พระวังหน้า ที่หลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรเสก ถ้าต้องการที่จะได้.....

ในห้อง 'งานบุญอื่นๆ' ตั้งกระทู้โดย sithiphong, 23 ธันวาคม 2005.

  1. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    ผมเองนับตั้งแต่รู้จักพระวังหน้า ผมไม่เคยนำพระพิมพ์อื่นๆ หรือ เหรียญอื่นๆ มาห้อย ยกเว้นแต่ เหรียญหลวงปู่ม่น วัดเนินตามาก และ หลวงปู่ทิม วัดระหารไร่ ซึ่งปัจจุบัน เหรียญที่ผมจะขึ้นคอ สำหรับพระเกจิในยุคใหม่ หรือยุคเก่า จะมีเพียงเหรียญของหลวงปู่ม่น วัดเนินตามากเท่านั้นครับ

    เนื่องจากผมไม่เคยพบ ไม่เคยเจอ ไม่เคยเห็นที่ กรอบสแตนเลสระเบิดเองได้ ประสบการณ์ตรงของผมเอง

    ครั้งแรกที่ได้เหรียญหลวงปู่ม่น จากท่านอาจารย์ประถม อาจสาคร ผมนึกในใจว่า หลวงปู่ม่น ท่านเก่งจริงหรือ แต่สุดท้าย หลวงปู่ม่น ท่านมาบอกผมโดย กรอบแสตนเลสที่เลี่ยมหลวงปู่ม่นระเบิดเอง ตามที่ผมได้เคยเล่าไว้ในกระทู้พระวังหน้าฯนี้ครับ หลวงปู่ม่นท่านคงมาบอกผมว่า หลวงปู่เก่งหรือเปล่าที่กรอบแสตนเลสระเบิดเองได้

    ผมบอกได้แต่เพียงว่า พระพิมพ์และวัตถุมงคลที่หลวงปู่ม่น วัดเนินตามาก อธิษฐานจิต กับ พระพิมพ์และวัตถุมงคลที่หลวงปู่เจ้าคุณนร อธิษฐานจิต มีพลังอิทธิคุณเหมือนกันครับ

    ปัจจุบัน ผมห้อยแต่พระวังหน้า เท่านั้น ผมและอีกหลายๆท่าน มีประสบการณ์ที่เกี่ยวกับพระวังหน้ากันมากมาย ทุกสิ่งทุกอย่าง ต้องพิสูจน์เอง ด้วยตนเอง แล้วจะรู้ว่า ดีหรือไม่ อย่างไร ผมจึงไม่ค่อยได้นำประสบการณ์ที่เกี่ยวกับพระวังหน้ามาลงให้ได้อ่านกัน

    โมทนาสาธุครับ
     
  2. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    ผมรบกวนให้โพสข้อความการตั้งจิต ตั้งสัจจะบนกระทู้พระวังหน้าฯอีกครั้งนะครับ อาจจะพิมพ์ใหม่ หรือ copy ข้อความ(และเติมนามสกุล) แล้วโพสอีกครั้งครับ

    ข้าพเจ้า ชื่อ นพพร (ใส่นามสกุลด้วยครับ) ขอตั้งจิต,ตั้งสัจจะและสาบานต่อองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทุกๆพระองค์ ,พระอรหันต์ทุกๆพระองค์ ,เทพเทวาทั้ง 16 ชั้นฟ้า และพยามัจจุราชเจ้า ว่า ข้าพเจ้าขอปฎิบัติธรรม(สมาธิ)ทุกวันและห้อยพระที่คุณsithiphongให้ทุกวัน ตลอดชีวิต หากข้าพเจ้าทำตามที่ข้าพเจ้าได้ตั้งจิต,ตั้งสัจจะและสาบานดังกล่าวได้ ขอให้ข้าพเจ้าจงประสบกับความสำเร็จตลอดกาล แต่หากข้าพเจ้าทำตามที่ข้าพเจ้าได้ตั้งจิต,ตั้งสัจจะและสาบานไม่ได้ ขอให้ข้าพเจ้าจงประสบกับความวิบัติตลอดกาลและต่อไปถ้ายังคงเกิดมาเป็นมนุษย์อยู่ ขอให้เกิดในยุคที่ไม่มีพระพุทธศาสนาและเป็นยุคที่มีภัยภิบัติตลอดกาล การตั้งจิต ,ตั้งสัจจะและสาบานในครั้งนี้ ขอให้ผลเกิดโดยเร็วที่สุดและผลเกิดโดยฉับพลันทันใด และไม่มีการถอนคำที่ตั้งจิต,ตั้งสัจจะและสาบานดังกล่าวนี้ด้วยประการทั้งปวง
     
  3. nongnooo

    nongnooo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 พฤศจิกายน 2006
    โพสต์:
    4,139
    ค่าพลัง:
    +9,446
    โชว์รูปใหม่หน่อยครับมีน้องรักมาทักว่ารูปเดิมเบื่อแล้ว ก็เลยเปลี่ยนเป็นกรุใหม่กว่านิดครับ หุ หุ
     
  4. dragonlord

    dragonlord เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มีนาคม 2007
    โพสต์:
    541
    ค่าพลัง:
    +1,541
    กรี๊ดดดดดดดดด

    องค์นี้เบื่อแล้วขอนะคะ อิอิ

     
  5. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    <TABLE class=tborder cellSpacing=1 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=thead>ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 28 คน ( เป็นสมาชิก 7 คน และ บุคคลทั่วไป 21 คน ) </TD><TD class=thead width="14%"><CENTER>[ แนะนำเรื่องเด่น ] </CENTER></TD></TR><TR><TD class=alt1 width="100%" colSpan=2>sithiphong, narin96+, nongnooo+, อภิญญา ศรีตะวัน, dragonlord+, พระธนภูมิ </TD></TR></TBODY></TABLE>

