ปรึกษาปัญหาสารพัดโรค ด้วยหลักการแพทย์แผนไทย / วิธีฝึกและใช้พลัง(ปราณยาม)ในการรักษาโรค

ในห้อง 'จิตวิทยา & สุขภาพ' ตั้งกระทู้โดย suwi, 25 มกราคม 2008.

  1. datanoi

    datanoi สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    13
    ค่าพลัง:
    +7
    เรียนถามอีกเรื่องค่ะ
    มีสมุนไพรทำให้ผมดกดำไหมคะ ผมบางมากเลยค่ะ
     
  2. suwi

    suwi เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    2,652
    ค่าพลัง:
    +18,543
    ยาแก้ปวดเข่า ได้เขียนไว้แล้วหลายครั้ง
    จึงขอยกมาไว้ให้ศึกษา อีกครั้ง

    อ้างอิง:
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: 1px inset; BORDER-TOP: 1px inset; BORDER-LEFT: 1px inset; BORDER-BOTTOM: 1px inset">ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ sat103 [​IMG]
    อ.ยาที่ซื้อไปใช้ได้ดีหายมากแล้ว แต่ยากระชายทองหมดแล้วครับ อยากถามให้แฟนที่้บ้าน ปวดเข่าเดินมากๆบวมที่ข้อเข่าและข้อเท้าไปหาหมอให้ลดน้ำหนักให้ยามาทาน อยากให้ อ.ช่วยจัดยาแก้ให้ด้วยครับ

    </TD></TR></TBODY></TABLE>
    ปกติการปวดเข่าจะเป็นอาการที่เกี่ยวเนื่องมาจากข้อสะโพกเคลื่อน(เล็กน้อย)
    จะเริ่มจากปวด เคล็ดที่สะโพกก่อน พอข้อสะโพกค่อยยังชั่ว ก็จะเริ่มปวดเข่า
    พอปวดเข่าแล้วก็จะเริ่มปวดข้อเท้า ช่วงนี้สะโพกจะหายปวดหรือมีการน้อยมาก
    การรักษาต้องทำเป็นขบวนการตั้งแต่ข้อสะโพก ข้อเข่า และข้อเท้า จึงจะหายขาด (ใช้การจัดความสมดุลย์ กล้ามเนื้อ เส้นเอ็น และกระดูก)

    ยาที่จะใช้ในการบันเทาอาการอาการปวดเข่าได้เคยเขียนไว้แล้ว

    อ้างอิง:
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: 1px inset; BORDER-TOP: 1px inset; BORDER-LEFT: 1px inset; BORDER-BOTTOM: 1px inset">ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ suwi [​IMG]
    จากประสพการณ์
    อาการปวดเข่าจะเกิดขึ้นสองกรณี
    ๑. เกิดจากสภาพ พยาธิของตัวเข่าเอง เช่นเป็นเก้าส์
    ๒. เกิดจากการบิดตัวของกล้ามเนื้อ เส้นเอ็น ที่รัดข้อเข่าอยู่ สาเหตุมาจากการเคลือนของกระดูกข้อสะโพก
    แม้แต่เพียงเพียงเล็กน้อย ก็จะทำให้กล้ามเนื้อที่รั้งลงมาถึงเข่าบิดตัวได้
    และเมื่อมีการเดิน มีการแบกน้ำหนักบ่อยๆ ก็จะทำให้ข้อเข่าปวดได้ และท้ายสุดข้อเข่าจะเอียง (เกิดเข่าโค้ง หรือแปออก แล้วแต่การเคลื่อยของกระตูกข้อสะโพก)

    การรักษาในข้อที่๑ ให้ทำยากินดังนี้
    ๑. หญ้าหนวดแมว ๑ หยิบมือ
    ๒. ชาจีนอย่างดี ๑ หยิบมือ
    ๓. มะละกอดิบ(แบบที่ทำส้มตำ) ๑ ลูก
    วิธีทำกิน
    ๑. นำสมุนไพรในข้อ ๑-๒ มาลวกน้ำร้อนแล้วพักไว้
    ๒. นำมะละกอดิบล้างให้สะอาด แล้วฝานเป็นชิ้นเล็กๆ(ทั้งเปลือก) เขี่ยเอาเม็ดออก ใส้ขาวที่อยู่กลางลูกให้เก็บไว้
    นำมาต้มในหม้อเคลือบ (หรือหม้อสะเตนเลส) ใส่น้ำท่วมมะละกอ
    พอมะละกอสุก กรองเอาแต่น้ำ ใส่ตู้เย็นเก็บไว้
    เวลากิน อุ่นน้ำมะละกอให้เดือด นำมาชง หญ้าหนวดแมว+ใบชาที่เตรียมไว้
    แช่ทิ้งไว้สักพัก ดื่มวันละ ๒-๔ ครั้ง
    แก้อาการปวดามข้อได้ดี
    เคยใช้กับพวกปวดข้อ แบบเป็นเก้าส์ หรือข้อบวมแดง ได้ผลดี
    ยังไม่เคยลองกับโรคที่เรียกว่าตะมอย (โรคปวดข้ออีกแบบ ทำให้ข้อคดแก ผิดรูป) ว่าได้ผลหรือไม่


