พระดี พิธีใหญ่ รับประกันแท้ทุกรายการ!!! เชิญชม บูชา ในกระทู้ได้เลยครับ"

ในห้อง 'พระเครื่อง วัตถุมงคล' ตั้งกระทู้โดย HMMAmulet626, 4 กุมภาพันธ์ 2022.

  1. HMMAmulet626

    HMMAmulet626 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2010
    โพสต์:
    8,418
    ค่าพลัง:
    +469
    3318.พระสมเด็จวัดไก่จ้น รุ่นถิ่นกำเนิดปี 2542 ผสมผงเก่าหลวงปู่ลำภู และ มวลสารพระสมเด็จหลวงพ่อโตในกรุเจดีย์บางขุนพรหม ให้บูชา 750 บาท



    upload_2024-11-30_9-17-57.png
    พระสมเด็จหลังยันต์หมึก สมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี) วัดไก่จ้นจ.พระนครศรีอยุธยา ปี 2542
    รุ่น"ถิ่นกำเนิด" เนื้อผงมวลสารเก่าพระสมเด็จลป.ลำภู ปี 2502
    วัตถุมงคล รุ่น"ถิ่นกำเนิด"
    สมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี) สุดยอดอานุภาพความศักดิ์สิทธิ์ หนึ่งในอมตะปูชนียวัตถุมงคล อันล้ำค่าควรมีไว้สักการะบูชา เพื่อความเป็นสิริมงคลเเก่ชีวิตนและครอบครัว
    เป็นที่ทราบกันดีว่า สมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี)อมตะเถราจารย์ ท่านมีถิ่นกำเนิด ณ บ้านไก่จ้น ตำบลท่าหลวง อำเภอท่าเรือ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา วัดไก่จัน ได้ถือเอามหามงคลนามดังกล่าว จัดพิธีมหาพุทธาภิเษกวัตถุมงคล รุ่น'ถิ่นกำเนิด" สมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี) ณ อุโบสถ วัดไก่จ้น วันเสาร์ที่ 30 มกราคม พ.ศ. 2542 (ขึ้น 14 ค่ำ เดือน 3) ฤกษ์จุดเทียนไชย เวลา 15.39 น. ดับเทียนไชย เวลา 17.39 น. "ราชาฤกษ์" (ฤกษ์แห่งความมีอำนาจ วาสนา มั่งคั่ง มั่นคง โชคลาภ ร่ำรวย)
    พระวิปัสสนาจารย์เจริญจิตภาวนาลงแผ่นฉนวนทอง
    และ ร่วมพิธีพุทธาภิเษกนั่งปรกบริกรรม 19 รูป อาทิ
    ลพ.สวัสดิ์ วัดศาลาปูน
    ลพ.รวย วัดตะโก
    ลพ.เอียด วัดไผ่ล้อม
    ลพ.พูน วัดบ้านแพน
    ลพ.แย้ม วัดสามง่าม
    ลพ.อวยพร วัดดอนยายหอม
    ลพ.เพี้ยน วัดเกริ่นกฐิน
    ลพ.สุนทร วัดหนองสะเดา
    ลพ.บุตร วัดหนองเขื่อนช้าง
    ลป.พวง วัดสหกรณ์รังสรรค์
    ลพ.สารัตน์ วัดดงน้อย
    ลพ.แบน วัดใหม่นพรัตน์
    พระอาจารย์ธรรมนูญ วัดมณีชลขันธ์ ....ฯลฯ

     
  2. HMMAmulet626

    HMMAmulet626 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2010
    โพสต์:
    8,418
    ค่าพลัง:
    +469
    3319.พระกริ่งญาณวิศิษฏ์ หลวงพ่อทอง วัดอโศการาม สมุทรปราการ ของดีสายกรรมฐาน พระเกจิอาจารย์หลานท่านพ่อลี ให้บูชา ชุดละ 599 บาท (ได้รับพระ 2 องค์)



    upload_2024-11-30_11-56-19.png

    หลวงพ่อทองนั้นท่านเป็นหลานท่านพ่อลีและเป็นเจ้าอาวาสรูปที่ 3 ของวัดอโศการาม วัตรปฏิบัตินั้นขึ้นชื่อเรื่องความเคร่งครัดแนวทางเดียวกับท่านพ่อลี โดยพระกริ่งรุ่นนี้ถือเป็นพระกริ่งรุ่นแรกของท่าน สร้างในคราวได้รับการสถาปนาเลื่อนสมณศักดิ์ โดยพระกริ่งญาณวิศิษฏ์ นั่นมีออกมา 3 รุ่นลักษณะคล้ายๆกัน รุ่นแรกปี 2535 จะมีจารที่บริเวณใต้ฐาน ,รุ่นสอง ปี 2548 จะมีตอกโค๊ตตัว นะ ที่ใต้ฐาน และ รุ่นสาม ปี 2557 จะมีตัวหนังสือ รุ่นพิเศษ และหมายเลข ใต้ฐาน
     
  3. HMMAmulet626

    HMMAmulet626 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2010
    โพสต์:
    8,418
    ค่าพลัง:
    +469
    3320.พระนาคปรกเจ็ด หนึ่งในพิมพ์หายากของ พระกรุวัดคู้ยาง พุทธศิลป์สวยงาม ให้บูชา 850 บาท


    upload_2024-12-1_8-33-35.png



    ประวัติการสร้าง
    พระครูธรรมาธิมุตมุนี ( กลึง ) ผู้สร้างพระต่าง ๆ บรรจุไว้ในเจดีย์ ในราว พ.ศ. ๒๔๔๔ ซึ่งเป็นปีเดียวกับที่ พระยาตะก่า ได้ขออนุญาตบูรณะเจดีย์วัดพระบรมธาตุ นครชุม โดยรวมเจดีย์ทั้ง ๓ องค์ ให้เหลือเพียงองค์เดียวแต่ใหญ่ขึ้นดังที่เห็นอยู่ในปัจจุบัน และในการบูรณะครั้งนั้น น่าจะมีพระครูธรรมาธิมุตมุนี ( กลึง ) ซึ่งเป็นผู้ปกครองวัดและพระสงฆ์สามเณรในจังหวัดนี้เป็นแม่กองงานบูรณะฝ่ายสงฆ์ด้วย ฉะนั้น ในการสร้างพระบรรจุที่กรุวัดคูยางของท่าน ส่วนหนึ่งได้นำพระกรุเก่าที่ชำรุดจากเจดีย์วัดพระบรมธาตุมาซ่อมแล้วบรรจุไว้ด้วย นอกจากนี้ในการสร้างพระของท่าน มีหลักฐานเชื่อได้ว่าได้นำผงพระพุทธคุณของสมเด็จพระพุฒาจารย์ ( โต ) และผงพระพุทธบาทปิลันธน์ผสมลงไปด้วย โดยพิสูจน์ได้จากพระกรุวัดคูยางบางองค์ที่หักชำรุดจะเห็นผงสีขาว บางองค์มีผงใบลานเผาปนอยู่ด้วย และบางองค์ยังมีไขคล้ายพระของพระพุทธบาทปิลันธน์อยู่บ้าง ข้อสังเกตอีกอย่างหนึ่งคือ พระที่หักชำรุดมีผงสีขาวปรากฏให้เห็นนั้น มักเป็นองค์ที่ไม่มีคราบราว่านหรือมีเพียงบาง ๆ แต่พระส่วนใหญ่จะมีคราบราว่านสีดำปนน้ำตาลแก่จับหนาแน่นไม่แพ้กรุเก่าเมืองกำแพงเพชรเลย เพียงแต่เนื้อพระดูจะสดกว่าหน่อยเท่านั้น เนื้อพระกรุเก่าของวัดคูยางนี้ จะใกล้เคียงกับเนื้อพระกรุวัดคุ้งยางใหญ่ ่ จังหวัดสุโขทัย เช่น พิมพ์สมเด็จสี่เหลี่ยมล้อพิมพ์สมเด็จ เนื้อและคราบราจะคล้ายคลึงกันมาก ต่างกันก็แต่กรุวัดคุ้งยางใหญ่ จะมีจารอักขระด้านหลังด้วยถ้าไม่มีจารก็แทบจะแยกไม่ออกว่าเป็นกรุวัดไหน ฉะนั้น ความแตกต่างก็จะอยู่ที่พิมพ์พระเป็นสำคัญ แต่ก็มีบางพิมพ์ที่คล้ายกันมากทั้งเนื้อและพิมพ์ก็คือพิมพ์สมเด็จปรกโพธิ์ซึ่งล้อพิมพ์สมเด็จพระพุทธบาทปิลันธน์ เพียงแต่จะเล็กหรือใหญ่กว่ากันบ้างเพราะไม่ได้ใช้พิมพ์เดียวกัน