    เข้าทางจริงๆ

    คุณnongnooo ผมว่าน่าจะเปลี่ยนเป็นรูปนี้ดีกว่าครับ อิอิ

    [​IMG]
     
  6. พุทธันดร

    พุทธันดร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    565
    ค่าพลัง:
    +3,969

    น้อมรับค่ะ
     
  7. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    เผย พื้นที่เสี่ยงภัย รอบเมือง

    ?ǒ?ō?? ?ש??ը?肧? Í??ͧ


    [​IMG]


    เผย "พื้นที่เสี่ยงภัย" รอบเมือง เรื่องใกล้ตัวที่ควรรู้...พึงระวัง!! (เดลินิวส์)

    จากสถานที่ที่คิดว่าปลอดภัยกลับไม่ปลอดภัยไปซะแล้ว หลังจากเกิดเหตุการณ์เด็กหญิง วัย 13 ปี ถูกแก๊งรถตู้หื่นโปะยาสลบลักพาตัวจากอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิไปข่มขืนแล้วล่ามโซ่ขัง ไว้ยังบ้านพักในจังหวัดปทุมธานี หลายคนอ่านข่าวแล้วรู้สึกหดหู่ใจ และเชื่อว่าต้องมีคำถามตามมาว่า เหตุใดสถานที่ที่คนพลุกพล่าน อย่างอนุสาวรีย์ชัยฯ จึงเกิดเหตุการณ์ลักษณะนี้ได้

    "ถึงแม้บริเวณอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิจะเป็นแหล่งชุมชนมีผู้คนสัญจรไปมามากมาย แต่ก็มีพวกมิจฉาชีพแฝงตัวอยู่ และ ก่อเหตุอาชญากรรมจำนวนมากด้วยเช่นกัน" สิน นิติธาดากุล ผู้อำนวยการกองนโยบายและแผนงาน สำนักเทศกิจ แสดงความคิดเห็น พร้อมเปิดเผยสถิติพื้นที่เสี่ยงภัยในกรุงเทพมหานครว่า จากการสำรวจแต่ละสำนักงานเขตพบว่าในปี พ.ศ. 2551 มี พื้นที่เสี่ยงภัยทั้งหมด 530 จุด และปี พ.ศ. 2552 มีจำนวน 460 จุด โดยแบ่งพื้นที่เสี่ยงภัยเป็น 3 ประเภท ได้แก่ 1. จุดเปลี่ยวตามตรอกซอกซอย 2. สะพานลอยคนข้าม และ 3. อาคารหรือบ้าน รกร้าง ซึ่งสถิติทั้งหมดรวมจุดที่เคยเกิดเหตุอาชญากรรมด้วย​

    ข้อมูลต่างๆ ที่ได้ส่วนหนึ่งมาจาก "โครงการเทศกิจเพื่อนชุมชน" ที่ให้เจ้าหน้าที่เทศกิจเดินเท้าเข้าไปตรวจความเป็นระเบียบเรียบร้อยพร้อมสอบ ถามปัญหาเรื่องความปลอดภัย ในจุดเสี่ยงภัยต่างๆ เพื่อจะนำ มาวิเคราะห์และหาแนวทางการป้องกัน อย่างเช่น อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ทางสำนักงานเขตราชเทวีเมื่อทราบแล้วจะหาวิธีการป้องกันหรือแนวทางที่แตกต่างกันออกไป ซึ่งวิธีการที่ว่านี้คือ ติดตู้เขียวตามจุดต่างๆ พร้อมส่งเทศกิจสายตรวจไปดูแลเพิ่มเติม นอกจากนี้ยังนำข้อมูลที่ได้มาตรวจสอบว่าจุดเปลี่ยวบริเวณใดบกพร่องอย่างไรบ้าง เช่นพื้นที่เปลี่ยวมืดก็เสริมกำลังเจ้าหน้าที่และปรับภูมิทัศน์โดยนำไฟมาติดตั้งให้สว่างขึ้น เชื่อว่าจะสามารถ ลดปัญหาการก่ออาชญากรรมในจุดเสี่ยงภัยได้ หากประชาชนพบจุดเสี่ยงภัยเพิ่มสามารถแจ้งกับทางสำนักเทศกิจทราบได้ที่ 1555 หรือ 0-2465-0532

    ทางด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจหลังทราบข่าวมีความตื่นตัวไม่น้อยกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเร่งดำเนินการป้องกันและปราบปราม อาชญากรรม พล.ต.ต.สุรพล ธนโกเศศ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (รอง ผบช.น.ฝ่าย ป้องกันอาชญากรรม ให้ข้อมูล ว่า เอแบคโพลล์ได้สำรวจความพึงพอใจของประชาชนพบว่า มีความหวาดระแวงด้านอาชญากรรมในเรื่อง สภาพแวดล้อมเป็นอันดับหนึ่ง จึงมีความคิดดำเนินการลดความหวาดระแวงโดย "ดำเนินโครงการการป้องกันอาชญากรรมโดยสภาพแวดล้อม" สั่งการให้ เจ้าหน้าที่ตำรวจออกสำรวจพื้นที่รับผิดชอบของตัวเองว่า พื้นที่ดังกล่าวเคยเกิดเหตุอาชญากรรมหรือไม่ เพราะสาเหตุใด หรือยังไม่เคยเกิดแต่น่าจะเกิด เช่น พื้นที่ที่เป็นป่าหญ้ารกรุงรัง มีบ้านร้าง ไม่มีแสงสว่าง ซึ่งข้อมูลเหล่านี้ได้จากประชาชนและเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ลงพื้นที่ หลังจากได้ข้อมูลมาแล้วนำมาวิเคราะห์หาแนวร่วมจากภาครัฐบาล ได้แก่ ไม่มีแสงสว่างก็ติดต่อการไฟฟ้ามาดำเนินการหรือพื้นที่รกร้างติดต่อสำนักงานเขตนั้นๆ มาทำการล้อมรั้ว หรือบริเวณหมู่บ้านมีแคมป์คนงาน ก่อสร้างประชาชนเกรงจะไม่ปลอดภัย เจ้าหน้าที่ตำรวจก็เข้าไปดำเนินการขึ้นทะเบียนแฝงคนแปลกหน้าให้เพื่อลดความหวาดระแวง อย่างไรก็ตาม หากดำเนินการไปแล้วยังเกิดเหตุการณ์ซ้ำอีกจะใช้มาตรการพิเศษ อย่างเช่น ในพื้นที่เขตตลิ่งชัน ถือเป็นพื้นที่เปลี่ยวเคยเกิดเหตุอาชญากรรมบ่อยครั้ง เจ้าหน้าที่ตำรวจใช้มาตรการพิเศษโดยการ จัดรถตู้ตำรวจรับ - ส่ง ประชาชน รวมทั้งใช้นโยบายหลักทำให้คนในชุมชนรู้จักกัน และตั้งกรรมการกลางมาช่วยตำรวจ ซึ่งทั้งหมด ได้ดำเนินการมาแล้วระยะหนึ่ง