    ส่วนอาการที่เกิดจากการบิดตัวของกล้ามเนื้อและเส็นเอ็น ให้ใช้วิธีนวดจัดกระดูก

    </TD></TR></TBODY></TABLE>

    <!-- / message -->
     
  3. suwi

    suwi เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    2,652
    ค่าพลัง:
    +18,543
    ฮ้าๆๆๆๆๆๆ....ถามได้เยี่ยม

    ยาที่สามารถรักษาได้ขาด และไม่เป็นอีกเลยนะ มีก๊าบบบบบ
    มีอยู่หลายชนิดล่วยนาคัก ทุกซานิด มีหัวกะโล่กข้วาย ติดอยู่ทุขวก
    กิงแล้วหายจากโลกเลย หายทังที แล้วไม่เป่งอีกเลย นาคัก


    เอ้อ...
    โรคทุกชนิดมีเป็นมีหาย เป็นปกติ ภูมิต้านทานดี ไม่สร้างอริยาบถก่อโรค
    โรคก็ทุเลา เป็นน้อย
    หากรักษาตนไม่ดีทำให้ ปิตะ วาตะ และเสหะ เกิดอาการ หย่อน กำเริบ พิการ หรือมีอริยาบถผิด กระทบลงบนมหาภูติรูปสี่ คือ ดิน น้ำ ลม ไฟ
    เมื่อนั้นกายก็จะป่วย
    ยาที่ใช้ ก็จะปรับให้ตรีธาตุสมดุล รักษาได้เป็นครั้งคราว
    หากเกิดการไม่สมดุลย์ขึ้นอีก อาการป่วยก็เป็นอีก
    เป็นปกติแห่งโลก
     
  4. suwi

    suwi เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    2,652
    ค่าพลัง:
    +18,543
    ตรีผลา+น้ำผึ้งเป็นกระสายยา
    จะทำให้ผมดกดำ มีสายตาดีขึ้น
    ปัจจุบัน สุวิ ได้นำตรีผลามาประกอบตัวยาเพิ่มอีก ได้ยามา ๒ ตัวคือ

    ๑.ยาผลาธิก ใช้เป็นยาปรับตรีธาตุ เพิ่มการเผาผลาญพลังงานในกาย(ลดโคเลสเตอลอน) ทำให้ผิวตึงเต่ง ผมดกดำ สายตาดีขึ้น

    ๒.ยาอายุวัฒนะ ผลาธิกคุณ ใช้ปรับตรีธาตุ เพิ่มการเผาผลาญพลังงานในกาย(ลดโคเลสเตอลอน) ทำให้ผิวตึงเต่ง ผมดกดำ สายตาดีขึ้น บำรุงอวัยวะภายใน ตับ ปอด ม้าม ไต หัวใจ กระเพาะ ให้ฟื้นคืนและทำงานดีขึ้น
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 7 เมษายน 2009
  5. suwi

    suwi เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    2,652
    ค่าพลัง:
    +18,543
    น่าแปลกใจอยู่เรื่องหนึ่ง
    ผู้ป่วยที่มาปรึกษา หรือให้หมอสุวิรักษา จะมากันเป็นชุดๆ

    ในช่วงเวลาทั้งอาทิตย์ บางครั้งเป็นเดือน ก็มีแต่โรคในลักษณะแบบเดียวกันตลอด เช่น

    บางช่วงจังหวะ มีแต่ผู้ป่วย เป็นโรคข้อ เข่า ข้อเท้า ข้อสะโพก ซึงเป็นโรคที่เกี่ยวเนื่องกัน และในช่วนนั้นมีแต่โรคนี้โรคเดียว
    บางจังหวะ มีแต่ผู้เป็นโรคกรดไหลย้อน / โรคลมดันหัวใจ
    บางจังหวะมีแต่พวกโรควูป วิงเวียน
    บางจังหวะมีแต่โรค เกี่ยวกับการเผาผลาญพลังงานบกพร่อง