    เกียรติคุณของผู้สร้าง

    พระครูธรรมาธิมุตมุนี ( กลึง ) เป็นพระสงฆ์ที่เพียบพร้อมไปด้วยศีลาจารวัตร ทรงวิทยาคุณและอภินิหาร เป็นที่เคารพเลื่อมใสอย่างสนิทใจของสงฆ์และคฤหัสถ์ มีความรู้ความชำนาญทั้งด้านปริยัติและปฏิบัติ ด้านสมณศักดิ์ก็เป็นพระครูสัญญาบัตรรูปแรกของเมืองนี้ ด้านการปกครองสงฆ์ก็เป็นเจ้าคณะเมืองหรือเจ้าคณะจังหวัดกำแพงเพชร ด้านการศึกษาก็นับเป็นหนึ่งมีโรงเรียนพระปริยัติธรรม แผนกบาลีภายในวัดจนมีผู้สอบมหาเปรียญได้แล้วท่านก็ส่งไปเรียนต่อที่กรุงเทพฯ ด้านสาธารณูปการคือการบูรณะปฏิสังขรณ์และการก่อสร้างศาสนวัตถุ โดยเฉพาะภายในวัดปรากฏชัดเจนดังหนังสือตรวจการณ์คณะสงฆ์จังหวัดกำแพงเพชรและจังหวัดตากของสมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระยาวชิรญาณวโรรส เมื่อ พ.ศ. ๒๔๕๖ ตอนหนึ่งว่า "............วัดคูยางนี้เป็นวัดใหญ่ของเมืองกำแพงเพชร เคยเป็นวัดเจ้าคณะเมือง เจ้าคณะเมืองรูปก่อนคือพระครูธรรมาธิมุตมุนี ( กลึง ) เป็นพระกว้างมาก ได้ก่อสร้างปฏิสังขรณ์พระเจดีย์ โบสถ์ วิหาร และศาลาการเปรียญไว้ดีเป็นหลักฐาน........."

    การเปิดกรุ

    นับเป็นเวลาหลายปีก่อนหน้านี้ มีผู้แสวงหาพระที่พระครูธรรมาธิมุตมุนี ( กลึง ) สร้างกันมากขึ้น จึงอาจเป็นเหตุให้มีการลักลอบขุดเจาะเจดีย์กันหลายครั้งโดยเฉพาะในราวกลางปี พ.ศ. ๒๕๑๓ มีการลักขุดเจาะฐานเจดีย์เป็นช่องขนาดใหญ่จนทำให้เจดีย์ชำรุด และเมื่อต้นเดือนธันวาคมปีเดียวกันนี้ ก็มีการลักขุดกันอีก ทางวัดได้ปรึกษาผู้เกี่ยวข้องแล้วเห็นสมควรตั้งคณะกรรมการ โดยมีพระสิทธิวชิรโสภณ ( ช่วง ) เจ้าคณะจังหวัดกำแพงเพชร พระครูวิมลวชิรคุณ ( ทอน ) เจ้าอาวาสวัดคูยาง และนายบุญรอด โขตะมังสะ ผู้ว่าราชการจังหวัดกำแพงเพชร เป็นต้น ทำการเปิดกรุ ปรากฏว่ามีทั้งพระกรุเก่าหรือพระฝากกรุและพระที่พระครูธรรมาธิมุตมุนีสร้างบรรจุไว้ทั้งประเภท พระบูชาและพระเครื่องจำนวนมากโดยเฉพาะในส่วนที่เป็นพระเครื่องมีประมาณ ๓,๐๐๐ องค์ ซึ่งเหลือจากที่มีผู้ลักขุดเอาออกไปก่อนหน้านี้ซึ่งคาดว่าคงไม่น้อยกว่าจำนวนที่เหลือแน่นอน

