ประเทศไทยจะเกิดอุบัติภัยอย่างที่ทำนายกันจริงๆหรือไม่

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย koymoo, 25 มกราคม 2005.

  1. ragpon

    ragpon เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    456
    ค่าพลัง:
    +954
    ทุกคนล้วนมีข้อคิดที่ดีบอกกล่าว และ ช่วยอบรมณ์ให้แก่กันและกันดีแล้ว สาธุ กับการตั้งใจดีเหล่านี้ด้วย
    ใครเดินทางแบบใด ล้วนแล้วเป็นปัญญาของตัวเองทั้งสิ้น
    ความทะเยอทะยานอยาก มองดูเหมือนสิ่งที่อยู่ใกล้ตัว ทรัพย์สินก็ดี การมีชื่อเสียงก็ดี มันไม่มีจากเราไปไหนหรอก นอกเสียจาก เราต้องการมันมากแค่ไหน (ต้องการมากย่อม เสียใจมาก เสียดายมาก เวลาต้องเสียมันไป) อำนาจชื่อเสียง เงินทองใช้ไหม มันใกล้ตัวใช้ไหม ไมสนใจได้ไหม เอาแต่พอตัวรอดพอเกื้อหนุนญาตุ คนใกล้ตัว ผู้มีคุณให้อยู่รอดไม่อดไม่อยาก ให้ช่วยเหลือกันได้ทำบุญกัน แค่นั้นใช้ไหม ก็ไม่เสียใจมากใช้ไหม เวลามันจากไป เพราะเราใช้มันพอแล้วใช้ไหม รู้สึกพอ....เรียกบารมีกลับมามากความพอดีมันจะมาอุดความเสียดายนะ เพราะมันรู้สึกเต็ม....โชคดีนะ
     
  2. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,681
    ค่าพลัง:
    +51,931
    **รวมโพสต์ ของหนุมาน**

    ขอให้ท่านช่วยประหยัดการโพสต์ ทางเว็บเคยเตือนไปแล้วว่า

    การที่โพสต์หลายโพสต์ จะทำไห้หน้ากระทู้รันไว ขอความร่วมมือด้วย

    _________________________________________________



    หนทางไม่เกิดใหม่...คือ สัจจะ
    พระพุทธเจ้าหลุดพ้นได้....ด้วย สัจจะ

    - " หนุมาน ผู้นำสาร "


    *** จานบิน ****

    คือ ตอไม้

    - " หนุมาน ผู้นำสาร "



    *** เคารพผู้มีคุณ ****

    อาจารย์...เป็นผู้ให้ความรู้ ให้ปัญญากับตัวเรา
    ไม่ว่าอาจารย์ท่านจะมีข้อเสียไปบ้าง....แต่ ท่านก็คืออาจารย์ของเรา
    เป็นข้อคิด.......

    - " หนุมาน ผู้นำสาร "


    *** บารมี ****

    คือ ผลตนทำได้
    คือ ตัวกระทำจากสัจจะที่ทำได้จริง

    กล่าวไปแล้ว ทำได้จริง

    - " หนุมาน ผู้นำสาร "


    *** พระพุทธเจ้า ****

    พระพุทธเจ้าทุกพระองค์...หลุดพ้นทุกข์ ปรินิพพานไปแล้ว ไม่อยู่ในโลกแล้ว
    แต่ การกระทำของพระพุทธเจ้าทุกพระองค์....ยังคงดูแลสัตว์โลก ที่เวียนว่ายตายเกิดอยู่
    การกระทำ ของพระพุทธเจ้าทุกพระองค์ รวมกัน...คือ พระไตรปิฎก
    พระไตรปิฎก สิ่งศักดิ์สิทธิ์เมื่อปรากฏบนโลก ....คือ โลกุตตระ
    โลกุตตระ ปรากฏเป็นสิ่งใดก็ได้ ทุกหมื่นปีจะปรากฏเป็นมนุษย์...คือ องค์โลกุตตระธรรม
    องค์โลกุตตระธรรม....คือ มนุษย์เหนือโลก
    มนุษย์เหนือโลก...คือ ผู้รอบรู้ทุกเรื่องราวของทุกผู้ทุกนาม
    การอุบัติขึ้นของโลกุตตระ....จึงไม่มีผู้ใดล่วงรู้
    เพื่อนำ สัจจะ มาส่งต่อให้กับ...ผู้ทำได้

    ข้าพเจ้ากำลังพูดถึง...
    เรื่อง การกระทำของพระพุทธเจ้าทุกพระองค์ ที่มีตัวตนไม่สูญสลาย
    เป็นตัวกระทำที่ศักดิ์สิทธิ์ เป็นสิ่งเหนือโลก เหนือความคิดมนุษย์

    - " หนุมาน ผู้นำสาร "
     
  3. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    อ้างอิงข้อความของ คุณ หนุมาน ผู้นำสาร

    สิ่งที่เกิดขึ้นในชีวิตนี้...เป็นผลจากตัวกระทำในชาตินี้ ทั้งสิ้น ไม่ใช่ผลจาก การกระทำในชาติที่แล้วมา เพราะ การที่ได้เกิดมาเป็นมนุษย์ในชาตินี้...ตัวกระทำที่เคยทำไว้ คือผู้จัดสรรการเกิดไปแล้ว

    การเกิดเป็นมนุษย์....จึงได้ชดใช้กรรมชาติก่อนหมดไปแล้ว คงเหลือแต่นิสัยติดตัวมา การเกิดเป็นมนุษย์...คือ การเริ่มต้นใหม่ เหมือนให้มาขจัดตัดลดนิสัยให้หมดสิ้น แต่ถ้าเกิดเป็นสัตว์โลกที่ไม่ใช่มนุษย์....หมายถึง เป็นชาติที่กำลังชดใช้กรรม

    - " หนุมาน ผู้นำสาร "

    **************************************************

    ความเห็นของคุณหนุมาน ผู้นำสาร ข้อนี้เป็น "มิจฉาทิฏฐิ" ครับ

    เป็นความเห็นที่ผิดพลาด ไม่ตรงกับความเป็นจริง

    ไม่ว่าจะได้เกิดเป็นมนุษย์ หรือเกิดเป็นสัตว์เดรัจฉาน

    ก็ล้วนเป็นผลมาจากการกระทำ ในชาติที่แล้วทั้งสิ้น

    "กฏแห่งกรรม" สามารถส่งผลข้ามภพข้ามชาติได้เสมอ

    จะเห็นได้จากความจริงที่ว่า คนเราเกิดมาไม่มีใครเหมือนกันเลย

    บางคนจน บางคนรวย บางคนสวย บางคนขี้เหร่ บางคนฉลาด บางคนโง่ ฯลฯ

    ซึ่งล้วนเป็นผลมาจากกรรมในอดีตชาติทั้งสิ้น

    พระโพธิสัตว์ จะไม่มีทางได้ตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้าได้เลย

    ถ้าหากว่าการเกิดเป็นมนุษย์ หมายถึงการได้ชดใช้กรรมในชาติก่อนหมดไปแล้ว

    ในความเป็นจริง การที่คนเราจะตัดกิเลส เพื่อให้ได้บรรลุถึงพระนิพพานนั้น

    ไม่ใช่ว่าการได้เกิดเป็นมนุษย์เพียงชาติเดียว ก็สามารถจะตัดกิเลสได้ทันที

    แต่ต้องสั่งสม อบรม บุญบารมี มาแล้วนับภพนับชาติไม่ถ้วน

    การสอนที่ผิดไปจากคำสอนของพระพุทธเจ้า ที่ได้ทรงประทานเอาไว้

    จะทำให้คนอื่นหลงผิดตามไปด้วย ซึ่งเป็นบาปกรรมอย่างมหันต์

    ขอให้คุณ หนุมาน ผู้นำสาร กลับไปพิจารณาธรรมในข้อนี้ดูใหม่อีกทีนะครับ

    เพราะเรายังไม่ใช่พระอรหันต์ การพิจารณาธรรมจึงยังมีโอกาสผิดพลาดได้ง่าย

    ผมจึงย้ำอยู่เสมอว่า ให้ยึดคำสอนในพระไตรปิฏก เอาไว้เป็นหลักอยู่เสมอ

    ผิดพลาดเพียงนิดเดียว เราก็จะตกเป็นเหยื่อของพญามารได้โดยง่าย

    ซึ่งสิ่งนี้เป็นสิ่งที่ครูบาอาจารย์ทั้งหลาย ท่านย้ำเตือนนักหนาว่า

    อย่าเชื่อความคิดของตัวเอง เพียงอย่างเดียว

    ว่าจะถูกต้องไปเสียทั้งหมด ต้องตรวจสอบกับพระไตรปิฏกอยู่เสมอ

    ว่าถูกต้องตรงกันหรือไม่ หรือเริ่มเบี่ยงเบนไปจากคำสอน

    ของพระพุทธเจ้าหรือไม่ เพราะถ้าเบี่ยงเบนไปเมื่อไหร่

    เราก็จะตกเป็นเหยื่อของฝ่ายมาร ไปโดยไม่รู้ตัวครับ


    **************************************************
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 30 มีนาคม 2009
  4. ragpon

    ragpon เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    456
    ค่าพลัง:
    +954
    คุณ หนุมาน โปรดพิจารณาด้วยถือว่าคุณเกษมเตือนถูกที่ควรแล้ว พิจารณาข้อนี้ใหม่เศษกรรมที่เข้าแบบนี้จะได้ถูกทำลายไปจนสิ้น ส่วนการที่คุณหนุมานเข้าใจในส่วนนี้ผิดไปผมถือว่าเป็นเศษกรรมที่เข้าใจคลาดเคลื่อนยังไม่ถือเป็นมิจฉาทิฏฐิเสียทีเดียวถือว่าแก้ไขได้ครับ โปรดพิจรณาด้วย หากมีความหมายอื่นๆเพิ่มกรุณาอธิบายด้วยครับ ส่วนที่ทำมาแล้วถือว่าดีหมดทั้งสิ้นครับ สาธุๆๆ
     
  5. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,681
    ค่าพลัง:
    +51,931
    **รวมโพสต์ ของหนุมาน**

    ขอให้ท่านช่วยประหยัดการโพสต์ ทางเว็บเคยเตือนไปแล้วว่า

    การที่โพสต์หลายโพสต์ จะทำไห้หน้ากระทู้รันไว ขอความร่วมมือด้วย

    __________________________________________________



    *** ศาสนา ****

    ศาสนา...ไม่ได้อยู่ในวัด ในตำรา หรือวัตถุใดๆ
    ศาสนา....อยู่ที่การกระทำ
    ตัวที่เราตัดได้ ตัวที่เราลดได้...คือ ศาสนา

    - " หนุมาน ผู้นำสาร "



    *** ศาสนศาสตร์ ****

    คือ การนำพาสัตว์โลกหลุดพ้นทุกข์
    คือ โลกุตตระธรรม
    ย่อการปฏิบัติเหลือเพียง...สัจจะ
    เพื่อ การตัดลดนิสัยตนเอง

    ศาสนศาสตร์ในโลก จึงมีหนึ่งเดียว
    คือ สัจจะ การตัดลดนิสัยตนเอง
    เพื่อ ไม่ต้องกลับมาเกิดใหม่

