พญานาคราช 4 ตระกูล นครคำชะโนด

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย Ajarn Pithak, 23 พฤศจิกายน 2009.

  1. naknoi.b

    naknoi.b เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    1,042
    ค่าพลัง:
    +1,714
    อิ่มใจแค่ "กูมี"!
    ขวนขวายหามาเพิ่ม มาสะสม
    เพื่อละทิ้ง ไว้เบื้องหลังทั้งสิ้น

    "หามาเพื่อทิ้ง" คำนี้ถูกต้องที่สุดแม้แต่....ร่างกาย...... ยังต้องละทิ้งไว้เช่นกัน เมื่อเกิด....ต้องการกำทุกอย่างไว้ในมือ ทรัพย์สมบัติเกียรติยศ หากกำทั้งโลกไว้ในอุ้งมือได้คงทำ ยามตาย...แม้ไม่แบเขาก็พยายามแบมือให้ มือที่กำจริงแท้ว่างเปล่า มิมีสิ่งใดยึดไว้ได้ ชีวิตยังยึดมิได้ แล้วจะยึดสิ่งใด?denceedenceedenceedencee
     
  2. naknoi.b

    naknoi.b เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    1,042
    ค่าพลัง:
    +1,714
    ขอบคุณขอรับกระผมสำหรับคำชม อิอิ เป็นป(cry)pity_pigลื้ม..!
     
  3. ภัทรอังคาร

    ภัทรอังคาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    4,904
    ค่าพลัง:
    +14,098
    ธรรมะน้องเบ๊นซ์ ลึกซึ้งกินใจ ภูมิธรรมสูงจริงๆเลย พี่อุ้มยังรู้ไม่เท่าเลยนะขอบอก ขอให้เจริญในธรรมยิ่งๆขึ้นไปนะจ๊ะ
     
  4. กาลปาวสาน

    กาลปาวสาน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ตุลาคม 2009
    โพสต์:
    165
    ค่าพลัง:
    +390
    ....วันนี้เกิดกิเลส ไปเจอตุ๊กตามาชิมาโร่ และดันมีคนชอบเหมือนกัน...เป็นกะเทย เลยเกิดสงครามสงครามเกย์กับกะเทย สุดท้ายผู้ที่ได้ไปก็คือข้าพเจ้า 555+ กระต่ายน้อยตาตี่ใส่หมวกไหมพรหม อ๊ากกกก น่ารัก
     
  5. สิงหนวัติ

    สิงหนวัติ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 มกราคม 2009
    โพสต์:
    788
    ค่าพลัง:
    +2,107
    วันนี้มาเปิดกระทู้เป็นคนแรก ฮ่าๆๆ
     
  6. Ajarn Pithak

    Ajarn Pithak เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 ตุลาคม 2009
    โพสต์:
    1,367
    ค่าพลัง:
    +2,126

    อะนะน้องชายมาแต่เช้าเลยครับ:cool::cool::cool:
     
  7. สิงหนวัติ

    สิงหนวัติ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 มกราคม 2009
    โพสต์:
    788
    ค่าพลัง:
    +2,107

    พี่ชายก็ทำงานแต่เช้าเลยนะครับ :cool:
     
  8. Ajarn Pithak

    Ajarn Pithak เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 ตุลาคม 2009
    โพสต์:
    1,367
    ค่าพลัง:
    +2,126
    น้องเทียนพักอยู่แถวไหนครับ เพื่อพี่ยาลง กทม. อาทจะไปปรึกษาอะ
     
  9. สิงหนวัติ

    สิงหนวัติ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 มกราคม 2009
    โพสต์:
    788
    ค่าพลัง:
    +2,107

    ปทุมวันครับ ถ้ามา กทม. เชิญที่วัดปทุมวนาราม ตำบลปทุมวัน ใกล้ๆ กับจุฬาฯ อยู่ระหว่าง สยามพารากอน กับ Central World ครับ รถไฟฟ้าBTS ลงสถานีสยาม ครับ

    มาเมื่อไหร่บอกนะครับ จะได้นัดคนในบอร์ดนี้ หลายๆ ท่าน ไปทำบุญกัน จะได้รู้จักพูดคุยกันด้วยิ:cool::cool:
     
  10. king_6914

    king_6914 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    614
    ค่าพลัง:
    +18,384

    ทำไงจะได้มีโอกาสรำถวายปู่ อย่างนี้บ้างหนอ อิอิ
     
  11. Ajarn Pithak

    Ajarn Pithak เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 ตุลาคม 2009
    โพสต์:
    1,367
    ค่าพลัง:
    +2,126
    เดียวคงได้เจอกันครับ
     
