ผม...พระ...และ...สาระยุคก่อน

สวัสดีครับพี่modpong
สวัสดีครับทุกท่าน

 

อากาศเปลี่ยนแปลงมากเลยครับ รักษาสุขภาพด้วยนะครับพี่ อย่าสอนลูกศิษย์และน้อง ๆ ดึก มาก นะครับ

 

หวัดดีครับพี่modpong ยังติดตามกระทู้พี่อยู่ตลอดครับ

 

..........................................
...ขอบคุณที่เป็นห่วง..น้องกำธร..แต่เสียอย่างเดียว..พี่นอนหัวค่ำไม่เป็นซะด้วย...ตี๓กว่าๆ..ถึงจะเริ่มง่วง.........

 

ขอขอบคุณ
ทุกท่านที่ได้postมา.....

...............................การพิจารณาพระ..ของคนรุ่นก่อน..................................

จมูก........................

..............ครับแน่นอน...ว่าจมูกต้องเอาไว้..ดมกลิ่น..แน่...คนรุ่นก่อน..จะใช้จมูก
ดมกลิ่น..พระ..กันมาก..บางคนก็ซวยหน่อย..เพราะสมัยก่อน..พวกพระเนื้อผง..
หรือ..แม้กระทั่ง..พระดินเผา..ก็ชอบ..เอาดอกมะลิ..ไป..อบ..ไว้..จะได้..หอมๆ
..เรียกว่า..ส่องไป..ดมไป..ชื่นใจดี..แต่หารู้ไม่..ว่าในดอกมะลิมันะมี..แมลงตัวจิ๋ว
..อยู่..ถึงดอกแห้งแล้ว..มันก็ยังอยู่ได้..เขาว่าเป็น..ไร..ชนิดหนึ่ง..ดมไป..ดมมา
มันก็ถูกดูด..เข้าไปใน..จมูก..แล้วก็..คัน..จาม..น้ำมูกไหล..หลายคนเป็นภูมิแพ้
ไปเลย..เพราะไม่รู้ตัว..บางคนเอาพระไปให้..คนอื่นเช็คให้..ก็ไม่รู้ว่ามันติดไป
ด้วย..ไอ้คนดู..ก็ไม่ทันดู..ดมก่อน..เผลอๆ..จามรด..พระองค์ที่ไปดู..ส่งไปเลย
....ไร..พวกนี้..ชอบอยู่ตามพระผง..พระดินเผา..บางทีไม่ต้อง..อบมะลิ..มันก็
ยังมี..ฉะนั้นคนที่เป็น..รอบคอบยุคนั้น..เขาจะไม่ดมส่งเดช..ใช้.."ที่ปัดเลนส์"
....ซึ่งมันเป็นอุปกรณ์..ที่ใช้กับ..กล้องถายรูป..สมัยก่อน..มีที่เป่าลมติดกับ
แปรงปัดอยู่ด้วยกัน..เป่าด้วย..ปัดด้วยซะก่อน...จึงจะเริ่มดม(บางคนก็ใช้ไอ้ลูก
ยางกลมแดงๆปลายแหลม(เอาไว้สวนตูด)..แต่พวกนี้ส่วนใหญ่จะนั่งอยู่กับที่..
คนที่ใช้แบบนี้..ก็บอกดีกว่า..ลมแรงดี..แต่พกไปไหน..ไม่ได้เท่านั้นเอง...)
.....................................................................................................
.............ถึง..คนเราไม่ใช่หมา..แต่ประสาทการดมกลิ่น..ก็ไม่ได้เลวร้ายอะไร
..เราก็สามารถ..แยกแยะ..กลิ่นต่างๆได้มากมาย..บางคน..บางเผ่าพันธุ์..ก็มี
ประสาทการดมกลิ่น..เป็นเลิศ..ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายๆอย่าง...แต่ปัจจัยที่มี
ความสำคัญ..ด้านลบ..ก็คือ..ด้านที่ทำให้การสัมผัสกลิ่นไม่ได้ดี..ก็เช่น...
..เป็นคนที่ดูดบุหรี่(..เกิดกับตัวผมเองด้วย..ผมเริ่มศึกษาพระ..ตั้งแต่อายุประมาณ
๑๓ ขวบ..ตอนนั้นผมก็ดูดบุหรี่เป็นแล้ว..แต่ยังไม่ติด..จมูกก็ดีมาก..แยกแยะได้
ดี..หลังจากติดบุหรี่บ้าง..ผมก็รู้สึกนิดหน่อยว่า..เอ๊ะจมูกเราไม่ดี..เหมือนเดิม..
..แต่ก็ไม่มาก..จนสูบจัดขึ้น(วันละ ๑ ซองกว่าๆ)..มันก็ชัดเจน..)..คนเป็นภูมิแพ้
(หวัดเรื้อรัง)...คนที่ทำงานประจำในสถานที่มีกลิ่นค่อนข้างแรง...เป็นต้น.....
....ปัจจัย..ในด้านบวกก็คือ..คนที่อยู่อาศัย..และทำงานในที่ๆอากาศบริสุทธิ์..เช่น
..คนอยู่ต่างจังหวัดที่ห่างมือง..ทำงานกลางแจ้ง..เพศหญิง..ซึ่งเป็นเพศละเอียด
อ่อน..ซึ่งตามปกติ..จะไม่ทน..คือ..หนีจากกลิ่น..ไม่พึงประสงค์ต่างๆ..ทำให้ไม่
เสียประสาทการดม..ที่ละเอียดอ่อนไป...............
..........................ต่อตอนหน้าครับ....................................................
.......................................................สวัสดี..........................................

