ประเทศไทยจะเกิดอุบัติภัยอย่างที่ทำนายกันจริงๆหรือไม่

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย koymoo, 25 มกราคม 2005.

  1. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    "นิทานอีสป" เรื่องสองพ่อลูกผู้โง่เขลากับลา !!!

    [​IMG]

    ที่หมู่บ้านแห่งหนึ่งมีสองพ่อลูกคนโม่แป้งเป็นเจ้าของโรงสีแต่ยากจนมากอยู่ครอบครัวหนึ่ง และปีนี้ด้วยจะเป็นเพราะเคราะห์หามยามร้าย บันดาลให้ต้องหนักขึ้นมามากกว่าเก่าเข้าไปอีก เพราะเท่าที่ผ่านมาก็จนแสนที่จะจนอยู่แล้ว และยังมาปีนี้ด้วยฝนฟ้าก็ไม่ยอมตกลงมาให้เลยสักนิด พื้นดินจึงเกิดความแห้งแล้ง และจึงเป็นผลให้ต้นข้าวสาลี ที่เมื่อก่อนพอจะมีพวกชาวนานำมาโม่เป็นแป้งนั้นอยู่บ้าง ก็เกิดเหี่ยวเฉาและ ตายเสียจนหมดทุกไร่ไป

    สองพ่อลูกจึงต้องหนักใจด้วยไม่มีใครนำข้าวสาลีมาสีเป็นแป้งเลยสักเจ้าเดียว ลูกชายได้พูดบอกกับพ่อว่า " พ่อ ๆ แม้แต่แป้งที่จะมาทำเป็นขนมปังใช้กินกัน ก็หมดแล้วนะ จะทำยังไงดีล่ะ " พ่อจึงพูดขึ้นว่า " ต้นสาลีก็ตาย หมด ไม่มีใครจะเอามาโม่แล้วด้วย เฮ่อ..กลุ่มใจดีแหละ แต่..เดียวก่อน เรายังมีลาอยู่นี่ไง ไม่มีแป้งโม่ เจ้าลานี่ก็ไม่จำเป็นที่จะต้องมี เราเอาลานี่ไปขายแลกเอาเงินมาใช้กินกันดีกว่า "

    [​IMG]

    เมื่อคิดได้ดังนั้นแล้ว สองพ่อลูกจึงตัดสินใจที่จะนำลาตัวนั้นไปขายเสียที่ในเมือง ชายเจ้าของโรงสีและลูกชาย จูงลาเดินไปตามทางเรื่อย ๆ อากาศก็ร้อน แดดก็เปรี้ยงเสียด้วยวันนั้น สองพ่อลูกเดินจูงลาและเช็ดเหงื่อที่ไหล ย้อยลงมาอย่างไม่ยอมหยุดและเดินทางไปเรื่อย ๆ ในระหว่างทาง พวกเขาได้พบกับพวกผู้หญิงกลุ่มหนึ่ง ซึ่งกำลังซักผ้ากันอยู่ที่ริมแม่น้ำ ผู้หญิงในกลุ่มนั้นคนหนึ่งเอ่ยขึ้นว่า "ดูนั่นซิ" และยังชี้มือมาทางเจ้าของ โรงสี และลูกชาย " ช่างโง่ชะมัดเลยทั้งสองคน....เธอว่าไหม ?"

    [​IMG]

    เจ้าของโรงสีเมื่อได้ยินเช่นนั้น ก็นึกโมโหที่เดินอยู่ดี ๆ ก็มีคนมาว่า " ว่าโง่ชะมัด " อย่างนั้น จึงตะโกนถาม ผู้หญิงคนที่พูดขึ้นนั้นว่า " ทำไมการเดินจูงลาแล้วจะต้องเป็นคนที่โง่ชะมัดอย่างที่หล่อนว่า นั้นด้วยเล่า ? " ผู้หญิงคนนั้นจึงพูดว่า " ก็ถ้าเป็นคนที่ฉลาด ๆ ละก็ ก็คงจะไม่ยอมเดินคลุกฝุ่นอย่างนั้นอยู่ได้น่ะสิ ทั้งๆที่คน หนึ่งน่าจะขี่หลังลา นั่งให้สบาย ๆ แต่ไม่ยักกะทำ พวกเราถึงได้ว่า ว่าโง่ชะมัดยังไงเล่า?" ผู้พ่อเมื่อได้ฟัง ดังนั้นก็เห็นด้วยกับผู้หญิงคนที่พูดนั้น เขาจึงบอกกับลูกชายว่า " ที่ผู้หญิงคนนั้นพูดก็ถูกนะ ลูกขึ้นไปขี่ลาเถิด มา ขึ้นมา" ว่าแล้วเขาก็ช่วยลูกชายให้ขึ้นนั่งบนหลังลา แล้วทั้งสองคนเดินก็ทางกันต่อไป ในไม่ช้า สองพ่อลูก ก็พบหญิงชรานางหนึ่งมือถือไม้เท้า และกำลังจะเดินสวนทางมาทางสองพ่อลูกเข้าอีก

    [​IMG]

    หญิงชรานางนั้นเมื่อเดินสวนมาถึงที่ใกล้ ๆ กับสองพ่อลูก แล้วอยู่ ๆ นางก็ยกไม้เท้าที่ถือมาในมือนั้นขึ้นเคาะไปที่ หัวของลูกชายที่นั่งอยู่บนหลังลาดัง " ป๊อก " แล้วพูดอย่างโมโหฉุนเฉียวว่า " อ้าย คนเนรคุณ ! จอมขี้เกียจ สันหลังยาว อากาศร้อน ๆออกอย่างนี้ แทนที่จะให้พ่อผู้แก่ชรานั่งบนหลังลากับมานั่งเสียเอง ดูสิ ! แกนั่นแหละ ควรเป็นคนเดินไม่ใช่พ่อแก " ลูกชายตกใจมากที่อยู่ดี ๆก็มาโดนเคาะหัวแล้วยังแถมโดนหญิงชราดุสั่งสอน เอาอย่างนั้นเข้าอีก แต่เขาก็คิดเห็นด้วยกับคำพูดของหญิงชราผู้นั้น " เอ ที่จริงหญิงชราผู้นั้นก็พูดถูกน่ะพ่อ" ลูกชายว่า แล้วก็กระโดดลงจากหลังลาแล้วเปลี่ยนที่ให้พ่อนั่งบนหลังลาบ้าง แล้วจึงเดินทางต่อไปอีก

    [​IMG]

    เมื่อเดินทางต่อมาได้อีกไม่ไกลนัก ก็ได้พบกับคนเดินทางเดินสวนทางผ่านมา คนเดินทางผู้นั้นมองสองพ่อลูก แล้วพูดเปรย ๆให้ได้ยินทั้ง ๆหัวเราะว่า " โง่ชะมัด เลยทั้งพ่อทั้งลูก ทั้ง ๆ ที่ร้อนออกอย่างนี้ มีลาอยู่ทั้งตัว ก็จะมามัวเดินจูงอยู่ทำไมก็ไม่รู้ ก็ขึ้นไปนั่งทั้งสองคนก็หมดเรื่อง ทำไมถึงโง่จริง ๆ เลย ฮ่า ๆๆๆ " เจ้าของโรงสีและลูก ชายก็เห็นด้วยตามที่คนเดินทางผู้นั้นพูดอีกนั่นแหละ " คนเดินทางผู้นั้นพูดก็ถูกน่ะ" ผู้พ่อ ว่า แล้วเขาก็ช่วยให้ลูกชายขึ้นมานั่งลงที่ข้างหลังของเขา แล้วทั้งสองก็เดินทางต่อ โดยขึ้นขี่หลังลาไปด้วยกัน ทั้งสองคน

    [​IMG]

    พวกเขาเกือบไปถึงเมืองแล้ว แต่ก็ยังได้ไปพบกับผู้ชายที่เป็นชาวนาคนหนึ่งเข้า "นี่ ลาของคุณหรือ" "ใช่" เจ้า ของโรงสี ตอบ "เราจะเอาไปขายที่ตลาด คุณถามทำไมล่ะ" ชายชาวนาจึงตอบกลับมาว่า " ก็ใน ไม่ช้า เจ้าลาที่น่าสงสารนี่ คงหมดแรงลงแน่ ๆ ถ้าต้องแบกคุณสองคนไปตลอดทาง เชื่อสิ " ชายชาวนาคนนั้นตอบ " แล้วตอนนั้นใครเขาจะ อยากซื้อมัน จริงไหม เราคิดว่าถ้าพวกท่านจะช่วยแบกมันแทนล่ะก็ น่าจะดีกว่านะ " เจ้าของโรงสีและลูกชาย มองตากันและเห็นด้วยกับชาวนาคนนั้นที่พูดทักขึ้นทันที

    [​IMG]

    " นี่ก็เป็น ความคิดที่ดี" เจ้าของโรงสีเอ่ย แล้วเขาก็หาไม้และเชือกมา ช่วยกันผูกลากับไว้ท่อนไม้ และหามเจ้าลา เข้าไปในเมือง ผู้คนในเมืองไม่เคยเห็นสิ่งที่ตลกเท่านี้มาก่อนเลย "ดูซิ" ชายคนหนึ่งร้อง "พวกเขาพยายามหามลา" คนในเมืองพากัน หัวเราะท้องคัดท้องแข็งจนน้ำตาไหล ทีนี้ก็ถึงตาเจ้าลาบ้างแล้ว ลาไม่ว่าอะไรหรอกที่ต้องถูก หามแบบนี้ แต่มันไม่ชอบให้ใครมาหัวเราะเยาะ

