ประเทศไทยจะเกิดอุบัติภัยอย่างที่ทำนายกันจริงๆหรือไม่

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย koymoo, 25 มกราคม 2005.

  1. marine24

    marine24 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    2,223
    ค่าพลัง:
    +15,632
    ถ้าบำเพ็ญศิลภาวนาธรรม สร้างบุญกุศลไว้ เขาธรรมะจัดสรร ท่านอาจจะรอดด้วยเหตุไปทำบุญ หรือไปทำธุระในพื้นที่ปลอดภัย คราวนี้ เขาปิดไม่มีการแจ้งเตือนล่วงหน้า เร่งรัดทำความเพียรให้มาก ขอให้บุญรักษาทุกท่าน ผมจัดของเตรียมพร้อมอพยพ ออกกำลังกาย ฝึกขี่จักรยานเสือภูเขาในระยะทางที่ไกล 30-50 กม. ควรมีจักรยาน ไว้ 1 คัน ไว้ใช้ยามฉุกเฉิน
     
  2. วรเดช

    วรเดช เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    1,753
    ค่าพลัง:
    +6,146
    [​IMG]
    กลุ่มฮิซบอล​เลาะห์ แถลง ปัดเอี่ยวบึ้มในไทย อินเดีย และจอร์เจีย
    ภายหลังที่ถูกมุ่งโจมตีว่า กลุ่มฮิซบอล​เลาะห์ อาจมีความเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ระเบิดในประเทศไทย เมื่อวันที่ 14 ก.พ.ที่ผ่านมา เนื่องจากได้รับการหนุนหลังจากอิหร่าน ซึ่งถูกอิสราเอลกล่าวหาว่าเป็นผู้อยู่เบื้องหลังเหตุระเบิด
    ล่าสุด (16ก.พ.) สำนักข่าวประเทศรายงาน นาสราล​เลาะห์ ​ผู้นำฮิซบอล​เลาะห์ ​แถลงว่า ยืนยันว่าทางกลุ่ม​ไม่มี​ความ​เกี่ยวข้อง​ใดๆ กับ​เหตุ​โจมตีนัก​การทูตอิสรา​เอล ​ในอิน​เดีย จอร์​เจีย ​และ​ไทย ​เมื่อช่วงต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา
    โดยเขาระบุยืนยันว่า ฮิซบอล​เลาะห์​ไม่​ได้​เกี่ยวข้องกับ​เหตุ​การณ์ ที่อิน​เดีย จอร์​เจีย ​และ​ไทย อย่างแน่นอน เพราะฮิซบอล​เลาะห์จะ​ใช้วิธี​การอื่นสำหรับ​แก้​แค้นพวกที่ฆ่า ​ไอมัด มุกห์นิยาห์ ​ผู้บัญชา​การระดับสูงของกลุ่ม ที่ถูกลอบสังหารด้วยระ​เบิด ​เมื่อวันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2008
    [​IMG]
    ทั้งนี้ ​เหตุระ​เบิดที่​เกิดขึ้น​เมื่อช่วงต้นสัปดาห์ ถือว่าเล็กน้อยมาก เกินกว่าจะ​เป็นฝีมือของฮิซบอล​เลาะห์ หากวันนั้นมา​ถึง ​เราจะ​แก้​แค้น​ให้ ​ไอมัด มุกห์นิยาห์ อย่างสม​เกียรติ แต่การแก้แค้นจะไม่ไปลงกับทหาร นักการทูต หรือพลเรือนชาวยิว



    [​IMG]
    ผู้สื่อข่าว Mthai News รายงานจากกองบัญชาการกองทัพไทย แจ้งวัฒนะว่าฯ นายวอลเตอร์ เอ็ม บราวโนเลอร์ โฆษกสถานฑูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย เปิดเผยว่า
    การเข้าพบผู้บัญชาการทหารสูงสุดของนางคริสตี้ย์ เอ เคนนี่ย์ เอกอัครราชฑูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทยครั้งนี้ เป็นความร่วมมือกับหน่วยราชการของไทยที่ดูแลเรื่องความมั่นคง แต่ไม่ขอสรุปเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เพราะอยู่ระหว่างการสอบสวน
    อย่างไรก็ตามสหรัฐอเมริกา ขอแสดงความเสียใจกับคนไทยที่ได้รับบาดเจ็บ พร้อมย้ำว่า การประกาศเตือนคนสหรัฐฯในประเทศไทยให้ระมัดระวังการเดินทางมายังประเทศไทย ไม่ใช่การห้ามเดินเดินทางเข้ามาในไทย
    และคนอเมริกา ยังรักที่จะมาประเทศไทยเพื่อท่องเที่ยวและทำธุรกิจ และช่วงนี้เป็นฤดูการท่องเที่ยว ซึ่งการประกาศเตือนของสหรัฐฯขอให้มองในแง่ดีว่า เป็นการเตือนทั้งชาวอเมริกัน และให้คนไทยได้ระมัดระวังด้วย
    อีกทั้งเพื่อให้ประชาชนมีส่วนร่วมแจ้งข้อมูลข่าวสาร อย่างไรก็ตามความร่วมมือของ 2 ประเทศยังมีความแข็งแกร่งในทุกด้าน อาทิ การทหาร การข่าวและอื่นๆ เพราะมีความสัมพันธ์ยาวนานกว่า 180 ปี พร้อมกันนี้เรียกร้องทุกประเทศ รวมทั้งอิหร่านให้ความร่วมมือกับไทยในการสอบสวน
    [​IMG]



    [​IMG]
    Mthai News ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวว่า หลังจากที่กระทรวงการต่างประเทศชี้แจงนานาประเทศเกี่ยวกับเหตุระเบิดที่เกิดขึ้นในกรุงเทพฯ ทำให้ต่างชาติเข้าใจสถานการณ์มากขึ้น
    โดยกระทรวงการต่างประเทศขอให้ประเทศต่างๆ ที่มีข้อมูลเกี่ยวกับการก่อการร้ายส่งข้อมูลมาให้ทางการไทย เพื่อตรวจสอบและป้องกันการก่อเหตุ ซึ่งขณะนี้ทางการอิหร่านเองก็มีการออกแถลงการณ์ประณามผู้ก่อการร้ายและปฏิเสธเป็นคนของประเทศอิหร่าน พร้อมขอให้ไทยพิสูจน์สัญชาติให้ชัดเจน โดยทางการไทยพร้อมจะดำเนินการให้
    ขณะเดียวกัน เชื่อว่าจะใช้กระบวนการตรวจสอบไม่นาน เนื่องจากเป็นเรื่องเร่งด่วนที่หลายฝ่ายต้องการทราบ นอกจากนี้ได้กำชับไปยังทุกสถานทูตให้เร่งตรวจสอบข้อมูลผู้ที่ขอเข้าประเทศไทยอย่างละเอียด โดยเฉพาะการขอวีซ่าผ่านบริษัทเอเยนต์ต่างๆ พร้อมมั่นใจว่าไทยไม่ใช่เป้าหมายของการก่อการร้าย และยืนยันว่าหน่วยงานด้านความมั่นคงและหน่วยข่าวกรองของไทยไม่ได้มีจุดอ่อนในเรื่องดังกล่าว
    อย่างไรก็ตาม ขณะนี้มีทั้งหมด 14 ประเทศ ที่ออกประกาศเตือนให้ระมัดระวังการเดินทางมายังประเทศไทย ประกอบด้วย ประเทศแคนาดา สหรัฐอเมริกา อังกฤษ ไอซ์แลนด์ ออสเตรีย เนเธอร์แลนด์ ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ บราซิล นิวซีแลนด์ อิตาลี นอร์เวย์ อิสราเอล และไต้หวัน โดย อิตตาลี นอร์เวย์ ไต้หวัน และอิสราเอล เป็น 4 ประเทศล่าสุดที่ออกประกาศเดินางมายังประเทศไทย
    พร้อมกันนี้ คาดว่าการประกาศเตือนในครั้งนี้จะไม่มีความยืดเยื้อยาวนาน เนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับกุมคนร้ายได้อย่างรวดเร็ว และกระทรวงการต่างประเทศได้กำชับให้เจ้าหน้าที่รายงานความคืบหน้าเกี่ยวกับสถานการณ์ต่างๆ ให้สถานทูตรับทราบเพื่อให้มีการยกเลิกการประกาศทั้งหมดโดยเร็ว
     
  3. วรเดช

    วรเดช เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    1,753
    ค่าพลัง:
    +6,146
    <TABLE border=0 width=670 bgColor=#ffffff><TBODY><TR bgColor=#ffcae3><TD>ภาคใต้มีฝนมากช่วง 18-20 ก.พ. เหนืออุณหภูมิลดลง 3-5 องศา </TD></TR><TR><TD> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width=668><TBODY><TR><TD class=A2 vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
    กรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์ลักษณะอากาศประจำวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2555 เมื่อเวลา 04:00 น.

