" ปอบ " คืออะไร ? อาถรรพ์ ความเชื่อ เรื่องผี!!

.. แห๊มะ ๆ พี่ gratrypa นี้อารมณ์ขัันเยอะนะคะ อิอิ

... แถวนี้มีงูก็ไม่แปลกคะ เพราะใกล้ ๆ เตียงนอนตรงร่องน้ำก็มี พญานาคจำศีลอยู่เหมือนกัน แต่ตอนมาแจ้งให้ทราบนั้นบอกว่าเป็น " พญางูดิน " ตัวเมียกกไข่อยู่ส่วนคู่มาเกิดเป็นคนแล้วประมาณนี้ที่เขาบอกมานะคะ แต่เวลาใคร ๆ ทักกลับบอกว่าเป็นพญานาคนี้ก็ไม่เข้าใจเหมือนกัน หรือ อาจเป็นเพราะว่าใต้ที่ดินตรงนี้เป็นโพรงก็ไม่ทราบได้เลยกลายเป็นที่อาศัยของพวกเขา ... เอาจริง ๆ แถวนี้มี ปอบ เดินเพ่นพานยังไม่แปลกเลยคะ แหล่งรวมอสุรกายดี ๆ นี้เอง .. แถมคนแถวนี้ก็ยังนิยมสรรคหามาไว้ในครอบครองเสียด้วย ..

... ตอนนี้ก็มีมาลอยอยู่ในห้องนอน กาลีนะ แล้วเหมือนกันไม่รู้จะทำยังไง นอนไม่ได้มาหลายคืนต้องแขวนพระตอนนอนตลอดเลย .. โดนกวนอยู่นั้นแหละ .. ไม่รู้ว่ามาจากไหนเยอะแยะตนหนึ่งไปอีกตนก็มา .. เหมือนจะเป็นลางบอกว่า ... กาลีนะ ต้องทำอะไรสักอย่างให้ตนเองไม่ต้องถูกรังแกแบบนี้อยู่ร่ำไป .. คิดแล้วก็เพลียจิต ... ไม่กล้าจะนอนกันแหละตอนนี้

... แต่ก็เคยได้นิมิตมาแล้วเหมือนกันคะว่า ... แค่น้ำมนต์ที่ใช้อยู่คงไม่เพียงพอต่อการดำรงค์ชีวิตของ กาลีนะ อีกต่อไป .... คงต้องมีการหา " อาวุธ " มาไว้ใช้สักที .. ใครใจดีจะมอบให้นะ ... รอ ๆๆๆ

 

... สาธุคะคุณติง

 

หายไปนานต้องขออภัยนะคะ ...

.... ทำงานหาเงินส่งค่าเช่าที่คะช่วงปีใหม่ ... ตอนนี้รอดแล้วไปอีกหนึ่งปี .. เห้อ ๆ

.... ขอสวัสดีปัใหม่ย้อนหลังทุกท่านนะคะ ขอให้สุขภาพแข็งแรงคะ ร่ำรวย ๆ ทุกท่านคะ ...

 

... พอดีไม่ค่อยได้เข้าเว็ป แต่ไปเจอของแปลกในเฟสบุ๊คมาคะ ... ภาพหนึ่งเป็นของอาถรรพ์ อีกภาพเป็นภาพขาของคนที่มีอาการชาตามขา และ บวม .. ไม่มีสาเหตุคะ .. มา ๆ วิเคราะห์กันคะพี่ ๆ น้อง ๆ ทั้งหลาย ...

 

....... วันนี้ขอรายงานสภาพความเป็นอยู่หน้าร้านเนื้อของ กาลีนะ เวลาประมาณช่วงตีหนึ่งใกล้ตีสองนะคะ ... ของคืนวันที่ 14 มกราคม 2558 .. ซึ่งพ่อตัวดีได้หนีเข้าห้องไปแล้วด้วยอาการอ่อนล้าหมดแรง ... เพราะเยอะเกินไป ... คิดสภาพสิคะ .. กาลีนะ ต้องเจอแบบนี้ทุกคืนคะ .. คนเดียวเลย .. เห้อ ๆ ไม่รู้มาจากไหนกันเยอะแยะ ... ไม่รู้จะจัดการยังไงจริง ๆ คะ

 

สงสัยนิดนึง...ทำไมขายเนื้อถึงขายกลางคืน
เวลาแบบนี้ใครจะมาหาซื้อเนื้อไปทำอาหารเหรอ?
ปกติแถวบ้านผมจะมีตลาดเช้ากับตลาดเย็น
ตลาดเช้าแม่ค้าจะมาถึงตี 3 จัดของเสร็จกว่าจะเริ่มขายก็ตี5 ประมาณ 9-10 โมงตลาดวาย ก็กลับบ้านนอน...
ตลาดเย็นแม่ค้าจะมาถึงบ่าย3 ขายถึง 2 ทุ่มก็เก็บของกลับบ้าน...



