ประเทศไทยจะเกิดอุบัติภัยอย่างที่ทำนายกันจริงๆหรือไม่

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย koymoo, 25 มกราคม 2005.

  1. kananun

    kananun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2006
    โพสต์:
    10,282
    ค่าพลัง:
    +114,775
    สาธุครับ คุณนาคา

    วัตถุประสงค์ของการก่อตั้งห้องภัยพิบัติและการเตรียมการณ์นี้ก็เพื่อ หลีกเลี่ยงและลดความสูญเสียจากภัยพิบัติโดยเฉพาะอย่างยิ่ง มุ่งรักษาชีวิตคนดีมีศีลธรรมเอาไว้ ช่วยกันทำนุบำรุงชาติพระศาสนาและพระมหากษัตริย์ หลังการเกิดภัยพิบัติ

    ดังนั้นความภูมิใจ ความสะใจการเอาชนะกันว่าคำทำนายนั้นถูกนั้นผิด ย่อมไม่มี หากมีก็เป็นกำลังใจที่ต่ำเกินไป

    เพราะเมื่อเกิดภัยพิบัติขึ้นก็เกิดความเสียหาย ความทุกข์เวทนาต่อทุกชีวิตอยู่แล้ว

    ข้อมูลที่ได้ก็เพื่อหลีกเลี่ยง ลดบรรเทาความรุนแรงเป็นสำคัญ

    ขอให้ตั้งกำลังใจตามนี้ครับ

    ไม่ประมาทในชีวิต ไม่ประมาทในความไ่ม่เที่ยงในทุกเหตุการณ์

    ลองตรองดูว่า เมื่อต้นปีนี้เรามองเห็น เรารู้สึกเราคาดหวังว่าเศรษฐกิจโลกรุ่งเรืองขยายตัว เป็นความเจริญแต่ถ่ายเดียวทางด้านทางโลก ทางทุนนิยมสุดโต่ง

    มาเวลานี้ ทุกอย่างเริ่มพังทะลายลงไป ระบบเศรษฐกิจโลกที่กำลังล้มคลืนลงต่อหน้า เพราะแรงความโลภ ที่ไม่มีที่สิ้นสุดของคนเพียงไม่กี่คน เท่านั้น

    ผู้ไม่ประมาทย่อมถึงพร้อมด้วยสติ เตรียมตัวเตรียมใจ ในความไม่เที่ยงทั้งปวง
     
  2. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,193
    เตรียมตัวเตรียมใจรับภัยพิบัติ

    [​IMG]

    หากใครคิดว่าเรื่องภัยพิบัติเป็นเรื่องน่าหัวเราะแล้วละก็ ถามตัวเองใหม่อีกทีดีกว่าไหม ว่าจริงๆแล้วคุณกำลังกลัวอะไรอยู่ ?

    ภัยพิบัติเป็นเรื่องแน่นอนสำหรับชีวิตที่เต็มไปด้วยความไม่แน่นอนนี้ สิ่งที่ควรทำคือ เตรียมตัวและหัวใจของเราให้พร้อมรับเหตุการณ์ต่างๆ อย่างสดใหม่จะดีกว่า ไม่ใช่เพียงเพื่อให้เรามีชีวิตรอดปลอดภัยแต่เพียงผู้เดียว แต่เพื่อให้เราสามารถดูแลคนรอบข้างของเราได้ สามารถที่จะอยู่ร่วมทุกข์ร่วมสุข ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ตาม

    เราอาจจะเสียเวลาสักหน่อย เพื่อจะจัดเตรียมอุปกรณ์เครื่องมือต่างๆ ไว้สำหรับเหตุฉุกเฉิน แต่เราต้องไม่ลืมนะว่าเครื่องมือที่สำคัญที่สุดนั้นอยู่ในตัวเราเรียบร้อยแล้ว นั่นก็คือ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • untitled 3.jpg
      untitled 3.jpg
      ขนาดไฟล์:
      62.2 KB
      เปิดดู:
      69
    • untitled 3.1.jpg
      untitled 3.1.jpg
      ขนาดไฟล์:
      62 KB
      เปิดดู:
      1,439
    • untitled 1.JPG
      untitled 1.JPG
      ขนาดไฟล์:
      90.6 KB
      เปิดดู:
      79
    • untitled 2.JPG
      untitled 2.JPG
      ขนาดไฟล์:
      66.8 KB
      เปิดดู:
      80
    • untitled 8.JPG
      untitled 8.JPG
      ขนาดไฟล์:
      75.4 KB
      เปิดดู:
      72
    • untitled 9.JPG
      untitled 9.JPG
      ขนาดไฟล์:
      77.9 KB
      เปิดดู:
      73
    • untitled 7.jpg
      untitled 7.jpg
      ขนาดไฟล์:
      101.6 KB
      เปิดดู:
      66
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 24 ธันวาคม 2008
  3. วรเดช

    วรเดช เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    1,753
    ค่าพลัง:
    +6,146
    <TABLE borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 align=center bgColor=#e2e2e2 border=5><TBODY><TR><TD bgColor=#ecfae0>วอนบริจาคช่วยสาวป่วยโรคอ้วน</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 align=center border=5><TBODY><TR><TD bgColor=#ffffff><TABLE class=A14 cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR bgColor=#cccccc><TD vAlign=center> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE cellSpacing=2 cellPadding=2 align=center bgColor=#f5f5f5 border=0><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top>เมื่อวันที่ 22 ธ.ค. นางช่อฟ้า มหาวินิจฉัยมนตรี นายกเหล่ากาชาด จ.กาญจนบุรี พร้อมคณะ และนายวิสุทธิ์ วอนเพียร นายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลวังศาลา อ.ท่าม่วง จ.กาญจนบุรี

    เดินทางไปที่บ้านเลขที่ 44/2 หมู่ 4 ต.วังศาลา อ.ท่าม่วง เพื่อช่วยเหลือ นางวัชรีย์ เนียวนวม อายุ 47 ปี ที่นอนป่วยด้วยโรคอ้วน และยังป่วยเป็นโรคอัมพฤกษ์ ไม่สามารถเคลื่อนไหวได้ เนื่องจากมีน้ำหนักตัวกว่า 350 ก.ก. ส่วนนายวัน ทายา อายุ 55 ปี สามี ป่วยเป็นโรคหัวใจมานานกว่า 3 ปี ไม่สามารถทำงานหนักได้ และต้องคอยดูแลภรรยาที่ป่วยเป็นโรคอ้วน

    นางวัชรีย์ เล่าว่า ตนเคยทำงานที่โรงงานน้ำตาลที่ อ.ท่ามะกา เมื่อประมาณ 8 ปีที่แล้ว เกิดหกล้มในห้องน้ำที่บ้าน

    จากนั้นไปรักษาตัวที่ร.พ.มะการักษ์ การรักษาตัวครั้งแรกไม่มีปัญหาอะไร แต่ต่อมากลับมีอาการอ้วนขึ้นตลอดเวลา และไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลตลอด กระทั่งเงินทองที่สะสมมาหมดไปกับการรักษา จึงนำบ้านไปจำน่องกับนายทุน เพื่อนำเงินมาเป็นค่ารักษาตัว แต่ก็ยังรักษาไม่หาย แถมน้ำหนักตัวยังเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เนื่องจากตนไม่มีเงินที่จะรักษา จึงอยู่ตามมีตามเกิด ซ้ำร้ายกลับต้องมาป่วยเป็นโรคอัมพฤกษ์อีก ร่างกายไม่สามารถขยับได้เลย มีเพียงแขนด้านซ้ายเท่านั้นที่ยังพอยกขึ้นยกลงได้ ส่วนตรงก้นสะโพกมีเนื้อยื่นออกมาจนแข็ง เจ็บปวดและทรมานมาตลอด 8 ปี ส่วนการขับถ่ายต้องขับถ่ายใส่กระโถนบนที่นอน จากนั้นให้สามีที่ป่วยเป็นโรคหัวใจเอาไปทิ้ง บางวันตนไม่มีเงินซื้ออาหาร ต้องให้สามีไปขอข้าวที่วัดมากินเพื่อประทังชีวิต

    ด้านนางช่อฟ้า กล่าวว่า หลังจากทราบถึงสาเหตุจึงประสานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อหาแนวทางช่วยเหลือ

    เบื้องต้นจะประสานไปที่สภากาชาดไทย และโรงพยาบาลจุฬาฯ เพื่อหาทางช่วยเหลือและนำตัวไปรักษา เนื่องจากผู้ป่วยไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ เพราะมีน้ำหนักตัวกว่า 300 ก.ก. และยังป่วยเป็นโรคอัมพฤกษ์อีกด้วย ส่วนสามีที่คอยดูแลก็อายุมากแล้ว และยังป่วยเป็นโรคหัวใจอีกต่างหาก ซึ่งกาชาดกาญจนบุรีจะเร่งหาทางช่วยเหลือ

    นายวิสุทธิ์ วอนเพียร นายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลวังศาลา เปิดเผยว่า ได้จัดหาที่ดินเพื่อปลูกบ้านให้กับนางวัชรีย์กับสามีที่ป่วยเป็นโรคหัวใจไว้จำนวน 60 ตารางวา