    ในช่วงนี้ มีพวกเกี่ยวกับการเผาผลาญพลังงานบกพร่อง เข้ามามาก
    มีอาการ อ้วนเกิน ความดันสูง เสียงจิ้ดๆในหู อ่อนเพลีย ฯ
    และที่ติดปลายนวมเข้ามาคือพวกอยากลดความอ้วน ถามเข้ามามาก
    จึงขอตอบ และอธิบายในส่วนลึกดังนี้
     
  6. Joypor

    Joypor เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    117
    ค่าพลัง:
    +1,024
    ขอบคุณอาจารย์มากคะ จะลองให้อาสะใภ้ลองทานดูคะ
     
  7. suwi

    suwi เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    2,652
    ค่าพลัง:
    +18,543
    ในช่วงนี้ มีพวกเกี่ยวกับการเผาผลาญพลังงานบกพร่อง เข้ามามาก
    มีอาการ อ้วนเกิน ความดันสูง เสียงจิ้ดๆในหู อ่อนเพลีย ฯ
    และที่ติดปลายนวมเข้ามาคือพวกอยากลดความอ้วน ถามเข้ามามาก
    จึงขอตอบ และอธิบายในส่วนลึกดังนี้

    ปกติยาที่สุวิออกแบบไว้ จะมีจุดประสงค์เพื่อการรักษาโรคเป็นหลัก
    ยาชุดนี้ ออกแบบเพื่อ ให้เลือดไปหล่อเลี้ยงอวัยวะส่วนปลายให้ดีขึ้น
    ทำให้สุขภาพโดยรวมดีขึ้น ผลพลอยได้คือการลดความอ้วน

    ยาที่ใช้ มีดังนี้

    ๑. ผลาธิกะ วันละ ๒ ครั้งๆละ ๑-๒ เม็ด เช้า-เย็น (พวกที่ ปิตะกำเริบ มีความดันสูง ให้กิน ๒ เม็ด)
    ๒. กระชายทอง วันละ ๒-๓ ครั้ง ครั้งละ ๒-๓ เม็ด เช้า กลางวัน เย็น
    ๓. ยาปลูกเตโช วันละ ๑-๒ ครั้ง ครั้งละ ๑-๒ เม็ด เช้า - ก่อนนอน (ใช้ในพวกปิตะหย่อน-พิการ)

    ในแต่ละคน ปริมาณการกินยา จะแตกต่างกัน ซึ่งขึ้นอยู่กับสภาพร่างกายแต่ละคน

    ยากระชายทอง จะขยาย/ซ่อมบำรุง ปลายเส้นเลือดฝอยที่อวัยวะส่วนปลายให้กลับคืนดีขึ้น
    อวัยวะส่วนปลาย หมายถึง ปลานมือ ปลายเท้า ปลายอวัยวะเพศ ไต ตับ ม้าม สมอง และทุกอวัยวะที่เส้นเลือดฝอยไปถึง
    เมื่อเลือดไปเลี้ยงดีขึ้น อวัยวะนั้นๆก็จะกลับฟื้นคืนสภาพ

    ยาผลาธิกะ จะเพิ่มการเผาผลาญพลังงานเพิ่มขึ้น นั่นคือ ไขมันส่วนเกินจะถูกเผาผลาญมากขึ้น
    เส้นโลหิตฝอยไปถึงใหน ความตีบตันอันเกิดจากไขมันส่วนเกินที่ฝังอยู่ลึกๆ ตามกล้ามเนื้อและอวัยวะส่วนปลายต่างๆก็จะถูกกำจัดออก
    เลือดก็จะไปเลี้ยงอวัยวะต่างๆได้ดีขึ้นอวัยวะนั้นๆก็จะกลับฟื้นคืนสภาพได้เร็วขึ้น

    ยาปลูกเตโช ก็จะเป็นตัวช่วยเร่ง การเผาผลาญให้มากขึ้น

    โดยสภาพรวม ร่างกายก็จะมีสุขภาพดีขึ้น
    ผลพลอยได้ที่ตามมาคือ ไขมันจะลดลง ห่นจะเพียวขึ้นเป็นผลพลอยได้

    แต่ในบางท่าน การเผาผลาญพลังงานที่มากขึ้น จะทำให้รู้สึกหิว เจริญอาหารมากขึ้น
    ทั้งๆที่ พลังงานที่เผาผลาญมากขึ้น ก็เกินพอเลี้ยร่างกายแล้ว
    ทำให้เกิดสภาพ ท้องอิ่มแต่ปากหิว
    พวกที่จะใช้สูตรนี้ลดหุ่น แต่เกิดตามใจปาก รับรอง ได้อ้วนกลมมากกว่าเดิม