  12. สิงหนวัติ

    สิงหนวัติ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 มกราคม 2009
    โพสต์:
    788
    ค่าพลัง:
    +2,107
    พี่ยาจะลงมาวันไหน หรือช่วงไหนครับ พอดีว่าจะได้บอกพลพรรคให้มารวมตัวกันได้ถูกวัน เวลา สถานที่
     
  13. Ajarn Pithak

    Ajarn Pithak เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 ตุลาคม 2009
    โพสต์:
    1,367
    ค่าพลัง:
    +2,126
    ครับพี่ยาก็จะไปช่วงก่อนสงการณ์ อะครับน้องเที่ยน ว่าจะไปหาพี่ตุ๊กด้วยครับ
     
  14. naknoi.b

    naknoi.b เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    1,042
    ค่าพลัง:
    +1,714
    โอ้! พี่ยาจะมาเที่ยวเหรอคับ..ถ้าว่างคงจะได้เจอกัน..แฮ่ๆ ขนขนมของฝากมาเยอะๆนะคับ..หิว!!!!!!!!!*-*(deejai)(ping-love
     
  15. naknoi.b

    naknoi.b เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    1,042
    ค่าพลัง:
    +1,714
    มนุษย์เคยได้อะไรจริงจัง
    มนุษย์เคยเป็นอะไรตลอดกาลหรือไม่dencee
    ทุกอย่างต้องวางไว้ในโลก คืนให้กับโลก

    โลก...ก็แปรปรวนไม่เที่ยงแก่มนุษย์ !"dencee<O:p</O:p
     
  16. Ajarn Pithak

    Ajarn Pithak เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 ตุลาคม 2009
    โพสต์:
    1,367
    ค่าพลัง:
    +2,126
    ครับได้เลยไม่มีปัญหาครับ
     
  17. Nakraksa

    Nakraksa เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    3,481
    ค่าพลัง:
    +14,350
    เห็นเค้ามีขนมกัน เลยอดไม่ได้ ชอบของหวานมากมาย อย่าลืมนู๋น้า อ้อนๆ
     
  18. Ajarn Pithak

    Ajarn Pithak เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 ตุลาคม 2009
    โพสต์:
    1,367
    ค่าพลัง:
    +2,126
    ข้าวมธุปายาส หรือข้าวทิพย์

    [​IMG]


    นางสุชาดาน้อมถวายข้าวมธุปายาสแด่พระพุทธเจ้า

    ตำนานข้าวมธุปายาส มาจากเรื่องของ นางสุชาดา ธิดาเศรษฐี ณ หมู่บ้านเสนานี ใกล้ตำบลอุรุเวลาเสนานิคม มีหญิงรับใช้ชื่อนางปุณณา นางสุชาดาได้บวงสรวงขอบุตรชายต่อเทวดาประจำต้นไทร เมื่อได้บุตรชายตามประสงค์แล้ว นางจึงให้คนตระเตรียมทำข้าวมธุปายาสเพื่อนำไปเป็นพลีแก่เทวดา ที่บันดาลให้ความหวังของนางเป็นจริง แต่ก็ได้ถวายแด่ นักบวชสิทธัตถะ ผู้ประทับนั่งใต้ร่มไทรนั้น ซึ่งเมื่อนางเห็นก็เข้าใจว่าเป็นรุกขเทวดาที่แสดงตนมาเป็นนักบวช เพราะมีลักษณะงาม นางจึงน้อมข้าวมธุปายาสนั้นเข้าไปถวาย ครั้นนักบวชสิทธัตถะได้บอกความจริงแก่นางแล้วนางก็ยิ่งมีใจศรัทธา จึงได้ถวายข้าวนั้นทั้งถาด นักบวชสิทธัตถะได้นำข้าวมธุปายาสมาแบ่งเป็น ๔๙ ก้อน แล้วฉันจนหมด จากนั้นจึงนำถาดไปอธิษฐานแล้วลอยไปในแม่น้ำเนรัญชรา เพื่อเสี่ยงทายเรื่องที่จะสามารถตรัสรู้ได้หรือไม่ ข้าวมธุปายาสของนางสุชาดาจึงนับว่าเป็นอาหารมื้อสุดท้ายก่อนที่นักบวชสิทธัตถะจะได้บรรลุอนุตรสัมมาสัมโพธิญาณเป็นพระพุทธเจ้า ดังคำกล่าวที่ว่า