 

สวัสดีค่ะ คุณ ลุง และ เพื่อนๆสมาชิกทุกๆท่านค่ะ เจ้าตัวเป่าลมแบบในภาพใช่ไหมค่ะ ทีแรกที่ลินพบเจ้าแมลงกินพระ ลินก็คิดอยู่เหมือนกันค่ะว่าจะทำอย่างไรดี ให้เจ้าตัวนี้หลุดออกมาได้ เพราะเจ้าแมลงตัวนี้เล็กมาก มองด้วยตาเปล่าแทบจะไม่เห็นเลยค่ะ พอดีไปเดินเจอเจ้าตัวเป่าลมตัวนี้เข้าจึงคิดจะนำมาใช้กับเจ้าแมลง โชคดีจริงๆเลยค่ะที่ความคิด ของลินเข้าท่าไปตรงกับ ผู้รู้ในสมัยก่อน แต่เจ้าเป่าลมนี้ ลมไม่ค่อยแรงเท่าไรจริงๆด้วยค่ะ
คุณ ลุง รักษาสุขด้วยนะคะ ตอนนี้ลินเป็นหวัดเรียบร้อยแล้วค่ะ หุๆๆ

 

""......................................
...ถูกต้องครับ..แต่คุณลิน..ใช้ไม่ถูกวิธี..จะต้องถอด..เอาตัวแปรงออกก่อน..(ดึงหมุนไปมานิดๆ..แล้วดึงออกตรงๆ)...เวลากด..วางตัวกระเปาะ..ลงในอุ้งมือ..หันตัวปากชี้ลงมา..ทางข้อมือ..แล้วใช้นิ้วชี้..นิ้วกลาง..นิ้วนาง..กดพร้อมกันที่กระเปาะ..แค่นี้..ลมจะออกมาแรงเหลือเฟือ..แล้วครับ............

 

ฉลาดขึ้นแล้วค่ะ คุณ ลุง ลินก็มั่วมาเป็นปอยฝ้าย (งึกๆงักๆ) อยู่ตั้งนานหุๆ ขอบคุณค่ะ

 

ขอขอบคุณ
ทุกท่านที่ได้postมา...............

............................การพิจารณาพระ..ของคนรุ่นก่อน..................................

จมูก(ต่อ)

............................เรื่องของกลิ่น......................................................