    บริเวณความกดอากาศสูงกำลังปานกลางจากประเทศจีนจะแผ่ลงมาปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทยและทะเลจีนใต้ในวันนี้

    ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณดังกล่าวมีฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรงในระยะแรก หลังจากนั้นอุณหภูมิ จะลดลง 2-3 องศาเซลเซียส ส่วนภาคใต้จะมีฝนเพิ่มขึ้น ในช่วงวันที่ 18-20 กุมภาพันธ์ คลื่นกระแสลมตะวันตกจะเคลื่อนปกคลุมภาคเหนือ ทำให้บริเวณภาคเหนืออุณหภูมิจะลดลง 3-5 องศาเซลเซียส

    พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทยตั้งแต่เวลา 06:00 วันนี้ ถึง 06:00 วันพรุ่งนี้.


    ภาคเหนือ อากาศเย็นถึงหนาว และมีหมอกในตอนเช้า โดยอากาศร้อนกับฟ้าหลัวในตอนกลางวันและมีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 12-21 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-37 องศาเซลเซียส สำหรับบริเวณยอดดอยอากาศหนาวถึงหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 5-11 องศาเซลเซียส ลมตะวันตก ความเร็ว 10-25 กม./ชม.
    ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ อากาศเย็นกับมีหมอกในตอนเช้าอุณหภูมิจะลดลง 1-2 องศาเซลเซียส โดยมีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 20 ของพื้นที่ส่วนมากทางตอนล่างของภาค อุณหภูมิต่ำสุด 17-22 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 34-35 องศาเซลเซียส สำหรับบริเวณยอดภู อากาศเย็นถึงหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 14-19 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 15-30 กม./ชม.
    ภาคกลาง มีหมอกบางในตอนเช้า โดยมีอากาศร้อนกับฟ้าหลัวในตอนกลางวัน กับมีฝนบางแห่ง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 21-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 34-36 องศาเซลเซียส สำหรับบริเวณเทือกเขาอากาศเย็น อุณหภูมิต่ำสุด 17-20 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.
    ภาคตะวันออก มีหมอกบางในตอนเช้า อากาศร้อนโดยฟ้าหลัวในตอนกลางวัน กับมีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 30 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-37 องศาเซลเซียส สำหรับบริเวณเทือกเขา อากาศเย็น อุณหภูมิต่ำสุด 16-19 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร
    ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก) มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 20 ของพื้นที่ ส่วนมากทางตอนล่างของภาค อุณหภูมิต่ำสุด 22-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-32 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร
    ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก) มีเมฆเป็นส่วนมาก กับมีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 30 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดภูเก็ต กระบี่ ตรัง และสตูล อุณหภูมิต่ำสุด 21-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-34 องศาเซลเซียส ลมแปรปรวน ความเร็ว 10-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร
    กรุงเทพมหานครและปริมณฑล มีหมอกบางในตอนเช้า กับมีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 20 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 25-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-35 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.



    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width=668><TBODY><TR><TD class=A2 vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE border=0 width=670 bgColor=#ffffff><TBODY><TR bgColor=#ffcae3><TD>จังหวัด"เติ้ง"โดนพื้นที่แก้มลิงกว่า 4 แสนไร่ </TD></TR><TR><TD> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width=668><TBODY><TR><TD class=A2 vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>วันนี้ (16 ก.พ.) ผู้สื่อข่าวรายงานการทัวร์นกขมิ้นของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ว่า

    ในการรับฟังบรรยายสรุปแผนงานป้องกันน้ำท่วมพื้นที่กลางน้ำตอนล่าง 8 จังหวัด ที่ศูนย์ศิลปาชีพส่งออกบางไทร และรับฟังแผนป้องกันน้ำท่วมนิคมอุตสาหกรรมจากผู้ประกอบการภาคอุตสาหกรรมที่ประสบอุทกภัยของนายกรัฐมนตรีนั้น นายวิทยา บุรณสิริ รมว.สาธารณสุข ได้รายงายว่า การจ่ายเงินชดเชยเยียวยาครัวเรือนละ 5 พันบาทและภาคเกษตรที่ได้รับความเสียหาย ดำเนินการเกือบครบทั้งหมดแล้ว ขณะที่งบประมาณในการฟื้นฟูในกลุ่มจังหวัดกลางน้ำตอนล่างอนุมัติแล้ว 2,184 โครงการ งบประมาณ 4,540 ล้านบาท


    สำหรับการจัดหาพื้นที่รับน้ำหรือแก้มลิงได้พื้นที่ 969,140 ไร่ โดยจะอยู่ในพื้นที่ จ.สุพรรณบุรีมากที่สุดกว่า 4 แสนไร่

    น้อยที่สุดที่ จ.ปราจีนบุรี 674ไร่ ทั้งนี้จะทำความเข้าใจกับเกษตรกรที่ทำการเกษตรให้วางแผนเก็บเกี่ยวผลผลิตให้แล้วเสร็ภายในเดือน ส.ค.หรือก่อนที่น้ำจะมา ส่วนการฟื้นฟูโบราณสถานได้อนุมัติไปแล้วในทุกจังหวัดเป็นงบประมาณกว่า 770 ล้านบาท นอกจากนี้ยังมีการอนุมัติงบประมาณเพิ่มเติมสำหรับโครงการเร่งด่วนที่จะต้องดำเนินการให้แล้วเสร็จภายใน3 เดือน แบ่งเป็นการซ่อมแซมแนวป้องกันน้ำและสถานีสูบน้ำ 419 ล้านบาท และการซ่อมแซมเส้นทางคมนาคม 270 ล้านบาท


    ขณะที่ส่วนของการป้องกันนิคมอุตสาหกรรมทั้งบางปะอิน บ้านหว้าไฮเทค สหรัตนนคร โรจนะ บางกระดี และนวนคร

    ก็ได้ดำเนินการก่อสร้างแนวกั้นน้ำแล้วเช่นกัน แต่นิคมอุตสาหกรรมที่ไม่มีพื้นที่ทำคันดินจะใช้วิธีการเสริมกำแพงแทน และจะมีการปรับปรุงระบบโลจิสติกระหว่างเส้นทางสายหลักกับนิคมอุตสาหกรรม ทั้งนี้ในการฟื้นฟูส่วนใหญ่จะรอเครื่องจักรใหม่ อย่างช้าที่สุดจะทยอยฟื้นตัวได้ในเดือนธ.ค.นี้


    ขณะที่นายกรัฐมนตรีได้อธิบายแนวทางการบริหารจัดการน้ำของรัฐบาลช่วงต้นน้ำและกลางน้ำตอนบนเพื่อสร้างความมั่นใจให้กับภาคอุตสาหกรรม

