด 22-26 องศา อุณหภูมิสูงสุด 32-34 องศา ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 20-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง ประมาณ 2 เมตร

กรุงเทพมหานครและปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไป ร้อยละ 70 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 25-26 องศา อุณหภูมิสูงสุด 34-36 องศา ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-35 กม./ชม.





</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width=668><TBODY><TR><TD class=A2 vAlign=top>
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width=668><TBODY><TR><TD class=A2 vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD></TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE border=0 width=670 bgColor=#ffffff><TBODY><TR bgColor=#ffcae3><TD> เปลี่ยน"สบง-จีวร"อดีตเกจิดังไม่เน่าเปื่อย </TD></TR><TR><TD> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width=668><TBODY><TR><TD class=A2 vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD></TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width=668><TBODY><TR><TD class=A2 vAlign=top>ชาวบ้านเสาไห้ จ.สระบุรี พร้อมด้วยศิษยานุศิษย์ร่วมใจเปลี่ยน"สบง,จีวร"ถวาย"หลวงพ่อย้อย"อดีตเกจิดังสังขารไม่เน่าเปื่อย


วันนี้ (10 ก.ค.) ณ.วิหารที่ตั้งสังขาร พระอธิการย้อย ปุญญมี (หลวงพ่อย้อย) อดีตเจ้าอาวาสวัดอัมพวัน ต.ศาลารีไทย อ.เสาไห้ จ.สระบุรี พระครูสุวิมล ธรรมรัต เจ้าอาวาสองศ์ปัจจุบันพร้อมด้วยศิษยานุศิษย์ และชาวบ้านในอ.เสาไห้ พร้อมใจกันจัดเตรียม “ชุดสงฆ์” สบง,จีวร ครบชุดเพื่อเปลี่ยนชุดครองใหม่ให้กับ “หลวงพ่อย้อย” เกจิดังที่สังขารไม่เน่าเปื่อย โดยพระครูสุวิมล และพระลูกวัดได้ทำความสะอาดรอบๆโลงแก้วที่บรรจุสังขารหลวงพ่อย้อยก่อนเปิดฝา โลงช่วยกันเชิญสังขาร หลวงพ่อย้อยออกจากโลง มาทำความสะอาดสรงน้ำปิดทอง ครองสบงจีวรชุดใหม่อย่างเรียบร้อยเสร็จแล้ว เชิญสังขารหลวงพ่อบรรจุไว้ในโลงแก้วเพื่อให้สาธุชนศรัทธาได้กราบไหว้เช่น เดิม

สำหรับประวัติหลวงพ่อย้อย เป็นชาวบ้านอัมพวัน ต.ศาลารีไทย อ.เสาไห้ จ.สระบุรี

โดยกำเนิด บรรพชาตั้งแต่สามเณรเมื่อายุได้ 16 ปี อายุครบ 21 ปีบริบูรณ์ได้อุปสมบทที่วัดอัมพวัน เมื่อ 17 มิ.ย.2456 โดยมีพระครูสา วัดวังแดงเหนือ อ.ท่าเรือ จ.พระนครศรีอยุธยา เป็นพระอุปัชฌาย์ ได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดอัมพวัน เมื่อปี พ.ศ.2461 ขณะเมื่ออายุเพียง 26 ปี ถึงแก่มรณภาพ เมื่อวันที่ 19 ธันวาคม พ.ศ.2525 รวมอายุขณะมรณภาพได้ 90 ปี และเป็นที่อัศจรรย์ยิ่งนักเพราะสังขารของท่านไม่เน่าไม่เปื่อย ลูกศิษย์ลูกหา และชาวบ้านจึงเก็บสังขารของท่านบรรจุใส่โลงแก้ว ซึ่งต่อมาได้จัดสร้างวิหารเชิญสังขารของหลวงพ่อมาประดิษฐานไว้ให้ประชาชน ทั่วไปได้กราบไหว้ขอสิ่งที่ปรารถนามักประสบผลสำเร็จ และทุกๆปี ในวันที่10 ก.ค. จะกระทำพิธีเปลี่ยนชุดครอง (สงฆ์) ให้เป็นประจำทุกปี


</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์เดลินิวส์
</CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

