###พระกริ่ง vs หลวงพ่อทวด นารายณ์รุ่งเรือง .....เสกครบตำนาน###

ในห้อง 'พระเครื่อง วัตถุมงคล' ตั้งกระทู้โดย jummaiford, 19 เมษายน 2010.

  1. mancity04

    mancity04 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    657
    ค่าพลัง:
    +1,346
    อนุโมทนากับบทความดีๆ ด้วยครับ #244
     
  2. mancity04

    mancity04 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    657
    ค่าพลัง:
    +1,346
    คนอื่นไม่ทำ คุณหมอทำครับ :cool: :cool: :cool:
     
  3. jummaiford

    jummaiford เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มิถุนายน 2005
    โพสต์:
    10,501
    ค่าพลัง:
    +38,931
    ภาพเเผ่นพระยันต์เงินเเท้ไม่ใช่เเผ่นเงินขายเเผ่นละยี่สิบสามสิบโดยทั่วไปซึ่งเป็นเงินผสมเเต่นี่เป็นเงินบริสุทธิ์ที่ทำจากเม็ดเงินบริสุทธิ์โดยผู้มีจิตศรัทธาท่านหนึ่งนำไปให้หลวงพ่อชำนาญจารเพื่อสร้างพระกริ่งนี้โดยเฉพาะเป็นมวลสารของดีฝ่ายรามัญที่น้อยรายจะได้เพราะยันต์นี้จารโดยหลวงพ่อชำนาญ วัดบางกุฏีทอง จารมากถึง9เเผ่นเต็มๆใครอยากชมคงต้องออกเสียงเชียร์สักหน่อยเเล้วละครับ:cool::cool::cool:

    [​IMG]


    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • IMG_6100.JPG
      IMG_6100.JPG
      ขนาดไฟล์:
      68.1 KB
      เปิดดู:
      65
    • IMG_6101.JPG
      IMG_6101.JPG
      ขนาดไฟล์:
      69.9 KB
      เปิดดู:
      3,972
    • IMG_6102.JPG
      IMG_6102.JPG
      ขนาดไฟล์:
      71.1 KB
      เปิดดู:
      3,921
    • IMG_6103.JPG
      IMG_6103.JPG
      ขนาดไฟล์:
      69.1 KB
      เปิดดู:
      3,848
    • IMG_6104.JPG
      IMG_6104.JPG
      ขนาดไฟล์:
      69.1 KB
      เปิดดู:
      3,858
    • IMG_6105.JPG
      IMG_6105.JPG
      ขนาดไฟล์:
      67.7 KB
      เปิดดู:
      3,825
    • IMG_6106.JPG
      IMG_6106.JPG
      ขนาดไฟล์:
      71.9 KB
      เปิดดู:
      3,790
    • IMG_6107.JPG
      IMG_6107.JPG
      ขนาดไฟล์:
      68.5 KB
      เปิดดู:
      3,785
    • IMG_6108.JPG
      IMG_6108.JPG
      ขนาดไฟล์:
      37.9 KB
      เปิดดู:
      3,732
    • IMG_6109.JPG
      IMG_6109.JPG
      ขนาดไฟล์:
      56.2 KB
      เปิดดู:
      1,242
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 20 พฤษภาคม 2010
  4. jummaiford

    jummaiford เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มิถุนายน 2005
    โพสต์:
    10,501
    ค่าพลัง:
    +38,931
    [​IMG]

    มีดหมอเทพศาสตรา ขนาดประมาณสามนิ้ว ใบมีดตีจากตะปูสังฆวานร พระอุโบสถ วัดปากคลองมะขามเฒ่า สมัยหลวงพ่อศุขเเท้ๆ
    ด้ามเเละฝักเป็นงาช้างเเท้ๆเเละเเหมเงินเเท้ๆ
    จัดสร้างเเละเข้าพิธีเดียวกันกับ พิธีเสาร์ห้า วังหน้า จัดสร้างทั้งหมด5เล่ม นำมาให้ชม
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 20 พฤษภาคม 2010
  5. taweewattana

    taweewattana เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    83
    ค่าพลัง:
    +753
    ขอร่วมบูชาพระกริ่งนารายณ์รุ่งเรืองเนื้อนวโลหะสัมฤทธิ์ก้นเงินจำนวน ๑ องค์ครับ
     
  6. jummaiford

    jummaiford เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มิถุนายน 2005
    โพสต์:
    10,501
    ค่าพลัง:
    +38,931

    อนุโมทนานะครับ

    รบกวนติดต่อผมที่เบอร์0819596937


    เพื่อระบุหมายเลขประจำองค์พระ
     
  7. jummaiford

    jummaiford เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มิถุนายน 2005
    โพสต์:
    10,501
    ค่าพลัง:
    +38,931
    <TABLE class=tborder cellSpacing=1 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=thead>ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 21 คน ( เป็นสมาชิก 7 คน และ บุคคลทั่วไป 14 คน ) </TD><TD class=thead width="14%"><CENTER">[ แนะนำเรื่องเด่น ] </TD></TR><TR><TD class=alt1 width="100%" colSpan=2>คนวังหน้า, luchcha, mancity04+, watthikorn, ศิษย์โลกอุดร, สายครูบา, ่่่Jumbo A </TD></TR></TBODY></TABLE>

    อยากให้ทุกท่านช่วยๆกันนะครับ ใครมีมวลสารอะไรรีบส่งมาเลยนะครับต้องEMSเเล้วละครับหรือใครมีปัจจัยมากน้อยอย่างไรบริจาคเข้าบัญชีได้เลยครับงานนี้จะได้สำเร็จเร็วๆช่วยๆกันนะครับ


    อนุโมทนาสาธุ


    งานนี้จะเห็นได้ว่าไม่ง่ายเเค่หัวชนวนมวลสารที่ยกก็กว่า20กิโลเเล้วครับยังมีมวลสารที่บ้านอีกที่ขนไปเสกไม่ไหวเเต่รับรองว่าเข้มข้นที่สุดอย่างเเน่นอนมั่นใจลำพังเเค่เนื้อสัมฤทธิ์โบราณของลพบุรีก็ซื้อด้วยเงินส่วนตัวหลายหมื่นเเล้วละครับนำมาใส่หล่อพระกริ่งครั้งนี้เเบบทุ่มใจมากกว่าทุ่มเทอีกเพื่อบุญใหญ่เเบบทิ้งทวนก่อนจะหยุดสร้างพระกริ่งไปอีกสามปีเป็นอย่างน้อยเพราะผมจะต้องเรียนต่อเฉพาะทางเเล้วละครับ


