ผม...พระ...และ...สาระยุคก่อน

รอตอนต่อไปด้วยความระทึกในดวงหทัยพลัน

ขอบพระคุณคุณอาที่ช่วยเปิดโลกทัศน์ครับ

 

สวัสดีครับคุณอา และสมาชิกทุกท่าน มารับฟังตอนต่อไปครับผม

 

สาธุๆ

สุดยอดเลยครับอาจารย์ลุง ความรู้แบบนี้เรียนกับอาจารย์ลุงไม่รู้จบจริงๆ ไม่มีใครเกินนี้แล้ว ตาสว่างเลย __^/|^__
______________________________
hello9
กลุ่มพลังจิตพิชิตภัยพิบัติจังหวัดเพชรบูรณ์
กลุ่มพลังจิตพิชิตภัยพิบัติจังหวัดเพชรบูรณ์มาทำงานกัน

แจกเหรียญน้ำมนต์รุ่น 4 รูปลักษณ์หลวงปู่เทพโลกอุดร ครับ
แจกเหรียญน้ำมนต์รุ่น-4-รูปลักษณ์-หลวงปู่เทพโลกอุดร-ครับ<!-- google_ad_section_end --> ​

 

รอชมตอนต่อไปครับ พี่ modpong ขอบคุณมาก ๆ ครับ

 

เข้ามาติดตามคุณลุงครับ

 

สวัสดียามดึกค่ะ คุณ ลุง ไปเจอมา เขาบอกว่าสมเด็จเนื้อแบบนี้ เรียกเนื้อสังขยา ใช่ไหมค่ะ ขอบคุณค่ะ

 

.................................
...ความหมาย..ที่ต้องการให้ตอบคือ..อะไร.....คำว่า..."สมเด็จองค์นี้เป็นเนื้อแบบสังขยา"...นั่นหมายความว่า..เขาต้องตีความว่า..เป็นสมเด็จวัดระฆัง..ซะก่อน..โดยทั่วไปจะไม่ใช้กับ..พระชนิดอื่น(แต่เดี๋ยวนี้..ไม่แน่)....ผมก็...ไม่เชี่ยวชาญพระสมเด็จ..ซะด้วย..แต่พอมีความเข้าใจอยู่บ้าง..คุณลิน..คงเคยกินสังขยา..เวลาเอาช้อนตักแล้ว..เห็นเนื้อข้างในมัน..มันเป็นแบบนี้รึเปล่า..ผมอยู่เมืองเพชรบุรี..แดนแห่งสังขยา..และกินประจำ..ผมว่้ามันไม่น่าใช่นะ..แบบนี้ถ้าเป็นสังขยา..ก็เป็นสังขยาที่เสียแล้วแน่..เพราะมันเละ..และขยุกขยุย..เกินไป....
...ผมว่าลองไปถามห้องดูพระเครื่องดีกว่า...เขามีกระทู้พระสมเด็จ..คงให้คำตอบดีกว่าผมแน่............

 

สวัสดีครับคุณอา และสมาชิกทุกท่านครับ

 

ขอบคุณค่ะ คุณ ลุง ลินซื้อหนังสือ วิธีศึกษาพระสมเด็จมาแต่ยังไม่ได้อ่าน คงต้องหาเวลาอ่านแล้วค่ะ ขอให้ได้เพิ่มความรู้นิดหน่อยก็ดีค่ะ ขอบคุณค่ะ

 

ขอขอบคุณ
ทุกท่านที่ได้postมา............................

......ตอนแทรกพิเศษ...อันเนื่องมาจาก..คำถามคุณเฉียวฟง......................

................การกำจัด..คราบสนิมสีเขียวอมฟ้า..ออกจาก..พระโลหะ..เหรียญพระ...
....และ..เหรียญสะสม..รวมถึง..เครื่องรางของขลัง..และ..วัตถุโบราณ............(ต่อ)

