พระดี พิธีใหญ่ รับประกันแท้ทุกรายการ!!! เชิญชม บูชา ในกระทู้ได้เลยครับ"

รับทราบการจองครับ ขอบคุณมากครับพี่

 

1444. ท่านเป็นพระกรรมฐานสายหลวงปู่มั่น เหรียญรุ่นแรก หลวงปู่ คำแปลง ปุณณชิ วัดถ้ำผาหมากฮ้อ ปี 2542 ปิดรายการครับ

​

พระชุดนี้จะเป็นชุดแรกที่ท่านตั้งใจสร้างอย่างเป็นทางการ แจกในงานทำบุญวันเกิดครบรอบอายุ 60 ปี ที่วัดถ้ำผาหมากฮ้อ อ.วังสะพุง จ.เลย
ปี 2542 ประกอบด้วย
-- เหรียญปั๊มรูปเหมือนรุ่นแรก
-- พระสมเด็จ 95 เกศา
-- พระผงรูปเหมือนรุ่นแรก
-- ผ้ายันต์ พุทธคุณ ธรรมคุณ สังฆคุณ รุ่นแรก

รายละเอียดมีดังนี้
1.เหรียญรุ่นแรก
จัดสร้างถวายโดยคุณวิเทพ ( โยมพ่อของครูบาจักร พระอุปฐากดูแลหลวงปู่คำแปลง )
-- จำนวนการจัดสร้าง 10,001 เหรียญ
-- เนื้อทองแดงอย่างเดียวเท่านั้น
-- ทำลายบล๊อกแม่พิมพ์ ไม่มีสร้างเสริม
2.สมเด็จ 95 เกศา (หลวงปู่)
ทางวัดจัดสร้าง โดยหลวงปู่คำแปลง เป็นผู้รวบรวมมวลสารด้วยตัวท่านเอง อาทิ เกศาพ่อแม่ครูบาอาจารย์สายกรรมฐานต่างๆ ที่ท่านได้ไปฝากตัวเป็นศิษย์, ว่านมงคลต่างๆ , แร่มงคลต่างๆ,พระธาตุ, พระกรุสมเด็จบางขุนพรหม, อิฐพระธาตุ
พนม และอื่นๆอีกมากมายครับ ลองเข้าไปอ่านดูในภาพที่ผมลงไว้ครับ เฉพาะว่านก็นับกันไม่หวาดไม่ไหวแล้ว มวลสารเยอะมากๆครับรุ่นนี้
-- จำนวนการสร้าง 29,999 องค์
-- พิมพ์สมเด็จ เนื้อผงผสมว่านและเกศา 95หลวงปู่
-- บล๊อกแม่พิมพ์ หลังจากสร้างชุดแรกเสร็จ ปี 2542 บล๊อกแม่พิมพ์เก็บไว้ที่วัดมีการปั๊มเพิ่มขึ้นมาเรื่อยๆสำหรับแจก จำนวนไม่แน่ชัด และปี 2550-2551 อ.ปัญญา นำมาปั๊มเพิ่มอีกประมาณ 100,000 องค์ เอาเฉพาะแม่พิมพ์ด้านหน้ามาปั๊ม เป็นพิมพ์หลังเรียบพระสมเด็จ 95 เกศา เป็นพระที่หลวงปู่คำแปลงท่านมีความตั้งใจอย่างมากในการจัดสร้าง ทั้งผสมมวลสารด้วยตัวท่านเอง จัดหามวลสารเอง กดแม่พิมพ์พระเอง หลวงปู่เริ่มจัดสร้างพระชุดนี้ประมาณช่วงอออกพรรษาปี 2541 และแจกในงานวันเกิดปี 2542 ระยะเวลาในการอธิษฐานจิตประมาณเกือบ1 ปี ก่อนที่จะแจก และเป็นพระที่หลวงปู่ทันบอกว่า"รุ่นนี้แหละมันดีที่สุด"
3.พระผงรูปเหมือนรุ่นแรก
ทางวัดจัดสร้าง โดยหลวงปู่คำแปลง จัดสร้างโดยใช้มวลสารแบบเดียวกันกับ พระสมเด็จ 95เกศาทุกอย่าง เพียงแต่ไม่มีเกศาผสมใส่ลงไปเท่านั้น แต่อาจจะมีเกศาใส่อยู่บ้างเป็นบางองค์แต่ส่วนใหญ่แล้ว รุ่นนี้จะไม่มีเกศา
-- จำนวนการจัดสร้างประมาณ 100,000 องค์
-- พิมพ์รูปเหมือน ลป.คำแปลง (มวลสารแบบเดียวกับ 95 เกศา) แต่ไม่มีเกศา
-- บล๊อกแม่พิมพ์ หลังจากสร้างชุดแรกเสร็จปี 2543 ช่างโอ๊ด ขอนแก่น นำบล๊อกแม่พิมพ์มาปั๊มเพิ่ม จำนวน 84,000 องค์ ถวายหลวงปู่พร้อมพระปิดตารุ่นก้าวหน้า
4.ผ้ายันต์ (พุทธคุณ ธรรมคุณ สังฆคุณ) รุ่นแรก
จัดสร้างโดยทางวัด มีสีแดงสีเดียว และมีตราประทับรูปหลวงปู่คำแปลงนั่งสมาธิ
-- จำนวนการจัดสร้างประมาณ 5,000 ผืน
-- สีแดงสีเดียว (รูปทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้า)
-- บล๊อกแม่พิมพ์ มีการนำบล๊อกแม่พิมพ์เดิมมาจัดสร้างอีกครั้งในปี 2547 (รุ่น 2) โดยอ.ปัญญา เปลี่ยนจากสีแดง เป็นสีขาว และไม่มีตราประทับ เพื่อแยกรุ่นให้ชัดเจน (บล๊อกแม่พิมพ์ผ้ายันต์ทั้ง 2 รุ่นนี้ และตราประทับปัจจุบัน อ.ปัญญา เป็นผู้เก็บรักษาไว้

#พระเถระอธิษฐานจิต
-- ลป.ท่อน ญาณธโร
-- ลป.ผ่าน ปัญญาปทีโป
-- ลป.บุญมี ฐิตปุญโญ
-- ลป.ศูนย์ จัณทสุวัณโณ
-- ลป.อินตอง สุภวโร
-- ลป.บุญมา คัมภีรธัมโม
-- ลป.บุญพิน กตปุญโญ
-- ลป.สวย อจโล
-- ลป.คำมี ปัญญาธโร
-- ลป.สรวง สิริปุญโญ
-- ลป.พวง สุวีโร
-- ลป.โกวิท ฐานยุตโต
-- พระราชสุเมธี (ลป.เหลี่ยม สุจิณโณ)
-- ลป.พัน ฐิตธัมโม
ยังมีอีกหลายท่านครับแต่นับเฉพาะพระเถระ(เสกครั้งสุดท้ายในงานมุทิตาจิต 60 ปี พระประมาณ 200 รูปร่วมอธิษฐานจิต เจริญพุทธมนต์ )
พระชุดนี้ท่านใดมีเก็บรักษาไว้ให้ดีนะครับต่อไปจะหายากแน่นอนครับ ส่วนประสบการณ์นั้นไม่ต้องพูดถึงครับ ทั้งยิงไม่ออก ยิงถูกแต่ไม่ตาย แคล้วคลาด เมตตาโชคลาภ มีญาติโยมมาเล่าประสบการณ์ต่างๆที่ตนเองเจอมากับตัวให้หลวงปู่ฟังต่างๆนาๆ แต่ท่านก็มีแต่ยิ้มหัวเราะ เท่านั้น ของดีที่หลวงปู่ฝากไว้ให้ลูกศิษย์

 

.........