สรุปว่าอากาศแปลกๆไปทั่วโลกเลยนะคะ ดิฉันอยู่มหาสารคาม บางวันก็รู้สึกเย็นๆเหมือนจะหนาว แต่ส่วนมากร้อน แล้วก็ฝน ก็รู้สึกว่าเป็นหน้าฝนอยู่ แต่เห็น comment เพื่อนๆแล้ว รู้สึกว่า รึว่าเวลาเราเดินไม่เท่ากัน ไม่น่าเป็นไปได้นะคะ
ดิฉันเป็นคนนึงที่ได้เห็นปรากฏการณ์ดาวนิบิรุ (พระอาทิตย์ 2 ดวง) มาแล้ว รู้สึกแปลกใจมากเลย ว่าเป็นไปได้อย่างไร มีใครเห็นแล้วรู้สึกแปลกแบบเราไหม แบบว่าเห็นที่บ้านตัวเองเลย แต่หลังจากนั้นก็ไม่เห็นอีกเลยค่ะ ว่าจะถ่ายรูปหรือถ่ายวีดีโอเก็บไว้ซักหน่อย วันที่เห็นนั้นไม่ได้เตรียมตัว พาลูกไปนั่งรถเข็นเดินเล่น มองไปที่พระอาทิตย์ เพราะพึ่งได้ดูคลิปนิบิรุเมื่อ 2-3 วันก่อน ซึ่งไม่แน่ใจว่าเป็นตอนเช้าหรือตอนเย็น เลยลองดู ซึ่งที่ดิฉันดูเป็นเวลาใกล้ค่ำ ห้าโมงกว่าๆค่ะ ไม่รู้เหมือนกันว่าจะเกี่ยวกับสภาพอากาศที่แปรปรวนรึเปล่า

 

ความรู้สึกดังกล่าวดิฉันก็เป็นจ๊ะ พอดีนอนดูทีวีในบ้านอากาศร้อนมาก ๆ(จังหวัดสุรินทร์) แต่กลับมีไอเย็นมาจากไหนก็ไม่รู้ได้พักหนึ่ง ก็ยังงงอยู่ว่าทำไมมีไอเย็น ๆ มาได้ทั้งที่บ้านไม่ได้ติดตั้งแอร์และก็ไม่ได้นอนอยู่ใกล้ตู้เย็นซะหน่อย แต่คิดว่าไม่ได้คิดไปเอง ต้องมีอะไรสักอย่างแน่ ๆ เลย

 

วันที่ 11 กรกฎาคม พ.ศ. 2554 ปีที่ 21 ฉบับที่ 7529 ข่าวสดรายวัน


หรูที่ซู้ด

เอิ๊กอ๊ากอินเตอร์


<TABLE cellSpacing=5 cellPadding=0 width=360 align=left border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle bgColor=#e0e0e0>
</TD></TR></TBODY></TABLE>อะไรจะขนาดน้านนน!!

โรงแรมบาร์กลีย์ ในลอสแองเจลิส สหรัฐอเมริกา ขึ้นแท่นเป็นโรงแรมสุดหรูที่สุดในโลกสำหรับหมาแมว บริการอาหารเช้า หรือเบรกฟาสต์มากินบนเตียงยังได้

นวดสปาอะไรมีโม้ด ตัดเล็บ แคะหู หรือย้อมขนก็มี จะไปเที่ยวไหน รถลิมูซีนมาเลยครับ..รับ-ส่ง

เจ้านายของสี่ขา ไม่ต้องกลัวสุดที่รักจะหลง เพราะในโรงแรมมีคนเฝ้าตลอด ส่งภาพให้ดูได้ทุกระยะผ่านมือถือ

...มันจะทำ 'เสียหมา' ก็งานนี้แหละท่าน!!

จีนสรุปพิบัติภัย ครึ่งปีดับ500ศพ



ซินหัวรายงานว่า เมื่อ 10 ก.ค. รัฐบาลจีนสรุปสถิติความเสียหายจากภัยธรรมชาติตลอดครึ่งแรกของปีนี้ว่า จีนมีแผ่นดินไหวบ่อยครั้ง โดยมี 7 ครั้ง ที่รุนแรงระดับ 5 ริกเตอร์ขึ้นไป รวมถึงพายุฤดูร้อนอีก 3 ลูก รวมมีผู้เสียชีวิต 449 ราย สูญหาย 100 คน

กระทรวงกิจการพลเรือนเผยว่า พิบัติภัยที่เกิดขึ้นทำให้ประชาชนไร้ที่อยู่อาศัยร่วม 3 ล้านคน บ้านเรือนพังเสียหาย 274,000 หลัง สร้างความเสียหายให้กับเศรษฐกิจจีนคิดเป็นมูลค่าราว 660,000 ล้านบาท

ผู้เสียชีวิตร้อยละ 60 อยู่ในมณฑลหูเป่ย หูหนานตอนกลางของจีน รวมถึงเสฉวน กุยโจว และยูนนานทางตะวันตกเฉียงใต้

รัฐบาลกลางจัดหาเต็นท์ให้ผู้ประสบภัย มากกว่า 20,000 หลัง รวมถึงเสื้อผ้าอีก 390,000 ชุดรวมถึงเงินช่วยเหลืออีก 7,000 ล้านบาท