............ไม่ว่า..วัตถุอะไร..มันก็มีกลิ่นทั้งนั้น..เมืองนอกเขาพิสูจน์มาแล้ว..มีแต่บาง
อย่าง..มันมีน้อยมากๆ..ต้องใช้สุนัข..พันธุ์ดมกลิ่นเฉพาะ..มาตรวจ..ถึงจะได้.......
.........พระที่..เราใช้การ"ดม"..ในการตรวจสอบ...นั้น..ก็..เรียกว่ามีแค่ .....
............พระเนื้อผง........
......กับ....พระเนื้อดิน......
........................................แต่องค์ประกอบนี่...ใช้ได้ด้วย..นั่นคือ..."รัก".......
.."รัก"ในที่นี้...ก็จะเป็นพวกตระกูล...รักน้ำเกลี้ยง..ทั้งหมด..ไม่ว่าจะเป็น..รักจีน..
...หรือ..รักผสม..ที่เป็นสีน้ำตาล..................
.....................................แต่สิ่งหนึ่ง..ที่คนเก็บพระ..ประมาท..คือทำแล้ว..นึกไม่ถึง
...ที่พบกันมากๆ..ก็คือ.....
๑. ....อบมะลิ
๒. ....อบน้ำมันจันทน์
................................อบมะลิ..ผมพูดไปแล้ว...ก็จะพูดถึง..น้ำมันจันทน์..ซึ่งกลิ่น
หอมของมัน..แรงกว่ามะลิ...ผมบอกไปแล้ว..เป็นค่านิยมในยุคนั้น..ชอบ..พระหอมๆ
..บางคนก็..แต้มไว้ที่กล่องเก็บพระบ้าง...บางคนหยดใส่สำลีไว้..ใส่กล่องพลาสติก
ใส่พระเล็กๆ..เปิดฝาไว้..แล้วก็ใสรวมในกล่องใหญ่อีกที.......
.....................หนักกว่านั้น..ชุบสำลีบางทาองค์พระเลยก็มี...บางคนใช้ทำความ
สะอาดพระ(..น้ำมันจันทน์มีคุณสมบัติ..พิเศษ..คล้ายๆพวก น้ำมันSONAX..สามารถ
ขจัดคราบได้พอสมควร)..ซะเลย..บางทีมีคราบโน่น..คราบนี่..มาติด..จะเอาแปรงใส่
แฟ็บ..มาขัดก็กลัวพระพัง..จะเล่นทินเน่อร์..น้ำมันไฟแช็ค...(น้ำยาล้างจาน..ยุคนั้น
ไม่มีนะครับ..แฟ็บเหลว..สบู่เหลว..ก็ไม่มีทั้งนั้น)...กลิ่นก็รับไม่ได้..แถมยังติดพระ
นานอีกต่างหาก....ก็เลยเลือกใช้น้ำมันจันทน์กัน(อ้อ..ลืมบอกไปว่า..พวกเหรียญ
ที่เจ้าของใส่เดิม..สนิมเขียวติดแน่นตามซอกเขรอะๆนี่..น้ำมันจันทน์..ก็สามารถ
ล้างได้สบายมาก..)......................................
................................ทั้ง ๒ อย่างยอดนิยม..นี่..กลิ่นจะติดแน่น..ยิ่งพระที่ผิวพรุน
อย่าง..พระเนื้อดิน..นี่กลิ่นติดหนึบเลย...ยิ่งทิ้งไว้นาน..เป็นปีๆยิ่งแล้ว..มะลิแม้มัน
จะแห้งเป็นสีน้ำตาล..มันก็ยังหอมอยู่ดี....
....................ถ้านักดม..เจอกลิ่น..แบบนี้..ส่วนใหญ่แล้ว..จะเลี่ยงไปเลย..เพราะมัน
จะกลบ..กลิ่นของเนื้อเดิม..หรือที่ไม่มีกลิ่นอยู่..ก็จะรับกลิ่นนี้เข้ามาแทน.........
...ตัดสินไม่ได้..ยกเว้นบางคน..ผมเคยได้ยินมาว่า..เก่งมาก..ยิ่งกว่าหมาพันธุ์ลาบรา
ดอร์..หรือ..บลัดฮาวนด์อีก..แยกได้...
......................ซึ่งบางที..จุดนี้..คนทำพระปลอม..จะเอาจุดบอดนี่มาใช้..โดย..อบ
มะลิ..หรือ..น้ำมันจันทน์มาเต็มเหนี่ยว..ไม่ได้เปลืองอะไร..แต่ก็ทำให้..สามารถทำ
ให้..ผ่านการตรวจสอบด่านนี้..ไปได้..............
.............นี่คือ..ข้อเสียเปรียบในวิธีนี้..คนเช็คพระ..ถามว่า..อบมะลิมากลบเกลื่อนรึ..
..ก็แค่บอกว่า..อบมาให้หอมเฉยๆ..หรือ..พ่อ..เขาอบมานานแล้ว...ยืนกระต่ายขา
เดียว..เข้าไว้..ก็ทำอะไรไม่ได้..เพราะพิสูจน์ไม่ได้ว่าเจตนารึเปล่า........
.............................ต่อตอนหน้าครับ.....................................................
.........................................................สวัสดี...........................................