    นับหกปีที่พระสิทธัตถะ
    ฝึกตบะเพียรภาวนามั่น
    จวบวิสาขะรุ่งอรุณพลัน
    นางสุชาดานั้นเฝ้าพระองค์
    ถวายข้าวปายาสด้วยศรัทธา
    เสวยแล้วโมทนาดังประสงค์
    ลอยถาดทวนสายชลจนจมลง
    เสด็จตรงแนวป่าพนาลัย



    วิธีเตรียมทำข้าวมธุปายาสของนางมีดังนี้ นางให้เลี้ยงแม่วัวนมไว้ในป่าชะเอมจำนวน ๑,๐๐๐ ตัว แล้วให้แม่วัวนม ๕๐๐ ตัว ดูดกินน้ำนมของแม่วัวนม ๑,๐๐๐ ตัวนั้น แล้วให้แม่วัวนม ๒๕๐ ตัว ดื่มกินน้ำนมของแม่วัวนม ๕๐๐ ตัวนั้น แล้วให้แม่วัวนม ๑๒๕ ตัว ดูดกินน้ำนมของแม่วัวนม ๒๕๐ ตัวนั้น แล้วให้แม่วัวนม ๖๓ ตัว ดูดกินน้ำนมของแม่วัวนม ๑๒๕ ตัวนั้น แล้วให้แม่วัวนม ๓๒ ตัว ดูดกินน้ำนมของแม่วัวนม ๖๓ ตัวนั้น แล้วให้แม่วัวนม ๑๖ ตัว ดูดกินน้ำนมของแม่วัวนม ๓๒ ตัวนั้น และในท้ายที่สุดนางให้แม่วัวนม ๘ ตัว ดื่มกินน้ำนมของแม่วัวนม ๑๖ ตัวนั้น หลังจากนั้นนางก็จะนำแม่วัวนมทั้ง ๘ ตัว มารีดเอาน้ำนม และนำน้ำนมมาเคี่ยวจนข้นเป็นนมข้นหวาน ทำให้มีรสอร่อยมาก เรียกว่า "ขีรปริวรรต" และในวันที่นางให้รีดนมนั้น ลูกวัวไม่กล้าเข้าใกล้แม่วัวเหล่านั้นเลย พอนางสุชาดาน้อมภาชนะเข้าไปเท่านั้น น้ำนมก็หลั่งออกมาจากเต้านมของแม่วัวเอง นางเห็นดังนั้นก็เกิดความปิติยินดีอย่างยิ่ง เมื่อได้แล้วจึงเทน้ำนมลงใส่ภาชนะใหม่ยกขึ้นตั้งบนเตา

    ในวันที่นางปรุงข้าวมธุปายาสนั้น ท้าวจตุโลกบาลทั้ง ๔ คือ ท้าวธตรฐ ท้าวรุฬหก ท้าววิรูปักข์ และ ท้าวเวสวัณ ก็มายืนอารักขาก้อนเส้าเตาปรุงทั้ง ๔ ทิศ รวมทั้ง ท้าวมหาพรหม ก็นำทิพย์เศวตฉัตรมากางกั้นข้างบนกระทะเพื่อเป็นสิริมงคล และป้องกันธุลีบนนภากาศ สมเด็จอมรินทราธิราช เสด็จลงมาก่อไฟใส่ฟืน เทวดาเจ้าในหมื่นโลกธาตุ ก็นำทิพยโอชามารวมใส่ลงไปในหม้อปรุงนั้น ประชาชนในทวีปทั้ง ๔ และทวีปน้อย ๒,๐๐๐ ห้อมล้อม ต่างเป็นดังจักรบีบรวงผึ้งอันอุดมด้วยน้ำผึ้งใส่เข้าไปในภาชนะที่กำลังปรุงนั้น เมื่อทำดังนี้แล้วก็ได้เป็นข้าวมธุปายาส เพื่อนำไปถวายแด่พระภิกษุต่อไป




    [​IMG]



    ที่มาข้อมูล :
    เข้ามธุปายาส (ข้าวมธุปายาส).บำรุง บารมี, มูลนิธิสารานุกรมวัฒนธรรมไทย ธนาคารไทยพาณิชย์.
    สารานุกรมวัฒนธรรมไทย (ภาคเหนือ) เล่ม ๒ : กรุงเทพฯ.

    พิธีสงฆ์ คู่มือชาวพุทธ. เสงี่ยม คุมพวาส, พิมพ์ที่ เทพนิมิตรการพิมพ์, ๒๕๐๘: ๓๑๒-๓๓๓

     
  19. Ajarn Pithak

    Ajarn Pithak เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 ตุลาคม 2009
    โพสต์:
    1,367
    ค่าพลัง:
    +2,126
    ชาติหน้ามีจริงหรือ ?..