 

1445.พระสมเด็จ พิมพ์ประธาน / หลังพัดยศ ฝังตะกรุดสามกษัตริย์ หลวงพ่อจำเนียร วัดดอนไร่ ผสมมวลลสารเก่าของหลวงพ่อมุ่ย วัดดอนไร่ ผงสมเด็จวัดเกศไชโยที่แตกหัก ให้บูชาองค์ละ 599 บาท

​

หลวงพ่อจำเนียร หรือ พระครูสุวรรณ พัฒนาภินันท์ วัดดอนไร่ จ.สุพรรณบุรี ศิษย์เอกหลวงพ่อมุ่ย ผู้ได้รับการถ่ายทอดวิทยาคมจนมีพระเวทแก่กล้าลึกล้ำเป็นที่เลื่อมใสของชาวบ้านย่านหนองสะเดา ก่อนที่ท่านจะมาเป็นสมภารเจ้าอาวาสวัดดอนไร่ ท่านเคยจำพรรษาอยู่ที่วัดไชโย ซึ่งเป็นสถานที่พบ พระสมเด็จเกศไชโย พิมพ์ต่างๆที่วงการพระเครื่องเล่นหากันสูงเป็นเรือนแสนเรือนล้าน ท่านจึงมีโอกาสได้ครอบครองพระสมเด็จเกศไชโย ที่ชำรุดแตกหักเป็นจำนวนมาก ท่านเก็นสะสมไว้ใต้ฐานวัตถุโบราณ จนกระทั่งได้รับแต่งตั้งเป็นเจ้าอาวาสวัดดอนไร่ ก็นำเศษพระที่ชำรุดดังกล่าวมาที่วัดดอนไร่ด้วย เมื่อท่านได้จัดสร้างพระเครื่องเพื่อแจกลูกศิษย์ ที่ให้ความเลื่อมใสศรัทธาท่าน โดยจัดทำสองแบบ คือสมเด็จสามชั้นพิมพ์ใหญ่และพิมพ์เล็ก มีทั้งบรรจุตะกรุดและไม่บรรจุตะกรุด โดยนำเศษพระสมเด็จวัดเกศไชโยที่ชำรุดแตกหัก เป็นส่วนผสมหลัก รวมทั้งนำผงพระชำรุดแตกหักของหลวงพ่อมุ่ย เท่าที่รวบรวมได้มาบดผสมรวมกัน หลวงพ่อจำเนียรทำการปลุกเสกเดี่ยวเป็นเวลาหลายเดือน (ข้อมูลจากหนังสือพระเครื่องมหาโพธิ์ เล่มที่ 481 ปีที่ 28 มิถุนายน พ.ศ. 2551) ดังนั้น พระเนื้อผงส่วนใหญ่ที่หลวงพ่อจำเนียรสร้าง จะมีผงเก่า ของหลวงพ่อมุ่ยผสมอยู่เป็นจำนวนมาก ฉนั้นหากไม่สามารถหาพระของหลวงพ่อมุ่ย มาบูชาได้ เนื่องจากมีราคาสูง และมีของเลียนแบบมากมาย ก็แขวนพระที่หลวงพ่อจำเนียรท่านสร้างใช้แทนได้เช่นกัน และภายในองค์พระ ยังมีเส้นเกศาของหลวงพ่อจำเนียร ผสมอยู่ด้วย (บางองค์เห็นชัดมาก บางองค์ ฝังอบู่ในเนื้อพระ)

 

​

พระสังขจายเนื้อยุคต้น สร้างก่อนปี2500 มวลสาร13พิมพ์แรก หลวงปู่ได้นำมาสร้างพระชุดนี้ขึ้น ซึ่งได้สร้างบล๊อกและกดพระเอง จากนั่นหลวงปู่นำติดตัว ไปธุดงที่ เชียงใหม่ และได้แจกให้ญาติโยม ที่จังหวัดเชียงใหม่ ส่วนหนึ่ง
ซึ่งพุทธคุณของมวลสาร13พิมพ์แรกมีพุทธคุณของผงอิทธิเจ ที่ศักดิ์สิทธิ์มาก และพระสังขจายมีพุทธคุณด้านเมตตาโชคลาภ มหานิยม มหาเสหน์ ค้าขายดีเยี่ยม

 

1446. สมเด็จหลวงพ่อวาด วัดพลงไสว ระยอง รุ่นแรก หายากมาก ให้บูชา 899 บาท

​

พระคณาจารย์เรืองนามแห่งภาคตะวัน ออกในอดีตอีกหนึ่งองค์ ที่ควรค่าแก่ การศึกษาจดจำนั่นคือ "หลวงพ่อวาด อินฺทโชติ" อดีตเจ้าอาวาสวัดพลงไสว ต.ชากพง อ.แกลง จ.ระยอง

พระเถระผู้มากด้วยเมตตา มีวิชาอาคมแก่กล้า และมีสุดยอดวัตถุมงคลมากด้วยประสบการณ์ เป็นเกจิร่วมยุคกับหลวงพ่อโต วัดเขาชากกระโดน

หลวงพ่อวาด เป็นชาว อ.แหลมงอบ จ.ตราด ไม่มีหลักฐานระบุว่าท่านเกิดเมื่อปี พ.ศ.ใด ทราบเพียงว่าอุปสมบทที่วัดแหลม งอบ จนกระทั่งปี พ.ศ.2436 ช่วงที่ฝรั่งเศสบุกเข้ายึดเมืองจันทบุรี ท่านจึงหนีความวุ่นวายมากับญาติโดยทางเรือ และได้มาพักแรมอยู่ที่อ่าวหน้าวัดพลงไสวนี้ ได้เห็นว่าเป็นสถานที่เหมาะสำหรับบำเพ็ญสมาธิและปฏิบัติธรรม จึงตัดสินใจเสี่ยงบารมีโดยตั้งสัจจะอธิษฐานว่า "...ถ้าสามารถที่จะบำเพ็ญ ธรรมต่อไป ขอให้มีปรากฏการณ์อันศักดิ์สิทธิ์เกิดขึ้นด้วย"

เพียงชั่วครู่ บริเวณที่แห่งนั้นก็เกิดพายุหมุนและหมุนแบบทักษิณาวรรตท่ามกลางความปลื้มปีติของท่านและญาติที่ได้เห็น ท่านจึงสร้างกุฏิขึ้นพอได้เป็นที่พักอาศัยและลงมือก่อสร้างเป็นวัดที่ถาวรสืบต่อมา ตั้งชื่อว่า "วัดพลงไสว" ปัจจุบันมีพระครูสังฆรักษ์สมุทร มนุญโญ เป็นเจ้าอาวาส



ท่านเป็นพระที่ดุ ผู้คนเกรงกลัวมาก พูดน้อย มีอำนาจน่าเกรงขามอยู่ในตัว และมีวิชาอาคมสูงมาก เพราะว่าสนใจวิชาทางไสยศาสตร์มาแต่เดิมอยู่ก่อนแล้ว แม้แต่หลวงพ่อโต วัดเขาชากกระโดน ก็ให้ความเคารพนับถือ และยังเคยไปเล่าเรียนและต่อวิชาลงผ้าประเจียด, พัดโบกกับท่านเสมอ

ในสมัยที่ยังมีชีวิตอยู่ วัดพลงไสวจะมีชาวบ้านมาจากแดนไกลขอให้ท่านรักษาโรคภัยไข้เจ็บต่างๆ เป็นจำนวนมาก ส่วนใหญ่จะเป็นทางด้านแก้ "ยาสั่งยาเบื่อ" ซึ่งท่านมีความเชี่ยวชาญเป็นพิเศษ จนเป็นที่เลื่องลือไปทั่วสารทิศ ใครที่ไปรักษา ถ้าท่านบอกว่าหายก็ต้องหาย แต่รายใดท่านบอกว่าไม่ต้องรักษา ส่วนมากจะปรากฏว่าไม่มีใครรอดสักราย นอกจากนี้ หากท่านได้ ว่ากล่าวหรือสาปแช่งผู้ใดจะต้องเป็นไปตามปากทุกราย จนขนานนามให้ท่านเป็น "หลวงพ่อวาจาสิทธิ์"

