ฝันไปถึง เมืองบังบด เมืองผี แดนลับแล แล้วแต่จะเรียก

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย jarujun, 21 มกราคม 2015.

  1. jarujun

    jarujun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2013
    โพสต์:
    3,285
    ค่าพลัง:
    +11,833
    สิงห์จับไข้ จนสลบไป แล้วฝนก็หยุดตก ราตรีนั้นช่างยาวนัก แต่พระอาทิตย์ก็ขึ้นอีกครา
    ไม่มีราตรีใด ที่จะอยู่ตลอดกาล ริมฝีปากแห้งแตก รู้สึกลำคอร้อนผ่าว กล้ามเนื้อเหมือนจะฉีกออกจากกัน แต่ด้วยหัวใจของทหาร นักรบผู้ไม่ยอมแพ้ แสงอาทิตย์อาบผิวจนแสบร้อน สิงห์ค่อยๆ พลิกตัวแล้วคลานไปตามดินบางส่วนที่ยังแฉะ ทำให้แม้แต่คลานก็ยังเป็นไปได้ยาก สิงห์คลานไปที่พลับพลาพระที่นั่ง ด้วยใจมุ่งมั่น ไม่ยอมแพ้ จนสลบไปอีกครา เหล่าทหารยาม ได้แต่ชำเลืองมองเจ้าหอหน้า รอสัญญานจากเจ้าหอหน้า ที่ในเพลานี้ ทรงประทับนั่ง พระหัตถ์อุ้มไก่ชนไว้ในมือ ทรงลูบหัวไก่ชน มองไปเบื้องหน้า เหมือนไม่เห็นร่างขุนสิงห์ ทุกคนได้แต่กลืนน้ำลาย
    มิมีใครกล้าขัดพระบัญชาเจ้าหอหน้า แม้ขุนสิงห์เคยเป็นที่โปรดปราน แต่เพลานี้ ช่างน่าอนาถนัก

    เจ้าหอหน้า ท่านในบางเพลา ก็โหดเหี้ยมจนเดาพระทัยมิถูก
     
  2. jarujun

    jarujun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2013
    โพสต์:
    3,285
    ค่าพลัง:
    +11,833
    สิงห์ตื่นมาอีกครา ด้วยให้เจ็บนัก รู้สึกถึงฝ่าพระบาทที่เหยียบบนแผ่นหลัง ผิวหนังที่ท่อนแขนผิวหน้าแสบจากการคลานไปบนพื้น เจ้าหอหน้าตรัสเบาๆ ข้างหูสิงห์
    "ขุนสิงห์ พี่เห็นใจเจ้านัก หากเป็นการศึก มัวแต่มานอนเล่นเยี่ยงนี้ หัวเจ้าร้อยหัวคงไม่พอให้พี่กุด กะไรเสียเห็นแก่ความเป็นพี่น้อง ข้าจักปลุกเจ้าให้ตื่นไวไว จักได้รอดชีวิต จะได้กลับไปหาลูกหาเมียรัก ที่แย่งพี่ร่วมสาบานมา" แล้วทหารที่คุกเข่าข้างเจ้าหอหน้า ก็สาดน้ำลงมาราดรดขุนสิงห์ สิงห์กัดปากจนเลือดออก ไม่ให้ส่งเสียงร้องโหยหวน ด้วยน้ำที่เจ้าหอหน้าตรัสว่า คือน้ำพระทัยของพระองค์ ที่แท้คือ
    น้ำเกลือ!!!
     