    " จะต้องให้รู้ด้วยตนเอง ธรรมะที่แท้จริงเหมือนรสของแอ๊ปเปิ้ล
    เรื่องรสของแอ๊ปเปิ้ล เราฟังดูเฉยๆก็ไม่รู้ จะไม่รู้ว่ามันหวานหรือมันเปรี้ยวอย่างไร?
    นอกจากเราลองชิมแอ๊ปเปิ้ลนั้นแล้ว นั่นแหละ... จึงจะรู้แจ้งว่า รสของมันเป็นอย่างไร?
    อร่อยไหม? ไม่ต้องไปถามใครอีกแล้ว ปัญหามันจบที่ตรงนั้นเอง "


    ครั้งหนึ่งมีคนกลุ่มหนึ่งมาถามปัญหาท่านอาจารย์ชา
    (หลวงพ่อชา วัดหนองป่าพง อุบลราชธานี) เรื่องชาติหน้าภพหน้า
    เขาสงสัยว่า คนตายแล้วเกิดหรือไม่?


    ผู้ถาม : หลวงพ่อครับ ชาติหน้ามีจริงไหม?

    ท่านอาจารย์ชา : ถ้าบอกจะเชื่อไหมล่ะ?

    ผู้ถาม : เชื่อ

    ท่านอาจารย์ชา : ถ้าเชื่อ......คุณก็โง่

    ผู้ถาม : คนตายแล้วเกิดไหม?

    ท่านอาจารย์ชา : จะเชื่อไหมล่ะ? ถ้าเชื่อ......คุณโง่หรือฉลาด?


    แล้วท่านจึงสอนต่อไปว่า

    หลายคนมาถามอาตมาเรื่องนี้ อาตมาก็ถามเขาอย่างนี้เหมือนกันว่า
    ถ้าบอกแล้วคุณจะเชื่อไหม? ถ้าเชื่อคุณก็โง่
    เพราะอะไร ก็เพราะมันไม่มีหลักฐาน-พยานอะไรที่จะหยิบมาให้ดูได้
    ที่คุณเชื่อเพราะคุณเชื่อตามเขา คนเขาว่าอย่างไร คุณก็เชื่ออย่างนั้น
    คุณไม่รู้ชัดด้วยปัญญาของคุณเอง คุณก็โง่อยู่ร่ำไป
    ที่นี้ถ้าอาตมาตอบว่า คนตายแล้วเกิดหรือว่าชาติหน้ามี
    อันนี้คุณต้องถามต่อไปอีกว่า ถ้ามี พาผมไปดูหน่อยได้ไหม?
    เรื่องมันเป็นอย่างนี้ มันหาที่จบลงไม่ได้
    เป็นเหตุให้ทะเลาะทุ่มเถียงกันไปไม่มีที่สิ้นสุด

    ที่นี้ ถ้าคุณถามว่าชาติหน้ามีไหม? อาตมาก็ถามว่า พรุ่งนี้มีไหม?
    ถ้ามีพาไปดูได้ไหม? อย่างนี้คุณก็พาไปดูไม่ได้
    ถึงแม้ว่าพรุ่งนี้จะมีอยู่ แต่ก็พาไปดูไม่ได้ อย่างนี้เป็นต้น
    ถ้าวันนี้มี พรุ่งนี้ก็ต้องมี
    แต่สิ่งนี้เป็นของที่จะหยิบยกเอามาเป็น วัตถุตัวตนให้เห็นไม่ได้

    ความจริงแล้ว พระพุทธองค์ท่านไม่ให้เราตามไปดูถึงขนาดนั้น
    ไม่ต้องสงสัยว่าชาติหน้ามีหรือไม่มี
    ไม่ต้องไปถามว่า คนตายแล้วจะเกิดหรือไม่เกิด
    อันนั้นมันไม่ใช่ปัญหา มันไม่ใช่หน้าที่ของเรา


    หน้าที่ของเราคือ เราจะต้องรู้จัก เรื่องราวของตัวเองในปัจจุบัน
    เราต้องรู้ว่า เรามีทุกข์ไหม? ถ้าทุกข์ มันทุกข์เพราะอะไร?
    นี้คือสิ่งที่เราจะต้องรู้ และเป็นหน้าที่โดยตรงที่เราจะต้องรู้ด้วย
    พระพุทธเจ้าท่านสอนให้เราถือเอาปัจจุบันเป็นเหตุของทุกอย่าง
    เพราะว่าปัจจุบันเป็นเหตุของอนาคต