สปสช.นำร่องทำฟันฟรี



ท.พ.วิรัตน์ เอื้องพูลสวัสดิ์ รองผอ.สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) กล่าวว่า จากข้อมูลสำนักงานสถิติแห่งชาติ พบว่า การเข้าถึงบริการทันตกรรมของประชากรทั้งประเทศมีไม่ถึงร้อยละ 10 ถือว่าน้อยมาก ปัจจัยหนึ่งเกิดจากผู้เข้ารับบริการต้องเข้าคิวเพื่อรอรับบริการนาน

ขณะนี้ สปสช.นำร่องโดยดึงคลินิกเอกชนเข้ามามีส่วนร่วมให้บริการ ภายใต้ข้อตกลงร่วมกัน โดยจ่ายเงินให้คลินิกแบบสมเหตุสมผล เริ่มที่จ.สมุทรปราการ นครราชสีมา อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา และกรุงเทพฯ ซึ่งมีเสียงตอบรับดี

"ที่ร.พ.หาดใหญ่ พัฒนาระบบบริหารการอุดฟัน เคลือบหลุมฟัน โดยจ่ายคูปองให้เด็กที่มีชื่ออยู่ในสถานพยาบาลที่เป็นคู่สัญญาของหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า ซึ่งจะนำคูปองให้มารดานำไปแสดงเพื่อใช้บริการที่คลินิกเอกชนที่ร่วมให้บริการโดยไม่ต้องจ่ายเงิน แต่ให้คลินิกนำคูปองไปเรียกเก็บเงินกับร.พ.ภายหลัง

สำหรับงบบริการทันตกรรมในปีི มีจำนวน 39.25 บาทต่อประชากร แบ่งงบเป็น 2 ส่วน คือ 1.วงเงิน 2.25 บาทต่อประชากร 47 ล้านคน มุ่งเน้นทำฟันปลอมผู้ที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไป และ 2.งบที่เหลืออีก 36 บาท ใช้ส่งเสริมสุขภาพช่องปากในประชากร 63 ล้านคน เน้นเปิดโอกาสให้เด็กวัยเรียนอายุต่ำกว่า 12 ปี ใช้บริการเพื่อป้องกันปัญหาฟันผุ โดยกองทุนทันตกรรม แบ่งการให้บริการเป็น 2 ส่วนใหญ่ๆ คือ ทันตกรรมส่งเสริมป้องกัน และทันตกรรมฟันประดิษฐ์"

ซันวาชวนซื้อก๊อกน้ำทำบุญ



นายพงษ์ชัย จินดาสุข ผู้อำนวยการฝ่ายขายและการตลาด กลุ่มบริษัท จินดาสุข กล่าวว่า ทางบริษัทได้จัดกิจกรรมไปทำบุญตามวัดเป็นประจำ ทำให้พบว่าวัดส่วนใหญ่ในประเทศไทยใช้ก๊อกน้ำไม่มีคุณภาพ เป็นก๊อกน้ำที่มีไส้ในเป็นเหล็ก ส่งผลให้เป็นสนิม รั่ว และน้ำไม่มีคุณภาพ ช่วงเข้าพรรษานี้ ซันวาจึงอยากชวนคนไทย ร่วมใส่ก๊อกในชุดสังฆทาน เพื่อให้วัดต่างๆ ได้มีก๊อกคุณภาพใช้ และยังส่งเสริมมงคลดีๆ ให้กับตัวเอง

อย่างไรก็ตาม กิจกรรมส่งเสริมการตลาดของซันวาในครั้งนี้ ไม่ได้เน้นหวังสร้างยอดขาย แต่หวังเชิญชวนลูกค้าร่วมทำบุญด้วยการนำเงิน 1 บาท จากการซื้อก๊อกทุกตัว รวมกับอีก 1 บาทที่ทางซันวา สมทบเพิ่ม ร่วมถวายให้แก่ โรงพยาบาลสงฆ์ เป็นกิจกรรมที่ทางบริษัททำมาอย่างต่อเนื่องในช่วงเข้าพรรษา และนอกจากนี้ ในนามบริษัทเอง ได้มีการร่วมถวายก๊อกให้แก่วัดต่างๆ จำนวน 999 วัด ให้แก่วัดที่ขาดแคลน เพื่อให้วัดและชุมชน ได้ใช้ก๊อกที่มีคุณภาพ