  3. jarujun

    jarujun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2013
    โพสต์:
    3,285
    ค่าพลัง:
    +11,833
    ที่กายเจ็บปวดดั่งตกนรก ที่ใจแหลกสลายมิมีเหลือ กับประโยคสุดท้ายของเจ้าหอหน้า น้ำตาหลั่งรินแม้พยายามอดกลั้น ได้แต่สูดหายใจเข้าไป แล้วกัดฟัน กลืนเลือดและน้ำลาย เจ็บปวดจนมิรู้จะบรรยายเยี่ยงไร ยิ่งเห็นเจ้าหอหน้า ทรงอุ้มไก่ แล้วดำเนินไปนั่งประทับที่พลับพลา อย่างสง่า รอกระทืบขุนสิงห์น้องรัก ที่พลับพลา ที่มีทหาร เหล่าแม่ทัพ ตั้งแถวรอ ให้ขุนสิงห์คลานผ่าน เท้าที่ยืนเรียงกันอย่างเป็นระเบียบ ไปหาเจ้าชีวิตของสิงห์
     
  4. jarujun

    jarujun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2013
    โพสต์:
    3,285
    ค่าพลัง:
    +11,833
    ยังไม่หนำใจ พอไกล้จะถึงพลับพลา ทหารก็นำ น้ำพระทัยของเจ้าหอหน้า น้ำเกลือก็ราดรดลงบนร่างขุนสิงห์ สุดจะทานทน ขุนสิงห์แม้ไม่ร้อง แต่ก็เกลือกกลิ้งไปกับดิน ด้วยความแสบจนรู้สึกเหมือนไฟคลอกไปทั้งร่าง ได้แต่กระเสือกกระสน ไปกราบแทบพระบาท
     
  5. jarujun

    jarujun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2013
    โพสต์:
    3,285
    ค่าพลัง:
    +11,833
    เจ้าหอหน้าทรงไม่ตัรัสกะไร สิงห์จะตายก็ไม่กล้าตาย แม้ใจจะห้าวหาญเพียงใด เพลานี้ ก็ยอมสยบให้เจ้าหอหน้า ทั้งกายแลใจ เหล่าแม่ทัพนายกอง ก็ให้สยบกับพระทัยที่ไม่หวั่นไหว แล้วก็มีทหาร ที่บางคนสิงห์จำได้ ว่าได้สู้รบ บางพวกก็เป็นกองเดียวกับเจ้าหอหน้า บางพวกก็เป็นกองเดียวกับสิงห์ ทุกคนลงไปนอนคว่ำ แล้วก็มีทหารเข้ามาประกบทหารเหล่านั้น แล้วก็ได้ยินเสียงสั่ง
    " 10 ไม้" เสียงหวายแหวกอากาศ ดังหวีดหวิว แล้วตวัดลงบนแผ่นหลัง ทหารเหล่านั้น เลือดซิบออกทุกไม้ตวัดลง แต่ไม่มีทหารคนใด ที่เปล่งเสียงร้อง ออกมาแม้แต่คนเดียว แล้วทหารที่ลงหวาย ก็นั่งคุกเข่าลงข้างทหารที่โดนลงทัณฑ์
    แต่ก็ยังไม่มีใครกล้ามาแตะต้องสิงห์ สิงห์ทั้งเจ็บแสบ ทั้งงง
    เจ้าหอหน้า ตรัสด้วยพระสุรเสียงอันดัง และหนักแน่น
    "ความผิดครานี้ ของพวกมึง เพลาลงศึก กูว่ากูจักให้สัญญาหย่าศึก พวกมึงขัดกู กูเข้าเชิงมวยกับขุนสิงห์ พวกมึงแทนที่จะพิชิตศึก จัดการพวกขุนสิงห์ให้ราบคาบ มึงก็ไม่ ส่วนพวกไอ้ขุนสิงห์ ก็มิมีหัวคิด จักหนี จักสู้ ก็มิมีคนแทน หากไปศึก แม่ทัพมึงเพลี่ยงพล้ำ มึงมิสิ้นชีวิตสิ้นแผ่นดินตามมันไปฤา ไอ้ขุนสิงห์ ก็ดันทุรังดื้อรั้น รู้ว่าสู้ไม่ไหว มึงจะสู้ตายถวายหัว ใยมิให้สัญญาน ให้คนกลับส่งข่าวให้ทัพ มึงจะกอดคอกันตาย ออกศึกเยี่ยงนี้ มีแต่แพ้ สู้กี่ครั้งก็แพ้ กูผิดหวังกับพวกมึงจริงๆ เอาพวกมันไปรักษา เพลานี้โชคดี มีชีวิต รีบกลับตัวกลับใจเสีย หากเป็นการศึก มึงจะไม่มีแม้แต่โอกาส และลมหายใจ"

