ผิดมากไหมที่ผมจะไม่บวช?

ในห้อง 'พุทธศาสนา และ ธรรมะ' ตั้งกระทู้โดย dioma619, 22 เมษายน 2013.

  1. ABT

    ABT เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    232
    ค่าพลัง:
    +1,524
    อนุโมทนาครับ ทุกท่าน ตอนก่อนที่ผมบวชนั้นนะ ใคร ๆ ก็พูดว่าบวชดี บวชแล้วชีวิตจะดี ทดแทนบุญคุณพ่อแม่ คนสองคนพูด ก็พอทำเนาพอหลาย ๆ คน พูด ก็เกิดอาการต่อต้านขึ้นมาภายในใจว่าทำไม ผมจะบวชหรือไม่บวชมันเรื่องของผม ยื้อยุดฉุดกันอยู่จากเดือน เป็นปี และหลายปี จนต้องมาเป็นผู้พิทักษ์สันติราษฎร์อยู่กรุงเทพฯ ก้ไม่มีความคิดว่าจะบวชกำลังสนุกครับ จนในที่สุด ถึงหน้าเทศกาลเรากลับบ้านและได้พาแม่ไปงานบวชคนแถว ๆ บ้านนั่นแหละ เรารู้สึกได้ว่าแม่นั้นดีใจมาก ยิ้มตลอดเวลา ที่สำคัญแม่ของนาคที่บวชนะครับยิ้มดีใจ สดชื่น พูดคุยอย่างมีความสุข ทำให้ผมได้คิดนะครับว่าขนาดแม่ไปงานคนอื่น แม่ยังมีความสุขขนาดนี้หากเป็นผมเองที่บวชจะสุขมากขนาดไหน ผมจึงตัดสินใจบวชทิ้งการสอบคัดเลือกไปอบรมต่าง ๆ ประเทศ เพื่อบวชเพียงเจ็ดวัน ท่านเจ้าของกระทู้ท่านรู้ไม๊ อารมย์ความรู้สึกเป็นอย่างไร ผมไม่บรรยายหรอก หากอยากรู้ต้องลองเอง รู้เพียงว่าปกติผมไม่เคยร้องไห้ แต่น้ำตาไม่รู้มาจากไหนไหลไม่หยุด เมื่อมองพ่อ แม่ ญาติ และผู้ร่วมงาน วินาทีที่เดินออกมาจากโบสถ์ โอ๊ย ไปทำเอง แล้วจะรู้ครับ อธิบายไม่ถูก ขออนุโมทนาด้วยครับ
     
  2. jinso

    jinso เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    423
    ค่าพลัง:
    +659
    พ่อแม่เขาหวังในบุญจากการบวชลูกชายกันทุกบ้านแหละคับ
    ให้.....ท่านมีนำ้ตาแห่ความสุข,ดีกว่ามีน้ำตาแห่ความทุกข์
    การสร้าบุญไหนๆ...คนแก่มักคิดว่า..ได้ไม่เท่าบวชลูกตน
     
  3. rungdao

    rungdao เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 พฤศจิกายน 2010
    โพสต์:
    2,019
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +10,731
    [ame=http://www.youtube.com/watch?v=pcQxDTW5PLc]Mv ผ้าชุดสุดท้าย วัดดอนชะเอม - YouTube[/ame]

    ใครจะว่าเชย จะว่าไงก็ไม่ทราบ แต่ดิฉันฟังทีไรน้ำตาคลอเบ้าทุกทีๆ
     
  4. พุธทสิณ

    พุธทสิณ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2013
    โพสต์:
    102
    ค่าพลัง:
    +404
    ในฐานะทึ่ผมพื่งบวชมาใหม่ๆด้วยความตั้งใจริง วันที่บวชนั้นได้เห็นแม่มีนํ้าตาไหลชืมออกมาแล้วเราก็มีความสุขไปด้วย หลังจากสืกออกมาแล้วท่านเล่าให้ฟังว่าแม่ปลื้มใจจนห้ามนํ้าตาไว้ไม่อยู่...พ่อและแม่ขออนุโมทนาในการบวชของลูกครั้งนี้้ด้วยเพราะว่าคนส่วนมาก
    จะบวชให้พ่อแม่หลังจากที่ท่านล้มหายตายจากไปแล้ว...^/\^
     