    ตอนนี้พระกริ่งนารายณ์รุ่งเรืองก้นเงินเหลือ25องค์สุดท้ายเเล้วนะครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 21 พฤษภาคม 2010
  8. jummaiford

    jummaiford เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มิถุนายน 2005
    โพสต์:
    10,501
    ค่าพลัง:
    +38,931
    ตามรอยสมเด็จพระพนรัต พระสังฆราชอรัญวาสี (มหาเถระคันฉ่อง) พระอาจารย์สมเด็จพระนเรศวรมหาราช



    คัดจากหนังสือ ตามรอยสมเด็จพระพนรัต พระสังฆราชอรัญวาสี (มหาเถรคันฉ่อง) พระอาจารย์สมเด็จพระนเรศวรมหาราช
    บันทึกโดย พระพีระ จิตตวีโร สำนักสงฆ์วัดป่าแก้ว



    [​IMG]



    "สมเด็จพระพนรัตน์ วัดป่าแก้ว" ซึ่งเป็นพระมอญจากรามัญประเทศ และเป็นพระราชวราจารย์ในสมเด็จพระนเรศวรมหาราชแห่งกรุงศรีอยุธยา พระปฐมบูรพาจารย์แห่งการสร้างพระกริ่งไทย
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=100 align=center border=0><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE borderColor=#ffffff cellSpacing=1 cellPadding=5 width=250 align=center bgColor=#f4f4f4 border=0><TBODY><TR><TD align=middle bgColor=#ffffff>[​IMG]</TD></TR><TR><TD class=bot2 bgColor=#f9f9f9 height=25> DSC02791.gif </TD></TR></TBODY></TABLE>
    <?XML:NAMESPACE PREFIX = O /><O:p></O:p>

    พระองค์สำคัญที่คนไทยลืมเลือนท่านไปจากความทรงจำ<O:p></O:p>
    เพื่อเป็นการเผยแพร่พระเกียรติคุณ

    สมเด็จพระอริยวงศาญาณ ปริยัติวราสังฆราชาธิปดี ศรีสมณุตมาปรินายก ติปิฎธรจารย์สฤษดิ์ ขัตติยสารสุนทร มหาคณฤศรอุตรวาม คณะสังฆรารามคามวาสี



    1. เมื่อปี พ.ศ. ๒๑๒๖ พระเจ้ากรุงอังวะเป็นกบฏ เนื่องจากไม่พอใจทางกรุงหงสาวดีอยู่หลายประการ จึงแข็งเมืองพร้อมกับเกลี่ยกล่อมเจ้าไทยใหญ่อีกหมายเมืองให้เข้มแข็งเมืองด้วย คราวนั้นพระเจ้าหงสาวดีนันทบุเรงจึงยกทัพหลวงไปปราบ ในการณ์นี้ได้สั่งให้เจ้าเมืองแปร เจ้าเมืองตองอู และเจ้าเมืองเชียงใหม่ รวมทั้งทางกรุงศรีอยุธยาด้วย ให้ยกทัพไปช่วย ทางไทย เมื่อนั้นสมเด้จพระมหาธรรมราชาทรงโปรดให้สมเด็จพระนเรศวรยกทัพออกจากเมืองพิษณุโลก เมื่อวันแรม ๖ ค่ำ เดือน ๓ ปีมะแม พุทธศักราช ๒๑๒๖ แต่ยกทัพไปไม่ทันกำหนด ทำให้พระเจ้าหงสาวดีนันทบุเรงคลางแคลงใจว่า ทางไทยคงจะถูกพระเจ้าอังวะชักชวนให้เข้าร่วมด้วย จึงสั่งให้พระมหาอุปราชาคุมทัพรักษาเมืองหงสาวดีไว้ ถ้าทัพไทยยกมาให้ต้อนรับและหาทางกำจัดเสีย และพระองค์ได้สั่งให้พระยามอญสองคน คือ พระยาเกียรติ และพระยาราม เมื่อไปถึงเมืองแครงแล้ว ได้ขยายความลับนี้แก่พระมหาเถรคันฉ่องผู้เป็นอาจารย์ของตน

      เมื่อสมเด็จพระนเรศวรเสด็จมาถึงเมืองแครง เมื่อวันขึ้น ๑ ค่ำ เดือน ๖ ปีวอก พุทธสักราช ๒๑๒๗ ทรงพักทัพอยู่ใกล้วัดของพระมหาเถรคันฉ่อง จากนั้นสมเด็จพระนเรศวรเสด็จไปเยี่ยมพระอาจารย์ซึ่งคุ้ยเคยกันดีมาก่อน พระมหาเถรคันฉ่องจึงได้กราบทูลถึงเรื่องการคิดปองร้ายของทางกรุงหงสาวดี แล้วให้พระยาเกียรติกับพระยาราม และเหล่าทหารมอญมาประชุมพร้อมกัน แล้วนิมนต์พระมหาเถรคันฉ่องพร้อมพระสงฆ์มาเป็นสักขีพยาน ทรงแจ้งเรื่องให้คนทั้งปวงที่มาประชุม ณ ที่นั้นทราบว่า พระเจ้าหงสาวดีคิดประทุษร้ายต่อพระองค์ จากนั้นพระองค์ได้ทรงหลั่งน้ำลงสู่แผ่นดินด้วยสุวรรณภิงคาร (พระน้ำเต้าทองคำ) แลประกาศแก่เทพยดาฟ้าดินว่า

      ด้วยพระเจ้าหงสาวดี มิได้อยู่ในครอบสุจริตมิตรภาพขัตติยราชประเพณี เสียสามัคคีรสธรรมประพฤติพาลทุจริต คิดจะทำอันตรายแก่เรา ตั้งแต่นี้ไป กรุงศรีอยุธยาขาดไมตรีกับกรุงหงสาวดี มิได้เป็นมิตรสุวรรณปฐพีเดียวกันดุจดังแต่ก่อนสืบไป