    โดยระบุว่า จะให้ กยน. ดูการทำแนวป้องกันทั้งหมดให้แข็งแรงเชื่อมต่อกันในทุกพื้นที่พร้อมทั้งขุดลอกและปรับปรุงแม่น้ำเจ้าพระยาและป่าสักให้ไหลได้สะดวก ส่วนการทำพื้นที่รับน้ำนั้นจะใช้พื้นที่การเกษตรและพื้นที่สาธารณะเพื่อให้ส่งผลกระทบกับประชาชนน้อยที่สุด โดยให้ผวจ.แต่ละจังหวัดไปทำความเข้าใจกับประชาชน พร้อมติดตั้งเครื่องสูบน้ำให้พร้อม เพื่อให้ประชาชนที่เป็นผู้เสียสละเดือดร้อนน้อย


    ทั้งนี้นายกรัฐมนตรียังได้กำชับให้ป้องกันน้ำท่วมพื้นที่นิคมอุตสาหกรรมอย่างเต็มที่

    เพื่อเรียกความมั่นใจในฐานะที่ไทยจะขอเป็นเจ้าภาพเวิลด์เอ็กซ์โป 2020 ขณะที่ตัวแทนภาคอุตสาหกรรมแสดงความมั่นใจและสบายใจหลังจากได้รับทราบแนวทางบริหารจัดการน้ำของรัฐบาลว่าจะสามารถป้องกันไม่ให้น้ำท่วมนิคมอุตสาหกรรมและยืนยันว่าจะไม่ย้ายฐานการผลิตไปยังที่อื่นอย่างแน่นอน แต่อยากให้รัฐบาลเร่งรัดเรื่องของงบประมาณในการปล่อยสิ้นเชื่่อดอกเบี้ยต่ำและเงินช่วยเหลือเพื่อให้นำไปฟื้นฟูภาคธุรกิจได้โดยเร็ว


    <!-- /.content --><!-- START: Facebook Share -->
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์เดลินิวส์
    [​IMG]</CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE border=0 width=670 bgColor=#ffffff><TBODY><TR bgColor=#ffcae3><TD>สลดคนใจบาปทุบพระพุทธรูป600ปีเสียหาย </TD></TR><TR><TD> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width=668><TBODY><TR><TD class=A2 vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>วันนี้ (16 ก.พ.) พ.ต.ท.บูรฉัตร ขวัญคำ สารวัตรเวร สภ.ภูพิงค์ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ ได้รับแจ้งจากพระลูกวัดผาลาด (สกิทาคา)

    ตั้งอยู่เลขที่ 101 หมู่ที่ 1 ต.สุเทพ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ ว่าพระพุทธรูป ภายในวัดถูกคนใจบาปเข้ามาทุบทำลาย จนได้รับความเสียหายจำนวนมาก ขอให้มาตรวจสอบและสืบสวนติดตามจับกุมคนร้ายด้วย หลังได้รับแจ้งจึงได้รีบรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมกำลังเจ้าหน้าที่จำนวนหนึ่ง เมื่อไปถึงได้พบกับพระวัฒนพงษ์ เปงใจ อายุ 32 ปี พระลูกวัด จึงพาไปตรวจบริเวณที่เกิดเหตุ ก็พบว่ามีพระพุทธรูปเก่าแก่อายุกว่า 600 ปี ถูกทำลายได้รับความเสียหาย นับสิบองค์ และมีพระพุทธรูปที่ประชาชนนำมาประดิษฐานอีกกว่า 20 องค์ ถูกทำลายเสียหาย จนเศียรขาด ใบหูแหว่ง ใบหน้าแตกร้าว อีกทั้งใบเสมาที่ก่อสร้างด้วยอิฐ เป็นรูปลักษณะของพระพุทธรูปที่ตั้งอยู่ใกล้ๆ ก็ถูกทุบจนแตก บางอันก็ถูกยกไปทิ้งน้ำพร้อมกับพระพุทธรูป


    จากการสอบถามพระวัฒนพงษ์ ซึ่งเป็นพระลูกวัด ให้การว่า อาตมาจะเข้ามาทำความสะอาดทุกวัน

    ซึ่งก็ไม่เคยเจอเหตุการณ์ในลักษณะแบบนี้ แต่ที่พบเจอคือจะมีคนที่สติไม่ค่อยดี แอบขึ้นมาจากทางด้านหลังวัด เพราะวัดแห่งนี้ไม่มีประตู และมีทางเข้าได้หลายทาง ซึ่งมักจะมีของหาย จากในวัดและไปถูกพบในป่าอยู่หลายครั้ง กระทั่งในวันนี้ได้เข้ามาทำความสะอาด ก็ต้องตกใจเมื่อพบว่าเศียรพระพุทธรูปเก่าแก่ และพระอีกจำนวนมากถูกคนเข้ามาทำลายจนได้รับความเสียหาย ซึ่งวัดแห่งนี้ถือเป็นวัดที่เก่าแก่ และทรงคุณค่าทางประวัติศาสตร์อย่างมาก ดังนั้นจึงอยากให้เจ้าหน้าที่เร่งสืบสวนหาตัวคนใจบาปมาลงโทษให้เร็วที่สุด เพราะถ้าปล่อยทิ้งไว้เกรงว่าจะเกิดความเสียหายมากกว่านี้


    เบื้องต้นเจ้าหน้าที่สันนิษฐานว่า น่าจะมีกลุ่มคนซึ่งเชื่อว่าเป็นคนสติไม่สมประกอบ หรืออาจจะมีกลุ่มที่ไม่พอใจเกี่ยวกับวัด อย่างใดอย่างหนึ่ง

    ซึ่งขณะนี้ยังไม่สามารถบอกข้อมูลใดๆ ได้ อีกทั้งทางขึ้นวัดก็มีหลายทาง จึงได้ประสานเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานเชียงใหม่ มาตรวจสอบในวันที่ 17 ก.พ. เวลา 10.00 น. เพื่อหาหลักฐานในการใช้ติดตามหาคนร้ายใจบาปรายนี้มาดำเนินคดี ส่วนด้านการสืบสวนก็ได้ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.ภูพิงค์ อ.เมืองเชียงใหม่ ออกตรวจสอบโดยรอบๆ วัดเพื่อหาร่องรอยของคนร้ายแล้วเช่นกัน


    สำหรับวัดแห่งนี้ สร้างขึ้นในสมัยพระญากือนา กษัตริย์องค์ที่ 6 แห่งอาณาจักรล้านนา ราชวงศ์เม็งราย (พ.ศ. 1898 - 1928)

    ถือเป็นยุคเริ่มต้นของความรุ่งเรืองของพุทธศาสนาในล้านนาโดยเฉพาะในเชียงใหม่ ได้มีการสร้างวัดขึ้นหลายวัดด้วยกัน ซึ่งก็รวมไปถึงวัดสวนดอกและวัดพระธาตุดอยสุเทพ เพื่อให้เป็นที่ประดิษฐานของพระบรมสารีริกธาตุ วัดผาลาดก็เป็นอีกวัดหนึ่ง ที่ได้มีการก่อสร้างขึ้นในช่วงนั้น เมื่อประมาณหกร้อยกว่าปีมาแล้ว ซึ่งตามตำนานกล่าวกันว่า ช้างที่อัญเชิญพระบรมสารีริกธาติได้เดินทางมุ่งหน้าขึ้นดอยอ้อยช้าง (ดอยสุเทพในปัจจุบัน) แล้วได้มาหยุดอยู่ที่ยอดดอยแห่งหนึ่งแล้วย่อเข่าลงสามครั้งแล้วเดินต่อไป พอถึงข้างน้ำตกที่เรียกว่าห้วยผาลาดจึงหยุดพัก แล้วจึงเดินต่อไปแล้วหยุดพักอีกครั้งหนึ่ง ก่อนจะถึงสถานที่ตั้งวัดพระธาตุดอยสุเทพในปัจจุบัน