อุปนิสัยของท่านเป็นพระที่สันโดษ มักน้อย ไม่ยึดติดในลาภยศสรรเสริญ เมื่อครั้งที่เจ้าคณะแขวง (ในสมัยนั้น) จะแต่งตั้งให้เป็นพระครูและพระอุปัชฌาย์ ท่านก็ไม่ยอมรับ แม้ว่าลูกศิษย์จะอ้อนวอนอย่างไรก็ไม่เป็นผล จนเจ้าคณะแขวงต้องนำไปมอบให้หลวงพ่อเหลี่ยม (พระครูนิพันธ์ธรรมศาสน์) วัดกลางกร่ำ สหธรรมิกของท่าน ซึ่งหลวงพ่อเหลี่ยมนี้เป็นพระอุปัชฌาย์ที่มีคนนับถือมาก สมเด็จพระสังฆราช วัดเบญจมบพิตร ได้เสด็จไปทรงเยี่ยมและพระราชทานพระบรมสารีริกธาตุให้เมื่อวันที่ 5 ก.พ.2504

วัตถุมงคลที่หลวงพ่อวาดสร้างขึ้นมีไม่กี่ชนิด ส่วนมากศิษย์นำไปมอบให้ท่านทำให้ โดยท่านจะทำในช่วงเข้าพรรษาและมารับคืนไป หลังออกพรรษา เว้นจากเข้าพรรษาแล้วจะไม่รับทำให้ใครอีก ไม่ว่าจะเป็นใครก็ตาม วัตถุมงคลของท่านเท่าที่เห็นส่วนมากจะเป็นเครื่องรางของขลัง เช่น ผ้าประเจียด, ตะกรุด, สีผึ้งสีปาก เป็นส่วนมาก พระเครื่องเนื้อผงท่านก็สร้างไว้มากเหมือนกัน แต่ไม่ปรากฏว่าใครเคยได้ไปเพราะท่านนำไปฝังหมด

ครั้งหนึ่งมีผู้มาขอสีผึ้งนำไปใช้โดยไม่ชอบธรรม คือนำไปป้ายลูกสาวชาวบ้านเขาและไม่ยอมรับเป็นเมีย ท่านจึงนำสีผึ้งพร้อมพระเครื่องที่สร้างทั้งหมดไปฝัง โดยไม่มีใครทราบว่าฝังไว้ที่ไหน พร้อมกับสาปแช่งว่า "ผู้ใดขุดไปก็ตาม ให้มันฉิบหาย ของมันดีแต่คนมันนำไปใช้ไม่ดี ของมันก็ไม่ดีไปด้วยแล้ว ก็ให้มันฝังอยู่กับแม่ธรณีก็แล้วกัน" ภายหลังท่านมรณภาพแล้ว มีพวกที่ไม่กลัวคำสาปแช่งต่างพากันไปเที่ยวขุดค้นหากัน แต่ก็ไม่พบ แม้ปัจจุบันก็ยังไม่พบ

วัตถุมงคลของท่านที่ตกอยู่ ลูกศิษย์จึงเป็นที่หวงแหนแก่ผู้ที่ได้รับไปเป็นอย่างมาก ถ้าไม่คุ้นเคยหรือสนิทจริงๆ รับรองว่าไม่มีทางนำออก มาให้ดูแน่นอน

ในปี พ.ศ.2487 ท่านได้มรณภาพด้วยโรคชรา ทางคณะกรรมการวัดได้นิมนต์หลวงพ่อสงัด ปิยวัณโณ วัดโบสถ์เมืองมาเป็นเจ้าอาวาส ซึ่งต่อมาท่านได้สร้างรูปหล่อ และวัตถุมงคลเหรียญรูปเหมือนหลวงพ่อวาด รุ่นแรก ปี 2512 ให้ผู้ที่เคารพเลื่อมใสได้บูชา โดยนิมนต์พระคณาจารย์ผู้ทรงคุณวุฒิในภาคตะวันออกมาบรรจุพลังจิตลงไปในวัตถุมงคลตลอดคืน แม้จะเป็น "เหรียญตาย" ซึ่งสร้างหลังจากท่านมรณภาพแล้ว แต่ก็ได้รับความนิยมสูง มีผู้เสาะแสวงหากันมาก เพราะมีความศักดิ์สิทธิ์และประสบการณ์สูงทั้งด้านเมตตา แคล้วคลาด คงกระพันชาตรี

 

1447. เหรียญ หลวงพ่อจันทร์ วัดมฤคทายวัน หลวงพ่อเมี้ยน วัดหนองข้าวเหนียว เสกปี 2538 พร้อมเหรียญ รูปเหมือนของท่าน ให้บูชา 550 บาท

​

หลวงพ่อเมี้ยน วัดหนองข้าวเหนียว ผู้ที่เป็นศิษย์อีกรูปหนึ่งของหลวงพ่อทองศุข วัดโตนดหลวง ได้ศึกษาเล่าเรียนพุทธาคมหลายๆอย่าง รวมทั้งได้คำสั่งสอนและชี้แนะจากหลวงพ่อฉิน วัดชะอำ และหลวงพ่อจันทร์ วัดมฤคายวัน หลวงพ่อเมี้ยนท่านเป็นพระรูปสุดท้ายที่หลวงพ่อทองศุขให้เข้าร่วมปลุกเสกเหรียญรุ่นที่2 ซึ่งมีพระทั้งหมด 5 รูป คือ
-หลวงพ่อทองศุข
-หลวงพ่อนิ่ม
-หลวงพ่อจันทร์
-หลวงพ่อฉิน
และหลวงพ่อเมี้ยน

 

1448. เหรียญ หลวงปู่เฮง วัดพัฒนาธรรมาราม(บ้านด่านช่องจอม) รุ่น เมตตา เนื้อนวะโลหะกลับดำ สร้าง 999 เหรียญ ให้บูชา ราคาวัดครับ 500 บาท

​

 

1449.เทพเจ้าฝ่ายบู๊ แห่งแดนใต้ เหรียญเศรษฐี พ่อท่านเขียว วัดห้วยเงาะ เนื้ออัลปาก้า กรรมการ ปี 2555 ให้บูชา 450 บาท

​

สุดยอดปรมาจารย์ แห่งดินแดนลังกาสุกะ ผู้ปลุกเสกมนต์ขลังแห่งพุทธคุณ สร้างอิทธิปาฏิหาริย์ เป็นที่ประจักษ์แด่ผู้ศรัทธาทั้งประเทศ
**** ท่านเมตตาปลุกเสกวัตถุมงคลด้วยวิชา "รับทรัพย์เพิ่มทรัพย์" “ขอให้ร่ำรวย เป็นเศรษฐีมหาเศรษฐี และสมความปรารถนาทุกประการเทอญ” นีคือพรอันศักดิ์สิทธิ์ จากพระเถระผู้ยิ่งใหญ่ผู้ได้ชื่อว่ามีวาจาสิทธิ์ มอบให้แก่ผู้มีวัตถุมงคลนี้ไว้บูชา

เทพเจ้าฝ่ายบู๊ สำหรับที่มาของฉายานาม "เทพเจ้าฝ่ายบู๊" ของพ่อท่านเขียวเพราะท่านได้ทำนายเหตุการณ์ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ไว้ก่อนล่วงหน้าพร้อมกับสร้างตะกรุดพิสมรเเละหลวงปู่ทวดแจกให้ตำรวจทหารเเละชาวบ้านใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ก่อนมีเหตุการณ์ความไม่สงบ และตั้งแต่เกิดเหตุการณ์ ยังไม่มีผู้ใดแขวนพระเครื่อง เครื่องรางของขลังของพ่อท่านเขียวแล้วสังเวยชีวิตให้แก่เหตุการณ์ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้เลยแม้แต่คนเดียว ส่วนยิงไม่ออกยิงไม่เข้ายิงไม่ถูกหรือแม้แต่โดนระเบิดไม่เป็นไรมีให้เห็นอยู่ทุกวัน

 

1450. พระดีก่อนนอน ตลับยาหม่องพิมพ์เล็ก หลวงพ่อเต๋ วัดสามง่าม หนึ่งในอดีตพระเกจิอาจารย์ระดับแนวหน้าแห่งเมืองยอดแหลมนครปฐม ให้บูชา .....pm.....