    เนื้อ แบบพิมพ์และพระพุทธคุณ

    พระกรุวัดคูยางส่วนใหญ่จะเป็นเนื้อดินที่ละเอียดนุ่มหนักแน่นมีราดำปรากฏทั่วไป ส่วนมากเป็นสีแดงคล้ำ บางองค์จะมีไขจับ และบางส่วนไม่มีราว่านหรือมีแต่เพียงบาง ๆ มีไขจาง ๆ บางองค์ที่มีคราบราหนา ๆ ก็จะเทียบกับพระกรุเก่าได้เลย มีความแห้งและเก่า แม้จะดูสดกว่าพระกรุเก่าก็ตามที พร้อมทั้งมีเอกลักษณ์เป็นของตนเอง ในส่วนที่เกี่ยวกับแบบพิมพ์พระกรุวัดคูยางที่สร้างโดย พระครูธรรมาธิมุตมุนี ( กลึง ) นั้นมีทั้งพิมพ์ที่ทำขึ้นเองและถอดพิมพ์มาจากพระอื่น ๆ ส่วนใหญ่จะตื้นไม่ลึกและไม่คมชัดเท่าที่ควร ถึงกระนั้นก็มีหลายพิมพ์ที่ยังคงความงามอยู่ไม่น้อยสำหรับพระที่สร้างพิมพ์ขึ้นเองก็มีพระปิดตาสี่ทิศ ด้านหน้าจะมียันต์ ๕ ตัว คือ ตรงกลาง ๑ ตัว ช่องว่างระหว่างองค์พระทั้ง ๔ ทิศอีก ๔ ตัว ซึ่งยันต์ทั้ง ๕ ตัวนี้ เป็นยันต์เดียวกันกับพระของพระพุทธบาทปิลันธน์ เช่น พิมพ์ซุ้มประตู เป็นต้น ด้านหลังตรงกลางทำเป็นรูกลมลึกเข้าไปในเนื้อและก้นรูมียันต์ ๑ ตัว แต่ก็พบพระปิดตาสี่ทิศบางองค์ไม่มียันต์ด้านหลัง อาจจะหลงลืมในการกดพิมพ์ หรือพระบางเกินไปกดพิมพ์ให้ลึกเป็นรูไม่ได้ หรือจะคิดว่าเป็นพระคะแนนก็เป็นได้ นอกจากนี้ยังพบพระพิมพ์อื่น ๆ อีก เช่น พระนารายณ์สี่กร ( ทรงปืน ) เป็นต้น ซึ่งเป็นพิมพ์ที่ทำขึ้นเองเช่นกัน มียันต์ที่ก้นรูด้านหลัง เช่นเดียวกับพระปิดตาสี่ทิศอยู่บ้าง แต่ก็หาดูได้ยากมาก พระที่ถอดจากพระพิมพ์เก่านั้น ส่วนใหญ่จะเป็นพระของกำแพงเพชร แต่ก็จะมีจำนวนหนึ่งที่เป็นพิมพ์ของพระจังหวัดอื่น ๆ เช่น พระสมเด็จปรกโพธิ์ พระพุทธบาทปิลันธน์ พระกริ่งคลองตะเคียน และพระพลายเดี่ยว เป็นต้น ส่วนพระคงกับพระรอดนั้น ไม่ได้ถอดพิมพ์มาแต่ล้อรูปแบบเดิมได้ใกล้เคียงจึงอนุโลมไว้ในกลุ่มนี้ สรุปพระกรุวัดคูยางนั้นเป็นที่ทราบกันว่ามีมากกว่า ๔๐ พิมพ์ แต่เท่าที่มีผู้พบเห็นก็คือพระปิดตาสี่ทิศขนาดเล็ก กลาง และใหญ่ พระซุ้มกอขนมเบี๊ยะ พระซุ้มยอ พระขุนไกร พระคง พระร่วงนั่งฐานสำเภา พระนางกำแพงมีซุ้ม พระนางกำแพงหัวเรือเมล์ พระกริ่งคลองตะเคียน พระอู่ทอง พระชินราชใบเสมา พระยอดขุนพล พระซุ้มยอไม่ตัดปีก ( ฝากกรุ ) พระลีลาเม็ดขนุนขนาดเล็ก และใหญ่ พระสมเด็จปรกโพธิ์พระสมเด็จฐาน ๓ ชั้น พระซุ้มระฆัง พระพลายเดี่ยว พระอู่ทองซุ้มเรือนแก้ว พระนารายณ์สี่กร ( ทรงปืน ) พระสุพรรณหลังผาน ( หลังเรียบ ) พระรอด พระนาคปรก ( ๓ - ๔ พิมพ์ ) พระเปิดโลกเม็ดทองหลาง พระลีลาใหญ่ ( ๓ - ๔ พิมพ์ ) พระเชตุพน พระซุ้มกอเล็ก และพระซุ้มกอใหญ่ ( ขนาดพิมพ์กลางของเดิม ) และพิมพ์อื่น ๆ
     
  4. HMMAmulet626

    HMMAmulet626 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2010
    โพสต์:
    8,418
    ค่าพลัง:
    +469
    3321.เหรียญหลวงพ่อโต วัดพนัญเชิง ปี 2533 เนื้อกะไหล่ทอง ให้บูชา 650 บาท


    upload_2024-12-1_8-44-46.png

    เป็นอีกหนึ่งรุ่นที่มีพิธีการปลุกเสกอย่างยิ่งใหญ่ เกจิคณาจารย์ชื่อดังในยุคนั้นมาร่วมปลุกเสกกันมากมาย
    รายนามเกจิคณาจารย์ชื่อดังที่มาร่วมปลุกเสก อาทิเช่น
    หลวงพ่อทิม วัดพระขาว
    หลวงปู่มี วัดมารวิชัย
    หลวงปู่เมี้ยน วัดโพธิ์กบเจา
    หลวงพ่อสวัสดิ์ วัดศาลาปูน
    หลวงปู่กอง วัดสะมณทล
    หลวงพ่อเอียด วัดไผ่ล้อม
    หลวงพ่อเฉลิม วัดพระญาติ
    หลวงพ่อรวย วัดตะโก
    หลวงพ่อเพิ่ม วัดป้อมแก้ว
    หลวงพ่อเจริญ วัดตาลานใต้
    หลวงพ่อพรหม วัดขนอนเหนือ
    หลวงพ่อเปิ่น วัดบางพระ
    หลวงพ่อเชิญ วัดโคกทอง
    หลวงพ่อยิด วัดหนองจอก
    หลวงปู่หยอด วัดแก้วเจริญ
    หลวงพ่ออุตตมะ วัดวังวิเวการาม
    หลวงปู่หลิว วัดไร่แตงทอง
    หลวงพ่อแผ่ว วัดโตนดหลวง
    หลวงปู่คำพันธ์ วัดธาตุมหาชัย
    หลวงปู่ชื้น วัดญาณเสน
    หลวงพ่อเฮ็น วัดดอนทอง
    หลวงปู่พูล วัดไผ่ล้อม
    หลวงพ่อคูณ วัดบ้านไร่
    หลวงปู่แย้ม วัดสามง่าม
    หลวงพ่อสง่า วัดบ้านหม้อ
    หลวงพ่อนอง วัดทรายขาว
    หลวงพ่อผัน วัดราษฎร์เจริญ
    หลวงปู่เจือ วัดกลางบางแก้ว
    หลวงพ่อแปลก วัดลำน้ำ
    หลวงปู่เครื่อง วัดสระกำแพงใหญ่
    หลวงปู่หงส์ วัดเพชรบุรี
    หลวงพ่อทอง วัดคลองแห
    หลวงพ่อศรีเงิน วัดดอนศาลา
    พ่อท่านคล้อย วัดถ้ำเขาเงิน
    หลวงพ่อแล วัดพระทรง เป็นต้น
     
  5. HMMAmulet626

    HMMAmulet626 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2010
    โพสต์:
    8,418
    ค่าพลัง:
    +469
    3322.เสือนอนกินทรัพย์สินพูนทวี เนื้อผงว่านยาคลุกน้ำมันเสือ หลังโรยขนเสือ + เม็ดข้าวนารอด + ก้านธูปเสก ปี ๒๕๕๑ หลวงปู่นิเวศน์ วัดทุ่งกระเจ็ด จ.สุพรรณบุรี ให้บูชา 550 บาท หลวงปู่นิเวศน์ท่านได้เรียนสำเร็จวิชา เสือสมิง มาจากหลวงพ่อคง วัดวังสรรพรส คุณshajจองครับ


    upload_2024-12-1_9-6-31.png

    upload_2024-12-1_9-6-46.png

    upload_2024-12-1_9-7-40.png

    หลวงปู่นิเวศน์พระเกจิอาจารย์ผู้เรืองวิทยาคม บวชเรียนแต่วัยเยาว์ ทั้งที่บิดาเป็นลูกน้องเสือฝ้าย แต่หลวงปู่กลับเดินสวนทางนำชีวิตฝากไว้ในพระพุทธศาสนา และได้ไปเรียนวิชาสายเดียวกับ หลวงพ่อมุ่ย วัดดอนไร่ พระเกจิอาจารย์ดังสมัยก่อนจะมีครูบาอาจารย์สอนวิชาอาคม ใครเก่งที่ไหนท่านจะเดินธุดงค์ไปหา ฝากตัวเป็นศิษย์ขอเรียนวิชา ศึกษาหาความรู้ หลวงปู่นิเวศน์ ได้เดินธุดงค์ออกป่าไปหาความรู้จากหลวงพ่อคง วัดวังสรรพรส จันทบุรี ได้ตำราวิชาการสร้างพระขุนแผน และพระผงพรายกุมาร ถึงขนาดหลวงพ่อคง กล่าวฝากมาว่า ให้หมั่นฝึกตนตามที่เราสอนไว้แล้วท่านจะแทนเราได้ พร้อมกันนั้นได้มอบมวลสารเป็นผงพรายกุมารมาหนึ่งกระปุก นอกจากนี้ยังมีพระดังเมืองสุพรรณ ที่หลวงปู่นิเวศน์ ไปขอ นั่นคือ หลวงพ่อโหน่ง วัดคลองมะดัน ที่จังหวัดสุพรรณบุรี แลหลวงพ่อมุ่ย แห่งวัดดอนไร่ เป็นครูบาอาจารย์ผู้สอนสั่งวิชา ร่ำเรียนวิชาทางกรรมฐานจิต กับหลวงพ่อโหน่ง วัดคลองมะดัน และสืบตำราพุทธาคมมาจากพระคณาจารย์เก่งๆอีกมากมาย เรียกได้ว่า หลวงปู่มีวิทยาคมแก่กล้า ท่านได้สร้างสุดยอดวัตถุมงคล อันก่อเกิดประสบการณ์ดีๆต่างๆนานาอย่างมากมาย จนเป็นที่กล่าวขาน และกล่าวขวัญกันให้ทั่ว ว่าหลวงปู่นิเวศน์รูปนี้ เป็นพระแท้ เป็นพระเกจิอาจารย์แห่งยุค ที่หาตัวจับยาก ปลุกเสกวัตถุมงคลได้ขลังฉมังนัก