ขายกลางคืนทั้งคืน แบบนี้ น่ากลัวอ่ะนะ...ว่าจะขายให้....???? พวกนี้จึงมามุง...ถ้ากำเงินมามุงซื้อก็คงดีนะ...

 

dfsfsdfewss

 

คุณกาลีนะ
ลอง
ติดป้าย ขายใหม่

ว่ายินดีต้อนรับ ลูกค้า ทุกท่าน ในราคามิตรภาพ (ทั้งมนุษย์และอมนุษย์)

หมายเหตุไม่มีเงินไม่ต้องมา

 

... ไม่อยากจะฝอยเลย อิอิ จำน้ำท่วนใหญ่ทั้งประเทศเมื่อหลายปีก่อนได้ไหม๊คะ .. อันนั้น "ผีอพยพ " กาลีนะ ก็เคยเจอมาแล้วคะ งง มากผีหนีน้ำท่วมมายังกะพวกไปตัดอ้อยกลับบ้านเวลาเทศกาลเลยคะ ... แล้วก้มาแวะพักแถวนี้คะ .. ไล่กันไม่หวาดไม่ไหวเลยทีเดียว อิอิ

 

.. กราบเรียนคุณพี่ระมิงค์ ด้วยความเคารพอย่างสูง ..

... ขออธิบายนิดหนึ่งนะคะ ร้านเขียงเนื้อตรงที่ กาลีนะ อยู่นั้นเเขาเปิดเหมือนเซเว่นคะ 24 ชม. หมดก็ฆ่าใหม่ตลอด .. จะมียกเว้นก็ที่ร้านหนูนี้แหละคะที่เปิด แปดโมงเช้ามีแม่บ้านสองคนกับแม่หนูช่วยกันขาย ( ตอนนี้มีคุณยายอายุแปดสิบกว่ามานั้งช่วยด้วยอีกคน ) กับแม่บ้านล้างจานตอนเช้าหนึ่งคนคะ .. ขายจนสักตีสองตีสามก็ปิดยกเว้นมีลูกค้าเยอะก็จะเปิดต่อไป ... ตัวหนูเองนั้นมีหน้าที่ขับรถพาแม่ไปตลาดสดไปซื้อของ และ ไปโรงฆ่าสัตว์เพื่อขนเนื้อวัวที่เชือดเสร็จแล้วกลับมาที่ร้าน พร้อมกับยกขาวัวขึ้นแขวน และ เก็บเข้าถังน้ำแข็ง เวลาเชือดไม่แน่นอนคะแล้วแต่สถานการณ์ และ อารมณ์ของแม่แกด้วย ...

... จะเข้ามาช่วยหน้าร้านจริง ๆ ก็ช่วงหลังห้าโมงเย็นไปแล้วรับช่วงต่อจากแม่บ้านสองคนตอนเช้า .. กะเย็นจะมีแม่ มีหนู มีแฟน มีลูกชาย ช่วยกันทำคะ .. แต่พอสักหลังห้าทุ่มเที่ยงคืนจะเหลือหนูคนเดียวเฝ้าร้าน ... มาหลอนก็ตอนนี้แหละคะ สุดท้ายหนูก็จะต้องเป็นคนเตรียมของให้แม่บ้านเช้ากับเก็บร้านให้เรียบร้อยก็ปาไปตีสี่กว่าตีห้า วันไหนเหนื่อยมากก็นอนเลยไม่สวดมนต์ทำให้โดนดุบ่อย ๆ ใจมันไม่อยากทำคะบางอารมณ์มันก็ท้อ ..

... เมื่อวานนี้ได้ไปกราบสวัสดีปีใหม่ อ.บุญชู ก็เลยตัดสินใจถามแกคะว่าควรททำยังไงดีกับสิ่งที่เจอทุกคืนเพราะคนของเราก็เหนื่อยจะสู้รบแล้ว .. ท่านบอกว่าให้แผ่เมตตาให้พวกเขาคะ เอาแบบเจาะจงทำไปเรื่อย ๆ เราต้องทำใจเพราะเราไม่สามารถใช้ชีวิตเหมือนคนอื่นปกติทั่วไปได้ ... เราอยู่กับของแบบนี้ก็ต้องทำใจแกบอก .. แกก็สอนมานิดหน่อย .. ก้จะลองทำดูคะ .. ถึงจะท้อแต่ก็ไม่ถอย .. อาจจะมีพักช่วงไปบ้างก็เท่านั้นเองคะ ..