    หลังจากสร้างวัดพระธาตุดอยสุเทพ (ซึ่งอยู่สูงสุด และถือเป็นวัดอรหันต์) เสร็จแล้ว

    พระญากือนาทรงมีพระราชดำริให้สร้างวัดขึ้นอีก 3 วัด บริเวณที่ขบวนช้างหยุด เพื่อเป็นอนุสรณ์ตามรายทางการเสี่ยงทายสถานที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุในครั้งนี้ เมื่อสร้างเสร็จก็มอบให้ศรัทธาประชาชนเป็นผู้บำรุงวัดเหล่านี้ วัดทั้งสามวัดคือ วัดโสดาปันนาราม หรือวัดสามยอบ ตั้งอยู่ที่ยอดดอยที่ช้างย่อเข่าลงสามครั้ง ปัจจุบันเป็นวัดร้างอยู่ในเขตของวัดผาลาด และวัดที่สองคือวัดสกทาคามีวนาราม หรือวัดผาลาด ตั้งอยู่บริเวณที่ขบวนช้างหยุดพักริมลำธารห้วยผาลาด และวัดอนาคามีวนาราม หรือวัดม่อนพญาหงส์ ตั้งอยู่ใกล้ๆ กับบริเวณหอดูดาวสิรินธร คาดว่าในบริเวณนั้นคงจะมีหงส์หรือนกยูงอาศัยอยู่เป็นจำนวนมากในขณะนั้น จึงเป็นที่มาของชื่อวัด

    ปัจจุบันเป็นวัดร้างที่คงเหลือเพียงซากเจดีย์และซากวิหารเล็กๆ เท่านั้น สำหรับจุดที่พระพุทธรูปเสียหายนั้น เรียกว่าพระพุทธรูปหน้าผา แต่เดิมว่ากันว่าเป็นวิหารหน้าผาที่สวยงาม และมีพระพุทธรูปที่ศักดิ์สิทธิประดิษฐานอยู่ แต่คงถูกทำลายลงในช่วงสงครามกับพม่า ภายหลังชาวไทยใหญ่มาอาศัยอยู่ที่วัด จึงสร้างพระพุทธรูปถวาย พระพุทธรูปที่เห็นอยู่ทุกวันนี้เป็นศิลปกรรมของไทยใหญ่

    <!-- /.content --><!-- START: Facebook Share -->
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์เดลินิวส์
    [​IMG]</CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE border=0 width=670 bgColor=#ffffff><TBODY><TR bgColor=#ffcae3><TD>สลดบังกลาเทศทลายโรงงานทาสเด็ก </TD></TR><TR><TD> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width=668><TBODY><TR><TD class=A2 vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>วันนี้ (16 ก.พ.) ตำรวจบังกลาเทศบุกทลายโรงงานทำอิฐ ทางภาคใต้ของประเทศในวันนี้

    และช่วยเหลือเด็กชาย 24 คนที่ถูกกักขัง และบังคับใช้แรงงานเยี่ยงทาส โดยหลายคนในจำนวนนี้อายุเพียงแค่ 6 ขวบ นายสิราจัล อิสลาม หัวหน้าสถานีตำรวจท้องถิ่น เผยว่า ตำรวจทลายโรงงานหลังได้รับร้องเรียนจากพ่อแม่ของเด็ก 2 คนที่ถูกกักขังอยู่ในโรงงานดังกล่าว และช่วยเหลือเด็กชาย 24 คน อายุระหว่าง 6-15 ปี


    ทั้งนี้เด็กหลายคนเผยต่อตำรวจและผู้สื่อข่าวว่า ทั้งหมดเป็นเด็กจากครอบครัวยากจน ที่ถูกเจ้าของโรงงานซื้อตัวมาในราคาถูก

    จากชนบททางเหนือของประเทศ และถูกทุบตีบังคับใช้แรงงานหนักตลอดทั้งวัน โดยไม่ได้รับค่าจ้าง และไม่ได้กินอาหารพอเพียง ตอนกลางคืนทุกคนจะถูกกักขังในโรงเรือน ซึ่งเป็นห้องสกปรกสภาพแออัด 2 ห้อง และทุกคนถูกล่ามโซ่เพื่อป้องกันการหลบหนี


    เจ้าหน้าที่องค์กรสิทธิมนุษยชนบังกลาเทศ รายหนึ่ง เผยว่า

    โรงงานทำอิฐผุดขึ้นเป็นดอกเห็ด นับหมื่นโรงงานทั่วประเทศ มีทั้งถูกและผิดกฎหมาย หลังอุตสาหกรรมก่อสร้างบังกลาเทศเฟื่องฟูในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ทำให้มีขบวนการบังคับใช้แรงงานอย่างแพร่หลาย และรัฐบาลดำเนินการปราบปรามกวาดล้างอย่างจริงจังตั้งแต่เดือน ม.ค. ปีที่แล้ว สามารถจับกุมผู้กระทำความผิด และช่วยเหลือแรงงานทาสเป็นจำนวนมาก.


    <!-- /.content --><!-- START: Facebook Share -->
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์เดลินิวส์
    [​IMG]</CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  4. k_isara 1

    k_isara 1 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    521
    ค่าพลัง:
    +7,059
    17 ก.พ.55 เย็นไว้โยม

    ภาพนี้ เคยเห็น เคยลง
    เคยส่ง ลงใน เว็บนี้
    อย่าตัด สินใจ น้องพี่
    ยังมี เวลา จะไป

    27 ก.พ. 50 ตามหลังปลายักษ์ตัวที่สอง

    ให้ขึ้นที่สูงหลังจาก เมื่อเกิดซึนามิรอบสอง(หรือภัยที่เกิดทางน้ำ)

    เมื่อปลา ที่สอง ย่องมา
    พารา ต้องเดิน ตามไป
    รีบหา ที่สูง ปลอดภับ
    เอาไว้ คุ้มครอง ตัวเอง

    องค์อินทร์ ๙๗
    ทำการแทน
     
  5. k_isara 1

    k_isara 1 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    521
    ค่าพลัง:
    +7,059
    17 ก.พ. 55 นัดพบ K..... Twana Mayana Phongporn Kongsin

    วันอาทิตย์ที่ 26 ก.พ. เวลาบ่ายโมงสะดวกไหมครับ?

    ถ้าสะดวกจะได้นัดทุกคนมาพบผมพร้อมกัน

    สำหรับท่านที่สนใจก็ขอเชิญมาร่วมรับฟังพูดคุยกันแล้วผมจะนัดสถานที่นัดพบอีกที

    เคอิสรา
    <!-- google_ad_section_end --><HR style="BACKGROUND-COLOR: #ffffff; COLOR: #ffffff" SIZE=1>Last edited by k_97; วันนี้ at 09:15 AM.
     