    คือถ้าวันนี้ผ่านไป วันพรุ่งนี้มันก็กลายมาเป็นวันนี้
    นี่เรียกว่าอนาคตคือพรุ่งนี้ มันจะมีได้ก็เพราะวันนี้เป็นเหตุ
    ทีนี้อดีตก็เป็นไปจากปัจจุบัน หมายความว่า
    ถ้าวันนี้ผ่านไป มันก็กลายเป็นเมื่อวาน นี้เสียแล้ว
    นี่คือเหตุที่มันเกี่ยวเนื่องกันอยู่


    ฉะนั้น พระพุทธเจ้าท่านจึงสอนให้เราพิจารณาเหตุทั้งหลายในปัจจุบัน เท่านี้ก็พอแล้ว
    ถ้าปัจจุบันเราสร้างเหตุไว้ดี อนาคตมันก็จะดีด้วย
    อดีตคือวันนี้ที่ผ่านไป มันย่อมดีด้วย
    และที่สำคัญที่สุดคือ ถ้าเราหมดทุกข์ได้ในปัจจุบันนี้แล้ว
    อนาคตคือชาติหน้าก็ไม่จำเป็นที่จะต้องพูดถึง


    คนหนึ่งพูดว่า : กลัวว่าชาติหน้าจะไม่ได้เกิด

    ท่านอาจารย์ชา : นั่นแหละยิ่งดี กลัวมันจะเกิดเสียด้วยซ้ำไป

    ในครั้งพุทธกาล สมัยที่พระพุทธเจ้ายังคงมีชีวิตอยู่
    มีพราหม์คนหนึ่งมีความสงสัยว่า คนตายแล้วไปไหน? คนตายแล้วเกิดหรือไม่?
    ถ้าพระองค์ตอบได้ก็จะมาบวชด้วย
    แต่ถ้าตอบไม่ได้หรือไม่ตอบ แกก็จะไม่บวช แกว่าของแกอย่างนั้น
    พระพุทธเจ้าจึงตอบว่า มันเป็นเรื่องอะไรของฉันเล่า
    พราหม์จะบวชหรือไม่บวช นั่นเป็นเรื่องของพราหม์ ไม่ใช่เรื่องของฉัน
    พระองค์ตรัสว่า ถ้าตราบใดที่พราหม์ยังมีความเห็นว่า
    มีคนเกิดหรือมีคนตาย คนตายแล้วเกิดหรือคนตายแล้วไม่เกิด
    ถ้าพราหม์ยังมีความเห็นอยู่อย่างนี้
    พราหม์ก็จะเป็นทุกข์ทรมานอยู่อีกหลายกัลป์
    ทางที่ถูกนั้น พราหม์จะต้องถอนลูกศรออกเสียบัดนี้
    พระพุทธเจ้าท่านว่า ความจริงแล้วไม่มีใครเกิด ไม่มีใครตาย
    พราหม์คนนั้นฟังไม่รู้เรื่อง และจนกว่าแกจะได้เรียนรู้เรื่อง
    อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา ให้เข้าใจถ่องแท้เสียแล้วนั่นแหละ
    จึงจะเข้าใจคำพูดของพระองค์ได้
    นั่นจึงจะเรียกว่า การรู้เห็นตามความเป็นจริงด้วยปัญญา
    เป็นการเชื่อด้วยปัญญา พระพุทธเจ้าสอนอย่างนี้
    ไม่ได้สอนว่า ให้เชื่อว่าคนตายแล้วเกิดหรือไม่เกิด ชาติหน้ามีหรือไม่มี
    อย่างนั่นไม่ใช่เรื่องเชื่อหรือไม่เชื่อ จะถือเอาเป็นประมาณไม่ได้
    จะถือเอาเป็นหลักเกณฑ์ไม่ได้
    ดังนั้น ที่คุณถามว่า ชาติหน้ามีไหมนั้น
    อาตมาจึงถามคุณว่า ถ้าบอกแล้วคุณจะเชื่อไหม?
    ถ้าเชื่อ โง่หรือฉลาด? อย่างนี้เข้าใจไหม? ให้เอาไปคิดดูเป็นการบ้านนะ


    ที่มา... องค์การพุทธศาสนิกสัมพันธ์แห่งโลก: พ.ส.ล
     
  20. ภัทรอังคาร

    ภัทรอังคาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    4,904
    ค่าพลัง:
    +14,098
    มาเมื่อไหร่ เดี๋ยวจะนั่งรถจากพัทยาไปเจอที่กรุงเทพเลย อ้าว จริงๆ รับรองไม่โกหก มาแล้วบอกด้วยนะจ๊ะ จะได้ไปเจอกันทั้งหมดเลยนะ อยากเจอ
     

แชร์หน้านี้

Loading...