ผิดมั้ยถ้าคิดจะทิ้งธรรมะ เพราะรู้สึกไม่ได้อะไร ไม่มีกำลังใจไปต่อ

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย บ้องแบ้ว, 3 กรกฎาคม 2016.

  1. บุคคลทั่วฺไป

    บุคคลทั่วฺไป เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 พฤศจิกายน 2015
    โพสต์:
    2,159
    ค่าพลัง:
    +1,231

    เรื่องพระไม่ช่วย เป็นเรื่องเล่าของหลวงพ่อฤาษีลิงดำท่านเอง
    ผมไม่ได้เมคขึ้นมา เหตุใดมากล่าวหาว่าผมยุแยง ให้คนเข้าใจผิดคำสอนของพระพุทธเจ้า
     
  2. นิวรณ์

    นิวรณ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2008
    โพสต์:
    9,051
    ค่าพลัง:
    +3,456
    เอ้า ก็ อย่ายึด จีฮับ

    ถ้าไม่ยึด เดี๋ยวก็เข้าใจเอง ว่าตกลง เป็นเรื่อง คอยจับผิด อะเป่า
     
  3. นิวรณ์

    นิวรณ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2008
    โพสต์:
    9,051
    ค่าพลัง:
    +3,456
    มัน จริงโดย โวหาร ปากเปล่า

    เออ ถ้า คุณโยสตรย สามารถ เข้านิโรธน ออกนิโรธน
    แล้ว กำหนดจิตไปหา เจ้าของกระทู้ แล้วให้ โอกาส นั้น
    ได้ตามจริง ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง

    แต่ไม่เอานะ มากล่าวว่า คนนั้น คนนี้ จะออก ฉันรู้ ขอให้ไปรอ

    แหม................................ คนใดจะได้ อานิสงค์จาก
    การออกนิโรธน มันเป็นเรื่องของ ท่านนั้นๆ จะกำหนดญาณ หา
    ของท่านเอง ไม่มีหรอก มีนายหน้า บอกกล่าวได้
     
  4. นางสาวอยู่จ้ะ

    นางสาวอยู่จ้ะ ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    1,041
    ค่าพลัง:
    +3,865
    พวกที่อธิษฐานธรรมมา จิตจะถูกบีบคั้นให้ทุกข์
    อยู่ตลอดเวลา เพื่อเก็บบารมีและดูจิตเป็นทุกข์
    ดูมันลงไปตรงๆนั่นแหละอย่าหนี..
     
  5. นิวรณ์

    นิวรณ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2008
    โพสต์:
    9,051
    ค่าพลัง:
    +3,456
    โดยปรมัตถ์ มันจะ ยิ๊บๆ แย๊บๆ แถวอก ไม่ต้องหนี

    ไม่ต้อง แสวงหาว่า ทำยังไง จึงจะหาย ให้กำหนดรู้ รู้ตรงนี้แหละ อย่าหนี

    จะทำสมถะ จะยิ่งเห็น ละเอียด ยิ๊บๆ แย๊บๆ ละเอียดทั้งวัน

    จะทำวิปัสสนา ก็จะเป็น รู้ชัดๆ ใน ทุกขสัจจ ( แต่ มันจะยังไม่ชัด
    หลอก หากยังเป็นจุด เป็นดวง เป็น ยิ๊บๆ แย๊บๆ )

    ส่วนธรรมที่หยาบกว่านี้ จะเป็นกลางไป ไม่ฉวยขึ้นมาอีก

    ดังนั้น หากส่วนไหน ไม่ฉวยขึ้นมาอีก หรือ ไปฉวยมันขึ้นมา
    ก็ให้กำหนดรู้ เหตุ ที่ทำให้ กำเริบกลับ สลัดกลับหลัง
    ไม่น้อมไปสู่ การตามเห็น การสลัดคืน(จิต)ไม่เหลือ อยู่เป็นประจำ
    จนกว่า จิตจะยอมรับ อริยสัจจ นั้น
     
  6. บุคคลทั่วฺไป

    บุคคลทั่วฺไป เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 พฤศจิกายน 2015
    โพสต์:
    2,159
    ค่าพลัง:
    +1,231

