พระดี พิธีใหญ่ รับประกันแท้ทุกรายการ!!! เชิญชม บูชา ในกระทู้ได้เลยครับ"

1486. เหรียญลายกนกรุ่น๑ นั่งเต็มองค์ หลวงพ่อกินรี จันฺทิโย วัดกัณตะศิลาวาส ให้บูชา 650 บาท

​

‘หลวงปู่กินรี จันทิโย’ วัดกัณตะศิลาวาส ต.ฝั่งแดง อ.ธาตุพนม จ.นครพนม พระวิปัสสนาจารย์ชื่อดังแห่งภาคอีสาน ท่านเป็นลูกศิษย์ออกติดตามธุดงควัตรไปกับหลวงปู่เสาร์ กันตสีโล และหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต บูรพาจารย์สายพระป่า
หลวงปู่กินรี เป็นพระป่าเพียงรูปเดียวที่ไม่ได้ญัตติเป็นคณะธรรมยุตในสมัยนั้น
ท่านยังเป็นพระอาจารย์ของหลวงปู่ชา สุภัทโท วัดหนองป่าพง อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี และหลวงปู่อวน ปคุโณ วัดจันทิยาวาส ต.นามะเขือ อ.ปลาปาก จ.นครพนม
มีนามเดิมว่า กลม จันศรีเมือง เกิดเมื่อวันพุธที่ 8 เมษายน 2439 ตรงกับสมัย ร.ศ.115 บรรพชาเป็นสามเณรในวัย 10 ขวบ อุปสมบทแล้วลาสิกขาในเวลาต่อมา กระทั่งในวัย 25 ปีเข้าสู่ร่มกาวพัตร์อีกครั้ง
พระอาจารย์วงศ์ ซึ่งเป็นพระอุปัชฌาชย์ ได้เปลี่ยนชื่อเดิมจากกลม เป็น ‘กินรี’ ได้รับฉายาว่า จันทิโย
เดิมท่านจำพรรษาอยู่ที่วัดหนองฮี และสำนักสงฆ์เมธาวิเวก ต.หนองฮี อ.ปลาปาก จ.นครพนม ก่อนย้ายไปจำพรรษาที่วัดกัณตะศิลาวาส ภายหลังออกธุดงค์นานกว่า 12 ปี
หลวงปู่กินรี มีโรคประจำตัวไอและปอดชื้น แต่ท่านไม่ยอมไปหาหมอรักษา จนอาการอาพาธทรุดหนักลง กระทั่งวันที่ 26 พฤศจิกายน 2523 ท่านได้ละสังขารอย่างสงบ ท่ามกลางความเศร้าสลดแก่ญาติโยม สิริอายุ 84 ปี 58 พรรษา
ทั้งนี้ ก่อนที่หลวงปู่กินรีจะมรณภาพได้ 2 ปี คณะศิษย์ได้จัดสร้างวัตถุมงคลขึ้น เพื่อฉลองอายุวัฒนะมงคลวันคล้ายวันเกิดครบ 82 ปี เมื่อวันที่ 8 เมษายน 2519
จัดสร้างโดย พล.อ.เกรียงศักดิ์ ชมะนันท์ ผบ.ทบ.ในสมัยนั้น ได้สร้างเหรียญหลวงปู่กินรี รุ่น 1 พ.ศ.2519 ไว้แจกจ่ายให้ทหารหาญ ส่วนหนึ่งถวายหลวงปู่ไว้แจกจ่ายแก่ญาติโยมผู้มาทำบุญ
เป็นเหรียญเนื้อเงิน เนื้อนวโลหะ และเนื้อทองแดงผิวไฟ แต่ไม่ทราบจำนวนที่จัดสร้างแน่ชัด ลักษณะเหรียญเป็นรูปทรงคล้ายใบโพธิ์ มีหู
ด้านหน้าเหรียญ ขอบเหรียญเป็นลายกนกที่อ่อนช้อยงดงาม ถัดจากเส้นสันขอบเหรียญ มีรูปเหมือนหลวงปู่กินรี นั่งขัดสมาธิเต็มองค์ ที่จีวรตอกโค๊ต “ศล” ด้านล่างสลัก “จนฺทิโย” ฉายาของหลวงปู่
ด้านหลังเหรียญ ครึ่งวงรีจากซ้ายไปขวาสลักคำว่า “หลวงพ่อกินรี จนฺทิโย วัดกัณตะศิลาวาส รุ่น ๑” ถัดจากเส้นขอบนูนบรรทัดที่ 1-4 มียันต์อักขระ บรรทัดที่ 5-6 ระบุอายุ ๘๒ ปี ๘ เมษายน ๑๙ ซึ่งเป็นวันคล้ายวันเกิดครบรอบในวัน เดือน ปี พ.ศ.นั้น ด้านล่างเขียนคำว่า “จ.นครพนม”
เป็น 1 ในเหรียญ 4 รุ่นที่ พล.อ.เกรียงศักดิ์ จัดสร้าง มีพุทธคุณเป็นที่ทราบกันดีในหมู่ทหารว่าโดดเด่นด้านแคล้วคลาดปลอดภัย

 

1487. ลูกอมชานหมาก (ติดจีวร+เกศา) หลวงปู่มหาศิลา สิริจันโท สวนสงฆ์แกเปะ วัดโพธิ์ศรีสะอาด จ.กาฬสินธุ์ ปิดรายการครับ

ของดีของหลวงปู่ครับ น่าบูชา​

 

1488. ยุคต้นของหลวงปู่ หายากครับ พระขุนแผนยุคต้นหลังหนังสือนูนปู่หิน อุดกริ่ง ทาทอง หลวงปู่มหาศิลา สิริจันโท ปิดรายการครับ

​

หลวงปู่แกะบล็อกทำมวลสารกดมือปลุกเสกเองขลังสุดๆของดียุคต้น ออกวัดบ้านธาตุประทับ จ.ร้อยเอ็ด ราวๆปี 2548-2550

 

1489. เหรียญเศรษฐี77 (หลังพระสิวลี)เป็นเศรษฐี เมตตา โชคลาภ ค้าขายเป็นที่สุดหลวงปู่มหาศิลา สิริจันโท สวนสงฆ์แกเปะ วัดโพธิ์ศรีสะอาด จ.กาฬสินธุ์ ปิดรายการครับ

​

 

1490. มาแบบยกคู่ ล็อกเก็ตหลวงปู่เกลี้ยงวัดโนนเกดยกมือประทานพรรุ่นอายุยืนด้านหลังอุดผงพุทธคุณผงไม้เทพมณี จีวร และ เหรียญรุ่นอายุยืน รวยสมปรารถนา(เนื้อนวะโลหะ) ปิดรายการครับ

​

 

1491. ยอดพระเถราจารย์ผู้ชาญกสิณไฟ เหรียญสร้างบารมี เจริญพร ปี2564 หลวงปู่บุญมา โชติธมฺโม สำนักสงฆ์เขาแก้วทอง ปราจีนบุรี ให้บูชา 899 บาท (เหรียญนำฤกษ์ เนื้อตะกั่วไม่ตัดปีก จารอักขระมหายันต์เต็มพระสูตร สร้าง 299 องค์ พร้อมเลี่ยมกันน้ำ)