    ยิ่งเมื่อทราบว่ามีเหตุการณ์ร้ายเกิดขึ้นบริเวณอนุสาวรีย์ชัยฯ ที่ถือว่าเป็นแหล่งชุมชนด้านคมนาคมขนาดใหญ่ จึงมีความสอดคล้อง กับโครงการที่ทำอยู่ เพราะปกติอนุสาวรีย์ชัยฯ เป็นพื้นที่เสี่ยงภัยต่างเวลากัน หากเป็นเวลากลางวันประชาชนจะเสี่ยงภัย กับการถูกกรีดหรือ ล้วงกระเป๋า เนื่องจากมีผู้คนพลุกพล่านเบียดเสียดกัน ง่ายต่อการถูกโจรกรรม และหากเป็นเวลากลางคืนจะเสี่ยงถูกจี้หรือ ชิงทรัพย์ โดยเฉพาะผู้หญิงต้องระมัดระวังตัวมากเป็นพิเศษ เมื่อมีข้อมูลแล้วเรื่องปรับสภาพแวดล้อมจึงสำคัญ ในอนาคตข้างหน้าจะมีการปรับเปลี่ยนการยืนรอรถโดยสารประจำทางให้เหมือนกับต่างประเทศที่มีช่องทางเดินเข้าออกทางเดียว หากใครยืนรอรถนานจะตกเป็นผู้ต้องสงสัยให้ เราสังเกตไว้เพื่อป้องกันตัวเอง เพราะหากไม่รอรถจะมีช่องทางสำหรับเดินอยู่อีกทาง ที่แบ่งเป็นสัดส่วนโดยใช้แผงกั้นเพื่อความเป็นระเบียบ สำหรับในเวลากลางคืนมีการปรับเปลี่ยนภูมิทัศน์ เช่น ป้ายรถประจำทางมีป้ายโฆษณาขนาดใหญ่บดบังอยู่ เหมาะแก่การซ่อนตัวของคนร้ายที่รอเหยื่อเพื่อฉก ชิง วิ่งราว ก็จะปรับเปลี่ยนไปไว้ที่อื่นหรือมีต้นไม้ใหญ่บังแสงสว่างก็ติดต่อสำนักงานเขตมาตัดกิ่งให้โล่งแจ้งทำให้คนร้ายไม่กล้าลงมือเพราะตกอยู่ในเป้าสายตาผู้อื่นมากมาย นอกจากนี้แล้วเราต้องรู้จักป้องกันตัวเองด้วย โดยเฉพาะผู้หญิงถ้าไม่จำเป็นอย่าอยู่คนเดียวในที่มืด เปลี่ยวหรือหากเกิดเหตุให้ตะโกน ส่งเสียงร้องขอความช่วยเหลือและสามารถป้องกันตัวเองด้วยสัญชาตญาณเมื่อรู้สึกว่าอยู่ในพื้นที่ที่ไม่ปลอดภัยหรือสงสัยว่าผู้ที่อยู่ใกล้เป็นคนร้ายให้พยายามมองหาคนช่วยเหลือ​

    ดังนั้นจงคิดไว้อยู่เสมอว่าอย่าอายที่จะขอความช่วยเหลือ พร้อมตั้งสติและตัดสินใจพาตัวเองออกไปในที่ที่คิดว่าปลอดภัยที่สุด อย่ายอมตกเป็นเป้าหมายให้มิจฉาชีพทำร้ายร่างกายและฉกทรัพย์สินไป เพราะคุณอาจตกเป็นเหยื่อรายต่อไป..!


    [​IMG]


    3 ส่วนอันตราย... สถิติภัยอาชญากรรมสูงสุด

    จากสถิติการรับแจ้งเหตุอาชญากรรมจากหมายเลข 191 พบว่าในพื้นที่บก.น.2 มีสถิติการแจ้งเหตุจำนวนมากและเป็นพื้นที่ที่มีสะพานลอย ป้ายรถเมล์ และจุดเปลี่ยวมากเช่นกัน พล.ต.ต.สาโรจน์ พรหมเจริญ ผบก.น.2 เปิดเผยว่า การปฏิบัติงานป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมได้จัดพื้นที่เสี่ยงภัยไว้ 3 ส่วนคือ ​

    1. บริเวณห้างสรรพสินค้าและสวนจตุจักร เพราะเคยมีคดีเกิดขึ้นเยอะ เช่น ล้วงกระเป๋า ตกทอง ฉกกระเป๋า ซึ่งแนวทางการป้องกันคือประสานงานเจ้าหน้าที่ของห้างและจตุจักรเพื่อติดตั้งกล้องวงจรปิดและส่งสายตรวจเดินเท้าเข้าไปติดป้ายเตือน​