    - " หนุมาน ผู้นำสาร "



    *** ธรรมดา ****

    ขอบคุณมาก
    ข้าพเจ้า เป็นคนธรรมดา
    บอกเท่าที่รู้ เพราะถ้าไม่บอกเล่าต่อ คนอื่นๆก็จะไม่รู้ต่อไป

    - " หนุมาน ผู้นำสาร "


    *** การเกิดใหม่มนุษย์มนุษย์ ***

    ชดใช้กรรมเก่าด้วยการเกิด...สมบูรณ์ พิการ หล่อสวย รวย จน ....
    แต่ สิ่งที่พระโพธิสัตว์ยังคงเหลืออยู่....คือ นิสัย ที่มันคอยสร้างอารมณ์ การกระทำอยู่ตลอด

    - " หนุมาน ผู้นำสาร "

    จะพิจารณาใหม่
     
  6. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>ชาวซิดนีย์สับสนอลหม่าน หลังไฟดับทั่วเมือง </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>30 มีนาคม 2552 16:05 น.</TD></TR></TBODY></TABLE>
    [​IMG]
    ซิดนีย์โอเปราเฮาส์ก่อน และหลังปิดไฟ เมื่อวันเสาร์ (28)ที่ผ่านมา

    เอเจนซี - เหตุไฟดับครั้งใหญ่ทำให้เกิดความสับสนอลหม่านในย่านดาวน์ทาวน์กลางนครซิดนีย์ในบ่ายวันนี้(30) ทำให้รถติดอย่างหนักในชัวโมงเร่งด่วน เมื่อไม่มีไฟจราจร บรรดาพนักงานต่างออกันอยู่แถวๆ ลิฟต์ขณะที่กำลังพยายามจะกลับบ้าน

    เหตุไฟดับทำให้ซิดนีย์ เมืองที่ใหญ่ที่สุดของออสเตรเลียกลายเป็นอัมพาต โดยทำให้ต้องปิดการจราจรในอุโมงค์ฮาร์เบอร์เป็นบางส่วน ขณะที่โรงละครซิดนีย์โอเปราเฮาส์ต้องยกเลิกการแสดงทั้งหมดสำหรับเย็นวันนี้ สื่อท้องถิ่นรายงาน

    อาคารสำนักงานต่างๆ ไม่มีกระแสไฟฟ้าใช้ เมื่อเวลา 04.45 น. ตามเวลาท้องถิ่น หรือเวลา 12.45 น. ตามเวลาประเทศไทย ทำให้ลิฟต์ใช้การไม่ได้ ขณะที่บ้านเรือนและที่ทำการธุรกิจถึง 70,000 หลัง ขาดกระแสไฟฟ้าเช่นเดียวกัน สถานีเอบีซีรายงานโดยใช้ไฟฟ้าสำรอง

    ด้านตลาดหุ้นก็ต้องปิดตลาดในช่วงเวลาที่ไฟดับ ขณะที่อีเนอร์จีออสเตรเลีย ซึ่งเป็นผู้จ่ายกระแสไฟให้แก่เมืองซิดนีย์เผยว่า อาจต้องใช้เวลาหลายชั่วโมงในการกู้กระแสไฟฟ้า เนื่องจากสายเคเบิลที่ใช้จ่ายกระแสไฟฟ้ากระจายไปตามสถานีย่อยต่างๆ เกิดมีปัญหา จึงต้องปิดลง เพราะเหตุผลด้านความปลอดภัย

    อย่างไรก็ตาม ในหลายชั่วโมงต่อมา มีรายงานว่า กระแสไฟฟ้ากลับมาใช้ได้ตามปกติแล้วเมื่อเวลา 14.40 น.

    ทั้งนี้ เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้น หลังจากที่ซิดนีย์จงใจดับไฟในชั่วโมง "เอิร์ธอาวร์" ซึ่งเป็นการรณรงค์เพื่อให้ตระหนักถึงภาวะโลกร้อนเมื่อสองวันที่ผ่านมา

    ที่มา http://www.manager.co.th/Around/ViewNews.aspx?NewsID=9520000036021
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 30 มีนาคม 2009
  7. สู้เพื่อลูก

    สู้เพื่อลูก Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    52
    ค่าพลัง:
    +27
    ู^
    ^
    ^
    โอ้โห...แล้วคนที่ติดในลิฟท์ จะเป็นงัยบ้าง
     
  8. doodee1

    doodee1 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    458
    ค่าพลัง:
    +1,718
    วันที่ 30 มีนาคม พ.ศ. 2552 ปีที่ 18 ฉบับที่ 6696 ข่าวสดรายวัน


    ช็อก!โคลัมเบียพ่อโฉดข่มขืนลูก





    <TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=left border=0><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>[​IMG]
    </TD></TR></TBODY></TABLE>
    เมื่อ 29 มี.ค. สำนักข่าวต่างประเทศรายงานเรื่องราวสะเทือนใจสังคมโคลัมเบีย เมื่อตำรวจรวบพ่อโฉดจากเมืองมารีกีตาในข้อหาข่มขืนลูกสาวจนมีลูกสาวและลูกชายด้วยกัน 8 คน อายุ 1-19 ปี ซึ่งคล้ายกับคดีของนายโจเซฟ ฟริตเซิล พ่อโฉดชาวออสเตรียที่ขังลูกสาวไว้ในห้องใต้ดินและข่มขืนเป็นเวลา 24 ปี จนมีลูกด้วยกัน 7 คน ที่ตอนนี้นายฟริตเซิลถูกตัดสินจำคุก 24 ปี ซึ่งเป็นเรื่องราวที่สร้างความแตกตื่นฮือฮาไปทั่วโลก

    นายอาร์เซบิโอ อัลวาเรซ วัย 58 ปี ถูกตำรวจจับกุมหลังจากที่ น.ส.อัลบา นิเดีย อัลวาเรซ วัย 35 ปี เข้าแจ้งความกับตำรวจตามคำแนะนำของพระคริสเตียนที่รู้จักกันว่า โดนพ่อบังเกิดเกล้าข่มขืนมานาน ตั้งแต่ตนอายุน้อยกว่า 10 ขวบ นับแต่ที่มารดาเสียชีวิตไปตอนตนอายุ 5 ขวบ จนมีลูกกัน 8 คนเป็นเด็กชาย 3 คน เด็กหญิง 5 คน ซึ่งตอนนี้อยู่ในความดูแลของสำนักงานสวัสดิการเด็ก

    ด้านนายอาร์เซบิโอยืนยันว่า ตนบริสุทธิ์ และว่าน.ส.อัลบา ไม่ใช่ลูกสาวแท้ๆ แต่เป็นเด็กที่รับมาเลี้ยงดูและต่อมารักกันจึงตกลงกันว่าจะมีความสัมพันธ์เชิงชู้สาว โดยนายอาร์เซบิโอเดินทางไปขึ้นศาลท่ามกลางการรักษาความปลอดภัยของตำรวจอย่างเข้มงวดเพื่อป้องกันชาวบ้านที่โกรธแค้นเข้ามารุมประชาทัณฑ์

    ทั้งนี้ เพิ่งเกิดคดีทำนองเดียวกันที่อิตาลี ตำรวจจับกุมนายไมเคิล มองเจลลี วัย 64 ปี และนายกีเซปเป สองพ่อลูกในข้อหาร่วมกันข่มขืน น.ส.ลอร่า (นามสมมติที่สื่ออิตาลีตั้งให้) ลูกสาวและพี่สาวแท้ๆ ตั้งแต่อายุ 9 ขวบ จนน.ส.ลอร่า มีลูกกับนายกีเซปเป ซึ่งเป็นพี่ชาย 4 คน อายุตั้งแต่ 6-20 ปี นายเปียโตร โฟรโน หัวหน้าฝ่ายสอบสวนของอิตาลี กล่าวว่า คดีนี้เป็นคดีร่วมประเวณีในเครือญาติที่ใกล้ชิดมากที่สุดเท่าที่เคยพบมา โดยนายไมเคิลเชื่อว่าตนเองมีสิทธิที่จะละเมิดทางเพศลูกสาว และส่งต่อสิทธินี้ให้กับลูกชาย กระทั่งมีลูกกับน้องสาว

    [FONT=Tahoma,]หน้า 7[/FONT]
    "เจ้าชายวิลเลียม"อยากไปรบอัฟกาฯ




    <TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=left border=0><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>[​IMG]
    </TD></TR></TBODY></TABLE>
    หนังสือพิมพ์นิวส์ ออฟ เดอะเวิลด์ ของอังกฤษ รายงานว่า เมื่อ 29 มี.ค. เจ้าชายวิลเลียม พระโอรสองค์โตในเจ้าฟ้าชายชาร์ลส์ รัชทายาทลำดับ 2 แห่งราชวงศ์อังกฤษ เผยว่าทรงมีพระประสงค์จะร่วมรบในอัฟกานิสถานเช่นเดียวกับเจ้าชายแฮร์รี่ พระอนุชา

    เจ้าชายวิลเลียมตรัสกับผู้สื่อข่าวที่ไนต์คลับแห่งหนึ่งว่ารักที่จะทำในสิ่งที่พระอนุชาเคยทำในอัฟกานิสถาน ซึ่งเป็นเหตุผลที่พระองค์ต้องฝึกบินเฮลิคอปเตอร์เพื่อจะได้ไปอยู่ในกองกำลังแนวหน้า

    ทั้งนี้ เจ้าชายวิลเลียมทรงจบหลักสูตรนายทหารของกองทัพอังกฤษเมื่อธ.ค.2549 ขณะนี้ทรงเข้ารับการฝึกเป็นนักบินเฮลิคอปเตอร์ หน่วยค้นหาและกู้ภัยของกองทัพอากาศ โดยเพิ่งเริ่มฝึกเมื่อม.ค.ที่ผ่านมา และจะใช้เวลาตลอดหลักสูตร 18 เดือน ซึ่งเจ้าหน้าที่ที่สำเร็จการฝึกมักจะถูกส่งไปปฏิบัติการราว 30-36 เดือน แต่เจ้าชายวิลเลียมอาจถูกยับยั้งไปสู้รบแนวหน้าด้วยเหตุผลด้านความปลอดภัย

    แฉจีนแหล่งใหญ่แฮ็กคอมพ์ทั่วโลก



    หนังสือพิมพ์นิวยอร์กไทม์ส ของสหรัฐ รายงานว่า เมื่อ 29 มี.ค. นักวิจัยมหาวิทยาลัยโตรอนโต แคนาดา เผยผลสำรวจการเจาะข้อมูลคอมพิวเตอร์ตามคำร้องขอขององค์ทะไล ลามะ ผู้นำรัฐบาลพลัดถิ่นของทิเบตที่สงสัยว่าถูกล้วงข้อมูลคอมพิวเตอร์เปิดเผยว่า จีนเป็นแหล่งเจาะข้อมูลแหล่งใหญ่ของโลกโดยมีคอมพิวเตอร์เครื่องใหม่ถูกล้วงตับกว่า 10 เครื่องต่อสัปดาห์ แต่หลักฐานที่พบไม่ได้ชี้ว่ารัฐบาลจีนอยู่เบื้องหลังหรือไม่