      เมื่อสมเด็จพระนเรศวรเสด็จกลับกรุงศรีอยุธยา พระองค์ชกชวนพระมหาเถรคันฉ่อง พระยาเกียรติ พระยาราม พร้อมครอบครัวและบริวารมายังกรุงสรอยุธยาด้วย พระองค์ทรงขอพระราชทานความดีความชอบต่อพระมหาธรรมราชา พระมหาธรรมราชาทรงแต่งตั้งพระมหาเถรคันฉ่อง เป็นสมเด็จพระพนรัตในตำแหน่งสมเด็จพระสังฆราช ส่วนชาวมอญที่ติดตามมาทรงโปรดให้อยู่ ณ ตำบลบ้านหลังวัดนก (ปัจจุบันเป็นวัดร้างตั้งอยู่ทาทิศตะวันตกเฉียงใต้ของวัดมหาธาตุ) ส่วนพระยาเกียรติ – พระยาราม มีตำแหน่งยศได้พระราชทานพานทอง ให้ตั้งบ้านเรือนที่ริมวัดขมิ้น และวัดขุนแสน ใกล้วังจันทร์ฯ ของสมเด็จพระนเรศวร

      ในครั้งแผ่นดินพระนเรศวรก่อนที่จะทรงสถาปนาสมเด็จพระพนรัตนั้น ก็มีตำแหน่งสมเด็จพระสังฆราชอยู่ก่อนแล้ว แต่ด้วยทรงปรารถนาจะถวายความเคารพอย่างสูงสุดในองค์สมเด็จพระพนรัต (พระอาจารย์) จึงได้ทรงสถาปนาพระองค์ท่านขึ้นเป็นพระสังฆราชอีกพระองค์หนึ่ง ให้ทางเป็นผู้ปกครองสงฆ์ทางฝ่ายเหนือทั้งหมด ส่วนพระสังฆราชเดิมนั้นทรงให้ปกครองสงฆ์ทางฝ่ายใต้ ซึ่งตำแหน่งนี้สถาปนาให้อยู่ที่วัดพระศรีมหาธาตุตามพระราชประเพณี แต่สมเด็จพระพนรัตประสงค์ที่จะประทับ ณ วัดเจ้าพระยาไท ต่อมาเรียกชื่อว่าวัดวัดป่าแก้ว เนื่องจากพระองค์เป็นพระอรัญวาสี (วัดป่า) มีความชอบในการอยู่อย่างสงบนอกเมือง

      เมื่อเสร็จศึกสงครามยุทธหัตถี พุทธศักราช ๒๑๓๕ ครั้งถึงวันแรม ๑๔ ค่ำ เดือนยี่ สมเด็จพระพนรัต วัดป่าแก้ว กับพระราชาคณะ รวม ๒๕ รูปเข้าไปเฝ้า ถามข่าวถึงการเสด็จพระราชสงครามตามประเพณี สมเด็จพระนเรศวรจึงตรัสเล่าเหตุการณ์ทั้งปวงให้ฟังทุกประการ สมเด็จพระพนรัตได้ฟังแล้วจึงถวายพระนามว่า พระองค์มีชัยแก่ข้าศึก แต่เหตุไฉนข้าราชการทั้งปวงจึงต้องรับราชทัณฑ์ สมเด็จพระนเรศวรตรัสตอบว่า นายทัพนายกองเหล่านี้กลัวข้าศึกมากกว่ากลัวพระองค์ และให้แต่พระองค์สองคนพี่น้อง ฝ่าเข้าไปท่ามกลางศึก จนได้ทำยุทธหัตถีกับพระมหาอุปราชา ต่อเมื่อมีชัยกลับมาจึงได้เห็นหน้าพวกเหล่านี้ นี่หากว่าพระองค์ยังไม่ถึงที่ตาย หาไม่แผ่นดินก็จะเป็นของชาวหงสาวดีไปเสียแล้ว

      เหตุนี้พระองค์จึงได้ลงโทษตามอาญาศึก สมเด็จพระพนรัตจึงถวายพระพรว่า เมื่อพิเคราะห์ดูข้าราชบริพารเหล่านี้ ที่จะไม่กลัวพระองค์ท่านนั้นหามได้ เหตุทั้งนี้เห็นจะเผอิญเป็นเพื่อจะให้พระเกียรติแก่พระองค์เป็นอัศจรรย์ เหมือนสมเด็จพระสรรเพชญพุทธเจ้า

      เมื่อพระพุทธองค์เสด็จเหนืออปราชิตบัลลังก์ใต้ควงไม้มหาโพธิ์ครั้งนั้น เทพเจ้าก็มาเฝ้าพร้อมกันหมื่นจักรวาล พระยาวัสวดีมารยกพลเสนามาผจญ ถ้าพระพุทธเจ้าได้เทพเจ้าเป็นบริวาร มีชัยแก่พระยามารก็หาสู้เป็นอัศจรรย์ไม่ เผอิญให้หมู่เทพเจ้าทั้งปวงปราศนาการหนีไปสิ้น เหลือแต่พระองค์เดียวสามารถผจญให้เหล่ามารปราชัยไปได้ จึงได้พระนามว่า “พระพิชิตมาร โมฬีศรีสรรเพชญตาญาณ” เป็นมหาอัศจรรย์บันดาลไปทั่วอนันตโลกธาตุ ก็เหมือนทั้งสองพระองค์ครั้งนี้ ถ้าเสด็จพร้อมด้วยโยธาหาญมาก และมีชัยชนะแก่พระมหาอุปราชา ก็จะหาสู้เป็นอัศจรรย์แผ่พระเกียรติยศให้ปรากฎแก่นานาประเทศไม่ อันเหตุที่เป็นทังนี้ เพื่อเทพเจ้าทั้งปวงอันรักษาพระองค์จักสำแดงพระเกียรติยศเป็นแน่แท้