  5. tsukino2012

    tsukino2012 หยุดจึงพบ สงบจึงเกิด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 พฤษภาคม 2012
    โพสต์:
    1,311
    ค่าพลัง:
    +3,090
    บวชศึกษาวินัยพระ ศึกษาพระธรรม ฝึกปฎิบัติตนด้วยกรรมฐาน เรียนรู้เรื่องกฏแห่งกรรม สึกมาจะได้มีความรู้ มีคุณธรรม สอนคนได้ เมื่อเราตั้งใจบวชเพื่อศึกษาแล้ว ทำให้ชีวิตที่เหลืออยู่ จะดำเนินไปในทางที่ถูกที่ควร(ศึกษาแล้วทำความเข้าใจและปฎิบัติตาม) หากไม่มีจิตคิดจะบวช บวชไปก็เท่านั้น พ่อแม่อยากให้บวชก็เพราะเชื่อว่า จะได้เกาะชายผ้าเหลืองขึ้นสวรรค์ จริงๆแล้วจะขึ้นหรือลง มันอยู่ที่ตัวเองทำ อาศัยเลือดเนื้อเชื้อไข ก็ใช่ว่าจะรอดอบายภูมิถ้าสร้างแต่กรรมชั่วตลอดทั้งชีวิต บวชไม่เต็มใจ ก็ไม่ได้อะไร ไม่ศึกษา ไม่เรียนรู้ ไม่อยู่นาน ๗วัน ๙วันสึก หาประโยชน์มิได้ เสียดายเงินเจ้าภาพ
     
  6. พงพัน

    พงพัน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    159
    ค่าพลัง:
    +478
    ขอสนับสนุนและขอร้องเลยว่า"ไม่มีศรัทธาก็อย่าไปบวชให้เสียผ้าเหลือง"จะพาทั้งตัวเองและคุณแม่ลงอเวจีไปเปล่าๆสู้เป็นคฤหัสหรือเป็นชาวบ้านธรรมดารักษาศึลไม่ต้องมากหรอกได้แค่ศึลห้าต่อวันก็เก่งแล้ว ดีแล้วที่คิดได้หลายๆเรื่องที่เพื่อนสมาชิกยกมาให้ก็คงไม่มีประโยชน์ในเมื่อคุณเองไม่มีศรัทธาแล้วก็ต้องจบ อย่างไรเสียก็ไปกราบขอขมาและสารภาพกับคุณแม่ซะว่าไม่ต้องการบวชบอกท่านไปเลยท่านจะได้ทำใจ การเป็นเพศฆราวาสนั้นไม่ง่ายมีศีลให้รักษา227ข้อทำได้หมดจึงจะเป็นพระปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ แต่การเป็นคนธรรมดาแค่รักษาศีล5ได้แค่นี้ก็เก่งแล้ว ที่คุณปฏิญาณทำได้คงไม่เกินไปจากนี้ละนะคงไม่หาญกล้าถึงขนาดจะรักษาให้ได้อย่างพระละ และผมก็ไม่เชื่อด้วยว่าระดับคนธรรมดาไม่ได้บวชจะหาญกล้าไปรักษาได้อย่างพระ เพราะสถานภาพผิดกันไกลลิบ แต่บอกตามตรงครับ"แสนเสียดายอย่างที่สุด อุตส่าห์เกิดมามีบุญทั้งทีแล้วและได้เกิดมาเป็นชายชาตรีไม่วิปริตผิดเพศ แต่กลับห่างไกลพุทธศาสนาที่แค่เอื้อม"ผมเองยังนึกเสียดายและขออธิษฐาน"เกิดชาติหน้าต่อไปขอให้ได้เกิดใต้ร่มเงาพุทธศาสนาและเป็นชายชาตรี มีโอกาสได้บวชอีกครั้งจะปฏิบัติให้สิ้นกิเลส เผยแผ่พระธรรมให้ไพศาล"
     