    หมอสุวิได้แก้ไข อาการเหล่านี้ไว้แล้ว
    โดยให้ทำชาที่มีสูตรดังนี้ดื่มแทนน้ำ จะลดอาการ อยากอาหารให้ลดลงได้
    และยังช่วยลดไขมันส่วนเกินในตับได้อีกส่วนหนึ่งด้วย

    ชาลดไขมัน
    ๑. ดอกเก็กฮวย ๑ ส่วน
    ๒. ดอกคำฝอย ๑ ส่วน
    ๓. ผักเสี้นยผี ๑ ส่วน

    สมุนไพรทั้งสามตัว อย่างละ ๑ หยิบมือ ชงน้ำร้อนกิน แบบชา กินต่างน้ำ
    จะลดความอ้วนได้ดีขึ้น และลดอาการท้องอิ่มแต่ปากหิวได้ดี

    ใครหาสมุนไพรดังกล่าวไม่ได้
    หมอสุวิยินดีจัดหาให้ ส่งทางไปรษณีย์ ราคาชุดละ ๑๕๐.-(ยาสามตัว-กินได้ประมาณ ๒ อาทิตย์)
     
  8. suwi

    suwi เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    2,652
    ค่าพลัง:
    +18,543
    มีผู้ถามเข้ามาทาง e-mail เห็นเข้าท่าดีจึงขอนำมาโพสไว้หน้าจอ


    ที่ถามมา ชาตราสามม้า ก็คือชาจีนนั่นแหล่ะครับ
    ตราสามม้าเป็นยี่ห้อเขา
    เห็นมีหลายเบอร์ ซึ่งแสดงคุณภาพของใบชา - เช่น เป็นยอดอ่อน ใบเพสลาด หรือที่รองๆลงมา)
    เลือกใช้คุณภาพกลางๆก็พอครับ สักเบอร์ ๒ หรือ ๓ ก็ได้ครับ

    ความจริงใช้ยี่ห้ออะไรก็ได้

    แต่พวกที่จะเอาไปลดความอ้วน ให้ใช้พวกชาเขียวจะได้ผลสูงสำหรับลดความอ้วน
    แต่พวกที่จะเอาไปใช้แก้ปวดข้อให้ใช้ชาจีนธรรมดา (ใช้ชาเขียวไม่ได้ผล-ได้ผลน้อย)
     
  9. ตัวกลมๆ

    ตัวกลมๆ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    722
    ค่าพลัง:
    +5,941
    เหะๆ ไม่อยากชมตัวเอง ชมยาอาจารย์ดีก่า ตอนนี้กินยารักษาเลือดข้น ผลาธิกะ กระชายทอง เลซินติน
    น้ำมันปลา แปะก๊วย เพราะเลือดไหลช้า จนหยุดไหลตอนให้เลือดที่โรงพยาบาล นานๆที ก็ปวดหัวตึบๆ
    เลยได้กินยาสมุนไพร

    แต่ แต่ แต๊ ผ่านมาเกือบเดือน ลืมกินมั่ง รวบมื้อยามั่ง แต่ก็กินทุกวัน
    ตอนนี้เส้นเลือดใต้ผิวหนังเขียวๆ โผล่ให้เห็นใต้ท้องแขนและข้อมือ

    เรื่องหน้านี่เพื่อนผู้หญิงขึ้นเองว่าผิวหน้าดูดีขึ้น แหม ไอ้เราก็คิดว่าตัวเองคิดไปเอง
    มองกระจกแล้วเห็นผลได้ชัดเจน ส่วนเรื่องผมดำนี่ยังไม่รู้ เพราะไม่ค่อยมีผมขาวเสนอหน้า
    ส่วนผมดกขึ้นนี่รอสักพักก่อน จะมาเล่าอีกทีค่ะ เรื่องหน้าเด้ง ผมงามนี่เป็น
    ผลพลอยได้จริงๆของตัวกลมๆเลยนะคะ ยังคิดว่า เราใช้เครื่องสำอางค์อะไรนี่ มันก็ไม่เท่าอาหาร
    ที่เรากินเลยค่ะ เขาถึงได้ว่า You are What You eatเนาะ

    เรื่องน้ำหนัก อย่างที่อาจารย์สุวิว่าแหละค่ะ เสียดายของ ตามใจปาก หุๆ ตามชื่อ
    แต่อาจารย์ไม่เห็นนาน ก็ทักว่าหน้าเรียวขึ้น เย้ๆๆ

    สงสัยต้องเอาสมุนไพรnatural Tea อาจารย์มาเสริม วันโน้นอาจารย์สามตา
    เอาเป็นนางแบบ(60กก T_T ) น้ำหนักสมมติลดพรวดๆ15 กก.
     