      สมเด็จพระนเรศวรมหาราชได้ทรงฟังแล้วก็ทรงพระปิติโสมนัส ตรัสว่า อันพระคุณเจ้ากล่าวมานี้เห็นควรหนักหนา สมเด็จพระพนรัตจึงไดถวายพระพรว่า ข้าราชบริพารซึ่งต้องโทษเหล่านี้ก็ผิดหนักหนาอยู่แล้ว แต่ทว่าได้ทำคุณงามความดีมา แต่ครั้งสมเด็จพระบรมอัยกาธิราชเจ้า และสมเด็จพระพุทธเจ้าหลวง ตลอดมาจนถึงพระองค์ดุจพุทธบริษัทสมเด็จพระบรมครู จึงขอพระราชทานอภัยโทษต่อข้าราชบริพารเหล่านี้ไว้สักครั้งหนึ่ง จะได้ทำคุณงามความดีฉลองพระเดชพระคุณท่านสืบไป สมเด็จพระนเรศวรฯ จึงมีรับสั่งว่าเมื่อสมเด็จพระพนรัตขอแล้ว พระองค์ก็จะถวายให้ แต่ทว่าจะต้องไปตัเมืองตะนาวศรี เมืองทวายแก้ตัวก่อน สมเด็จพระพนรัตถวายพระพรว่า การจะใช้ไปตีบ้านตีเมืองนั้น สุดแต่พระองค์จะสงเคราะห์ มิใช่กิจของสมณะ แล้วก็ถวายพระพรลากลับไป

      จากประวัติศาสตร์ที่เผยแพร่ชัดเจนมายาวนานนี้ น่าจะเป็นข้อจดจำในสำนึกของเราชาวไทยทั้งหลาย ในพระคุณของสมเด็จพระพนรัตผู้เป็นที่เคารพเทิดทูน แห่งองค์สมเด็จพระนเรศวรฯ ผู้ทรงพระคุณอันใหญ่หลวงของชาวไทย สมควรที่เราชาวไทยทุกหมู่เหล่าจะได้ระลึกเทิดทูนบูชากราบไหว้ในพระคุณของพระองค์ท่าน ที่ได้ทรงกระทำให้เราเป็นไทยมาตราบเท่าทุกวันนี้

      หากสมเด็จพระพนรัตไม่ทราบยับยั้งแผนการของพระนาเกียรติ – พระยาราม เราชาวไทยคงไม่มีองค์พระนเรศวร ผู้ทรงปรีชาสามารถมากอบกู้ชาติบ้านเมือง ให้เป็นปึกแผ่นตราบเท่าทุกวันนี้

      หากสมเด็จพระพนรัตไม่ทรงบิณฑบาตร ขอชีวิตเหล่าทหารในการทำศึกสงครามยุทธหัตถี ก็จะทำให้ไพร่พลขาดกำลังใจ และขาดคนดีที่จะมาช่วยชาติบ้านเมืองได้อีกมากมาย ซึ่งในกาลนี้ขอให้ทุกคนหันกลับมามองดูว่า แม้อาญาเมืองยิ่งใหญ่เพียงใด แต่ด้วยเดชแห่งบุญสังฆบารมี อันสมเด็จพระพนรัตได้แสดงถวายแด่สมเด็จพระนเรศวรฯ ยังทรงพิจารณา โดยไม่ทรงถือเอาภัยอันพระองค์ได้รับนั้น มาเป็นใหญ่เหนือพระศาสนา และคำเตือนของพระมหาเถระผูประเสริฐ จึงยังทำให้แผ่นดินสงบร่มเย็นสืบมา แสดงให้เห็นถึงพระคุณธรรมอันมิในใจเป็นชาตินักรบอย่างแท้จริงขององค์สมเด็จพระนเรศวรมหาราชเจ้า

      จีงขอให้เราชาวไทยทุกคนในแผ่นดินจงมีสติ อย่าเห็นแก่ลาภยศ อำนาจ วาสนา จนลืมตัวและขาดการยกย่องในผู้ปฏิบัติหนักแน่นในศีลในธรรม ถ้าเรายกเอาองค์พระนเรศวรมหาราชเจ้าที่ได้ทรงกระทำเป็นแบบอย่าง ชาติไทยจักวัฒนาถาวรสืบไป

    <!-- google_ad_section_end -->
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 21 พฤษภาคม 2010
  9. jummaiford

    jummaiford เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มิถุนายน 2005
    โพสต์:
    10,501
    ค่าพลัง:
    +38,931
    อยติดตามให้ดีผมจะนำมวลสารสุดยอดมาลงให้ชมต้องอดใจรอจริงๆ:cool::cool::cool:


    ผงพรายกุมารชนิดเข้มข้นของหลวงปู่ทิม วัดละหารไร่
    [​IMG]



    [​IMG]

    [​IMG]

    ชนวนพระกริ่งยอดฟ้ายอดยิ่งยศ ใส่ทองคำไปสี่สิบบาทสร้างได้เพียง108องค์

    [​IMG]



    <DD><DD>ปลาตะเพียนเงิน สมัยหลวงพ่อเต๋ คงทอง วัดสามง่าม ต้นตำรับกุมารทอง

    [​IMG]

    ปลาตะเพียนเงินตัวนี้อยู่กับครอบครัวผมไม่ต่ำกว่าสามสิบกว่าปีเเล้วอาม่าผมเป็นศิษย์หลวงพ่อเต๋หลวงพ่อกวย เเละอาม่ายังเป็นศิษย์ วัดสุทัศน์รับพระกริ่งจากเจ้าคุณศรีอีกด้วย
    [​IMG]

    ประวัติ หลวงพ่อเต๋ คงทอง วัดสามง่าม
    [​IMG]
    หลวงพ่อเต๋ คงทอง วัดสามง่าม เกิดเมื่อวันจันทร์ ขึ้น 9 ค่ำ เดือน 7 ปีเถาะ ตรงกับวันที่ 15 มิถุนายน พ.ศ. 2434 ณ บ้านสามง่าม หมู่ที่ 4 โยมบิดาชื่อ จันทร์ โยมมารดาชื่อ บู่ นามสกุล สามงามน้อย ท่านมีพี่น้องร่วมบิดามารดารวม 7 คน เป็นชาย 3 คน เป็นหญิง 4 คน ท่านเป็นบุตรคนที่ 5

    เมื่ออายุได้ 7 ปี ลุงของท่านซึ่งบวชอยู่ที่วัดกาหลง จังหวัดสมุทรสาคร มีชื่อว่า หลวงลุงแดง เป็นพระอาจารย์ที่มีชื่อเสียงโด่งดังในขณะนั้นรูปหนึ่ง ได้ไปเยี่ยมญาติที่บ้านสามง่าม ได้พบหลานชายจึงได้ชวนให้ไปอยู่ด้วยกันที่วัดกาหลงเพื่อจะได้ศึกษาเล่าเรียนหนังสือ ธรรมะ และเวทมนต์คาถา เป็นเวลา 3 ปี จนสามารถเขียนอ่านได้เป็นอย่างดี จึงได้กลับมาบ้านเกิด