    ผมยังนึกไม่ออกว่า ยังมีการทำบุญแบบไหน ที่ส่งผลชัดเจนทันตา
    เป็นรูปธรรมแบบนี้อีกแล้ว
    ถ้าคุณนิวรณ์รู้ก็วานช่วยบอกหน่อยเถอะ

    ตามประวัติอดีตชาติของพระสารีบุตร ในชาติที่เป็นดาบสชื่อ สรทะ
    ตอนจะตั้งความปราถนาตำแหน่งอัครสาวกเบื้อขวา
    พระพุทธเจ้าในอดีตที่ไปโปรดท่าน ต้องการให้การทำสักการะของท่านมีผลมาก
    จึงได้ส่งกระแสจิต นิมนตร์พระอัครสาวกให้พาพระสงฆ์มา
    แล้วพากันเข้านิโรธสมาบัติ เพื่อให้สรทะดาบสบูชาถึง ๗ วัน ๗ คืน
    การบูชาของสรทะดาบส(พระสารีบุตร)จึงยิ่งใหญ่ด้วยประการฉะนี้ :cool:
     
  7. นิวรณ์

    นิวรณ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2008
    โพสต์:
    9,051
    ค่าพลัง:
    +3,456
    จะไปยากอะไร

    " สัพเพ ธัมมา อนัตตา "

    กำหนดรู้ สัจจ ตรงนี้เข้ามา จิฮับ ทันตา(ธรรม) ได้แน่

    แต่ถ้าจะเอาแบบ พระสารีบุตร พระสารีบุตร สอน มาติกา กถาว่า

    " กุศลา ธัมมา
    อกุศลา ธัมมา
    อัพพยากตา ธัมมา "

    งง ไหม

    คือ

    กุศลา ....... อนัตตา
    อกุศลา ...........อนัตตา
    อัพพยากตา ..........อนัตตา

    แล้วจะเอา อะไรอีก หากยังเอาอะไรอีก ก็กำหนดรู้
    อุปปาธิ มันเกิด จิตมันยิ๊บๆแย๊บๆ กิเลสย่ำหัวอก เท่านั้นเอง


    อ้อ อย่าไปมัว จับการนึก ให้เอา สิ่งที่สัมผัส รุ้สึก นะฮับ ถึงจะ เข้าถึงอกถึงใจ

    แล้ว พอเข้าถึงอกถึงใจแล้ว อย่าไปเห็นว่า การรุ้นี้ไม่ให้ประโยชน์อะไร
    อย่าไปเห็นว่า " หญ้าปากคอก " ไม่มีรสความสงบของใจ ให้ยกเห็นชิมลอง
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 3 กรกฎาคม 2016
  8. บุคคลทั่วฺไป

    บุคคลทั่วฺไป เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 พฤศจิกายน 2015
    โพสต์:
    2,159
    ค่าพลัง:
    +1,231

    มันเป็นเรื่องของการซื้อขายแลกเปลี่ยนที่เขาเต็มใจด้วยกันทั้งสองฝ่าย
    เคยเห็นคนที่ซื้อโทรศัพท์มือถือแพงๆ หรือคนที่ดื่มเหล้าทีขวดเป็นแสนไหมครับ
    หรือคนที่เอาพระสมเด็จที่ทำจากปูนมาขายทีองค์ละเป็นล้าน
    ถ้าของคุณภาพไม่ดีจริง เดี๋ยวคนก็เลิกอุดหนุนกันไปเอง
    ตรงกันข้าม ถ้าเขาดูทีละ ห้าบาท สิบบาท คิดว่าชีวิตนี้เขาคงไม่ต้องพักผ่อนอย่างสงบสุข
    เพราะคงมีแต่คนไปขอรบกวนอยู่ตลอดเวลา

    บางครั้งนะ การทำอะไรให้ใครฟรีๆ ก็ทำให้เกิดโทษและได้รับผลกรรมเหมือนกัน
    การเรียกค่าดูแพงๆ เท่ากับทำให้คนที่ไปดู ต้องเสวยกรรมคือการเสียทรัพย์
    เป็นการที่ทำให้ตัวเขา(หมอดูอีที) ไม่ต้องรับผลจากการขัดขวางกฏแห่งกรรม
     