  7. tsukino2012

    tsukino2012 หยุดจึงพบ สงบจึงเกิด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 พฤษภาคม 2012
    โพสต์:
    1,311
    ค่าพลัง:
    +3,090
    พูดเหมือนคุณไม่ได้บวชเลย ทำไมล่ะครับ ไม่ได้เกิดเป็นชายชาตรี?? เป็นตุ๊ดเป็นแต๋ว ถ้าศรัทธาอยากบวช ตั้งใจศึกษาก็ทำได้ เพิ่งออกข่าว มีตุ๊ดแปลงเพศกลับเป็นชาย ไปบวสไม่มีกำหนดสึก และถ้าเป็นหญิง ก็ไปตามประเทศ ทิเบส เนปาล น่าจะยังมีที่ที่รับบวช เป็นภิกษุณีอยู๋ ฝนประเทศไทยก็ได้ยินว่านอกจากมี สามเณรีแล้ว ยังมีภิกษุณีอยู่รูปหนึ่งด้วย

    ถ้าศรัทธาจริงๆทำไมจะไปบวชไม่ได้ล่ะครับ ปฎิบัติเพื่อสิ้นกิเลสได่ เผยแผ่พระธรรมได้อยู่

    ผมเองก็ได้บวชเรียนไปหนึ่งพรรษา ได้รู้อะไรดีดีเยอะพอสมควร
    บวชเพราะตั้งใจศึกษาธรรม เพื่อเอามาเผยแผ่เป็นสิ่งที่ควร
    หากแต่สมัยนี้ บวชตามสั่งแม่พ่อ ไม่ได้อะไรเลยจริงๆ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 6 มิถุนายน 2013
  8. view2004

    view2004 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    233
    ค่าพลัง:
    +1,107
    dioma619: "ผมมีความคิดว่าเวรกรรมมันช่วยเหลือกันไม่ได้ ใครทำใครก่อก็ต้องรับผลนั้นเอง"

    ถูกต้องแล้วครับทุกคนมีกรรมเป็นของๆตน แต่ว่าเหนือกฏแห่งกรรมยังมีวิปัสสนา ถึงผู้นั้นจะทำกรรมมาอย่างไรก็ตามนั้น แต่เขาก็ควรได้รับบุญกุศลจากเราบ้าง ทั้งนี้อยู่ที่ความเมตตาของท่านว่าจะช่วยเหลือผู้นั้นไหม ไม่ใช่ว่าจะปล่อยกรรมเล่นงานเขาอยู่ตลอด เราช่วยเขาได้ เราก็ช่วยตามกำลังที่เราพอช่วยได้ ไม่ใช่ว่าเราจะยืนมองเขาทำกรรม จนจมในกองกรรม แต่ถ้าเราช่วยแล้วเขาไม่ไหวจริงๆ เราก็ควรวางอุเบกขา คือ มีใจเป็นกลางปล่อยไปตามกรรม

    ส่วนการคิดว่าบวชรอวันสึก เป็นความคิดในการมองโลกในทางลบนะครับ เราควรจะคิดว่าในระยะเวลาในการบวชนี้ เราจะเก็บเกี่ยวธรรมะให้มากที่สุดได้อย่างไร แบบนี้เป็นการมองโลกในแง่ดี ส่งผลดีต่อจิตใจมากกว่า มีความเบิกบานใจในเบื้องต้นมากกว่า ส่วนบวชตลอดชีวิตก็ตามกำลังใจของท่านครับ
     