    หลวงลุงแดงของหลวงพ่อเต๋ ท่านเป็นผู้สนใจในการทำนุบำรุงพระพุทธศาสนาเป็นอย่างยิ่ง ท่านเห็นว่าบ้านสามง่าม ควรจะมีวัดวาอารามสำหรับให้พระภิกษุและชาวบ้านประกอบกิจทางพระพุทธศาสนา จึงได้ชักชวนหลานชายไปสร้างวัดขึ้นที่บ้านดอนตูม ห่างจากบ้านสามง่ามประมาณ 3 กิโลเมตร

    เมื่อหลวงพ่อเต๋ มีอายุได้ 15 ปี ได้บรรพชาเป็นสามเณร ศึกษาพระธรรมวินัยอยู่กับหลวงลุงแดง ร่วมจัดสร้างวัดใหม่ไปพร้อมกัน รวมทั้งได้ศึกษาเล่าเรียนวิชาอาคมเพิ่มเติมจากหลวงลุงแดง ประวัติหลวงลุงแดงท่านเป็นพระเถระที่มีชื่อเสียงโด่งดังและมีความเชี่ยวชาญพุทธาคมทั้งทางด้านเมตตามหานิยมและอยู่ยงคงกระพันชาตรี มีลูกศิษย์ลูกหาเคารพนับถือมากมาย อีกทั้งหลวงพ่อเต๋ มีศักดิ์เป็นหลานของท่าน จึงได้รับถ่ายทอดวิชามาอย่างครบถ้วนโดยไม่มีการปิดบังอำพราง

    พ.ศ. 2454 ท่านมีอายุได้ 21 ปี จึงได้ทำการบรรพชาอุปสมบทเป็นพระภิกษุ โดยมี พระครูอุตตรการบดี (หลวงพ่อทา) วัดพะเนียงแตก เป็นพระอุปัชฌาย์ พระสมุห์เทศ วัดทุ่งผักกูด เป็นพระกรรมวาจาจารย์ และพระอธิการจอม วัดลำเหย เป็นพระอนุสาวนาจารย์ ได้รับฉายาทางธรรมว่า คงทอง (ภายหลังเปลี่ยนเป็น คงสุวัณโณ แต่ชาวบ้านยังคงเรียกติดปากว่า คงทอง

    พระอุปัชฌาย์ของหลวงพ่อเต๋ คือหลวงพ่อทา วัดพะเนียงแตก เป็นพระเถระผู้ทรงเกียรติคุณชื่อเสียงโด่งดังมากในฐานะพระเกจิอาจารย์ที่มีพุทธาคมเข้มขลังในขณะนั้น หลวงพ่อเต๋ได้ศึกษาเล่าเรียนทั้งทางธรรม สมถกัมมัฏฐาน ตลอดจนรับการสืบทอดด้านพุทธาคมต่าง ๆ

    ต่อมาไม่นาน หลวงลุงแดง มรณภาพลงที่วัดกาหลง สมุทรสาคร ก่อนมรณภาพท่านได้ฝากวัดสามง่ามให้หลวงพ่อเต๋ดูแล

    หลวงพ่อเต๋ เริ่มออกธุดงค์ระหว่าง พ.ศ. 2455 – 2472 เป็นเวลา 17 ปี รวมทั้งศึกษาวิชาอาคมเพิ่มเติม นอกจากที่ได้ศึกษาจาก หลวงลุงแดง และ หลวงพ่อทา หลังจากหลวงพ่อทา มรณภาพแล้ว ท่านได้เดินทางไปขอศึกษาวิชาเพิ่มเติมกับ หลวงพ่อแช่ม วัดตาก้อง จากนั้นออกธุดงค์ไปในที่ต่าง ๆ และได้ศึกษาวิชาเพิ่มเติมกับพระอาจารย์อื่นทั้งพระสงฆ์และฆราวาส อาทิ หลวงพ่อกอน วัดบ่อตะกั่ว นอกจากนี้ท่านยังเดินทางไปเรียนกับพระอาจารย์ทางจังหวัดพิจิตร ยังมีอีกหลายรูปในขณะที่เดินธุดงค์ รวมทั้งอาจารย์ฆราวาส ท่านเป็นชาวเขมร เคยเป็นอดีตแม่ทัพเขมร หลวงพ่อเต๋ได้พบอาจารย์ท่านนี้ที่เขาตะลุง จังหวัดกาญจนบุรี เป็นอาจารย์ที่หลวงพ่อเต๋ เคารพนับถือมาก ในสมัยที่ท่านมีชีวิตอยู่ท่านจะทำการไหว้ครูเขมรมิได้ขาด
    [​IMG]
    ภายหลังท่านกลับมาพำนักที่วัดสามง่ามได้ 3 ปี ท่านทำการสร้างวัดสามง่ามต่อจากหลวงลุงแดงที่ฝากฝังไว้ให้ท่านสร้างต่อก่อนจะมรณภาพ สมัยก่อน อุปกรณ์การก่อสร้างต่าง ๆ หาได้ยากมาก เรื่องไม้ที่จะนำมาสร้างวัดต้องเข้าไปเอาในป่าลึก กว่าจะได้ไม้มาแต่ละเที่ยวยากลำบาก การออกไปตัดไม้แต่ละเที่ยว ต้องใช้เวลาอย่างน้อย 2 - 3 เดือน และการนอนป่าหลวงพ่อเต๋ ก็มักจะใช้การตัดไม้ใหญ่เป็นที่พำนักอาศัย การเดินทางไปตามถิ่นต่าง ๆ ก็เพื่อประโยชน์แก่พระพุทธศาสนา ท่านจึงไม่กลัวต่อภยันตรายทั้งเสือ ช้าง อันเป็นสัตว์ป่าที่ดุร้าย ตลอดจนสิ่งแวดล้อมภายในป่าที่เต็มไปด้วยโรคภัยไข้เจ็บ ตลอดเวลา 15 ปี ในการตัดไม้มาก่อสร้างปฏิสังขรณ์วัดของท่าน บางครั้งถึงกับอดน้ำ นับว่าเป็นความอุตสาหะมานะอันแรงกล้าอย่างประเสริฐสุดหาที่เปรียบมิได้
    [​IMG]
    ในการพัฒนา หลวงพ่อเต๋ เป็นนักพัฒนาหาตัวจับยาก สร้างสถานีอนามัย บ้านพักนายแพทย์และพยาบาล โรงเรียนประถมและมัธยม สถานีตำรวจ ถนนหนทาง ขุดบ่อน้ำบาดาล สร้างความเจริญให้แก่ท้องถิ่นเป็นอย่างยิ่ง