    รายงานที่สืบสวนเก็บข้อมูลนาน 10 เดือนพบการรุกล้ำของซอฟต์แวร์โกสต์เน็ตซึ่งเป็นซอฟต์แวร์ประเภทลักลอบเจาะข้อมูลคอมพิวเตอร์ ในคอมพิวเตอร์อย่างน้อย 1,295 เครื่อง ใน 103 ประเทศ ในช่วงไม่ถึง 2 ปี โดยเหยื่อส่วนใหญ่เป็นคอมพิวเตอร์สถานทูต กระทรวงต่างประเทศและหน่วยงานรัฐ ในจำนวนนี้มีคอมพิวเตอร์สำนักงานของทะไล ลามะ ทั้งในอินเดีย บรัสเซลส์ ลอนดอน และนิวยอร์กด้วย เชื่อว่ามีเป้าหมายสำคัญในการลักลอบดูข้อมูลของสำนักงานทะไล ลามะ รวมทั้งรัฐบาลในภูมิภาคเอเชียใต้และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

    ยุ่นงัดแพตทริออตจ่อสกัดจรวดโสมเหนือ



    สำนักข่าวยอนฮัป เกาหลีใต้ รายงานว่า ทางการญี่ปุ่นสั่งเคลื่อนขีปนาวุธ แพตทริออต ติดตั้งด้านหน้าอาคารกระทรวงกลาโหม เตรียมพร้อมยิงทำลายจรวดที่มุ่งหน้ามายังดินแดนของญี่ปุ่น ด้านแหล่งข่าวรัฐบาลเกาหลีใต้ระบุว่า ดาวเทียมจารกรรมถ่ายภาพจรวดที่เกาหลีเหนือติดตั้งที่ฐานปล่อยชายฝั่งทางตะวันออก แต่ไม่สามารถยืนยันได้ว่าเป็นดาวเทียม หรือหัวรบขีปนาวุธ ส่วนหน่วยสืบสวนสหรัฐเผยภาพถ่ายดาวเทียมเช่นกันและยืนยันว่าสิ่งที่เกาหลีเหนือติดตั้งคือขีปนาวุธพิสัยไกล "แตโปดอง 2" ที่คาดว่ามีกำหนดปล่อยวันที่ 4-8 เม.ย.นี้ ไม่ใช่ดาวเทียมสื่อสารตามที่เกาหลีเหนืออ้าง

    แหล่งข่าวทางทหารของญี่ปุ่นเปิดเผยว่า มีคำสั่งเคลื่อนขีปนาวุธนำร่อง แพตทริออตออกมาตั้งคอยท่าด้านหน้ากระทรวงกลาโหมในกรุงโตเกียว 2 หัวรบ หันหน้าไปทางน่านฟ้าฝั่งตะวันตกเฉียงเหนือเพื่อยิงทำลายจรวดเกาหลีเหนือหากว่ามีทิศทางมุ่งมายังญี่ปุ่น ส่วนเกาหลีใต้คาดว่า เกาหลีเหนือจะเลือกวันปล่อยจรวดโดยคำนึงถึงสภาพอากาศเป็นหลัก ซึ่งสำนักงานอุตุนิยมวิทยาเกาหลีใต้คาดว่า วันที่ 4 เม.ย.จะมีหิมะหรือฝนตก วันที่ 5 เม.ย.จะมีเมฆมาก ส่วนวันที่ 6-10 เม.ย.จะเป็นวันที่ท้องฟ้าปลอดโปร่ง


    ปิดไฟลดโลกร้อน

    แยกประชาชื่น

    ล็อกล้อ

    จัดรถไฟฟรี54ขบวนฉลองสงกรานต์ ทุกสายทั่วปท.-เพิ่มความเข้มตรวจแอลกอฮอล์



    นครราชสีมา - นายโสภณ ซารัมย์ รมว.คมนาคม กล่าวถึงการเตรียมความพร้อมรับมือวันหยุดยาวเทศกาลสงกรานต์ปีนี้ว่า เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมขบวนรถโดยสารทุกคันก่อนถึงเทศกาลสงกรานต์ในสัปดาห์นี้ การรถไฟแห่งประเทศไทยจึงขออภัยแก่ผู้ใช้บริการเนื่องจากได้หยุดซ่อมหัวรถจักรบางขบวน เพื่อให้ทุกขบวนใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพก่อนจะนำมาเสริมในช่วงเทศกาลสงกรานต์ โดยในเทศกาลสงกรานต์ปีนี้กระทรวงคมนาคมจะให้บริการรถไฟโดยสารฟรีจำนวน 54 ขบวน เพื่อรองรับประชาชนที่ต้องการโดยสารรถไฟทุกสายทั่วประเทศ

    นายโสภณกล่าวอีกว่า ได้ให้นโยบายกับกระทรวงคมนาคมว่า ในเทศกาลสงกรานต์ปีนี้จะไม่ให้มี ผู้โดยสารตกค้างตามสถานีขนส่งหรือ บ.ข.ส.และสถานีรถไฟ โดยนโยบายที่ตนเน้นหนักคือ 1.ไม่ตกค้าง 2.ปลอดภัย และประหยัด ซึ่งรถโดยสารจะต้องไม่มีการขึ้นค่าโดยสาร ส่วนรถฟรีก็ยังคงให้บริการตามปกติ สำหรับการตรวจวัดแอลกอฮอล์ในผู้ขับขี่รถโดยสาร ผู้ขับรถสาธารณะ และผู้ขับขี่รถส่วนตัวนั้นกระทรวงคมนาคมถือเป็นนโยบายเน้นหนักอยู่แล้วเพื่อป้องกันการเกิดอุบัติเหตุ ซึ่งประชาชนจะต้องตระหนักว่า การดื่มแอลกอฮอล์ก็ดื่มได้ แต่ผู้ขับขี่รถทุกชนิดไม่ควรดื่ม รวมทั้งผู้โดยสารก็ไม่ควรดื่มเช่นกัน

    "ผมขอฝากว่าในช่วงเทศกาลสงกรานต์การเดินทางกลับภูมิลำเนาของพี่น้องประชาชนจะต้องคอยตักเตือนซึ่งกันและกันว่าการดื่มสุราก็ขอให้ดื่มแต่อยู่ที่บ้าน ดื่มแล้วไม่ควรขับขี่รถ โดยเฉพาะจักรยานยนต์ ถ้าเมาแล้วอย่าขับ ดื่มแล้วก็อย่าขับแค่นั้นเอง เพราะวันสงกรานต์มีแต่ความสนุกสนานรื่นเริงกัน ถือเป็นประเพณีที่พี่น้องประชาชนชาวไทยรื่นเริง และเป็นวันครอบครัว วันพบญาติ" นายโสภณกล่าว

    "พะเยา"ซ้อมรับมือพายุถล่ม



    พะเยา - นางธวัลรัตน์ ไชยอินปัน หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย(ปภ.)จ.พะเยา เปิดเผยว่า เนื่องจากขณะนี้เป็นฤดูร้อนสภาพอากาศโดยทั่วไปเกิดความแห้งแล้ง หลายพื้นที่ประสบปัญหาภัยแล้งขาดแคลนน้ำอุปโภคบริโภค จังหวัดได้ประกาศให้พื้นที่ภัยพิบัติเนื่องจากภัยแล้ง ประสานงานหน่วยงานต่างๆ ทั้งภาครัฐ ท้องถิ่น ร่วมกันให้ความช่วยเหลือประชาชนอย่างเต็มที่ อย่างไรก็ตาม ถึงแม้จะเป็นฤดูร้อน จังหวัดก็ไม่นิ่งนอนใจเกรงว่าอาจจะเกิดเหตุการณ์พายุกระหน่ำ หรือฝนหลงฤดู จึงได้มอบหมายให้ปภ.จังหวัดพะเยาดำเนินการฝึกซ้อมเฝ้าระวังภัยอันเกิดจากดิน โคลนถล่มในพื้นที่เสี่ยงภัยของจังหวัดพะเยาขึ้น โดยทางสำนักงานร่วมกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น(อปท.) ซึ่งเป็นพื้นที่เป้าหมายของการเฝ้าระวังดำเนินการฝึกซ้อมทักษะเพื่อรับมือ ภัยอันอาจจะเกิดจาก ดิน โคลนถล่ม อย่างต่อเนื่อง

    นายสนั่น ยะมงคล นายกอบต.ภูซาง กล่าวว่า นอกจากนี้การฝึกทักษะการเฝ้าระวัง การรับมือ และช่วยเหลือผู้ประสบภัยอันอาจจะเกิดจากเหตุดิน โคลนถล่มแล้ว สำหรับอบต.ภูซาง ได้ตระหนักถึงความสำคัญที่ต้นเหตุของปัญหาดิน โคลนถล่ม ในพื้นที่จึงได้ปลูกป่า และรักษาป่าไม้ แม่น้ำ โดยความร่วมมือของประชาชน อบต. และภาครัฐ รวมทั้งองค์กรพัฒนาเอกชน ช่วยกันบำรุงดูแลรักษาป่าไม้ แม่น้ำ เพื่อให้เกิดความชุ่มชื้น ต้นไม้ใหญ่ในป่าจะช่วยชะลอความแรงของน้ำไม่ให้เกิดน้ำป่าไหลหลากในฤดูน้ำหลาก ซึ่งเป็นการป้องกันที่ต้นเหตุอย่างได้ผลที่เป็นความยั่งยืนอย่างน่าพอใจ

    เตือนโรคอีสุกอีใสระบาดหน้าร้อน



    หนองคาย - นายแพทย์อิทธิพล สูงแข็ง นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดหนองคาย กล่าวว่า ในช่วงเดือนมีนาคม-พฤษภาคม ของทุกปี ซึ่งเป็นช่วงหน้าร้อน ประเทศไทยจะพบผู้ป่วยโรคอีสุกอีใสมากกว่าช่วงอื่น โดยพบมากที่สุดในเด็กอายุ 5-9 ขวบ รองลงมาคืออายุต่ำกว่า 4 ปี ซึ่งโรคอีสุกอีใสเป็นโรคติดต่อเฉียบพลันจากเชื้อไวรัส ติดต่อด้วยการไอ จาม หายใจรดกัน หรือโดยการสัมผัสกับตุ่มหนองของผู้ป่วย ตลอดจนการใช้สิ่งของร่วมกันกับผู้ป่วย จึงมักเป็นเหตุให้เกิดการระบาดได้ง่าย โดยเฉพาะสถานที่ที่มีคนรวมกันหนาแน่น เช่น สถานรับเลี้ยงเด็ก โรงเรียนอนุบาล สถานศึกษา

    สำหรับอาการป่วยโรคอีสุกอีใส ระยะแรกหลังติดเชื้อจะมีไข้ต่ำๆ อ่อนเพลีย เบื่ออาหาร จากนั้นจะมีผื่นแดงตามผิวหนังบริเวณศีรษะ ใบหน้า ลำตัว ต่อมาผื่นจะกลายเป็นตุ่มนูน มีน้ำใสๆ อยู่ข้างใน และมีอาการคัน รอบฐานตุ่มมีสีแดง และตกสะเก็ดภายใน 2-3 วัน ตุ่มเกิดขึ้นได้ทั่วร่างกาย ขนาดของตุ่มจะไม่เท่ากัน โรคอีสุกอีใส มีระยะฟักตัว 10-21 วัน กว่าจะปรากฏอาการ อย่างไรก็ตาม อีสุกอีใสเป็นโรคที่ไม่รุนแรง เป็นแล้วหายเองได้ โดยทั่วไปอาการโรคอีสุกอีใสในเด็กเล็กจะไม่รุนแรง อาการอาจจะรุนแรงในเด็กโตหรือผู้ใหญ่