  9. Mon Treal

    Mon Treal เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    182
    ค่าพลัง:
    +536
    พระพุทธองต์ตรัสว่า บวชเพื่อให้รอบรู้เรื่องทุกข์ อะไรเล่าคือทุกข์ คือหู ตา จมูก ลิ้น กาย ใจ ดังนั้นบวชเพื่อรู้จักหู ตา จมูก ลิ้น กาย ใจ
     
  10. naitiw

    naitiw เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 มกราคม 2006
    โพสต์:
    1,611
    ค่าพลัง:
    +2,882
    ถ้าพร้อมก็บวช ยอมรับเป็นบุญใหญ่จริง บุญที่พิเศษกว่าบุญอื่น

    ถ้าไม่พร้อมก็บวชใจอยู่ที่บ้าน

    [​IMG]
     
  11. siwatcha

    siwatcha เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    219
    ค่าพลัง:
    +1,242
    [B]ผิดมากไหมที่ผมจะไม่บวช? ไม่ผิดหรอกค่ะหากคุณไม่อยากบวช ว่ากันตรง ๆ

    ทำใจเย็น ๆ เข้าไปบอกคุณแม่ท่านดี ๆ ไม่ได้หรือคะว่าคุณไม่อยากบวชหากคุณบวชแล้วมี

    แต่ทุกข์ คุณแม่รับได้ละหรือ?เรียนท่านไปตรง ๆ เพราะหากบวชด้วยการฝืนใจทำให้ต้อง

    ทุกข์ทรมานขอคุณแม่อย่าเพิ่งเลยจะดีที่สุด เชื่อว่าคุณแม่ไม่น่าจะบังคับใจให้คุณทำในสิ่ง

    ที่เป็นทุกข์ทรมานของลูกท่านแน่นอนเพราะดิฉันก็เป็นแม่ของลูกชายเช่นคุณหากอะไรที่

    ทำให้ลูกของเรามีทุกข์ทรมานดิฉันคนนึงละที่จะไม่ทำอย่างเด็ดขาดด้วยเพราะเรารักลูก

    อย่างที่สุด เรื่องการบวชนั้นคุณถามว่าไม่เห็นมีใครมาบอกได้เลยว่าบวชแล้วมันดียัง

    ไง มีใครเคยเห็นละหรือ? ดีแน่นอนเพราะเกิดเป็นชายทั้งทีหากได้บวชเรียนถึงจะเรียก

    ว่าเป็นคนสุก ไม่เสียทีที่เกิดมาเป็นชายชาตรีได้ศึกษาพระธรรมคำสั่งสอนขององค์สมเด็จ

    พระสัมมาสัมพุทธเจ้าเพราะพระธรรมคำสั่งสอนของพระองค์นั้นล้วนเป็นไปเพื่อความหลุด

    พ้นโดยแท้จริง ธรรมมะของพระพุทธองค์เป็นของจริงที่พิสูจน์ได้ หากแต่เป็น ปัจจัตตัง

    (จะรู้ได้ก็เฉพาะตนเท่านั้น) อีกทั้งพระองค์ยังตรัสบอกอีกว่า การบวชเรียนนั้นถือเป็นการ

    ตอบแทนพระคุณบิดามารดาได้ดี ถือเป็นความกตัญญูรู้คุณบุพการี ส่วนเรื่องที่ว่าหาก

    ตายแล้วจะได้เกาะชายผ้าเหลืองนั้นนะ มันยังไงกัน? ตอบว่า ก็เป็นแต่ผู้เป็นพ่อแม่ปู่ ย่า

    ตายายนั้น ก็มักหวังกันโดยมีความเชื่อมาแต่ไหนแต่ไรว่าหากลูกหลานได้บวชนั้นเมี่อยาม

    สิ้นชีวิตจะได้อาศัยบุญของลูกหลานที่บวชเรียนเป็นสื่อนำพาให้ไปสุคติภพได้ เรื่องนี้แม้ไม่