​

นับเป็นสิ่งมงคลอันทรงคุณค่า เอกลักษณ์ที่มีมาตรฐานเฉพาะตัว เลื่องลือในประสบการณ์คุณวิเศษทุกๆด้าน เป็นที่แสวงหากันมาช้านาน ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 2 ซม.
จัดสร้างขึ้นเป็นรุ่นสองในปี 2517 หลวงพ่อเต๋ปลุกเสกประจุวิชาอาคมอย่างเต็มที่ ไม่ต่างจากรุ่นแรกที่สร้างมาก่อนสิบปี และมีค่านิยมสูงกว่าหลายเท่า
ข้อแตกต่างที่สังเกตุได้ง่ายคือ รุ่นสองปี 2517 ดวงตาหลวงพ่อเต๋จะเหลือบมองขึ้นด้านบน ในขณะที่รุ่นแรกมองตรงปกติ และมีเส้นขนแมวขวางข้างหูด้านซ้ายมือเรา
ภายในตลับยาหม่องบรรจุด้วยผงมวลมสารว่านมงคลอันทรงฤทธิ์ ปิดด้วยหนังเสือที่ตัดเป็นวงกลมเท่าขอบ หนังเสือปรากฏพบเห็นหลากหลายแบบ

 

1451. ที่สุดแห่งเหรียญมงคล พิธีใหญ่ เหรียญ คุ้มเกล้า เนื้อนวะโลหะ ปี22 ให้บูชา 550 บาท

​

เหรียญคุ้มเกล้า ภปร. เริ่มดำเนินการจัดสร้างภายในปี 2522 โดยมูลนิธิมูลนิธิคุ้มเกล้าฯในพระบรมราชูปถัมภ์ ได้จัดตั้งขึ้นเมื่อ 10 กันยายน 2522 มีพลอากาศเอก พะเนียง กานตรัตน์ ผู้บัญชาการทหารอากาศ ในสมัยนั้น เป็นประธานกรรมการและนาวาอากาศเอก ประกอบ บุรพรัตน์เป็นกรรมการและเลขานุการ ได้ดำเนินการเพื่อจัดหาทุนก่อสร้างอาคารคุ้มเกล้าฯ จนเป็นผลสำเร็จ โดยสามารถระดมทุนได้กว่า 600ล้านบาท ซึ่งอาคารคุ้มเกล้าฯ เป็นอาคารราชการที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทยในขณะนั้น มีที่ในก่อสร้างถึง 70,000 ตารางเมตร เป็นอาคารรักษารักษาพยาบาลที่เป็นหลักสำคัญของโรงพยาลทหารอากาศ และอาคารคุ้มเกล้าได้รับพระราชทานชื่ออาคารโดยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในวันที่ 3 เมษายน 2528 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช ได้เสด็จพระราชดำเนินพร้อมด้วยสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ มา ยังโรงพยาบาลภูมิพลอดุลยเดช ทรงรับการน้อมเกล้าฯ ถวายอาคารคุ้มเกล้าฯ จากมูลนิธิคุ้มเกล้าฯในพระบรมราชูปถัมภ์ และพระราชทานอาคารดังกล่าวแก่ โรงพยาบาลภูมิพลอดุลยเดช
ดังที่กล่าวมาแต่ต้นอาคารคุ้มเกล้า ของโรงพยาบาลภูมิพล ใช้งบการก่อสร้างในสมัยนั้นจำนวนมากกว่า 600ล้านบาท ถ้าเทียบค่าเงินในสมัยนี้ต้องหลายๆพันล้านบาทหรืออาจถึงหมื่นล้าน ลองเทียบราคาทองคำในสมัยนั้นกับสมัยนี้ดูก็ได้ครับ ทางมูลนิธิคุ้มเกล้า ได้ออกสลากการกุศล เพื่อเป็นการหารายได้ อีกทางหนึ่งคือจัดสร้างวัตถุมงคลเพื่อหารายได้รวมถึงพระกริ่งศิรากาศ ภปร. คุ้มเกล้า เหรียญรัชกาลที่9 คุ้มเกล้า เป็นต้น ได้ดำเนินการจัดสร้างวัตถุมงคลรุ่นนี้ตั้งแต่ปี 2522ซึ่งการสร้างวัตถุมงคลนี้เป็นงานใหญ่ที่มูลนิธิได้ตั้งใจทำอย่างดี ทางผู้จัดสร้างได้นำแผ่นทอง เงิน นาค ไปให้พระเกจิคณาจารย์ทั่วไประเทศช่วยเขียนยันต์ปลุกเสกเพื่อนำมาเป็นชนวนโลหะหลอมสร้างพระกริ่ง พระบูชา และเหรียญคุ้มเกล้า ในครั้งนี้ โดยสมเด็จพระอริยวงศาคตญาณสมเด็จพระสังฆราชฯ วัดราชบพิธ ทรงลงแผ่นทอง นาค เงิน แผ่นแรกวันที่ 12 สิงหาคม 2526 พร้อมด้วยพระเถระอีก 60รูป ภายในพระอุโบสถของวัดราชบพิธ ที่ได้มาร่วมสวดเจริญพระพุทธมนต์ในวันเฉลิมพระชนมพรรษาของสมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินีนาถ จากนั้นคณะผู้สร้างได้นำแผ่นทอง เงิน นาค ไปให้พระเกจิอาจารย์ผู้ทรงคุณทั่วประเทศ 1250 รูป เช่น
หลวงปู่ดูลย์
หลวงปู่แหวน
หลวงพ่อเนื่อง วัดจุฬามณี
หลวงพ่อพรหม วัดขนอนเหนือ
ครูบาพรหมาจักร
หลวงพ่ออุตมะ
หลวงพ่อแพ ฯลฯ
ต่อมา พระ บาท สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินีนาถ พร้อมด้วยพระเทพรัตนราชสุดา สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินทำพิธีเททองหล่อพระพุทธรูป และ ทำพิธีหลอมแผ่นทอง นาค เงิน ที่ได้ลงอักขระ เพื่อเป็นชนวนสร้างพระกริ่งคุ้มเกล้า ที่วัดดอยแม่ปั๋ง เชียงใหม่ ในวันที่ 16 มกราคม 2527 โดยมีพระสังฆราช และ พระเถระผู้ใหญ่ 9 รูป เจริญชัยมงคลคาถา

วัตถุมงคลรุ่นคุ้มเกล้าทั้งหมด ได้นำเข้า พิธีพุทธาภิเษกใหญ่ ที่ มณฑลพิธีท้องสนามหลวงในวันที่ 6-7-8-9 เม.ย. 2527 รวม 4 คืนโดยมีพระเถระเกจิคณาจารย์มากมายถึง 108 รูปมาร่วมพิธี และมีการโยงด้ายสายสิญจน์จากพระภายในพระอุโบสถ(พระแก้วมรกต) วัดพระศรีรัตนศาสดาราม มายังบริเวณภายพิธี ในพิธีพุทธาภิเษกนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงจุดไฟพระฤกษ์ ดับเทียนชัย โดยสมเด็จพระญาณสังวรฯ ในวันแรกของพิธีพุทธาภิเษก 6 เมษายน 2527 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงจุดไฟพระฤกษ์ ณ พระอุโบสถวัดพระศรีรัตนศาสดาราม มอบให้พลเอกอากาศ ประพันธ์ ธูปะเตมีย์ ผู้บัญชาการทหารอากาศอัญเชิญเข้าขบวนแห่มายังปะรำพิธีจากนั้นเวลา 19.19 น. สมเด็จพระสังฆราชวาสน์ เสด็จมาจุดเทียนชัยจากไฟพระฤกษ์ เริ่มพิธีพุทธาภิเษกจนถึงรุ่งอรุณของวันที่ 10 เมษายน 2527 จึงได้อัญเชิญสมเด็จพระญาณสังวร ดับเทียนชัย เป็นอันเสร็จสิ้นพิธีพุทธาภิเษกครั้งยิ่งใหญ่ที่นับเป็นประวัติศาสตร์