    เนื่องจากบ้านหลังที่ 2 สามีภรรยาอาศัยอยู่ทุกวันนี้จะถูกยึดคืนสิ้นเดือนนี้แล้ว เนื่องจากนางวัชรีย์นำบ้านหลังดังกล่าวมีเนื้อที่ประมาณ 1 ไร่เศษ พร้อมบ้านนำไปจำนองไว้กับนายทุนเมื่อหลายปีก่อน 5 หมื่นบาท เพื่อนำเงินมารักษาตัว แต่ไม่มีเงินที่จะไปไถ่ถอนคืน ทางเทศบาลเคยรวบรวมเงินจนได้ครบตามจำนวน รวมทั้งต้นทั้งดอกเป็นเงิน 150,000 บาท เพื่อนำไปไถ่ถอนจากนายทุน แต่เมื่อนำเงินจำนวนดังกล่าวไปไถ่ถอน ทางเจ้าหนี้กลับไม่ยอม จะยึดที่ดินอย่างเดียว ทำให้ทางเทศบาลต้องหาที่ดินเพื่อปลูกบ้านให้กับครอบครัวดังกล่าวอยู่อาศัย

    ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เบื้องต้นนางช่อฟ้าจะนำเงินมาช่วยเหลือครอบครัวของนางวัชรีย์จำนวน 10,000 บาท

    ส่วนน้ำหนักของนางวัชรีย์ชั่งล่าสุดได้ถึง 350 ก.ก. และมีไขมันบริเวณสะโพกและขาทั้ง 2 ข้าง เมื่อใช้มือกดจับดู รู้สึกว่าแข็งมาก นางวัชรีย์เจ็บปวดอย่างมาก วอนผู้ใจบุญบริจาคเงินช่วยเหลือได้ที่ "หมายเลขบัญชี 02-1303-20-062888-4 ธนาคารออมสิน สาขาท่าเรือ"

    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์ข่าวสด
    [​IMG]</CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE borderColor=#fac963 cellPadding=0 width=725 align=center bgColor=#e2e2e2 border=5><TBODY><TR><TD bgColor=#ecfae0>ขจัดความเหนื่อยล้าแบบธรรมชาติ ได้ผลอย่างชะงัดที่สุด </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE borderColor=#fac963 cellPadding=0 width=725 align=center border=5><TBODY><TR><TD bgColor=#ffffff><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR bgColor=#ffffcc><TD vAlign=center> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE cellSpacing=2 cellPadding=2 align=center bgColor=#f5f5f5 border=0><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top>พบวิธีการขับไล่ความเหนื่อยล้าให้หมดไปได้อย่างชะงัด ไม่มีอะไรดีเท่า การได้ไปเดินทอดน่องในภูมิประเทศแวดล้อมที่เขียวขจี

    นักจิตวิทยาของมหาวิทยาลัยมิชิแกน ที่สหรัฐฯ ได้ พบวิธีดังกล่าว จากการศึกษาหาอิทธิพลของธรรมชาติกับสิ่งแวดล้อมในเมือง ที่มีต่อขบวนการความจำและสมาธิ โดยได้ทดสอบกับอาสาสมัคร 2 กลุ่ม กลุ่มหนึ่งให้ ลองไปเดินเล่นในสวนสาธารณะ ส่วนอีกกลุ่ม ให้ไปเดินในย่านธุรกิจของเมือง แล้วให้กลับมาทำแบบทดสอบในห้องปฏิบัติการ ปรากฏผลว่ากลุ่มที่ได้ไปเดินเล่นในสวน ทำงานได้ผลดีกว่า

    นักวิจัยเชื่อว่า สิ่งแวดล้อมในเมือง มีส่วนให้เกิดความกระตุ้นที่มีแผนแบบยากเกินไป

    ต้องใช้ความพยายามที่จะแยกแยะออกและแปลความหมาย ในขณะที่สิ่งแวดล้อมตามธรรมชาติ ก่อการกระตุ้นที่ชัดเจน โดยไม่ต้องเหนื่อยยากอันใด ผู้ที่ได้พบประสบจะเกิดความสงบในจิตใจ.


    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ
    [​IMG]</CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE borderColor=#fac963 cellPadding=0 width=725 align=center bgColor=#e2e2e2 border=5><TBODY><TR><TD bgColor=#ecfae0>เตือน 10 เมนูเด็ดเสี่ยงโรค </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE borderColor=#fac963 cellPadding=0 width=725 align=center border=5><TBODY><TR><TD bgColor=#ffffff><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR bgColor=#ffffcc><TD vAlign=center> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top>อาหาร’!!! ถือเป็นหนึ่งใน ‘ปัจจัย 4’ ที่มีความสำคัญต่อมนุษย์ ซึ่งตามหลักทั่วไปอาหารที่รับประทานเข้าสู่ร่างกายต้องคุณภาพดี มีสารอาหารครบถ้วนและเพียงพอตามที่ร่างกายต้องการ.....ที่สำคัญคือต้องสะอาดและปราศจาก ‘สารพิษ’ เจือปน อันจะก่อให้เกิดภัยอันตรายแก่สุขภาพ

    อย่างไรก็ดีดูเหมือนว่าการเลือกรับประทานอาหารในแต่ละ ‘เมนู’ ของมนุษย์ จำเป็นต้องคัดสรรมากขึ้น เพราะปัจจุบันมี ‘อาหารอันตราย’ ไม่ปลอดภัยต่อร่างกายอยู่เป็นจำนวนมาก โดยจากข้อมูลของ ‘Team Content’ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ(สสส.) พบว่า มี ‘เมนูโปรด’ ของใครหลายคน ถูกจัดเป็น ‘อาหารอันตราย’ อย่างน้อยๆ 10 ชนิด ได้แก่ . . .

    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE cellSpacing=2 cellPadding=2 align=center bgColor=#f5f5f5 border=0><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top>1. แฮมเบอร์เกอร์

    จัดเป็นอาหารประเภทที่ ‘มีความเสี่ยงสูง’ เพราะเวลาที่สูญเสียไปในระหว่างรอกระบวนการนำ ‘เนื้อ’ มาใช้ปรุงทำให้มี ‘แบคทีเรีย’ เกิดขึ้นได้สูง ทำให้จำเป็นต้องมีการใช้ ‘สารเคมีสีแดง’ มาช่วยกำจัดเนื้อที่กำลังจะเน่าเสีย ทำให้เนื้อแดงเปลี่ยนเป็นเขียว นอกจากนี้แฮมเบอร์เกอร์ทั้งหมดจะใส่ ‘สารปรุงรส’(MSG=Monosodium Glutamate) ทำให้ปวดศีรษะและเกิดอาการแพ้ โดย ‘MSG’ เป็นสารเคมีที่ห้องปฏิบัติการทดลองใช้ช่วยทำให้สัตว์อ้วนขึ้น และท้ายที่สุดก็ทำให้ผู้บริโภคอ้วนขึ้นด้วย

    2.ฮอทด็อก

    เป็นอีก ‘เมนูอันตราย’ เพราะมีกระบวนการผลิตคล้ายแฮมเบอร์เกอร์ และ ‘ฮอทด็อก’ ทั้ง หมดยังใส่ ‘สารไนไตรท์’ เพื่อช่วยทำให้เนื้อยึดตัวและช่วยเติมไส้กรอกให้เต็ม โดย ‘สารไนไตรท์’ เป็นสารที่ทำให้เกิด ‘โรคมะเร็ง’ ในกระเพาะอาหาร มะเร็งในเม็ดเลือด เนื้องอกในสมองและมะเร็งในกระเพาะปัสสาวะ

    นอกจากนี้ ‘ถุงหลอด’ ที่ใช้บรรจุฮอทด็อก ก็ทำจาก ‘คอลลาเจนสังเคราะห์’ ที่เป็นสารก่อให้เกิด ‘โรคมะเร็ง’ ได้สูง มีไขมันที่เป็นสารประกอบไม่เปิดเผยอยู่ประมาณ 40% เมื่อนำ ไปปิ้งย่าง มันจะทำให้มี ‘สารพิษร้ายแรง’ ที่เรียกว่า ‘อะคริลิไมด์’(Acrylimides) ออกมา ซึ่งรู้จักกันดีว่าเป็นสารก่อมะเร็งและ ‘ทำลายประสาท’

    3.เฟร้นช์ฟราย- มันฝรั่งทอด

    เป็นอาหารที่มี ‘ความเป็นพิษสูง’ โดยการทอด ‘เฟร้นช์ฟราย’ ใช้อุณหภูมิสูงทำให้มี ‘สารอะคริลิไมด์’ ออกมา นอกจากนี้ ‘น้ำมัน’ ที่ใช้ในการทอดมันฝรั่งแต่ละครั้งจะเกิดการ ‘ออกซิไดซ์’ ในมันฝรั่งยังมี ‘ดรรชนีกลีซิมิค’(Glycemic) อยู่สูงมาก.....นั่นหมายถึงมันเปลี่ยนให้กลายเป็นน้ำตาลภายในร่างกายได้เร็วมาก

    4. คุกกี้

    ที่เด่นชัดมาก คือ สัดส่วนของน้ำตาลมีอยู่สูงถึง 23 กรัมเลยทีเดียว ซึ่งอาหารในประเภทที่มีน้ำ ตาลปริมาณสูงเช่นนี้ จะทำให้ผิวหนังเหี่ยวย่นและเกิดริ้วรอยได้เร็วยิ่งขึ้น

    5.พิซซ่า

    ‘พิซซ่า’ ประกอบด้วยอาหารที่มาจากการ ‘ตัดแต่งพันธุกรรม’ 5 ชนิด คือ.....