    หลวงปู่นิเวศน์ให้ครูช่าง แกะพิมพ์เสือนอนกินนี้อย่างสวยงามมากเหมือนมีชีวิต ใส่อักขระมหายันต์อันเป็นมหามงคล ทั้งในด้านมหาอำนาจตบะเดชะ มหาบารมี มหาเมตตา มหานิยม ลงล้อมรอบตัวเสือนอนกินทรัพย์สินพูนทวีนี้ ให้ร่ำรวย เป็นเศรษฐี มีเงิน มีทอง ตัวเลขที่แฝงอยู่ตามมุมสี่ทิศล้วนแล้วแต่มีความหมาย ดีๆ ทั้งสิ้น เลข ๓ หมายถึง คุณแห่งอักขระมหายันต์, เลข ๕ หมายถึง คุณแห่ง ศีลทั้ง ๕ ข้อ,เลข ๗ หมายถึง เอกหัวใจแห่งพระปริตร, เลข ๙ หมายถึงคุณแห่ง มรรค๔ ผล๔ พระนิพพาน ๑ จึงมาเป็น ๙

    ด้านหลังเสือนอนกิน หลวงปู่ใส่ยันต์ มงคลรัตน์ ซึ่งหมายถึง คุณแห่งแก้วอันประเสริฐ ทั้ง ๓ ประการ อันเป็นมหามงคลยิ่งทั้งยังมีส่วนผสมของว่านมวลสารหลายชนิดฝังของมงคลมีอาถรรพณ์ อีกหลายอย่าง ปลุกเสกด้วยมหามนต์เสือสมิง เจ้าแห่งป่าราชาแห่งเสือ เรียก สูตรหัวใจพญาราชสีห์ เสกให้มีอาการ ๓๒ เสกให้มี เงินเป็นกอง มีทองเป็นถัง ถือเป็นสุดยอดเครื่องรางชั้นดี ที่มีพุทธคุณสุดยอดด้านเมตตา ค้าขาย เจริญลาภ เจริญผลดี มีกิจการรุ่ง เจรจาธุรกิจเลิศ มีฤทธิ์ประเสริฐ พกพาบูชาเอาไว้เถิด มีแต่ความเจริญรุ่งเรื่อง

    เสือทุกคนต่างรู้จักกันดี เสือเป็นสัตว์ที่น่าเกรงขาม ไม่มีข้อสงสัยเลยว่า ในโลกนี้ไม่มีใคร ไม่กลัวเสือ และทุกชนาติที่รู้จักเสือแม้กระทั่งคนที่เล่นของคาถาอาคมหรือโจรสมัยก่อนก็มักจะมีเสือมาเป็นส่วนประกอบ เช่นการสักเสือ เพื่อเป็นมหาอำนาจคงกระพันชาตรี หรือชื่อโจรสมัยก่อนก็มักจะเรียกว่าเสือ ขึ้นต้นกันทั้งสิ้น เมื่อเอ่ยคำว่าเสือ คนก็มักจะเกรงกลัวกัน นี่แหล่ะคืออำนาจบารมีของเสือ ในทางมายาศาสตร์แล้ว เสือเป็นสัตว์ที่มีพลังทางวิญญาณ ระดับสูงอำนาจจิต เหล่านี้เมื่อ ประกอบกับ พลังอิทธิเวทย์มนต์ตราคาถาอาคมเสริมลงไปย่อมเกิดอิทธิฤทธิ์เหนือธรรมชาติ ยิ่งเสือที่มีพลังทางวิญญาณสูงถึงขึ้นเป็นพญาเสือ เพียงแต่จ้องตาเท่านั้นคนหรือสัตว์นั่นก็จะหมดแรงกลายเป็นเหยื่อให้จับได้
    หลวงปู่นิเวศน์ท่านได้หนังเสือ มาจากในป่าแถว ชายแดนพม่า ท่านได้นิมิตไปว่ามีเทวดา ที่เฝ้าร่างเสือให้ ท่านได้นำร่างเสือที่ตายอยู่ในถ้ำ (เสือตัวนี้เป็นจ่าฝูงมีบริวารมากตายตามอายุขัย) กลับไปร่วมสร้างบารมีกลับท่านด้วย ท่านจึงรู้ว่าเสือตัวนี้สร้างบารมีไว้มากจึงจุติเป็นเทวดา ท่านจึงนำหนังและกะโหลกของเสือตัวนี้ติดตัวด้วยตลอดจนท่านมาบวชเป็นพระจึงนำหนังเสือทั้งหมดมาสร้างเป็นเครื่องราง ตะกรุด แจกศิษย์ตลอดมา มีประสบการณ์ให้เห็นหลายครั้ง

    ล่าสุดท่านได้นำหนังส่วนหน้าผากและกะโหลกหน้าผากเสือ มาหุงกับน้ำมันว่านอาถรรพณ์ เน้นมหาอำนาจ นะจังงัง ตบะ เสริมบารมี ให้ผู้คนเกรงขาม ท่านบอกว่าเสือหากินเก่ง ไม่ต้องออกแรงมาก ก็ได้กินแล้ว เพียงแค่เสือคำราม สัตว์น้อยใหญ่ก็แข้งขาอ่อน หมดเรียวหมดแรง ยอมเป็นอาหารด้วยพลังอำนาจจากเสือ หลวงปู่ท่านจึงสร้างเป็นน้ำมันเสือนอน การพกพาก่อนออกจากบ้านด้วยพลังอำนาจของเสือช่วยเสริมตบะบารมีอำนาจเหนือผู้ใด ผู้คนเกรงขาม เป็นนะจังงังต่อผู้พบเห็น ปกครองลูกน้องเกรงขาม หรือเจรจาค้าขาย พูดจา เปรียบดังอำนาจเสือคำราม ติดต่อการงานดีมาก อำนาจเสือดังมนต์สะกด ทำให้เขาเชื่อฟังเราทุกอย่าง ช่วยปกป้องเกื้อหนุนให้ผู้ครอบครองเป็นใหญ่ เป็นโต มีอำนาจดังเสือ