 

คืนนี้พระจันทร์สวยงามมากเลยค่ะคุณ ลุง มารออ่านบทความมากด้วยสาระของ คุณ ลุง ค่ะ.... ตอนนี้ได้อ่านแล้วก็จะไปสวดมนต์ไหว้พระ และ คืนนี้จะอาบน้ำ้จันทร์เพ็ญด้วยค่ะ... คุณ ลุง ออกมายืนชมจันทร์ เพิ่มพลังให้สุขภาพด้วยนะคะ ขอบคุณค่ะ

 

สวัสดียามเย็นครับ คุณอา และสมาชิกทุกท่านครับ

 

หวัดดีครับพี่modpong ได้ความรู้เพิ่มขึ้นเยอะเลยครับ

 

ขอขอบคุณ
ทุกท่านที่ได้postมา....

............................การพิจารณาพระ...ของคนรุ่นเก่า...............................

..หู(ตอนพิเศษ..เพิ่มเติม)....

......................ผมขอ..คั่นเรื่อง..จมูก..ไว้ก่อน..ความจริงจะเขียนไว้ในตอนท้าย
..ของเรื่อง..หู..อยู่แล้ว..ดันลืม..เพิ่งนึกขึ้นมาได้...เลยต้องรีบแทรกก่อน..เพื่อจะได้
จบเรื่อง..หู..สมบูรณ์....................................
............................................................................................................
............เรื่องนี้..เป็นเรื่องสำคัญ..เทคโนโลยี..ยุคนั้น..ด้อยกว่ายุคนี้..แต่ก็มีคนเริ่ม
ใช้บ้าง(ในช่วงปลายยุค)..แต่จะเป็น..พวกเซียนพระใหญ่..ซื้อขาย..กันเป็น..แสนขึ้น
ไป..แต่ก็น้อย..ส่วนใหญ่ระดับกลาง..หรือ..ต่ำกว่านั้น..บางคนยังไม่รู้จักก็มี.....
..............เรื่องที่ว่านี่คือ...การตรวจสอบว่าเป็นพระหัก..แล้วเอามาซ่อมกลบเกลื่อน
ว่าเป็นพระสมบูรณ์..............................................................................
......................................แน่นอนมันจำเป็น...เพราะคนที่อยากเช่าก็อยากได้..พระ
สมบูรณ์กันทั้งนั้น...พระหักซ่อม..ต่อให้เป็นพระแท้..คนก็ไม่ค่อยอยากได้(ยกเว้น..
หักคอมา..ถูกๆ..แล้วเอามาซ่อมใหม่อย่างดี..ลงทุนค่าจ้างมือกระบี่..ระดับต้นๆ...
องค์ละหลายพัน...พอเอาไปปล่อย..ได้ราคาเหมือนพระสมบูรณ์...(ในยุคก่อนนะครับ
...อย่าเอามาปนในยุคนี้..ยุคนั้น..โดนกันไปเยอะแล้ว...)...เรียกว่า..ไม่ใช่ตัวเอ้..จริงๆ
...ใช้ตาส่อง..หารอยซ่อมไม่เจอ..หรอกครับ..มันเก่งจริงๆ...).......
...........ตอนปลายยุคก่อน..ผมเคยได้ยินมาว่า..แต่ไม่ยืนยัน..นะครับ...ก็มีหมอฟัน..
ที่โรงพยาบาลในกรุงเทพนี่แหละ..แกชอบเล่นพระ...เวลาทำ X-RAY ฟัน.แกก็ดูฟิลม์
ฟัน..อยู่บ่อยๆ..แกได้ไอเดีย..ก็เลยเอา..พระแกเองไปลองทำดูมั่ง..(ถ้าใครเข้าใจผิด
..ว่าไอเดีย..มาจากเซียนมืออาชีพ..ขอบอกเลยว่า..ยากมาก..เพราะสมัยนั้น..เครื่อง
X-RAY ฟันมีแต่ที่โรงพยาบาล..คลีนิคไม่มี..แล็ปทำฟัน..ยุคนั้นก็ไม่มี...ฉะนั้นการใช้
เครื่อง..ถ้าหมอไม่สั่ง..คุณอยู่ดี..ขอไปx-ray..พระก็โดนไล่กระเจิง..เขาทำไว้ใช้กับ
..ฟันอย่างเดียว..)...แกก็คงเอาผลงาน..ไปให้นักเล่นด้วยกัน..ก็เลยเป็นที่นิยม..แต่
ยุคนั้น..ต้องมีการติดต่อกันพิเศษ...ไม่ทำกันสะดวกเหมือนยุคนี้..........
...และขอแทรกเพิ่มเติมให้หน่อย..ว่า..เครื่องX-rayฟัน..ในปลายยุคนั้น..มีไม่ถึง๑๐
เครื่อง..ในประเทศ..อยู่ในโรงพยาบาลใหญ่ๆ..คณะทันตแพทย์ยุคนั้น..ก็มีที่เดียว
คือมหาวิทยาลัยแพทย์ศาสตร์..แล้วก็โอนย้ายมาเป็น..คณะทันตแพทย์ของ..จุฬา..
..................นี่แหละครับ...เลยเป็นการปฏิวัติ..การตรวจสอบ..ร่องรอยการซ่อมได้
อย่างสมบูรณ์..แบบที่สุด..ต่อให้โคตรเก่งมาจากไหน..ก็หลอกเครื่องไม่ได้....
......................ส่วนการใช้..หู..กับการตรวจสอบ..การหักซ่อมนี้..คือ..วิธีทั่วไปใน
ยุคนั้น...นอกเหนือ..จากการดูด้วยตา.........
............................................ต่อตอนหน้าครับ...........................................
.................................................สวัสดี...................................................