​

พระเถระเพชรน้ำเอกของปราจีนบุรีในปัจจุบัน ศิษย์หลวงพ่อเขียน วัดบ้านกุง กบินทร์บุรี ยอดพระเถระซึ่งมีวิชาอาคมเก่งในยุคนั้น
ศิษย์หลวงปู่เอี่ยม หรือหลวงพ่อใหญ่ พระเกจิผู้เก่งกล้าด้านวิปัสสนากัมมัฏฐาน
หลวงปู่เอี่ยมได้สอนวิชาอาคม อักขระเลขยันต์การนั่งสมาธิวิปัสสนากรรมฐาน
ในการปฏิบัติกรรมฐานกำหนดเอาแสงสว่างจากการเพ่งเปลวเทียนที่เรียกว่า “เตโชกสิณ”
คือการกำหนดเอาธาตุทั้ง 4 พุ่งกระแสจิตสู่สิ่งที่กำหนดจิตจะสงบนิ่งบังเกิดแสงสว่างกลางมโนจิต บรรลุมรรคผลระดับหนึ่ง
ชื่อเสียงของหลวงปู่โด่งดังในทางปฏิบัติกรรมฐาน สำเร็จวิชาเตโชกสิณ เป็นที่ศรัทธาของมหาชนล้นหลามเป็นที่เลื่อมใสทั้งคนไทยและต่างชาติพัฒนาวัดบ้านแก่งทั้งสร้าง กุฏิ ศาลา โบสถ์ วิหาร เสร็จสมบูรณ์ ปัจจุบันหลวงปู่บุญมาได้มาพักจำพรรษาอยู่ที่ สำนักสงฆ์เขาแก้วทอง ต.เข้าไม้แก้ว อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี

 

เหรียญนาคเกี้ยวพิมพ์ใหญ่ วัดตรีจินดาวัฒนาราม สมุทรสงคราม ปี2500

​

เหรียญนาคเกี้ยว วัดตรีจินดาราม ซึ่งสร้างขึ้นรุ่นแรกเมื่อปี 2500 โดยอดีตเจ้าอาวาสชื่อ หลวงพ่อเล็ก ซึ่งท่านเป็นหนึ่งในศิษย์ของหลวงปู่เพชร วัดตรีจินดาราม ในอดีตหลวงปู่เพชร เป็นพระเกจิที่มีอายุรุ่นราวคราวเดียวกับหลวงพ่อแก้ว วัดพวงมาลัย ชาวบ้านเล่าว่าท่านมีความเชี่ยวชาญด้านวิปัสสนากรรมฐานและวาจาศักดิ์สิทธิ์ยิ่ง ลูกศิษย์ในสายท่านเท่าที่ทราบเช่น พ่อท่านบัณฑูรย์สิงห์ หลวงพ่อเล็ก หลวงพ่อโห้ เป็นต้น เมื่อหลวงปู่เพชร ได้มรณภาพลงราวปี2470 ทางวัดได้จัดสร้างเหรียญรุ่นแรก หลวงปู่เพชร เป็นที่ระลึกเมื่อปี 2482 มีพระเกจิดังๆมาร่วมปลุกเสกหลายองค์ เช่น หลวงพ่อคง วัดบางกะพร้อม หลวงพ่อเหมือน วัดกลางเหนือ หลวงปู่ใจ วัดเสด็จ เป็นต้น ส่วน เหรียญนาคเกี้ยว รุ่นแรก ของวัดตรีจินดาราม สร้างปี 2500 โดยหลวงพ่อเล็ก ได้นำเอายันต์นาคเกี้ยว ซึ่งเป็นยันต์ประจำวัด ที่หลวงปู่เพชร ได้คัดลอกมาจากถ้ำในสมัยเดินธุดงค์ กล่าวกันว่ามีพุทธคุณอานุภาพศักดิ์สิทธิ์มาก โดยเฉพาะแคล้วคลาด คงกระพัน เมตตา โชคลาภ กันไฟ กันภูตผีปีศาจก็ได้ เป็นต้น ในสมัยนั้นทางวัดได้ทำ 2 พิมพ์คือ
เหรียญสี่เหลี่ยม สำหรับแจกผู้ชาย (เน้นคงกระพัน)
เหรียญทรงพุ่มข้าวบิณฑ์ เหมาะสำหรับผู้หญิงและเด็ก (เน้นเมตตามหานิยม เป็นพิเศษ) ออกให้ทำบุญในสมัยนั้นองค์ละ 5 บาท ในงานฝั่งลูกนิมิตหรือพัทธสีมาของพระอุโบสถหลังใหม่(ถ้าจำไม่ผิด) ในสมัยนั้น มีพิธีปลุกเสกใหญ่โดยเฉพาะพระแถบลุ่มแม่น้ำกลองมาช่วยกันมากโดยเฉพาะศิษย์สายหลวงปู่เพชร เช่น หลวงพ่อเล็ก วัดตรีจินดาราม หลวงพ่อโห้ วัดบางกล้วย หลวงปู่ใจ วัดเสด็จ เป็นต้น ในปี 2508 เกิดไฟไหม้ศาลาที่เก็บรักษาเหรียญนาคเกี้ยว พร้อมกระดาษใบปลิวโฆษณา ปรากฏว่าพระบูชาต่างๆที่อยู่ในศาลา หลอมละลายหมด แต่เหรียญนาคเกี้ยว พร้อมกระดาษใบปลิว ไม่ปรากฏว่าโดนอันตรายจากไฟไหม้ และไฟไหม้ในครั้งนั้น ไม่ได้ลามไปยังกุฏิที่อยู่ข้างๆ เพียงแต่ไหม้ในศาลาเก็บพระเท่านั้น เมื่อชาวบ้านทราบเรื่อง ต่างแห่กันมาบูชาเหรียญนาคเกี้ยว กันจนหมด

 

.........

 

1492. เหรียญเจริญพรล่าง๗๗หน้ากากฝาบาตร หลวงปู่มหาศิลา สวนสงฆ์แกแปะ ให้บูชา 650 บาท

​

 

1493. พระกริ่งมหาสมบัติ หลวงปู่มหาสมบัติ วัดเขามะกอก ชลบุรี เนื้อนวะแก่เงิน อุดผงหลวงพ่อแก้ววัดเครือวัลย์ ให้บูชา 1250 บาท

​

หลวงปู่มหาสมบัติ วัดเขามะกอก
เจ้าตำรับทอง๗เล่มเกวียน
สมบัติตักไม่พร่อง
โดยใช้สตางค์จารยันต์
“เศรษฐีหมื่นหาบ” เงิน ๗ ชนิดๆละ 108 เหรียญ รวม 756 เหรียญ
เททองวันพฤหัส ธงชัยที่ ๑๓ มิถุนายน พุทธศักราช ๒๕๕๖ ขึ้น ๕ ค่ำเดือน ๗ ราชาฤกษ์
เททองฤกษ์มหาเศรษฐีมั่งมีร่ำรวยยิ่งใหญ่ดัง “จักรพรรดิเจ้าสมบัติจักรวาล”