    2. สถานีขนส่งหมอชิต เกิดเหตุกรรโชกทรัพย์และหลอกลวงทางเพศบ่อย จึงได้ดำเนินการป้องกันโดยการทำประวัติบุคคลเร่ร่อนไม่มีที่อยู่เป็นหลักแหล่ง อบรมอาสาสมัครและตั้งจุดตำรวจร่วมกับเจ้าหน้าที่ขนส่ง​

    3. ตามจุดต่างๆ เช่น พื้นที่ว่าง เปลี่ยวรกร้าง สะพานลอย ป้ายรถเมล์ ซึ่งมีมากพอสมควรเพราะพื้นที่ในเขตของบก.น.2 เป็นพื้นที่ที่กว้างมีอาณาเขตติดต่อกับจังหวัดนนทบุรีและปทุมธานี จึงทำให้เกิดเหตุประทุษร้าย ต่อทรัพย์ขึ้นเยอะ โดยเฉพาะ 1.บริเวณสวนสมเด็จย่า ถนนพหลโยธิน 2.ถนนลาดพร้าว บริเวณสะพานลอยปากซอย ลาดพร้าว 15 และ 3. เขตดอนเมือง สายไหม คันนายาว ซึ่งเป็นพื้นที่ติดกับจังหวัดนนทบุรีและจังหวัดปทุมธานี ซึ่งส่วนมากคนร้ายจะใช้รถจักรยานยนต์เป็นพาหนะ จึงต้องป้องกันโดยการตั้งด่านตรวจทำประวัติรถจักรยานยนต์ต้องสงสัยโดยเดือนหนึ่งได้ประมาณ 2,000 คัน

    นอกจากนี้ยังอบรมผู้ขับขี่ วินจักรยานยนต์ให้รู้จักสังเกตและตรวจตราช่วยเหลือลูกค้า โดยการจัดตั้งวินจักรยานยนต์ไว้ตามจุดต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นตามตรอกซอกซอยและสะพานลอยเพื่อแจ้งข้อมูลให้ตำรวจทราบ ที่สำคัญอยากฝากเตือนไปยังสุภาพสตรีควรหลีกเลี่ยงสถานที่เปลี่ยวหรือหาเพื่อนเดิน แต่หากหลีกเลี่ยงไม่ได้ให้รู้จักสังเกตบริเวณรอบๆ ว่ามีคนเดินตามแบบกระชั้นชิดหรือไม่ เพราะตามสัญชาตญาณคนร้ายจะต้องเข้าประชิดตัวเหยื่อเพื่อประทุษร้ายต่อทรัพย์ ส่วนคนร้ายที่ใช้รถจักรยานยนต์ชิงทรัพย์ต้องอาศัยการจดจำรูปพรรณคนร้ายและรถจักรยานยนต์ให้ได้มากที่สุดเพื่อง่ายต่อการติดตาม​



    ขอขอบคุณข้อมูลจาก เดลินิวส์
    [​IMG]
    กรวิกา คงเดชศักดา
    ขอขอบคุณภาพประกอบจาก เว็บไซต์กรุงเทพมหานคร
     
  8. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    ไข้หวัด 2009 คร่าชีวิตคนไทยมากสุดในเอเชีย ล่าสุด 14 ราย

    <A href="http://hilight.kapook.com/view/38974" target=_blank>䢩ˇѴ 2009 ?èҪՇԵ??䷂??ʘ?㹠͠?Ղ ŨҊش 14 Ò¦lt;/a>


    [​IMG]

    สรุปประเด็นข่าวโดยกระปุกดอทคอม


    นายชัยวุฒิ บรรณวัฒน์ รมช.ศึกษาธิการ กล่าวภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันนี้ (9 กรกฎาคม) ว่า ที่ประชุม ครม. มีมติสั่งปิดโรงเรียนกวดวิชาทั่วประเทศ เป็นเวลา 15 วัน เริ่มตั้งแต่วันที่ 13-28 กรกฎาคม นอกจากนี้ ยังมีมติขอความร่วมมือไปยังร้านเกม และร้านอินเทอร์เน็ต ให้ปิดสถานประกอบการเป็นเวลา 15 วันเช่นเดียวกัน เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไข้หวัดสายพันธุ์ใหม่ 2009 โดยหลังจากนี้สำนักงานการศึกษาเอกชน (สช.) จะเรียกประชุมแล้วทำหนังสือด่วนไปยังโรงเรียนกวดวิชา เพื่อสั่งปิดโรงเรียน หากโรงเรียนกวดวิชาแห่งใดไม่ให้ความร่วมมือก็จะมีมาตรการลงโทษ เพราะโรงเรียนกวดวิชาต้องมีการต่อใบอนุญาต แต่ที่ผ่านมาโรงเรียนกวดวิชาส่วนใหญ่ก็ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี

    นายชัยวุฒิ กล่าวต่อว่า ส่วนสถานบันเทิงต่างๆ เช่น ผับ ดิสโก้เธค โรงภาพยนตร์ ก็มีการหารือกันถึงการแพร่ระบาดของเชื้อใน ครม. แต่ยังไม่มีมาตรการอะไรออกมาควบคุม เพราะต้องรอพิจารณาว่า มีผู้ติดเชื้อจากสถานบันเทิงมากน้อยเพียงใด แต่ในส่วนการแสดงคอนเสิร์ตต่างๆ มีความเป็นไปได้ว่า อาจจะพิจารณาสั่งให้หยุดการแสดงไว้ก่อน ซึ่งจะต้องมีการพิจารณาอีกครั้ง เนื่องจากหลังจากที่มามีการแสดงคอนเสิร์ตของนักร้องเกาหลีดงบันชิงกิ และอัสนี- วสันต์ ผ่านไป 3 วัน พบว่า มียอดผู้ติดเชื้อพุ่งสูงขึ้นจำนวนมาก โดยผู้ติดเชื้อส่วนใหญ่ระบุว่า ไปดูคอนเสิร์ตมา