  9. kengkenny2

    kengkenny2 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤษภาคม 2011
    โพสต์:
    592
    ค่าพลัง:
    +289
    หน้าที่เราคือค้นหาความจริงเมื่อรู้ความจริงนั้นๆก็วางเสียอย่าไปเสียเวลากับการย่ำหาความจริงเมื่อคิดว่าเรารู้แล้วเพราะต่อมาจะพบว่ายังมีความจริงที่ยิ่งกว่าเสมอจนรู้แน่ชัดว่าทั้งหลายล้วนไม่เป็นจริงจึงจบจึงพอ...ทำเอาเองเถอะด้วยตัวของตัวเองอัตตาหิอัตตโนนาโถ
     
  10. นโมพุทธายะ๕

    นโมพุทธายะ๕ ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    22,161
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,103
    ค่าพลัง:
    +70,431
    ความมุ่งมั่นและพยายามที่มากพอ สามารถเปลี่ยนแปลงโชคชะตาได้



    [​IMG]
     
  11. zhayun

    zhayun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    136
    ค่าพลัง:
    +425
    จริงๆ เรื่องที่คุณเจอมาทั้งหมด ถ้าคุณไม่ได้ศึกษาและปฏิบัติธรรม จะทำให้คุณรู้สึกเป็นทุกข์มากขึ้นไปอีกนะ

    ธรรมะช่วยให้เข้าใจความเป็นจริงว่าโลกนี้มันมีแต่ทุกข์ หาความสุขไม่ได้เลย

    ถ้ายังเวียนว่ายตายเกิดอยู่ ก็ยังคงต้องทุกข์ต่อไป

    มีแต่นิพพานเท่านั้น ที่มีความสุข เพราะไม่ต้องเวียนว่ายตายเกิดให้เป็นทุกข์อีก



    หลวงพ่อฤาษี วัดท่าซุง ท่านจะให้เรากำหนดรู้ความทุกข์ให้มากๆ เพื่อที่จะได้เบื่อหน่ายในการเกิดต่อไป

    ในบทสวดทำวัตร ก็มีบอกเรื่องความทุกข์

    ความเกิดเป็นทุกข์ ความแก่เป็นทุกข์ ความป่วยเป็นทุกข์ ความพลัดพรากจากของรักหรือคนที่รักก็เป็นทุกข์

    ปรารถนาสิ่งใดไม่ได้สิ่งนั้นก็เป็นทุกข์ ความตายก็เป็นทุกข์



    เพราะในโลกนี้มีแต่ทุกข์ ถ้าท่านไม่ศึกษาและปฏิบัติธรรม ท่านก็จะเป็นทุกข์มากกว่านี้มาก

    เพราะท่านจะยึดติดในโลกว่าเป็นเรา เป็นของเรา

    ยึดติดว่าร่างกายนี้เป็นของเรา ทรัพย์สินเงินทอง หน้าที่การงาน พ่อแม่พี่น้อง บุตรและสามีภรรยา ยึดติดเป็นของเราทั้งหมด

    และท่านก็จะต้องทุกข์กว่านี้อีกมาก



    หลวงพ่อฤาษี วัดท่าซุง ท่านก็แนะนำว่า จริงๆแล้วไม่มีอะไรที่เป็นของเรา

    ร่างกายนี้ไม่ใช่เรา ไม่ใช่ของเรา เราไม่มีในกายนี้ กายนี้ไม่มีในเรา

    ร่างกายนี้เป็นเพียง บ้านเช่าที่เรามาอาศัยแค่ชั่วคราว เมื่อร่างกายนี้พัง เราก็ต้องออกไปจากร่างกายนี้

    เราคือจิต คือธาตุรู้ ที่เรียกว่าอทิสมานกาย ที่มาอาศัยร่างกายนี้แค่ชั่วคราวเท่านั้น



    เมื่อร่างกายนี้พัง เราก็ไม่สามารถเอาอะไรไปได้ ร่างกายก็ต้องทิ้ง คนรักและของที่รักก็ต้องทิ้งหมด