    คาถาบูชา เสือนอนกิน หลวงปู่นิเวศน์ วัดทุ่งกระเจ็ด
    (พนมมือแล้วให้เอาไว้ในมือจากนั้นให้ว่า นะโม 3จบ)
    "พุทธะเสฏโฐ มะหานาถัง วัณณะโก สิงหะนายะกัง พุทธะสิริสา เตเชนะ มาระเสนา ปะราชะยัง ชัยยะ ชัยยะ ภวันตุเม พุทธังนะกันตัง อะระหังพุทโธ นะโมพุทธายะ อัทโธนะโมพุทธายะ ฯ
    แล้วเป่าลงไปที่เสือนอนกิน หากขนลุกขนชันก็เป็นอันใช้ได้ดีนักแล
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 1 ธันวาคม 2024 at 15:39
  6. shaj

    shaj เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 พฤศจิกายน 2012
    โพสต์:
    7,924
    ค่าพลัง:
    +6,845
    -ขอจองครับ
     
  7. HMMAmulet626

    HMMAmulet626 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2010
    โพสต์:
    8,418
    ค่าพลัง:
    +469

    รับทราบการจองครับ ขอบคุณมากครับ
     
  8. HMMAmulet626

    HMMAmulet626 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2010
    โพสต์:
    8,418
    ค่าพลัง:
    +469

    upload_2024-12-1_19-28-17.png
     
  9. HMMAmulet626

    HMMAmulet626 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2010
    โพสต์:
    8,418
    ค่าพลัง:
    +469
    3323.พระผงภูทราวดี ปี 2506 จัดสร้างโดย ท่านขุนพันธุ์ฯ เนื้อดินผสมว่านกากยายักษ์เข้มขลังด้วยชนวนมวลสาร เเละพิธีการจัดสร้างหลายวาระ ปิดรายการครับ