แผ่นดินบูรพาทิศภาคตะวันออกเป็นดินแดนที่สร้างพระกริ่งได้ขลังที่สุด เมื่อวันที่ 5พฤษภาคม 2517 หลวงปู่ทิม วัดระหารไร่ เททองพระกริ่งชินบัญชร ลุล่วงกาลเวลาพระกริ่งชินบัญชรดังกระฉ่อนยกย่องเป็นยอดพระกริ่งที่อัศจรรย์ที่สุด
แผ่นดินตะวันออกบูรพาทิศเช่นเดียวกัน นับต่อจากวันเททองพระกริ่งชินบัญชรครั้งกระโน้น 39 ปี
หลวงปู่มหาสมบัติ ปรมาจารย์แห่งภาคตะวันออกผู้ทรงญาณสมาบัติ ถือธุดงค์วัตรปิดวาจา ไม่พูดไม่จา เงียบสนิท แต่มีคนเข้าหากราบไหว้ถวายของและ ขอบารมีหลวงปู่ให้ช่วยในเรื่องต่างๆ ชนิดหัวบันใดกุฏิ ไม่แห้ง ได้ฤกษ์วันธงชัย ราชาฤกษ์มหาเศรษฐี (เศรษฐีมั่งมีได้ดิบได้ดี ผู้เป็นชัยชนะแห่งพระราชาเป็นเหนือบรรดาเศรษฐีทั้งหลายในแผ่นดิน หรือ ฤกษ์ เศรษฐีซ้อนเศรษฐี) วันธงชัย พฤหัสที่ 13 มิถุนายน เวลา 15.45 น เป็นการประกาศก้องทั้งแผ่นดินว่า เกิดพระกริ่งมหาสมบัติ พระกริ่งที่คู่ควรกับผู้เป็นเศรษฐี ผู้ที่มั่งมีทรัพย์ ผู้ที่จักนับเงินนับทองไม่ถ้วน
พระกริ่งมหาสมบัติ ของหลวงปู่มหามสมบัติ วัดเขามะกอก กำเนิดเกิดมาคู่ ผู้ที่ต้องการเหตุ ๗ ประการดังนี้
1.ท่านผู้เจริญที่ต้องการเป็นเศรษฐี มีสมบัติ ทรัพย์สินเงินทอง นับไม่ถ้วน
2.ท่านผู้เจริญที่ต้องการสร้างเนื้อสร้างตัว ให้ร่ำรวย รู้แล้วรวยลัด โตเร็ว รวยก่อน บูชาพระกริ่งดีพระกริ่งเฉพาะจักร่ำรวยเร็ว
3.ท่านผู้เจริญที่ต้องการหากิน หาเก็บ หาได้ คล่องแคล่ว คล่องตัว บริหารเงินทอง หน้าชื่นตาบาน
4.ท่านผู้เจริญที่ประกอบอาชีพ ค้าขาย ทำธุรกิจ ห้างร้าน ให้อธิฐานพระกริ่งลอยเหนือน้ำบูชาด้วยดอกมะลิลอยน้ำนั้น จะทำให้ซื้อง่ายขายคล่องกิจการดี เงินทองไหลมาเทมาดังสายน้ำที่ไม่หยุดไม่แห้งไม่ลดฉันนั้น
5.ท่านผู้เจริญที่จะรวย จะรวยแต่ติดขัดปัญหาต่างๆ ให้บูชาเถิดเปิดทางทรัพย์เปิดทางลาภ เปิดทางโชค ให้หลั่งไหลมา ไม่รู้หมดไม่รู้สิ้น
6.ท่านผู้เจริญผู้เป็นห่วงบุตรหลานในอนาคตกาลว่าจะยากจะจนไหมหนอ ให้บูชาพระกริ่งมหาสมบัติมอบให้ลูกหลาน ว่านเครือไปบูชา จะหาความยากจน อดอยาก แล้งแค้น มิได้เลย
7.ท่านผู้เจริญทั้งหลายที่บูชาพระกริ่ง “มหาสมบัติ” ปรารถนาอะไรได้ดังใจจินตนาการ ปรารถนาทรัพย์สินเงินทอง ได้ดังเนรมิต ปรารถนากิจการเจริญได้ดังประสงค์ ปรารถนาร่ำรวย ได้ดังจำนง ปรารถนาให้มั่งมี เป็นเศรษฐีเสมอไป

พระกริ่งมหาสมบัติ ของหลวงปู่สมบัติ วัดเขามะกอก พัทยากลาง ชลบุรี ท่านมิได้หล่อหลอมพระกริ่งแบบธรรมดาทั่วไป เป็นการสร้างพระกริ่งที่ นำรูปพระพุทธองค์อยู่เหนือสมบัติทั้งปวง ทั้งสมบัติที่เป็นทรัพย์ และ สมบัติที่เป็นอริยทรัพย์ ทรัพย์สินนานา แก้วแหวน เงินทอง เพชร นิล จินดา แม้แต่หีบสมบัติใต้ทะเล เต็มเปี่ยมด้วยของมีค่า ก็เปิดออกพร้อมจะให้เราผู้เป็นเจ้าเข้าเจ้าของ แม้แต่สมบัติของเจ้าจักรพรรดิ เช่น แก้วมณี ช้างแก้ว ม้าแก้ว ขุนคลังแก้ว นางแก้ว ขุนพลแก้ว ก็อยู่เบื้องบาทลองใต้ดอกบัวของพระพุทธองค์ ทั้งหมดทั้งสิ้น เป็นอุปมา ว่า สมบัติอะไรอะไรในโลกนั้น ล้วนเป็นของเล็กเมื่อเทียบกับ พระบรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้า ผู้เป็นอัจฉริยะบุคคล ผู้สูงส่งยิ่ง การบูชาพระองค์เท่ากับได้บูชายอดมนุษย์บุคคลที่ควรบูชา จะนำมาซึ้งมงคลทั้งปวง สรรพมงคลทั้งปวงจงเกิดแก่ท่านในกาลทุกเมื่อ สรรพพรอันยิ่งใหญ่จะเกิดกับท่านในทุกเวลา สรรพอุดมจะเกิดแก่ท่านในที่ทุกสถาน สรรพทุกข์สรรพโศกสรรพโรคสรรพภัย สรรพจัญไรทั้งหลาย จะหายเกลี้ยง หายหมด หายสิ้น อะไรดี อะไรเลิศอะไรประเสริฐ อะไรมงคล จงเกิดแก่ท่านตลอดกาลนิรันดร์ พระกริ่งมหาสมบัติอุบัติขึ้นแล้วในโลก ท่านผู้เจริญหาเจอ หาพบหรือไม่...

พระกริ่งมหาสมบัติ มากกว่าพระกริ่งทั่วไป
เพราะสร้างโดยหลวงปู่มหาสมบัติ ผู้ปิดวาจา ไม่พูดจากับใคร ใครทำบุญกับท่านแล้ว มักโชคดีใหญ่ ร่ำรวยใหญ่ เป็นเศรษฐีใหญ่ เจ้านายเชื้อพระวงศ์สูงศักดิ์ ยังเสด็จมาถวายสังฆทานกับหลวงปู่หลายครั้งหลายหน พระประยูรญาติผู้สูงศักดิ์ก็กราบนมัสการถวายสังฆทานกับหลวงปู่หลายหน ข้าราชการ นักการเมือง คหบดี เศรษฐีทั้งหลาย มีวัตถุมงคลหลวงปู่เป็นที่พึ่งที่ระลึกทั้งสิ้น หลวงปู่ท่านไม่ค่อยพูด ท่านปิดวาจา เงียบสนิท แต่ท่านมีวิชาดี วิชาที่ทำให้คนเป็นเศรษฐี มั่งมีทรัพย์ได้ตามใจ คือวิชาทอง ๗ เล่มเกวียน ที่กล่าวว่า ฤษีผู้ทรงฤทธิ์สำเร็จอภิญญาจิต เสกทองทั้งภูเขาให้ขนเอาไปทั้งวันทั้งคืนตลอด๗ วัน๗คืนในรอบเทวดาทั้ง ๗เสวย (7 วันอาทิตย์ถึงจันทร์) ก็ไม่หมดไม่พร่อง นี่แหละวิชาที่ทำให้คนเป็นเศรษฐี มั่งมีทรัพย์สมบัติ ที่หลวงปู่มหาสมบัติเป็นผู้สานสืบต่อถึงทุกวันนี้