    ดังนั้นมันจึงพยศขึ้น คือมันทั้งดิ้นสะบัดตัวและทั้งเตะทั้งถีบ จนในที่สุดเชือกก็เลยขาดออก แล้วบังเอิญตรงนั้นเป็นสะพานข้ามคลองเข้าพอดี ลาเลยตกลงไปในน้ำและจมหายไปในน้ำนั้นทันที เจ้าของโรงสีและลูกชายจึงจำต้องเดินหน้าเศร้ามือปล่าว กลับบ้านอย่างช่วยไม่ได้ และต้องเสียลาไปโดยปล่าวประโยชน์ " พ่อไม่น่าพยายามจะทำให้ถูกใจทุกคนเลย " เขา บอกและถอนใจใหญ่ "ในที่สุดก็ลงเอยว่า พ่อทำไม่ถูกใจใครสักคน พ่อว่าตอนนี้พ่อเองแหละที่โง่เหมือนลา"

    [​IMG]

    นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า เราไม่สามารถทำสิ่งใดสิ่งหนึ่งให้ถูกใจคนทุกคนได้ เพราะฉะนั้น อย่าไปกังวลกับคำติฉินนินทาให้มากนัก

    ที่มา สองพ่อลูกผู้โง่เขลากับลา
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 2 พฤษภาคม 2013
  2. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    มีผู้เสียชีวิตและเจ็บเกือบ 70 คนจากแผ่นดินไหวอินเดีย

    [​IMG]

    นิวเดลี 2 พ.ค.- เจ้าหน้าที่อินเดียรายงานว่า แผ่นดินไหวทางภาคเหนือของอินเดียเมื่อวันพุธทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 2 คน และบาดเจ็บเกือบ 70 คนซึ่งในจำนวนนี้เป็นนักเรียนกว่า 30 คน

    สำนักข่าวเพรสทรัสต์ออฟอินเดียรายงานว่า แผ่นดินไหวระดับปานกลางถึงรุนแรงขนาด 5.8 ริกเตอร์บริเวณแนวเขตแดนของรัฐจัมมู และแคชเมียร์ กับรัฐหิมาจัลประเทศ ทำให้มีผู้เสียชีวิต 2 คนเพราะดินถล่มจากแผ่นดินไหวและตามมาด้วยอาฟเตอร์ช็อกอีกชุดหนึ่ง นอกจากนี้ ยังมีผู้บาดเจ็บอีก 69 คน ซึ่งเป็นนักเรียน 32 คน หลังอาคารโรงเรียนและอีกหลายอาคารพังถล่มลงมาในรัฐจัมมูและแคชเมียร์

    แรงสั่นสะเทือนทำให้ผู้คนทั่วพื้นที่วิ่งออกมารวมกันบนท้องถนนเพราะความตกใจ รวมทั้งยังสะเทือนไปถึงรัฐปันจาบและรัฐหรยาณาแต่ไม่มีรายงานผู้บาดเจ็บ และเสียหายจากทั้งสองรัฐดังกล่าว แผ่นดินไหวที่อินเดีย เมื่อวันพุธมีศูนย์กลางห่างไปทางเหนือของกรุงนิวเดลีราว 450 กิโลเมตร

    สำนักข่าวไทย TNA News | 2 พ.ค. 2556 09:42 |

    ที่มา มีผู้เสียชีวิตและเจ็บเกือบ 70 คนจากแผ่นดินไหวอินเดีย | MCOT.net | MCOT.net

    ชาวมุสลิมในพม่าหวั่นความปลอดภัย

    [​IMG]

    พม่า 2 พ.ค. - ชาวมุสลิมในพม่าต่างรู้สึกกังวลว่าจะไม่ปลอดภัย หลังเกิดเหตุปะทะกันระลอกใหม่ระหว่างชาวพุทธกับมุสลิม ทำให้มีผู้เสียชีวิต 1 คน และบาดเจ็บนับสิบ ขณะที่บ้านเรือนชาวมุสลิมถูกชาวพุทธวางเพลิงได้รับความเสียหาย

    ชาวมุสลิมต่างกังวลกันว่า ปัญหาความรุนแรงระหว่างชาวพุทธกับมุสลิมจะปะทุขึ้นมาอีก หลังเกิดเหตุปะทะกันระลอกล่าสุดไปเมื่อ 2-3 วันที่ผ่านมา ในหมู่บ้านแห่งหนึ่งชานเมืองย่างกุ้ง ทำให้มีผู้เสียชีวิต 1 คน และบาดเจ็บ 10 คน ขณะที่บ้านเรือนชาวมุสลิมหลายหลังถู กวางเพลิงได้รับความเสียหายไปถึง 77 หลัง หลังเกิดเหตุทางการได้ส่งตำรวจ 400 นาย เข้าไปรักษาความปลอดภัย แต่กระแสความเกลียดชังระหว่างชาวพุทธกับมุสลิมที่ปะทุรุนแรงขึ้นทุกขณะ ทำให้ชาวมุสลิมบางส่วนไม่กล้ากลับเข้าบ้าน เพราะเกรงจะไม่ปลอดภัยและชาวบ้านนับร้อยคนเลือกที่จะอาศัยอยู่ในค่ายพักแรมกลางป่า

    ทั้งนี้ เหตุรุนแรงระหว่างชาวพุทธกับมุสลิมในพม่าเกิดขึ้นบ่อยครั้ง หลังจากที่รัฐบาลชุดใหม่เข้ามาบริหารประเทศตั้งแต่ต้นปี 2554

    สำนักข่าวไทย TNA News | 2 พ.ค. 2556 09:58 |

    ที่มา ชาวมุสลิมในพม่าหวั่นความปลอดภัย | MCOT.net | MCOT.net
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  3. Kiddee_p

    Kiddee_p Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 เมษายน 2012
    โพสต์:
    65
    ค่าพลัง:
    +76

    เห็นแล้วสบายตา น่าชื่นชม
     
  4. พูน

    พูน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    595
    ค่าพลัง:
    +2,479
    คงกันคนอ่านเป็นโรควิตกกังวลล่ะครับ เป็นแล้วรักษายาก ประเทศไทยคงไม่ได้แย่เสียหมดขนาดนั้น
    :cool::cool::cool:
     
  5. อนิจฺจํ

    อนิจฺจํ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 พฤศจิกายน 2010
    โพสต์:
    1,374
    ค่าพลัง:
    +2,949
    นำเสนอมุมมองอีกด้าน เพื่อค้านในสิ่งที่เราไม่เห็นด้วย
    ผมสนับสนุน และเห็นด้วยในวิธีนี้ครับ
    เมื่อเราไม่เห็นด้วยกับความคิดใคร
    ไม่จำเป็นต้องค้านแบบหัวชนฝา ด่าไปทั่ว
    เพราะมันจะเกิดสถานการณ์ตรึงเครียดได้
    ค้านแบบนำเสนอมุมมองที่ต่างอย่างที่ทำอยู่นี้ ชมเชยครับ

    :cool::cool::cool:
     
  6. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    เผยเกาหลีเหนืออาจเริ่มเดินเครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์เร็ว ๆ นี้

    [​IMG]

    วอชิงตัน 2 พ.ค.-คณะนักวิจัยเปิดเผยว่า เกาหลีเหนืออาจพร้อมเดินเครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์แบบน้ำมวลเบาได้ภายในไม่กี่สัปดาห์นี้ ซึ่งยิ่งทำให้หลายฝ่ายกังวลมากขึ้นจากการที่รัฐบาลเกาหลีเหนือประกาศว่าจะผลิตอาวุธนิวเคลียร์เพิ่ม

    คณะนักวิจัยสถาบันร่วมสหรัฐ-เกาหลีใต้ที่มหาวิทยาลัยจอห์นฮอบกินส์รายงานว่า ภาพถ่ายดาวเทียมเมื่อเดือนมีนาคมและเมษายนเผยให้เห็นว่ากาหลีเหนือกำลังเตรียมการขั้นสุดท้ายในเครื่องปฏิกรณ์และทำความสะอาดหลังเสร็จสิ้นการก่อสร้าง หากเกาหลีเหนือทำตามที่เคยประกาศไว้ว่าเสริมสมรรถนะแร่ยูเรเนียมมาตั้งแต่ปี 2553 ก็อาจมีเชื้อเพลิงเพียงพอที่จะเดินเครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์ไปได้อีกหลายปี และเท่ากับว่าอาจเริ่มกิจกรรมทางนิวเคลียร์ได้ในอีกไม่กี่สัปดาห์ และว่าโรงนิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือจะต้องใช้เวลาอีก 9 เดือนจนถึง 1 ปีถึงจะสามารถดำเนินการได้อย่างเต็มรูปแบบ

    สำนักข่าวไทย TNA News | 2 พ.ค. 2556 10:42 |

    ที่มา เผยเกาหลีเหนืออาจเริ่มเดินเครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์เร็ว ๆ นี้ | MCOT.net | MCOT.net

    จีนพบผู้เสียชีวิตไข้หวัดนกเอช 7 เอ็น 9 เพิ่มเป็น 25 ราย

    [​IMG]

    ปักกิ่ง 2 พ.ค. - สื่อจีนรายงานว่า ยอดผู้เสียชีวิตจากเชื้อไวรัสไข้หวัดนก เอช 7 เอ็น 9 ในจีนเพิ่มขึ้นเป็น 25 รายแล้ว ภายหลังชายอีกคนเสียชีวิตในมณฑลหูหนาน ทางภาคกลาง