    นายแพทย์อิทธิพล กล่าวต่อว่า ขอให้ประชาชน พ่อแม่ ผู้ปกครองได้ระมัดระวังไม่ให้บุตรหลานอยู่ใกล้ชิด หรือคลุกคลีกับผู้ป่วยที่กำลังเป็นโรคอีสุกอีใส และงดใช้ของร่วมกันกับผู้ป่วย ซึ่งในช่วงปิดภาคเรียนขณะนี้อาจจะมีเด็กบางคนยังอยู่ในศูนย์เลี้ยงเด็ก หรือเรียนพิเศษ หากมีเด็กป่วยเป็นโรคอีสุกอีใสต้องให้หยุดเรียนจนกว่าสะเก็ดแผลจะแห้ง ส่วนผู้ใหญ่ต้องหยุดพักงาน




    เมื่อวันเสาร์ที่ 28 มี.ค.ที่ผ่านมา กทม.มีกิจกรรมรณรงค์ลดโลกร้อน Earth Hour ที่ถนนข้าวสาร

    โดยกทม.ได้ร่วมกับกองทุนสัตว์ป่าโลก (World Wildlife Fund : WWF) และเมืองใหญ่ 23 เมืองทั่วโลก มาตั้งแต่ปีที่แล้ว เพื่อปิดไฟตั้งแต่เวลา 20.00-21.00 น. ตามเวลาท้องถิ่นของแต่ละเมือง

    ในกรุงเทพฯได้ร่วมปิดไฟในถนนสายหลัก 5 สายคือ ถนนสีลม รัชดาภิเษก ข้าวสาร เยาวราช และเพชรบุรีตัดใหม่

    จากข้อมูลในการปิดไฟเมื่อปีที่ผ่านมา ปริมาณการใช้ไฟฟ้าหลังปิดไฟเหลือเพียง 3,616 เมกะวัตต์ เมื่อเทียบกับวันเวลาเดียวกันของปี 50 ที่ใช้ไฟฟ้า 5,000 เมกะวัตต์ สามารถลดการใช้ไฟฟ้าได้ถึง 1,384 เมกะวัตต์ หรือ 30% และลดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้ถึง 364 ตัน

    สำหรับปีนี้มีกว่า 680 เมืองทั่วโลก จาก 47 ประเทศ ที่ร่วมกิจกรรม Earth Hour อย่างเป็นทางการ แต่ในทางปฏิบัติก็มีถึง 1,181 เมือง จาก 80 ประเทศทั่วโลกที่ร่วมปิดไฟทั้งในปีนี้ และปีก่อน

    โดยในพื้นที่กรุงเทพฯก็มีหน่วยงานทั้งภาครัฐ และเอกชน และถนน 5 สายหลักทั้ง ถนนสีลม รัชดาภิเษก ข้าวสาร เยาวราช และเพชรบุรีตัดใหม่ ที่ร่วมกิจกรรมปิดไฟลดโลกร้อน

    และในปีหน้าก็ตั้งเป้าให้จังหวัดท่องเที่ยวในภูมิภาค อย่าง เชียงใหม่ ภูเก็ต มาร่วมจัดกิจกรรมนี้ด้วย

    สำหรับกิจกรรม Earth Hour ของกทม.ที่ผ่านมาในปีนี้ มีสิ่งที่พิเศษกว่าปีก่อนก็คือ มี อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี มาเป็นประธานปิดไฟ

    การรณรงค์ให้ประชาชนในเมืองใหญ่ทั่วโลกร่วมปิดไฟกันสัก 1 ชั่วโมง ก็เพื่อให้ทุกคนตระหนักถึงปัญหาโลกร้อน และช่วยกันลดการใช้พลังงาน ลดความร้อนที่เกิดขึ้น

    ดังนั้นถ้ากทม.เห็นว่าปัญหาโลกร้อนเป็นเรื่องสำคัญ นอกเหนือจากการให้นายกฯมาถ่ายรูปเปิดงานแล้ว ก็ควรประสานรัฐบาล และนายกฯ ให้ช่วยรณรงค์และสนับสนุนกิจกรรมที่ช่วยลดโลกร้อนอย่างจริงจัง

    การสร้างภาพลักษณ์ที่ดี ถ้าจะให้ดีอย่างต่อเนื่อง และเป็นที่ยอมรับโดยทั่วกัน ก็จำเป็นต้องทำอย่างต่อเนื่องและจริงจัง

    ไม่เช่นนั้นก็เป็นได้แค่การสร้างภาพ


    สนอ.เตือนคนกรุงร้อนนี้ระวังโรคท้องร่วงระบาด



    นางมนทิรา ทองสาริ ผอ.สำนักอนามัย (สนอ.) เปิดเผยว่า ขณะนี้ในหลายพื้นที่ทั่วประเทศ รวมทั้งกรุงเทพฯ เริ่มเข้าสู่ฤดูร้อนกันแล้ว หากประชาชนไม่ดูแลและรักษาสุขภาพในช่วงดังกล่าวอาจจะเจ็บป่วยได้ง่าย โดยเฉพาะโรคอุจจาระร่วง ซึ่งมักจะมีผู้ที่ป่วยด้วยโรคดังกล่าวจำนวนมาก

    ผอ.สำนักอนามัย กล่าวต่อว่า ทั้งนี้ ตลอดปี 2551 ที่ผ่านมา ฝ่ายระบาดวิทยา กองควบคุมโรค สนอ. รายงานสถิติจำนวนผู้ป่วยด้วยโรคดังกล่าวจากสถานพยาบาลต่างๆ ในพื้นที่กรุงเทพฯ พบว่ามีผู้ป่วยด้วยโรคดังกล่าว จำนวน 43,579 ราย ขณะที่ตั้งแต่ช่วงต้นปีจนถึงเดือนก.พ.ที่ผ่านมา มีผู้ป่วยด้วยโรคดังกล่าวแล้วถึง 5,295 ราย ถือเป็นตัวเลขที่สูงพอสมควร เนื่องจากขณะนี้ยังไม่เข้าสู่ฤดูร้อนอย่างแท้จริง โดยเฉพาะช่วงเดือนเม.ย.-มิ.ย. ซึ่งจะเป็นช่วงที่ร้อนที่สุดและเสี่ยงต่อการป่วยด้วยโรคดังกล่าวมากเช่นเดียวกัน

    นางมนทิรา กล่าวด้วยว่า ในสภาพอากาศช่วงนี้อยากให้ประชาชนระมัดระวังด้านสุขอนามัย และรักษาสุขภาพให้มาก โดยล้างมือให้สะอาดทุกครั้งทั้งก่อนปรุงอาหารไปจนถึงก่อนรับประทานอาหาร รวมทั้งภายหลังจากการเข้าและออกจากห้องสุขาด้วย ที่สำคัญจะต้องดื่มน้ำสะอาดที่เป็นน้ำต้มสุก รวมทั้งรับประทานอาหารที่เพิ่งปรุงสุกใหม่ๆ ไม่ควรรับประทานอาหารที่ปรุงแบบสุกๆ ดิบๆ โดยเฉพาะอาหารประเภทเนื้อสัตว์ และหากต้องการจะเก็บรักษาอาหารที่ปรุงสุกแล้วเพื่อเอาไว้รับประทานในครั้งต่อๆ ไป ควรจัดเก็บไว้ในภาชนะที่ปิดอย่างมิดชิดและควรเก็บเอาไว้ในตู้เย็นหรือช่องแช่แข็ง และจะต้องนำมาอุ่นให้ร้อนก่อนรับประทานทุกครั้ง อย่างไรก็ตาม ในระหว่างนี้หน่วยสอบสวนโรค (SSRT) ของศูนย์บริการสาธารณสุขทั้ง 68 แห่ง จะดำเนินมาตรการในเชิงรุกเพื่อควบคุมโรคในแต่ละพื้นที่ต่อไปด้วย
     
  9. OLDMAN AND A CAR

    OLDMAN AND A CAR เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มีนาคม 2008
    โพสต์:
    824
    ค่าพลัง:
    +2,752

    .....กัลยาณมิตร...พึงถ้อยที ถ้อยอาศัย....รับฟังความคิดเห็นซึ่งกันและกัน....แล้วนำไปพิจารณาไตร่ตรอง....

    ขอให้ท่านเจริญใน ธรรม.... อนุโมทนา....
     
  10. OLDMAN AND A CAR

    OLDMAN AND A CAR เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มีนาคม 2008
    โพสต์:
    824
    ค่าพลัง:
    +2,752
    .....อ่านแล้วสบายใจขึ้น....นิดหน่อยครับ คุณหล่อฯ...

    ทุกท่าน มีอิสระที่จะคิด และ เห็นต่างได้...ผมยัง เป็นเพื่อนที่ดีกับคุณเสมอนะ...เราคบหากันในเวป...ไม่มีผลประโยชน์อะไร..นอกจาก จะมา แลกเปลี่ยน และ แสวงหา ความรู้....มีอะไร ก็ พูดจา ภาษาดอกไม้ใส่กันนะ ดีที่สุดทั้ง ผู้พูด และ ผู้ฟัง.....ไม่เสียกะตังค์ แม้แต่บาทเดียว....ไม่แน่นะ...สักวัน เราอาจต้องพึ่งพากัน ก็ได้....ใครจะรู้.....มีเพื่อนเยอะๆ ไว้ก่อนน่ะ ดีแล้ว....
     