คลังห่วงนโยบายรัฐทำเงินเฟ้อพุ่ง



รายงานข่าวกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ในวันจันทร์ที่ 11 ก.ค. ทีมเศรษฐกิจพรรคเพื่อไทย (พท.) ได้เรียกนายอารีพงศ์ ภู่ชอุ่ม ปลัดกระทรวงการคลัง และผู้บริหารระดับสูง เข้าหารือถึงการทำนโยบายต่างๆ ของ พท. เพื่อนำไปเขียนเป็นนโยบายของรัฐบาลแถลงต่อรัฐสภา ในส่วนนโยบายที่กระทรวงการคลังต้องดำเนินการ ไม่ว่าจะเป็นการรับจำนำข้าว ทำบัตรเครดิตเกษตรกร แก้หนี้ไม่เกิน 5 แสนบาท ลดภาษีเงินได้นิติบุคคล คืนภาษีบ้านและรถยนต์คันแรก ปล่อยสินเชื่อบ้าน 0% 5 ปี ซึ่งกระทรวงการคลังจะรายงานผลดีผลเสีย ข้อจำกัดของแต่ละนโยบายให้รับทราบ ที่สำคัญผลกระทบจากนโยบายของพท.ที่จะทำให้เงินเฟ้อสูงขึ้น โดยเฉพาะการขึ้นค่าแรงเป็นวันละ 300 บาท ปรับเงินเดือนผู้จบปริญญาตรี 15,000 บาท ซึ่งขึ้นสูงกว่า 30% จะมีผลทำให้อัตราเงินเฟ้อพื้นฐานสูงขึ้น เพราะการเพิ่มค่าแรงมีสัดส่วนในการคิดอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานถึง 20%

นายยรรยง พวงราช ปลัดกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า ได้มอบหมายให้แต่ละกรมและหน่วยงานในกระทรวงพาณิชย์ เตรียมจัดทำนโยบายของกระทรวงเพื่อรองรับรัฐบาลชุดใหม่ เมื่อสามารถจัดตั้งคณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้ จะสามารถดำเนินงานได้ทันที สำหรับราคาสินค้าให้กรมการค้าภายในและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเตรียมแนวปฏิบัติเสนอรัฐบาลใหม่ เป้าหมายมุ่งกำกับดูแลราคาให้เหมาะสมและสอดคล้องกับต้นทุน เพื่อความเป็นธรรมแก่เกษตรกรผู้ผลิต ผู้ประกอบการ และผู้บริโภค

นอกจากนี้ ตั้งเป้าหมายเงินเฟ้อในปีนี้จะอยู่ระหว่าง 3.2-3.7% ภายใต้สมมติฐานราคาน้ำมันดิบ ดูไบอยู่ที่ 78-88 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล อัตราแลกเปลี่ยน 28-33 บาทต่อเหรียญสหรัฐ

ข้าวถุงเตรียมโขกราคาเดือนส.ค.นี้ โวยพิษรับจำนำ-ปรับค่าแรงดันต้นทุนกระฉูด



นายสมเกียรติ มรรคยาธร นายกสมาคมผู้ประกอบการข้าวถุงไทย กล่าวว่า ขณะนี้โรงสีได้ประกาศหยุดซื้อขายข้าวชั่วคราวแล้ว เพื่อรอดูความชัดเจนเกี่ยวกับนโยบายรับจำนำว่าจะมีรายละเอียดและเริ่มดำเนินโครงการเมื่อใด รวมทั้งยังคาดการณ์ว่าราคาข้าวจะสูงขึ้นอีกจึงชะลอการขาย ทำให้หาซื้อข้าวมาบรรจุถุงเพื่อจำหน่ายยากขึ้น ขณะที่ภาวะการขายข้าวสารบรรจุถุงในตลาดยังเป็นไปตามปกติ โดยขณะนี้ผู้ประกอบการข้าวถุงมีสต๊อกข้าวสารเหลือไว้จำหน่ายได้ประมาณ 2 เดือนเท่านั้น

ทั้งนี้ ราคาข้าวเปลือกในตลาดปรับสูงขึ้นมากในขณะนี้ โดยเฉพาะข้าวสารหอมมะลิราคาปรับขึ้นจากกิโลกรัม(ก.ก.) ละ 28-30 บาท เป็นก.ก.ละ 30-32 บาท ส่งผลกระทบโดยตรงต่อต้นทุนข้าวสารบรรจุถุง โดยมีการคาดการณ์ว่าจากนี้ไปจนถึงสิ้นปีราคาข้าวเปลือกจะปรับสูงขึ้นอีก 60% นอกจากนี้ การเตรียมปรับขึ้นค่าแรงเป็นวันละ 300 บาท ทั่วประเทศจะซ้ำเติมภาระต้นทุนข้าวสารบรรจุถุงให้สูงขึ้นอีก เนื่องจากค่าแรงงานในกระบวนการผลิตและขนส่งข้าวสารบรรจุถุงมีสัดส่วนมากถึง 8% ต้นทุนวัตถุดิบ 80% ที่เหลืออีก 12% เป็นต้นทุนด้านอื่นๆ โดยหากมีการปรับขึ้นค่าแรงเป็นวันละ 300 บาท ต้นทุนค่าจ้างแรงงานจะเพิ่มขึ้นวันละ 80 บาท คือจะปรับจากวันละ 220 บาท เป็นวันละ 300 บาท จะทำให้ต้นทุนค่าจ้างแรงงานข้าวสารบรรจุถุงเพิ่มขึ้นอีก 3% และกลายเป็นสัดส่วนต้นทุน 11% ทันที