    ต้องเคยเห็นแต่การที่คนเป็นลูกเป็นหลานได้ทำให้คุณแม่หรือคุณยายเรามีความสุขใจมี

    ความปลื้มใจก็ถือเป็นความกตัญญูรู้คุณบุพการีได้เป็นอย่างดีคนทำย่อมได้บุญไปโดย

    ปริยาย เรื่องเหล่านี้ล้วนเป็น Fact ที่ใคร ๆที่ไหน ๆ เขาก็รู้ และตัวอย่างที่หลวงพ่อจรัล

    แห่งวัดอัมพวัน ท่านได้เคยเล่าเอาไว้ว่ามีตาแปะอยู่คนนึงแกเกลียดการทำบุญที่สุดมีอาชีพ

    เลี้ยงหมูและฆ่าหมูส่งตลาด แต่แกมีลูกชายอยู่คนหนึ่งที่มีใจน้อมไปทางศาสนาเหมือน

    ภรรยาแกและจะขอบวช แต่ตาแปะก็มักขัดขวางไม่ให้บวช จนแล้วจนรอดในที่สุดลูกชาย

    ก็ได้บวชและศึกษาเล่าเรียนทำสมาธิกรรมฐานจนแตกฉาน และในที่สุดวันที่พระได้รับ

    ทราบข่าวว่าพ่อแกเสียชีวิตขณะกำลังจะนำหมูลงหม้อน้ำเดือดเพื่อให้ขนมันหลุดออกให้

    หมดนั้น แกเกิดหน้ามืด หัวทิ่มลงไปในหมั้อน้ำเดือด ไม่เสียชีวิตทันทีเพราะมีคนมาช่วยไว้

    ทัน แต่ก่อนจะตายแกได้ร้องทุรนทุรายที่สำคัญทำเสียงเหมือนหมูไม่มีผิด จนเป็นที่น่า

    เวทนาของคนในโรงพยาบาลมากจนตายไป เมื่อเสร็จงานศพแล้ว พระลูกชายที่บอกได้

    ศึกษาและท่านทำสมาธิกรรมฐานได้เชี่ยวชาญมาก(หลวงพ่อว่าน่าจะเป็นบุญเก่าของพระ

    ลูกชาย) หลวงพ่อจรัลเล่าว่า พระลูกชายได้เข้าณานและลงไปช่วยอาแป๊ะพ่อในนรก ซึ่ง

    พ่อแกนั้นกำลังดิ้นทุรนทุรายในกระทะทองแดงพอดิบพอดี โดยตาแป๊ะได้เห็นผ้า

    กาสาวพัสตร์หรือผ้าเหลืองของพระลูกชายนั้นหย่อนลงมาจนถึงกระทะที่ตาแปะกำลัง

    ทรมานให้ได้จับแล้วพาขึ้นจากกระทะทองแดงได้สำเร็จ เนื่องเพราะอานิสสงค์ของ

    พระลูกชายที่มีความกตัญญูกตเวทิตาต่อพ่อและท่านได้สำเร็จมรรคผลด้วยจึงทำให้ช่วยพ่อ

    ได้ในนรก เป็นต้น สิ่งเหล่านี้มิใช่เรื่องเหลือเชื่อ เพราะคนที่เล่าเรื่องนี้คือองค์พระเดช

    พระคุณหลวงพ่อจรัล แห่งวัดอัมพวัน นั่นเอง อีกละ? มีแต่ปาฏิหาริย์ ผมเป็นคนไม่

    เชื่อ เรื่องงมงาย อย่างนี้ ขอตอบเรื่องที่คุณมักใช้คำว่าปาฏิหาริย์ นั้นก่อน

    (เพราะดูคุณไม่ศรัททาและไม่มีความเชื่ออยู่แล้ว) ว่า คุณไม่เชื่อก็ไม่เป็นไร? ไม่ศรัททาก็