  6. k_isara 1

    k_isara 1 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    521
    ค่าพลัง:
    +7,059
    <TABLE id=post4013821 class=tborder border=0 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center><TBODY><TR vAlign=top><TD style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid" id=td_post_4013821 class=alt1>6 พ.ย. 53


    27 ก.พ. 50 ตามหลังปลายักษ์ตัวที่สอง
    เมื่อมีการเก็บกวาดข้างล่างให้รีบขึ้นที่สูง


    16 ก.พ. 53 กำลังเตรียมการเก็บกวาดทางน้ำ
    เมื่อทำความสะอาดข้างล่างแล้ว ผู้ที่อยู่ตรงกลางอย่าตกใจรีบหนีขึ้นข้างบน
    พร้อมกัน จะทำให้การเดินติดขัดไปหมด ขอให้ตั้งสติให้ดีเตรียมของให้พร้อม
    ถ้าให้ดีควรมองหาที่จะไปให้เรียบร้อยเสียก่อนแล้วเข้าร่วมด้วยช่วยกันเตรียม
    ความพร้อมเมื่อเวลานั้นมาถึงจะได้ไม่รน

    การทำความสะอาดข้างล่างแล้วก็มิใช่ว่าจะจัดการทำความสะอาดตรงกลางเลย
    คงเว้นช่วงให้มีเวลาพักเหนื่อยบ้างแล้วจึงจะทำความสะอาดตรงกลาง ช่วงเว้น
    พักเหนื่อยอาจจะเป็นเดือนเป็นปีก็ได้ไม่มีใครรู้ค่อยๆทะยอยเดินกันไป เว้นเสีย
    แต่มีสัญญาณให้รีบขึ้น




    องค์อินทร์ ๙๗
    ทำการแทน


    ======================================
    ภาพฐานผาแบ่นบางส่วนค่ะ
    ภาพความคืบหน้าฐานผาแบ่น
    ที่มา นาม "องค์อินทร์ ๙๗"







    ---------------------------------------------------------------------
    หลงทางเสียเวลา แต่ไหนแต่ไรมา พระพุทธเจ้าท่านสอนแต่เรื่องทุกข์ และการพ้นทุกข์เท่านั้น<!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end -->
    </TD></TR><TR><TD style="BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid" class=alt2>[​IMG] [​IMG]<SCRIPT type=text/javascript> vbrep_register("4013821")</SCRIPT> [​IMG] </TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  7. k_isara 1

    k_isara 1 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    521
    ค่าพลัง:
    +7,059
    ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ k_97 [​IMG]
    15 ก.พ.55 ดีใจจัง

    แจ้งไป น้องสาว ฝั่งธอ
    อย่ารอ น้ำมา มากมาย
    ตอบกลับ ไม่กลัว ทันใด
    รู้ไว อากง ส่งมา

    ภาพล่าสุด

    เช้านี้ภาพนิมิต ตัวเองออกไปทานอาหารมื้อเที่ยง ขณะที่ยืนรออยู่ไม่รู้น้ำไหลมาจากตรงไหน? ไหลมาอย่างรวดเร็วโชคดีที่ท่วมไม่มากแค่เท้าตัวเอง

    จากสองบทความพอจะคิดออกว่าปีนี้น้ำคงไม่ท่วมรุนแรงเหมือนปีที่ผ่านมา น้องสาวบอกว่า อากงประทับทรงผ่านร่างคนที่กำแพงเพชร ปีหน้าจะหนักว่านี้สองเท่า (สอบถามอากงเมื่อช่วงตรุษจีน)

    องค์อินทร์ ๙๗
    ทำการแทน
     
  8. ตาที่สาม

    ตาที่สาม Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มกราคม 2012
    โพสต์:
    37
    ค่าพลัง:
    +50
    โอ๊ย....เป็นตุเป็นตะ
     
  9. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    ภัยพิบัติครั้งนี้ใหญ่หลวงนัก

    จึงต้องอาศัยผู้ที่มีญาณสื่อสารกับโลกวิญญาณได้

    ถึงจะรู้เหตุการณ์ที่จะเกิดล่วงหน้าได้

    ท่านที่ไม่เชื่อกรุณาอย่าลบหลู่

    แทนที่ท่านจะได้ประโยชน์จากกระทู้นี้

    กลับจะพาท่านไปยังแดนทุกขคติภูมิไ้ด้

    ด้วยวิบากกรรมของการขัดขวางงานช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์

    ถ้าไม่เชื่อก็ไปอ่านในห้องอื่นๆ จะดีกว่านะครับ
     
  10. ชญารัตน์

    ชญารัตน์ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    80
    ค่าพลัง:
    +54
     
  11. Heureuse

    Heureuse เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 กันยายน 2008
    โพสต์:
    857
    ค่าพลัง:
    +3,446
    พื้นที่ราบเอาไว้ทำแก้มลิง พื้นที่บนเขาเอาไว้ตัดไม้ เป็นห่วงว่า ต่อไป คนไทยจะไม่มีอะไรกิน

    เบื่อจัง ผู้บริหารกี่ชุดๆ น้อยซึ่งความจริงใจ ผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันมาขึ้นเก้าอี้ กินเสร็จแล้วก็โบกมือบ๊ายบ่าย ถ้าเจอบ่อทองดีๆก็อยากอยู่อีก กินกันจนกว่าจะหมด

    พวกเขาไม่ใช่เจ้าของบ้าน เขาไม่มีอะไรต้องห่วง
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 17 กุมภาพันธ์ 2012
  12. ANAN JANG

    ANAN JANG เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    544
    ค่าพลัง:
    +175
    คิดซะว่าเราเรียนรู้จากความไม่ดีของผู้อื่น ถ้าเกิดอนาคตภัยใหญ่มาจริงๆ แล้วเรารอด เราก็ร่วมกันช่วยขับเคลื่อนประเทศไปให้ได้ด้วย สามัคคีธรรม แล้วกันนะครับ สู้ๆ
     
  13. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    ถึงเวลานั้น ทุกคนจะสูญเสียบางสิ่งบางอย่างไม่มากก็น้อย !!!

    [​IMG]

    Aunyasit สมาชิก

    ถึงเวลานั้น ทุกคนจะสูญเสียบางสิ่งบางอย่างไม่มากก็น้อย ญาติพี่น้องของพวกเราบางคนก็จะไม่รอด บางส่วนก็จะสูญหาย บางคนก็จะสูญเสียความมั่นใจ ที่จะทำอะไรต่อไปข้างหน้าเพราะอาจจะต้องเริ่มต้นชีวิตกันใหม่ ก็เตรียมใจกันไว้แต่เนิ่นๆครับ เมื่อเวลามาถึง จิตเราจะได้ปล่อยว่างในสิ่งที่เราสูญเสียไปได้ฯลฯ

    ที่จริงในกึ่งพุทธกาลนั้น เป็นจุดเริ่มต้นที่สำคัญอีกวาระนึงทางศาสนา ที่แฝงไว้ด้วยภัยธรรมชาติที่จะทำการแบ่งแยกบุคคลที่มีศีลธรรมและและบุคคลที่ด้อยศีลธรรมออกจากกัน วัฏจักรมันเป็นมาอย่างนี้ทุกกาลศาสนา เป็นช่วงสุดท้ายของการสร้างบารมีในศาสนาพระสมณโคดมและเข้าสู่จุดเริ่มต้นสร้างบารมีไปสู่ศาสนาของพระศรีอริยเมตรัย ครับ

    หลังเหตุภัยพิบัติสิ่งศักดิ์สิทธิ์เขาคงจะให้ผมอยู่ทำหน้าที่ต่อไปอีกระยะนึง โดยมีภาระงานทางศาสนาอีกหลายอย่างที่รออยู่เบื้องหน้า เช่น สร้างเจดีย์ฯต่อให้เสร็จ(โดยไม่มีเทคโนยี) ตอนนี้ท่านให้เร่งตอกเสาเข็มของฐานเจดีย์ให้เสร็จไว้ก่อนภัยพิบัติ ต่อไปอาจจะต้องทำหน้าที่ชี้แนวทางการยกระดับจิตใจให้กับผู้ที่ประสบกับการสูญเสียที่มาเกี่ยวข้อง ฯลฯ ท่านบอกว่าเมื่อภัยพิบัติผ่านไป บุคคลที่อยู่รอดกลุ่มหนึ่งจะมาช่วยกันสร้างเจดีย์ฯเพื่ออุทิศกุศลให้บุคคลที่ล่วงลับไปในภัยพิบัติ โดยผมเป็นผู้เริ่มต้นในการสร้างไปก่อน


    วิทยาศาสตร์ยังไม่ค่อยมีองค์ความรู้ ในปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นภายใต้พื้นโลกมากนัก มีข้อจำกัดอยู่มากครับ

    คราวนี้ใครๆเขาก็เตรียมรับน้ำจากเขื่อนและแม่น้ำกัน ปรากฏว่าน้ำจะมาจากคลื่นทะเล เป็นหลัก อันนี้แทบไม่มีทางป้องกันเลยครับ