    สำนักข่าวซินหัวของทางการจีน รายงานอ้างเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นว่า นายเจียว วัย 55 ปี เสียชีวิตเมื่อเช้าวันพุธ หลังเข้ารับการรักษาได้ระยะหนึ่ง ขณะที่มีผู้ติดเชื้อไวรัสกว่า 120 คน นับตั้งแต่มีรายงานระบาดครั้งแรกเมื่อปลายเดือนมีนาคม ซึ่งผู้ติดเชื้อส่วนใหญ่อยู่ทางภาคตะวันออก และมีรายงานผู้ติดเชื้อนอกจีนแผ่นดินใหญ่เพียงคนเดียวที่อยู่ในไต้หวัน หลังได้รับเชื้อในจีนแผ่นดินใหญ่ ผู้เชี่ยวชาญวิตกกันว่า ไวรัสสายพันธุ์ดังกล่าวอาจกลายพันธุ์และติดต่อระหว่างคนสู่คนได้ง่าย และอาจระบาดเป็นวงกว้าง

    สำนักข่าวไทย TNA News | 2 พ.ค. 2556 14:18 |

    ที่มา จีนพบผู้เสียชีวิตไข้หวัดนกเอช 7 เอ็น 9 เพิ่มเป็น 25 ราย | MCOT.net | MCOT.net
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  7. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    แม่ชีตาทิพย์..ผู้มองเห็นภัยพิบัติจากดาวหางยักษ์ !!!

    [​IMG]
    Hildegard von Bingen

    นักบุญ ฮิลเดอการ์ด วอน บินเจน เป็นนักเขียน, นักแต่งเพลง, นักปรัชญา, นักบุญผู้ลึกลับชาวเยอรมัน ที่ไม่มีใครรู้ที่มาของเธอเท่าใดนัก แต่เชื่อว่าเธอเกิดเมื่อปี ค.ศ.1098 ขี้โรคแต่กำเนิด ก่อนที่จะเข้าสำนักชี และแสดงอัจฉริยภาพจนหลายคนท่านรู้จักกันดี ในฐานะนักแต่งเพลงคลาสสิกและวรรณกรรมในช่วงศตวรรษที่ 12 อีกทั้งยังเป็นที่เลื่องลือกล่าวถึงในเรื่องการรับนิมิต และ การทำนายพยากรณ์ และก็จัดบันทึกซึ่งทุกนิมิตที่ท่านได้รับเอาไว้ด้วย

    และหนึ่งในคำทำนายเหล่านั้นได้ปรากฏหายนะของประเทศอเมริกาเอาไว้ว่า“ก่อนที่ดาวหางจะมา หลายประเทศ ยกเว้นพวกที่ดี จะถูกท่วมท้นด้วยความอดอยากและความหิวโหย ประเทศที่ยิ่งใหญ่ในมหาสมุทร ที่ซึ่งอยู่อาศัยโดยคนหลายเผ่าหลากเชื้อชาติ จะถูกทำลายด้วยแผ่นดินไหว พายุ และเกลียวคลื่น ถูกแบ่งแยก และส่วนใหญ่จะจมอยู่ใต้น้ำ ประเทศนั้นจักพบโชคร้ายอีกมากมายเกี่ยวกับทะเล และเสียอาณานิคมทางตะวันออก ผ่านเสือและสิงโต ด้วยความใหญ่โตของดาวหาง จะทำให้ทะเลถูกดึงขึ้นมาและท่วมสู่หลายประเทศ ทำให้เกิดความอดอยากมากมาย โรคระบาดมากมาย

    หลังจากดาวหางยักษ์ ประเทศที่ยิ่งใหญ่จะโดนถล่มด้วย แผ่นดินไหว พายุ และเกลียวคลื่น ทำให้เกิด ความอดอยากและโรคระบาดมากมาย ทะเลจะเข้าท่วมอีกหลายประเทศ ทำให้เมืองชายฝั่งทั้งหลายอยู่ท่ามกลางความหวาดกลัว หลายที่จะถูกทำลาย เมืองชายฝั่งทั้งหลายอยู่ท่ามกลางความหวาดกลัว หลายที่จะถูกทำลายด้วยเกลียวคลื่น และสิ่งมีชีวิตทั้งหลายจะตายลง ถึงแม้จะมีพวกที่หนีและมีชีวิตรอด ก็จักตายด้วยโรคอันน่าสยดสยอง”

    ที่มา นิยาย เรื่องจริงทะลุโลก (Extension) > ตอนที่ 320 : 10 สุดยอดการพยากรณ์อนาคตที่คุณไม่รู้จัก
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 3 พฤษภาคม 2013
  8. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,239
    ค่าพลัง:
    +97,149
    ท่านอินทราคือใครครับ การอธิษฐานบุญอันแรงกล้าคือการขอให้สำเร็จพระอนุตรสัมมาสัมโพธิญาณใช่ไหมครับ ผมเห็นในสมัยนี้มีพระอธิษฐานขอสำเร็จกันเยอะมาก และผมเคยอ่านว่าพระยาธรรมมิกราช คำส่ามิกราช คือการรวมจิต ท่านอินทรามีดวงจิตที่รวมกับสิ่งศักดิสิทธิได้จริงๆ หรือ และอมตธรรมที่ท่านค้นพบคืออะไรครับ เพราะธรรมทุกอย่างที่พระตถาคตตรัสก็คืออมตธรรมอยู่แล้ว เพราะได้จากการบำเพ๊ญ 8 อสงไขย กับอีก1 แสนมหากัป ไม่เห็นต้องไปค้นพบอมตธรรมเองเลย สงสัยครับ
     
  9. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    เรื่องของพระเจ้าจักรพรรดิราช(พระศรีอาริย์)ในกึ่งพุทธกาลนี้ แต่ละสำนักที่ปฏิบัติธรรมก็จะมีความเชื่อที่แตกต่างกันไปว่า น่าจะเป็นท่านนั้นบ้าง ท่านนี้บ้าง แต่ก็ยังหาข้อสรุปยืนยันที่แน่นอนไม่ได้ครับ เช่นท่านอินทราที่เจ้าของบทความที่ผมนำมาโพสต์ เขาเชื่อว่าเป็นพระยาธรรมิกราช หรือพระศรีอาริย์ที่ชาวพุทธรอคอยครับ แต่ผมคิดว่ายังไม่ใช่ครับ และผมก็ไม่ทราบว่าท่านอินทราท่านนี้เป็นใคร แต่ที่เชื่อได้แน่ๆ ก็คือยุคนี้ยังเป็นยุคศาสนาของพระสมณโคดมพระพุทธเจ้าอยู่ครับ เรื่องที่จะมีพระพุทธเจ้าองค์ใหม่มาอุบัตินั้น จึงเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้อย่างสิ้นเชิงครับ

    สรุปว่าข้อมูลใดๆ ที่ผมได้นำมาโพสต์ให้ได้อ่านกันนี้ ท่านผู้อ่านอย่าเพิ่งเชื่อและอย่าเพิ่งด่วนปฏิเสธ ท่านผู้อ่านต้องค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมจากแหล่งอื่นๆ มาประกอบการพิจารณาถึงความเป็นไปได้ ด้วยว่ามีมากน้อยแค่ไหน ตามหลักธรรมคำสอนของพระพุทธเจ้าในเรื่อง กาลามสูตรกังขานิยฐาน 10 หมายถึง วิธีปฎิบัติในเรื่องที่ควรสงสัย อย่าปลงใจเชื่อ เพราะเข้าได้กับทฤษฎีที่พินิจไว้แล้ว ก็คือให้ฟังหูไว้หูนั่นเองครับ
     
  10. พูน

    พูน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    595
    ค่าพลัง:
    +2,479
    ดีแล้ว ชอบแล้ว...:cool::cool:
     
  11. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,239
    ค่าพลัง:
    +97,149
    แผ่นดินไหวทั่วโลก 3 พฤษภาคม 2556
    เมื่อ 17.43 ตามเวลาไทย เกิดแผ่นดินไหวขนาด 2.7 บริเวณ Yellowstone National Park Wyoming ที่ความลึก 3.50 กม. น่ากลัว
     
  12. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,239
    ค่าพลัง:
    +97,149
    พอดีได้อ่านบทความจาก atcloud มา

    บทความ เนื้อเรื่อง หรือ คำอธิบาย โดยละเอียด
    ข้อมูลเหล่านี้เป็นข้อมูลที่นักธรณีวิทยา​หรือ​นักวิทยาศาสตร์​ค้น​พบจริงๆ​นะครับ(แปล​จาก​เว็ปไซต์​ BBC)

    1) ​ขนาด​ของ​ Supervolcano ​ที่เยลโล่สโตน มีขนาดไม่เล็กกว่า 280 ตร.กม.ครับ ใหญ่พอๆ​กับ​เมืองโตเกียว​ ​เมืองหลวงของญี่ปุ่น​หรือ​เมืองที่​ใหญ่​ที่สุด​ใน​โลก​ ​และการระ​เบิดสามารถเกิดต่อเนื่องกันติดต่อ​กัน​ได้​นาน​เป็น​สัปดาห์ (มีอันใหญ่กว่านี้ด้วยนะ แต่ที่เขาว่ามันถึงรอบระเบิดก็เยลโล่สโตนนี่แหละ)