    upload_2024-12-2_8-43-38.png

    พิธีมหาพุทธาภิเษก หลายวาระ จากบันทึกของท่านขุนพันธ์ฯชื่อ “เรื่องอาจารย์นำ แก้วจันทร์” เขียนเมื่อปี พ.ศ.2520 กล่าวว่า
    "พ.ศ.2505 พล.ต.ท.ประชา บูรณธนิต กับผมได้สร้างพระพิมพ์ภูธราวดีด้วยผงว่าน ยาแก้-ยากันต่างๆ ผงพระ ผงวิเศษ ดินเสื้อเมือง-หลักเมือง ตะไคร่จากพระธาตุเจดีย์ทั่วประเทศ ดินท้องถ้ำ ดินยอดเขาที่มีชื่อเป็นมงคลดินสังเวชนียสถานจากอินเดียโดยพลตรีพระเจ้าวรวงศ์เธอพระองค์เจ้าภาณุพันธ์ ยุคล ทรงประทาน กับได้เททองหล่อพระประธานแบบทวาราวดีถวายวัดพระปฐมเจดีย์ สร้างศาลากตัญญูธรรมไว้ที่หน้าองค์พระปฐมเจดีย์เพื่อประดิษฐานพระซึ่งหล่อขึ้นในครั้งนั้น กับสร้างพระกริ่งภูธราวดีด้วยเนื้อทองนวโลหะ พระเครื่องที่สร้างขึ้นครั้งนี้ได้นำไปแจกตำรวจ ทหารทั่วประเทศ บุคคลทั่วไปตามสมควรไม่มีการให้เช่า โดยพิธีการจัดสร้างนั้นเยี่ยมยอดทุกขั้นตอนตั้งแต่เจตนาการสร้าง การคัดสรรมวลสาร พิธีพุทธาภิเษกที่ปลุกเสกกันถึง 3 ครั้ง 3 ครา พระเครื่องชุดภูธราวดีนี้ พุทธลักษณะเป็นพระปางปางห้ามญาติซึ่งเลียนแบบพุทธลักษณะมาจากพระร่วงโรจน์ฤทธิ์ที่วัดพระปฐมเจดีย์ ด้านหลังมียันต์ตัว "นะ" ขึ้นยอดเป็นอุนาโลมอยู่ในกรอบรูปสามเหลี่ยมลักษณะคล้ายพระเจดีย์มีขนาดกว้างประมาณ 1 ซม. สูงประมาณ 2.3 ซม. มีทั้งสีน้ำตาลแบบเนื้อดินผสมว่านและสีดำแบบว่านผสมผงซึ่งส่วนผสมสำคัญ ๆ ของพระเครื่องเนื้อดินผสมผงชุดภูธราวดี ได้แก่
    1. ดินจากสังเวชนียสถาน ทั้ง 4 แห่งในประเทศอินเดีย
    2.ว่านสำคัญ ทั้งว่านยา ว่านไสยศาสตร์ ยาแก้ยากันต่าง ๆ และว่านหายากชนิดต่างๆ ประมาณ 400 ชนิด
    3.ดินจากหลักเมืองและจากภูเขา หรือสถานที่ชื่อเป็นมงคลทั่วราชอาณาจักร
    4.ตะไคร่จากพระเจดีย์องค์สำคัญ ๆ เช่นจากพระปฐมเจดีย์จังหวัดนครปฐม จากวัดบรมธาตุ จังหวัดนครศรีธรรมราช ฯลฯ
    5.พระผงแตกหักจากพระสมเด็จฯ ผงแตกหักจากพระนางตรา ผงจากพระคณาจารย์ทั่วทั้งราชอาณาจักรที่มีชื่อเสียงในสมัยนั้นตลอดจนน้ำพระพุทธมนต์จากพิธีสำคัญต่างๆในการจัดสร้างพระพิมพ์พระร่วงโรจน์ฤทธิ์ จำนวน 168,000 องค์ ทุกๆ 100 องค์จะมีพระคะแนนที่เป็นพิมพ์พิเศษแตกต่างออกอีกไป 1 องค์ เช่น พระพิมพ์พระนางตรา พระพิมพ์ทวารวดี พระพิมพ์วัดประตูทอง เป็นต้น รวมจำนวนพระพิมพ์คะแนนพิมพ์ละประมาณไม่เกิน 1,680 องค์ นอกจากนี้ยังมีพิมพ์พิเศษที่มีจำนวนน้อยยิ่งกว่า พิมพ์คะแนน อันได้แก่ พิมพ์พระสังกัจจายน์ ซึ่งไม่ถูกระบุในประวัติการจัดสร้าง ตลอดจนพระกริ่ง และ พระบูชาภูธราวดี หน้าตัก 5 นิ้วพิธีพุทธาภิเษกของพระชุดภูทราวดี มีทั้งสิ้น 3 ครั้งด้วยกันได้แก่
    ครั้งที่ 1 และครั้งที่ 2 ที่จังหวัดนครศรีธรรมราชโดยทั้งการกดพิมพ์พระเนื้อดิน และหล่อพระเนื้อโลหะต้องเตรียมการและจัดทำกันอยู่เป็นเดือนๆ โดยผู้ที่กดพิมพ์มีทั้งทหาร ตำรวจ พลเรือน ข้าราชการ ผู้ที่กดพิมพ์จะต้องนุ่งห่มขาว รับศีลสมาทานทุกวัน หากผู้ใดออกนอกปะรำพิธี ก่อนกลับเข้าในพิธี ต้องประพรมน้ำพระพุทธมนต์ก่อน รวมถึงต้องรับศีลใหม่ ผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมดต้องถือพรหมจรรย์ ห้ามรับของต่อมือผู้หญิงรวมถึงห้ามคนนอกและผู้หญิงเข้าใกล้ในเขตพิธีด้วย เมื่อเข้าที่เป็นที่เรียบร้อย จึงใช้ไม้ที่มีนามเป็นมงคลลงเลขอักขระเป็นเชื้อเพลิง เมื่อสุมไฟได้ที่ต้องมีพระสวดชัยมงคลคาถา 9 รูป เมื่อนำพระขึ้นมาจะต้องประพรมด้วยน้ำมันจันทน์หอมอย่างดีจึงจะนำเข้าพิธีพุทธาภิเษกต่อไป (เป็นเรื่องแปลกขณะที่จัดสร้างพระชุดนี้ได้เกิดมหาวาตภัยขึ้นที่แหลมตะลุมพุก วิหารทั่วไปในวัดล้วนได้รับความเสียหาย แต่ในเขตพิธีอันได้แก่ วิหารหลวงไม่มีสิ่งใดได้รับความเสียหายเลย แม้กระเบื้องมุงหลังคาสักแผ่นเดียว) พิธีพุทธาภิเษกที่ จ.นครศรีธรรมราช มีพระเกจิอาจารย์องค์สำคัญของภาคใต้เข้าร่วมพิธีแทบทุกองค์ โดยเฉพาะเกจิอาจารย์ทางสายเข้าอ้อ อาทิเช่น
    อาจารย์ปาล วัดเข้าอ้อ
    อาจารย์คง วัดบ้านสวน
    หลวงพ่อหมุน วัดเขาแดงตะวันออก
    พ่อท่านเขียว วัดหรงบล
    อาจารย์นำ แก้วจันทร์ (ขณะนั้นยังเป็นฆราวาส ยังไม่ได้บวชอยู่ใน สมณะเพศ) ฯลฯ ร่วมในพิธี
    ครั้งที่ 3 ทำพิธีพุทธาภิเษกที่จ.นครปฐม มีทั้งพราหมณ์, พระไทย, พระจีน, พระญวน ในนิกายต่างๆ รายนามพระคณาจารย์ต่างๆเท่าที่รวบรวมได้ ซึ่งปรากฏหลักฐานว่าเข้าร่วมพิธีพุทธาภิเษกของพระเครื่องชุดภูธราวดีได้แก่
    1).สมเด็จพระสังฆราชเป็นองค์ประธานพิธีที่หน้าองค์พระปฐม เมื่อ 24 เมษายน 2506
    2).พระมหาวีรวงศ์-พิธีเดียวกับสมเด็จพระสังฆราช
    3). พระอาจารย์ปาน วัดเขาอ้อ
    4). พระอาจารย์คง วัดบ้านสวน
    5). หลวงพ่อหมุน วัดเขาแดงตะวันออก
    6). อาจารย์นำ วัดดอนศาลา (ขณะเข้าพิธียังเป็นฆราวาสอยู่ มีรูปถ่ายปรากฏเป็นหลักฐาน)
    7). หลวงพ่อเต๋ วัดสามง่าม
    8)หลวงพ่อน้อย วัดธรรมศาลา
    9). หลวงปู่เพิ่ม วัดกลาบางแก้ว
    10). หลวงพ่อเงิน วัดดอนยายหอม
    11). หลวงพ่อบุญธรรม วัดพระปฐมเจดีย์
    12). หลวงพ่อห่วง วัดท่า
    13). หลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี
    14). พระครูอาคมสุนทร วัดสุทัศน์ฯ
    15). หลวงพ่อคล้าย (วาจาสิทธิ์) วัดสวนขันธ์
    16). หลวงปู่ทิม วัดช้างให้ ฯลฯ
    นอกจากนี้มีเกจิฯ อีกมากมายที่สลับสับเปลี่ยนหมุนเวียนกันเข้าพิธีพุทธาภิเษก ทั้ง 3 ครั้ง และไม่ได้มีหลักฐานบันทึกไว้
    มูลเหตุแห่งการสร้างและผู้ดำเนินการจัดสร้าง"
    พระเครื่องชุดนี้สร้างขึ้นจากความศรัทธาในพระพุทธศาสนาอย่างแรงกล้าของนายตำรวจ 2 ท่านได้ แก่
    พล.ต.ท.ประชา บูรณธนิต ท่านผู้นี้มีชื่อเสียงโด่งดังทางสายปราบปราม เคยพิชิตเสือชื่อดังต่าง ๆ ในยุคหลังสงครามที่โด่งดังในภาคกลางมากมายเช่น เสือใบ เสือเจริญ เสือผาด มีฉายาว่าเป็นมือปราบหนังเหนียวเนื่องจากการปะทะกับพวกโจรขณะเดินทางจากนครปฐม เข้ากรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 9 ตุลาคม 2495 โดยปรากฏหลักฐานว่าในขณะเกิดเหตุ ท่านพกพระท่ากระดาน และลูกอมของหลวงปู่เหรียญ วัดหนองบัว (น่าจะเป็นสาเหตุให้พระท่ากระดานมีราคาสูงมาตั้งแต่ครั้งนั้น )
    พล.ต.ต.ขุนพันธ์ รักราชเดช นามเดิม ชื่อ บุตร์ พันธรักษ์ ท่านผู้นี้มีเสียงโด่งดังทางสายปราบปรามเช่นกัน มีฉายาเป็นภาษายาวี "รรยอกะจิ"เคย พิชิตเสือร้ายที่มีชื่อเสียงโด่งดังทางภาคใต้ทางแถบเทือกเขาบูโดจังหวัดนราธิวาส เช่น ขุนโจร อาแวสะดอ ที่กล่าวกันว่าหนังเหนียวเพราะเขี้ยวหมูทองแดง, อ้ายดำหัวแพร เป็นต้น ท่านผู้นี้เป็นศิษย์ฆราวาสของสำนักเขาอ้ออันโด่งดัง นอกจากนี้ยังมีบุคคลสำคัญที่ช่วยในการจัดเตรียมวัสดุมงคลเพื่อการจัดสร้างพระโดย พลตรีพระวรวงศ์เธอพระองค์เจ้าภาณุพันธ์ ยุคล
    แต่มูลเหตุหลักในการจัดสร้างพระเครื่องชุดนี้ นอกเหนือจากศรัทธาอันแรงกล้าที่มีต่อพระพุทธศาสนาของคณะผู้ร่วมจัดสร้างแล้ว ยังต้องการจะนำไปแจกจ่ายให้ผู้ศรัทธา และมีปรากฏในบันทึกของพล.ต.ท.ประชา ว่าได้มีการจัดพระเครื่องชุดนี้ ทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 ที่พระตำนักจิตรลดารโหฐาน เมื่อวันที่ 21 พฤษภาคม 2506 โดยรายการที่จัดพระเครื่องทูลเกล้าถวายมีดังนี้
    ๑. พระเครื่องภูธราวดี 309 องค์ ในจำนวนนี้มีเลี่ยมทองคำรวม 5 องค์
    ๒.พระเครื่องคะแนน ปางปฐมเทศนาจำนวน 3 องค์
    ๓.พระเครื่องคะแนนพิมพ์พระนางตราจำนวน 3 องค์
    ๔.พระเครื่องคะแนนพิมพ์ประตูทอง จำนวน 3 องค์
    ๕.พระกริ่งภูธราวดีสร้างด้วยนวโลหะจำนวน 2 องค์
    ๖.พระกริ่งยอดธงภูธราวดีสร้างด้วยนวโลหะจำนวน 9 องค์ (จัดสร้างเฉพาะเพื่อทูลเกล้าถวาย 9 องค์เท่านั้น)
    นับได้ว่าเป็นพระเครื่องอีกหนึ่งชุดที่มีทั้งเจตนาสร้างดี มวลสารดี พิธีเยี่ยม นอกจากนั้นทางด้านพุทธคุณก็ไม่แพ้ใครประสบการณ์นับครั้งไม่ถ้วนจากผู้ที่ได้บูชาติดตัว พระเครื่องภูทราวดีชุดนี้คนที่ได้ครอบครองต่างหวงแหน
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 2 ธันวาคม 2024 at 19:55
  10. HMMAmulet626