    ไม่เป็นไรอีก แต่ไม่เชื่อไม่ศรัททาแล้วคิดว่าคนอื่นที่เชื่อและศรัททานั้นงมงาย อยากบอก

    ว่า ก่อนที่มนุษย์เราจะมีเครื่องบินนั้นนะ!! เราอยู่แต่ประเทศไทยเรา เราไม่เคยรู้ว่ามันมี

    เกาะฮาวายอยู่บนโลกใบนี้ ด้วยเพราะไม่เคยรู้ ไม่เคยเห็น ไม่เคยไป แล้วจะบอกว่า

    ฮาวายน่ะมันไม่มีในโลกเพราะไม่เคยรู้มาก่อนว่าจริง ๆ มันมีมานานแล้ว มันไม่ใช่ หรือ

    บอกว่าเชื้อโรคต่าง ๆ ไม่มีเพียงพราะคุณมองไม่เห็น ไม่ได้ แปลว่าไม่มีเชื้อโรค หากคุณ

    ส่องด้วยกล้องจุลทรรศน์คุณก็จะเห็นเชื้อโรคมากมายว่ามีอยู่จริง!! ฉันใดก็ดีพระพุทธเจ้า

    นั้นพระองค์ทรงไม่อยากให้มนุษย์เรายึดถือในเรื่องของอิทธิปาฏิหารย์กันเพราะไม่ใช่ทาง

    หลุดพ้น และตรัสห้ามไม่ให้พระสาวกทั้งหลายแสดงปาฏิหาริย์แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าปาฏิ

    หารย์นั้นไม่มีอยู่จริง และข้อที่ว่าเวรกรรมมันช่วยเหลือกันไม่ได้ใครทำใครก่อก็ต้องรับผล

    นั้นเอง การบวชพิธีกรรม การใส่บาตร สำหรับคุณเป็นแค่

    เปลือกนอกแก่นแท้จริง ๆ คือคำสอนต่างหาก อยากถามว่าหากการบวชเพื่อสืบทอด

    พระพุทธศาสนาซึ่งมีมานานนับพันปีนั้นเขาบวชกันทำไมละ และคุณจะให้ใครสอนคุณหาก

    ไม่มีพระสงฆ์ไว้คอยสืบสานพระพุทธศานให้คุณรู้จักคำสอนของพระพุทธองค์ แล้วคำว่า

    พระรัตนตรัย ที่คุณรู้นั้นต้องประกอบไปด้วย1.พระพุทธ 2.พระธรรมคำสั่งสอน และ

    3.พระสงฆ์ จึงจะครบองค์รัตนะตรัย หากขาดองค์พระสงฆ์ก็ยังไม่ใช่พระรัตนะตรัยนะซิ

    ส่วนพิธีกรรมต่าง ๆ การใส่บาตร ซึ่งใคร ๆ เขาก็ใส่ด้วยความเคารพนอบน้อมด้วยความเชื่อ

    และศรัททากันทั้งนั้นเพราะเราได้ทำบุญกับพระผู้ทรงศีล 227 ข้อ นั้นเราถึงได้อยากใส่

    บาตรกัน เพราะพระท่านก็ไม่ได้รับอาหารแต่อย่างเดียวท่านบวชเพื่อเรียนศึกษาธรรมวินัย

    และเมี่อฉันอาหารที่เป็นของคนทั่วไปเสร็จท่านก็จะอธิษฐานจิตรให้เป็นการตอบแทนที่คุณ

    ว่าเป็นแค่เปลือกนอกนั้น ไม่จริงเลยไม่มีใครคิดแบบคุณหรอก ส่วนเรื่องกรรมเวรนั้นใช่

    ใครทำใครรับมันช่วยไม่ได้นั้น คุณเคยได้ยินหรือไม่กับคำที่ว่า มนุษย์เรานั้นมีกรรมเป็น