... ปล. บอกแล้ว หนู สวย ถึก และ บึกบึน คะ สมัยสาว ๆ นี้พลังช้างสารเลยนะคะ 55555555 แรงควายดี ๆ นี้เอง ..

 

พวกเราหารือกันแล้วว่าน่าจะให้ครูติงไปทำMOUกับผีปอบ
ให้ผีปอบหาตังค์มาซื้อเนื้อ แทนที่จะมาทำลับๆล่อๆ
ผีปอบอาจมีช่องทางหาตังค์ได้หลากหลายวิธี
หากคิดไม่ออกเราจะส่งนู๋พายุไปแนะนำ

ปล.ตั้งแต่คุยกับพายุบ่อยๆชักจะเพี้ยนตามไปด้วยซะงั้น

 

เราอยากชวนปอบ ไปอัพเกรดเป็นกระหัง จะได้เหาะได้น่ะค่ะ

จับไก่กินลำบาก
ก็จับนกกินบนฟ้าเอา

 

ผมเป็นพวกชอบลองนั่น ลองนี่ ไม่ค่อยชอบอยู่สงบ สยบยอม อะไรใดๆอย่างชาวบ้านเขา...
แล้วก็ชอบตั้งคำถามว่า "ทำไม?"
ดังนั้นเวลาผ่านไปไหนมาไหนเห็นอะไรผมก็จะเที่ยวสงสัยไปเรื่อยตามประสาของผมนี่แหละ...

วันก่อนก็นึกว่า ถ้าแม่กาลีนะ ไม่เอาเนื้อจริงๆไปแขวนล่อปอบ แต่เปลี่ยนเป็นเอาเนื้อปลอม หรือเนื้อโมเดล เหมือนอย่างร้านข้าวมันไก่ที่เขาทำแขวนเอาไว้นั้น จะทำให้ปอบ งอน ไม่อยากเข้าใกล้ไหมนะ???

เพราะส่วนนึงมาจากร้านคู่แข่งที่ส่งมารังควาญ แต่ก็มีอีกส่วนหนึ่งที่มาอาศัยเศษเนื้อนี้กิน ถ้าไม่มีเศษอาหารก็ไม่มีหนู ถ้าใช้โมเดลเนื้อ หรือเนื้อปลอมมาแขวน ปอบจะลดน้อยลงไปบ้างไหม???

ปัญหาที่แก้ไม่ได้ของแม่กาลีนะอีกอย่างนึงคือ ตัวเองนั่นแหละ เป็นคนชักนำสิ่งเหล่านี้เข้ามาเอง ดังนั้น ไม่ว่าน้ำหมาก น้ำมนต์ เครื่องราง ของขลังทั้งหลาย มันก็กันไม่ได้ แก้ไม่จบ เพราะตัวเองไปชักนำเอาเข้ามาเอง ตามประสาความชอบส่วนตัว...
บางเรื่องจะละทิ้งไปซะ ก็รู้สึกเสียดาย ก็เลยคาราคาซังกันแบบนี้ไป อันนี้ไม่ใช่เรื่องเวรกรรมเก่าหรอกนะ กรรมในปัจจุบันเลยเชียวแหละ...

เพื่อการแข่งขันทางการค้า บางครั้งมันเลยเถิดไป จนลืมนึกถึงความเสียหายที่จะเกิดขึ้นในอนาคต สู้กันทุกรูปแบบ ยกเว้นคือกลยุทธ์ทางการตลาด คือข้ามไปว่ากันเรื่องมนต์เรื่องคาถากันเลย พูดยากเน๊อะ..

 

แม่กาลีนะ คอมฯเจ๊ง ส่งไปซ่อมที่เกาหลี...คงอีกพักใหญ่ๆกว่าจะมาลงโพสเรื่องปอบต่อไป
ระหว่างนี้ใครว่างก็มาป่วนกระทู้ผีปอบกันได้ ตามสบาย...
ว่าแต่ช่วงหลังๆมานี้ ชักจะรู้สึกว่า มาโพสกระทู้กันน้อยๆลงไปมาก
คงเป็นเพราะหลายคนในเวปนี้ ไปจับกลุ่มพูดคุยกัน ในเฟส ในไลน์ กันซะเยอะ
มัวแต่โสเหล่กันซะมืดค่ำ ไม่มีเวลาจะมาโพสลงในเวป...

ไปเจอเฟสก็จะส่องดูว่า หน้าตาแต่ละคนนี้เป็นเช่นไร...อายุอานามไปขนาดไหน...
หัวเถิก หัวล้าน ขี้ใจน้อยยังไง...