    1.’เนยแท้’(cheese) เพียง 10% เท่านั้น ซึ่งไม่ควรเรียกว่าเนยแท้ได้เลย.....
    2.’แป้ง’ ที่ผ่านการปรุงแต่งให้ขาวที่ได้ทำการฟอกสี ทำให้วิตามินและเกลือแร่ออกไปแล้ว แต่ได้ทำการเติมเกลือแร่สังเคราะห์ตามจำนวนโม เลกุลที่เคยมีอยู่เข้าไปใหม่.....
    3.’ซอสมะเขือเทศ’ ทำด้วยสารคล้ายมะเขือเทศที่สร้าง ‘ยาฆ่าแมลง’ ของมันขึ้นมาได้เองในร่างกายของท่าน.....
    4.’แป้งสาลี’ ชนิดที่มีการตัดแต่งทางพันธุกรรม
    5.มี ‘น้ำมันฝ้าย’ ประกอบอยู่ โดยฝ้ายไม่ได้จัดเป็นพืชพวกอาหาร มันผ่านการสเปรย์ด้วยยาฆ่าแมลงที่ชาวไร่ใช้ในฝ้ายเมล็ดจะเป็นตัวดูดเอาสารพิษต่างๆเอาไว้ได้มากที่สุด ซึ่งกระทรวงเกษตรฯ และกระทรวงสาธารณะสุข ต่างไม่ให้ความร่วมมือซึ่งกันและกันที่จะรับรองว่ามันปลอดภัยต่อการบริโภคได้หรือไม่ มันไม่ได้ช่วยทำให้สุขภาพดีขึ้น แต่มันเป็น ‘น้ำมันไฮโดรจีเนต’ และมีอันตรายต่อสุขภาพอย่างยิ่ง

    นอกจากนี้ ‘ผิวหน้าแป้งพิซซ่า’ ที่อบปิ้งในอุณหภูมิสูง อาจมี ‘สารอะคริลิไมด์’ เกิดขึ้นด้วย ขณะที่การเพิ่มหน้าพิซซ่า ‘เพ็พเปอโรนิ’ หรือเพิ่มหน้าไส้กรอกทำให้มีความเสี่ยงสูงจาก ‘ไนไตรท์’ สารกันบูดและสารเคมีอื่นๆ รวมทั้งไขมันอิ่มตัวที่มีการเติมเข้าไปจากโรงงาน

    6.น้ำอัดลม

    สารตัวสำคัญที่มีอยู่ใน ‘น้ำอัดลม’ คือ ‘กรดกำมะถัน’(Phosphoric acid) ซึ่งมีความเป็นกรดสูงมากพอที่จะละลายตะปูได้ภายใน 4 วัน กรดที่สะสมอยู่ในร่างกายทำให้ยากที่จะทำให้น้ำหนักตัวลดลงได้ และ ‘น้ำโซดา’ ที่เป็นส่วนประกอบอีกตัวของน้ำอัดลมจะเป็นตัวชะล้างแคลเซียมออกจากกระดูก จนทำให้เกิด ‘โรคกระดูกพรุน’

    นอกจากนี้ในน้ำอัดลม 1 กระป๋อง จะมี ‘น้ำตาลที่ไม่ให้พลังงาน’ อยู่ 12 ช้อนชา ในน้ำอัดลมที่ช่วยลดน้ำหนักตัว หรือ Diet soda ที่ใช้ ‘น้ำตาลเทียมสังเคราะห์’(Artificial sweetener) เพิ่มความหวาน จะทำให้ร่างกายกระหายน้ำตาลมากยิ่งขึ้น เพราะน้ำตาลสังเคราะห์เหล่านี้มีความหวานมากกว่าน้ำตาลธรรมดามาก ขณะที่ ‘สี’ ที่ใช้เติมในน้ำอัดลม ยังเป็น ‘สารก่อมะเร็ง’ ด้วย

    7.ชิ้นไก่ทอด-เนื้อนุ่มไร้กระดูก

    เป็นเมนูที่ทำมาจากชิ้นส่วนของไก่ที่ไม่ใช้แล้ว การรับประทานต่อครั้งโดยทั่วไปจะให้พลังงาน 340 แคลอรี่ 50% เป็นไขมัน มีแป้งขนมปังผสมอยู่มาก จึงมีคาร์โบไฮเดรตอยู่สูง มีการเติมสารปรุงรส ‘MSG’ ทำให้ปวดศีรษะและเกิดอาการแพ้ นอกจากนี้ ‘นัคเก็ตชิคเก้น’ บางอันจะมี ‘สารอะลูมิเนียม’ ซึ่งเป็นอันตรายต่อสมองและเป็นอันตรายต่อการเมตะโบลิสซึมของร่างกายด้วย

    8.ไอศกรีม

    มีไขมันอยู่สูงมากเกินกว่า 50% ของไขมันที่แนะนำให้บริโภคต่อครั้งต่อวัน มีคาร์โบไฮเดรตอยู่มากเกือบ 40% ของคาร์โบไฮเดรตที่แนะนำให้บริโภคต่อครั้งต่อวัน มีน้ำตาลอยู่มากทำให้มีความกระหายน้ำตาลมากยิ่งขึ้น เป็นสาเหตุทำให้ผิวหนังเหี่ยวย่น เต็มไปด้วยไขมันไฮโดรจีเน็ตและไขมันที่แปรเปลี่ยน(Transfat) ไปจากธรรมชาติและยังช่วยเพิ่มพูนโคเลสเตอรอล ทำให้เส้นเลือดแดงใหญ่อุดตัน ทำให้มีสารอนุมูลอิสระในร่างกายเพิ่มมากยิ่งขึ้น ซึ่งเป็นสาเหตุก่อให้เกิดโรคมะเร็ง

    9.โดนัท

    โดยเฉลี่ยแล้วจะให้พลังงานประมาณ 300 แคลอรี่ ในโดนัท 1 ชิ้นมีแป้งคาร์โบไฮเดรตอยู่มากกว่า 50% ของที่แนะนำให้บริโภคต่อครั้งต่อวัน มีเกลือโซเดียมอยู่สูงมาก ทำให้ร่างกายขาดน้ำได้ นอกจากนี้โดนัทยังทอดในน้ำมันที่มีอุณหภูมิสูง ซึ่งน้ำมันประเภทนี้จะทำให้มีกลิ่นหืนและมีสารอนุ มูลอิสระเกิดขึ้น ทำให้เกิดสารพิษและทำให้ร่างกายเมตะโบลิสซึมช้าลง เป็นการคุกคามต่อสุขภาพที่ดี และยังเป็นสาเหตุทำให้ผิวหนังเหี่ยวย่น

    10.อาหารขบเคี้ยวยามว่าง

    ในปัจจุบันมีการบริโภค ‘โปเตโต้ชิพ’ กันมาก โดยน้ำมันที่ใช้ในการทอดโปเตโต้ชิพในแต่ละครั้งจะเกิดการออกซิไดซ์ และทอดกันที่อุณหภูมิสูงทำให้มีสารอะคริลิไมด์ (Acrylimides) ซึ่งเป็นสารก่อโรคมะเร็งและทำลายประสาทออกมา นอกจากนี้การรับประทานโปเตโต้ชิพ 1 ถุงอาจได้รับสารอะคริลิไมด์สูงมากกว่า 500 เท่า เมื่อเปรียบเทียบกับอัตราสูงสุดที่อนุญาตให้มีในน้ำดื่มทั่วไปได้การรับประทานโปเตโต้ชิพ 1 ชิ้น อาจได้รับสารอะคริลิไมด์ เท่ากับอัตราที่มีอยู่ในน้ำดื่ม 1 แก้ว

    นอกจากนี้ใน ‘โปเตโต้ชิพ’ ยังมีไขมันอิ่มตัวแอบแฝงอยู่มาก มีเกลือโซเดียมอยู่สูงมาก ทำให้ร่างกายขาดแคลนน้ำได้ และยังไปปิดกั้นการดูดซึมของไขมัน ทำให้การดูดซึมแร่ธาตุจากสารอาหาร ที่รับประทานเข้าไปได้น้อยลง ทำให้ปิดกั้นการดูดซึม ‘สารคาโรทินอยด์’ และสารเคมีอื่นๆที่ได้มาจากพืชที่ช่วยในการป้องกันการเกิดโรคหัวใจ โรคมะเร็ง โรคจุดด่างของผิวหนังทำงานได้ด้อยลง

    รู้โทษของอาหารเหล่านี้แล้ว ควรจะหลีกเลี่ยงแล้วหันไปรับทานอาหารที่ดีและมีประโยชน์ต่อสุขภาพดีกว่า!!!

    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top>
    FW
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  4. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,193
    การแสดงความคิดเห็น ที่ไม่เห็นด้วยกับคำทำนาย ด้วยถ้อยคำสุภาพ ว่าด้วยหลักของเหตุและผล ไม่ได้เป็นสิ่งที่ผิดแต่ประการใด เพราะความเชื่อเป็นเรื่องเฉพาะตัวบุคคล เช่นคนที่เชื่อในคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้า ก็นับถือศาสนาพุทธ คนที่เชื่อในเรื่องของพระเจ้าก็นับถือศาสนาคริสต์และอิสลาม คนที่เชื่อในเรื่องเทพยาดาทั้งหลายก็นับถือศาสนาฮินดู

    เพราะฉะนั้นเรื่องของความเชื่อ จึงเป็นเรื่องเฉพาะตัวบุคคลนั้นๆ ที่มีสิทธิและเสรีภาพ ที่จะเชื่อหรือจะไม่เชื่ออะไรก็ได้ แต่การมาบังคับให้ผู้อื่นให้ต้องเชื่อเหมือนตนเอง คิดเหมือนตนเอง จึงเป็นการริดรอนเสรีภาพส่วนบุคคลเป็นอย่างยิ่ง กลุ่มพลังจิตพิชิตภัยพิบัติมีความเชื่อว่าจะเกิดภัยพิบัติ ก็เป็นสิทธิของกลุ่มเราที่จะคิดจะเชื่อ เป็นสิทธิของกลุ่มเราที่จะชี้แจงแสดงเหตุผล ในสิ่งที่พวกเราเชื่อ เพราะพวกเราก็ไม่เคยไปบังคับขู่เข็ญใคร ให้มาเชื่อตามความคิดของพวกเรา