  10. suwi

    suwi เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    2,652
    ค่าพลัง:
    +18,543
    อ้างอิง:
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: 1px inset; BORDER-TOP: 1px inset; BORDER-LEFT: 1px inset; BORDER-BOTTOM: 1px inset">ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ suwi [​IMG]
    จากประสพการณ์
    อาการปวดเข่าจะเกิดขึ้นสองกรณี
    ๑. เกิดจากสภาพ พยาธิของตัวเข่าเอง เช่นเป็นเก้าส์
    ๒. เกิดจากการบิดตัวของกล้ามเนื้อ เส้นเอ็น ที่รัดข้อเข่าอยู่ สาเหตุมาจากการเคลือนของกระดูกข้อสะโพก
    แม้แต่เพียงเพียงเล็กน้อย ก็จะทำให้กล้ามเนื้อที่รั้งลงมาถึงเข่าบิดตัวได้
    และเมื่อมีการเดิน มีการแบกน้ำหนักบ่อยๆ ก็จะทำให้ข้อเข่าปวดได้ และท้ายสุดข้อเข่าจะเอียง (เกิดเข่าโค้ง หรือแปออก แล้วแต่การเคลื่อยของกระตูกข้อสะโพก)

    การรักษาในข้อที่๑ ให้ทำยากินดังนี้
    ๑. หญ้าหนวดแมว ๑ หยิบมือ
    ๒. ชาจีนอย่างดี ๑ หยิบมือ
    ๓. มะละกอดิบ(แบบที่ทำส้มตำ) ๑ ลูก
    วิธีทำกิน
    ๑. นำสมุนไพรในข้อ ๑-๒ มาลวกน้ำร้อนแล้วพักไว้
    ๒. นำมะละกอดิบล้างให้สะอาด แล้วฝานเป็นชิ้นเล็กๆ(ทั้งเปลือก)
    นำมาต้มในหม้อเคลือบ (หรือหม้อสะเตนเลส) ใส่น้ำท่วมมะละกอ
    พอมะละกอสุก กรองเอาแต่น้ำ ใส่ตู้เย็นเก็บไว้
    เวลากิน อุ่นน้ำมะละกอให้เดือด นำมาชง หญ้าหนวดแมว+ใบชาที่เตรียมไว้
    แช่ทิ้งไว้สักพัก ดื่มวันละ ๒-๔ ครั้ง
    แก้อาการปวดามข้อได้ดี
    เคยใช้กับพวกปวดข้อ แบบเป็นเก้าส์ หรือข้อบวมแดง ได้ผลดี
    ยังไม่เคยลองกับโรคที่เรียกว่าตะมอย (โรคปวดข้ออีกแบบ ทำให้ข้อคดแก ผิดรูป) ว่าได้ผลหรือไม่


    ส่วนอาการที่เกิดจากการบิดตัวของกล้ามเนื้อและเส็นเอ็น ให้ใช้วิธีนวดจัดกระดูก
    ถ้าจะช่วยตัวเอง มีท่าฤๅษีดัดตนอยู่สองท่า ใช้แก้โรคนี้โดยเฉพาะ





    </TD></TR></TBODY></TABLE>
    ได้ท่า ฤๅษีดัดตนมาแล้ว
    ท่าแรก สุวิตั้งชื่อว่า ท่ากล่อมลูก แก้อาการเข่าแปออกด้านข้าง

    รูปแรก แสดงอาการขาแป ด้านขวา
    รูปที่ 2 แสดงท่าฤๅษี กล่อมลูก (ทำตอนแรก ขายังติดอยู่ สังเกตยกขาไม่ค่อยขึ้น)
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • IMG_2141.JPG
      IMG_2141.JPG
      ขนาดไฟล์:
      2.9 MB
      เปิดดู:
      59
    • IMG_2142.JPG
      IMG_2142.JPG
      ขนาดไฟล์:
      2.5 MB
      เปิดดู:
      58
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 24 เมษายน 2009
  11. suwi

    suwi เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    2,652
    ค่าพลัง:
    +18,543
    ท่าฤๅษีกล่อมลูก ในรูปแบบ แง่มุมต่างๆ
    เมื่อทำไปนานๆพอควร จะยกขาด้านฝ่าเท้าได้สูงขึ้น
    ต้องยกฝ่าเท้ากับหัวเข่า ให้เสมอกัน หรือฝ่าเท้าสูงกว่าเข่าเล็กน้อย