ผมไม่ได้ลงรูปไว้เพราะโจทย์เยอะ ตั้งแต่ระดับประเทศ ไปยังเพื่อนที่เคยร่วมเรียนที่มหาวิทยาลัยกันมา ซึ่งด่าว่ากันแต่เรื่องการเมืองอย่างหยาบคาย จนขนาดกากๆอย่างผมนี่ทนรับฟังไม่ได้ ต้องเผ่นหนี...ก็เลยว่าขออยู่เงียบๆดีกว่า

รู้คน รู้หน้า ไม่รู้ใจ ....
ไม่ต้องรู้คน ไม่ต้องรู้หน้า อ่านที่ผมเขียนๆไว้ ก็จะรู้ใจว่าผมเป็นคนยังไง...
เพราะเจตนา ก่อเกิดเป็นความคิด จึงประดิษฐ์เป็นตัวอักษรออกมาให้ทุกท่านอ่าน...
อ่านตัวอักษรที่เขียน สื่อความหมาย ก็จะมองเห็นถึงความคิด และเข้าใจถึงเจตนาที่ส่อออกมาได้...

เพราะฉะนั้นแล้ว การจะส่งผีไปทำร้าย จะทำลายกันด้วยวิชา คุณไสยฯ ต่างๆนั้น จึงสามารถสื่อผ่านไปยังจิต เจตนา ของแต่ละคนที่เขียนกระทู้ในเวปนี้ได้ แม้จะไม่เคยเห็นหน้า ไม่มีวันเดือนปีเกิด แต่อย่างใด?

สิ่งหนึ่งที่ผมเห็นว่า ใช้เป็นการป้องกันภัยสำหรับตัวเองได้นั้น คือการระลึกเอาพระพุทธเจ้าเป็นประธาน แผ่เมตตาออกไปโดยรอบ ด้วยพุทธบารมี จะเป็นเกราะปกป้องคุ้มครอง ให้ปลอดจากคุณไสยฯและภยันตรายทั้งปวง กับกระแสเมตตาจิตที่แผ่ออกไปโดยรอบ จะเบี่ยงเบนสิ่งที่ผู้คิดร้ายส่งมาทำลาย ให้พ้นไปจากเราได้ จนในที่สุดแล้วคือการทำใจเป็นอุเบกขา ไม่ถือโกรธ โทษทัณฑ์ใดๆต่อผู้ที่คิดร้าย ปองร้าย หวังทดสอบหรือจะทำลายเรานั้น อารมณ์อุเบกขานี้ จะทำให้ผู้ที่คิดร้าย หวังปองร้ายนี้ ส่งสิ่งใดมาทำร้าย ก็จะไม่สามารถมองเห็นตัวจิตตัวใจของเราได้...

เราย่อมไม่ตอบโต้คนที่ร้ายกับเรา ด้วยความร้ายที่ยิ่งกว่า หาไม่แล้ว เรานี่เองจะพลอยเป็นคนเลวร้ายอย่างที่สุด
การตอบโต้คนที่ร้ายกับเรา ทางที่ดีกว่านั้น คือเลือกอยู่ห่างๆเอาไว้ให้มากที่สุด หลีกได้หลีก เลี่ยงได้เลี่ยง ไม่ไปมีเรื่องด้วย บ่อยๆเข้า เขาก็เบื่อของเขาไปเอง เพราะมันไม่สนุกสะใจเขา ทำอะไรลงมาที่เรา ก็เหมือนขว้างก้อนหินไปเจอกับความว่างเปล่า ไม่มีเชื้อโกรธ เชื้อบ้า ไปหล่อเลี้ยงให้เขา มันก็ไม่สนุกสนาน ไม่นานเขาก็เลิกไปเองแหละ...

 