    2) ​ความ​รุนแรงของการระ​เบิดมีพลังงาน​เท่า​กับ​ระ​เบิดนิวเคลียร์​ถึง 1,000 ​ลูกที่​เมืองฮิ​โรชิมา​ใน​ทุกๆ​เวลา​ 1 ​วินาที​ ​นั่นหมายถึงว่าประ​เทศอเมริกาประมาณครึ่งประ​เทศ​จะได้​รับ​ความ​เสียหาย​จาก​การระ​เบิดครั้งนี้

    3) Supervolcano ที่​ Yellowstone ​เคยเกิดขึ้น​แล้ว​ 3 ​ครั้ง​ โดยมีช่วงระยะ​เวลาห่างของการระ​เบิดแต่ละครั้ง ประมาณ​ 6 ​แสน​กว่า - 7 ​แสนปี​ ​อายุของอุทยานแห่งชาติ Yellowstone ตามหลักฐานทางธรณีวิทยาถึงปัจจุบันคือ 640,000 ปี ซึ่ง​หมาย​ความ​ว่าาในช่วงเวลานับจากนี้อยู่ในรอบของการระ​เบิดครั้งต่อไป​​แล้ว​ (เวลา 1-5 ปี สั้นมากสำหรับระยะเวลาโลก ไม่ต่างอะไรกับเวลาไม่กี่วินาทีของคน อาจคลาดเคลื่อนบ้างเล็กน้อย แต่หมายถึงว่ามันถึงรอบของมันอีกรอบแล้ว ในช่วงระยะเวลาอนใกล้นี้
    (มากกว่านั้นด้วยครับ เพราะฉะนั้นคลาดเคลื่อน 10-20 ปียังนิดเดียวเท่านั้นสำหรับโลก)

    4) หลักฐานการเกิด Supervolcano ​เกิดขึ้นครั้งสุดท้ายที่​เกาะสุมาตราประ​เทศอินโดนิ​เซีย​ ​จากการศึกษา การระ​เบิดของ​ supervolcano ​นั้น​จะ​ส่งผล​ให้​โลกตก​อยู่​ภาวะที่​เรียกว่า​ Nuclear winter ​ยาวนาน​ถึง​ 10 ​ปี​ ​นอก​จาก​นี้​ยัง​มีหลักฐานทางโบราณคดีที่​ค้น​พบคือ​ ​ซากฟอสซิลของแรด​ใน​ยุคที่มีการระ​เบิด​นั้น​ ​สำ​ลักควัน​จาก​ภู​เขา​ไฟตาย​ ​แม้​จะ​อยู่​ห่าง​จาก​จุดระ​เบิด​ไกล​ถึง​ 1000 ​ไมล์

    5) ​นักวิทยาศาสตร์ลง​ความ​เห็นสรุป​ไว้​ว่า​ ​การระ​เบิดครั้งต่อไปที่​ Yellowstone ​นั้น​เกิดขึ้นแน่นอน​ ​แต่คำ​ถามที่​ไม่​มี​ใคร​สามารถ​ตอบ​ได้​คือ​ ​เรา​ไม่​รู้ว่ามัน​จะ​เกิดครั้งต่อไปเมื่อ​ใด​ ​อย่างไรก็ตาม​ ​นักวิทยาศาสตร์บาง​ส่วน​มี​ความ​เห็นว่าการระ​เบิดครั้งต่อไป​ยัง​ไม่​น่า​จะ​เกิดขึ้น​ใน​รุ่นอายุของเรา

    หนังเรื่องนี้​ ​มีในช่อง​ Discovery Channel ​ของอเมริกา​ ค่อ
    Supervolcanoes ​แตกต่าง​จาก​ภู​เขา​ไฟ​ทั่ว​ไปที่​เรารู้จัก​ ​คือ​ไม่​ได้​มีลักษณะ​เป็น​ปล่องภู​เขา​ไฟ​ ​แต่มันซ่อนตัว​อยู่​ลึก​ใต้​พื้นดิน​ ​และ​ยากต่อการตรวจพบ​ ​ภู​เขา​ไฟ​โดย​ทั่ว​ไปเกิด​จาก​การที่หินละลาย​ใต้​เปลือกโลก​ ​ถูกแรงดันมหาศาลภาย​ใน​โลกผลักดัน​ให้​ปะทุออกมาบนผิวโลก​ ​แต่สำ​หรับ​ Supervolcanoe ​นั้น​แทนที่หินละลายเหล่านี้​จะ​ระ​เบิดออกมาที่ผิวโลก​ ​มันกลับเกิดการ​ ​สะสม​กัน​ก่อน​เป็น​เวลาหลายพันปี​เกิด​เป็น​บ่อหินละลายขนาดยักษ์​ ​ซึ่ง​อยู่​ใต้​พื้นโลกลึกลงไป​ ​นักธรณีวิทยา​เรียกว่าบ่อหินละลาย​ใต้​ดินนี้ว่า​ Magma chamber

    หินละลาย​หรือ​ Magma ​ที่สะสม​อยู่​ใน​ Magma chamber ​นั้น​จะ​ทับถม​กัน​จนหนาหลายสิบกิ​โลเมตร​ ​ซึ่ง​มัน​จะ​ดูดซับเอาก๊าซต่างๆ​ ​เช่น​ ​ก๊าซซัลเฟอร์​ไดอ๊อกไซด์​ ​และ​ ​คารบอนไดอ๊อกไซด์​ไว้​ ​ก๊าซเหล่านี้​เมื่อสะสม​กัน​เวลาหลายๆ​ ​พันปีก็​จะ​เกิดแรงดันมหาศาล​ ​และ​เมื่อ​ถึง​จุดๆ​หนึ่งก็​จะ​ระ​เบิดประทุขึ้นมา​เหนือผิวโลก​ ​ด้วย​ความ​รุนแรงมากกว่าการระ​เบิด​จาก​ภู​เขา​ไฟธรรมดาหลายร้อย​เท่า​ ​นักธรณีวิทยาพบว่า​ Supervolcanoes ​นั้น​โดย​มาก​จะ​เกิด​ใน​บริ​เวณที่​เรียกว่า​ Subduction zone ​ซึ่ง​เป็น​บริ​เวณที่​เปลือกโลก​ใน​พื้นมหาสมุทร​ ​เคลื่อนตัวลงไป​ใต้​ชั้นหินของแผ่นทวีป​ ​เช่น​ ​บริ​เวณชายฝังแปซิฟิกของสหรัฐอเมริก​ ​และ​ ​บริ​เวณประ​เทศอินโดนิ​เชีย​เป็น​ต้น​

    การระ​เบิดของ​ Supervolcanoes ​นี้​จะ​ไม่​เหมือนการระ​เบิดของภู​เขา​ไฟธรรมดาออกมา​จาก​ปล่องภู​เขา​ไฟ​ ​เมื่อ​Supervolcanoes ​ประทุขึ้นมัน​จะ​พ่นหินละลายออกสู่ผิวโลก​ด้วย​ความ​เร็ว​สูง​ Magma ​ที่สะสม​อยู่​ใน​ Magma chamber ​ใต้​ดิน​จะ​ถูกพ่นออกมา​และ​หมดไปอย่างรวด​เร็ว​ทำ​ให้​เปลือกโลกที่​อยู่​ข้างบนยุบตัวลงไป​ ​เกิด​เป็น​หลุมขนาดยักษ์​ ​เหมือน​กับ​หลุมที่​เกิด​จาก​การพุ่งชน​ ​ของอุกกาบาต​ ​ซึ่ง​นักธรณีวิทยา​เรียกหลุมที่​เกิด​จาก​การระ​เบิดของ​ Supervolcanoes ​ว่า​ Caldora

    นอก​จาก​นั้น​เถ้า​ถ่านภู​เขา​ไฟ​จาก​การระ​เบิดครั้ง​ใหญ่​นี้​จะ​ปกคลุมบรรยากาศ​ ​ก๊าซจำ​พวกซัลเฟอร์​ไดออกไซด์​จะ​สะท้อนแสงอาทิตย์​ไม่​ให้​ตกลงมาสู่พื้นโลก​ได้​เต็มที่​ ​ทำ​ให้​อุณหภมิ​โลกลดลง​ ​อย่างรวด​เร็ว​ ​เกิดปรากฏการณ์ที่​เรียกว่าฤดูหนาวนิวเคลียร์​ ( nuclear winter )

    ใน​ประวัติศาสตร์ของมนุษย์​นั้น​ไม่​เคย​ได้​มีการบันทึกการระ​เบิดของ​ Supervolcanoes ​เอา​ไว้​ ​แต่​จาก​หลักฐานทางธรณีวิทยา​นั้น​พบว่า​ Supervolcanoes ​ได้​ระ​เบิดครั้งล่าสุดเมื่อ​ 75,000 ​ปีมา​แล้ว​ ​คือภู​เขา​ไฟ​ ​โทบา​ (Toba) ​ซึ่ง​ตั้ง​อยู่​บนเกาะสุมาตราประ​เทศอินโดนิ​เชีย​

    สำ​หรับที่อุทยานแห่งชาติ​ Yellowstone Park ​ใน​อเมริกา​นั้น​ ​จาก​หลักฐานทางธรณีวิทยาพบว่า​ ​ได้​เคยเกิดการระ​เบิดของ​ Supervolcanoes ​มา​แล้ว​อย่างน้อย​ 3 ​ครั้งแต่ละครั้งห่าง​กัน​เป็น​เวลาประมาณ​ 600,000 ​ปี​ ​ที่น่าตกใจคือครั้งล่าสุดที่​เกิดการปะทุขึ้น​นั้น​เมื่อ​ 640,000 ​ปีมา​แล้ว​