  11. หล่อลากดิน

    หล่อลากดิน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 มีนาคม 2007
    โพสต์:
    1,202
    ค่าพลัง:
    +235
    ท่านโอลด์แมนฯจำได้มั๊ย ผมโดนขังไว้
    ในห้องหลุมดำแน่นหนา

    จองจำคู่กับสีอารย์ฯ แล้วเนิ่นนานมา
    เป็นเวลาร่วมหลายปี

    โดนใบแดงโดนแบนนี้ ล้วนมากมายมี
    กฏนี้ทำผิดอยู่ร่ำไป

    ทุกสิ่งอย่างผมจำได้ ที่ท่านบอกไว้
    ใส่หมวกกั๊นน๊อคก่อนมา

    แต่มันไม่ทันเวลา เนื่องด้วยต้องมา
    และด่าเจ้าพวกหมอดู

    เดาผิดดูผิดลงคู มันแสนอดสู
    ตรูข้าหล่ะหน่ายจริงๆ <!-- / message --><!-- sig -->
     
  12. เมทิกา

    เมทิกา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    952
    ค่าพลัง:
    +2,393
    คุณหล่อที่เคารพอย่างยิ่งๆๆๆๆๆๆ

    ไม่รักไม่ชอบไม่ว่า

    แต่โปรดวิจารณ์แบบสุภาพชน

    พร้อมทั้งหาทางออก บอกทางแก้ไขให้ด้วยเถิด

    อย่าติดนิสัยที่ว่า ด่าไว้ก่อน ผิดถูกกูด่ากราด
    แล้วพอถามว่า ด่าเพราะอะไร มันไม่ดีตรงไหน แล้วควรจะแก้ยังไง


    ต อ บ ไ ม่ ไ ด้

    อย่างนี้ติเพื่อความฉิบหาย อยากได้แบบติเพื่อก่อนะค้า~~~
     
  13. k_isara

    k_isara เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    246
    ค่าพลัง:
    +119
    30 มี.ค. 52
    <O:p</O:p
    <O:p</O:p
    สมบัติผลัดกันชม<O:p</O:p
    <O:p</O:p
    เที่ยวที่แล้วแจกผลไม้เมืองนอก ให้ประชาชน<O:p</O:p
    เที่ยวนี้จุดประทัดยักษ์ฉลองชัย ให้กับข้าราชการ
    <O:p</O:p
    <O:p</O:p
    ข้อควรจำ
    <O:p</O:p
    <O:p</O:p
    23 ธ.ค.46<O:p</O:p
    2 เทวดาโดดร่ม<O:p</O:p
    ทางเทวโลกได้ลงมาเก็บกวาด
    <O:p</O:p
    2 ก.ย. 47<O:p</O:p
    2 จ้าวป่า<O:p</O:p
    จะเกิดสงคราม 2 ครั้ง
    <O:p</O:p
    <O:p</O:p
    5 ก.ย. 47<O:p</O:p
    3 ปลายักษ์<O:p</O:p
    จะเกิดภัยทางน้ำ 3 ครั้ง
    <O:p</O:p
    <O:p</O:p
    26 ธ.ค. 47<O:p</O:p
    เิกิดซึนามิ ครั้งที่ 1
    <O:p</O:p
    <O:p</O:p
    27 ก.พ. 50<O:p</O:p
    ตามหลังปลายักษ์<O:p</O:p
    ให้หนีขึ้นที่สูง เมื่อเกิด ซึนามิ ครั้งที่ 2
    <O:p</O:p
    <O:p</O:p
    5 ก.พ. 50
    <O:p</O:p
    <O:p</O:p
    2 วงล้อกับ พ.ศ. 2537<O:p</O:p
    เวลาเกิดภัยได้ถูกเลื่อนออกไป<O:p</O:p
    ไม่เกินปี พ.ศ. 2561
    <O:p</O:p
    <O:p</O:p
    10 ก.ค. 51<O:p</O:p
    งานศพ หนังสือที่ถูกฉีก ประตูทางออก<O:p</O:p
    เมื่อมีการแก้กฎหมาย จะเกิดความวุ่นวายและมี <O:p</O:p
    คนตาย<O:p</O:p
    เกิดแล้วเมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2551
    <O:p</O:p
    <O:p</O:p
    16 ก.ย. 51<O:p</O:p
    เรื่องเล่าจากภาพ การทะเลาะวิวาท ผู้นำจาก <O:p</O:p
    คนนอกที่เก่งด้านการเงิน แผ่นดินไหว<O:p</O:p
    หลังจากความวุ่นวายผ่านไป จะได้ผู้นำคนนอก<O:p</O:p
    ที่มาจากสายการเงิน แล้วแผ่นดินจะไหวตามมา
    <O:p</O:p
    <O:p</O:p
    8 ต.ค. 51<O:p</O:p
    ใบเสร็จที่เก็บไม่ได้ ราคา 11,111 บาท ชีเปลือย <O:p</O:p
    คนหนี<O:p</O:p
    ปี 2552 จะเกิดปัญหาการเงินรุนแรง ผู้คนจะ<O:p</O:p
    ทุกข์ยากและเห็นแก่ตัวมากขึ้น
    <O:p</O:p
    <O:p</O:p
    18 มี.ค. 52<O:p</O:p
    ท่านพระพายทำตัวเป็นลูกข่างยักษ์สีดำ ขว้าง<O:p</O:p
    มาหลายลูก<O:p</O:p
    จะเกิดพายุ
    <O:p</O:p
    <O:p</O:p
    25 มี.ค. 52<O:p</O:p
    ศรคีรี ศรีประจวบ กลับมาร้องเพลงน้ำท่วมอีก<O:p</O:p
    ครั้ง<O:p</O:p
    จะเกิดน้ำท่วม<O:p</O:p
    <O:p</O:p<O:p</O:p<O:p</O:p<O:p</O:p<O:p</O:p<O:p</O:p
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 30 มีนาคม 2009
  14. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    พายุลูกเห็บถล่มหนองบัวลำภู โค่นไม้ใหญ่ทับสายไฟแรงสูง

    [​IMG]

    หนองบัวลำภู 30 มี.ค.- เมื่อเวลา 16.00 น. วันนี้ (30 มี.ค.) เกิดพายุฝนและลูกเห็บกระหน่ำอย่างรุนแรงในพื้นที่ อ.เมือง จ.หนองบัวลำภู นานกว่า 1 ชั่วโมง

    ทำให้ต้นยูคาลิปตัสริมทางหลวงสาย 228 หนองบัวลำภู-ศรีบุญเรือง ต.หนองบัว อ.เมือง หักโค่นถูกเสาไฟฟ้าแรงสูงและสายไฟฟ้าขาด นอกจากนี้ หลังคาของอู่ทำสีรถยนต์ ในพื้นที่หมู่ 7 ต.หนองบัว ถูกแรงลมยุบพังลงมา เคราะห์ดีไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่เทศบาลเมืองหนองบัวลำภู การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย อยู่ระหว่างการตรวจสอบความเสียหาย เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยในเบื้องต้น.-สำนักข่าวไทย

    2009-03-30 19:19:26

    เหมืองแร่ จ.เลย พบสารปนเปื้อน

    [​IMG]

    เลย 30 มี.ค. - เป็นเวลาถึง 4 ปีแล้ว ที่ชาวบ้านซึ่งอาศัยอยู่รอบเหมืองแร่ทองคำ อำเภอวังสะพุง จังหวัดเลย ใช้ชีวิตท่ามกลางความหวาดผวาจากสิ่งแวดล้อมที่เปลี่ยนไป

    ความกลัวเพิ่มเป็นทวีคูณ เมื่อมีการตรวจพบโลหะหนักตามแหล่งน้ำในหมู่บ้าน จนสาธารณสุขจังหวัดเลยต้องประกาศให้ประชาชนงดใช้น้ำจากแหล่งน้ำดังกล่าว.-สำนักข่าวไทย

    2009-03-30 19:19:41

    ผู้ว่าฯ สุราษฎร์ธานีสั่งสอบบุกรุกตัดถนน-ผุดรีสอร์ตบนเกาะเต่า

    [​IMG]

    สุราษฎร์ธานี 30 มี.ค.-นายประชา เตรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี เปิดเผยว่า จากการบินตรวจสอบพื้นที่เกาะเต่า ต.เกาะเต่า อ.เกาะพะงัน ตามข้อร้องเรียนเรียนมีนายทุนบุกรุกตัดถนนขึ้นเขาหาดทรายรี หมู่ 1 ต.เกาะเต่า เพื่อก่อสร้างโรงแรมที่พัก

    ซึ่งพบว่าเป็นการบุกเบิกตัดถนนสายใหม่ ใช้เครื่องจักรกลแผ้วถางตัดโค่นต้นไม้จำนวนมาก ครึ่งช่องจราจรลาดคอนกรีตอีกครึ่งยังเป็นดิน ระยะทางยาว 4 กม.ขึ้นไปบนยอดเขาและตัดอ้อมลงไปยังอ่าวกล้วยเถื่อน อีกฟากหนึ่งของภูเขา การตัดถนนดังกล่าวทำให้ป่าไม้ที่อยู่ 2 ข้างทางถนนถูกตัดโค่นอย่างมาก สร้างความเสียหายต่อพื้นที่ป่าต้นน้ำของเกาะ

    นายเฉลิมศักดิ์ ปาณศรี ธนารักษ์พื้นที่สุราษฎร์ธานี จึงตรวจสอบสัญญาเช่าที่ดินราชพัสดุของกรมธนารักษ์ทั้งหมดบนเกาะ หากแปลงใดอยู่ในพื้นที่ป่าต้นน้ำให้ยกเลิกสัญญา และตั้งกรรมการสอบสวนเจ้าหน้าที่ที่เอื้อประโยชน์ให้กับนายทุน เพราะบริเวณที่ถูกบุกรุกนั้นเป็นป่าต้นน้ำสมบูรณ์และเป็นแหล่งน้ำของเกาะ มีความลาดชันเกิน 35 องศา แต่กลับปล่อยให้ตัดถนนทำลายป่า ทั้งที่บนเขาเป็นดินทรายฝนตกลงมากัดเซาะดินทรายไหลลงมา.-สำนักข่าวไทย

    2009-03-30 19:16:48

    สงกรานต์ภูเก็ตกระตุ้นอนุรักษ์เต่าทะเลหาดไม้ขาว

    [​IMG]

    ภูเก็ต 30 มี.ค.- นายสราวุธ สีสาคูคาม นายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) ไม้ขาว อ.ถลาง จ.ภูเก็ต แถลงจัดงานประเพณี
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  15. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,681
    ค่าพลัง:
    +51,931


    *** แก้ไข เพื่อให้เข้าใจตรงกัน ****

    สิ่งที่เกิดขึ้นในชีวิตนี้ (หลังจากเกิดมาแล้ว) ...เป็นผลจากตัวกระทำในชาตินี้ ทั้งสิ้น
    ไม่ใช่ผลจาก การกระทำในชาติที่แล้วมา

    - " หนุมาน ผู้นำสาร "
     
  16. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,681
    ค่าพลัง:
    +51,931


    คุณเกษม ได้กล่าวไว้ไม่ผิด
    แต่ การสื่อสาร เป็นสิ่งสำคัญ...การจะทำให้เข้าใจตรงกัน เป็นสิ่งที่ยาก
    เหมือนเวลาเราเห็นภาพ พระยืนถือก้านไม้ไผ่ ยกอยู่เหนือหัวเด็กนั่งร้องไห้
    บางคนก็ว่า พระตีเด็ก
    บางคนก็ว่า พระฟาดเด็ก
    บางคนก็ว่า พระไล่เด็ก
    บางคนก็ว่า ตีไปแล้ว
    บางคนก็ว่า กำลังจะตี
    บางคนก็ว่า พระไม่ได้ตี คงไล่คนรังแกเด็กมากกว่า
    ความจริงมีหนึ่งเดียว แต่ความคิดเห็นมีได้มาก
    ภาพหนึ่ง แต่ใช้คำเรียกกันต่างๆนานาๆ เห็นต่างกันไป

    การสื่อความหมายที่แท้จริงในเรื่องสัจจะธรรม ตัวตนที่ไม่เห็นด้วยตา
    เป็นสิ่งยาก แต่ต้องพยายามทำ เพื่อให้สามารถเข้าใจได้ ในวันหนึ่ง
    ขอบคุณคุณเกษม ที่ช่วยคอยตักเตือน ป้องกันความผิดพลาดที่เกิดขึ้น

    - " หนุมาน ผู้นำสาร "
     
  17. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    ก็ยังเป็นความคิดเห็นที่ผิดอยู่ดีครับ

    ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ koh55559 [​IMG]

    ใครเคยโดนโกงบ้างครับ ตอนนี้ผมโดนโกงเงินล้านกว่า
    มันเป็นกรรมที่เกิดจากอะไรครับ..เพราะชาตินี้ผมไม่เคย
    โกงกินใครเลย หรือว่าเป็นกรรมชาติปางก่อน .....
    แล้วจิตใจผมมันว้าวุ่น นั่งสมาธิไม่ได้เลย...เพราะปกติ
    ผมจะเป็นคนชอบนั่งสมาธิ ทำบุญ ปล่อยนก ปล่อยปลา
    ก็เลยงง ว่าทำไมทำความดี แล้วเจอเรื่องแบบนี้......
    เรียนผู้รู้ช่วยตอบด้วยครับ...เผื่อจะช่วยผมให้กลับมา
    ปฏิบัติธรรมได้อีกครั้ง...เพราะตอนนี้เหนื่อยหน่าย
    กับชีวิตจริงๆ..