สวัสดีครับ ท่านจอมยุทธป๋ามิงค์ ครูติงติงผู้เป็นที่รักของเจ้าที่ทั้งหลาย
กาลีนะตาไฟ เอ้ย! กาลีนะเฉยๆ คุณน้องชาวแอตแลนติส ๕๕๕
..และทุกๆท่านในกระทู้นี้นะครับ
พอดีมีประสบการณ์เรื่องเกี่ยวกับอะไรๆที่เป็นการสืบเชื้อมาเล่าให้ฟังครับ
เพื่อว่าจะมีประโยชน์ครับ..จังหวะได้นั่งอยู่กับห่มเหลืองมีชื่อจิตไวและละเอียดท่านหนึ่งมา..
ก็ลองอ่านๆดูไว้เพื่อว่าจะมีประโยชน์นะครับ..บวกกับการสังเกตุจากประสบการณ์
ส่วนตัวมาเล่าให้ฟังครับ....
ในกรณีที่ ๑.เป็นบุตรหลานหรือแม้กระทั่งญาติของเราไม่ว่าจะเป็นใครก็ตามนะครับ..
ที่มีการสืบเชื้อสายกันแบบวิญญานบรรพบุรุษ.และก็ต่อมายังลูกหลานนะครับ..
หรือแม้กระทั่งใครก็ตามที่โดนเจาะเข้าทางกระโหลกศรีษะคือกรณีที่
๒. ทำให้ได้ความสามารถ
พิเศษในด้านการสัมผัสพลังงานหรือเส้นสายขึ้นมา ตลอดจนทำให้สายตาดีกว่าปกตินั้น
แต่เป็นความสามารถจากภูมิสายภูติหรือสายที่บำเพ็ญมาทางด้านอสูรกายนั้น...
เมื่อก่อนเคยมีความเข้าใจว่า.การที่เราจะช่วย..
..ถ้าเราพอมีความสามารถในการดึงดวงจิตออกมาได้
ไม่ว่าจะด้วยวิธีใดๆก็ตาม.หรือมีความสามารถในการตัดสายใยเชื่อมดวงจิต
ที่ยึดอยู่ในกายของบุคคลนั้นๆได้..
แล้วก็ดึงออกมาข้างนอกและก็ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของครูบาร์อาจารย์ในการเคลืยร์
เรื่องการปรับภพภูมินั่นได้..เรื่องก็น่าจะจบลงได้ง่ายๆ..
แต่ในบางกรณีหาเป็นเช่นนั้นไม่ครับ.
บางกรณีก็จะยังพบว่ายังมีบางดวงจิตที่ยังสามารถที่ยังสามารถหลบซ่อนอยู่ภายในกายได้
อยู่โดยเฉพาะกรณีที่ ๒ ครับ..และแม้เราจะมองเห็นได้ด้วยตาเปล่าหรือผู้ที่เรากำลังช่วย
ก็มองเห็นได้..แต่ให้ทำอย่างไรก็จะไม่สามารถดึงเค้าออกมาจากกายได้..และจะเห็น
หน้าตาเค้าด้วยครับ..ว่าเหมือนๆกับยังมองเราคล้ายกับว่าเรายังไม่เข้าใจในเค้า...
และในกรณีที่ ๑ ก็เช่นกันครับ..ถือว่าอันตรายมากครับ..เพราะว่าถ้าผิดพลาดทางด้าน
ขั้นตอนการรักษา การช่วยแล้วหละก็ เค้าจะเล่นงานให้ร่างกายนั้นต้องเสียชีวิตไปเลย..
กรณีนี้ควรระมัดระวังเป็นพิเศษในการที่จะต้องมีเครื่องรู้ให้ทราบตรงนี้ด้วยครับ...
ไม่งั้นแม้ว่าเราจะเจตนาดี.แต่ก็จะต้องพบกับการสูญเสียอย่างคาดไม่ถึงได้ครับ...
ในกรณีที่ ๒ เหตุที่เราจะยังดึงบางดวงจิตที่พอมีฤิทธิ์ไม่ได้นั้น..ก็เพราะว่าแท้จริงแล้ว
ดวงจิตนั้นเป็นเจ้ากรรมนายเวรกับร่างกายนั้นอยู่ครับ..ต้องให้เจ้าของร่างกายนั้น
เค้าเคลียร์กับดวงจิตนั้นๆเองครับ..จนกว่าเค้าจะยอมอโหสิกรรมให้กันเองครับ.
วิธีที่ควรทำก็คือให้ประพฤติตัวให้ดี ให้ทำบุญอุทิศส่วนกุศล และกล่าวขออโหสิกรรม
ต่อกันด้วยตัวของเค้าเองครับ.
โดยที่เราไม่สามารถที่จะไปกำหนดระยะเวลาตรงนี้ได้ด้วยครับ....
ส่วนในกรณีที่ ๑ นั้นจะต้องทำการยกขันธ์เพื่อขอตัดเชื้อด้วยตัวเองเช่นกันครับ
แล้วก็นำขันธ์ที่ยกนี้ไปไว้ที่วัดถึงจะปลอดภัยครับ.ส่วนรายละเอียดในขันธ์
ส่วนตัวตอนนี้ไม่ทราบครับ..และเพราะอะไรนั่นหรือ..
เพราะต้นกำเนิดบุรรพบุรุษ บางเชื้อนะครับ..ตอนที่เป็นมนุษย์ เค้ามีความสามารถ
ทางจิตที่ค่อนข้างสูงครับ..สามารถทำอะไรที่พิเศษๆได้หลายอย่างมากครับ..
ดวงจิตต้นกำเนิดนั้น เคยยกขันธ์ครูบาร์อาจารย์มาหลายสายด้วยครับ..
เรียกว่า เป็นบุคคลที่มีความสามารถสูงแต่พลาดตรงที่บูชาครู หรือกระทำอะไรซักอย่าง
ที่ผิดทางสายครู เลยเป็นเหตุได้มาเป็นต้นกำเนิดบรรพบุรุษครับ..และก็ต้องดูด้วยครับ
ว่า..เค้าไม่ชอบอะไรครับ..โดยมากกลุ่มนี้เค้าจะไม่ชอบ พราหม์ ไม่ชอบห่มเหลือง.
้ไม่ชอบคนนุ่งขาวห่มขาว ถ้าเอากลุ่มนี้มาเพื่อตัดสายเชื้อ รับประกันได้ว่าเค้าสามารถ
ที่จะทำให้เชื้อสายของเค้าตายได้แน่นอนล้านเปอร์เซนต์ครับ..ด้วยดวงจิตเค้าจะมี
ความสามารถในระดับขั้นที่จะหักคอเชื้อสายเค้าได้ครับ...แต่แปลกมากกลับพบว่า
เค้าจะยอมเฉพาะกับบุคคลที่เป็นร่างทรงด้วยกันครับ..ร่างทรงแบบที่ทรงเจ้าเข้าผี
นั่นหละครับ...ที่เล่าให้ฟังมาโดยส่วนตัวไม่ทราบว่าจะเอามะพร้าวห้าวมาขายสวน
หรือเปล่านะครับ...
แต่ประสบการณ์ที่เล่าให้ฟัง ก็เพราะเคยมีประสบการณ์มาบ้าง
และสงสัยว่าห่มเหลืองท่านนั้นก็ความสามารถทางจิตสูง เหตุใดท่านถึงไม่ทำการ
ช่วยเหลือให้ทันทีในขณะนั้นนั่นเองครับ...เหตุมันก็มีประมาณอย่างที่ได้เล่าให้ฟังครับ
ปล.หวังว่าจะพอมีประโยชน์นะครับ...