    คุณหล่อ......เข้ามาแสดงความคิดที่ไม่เห็นด้วยนั้น ไม่ผิดแต่ประการใด แต่สิ่งที่ผิดนั่นก็คือ เขาใช้คำพูดที่ไม่สุภาพ มีการใช้ถ้อยคำที่เสียดสี ด่าทอ ประชดประชัน เยาะเย้ย ถากถาง และพยายามบังคับจิตใจผู้อื่น ให้ต้องเชื่อตามเขาด้วย ซึ่งนั่นเป็นการทำร้ายจิตใจของผู้อื่นอย่างชัดแจ้ง เป็นการไม่เคารพในสิทธิเสรีภาพส่วนบุคคลของคนอื่น เป็นการไม่เคารพในวิจารณญาณของคนอื่น ซึ๋งมีสติปัญญาพอที่สามารถจะแยกแยะได้ว่า อะไรที่ควรเชื่อและอะไรไม่ควรเชื่อครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 24 ธันวาคม 2008
  5. ๑กุหว่าใจ๋๑

    ๑กุหว่าใจ๋๑ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มกราคม 2006
    โพสต์:
    371
    ค่าพลัง:
    +2,730
    ขอแสดงความคิดเห็นนะครับ ตัวผมเองได้รับรู้ข่าวเรื่องภัยพิบัติ ตั้งแต่ยุคต้นๆเมื่อเกือบ10ปีที่แล้ว ตอนนั้นก็เกิดกระแสวิจารกันพอสมควร อย่างกรณีคลื่นซึนามินั้น ก็เคยมีรายการTV นำผู้เชี่ยวชาญทางด้านธรณีมาพูด เค้าก็บอกว่าโอกาสที่จะเกิดแผ่นดินไหว จนเกิดคลื่นซึนามินั้น ไม่ใช่เกิดขึ้นง่ายๆ อาจเกิดขึ้นได้ แต่ก็เป็นร้อยๆพันๆปี ถึงจะเกิดสักครั้ง แต่แล้วในที่สุดสิ่งที่ไม่คิดว่ามันจะเกิดก็เกิดขึ้น

    ตามติดมาด้วยภัยพิบัติต่างๆ ทั้งลมพายุที่รุนแรงขึ้น น้ำท่วมหนักต่อเนื่องนานนับเดือน แผ่นดินไหวถี่ขึ้นรุนแรงขึ้น สภาพอากาศที่แปรปรวนไปหมดในปัจจุบันฯลฯ ในความเห็นของผมนั้น ภัยพิบัติได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว และเป็นไปตามกระบวนการทางเทคนิคของธรรมชาติ หากแต่ที่บางท่านยังมาโพสอยู่ได้ว่ามันยังไม่เกิดนั้น อาจเพราะมันยังไม่ได้เกิดขึ้นจนกระทบต่อตัวคุณ หรือคนในครอบครัวคุณยังไม่พบความสูญเสียนั่นเอง...

    ขอความดีรักษาทุกท่านให้พ้นภัยครับ
     
  6. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,193
    แผ่นดินไหวทางเหนือของอิตาลี

    [​IMG]

    ปาร์มา 24 ธ.ค.- เกิดแผ่นดินไหวทางตอนเหนือของอิตาลีใกล้เมืองปาร์มา และอาฟเตอร์ช็อคตามมาในอีกหลายชั่วโมง แต่ไม่มีผู้บาดเจ็บหรือเสียชีวิต

    แผ่นดินไหวครั้งแรกความรุนแรง 5.1 เกิดขึ้นเมื่อเวลา 16.25 น. วันอังคารตามเวลาท้องถิ่น ตรงกับเวลา 22.25 วันอังคารตามเวลาในไทย ถือว่ารุนแรงมากผิดปกติสำหรับพื้นที่ทางเหนือของอิตาลี และรู้สึกไปได้ไกลถึงเมืองมิลาน ฟลอเรนซ์ และทริเอสเต เส้นทางเดินรถไฟบางสายต้องหยุดให้บริการชั่วขณะ โบสถ์ 2 แห่งพังเสียหายเล็กน้อย

    ชาวเมืองที่อยู่ใกล้ศูนย์กลางแผ่นดินไหวนอกเมืองปาร์มาล้วนแตกตื่นตกใจ แต่เจ้าหน้าที่แจ้งว่า ไม่มีเหตุร้ายเกิดขึ้น จากนั้นเกิดแผ่นดินไหวอีกครั้งความรุนแรง 4.7 เมื่อเวลา 23.00 น.วันอังคารตามเวลาท้องถิ่น ตรงกับเวลา 05.00 น.วันพุธตามเวลาในไทย ทางการระบุว่าเป็นอาฟเตอร์ช็อค หรือแรงสั่นสะเทือนหลังแผ่นดินไหว ด้านสำนักสำรวจธรณีวิทยาของสหรัฐประเมินความรุนแรงของแผ่นดินไหวทั้งสองครั้งไว้ที่ 5.3 และ 5.2

    แผ่นดินไหวที่อิตาลีอาจกลายเป็นเรื่องอันตรายได้เพราะอาคารเก่าแก่อายุหลายร้อยปีหลายแห่งไม่ได้รับการบูรณะดูแล ล่าสุดแผ่นดินไหวความรุนแรง 5.4 เมื่อปี 2545 ทำให้โรงเรียนแห่งหนึ่งในแคว้นโมลิส ทางใต้ของอิตาลีพังราบ มีเด็กเสียชีวิต 27 คน และครูอีก 1 คน.-สำนักข่าวไทย

    2008-12-24 10:55:33

    จีนมีแผนพัฒนาเรือบรรทุกเครื่องบินเป็นของตนเอง

    [​IMG]

    ปักกิ่ง 24 ธ.ค.- จีนมีแผนการจะผลิตเรือบรรทุกเครื่องบินลำแรกในประเทศ เพื่อสะท้อนถึงความเป็น "ชาติมหาอำนาจในด้านต่าง ๆ อย่างครอบคลุม"

    สำนักข่าวซินหัวของทางการจีนรายงานอ้างคำแถลงของนายฮวง ซือผิง โฆษกกระทรวงกลาโหมจีน วานนี้ว่า แผนการพัฒนาเรือบรรทุกเครื่องบินเป็นของตนเองของจีนนี้ยังมีจุดประสงค์เพื่อตอบสนองความต้องการของกองทัพเรือจีนด้วย

    โฆษกกระทรวงกลาโหมจีน เปิดเผยว่า ขณะนี้รัฐบาลจีนอยู่ระหว่างศึกษาพิจารณาประเด็นและปัจจัยต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องเพื่อเตรียมการสำหรับการผลิตเรือบรรทุกเครื่องบินลำแรกในประเทศดังกล่าว.-สำนักข่าวไทย

    2008-12-24 14:03:43

    ศาลจีนประกาศให้บริษัทผลิตนมปนเปื้อนล้มละลาย

    [​IMG]

    เวลลิงตัน, นิวซีแลนด์ 24 ธ.ค.
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  7. sutanee

    sutanee เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ธันวาคม 2007
    โพสต์:
    904
    ค่าพลัง:
    +3,248
    คิดว่าคงไม่มีใครอยากให้เกิดภัยพิบัติใดๆทั้งนั้น
    แต่ตามความเป็นจริงเราห้ามได้หรือ
    ตัวเราเองก็ยังมีการเปลี่ยนแปลงไปตามวันและเวลา
    โลกก็เช่นกันเกิดขึ้นตั้งอยู่ดับไป
    ไม่มีสิ่งใดที่เที่ยงแท้แน่นอน
    การได้รับรู้และเตรียมใจนั้นเป็นสิ่งที่ดี
    หากไม่มีกระทู้นี้เราเองอาจยังหลงไม่รู้ที่จะยึดสิ่งใดเป็นแนวทาง
    แต่เพราะได้พบกระทู้นี้ทำให้รู้จักใช้ชีวิตมากขึ้น
    ขอบคุณทุกคนที่ช่วยกันโพสต์
    แต่เราคนอ่านก็มีปัญญาที่จะแยกแยะว่าอะไรเป็นอะไร
     
  8. Thepkanya

    Thepkanya เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กันยายน 2008
    โพสต์:
    166
    ค่าพลัง:
    +10,071
    เห็นด้วยกับ คุณ เกษม<SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_1751998", true); </SCRIPT> ผู้สนับสนุน กิตติมศักดิ์ เรื่อง การแสดงความคิดเห็น ที่ไม่เห็นด้วย กับคำทำนาย ....ควรเป็นไป ด้วยถ้อยคำสุภาพ ว่าด้วยหลักของเหตุและผล
    แต่ด้วย "ความไม่รู้" ของ ผู้โพสต์จึง หลุดคำพูดที่ ดูไม่ค่อยน่าฟัง น่าอ่าน..ออกมา ดังนั้นการบอกกล่าว หรือเตือนกันด้วยความบริสุทธิ์ใจ จึงเป็นสิ่งที่คงรับไว้พิจารณาปรุบปรุงแก้ไขให้ดีขึ้นได้ ....เพราะเวปนี้เป็นเวปที่ หลายคนเข้ามาเพื่อช่วยกันสร้างสรร
    โดยส่วนตัว อยากกล่าวเหมือนกันว่า เวลาแห่งการเปลี่ยนแปลง....หรืออีกนัยหนึ่ง คือ การเกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไป และ...เกิดขึ้น (ใหม่) ตั้งอยู่(ใหม่) ดับไป (ใหม่)ของธรรมชาติ ของโลก ของวัฎฐจักรต่าง ๆ คงใกล้จะเกิดเข้ามามากแล้ว ดูจาก.... ทิศทาง การขึ้น -- ตก และความเร็วในการเคลื่อนที่ของดวงอาทิตย์ ดวงจันทร์ (เคลื่อนที่เร็วกว่าเดิม ๆ จนมองด้วยตาได้ ถ้าจิตนิ่งพอ) การบินไปปฎิบัติงานบางอย่างของผู้มาจากโลกธาตุอื่น (จะมีความถี่ขึ้น -จำนวนความหลากหลายของพาหนะ - ปริมาณพาหนะในแต่ละวัน) อีกทั้งการสั่นสะเทือนของแผ่นดิน ใน กทม. (กรณีนี้พบเวลานั่งสมาธิ) สภาพไอน้ำในอากาศ และยังอื่น ๆ ที่เกิดขึ้นมาแล้วไม่ต่ำกว่า 6 เดือนที่ผ่านมา
    ........คงไม่ต้องเชื่อ เพราะอยากให้ไม่เชื่อ ......เพื่อจะได้พิสูจน์ด้วยตนเอง โดยการศึกษาปฎิบัติอย่างจริงจัง ด้วยความเพียร (เจริญอิทธิบาทสี่) แล้วจะเห็นว่า ที่พระพุทธเจ้า หรือพระอรหันต์ ท่านเป็น ท่านพูด ท่านทำ คือ สิ่งที่ไม่เกินจริงเลย
     