    สำหรับโรงเรียนต่างๆ นั้น ยังไม่มีมาตรการสั่งปิด แต่จะใช้วิธีหากพบนักเรียนติดเชื้อไข้หวัดสายพันธุ์ใหม่ ก็จะให้หยุดเรียนไว้ก่อนเพื่อรักษาตัว แล้วจะสอนพิเศษชดเชยภายหลัง หากมีความจำเป็นก็ให้สอบภายหลังได้ด้วย ทั้งนี้หากครบกำหนด 15 วันแล้ว ยังไม่สามารถควบคุมการแพร่ระบาดของเชื้อได้ ก็อาจจะมีการพิจารณาให้ปิดเทอมเร็วขึ้นก่อนเดือนตุลาคม เพื่อหยุดการระบาดของเชื้อดังกล่าว

    ขณะที่ยอดผู้เสียชีวิต จากการติดเชื้อไข้หวัด 2009 ในประเทศไทย ล่าสุดมี 14 รายแล้ว

    ด้าน นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ได้เรียกนายวิทยา แก้วภราดัย รมว.สาธารณสุข และ นพ.ปราชญ์ บุณยวงศ์วิโรจน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข เข้าหารือถึงสถานการณ์การแพร่ระบาดของไข้หวัดใหญ่ 2009 เมื่อวานนี้ (8 กรกฎาคม) โดยนายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ในภาพรวมของสิ่งที่เกิดขึ้น ต้องยอมรับความจริงว่าไม่มีประเทศใด สามารถสกัดกั้นการติดเชื้อของคนได้ และอยากทำความเข้าใจว่า การรายงานตัวเลขของทุกประเทศ เป็นตัวเลขที่ยืนยันจากห้องปฏิบัติการ ขณะที่ข้อเท็จจริง คือ จะมีผู้ติดเชื้อมากกว่าจำนวนที่รายงานตัวเลขออกมาในทุกประเทศ จึงไม่ใช่เรื่องการปิดบัง แต่เป็นหลักที่ใช้กัน

    ทั้งนี้ สิ่งที่พยายามจะทำ คือ จะทำอย่างไรไม่ให้ผู้ติดเชื้อเสียชีวิต ซึ่งอัตราการเสียชีวิตของไทย อยู่ที่ร้อยละ 0.4 เป็นไปตามค่าเฉลี่ยของโลก แต่ต้องทำให้ดีกว่านี้ และตรงไหนที่คิดว่าจะหยุด หรือบรรเทาการแพร่ระบาดได้ ก็จะทำ แต่ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องปิดประเทศขณะนี้ หรือทำให้ชีวิตไม่ดำเนินไปตามปกติ เพราะองค์การอนามัยโลกได้ยืนยันแล้วว่า ถ้าไม่จำเป็น จะไม่แนะนำในการห้ามคนเดินทาง ยกเว้นกรณีอัตราการเสียชีวิตเพิ่มขึ้น สูงถึงร้อยละ 1.5 หรือร้อยละ 2

    ส่วนกรณีการปิดร้านเกม และโรงเรียนกวดวิชา ซึ่งเป็นแหล่งที่มีการติดเชื้อมากที่สุดนั้น นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า จะขอความร่วมมือเท่าที่จะทำได้ และจะมีมาตรการเพิ่มเติมออกมา เพราะการจะสั่งปิดหรือไม่ ต้องดูอำนาจหน้าที่ ตามกฎหมาย ส่วนกรณีการปิดโรงภาพยนตร์ และห้างสรรพสินค้านั้น นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ยังไม่ชัดขนาดนั้น เพราะการติดเชื้อที่ต้องดูแลมากที่สุด คือ การสัมผัส หรือ อยู่ในระยะ 1 เมตรก็ติดเชื้อได้ ซึ่งมีร้านเกมกับโรงเรียนกวดวิชา อย่างไรก็ตาม ต่อจากนี้รัฐบาลต้องเร่งทำทีมเฉพาะกิจ โดยทีมนี้จะเป็นการระดมแพทย์ที่เชี่ยวชาญ และมีประสบการณ์ สำหรับจำนวนยารักษา ยืนยันว่าเพียงพอ

    ขณะที่นายมานิต นพอมรบดี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เปิดเผยถึงกระแสข่าวที่จะปิดประเทศเพื่อคุมการแพร่ระบาด ว่า โดยส่วนตัวคิดว่ายังไม่ถึงเวลา เพราะสถานการณ์ไม่รุนแรงขนาดต้องปิดประเทศ และที่สำคัญการปิดประเทศ จะส่งผลต่อด้านเศรษฐกิจอย่างมาก ซึ่งถ้าเทียบกับประเทศที่ระบาดพร้อมๆ กันก็จะมีสหรัฐอเมริกา ซึ่งบ้านเรามีการควบคุมได้ดีกว่า ระบาดน้อยกว่า โดยขณะนี้มีเพียงประเทศเม็กซิโกเท่านั้นที่ปิดประเทศ เพราะเขาเป็นประเทศแรกที่เกิดโรคระบาด ฉะนั้นการป้องกันต้องอยู่ในระดับสูงสุด อย่างไรก็ตามแนะนำให้ผู้ที่ป่วยก็ให้พักรักษาตัวอยู่กับบ้าน จนกว่าจะหายแล้วค่อยไปทำงานหรือไปเรียน เพราะขณะนี้ทุกคนต้องร่วมด้วยช่วยกัน ในการควบคุมการแพร่ของโรค