 

ท่านณัฐวุฒิ..เอ๊ย ท่านนพการครับ มีคนชื่นชมว่าหน้าตาดูเป็นคนฉลาด และพูดเก่ง ยังไงก็อย่าลืมท่องสูตรคูณโชว์สักหน่อยนะครับ...บ้างก็ชมว่าแววตามีพลังน่ากลัว ...แต่ผมเห็นท่านที่ยืนคุมหลังให้หลายตนนั่น กำลังมากมายเลยทีเดียว...การได้รับความเมตตาระดับนี้ได้ก็นับว่ามีบุญวาสนา ไม่ธรรมดาจริงๆ...

คนอาภัพอย่างผมนี่น่าเห็นใจมาก...ฝึกกันแทบรากเลือดลงแดงตาย กว่าจะพอตะเกียกตะกายตามชาวบ้านเขามาได้บ้าง...

ว่าถึงกรณีแรก ที่สืบสายเชื้อมานั้น มีบางเรื่องที่ผมเห็นแล้วก็ยังไม่เข้าใจเหมือนกันครับ สมัยก่อนลูกน้องผม มีแม่ยายเป็นสายเชื้อครูมโนราห์ ทุกๆ3ปี ต้องมีการเซ่นไหว้ ในงานก็จะลงเหมือนกับทรง แล้วรำมโนราห์อ่อนช้อยสวยงาม (ฟังเขาว่ามาอีกที)

ตอนเกิดเรื่อง คือ ลูกน้องผมว่าแม่ยายโดนผีเข้า ไปถามทั้งพระทั้งฆารวาสแท็คทีมกันมาไล่ออกส่วนผมเข้าไปเป็นผู้สังเกตการ...
เสร็จพิธี ดูเหมือนหาย ผู้ที่มาไล่ก็บอกว่าออกไปหมดแล้ว แต่ที่ผมเห็นมันยังหลบอยู่ในไขกระดูก ยังเป็นปื้นๆดำๆ เพียงแค่ไม่ปรากฎเป็นรูปร่างให้เห็น...
หลังจากผู้ที่มาไล่กลับไป ลูกน้องก็มั่นใจว่าแม่ยายหายแน่แล้ว แต่ผมกลับเห็นว่าจะต้องตายภายใน 3 เดือน...