    นักธรณีวิทยา​ ​ศ​. ​โรเบิรต์​ ​สมิต​ ( Robert Smith )​แห่งมหาวิทยาลัยยูทารห์​(University of Utah) ​ได้​ทำ​การวัดขนาดของ​ Magma chamber ​ที่ฝังตัว​อยู่​ภาย​ใต้​ Yellowstone Park ​โดย​อาศัย​
    คลื่น​ความ​สั่นสะ​เทือนของแผ่นดินใหว​ ​พบว่าขนาดของ​ Magma chamber ​ที่​ Yellowstone ​มีขนาดมหึมา​ ​ความ​กว้างประมาณ​ 20 ​กิ​โลเมตร​ ​ความ​ยาวประมาณ​ 40 ​ถึง​ 50 ​กิ​โลเมตร​และ​ลึก​ไม่​ต่ำ​กว่า​ 10 ​กิ​โลเมตร​

    หลักฐาน​จาก​ชั้นหิน​ใต้​มหาสมุทรอินเดีย​ ​และ​ ​แท่งน้ำ​แข็ง​ ​ชี้​ให้​เห็นว่า​ ​การระ​เบิดของภู​เขา​ไฟ​ ​โทบา​ใน​อินโดนิ​เซียเมื่อ​ 75,000 ​ปีมา​แล้ว​นั้น​ ​ทำ​ให้​อุณหภูมิ​เฉลี่ยของโลกลดต่ำ​ลงกว่า​ 5 ​องศา​เซลเซียส​ ​ซึ่ง​จะ​ทำ​ให้​สภาพอากาศของโลกเปลี่ยนแปลงอย่างมากมาย​ ​ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม​ ​อย่างรุนแรง​และ​อาจนำ​มา​ซึ่ง​การสูญพันธ์ของพืช​และ​สัตว์จำ​นวนมหาศาล​

    ว่าแต่ที่แน่ๆตอนนี้ภูเขาไฟของอินโดคำรามฮึ่มฮั่มรอบที่สองแล้วนะ
    ไม่รู้ว่าจะเป็นไงต่อไป ได้แต่ติดตามครับ
    ขอบคุณ


    คิดว่าจะมีอะไรมาทำให้ภูเขาไฟลูกนี้ระเบิดไหม ผมได้ไปหาข้อมูมาจาก http://palungjit.org/threads/เกี่ยวกับ-yellowstone.300608/ ครับ
     
  13. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    อากาศวิปริต หิมะถล่มมอสโกเดือนเมษา หนักสุดเป็นประวัติการณ์ !!!

    [​IMG]

    [​IMG]

    เอเอฟพี - สภาพอากาศเล่นตลกที่เมืองหลวงของรัสเซีย ในวันโกหก (April Fool's Day) หลังมีหิมะระลอกใหม่ซัดถล่มแทนที่จะเป็นแสงแดดจ้าในช่วงต้นฤดูใบไม้ผลิเมื่อวันจันทร์(1) นับเป็นหิมะเดือนเมษายน หนักที่สุดตลอดกาลของกรุงมอสโกเลยทีเดียว

    แม้หิมะฤดูหนาวเริ่มละลายไปแล้วในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา ทว่าเมื่อวันจันทร์ (1) กลับมีหิมะซัดเข้าเล่นงานมอสโกอีกระลอก โดยบางพื้นที่มีหิมะสะสมหนาถึง 65 เซนติเมตร นับเป็นหิมะเดือนเมษายน ซึ่งพัดถล่มเมืองหลวงของรัสเซีย หนักหน่วงที่สุดเท่าที่เคยมีการบันทึกมา

    อย่างไรก็ตาม สถิติใหม่เมื่อวันจันทร์ (1) เกิดขึ้นเพียงไม่นาน เนื่องจากพอเข้าสู่ช่วงบ่าย อุณหภูมิก็ค่อยๆ สูงขึ้น ทำหิมะที่กองหนาก่อนหน้านี้ละลายไปบ้างแล้ว

    มิฮาอิล เลอุส บอกกับเอเอฟพีว่าสถิติหิมะตกหนักสุดเดือนเมษายนที่เคยบันทึกมา อยู่ที่ 61 เซนติเมตร ในปี 1994 ขณะที่เมื่อวันอาทิตย์ (31) ซึ่งเป็นวันสุดท้ายของเดือนมีนาคม ก็มีหิมะตกหนักหนาถึง 69 เซนติเมตร

    หิมะที่ตกลงมาอย่างหนักในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา นับเป็นบททดสอบความอดทนอดกลั้นครั้งสำคัญสำหรับชาวมอสโก ที่ต้องเผชิญกับหน้าหนาวที่แสนทุกข์ทรมานและยาวนาวกว่าปกติ

    ขณะเดียวกันลมหนาวจากรัสเซียและเหล่าชาติแถบสแกนดิเนเวียนี้ ยังเป็นต้นตอของสภาพอากาศหนาวเหน็บผิดฤดูกาลในอังกฤษ ด้วยกรมอุตุนิยมวิทยาแห่งชาติระบุว่าอุณหภูมิในกรุงลอนดอน จะยังคงทรงตัวอยู่ที่ 8 ถึง 9 องศาเซลเซียสไปจนถึงสัปดาห์หน้า ทั้งที่ปกติแล้วช่วงเดียวกันนี้ของทุกปี อุณหภูมิในอังกฤษจะสูงกว่าที่เป็นอยู่พอสมควร

    โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 2 เมษายน 2556 02:01 น.

    ที่มา Around the World - Manager Online - อากาศวิปริต! หิมะถล่มมอสโกเดือนเมษา หนักสุดเป็นประวัติการณ์
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  14. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    รัฐเซาท์ดาโกตาเจอหิมะเดือนพฤษภาคมถล่มครั้งแรกในรอบ 37 ปี !!!

    [​IMG]

    [​IMG]

    เอเจนซี - ประชาชนบางพื้นที่ของมลรัฐโคโลราโด ไวโอมิง และเซาท์ดาโกตา ต้องเก็บหมวกและร่มกันแดดเข้าตู้ตามเดิม หลังจากเมื่อวันพุธ (1 พ.ค.) ต้องเผชิญกับสภาพอากาศหนาวผิดฤดูกาล ขณะที่เมืองแห่งหนึ่งในเซาท์ดาโกตามีหิมะตกลงมาในเดือนพฤษภาคม เป็นครั้งแรกในรอบ 37 ปี

    หิมะที่ถล่มลงมาในเดือนพฤษภาคม ส่งผลให้การสัญจรบนทางหลวงบางสายในโคโลราโด และถนนระหว่างรัฐสาย 80 ทางตะวันออกเฉียงใต้ของไวโอมิง เป็นไปอย่างยากลำบาก และมีรายงานเกิดอุบัติเหตุหลายจุดในช่วงค่ำวันพุธ (1 พ.ค.) ขณะที่สนามบินเดนเวอร์แจ้งว่าต้องยกเลิกเที่ยวบินราว 50 เที่ยว ส่วนที่เหลือก็ประสบกับปัญหาล่าช้า รอเจ้าหน้าที่กำจัดน้ำแข็งที่ปกคลุมรันเวย์เสียก่อน

    แม้เข้าสู่เที่ยงวัน แต่ยังพบเห็นหิมะหนากว่า 1 ฟุตตกลงมาบริเวณอุทยานแห่งชาติเทือกเขาร็อกกี ทำเอาประชาชนที่พักอาศัยในแถบดังกล่าวต้องประสบกับปัญหาไฟดับจนไม่สามารถใช้งานเครื่องทำความร้อน เช่นเดียวกับที่เมืองเชเยน ในมลรัฐไวโอมิง ที่ชาวบ้านต้องทนทุกข์ทรมานกับหิมะช่วงบ่ายวันพุธ (1 พ.ค.) ที่ตกลงมาหนากว่า 15 นิ้ว ขณะที่ทางตะวันตกของเมือง เจอสภาพที่เลวร้ายกว่า โดยได้รับรายงานมีหิมะหนา 20 นิ้วตกลงมา

    นอกจากนี้แล้ว หลายพื้นที่แถบมิดเวสต์ก็ได้เห็นหิมะตกไม่บ่อยครั้งนักในเดือนพฤษภาคม โดยที่ซูฟอลส์ เมืองใหญ่สุดของมลรัฐเซาท์ดาโกตา มีหิมะตกลงมาหนา 1.5 นิ้วในช่วงสายของวันพุธ (1 พ.ค.) นับเป็นหิมะเดือนพฤษภาคม ครั้งแรกในรอบ 37 ปี

    ขณะเดียวกันยังมีคำเตือนว่า พายุหิมะอาจส่งผลกระทบต่อพื้นที่บางส่วนในมลรัฐมินนิโซตา และมลรัฐวิสคอนซิน รวมถึงคาดหมายว่าาอาจมีหิมะตกลงมาในบางพื้นที่ของมลรัฐเนแบรสกา และทางตะวันตกของมลรัฐไอโอวา ในค่ำคืนวันพุธ (1 พ.ค.) จนถึงเช้าวันพฤหัสบดี (2 พ.ค.) ตามเวลาท้องถิ่น

    อย่างไรก็ตาม พายุเกิดขึ้นอาจเป็นเรื่องน่ายินดีในโคโลราโด และไวโอมิง เนื่องด้วยกองหิมะจะช่วยเพิ่มปริมาณน้ำตามแหล่งน้ำต่างๆ ในพื้นที่ หลังจากทั้งสองมลรัฐกำลังประสบภาวะภัยแล้ง กระนั้นก็ดีพายุหลายระลอกช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา ส่วนใหญ่แล้วมักไม่ส่งผลกระทบต่อพื้นที่ทางตะวันตกเฉียงใต้ของโคโลราโด ที่ยังคงแห้งแล้งและเสี่ยงเกิดไฟป่า

    โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 3 พฤษภาคม 2556 03:28 น.