    เพราะไม่มีอะไรที่เป็นของเรา ดังนั้นจะมัวมายึดติดอะไรในโลก

    เพราะโลกนี้มันเต็มไปด้วยความทุกข์ และก็ทุกข์ทุกวัน

    หิวข้าวก็เป็นทุกข์ พอได้กินก็คลายทุกข์ชั่วคราว แต่การกินก็เป็นเหตุแห่งทุกข์อีก เพราะการกินเป็นปัจจัยให้ต้องถ่ายหนัก เวลาปวดท้องจะถ่ายก็เป็นทุกข์อีก

    จากนั้นก็หิวต่อและก็ทุกข์ต่อไปเรื่อยๆ ไม่จบสิ้น



    มีเพียงพระนิพพานเท่านั้นที่มีสุข ไม่ต้องมาเวียนว่ายตายเกิดให้ทุกข์อีกต่อไป

    ท่านจึงว่า ให้เรากำหนดว่า เราจะขอเกิดชาตินี้เป็นชาติสุดท้าย ถ้าตายก็ไม่ขอเกิดอีก

    จะเกิดเป็นคน เป็นเทวดา เป็นพรหม ก็ไม่พ้นทุกข์ เราไม่ต้องการ

    มีเพียงพระนิพพานเท่านั้นที่เราต้องการ พระนิพพานไม่มีทุกข์ และเป็นที่ๆพระพุทธเจ้า พระปัจเจกพุทธเจ้า และพระอรหันต์ ทุกองค์อยู่ที่นั่นทั้งหมด



    แต่ถ้าเรายังอาศัยอยู่ในร่างกายนี้อยู่ ก็ทำงานไปตามหน้าที่เท่านั้น เมื่อร่างกายนี้พังก็ถือว่าจบกัน

    และเราก็ขอเข้าพระนิพพานทันที

    ถ้าก่อนตายจิตยังติดในร่างกาย ยังติดในการเกิดอยู่ ก็จะไปเป็นเทวดา เมื่อได้ฟังธรรมจากพระ ก็จะสามารถ บรรลุมรรคผลได้

    ถ้าก่อนตายจิตไม่ติดในร่างกาย ไม่ติดในการเกิด ก็จะเป็นพระอรหันต์ก่อนตายและเข้าพระนิพพานทันที



    หลวงพ่อฤาษี วัดท่าซุง ท่านแนะนำให้เราปฏิบัติตามนี้ทุกๆวันครับ
     
  12. นโมพุทธายะ๕

    นโมพุทธายะ๕ ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    22,161
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,103
    ค่าพลัง:
    +70,431


    --------------------------------------------------------------


    ...นี่แหละ คือ สภาวะธรรม คือ ความจริง คุณรู้สึกว่า "อยาก" .....แต่ ไม่ได้ ไม่สมกับที่หวัง(ที่อยาก)ที่จะทำ ....ผลจากเหตุคือความอยาก ย่อมมีผลคือความทุกข์ เสมอ

    มันเป็นสัจธรรม

    นี่แหละ คือ ธรรมะ


    ไม่มีใครหนีไปได้

    แม้อยาก จะหนี ผลของความอยาก ก็หนีไม่ได้

    ...เพราะ เราเป็นผู้หลงหรือรู้ไม่จริง จึงไปสร้างเหตุคือความอยากขึ้นมา




    +++แต่ เมื่อเราไม่สร้างเหตุตัวนี้ เราก็ไม่รับผลของมัน ก็ไม่ต้องหนี

    เราจะสร้างเหตุของธรรมฝ่ายตรงข้าม คือ มรรคมีองค์แปดในชีวิตประจำวัน แล้วผลที่ดีจะตามมาเอง

    ตรงนี้ เราย่นย่อมาเป็นสติ-สัมปชัญญะ เพื่อให้ง่ายต่อการคิดจะทำต่อไป


    :cool::cool::cool::cool:


    แม้ จะหนีไปใช้วิธีการต่างๆ ที่คนทั้งหลายที่ยังมีความหลง ในรูปแบบที่ต่างจากเรา ไม่ว่าจะเป็นศาสนาหรือไม่ก็ตาม