 

สวัสดีค่ะ คุณ ลุง โอ้โห..ไฮเทคมากๆเลยนะคะ แต่อย่างว่าละค่ะ ของราคาแพงเสียเงินได้แต่คงไม่ยอมเสียหน้าแน่ๆเลยค่ะ ข้อมลูของ คุณ ลุง สุดยอดเลยค่ะ ขอบคุณค่ะ

 

สวัสดีครับคุณอา และสมาชิกทุกท่าน มารับฟังข้อมูลดีๆและมีประโยชน์มากๆครับ

 

ขอขอบคุณ
ทุกท่านที่ได้postมา..........................

..............การพิจารณาพระ...ของคนรุ่นก่อน...................................

หู(ตอนพิเศษ).....

.....................การตรวจสอบพระ..หักซ่อม..................

....หลักการนี้..เป็นหลักการทางฟิสิกส์..(ควรไปอ่านตอนแรกๆเรื่องของ..หู..ประกอบ
ด้วย)....ก่อนอื่น..ผมต้องอธิบาย..การซ่อมพระในยุคก่อน..ซะหน่อย.....
...การซ่อมมีหลายระดับ..และ..วัสดุในการการต่อเชื่อม..ก็มีหลายอย่าง....ผมคงเลือก
เอาแบบที่นิยม...
...ระดับต่ำสุด...
......คือใช้..กาวยิ่ห้อ "ดูโก้"(ประเภทเดียว..กับ..กาว"ยู้ฮู"สมัยนี้..สมัยโน้น..ผมว่ากาว
แบบนี้..ไม่เห็นมียี่ห้ออื่นที่นิยมเลย..นอกจาก"ดูโก้")..ทาบางๆให้ทั่วถึง..แต่ต้องไม่ถึง
ขอบที่แตก(ไม่งั้นกดแล้วกาวจะปลิ้น(BLEED)ออกมาด้านนอก)..ทิ้งให้แห้ง..แล้วกด
กดทั้งสองชิ้นเข้าหากันให้แน่น...กาวแบบนี้..ไม่ค่อยทนแรงกระแทก..จัดว่าคุณภาพ
ต่ำสุด.......
...ระดับกลางยอดนิยม..และ..ถูก
............ก็"กาวหนัง(วัว..ควาย)"..ที่ใช้ติดรองเท้า..เวลาคุณไปร้านซ่อมพื้นรองเท้า..
ข้างถนน..ก็นี่แหละครับ..เก่าแก่..ใช้กันมานาน...การจะติดแน่นไม่แน่น..ขึ้นกับ..ความ
หนาที่ทา(ทาหนาไม่ได้..กาวหนังเป็น..กาวที่ทายาก..ที่สุดในขบวนกาวทั้งหมด)...
..เวลาที่ทิ้งไว้..ทิ้งไว้ให้แห้ง.นานไปก็ไม่ดี...แรงที่กด..กดไม่แน่น..กาวติดไม่ดี..
กดแรงไป..พระอาจจะบิ่นได้...............แต่ถ้าทำได้ดี..จะแข็งแรงและพระจะติดกัน..
แน่น..ดี..เทคนิคจะเหมือนกันในอันแรก..คือต้องไม่ให้กาวปลิ้นมาที่ผิวให้ได้....
...ระดับดี..แพงหน่อย..
.....ในปลายยุคก่อน..กาวEPOXY..เริ่มนำเข้ามาขาย..แล้ว..เป็นหลอดคู่เหมือนในยุค
นี้..แต่มีแบบเดียวคือ.."สีขาวขุ่น"(แบบใส..มาทีหลัง)..เป็นกาวที่ติดแน่นที่สุด..และไม่