    ที่จริงผู้ที่ท่านเมตตามาบอกกล่าวเรื่องภัยพิบัติและเตือนให้เตรียมตัวมาอย่างต่อเนื่องในช่วงหลังๆนี่ ไม่ใช่เฉพาะพระเกจิในประเทศไทย อย่างเช่น ปู่ทวด เท่านั้นแต่ยังมี องค์ต้นธาตุต้นธรรม(องค์อชิตะ) ซึ่งท่านเป็นแสงแห่งธรรม เป็นใหญ่อยู่ในอนันตจักรวาล(เป็นพระพุทธเจ้าที่เป็นใหญ่กว่าพระพุทธเจ้าทั้งหมดที่มีมาจำนวนนับไม่ถ้วน) และพระพุทธเจ้าองค์ปฐมในจักรวาลนี้(พระพุทธเจ้าวิปัสสีหรือปู่ขาวมหาราช) หรือพระพุทธเจ้าสิขีทศพล ที่หลวงพ่อฤษีลิงดำท่านกล่าวถึง (ปู่ขาวมหาราชท่านบอกผมอย่างนั้น) รวมทั้งพระศรีอริยเมตรัยก็มาเตือนเรื่องภัยพิบัติบ่อย

    สำหรับองค์อชิตะนี้เป็นคนละองค์กับพระศรีฯนะครับ ชื่อพระศรีฯที่มาจุติในยุคพุทธกาลไปซ้ำกับชื่อขององค์อชิตะ ผู้ที่สื่อสารกับท่านเหล่านี้ได้ในคณะของผมนั้น ไม่ใช่มีเฉพาะผมคนเดียวแต่ยังมีพระสงฆ์อีกรูปนึงและฆราวาสอีกคนนึง ก็สามารถรับสื่อจากองค์อชิตะได้ เช่นเดียวกัน และอาจจะมีคนอื่นๆที่เขาสามารถสื่อสารกับท่านเหล่านั้นได้อีก แต่อาจจะยังไม่เปิดเผยตัวก็เป็นได้

    การที่จะเข้าถึงองค์อชิตะ(ผมเรียกท่านว่าปู่อชิตะ)นั้น ต้องฝึกจิตให้เข้าถึงความว่าง เลยความว่างไปก็จะเป็นแสงครับ แสงที่สามารถสื่อสารกับจิตวิญญาณของเราได้นั้นแหละคือองค์อชิตะครับ ผมเลยไม่รู้จะเรียกแสงนั้นว่าอะไรจึงเรียกท่านว่า "แสงแห่งธรรม" อาจจะเข้าใจยากสำหรับผู้ที่ยังเข้าไม่ถึงตรงนี้ การสื่อสารกันนั้นเป็นการสื่อสารแบบจิตต่อจิตเท่านั้นครับ

    ก็ถือว่าเป็นบุญของเราที่ท่านเหล่านั้นมาโปรด จากเหตุที่เราเคยสร้างบุญกุศลในพุทธศาสนามาในพุทธันดรอื่นๆจนส่งผลมาถึงพุทธันดรนี้ และเหตุจากพุทธันดรนี้ก็จะส่งผลไปถึงการทำหน้าที่ต่อไปในพุทธันดรหน้าต่อไป ก็เป็นอันว่าจะหมดหน้าที่ในกึ่งกลางศาสนาของพระศรีอริยเมตรัย จึงจะหมดหน้าที่ตามที่ปรารถนามาทำในภัทรกัปป์นี้

    ที่จริงสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ผมกล่าวถึงท่านบอกผมว่า ท่านก็ต้องการสื่อสารกับนักปฏิบัติทั้งหลายแต่มีข้อจำกัดในเรื่องของบารมีรองรับและหน้าที่ที่คนส่วนใหญ่ไม่ได้สร้างบารมีมารองรับและไม่มีหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกัน จึงไม่สามารถรองรับญาณบารมีของท่านเหล่านั้นได้ หรือแม้แต่ผู้ที่มีบารมีรองรับเพียงพอแต่ไม่มีหน้าที่เกี่ยวข้องกัน ท่านก็จะไม่สื่อสารด้วย

    ดังนั้น การที่ท่านเหล่านั้นเมตตามาบอกกล่าวเรื่องของภัยพิบัติ ซึ่งสิ่งที่ท่านบอกกล่าวมานั้น ก็ย่อมเป็นสัจจะธรรมเช่นกัน จึงเปลี่ยนแปลงไม่ได้ ผมเองก็รอพิสูจน์สัจจะธรรมอันนี้อยู่เช่นกัน โดยเฉพาะเรื่องของภัยพิบัติที่กำลังจะเกิดขึ้นนี้


    คลื่นน้ำสูงมากๆจะเคลื่อนจากฝั่งอ่าวไทย ข้ามไปทะเลอันดามัน มาพร้อมๆกันทั้งพายุหมุนและคลื่นขนาดมหึมา ลูกแล้วลูกเล่าครับ ซัดเข้ามาตรงแนวที่เคยคิดกันว่าจะขุดคอคอดกระ แล้วด้ามขวานไทยจะขาดสองท่อน รวมทั้งจะมีคลื่นสูงมากๆขนาดภูเขา ผมประมาณว่าคลื่นขนาดเท่าเกาะภูเก็ตมั้งครับ น้ำและโคลนจากคลื่นยักษ์นั้นคงจะกวาดเอาพื้นที่ข้างเคียงไปด้วยเป็นระยะหลายร้อยกิโลเมตรจากศูนย์กลางของพายุหมุน

    ใน กทม. ที่สิ่งศักดิ์สิทธิ์ท่านเคยทำภาพให้ผมดูนั้น น้ำจะขึ้นสูงประมาณตึก 4 ชั้น ครับ(ระดับน้ำความลึกน่าจะประมาณ 10 เมตรกว่าๆ) คลื่นที่เข้ามาทางฝั่งทะเล ท่านเคยทำภาพให้ดูก็ขนาดเท่าเกาะใหญ่ๆ ความแรงจากคลื่นซัดนั้นจะแรงและเสียงดังมาก ทำให้อาคาร บ้านเรือนต่างๆสั่นสะเทือน ขนาดความรู้สึกในความเป็นทิพย์นั้น ความแรงคล้ายๆจะทำให้หัวใจผมหลุดกระเด็น ออกมาจากตัวเลยครับ

    สิ่งที่จะฝากเตือนก็คือ ใครจะประสบกับเหตุการณ์รุนแรงขนาดไหนก็แล้วแต่ ขอให้ตั้งสติให้ดี มิฉะนั้นแล้วจะเกิด สติวิปลาสโดยทันที


    ที่บางคนบอกกันว่าจะคุมสติได้นั้น ผมว่าไม่แน่นักหรอกเพราะในความเป็นจริงมันรุนแรงเหลือเกิน ยังไงก็ขอให้ตั้งอยู่ในความไม่ประมาทก็แล้วกัน ผมเองบอกกับตัวเองไว้ว่า จะหนีก่อนใครๆเพราะว่าถ้าอยู่ในเหตุการณ์นั้นจริงๆคงจะคุมสติตัวเองได้ยากเช่นกันเพราะขณะที่นั่งสมาธิ เมื่อมีฟ้าผ่าเปรี้ยงลงมาใกล้ๆจิตผมยังสะเทือนไหว ก็แสดงว่ายังใช้การไม่ได้ที่จะเข้าไปอยู่ในเหตุการณ์ของภัยพิบัติครั้งนี้ ถ้าหนีไปก่อนจะปลอดภัยทั้งธาตุขันธ์และจิตวิญญาณของตนเอง

    ยังไงก็อย่าลืมเร่งเตรียม "เสบียงบุญ" กันนะครับ เพราะเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดต่อทุกคน ถ้าไม่มีเสบียงบุญนี่ สิ่งต่างๆที่เราเตรียมกันเอาไว้ก็ไร้ค่าครับ