"ขณะนี้เรามีสต๊อกข้าวเหลืออีก 1-2 เดือน ซึ่งเป็นต้นทุนเก่า จะยังไม่ปรับขึ้นราคาข้าวสารถุง แต่ในอีก 2 เดือน เมื่อ สต๊อกข้าวเก่าหมด คาดว่าช่วงเดือนส.ค.นี้ อาจจะต้องปรับขึ้นราคาข้าวสารบรรจุถุง เพราะต้องซื้อข้าวใหม่ซึ่งมีราคาแพงมาบรรจุถุงเพื่อจำหน่าย ขณะที่ปีหน้าอาจจะต้องมีการพิจารณาราคาข้าวสารอีกครั้งหากรัฐบาลประกาศใช้อัตราค่าจ้างแรงงานใหม่ที่วันละ 300 บาท ในช่วงต้นปีหน้า เพราะผู้ประกอบการมีต้นทุนค่าแรงเพิ่มสูงขึ้นอีก 3% เช่นกัน" นายสมเกียรติกล่าว

นายสมเกียรติ กล่าวว่า ต้องการให้กระทรวงพาณิชย์ให้ความชัดเจนเกี่ยวกับนโยบายการกำหนดราคาข้าวสารว่า ควรจะต้องสอดคล้องกับต้นทุนราคาข้าวเปลือกในโครงการรับจำนำ เพื่อไม่ให้ผู้ประกอบการต้องขาดทุนซื้อแพงขายถูก ควรปล่อยราคาให้เป็นไปตามกลไกราคาข้าวเปลือกในตลาดด้วย ซึ่งสมาคมอาจจะขอเข้าพบรมว.พาณิชย์คนใหม่ เพื่อขอรับทราบนโยบายดังกล่าวด้วย ซึ่งมาตรการดูแล ราคาข้าวสารบรรจุถุงที่ผ่านมา กรมการค้าภายในกำหนด ให้ผู้ประกอบการต้องแสดงต้นทุนหากมีการแจ้งขอปรับราคาจำหน่าย

ส่วนกรณีที่หลายฝ่ายมองว่าหากผู้ประกอบการข้าวถุงมีการปรับราคาจำหน่ายจนทำให้ราคาแพง อาจทำให้รัฐบาลผลิตข้าวสารบรรจุถุงออกมาจำหน่ายแข่งในราคาถูกกว่านั้น ตนมองว่าขึ้นอยู่กับผู้บริโภคว่าจะยอมรับเรื่องคุณภาพข้าวสารของรัฐบาลได้หรือไม่ เนื่องจากข้าวในสต๊อกรัฐบาลส่วนใหญ่เป็นข้าวที่ไม่ได้มีการควบคุมคุณภาพเหมือนกับของผู้ประกอบการเอกชน ซึ่งตนมองว่าผู้บริโภคสมัยใหม่อาจให้ความสำคัญกับด้านคุณภาพมากกว่าราคา โดยยอมจ่ายแพงกว่าเพื่อบริโภคข้าวคุณภาพดี เนื่องจากเป็นสินค้าหลักที่ต้องบริโภคทุกวัน

พายุหมุนถล่มเมืองอุดร หลังคาร้านเปิดเปิง

<STYLE> P { margin: 0px; } </STYLE>
เมื่อเวลา 11.00 น.วันที่ 11 กรกฎาคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อกลางดึกของคืนวันที่ 10 ก.ค. หลังจากเกิดฝนตกหนักตลอดทั้งคืนในพื้นที่อุดรธานีและได้เกิดพายุหมุนขนาดใหญ่ถล่มบ้านเรือนราษฎรในพื้นที่บ้านบ้านไก่เถื่อน เขตเทศบาลหนองสำโรง อ.เมืองอุดร ทำให้ประชาชนที่มีบ้านเรือนอยู่บริเวณ ถนนสายอุดรธานี-หนองคายเสียหายหนัก โดยเฉพาะเต็นท์รถมือ 2 ของร้านวัฒนะออโต้ ที่โดนพายุถล่มทำให้หลังคาร้านส่วนใหญ่เป็นเหล็กได้ถล่มมาทับรถยนต์ที่จอดไว้รอจำหน่ายเสียหายกว่า 20 คันค่าเสียหายประมาณ 14 ล้านบาท