....................นอกเหนือจากที่ผม..กล่าวมาเบื้องต้น..เมื่อ ๒ ตอนที่แล้วว่า....
...ไอ้ตัวเขียว..นี่มันคือ..........เกลือของทองแดง..ตัวมันประกอบด้วย..อนุภาค
บวก..และ ลบ..(ทำนองเดียวกับแม่เหล็ก..ขั้วบวก..จะดูดกับขั้วลบ).....มันจึงสมดุลย์
...ดูดติดกัน..ได้..และไม่แยกจากกัน..ด้วยสภาวะปกติ..........................
................บวก..ก็คือ..โลหะธาตุ..นั่นคือ..ทองแดง(COPPER)...เป็นความแข็งแกร่ง
...ผมจะเปรียบเทียบกับ...ชายหนุ่มแข็งแรง..วัยเจริญพันธุ์......มีความปราถนาอยู่ตลอด
เวลา...................
.............ลบ....ก็คือ..สารประกอบที่เกิดจาก..อินทรีย์ธาตุ(ธาตุที่ไม่ใช่โลหะ..เป็นส่วน
ประกอบในสิ่งมีชีวิตทั้งหลาย)....ในที่นี้..ส่วนใหญ่ตัวหลักใหญ่ๆคือ..คาร์บอน(C)....
เพราะมันจะมากับ..อ็อกซิเจนอยู่แล้ว..ในรูปของ คาร์บอนไดอ็อกไซด์...และยังมากับ
อากาศเสียด้วย..เช่น..ควันรถยนต์..คือ..คาร์บอนมอนน็อกไซด์...ส่วนธาตุอื่นๆรองลง
มา(ในสภาพก็าซโดยจับกับ..อ็อกซิเจนเช่นกัน)ขึ้นกับ..สภาวะที่พระของท่านเผชิญอยู่..บ้านมีปุ๋ยเพียบ..ก็ ฟอสฟอรัส(P)......
...ไนโตรเจน(N)..(อยู่ติดโรงงานอุตสาหกรรม..ก็เยอะ)....บ้านอยูใกล้คลองน้ำเน่า..ก็
ซัลเฟอร์ (S)...................
(..แต่นอกเหนือจากอินทรีย์ธาตุ..พวกนี้..ยังตัวแสบอีกหนึ่ง..คือ คลอรีน(Cl)..ที่ร่วม
ด้วย)
..........พวกนี้เวลามันมามันก็เป็น..ก๊าซ..ลอยมาตามอากาศ..โดยจับตัวกับ..อ็อกซิเจน
(..แต่..คลอรีน..มันไม่ต้องพึ่งอ็อกซิเจน..เพราะเป็นก็าซ..อยู่แล้ว..ลอยมาได้เอง...
...แถม..ยังแทรกตัวมากับ..น้ำได้อีกต่างหาก...เป็นพวกอิสสระ).....................
...แต่พอมาปะทะกับผิวพระ..มีความชื้นมาประกอบ..มันก็แต่งตัวใหม่.....เพื่อล่อ..ไอ้
ทองแดงที่อยู่กันเดิมอย่างดี..กอดเกี่ยวสามัคคีแน่นปึ้ก..เวลาอะไรมากระแทกยังไม่
แยกจากกัน..ดังที่ผมเปรียบดั่งผู้ชายแข็งแรงนั้นแหละ......................
.....................ผมจึงเปรียบ..อนุภาคลบ..ตัวนี้..เหมือน..ผู้หญิงสาวหน้าตาดี..ที่ดูดไอ้
อนุภาคบวก..คือ..ทองแดง..ที่เดิมอยู่กันเหนียวแน่น..ตาลุกโพลง..ยอมทิ้งเพื่อนฝูง
มาจับคู่..กับ..สาวสวยพวกนี้...พวกนีก็มีหลายชาติพันธุ์ที่ปรับรูปโฉม..ใหม่แล้ว...
............ได้แก่....สาวคาร์บอเนต(CARBONATE)...........................มากที่สุด...
........................สาวไนเตรท(NITRATE)........
........................สาวฟอสเฟต(PHOSPHATE)...
........................สาวซัลเฟต(SULPHATE)....
........................สาวคลอไรด์(CHLORIDE).....(อันนี้..สวยเก่งเอง..และไม่ต้องพึ่ง..
อ็อกซิเจน..มาเป็นตัวช่วย).........................................
.........เมื่อจับคู่เรียบร้อย..มันก็..แปลงสภาพกลายเป็น.."ไอ้ตัวเขียว"..อย่างสมบูรณ์
.....................เมื่อไอ้บวก..คือ..ไอ้อนุภาคทองแดงชุดแรก..โชคดี...จับคู่กับ..ลบ..
..หรือ..สาวๆ(ผมจะใช้...คาร์บอเนต..แทนไปเลย)คาร์บอเนตไปแล้ว..ทำให้ไอ้หนุ่มๆ
..ที่ยังเกาะกันเหนียวแน่น..เริ่มเขว..และอยากเป็นอย่างเขามั่ง.........
.......สาวคาร์บอเนตที่มาใหม่..ก็เช่นกัน..เห็นรุ่นก่อนมีคู่..เป็นฝั่งเป็นฝา..จึงเข้ามาทัก
ทาย..ปรากฏว่า..ไอ้ทองแดงกลัดมันที่อยากเป็นอย่างเขามั่งรออยู่แล้ว..ก็ทิ้งเพื่อนมา
จับคู่กับสาวสวยหน้าใหม่ด้วย.....มากขึ้น..มากขึ้น..และค่อยๆลามไป.....
..............................นั่นจึงกลายเป็น..สังคม..ของ"ไอ้ตัวเขียว"..ที่ลุกลามเพิ่ม....
ปริมาณ..ไปเรื่อยๆ................จนเราจะต้องกำจัด..นั่นแหละครับ................
................................ต่อตอนหน้า.....................................................
.....................................................สวัสดี..................................................