    HMMAmulet626 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2010
    โพสต์:
    8,418
    ค่าพลัง:
    +469
    3324.เหรียญยันต์พระพุทธนิมิต วัดเขาอ้อ จ.พัทลุง ที่รฤกงานไหว้ครูบูรพาจารย์ พ.ศ. ๒๕๖๑ ให้บูชา 750 บาท


    upload_2024-12-2_9-35-43.png

    ยันต์พระพุทธนิมิตร ยันต์ที่ถือว่าศักดิ์สิทธิ์ที่สุด

    ภาพจากหนังสือชุด "รามเกียรติ์" ถือเป็นภาพต้นแบบที่พระเกจิคณาจารย์ยุคเก่าและปัจจุบัน นำมาใช้เขียนยันต์มากที่สุด ตัวละครที่สำคัญๆ เช่น หนุมาน พระพรหม นางสุวรรณมัจฉา พระอินทร์ พระราม (พระนารายณ์) รวมทั้งยักษ์วิรุฬจำบัง ล้วนถูกนำมาใช้ในการเขียนยันต์ทั้งสิ้น โดยมีคติความเชื่อว่า ภาพนั้นจะมีพุทธคุณโดดเด่นเช่นเดียวกับตัวละคร นอกจากนี้แล้ว ลักษณะการเขียนยันต์ มีหลายแบบต่างๆ และความหมายของยันต์แต่ละแบบก็แตกต่างกัน เช่น ยันต์กลม มีความหมายว่า เป็นพระพักตร์ของพระพุทธเจ้า ยันต์สามเหลี่ยม มีความหมายว่า เป็นพระรัตนตรัย ยันต์สี่เหลี่ยม มีความหมายว่า เป็นทวีปทั้งสี่ หรือธาตุทั้งสี่ คือ ดิน น้ำ ลม ไฟ และ ยันต์รูปภาพ มีทั้งรูปภาพ เทวดา มนุษย์ และสัตว์ต่างๆ ส่วนความหมายก็อยู่ในตัวของรูปภาพนั้นๆ เช่น หนุมาน มีคติความเชื่อว่า อยู่ยงคงกระพัน และเมตตามหานิยม จะพบในพระเกจิอาจารย์ยุคเก่า ทุกสำนัก เช่น ผ้ายันต์หลวงพ่อดิ่ง วัดบางวัว อ.บางประกง จ.ฉะเชิงเทรา หนุมานแกะ หลวงพ่อสุ่น วัดศาลากุน อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี ผ้ายันต์หลวงพ่อจง วัดหน้าต่างนอก อ.บางไทร จ.พระนครศรีอยุธยา ผ้ายันต์หลวงพ่อพูล วัดไผ่ล้อม จ.นครปฐม รวมทั้งหลวงพ่อเปิ่น วัดบางพระ จ.นครปฐม เป็นต้น

    ยักษ์วิรุฬจำบัง ที่ถูกนำมาเขียนลงบนผ้ายันต์อันเลื่องชื่อ ต้องยกให้ผ้ายันต์ของหลวงพ่อคง วัดบางกระพร้อม จ.สมุทรสงคราม ส่วนรูปพระพรหมก็ถูกนำมาใช้ทุกสำนัก โดยมีคติความเชื่อว่า มีพุทธคุณด้านค้าขาย โชคลาภ เมตตามหานิยม ในขณะที่นางสุวรรณมัจฉา ก็ถูกนำมาเขียนเป็นยันต์เช่นกัน โดยมีคติความเชื่อว่า มีพุทธคุณด้านเมตตา ค้าขาย นอกจากนี้แล้วยังมีสัตว์ที่ขึ้นชื่อว่า มหาอำนาจ เช่น ช้าง ราชสีห์ หรือสิงโต เสือ จระเข้ พญายูงทอง พญาเต่าเรือน งู มังกร จิ้งจก ปลาไหล และนกคุ้ม

    ยันต์รูปพระพุทธ คือ ยันต์พระพุทธนิมิตร ในจำนวนรูปภาพที่นำมาเขียนเป็นยันต์ทั้งหมด ยันต์ที่ขึ้นชื่อที่สุดและถือว่าศักดิ์สิทธิ์ที่สุด คือ ยันต์พระพุทธนิมิตร เป็นยันต์ที่เขียนเป็นรูปองค์พระทั้งองค์ แล้วลงด้วยคาถาพุทธคุณพระพุทธเจ้า ๕๖ และเรียกสูตรด้วย อิติปิโสรัตนมาลา เสกด้วยพระพุทธคุณ พระธรรมคุณ พระสังฆคุณ รวมทั้ง คาถาพระพุทธนิมิตร สำหรับ ผ้ายันต์พระพุทธ ที่จะยกมาเป็นตัวอย่างการอธิบาย คือ ผ้ายันต์หน้าพระ ของ หลวงปู่แย้ม ปิยวณฺโณ วัดตะเคียน อ.บางกรวย จ.นนทบุรี โดยท่านได้ทำผ้ายันต์ไว้เมื่อกว่า ๑๐ ปีที่แล้ว ทั้งนี้ได้ทำเป็นรูปเฉพาะส่วนที่เป็นพระพักตร์เท่านั้น หรืออาจจะเรียกว่า “ยันต์หน้าพระ” ก็ได้ แม้ว่าจะมียันต์เพียงไม่กี่ตัว แต่ถือเป็นการรวมสุดยอดแห่งยันต์เอาไว้ โดยมีอักขระเลขยันต์ที่น่าสนใจดังนี้ คือ ยันต์พระเจ้า ๕ พระองค์ นะ โม พุท ธา ยะ โดยตำแหน่งของแต่ละตัว คือ นะ (หูขวาของพระพุทธรูป) โม (หูซ้ายของพระพุทธรูป) พุท (ตรงเศียร) ธา (หน้าผาก) ยะ (ปาก)

    คาถาบทนี้คือ คาถาพระเจ้า ๕ พระองค์ นั่นเอง ซึ่งถือเป็นสุดยอดพระคาถาที่โบราณาจารย์ทุกสำนักใช้ โดยมีการเรียกสูตร ดังนี้ นะกาโรโหติสัมพโว พระกุกกุสันโท จงบังเกิดเป็นตัวนะ โมกาโรโหติสัมพโวพระโคนาคม จงบังเกิดเป็นตัวโม พุทธากาโรโหติสัมพโวพระกัสสปะ จงบังเกิดเป็นตัวพุท ธากาโรโหติสัมพโว พระศรีศากยมุณี (บางครั้งอาจจะเรียกว่าสิริศากยมุนี) จงบังเกิดเป็นตัวธา ยะกาโรโหติสัมพโว พระอริยะเมเตโย (พระอริยเมตตรัย) จงมาบังเกิดเป็นตัวยะ ยันต์บริเวณคอ (เหนือเส้น) คือ ยันต์ธาตุ ๔ คือ นะ (น้ำ) มะ (ดิน) พะ (ไฟ) ทะ (ลม) แต่เรามักจะพูดติดปากว่า ดิน น้ำ ลม ไฟ มีคติความเชื่อว่ามีพุทธคุณเด่นทางคงกระพัน ทั้งนี้ต้องเขียนควงเป็น ๔ บท สลับกัน ยันต์ใต้คาง คือ ยันต์หัวใจพระตรัยปิฎก คือ มะ อะ อุ ซึ่งเป็นตัวย่อมาจาก อาปามะจุปะ (พระวินัยปิฎก) อะทีมะสังอังขุ (พระสุตันตะปิฎก) สังวิทาปุกะยะปะ (หัวใจพระอภิธรรม ๗ คัมภีร์) รวมแล้วเรียกว่า หัวใจพระไตรปิฎก ซึ่งมีอยู่ ๘๔,๐๐๐ พระธรรมขันธ์ ยันต์ที่อยู่รอบนอกสุด (ที่เป็นรูปโค้งตามเศียร) คือ พุท โธ ซึ่งเป็นพระนามพระพุทธเจ้า แปลว่า ผู้รู้ ผู้ตื่น ในขณะที่ยันต์ที่อยู่เหนือเศียรพระ คือ อุ