จากปรมาจารย์องค์เก่าดินแดนภาคตะวันออก
“ พระกริ่งมหาสมบัติ ” หลวงปู่มหาสมบัติจะ ทุ่มเทสรรพวิชา มนต์ทั่วทั้งแสนโกฏิจักรวาล บรรจุลงไปให้ท่านที่เอาไปใช้ได้ร่ำรวยเร็วเป็นเศรษฐีมหาศาล มีทรัพย์สมบัติมากล้น จนคนทั่วไป งง และอิจฉา ว่า มีดีอะไรดีหนักหนา จึงร่ำรวยได้ถึงเพียงนี้ แต่เมื่อถึงตอนนั้นห้ามบอกเด็ดขาดว่า ท่านบูชาพระกริ่งมหาสมบัติอยู่ ใครใช้พระกริ่งมหาสมบัติขอให้ถือสัจจะนี้

ชนวนมวลสารเททองพระกริ่งมหาสมบัติ
คนไม่รู้และคิดไม่ถึง หลวงปู่เอาเงิน หรือ สตางค์ ที่คนทั้งหลายต้องการ ๗ ชนิดชนิดละ 108 เหรียญ เหตุที่เรียกว่า 108 เหรียญเพราะโบราณเขาเรียกอะไรอะไรที่นับไม่ได้ว่า 108 เสมอ
เหรียญสลึง 108 เหรียญ จารนะดวงแก้ว ดังแก้วสารพัดนึก
เหรียญห้าสิบสตางค์ 108 เหรียญ จารนะเรียกทรัพย์ นะนับไม่ถ้วน
เหรียญบาท 108 เหรียญ จารนะเอา นะรับเอา นะเอาที่ใครๆก็เอามาให้
เหรียญสองบาท 108 เหรียญ จารนะเงิน เรียกเงินเข้า ไม่รู้หยุด
เหรียญห้าบาท 108 เหรียญ นะมีมากมาย นับไม่ถ้วน
เหรียญสิบบาท 108 เหรียญ จารนะเศรษฐี มีทรัพย์นับไม่ถ้วน
เหรียญสตางค์เก่า 108 เหรียญ จารนะมณีจินดา หรือ นะจินดามณี
แต่ละเหรียญนำมาลงจาร ยันต์ที่เกี่ยวกับเงินทองโชคลาภ “เศรษฐีหมื่นหาบ” ทั้งนั้น ท่านคิดดูว่าจารยันต์ลงบนสตางค์จริงๆที่เราใช้จะมีอานุภาพทางมหาเศรษฐีขนาดไหน เพราะใครๆก็ต้องการเงิน เรียกเงิน แสวงหาเงิน ทั้งนั้น เงินทองทั้งหลายจะเกิดขึ้นกับเราเป็นองค์พระกริ่งมหาสมบัติ องค์นี้ จักมีค่ามีคุณขนาดไหน นี่ว่ากันถึงแค่เนื้อในองค์พระเท่านั้นนะ
และยันต์ 108 แผ่น นะ 14 นะตามตำราการสร้างพระกริ่งอย่างครบถ้วนสมบูรณ์ เป็นการสร้างพระกริ่งที่ถูกต้องตามตำราเสริมด้วยเงินสตางค์ลงจาร 756 เหรียญ เปิดตำนานพระกริ่งมหาสมบัติ เกิดขึ้นครั้งแรกในโลก
ผงหลวงพ่อแก้ว วัดเครือวัลย์ ยอดผงมหาเสน่ห์ แห่งภาคตะวันออก
พระปิดตาหลวงพ่อแก้ว เอกอัครพระปิดตาแห่งชลบุรี หลวงพ่อแก้ววัดเครือวัลย์ผู้สร้างตำนานยอดพระปิดตาอันดับ 1 ของไทยองค์ละเป็นล้าน ทั้งผงและวิชาทำพระปิดตานี้ถือว่าเป็นยอด แม้ผู้สืบทอดวิชาพระปิดตาอย่างหลวงพ่อครีพ วัดสมถะ หลวงปู่เฮี้ยง วัดป่า ยังนิยมเล่นหากันสูงมากเป็นหมื่น ๆ
แสน ๆ
ในการจัดสร้างพระปิดตาของหลวงพ่อแก้ว
นั้นมีเรื่องเล่าว่า “ มีเศษผงที่เหลือจากการจัดสร้างปลิวไปตกในตุ่มน้ำ สาวแก่แม่ม่ายที่วักน้ำลูบเนื้อตัวเป็นอันต้องมนต์ลุ่มหลงเกิดเสน่หาถ้วนทั่วทุกตัวตน จนมีผู้พยายามขูดเนื้อขององค์พระปิดตาหลวงพ่อแก้ว เพื่อนำไปใช้ล่อหลอกหญิงสาวจนเกิดเรื่องราวกันมาแล้วมากมาย หลวงพ่อแก้วท่านจึงดำริให้นำพระมาจุ่มรักหรือคลุกรักเสีย เพื่อมิให้ผู้ใดขูดนำไปใช้ในทางมิชอบ” ผงนี้จึงเป็นผงสุดยอดเสน่ห์ สุดยอดเมตตาอย่างหาที่สุดมิได้ อีกทั้งใช้ได้ มหาศาลสารพัดทั้งโชคลาภมหานิยมแรงเหลือ ตำนานพระกริ่งมหาสมบัติ พระกริ่งเศรษฐี ต้องจารึกว่า มีเสน่ห์ มีมหานิยม มีเมตตา นะดี เพิ่มขึ้นอีก ผงหลวงพ่อแก้ว นี้เป็นของเก่าที่ตกทอดมาจากเกจิเมืองชลบุรี และถ่ายทอดต่อมาให้หลวงปู่มหาสมบัติ รับเอาไปใช้ตามบัญชาของหลวงพ่อแก้ว ที่มาปรากฏในนิมิตว่า “ให้ท่านบัติเอาไปใช้ จะได้ทำได้เหมือนฉัน

 

1494. พระขุนแผนแสนเสน่ห์ พิมพ์แขนอ่อน พิมพ์ทรงห้าเหลี่ยม หลวงปู่หลอด ปโมทิโต ผสมผงพรายกุมาร หลวงปู่ทิม อันศักดิ์สิทธิ์ ให้บูชา 750 บาท