  9. YourWifeKeeper

    YourWifeKeeper สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    121
    ค่าพลัง:
    +6
  10. kananun

    kananun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2006
    โพสต์:
    10,282
    ค่าพลัง:
    +114,775
    หากกล่าวกันโดยธรรม

    เคารพกันโดยธรรม

    สนนทนากันโดยธรรม

    โพสต์กันโดยธรรมแล้ว


    สิ่งที่สื่อสารก็จะเป็นไปตามเหตุ ตามผล ตามความถูกต้อง

    ความสงบเรียบร้อยและส่งเสริมกันให้อยู่บนแนวทางแห่งความดีก็จะปรากฏ
     
  11. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,696
    ค่าพลัง:
    +51,932
    *** ศาสนา ****

    ท่านเห็นศาสนาอย่างไร
    ... ศาสนาอยู่ที่ไหน ?

    ศาสนาอยู่ที่ ตัวที่ทำได้ ตัวที่ตัดได้
    ศาสนาจึงอยู่กับ ผู้ทำได้

    ผู้ทำไม่ได้ ...จึงนับถือแต่วาจา กายก็ยังไม่ได้นับถือ
    คงปล่อยให้ใจวิ่งไปทั่วจักรวาล

    เราเชื่อหรือว่า...ชาติหน้าเราจะเกิดเป็นมนุษย์อีก
    เพราะตัวกระทำมันไม่ตาย
    ตัวกระทำจะจัดสรรในการเกิดของทุกวิญญาณ
    เนื้อก็พรหมลิขิต หนังก็พรมลิขิต เป็นเพราะสิ่งที่เคยทำเอาไว้

    พระพุทธเจ้าจึงพยายามสร้างการกระทำที่เป็นที่พึ่งได้
    กระทำทั้งกาย วาจา ใจ ...เรียกว่า สัจจะทำ

    ขอให้ท่านพิจารณา
    - " หนุมาน ผู้นำสาร "
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 24 ธันวาคม 2008
  12. Sawiiika

    Sawiiika เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 เมษายน 2008
    โพสต์:
    1,811
    ค่าพลัง:
    +1,557

    เป็นการกล้าที่จะบอกในสิ่งที่ตนเชื่อ แม้จะแตกต่าง และ อาจดูขัดแย้ง
    แต่ก็แสดงให้เห็นว่า ยังมีผู้คนอีกมากมายที่มี มุมมองในเรื่อง ภัยพิบัติ
    อยู่เช่นนี้ อยู่อีกมาก จนไม่ได้คิดเตรียมตัว เตรียมใจ เตรียมรับมือ ฯลฯ
    หรือ ใช้เวลาที่มีค่า ที่มีอยู่นี้ ให้ดีขึ้น พัฒนาขึ้น เราอาจจะไม่ได้มีวันพรุ่งนี้
    อีกแล้วก็ได้ เป็นเรื่องที่เราไม่ควรประมาณในความตาย
    ไม่ควรประมาณในสิ่งที่ ไม่คิดว่าจะเกิดขึ้น

    การที่คุณออกมาบงบอกความคิดที่แตกต่าง
    ทำให้เราต้องยอมรับยิ่งขึ้นว่า มันเป็น ธรรมดา ของมนุษย์โลก

    ขอบคุณที่ทำให้ได้ฉุดคิดในมุมมองของคุณ และ สนใจในตัวตนที่คุณเป็น
    จนคิดเรยไปว่าอะไรที่หล่อหลอมให้คุณได้เป็นเช่นนี้ และ แสดงความคิดเช่นนี้
    เพราะมันจะทำให้เราได้พยายามเข้าใจคนที่มีมุมมองคล้าย ๆ เช่นนี้
    อีกหลาย ต่อหลายคน แต่ไม่ได้มีโอกาสออกมาแสดงความคิดเห็นค่ะ

    มันน่าจะเป็นประโยชน์ต่อส่วนรวมยิ่งขึ้น
    หากเราเข้าใจว่าเพราะเหตุใดมนุษย์ จึงได้ตั้งอยู่ในความประมาทในภัยพิบัติ
    ที่ไม่คิดว่ามันน่าจะเกิดขึ้น ทั้ง ๆ ที่ความจริง ภัยพิบัติมันก็เกิดขึ้นแทบทั่วโลกแล้ว
    เหตุผล สั้น ๆ อาจจะเป็นเพียงแค่ยังไม่ประสบกับคุณเท่านั้นเอง

    ด้วยความปราถนาดี อย่างแท้จริง
    หวังว่า ความปราถนาดี ๆ ที่ได้ตั้งใจมอบให้นี้
    คุณจะรับไว้ด้วยความเข้าใจ แม้มันอาจจะดูเล็กน้อย
    แต่มันอาจจะทำให้เรา อยู่ร่วมโลกในเวบแห่งนี้ได้อย่างสันติ ยิ่งขึ้นค่ะ

    แสดงความเป็นคุณ ในความกล้าที่จะคิด กล้าที่จะแตกต่าง
    แล้ว สร้างสรรค์ สิ่งดี ๆ ของคุณนั้นออกมา
    ด้วยจิตที่ปราถนาดี ๆ ต่อกัน ^^
    เราจะได้ รับแต่สิ่งที่เป็นการเกื้อหนุกกัน
    ทั้งด้านมุมมอง ความคิด และ ความเชื่อ ที่เป็นประโยชน์ต่อส่วนรวม
    เป็นประโยน์แก่ผู้ที่ต้องการเข้ามาหาสาระความรู้ในเรื่องภับพิบัติฯ ค่ะ
    จะได้ไม่เปลื้องเนื้อที่ในกระทู้ หรือ สร้างกระแส ดึกดูดความสนใจ
    ในความคิดที่ขัดแย้ง อาจดูไร้สาระบ้าง ไม่เหมาะสมบ้าง ของคุณเองค่ะ

    ทุกคนที่ปกติต่างต้องการเป็นที่ยอมรับในความคิดของตนแม้มันอาจดูไร้เหตุผล
    คุณอาจต้องการมีบทบาท ให้ผู้อื้นได้รับรู้ในสิ่งที่คุณเป็น

    จึงไม่แปลกเรยที่คุณจะมีชื่อเสียงในเวบนี้ค่ะ คุณ " หล่อลากดิน "

    ใช้ข้อดีตรงนี้มาบงบอกความคิดที่ดีงามของคุณบ้างจะเป็นประโยชน์ต่อ
    ผู้ที่ได้เสียเวลาอันมีค่ามาอ่านเนื้อหาที่ออกมาจากความคิดของคุณค่ะ

    คุณ " หนุมาร ผู้นำสาร " นั้นเค๊าน่านับถือ อย่างมากที่เค๊าเชื่อ ในอุดมการณ์ของเค๊า
    อย่างมั่นคง ฐาวร มานานต่อนาน แล้วในเรื่อง " สัจจะ "
    และ ไม่ย้อท้อ ต่อการมาโพสต์ ลงกระทู้ หลายต่อหลายครั้ง
    ในการบอกกล่าวตักเตือน บอกในแง่ที่เราอาจจะไม่เคยรู้มาก่อนก็ได้
    ถึงรู้แล้ว ก็เป็นการตอกย้ำในคำพูดที่มีความหมายมากมายให้เราได้หยุดพิจารณา
    ส่วนจะจริงหรือไม่จริงนั้น ผู้ที่ใช้ปัญญา มาคิดพิจารณา
    ยอมเข้าใจมากกว่าคล้อยเชื่อตามอย่างไร้เหตุผล ค่ะ

    ได้โปรดสุภาพให้เกียรติผู้ที่ทำให้คุณมีเนื้อที่ได้ไพสต์
    และ ผู้ที่สละเวลา อันมีค่ามาอ่านเนื้อหา ของคุณค่ะ ขอบพระคุณค่ะ
     
  13. Nakamura

    Nakamura Moderator ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กันยายน 2005
    โพสต์:
    2,002
    ค่าพลัง:
    +17,625
    จะเกิดหรือไม่เกิด...กาลเวลา...ก็กลืนกินเราอยู่ทุกขณะ

    วันนี้คุณทำอะไรแล้วบ้าง ?