    เหล่าทหารแลขุนสิงห์ ต่างรับพระราชโองการ ที่สั่งสอน เหล่าทหารที่ลงหวาย ต่างก็เข้าไปพยุงทหารเหล่านั้น ไปเรือนรักษา เจ้าหอหน้ามองมาที่สิงห์ที่หมอบ ท่านทรงพระดำเนินมาที่ขุนสิงห์
    ทหารนายกองที่เหลือคิดว่าท่านจะเข้ามาพยุงขุนสิงห์ แต่ท่านกลับตวัดพระบาท เข้ากกหูขุนสิงห์ สลบคาพระบาท แล้วพยักหน้าให้ทหารที่คุกเข่า หามสิงห์ไปเรือนรักษา

    วันนี้ทหารนายกอง รู้สึกว่า พระบัญชาห้ามขัด ต้องฟังให้ถ้วนถี่ แลเจ้าหอหน้าบางคราก็น่ากลัวกว่าความตาย
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 31 พฤษภาคม 2021
  6. jarujun

    jarujun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2013
    โพสต์:
    3,285
    ค่าพลัง:
    +11,833
    เขียนไป ปาดเหงื่อไป หนาวๆร้อนๆ เสียวหลัง 555
     
  7. jarujun

    jarujun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2013
    โพสต์:
    3,285
    ค่าพลัง:
    +11,833
    ช่วงนี้สัญญานจากพญานาคมาบ่อยจัง โดยเฉพาะพญานาคสีดำ ตระกูลกัณหาโคตมะ
     
  8. lordsir

    lordsir Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    38
    ค่าพลัง:
    +68
    แวะมาเป็นกำลังใจ ให้อ.จารุ กับ ท่านขุนสิงห์ ครับ
    ต่อนิทาน พญานาค ให้ ท่านขุนสิงห์ พักก่อนได้นะครับ
     
  9. jarujun

    jarujun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2013
    โพสต์:
    3,285
    ค่าพลัง:
    +11,833
    ขุนสิงห์ตื่นมากับกลิ่นยาฉุน รู้สึกถึงยาเย็นๆที่โปะอยู่ตามผิว
    ในเรือนรักษา มีทหารนอนบนผ้าดิบที่รองด้วยเสื่อ กลิ่นยาต้มฉุนเฉียว ลอยลมมาพร้อนควันยา
    ได้ยินเสียงฝีเท้ารอบๆ เดินไปมา มีทหารใส่เสื้อผ้าดิบ คอยดูแลทายา ให้เหล่าทหาร ที่ตอนนี้นอนคว่ำหน้า เรียงบนเสื่อกันเป็นแถวยาว สิงห์มิรู้วันคืนพอตื่นมาก็มีทหารนำข้าวต้มใส่เกลือมาให้ พร้อมเนื้อเค็มชิ้นเล็กๆ ไม่กี่ชิ้น สิงห์แทบจะกลืนข้าวต้มลงไป ท้องหิวแต่กลืนไปได้ไม่กี่อึกก็อาเจียนออกมา เจ็บไปทั้งชายโครงก็หยุดอาเจียนมิได้ อาเจียนลงไปในกระโถนที่ทหารนำมารองให้ แล้วก็มีทหารมาพยุงสิงห์ขึ้น ลงไปนอนอีกครา แล้วก็นำน้ำข้าวต้มมากรอกให้ แล้วก็เห็นเจ้าหอหน้าดำเนินมา หยุดมองสิงห์ ด้วยพระพักตร์เรียบเฉย สายพระเนตรเย็นชานัก เหล่าทหารถวายบังคม สิงห์พยายามยกมือถวายบังคม แต่มือเจ็บตึงจากแผลถลอกแทบยกไม่ขึ้น ทหารพยุงสิงห์ พร้อมยาต้มร้อน กลิ่นเหม็นฉุนจนแทบอาเจียนตั้งแต่ยังไม่ล่วงลงคอ สิงห์เบือนน้าหนี เจ้าหอหน้าทรงทรุดพระวรกายนั่งข้างสิงห์ แล้วหยิบยาถ้วยเล็กนั้นมา กรอกลงปากสิงห์ สิงห์แทบจะอาเจียน แต่เจ้าหอหน้าก็เอาพระหัตถ์มาปิดปากสิงห์แล้วจับต้นคอไม่ให้ขยับ สิงห์ได้แต่กลืนยาลงไป
    เจ้าหอหน้าทรงตรัส "หากแม้นเป็นยาพิษ หากกูจักประทานให้มึง มึงก็ต้องกลืน เพลานี้ชีวิตมึงจักอยู่จักตาย มิใช่ทางเลือกของมึง"