    ที่มา Around the World - Manager Online - รัฐเซาท์ดาโกตาเจอหิมะเดือนพฤษภาคมถล่มครั้งแรกในรอบ 37 ปี
     
  15. Spammer

    Spammer เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    976
    ค่าพลัง:
    +3,498
    ดูปีนี้มีแต่เหตุภัยพิบัติแบบสร้างสถิติ ก็ไม่รู้ว่าปีนี้ที่เหลือจนถึงต้นปีหน้า
    มันจะเกิดสถิติใหม่อะไรอีก ขออย่างเดียวอย่าเกิดสถิติ Tsunami เลย
     
  16. น้ำใสไหลเย็น

    น้ำใสไหลเย็น เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    1,289
    ค่าพลัง:
    +4,452
    ท่านspammer อย่าได้กล่าวถึง Tsunami เลยนะ คงไม่มีใครชอบ โดยเฉพาะคนไทยที่อยู่แถบฝั่งอันดามัน แต่ดูจาก คลิปนี้แล้ว อดเป็นห่วงไม่ได้

    [ame=http://www.youtube.com/watch?v=A6FbKyiFYcQ&feature=player_embedded]Disturbance Under the Ocean - The South Bali Buoy - YouTube[/ame]
     
  17. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    เอาชนะความกลัว..ต้องเผชิญหน้าสู้ความจริง !!!

    [​IMG]

    คนเราทุกคนคงมี ความกลัว บางสิ่งบางอย่างอยู่ในตัว ซึ่งทำให้เกิดการหลีกเลี่ยงไม่กล้าเผชิญหน้า ดังนั้นเราจึงมีวิธีพิชิต ความกลัว มาฝากกัน

    คนเราก็ต้องมีความกลัวอะไรกันบ้าง ในบางสิ่งบางอย่าง บ้างก็กลัวการขึ้นเครื่องบิน บ้างกลัวการพูดในที่สาธารณะ ในขณะที่ความกลัวเป็นการตอบสนองตามธรรมชาติ แต่ความกลัวอย่างไม่มีเหตุผลที่ภาษาฝรั่งเรียกว่า “โฟเบีย” นั้น เป็นปฏิกิริยาต่อสถานการณ์หนึ่งๆ อย่างที่มากเกินยิ่งขึ้นไปอีก และค่อนข้างจะเอาชนะได้ยากยิ่ง

    เมื่อเกิดความกลัว คนส่วนใหญ่มักจะหลีกเลี่ยงไม่เผชิญหน้า แต่เดนนิส กรีนเบอร์เกอร์ ศาสตราจารย์ด้านจิตวิทยาคลินิกจากมหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย วิทยาเขตเออร์ไวน์ กล่าวว่า “ความคิดเรื่องความหายนะที่นำไปสู่ความกลัว ซึ่งความกลัวนำไปสู่การหลีกเลี่ยง แล้วก็นำไปสู่ความหายนะมากขึ้นไปอีก ดังนั้น มันจึงเป็นวงจรอุบาทว์ที่ยิ่งรบกวนตลอดเวลา”

    ในทางจิตวิทยาอาวุธหนึ่งที่จะเอาชนะความกลัวได้ก็คือการใช้ “พฤติกรรมบำบัดกับการปรับเปลี่ยนความคิด” (ซีบีที) จะต้องมีการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมและความคิดที่จะเอาชนะความเครียด ความเกลียดชังตัวเองและความกลัว

    วิธีพฤติกรรมบำบัดแบบซีบีที เชื่อว่าความรู้สึกที่ไม่ดีนั้นเริ่มจากความคิดที่ไม่ดี ถ้าเอาชนะความคิดที่อยู่ในหัวลงได้ ก็เท่ากับเกือบจะปราบความกลัวลงได้แล้ว ข้อดีของวิธีนี้คือไม่ต้องมีการใช้ยาลดความเครียด และก่อนที่จะไปถึงมือนักจิตวิทยา เราเองก็อาจจะลองถามตัวเอง ตรวจสอบตัวเองเสียก่อน เพื่อจะลองเอาชนะความกลัวด้วยตัวเองให้ได้

    โดยขั้นแรกต้องเข้าใจว่าเราจะไม่สามารถเอาชนะความกลัวได้ถ้าหากไม่เข้าใจว่ากลัวอะไร ขั้นต้นจึงต้องถามตัวเองด้วยคำถามขั้นพื้นฐานว่า อะไรที่เป็นสิ่งที่เลวร้ายที่สุดที่อาจจะเกิดขึ้น จะเกิดหายนะอะไรตามมา และเราจะเอาชนะมันได้อย่างไร

    ขั้นต่อมาให้ลองไล่เรียงความกลัวจัดอันดับจากขั้นที่รุนแรงที่สุด แล้วลองดูว่าจะค่อยๆ แก้ สถานการณ์นั้นอย่างไรได้บ้าง อาจจะสมมติสถานการณ์ที่ต้องเผชิญ คราวนี้ก็มาถึงจุดที่น่ากลัวที่สุดคือเข้าสู่สถานการณ์จริง เริ่มจากสถานการณ์ ที่ง่ายที่สุดก่อน ลองเริ่มต้นสูดหายใจลึกๆ เผชิญ หน้ากับมัน ค่อยๆ ฝึกไปเรื่อยๆ สักวันละ 10-30 นาที แล้วค่อยดูพัฒนาการที่เปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้น

    แต่ถ้ายังไม่ดีขึ้นอย่างที่คิดก็คงต้องพึ่งบริการ จากนักจิตวิทยาอาชีพให้ช่วยแก้ไขพฤติกรรมความกลัวให้ที

    ที่มา วิธี เอาชนะ ความกลัว ต้อง เผชิญหน้า สู้ ความจริง
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  18. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    รบกับความโกรธ อย่ารบกับตัวเอง !!!

    [​IMG]

    มีคนจำนวนไม่น้อยที่เริ่มไหวทัน รู้ตัวว่าเป็นข้าทาสรับใช้ความโกรธมาเสียนาน เห็นโทษและเริ่มเหนื่อยหน่ายเต็มทนกับการเป็นขี้ข้าของมัน เพราะหลายครั้งโกรธหัวฟัดหัวเหวี่ยงเป็นวรรคเป็นเวร ก็ไม่เห็นได้อะไรขึ้นมา คนถูกโกรธยังสบายดี แต่ตัวเองต้องเต้นเร่าตลอดวันตลอดคืน ไม่ว่าจะยืน เดิน นั่ง แม้กระทั่งยามนอนที่ควรเป็นช่วงผ่อนพักสบายที่สุดของชีวิต ก็ยังต้องอุตส่าห์รู้สึกเหมือนไก่ย่างบนตะแกรงจนได้

    ตามธรรมชาติธรรมดาของจิตนั้น ความโกรธมีโทษทุกระดับ สถานเบาคือเผาใจให้เป็นทุกข์ สถานกลางอาจผลักดันให้สังหารผู้อื่น สถานหนักก็ถึงขั้นฆ่าได้ไม่เว้นแม้แต่ตนเอง! เผาใจตัวเองก่อน พอมอดไหม้ทั้งดวงจนทนไม่ไหว จึงทำลายกายตัวเองตาม…

    พระพุทธเจ้าตรัสว่าบุคคลที่ยังมักโกรธอยู่ ไม่ควรคู่กับการได้เป็นพระอรหันต์ นั่นหมายความว่าแม้ใครอ้างว่าตนเองเข้าใจธรรมะถ่องแท้แล้ว และกำลังคร่ำเคร่งบำเพ็ญเพียรภาวนาปฏิบัติธรรมอยู่ แต่หากเป็นผู้หงุดหงิดง่าย คลายโทสะยาก ผูกใจเจ็บได้แม้ด้วยเรื่องน่าขัดเคืองเพียงเล็กน้อย ก็ให้พยากรณ์ตนเองได้เลย ว่ายังห่างไกลจากเป้าหมายสูงสุด ไม่มีสิทธิ์เลื่อนชั้นเป็นพระอรหันต์ผู้นิรทุกข์องค์หนึ่งในโลกอย่างแน่นอน

    ผู้หวงความโกรธไว้ ได้ชื่อว่าหวงทุกข์ไว้ ผู้ยินยอมเปล่งคำพูดและลงมือกระทำการเพื่อรับใช้ความโกรธ ย่อมได้ชื่อว่ายังทำตัวเป็นบ่าวไพร่ของโทสะ ยากจะเอาชนะเพื่อเลื่อนชั้นขึ้นเป็นนายของกิเลส ไม่อาจลิ้มรสความเยือกเย็นอันเป็นอมตะตามพระผู้สิ้นโกรธได้

    ปัญหาคือแม้คนเราจะเล็งเห็นโทษของความโกรธ แต่ก็ยังไม่เห็นประโยชน์ว่าจะเลิกโกรธไปทำไม ในเมื่อโลกนี้ยังเต็มไปด้วยเรื่องน่าโกรธ และน่าให้แสดงความโกรธอยู่ชั่วนาตาปี น่าเศร้าใจกว่านั้นคือแม้บางคนตั้งใจเด็ดเดี่ยวแน่วแน่แล้วว่าจะเอาชนะความโกรธให้จงได้ แต่ก็ทำไม่สำเร็จเสียที แม้ผ่านไปหลายปีก็ไม่มีความคืบหน้า ราวกับว่าตัวเองกระจอกเกินกว่าจะขืนไปเสนอหน้าแข่งกับความโกรธ

    คุณอาจคิดว่าศัตรูเช่นความโกรธนั้นเก่งกาจเกินต้านจริงๆ แต่จำไว้เถิดว่าศัตรูไม่ว่าหน้าไหนก็แพ้ได้หมด ขอแค่รู้วิธีรบให้ถูกฝาถูกตัว ก็แม้แต่ธรรมชาติที่บันดาลการเกิดและการตาย มนุษย์ผู้เป็นมหาบุรุษยังยิ่งใหญ่พอจะประกาศเอาชนะมาแล้ว และก่อตั้งศาสนาเพื่อล้มล้างความทุกข์แห่งการเกิดตายได้สำเร็จแล้ว สำหาอะไรกับการเอาชนะเพลิงทุกข์แห่งความโกรธ ที่ถือว่าเป็นแค่ลูกสมุนของความเกิดความตายเล่า?