    ^^
     
  14. สาวปีใหม่

    สาวปีใหม่ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 มีนาคม 2008
    โพสต์:
    1,004
    ค่าพลัง:
    +2,368
    รับได้ในความคิดเห็นที่แตกต่างกัน ในกระทู้นี้ค่ะ เพราะมุมมองชีวิตและประสบการณ์ ของแต่ละท่านไม่เหมือนกัน ตามอ่านมานานแล้ว ก็อยากให้ความคิดหรือข้อมูลที่แตกต่างกันของแต่ละท่านนั้น เป็นบ่อเกิดของปัญญามากกว่า ก่อให้เกิดปัญหาค่ะ

    มีน้ำใจให้กันอีกซักนิด เอ่ยวาจาสุภาพต่อกันด้วยเหตุผล อีกซักหน่อย มันคงไม่ยากเท่าไหร่..... เป็นเพื่อนเกิด แก่ เจ็บ ตาย ด้วยกันหมดทั้งนั้น

    ปล.เห็นด้วยกับคุณ nakamura ค่ะ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 25 ธันวาคม 2008
  15. ไม้บรรทัด

    ไม้บรรทัด เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กันยายน 2008
    โพสต์:
    116
    ค่าพลัง:
    +293
    สวัสดี ปีใหม่ ๒๕๕๒
    ขอให้ไทย เป็นสุขเอย;aa36
    ;aa12
     
  16. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,193
    มหันตภัยของโลกได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว
    โดย Dr.G.G.Junior

    [​IMG]

    ณ เวลานี้วันที่ ๒๘ พฤษภาคม ๒๕๕๐ เกิดเส้นแรงสนามแม่เหล็กขาดสะบัดมากมาย จนโลกเกือบทนไม่ไหว ระดับความรุนแรงกำลังเข้าสู้ระยะวิกฤติเต็มทนแล้ว สัญญาธาตุรู้ที่อยู่คู่กับทุกอณูในสรรพสิ่ง บอกข้าว่า ก่อนมหันตภัยอีก ๑๒ ปีข้างหน้ามันไม่ใช่จุดเริ่มต้นเสียแล้ว แต่มันเริ่มต้นจากวันนี้และเดี๋ยวนี้เลย ความรุนแรงจะเพิ่มมากยิ่งขึ้นจนวิบัติได้ อย่างที่มนุษย์เห็นด้วยตาเปล่าได้

    ประเทศไทยจะมีน้ำท่วมในที่ลุ่มมาก เกิดทั้งแผ่นดินแยก แผ่นดินยุบ ภูเขาทลายลง ความร้อนปะทุจากใต้พื้นดิน ถนนสิ่งก่อสร้างจะพังทลายลงให้เห็น หรืออาจจะไม่มีโอกาส ได้เห็น เนื่องจากมนุษย์จะต้องเสียชีวิตเป็นกลุ่มๆ ตามแรงกรรมที่เป็นวิบากของตน ข้าขอเตือนไว้ ถ้ายังไม่รีบลดความเลวร้ายของตนตั้งแต่วันนี้ โลกย่อมดูดกลืนกินพวก เจ้ามนุษย์บาปหนัก (วิบากมาก) ก่อน แล้วไล่เรียงไปจนหมด หรือเกือบหมดโลกนี้ทีเดียว

    พร้อมกับวาระสุดท้ายที่โลกจะอยู่ในสถานะวิกฤติที่ว่างเปล่า หลังจากการเกิดสภาวะ ยุคน้ำแข็ง หรือความร้อนสูงจนน้ำท่วมโลก มนุษย์จะพบกับความร้อนใต้พิภพที่พอจะทำให้ เลือดในตัวมนุษย์เดือด ก็เป็นได้อย่างง่ายดาย มนุษย์อย่าได้คิดแคบๆ คิดแต่เรื่อง ความอยากของตนเองเท่านั้น อย่าเห็นแก่ตัว จนไม่สามารถพบกับความจริงที่เป็น ข้อเท็จจริงได้เลย การคิดแต่เรื่องของตน ทำให้เกิดความไม่สมดุลของธรรมชาติที่เลวร้ายใหญ่หลวง

    มนุษย์อีก ส่วนหนึ่ง กำลังปฏิบัติสวดภาวนาทำจิตตนให้กว้างขึ้นๆ เพื่อส่งกระแสเมตตาต้านแรงกรรม หรือวิบากของโลกอย่างแข็งขัน ไม่เห็นแก่ตัว ไม่คิดแต่เรื่องของตน ลดความโลภ ความโกรธ ความหลงอยู่อย่างต่อเนื่อง ข้าเห็นแล้วก็ต้องขออนุโมทนาในกรรมดี และขออวยพรให้มนุษย์พวกนี้ เป็นมนุษย์ที่หลงเหลือ เพื่อการเข้าสู่ยุคพลังงานใหม่ อันศิวิไลซ์ โดยแท้จริง

    หลังจากมหันตภัยล้างโลกในครั้งนี้ผ่านพ้นไป มนุษย์เหล่านี้ จะพบความสะอาด ของโลกอีกครั้ง โดยไม่มีมนุษย์ที่แปดเปื้อนกรรมหนักจิตมัว อย่างทุกวันนี้ให้เห็น และจงนำพามนุษย์น้อยๆ ทั้งหลายที่เกิดใหม่ให้มีสภาวะจิตเมตตาต่อมนุษย์ด้วยกัน ต่อสรรพชีวิต และต่อมวลสารทั้งหลายของโลกนี้ สร้างความสมดุลในตัวมนุษย์ ทั้งร่างกาย และจิต

    เมื่อถึงเวลาเกิดมหันตภัยในครั้งต่อไปนี้ จะมีสัญญาณบอกเหตุร้ายของมหันตภัย ขณะก่อตัวขึ้น : เริ่มต้นด้วยการที่ท้องฟ้าเปลี่ยนเป็นสีแดง มาทางทิศตะวันตก เฉียงใต้ แล้วเกิดพายุฝนกระหน่ำ ๓ วัน ๗ วันมาในทิศเดียวกัน จากนั้นจะเกิดเสียงดังสนั่นคำรามจากใต้พิภพ (มนุษย์นึกว่าฟ้าร้อง) พร้อมมีความร้อนใต้พิภพผุดขึ้นมานาน ๓ วัน

    แล้วเกิดแผ่นดินไหว รุนแรงไปทั่วโลก แผ่นดินสะบัดเหมือนแผ่นผ้าปลิวลม พื้นดินที่ราบลุ่ม สั่นเป็นระลอกคลื่น ผืนดินแยกออก ยุบตัวลง ภูเขาถล่ม ตึกสิ่งก่อสร้างทั้งหลาย และเขื่อนพังทลาย น้ำท่วม ท่อก๊าซระเบิด พายุฝนตกหนักต่อเนื่อง เพิ่มความรุนแรงของน้ำท่วมที่เผชิญอยู่อย่างรุนแรงมากขึ้น เกิดความอดอยาก ของผู้คนไปทั่วโลกหลังจากมหันตภัยจบลง และในอีกไม่นานนัก ก็จะเกิดเช่นนี้อีกหลายครั้ง จนกว่าโลกปรับตัวสมดุลเข้าสู่ยุคพลังงานใหม่ต่อไป

    ตั้งแต่เวลานี้ขอให้มนุษย์ทั้งหลาย ร่วมกันสร้างสนามพลังงานแห่งธรรมชาติที่เข้มแข็ง มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพื่อลดการเกิดมหันตภัยที่จะมาถึง หรือก็ให้มันไม่สามารถ เกิดขึ้นได้เลย ในระยะเวลาดังกล่าว จะถือได้ว่าเป็นชัยชนะแห่งมวลมนุษยชาติ ในยุคปัจจุบัน

    http://www.universal-signal.com
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 10.jpg
      10.jpg
      ขนาดไฟล์:
      50.5 KB
      เปิดดู:
      1,485
  17. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,193
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>กรณีศึกษา : แบงก์ 20 หยวนปลอมสะพัดในจีน</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>24 ธันวาคม 2551 20:20 น.</TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=450 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=450>[​IMG]</TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>ธนบัตรมูลค่า 20 หยวนปลอมที่ถูกจับได้ที่มณฑลอันฮุย ประเทศจีน รวมมูลค่ากว่า 5 แสนหยวน หรือคิดเป็นเงินไทยได้กว่า 2.5 ล้านบาท</TD></TR></TBODY></TABLE>
    </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>ระยะนี้ข่าวคราวธนบัตรมูลค่า 1,000 บาทปลอม สร้างความปั่นป่วนให้กับสังคมไทยไม่น้อย และส่งผลให้มีพ่อค้า-แม่ขายจำนวนหนึ่งหวาดหวั่นที่จะรับธนบัตร 1,000 บาทจากลูกค้า ส่วนผู้ใช้ก็พยายามที่จะหลีกเลี่ยงใช้จ่ายธนบัตรมูลค่าต่ำกว่าแทนเช่น 500 บาท หรือ 100 บาท เพราะคิดว่า การปลอมแปลงธนบัตรแบบ 500 บาท หรือ 100 บาทอาจจะไม่คุ้ม

    แต่ในความเป็นจริงแล้ว ธนาคารแห่งประเทศไทยก็มีการตรวจพบการปลอมแปลงธนบัตรฉบับมูลค่า 500, 100, 50 และ 20 บาท เช่นกัน โดยในช่วงเดือน ม.ค.-พ.ย. 2551 มีการตรวจพบธนบัตรชนิดราคา 100 บาท จำนวน 2,989 ฉบับ ธนบัตรชนิดราคา 50 บาท 2,553 ฉบับ ชนิดราคา 500 บาท มีจำนวน 1,495 ฉบับ และชนิดราคา 20 บาท จำนวน 700 ฉบับ

    สำหรับประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีน ในแต่ละปีมีธนบัตรปลอมแพร่สะพัดคิดเป็นมูลค่านับพันล้านหยวน ยกตัวอย่างเช่น สถิติในปี 2547 ทั่วประเทศจีนมีการพบธนบัตรปลอมทั้งสิ้นมูลค่าประมาณ 1,160 ล้านหยวน หรือ ถ้าหากคิดเป็นเงินไทยก็ราว 6,000 ล้านบาท (เปรียบเทียบกับประเทศไทยในปี 2550 พบธนบัตรปลอมมูลค่าเพียง 6.8 ล้านบาท)

    ด้วยความแพร่หลายของอุตสาหกรรมการปลอมแปลงธนบัตรในประเทศจีน ทำให้ตั้งแต่ปี 2537 รัฐบาลจีนโดยสำนักนายกรัฐมนตรีต้องตั้งคณะทำงานเฉพาะเพื่อดำเนินการต่อต้านแก๊งทำธนบัตรปลอม โดยมีบุคคลในระดับรัฐมนตรีหรือผู้ว่าการธนาคารกลางดำรงตำแหน่งประธาน และมีการประสานงานกับหน่วยงานของภาครัฐและเอกชนทั่วประเทศ มีการปรับเปลี่ยนรูปแบบของธนบัตรบ่อยครั้งขึ้น ทั้งยังกำหนดให้ในช่วงเดือน พ.ค.-มิ.ย. ของทุกปีเป็นเดือนของการต่อต้านธนบัตรปลอมอีกด้วย

    ความแพร่หลายของธนบัตรปลอมในประเทศจีนส่งผลให้ประชาชนชาวจีนทั่วไปค่อนข้างระมัดระวังเป็นอย่างมากในการรับธนบัตรมูลค่า 100 หยวน และ 50 หยวน ส่งผลให้บรรดามิจฉาชีพผู้ธนบัตรปลอมในจีนหันไปผลิตธนบัตรมูลค่า 20 หยวนเพิ่มขึ้นแทน (ซึ่งหากเปรียบเทียบเป็นเงินบาทแล้วก็มีมูลค่าประมาณ 100 บาท) ซึ่งการผลิตก็ทำกันอย่างเป็นล่ำเป็นสัน เพราะ ธนบัตรมูลค่า 20 หยวน มักจะไม่ค่อยเป็นที่จับตาของท้องตลาดเท่าใดนัก โดยธนบัตร 20 หยวน ที่ผลิตนั้นมีคุณสมบัติคล้ายธนบัตรจริงมาก เนื่องจากมีลายน้ำ หมึกพิมพ์นูน แถบโลหะ เช่นเดียวกับธนบัตรจริง เพียงมีความแตกต่างเรื่องเนื้อกระดาษ และรายละเอียดปลีกย่อยเท่านั้น

    ทั้งนี้เป็นที่น่าจับตาว่า มีโอกาสหรือไม่ที่แก๊งมิจฉาชีพในประเทศไทยจะจ้าง หรือ นำเข้าเทคโนโลยีการผลิตธนบัตรปลอมจากจีนมาเพื่อใช้กระทำผิดและสั่นคลอนระบบสังคมและเศรษฐกิจของประเทศต่อไป เพราะ ต้นทุนในการผลิตธนบัตรปลอมนั้นอาจจะต่ำลงๆ จนสามารถปลอมแปลงได้แม้กระทั่งธนบัตรมูลค่าเพียง 100 บาท

    ที่มา http://www.manager.co.th/China/ViewNews.aspx?NewsID=9510000151325
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 25 ธันวาคม 2008
  18. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,193
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>ไต้หวันซ้อมรบจำลองถูกจีนโจมตี</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>25 ธันวาคม 2551 07:54 น.</TD></TR></TBODY></TABLE>
    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=420 border=0><TBODY><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>ประธานาธิบดีหม่า อิงจิ่วที่มาเป็นประธานในการซ้อมรบของกองทัพไต้หวันเมื่อวันที่ 24 ธ.ค. - เอเอฟพี</TD></TR></TBODY></TABLE>
    </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>ไต้หวันซ้อมรบจำลองสถานการณ์ถูกจีนโจมตีเมื่อวันพุธ(24 ธ.ค.) ภายใต้ชื่อ “เหลียนหย่ง 97-11” หรือ United Brave ทางตอนใต้ของเมืองผิงตง โดยมีประธานาธิบดีหม่า อิงจิ่วเป็นประธานของงาน ท่ามกลางความสัมพันธ์ระหว่างสองแผ่นดิน ที่มีแนวโน้มอบอุ่นขึ้นในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา

    ขณะที่ประกาศชัดเจน แม้ว่าความสัมพันธ์ระหว่างช่องแคบจะดีขึ้น แต่การซ้อมรบก็ยังคงเป็นภารกิจหลักที่กองทัพไม่อาจละเลยได้

    สำหรับยุทธโปกรณ์ที่กองทัพไต้หวันขนออกมาซ้อมรบในครั้งนี้ ได้แก่ เครื่องบินขับไล่ F-16 จากฝูงบินจำนวน 4 เครื่อง , เฮลิคอปเตอร์จู่โจม AH-1W Super Cobra 4 เครื่อง เป็นต้น – เอเอฟพี

    ที่มา http://www.manager.co.th/China/ViewNews.aspx?NewsID=9510000151293
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 25 ธันวาคม 2008
  19. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,193
    ความในใจของพี่น้องชาวมุสลิมภาคใต้
    โดย.ราญาอี หมื่นรายา

    [​IMG]

    ขอความสันติสุขจงมีแด่พี่น้องทุกชาติพันธุ์ ทุกศาสนา ขอพระผู้เป็นเจ้าทรงโปรดเมตตาแด่ท่านทั้งหลาย ไม่ว่าจะสูงต่ำดำขาว เป็นคนดีหรือคนเลว และขอพระองค์ทรงโปรดโปรยปรายความการุณย์อันเป็นนิรันดร์ ดุจหยาดฝนชโลมดินแด่ปวงบ่าวผู้สวามิภักดิ์ของพระองค์บนแผ่นดินแห่งนี้ด้วยเถิด

    ครับ...ปัญหาภาคใต้...นอกจากการเพียรพยายามที่จะแสวงหาหลู่ทางร่วมกันในการแก้ไข สิ่งที่เราทำได้อีกทางหนึ่ง ก็คือการภาวนา วินวอนร้องขอ แด่...พระผู้อภิบาลแห่งโลกทั้งหลาย...ขอให้พระองค์ทรงโปรดนำทางแห่งสัจธรรมอันถูกต้องมาสู่พี่น้องผู้หลงผิดของเราทั้งหลายด้วยเถิด

    เพราะปัญหาภาคใต้มันแก้ยากมาก...มันเป็นปัญหาของหัวใจ...หัวใจที่ไม่ภักดีต่อแผ่นดิน หัวใจที่แยกเขาแยกเรา แยกมลายู แยกซีแย ไม่ยอมศึกษาประวัติศาสตร์ เป็นปัญหาของเม็ดทรายที่อยู่ในรองเท้า ที่เรารู้ว่า รำคาญ บางครั้งก็เจ็บปวด แต่ไม่มีใครยอมเอาออก ทุกคนยังคงยอมเดินเยียบทรายในรองเท้าต่อไป พร้อมกับท่องพร่ำบ่นเรื่องฝ่าเท้ากลัดหนองต่อไป

    เรามาลองดูประวัติศาสตร์กันสักนิด พร้อมกับถามตนเองว่า...ก่อนที่จะมีพญาตูนักปา (ท้าวนภา) และพญาอินทิรา (สุลต่านอิสมาแอล ชาห์) เราเคยเป็นใครมาก่อน และถามต่อไปอีกว่า...ก่อนที่จะมีอาณาจักรปตานี หรือฟาฏอนีย์ ดารุสลาม เราเคยเป็นอะไรมาก่อน หากบอกว่าดินแดนแห่งนี้ คือ อาณาจักรลังกาสุกะ(ลิงคะสุขะ) แล้วดินแดนลังกาสุกะ มันเป็นดินแดนอะไร มันเป็นของชาวพราหมณ์ ฮินดู - พุทธ หรือมุสลิม และถามอีกว่า...

    ระหว่างที่มีอาณาจักรลังกาสุกะ ดินแดนตรงนี้มีชื่อว่าอะไร หลายคนที่ไม่แกล้งโง่เกินไปนัก คงจะตอบได้ว่า มันคืออาณาจักรศรีวิชัย (เซอริวิญายา) แล้วอาณาจักรศรีวิชัยเมื่อพันกว่าปีที่แล้ว ผู้คนแถบนี้นับถือศาสนาอะไร ขอตอบว่าย่อมไม่ใช่ศาสนาอิสลามที่นำมาโดยท่านศาสดามูฮัมมัด(ซ็อลฯ)อย่างแน่นอน เพราะคนอาณาจักรศรีวิชัยเขานับถือศาสนาพราหมณ์/ฮินดู- พุทธ

    แล้วเราโอรังมลายูนี่จากไหน....เราเป็นใคร...เราไม่ใช่เชื้อสายและลูกหลานของคนอาณาจักรลังกาสุกะ , ศรีวิชัย กระนั้นหรือ อยากจะให้เราท่านทั้งหลายมาร่วมกันใคร่ครวญหน่อยว่า หากฤษีนู พระสมณโคดม และมูฮัดมัด (ซ็อลฯ) มาเห็นพวกเราเข้า ท่านศาสดาและศาสนทูตทั้งหลายคงต้องเสียใจ ในพฤติกรรมของพวกเราที่มักอ้างเสมอว่า เป็นสาวกของท่านเป็นประชาชาติของท่าน