​

ด้านหน้าพระพุทธปางมารวิชัย ประทับบนบัลลังก์ ภายในซุ้มเรือนแก้วด้านหลังยันต์ทศบารมี หรือ บารมีสิบทัศ ในรูปองค์ยันต์แปดทิศสิบสองมุม ถอดพระอักขระได้ดังนี้ เตชะสุเนมะภูจะนาวิเว เสติ (บารมีสิบชาติสุดท้ายก่อนจะมาเป็นพระพุทธเจ้า) ตรงกลางเป็นยันต์นะจตุโร (บังเกิดโภคทรัพย์) สำเร็จด้วยยันต์เฑาะว์ขัดสมาธิจตุทิศ ความหมายของยันต์ทศบารมี คือการนำพระบารมีทั้ง ๑๐ พระชาติก่อนของพระพุทธเจ้า มาเป็นเกราะคุ้มป้องกันภัยจากภายนอก นะจตุโรคุ้มครองตรงกลางหัวใจ เฑาะว์ขัดสมาธิคุ้มครองธาตุทั้ง ๔
พระขุนแผน หลวงปู่หลอด ปโมทิโต เด่นทางคุ้มรองป้องกันภัยอันตรายต่างๆ จากการกระทำทางคุณไสยใฝ่ต่ำต่างๆ สัมภเวสีผีเร่ร่อนทั้งหลายที่จะมารังควาน ดังนั้นอย่าได้นำไปใช้ในทางชู้สาว ประพฤติผิดในศีลข้อกาเมฯ เป็นสำคัญ พระขุนแผน ลป.หลอด นี้สร้างด้วยขนาดกำลังเหมาะใช้ได้ทั้งชายหญิง กว้าง ๒.๓๐ ซ.ม. สูง ๔.๓๐ ซ.ม. มวลสารในการสร้างพระขุนแผนแสนเสน่ห์ พิมพ์แขนอ่อน จากการบันทึกของ คุณสุรินทร์ ตั้งสันติภาพ มวลสารที่นำมาจัดสร้างได้รับความเมตตาจากหลวงพี่เขียว พระอุปัฏฐากรับใช้หลวงปู่หลอด และมวลสารสำคัญส่วนหนึ่งที่คุณสุรินทร์ เก็บรักษาไว้ ดังนี้
๑.พระอังคุลีธาตุ (ข้อนิ้ว) ของพระพุทธเจ้า
๒.ดินจากสี่สังเวชนียสถาน ประสูติ ตรัสรู้ ปฐมเทศนา และปรินิพพาน
๓.ดินจากมูลคันธกุฏี ที่ประทับของพระพุทธเจ้า
๔.ดินจากสถานที่พระพุทธเจ้าแสดงยมกปาฏิหาริย์
๕.ดินจากสถานที่บ้านอนาถบิณฑิกเศรษฐี
๖.ใบโพธิ์จากต้นพระศรีมหาโพธิ์ สถานที่ตรัสรู้
มวลสารทั้ง ๖ นี้ ลป.หลอด มอบให้มาเป็นส่วนผสมหลักของพระขุนแผนแสนเสน่ห์ พิมพ์แขนอ่อนนี้
๗.ผ้าจีวร เกศาธาตุ โลมาธาตุ ชานหมาก ผงที่เหลือจากการสร้างวัตถุมงคล ปี ๓๙-๔๐
๘.ผงที่เหลือจากการสร้างพระสมเด็จปรกโพธิ์ รุ่นแรก
๙.ผงพรายกุมาร หลวงทิม อิสริโก วัดระหารไร่ ระยอง
๑๐.ผงพระสมเด็จ พระขุนแผน ลป.ปรง สาสโน วัดธรรมเจดีย์ สิงห์บุรี
๑๑.แร่กายสิทธิ์ต่างๆ พลอย-หินขวานฟ้า
๑๒.ว่าน ๑๐๘ ของหลวงปู่เสรี พระวิปัสสนาจารย์สายหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต
๑๓.ผงพระแตกหักชำรุดต่างๆ เช่น พระวัดสามปลื้ม พระนาดูน พระบางขุนพรหม พระวัดประสาท ฯลฯ
๑๔.ธนบัตรเก่าที่ชำรุด
๑๕.ผงยาจินดามณี ตำรับวัดกลางบางแก้ว หลวงปู่เจือ ปิยสีโล
ฯลฯ
นอกจากนี้ยังมีว่านสำคัญเป็นมวลสาร เช่นว่านเสน่ห์ขุนแผน ว่านขุนแผนสะกดทัพ ว่านกุมารทอง ว่านม้าสีหมอก ว่านทางเมตตามหานิยม คงกระพันชาตรีอีก ส่วนหนึ่งซึ่งเกินจะกล่าว พระชุดนี้กดพิมพ์ภายในวัดใหม่เสนาทุกขั้นตอน

ในการกดพิมพ์พระ ลป.หลอด เป็นองค์ปฐมฤกษ์ขณะผสมมวลสารพึงภาวนาว่า อะสังวิสุโลปุสะพุภะ เมื่อปั้นเป็นก้อนกลมภาวนา สุนะโมโล เมื่อกดปั้มเป็นองค์พระภาวนา อะสังวิสุโลปุสะพุภะ สัตถุโน พุทโธ เมื่อหยิบองค์พระออกจากบล็อกแม่พิมพ์ ภาวนา นะโมพุทธายะ นะมะพะทะ จะภะกะสะ นะมะอะอุ เมื่อกดพิมพ์สำเร็จแล้วนำองค์พระไปผึ่งลมจนแห้งได้ที่ ก่อนนำไปเข้าพิธีปลุกเสกอีกครั้ง โดยมีฆราวาสผู้สำรวมอินทรีย์จิตภาวนาเป็นผู้นำไปเก็บรักษาและเจริญพระคาถาหัวใจพระไตรปิฏก ได้แก่ อาปามะจูปะฯ ทีมะสังอังธุฯ สังวิธาปุกะยะปะฯ ข้าพเจ้าขอตั้งสัจจะอธิษฐานขอรูปพิมพ์พระขุนแผนนี้ จงมีความขลังความศักดิ์สิทธิ์ ด้วยพุทธานุภาพ ธรรมานุภาพ สังฆานุภาพ ด้วยอำนาจพระเดช คือ คุณธรรม เมตตาธรรม กรุณาธรรม เมื่อเก็บรักษาองค์พระเรียบร้อยแล้ว หลวงปู่หลอด ปโมทิโต จะอธิษฐานจิตภาวนาเบิกพระเนตรให้เสร็จเป็นองค์พระในทีเดียวก่อนบริกรรมพระคาถาเฉพาะ...

นอกจากองค์หลวงปู่หลอดเมตตาจิตเดี่ยวตลอดพรรษา ยังได้รับความเมตตาอธิษฐานจิตจากหลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน หลวงปู่ศรี มหาวีโร เป็นกรณีพิเศษอีกด้วย นับเป็นองค์พระควรค่าแก่การสะสม

 

1495. พระปัถวีธาตุสุมไฟแกลบแบบโบราณ พิมพ์เหรียญหล่อโบราณ อุดผงมหาราช สร้างเพียง 500 องค์ รุ่นฉลองมงคล อายุ 84 ปี 2544 ปั้มโค๊ต นะเมติ ให้บูชา 999 บาท