    หลวงพ่อเต๋ เป็นผู้กอปรด้วยความเมตตาปรานี ท่านจะให้ความรักความเมตตาแก่ศิษย์ทุกคนโดยไม่เลือกที่รักมักที่ชัง นอกจากนี้ท่านยังให้ความเมตตาต่อสัตว์เลี้ยง ได้แก่ วัว ชะนี นก สุนัข แมว ไก่ เป็นต้น ไม่ว่านก สุนัข ไก่ และแมว ก่อนท่านจะฉันภัตตาหาร ท่านจะต้องให้ข้าวสัตว์เหล่านี้เป็นนิจสิน

    พ.ศ. 2475 กรรมการสงฆ์จังหวัดโดย พระเทพเจติยาจารย์ วัดเสน่หา เจ้าคณะจังหวัดนครปฐม ได้พิจารณาแต่งตั้งให้ หลวงพ่อเต๋ เป็นเจ้าอาวาสวัดสามง่าม

    พ.ศ. 2476 แต่งตั้งให้ท่านรักษาการในตำแหน่งเจ้าคณะตำบล มีวัดที่ขึ้นอยู่ในความปกครอง 5 วัด คือ วัดสามง่าม วัดลำลูกบัว วัดแหลมมะเกลือ วัดทุ่งสีหลง และวัดตะโกสูง

    การสร้างวัตถุมงคลของหลวงพ่อเต๋ ท่านสร้างไว้หลายแบบมาตั้งแต่ครั้งสงครามโลกครั้งที่ 2 มีทั้งแบบพระเนื้อดิน เนื้อผง เนื้อว่าน เหรียญรูปเหมือน พระกริ่ง รูปหล่อ เหรียญหล่อ และเครื่องรางของขลัง ตะกรุดหนังเสือ ตะกรุดสามห่วง สีผึ้ง เป็นต้น แต่ละอย่างล้วนมีอภินิหารเป็นที่ประจักษ์และเล่าขานกันมาทุกวันนี้

    พระเครื่องของท่านไม่ได้เน้นเรื่องความสวยงาม แต่เน้นเรื่องพุทธคุณ เพราะท่านตั้งใจสร้างให้บูชาติดตัวเพื่อป้องกันภัยต่าง ๆ มีทั้งทางมหาอำนาจ เมตตามหานิยม แคล้วคลาด เนื้อพระส่วนมากเป็นแบบเนื้อดินผสมผงปนว่าน เนื้อดินอาถรรพ์ที่นำมาจัดสร้างวัตถุมงคลได้แก่ ดินโป่ง 7 โป่ง ดิน 7 ป่าช้า ดินขุยปู เป็นต้น ผสมลงไปในพระทุกพิมพ์ ด้านหลังองค์พระจะประทับชื่อ หลวงพ่อเต๋ กดลึกลงไปในเนื้อพระ

    [​IMG]
    วัตถุมงคลที่สร้างชื่อเสียงให้กับท่านมาจนทุกวันนี้คือ ตุ๊กตาทอง หรือที่นิยมเรียกกันว่า กุมารทอง ตำราการสร้างได้จากหลวงลุงแดง ประกอบด้วย ดินโป่ง 7 โป่ง ดิน 7 ป่าช้า ดินขุยปู เป็นต้น มาปั้นตุ๊กตาทอง (กุมารทอง) แจกชาวบ้าน นำไปไว้เป็นเครื่องคุ้มครอง เพราะดินดังกล่าวจะมีเทวดารักษา จึงมีความศักดิ์สิทธิ์ หลวงพ่อเต๋ปั้นแล้วเอาวางนอนไว้ จึงทำการปลุกเสกให้ลุกขึ้นเองตามตำรา ตุ๊กตาทองนี้นิยมกันมากใครได้ไปบูชามักจะมีเรื่องเล่าสู่กันฟังเป็นที่อัศจรรย์ ทำรายได้มหาศาล สามารถขออะไรสำเร็จทุกอย่างและเป็นที่ศรัทธาอย่างสูงของประชาชน

    ในปี พ.ศ. 2505 หลวงพ่อเต๋ ท่านได้จัดสร้างพระเครื่องเนื้อดินพิธีใหญ่อีกครั้ง เพื่อฉลองอายุครบ 5 รอบ เนื้อดินที่ใช้ยังได้นำดินทวารวดี ที่ชำรุดหักและผงว่านผสมลงไปด้วย สังเกตเนื้อองค์พระเมื่อเผาแล้ว เนื้อดินจะนุ่มเมื่อถูกเหงื่อถูกสัมผัส ปรากฏมวลสารและว่านแลดูเก่ามาก พิมพ์ที่จัดสร้าง มีดังนี้

    1. พระรูปเหมือนซุ้มเรือนแก้ว

    2. พระปรกโพธิ์ใหญ่

    3. พระปรกโพธิ์เล็ก

    4. พระตรีกาย (พระสาม)

    5. พระทุ่งเศรษฐี

    พระเครื่องเนื้อดิน 4 พิมพ์แรก ด้านหลังจะมียันต์อักขระนูน เรียกว่า ยันต์สามง่าม เนื่องจากด้านหลังมีรูป ตรี เป็นสัญลักษณ์ของวัดสามง่ามนั่นเอง ส่วนพระทุ่งเศรษฐี ด้านหลังมียันต์และชื่อฉายา คงทอง กดประทับลึกลงไปในเนื้อ

    หลวงพ่อเต๋ คงทอง วัดสามง่าม มรณภาพลงโดยอาการสงบ เมื่อวันที่ 25 ธันวาคม พ.ศ. 2524 รวมสิริอายุได้ 80 ปี 6 เดือน 10 วัน พรรษาที่ 59 ปัจจุบันทางวัดยังคงบรรจุสังขารของท่านไว้ให้ลูกศิษย์ลูกหารวมทั้งผู้ที่เคารพศรัทธาได้ไปกราบไหว้บูชาจนทุกวันนี้