    ผมขออนุญาตคุณ koh55559 ที่จะยกตัวอย่างของคุณ มาโพสต์เรื่องกฏแห่งกรรม ให้ผู้อ่านท่านอื่นๆ ได้เข้าใจกันนะครับ

    การมีความคิดเห็นว่า;-

    สิ่งที่เกิดขึ้นในชีวิตนี้ (หลังจากเกิดมาแล้ว) ...เป็นผลจากตัวกระทำในชาตินี้ ทั้งสิ้นไม่ใช่ผลจาก การกระทำในชาติที่แล้วมา

    หรือเห็นว่า;-

    สิ่งที่เกิดขึ้นในชีวิตนี้ (หลังจากเกิดมาแล้ว) ...เป็นผลจากตัวกระทำในชาติที่แล้วมาทั้งสิ้น ไม่ใช่ผลจากการกระทำในชาตินี้

    ทั้งสองความคิดเห็นนี้ เป็นความเห็นที่ผิดไปจากคำสอนของพระพุทธเจ้าครับ แท้จริงแล้ว ทั้งกรรมในอดีตชาติและกรรมในปัจจุบันชาติ ล้วนส่งผลต่อชีวิตของคนเราในชาติปัจจุบันนี้ อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ครับ

    จากตัวอย่างของกรรมที่คุณ koh55559 ที่ได้ประสบพบเจอมานี้(อาจจะหนักกว่านี้ถ้าชาตินี้ไม่ได้ทำความดี) ก็จะเป็น อุทาหรณ์สอนใจ คนเราได้เป็นอย่างดีว่า ทั้งๆ ที่ชาตินี้ไม่เคยคดโกงใคร ตั้งใจทำความดีทุกอย่าง เป็นคนดี มีศีล มีสัจจะ ครบถ้วนบริบูรณ์ แต่เหตุไฉนจึงต้องประสบกับเคราะห์กรรรมอย่างนี้ได้

    ถ้าไม่ใช่เพราะกรรมในอดีตชาติส่งผลแล้ว จะเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ได้อย่างไร?

    การมีความเห็นที่สุดโต่งไปแต่เพียงด้านเดียว โดยไม่พิจารณาให้ถี่ถ้วน แล้วประกาศความเห็นของตนออกไป ทำให้ผู้อื่นเห็นผิดตามไปด้วย จะเป็นบาปกรรมอย่างมหันต์ เป็นการทำลายพระพุทธศาสนาโดยตรง

    ผมจึงขอย้ำจุดยืนเหมือนเดิมว่า ขอให้กลับไปอ่านพระไตรปิฏกให้ครบถ้วนเสียก่อน แล้วจึงค่อยประกาศความคิดความเชื่อของตัวเองออกไป เพราะพระพุทธเจ้าได้ทรงตรัส ปัจฉิมโอวาท เอาไว้ว่า

    "ดูก่อนอานนท์ ธรรมก็ดี วินัยก็ดี ที่เราได้แสดงไว้ และ บัญญัติไว้ด้วยดี นั่นแหละจักเป็นพระศาสดาของพวกท่าน สืบแทนเราตถาคต เมื่อเราล่วงไปแล้ว"

    "ภิกษุทั้งหลาย! บัดนี้เราขอเตือน พวกท่านให้รู้ว่า สิ่งทั้งหลายที่เกิดมาในโลกมีความเสื่อมสลายเป็นธรรมดา ท่านทั้งหลายจงทำหน้าที่อันเป็นประโยชน์แก่ตนและคนอื่น ให้สำเร็จบริบูรณ์ด้วยความไม่ประมาทเถิด"


    ******************************************
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 31 มีนาคม 2009
  18. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>นักขุดทองแห่งโลกยุคใหม่ (โปรดใช้วิจารณญาณ)</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ASTVผู้จัดการรายวัน</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>31 มีนาคม 2552 09:18 น.</TD></TR></TBODY></TABLE>
    [​IMG]

    ปรากฏการณ์ราคาทองคำพุ่งสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องเป็นประวัติการณ์มาตั้งแต่ต้นปี ชนิดที่เรียกได้ว่าฉุดไม่อยู่ และยังไม่รู้ว่าจะทะยานขึ้นไปหยุดอยู่ที่ราคาเท่าไหร่ ทำให้มีนักลงทุน และประชาชนทั่วไปแห่ซื้อขายทองเพื่อหวังเก็งกำไรกันเป็นจำนวนมาก ผู้รู้ด้านทองหลายคนให้ความเห็นว่า หลายสาเหตุปัจจัยที่เกิดขึ้นในปัจจุบันมีส่วนทำให้ราคาทองคำพุ่งสูงขึ้นได้ทั้งนั้น ไม่ว่าข้อเท็จจริงจะเป็นอย่างไร แต่เมื่อนานๆ จะมีโอกาส (ทอง) เกิดขึ้นมาในวิกฤตสักที หลายคนจึงไม่อยากปล่อยให้โอกาส 'ทอง' นี้หลุดลอยไป...

    รีบเกินไปหน่อย แต่ได้ห้าร้อยก็โอเค

    นิษารัตน์ ชูอมรทรัพย์ หญิงสาวอายุ 28 ปี เธอก็เป็นอีกคนหนึ่งที่มองเห็นโอกาสทองครั้งนี้...

    "ตอนซื้อทองคำแท่ง ตอนนั้นมันอยู่ที่บาทละ 14,000 ตอนนั้นถือว่าเป็นครั้งแรกที่มันลงจาก 15,400 กว่าบาท เราก็รู้สึกว่ามันถูกแล้วไง แต่จริงๆ ถัดไปอีกประมาณสองสามวันมันลงไปอีกประมาณ 13,950 แต่เราเข้าไปซื้อตอนที่ราคา 14,000 ก็ถือมาๆ แล้วมีช่วงหนึ่งมันก็ลงไปอีก แต่ว่าเราไม่ได้มีเงินไปซื้อเยอะๆ เป็นแสนๆ ขนาดนั้น ก็ถือๆ มา จนไม่กี่เดือนนี้เองที่เพิ่งขายไป เราขายไป 14,500 ได้กำไร 500 ทองทั้งหมด 5 บาท ก็ได้กำไร 2,500 บาท" นิษารัตน์ให้ความเห็นเพิ่มเติมว่า ที่สนใจทองคำเพราะคิดเป็นเปอร์เซ็นต์แล้วได้ดอกเบี้ยดีกว่าฝากเงิน...

    "ตอนนี้ทองแพงมาก ถ้าเราเก็บทองไว้มาขายตอนนี้จะดีมากเลย (หัวเราะ) แต่ตอนนั้นที่เราขายไปเราก็คิดว่ามันกำไรแล้วไง ตอนนั้นก็โง่ไปหน่อย รีบเกิน (หัวเราะ) มันขึ้นมาใหม่ๆ เราก็เห็นว่า เออ! ได้กำไรแล้ว ได้ห้าร้อยก็โอเคแล้ว ใช่ไหมล่ะ แต่จริงๆ ถ้าถือไว้มาจนถึงวันนี้เราจะได้เป็นพันเลย! แต่เราก็กลัวว่ามันจะขึ้นลงสวิงไปมา เราก็ไม่รู้ตลาดไง คือเราไม่รู้หรอก อยู่ๆ ทองมันก็ขึ้น มันเพิ่งมาขึ้นเมื่อช่วงต้นปีนี้ ที่มันขึ้นมาซะโอเวอร์เลย"

    นิษารัตน์บอกว่าที่ซื้อทองก็ไม่ได้หวังเก็งกำไรอะไรขนาดนั้น เพราะเธอรู้ว่ายังไงทองก็มีมูลค่า และด้วยเศรษฐกิจช่วงนั้นเธอคิดว่าไม่มีอะไรที่น่าเล่นเท่ากับทอง...

    "แล้วเราก็พอมีเงินเก็บ มีเงินเย็น เราก็มาซื้อทองเก็งกำไรดีกว่า ถ้าเอาเงินเย็นซื้อ คนที่เขามีตังค์จริงๆ เขาไม่ขายนะ อย่างคนที่เรารู้จักเขาก็ไม่ขาย เขาถือ เขารวยไง เขามีเงินเป็นหลักล้าน คือเขามองว่ายังไงมันก็ขึ้น พี่คิดดูสิ วันนี้ราคาทองขึ้นมาหมื่นห้าพันกว่าบาทไปแล้ว และเห็นเขาบอกว่ามันมีโอกาสที่จะขึ้นได้อีก แต่เราก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมทองมันถึงขึ้นอะไรขนาดนี้ ...คือเราทำงานดูพอร์ตคนรวย เราก็เลยรู้ว่า คนเรามีเงินหนึ่งร้อยบาท เราต้องกระจายการลงทุน เราไม่ควรใส่ตะกร้าไข่แค่ใบเดียว ถ้าเกิดไข่มันแตก ทั้งตะกร้ามันก็แตกหมดสิ เราควรจะฝากเงิน ซื้อประกัน ซื้อทอง เล่นกองทุน คือควรกระจายการลงทุน ได้มากได้น้อยอยู่ที่ความกล้าความเสี่ยงของเรา และทองก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่ง"

    นิษารัตน์ให้ความเห็นว่า ถ้าไม่มีเงินมากจริงๆ หรือถ้าไม่ได้มีเงินเย็นก็ไม่ควรจะไปซื้อไปเล่นทอง..."เพราะทองคำแท่งขั้นต่ำมันห้าบาท สมมติว่าเราร้อนเงินจริงๆ เราไปขาย ถ้าเกิดตอนนั้นทองตก เราก็ขาดทุน เราก็ควรจะมีเงิน แล้วรอจังหวะการซื้อขาย แต่การกู้เงินเพื่อไปเก็งกำไรเพื่อเอาไปเล่นทอง เราคิดว่ามันไม่คุ้ม"

    [​IMG]