    ท่านี้จะค่อยๆเขยื่อนกระดูกข้อเข่าที่แปออกไปให้ค่อยๆกลับเข้าที่
    ใช้เวลานานโขอยู่ ต้องทำทุกวัน เช้า เย็น ครั้งละ ๕-๑๐ นาที
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 3.JPG
      3.JPG
      ขนาดไฟล์:
      2.5 MB
      เปิดดู:
      50
    • 4.JPG
      4.JPG
      ขนาดไฟล์:
      2.8 MB
      เปิดดู:
      47
    • 5.JPG
      5.JPG
      ขนาดไฟล์:
      2.6 MB
      เปิดดู:
      52
  12. suwi

    suwi เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    2,652
    ค่าพลัง:
    +18,543
    รูป ฤๅษีกอดเข่า
    รูปต่อไปนี้เป็นท่าฤๅษีอีกท่าใช้แก้อาการเข่าโค้ง (หมาวิ่งลอดได้)
    หารูปคนมีอาการไม่ได้
    ได้แต่รูปคนแสดงท่าแก้อาการ เข่าโค้ง
    หมายเหตุ
    ผู้ที่มีอาการขาแป ไม่ควรทำท่าฤๅษีกอดเข่า มิฉะนั้น อาการขาแป จะเป็นมากขึ้น)
    ทำนองเดียวกัน ผู้มีอาการเข่าโค้ง ก็ไม่ควรทำท่าฤๅษีกล่อมลูก ถ้าทำแล้ว อาการจะเป็นมากขึ้น
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 21.JPG
      21.JPG
      ขนาดไฟล์:
      2.6 MB
      เปิดดู:
      50
    • 22.JPG
      22.JPG
      ขนาดไฟล์:
      2.5 MB
      เปิดดู:
      42
  13. Baby_par

    Baby_par เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มกราคม 2007
    โพสต์:
    2,743
    ค่าพลัง:
    +3,265
    อาจารย์ค่ะเข้าโค้งกับจาถ่างเหมือนกันไหมค่ะ เหอๆ
     
  14. audi1416

    audi1416 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 พฤษภาคม 2007
    โพสต์:
    276
    ค่าพลัง:
    +853
    อยากเรียนถามท่านอาจารย์สุวิครับ ว่าโรคปวดเข่าใช้ กายบริหารแกว่งแขนหรือการแกว่งแขนแก้ไขเลือดลม ของท่านตั๊กม้อ รักษาได้มั้ยครับ อ่านเจอในหนังสือที่เค้าแจกเห็นว่ารักษาได้หลายโรคเลยครับ อยากขอคำแนะนำด้วยครับ
     
  15. curio

    curio เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 พฤศจิกายน 2006
    โพสต์:
    428
    ค่าพลัง:
    +2,048
    เรียนถามอาจารย์สุวิครับ
    ยาผลาธิกคุณ + ยาปลูกเตโช ที่อาจารย์จัดให้ ไม่ทราบทานแล้วทำให้ถ่ายท้องไหมครับ พอดีแม่ผมทานแล้วถ่ายเหลว วันละ1-2ครั้ง ผมไม่ทราบเป็นจากยาหรือไม่ครับ เรียนถามอาจารย์เท่านี้ ขอบพระคุณมากครับ
     
  16. suwi

    suwi เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    2,652
    ค่าพลัง:
    +18,543
    อีหนูเอ้ย.....เวลาโพสอ่านซะอีกที
    ปูอ่านคำถามแล้ว ต้องเดาแหลกเลย

    เข่าโค้ง หมายถึงข้อเข่า แยกห่างออกจากกัน (ข้อเท้ายังชิดกันอยู่)

    ส่วนขาถ่าง โดยมากหมายถึง ขาที่กางแยกออก หุบไม่เข้า (ข้อเท้า กางออกไม่ชิดกันด้วย)
    มันเป็นกริยาไม่งามสำหรับสาวๆจะ ทำให้ผู้เห็นคิดไปไกล
     
  17. suwi

    suwi เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    2,652
    ค่าพลัง:
    +18,543
    ฮิๆ ...คำถามนี้ถึอว่าถามถูกคน

    ผู้ปวดเข่า อันเกิดจากเลือดลมติดขัด (ไม่ใช่จากพยา-ธิ เช่นเก้าส์)
    สามารถรักษาได้ โดยนวดกระตุ้นเส้นลมปราณที่ข้อศอก