    ด้านนายชัยวุฒิ บรรณวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เปิดเผยว่า เตรียมเสนอแนะในที่ประชุมคณะรัฐมนตรีวันนี้ ให้ปิดโรงเรียนกวดวิชาชั่วคราว เป็นเวลา 5-7 วัน เหมือนกับช่วงเทศกาลหยุดยาวที่ผ่านมา เนื่องจากเป็นต้นตอหลักในการแพร่เชื้อหวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 โดยเฉพาะย่านสยาม และพญาไท ซึ่งมีอยู่กว่า 100 แห่งที่มีสภาพแออัด นักเรียนนั่งเรียนใกล้ชิดกันมากทำให้แพร่เชื้อหวัดได้ง่าย

    ด้าน นพ.ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา อาจารย์ประจำคณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวว่า การปิดสถานศึกษา ปิดสถานที่ราชการ หรือร้านค้า เพื่อป้องกันการแพร่เชื้อเหมือนเม็กซิโกคงทำไม่ได้ สิ่งที่ทำได้คือป้องกันไม่ให้คนป่วยแพร่เชื้อไปสู่คนอื่น ตนเห็นว่าควรมีมาตรการทางกฎหมายมาจัดการ เช่น คนที่มีน้ำมูกไหล ไอจาม ไม่ปิดปากปิดจมูก ควรจะมีการปรับ 200 หรือ 500 บาท เพราะถ้าไม่มีกติกาประชาชนก็ไม่ปฏิบัติตาม



    ขอขอบคุณข้อมูลจาก ไทยรัฐ เดลินิวส์ ข่าวสด INN มติชน

    [​IMG] [​IMG] [​IMG] [​IMG] [​IMG] [​IMG] [​IMG]
     
  9. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    ระวัง โรคหน้าฝน

    ระวัง โรคหน้าฝน


    [​IMG]


    ระวัง โรคหน้าฝน (Momypedia)


    เมื่อหน้าฝนมาเยือน ไม่เพียงนำความชุ่มชื้นมาฝากผืนดินและผู้คน แต่ฝนชุกยังมาพร้อมโรคถึง 5 กลุ่มรวมกว่า 10 โรค ที่เราสามารถป้องกันได้

    กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุขเตือน 90 วันอันตราย ในเดือนมิถุนายน - สิงหาคม ซึ่งเป็นช่วงฝนชุก ประชาชนควรป้องกันโรคติดต่อที่มักเกิดขึ้นในฤดูฝน ซึ่งมีโรค 5 กลุ่ม ได้แก่

    [​IMG] 1.กลุ่มโรคติดต่อของระบบทางเดินอาหาร ที่พบบ่อย ได้แก่ โรคอุจจาระร่วงเฉียบพลัน บิด ไทฟอยด์ อาหารเป็นพิษ ตับอักเสบ สาเหตุเกิดจากกินอาหารดื่มน้ำที่ปนเปื้อนเชื้อโรคหรือกินอาหารสุกๆ ดิบๆ

    [​IMG] 2.กลุ่มโรคติดเชื้อผ่านทางบาดแผลหรือเยื่อบุผิวหนัง ที่พบบ่อยคือ โรคเลปโตสไปโรซิส หรือไข้ฉี่หนู อาการเด่นคือ ไข้สูงเฉียบพลัน ปวดศีรษะ มักปวดกล้ามเนื้อบริเวณน่องและโคนขาอย่างรุนแรง และตาแดง

    [​IMG] 3.กลุ่มโรคระบบทางเดินหายใจ ที่พบบ่อยได้แก่ โรคหวัด ไข้หวัดใหญ่ คออักเสบ หลอดลมอักเสบ ปอดอักเสบหรือปอดบวม อาการเริ่มจากไข้ ไอ หายใจเร็วหรือหอบเหนื่อย

    [​IMG] 4.กลุ่มโรคติดต่อที่เกิดจากยุง ได้แก่ ไข้เลือดออก มียุงลายเป็นพาหะนำโรค ไข้สมองอักเสบเจอี (Japanese Encephalitis) มียุงรำคาญ มักแพร่พันธุ์ในแหล่งน้ำตามทุ่งนาเป็นตัวนำโรค และโรคมาลาเรีย มียุงก้นปล่องที่อยู่ในป่าเป็นพาหะนำโรค ทั้ง 3 โรคนี้อาการเริ่มจากมีไข้สูง ปวดศีรษะมาก คลื่นไส้อาเจียน โดยเฉพาะโรคไข้สมองอักเสบ อาจทำให้พิการภายหลังได้

    [​IMG] 5. โรคเยื่อบุตาอักเสบหรือโรคตาแดง ซึ่งเกิดจากเชื้อไวรัสที่อยู่ในน้ำสกปรกกระเด็นเข้าตา

    มีรายงานว่าตลอดเดือนพฤษภาคม 2552 พบผู้เสียชีวิตจากโรคหน้าฝนแล้ว 13 ราย โดยเสียชีวิตจากปอดบวม 8 ราย อุจจาระร่วงเฉียบพลัน 3 ราย ไข้เลือดออกและไข้สมองอักเสบ อย่างละ 1 ราย

    สำหรับคุณพ่อคุณแม่ที่มีลูกเล็กอยู่ในบ้าน ในช่วงนี้หากลูกมีไข้สูง ควรไปพบแพทย์ทันที นอกจากนี้มีข้อควรระวังสำคัญคือ ห้ามใช้ยาจำพวกแอสไพรินอย่างเด็ดขาด เพราะยาชนิดนี้มีอันตรายกับบางโรค โดยเฉพาะโรคไข้เลือดออก โรคไข้หวัดใหญ่ และโรคไข้ฉี่หนู เพราะโรคทั้ง 3 ทำให้มีเลือดออกตามอวัยวะต่างๆ ในร่างกายอยู่แล้ว หากได้รับยาแอสไพริน ซึ่งมีสารป้องกันเลือดแข็งตัวจะทำให้เลือดออกได้ง่ายขึ้นทำให้เสียชีวิตจากโรคได้ง่ายขึ้น