    สิงห์โดนปล่อยทิ้งลงไปนอน แล้วได้แต่พึมพำตอบ ก่อนจะสลบไปอีกครา
     
  10. jarujun

    jarujun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2013
    โพสต์:
    3,285
    ค่าพลัง:
    +11,833
    สิงห์หลับๆตื่นๆ ไปอีก 3 วัน ด้วยฤทธิ์ยาผสมยานอนหลับเพื่อให้ฟื้นตัวเร็วขึ้น แต่ระหว่างหลับๆตื่นๆ ก็ยังได้ยินเสียงการรบ ทั้งกลางวันกลางคืน ใจอยากไปฝึกรบ แต่กายไม่ไหว
    สิงห์สะบักสะบอม แต่ก็ฟื้นขึ้นมานั่งจนได้ มีทหารมายืนเมียงมอง แล้วก็มาพยุงสิงห์ไปเข้าเฝ้า
    เจ้าหอหน้าไม่ได้ประทับที่พลับพลา แต่อยู่ที่ลานรบ กำลังรบพุ่งด้วยดาบไม้เช่นเดิม สิงห์ถูกทิ้งให้นั่งเฝ้ามองการรบพุ่ง เพลาอาหาร ก็มีทหารจัดเตรียมให้ รอจนพลบค่ำ เจ้าหอหน้าก็ดำเนินกลับมาประทับที่พลับพลา มีทหารยามนำน้ำมาให้เจ้าหอหน้าล้างพระหัตถ์ ในสำหรับมีเพียงข้าวแลเนื้อเค็มแห้งๆ 5-6 ชิ้น เจ้าหอหน้าเปิบข้าวด้วยมือ พระพักตร์ยังเลอะไปด้วยฝุ่นผสมกับพระเสโท ท่านเหลือบพระพักต์มองสิงห์ ใสสายพระเนตรมิมีพระอารมณ์กริ้ว มันช่างเฉยเมย จนสิงห์มิกล้าสบสายพระเนตร ได้แต่ก้มหน้ามองพื้น
     
  11. jarujun

    jarujun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2013
    โพสต์:
    3,285
    ค่าพลัง:
    +11,833
    จนเจ้าหอน้ำเสวยพระกระยาหารเรียบร้อย ก็เอ่ยขึ้นลอยๆ จนสิงห์สะดุ้ง
    "ขุนสิงห์ เจ้าต้องพัก มิต้องลองประลองศึก ฝึกอีกไม่กี่ราตรี ก็จักได้ฤกษ์ยามเคลื่อนทัพ
    เจ้าชำนาญดาบ หมัด มวย มิต้องฝึกอีก กะไร จงจำไว้เป็นบทเรียน อย่ามุทะลุดุดัน
    จักตายอย่างไร้ค่า หากจักต้องตายให้ตายตามบัญชาข้า มึงต้องช่วยพี่มึงรักษาอโยธยาที่เสียเลือดเสียเนื้อแลกมา เลิกคิดเรื่องโลกีย์ จงทำหน้าทีเถิด ขุนสิงห์"