    เงินเป็นปึกๆ

    พิชามญชุ์ กิ่งแก้ว หญิงสาวรุ่นราวคราวเดียวกับนิษารัตน์ เธอหัดเล่นทองมาตั้งแต่ปลายปี 49 เธอบอกว่าสนใจทองคำเพราะได้ดอกเบี้ยดีกว่าเงินฝาก แล้วก็เป็นสินทรัพย์ของตัวเอง สามารถเก็บระยะยาวได้ และสามารถเก็งกำไรได้ด้วย พิชามญชุ์ซื้อทองก้อนแรกเพื่อเก็บเอาไว้ลงทุนระยะยาว หลังจากนั้นเธอเก็บเงินซื้อทองก้อนที่สองเพื่อเก็งกำไรอย่างเดียว

    "แต่เราก็ต้องดูราคาทองด้วยนะ ถ้ามันต่ำพอที่เราสามารถซื้อได้ แบบพอใจที่จะซื้อตุน เราก็ดูแนวโน้มทอง แล้วก็ซื้อ แล้วรอระยะเวลาสมควรขายทอง และคิดว่าเราอยากได้กำไรที่เท่าไหร่ ก็ขายไป... ก้อนที่สองที่ซื้อมาเราขายไปแล้ว เราขายไปได้ประมาณสองรอบแล้ว กำไรอยู่ที่ประมาณสิบกว่าเปอร์เซ็นต์ คิดเป็นเงินก็เป็นหมื่นเลยนะ ก็ไม่ได้ซื้อเยอะ แต่ที่ได้เยอะก็เพราะทองมันขึ้นเยอะไง ตอนนี้ก็รอจังหวะซื้ออยู่ ก้อนนี้เราหมุนทำกำไรประมาณสองรอบแล้ว ขายก็เลยได้เป็นหมื่น ช่วงนี้ก็เลยรอทองอย่างเดียว" (หัวเราะ)

    เราถามพิชามญชุ์ว่าซื้อทองตอนนี้เสี่ยงไหม เธอบอกว่าก็เสี่ยง... "แต่ว่าก็คงดีกว่าเงินฝากประจำที่ตอนนี้ได้ดอกเบี้ยแค่บาทกว่าๆ ตอนนี้ปีหนึ่งมันสองบาท แต่ทองปีหนึ่งได้ดอกเบี้ยมากกว่าสองบาท แล้วไม่ต้องมาหักภาษี ณ ที่จ่าย แล้วมันก็ซื้อขายคล่อง ถ้าเราร้อนเงินเมื่อไหร่ก็ขายได้ เพียงแต่ว่าวันที่เราขายราคาทองมันจะต่ำกว่าวันที่เราซื้อไว้วันแรกหรือเปล่า เรามองว่าภายในระยะสามเดือนหกเดือนนี้ทองน่าจะขึ้นอีก ตอนนี้ก็กำลังดูกราฟอยู่ ทองมันอยู่ที่ประมาณ 924 เหรียญฯ มันก็ค่อนข้างที่จะต่ำแล้วไง คิดว่าสมควรที่จะซื้อแล้วล่ะ" (หัวเราะ)

    เราถามพิชามญชุ์อีกว่า ถ้าตัดสินใจซื้อทองเก็งไว้ในวันนี้ แล้วถ้าเกิดพรุ่งนี้ทองลดฮวบฮาบลงมาล่ะ เธอจะทำอย่างไร... "ก็แห้วไงคะ... เศร้าใจไปนิดนึง" เธอตอบเร็ว "แต่ก็ไม่เป็นไร มันมีขึ้นมีลง เราเก็บไว้นานๆ ก็ได้ไม่เห็นเป็นไร เพราะว่าเงินเราก็ไม่ค่อยได้ใช้ทำอะไร มันเป็นเงินเย็นมากกว่า เพราะว่าเราก็กันส่วนหนึ่งไว้ยามฉุกเฉิน ส่วนหนึ่งจะเป็นเงินเก็บมากกว่า"

    พิชามญชุ์เดินทางมาทำธุรกรรมซื้อ-ขายทองที่ร้านทองแถวเยาวราชอยู่เป็นประจำ เธอเล่าให้ฟังว่า ช่วงที่ผ่านมาเธอเห็นบางคนซื้อทองเยอะมาก ซื้อเป็นร้อยสองร้อยบาทก็มี หลายคนถึงกับแบกกระเป๋าเดินทางมากันเลย

    "เขาลากกระเป๋าเดินทางมากันเลยนะ ทองก็อยู่ในกระเป๋านั่นแหละ แบบว่าเอามาขายกัน บางคนพกเงินมาอย่างดี หนีบกระเป๋าเข้ามาเลย แบบว่าควักเงินออกมาให้เห็นกันเป็นปึกๆ เพราะว่าถ้าไปจ่ายเป็นบัตรเครดิตเคยได้ยินว่าเขาจะชาร์จ เขาเลยไม่ค่อยจ่ายเป็นบัตรเครดิตกัน ก็เลยต้องพกเงินมาเป็นปึกๆ มาเป็นฟ่อนกันแบบนั้น แล้วอีกอย่างในช่วงนี้ (ทองขึ้นราคา) บรรดาอาป่งอาแปะอาม่งอาม่าตื่นเช้ามาจะพากันเดินมาดูราคาทองกัน พอราคาทองขึ้นหน่อยก็เอาทองออกมาขาย ลงหน่อยก็มาซื้อ อยู่อย่างนี้ หมุนไปหมุนมา ได้กำไรวันหนึ่งก็สองสามร้อย พันหนึ่งสองพัน อะไรอย่างนี้ก็มีเหมือนกัน ขึ้นนิดหน่อย ลงนิดหน่อย ก็มาซื้อมาขายกันแล้ว พวกอาแปะอาม่าจะไปดูราคาที่ร้านทอง ส่วนพวกหนุ่มสาววัยทำงานก็จะดูในเว็บกัน" พิชามญชุ์รายงานบรรยากาศการซื้อขายทองคำแถวเยาวราชให้เราฟัง

    [​IMG]

    ถ้าไม่โลภ ก็รีบขาย

    ส่วน วิไลลักษณ์ จันทร์ษรีหิรัณย์ เธอคนนี้เกิดและโตมาในร้านทอง แต่เธอบอกว่าเพิ่งจะมีทุนเล่นทองคำได้ประมาณสองปีนี่เอง...

    "ล่าสุดเราซื้อเป็นล็อตๆ ซื้อตอนที่ราคาหมื่นสามพันกว่าก็มี แล้วก็ซื้อมาเรื่อยๆ แล้วก็เอาต้นทุนมาเฉลี่ยกัน สมมติว่าทอง 12,500 เราก็ซื้อหนักหน่อย เพื่อเฉลี่ยให้ต้นทุนของอันเก่าที่มันสูงให้มันต่ำลง แล้วพอมันขึ้นมาสูงในระดับที่เราพอใจ เราไม่โลภแล้ว เราก็รีบขาย เคยทำขนาดว่าหมุนทองหลายๆ รอบ สมมติว่าเงินเรามีจำกัดอยู่สักประมาณสองล้าน เราอาจจะซื้อได้ประมาณสองร้อยบาท แล้วเราอยากจะได้กำไรมากกว่านั้น แต่ว่าราคาทองมันถูกมาก แล้วมันจะมีแนวโน้มขึ้นแน่นอน ก็ต้องใช้วิธีหาเงินระยะสั้นเพื่อจะเอาทองที่มีอยู่ไปจำนำเวียน ก็ยอมเสียดอกเบี้ยให้โรงจำนำไป เอาเงินมาซื้อใหม่ เวียนไปอย่างนี้ มันอาจจะได้อีกสองสามเท่าตัวเลย แล้วพอราคาทองขึ้นเราก็เวียนขายต่อๆ เป็นล็อตๆ ไป กำไรก็จะมากขึ้นหลายเท่าตัว แต่ว่าเราก็ต้องยอมเสียดอกเบี้ยให้กับโรงรับจำนำ มีคนทำอย่างนี้กันเยอะ อย่างเราไปโรงรับจำนำซะจนเขาจำหน้าได้แล้ว เขายังแซวเราว่าหาเงินง่ายดีนะ (หัวเราะ) แต่โรงรับจำนำเขาก็ได้กำไร เขาพอใจนะ แต่ว่าเราก็เสี่ยง"

    เสี่ยง... วิไลลักษณ์บอกว่าถ้าใครกู้เงินมาเก็งกำไรทอง ถือว่าเสี่ยงมาก เพราะอย่างที่เธอเอาทองของตัวเองไปจำนำก็ถือว่าเสี่ยงเหมือนกัน เธอแนะนำว่าต้องดูว่าต้นทุนของเราต่ำจริงๆ อย่างนั้นถึงจะน่าเล่น แต่ถ้าเกิดว่ายิ่งความรู้เรื่องทองน้อย เห็นคนอื่นเล่นก็เล่นตามเขา โดยไม่ได้ศึกษาให้ดี อย่างนี้เธอบอกว่าแย่แน่ๆ

    "เราว่าถ้าต้องกู้เงินมา อย่าเล่นเลย และยิ่งความรู้ทางด้านทองก็ไม่แน่นพอ ไม่ได้ศึกษาแนวโน้มในอดีตมาว่าเป็นยังไง อย่าเล่น เพราะว่าบางทีถ้ามันลงเราก็ขาดทุนอยู่แล้ว แล้วเราจะต้องไปขาดทุนกับดอกเบี้ยอีก อย่างทองตอนนี้ราคามันก็ไม่ค่อยกล้าเล่น เพราะถ้าเล่นไป กำไรตอนนี้มันคงได้ไม่เยอะ แต่โอกาสขาดทุนก็สูสีกัน ตอนนี้ถ้ามีเงินเย็น เล่นได้ แต่ถ้ากู้มาโอกาสกำไรมันได้ไม่เยอะ และถ้ากู้นอกระบบนี่ยิ่งไม่ต้องเล่นเลย ...แล้วเหตุผลที่เราไม่ซื้อทองในช่วงนี้ก็เพราะกลัวว่าพวกกองทุนต่างชาติเขาเทขาย แต่พูดถึงถ้าทองลดลงมาสักหมื่นสี่มันก็น่าซื้อ แต่ไม่ต้องมาก อย่างที่ทองขึ้นใหม่ๆ ที่ได้กำไรช่วงแรกๆ เราก็ซื้อ แต่ก็ขายหมดแล้ว เราขายตั้งแต่มันยังไม่ถึงหมื่นหกเลย หมื่นห้ากว่าก็ดีใจแล้ว ก็รีบขายเลย แต่ช่วงนี้เราขอพักก่อน..." วิไลลักษณ์บอก

    [​IMG]