นอกจากนี้ยังมีร้านจำหน่ายหนังสืออุดรอักษรเจริญ เลขที่ 213 หมู่ 8 ถ.อุดรธานี-หนองคายซึ่งเป็นร้านขายส่งหนังสือแบบเรียน อุปกรณ์การเรียนการสอน อุปกรณ์เด็กเล่น พายุได้พัดเข้าไปภายในร้านอย่างแรง ทำให้ภายในร้านพังเสียหายยับ โดยฝาผนังหน้าร้าน ประตูกระจก ฝ้าเพดาน กำแพง 2 ด้าน พังถล่มลงมาทำลาย ข้าวของสินค้าภายในร้านเสียหาย เพราะแรงลม และน้ำฝน

น.ส.ปณช พันอินากูล อายุ 41 ปี เจ้าของร้านอุดรอักษรเจริญ กล่าวถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ว่า ขณะเกิดเหตุ เมื่อเวลาประมาณ 3 ทุ่มตนและบุตรชายวัย 7 ขวบกำลังนอนพักผ่อนอยู่ในห้องนอนภายในร้านจู่ๆ ก็ได้ยินเสียงหลังคาร้านถล่ม มีเสียงกระจกแตกครืนใหญ่ ลูกชายได้วิ่งออกมามาดูร้านพร้อมกับเรียกตนบอกว่าว่าร้านพังแล้ว

ขณะที่ตนรีบออกมาจากห้องนอน ทันใดนั้นหลังคาห้องนอนก็พังถล่มลงมา ทำให้รอดตายหวุดหวิด พายุมาเร็วมากเพียง 5 นาทีก็ทำให้ร้านตนเองพังพินาศเป็นราบเป็นหน้ากลอง ถือว่าเป็นถือเป็นพายุถล่มที่หนักสุดในรอบ 20 ปี เบื้องต้นร้านเสียหายหมดทั้งหลังคา ตัวอาคาร เครื่องเขียนแบบเรียน บริเวณหน้าร้านที่เป็นกระจกหล่นลงมาแตกยับ ค่าเสียหายประมาณ 5 ล้านบาท

จากเหตุการณ์พายุถล่มเมื่อกลางดึกของคืนที่ผ่านมา ทำให้เสาไฟฟ้าแรงสูงของสำนักงานการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคจังหวัดอุดรธานีจำนวน 20 ต้น ได้โค่นลงขวางถนนทางไป จ.หนองคายทำให้บริเวณดังกล่าวไฟฟ้าดับ และในขณะนี้ไฟฟ้าในเขตเทศบาลหนองสำโรงรวมทั้งในเขตข้างเคียงก็ยังใช้การไม่ได้ ขณะนี้เจ้าหน้าที่การไฟฟ้ากำลังเร่งรื้อถอนและซ่อมแซมเป็นการด่วนแล้ว

 

อินโดนีเซีย..ภูเขาไฟโลกอนใกล้ระเบิด​

​

เจ้าหน้าที่อินโดนีเซียเพิ่มระดับการเตือนภัยของภูเขาไฟโลกอน ทางตอนเหนือของเกาะสุลาเวสี ของอินโดนีเซียไปที่ระดับสูงสุด และขอร้องให้ประชาชนที่อาศัยอยู่ทางตะวันออกของปากปล่องภูเขาไฟอพยพออกมา

สำนักงานแผ่นดินไหวท้องถิ่นในเมืองบันดุง เปิดเผยว่า การเพิ่มระดับการเตือนภัยไปอยู่ที่ระดับสูงสุด มีขึ้นหลังภูเขาไฟโลกอนพ่นควันขึ้นสู่อากาศเป็นระยะทาง 500 เมตร

นายซูโรโน หัวหน้าศูนย์ภูเขาไฟวิทยา และการย้ายถิ่นหนีภัยทางธรณีวิทยาของอินโดนีเซีย กล่าวว่า นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ยังขอร้องให้ประชาชนที่อาศัยอยู่ห่างจากปากปล่องภูเขาไฟไปทางตะวันออก เป็นระยะทาง 3.5 กิโลเมตร อพยพออกมาแล้วเข้าไปอยู่ในเขตที่ปลอดภัยกว่าอีกด้วย โทรทัศน์ท้องถิ่นรายงานว่า เจ้าหน้าที่มีแผนจะเริ่มอพยพประชาชนในวันนี้