    สิงห์ได้แต่ก้มกราบแทบพระบาท ให้ความเงียบเป็นคำตอบ เจ้าหอหน้าทอดถอนพระปัสสาสะ
    แล้วเอื้อมพระหัตถ์มาลูบศรีษะสิงห์ "อย่าผูกเวรผูกกรรมต่อไปเลยหนอ มันจักข้ามภพข้ามชาติ
    มานอนข้างเตียงข้าเฉกเช่นเดิม จงมาคอยระวังหลังให้พี่"

    แล้วทรงดำเนินไปหลังพลับพลา เพื่อสรงน้ำ ทิ้งสิงห์ให้ร้องไห้อีกครา สิงห์ได้แต่สัญญากับตนในใจว่าจักไม่เสียน้ำตาให้เรื่องโลกียะ รัก โลภ โกรธ หลง อีกต่อไป กรรมใดใครก่อ กรรมนั้นย่อมสนอง สิงห์จักน้อมรับกรรมนี้ โดยมิปริปากอีก
     
  12. Varining

    Varining สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 ตุลาคม 2016
    โพสต์:
    22
    ค่าพลัง:
    +21
    อ่านเจอตรงนี้ เมื่อปี 2015 เข้าท่ากับเหตุการณ์ ณ ปัจจุบันเลย
     
  13. jarujun

    jarujun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2013
    โพสต์:
    3,285
    ค่าพลัง:
    +11,833
    ป้ายังมีชีวิตอยู่ ป้ายังไม่ตายนะ สำหรับใครที่บ่นถึง ป้าแค่อ้วน 555
    ป้ากลับมาแล้ววววว
    พี่สิงห์ก็มา
     
  14. lordsir

    lordsir Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    38
    ค่าพลัง:
    +68
    ปูเสื่อ รอครับ :)
     
  15. jarujun

    jarujun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2013
    โพสต์:
    3,285
    ค่าพลัง:
    +11,833
    ข่าวสะเทือนอารมณ์ ไม่ใช่อารมณ์จารุ แต่กระเทือนถึงกระแสขององค์ดำ

    สะเทือน มากจนต้องกลับมาเขียนเรื่องต่อ
     
  16. jarujun

    jarujun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2013
    โพสต์:
    3,285
    ค่าพลัง:
    +11,833
    คำว่าสะเทือนอารมณ์กว่าสะเทือนอารมณ์
    ความหมายก็คือสะเทือนโลกธาตุ
    คนฟังเสพข่าวอาจจะรู้สึกปกติ มีคนเกิดและตายในทุกวัน
    ข่าวล่าสุด ที่มีบุคคลในข่าวเสียชีวิตถึงสองคน
    ซึ่งจารุก็ไม่รู้จักเป็นการส่วนตัว
    แต่คราวนี้มันสะเทือนสวรรค์และนรก
    ภาษาแบบโบราณเค้าบอกว่าเทวดาร้อนรุ่มไปหมด

    หูข้างขวา มันร้อนมาก ช่วงหัวด้านบนก็ร้อน
    กระแสของท่านเป็นกระแสของความโกรธ ความไม่ปราณี
    ความไม่อภัย กระแสของนักรบที่พร้อมออกศึก
    และเป็นกระแสชนิดที่ไม่สามารถจะทำเฉย เป็นกระแสชนิดที่ไม่สามารถจะทำให้มันสงบหรือหยุดได้

    เรื่องนี้ในอดีตมันเคยเกิดขึ้นมาก่อนสมัย 400 ปีที่แล้วแล้วมันก็วนกลับมาเกิดในปัจจุบัน

    ความเดือดดาลที่เกิดขึ้นเกือบเผาจารุให้เป็นจุล
    แล้วมันก็ให้คำตอบแล้วมันก็ให้คำตอบได้มีหลายเรื่องว่าทำไมต้องเขียนเรื่องนี้ ทำไมต้องรื้อฟื้นอดีต
    ไม่ใช่ความสุขสนุกของผู้อ่าน ไม่ใช่เรื่องเพ้อเจ้อ
    มันคือกระแสที่จะปล่อยสู่โลกให้กำลังใจมันคือกระแสที่จะปล่อยสู่โลกให้กำลังใจกับเหล่านักรบที่กำลังหมดหวัง
     

แชร์หน้านี้

Loading...