    ที่คนเราตั้งใจรบกับอะไรแล้วไม่ชนะนั้นมีอยู่เหตุผลเดียว คือรบผิด! เมื่อตั้งใจจะรบกับความโกรธ แทนที่จะเห็นตัวความโกรธและเข้ารบกับมัน หลายคนกลับหลงผิด หันมารบกับตัวเองแทน!

    ทันทีที่คุณตั้งใจว่า ‘ฉันจะต้องไม่โกรธ’ นั่นแหละเท่ากับถูกหลอกให้เชื่อว่าตัวคุณเป็นความโกรธ ความโกรธเป็นตัวคุณแล้ว พอรูปอันน่าขัดเคืองกระทบตา เสียงอันน่ารำคาญกระทบหู แล้วจิตติดไฟโกรธ ลุกฮือถึงขั้นน็อตหลุด สำแดงกิริยาปึงปังออกไป ก็ต้องมานั่งเสียอกเสียใจ โกรธตัวเอง หรือกระทั่งซ้ำเติมตัวเอง ค่าที่ ‘ตัวคุณ’ เป็นฝ่ายแพ้ โดนชนะน็อก ไม่แน่พอจะได้รับการยกย่องว่า ‘ตัวคุณ’ เป็นนักปฏิบัติธรรมมือพระกาฬที่กิเลสทุกเหล่ายอมสยบให้

    บางคนอาจเปรียบความโกรธคล้ายโรคบางชนิด ที่หายหน้าหายตาไปนานแรมปีราวกับสิ้นโรคสิ้นภัยเด็ดขาดแล้ว แต่วันดีคืนดีก็อาจโผล่กลับมาใหม่ ทำความช้ำใจให้อย่างแสนสาหัส เพราะเท่ากับ ‘ตัวคุณ’ ยังต้องเหนื่อยให้ยาหรือหาทางเอาชนะโรคเดิม ชนิดไม่มีวันจบวันสิ้น

    ทางที่ถูกต้องทำความเข้าใจไว้ให้ดีๆตั้งแต่แรกว่า ความโกรธ ความขัดเคือง หรือความเกลียดความกลัวทั้งปวงนั้น หาใช่ตัวเราไม่ โทสะเป็นเพียงความกระเพื่อมไหวของจิต มิใช่ตัวจิตเอง เปรียบเหมือนคลื่นไม่ใช่น้ำ เป็นแค่อาการกระเพื่อมไหวของน้ำเท่านั้น เมื่อมองเห็นความจริงเช่นนี้แล้ว ก็ถึงขั้นของการ ‘เข้าสนามรบ’ เพื่อเผชิญหน้ากับศัตรูให้ถูกตัว คือลงมือกำหนดสติให้เท่าทันขณะแห่งความโกรธกันจริงๆ ยุทธวิธีที่จะเอาชนะได้อย่างเป็นขั้นเป็นตอนคือ

    ๑) อย่าตั้งใจว่า ‘จะไม่โกรธ’ เพราะการพูดหรือการแสดงกิริยาใดๆในทันทีที่โกรธ ย่อมเป็นไปเพื่อโหมไฟโกรธให้แรงขึ้นเสมอ วิธีที่ถูกต้องคือให้ยอมรับตามจริงว่าโกรธไปแล้ว ไม่ใช่ไม่โกรธ แต่ขณะเดียวกันก็ตั้งใจว่ายามโกรธจะไม่พูด และไม่แสดงอาการเพื่อส่งเสริมความใดๆเลย เว้นแต่จะแน่ใจว่าจะขยับเขยื้อนเคลื่อนที่ให้หลุดจากสภาพขืนเกร็งเคร่งเครียดเสีย เช่นเปลี่ยนจากยืนจ้องถมึงทึงเป็นนั่งลงผ่อนคลายสีหน้าแทน

    ๒) อย่าคิดว่า ‘เราจะเก็บความโกรธไว้ในใจ’ เพราะการกักความโกรธจะทำให้เก็บกดและรู้สึกอึดอัด เป็นไปเพื่อความเครียดและรอนาทีระเบิดแบบเดียวกับลูกโป่งแตก วิธีที่ถูกต้องคือให้ตั้งใจว่าจะดูระดับความโกรธในใจ ว่ามากเองน้อยเองได้ไหม ตลอดจนกระทั่งหายไปเองได้แบบเดียวกับไฟหมดเชื้อหรือไม่ ขอให้คิดว่าแม้แต่ไฟป่าที่ลุกลามกินอาณาบริเวณไพศาล พอป่าหมดเชื้อ ไฟก็มอดลงวันยังค่ำ

    กล่าวโดยสรุปคือการรบกับความโกรธที่ดีที่สุด คือการไม่คาดหวังเอากับตัวเองว่าจะไม่โกรธ และเมื่อโกรธแล้วก็ให้ยอมรับตามจริง เมื่อยอมรับตามจริงก็ย่อมเห็นความจริงอันไม่ควรยึดมั่นถือมั่น

    คุณอาจพบข้อติดขัดในระยะยาว คือวันนี้เข้าใจและรู้วิธีดูความโกรธ แต่อีกหลายๆวันอาจลืมแล้วพลุ่งพล่าน เต้นแรงเต้นกาไปตามไฟพิโรธโกรธกริ้วที่ลนเท้า จนเหมือนทั้งชีวิตคงต้องแพ้ความโกรธหมดรูปไปเรื่อย หากเป็นเช่นนั้นก็อย่าเพิ่งท้อใจ เพราะพวกเราเป็นข้ารับใช้ความโกรธมาแต่เกิด อย่างไรก็ต้องเกรงใจมัน อยากรับใช้มันอยู่เสมอ แต่ใช่ว่าจะต้องยอมจำนนตลอดไป

    ขอเพียงทบทวนบ่อยๆ ตั้งป้อมเป็นฝ่ายรู้ฝ่ายดู ไม่ช่วยโหม ไม่ฝืนต้าน เมื่อผ่านไปนานวันนานเดือนเข้า ก็จะเห็นความก้าวหน้าอย่างเป็นไปเองทีละน้อย นั่นคือคุณเรียนรู้ที่จะตั้งจิตไว้อีกแบบ ใช้ชีวิตอีกแบบ เลิกยึดมั่นถือมั่นว่าคุณต้องดี คุณจะเอาดี แต่เปลี่ยนเป็นรับสภาพตามจริงว่า จิตไม่จำเป็นต้องดี จิตไม่ได้มีไว้เพื่อเอาดี จิตเป็นเพียงธรรมชาติที่ถูกกระทบได้ เกิดความกระเพื่อมไหวได้ แล้วกลับสงบลงได้เอง

    ขอเพียงไม่เอา ‘ตัวคุณ’ เป็นที่ตั้งของการรบ วันหนึ่งการรบจะสิ้นสุด โดยไม่มีใครแพ้ ไม่มีใครชนะ มีแต่สภาพทุกข์คลี่คลายไปสู่ความดับสนิท เย็นสนิท เป็นบรมสุขเหนือภาวะเร่าร้อนใดๆ

    ดังตฤณ

    ที่มา คิดจากความว่าง เล่ม4 : รบกับความโกรธ อย่ารบกับตัวเอง
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 4 พฤษภาคม 2013
  19. ปลายธาตุ