    ศาสดาทั้งหมดที่ถูกอุบัติขึ้นมาในโลกนี้ ก็เพื่อเชิญชวนมนุษยชาติมาสู่ความเมตตา มาสู่ทางนำอันเป็นสายธารธรรม โดยเฉพาะศาสดามูฮัมมัด (ซ็อลฯ) ท่านถูกอุบัติขึ้นมาเพื่อเป็นความเมตตาแด่โลกทั้งสาม(หรือโลกทั้งหลาย)

    เราทั้งหลายไม่ว่าจะเป็น ฮินดู พุทธ ยิว คริสต์ หรืออิสลาม เราต่างก็รอคอยการมาของมหาบุรุษผู้ยิ่งใหญ่ท่านหนึ่ง ไม่ว่าจะในนามของ พระพุทธศรีอริยเมตไตรย ,พระผู้ช่วยให้รอด , เมซีอา หรืออิหม่ามมะห์ดีย์ (อฺ) จึงขอถามว่าแล้วเราจะมาฆ่ากันทำไม ฆ่ากันเพื่ออะไร เพื่อดินแดนที่อ้างกันไปอ้างกันมาว่าของบรรพบุรุษของกู สุลต่านของกู ราญอของกู ทำไมไม่มองว่ามันเป็นของเรา ปัตตานีเป็นของเรา สงขลาเป็นของเรา พัทยาเป็นของเรา โคราชเป็นของเรา เชียงใหม่ก็เป็นของเรา ทั้งหมดที่เป็นขวานทองเล่มนี้เป็นแผ่นดินของเรา

    จะเอาไปทำไมดินแดนไม่กี่แสนตารางเมตร ทั้งๆ ที่ เราต้องการแค่ดินฝังกลบหน้าคนละไม่กี่เมตรเท่านั้นเอง ถามว่าตอนเราออกมาจากครรภ์ของมารดาเราพาอะไรออกมาบ้าง แม้ดินสักกำเดียวมือเราก็ไม่ได้นำออกมา และตัวตนที่ออกมาก็เป็นได้แค่เพียงดินเดียวที่เสื่อมสลายและเปื่อยเน่าไร้ความจีรัง จะเอาไรกันนักหนา

    ยุติการเผาโรงเรียนได้แล้วพี่น้อง เพราะบางทีโรงเรียนที่ท่านได้เผาไปเมื่อวานนี้ อาจจะเป็นโรงเรียนของนายกรัฐมนตรีคนที่ 30 ของประเทศไทยก็เป็นได้ใครจะไปรู้ แล้วท่านจะสำนึกเสียใจเมื่อภายหลัง

    และขอให้เข้าใจใหม่เสียทีเถิดว่า ภาษา“มลายู”ไม่ใช่ภาษา“อิสลาม”และเช่นเดียวกันภาษา“อาหรับ” ก็ไม่ใช่ภาษา “อิสลาม” ภาษาอิสลามไม่มีในโลก ภาษาอาหรับเป็นภาษาที่ใช้เขียน/บันทึก อัล-กุรอาน ชาวอาหรับมิใช่ว่าจะเป็นมุสลิมทุกคน บางส่วนยังนับถือศาสนายูดาย บางส่วนก็ยังนับถือศาสนาคริสต์ อิสลามไม่ใช่มลายู และมลายูไม่ใช่อิสลาม เพราะชาวมลายูบางส่วนก็ไม่ได้นับถือศาสนาอิสลาม บางส่วนยังเป็นคริสต์ ยังเป็นพุทธและฮินดู(ไปดูได้ที่อินโดนีเซีย)

    ใครก็ตามที่มีกลีมะฮ์ “ลาอิลาฮะอิลลัลลอฮฺ มูฮัมมะดุรฺรอซูลลุลลอฮฺ” ไม่ว่าเขาจะเป็นบุตรหลานแห่งอาณาจักรต้าฮั่น สืบเชื้อสายมาจากจินซีฮ่องเต้ ทานข้าวด้วยตะเกียบ พูดและสื่อสารสำเนียงด้วยภาษาจีน (จีน่อ/จีนา) หรือสืบเชื้อสายมาจากพระเจ้าตากสินแห่งกรุงธนบุรี ที่จากับหรือแกแจะซีแย(พูดภาษาไทย) ไม่ว่าจะเป็นหน่อเนื้อเชื้อไข่มาจากทาสชาวโรมัน หรือจากชาวนาในชนบทของเมืองเอเธน จะเป็นอินเดียแดง หรือมาจากเผ่าอบอริจิน เขาทั้งหมดคือมุสลิมและอิสลาม หากเขามี กลีมะห์ชะฮาดะตัยนีย์ (คำปฏิญาณทั้งสอง)

    จึงอยากถามและอยากฝากบอกกับพี่น้องทั้งหลายที่ยังหลงผิดว่า ให้พิจารณาอายัตอัล-กุรอานซูเราะฮฺ อัล-กะฮฺฟุ อายัตที่ 103-106 ข้างต้นให้ดี ใช้ปัญญา ไตร่ตรองพิจารณา ถามจิตวิญญาณและหัวใจของตนเองว่า แน่ใจหรือว่า ท่านศาสดามูฮัมมัด (ซ็อลฯ) และพระองค์อัลลอฮฺ(ซ.บ.) พระผู้ทรงกรุณาปราณีของเรา ปรารถนาที่จะให้ประชาชาติของท่าน บ่าวผู้สวามิภักดิ์ของพระองค์ เข่นฆ่าสังหารประชาชนผู้บริสุทธิ์ ไม่ว่าจะด้วยข้ออ้างของชาติพันธุ์หรือมาตุภูมิ เราจะต้องเข่นฆ่ากันอีกกี่ชาติ เราจะต้องมาหลั่งพี่น้องเลือดทาแผ่นดินกันอีกกี่หน กว่าจะได้มาซึ่งสิ่งสมมุติอันหลอกลวงที่ว่า “ดินแดน”

    พี่น้องรู้หรือไม่...ว่าเบื้องหลังของการเข่นฆ่าครั้งนี้ใครได้ประโยชน์ ท่านรู้หรือไม่ว่าใครอยู่เบื้องหลังของเหตุการณ์ภาคใต้ อย่าให้ถึงกับกว่าจะรู้สึกตัวก็สายเสียแล้วเลยพี่น้อง อย่าคิดเลยว่าทรัพยากรใต้แผ่นดินทั้งหมดจะได้เป็นของท่าน ภายหลังจากทหารหมวกสีฟ้าได้เข้ามา พวกท่านเป็นได้แค่เพียงเหยื่อและเครื่องมือ ภายใต้ข้ออ้างของชาติพันธุ์และมาตุภูมิอันไมรู้จริง

    หากไม่ต้องการเป็นแบบอิรักสอง ที่ซุนหนี่ฆ่าระเบิดชีอะห์ ชีอะห์ฆ่าระเบิดซุนหนี่ ซุนนะห์(หรือที่ศัตรูเรียกพวกเขาว่าวะฮาบีย์) ร่วมผสมโรงฆ่าทั้งซุนหนี่ชีอะห์ เราจะฆ่ากันไปฆ่ากันมาจนถึงวันกียามัต(วันสิ้นโลก)หรือพี่น้อง

    หยุดเสียเถิดพี่น้องที่รักของข้าฯ เจ้าหน้าที่ของรัฐในรัฐบาลนี้ไม่หลงกล(องค์กรสองหน้า)ผู้ที่อยู่เบื้องหลังท่านของท่านหรอก ขอให้กลับตัว กลับใจ มาร่วมพัฒนาชาติไทยของเรา เพราะเมื่อใดก็ตามที่ท่านข้ามไปกลันตันพวกเขาก็เรียกท่านว่า ออแฆซีแย-ปตานี วันใดที่ท่านข้ามชายแดนไปเกอดะห์ คนเกอดะห์ก็เรียกพวกท่านว่า “โอรังเซียม-ปตานี” ไปทำฮัจญ์ที่มักกะห์ เขาก็เรียกท่านว่า “ไตแลนดี่”

    อย่าหนีความจริง ยุติพฤติกรรมการหลบๆ ซ่อนๆ หากท่านตายไปไม่ได้เข้าสวรรค์หรอกพี่น้อง แต่เมียของท่านจะต้องตกเป็นเมียของคนอื่น สมบัติของท่านจะต้องตกเป็นสมบัติของคนอื่น ลูกของท่านจะต้องเป็นเด็กกำพร้า พ่อแม่ของท่านต้องกล้ำกลืนน้ำตา พี่น้องของท่านของต้องโศกเศร้าเสียใจ

    คอลัมน์ “เขียนให้คิด” ยินดีเป็นสื่อกลางให้กับท่านและรัฐบาล และในฐานะพี่น้องของท่าน ขอย้ำเตือนท่านอีกครั้งว่า...ท่านกำลังเดินทางผิด ถูกหลอกใช้ ตกเป็นเหยื่อและเครื่องมือของอสูรร้ายสองหน้าที่หวังยึดครองพื้นที่ยุทธศาสตร์บนแหลมมลายูและครองโลก เจริญธรรม สวัสดีและสลามครับ

    ที่มา http://www.prachatai.com
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 54569.jpg
      54569.jpg
      ขนาดไฟล์:
      63.4 KB
      เปิดดู:
      1,486
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 25 ธันวาคม 2008
  20. เจ้าหญิงแพร

    เจ้าหญิงแพร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กันยายน 2008
    โพสต์:
    378
    ค่าพลัง:
    +390
    สูญเปล่าซะละมั้ง ขนาดไล่จับคนร้ายเข้าไปในหมู่บ้าน ถามชาวบ้านมีแต่คนบอกว่า
    ไม่เห็น ไม่รู้ มันก็พวกเดียวกันทั้งนั้นแหละ
     

แชร์หน้านี้

Loading...