    ถ้ายังไม่เป็นไป เพื่อ รู้สาเหตุของความทุกข์ ( ความอยาก ) ในใจ ที่หลงสร้าง หลงยึด หลงทำให้เจริญขึ้นมา .......ล้วนแต่จะส่งผลให้ได้รับผล คือความทุกข์ อันเป็นเหตุ มาภายหลังได้เสมอ



    ---------------------


    คุณรู้ไหม? พระบรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้า สอนให้เผชิญความจริง
    ด้วย ความจริง คือ เห็นเหตุของทุกข์ ที่เกิดในใจเราเอง ( ด้วยหลักอริยสัจจ์สี่ =ทุกข์ สมุทัย นิโรธ มรรค ) ที่สามารถใช้ได้จริงในชีวิตประจำวัน


    บางอย่าง ที่เป็นการกระทบ กดดัน จากภายนอก อาจมาจากวิบากกรรมทั้งอดีตที่ไกลเกินจะทราบ บางอย่างก็เกิดเพราะปัจจุบันปรุงแต่งเพิ่ม และก่อเรื่องราวใหม่เข้าไป เป็นอารมณ์กดดันตนเอง


    ...เมื่อยังหาทางลดแรงกดดันภายนอกไม่ได้

    ...จงตั้งหลัก ณ ปัจจุบันให้ดี ในใจคุณ


    ตั้งหลักอย่างไร


    ....รู้ทัน แม้จะช้าไปบ้าง ในความโกรธ ความทรมานที่ไม่ได้ดั่งใจ

    ดูมันให้ได้ สักหนึ่งนาที หรือ หนึ่งลมหายใจเข้าออก ฯลฯ

    ซึ่งมันจะทรมานมากในครั้งแรกๆ ที่คุณฝืนจะไม่วิ่งพล่านตามแรงของมัน


    คุณจะได้ " ขันติบารมี วิริยะบารมี ที่ทนได้หนึ่งลมหายใจ "


    ...หนึ่งนาที ที่ทนดูมันดิ้นรนได้ บ่อยๆครั้ง จะกลายเป็ฯต้นอ่อนของบารมี
    หรือกำลังใจ ที่ค่อยๆเติบโตขึ้น


    ...แล้ว คุณจะค่อยๆมีที่ว่างในใจมากขึ้น ที่จะมีเวลาคิด พินิจ ตรึกตรอง
    ด้วยความสุขุมขึ้น ว่าจะจัดการกับชีวิตตนเองอย่างไร




    เป็นร่มเงาของต้นไม้ธรรม ที่คุณสร้างขึ้นมาในใจคุณเอง





    ++( หลายปัญหา อาจเพียงแค่ การพูดคุย คิดนึก ด้วยสติสัมปชัญญะสุขุมขึ้น
    ก็จะมีผลหรือปฏิกิริยา ต่างจากสถานะ ที่เราเคยกระทำไป่ตามความอยาก และฯลฯ )


    ***********************



    ค่อยๆฝึกสติ-สัมปชัญญะ ในชีวิตประจำวัน เช่น เดิน ล้างจาน พับผ้า อาบน้ำ ทานอาหาร ฯลฯ ดื่มด่ำกับกิริยาของกายที่ดำรงในชีวิตประจำวัน .......จะเป็นการออกกำลังของสติฯ ที่จะค่อยๆนิ่งได้ เมื่อถุูกกระทบทางหู ทางตา


    ..จงดื่มด่ำ กับ อาหารแต่ละช้อน ที่คุณ กำลังเคี้ยว
    ไม่ใช่ ปล่อยสำนึก ของจิตใจ ไหลไปตามอารมณ์ตกค้างในสิ่งที่ชอบหรือไม่ชอบ ที่คุณได้รับในอดีต



    ..............นี่คือ กุญแจเบื้องต้น ทีจะพาคุณ พ้นจากคุกแห่ความทุกข์ทที่คุณสร้างขึ้นมาเอง............โดยไม่ต้องรอให้ใครมาสอนให้คุณสกดจิตใจตนเอง