    ผมล่ะขอพึ่งพระบารมีองค์ต้นธาตุต้นธรรม(องค์อชิตะ) องค์พระวิปัสสีและก็พระพุทธเจ้าห้าพระองค์นี้ครับ นี่คือเสบียงบุญหลักๆของผมที่เตรียมมาอย่างยาวนานสิบกว่าปีครับ

    <FIELDSET class=fieldset style="FONT-SIZE: 11px; MARGIN-BOTTOM: 6px"><LEGEND style="FONT: 11px tahoma, verdana, geneva, lucida, 'lucida grande', arial, helvetica, sans-serif; COLOR: rgb(34,34,156)">รูปขนาดเล็ก</LEGEND>[​IMG] [​IMG] [​IMG]

    [​IMG]
    </FIELDSET>


    ที่มา http://palungjit.org/threads/น้ำท่วมปี-2555-นี้จะร้ายแรงหรือไม่.325211/page-4
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  14. มธุบัน

    มธุบัน Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 พฤศจิกายน 2011
    โพสต์:
    41
    ค่าพลัง:
    +52
    ขอขอบคุณคุณเกษมที่ได้เตือนเรื่องภัยพิบัติค่ะ ดิฉันอยู่ชายแดนใต้ก็คิดเหมือนกันว่าจะต้องเจอกับภัยพิบัติทางทะเลค่ะ ในนิมิตทางใต้จะเป็นอย่างไรบ้างค่ะ ตอนนี้ก็เริ่มคิดอยากไปซื้อที่ดินย้ายไปอยู่จังหวัดอื่นเหมือนกันค่ะ มีคำแนะนำบ้างไหมค่ะ สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรมจริงๆค่ะ เมือถึงเวลาคนบาปก็ต้องถูกลงโทษไปเองค่ะ
     
  15. thaimont

    thaimont Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    48
    ค่าพลัง:
    +38
    ทำไมทางใต้ต้องเกิดภัยภิบัติด้วย ทุกครั้งที่ผมอ่านในนี้จะเป็นทางใต้ส่วนมาก
    หรือว่าทางใต้อยู่ติดกับทะเล เลยทำไห้เกิดภัยภิบัติได้ง่าย
    แต่ผมคิดว่าถ้่าจะเกิด ก็เกิดเหตุการณ์ไม่รุนแรงหรอก เพราะทางใต้มีสิ่งศักสิทคุ้มครองอยู่มากเช่น พระบรมธาตุนครศรี พระบรมธาตุไชยา หลวงปู่ทวด
     
  16. Ghosty Rat

    Ghosty Rat เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 เมษายน 2005
    โพสต์:
    142
    ค่าพลัง:
    +364
    ลองไปอ่านบทความบนเน็ตให้เยอะนะ และมาวิเคราะห์เถิด ทั้งที่ตั้งที่โดนซึนามิครั้งก่อนก็ดีเพราะแรงดันน้ำทะเลที่มาจากรอยเลื่อน ทางพายุที่ชอบมาเยือนประจำ ระดับสูงจากน้ำที่ต่ำในขณะที่น้ำทะเลสูงขึ้นเรื่อย ท่านเองก็ต้องฟังหูไว้หู อย่าปิดหูปิดตาตัวเอง แต่อย่าเชื่อเขาหมด พระพุทธองค์ถึงให้กาลามสูตรมาให้ใช้ปัญญาเป็นหลัก ป้องกันดีกว่าสาย หวังพึงโจรใส่สูทในสภาก็รับประกันว่าได้อย่างเก่ง 5000 บาทต่อหลังอย่างหรู ถ้าไม่บรรลัยทั้งหลังขอรับ
     
  17. พลอยรุ้ง

    พลอยรุ้ง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    467
    ค่าพลัง:
    +2,088

    ขออนุโมทนากับคุณ Aunyasit ด้วยค่ะ ที่อุตส่าห์เป็นห่วงคนอื่นและเตรียมการไว้เพื่อคนอื่นด้วย
    ปีนี้ประเทศไทยมีภัยหลายๆอย่างที่คุกคามอย่างเงียบๆ (เช่น เรื่องก่อการร้าย) เรื่องน้ำ วาตภัย แผ่นดินไหวก็ไม่รู้จะยังไง แต่หวังว่าเราชาวบอร์ดพลังจิตทุกคนจะเตรียมตัวได้ทัน และเป็นตัวนำในการเตือนภัยต่อผู้อื่น ดิฉันอยู่อิสานอยู่แล้ว ก็รู้สึกปลอดภัยในระดับนึง ญาติพี่น้องที่กรุงเทพก็ไม่ค่อยจะมีแล้ว ย้ายกลับบ้านกันหมด มีเหลือบ้างก็พอจะส่งข่าวกันได้ หวังให้ทุกๆท่านปลอดภัยต่อภัยอันตรายทั้งปวง ถ้าใครหาที่หลบภัย ให้มาอยู่ตามวัดที่ภาคอีสานได้ค่ะ ก่อนหน้านั้น ให้ช่วยมาทำบุญบ้าง มาทำความรู้จักคุ้นเคย วัดทุกวัดยินดีต้อนรับค่ะ รับรองว่ามีสถานที่อยู่และอาหารการกิน ถึงไม่อุดมสมบูรณ์ก็ไม่อดตายค่ะ
     
  18. Copenhagen

    Copenhagen สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 เมษายน 2011
    โพสต์:
    117
    ค่าพลัง:
    +17
    ภัยพิบัติครั้งนี้ใหญ่หลวงนัก

    จึงต้องอาศัยผู้ที่มีญาณสื่อสารกับโลกวิญญาณได้


    ถึงจะรู้เหตุการณ์ที่จะเกิดล่วงหน้าได้

    ท่านที่ไม่เชื่อกรุณาอย่าลบหลู่

    แทนที่ท่านจะได้ประโยชน์จากกระทู้นี้

    กลับจะพาท่านไปยังแดนทุกขคติภูมิไ้ด้

    ด้วยวิบากกรรมของการขัดขวางงานช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์

    ถ้าไม่เชื่อก็ไปอ่านในห้องอื่นๆ จะดีกว่านะครับ<!-- google_ad_section_end -->

    เห็นด้วยเช่นกันค่ะ ถ้าเห็นเป็นเรื่องงมงาย ก็อย่าก้าวก่ายกัน เชิญไปไกลๆเถอะค่ะ
     
  19. pgame

    pgame เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    231
    ค่าพลัง:
    +184
    ศึกษาเพื่อรู้แล้วเตรียมตัว ดีกว่า วัวหาย......แล้วอะไรนะ?
    ที่พวกในสภา ชอบทำกันเป็นนิสัย

    อิอิ ^_^ ล้อเล่นนะ

    การเตรียมตัวรับภัยพิบัตินั้น สิ่งของที่เราเตรียมไว้ หากไม่ได้ใช้ยามภัยพิบติ ก็ยังนำมาใช้ในชีวิตประจำวันได้นะครับ
     
  20. palungman

    palungman เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    96
    ค่าพลัง:
    +173
    ฮีทสโตรก โรคที่เกิดช่วงหน้าร้อน


    เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม

    [COLOR=#0080]ปัจจุบัน ภาวะโลกร้อนเป็นปัญหาที่ทุกคนให้ความสำคัญ เพราะนับวันอุณหภูมิโลกมีแนวโน้มสูงขึ้นเรื่อย ๆ สำหรับประเทศไทย ขณะนี้สภาพอากาศร้อนจัดกว่าทุกปี ทำให้ประชาชนมีความเสี่ยงในการเจ็บป่วยหลายโรค เช่น โรคในระบบทางเดินอาหารที่เกิดจากการรับประทานอาหาร และน้ำที่มีเชื้อโรคปน เปื้อนเข้าไปซึ่งเกิดบ่อยที่สุด แต่โรคที่มีการพูดถึงกันน้อย คนเป็นบ่อยช่วงหน้าร้อนคือ "โรคฮีทสโตรก" หรือ "โรคลมแดด" (Heat Stroke) แต่บางที่ก็เรียกว่า "โรคอุณหพาต" หรือ "โรคลมเหตุร้อน" นั้นเอง[/COLOR]