ครบ 3 เดือนก็ตายตามว่ามา ลูกน้องก็ชักจะคิดว่าผมเฮี้ยนซะแล้ว มาดูกันต่อว่า ใครจะสืบเชื้อต่อ ระหว่างน้องชาย กับเมียตัวเอง...
ลูกน้องเล่าว่า วันทำพิธีไหว้ผีปู่ผีตา ซึ่งก็คือเชื้อนี่แหละมั๊งครับ น้องเมียที่เป็นผู้ชายก็ลุกขึ้นมารำมโนราห์อย่างสวยงาม ผิดจากปรกติที่ทำตัวกากมาก...
จึงมั่นใจว่าเป็นน้องเมียที่รับสืบเชื้อต่อ....

แต่ที่ผมเห็นนี่ผมเห็นว่าเมียมันนี่แหละที่สืบเชื้อต่อ....
ต่อมาไม่นาน ก็เป็นดังว่า ทั้งสองคนมาหาผม บอกว่าหลวงพ่อทวดจะมาประทับทรงที่เมียลูกน้อง แล้วให้รักษาศีล8 ทุกวันพระ จะทำยังไงดี...

อาศัยบารมีพระท่านสงเคราะห์ ผมเห็นว่านิมิตที่อยู่ตรงหน้าเป็นหลวงพ่อทวด แต่ด้านหลังไป มันสูงสัก 10 เมตร ตาโปนแดง ผมกระเซิง ห่มดำคลุมแค่ไหล่ ปากแสยะ มีเขี้ยว2อันโค้งขึ้นเหมือนเขี้ยวหมูป่า...ผมเข้าใจเอาเองว่าคงมีฤทธิ์ไม่ธรรมดา เนื่องจากไม่เคยคุ้นหน้าคุ้นตาครับ เพราะพวกอสุรกายจะไม่ค่อยกล้า ซ่าขนาดนี้ ผมเลยเรียกของผมเองว่า ปีศาจ (มั๊ง...คือไม่รู้จะเรียกว่าตัวอะไรดีน่ะ)

มาถึงเรื่องที่ไม่เข้าใจครับ...
1. เวลาถ่ายทอดเชื้อลงมาสู่ลูกสู่หลาน จะมีแต่ลูกหลานคนใดคนหนึ่งได้รับเชื้อนี้ หรือว่าทุกคนต้องได้รับเชื้อนี้มาด้วยกันหมดครับ?
2. ตัวโตๆดำๆตาโปนๆนี่ ในสารบบ จะเรียกว่าอะไรครับ แล้วความเป็นมาเป็นไปของพวกนี้มาจากไหนยังไงครับ?
3. ทำไมต้องให้รักษาศีล 8 ทุกวันพระจนครบ 7 ครั้ง?

ภายหลังจากเมียลูกน้องรับเข้ามา ชีวิตก็เปลี่ยนไปมาก มีกิจการโรงทำขนมเส้น ขายส่งทั่วจังหวัดสุราษฏ์ แล้วเลยไปถึงนครฯ เกิดร่ำรวยทันตาเห็น...เป็นแพทเทิ่นทั่วไปแล้วตอนจบก็หายนะบรรลัย...หรือเปล่า... เพราะกำลังดูว่าแม่ตาไฟ หรือตอนนี้กำลังตาลายจากค่าเปลี่ยนจอฯ จะมีการเปลี่ยนแปลงของชีวิตในทางด้านความร่ำรวยตามมาด้วยหรือเปล่า ภายหลังการรับท่านเข้ามาเต็มตัวแล้ว???

 