    ชิ้นส่วนระฆังสัมฤทธิ์ สมัยพระเจ้าปราสาททองเคล็ดเเห่งความโด่งดังไปชั้นฟ้า



    [​IMG]

    ชินตะกั่วกรุวัดร้างในอยุธยา

    [​IMG]

    ก้อนจ้าวน้ำเงินขุดได้ในจังหวัดลพบุรี มีค่ามากเนื้อในเหมือนเงินเเต่ไม่เหมือนชินเงินเป็นของดีหายากที่สุดในเมืองลพบุรี

    [​IMG]

    </DD>
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • IMG_6113.JPG
      IMG_6113.JPG
      ขนาดไฟล์:
      105.4 KB
      เปิดดู:
      70
    • IMG_6114.JPG
      IMG_6114.JPG
      ขนาดไฟล์:
      204.6 KB
      เปิดดู:
      3,835
    • IMG_6115.JPG
      IMG_6115.JPG
      ขนาดไฟล์:
      359.6 KB
      เปิดดู:
      3,855
    • IMG_6120.JPG
      IMG_6120.JPG
      ขนาดไฟล์:
      215.4 KB
      เปิดดู:
      3,968
    • IMG_6121.JPG
      IMG_6121.JPG
      ขนาดไฟล์:
      261.4 KB
      เปิดดู:
      3,715
    • IMG_6123.JPG
      IMG_6123.JPG
      ขนาดไฟล์:
      190 KB
      เปิดดู:
      4,665
    • IMG_6124.JPG
      IMG_6124.JPG
      ขนาดไฟล์:
      115.7 KB
      เปิดดู:
      2,487
    • IMG_6125.JPG
      IMG_6125.JPG
      ขนาดไฟล์:
      206.1 KB
      เปิดดู:
      3,832
    • IMG_6126.JPG
      IMG_6126.JPG
      ขนาดไฟล์:
      161.4 KB
      เปิดดู:
      3,870
    • IMG_6128.JPG
      IMG_6128.JPG
      ขนาดไฟล์:
      235.4 KB
      เปิดดู:
      3,751
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 21 พฤษภาคม 2010
  10. jummaiford

    jummaiford เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มิถุนายน 2005
    โพสต์:
    10,501
    ค่าพลัง:
    +38,931
    ชินเงินหัวเสาของวัดพระพุทธบาท สระบุรี สมัยอยุธยา
    ของดีหายากของสุดยอด
    [​IMG]

    [​IMG]


    [​IMG]
    ทางเดินสายคลาสสิคสู่ “พระมณฑปพระพุทธบาท”
    วัดพระพุทธบาทราชวรมหาวิหาร อ.พระพุทธบาท จ.สระบุรี

    [​IMG]




    [SIZE=+1]<DD><TABLE cellPadding=5 border=0><TBODY><TR><TD><TABLE cellSpacing=3 cellPadding=5 bgColor=#d8d8bf border=2><TBODY><TR><TD></TD></TR></TBODY></TABLE><TD>
    </TD></TR></TBODY></TABLE>
    [/SIZE]</DD>
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 21 พฤษภาคม 2010
  11. jummaiford

    jummaiford เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มิถุนายน 2005
    โพสต์:
    10,501
    ค่าพลัง:
    +38,931
    [​IMG]

    คุณอำนนบริจาคพระกริ่งวัดตรีทศเทพมาเป็นชนวนหล่อในครั้งนี้

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]
    พระกริ่งวัดตรีทศเทพปี๒๔๙๑พิมพ์พระประธาน ในปี พ.ศ. 2491 สมเด็จพระสังฆราชเจ้า กรมหลวงวชิรญาณวงศ์ เมื่อครั้งยังดำรงสมณศักดิ์ที่ “สมเด็จพระ วชิรญาณวงศ์ สมเด็จพระสังฆราชสกลมหาสังฆปริณายก” ทรงโปรดให้หล่อพระกริ่งขึ้นที่บริเวณ หน้าพระอุโบสถวัดบวรนิเวศวิหาร เมื่อวันที่ 20 พฤศจิกายน ซึ่งครั้งนั้นทรงโปรดให้หล่อพระกริ่งขึ้น 2 แบบคือ “พระกริ่งแบบบาเก็ง” และ “พระกริ่งพิมพ์พระประธาน” ด้วย เนื้อทองผสม และโปรดให้จัดทำพิธีเททองขึ้น 2 ครั้งคือครั้งที่ 1 เมื่อวันที่ 20 พฤศจิกายน เวลา 16.05 น. จากนั้นทิ้งระยะห่างกัน 28 วัน จึงโปรดทำพิธีเททองครั้งที่ 2 เมื่อวันที่ 18 ธันวาคม 2491 เวลา 10.27 น. หลังจากทำการตกแต่งเสร็จแล้วจึงทรงบัญชาให้ประกอบพิธีสวดมนต์บริกรรมพุทธาภิเษก ณ พระอุโบสถวัดบวรนิเวศวิหาร เมื่อวันที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2492 โดยทรงจุดเทียนชัยเริ่มพิธีเมื่อเวลา 20.00 น. ครั้นเสร็จสิ้นพิธีกรรมต่าง ๆ ตามขั้นตอนแบบโบราณแล้วได้ทรงโปรดให้นำเฉพาะ “พระกริ่งพิมพ์พระประธาน” ออกมาให้ผู้มีจิตศรัทธาทั่วไปทำบุญเช่าบูชาทั้งที่ วัดบวรนิเวศวิหาร และที่ วัดตรีทศเทพมหาวรวิหาร เพื่อให้งานผูกพัทธสีมาฝังลูกนิมิต วัดตรีทศเทพฯ ที่วัดบวรนิเวศวิหารอุปถัมภ์อยู่สำเร็จลุล่วงด้วยดีจึงกลายเป็นว่า “พระกริ่งพิมพ์พระประธาน” รุ่นนี้ของ “วัดบวรนิเวศวิหาร” กลายเป็น “พระกริ่งวัดตรีทศเทพฯ” ไปโดยปริยาย
     