​

พระครูปราสาทพรหมคุณ (หลวงปู่หงษ์ พรหมปัญโญ) ซึ่งเป็นพระเถระผู้เจริญด้วยเมตตาและวิทยาคม ทรงกสิณอภิญญา ทั้งอณุรักษ์ธรรมชาติและฟื้นฟูศิลปะวัฒนธรรมของชาติ จึงได้ประกอบพิธีสร้างพระเนื้อดินปัถวีธาตุสุมไฟแกลบโบราณ ซึ่งเคยมีมาแต่โบราณพันกว่าปีสมัยพระนางจามเทวีแห่งหริภุญชัยนคร โดยให้มีการสาธิตวิธีการผสมผงดิน 7 นคร 9 บุรี ผงว่านชานหมากรวมมวลสาร จากสถานที่ศักดิ์ของประเทศ การนวดดิน กดพิมพ์ด้วยมือ แบบโบราณทุกขั้นตอน เพื่อเผยแพร่มรดกของชาติให้คงอยู่ และสร้างเพื่อสืบพระศาสนาให้ถาวรสืบไป พร้อมทั้งพิธีการหุงสีผึ้งรุ่นพิเศษแบบโบราณโดยตั้งเบญจาพิธีกลางแจ้ง ล้อมรอบด้วยราชวัตรฉัตรธงเป็นมณฑลพิธีดิถีฤกษ์14.19 น. หลวงปู่ได้อธิษฐานจิตด้วยเมตตาธรรมบารมี
ได้บังเกิดปรากฏการณ์ธรรมชาติฝนโปรยละอองกลางแสงแดดจ้า โดยไม่มีเค้าฝน เฉพาะบริเวณพิธี ฉับบัดดลให้เกิดพระอาทิตย์ทรงกลด ฉายฉัพพรรณรังสีคลุมรอบปริมณฑลเบื้องบน กลับร่มเย็นขึ้นทันที ทั้งงู เต่าที่หลวงปู่ได้เคยปล่อยไป ต่างก็ไต่ขึ้นจากสระและซอกโพรงหิน เลื้อยคลานมาอยู่ข้างมณฑลพิธีอย่างสงบนิ่ง ขณะบริกรรมภาวนาหุงสีผึ้ง และสุมไฟแกลบพระปัถวีธาตุนั้น เหล่าฝูงแมลงภู่ผึ้ง ผีเสื้อ จำนวนมากต่างมาบินวนเวียนโดยไม่หนีควันธูปเทียน ทั้งสายสิญจน์ที่โยงลงสู่กลางเตาไฟสุมแกลบ ก็หาไหม้แต่ประการใด
เมื่อเวลา 21.30 น.หลวงปู่ได้ประกอบพิธีจุดเทียนชัยและเจริญจิตภาวนานานถึง 4 ชั่วโมง ครบ 1200 บทพระคาถา โดยมิได้หยุดพักภาวนาเลยจนถึงดับเทียนชัย ได้บ้งเกิดบุญบารมีมหาโชคลาภ เป็นตัวเลขเด่นชัดเต็มบาตร ต่างพาให้ทุกคนมีโชคลาภถ้วนหน้า หลังจากเสร็จพิธี หลวงปู่ได้กล่าวอย่างมั่นใจว่า "พระชุดนี้ดีมาก" ไม่เคยทำพระชุดใดให้นานแบบนี้ ดีทุกอย่าง ถ้าไปใช้แล้วไม่ดีเหมือนอย่างที่พูด ก็ขอให้ตายวันละ 100 หน
เคล็ดการบูชาวัตถุมงคลหลวงปู่หงษ์ พรหมปัญโญ
“หมั่นไหว้ หมั่นบอก หมั่นขอ” เคล็ดการบูชาวัตถุมงคลหลวงปู่หงษ์ พรหมปัญโญ
1. เมื่อเราจะแขวนพระหรือ คาดตะกรุด ก็ให้ยก วัตถุมงคลขึ้นมาพร้อมพนมไว้ที่มือตั้งนะโม 3 จบในใจหรือ ออกเสียงเบา ๆ ก็ได้ ต้องมีความเคารพเลื่อมใสเป็นอุบายให้ จิตใจสะอาด
2. อาราธนา (นึกถึง) บารมีหลวงปู่และครูบาอาจารย์ทั้งหมดมีพระพุทธพระธรรมพระอริยะสงฆ์เป็นที่สุด จึงว่าคาถาวัตถุมงคล 3 จบ 7 จบ 12 จบ หรือว่าตามกำลังวัน หรือว่า 108 หรือภาวนาจนจุใจก็ทำได้
3. อธิฐานบอกกล่าว ขอ…. ถือเป็นหัวใจสำคัญ หลวงปู่หงษ์จะไม่ให้แค่ไหว้กราบเฉย ๆ ท่านว่าประมาท เพราะ กฎของโลกทิพย์ ไม่ขอไม่ให้ ไม่บอกไม่ช่วย ต้องบอกกล่าว…จะให้ช่วยอะไร? คุ้มครองแค่ไหน? เช่น ขอให้ปลอดภัย ขอให้คนเมตตา ขอให้มีลาภ มีเสน่ห์ ขอให้ค้าขายดี อย่าให้มีอุบัติเหตุ เดินทางปลอดภัยทั้งตอนไปตอนกลับ ฯลฯ ถ้าทำได้อย่างนี้ครูบาอาจารย์ก็ช่วยได้เต็มที่ บอกกล่าวแล้วก็ให้ทำใจสบาย ๆ วางเฉย (อุเบกขา) เลิก หวัง เลิกอยากนั้นนี่ เพราะความหวัง ความอยากจะเป็นตัวปิดกั้นผลสำเร็จ เลยคิดว่าสิ่งศักดิ์สิทธิ์บุญกุศลไม่ช่วย เพราะเราไม่เข้าใจกฎของกรรม และ อัตภาพบุญกุศล จะบันดาลผลได้แค่ไหนอย่างไร
แล้วเรา ควรอาราธนาบ่อยแค่ไหน? ก็ต้องขอบอกก่อนว่า กำลังใจคนไม่เสมอกัน ให้ดีแท้แน่นอน ก็ทุกเช้า –เย็น จะขับรถ เดินทาง ก็นึกถึงไหว้บอก กราบหิ้งพระ, กราบพระบูชาที่บ้าน บอกครูบาอาจารย์ทุกครั้ง ทั้งไปและกลับ เป็นทั้งกุศลทั้งเมตตามหานิยม และจิตภาวนาเพราะระลึกถึงพระเทพเทวดาเป็นอนุสติ หลวงปู่สอนว่า…คนประมาทมักคิดว่าแขวนพระไว้กับตัวตลอดก็จะเหนียว ฟัน แทงไม่เข้า แคล้วคลาด ปลอดภัยแน่นอน ก็แขวนพระไว้ กับตัวเลยตลอด วัน, เดือน, ปี สะดวกดี ขี้เกียจ…จะอาราธนาทำไมบ่อยๆ จึงเข้าใจผิดนึกว่าพระคุ้มครองแน่…เมื่อแขวนวัตถุมงคลไว้นาน…ๆ กำลังจิตกำลังศรัทธาจะลดลง ไม่ตั้งมั่น พระขลังดุจเดิมแต่… อานุภาพการคุ้มครองก็จะลดตามกำลังจิต กำลังศรัทธาให้ผลได้ไม่เต็มที่ พอประสบเหตุเภทภัย อาทิ หมากัดเข้า รถเชี่ยวชน เลือดตกยางออก ผีเข้า เจ้าสิง ทั้งที่แขวนพระแขวนเครื่องราง ก็พาลนึกว่า พระเสื่อมแล้ว ไม่เห็นขลัง ศรัทธาก็เสื่อมคลาย เลิกแขวนเลิกนับถือ ทั้งที่จริงหากหมั่นอาราธนา บอก ขอ มีศรัทธามั่น ปืนเขาจะยิงเราไม่ออก (คงกระพันชาตรี) เมื่อศรัทธาเราลด ปืนเขายิงเราออกแต่ไม่โดน (แคล้วคลาด) ศรัทธาเราลดอีกยิงโดนแต่ไม่เข้า (หนังเหนียว) ศรัทธาลดอีกยิงเข้าแต่ไม่ตาย เป็นต้น