จำเป็นต้อง..ทาทั้งสองด้าน..แบบ"กาวหนัง"..แต่ข้อเสียคือในยุคนั้น..กาวจะติดแน่นดี
ต้องกดกันไว้..ไม่ต่ำกว่า ๒๐ ชั่วโมง..แต่ไม่ต้องห่วงครับ..ช่างซ่อมพระ..จะใช้"ตัวจับ"
(C-CLAMP..ที่เค้าเอาไว้ใช้..จับชิ้นงานไม้..ใช้ในการติดเชื่อมงานไม้ด้วยกาวLatex..
..เป็นต้น)ตัวเล็กๆติดไม้(หรือแผ่นหนัง)ไว้ที่ปากจับ..แล้วเอาผ้าขนหนูหุ้มอีกทีเพื่อให้มันนิ่ม..ขัน
เกลียว..ให้พอแน่น..แล้วทิ้งไว้เลย..แต่อย่างที่บอกอย่าให้กาวปลิ้นออกมา..เป็นใช้ได้
..............มีอีกตัว..แพงเช่นกัน..แพงกว่าด้วยซ้ำ..ก็คือ..ปูนกาวที่หมอฟันใช้ซ่อมฟัน
(คนละตัว..กับ..ปูนที่ใช้ทำแม่พิมพ์..พิมพ์ฟันของหมอฟัน..ตัวนี้ก็ใช้ครับ..จะพูดถึง
ตอนหลัง)..ปูนกาวตัวนี้.หมอฟัน..ใช้เวลาที่ฟันคุณแหว่ง..แล้วเขาเอามา..แต่งเป็นรูป
ฟัน..นั่นแหละ..ติดแน่นมาก..สีขาว...เวลาซื้อมีขายอยู่แหล่งเดียว..คือร้านขาย...
อุปกรณ์ทำฟัน..แถวๆเยาวราช..แข็งเท่ากับฟันละครับ(อันนี้แหละ..ตัวทีเด็ด..ที่ยังใช้
กันอยู่ในปัจจุบัน..เอาไว้ซ่อมพระ..ระดับหลายหมื่น..ถึง..เป็นแสน..แข็งยิ่งกว่าEPOXY
..แต่ไม่เหมาะกับ..พระเนื้อดิน...ซึ่งเนื้อจะพรุน..แต่ถ้าเป็น.วัดระฆัง..บางขุนพรหม..ละ
ยกให้เขาเลย..)..........
...................ไอ้ตัวที่สำคัญที่สุด..ก็คือขั้นตอนการ..เกลี่ยผิวปิดรอยต่อ..ซึ่งจะพิสูจน์
ฝีมือ..และเป็นตัววัดระดับ..และ..ระบุค่าตัว..ของช่างซ่อม..มันเป็นงานศิลป์..ระดับสุด
ยอด...จับได้..จับไม่ได้.ก็อยู่ตอนนี้ละครับ..........
.................................ต่อตอนหน้าครับ..................................................
.................................................................สวัสดี.......................................

 

สวัสดีค่ะ คุณ ลุง ยิ่งอ่านยิ่งได้ความรู้ สุดยอดเลยค่ะ ขอบคุณค่ะ

 

หวัดดียามเช้าครับพี่modpongและสมาชิกทุกๆท่าน :boo:

 

สวัสดีครับพี่ และทุกๆท่าน เนื้อหาเข้มข้นเหมือนเดิมเลย ติดตามเสมอครับ

 

สวัสดียามเย็นครับ คุณอา และสมาชิกทุกท่าน