    ทั้งนี้หากจะเขียน ต้องเรียกสูตรว่า อุเมตตา สัพเสน่หา นะระปูชิโต ตรีอักขระนิอัฒจันทัง (พระจันทร์ครึ่งซีก) เสวะสุริยะราชิโน (วงกลมแทนพระอาทิตย์) อุณาโลมมาพุทธะปะนะชะยเต อะสังวิสุโลปุสะพุภะ (มงคล ๙) สัตถุโนพุทโธ ยันต์เขียนยาวติดกัน (ใต้ยันต์มหาเบา) เป็นคาถาพระพรหม อ่านว่า สัพเพชนา พหูชนา เอหิพรหมา จิตตังมานมามะมะ มีคติความเชื่อว่า ใช้เรียกคน เรียกทรัพย์ เรียกเงิน เรียกทอง ให้มามากๆ เฑาะว์รันโต ที่อยู่ ซ้ายขวา ยันต์มหาเบา การเขียนเฑาะว์รันโตตรามตำราของ หลวงพ่อคง วัดบางกระพ้อม จ.สมุทรสงคราม ให้เริ่มต้นด้วยการตั้งนะโม ๓ จบ ก่อน แล้ววางอารมณ์ทำใจให้เป็นสมาธิ แล้วภาวนาว่า “เฑาะว์รันโตศีละสมาธิ เฑาะว์รันโตตันตินะมัตถุโน เฑาะว์รันโตนะกัมมัถฐานัง เฑาะว์พุทธานมามิหัง” เฑาะว์ตัวนี้มีคติวามเชื่อว่า เป็นยันต์ที่มีพุทธคุณเด่นด้านคงกระพัน

    ส่วน ยันต์มหาเบา ซึ่งเป็นยันต์เฉพาะตัวของหลวงปู่แย้มนั้น ไม่ว่าท่านจะสร้างวัตถุมงคลประเภทใด จะปรากฏยันต์ตัวนี้เสมอ ในผ้ายันต์ผืนนี้เช่นกัน คือ ยันต์ที่เขียนเป็นรูปวงกลม อยู่ในตำแหน่งใต้คอ โดยในวงกลมคือตัว "อัง" อย่างไรก็ตาม หากสังเกตการณ์ออกผ้ายันต์ ถังเรียกทรัพย์ ถุงเรียกทรัพย์ ของวัดและสำนักต่างๆ ในยุคปัจจุบัน ยันต์ที่ขาดไม่ได้ คือ หัวใจพระฉิม (หัวใจพระสิวลี) คือ นะ ชา ลี ติ โดยใช้คู่กับหัวใจพระพุทธเจ้าดำเนิน คือ ภควา ทั้งนี้จะเขียนว่า “ภควา นะชาลีติ” มีพุทธคุณเด่นทางด้านโชคลาภ นอกจากนี้แล้วบางสำนักจะหัวใจ อิติปิโส เพิ่มเข้าไป คือ อะ สัง วิ สุ โล ปุ สะ พุ ภะ
     
  11. HMMAmulet626

    HMMAmulet626 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2010
    โพสต์:
    8,418
    ค่าพลัง:
    +469
    สวัสดีครับ
     
  12. HMMAmulet626

    HMMAmulet626 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2010
    โพสต์:
    8,418
    ค่าพลัง:
    +469
    3325.พระสมเด็จหลวงปู่เหมือน วัดบางกอบัว จ.สมุทรปราการ ปี 2489 เนื้อดิน ให้บูชา 750 บาท



    upload_2024-12-2_17-49-49.png



    "เทพเจ้าแห่งบางกอบัว"
    พระครูโกมุทสมานคุณ" หรือ "หลวงปู่เหมือน ติสสโร"" วัดบางกอบัว อ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ
    นามเดิม "เหมือน ปุระบุรณะ" เกิดเมื่อวันที่ ๑๘ ก.พ. พ.ศ.๒๔๒๒ ณ.ต.บางกอบัว อ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ เมื่ออายุครบบวช ได้เข้าพิธีอุปสมบทที่วัดลาดกระบัง อ.แสนแสบ กรุงเทพฯ เมื่อวันที่ ๒๕ เมษายน พ.ศ.๒๔๓๓ มีพระอธิการแก้ว วัดกองแก้ว เป็นพระอุปัชฌาย์,หลวงพ่อจิตร วัดบางกอบัว เป็นพระกรรมวาจาจารย์,พระอาจารย์ทอง วัดลาดกระบัง เป็นพระอนุสาวนาจารย์ ได้รับฉายาว่า "ติสสโร" หลังจากบวชได้ ๑ พรรษา ได้ย้ายมาอยู่จำพรรษาที่วัดบางกอบัว พ.ศ.๒๔๔๔ หลวงปู่เหมือนได้ศึกษาวิชาอาคมจากพระอาจารย์คง วัดด่าน บางโพงพาง และพระอาจารย์ทอง วัดลาดกระบัง จนแตกฉาน และท่านยังมีพระสหธรรมิกเป็นพระเกจิอาจารย์อีก ๒ รูป คือหลวงพ่อจง วัดหน้าต่างนอก,หลวงปู่เผือก วัดกิ่งแก้ว ไปมาหาสู่และแลกเปลี่ยนวิชาซึ่งกันและกันเสมอ
    หลวงปู่เหมือนท่านเป็นพระเกจิอาจารย์ที่เก่งในเรื่องคาถาอาคม และท่านยังเป็นพระหมอโบราณที่มีชื่อเสียงโด่งดัง คุณความดีของท่านทางคณะสงฆ์จึงแต่งตั้งให้ท่านดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดบางกอบัว แทนพระครูสัทธาภิรม(ฟัก) โดยได้เป็นพระครูชั้นสัญญาบัตรที่พระครูโกมุทสมานคุณ และเป็นเจ้าคณะตำบลบางกอบัว รวมทั้งเป็นพระอุปัชฌาย์ เมื่อปีพ.ศ.๒๔๗๖ และหลวงปู่เหมือนได้มรณภาพลงด้วยอาการสงบ เมื่อวันที่ ๑๕ ธ.ค. พ.ศ.๒๕๐๔ เวลา ๑๖.๐๐ น. สิริอายุรวม ๗๒ ปี พรรษา ๖๑
     
  13. HMMAmulet626

    HMMAmulet626 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2010
    โพสต์:
    8,418
    ค่าพลัง:
    +469

    upload_2024-12-2_20-2-32.png
     

แชร์หน้านี้

Loading...