 

1496.บูชาแทนพระสมเด็จหลวงปู่ภูได้เลย พระสมเด็จวัดทด จ.ฉะเชิงเทรา ผสมผงอิทธิเจ ผงเก่าหลวงปู่ภูวัดอินทร์ ปลุกเสกพร้อมหลวงพ่อโสธร2หน้าปี2497ที่วัดโสธร ให้บูชา 999 บาท

​

​

เป็นวัดที่มีพระเนื้อผงที่สร้างจากผงเก่าของลป.ภู วัดอินทรวิหาร โดยผงนี้ได้จากอาจารย์เย็น จิ๋วเกษม ซึ่งเป็นศิษย์ที่ใกล้ชิดของลป.ภู โดยเริ่มสร้างในปี พศ.2495 มีพิมพ์สมเด็จปรกโพธิ์ และพิมพ์นางพญา เนื่องจากใส่ผงมวลสารมากและน้ำมันตังอิ๊วน้อยทำให้ส่วนมากพระรุ่นนี้จะมีรอยรานแตกปริที่ผิวองค์พระ ที่ไม่แตกรานก็มีแต่ก็พบน้อยกว่า พระรุ่นนี้เมื่อสร้างเสร็จได้นำเข้าพิธีปลุกเสกพร้อมกับพระลพ.โสธร รุ่น พศ.2497 อันโด่งดัง และแจกแก่ผู้ที่มาร่วมทำบุญสร้างพระอุโบสถ

 

1497. แรไอเท็ม นานๆจะได้มา พระปิดตาจัมโบ้รุ่นแรก ปี 2530 หลวงปู่ชอบ ฐานสโม วัดป่าสัมมานุสรณ์ จ.เลย เนื้อผงผุทธคุณ โรยด้วยผงตะไบพระกริ่งวัดสุทัศน์ เจ้าคุณนร ปิดรายการครับ

​

พระปิดตาจัมโบ้ หลวงปู่ชอบฐานสโม รุ่นแรก ปี ๒๕๓๐ คณะศิษย์ มข.และเจ้าของโรงไม้สร้างถวาย โดย พระปิดตา
- สีดำ ผสมใบลาน
- สีแดง ผมมน้ำหมากหลวงปู่
- สีขาวผสมผงพุทธคุณ
โรยด้วยผงตะไบพระกริ่งวัดสุทัศน์ เจ้าคุณนร

 

1498. ของดีที่ถูกลืม พระสรรค์นั่ง เนื้อกระเบื้องโบสถ์เก่า รุ่นประสบการณ์ ปี 2539 หลวงพ่อพร้า วัดโคกดอกไม้ จ.ชัยนาท ให้บูชา 650 บาท มวลสารเก่าของหลวงพ่อกวยเยอะมากครับ รับรองว่าไม่แพ้อาจารย์ท่าน

​

หลวงพ่อท่านได้แกะพิมพ์ขึ้นใหม่และได้สร้างด้วยมวลสารสุดยอด มีทั้งมวลสารเก่าของหลวงปู่กวย ผู้เป็นอาจารย์และมวลสารที่หลวงปู่ได้ลบผงเองด้วย มีพุทธคุณโดยเฉพาะแคล้วคลาด คงกะพัน ประสบการณ์มากมาย

 

สวัสดียามเช้าครับ

 

1499. หลวงปู่ดำริให้จัดสร้าง และเป็นองค์ออกแบบเอง พระผงโลหิตธาตุ 99 ปี หลวงปู่บุญฤทธิ์ ปัณฑิโต ให้บูชา 650 บาท

หลวงปู่เป็นผู้ดำริให้จัดสร้าง และเป็นองค์ออกแบบเอง มีมวลสารดังนี้​

-โลหิต เนื้อเยี่อ น้ำเหลืองที่ได้จากการผ่าตัดสะโพก หลวงปู่ให้แพทย์ที่ถวายการผ่าตัดรวบรวมไว้ทั้งหมด
-ผงดอกไม้ที่หลวงปู่เป็นองค์นำในการเวียนเทียนวันสำคัญทางพระพุทธศาสนา
-จีวร เกศา
-ผงยาไปด์หลวงปู่สูบ
-ผงมงคล108
ฯลฯ​

​

 

1500. เหรียญยืน หลัง สก. หลวงปู่แหวน สุจิณฺโณ ปี 2523 เนื้อทองแดงผิวไฟ วาระ เฉลิมพระชนมพรรษาครบ 4 รอบ 12 ส.ค. 2523 ให้บูชา 650 บาท

​

 

1501. สุดยอดของดี สายฆราวาสผู้เรืองเวทวิทยาคม เหรียญรุ่นที่ ๘ บูชาครูอริยเดโชกสิณ ลูกศิษย์ วัดทุ่งกว้าง จังหวัดสุพรรณบุรี สร้างบูชาครูมหาอุตม์แคล้วคลาดเมตตา พ่อคำมา หงษ์ทอง ให้บูชา 850 บาท

​

พ่อคำมา.หงษ์ทอง สุดยอดปรมาจารย์เเห่งลุ่มน้ำมูลบ้านยาง
บ่ออี อ.ชุมพลบุรีจ.สุรินทร์ ฆารวาสที่ลูกศิษย์ให้ความเคารพนับถือมากที่สุด ถึงขั้นมีลูกศิษย์ขออนุญาตจัดสร้างวัตถุมงคลเพื่อให้พอต่อความต้องการของลูกศิษย์ ของท่านมีการจัดสร้างมากถึง ๙ รุ่นถือเป็นฆราวาสจอมขมังเวทย์ที่มีวัตถุการจัดสร้างวัตถุมงคลมากที่สุดอีก ๑ ท่านของเมืองไทย