อะจึยย!! โดนแซวจนได้ ๕๕๕ แห๋มๆๆ..ตาดีเหมือนกันนะครับ.
น้อยคนนะครับ.ที่จะเห็นได้ส่วนมากจะเป็นห่มเหลือง
กับพวกใช้งานทางสายตาได้ในระดับตาเปล่า.
และก็ส่วนมากจะมีแต่วิญญานที่เห็นได้ ๕๕๕
และขอบคุณที่เตือนเรื่องท่องสูตรคุณครับ..เด่วนี้สงสัยว่า
จะอายุมากขึ้นแล้วครับ..เมื่อก่อนเนี่ย.เจอสมการหนึ่ง
เอาจนสามารถพิสูจน์สูตรได้ครับ เด่วนี้ ย้ายข้างยังไม่ค่อย
จะถูกเลยคร๊าบบบ ๕๕๕๕ และคำถามขอตอบตามความเข้าใจนะครับ
ข้อ ๑. ตอนแรกเคยเข้าใจว่า เลือกเฉพาะบางคนครับ..พอหลังมีประสบการณ์
พบว่าจริงๆเค้าสืบเชื้อโดยอัตโนมัติกับที่เป็นสายเลือดทุกคนครับ..แต่จะมีบางคน
ที่จะแสดงอาการชัดเจนครับ..คำตอบนี้สังเกตุจากการที่ห่มเหลืองจิตไวท่านนั้น
ท่านย้ำว่าให้ลูกหลานทุกๆคนมาทำพิธีตัดขันธ์ครับ..
ทั้งๆที่มีหลายคนยังไม่แสดงอาการนะครับ ประเด็นนี้
ขอไว้เจออีกหลายๆเคสก่อนครับถึงค่อยกล้ายืนยันนะครับ
๒.ส่วนตัวเรียกไม่ถูกเหมือนกันครับ ว่าภูมิอะไร แต่ก็พอเทียบได้กับภูมิอสูรกายครับ
ที่ไม่ใช่อสูรกายกึ่งเทพนะครับ...
เพียงแต่กลุ่มนี้จะเด่นในเรื่องของฐานสมาธิกำลังสูงมาก่อน
และก็ที่ทำให้แปลกใจก็คือมีเมตตาออกจากจิตออกจากหน้าอก
มาก่อนด้วยนะครับ..อืมๆๆแต่มาพลาดตรงที่ไปเล่นอะไรทำวัตถุอะไร
ที่เกี่ยวกับการไปส่งเสริมเรื่องทางช่วงล่างครับ.
ตัวกระแสจิตจึงโดนตัดขาดจากข้างบนครับ...
ส่วนข้อ ๓ วันพระเป็นวันเดียวที่กระแสจิตคนที่ทรงจะเชื่อมข้างบนได้ตลอดเวลา
และที่สำคัญคือกระแสที่เชื่อมจะนิ่งด้วยครับ..แต่มีข้อแม้ว่าเค้าต้องรักษาศีล ๘ ได้นะครับ..
ส่วนตัวมองว่าภพภูมินั้นเค้า
น่าจะอาศัยช่องทางนี้ในการเข้ามาครับ.เนื่องจากเทวดาประจำตัวจะขึ้น
ไปยังเจดีย์แห่งหนึ่งข้างบนครับ..
ส่วนแม่ตาไฟ ขอดูอยู่ห่างๆ อย่างห่วงๆดีกว่าครับ..แต่เค้าดูจะเข้ากับภูมิที่อาศัย
อยู่ร่วมกับเค้าตอนนี้ได้ดีนะครับ ยกเว้นที่ตามคนขาวๆครับต้องอีกซักพัก
และตอนนี้ภูมิที่อยู่รอบๆด้วยก็น่าจะดีขึ้น
อยู่นะครับ..ไม่งั้นส่วนตัวคงได้ไปยืนแถวๆนั้นแล้วครับ ช่วงที่ผ่านมานะครับ.

ปล.ถ้าไม่ได้เปลี่ยนจอคงไม่เป็นครับ..๕๕๕

 

น่าสนใจวิธีการตัดขันธ์นะครับ...
เพราะลูกหลานหลายๆคน คงไม่อยากสืบทอดอาถรรพ์ลักษณะนี้ หรือมีเอาไว้กับตัวเอง
ผมอยากรู้ไปอย่างนั้นเองนะครับ แต่ไม่อยากเข้าไปยุ่งเกี่ยวด้วยสักเท่าไร เพราะเกรงว่าถ้าพลาดท่าเสียทีมา อาจจะได้หยอดน้ำข้าวต้ม คงต้องให้คนอย่างคุณนพฯ นี่แหละครับ ไปร่วมด้วยช่วยสงเคราะห์...ผมก็พวกสอดรู้สอดเห็น ปลูกเผือกบ้าง กินเผือกบ้าง เป็นที่สนุกสนานก็พอแล้ว...

ประเภทที่2 คือพวกที่โดนเจาะกระโหลกเข้าไป ถ้าเป็นลักษณะนี้จะไม่มีการถ่ายทอดไปสู่ลูกหลานใช่ไหมครับ?

อีกจำพวกนึงคือ พวกที่เขาเรียกกันว่าทวารเปิด พวกนี้ผ่านไปทางไหนที่มีผีสาง ภพภูมิล่างๆอาศัยอยู่ ก็จะสามารถเข้ามาอาศัยร่างของพวกนี้ได้ แทบจะเรียกว่าผีตัวไหนอยากประทับทรงหมอนี่ก็เข้ามาได้เลย...พวกนี้จะเกิดจากอะไรได้บ้างครับ แล้วหากจะแก้ไขมีวิธีทำยังไงบ้างครับ?

ปล.ถามไว้เป็นความรู้ประดับบารมีสักหน่อยเท่านั้นเอง ไม่ได้จะไปรับแก้ไขให้ใครนะครับ...

 

ฟังท่านทั้งสองคุยกัน สนุกครับ ได้ความรู้ด้วย
แต่ผมมองอะไรไม่เห็นซักอย่าง สงสัยจิตหยาบมากกก