    อย่างไรก็ตามในช่วงหน้าฝนนี้เราสามารถป้องกันโรคต่างๆ เหล่านี้ได้ โดยดูแลสุขภาพอนามัยให้แข็งแรง พักผ่อนให้เพียงพอ รับประทานอาหารที่สุกสะอาด ล้างมือให้สะอาดอยู่เสมอ ดูแลไม่ให้พื้นที่หรือภาชนะในบ้านมีน้ำขังเป็นแหล่งเพาะพันธุ์ของลูกน้ำยุงลาย ดูแลตัวเองและลูกน้อยไม่ให้ถูกยุงกัด ไม่ควรออกไปเดินลุยในพื้นที่น้ำขัง และล้างเท้าฟอกสบู่ให้สะอาดอยู่เสมอหลังออกไปเดินในพื้นชื้นแฉะหลังฝนตกใหม่ๆ


    ขอขอบคุณข้อมูลจาก MOMY PEDIA
    [​IMG]
     
  10. dragonlord

    dragonlord เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มีนาคม 2007
    โพสต์:
    541
    ค่าพลัง:
    +1,541
    ขอร่วมบุญถวายงา น้ำมันงา 100 บาท และค่าพาหนะ 100 บาท ด้วยคนคะ

    คุณพี่หนุ่มคะ ฝากโอนก่อนได้ไม๊คะ

     
  11. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
  12. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    ต้องตั้งจิต ตั้งสัจจะและโพสใหม่นะครับ ผมจึงจะส่งพระพิมพ์ให้ แต่จะทำบุญหรือไม่ ไม่เป็นไรครับ



    ข้าพเจ้า ชื่อ นพพร (ใส่นามสกุลด้วยครับ) ขอตั้งจิต,ตั้งสัจจะและสาบานต่อองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทุกๆพระองค์ ,พระอรหันต์ทุกๆพระองค์ ,เทพเทวาทั้ง 16 ชั้นฟ้า และพยามัจจุราชเจ้า ว่า ข้าพเจ้าขอปฎิบัติธรรม(สมาธิ)ทุกวันและห้อยพระที่คุณsithiphongให้ทุกวัน ตลอดชีวิต หากข้าพเจ้าทำตามที่ข้าพเจ้าได้ตั้งจิต,ตั้งสัจจะและสาบานดังกล่าวได้ ขอให้ข้าพเจ้าจงประสบกับความสำเร็จตลอดกาล แต่หากข้าพเจ้าทำตามที่ข้าพเจ้าได้ตั้งจิต,ตั้งสัจจะและสาบานไม่ได้ ขอให้ข้าพเจ้าจงประสบกับความวิบัติตลอดกาลและต่อไปถ้ายังคงเกิดมาเป็นมนุษย์อยู่ ขอให้เกิดในยุคที่ไม่มีพระพุทธศาสนาและเป็นยุคที่มีภัยภิบัติตลอดกาล การตั้งจิต ,ตั้งสัจจะและสาบานในครั้งนี้ ขอให้ผลเกิดโดยเร็วที่สุดและผลเกิดโดยฉับพลันทันใด และไม่มีการถอนคำที่ตั้งจิต,ตั้งสัจจะและสาบานดังกล่าวนี้ด้วยประการทั้งปวง
     
  13. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>"ข้าวยำ" จานเด็ดเมืองปักษ์ใต้
    Travel - Manager Online

    </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>9 กรกฎาคม 2552 12:18 น.</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย : กุ๊กเล็ก


    </TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=350 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=350>[​IMG] </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>ถ้าพูดถึงอาหารประจำภาคต่างๆ สำหรับภาคเหนือเราก็มักจะนึกถึงแคบหมู น้ำพริกหนุ่ม ภาคอีสานก็มักจะนึกถึงส้มตำ ส่วนภาคใต้นั้น "กุ๊กเล็ก" นึกถึง "ข้าวยำ" ที่มีน้ำบูดูเป็นตัวชูโรงความอร่อย ว่าแล้วก็อย่ารอช้า ไปลองทำลองชิมกันเลยดีกว่า

    เครื่องปรุง

    ข้าวสวย 2 ถ้วย
    มะพร้าวคั่ว 1 ถ้วย
    กุ้งแห้งป่น 1 ถ้วย
    ข้าวตังทอดกรอบ 1/2 ถ้วย
    พริกขี้หนูป่น 2 ช้อนโต๊ะ

    เครื่องปรุงน้ำบูดู
    น้ำบูดู 1/2 ถ้วย
    น้ำเปล่า 1 ถ้วย
    น้ำตาลปี๊บ 1 ถ้วย
    หอมแดงบุบ 5 หัว
    ข่าหั่นทุบให้แตก 2 ชิ้น
    ตะไคร้หั่น 1 ต้น
    ใบมะกรูดฉีก 5 ใบ

    ผักสดต่างๆ ไว้กินคู่กับข้าวยำ ได้แก่ ถั่วฝักยาว ถั่วงอก ใบมะกรูด ส้มโอแกะเนื้อ ใบมะกรูดหั่นฝอย ตะไคร้หั่นและมะนาว (หรือใครจะใส่ผักชนิดอื่นๆ อย่าง สะตอ แตงกวา มะม่วงดิบ หรือดอกดาหลา ซึ่งทางใต้นิยมกินกัน ก็สามารถเพิ่มได้ตามความชอบ)