 

1452. พระสมเด็จ เจริญลาภ รุ่นแรก (พิมพ์เล็ก) หลวงปู่คำพันธ์ โฆสปัญโญ) วัดธาตุมหาชัย ปี33 ให้บูชายกคู่ 850 บาท

​

ผู้ที่มีไว้ครอบครองจักเจริญด้วย ลาภ ยศ สรรเสริญ สุข มีอายุมั่นขวัญยืน ทำธุระกิจการค้าขายใด ๆ เจริญก้าวหน้าจงทุกประการ
สุดยอดพระสมเด็จหลวงปู่คำพันธ์ โฆสปญโญ วัดธาตุมหาชัย อำเภอปลาปาก จังหวัดนครพนม
ขอเชิญท่านพบกับสุดยอดที่สุดในตำนานพระสมเด็จแห่งภาคอีสาน
พิธีพุทธาภิเษก วันเสาร์ที่ 10 มีนาคม 2533 ณ อุโบสถวัดธาตุมหาชัย โดยหลวงปู่คำพันธ์ และสุดยอดเกจิอาจารย์ทั่วภาคอีสาน
สุดยอดมวลสาร
1.ผงอิฐ 2,000 ปี พระธาตุพนม
2.ผงเกสร 108 วัดพระธาตุพนม
3.ผงธูปไหว้พระธาตุพนม
4.เกษาหลวงปู่คำพันธ์ โฆสปญโญ
5.ผงว่าน 108 หลวงปู่คำสิงห์ ภูงัว
6.ผงไม้รักซ้อน
7.ผงไม้รักยม
8.ผงไม้จันทร์หอม
9.ผงไม่กาหลง - สาวหลง

 

1453. เหรียญมหามงคล หลวงปู่คำพันธ์ วัดธาตุมหาชัย ให้บูชา 650 บาท

​

เหรียญเสมามหามงคลเหรียญรุ่นนี้จัดสร้างเมื่อปี 2536 โดยพระอาจารย์เวทย์ อาจารสัมปัญโน ซึ่งเชื่อกันว่าท่านเป็นลูกในอดีตชาติของท่านตามมาเกิด
ในเอกสารประชาสัมพันธ์ได้แจ้งจำนวนการจัดสร้างชัดเจน แต่เมื่อโรงงานทำการปั๊มเหรียญออกมาได้จำนวนไม่ครบตามโบรชัวร์ สามารถปั๊มได้จำนวนดังนี้
1. เนื้อทองคำ จำนวน 25 เหรียญ
2. เนื้อเงิน จำนวนสร้างไม่เกินประมาณ 500 เหรียญ
3. เนื้อนวโลหะ จำนวน 536 เหรียญ
4. เนื้อทองเหลือง จำนวน 8,475 เหรียญ
5. เนื้อทองแดง จำนวน 19,447 เหรียญ
6. เนื้อตะกั่ว จำนวน 193 เหรียญ (แจกเฉพาะกรรมการ) ไม่มีจำหน่าย
ครั้นเมื่อหลวงปู่คำพันธ์ปลุกเสกเรียบร้อยแล้วท่านได้กล่าวกับลูกศิษย์ว่า เหรียญรุ่นนี้มีเมตตามหานิยามสูงมาก(เข้าพิธี 4 ครั้ง) และมีเซียนใหญ่สายตรงหลายๆท่านยกให้เป็นเหรียญเสมาแห่งภาคอีสาน สาเหตุเพราะเหรียญรุ่นนี้มีความประณีตงดงามมากดูทีไรก็ไม่เบื่อ อีกทั้งชื่อ "เหรียญมหามงคล" ซึ่งบอกถึงความเป็นมงคลยิ่งแก่ผู้ที่มีไว้ครอบครองและยันต์ด้านหลังเหรียญ ยังใช้ยันต์ดวงมหาปรารถนาเหมือนกับเหรียญมหาปรารถนา ปี 31 อีกด้วย

 

1454. พระกริ่ง ฉันทโร เนื้อทองฝาบาตร หลวงปู่ ญาท่านสวน วัดนาอุดม จัดสร้างเมื่อปี 40 จำนวน 2000 องค์ เจตนามุ่งสร้างหอระฆัง ให้บูชา 1350 บาท

​

จัดสร้างเพื่อหาทุนสร้างหอระฆัง โดยมหาวิทยาลัยราชภัฎอุบลราชธานี
จำนวนการสร้าง
- เนื้อเงิน 287 องค์
- เนื้อฆ้อง 1,000 องค์
- เนื้อทองฝาบาตร 2,000 องค์

ท่านเป็นพระผู้มีบริสุทธิคุณ
พุทธคุณพระท่านทุกรุ่นล้วนสูงยิ่งครับ

หลวงปู่สวน ฉันทโร ท่านเป็นศิษย์สายท่านสำเร็จลุน ซึ่งญาท่านสําเร็จลุนถือว่า
เป็นพระปรมาจารย์ผู้ทรงอภิญญามีกฤษดาอภินิหารมากมายจนเป็นที่เลื่องลือในแถบลุ่มแม่น้ำโขงมีคนเคยเห็นท่านยืนสรงน้ำกลางแม่น้ำโขง ท่านสามารถบังคับให้เรือรบของทหารฝรั่งเศสหยุดได้และเคยเหยียบเรือรบของทหารฝรั่งเศสเอียงวูบ จนเกือบจะล่ม เมื่อคราวที่ทหารฝรั่งเศสให้คนมานิมนต์ให้ท่านลงไปในเรือรบ แต่ท่านบอกว่าท่านไม่อยากลงท่านกลัวเรือจะล่ม แต่ไม่มีใครเชื่อท่าท่านจึงก้าวเท้าไปเหยียบปรากฏว่าเรือเอียงวูบทันทีจนไม่มีใครกล้าคะยั้นคะยอให้ท่านลงและมีอยู่คราวหนึ่งท่านสำเร็จลุนบอกให้ลูกศิษย์ปลอกมะละกอและหาเครื่องตำส้มตำเอาไว้ ส่วนท่านจะไปเอาน้ำปลาจากกรุงเทพฯมาให้ ปรากฏว่าท่านเดินคล้อยหลังไปแว๊บเดียว แล้วกลับมาพร้อมกับถือเอาขวดน้ำปลายี่ห้อแปลกๆที่ไม่เคยมีในแถบนี้มาให้ลูกศิษย์ ท่านพระภิกษุสวนเดินทางไป แต่น่าเสียดายที่ท่านไม่พบกับสำเร็จลุน
ท่านจึงได้เดินทางกลับ ต่อมาท่านได้ทราบว่ายังมีลูกศิษย์ของท่านสำเร็จลุน
อีกรูปหนึ่งที่ได้รับการถ่ายทอดสรรพวิชาต่างๆเอาไว้และมีกฤษดาอภินิหารมากเช่นกันพระภิกษุรูปนี้ก็คือ ญาท่านกรรมฐานแพง แห่งวัดสะพือ อ.พิบูล จ.อุบลราชธานี
ท่านจึงได้เดินทางไปฝากตัวเป็นลูกศิษย์ของญาท่านกรรมฐานแพงการเรียนสรรพวิชาเวทมนตร์คาถาต่างๆในสายของสำเร็จลุนญาท่านกรรมฐานแพงท่านกล่าวว่าผู้ที่จะมาเรียนวิชาในสายนี้จะต้องตั้งสัจจะคือเมื่อเรียนเสร็จแล้วจะต้องบวชไม่สึก

 

1455.พระกรุวัดนก จ.อ่างทอง พระเก่าปีลึก สร้างราวปี 2460 หลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่าเสก ให้บูชา 2500 บาท