    ทำไมทองขึ้น

    "ทำไมทองถึงขึ้นขนาดนี้" เราถาม ธงชัย องค์ศรีตระกูล พนักงานขาย/ลูกชายเจ้าของห้างทองเทพนม ย่านบางลำพู ธงชัยบอกว่า "ตอนนี้ถามไปก็ไม่มีใครตอบได้ ผมพูดจริงๆ เพราะทุกอย่างเป็นปัจจัยทำให้ทองขึ้นทองลงได้หมด มันเป็นทุกปัจจัยแล้ว เพียงแต่เราจะให้น้ำหนักตรงส่วนไหน วันนี้ตลาดนิวยอร์กเขาพูดเรื่องนี้ บางครั้งเขาพูดเรื่องดอกเบี้ย บางครั้งเขาพูดเรื่องน้ำมัน บางครั้งเขาก็พูดเรื่องตลาดหุ้น มันก็เป็นปัจจัยทุกอย่างที่สามารถทำให้ทองขึ้นลงได้ มันไม่เหมือนสมัยก่อน, สมัยก่อนบอกว่าน้ำมันแพง ทองขึ้น เพราะว่าอาหรับซื้อทอง สมัยก่อนเกิดสงครามทองขึ้น เพราะคนแห่ซื้อทองตุนเก็บไว้ แต่ตอนนี้มันไม่ใช่แล้ว สมัยก่อนเศรษฐกิจไม่ดี ทองลง วันนี้เศรษฐกิจไม่ดี ทองขึ้น แล้วมันจะใช้ตรรกะตรงไหนมาคิดล่ะ ใช่ไหม, เพราะฉะนั้นมันไม่มีตรรกะแล้วตอนนี้ ไม่มีเงื่อนไข ไม่มีประเด็น เพราะทุกอย่างเป็นประเด็นของราคาทองได้หมดแล้ว ถ้าเกิดคุณไปคิดทุกวันว่าวันนี้ทองขึ้นเพราะอะไร วันนี้ทองลงเพราะอะไร ตรงนี้ผมเลิกคิดไปนานแล้ว"

    ธงชัยบอกว่าที่ผ่านมาเมืองไทยรอดมาหลายครั้งก็เพราะทองคำ ตอนลอยค่าเงินบาท ลูกค้าของเขาซื้อทองสะสมไว้ตั้งแต่ 4,800 พอลอยค่าเงินบาททองขึ้นเป็น 7,500 ลูกค้าได้ทันที 2,900 บาทต่อบาท หักโน่นหักนี่ไป ได้กำไรบาทละ 2,000 และยังสามารถเอาส่วนนี้ไปเสริมสภาพคล่องได้ เพราะตอนนั้นสภาพคล่องเมืองไทยฝืดมาก

    "คุณจำดอกเบี้ยตอนนั้นได้ไหม ดอกเบี้ย 20 เปอร์เซ็นต์ เงินบาทอ่อนค่าลงไปถึง 50 กว่าบาทต่อดอลลาร์ นั่นแหละทองช่วยไว้ ผมว่าสหรัฐฯ รอบนี้ใช้โมเดลเดียวกับคนไทยเรานี่แหละ หลวงตามหาบัว, หลวงตาเราเก่งมาก หลวงตาตั้งกองทุนกู้ชาติซื้อทองเข้าคงคลัง หลวงตารู้ได้ยังไงว่าทองจะขึ้น แต่สหรัฐฯ เขารู้ว่าเขาซื้อปุ๊บ ทองจะขึ้น นิสัยของสหรัฐฯ คือ เขาคิดทุกอย่างเป็นเกม เพราะฉะนั้นเขาต้องเล่มเกมที่เขาชนะ เขาซื้อทองเขาต้องมั่นใจว่าซื้อแล้วขึ้น แล้วเขาชนะ แต่หลวงตาเราไม่ใช่ พอหลวงตาเอาทองคงคลังเข้าไปเก็บปุ๊บ ถ้าเกิดไม่มีทองก้อนนี้ ตอนนี้ทางธนาคารแห่งประเทศไทยอาจจะขาดทุนก็ได้ เมื่อเร็วๆ นี้ธนาคารแห่งประเทศไทยบอกว่ากำไรราคาทอง ทำให้บัญชีของธนาคารแห่งประเทศไทยยังไม่ขาดทุน หลวงตาท่านเป็นอริยสงฆ์จริงๆ"

    ธงชัยเล่าว่าตอนนั้นขนาดบรรดาร้านทองยังงง ทองก็มีราคาอยู่ตลอด หลวงตาเอาทองไปบริจาคทำไม จะกินก็ไม่มีอยู่แล้ว ยังให้เอาทองไปบริจาคอีก... "แต่พอย้อนคิดย้อนกลับมาปุ๊บโอ้โห! ทำให้ทรัพย์สินเมืองไทยเรามีมูลค่าสูงขึ้นทันที ก็ขอขอบคุณหลวงตาที่ช่วยเมืองไทยเอาไว้ นี่คือส่วนที่ช่วยได้เยอะ ที่เห็นเป็นรูปธรรม แล้วสหรัฐฯก็เอามาเล่นเหมือนกับเรา"

    [​IMG]

    สักวันทองจะตอบสนองคุณเอง

    ธงชัยให้ความเห็นว่า สมัยคุณปู่คุณย่าคุณน้าคุณอาเราซื้อทองเพื่อประกันความเสี่ยง เพื่อตัดใจตัวเองว่าจะไม่ใช้จ่ายฟุ่มเฟือย เพื่อเป็นการเก็บออม ทองเป็นตัวแรกที่ซื้อมาปุ๊บแล้วเก็บ, เก็บแล้วลืม เพราะฉะนั้นทองก็คือเครื่องประกันความเสี่ยง คือการเก็บออม แต่พอมีเรื่องราคาขึ้นมา คนไทยเริ่มรู้ว่าทองสูงทองขึ้น ทำให้จากการเก็บออมกลายมาเป็นเก็งกำไร ธงชัยบอกว่านิสัยคนไทยอยากเก่งอยู่แล้ว

    "ตรงนี้ต้องลดนะ เพราะจริงๆ แล้วมันจะขาดระเบียบทันทีเลย เพราะถ้าเกิดเราเป็นผู้บริโภคทองที่ดี คือเป็นผู้เก็บทองเป็นการออมที่ดี เราต้องดูสภาพคล่องตัวเราเอง ถ้าเรามีเงินสดเหลือพอ อย่างเรามีเงินเดือน 15,000 บาท ใช้จ่าย 10,000 บาท อีก 5,000 เราอาจซื้อทองสักสลึงหนึ่ง อีก 4,000 เก็บเอาไว้ หรืออาจฝากประจำก็ได้ ถ้าเราทำอย่างนี้เรื่อยๆ น่าจะเป็นเรื่องที่ถูกต้องกว่า, ถูกต้องกว่าที่เราจะเอาเงินไปซื้อหมดเลย แล้วบางครั้งพอเห็นคนอื่นเขากำไรเยอะๆ ก็อยากได้เยอะ ก็ไปกู้มาเล่น ก็เลยกลายเป็นการพนันอีกแบบหนึ่งแล้ว

    "เราฝึกวินัยในการเก็บออมดีกว่า ถ้าเราซื้อทองเก็บเงินได้ แล้วเราเป็นคนที่ไม่กู้เงินใคร แล้วสักวันทองมันก็จะตอบสนองคุณเอง ผมว่ามันดีกว่าการทำประกันชีวิตอีก จะเปิดธุรกิจ อยู่ๆ ส้มหล่น ดวงดี ซื้อที่ทำเลดี พอจะไปทำธุรกิจ ถ้าคุณมีประกันชีวิต กับคุณมีทองอยู่ อะไรช่วยคุณได้มากกว่ากัน ทองใช่ไหม ถ้าคุณเก็บทองเฉลี่ย กว่ากรมธรรม์จะเลิกส่งได้ เจ็ดปีคุณยังเอาเงินคืนไม่ได้ แต่ถ้าคุณเก็บทองเดือนละสลึง เจ็ดปี คุณขายทองก้อนนั้นแล้วไปเปิดธุรกิจได้ทันที มันเหมือนกับเป็นอะไรที่อยู่ในชีวิตคนไทยตลอดเวลา เพียงแต่ว่าตอนนี้มันเป็นเรื่องที่ไม่ปกติ เพราะว่าราคามันขึ้นสูงเสียจนล่อใจคนไทยทำให้ระบบการออมคนไทยเปลี่ยนไป แล้วทำให้คนเจเนอเรชันต่อไปมองทองเป็นเรื่องของการเก็งกำไร ไม่ใช่การออม"

    ธงชัยให้ความเห็นว่า ถ้าอยากให้ประเทศชาติมั่นคง ต้องดึงความคิดคนไทยกลับคืนมา แล้วสอนเจเนอเรชันต่อไปว่า ทองคือการออม คนที่ออมทองไม่กู้เงินใคร แล้วต่อไปจะมั่นคงเอง

    "ต้องปลูกฝังกันอย่างนี้ เอาสภาพคล่องของเรามาซื้อ อย่าไปดูถูกว่าซื้อครึ่งสลึง อย่าไปดูถูกว่าซื้อสองสลึง ซื้อไปเถอะ แล้วสักวันหนึ่ง สิ่งเหล่านี้มันจะมาทดแทนคุณเอง ...คุณพ่อผมนี่เก่งที่สุดแล้ว เรื่องราคาทองอะไรพวกนี้ แต่ท่านจะสอนเราอยู่ตลอดว่า อยู่ใกล้ทองอย่าเล่นทอง มันไม่ใช่เรื่องถูกต้อง มันเป็นการพนัน เพราะมันได้พิสูจน์ในเจเนอเรชันหนึ่งแล้ว, ตอนที่คุณพ่อผมขายทอง เล่นทองครั้งสุดท้าย คือท่านไปซื้อทองแท่ง เพื่อรอตกลงจะซื้อบ้านมาทำการค้า รอบนั้นท่านขายขาดทุน เพราะในจังหวะที่รอ แทนที่ทองจะขึ้นมากำไร ก็กลายเป็นขาดทุน แต่ขาดทุนรอบนั้น ท่านก็ยังตัดสินใจขาดทุนแล้วมาซื้อบ้าน เพื่อมาทำการค้า แล้วมันก็อยู่ได้ ในที่สุดแล้วก็คือบทพิสูจน์ว่า รู้อะไรจริง ทำตรงนั้นให้ดี อย่าไปเปรียบเทียบกับคนอื่น มีสติ ทำธุรกิจของตัวเองให้ดีที่สุดครับ!"

    ไม่ว่าจะซื้อทองเพื่อเก็งกำไร หรือซื้อเก็บไว้ใช้ในยามจำเป็น อย่างไรก็ต้องคิดให้ดี มีข้อมูล และใช้วิจารณญาณในการตัดสินใจ

    ***********************************************************

    เรื่อง : สุรชัย พิงชัยภูมิ

    ที่มา http://www.manager.co.th/Daily/ViewNews.aspx?NewsID=9520000036145
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 31 มีนาคม 2009
  19. Tossaporn K.

    Tossaporn K. เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    1,565
    ค่าพลัง:
    +7,747
    สิ่งที่เกิดขึ้นในชีวิตนี้ (หลังจากเกิดมาแล้ว) ...เป็นผลจากตัวกระทำในชาตินี้ ทั้งสิ้น
    ไม่ใช่ผลจาก การกระทำในชาติที่แล้วมา

    - " หนุมาน ผู้นำสาร "

    ผมเห็นว่าผิดจากคำสอนของพระพุทธองค์ชัดเจน ระวังมารในคราบนักบุญด้วย<!-- / message -->
     
  20. โนอาร์

    โนอาร์ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    86
    ค่าพลัง:
    +82
    เห็นด้วยครับ ผมเชื่อว่าผลกรรมที่ทำไว้ในทุกชาติ มีผลติดตามไปทุกๆชาติ ไม่ว่าผลกรรมดี กรรมชั่ว ท่านจะเชื่อหรือไม่ เป็นสิทธิของท่าน
     

แชร์หน้านี้

Loading...