โดยในสมัยวัยเด็กของพ่อคำมา ได้บวชเป็นสามเณรในช่วงอายุประมาณ ๑๔-๑๕ ปี โดยในช่วงที่บวชเป็นสามเณรก็ได้ไปศึกษาเล่าเรียนวิชากับหลวงปู่อ่ำ วัดบ้านยางบ่ออี จากได้ก็ได้เริ่มออกธุดงค์ และได้ไปเรียนกับหลวงปู่ขัน วัดท่าสะแบง จากนั้นก็เดินทางไปศึกษาสรรพวิชาที่อื่นต่อ จนย่างเข้าสูวัยรุ่นก็ลาสิกขา และเมื่อเข้าสู่วัยหนุ่มก็ได้มาแต่งงานกับภรรยาคนแรกที่เป็นคนจังหวัดบุรีรัมย์ และได้มีบุตรด้วยกัน ๒ คน โดยหลังจากที่ใช้ชีวิตอยู่กับภรรยาคนแรกไปสักระยะหนึ่งก็มีเหตุขัดข้องใจกับพ่อตา เป็นเหตุให้พ่อคำท่านเกิดความหน่ายในทางโลกและได้ตัดสินใจกลับไปบวชอีกครั้ง ซึ่งครั้งนี้เองพ่อคำท่านได้ไปศึกษาวิชาจากหลวงพ่อถึก,หลวงปู่ผัน (พ่อคำมา ท่านไม่ได้บอกชื่อวัด)จนเดินทางไปได้พบอีกสุดยอดเกจิอาจารย์และได้ศึกษาสรรพวิชาจากหลวงปู่ขาว อนาลโย วัดถ้ำกลองเพล และหลวงปู่ผาง จิตฺตคุตฺโต วัดอุดมคงคาคีรีเขต โดยเมื่อครั้งที่ไปศึกษาเล่าเรียนวิชากับหลวงปู่ผาง พ่อคำได้รับความเมตตาจากหลวงปู่ผางให้ช่วยเสกเหรียญของหลวงปู่ผางอยู่หนึ่งรุ่น หลังจากที่พ่อคำมาได้ศึกษาสรรพวิชาจากครูบาอาจารย์จนเจนจบแล้ว ก็ได้มาจำพรรษาที่บ้านหนองมะแซว อำเภอธวัชบุรี จ.ร้อยเอ็ด และได้ช่วยสร้างวัดที่นี่และเป็นเจ้าอาวาสช่วยทำนุบำรุงพระพุทธศาสนาสืบเรื่อยมา
*** สรุป รายชื่อครูบาอาจารย์ของพ่อคำมา หงษ์ทอง ที่ท่านได้ศึกษาสรรพวิชา
๑ หลวงปู่อ่ำ วัดบ้านยางบ่ออี
๒ หลวงปู่ขัน วัดท่าสะแบง
๓ หลวงพ่อถึก (พ่อคำมา ท่านไม่ได้บอกชื่อวัด)
๔ หลวงปู่ผัน (พ่อคำมา ท่านไม่ได้บอกชื่อวัด)
๕ หลวงปู่ขาว อนาลโย วัดถ้ำกลองเพล
๖ หลวงปู่ผาง จิตฺตคุตฺโต วัดอุดมคงคาคีรีเขต
๗ * ชีปะขาว (แอดมินเคยได้ฟังพ่อคำมาเล่าเรื่องชีปะขาว กับหลวงปู่เทพโลกอุดร)
๘ ฯลฯ
ในช่วงที่พ่อคำมาได้บรรพชาอยู่นั้น ได้มีผู้มาขอลองวิชาชื่ออาจารย์แก้ว จนพ่อคำมาได้แสดงอิทธิฤทธิ์ให้เห็นกับตา จนได้กราบขอฝากตัวเป็นศิษย์พ่อคำมานับแต่นั้นเป็นต้นมา เรียกได้ว่าเป็นศิษย์ยุคแรกของพ่อคำมาที่ท่านรับเป็นศิษย์ หลังจากที่อาจารย์แก้วได้ฝากตัวเป็นศิษย์พ่อคำมาแล้วนั้น อาจารย์แก้วก็ได้ไปชวนอาจารย์เฉลิมชัย วัดครืมในหนองนาหล้า และก็โยมอีกท่านหนึ่งชื่อสมบูรณ์ บ้านเหล่าหาด ไปเรียนวิชาจากพ่อคำมาด้วยกันทั้ง ๓ คน ซึ่งเป็นศิษย์ยุคแรกๆของพ่อคำมา ซึ่งศิษย์ในยุคนั้นที่มีชื่อเสียงโด่งดังก็คงเห็นจะเป็นอาจารย์แก้ว
ช่วงก่อนที่อาจารย์แก้วจะไปขอเรียนวิชากับพ่อคำมา ท่านก็ได้เล่าอิทธิปาฏิหาริย์ของพ่อคำมา เนื่องด้วยในยุคนั้นพ่อคำมามีกิติศัพท์ด้านคงกระพันชาตรีเป็นที่เลื่องลือ อาจารย์แก้วจึงได้เดินทางไปพบพ่อคำมา เมื่ออาจารย์แก้วได้พบพ่อคำมา จึงได้เอ่ยถามกับพ่อคำมาว่า“มีวิชามหาอุดคงกระพันไหม” พ่อคำมาก็เลยตอบกลับอาจารย์ไปว่า “เอ้ย!! ไม่มีหรอกน้อง อุดธัง อุดโธ อุดปากกระบอก ปืนมันก็เป็นรูอยู่เหมื่อนเดิมนั่นแหละ” เมื่ออาจารย์แก้วได้ฟังแบบนั้นก็ไม่พอใจพ่อคำมาเป็นอย่างมาก ท่านก็เลยชวนเพื่อที่ไปด้วยชื่อถมกลับ พร้อมพูดว่า “เฮ้ยถม!! กลับเว้ย กูนึกว่าจะมีอะไรดี” เมื่อพ่อคำได้ยินอาจารย์แก้วพูดแบบนั้นจึงพูดสวนกลับไปว่า “เฮ้ยน้อง มึงอย่าเพิ่งกลับ มึงดูอะไรนี่” พร้อมหยิบมีดโกนตราตา ซึ่งขึ้นชื่อเรื่องความคมมากในสมัยนั้น มาทำการปาดลิ้น ปาดคอตัวเองให้ดู เมื่ออาจารย์แก้วและโยมถมได้เห็นเช่นนั้น ก็ได้รีบเข้าไปกราบขอขมาและฝากตัวเป็นศิษย์พ่อคำมาตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา
หลังจากนั้นชื่อเสียงของพ่อคำมาก็ได้โด่งดังไปทั่วจังหวัดร้อยเอ็ด มีลูกศิษย์ลูกหามาทำการสักยันต์และขอเรียนวิชากันมากมาย อักขระยันต์ที่พ่อคำมาได้สักและได้เขียนลงบนแผ่นตะกรุดให้กับลูกศิษย์ล้วนมีประสบการณ์เป็นที่เลื่องลือ ทำให้มีคนมาขอลองของกันมากมาย ครั้งหนึ่งยุคหลังช่วงท้ายก่อนที่พ่อคำมาจะลาสิกขา ได้มีคนมาท้าลองของกับท่าน โดยได้พูดปรามาสท่านว่า “ไหนอาจารย์คำ เขาว่ายิงอาจารย์คำไม่ออกจริงหรือปล่าว” ซึ่งทำให้พ่อคำมาไม่พอใจต่อคำปรามาสนั้นเป็นอย่างมาก ทำให้ท่านได้กล่าวออกไปว่า “เฮ้ย !! มึงจะมายิงพระได้ยังไง ยิงพระมันบาป ถ้าอยากจะยิงจริงๆให้กูสึกก่อน” วันเวลาผ่านไปจวบจนกระทั่งพ่อคำมาได้ลาสิกขา พ่อคำมาได้นุ่งผ้าขาวม้าตัวเดียวไปหาผู้ที่เคยกล่าวปรามาสไว้กับท่าน และพูดไปว่า “อยากยิงมึงยิงเลย” สิ้นเสียงท้าของพ่อคำมา ผู้ที่ลองของพ่อคำมาได้ขว้าอาวุธปืนและเล็งยิงเข้าไปที่พ่อคำ แต่ปืนยิงไม่ออก พ่อคำมาจึงเดินเข้าไปหาและบอกพวกคิดจะลองดีพวกนั้นว่า “ถ้ายิงไม่ออกคราวนี้กูยิงมึงมั่ง” หลังจากเหตุการณ์นั้นพ่อคำมา ก็ได้เดินทางออกจากบ้านหนองมะแซว กลับบ้านที่จังหวัดสุรินทร์