    ให้เปิดดูวิชาเส้นสิบพิศดาร ที่สุวิทิ้งตำราไว้ให้
    ดูที่เส้นตา (สหัสรังสี, ทวารี) สองเส้นนี้ จะวิ่งผ่านเข่า (ด้านใน ด้านนอก) และ ไปที่ ศอกด้วย
    ผู้มีพลังถึง (ผู้อื่นทำให้ หรือตัวเองทำ ก็ได้) กระตุ้นให้ถูกจุดที่ข้อศอก
    เพียงเท่านี้ อาการปวดเข่าจะหายทันที
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 9 เมษายน 2009
  18. suwi

    suwi เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    2,652
    ค่าพลัง:
    +18,543
    ผลาธิกคุณ จะไล่โรคที่ฝังลึกในตัวให้ออกมากับอุจจาระปัสสาวะ
    ถ้าไม่มากเกินถือว่าปกติ
    ถ้ามากไปให้ลดปริมาณยาผลาธิกคุณลง

    ส่วนยาปลูกเตโช จะทำให้ตัวอุ่น และบำรุงโลหิต
     
  19. วิหคเพลิง

    วิหคเพลิง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 กันยายน 2006
    โพสต์:
    237
    ค่าพลัง:
    +783
    ต่อมไทรอยเป็นพิษ หัวใจโต เนื้องอกในมดลูก
    มีคนเป็นทั้งสามอย่างนี้ จะบำบัดยังไงคะ
     
  20. suwi

    suwi เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    2,652
    ค่าพลัง:
    +18,543
    โรคคอพอก (ปัจจุบันเรียก โรคของต่อมไทรอย) มีลักษณะคอ ตรงใกล้ๆสองข้างคอหอย(จุดนิ่มบุ๋มที่คอใกล้กระดูกไหปลาร้า)บวมโต มากบ้างน้อยบ้าง ตามเวลาทีเป็น
    การแพทย์ปัจจุบัน แบ่งลักษณะ การเป็นโรคนี้อยู่ ๒ แบบคือ
    ๑.โรค ต่อมไทรอยธรรมดา และ
    ๒.โรค ต่อมไทรอยเป็นพิษ

    ต่อมไทรอย มีหน้าที่ควบคุมการเผาผลาญพลังงาน ทั้งการสร้าง/และใช้ ในร่างกาย
    จึงเกี่ยวพันธ์กับระบบทำงานของร่างกายหลายระบบที่เกี่ยวเนื่องกับเรื่องพลังงาน เช่น ตับอ่อน(อินซูลิน-เบาหวาน) ฯลฯ
    เมื่อต่อมนี้มีปัญหา ขบวนการควบคุมการใช้/สร้างพลังงานในตัวจึงแปรปรวนหมด ในหลายรูปแบบ เช่น
    ในขบวนการย่อยอาหาร ปากคอแห้ง หิวบ่อย ผู้เป็นโรคนี้บางลักษณะจึงอ้วนกลม ฯลฯ
    อาการทางประสาท เนื้อตัวสั่น(โบราณเรียกสันนิบาตลูกนก) ฯลฯ
    ฯลฯ

    การรักษา (ขณะนี้หมอสุวิกำลังให้ความสนใจกับโรคนี้อย่างมาก)
    จากประสพการณ์ พบว่า การนวดที่ต้นคอ เรียกเลือด มาเลี้ยงบริเวณนี้ จะทำให้อาการบวมลดลง อย่างเห็นได้ชัด (มีบางกรณีไม่ได้ผล)

    ยาที่จะใช้ ใช้ยาตะกูลตรีผลา เพื่อช่วยการเผาผลาญพลังงาน
    ปัจจุบันหมอสุวิมียาสองตัวเพื่อจะแก้อาการของโรคนี้

    ๑. ยาอายุวัฒนะ ผลาธิกคุณ ยาตัวนี้ทำเสร็จแล้ว ช่วยปรับตรีธาตุ บำรุงร่างกาย ควบคุมการเผาผลาญพลังงาน และช่วยเรื่องความดันสูงให้ลดลงอย่างช้าๆ
    กำลังทดลองในผู้เป็นไทรอยอยู่
    ๒.ยาบัวสวรรค์ ยาตัวนี้ปัจจุบันยังทำไม่ได้ ด้วยขาดตัวยาสำคัญ คือดอกบัววรรค์ เก็บมาเดือนเศษแล้ว เพื่งได้ ๒ ดอกเอง