    วิธีทำ เริ่มจากปรุงรสน้ำบูดูกันก่อนโดยนำเอาน้ำบูดูและน้ำเปล่าผสมกันยกขึ้นตั้งไฟ พอน้ำเริ่มเดือดก็ใส่หอมแดง ข่า ตะไคร้ ใบมะกรูดลงไป เสร็จแล้วปรุงรสให้ออกหวานเล็กน้อยด้วยน้ำตาลปี๊บ คนให้น้ำตาลละลาย และตั้งไฟเคี่ยวต่อจนน้ำบูดูค่อนข้างข้น แล้วจึงยกลง กรองเอาแต่น้ำบูดูมาใช้

    คราวนี้มาลงมือผสมข้าวยำกันได้แล้ว โดยการตักข้าวใส่จานสักเล็กน้อย แล้วตักเครื่องเคราทั้งหลายที่เตรียมไว้ลงไปในจาน ทั้งข้าวตังทอด มะพร้าวคั่ว และกุ้งแห้งป่น รวมถึงผักสดต่างๆ ปริมาณตามแต่เราชอบ จากนั้นก็ราดน้ำบูดูอันเป็นจุดเด่นของอาหารจานนี้ลงไป คลุกเคล้าให้เข้ากัน หากอยากได้รสเปรี้ยวก็บีบมะนาวเพิ่ม หรือเพิ่มรสเผ็ดด้วยพริกป่น ตักเข้าปากได้รสชาติอาหารปักษ์ใต้...หรอยจังฮู้

    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  14. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
  15. :::เพชร:::

    :::เพชร::: เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    8,584
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +36,137
    วันนี้ได้ทราบจากพี่ที่ร่วมบุญสร้างหนังสือประวัติวัดทรายงามว่าหนังสือน่าจะเสร็จในช่วงอาทิตย์หน้า พี่เขาทราบว่าผมมีเรียนเสาร์-อาทิตย์ไม่สะดวกเดินทางไปจันทบุรี แต่ผมเช็คเวลาแล้วหากไปในวันธรรมดา ต้องเป็นวันหยุด ก็มาดูที่วันแม่แห่งชาติ เป็นวันพุธ ก็เลยว่าจะเดินทางไปถวายหนังสือกันในวันนั้น และจะร่วมกันถวายพระบรมสารีริกธาตุจำนวน ๓ โถ(ถวายบรรจุพระเจดีย์โดยคุณแด๋นพุทธันดร คุณน้องอุ้มdragonlord และผมเอง) และพระบรมธาตุพระปัจเจกพุทธเจ้า ๑ โถ(ถวายบรรจุพระเจดีย์โดยคุณหนุ่มsithiphong) สำหรับวัดเป้าหมายที่จะถวายพระบรมสารีริกธาตุ และพระบรมธาตุก็มี ๒ วัด คือวัดป่าคลองกุ้งที่พ่อท่านลีได้สร้างไว้ ขณะนี้กำลังดำเนินการสร้างพระมหาเจดีย์ และสร้างฉัตรอยู่ และวัดทรายงาม ซึ่งปัจจุบันพระเจดีย์ได้สร้างเสร็จเรียบร้อยแล้ว เป็นการอัญเชิญไปประดิษฐานยังส่วนบนสุดภายในพระเจดีย์ เป็นพื้นที่เปิดที่บุคลลทั่วไปสามารถชมได้ด้วยสายตา ส่วนพระบรมสารีริกธาตุก่อนหน้านี้ได้บรรจุก่อนที่พระเจดีย์จะปิดแล้ว อันนี้มองไม่เห็น...

    และพระผงจักรพรรดิ ที่คุณnewcomer ได้นำมาถวายบรรจุไว้ด้วย ๓๐๐ องค์

    เพื่อนๆก็ระบุกันมานะครับว่าจะถวายบรรจุยังสถานที่ใด และจะนัดเวลารับโถบรรจุพระบรมสารีริกธาตุได้อย่างไร.....
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 9 กรกฎาคม 2009
  16. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    เรียนคุณเพชร
    ผมได้ไปซื้อเจดีย์(สองชั้น ที่ไว้บรรจุพระบรมสารีริกธาตุ) มาแล้ว ผมจะอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุ องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระนาม สมณโคดม ไว้ด้านบน และ พระบรมสารีริกธาตุ องค์พระปัจเจกพุทธเจ้า ไว้ด้านล่าง ผมคงจะนัดกับคุณเพชรอีกครั้งนะครับ เพื่ออัญเชิญไปมอบไว้ที่คุณเพชร จะได้ดำเนินการถวายตามวัตถุประสงค์ครับ

    วันเสาร์ผมจะโทร.ไปหาคุณเพชรอีกครั้งนะครับ
     
  17. พุทธันดร

    พุทธันดร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    565
    ค่าพลัง:
    +3,969
    โอ สาธุอนุโมทนาบุญนะคะ
    สำหรับค่าพาหนะที่ทุกท่านมอบให้
    ขออนุญาตถวายเพื่อสมทบทุนเป็นค่าตรวจร่างกายของท่านนะคะ
    วันเสาร์นี้จะพาท่านไปตรวจร่างกายค่ะ
     
  18. nongnooo

    nongnooo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 พฤศจิกายน 2006
    โพสต์:
    4,139
    ค่าพลัง:
    +9,446
    งั้นผมขอร่วมสมทบค่าตรวจร่างกาย 200บาทด้วยครับ เมื่อคืนฝันถึงท่านได้เข้ามาสอนสมาธิ จนสามารถสำเร็จได้ โมทนาสาธุครับ
     
  19. Phocharoen

    Phocharoen เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    109
    ค่าพลัง:
    +225
    คุณ พุทธันดร ผมจะสมทบ ปัจัยเพื่อซื้อน้ำมันงา ได้ที่ บัญชีอะไรครับ
     
  20. แหน่ง

    แหน่ง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    741
    ค่าพลัง:
    +768

    โมทนาสาธุ ด้วยครับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...