ภูเขาไฟโลกอนความสูง 1,580 เมตร หรือ 5,184 ฟุตลูกนี้ เคยระเบิดรุนแรงในปี 2534 ทำให้มีชาวต่างชาติคนหนึ่งเสียชีวิต และบังคับให้ประชาชนหลายพันคนต้องอพยพ อินโดนีเซียมีภูเขาไฟที่ยังคุกรุ่นถึง 130 ลูก ซึ่งมากกว่าประเทศใดในโลก

ข่าวทีวีช่อง 3 วันอังคาร ที่ 12 กรกฎาคม พ.ศ. 2554

รถไฟตกรางที่อินเดียตาย 31 บาดเจ็บ 10​

​

เกิดอุบัติเหตุรถไฟตกรางที่ทางตอนเหนือของอินเดีย ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตกว่า 36 คน

นาย K.H Muniiapapa รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการรถไฟอินเดีย เดินทางไปที่เกิดเหตุรถไฟโดยสารซึ่งมี 16 โบกี้ตกรางที่ เมือง Fatehpur รัฐอุตระประเทศพร้อมสั่งการให้เร่งตรวจหาสาเหตุของของรถไฟตกรางครั้งใหญ่นี้

อุบัติเหตุดังลก่าวเกิดขึ้นเมื่อช่วงบ่ายวานนี้ โดยรถไฟจากเมือง Horwan มุ่งหน้าไปยังเมือง Kalka เชิงเขาหิมาลัย ขณะวิ่งด้วยความเร็ว 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง โดยที่ตู้โดยสารอย่างน้อย 1 ตู้ลอยขึ้นไปอยู่บนตัวรถไฟ ทำตู้อื่นๆรวม 16 ตู้ ถูกเหวี่ยงออกนอกรางจนกองกันพังยับเยิน หน่วยแพทย์, เฮลิคอปเตอร์ของกองทัพ รวมทั้งวิศวกรของกองทัพต่างเข้าช่วยเหลือและลำเลียงผู้ได้รับบาดเจ็บกันอย่างเร่งรีบ ขณะนี้มีผู้เสียชีวิต 36 คน คาดว่าจะเพิ่มสูงขึ้นอีก และบาดเจ็บ 125 คนแล้ว สำหรับจำนวนผู้โดยสารที่มากับรถไฟขบวนนี้ยังไม่ทราบเป็นที่แน่ชัด แต่โดยปกติแล้วรถไฟด่วนจะบรรทุกผู้โดยสารราว 1,000 คนและจะวิ่งด้วยความเร็ว 100-130 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

นายมานโมฮาน ซิงห์ นายกรัฐมนตรีอินเดียกล่าวว่ารู้สึกช็อคและเสียใจต่อการสูญเสียชีวิตที่เกิดขึ้น ขณะที่รัฐมนตรีการรถไฟได้ประกาศให้เงินชดเชยต่อครอบครัวผู้เสียชีวิตประมาณ 1 หมื่นดอลล่าร์ และ 2 พันดอลล่าร์สำหรับผู้ได้รับบาดเจ็บ

และไม่กี่ชั่วโมงต่อมาก็เกิดอุบัติเหตุรถไฟตกรางครั้งที่สองที่รัฐอัสสัม ทางตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศ ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บอย่างน้อย 100 คนตำรวจท้องถิ่นเผยว่าสาเหตุของการตกรางเกิดจากระเบิดที่ควบคุมด้วยรีโหมต ที่ทำให้ตู้โดยสาร 4 ตู้กระเด็นออกจากรางที่เมือง Rangiya มีรายงานว่ามีสองตู้ที่ตกลงไปในสระน้ำ คาดว่าจะมีผู้เสียชีวิต อย่างไรก็ตามมีการยืนยันว่าทั้งสองเหตุการณ์ไม่เกี่ยวข้องกัน

นับเป็นอุบัติเหตุทางรถไฟครั้งที่ 3 ที่เกิดขึ้นในรอบ 4 วัน โดยเมื่อวันพฤหัสบดีที่แล้วก็เกิดเหตุรถไฟชนรถบัสที่จุดข้ามรถไฟมีผู้เสียชีวิต 35 คน ระบบรถไฟใจอินเดียนับว่าใหญ่ที่สุดในโลกประเทศหนึ่ง มีผู้ใช้บริการถึงวันละ 14 ล้านคน และมักจะเกิดอุบัติเหตุบ่อยๆ ส่วนใหญ่เกิดจากความบกพร่องของมนุษย์และขาดการบำรุงซ่อมแซม