​

พระวัดนก(สกุณาราม) อ่างทอง เป็นพระเนื้อผงน้ำมัน มีหลายสี สีเขียว สีเทา สีดำ สีขาว สร้างขึ้นเมื่อปี 2453 โดยหลวงพ่อแก้ว ซึ่งท่านเป็นเพื่อนกับหลวงปู่ศุขแห่งวัดปากคลองมะขามเฒ่า ชัยนาท สร้างเรื่อยมาจนถึงปี 2475 โดยนิมนต์หลวงปู่ศุข วัดปากคลองมาร่วมปรกปลุกเสกด้วย เพราะเป็นสหธรรมมิกกัน แม่พิมพ์จึงมีศิลปะแบบเดียวกับพระเครื่องหลวงปู่ศุขวัดปากคลองมะขามเฒ่า เข้าใจว่าคงได้รับการแนะนำแม่พิมพ์โดยหลวงปู่ศุขครับ โดยพระเครื่องวัดนกจะเป็นเนื้อผงผสมว่าน108ที่มีฤทธิ์ทางเหนียวและผงประกำ ช้าง ซึ่งที่วัดสกุณารามแต่โบราณใช้เป็นที่พักช้างให้ช้างได้พักผ่อนอาบน้ำให้ สะอาด ก่อนที่จะมุ่งหน้าเดินทางเข้าเมืองอยุธยาต่อไป ซึ่งเมื่อก่อนนี้เมืองอยุธยานี้ถือว่าเป็นเมืองหลวง
ลูกประกำช้างนั้น เป็นวัสดุอาถรรพ์ช้างจะกลัวมาก หลวงพ่อแก้วได้นำมาตำผสมกับว่าน108และผงพุทธคุณและนำมาพิมพ์เป็นพระสมเด็จ องค์น้อยที่แกะพิมพ์โ ดยการแนะนำจากหลวงปู่ศุขวัดปากคลองมะขามเฒ่า ซึ่งเป็นสหธรรมมิกที่สนิทกับหลวงพ่อแก้ว และยังได้นิมนต์หลวงปู่ศุขมาร่วมพุทธาภิเษกด้วยในฐานะที่สนิทสนมกัน ดังนั้นจะเห็นว่าพิมพ์สมเด็จวัดนกนั้นแม่พิมพ์จะมีความคล้ายคลึงกับพระ เครื่องวัดปากคลองมะขามเฒ่าในหลายๆพิมพ์ เช่นพิมพ์ข้างอุเป็นต้นครับ
.
พระสมเด็จวัดนกนั้นมีการสร้างกัน 2 ยุค คือ ยุคแรกจัดสร้างโดยหลวงพ่อแก้ว ประมาณปี 2453 ถึง 2475 พระยุคแรกจะมีสีเขียวกับสีเทา โดยชาวบ้านมักจะเรียกกันว่าเนื้อหินลับมีดโกน และได้มีการบรรจุกรุเพื่อสืบต่อพระศาสนาเอาไว้ด้วย ต่อมาเมื่อสิ้นยุคหลวงพ่อแก้วแล้ว พระปลัดเฟื้องได้สร้างขึ้นสืบต่อมาอีก เพราะแม่พิมพ์ยังไม่ได้ทำลาย พระปลัดเฟื้องได้สร้างตามแบบฉบับหลวงพ่อแก้วทุกประการ แต่สร้างด้วยเนื้อสีขาวกับสีดำ
.
พระสมเด็จวัดนกนี้ ผู้เขียนเคยพบเห็นประสบการณ์มากับตัวเอง กล่าวคือได้มีการนำพระสมเด็จวัดนกและพระเครื่องอื่นๆไปทำการทดลองยิงกันใน สนามยิงปืนของทางราชการ โดยให้นักแม่นปืนทำการทดสอบ ปรากฏว่าพระเครื่องหลายๆอย่างได้ยิงออก แต่กับพระสมเด็จวัดนกนั้นกลับยิงออกแต่ไม่เคยโดยองค์พระเลย ขนาดยิงในระยะใกล้ ห่างองค์พระแค่ 1 คืบเท่านั้น กระสุนจะเบี่ยงออกซ้ายบ้าง ขวาบ้าง เป็นที่น่าอัศจรรย์ยิ่งนัก แต่พอลองนำพระสมเด็จวัดนกออก และนำก้านไม้ขีดไปปักแทนและทำการยิง ปรากฏว่าหัวไม้ขีดกระจุยทันที ทำให้เป็นที่ฮือฮากันอย่างมากในสนามยิงปืนครับ

 

1456. เหรียญเสมา หลวงปู่ทวดหลวงพ่อทอง พิมพ์พุฒซ้อน รุ่นอริยทรัพย์ ปี52 ให้บูชา 450 บาท

​

หลวงปู่ทวด-หลวงพ่อทอง รุ่น อริยทรัพย์ วัดสำเภาเชย จ.ปัตตานี
บันทึกประวัตศาสตร์การสร้างครั้งสำคัญ พิมพ์สวยคมชัด สร้างน้อย พิธีขลัง วัตถุประสงค์ดี
นับเป็นอีกหนึ่งวัตถุมงคลแห่งประวัติศาสตร์การสร้างที่เน้นคุณภาพ มีรูปแบบพิมพ์ที่สวยคมชัด จัดสร้างจำนวนน้อย หลังจากใช้ระยะเวลาการดำเนินการจัดสร้างมานานข้ามปี นักสะสมพระเครื่อง ที่รอคอยไม่ควรพลาดต้องรีบเก็บบูชาไว้
วัตถุประสงค์ในการจัดสร้างวัตถุมงคลหลวงปู่ทวด-หลวงพ่อทอง รุ่น อริยทรัพย์
เพื่อนำรายได้สร้างอาคารเรียนพระปริยัติธรรมศีลมงคล (พ่อหลวงทอง) ณ ที่พักสงฆ์วิสุทธาวาส (ศูนย์ปฏิบัติธรรมวัดสุทัศนเทพวราราม) หมู่ 4 บ้านหนองแต้ ต.ตลิ่งชัน อ.เมือง จ.สุพรรณบุรี เนื่องด้วยที่พักสงฆ์วิสุทธาวาส (ศูนย์ปฏิบัติธรรมวัดสุทัศนเทพวราราม)
ได้ก่อตั้งขึ้นเพื่อเป็นสถานที่ศึกษาพระปริยัติธรรมของพระภิกษุ สามเณร เป็นสถานที่สำหรับเข้าค่ายธรรมของเยาวชน นักเรียน นักศึกษาและเป็นสถานที่ปฏิบัติธรรมของพุทธศาสนิกชนทั่วไป แต่ปัจจุบันยังไม่มีอาคารเรียนสำหรับพระภิกษุและสามเณรใช้ศึกษาพระปริยัติธรรม และอบรมและส่งเสริมศีลธรรมแก่นักเรียน นักศึกษาจากสถาบันทั่วประเทศรวมทั้งพุทธศาสนิกชนทั่วไป

พระเครื่องชุดนี้จัดสร้างจำนวนไม่มาก ประมาณ 69,000 องค์ ประกอบด้วย
เหรียญรูปไข่เต็มองค์ หลวงพ่อทอง หลังยันต์กำเนิด,
เหรียญรูปไข่ครึ่งองค์หลวงพ่อทอง หลังยันต์กำเนิด พิมพ์ใหญ่-พิมพ์เล็ก สร้างรุ่นแรก,
เหรียญเสมาพระโต๊ะหัก หลังหลวงพ่อทอง, เหรียญเสมาหลวงปู่ทวด พิมพ์ช้างปล้อง หลังหลวงพ่อทอง,
เหรียญเสมาพุทธซ้อน หลวงปู่ทวด-หลวงพ่อทอง หลังเจดีย์,
เหรียญเสมาหลวงปู่ทวดหัวโต หลังหลวงพ่อทอง,
เหรียญน้ำเต้าหลวงพ่อทองหันข้าง หลังยันต์กำเนิด สร้างรุ่นแรก,
เหรียญหลวงปู่ทวด พิมพ์พระรอดจิ๋ว สร้างรุ่นแรก
รูปเหมือนลอยองค์หลวงพ่อทอง พิมพ์ก้นถ้วย,
หลวงปู่ทวดลอยองค์ (เบตง) ใต้ฐานอุดผงว่าน 108 เกศาหลวงพ่อทอง ,
พระปิดตาอริยทรัพย์ หลังยันต์กำเนิด, พระปิดตาศุภโชค ยันต์น่อง
และรูปหล่อบูชาหลวงพ่อทอง ขนาด 2 นิ้ว ตั้งหน้ารถ ขนาด 5 นิ้ว และขนาด 12 นิ้ว