    ไว้ค่อยมาคุยใหม่ เมื่อคุณผ่านบทเรียนนี้







     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 4 กรกฎาคม 2016
  13. นโมพุทธายะ๕

    นโมพุทธายะ๕ ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    22,161
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,103
    ค่าพลัง:
    +70,431
    ทุกข์ ( สารพัด ทั้งหยาบ ทั้งละเอียด ทั้งภายนอกและภายในใจ ) มีเพียงให้ " กำหนดรู้ "

    สมุทัย อันเป็นเหตุของทุกข์ มีเพียงให้ " ละ "



    +++++++++++


    นิโรธ อันเป็นสภาวะที่ทุกข์ ในแต่ละระดับ ดับไป ไม่เกิดขึ้นอีก
    เป็นเป้าหมาย ที่เราจะเข้าไปอาศัย จนกว่า จะถึงนิโรธ อันละเอียดสุด


    มรรค คือ วิถีการกระทำด้วยกาย วาจา ใจ เพื่อเ่ข้าสู่สภาวะพ้นทุกข์ในแต่ละระดับ
    ย่นย่อลงใน " สติ-สัมปชัญญะ " ++++จงเจริญให้มากๆ อย่างแยบคายและสุขุม ละเอียดอ่อน ในชีวิตประจำวัน
     
  14. บ้องแบ้ว

    บ้องแบ้ว นางฟ้าผู้น่ารัก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤษภาคม 2010
    โพสต์:
    3,293
    กระทู้เรื่องเด่น:
    105
    ค่าพลัง:
    +5,301
    ธุรกิจเครือข่ายกับการทำสบู่แฮนด์เมดเป็นสิ่งที่นวลชอบ แต่นวลคงเครียดตามกระแสโลกมากเกินไปว่าการประสบความสำเร็จทางโลกคือต้องรวย แต่แค่เราทำสิ่งที่ถูกกับจริตก้อน่าจะพอแล้ว ซึ่งธรรมะนี่แหละจะเตือนตรงนี้.. จุดที่ พอ

    นวลสวดมนต์มากเข้าความสงบมันรวมตัว คือมันไม่อยากได้อะไรอีกแล้ว แต่พอเรากลับมาอยุ่กับโลก เราถูกกระแสโลกและครอบครัวผลักดัน ว่างานที่ดีคือ งานที่มั่นคงและมั่งคั่ง ก้อนวลมั่นคงมั่งคั่งจากการปฏิบัติธรรมอยู่แล้ว จิตใจนวลอยุ่ในสเตจที่แข็งแรงก้อเพราะธรรม

    แต่ครูอ. แค่มาเสริมด้านกำลังใจให้คิดบวกมากขึ้น เพราะครอบครัวไม่ได้ให้ตรงนี้กับนวล.. กำลังใจ

    คำตอบของกระทู้นี้ แน่นอนว่านวลคงไม่เขลาทิ้งเพชรเม็ดงามไปเลือกกรวดทราย แต่จะทำยังไงที่นวลจะสามารถดึงกำลังใจจากครูอ. เพื่อมาเสริมทัพการทำทานศีลภาวนา และทำงานทางโลก

    ......
     
  15. markdee

    markdee เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    745
    ค่าพลัง:
    +1,911
    ลองเรียงลำดับทุกข์ของคุณให้ได้รู้หน่อยค่ะ..เอาตั้งแต่ทุกข์ที่สุดจนกระทั่งทุกข์เบาที่สุดเอาเป็นข้อๆนะคะ
     
  16. บ้องแบ้ว

    บ้องแบ้ว นางฟ้าผู้น่ารัก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤษภาคม 2010
    โพสต์:
    3,293
    กระทู้เรื่องเด่น:
    105
    ค่าพลัง:
    +5,301
    -ทัศนคติไม่ตรงกับครอบครัว ครอบครัวไม่สนับสนุนทุกอย่างที่เราอยากทำ เค้ามักมีเหตุผลเสมอว่าสิ่งที่เราจะทำมันไม่เวิร์ค เค้าบังคับให้ทำเบเกอรี่ แต่เราไม่ชอบทำอาหาร เค้าบังคับให้ทำงานประจำ แต่เรารักอิสระ
    -อกหักทุกครั้งที่เลือกชอบใครสักคน ทั้งๆที่มันเข้ามาในชีวิตเราเอง โดนดูถูกจากผุ้ชายที่เคยชอบ
    -รักตัวเองไม่เป็น อยากได้ความรักจากเพศชายเสมอ
    -นอนหลับยาก ร้องไห้บ่อย คิดถึงแต่ห่วงเชือกที่จะผูกคอตาย ทุกวันนี้กินยาอยุ่ หมอบอกว่าเป็นซึมเศร้า