 

หวัดดีพี่modpongและสมาชิกทุกท่าน ยังคงต้องติดตามตอนต่อไปครับ

 

[Embarrass หุๆๆ คุณ ลุง อธิบายซะ...(ping-love... เลยค่ะ ขอบคุณค่ะ;ปรบมือ

 

สวัสดีครับพี่modpong
สวัสดีครับทุกท่าน

 

สวัสดีครับ คุณลุง

 

ติดตามสาระความรู้ต่อครับ...เห็นภาพตามเลยครับ

 

ขอขอบคุณ
ทุกท่านที่ได้postมา............................

......ตอนแทรกพิเศษ...อันเนื่องมาจาก..คำถามคุณเฉียวฟง......................

................การกำจัด..คราบสนิมสีเขียวอมฟ้า..ออกจาก..พระโลหะ..เหรียญพระ...
....และ..เหรียญสะสม..รวมถึง..เครื่องรางของขลัง..และ..วัตถุโบราณ............(ต่อ)
.....................
..........................................ถ้าเปรียบ...ก็คล้ายคน..ผู้ชายเอามือซ้ายโอบเอว...
.....ผู้หญิง..ผู้หญิงโอบเอวผู้ชายไว้...ส่วนผู้ชายมือขวา..ที่เหลือ..ก็ไปโอบคอเพื่อน
ยึดกันไว้...ส่วนสองขาก็เหนี่ยว..ดูดติด..กบาลเพื่อนข้างล่างที่ได้คู่แล้วไว้..แล้วไอ้
ตัวล่างสุดก็เอาตีนดูดติด..กบาลไอ้พวกที่ยังสามัคคีเหนียวแน่น..จริงๆคือคู่ยังไม่มา
ถ้ามา..ก็คงแปรสภาพเหมือนกัน.............
...................ดังที่ผมอธิบาย...ไอ้ตัวเขียวมันจึงเกาะกันแน่น..ติดกันเป็นยวง..และ
เพราะความสามัคคี...เมื่อมีอะไรมาพยายามแยกจากกัน..พวกมันที่ยึดติดกันเป็น..
ปึกก็ช่วยกันต้านได้.........
................ฉะนั้นจะเห็นว่า..เมื่อเราพยายามเช็ดมันออกไป..มันก็หลุดออกไปออก
ไปไม่มาก..และการที่ผิวโลหะด้านล่างที่ถูกแปรสภาพเป็นหลุมบ่อ..ทำให้มันยึดติด
ได้ดี...และการที่หลุมบ่อนั้นเล็ก..กว่าปลายวัสดุที่จะมาขัดมันออก..ทำให้มันก็ยัง
หลงเหลือเชื้อพันธุ์..และงอกงามต่อไปได้..ด้วยเวลาไม่นาน.....................
..................สรุปคือ..เราได้รู้จักไอ้ตัวเขียวมัน..ดีพอสมควรแล้ว..เราก็จะมาพูด
ถึง..วิธีการกำจัด..มันต่อ.......................
..........สุภาษิตเขาถึงว่า...ต้องรู้เขา..รู้เรา.....จึงจะทำการรบได้ดี................
....................รู้เรา..ก็คือ..รู้ศักยภาพ..ความสามารถ..ข้อจำกัด..ของเราเอง..
เราถึง..จะ..หาวิธี..ไปกำจัดมันได้.......................
.....................ส่วนอื่นผม..จะไม่พูด..มันจะเย่นเย้อไป..แต่ข้อจำกัดมีความสำคัญ
..ในการเลือก..วิธี...และ..วัสดุที่ไปเล่นงานมัน....
................วิธี........๑. ต้องไม่ยุ่งยากซับซ้อน..เอามันให้..ง่ายๆเท่าที่จะทำได้