  12. jummaiford

    jummaiford เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มิถุนายน 2005
    โพสต์:
    10,501
    ค่าพลัง:
    +38,931
    พระกริ่งนารายณ์รุ่งเรือง ห้ามพลาดจริงๆนะครับใครพลาดบอกได้คำเดียวว่าน่าเสียใจ<!-- google_ad_section_end -->
     
  13. jummaiford

    jummaiford เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มิถุนายน 2005
    โพสต์:
    10,501
    ค่าพลัง:
    +38,931
    เมื่อกี้มีคนลพบุรีโทรมาจองพระกริ่งนารายณ์ก้นทองเเดงเพิ่มอีก1องค์พร้อมทั้งเเสดงเจตจำนงค์อนุโมทนามอบมวลสารสุดยอดให้อีก อนุโมทนามา ณ ที่นี้ด้วยนะครับ


    ใครไม่ได้จองพระรุ่นนี้ผมว่าเสียดายเอามากๆอย่าให้เหมือนพระกริ่งรุ่นก่อนที่ผมสร้างนะครับเพราะกลายเป็นตำนานไปแล้วเเละมีเเต่คนสอบถามรุ่นเก่าๆ<!-- google_ad_section_end -->
     
  14. jummaiford

    jummaiford เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มิถุนายน 2005
    โพสต์:
    10,501
    ค่าพลัง:
    +38,931
    จ้าวน้ำเงินพระอาจารย์เอียด วัดดอนศาลา พัทลุง

    หลวงพ่อคล้อยท่านครอบครองจ้าวน้ำเงินของอาจารย์เอียดไว้ในครอบครององค์สุดท้ายเเละมอบจ้าวน้ำเงินนี้ให้ศิษย์ท่านไปและนี่คือสมบัติตกทอดที่สำคัญที่หาได้ยากยิ่ง โดยไม่มีการซื้อขายเเต่อย่างใดเเต่เจ้าของเป็นคนใจบุญบริจาคไว้เมื่อครั้งสร้างพระกริ่งยอดยิ่งยศเเละเหลือเล็กน้อยนำมาหล่อเป็นชนวนในรุ่นนี้ให้ครบตามตำนานสืบต่อไป

    [​IMG]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 21 พฤษภาคม 2010
  15. jummaiford

    jummaiford เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มิถุนายน 2005
    โพสต์:
    10,501
    ค่าพลัง:
    +38,931
    ต่อจากนี้ไปห้ามกะพริบตาจริงๆนะครับห้ามพลาดเลยนะครับ<!-- google_ad_section_end -->
     
  16. carboncopy

    carboncopy Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    39
    ค่าพลัง:
    +27
    มีอัฐิหลวงปู่ดู่ด้วย สุดยอดจริงๆครับ ดีใจที่ได้จองไว้แล้ว
    อลังการงานสร้างมากๆ อนุโมทนานะครับคุณหมอ
     
  17. jummaiford

    jummaiford เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มิถุนายน 2005
    โพสต์:
    10,501
    ค่าพลัง:
    +38,931
    อนุโมทนาบุญเช่นกันนะครับ

    สมัยสร้างพระกริ่งดีหลวง คนใต้เองบอกว่าเสียดายอย่างมากที่จองกันได้น้อยจำนวนการสร้างพระกริ่งดีหลวงรวมทุกเนื้อประมาณ700องค์ ยังหากันมากขนาดนี้มีเเต่คนหวงเเหนเเละการสร้างครั้งนี้พระกริ่งนารายณ์รุ่งเรืองที่ให้ทำบุญเนื้อนวโลหะเข้มข้นสร้างรวมไม่ถึง200องค์เท่านั้น อีกหน่อยจะต้องเป็นตำนานการสร้างอย่างเเน่นอนเเละการสร้างครั้งนี้ผมเองทุ่มเทชนวนการสร้างพระเเบบสุดๆจริงๆเพื่อทิ้งทวนก่อนจะหยุดสร้างพระกริ่งไปอีกสามปีเต็มอีกทั้งงัดเอาชนวนหวงสุดของตัวเองออกมากอะไรที่ว่าดีต้องนำไปเทให้หมดเรียกว่าสุดตัวสุดใจฝากไว้ในเเผ่นดินลพบุรี:cool::cool::cool:
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 21 พฤษภาคม 2010
  18. jummaiford

    jummaiford เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มิถุนายน 2005
    โพสต์:
    10,501
    ค่าพลัง:
    +38,931
    หากจะว่าไปพิมพ์พระกริ่งทรงลพบุรีน้อยมากที่จะทำให้พระกริ่งดังจะมีเท่าที่จำได้คือพระกริ่งสุรินทร์ที่หลวงปู่ดุลย์ ที่เสกเอาไว้ เเต่พระกริ่งทรงลพบุรีอีกมากมายกลับถูกมองข้ามเเต่นั่นหมายถึงยังไม่มีพระกริ่งลพบุรีที่มีเลือดเนื้อเชื้อไขลพบุรีที่ดังมาก่อนดังนั้นครั้งนี้เป็นพระกริ่งลพบุรีที่รวมเอาเอกลักษณ์เเละของศักดิ์สิทธิ์อันได้เเก่เจ้าพ่อพระกาฬรวมไว้ในพระรุ่นนี้อย่างลงตัวที่สุด เรียกว่าเป็นพระกริ่งนารายณ์รุ่งเรืองที่มีรูปเจ้าพ่อพระกาฬรุ่นเเรกจริงๆสร้างเเละเททองหล่อดินไทยโบราณบนเเผ่นดินพระนารายณ์คือจังหวัดลพบุรี หนึ่งเดียวที่ตำนานพระกริ่งต้องจารึกไว้เเละโด่งดังอย่างเเน่นอน
     
  19. Si_V

    Si_V เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    78
    ค่าพลัง:
    +437
     
  20. jummaiford

    jummaiford เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มิถุนายน 2005
    โพสต์:
    10,501
    ค่าพลัง:
    +38,931
    ผมก็ค้นรอบๆบ้านในบ้านหน้าบ้านห้องนอนที่เก็บพระเรียกว่าค้นหมดทุกที่ที่สามารถหามวลสารหรือของดีในบ้านเพื่อเอามาทุ่มเทสร้างพระกริ่งนารายณ์รุ่งเรืองให้เป็นที่สุดของพระกริ่งเมืองละโว้:cool::cool::cool:
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 22 พฤษภาคม 2010

แชร์หน้านี้

Loading...