    แต่ที่ยังอยุ่รอดมาตลอดเพราะ สติ เพราะปรางคิดว่าผุ้ชายดีๆคงไม่อยากดูแลคนที่ไม่เห็นคุณค่าในตัวเอง

    เอาข้อดีบ้างนะ
    -สนใจธรรมะตั้งแต่วัยรุ่น อ่านหนังสือธรรมะปรัชญาเยอะมาก
    -เคยปฏิบัติอานาปานสติถึงปฐมฌาน
    -ปัจจุบันศีล5ครบ
    -ชอบทำทานกับคนยากไร้
    -เป็นที่ปรึกษาแก่เพื่อนๆคนรอบข้างเสมอ
    -เวลาร่าเริงคนรอบข้างจะชมว่าเป็นนางฟ้า
    -ชอบสวดมนต์บทต่างๆ โดยมีสติจดจ่อกับคำสวด
    -มีเป้าหมายทางธรรม ต้องการอธิษฐานจิตขอเป็นบุตรพระพุทธเจ้าทุกพระองค์ ก่อนสำเร็จอรหันต์
    -เป็นคนหน้าตาดีตั้งแต่วัยรุ่น (แต่ผิวไม่สวยนะ) ><
    -อัธยาศัยดีเป็นที่รักของผู้ใหญ่

    คือถ้าไม่อยุ่คนเดียวนานๆบ่อยๆไม่คิดมากคิดลบ ก้อเหมือนคนทั่วไปที่ดำเนินชีวิตไปได้✌อยากทำธุรกิจเครือข่ายเพราะอยากออกสังคมอยากได้ทุนมาลงกับสบู่ ถ้าขออ. ย. สบู่ได้แล้ว จะหาทางขายออนไลน์กับต่างชาติ ค่อยเป็นค่อยไป
     
  17. บ้องแบ้ว

    บ้องแบ้ว นางฟ้าผู้น่ารัก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤษภาคม 2010
    โพสต์:
    3,293
    กระทู้เรื่องเด่น:
    105
    ค่าพลัง:
    +5,301
    เราอาจทำสิ่งที่ไม่ชอบได้ดีกว่าสิ่งที่ชอบ

    เป็นไปได้ที่ชีวิตส่วนใหญ่กำลังเดินไปในสิ่งที่เราไม่ได้กำลังฝัน

    แล้วจะทำยังไง
    ถ้าความฝันที่มี
    มันยิ่งใหญ่กว่าความจริงที่อยู่ตรงหน้า

    ตัดพ้อ รอคนมาเข้าใจ
    นั่งเฉยๆ ให้เวลาผ่านไป
    พร้อมกับบ่นกับทุกคนว่าที่เป็นอยู่มันไม่ใช่ ?

    ถ้ายังเลือกที่ชอบไม่ได้
    ลองเลือกที่ทำได้ดี
    แล้วทำให้เต็มที่

    ไม่ต้องเชื่อที่ใครพูด
    ให้เชื่อตัวเอง

    ไม่ว่าเราจะไม่ชอบมันขนาดไหน
    ถ้ามันวางอยู่ตรงหน้าตอนนี้
    หน้าที่ของเราคือการซัดมันให้เต็มที่