    หัวใจโต
    เกิดจากระบบจ่ายเลือดไปเลี้ยงร่างกายทำงานหนัก (หัวใจ) กล้ามเนื้อจึงใหญ่ขึ้น
    อธิบายเหมือนร่างกายใช้แขนข้างเดียวทำงานหนัก เลยมีกล้ามแขนพอกพูนขึ้น
    แต่ในเรื่องหัวใจทำงานหนัก อันเกิดจากพยายามปั้มเลือดไปเลี้ยงร่างกายที่มีเส้นเลือดตีบตันในอวัยวะต่างอันเกิดจากไขมันอุดตัน (ทำให้เกิดความดันสูง)
    หัวใจห้องล่างซ้ายซึ่งเป็นตัวปั้มเลือดไปเลี้ยงร่างกายทำงานหนัก กล้ามเนื้อส่วนนี้จึงโต
    คิดถึงนักเล่นกล้ามที่ไม่เป็นงานก็แล้วกัน ฝึกเล่นด้วยมือข้างเดียว
    แขนโตข้างเดียว ตัว ขา แขนอีกข้างเล็กลีบ
    พูดง่ายๆกลายเป็นพวกไม่สมประกอบ แทนที่จะดูดี
    หัวใจโดยรวมก็ไม่สมประกอบเช่นกัน ส่วนที่แข็งแรงมาก กล้ามเนื้อก็ใหญ่ ก็ไปแย่งที่ให้ห้องหัวใจเล็กลง ปริมาณเลือดในการบีบตัวแต่ละครั้งจึงลดลง
    หัวใจจึงต้องเต้นเร็วขึ้น เร็วขึ้น
    การที่หัวใจเต้นร็วขึ้นมากๆ ทำให้เหนื่อยง่าย หัวใจวายเอาง่ายๆ

    การรักษาในปัจจุบัน ใช้วิธีการ ลดความดันโลหิต ยาลดไขมัน และให้ยาลดอัตราการเต้นของหัวใจ
    ในแผนไทย การรักษา ด้วยการปรับตรีธาตุให้สมดุลย์ เพิ่มการเผาผลาญพลังงาน โดยเฉพาะไขมันส่วนเกิน
    ยาที่ใช้คือ ยาอายุวัฒนะผลาธิกคุณ ยาอายุวัฒนะพระนารายณ์ และยาปลูกเตโช
    หมายเหตุ
    -ผู้เป็นความดันสูง พวกนี้ ระบบปิตะในกายมัก พิการ หรือกำเริบ และมีไขมันในเลือดสูง
    -พวกปิตะกำเริบ ใช้ ยาผลาธิกคุณ
    -พวกปิตะหย่อน ใช้ ยาพระนารายณ์ทรงจักร
    -พวกปิตะพิการ ใช้ ยาผลาธิกคุณ + ยาปลูกเตโช


    เนื้องอกในมดลูก
    ปกติขบวนการเกิดเนื้องอก จะเริ่มจาก มีอะไรบางอย่างไปรบกวนบริเณนั้น ร่างกายจึงเริ่งสร้าง เนื้อเยื่อ/พังพืด มาหุ้มรัด สิ่งแปลกปลอมและโตขึ้น
    จากประสพการณ์ พบว่าเนื้องอกในมดลูก เกิดจาก ระบบขับถ่ายระดูโลหิตประจำเดือน ทำงานไม่สมบูรณ์ มีสิ่งตกค้าง
    เมื่อเป็นบ่อนขึ้น และนานไปทำให้ร่างกายต้องสร้างเนือเยื่อ/พังพืด มาหุ้มรัดสิ่งแปลกปลอมที่ไม่พึงปรารถนานี้
    จึงเกิดเนื้องอก ซีสต์ ช๊อกโกแลตซีสต์ ฯ ขึ้น
    ลองศึกษา คัมภีร์มหาโชรัตน์ ดู

    อีกประการ ระบบพลังงานชีวิตที่ไปหล่อเลี้ยงระบบสืบพันธ์(มดลูก ปีกมดลูก ฯ)
    ถ้าไปหมุนเวียนหล่อเลี้ยง ระบบนี้ไม่พอ ก็เกิดปัญหาได้
    ซึ่งเกิดจาก มดลูก/ปีกมดลูก เคลื่อน ทำให้พลังงานชีวิตถูกปิดกั้น และท้ายสุด ก็เกิดเนื้องอก ซีสต์ ช๊อกโกแลตซีสต์ ฯ ขึ้นเช่นกัน

    การแก้รักษา ต้องทำทั้งระบบต่อเนื่องกัน
    ๑.นวด ยกมดลูกและปีกมดลูกให้เข้าที่
    ๒.ยาบำรุงโลหิต+ยาประสะไพล -ดูในคัมภีร์มหาโชติรัตน์ ( หรือ ยาปลูกเตโช+ไพลทอง )
     

แชร์หน้านี้

Loading...