    ปลายธาตุ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กันยายน 2012
    โพสต์:
    53
    ค่าพลัง:
    +225
    ภัยพิบัติถ้าเกิดขึ้นเราจะไม่รู้ล่วงหน้าครับ เพราะมันไม่ใช่ภัยธรรมชาติอย่างที่เราๆท่านๆเจอมา ขนาดภัยธรรมชาติเราก็ยังไม่ค่อยทราบเลจริงไหมครับ เพราะมันรู้ยากผมเลยต้องมานั่งอ่านเวปนี้เผื่อจะมีคนที่รู้มาเผยมั่ง
    แต่ก็ต้องผิดหวังเพราะเจอกับพวกร่างทรง ร่างแฝงของพวกจิตชั้นต่ำซึ่งรู้เพี้ยนมากมาย เป็นเหตุให้คำทำนายผิด ผมมีเพื่อนจำนวนมากที่เป็นแบบพวกนี้ มันเห็นจริงๆรู้จริงๆ แต่สิ่งที่มันเห็นมันรู้ไม่จริง ยิ่งเป็นสิ่งที่เป็นอนาคตยิ่งผิดมาก
    ส่วตัวผมเชื่อว่ามีโอกาศเกิดแต่ไม่ทราบทั้งเวลาและความรุนแรงหรือชนิด สรุปคือไม่ทราบอะไรเลย ส่วนที่บอกว่าน่าเกิดเพราะมันมีเหตุปัจจัยที่ทำให้เกิดมีแล้ว ส่วนจะเกิดหรือไม่ไม่รู้ เพราะเหตุปัจจัยลักษณะแบบนี้ตั้งแต่ตั้งโลกมาก็มีนับครั้งไม่ถ้วน แต่ก็ยังไม่สามารถทำให้เกิดใด้สักที คิดเอาเองแล้วกัน
    ของพวกนี้มันไม่ใด้เกิด ตามความคิด ความต้องการ ความเชื่อ หรือความอยาก หรือคำทำนายของใครทั้งสิ้น การเกิดต้องมีเหตุมีผลที่สมควร และที่สำคัญคือสิ่งที่มีกำลังพอทำให้เกิด กำลังนี่แหละเป็นสิิ่งที่หาใด้ยาก ยุคนี้เรามีแต่คนที่มีความเชื่อ ศรัทธา แต่ไร้กำลังทางจิตของตนเอง
    เหตุที่ไร้กำลังเพราะหนทางพัฒนาจิตต่างๆที่เป็นแก่นตัวแท้ของแทบทุกศาสนามันถูกทำให้หายไป หลังจากศาสนานั้นถูกประกาศตั้งขึ้นไม่นานในแต่ละยุค เหตุอย่างนี้เกิดขึ้นเพราะผู้ปกครองแท้จริงนั้นมิใด้ประกาศศาสนาใดๆเลย แต่มันกลับแฝงอยู่ในทุกธาตุธรรมแทน เพราะการปกครองโดยไม่รู้ว่ามีผู้ปกครองเป็นตัวตนอยู่นั้นมัน ง่ายกว่ากันมากๆ ไร้ผู้ต่อต้าน เกิดอะไรขึ้นก็ไม่รู้จะโทษใคร โทษกรรมเวร ธรรมชาติ การกระทำ สุดท้ายคือโทษตัวเอง ก็มาแก้ที่ตัว พอแก้ไม่ใด้ก็กลับไปโทษกรรมเวร วนเวียนอย่างนี้ จบ เอวังก็มีด้วยประการละฉะนี้ครับ ฮาไหม
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 4 พฤษภาคม 2013
  20. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    โอบามาเผยยังไม่ตัดสินใจส่งทหารเข้าแทรกแซงสงครามกลางเมืองซีเรีย

    [​IMG]

    ซันโฮเซ 4 พ.ค.- ประธานาธิบดีบารัค โอบามา ผู้นำสหรัฐ เผยว่าไม่เคยคาดการณ์ว่าหากส่งกองทัพสหรัฐเข้าไปในซีเรียสถานการณ์จะเป็นเช่นใด และจะมีประโยชน์ต่อสหรัฐเอง หรือว่าซีเรียเพราะสิ่งต่างๆ เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา แต่หากสหรัฐตัดสินใจเข้าไปสร้างความเปลี่ยนแปลงในซีเรีย ผลจะไม่ดีต่อสหรัฐเท่านั้น แต่จะต้องดีต่อซีเรียด้วย

    นายโอบามา กล่าวว่าหากจะมีความคืบหน้าใดๆ จะอิงจากปัจจัยพื้นฐานข้อแรกคือข้อเท็จจริงของสถานการณ์ ข้อสองคือผลประโยชน์ของเมริกันชนและความมั่นคงของชาติเป็นหลัก ในฐานะที่เขาเป็นประธานาธิบดีแห่งสหรัฐ เขาจะตัดสินใจโดยยืนใช้หลักฐานที่ดีที่สุดและอย่างรอบคอบระมัดระวัง

    ผู้นำสหรัฐแสดงความเห็นดังกล่าวขณะมีท่าทีลังเลที่จะแทรกแซงสงครามกลางเมืองของซีเรีย และถูกวิจารณ์ว่ากำลังปล่อยให้ประธานาธิบดีบาชาร์ อัล-อัสซาด ผู้นำซีเรีย ล้ำเส้นด้วยการใช้อาวุธเคมีถล่มฝ่ายกบฏ ซึ่งในประเด็นดังกล่าวผู้นำสหรัฐชี้ว่ามีหลักฐานว่าซีเรียใช้อาวุธเคมีจริงแต่ไม่รู้ว่าเกิดขึ้นเมื่อใด ที่ไหนและอย่างไร ซึ่งหากสหรัฐจะตัดสินใจเข้าไปเกี่ยวข้องจำเป็นต้องมีหลักฐานรัดกุมกว่านี้

    สำนักข่าวไทย TNA News | 4 พ.ค. 2556 10:01 |

    ที่มา โอบามาเผยยังไม่ตัดสินใจส่งทหารเข้าแทรกแซงสงครามกลางเมืองซีเรีย | MCOT.net | MCOT.net

    น้ำท่วมจากฝนตกหนักในซาอุดีอาระเบีย มีผู้เสียชีวิต 24 ราย

    [​IMG]

    ริยาด 4 พ.ค.-สำนักข่าวซินหัวของทางการจีนรายงานอ้างสำนักข่าวซาอุดิเพรสของซาอุดีอาระเบียว่า เกิดฝนตกหนักและน้ำท่วมในซาอุดีอาระเบียตลอดช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ทำให้มีผู้เสียชีวิตทั้งหมด 24 คน สูญหายอีก 4 คน

    พล.ท.ซาอัด บิน อับดุลเลาะห์ อัล-ตูวาอิจรี ผู้อำนวยการสำนักงานป้องกันภัยพลเรือนของซาอุดีอาระเบียรายงานว่า ได้ส่งหน่วยป้องกันภัยพลเรือนไปยังพื้นที่ที่ถูกน้ำท่วมแล้ว และขณะนี้ยังคงเดินหน้าจัดการกับหินถล่มในแถบหุบเขา รวมถึงค้นหาผู้สูญหายด้วย นอกจากนี้ ยังระบุว่าจนถึงเที่ยงวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่น สำนักงานป้องกันภัยพลเรือนสามารถช่วยเหลือประชาชนได้ 42,639 ราย โดยเน้นว่าแผนรับมือสถานการณ์ฉุกเฉินช่วยลดความเสียหายและการเสียชีวิต อย่างไรก็ตาม เขาขอให้ประชาชนหลีกเลี่ยงการเข้าไปในพื้นที่พักผ่อนรับประทานอาหารกลางแจ้งใกล้กับหุบเขา จนกว่าสภาพอากาศจะกลับเป็นปกติ

    มีฝนตกหนักปานกลางถึงหนักในเขตต่างๆ ของซาอุดีอาระเบียตั้งแต่สัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งคล้ายกับสภาพอากาศที่เกิดขึ้นในปี 2524-2526 ซึ่งหุบเขาที่ใหญ่ที่สุดในประเทศถูกน้ำท่วม

    สำนักข่าวไทย TNA News | 4 พ.ค. 2556 10:21 |

    ที่มา น้ำท่วมจากฝนตกหนักในซาอุดีอาระเบีย มีผู้เสียชีวิต 24 ราย | MCOT.net | MCOT.net

    ยอดตายตึกถล่มในบังคลาเทศเกิน 500 รายแล้ว

    [​IMG]

    บังกลาเทศ 3 พ.ค.-ยอดผู้เสียชีวิตจากเหตุอาคารรานาพลาซ่า ซึ่งเป็นที่ตั้งของโรงงานทอผ้าถึง 5 แห่ง พังถล่ม เพิ่มเกินกว่า 500 คนแล้ว ขณะที่วิศวกรดูแลอาคารดังกล่าวถูกจับกุมตัว

    ความคืบหน้าเหตุอาคารรานาพลาซ่า ในบังกลาเทศพังถล่มลงมา ล่าสุดยอดผู้เสียชีวิตเพิ่มเป็น 501 คนแล้ว หลังจากที่เจ้าหน้าที่กู้ภัยสามารถดึงศพออกมาจากใต้ซากปรักหักพังของอาคารได้อีกหลายสิบศพ ขณะที่ ตำรวจได้จับกุมนายอับดูร์ รัซซัค ข่าน วิศวกรดูแลอาคารพร้อมตั้งข้อหาประมาท ทั้งนี้ เจ้าของอาคารรานา พลาซา ได้ลักลอบต่อเดิมอาคารจาก 5 ชั้น เป็น 8 ชั้น โดยไม่ได้รับอนุญาต ขณะเดียวกันนายโมฮัมหมัด รีฟาตัลลาห์ นายกเทศมนตรีเมืองซาวาร์ ซึ่งเป็นที่ตั้งของอาคารรานาพลาซา ถูกสั่งพักงานด้วยข้อหาเดียวกัน ศาลสูงบังกลาเทศยังสั่งให้รัฐบาลบังกลาเทศยึดและอายัดทรัพย์สินของเจ้าของโรงงานทอผ้าทั้ง 5 แห่ง เพื่อนำเงินมาชดเชยให้กับครอบครัวของผู้เสียชีวิต และจ่ายเงินเดือนพนักงานด้วย

    สำนักข่าวไทย TNA News | 3 พ.ค. 2556 14:16 |

    ที่มา ยอดตายตึกถล่มในบังคลาเทศเกิน 500 รายแล้ว | MCOT.net | MCOT.net
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 4 พฤษภาคม 2013

แชร์หน้านี้

Loading...