    คนที่ทำในสิ่งที่ตัวเองไม่ได้ชอบ
    แต่ทำออกมาได้ดี
    ก็ยังมีตัวตนบนโลกนี้

    ความฝันมันยังคงอยู่
    ตราบใดที่ยังไม่ลืม

    แล้วถ้ายังจำได้
    พร้อมเมื่อไหร่
    ค่อยลุกขึ้นมาทำให้มันเป็นจริง

    ไม่มีใครบอกสักหน่อย
    ว่าความฝันต้องเป็นจริงที่ตอนนี้

    มันมีเวลาของมัน
    เอาเวลาที่มี ที่เหลืออยู่
    ค่อยๆ ทำให้มันเป็นจริง
    ท่ามกลางสิ่งจำเป็นที่ไม่ได้ชอบ
    แต่ต้องทำแบบนี้แหละ

    ขอโทษทีที่ผมไม่ได้แนะนำให้ทิ้งมันไป
    แล้วออกล่าความฝัน

    ถ้าคุณทำแบบนั้นได้
    จงทำ

    แต่ถ้ายังจำเป็นต้องทำอยู่
    ก็ยอมรับมันแล้วทำให้เต็มที่

    บ่มตัวเองให้พร้อมในสิ่งที่ฝัน
    ไม่ว่าจะเนิ่นนานแค่ไหน
    สักวันมันจะเป็นจริง

    https://storylog.co/story/5777159f8e69ec3a4e51a6e2
     
  18. บุคคลทั่วฺไป

    บุคคลทั่วฺไป เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 พฤศจิกายน 2015
    โพสต์:
    2,159
    ค่าพลัง:
    +1,231
    ไม่รู้ ที่เขียนไปนั้นมันแค่หลักการ

    ก็เหมือนกับการพูดว่า อยากรวยเร็วก็ลองไปซื้อสลากกินแบ่ง
    แต่จะซิ้อยังไงถึงจะถูกรางวัล เรื่องนี้ไม่ทราบได้
     
  19. บุคคลทั่วฺไป

    บุคคลทั่วฺไป เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 พฤศจิกายน 2015
    โพสต์:
    2,159
    ค่าพลัง:
    +1,231
    แล้วหมอประเภทอื่นล่ะ เช่นหมอยา หมอนวด หมอแผนปัจจุบัน

    อย่างหมอสู นี้ได้บุญไหม เพราะช่วยให้คนเกิดได้อย่างปลอดภัย

    แต่ถึงอย่างไร ผมมีความเห็นว่า หมอดุอีที เก็บเงินค่าทำนายทายทักนั้นเป็นสิ่งที่ถูกต้องและชอบธรรมแล้ว

    ในเมื่อมนุษย์หันหลังให้ธรรม คิดไปพึ่งหมอดู ก็สมควรเจอแบบนั้นแหละ
    ถ้าหันมาพึ่งพระพึ่งธรรมะ ก็ไม่ต้องเสียอะไร นอกจากเงินสร้างโบสถ์ สร้างวิหาร สร้างศาลา สร้างกุฏิ สร้างพระประธาน สร้างกำแพงวัด ไม่กี่บาทเท่านั้น
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 4 กรกฎาคม 2016
  20. บุคคลทั่วฺไป

    บุคคลทั่วฺไป เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 พฤศจิกายน 2015
    โพสต์:
    2,159
    ค่าพลัง:
    +1,231
    คนบางคน ฆ่าสัตว์ตัดชีวิต เอาเลือดเอาเนื้อ ตัดอวัยวะแขนขาของเขามาขายเอาเงินยังชีพ
    คนบางคน ก็ไปซื้อเลือด ซื้อเนื้อ ซื้ออวัยวะแขนขาของเขามากินเป็นอาหาร
    ก็ไม่เห็นมีใครออกมาบ่นว่ามันผิดศีลผิดธรรม หรือตายไปแล้วต้องไปชดใช้กรรม
    กลายเป็นคนพิกลพิการแขนขาขาด สนับสนุนให้คนอื่นฆ่า เพียงเพื่อให้ตัวเองมีกินอิ่ม
    และได้ชื่อว่าเป็นคนมีศีลไม่ฆ่าสัตว์ ไม่เห็นมีใครบอกว่าบาป
    แต่หมอดูอีทียึดอาชีพหมอดูเลี้ยงชีวิต เลี้ยงครอบครัว ไม่ต้องไปฆ่าไปเบียดเบียนใคร
    กลับมีคนบอกว่าทำบาป
     

แชร์หน้านี้

Loading...