ประกอบพิธีพุทธาภิเษกยิ่งใหญ่ 3 วาระ ได้แก่

วาระที่ 1 ที่วัดศาลาแดง วันที่ 27 กันยายน 2552
มีพระเกิจอาจารย์ร่วมปลุกเสก ดังนี้
หลวงพ่อคง วัดเขากลิ้ง เพชรบุรี
หลวงพ่อลออ วัดหนองหลวง นครสวรรค์
หลวงปู่จันทร์แรม วัดเกาะแก้ว บุรีรัมย์
หลวงปู่คำบ่อวัดใหม่บ้านตาล สกลนคร
หลวงปู่จ้อย วัดหนองน้ำเขียว ชลบุรี
หลวงปู่ยวง วัดโพธิ์ศรี ราชบุรี
หลวงปู่บุญ วัดทุ่งเหนียง ชลบุรี
หลวงปู่อุทัย วัดเกาะตาพุด ราชบุรี
หลวงพ่อเอื้อน วัดวังแดนใต้ อยุธยา

วาระที่ 2 ที่วัดสุทัศนเทพวราราม วันที่ 23 มกราคม 2553
โดยพระวิสุทธาธิบดี อธิบดีสงฆ์วัดสุทัศน์ เป็นประธานจุดเทียนชัย
พร้อมด้วยพระเกจิอาจารย์อธิษฐานจิตปลุกเสกประจุพุทธาคม

และวาระสุดท้าย หลวงพ่อทอง ได้เมตตานั่งอธิษฐานจิตปลุกเสกเดี่ยว
ณ วัดสำเภาเชย วันที่ 21 สิงหาคม 2553

 

1457. อำนาจจิตท่านไม่ธรรมดาครับ พระผงทานบารมี รุ่นแรก ๕๕ ท่านเจ้าคุณเสงี่ยม วัดสุวรรณเจดีย์ อยุธยา (ผมรับประกันครับ ว่าท่านไม่ธรรมดาแน่นอน) ปิดรายการครับ

​

หลวงปู่เคยกล่าวไว้ว่าเสกเหนียวใครก็เสกได้แต่เสกให้เมตตามหานิยม ค้าขายร่ำรวย โชคลาภหนักๆนี่สิเสกยากกว่า
#หลวงปู่ตั้งใจทำและนั่งเจิมให้ทุกองค์แบบเมตตามากครับเจิมแป้ง
#หลวงปู่ท่านเจ้าคุณเสงี่ยมปรารภหลังจากปลุกเสกเสร็จ “ #พระชุดนี้มหาลาภหนักมากรวยไว”
#ลองใช้เองแล้วจะรู้ว่าพระชุดนี้พุทธคุณมหาลาภหนักมาก #ที่หลวงปู่พูดไว้นั้นดีอย่างไร #ผมเจอประสบการณ์กับตัวมาแล้วถึงได้เก็บไว้เยอะมาก...
เดิมทีแรกหลวงปู่ท่านเจ้าคุณเสงี่ยมตั้งใจสร้างพระเพื่อแจกให้คนจน คนไม่ค่อยมีเงินมีทอง ได้เอาไปใช้เพื่อจะได้มีลาภสักการะเลี้ยงตนเองเลี้ยงครอบครัวมีเหลือทำบุญทำทานได้ ประจวบเหมาะวันที่ 3 มีนาคม 2555 ที่ผ่านมา ทางวัดสุวรรณเจดีย์ได้จัดพิธี ไหว้ครูบูรพาจารย ์ และจัดพิธีทอดผ้าป่าสามัคคี ณ วัดสุวรรณเจดีย์ จ.พระนครศรีอยุธยา ทางวัดได้จัดงานมหากุศลเพื่อรำลึกบูรพาจารย์ประจำปีและได้ทอดผ้าป่าสามัคคีในคราวเดียว
ท่านเจ้าคุณเสงี่ยม จึงได้จัดสร้างพระผงรูปเหมือน รุ่นแรก ท่านเจ้าคุณฯให้ชื่อว่า “ ทานบารมี ๕๕” เพื่อแจกให้กับคณะศิษยานุศิษย์ (( แจกอย่างเดียว )) ใครทำบุญ ใครมากราบ ใครผ่านไปผ่านมา หลวงปู่เรียกมารับฟรีๆ แจกทุกวันแจกจนหมด ไปงานปลุกเสกวัดใหนหลวงปู่เสงี่ยมติดย่ามไปด้วยเจอใครขอของดีหลวงปู่เสงี่ยม แจกพระผงมหาลาภ แจกดะ แจกจนเกลี้ยง
หลวงปู่เสงี่ยมท่านบอกว่า " สมัยก่อนสมเด็จโตท่านทำพระแจก แจกอย่างเดียว แจกจนหมด สมัยที่สมเด็จโตท่านแจกไม่มีราคาค่างวดอะไร ทุกวันนี้ดูเอาเถอะ ต่อไปภายหน้าคนที่เขาได้พระมหาลาภของข้าไปเขาจะรู้เอง "
พระผงรูปเหมือน รุ่นแรก ทานบารมี ๕๕ ( พระมหาลาภ ) จัดสร้างจำนวน 3,000 องค์
หลวงปู่ท่านเจ้าคุณเสงี่ยมปรารภหลังจากปลุกเสกเสร็จ “ #พระชุดนี้มหาลาภหนักมากรวยไว”
พระผงรูปเหมือนรุ่นแรกทานบารมี ๕๕ สุดยอดชนวนมวลสารล้ำค่า อาทิ ผงปัฐมัง ตรีนิสิงเห พุทธคุณ ที่หลวงปู่เสงี่ยมนั่งลบผง เกษา จีวร ข้าวสารเสกปลุกเสกนาน 3 วาระบดจนละเอียด ผงพระนอนไสยาฐอายุนับร้อยปี ผงหลวงพ่อจันทร์อายุกว่าร้อยปี ผงหลวงพ่อในโบสถ์เก่าอายุหลายร้อยปี ผงพระกรุ ผงว่าน ๑o๘ ผงพระกรุแตกหัก ผงพระวัดเกษไชโยจำนวนมาก ใครได้ไปใช้หลวงลุงเล็กท่านรับรองว่า “ ทานบารมี ๕๕ แจ๋วจริงพุทธคุณแรง ” ทานบารมี ๕๕ หลวงปู่เสงี่ยมแจกเองรับกับมือท่านเจ้าคุณเสงี่ยมทุกคน.
รุ่นแรก ไม่มีเลข ไม่มีโค๊ต หลวงปู่ตั้งใจทำแจก

 

​

 

1458. เหรียญพระปฐมโพธิญาณวัดไผ่ล้อม จ.ระยอง ปี 2514 หลวงปู่ทิม วัดระหารไร่ ปลุกเสกให้อย่างเข้มขลัง ให้บูชา 900 บาท