    [​IMG]อาการของโรค ฮีทสโตรก

    [COLOR=#80080]โรคฮีทสโตรก เป็นโรคที่เกิดจากการที่ร่างกายได้รับความร้อนมากเกินไป จนทำให้ความร้อนในร่างกาย (core temperature) สูงกว่า 40 องศาเซลเซียส[/COLOR] อาการที่เบื้องต้น ได้แก่ เมื่อยล้า อ่อนเพลีย เบื่ออาหาร คลื่นไส้ อาเจียน วิตกกังวล สับสน ปวดศีรษะ ความดันต่ำ หน้ามืด ไวต่อสิ่งเร้าง่าย และยังอาจมีผลต่อระบบไหลเวียน ซึ่งอาจมีอาการเพิ่มเติมอีก ได้แก่ ภาวะขาดเหงื่อ, เพ้อ, ชัก, ไม่รู้สึกตัว, ไตล้มเหลว, มีการตายของเซลล์ตับ, หายใจเร็ว, มีการบวมบริเวณปอดจากการคั่งของของเหลว, หัวใจเต้นผิดจังหวะ, การสลายกล้ามเนื้อลาย, ช็อค และเกิดการสะสมของ fibrin จนไปอุดตันหลอดเลือดขนาดเล็กทำให้อวัยวะต่าง ๆ ล้มเหลว ซึ่งหากไม่ได้รับการรักษาอย่างทันท่วงทีอาจทำให้เสียชีวิตได้

    [​IMG] ผู้ป่วย โรคฮีทสโตรก สามารถแบ่งตามสาเหตุการเกิดโรคออกเป็น 2 ประเภท คือ

    [​IMG] [COLOR=#80080]Classical Heat Stroke[/COLOR] เกิดจากความร้อนในสิ่งแวดล้อมที่อาศัยอยู่มีมากเกินไป ส่วนใหญ่เกิดในช่วงที่ มีอากาศร้อน พบบ่อยในผู้ที่มีอายุมากและมีโรคเรื้อรัง มักเกี่ยวกับความผิดปกติของระบบประสาทส่วนกลาง อาการที่สำคัญ คือ อุณหภุมิร่างกายสูง, ไม่มีเหงื่อ

    [​IMG] [COLOR=#80080]Exertional Heat Stroke[/COLOR] เกิดจากการออกกำลังที่หักโหมเกินไป มักจะเกิดในหน้าร้อนโดยเฉพาะกลุ่มผู้ใช้แรงงานและนักกรีฑา อาการคล้ายกับ Classical แต่ต่างตรงที่กลุ่มผู้ป่วยประเภทนี้จะมีเหงื่อออก นอกจากนี้ยังพบการเกิดการสลายเซลล์กล้ามเนื้อลาย โดยจะมีอาการแทรกซ้อน ได้แก่ ระดับโพแทสเซียมในเลือดสูง ระดับฟอสฟอรัสในเลือดสูง ระดับแคลเซียมในเลือดต่ำ และพบไมโอโกลบินในปัสสาวะด้วย

    [​IMG]บุคคลที่มีความเสี่ยงว่าจะเกิดโรคฮีทสโตรก

    บุคคลที่มีความเสี่ยงว่าจะเกิดโรคฮีทสโตรก ได้แก่ ทหารที่เข้ารับการฝึก โดยปราศจากการเตรียมสภาพร่างกายให้พร้อมในการเผชิญสภาพอากาศร้อน รวมถึงบรรดานักกีฬาสมัครเล่นและผู้ที่ทำงานในสภาพอากาศที่ร้อนชื้น รวมทั้งผู้สูงอายุ เด็ก คนอดนอน คนดื่มเหล้าจัด และผู้ที่เป็นโรคความดันโลหิตสูงด้วย

    [​IMG]สัญญาณสำคัญของโรคฮีทสโตรก

    สัญญาณสำคัญของโรคฮีทสโตรก ก็คือ ไม่มีเหงื่อออก ตัวร้อนจัดขึ้นเรื่อย ๆ รู้สึกกระหายน้ำมาก วิงเวียน ปวดศีรษะ มึนงง คลื่นไส้ หายใจเร็ว อาเจียน ซึ่งต่างจากการเพลียจากแดดทั่ว ๆ ไป ที่จะพบว่ามีเหงื่อออกด้วย หากเกิดอาการดังกล่าวจะต้องหยุดพักทันที

    [​IMG]หากพบเจอผู้เป็นโรคลมแดดสามารถช่วยเหลือเบื้องต้นได้โดย

    [​IMG] นำผู้มีอาการเข้าร่ม นอนราบ ยกเท้าสูงทั้งสองข้าง ถอดเสื้อผ้าออก

    [​IMG] ใช้ผ้าชุบน้ำเย็นหรือน้ำแข็งประคบตามซอกตัว คอ รักแร้ เชิงกราน ศรีษะ ร่วมกับการใช้พัดลมเป่าระบายความร้อน

    [​IMG] เทน้ำเย็นราดลงบนตัวเพื่อลดอุณหภูมิร่างกายให้ลดต่ำลงโดยเร็วที่สุด แล้วรีบนำส่งโรงพยาบาล

    [​IMG]วิธีการป้องกันโรคลมแดด คือ

    [​IMG] หากรู้ว่าจะต้องไปทำงานท่ามกลางสภาพอากาศที่ร้อน ก็ควรเตรียมตัวโดยการออกกำลังกายกลางแจ้งอย่างสม่ำเสมอ อย่างน้อยสัปดาห์ละ 3 ครั้ง ๆ อย่างน้อย 30 นาที เพื่อให้ร่างกายชินกับสภาพอากาศร้อน

    [​IMG] ดื่มน้ำ 1-2 แก้ว ก่อนออกจากบ้านในวันที่มีอากาศร้อนจัด และหากต้องอยู่ท่ามกลางสภาพอากาศร้อน หรือออกกำลังกลางสภาพอากาศร้อน ควรดื่มน้ำให้ได้ชั่วโมงละ 1 ลิตร แม้จะไม่รู้สึกกระหายน้ำก็ตาม และแม้ว่าจะทำงานในที่ร่มก็ควรดื่มน้ำอย่างน้อยวันละ 6-8 แก้ว

    [​IMG] สวมใส่เสื้อผ้าที่มีสีอ่อน ไม่หนา น้ำหนักเบา และสามารถระบายความร้อนได้ดี

    [​IMG] ก่อนออกจากบ้านควรใช้ครีมกันแดดที่มีค่าเอสพีเอฟ 15 ขึ้นไป

    [​IMG] หลีกเลี่ยงการอยู่กลางแดดในวันที่อากาศร้อนจัด

    [​IMG] หลีกเลี่ยงการกินยาแก้แพ้ แก้น้ำมูก โดยเฉพาะก่อนการออกกำลังกาย หรือการอยู่ท่ามกลางสภาพอากาศร้อนเป็นเวลานาน

    [​IMG] หลีกเลี่ยงเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์และยาเสพย์ติดทุกชนิด

    [​IMG] ในเด็กเล็กและคนชราควรได้รับการดูแลเป็นพิเศษ ต้องจัดให้อยู่ในห้องที่อากาศระบายได้ดี และอย่าปล่อยให้เด็กหรือคนชราอยู่ในรถที่ปิดสนิทตามลำพัง
    <!-- google_ad_section_end -->
     

แชร์หน้านี้

Loading...