............................๒. ต้องหลีกเลี่ยงไม่ให้เกิดอันตราย..กับสุขภาพตัวเอง...
............................๓. ต้องไม่สร้างความเสียหาย..หรือ..ไม่ก็ให้เสียหายน้อย
ที่สุด..กับบริเวณ..ส่วนอื่นที่ไม่มีไอ้ตัวเขียว.......................................
...............วัสดุ.......๑. ต้องหาง่าย..ซื้อได้ไม่ใกลบ้าน..หรือ..ที่ทำงาน..
.............................๒. พยายามใช้ของที่มีอยู่..หรือ..เหลือใช้..ถ้าไม่ได้ก็..
ไม่ควรแพง..
...........................นี่เป็นหลักการ..เคร่าๆ.....................................
..........จากที่ผมบอกไปตอนที่แล้ว............ว่า..จริงๆ...มันมีวิธีการหลักๆอยู่แค่
......................................๒ แบบ......................คือ...............................
..............๑. บังคับ..ด้วยแรง...ให้มันหลุดออกไป..โดยใช้คุณสมบัติของวัสดุที่
เราเลือกมา..เป็นตัวช่วย...............................................
..............๒. ให้มันหลุดออกไปเอง..โดยใช้คุณสมบัติ...ของวัสดุที่เราเลือกมา
..เป็น..ตัวจัดการ..แต่บางที..ก็อาจมีการใช้แรงประกอบ..เล็กน้อย..กรณี..ที่ยังมี
การดื้อบ้าง...............................................................
.............................ต่อตอนหน้าครับ...................................................
.........................................................สวัสดี.....................................

 

สวัสดีค่ะ คุณ ลุง และ เพื่อนๆสมาชิก ตอนนี้ใกล้จะถึงวิธีกำจัดจุดออ่นแล้วค่ะ มารอติดตาม และ เป็นกำลังใจให้คุณ ลุง เช่นเดิมค่ะ ขอบคุณค่ะ

 

สวัสดีค่ะคุณลุง...ตามน้องลินเข้ามา....
ฟังคุณลุงเล่าเรื่องต่อ....ชอบตอนก่อนค่ะ....

สาวคาร์บอเนต(CARBONATE)...........................มากที่สุด...
........................สาวไนเตรท(NITRATE)........
........................สาวฟอสเฟต(PHOSPHATE)...
........................สาวซัลเฟต(SULPHATE)....
........................สาวคลอไรด์(CHLORIDE).....(อันนี้..สวยเก่งเอง..และไม่ต้องพึ่ง..
อ็อกซิเจน..มาเป็นตัวช่วย).........................................

 

สวัสดีครับคุณอาและสมาชิกทุกท่าน มาติดตามอ่านตอนต่อไปครับผม

 

ขอขอบคุณ
ทุกท่านที่ได้postมา............................

......ตอนแทรกพิเศษ...อันเนื่องมาจาก..คำถามคุณเฉียวฟง......................