ข่าวทีวีช่อง 3 วันจันทร์ ที่ 11 กรกฎาคม พ.ศ. 2554

รัสเซียค้นหาผู้สูญหายเรือล่ม 101 คน​

​

เรือท่องเที่ยวรัสเซีย ซึ่งบรรทุกผู้โดยสาร 188 คน เกิดอับปางกลางแม่น้ำโวลก้า ในเมืองคาซาน ของรัสเซียวานนี้ ทำให้มีผู้เสียชีวตแล้ว 2 ราย ขณะที่อีกกว่า 100 คนยังสูญหาย

เจ้าหน้าที่กู้ภัยและนักประดาน้ำรัสเซีย เร่งค้นหาผู้โดยสารที่ยังสูญหาย 103 คน หลังเกิดเรือท่องเที่ยว"บัลกาเรีย" ซึ่งบรรทุกผู้โดยสารและลูกเรือรวม 188 คน อำปางอย่างรวดเร็ว กลางแม่น้ำ"โวลก้า" ขณะกำลังมุ่งหน้าไปเมืองคาซาน เขตทาทาร์สถาน ของรัสเซีย ท่ามกลางกระแสลมและฝนที่ตกลงมาอย่างหนัก เมื่อวานนี้ รายงานระบุว่าเรือท่องเที่ยวดังกล่าวจมลงในเวลาเพียงไม่กี่นาที โดยลูกเรือมีเวลาที่จะนำเรือชูชีพอพยพผู้โดยสารเพียง 2 ลำเท่านั้น ล่าสุดพบผู้เสียชีวิตแล้ว 2 คน

เจ้าหน้าที่ของกระทรวงฉุกเฉินประจำเขตทาทาร์สถาน เผยมีผู้โดยสารชาย ว่ายน้ำขึ้นฝั่งรอดตายมาได้ 2 คน ขณะที่อีก 83 คน ได้รับความช่วยเหลือจากเรือที่แล่นผ่านจุดเกิดเหตุพอดี และได้นำตัวส่งไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลบนฝั่งแล้ว ขณะที่ญาติของผู้โดยสารของเรือลำดังกล่าว มาร่วมตัวกันที่ท่าเรือ เพื่อรอฟังข่าวผู้สูญหายที่ขณะนี้ยังไม่ทราบชะตากรรม ท่ามกลางความหวังอันริบรี่ที่จะพบผู้รอดชีวิต

ด้านประธานาธิบดีดิมิทรี่ เม็ดเวเดฟ ผู้นำรัสเซีย ได้เร่งหาสาเหตุของเรืออำปางครั้งนี้ ล่าสุดยังไม่ทราบสาเหตุที่แน่ชัด แต่ทางการได้มุ่งเป้า อายุการใช้งาน และ สภาพของเรือท่องเที่ยวลำดังกล่าว เนื่องจากเรือท่องเที่ยวลำนี้ มีอายุเก่าแก่ สร้างเมื่อปี 1955 แล้ว

ข่าวทีวีช่อง 3 วันจันทร์ ที่ 11 กรกฎาคม พ.ศ. 2554

ที่มา http://www.krobkruakao.com

 

เวลาแต่ละที่เดินไม่เท่ากับเราว่ามันความเป็นไปได้อยู่นะแต่แค่ช่วงเวลาหนึ่งเท่านั้นแต่จริงๆ แล้วเท่ากัน เหมือนกับรถสองคันวิ่งเร็ววิ่งช้าต่างกันแต่ถึงที่หมายพร้อมกัน

เท่าที่เราสังเกตกับตัวเอง บางครั้งเราสะดุ้งตื่นมาแล้วตกใจว่าทำไหมมือถือไม่ปลุก ไปเรียนสายแน่เลย สรุปเพิ่งตีสี่ครึ่ง นั่งเอ๋ออยู่บนเตียงเพราะรู้สึกว่ามันต้องสิบโมงแล้วนะ แบบนอนอิ่ม ฝันจนเบื่อ บางครั้งก็หลับสนิท แบบบ่ายแล้วยังไม่ตื่น

 

กรกฎาคม แล้ว....ที่ผ่านมาก็ ญี่ปุ่นเต็มๆละ ที่เจอภัยพิบัติ...แต่ผมว่า ไทยเราตอนนี้ น่าเป็นห่วงเรื่องภัยพิบัติทางการเมือง มากกว่า ออกบ้านไปจอดอยู่4แยกสัญญาณไฟ สีแดง มันดันอยู่ข้างบนติดๆ กับสีเหลือง สีเขียวมันบอก ไม่อยากยุ่งการเมือง เลยหลบไปอยู่ล่างสุด อ่าว ดีเลย อิๆ ไฟเีขียว และ ไปๆ ออกรถ(ไม่ใช่รถถังนะ) อิๆ