​

พระชุดวัดไผ่ล้อม จัดสร้างในปี ๒๕๑๓ โดยมีหลวงปู่ทิม วัดละหารไร่ เป็นประธานพิธีปลุกเสก
พระอาจารย์พูนก็ได้จัดพิธีพุทธาภิเษกขึ้นในวันที่ ๑๑ เมษายน ๒๕๑๓ ซึ่งตรงกับวันเสาร์ขึ้น ๕ ค่ำ เดือน ๕ หรือที่เรียกกันว่า 'วันเสาร์ห้า' นับแต่โบราณเชื่อถือกันว่า วันเสาร์ห้านี้เป็นวันมหาอุดมฤกษ์ หากกระทำพิธีการปลุกเสกวัตถุมงคล ก็จะยิ่งเพิ่มพูนกฤตยาคมให้เข้มขลังศักดิ์สิทธิ์มากยิ่งขึ้น ในพิธีพุทธาภิเษกครั้งนี้ พระอาจารย์พูนได้นิมนต์พระเกจิอาจารย์ที่มีชื่อเสียง และแก่กล้าทางพระเวทจำนวน ๙ รูป มานั่งปรกปลุกเสก ดังมีรายนามต่อไปนี้
๑. หลวงปู่ทิม วัดละหารไร่ จ.ระยอง
ประธานจุดเทียนชัย และนั่งปรกปลุกเสก
๒. หลวงพ่อคง วัดวังสรรพรส จ.จันทบุรี
๓. หลวงพ่อลัด วัดหนองกระบอก จ.ระยอง
๔. หลวงพ่อรวย วัดท่าเรือ จ.ระยอง
๕. หลวงพ่อชื่น วัดมาบข่า จ.ระยอง
๖. หลวงพ่อตง วัดเพ จ.ระยอง
๗. พระสมุห์จำปี วัดไผ่ล้อม จ.ระยอง
๘. หลวงพ่อลบ วัดประดู่ในทรงธรรม จ.อยุธยา
๙. หลวงพ่อชาย วัดแม่นางปลื้ม จ.อยุธยา

พิธีพุทธาภิเษกได้เริ่มดำเนินขึ้น ตั้งแต่เวลา ๑๘.๐๐ น. จนถึง ๒๒.๐๐ น. จึงแล้วเสร็จสมบูรณ์ จากนั้นพระเกจิอาจารย์ทั้งหลายจึงได้แยกย้ายกันกลับวัด คงเหลือแต่หลวงปู่ทิม เพียงองค์เดียวเท่านั้น ที่มิได้กลับ หลังจากท่านนั่งพักผ่อนอยู่ไม่นาน หลวงปู่ทิมก็ก้าวขึ้นไปนั่งบนธรรมาสน์ แล้วเริ่มนั่งปรกอย่างสงบนิ่งไม่ไหวติงน่าศรัทธามาก หลังจากที่ท่านได้ปลุกเสกแผ่พลังจิตสู่กองวัตถุมงคลได้เพียงครู่ ปรากฏการณ์มหัศจรรย์ก็ได้บังเกิดขึ้นประจักษ์แก่สายตาของผู้คนจำนวนมาก กล่าวคือ ไฟฟ้าในพระอุโบสถทุกดวง ติดๆ ดับๆ อยู่ตลอดเวลา ผู้ที่นั่งอยู่ใกล้กองวัตถุมงคลยืนยันว่า ได้ยินเสียงดังขลุกๆ เป็นระยะ และที่พระอาจารย์พูนแปลกใจก็คือ สายสิญจน์ที่ถืออยู่นั่นประเดี๋ยวก็เย็น ประเดี๋ยวก็ร้อนสลับกัน แสดงว่าในขณะนั้น หลวงปู่ทิมกำลังแผ่พลังจิตเข้าสู่วัตถุมงคลแบบครบเครื่อง คือ มีทั้งในด้านเมตตาโชคลาภ ตลอดจนในด้านแคล้วคลาดคงกระพัน จนกระทั่งเวลา ๐๒.๐๐ น. ของวันใหม่ หลวงปู่ทิมจึงได้ลืมตา เสร็จสิ้นการปลุกเสก

ก่อนที่หลวงปู่ทิมจะกลับวัด พระอาจารย์พูนได้เข้าไปกราบ แล้วพูดกับ่ท่านว่า จะนำวัตถุมงคลทั้งหมดไปให้ช่วยปลุกเสกเพิ่มเติมอีกสัก ๙ คืน หลวงปู่ทิมยิ้มอย่างอารมณ์ดีแล้วกล่าวขึ้นว่า 'ไม่ต้องแล้ว ไม่ต้องแล้ว วันนี้เป็นวันเสาร์ห้า ปลุกเสกแค่คืนเดียวก็ศักดิ์สิทธิ์ที่สุดแล้ว วัตถุมงคลที่อยู่ในพิธีนี้ทั้งหมดมีพุทธคุณสูงเยี่ยมทุกด้าน ใช้ได้ตามจิตอธิษฐาน ขณะปลุกเสก ฉันนิมิตเห็นเป็นแสงฉัพพรรณรังสีสว่างไสวงดงาม คราวนี้ท่านพูนสร้างโบสถ์สำเร็จแน่ ต่อไปพระนี้จะมีชื่อเสียง และหายาก'

 

เหรียญดี แห่งเมืองระยอง เหรียญรุ่นสอง หลวงพ่อนิด วัดทับมา ปี2514

​

เหรียญนี้เป็นเหรียญรุ่นสอง หลวงพ่อนิด วัดทับมา ปี2514 เป็นเหรียญที่น่าบูชา เพราะมีพระเกจิสายระยองอย่างหลวงปู่ทิม มาร่วมพิธีปลุกเสกด้วย

หลวงพ่อนิด ญาณรังสี หรือ พระครูวิสุทธิณาณ วัดทับมา ตำบลทับมา อำเภอเมือง จังหวัดระยอง เป็นหนึ่งในพระเกจิร่วมสมัยและเป็นศิษย์น้องร่วมสำนัก หลวงปู่ทิม วัดละหารไร่ หลวงพ่อชื่น วัดมาบข่า หลวงพ่อหอม วัดชากหมาก ในสมัยท่านมีชีวิต ชื่อเสียงของหลวงพ่อนิด อาจจะไม่ดังมากเป็นที่รู้จักของคนกรุงเทพและส่วนกลาง แต่ในพื้นที่สมัยนั้นก็พอตัว หลวงพ่อนิด เป็นเจ้าอาวาสวัดทับมา สืบต่อจากหลวงพ่อขาว วัดทับมา ซึ่งหลวงพ่อขาว นี้เป็นยอดพระเกจิอาจารย์ยุคเก่าของระยองที่เก่งมากรูปหนึ่ง หลวงพ่อนิด วัดทับมา เกิดเมื่อวันที่ 7 สิงหาคม 2436 ท่านได้อุปสมบท เมื่อมีอายุ 23 ปี โดยมีพระครูขาว สุวณรังสี (เจ้าคณะแขวงเมือง ระยอง) เป็นพระอุปัชฌาย์ (ซึ่งหลวงพ่อขาว องค์นี้เป็นอาจารย์ของหลวงปู่ทิม หลวงพ่อชื่น และหลวงพ่อหอม ) เมื่อบวชแล้ว หลวงพ่อนิด ได้ศึกษาด้านวิชาอาคมและกรรมฐานจากหลวงพ่อขาว วัดทับมา นอกจากนี้ท่านยังคอยดูแลปรนนิบัติและคอยช่วยเหลืองานต่างๆของวัดให้กับหลวงพ่อขาว นอกจากนี้หลวงพ่อนิด ยังได้ไปศึกษาวิชาเพิ่มเติมจาก หลวงพ่อหิน วัดหนองสนม หลวงพ่ออี๋ วัดสัตหีบ เป็นต้น หลวงพ่อนิด ท่านสร้างวัตถุมงคลไม่กี่แบบ เท่าที่ทราบ
เหรียญรุ่นแรก ออกปี 2509 ด้านหน้าเป็นหลวงพ่อนิด และด้านหลังเป็นหลวงพ่อขาว ต่อมาได้ออกรุ่นสอง ปี2514 พิมพ์คล้ายรุ่นแรก
และเหรียญมหาโชค หลวงพ่อนิด ฉลองอายุครบ 84 ปีแต่ที่เหรียญเขียน83ปี ออกปี 2517 ในครั้งนี้มีพระขุนแผนและสมเด็จออกมาพร้อมกัน นอกจากนี้ก็มีรูปหล่อหลวงพ่อนิด ออกปี2509 ได้รับความนิยมมากเหมือนกัน หลวงพ่อนิด วัดทับมา ได้ถึงแก่มรณภาพอย่งสงบ สิริอายุได้ 87 ปี