................การกำจัด..คราบสนิมสีเขียวอมฟ้า..ออกจาก..พระโลหะ..เหรียญพระ...
....และ..เหรียญสะสม..รวมถึง..เครื่องรางของขลัง..และ..วัตถุโบราณ............(ต่อ)

.................ผมจะมาเริ่ม..แบบแรกก่อน.....คือ...
............................ใช้กำลังบังคับ..แต่มีตัวช่วย............................................
..............ความจริง..ทั้งสอง..วิธีนั้น...มีการดำเนินการ...มาตั้งแต่..ก่อน............
......................................ปี ๒๕๐๐............แล้ว.....................................และ
มีเป็น..สิบๆอย่าง....ไอ้คนยุคนี้ซะเปล่า..................ที่ไม่รู้รื่อง...เพราะไม่รู้จักหัดคิด
เอง..เอาแต่ตามตูด...คนอื่น...ก็เลยนึกว่า..มีอยู่ไม่กี่อย่าง....แต่.............
สมัยก่อน...การสื่อสาร...การแพร่หลายความรู้...มันไม่มีโอกาศ..มากมายอย่างใน..
ยุคนี้.............คนสมัยก่อน..เขาก็ถือ..ข้อจำกัดเขา..เหมือนกัน..คือ..ถูก..หาง่าย..
ไม่ยุ่งยาก...อะไร..ใกล้มือ..ลองไปเรื่อยๆ..ใช้ได้ดีเขาก็ใช้ไอ้นั่น..อาจบอกเพื่อนฝูง
..ญาติที่สนใจ..ก็จบ..ถ้ายิ่งไม่ได้อยู่ในตัวเมือง..ก็อยู่แค่นั้น..เพราะสังคม..คนเล่นพระ
มันมีน้อย.......แต่...........
...............................หารู้ไม่ว่า..สมัยก่อน..เขาใช้กำจัดไอ้ตัวเขียว..กับเครื่องใช้มา
ก่อนครับ...สมัยก่อน..เครื่องทองเหลือง...ทั้งพวก มีด ช้อนซ่อม(ที่เราเรียกว่า.."เครื่อง
ใช้ลงหิน"..."มีดลงหิน".."ช้อนซ่อมลงหิน"...เครื่องมือที่ผลิตด้วยทองเหลือง..แต่เวลา
แต่งรูปร่างให้เนียน..หรือ..คม..เขาต้องใช้"หิน"...ก็เหมือนหินลับมีด..มาฝน..มาแต่ง..
เลย..เป็นที่มาขง..คำว่า.."ลงหิน")..ขันล้างหน้า....ก็ใช้ทองเหลืองทั้งนั้น....
......ทองเหลือง..ก็คือ..ทองแดงเป็นส่วนใหญ่..ผสมกับ..สังกะสี...ฉะนั้น..เมื่อส่วนใหญ่
เป็น...ทองแดง...ดังนั้น..ก็ไม่พ้น.."ไอ้ตัวเขียว".............
...............ดังนั้น..ปัญหานี้..ไม่ได้เกิด..กับนักเล่นพระ..อย่างเดียว...แต่ยุคหลังมาเป็น
ยุคแสตนเลส...ปัญหาในบ้าน..เรื่องนี้ก็แทบหมด..(แต่เครื่องครัวทองเหลือง.....ที่...
แสตนเลส..มาแทนไม่ได้..อย่างแน่นอน..และจะเป็นแบบนี้ไปชั่วกัลปาวสาน..คือ..
............กะทะทองเหลือง..เอาไว้ทำ..ฝอยทอง..ทองหยอด..ฯลฯ..สูตรของท่านท้าว
ทองกีบม้า..นี่แหละ.............................................................)......................
.................................สมัยก่อน..พวกเล่นพระ..ก็เอาแต่ส่องพระ..ไม่ค่อยเข้าครัว..
...ไปหา..น้ำมันจันทน์..มาเช็ด................หารู้ไม่ว่า...เมียเอาไอ้ตัวเขียวออก..นี่แทบ
ไม่ได้ออกแรง...เลย.....................................
............เรากลับมาเข้าเรื่องใช้กำลังบังคับ..นั้น..ผมบอกว่า.เขาใช้น้ำมันจันทน์มา..ตั้ง
แต่รุ่นทวด..พวกคุณ(รุ่นปู่..ผม)...ก็ไม่ได้ไม่รู้ว่า.อย่างอื่นใช้ไม่ได้..แต่..สะดวก..เพราะ
...ห้องพระ..คนสมัยก่อน..มีน้ำมันจันทน์กัน..เป็นเรื่อง"ธรรมดา"......ทำไม..เป็นเช่นนั้น
...เพราะมันเป็น...วิถีไทย..ครับ........................................
...............................ต่อตอนหน้า..........................................................
.....................................................สวัสดี......................................................