    กำเนิด มีกรรมเป็นเผ่าพันธุ์ หากพ่อแม่ทำไม่ดีไว้กรรมย่อมตกแก่ลูกของตนเป็นธรรมดา

    เรื่องนี้มีกล่าวไว้ และที่ว่าไม่เห็นความสุขที่จะได้กับการบวช มันมีแต่ทุกข์ทั้ง ๆ ที่คุณมี

    ความสุขอยู่ดีๆ ตอบว่าก็เพิ่งจะได้ยินนี่แหละที่ว่าบวชแล้วมีแต่ทุกข์ คำตอบมีไว้แล้วนะ

    คะไม่อยากไม่ศรัททาก็เรียนคุณแม่ท่านไปตรง ไป ตรงมาว่า ไม่อยากบวชเพราะแน่ใจว่า

    จะไม่ได้อะไรมีแต่ความทุกข์เพราะใจมันไม่ชอบและคุณแม่ก็จะเป็นบาปด้วยหากขืนให้

    บวช ที่บอกว่ามีคนบอกไม่ลองจะรู้หรือ? เพราะคุณเคยบวชเณรมาแล้วรู้ดีว่าจะศึกษา

    ธรรมไม่จำเปนต้องบวชไม่ได้มีประโยขน์อะไรเลย เสียเงิน เสียเวลา เปลืองเงินทำบุญ

    เรื่องพวกนี้มันเป็นแค่เปลือก และว่า หากบวชน่าจะต้องตลอดชีวิต ใม่ใช่บวชนับวันรอสึก

    อย่างที่แม่กับยายอยากให้เป็นอย่าลองเลยนะคะ หากไม่ศรัททาแล้วหากคุณบวชด้วย

    ความไม่เชื่อถือศรัททาศีลของพระนะ 227 ข้อ ไม่ใช่น้อย ๆ หากทำผิดด้วยใจไม่มีศรัท

    ทาอย่างนี้แล้วน่าจะได้บาปมากกว่าได้บุญ และที่ว่าหากคุณจะบวชไปตลอดชีวิตคุณน่าจะ

    คิดใหม่ให้ดี ๆ เพราะการบวชตลอดชีวิตนั้นไม่ใช่เรื่องง่ายอีกทั้งต้องมีใจรักศรัททาในองค์

    สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าและเห็นคุณค่าประโยชยน์ของการบวชเรียนและทดแทน

    พระคุณบุพการีอย่างแท้จริง และน่าจะต้องมีบารมีเก่าร่วมอยู่ด้วยจึ่งจะสำเร็จรอดฝั่งได้

    หากมีมารมาผจญบุญไม่ถึง ก้าวไม่พ้นก็ยังต้องสึกอยู่ดี ฉะนั้นคุณไม่ควรใช้คำว่าจะบวชก็

    จะต้องเป็นตลอดชีวิตมันไม่ได้ง่ายดายอย่างที่พูดเลย


    ที่พูดมาทั้งหมดคิดว่าได้ตอบคำถามคุณน่าจะครบ หากสิ่งใดที่ทำให้คุณฟังแล้วเกิดทุกข์

    ใจ ก็ขออโหสิกรรมไว้ณที่ีนี้ด้วย

    ขอนอบน้อมแด่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เจริญในธรรม กำหนดมีพระพุทธเจ้า

    เป็นพุทธานุสติเสมอค่ะ
    [/B]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 11 สิงหาคม 2013
  12. patdorn

    patdorn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2012
    โพสต์:
    138
    ค่าพลัง:
    +227
    พุทธบริษัทสี่มีสิทธิเรียนและทำได้เท่ากันต่างกันแค่ศีลๆๆๆเพราะอยู่ในสังคมที่ต่างกัน ดีกว และฐานะภิกษุสูงกว่าประณีตกว่าที่ศีลและระดับจิตใจ แต่ก็มีฆราวาสที่จิตใจสูงส่งก็มี
     

แชร์หน้านี้

Loading...