พระวังหน้า ที่หลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรเสก ถ้าต้องการที่จะได้.....

ในห้อง 'งานบุญอื่นๆ' ตั้งกระทู้โดย sithiphong, 23 ธันวาคม 2005.

  1. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    <TABLE class=tborder cellSpacing=1 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=thead>ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 58 คน ( เป็นสมาชิก 2 คน และ บุคคลทั่วไป 56 คน ) </TD><TD class=thead width="14%"><CENTER>[ แนะนำเรื่องเด่น ] </CENTER></TD></TR><TR><TD class=alt1 width="100%" colSpan=2>sithiphong, nongnooo+ </TD></TR></TBODY></TABLE>

    หวัดดี
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 15-7-52 -1.JPG
      15-7-52 -1.JPG
      ขนาดไฟล์:
      257.4 KB
      เปิดดู:
      37
    • 15-7-52 -2.JPG
      15-7-52 -2.JPG
      ขนาดไฟล์:
      173.7 KB
      เปิดดู:
      30
  2. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>“3 ไม่ 4 มี”พร้อม “บัญญัติ 8 ประการ”...เมื่อสามีนอกใจ
    Life & Family - Manager Online
    </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>16 กรกฎาคม 2552 01:17 น.</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=300 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=300>[​IMG] </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>ภาพจากอินเทอร์เน็ต</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE> หากการสร้างครอบครัวให้เป็นสุขเป็นโจทย์ที่ง่ายใครๆก็ทำได้ คงไม่มีปัญหาหรือเหตุแห่งการหย่าร้างเป็นแน่ ซึ่งในความเป็นจริงแล้ว ในปัจจุบันนี้ ครอบครัวที่อยู่กันอย่างพร้อมหน้าพร้อมตาม พ่อ แม่ และลูกๆ อาจหายากมากขึ้นกว่าเดิม เมื่อความอดทนของชีวิตคู่ลดลงอย่างเห็นได้ชัด

    ส่วนการที่จะสร้างครอบครัวให้มีความสุขสมบูรณ์ได้นั้น บุคคลที่สำคัญที่สุดก็คือ สามี-ภรรยา หรือพ่อแม่ของลูกๆ เพราะทั้งสองคนจะเป็นผู้ที่มีบทบาทในการสร้างคน สร้างครอบครัว ให้มีบทบาทในทิศทางเดียวกัน

    โดยปัญหาหนึ่งที่มีความสำคัญต่อการสร้างความสุขในครอบครัว ก็คือความขัดแย้งระหว่างสามีภรรยา ซึ่งจะส่งผลกระทบมาที่ตัวลูกและสมาชิกทุกคนในครอบครัว ฉะนั้น จึงควรมาศึกษาและหาทางแก้ปัญหาร่วมกันเพื่อที่จะไม่ให้ความขัดแย้งนี้เกิดขึ้นในครอบครัวได้

    ความขัดแย้งต่างๆ ที่เกิดขึ้นในครอบครัว พอแยกได้ว่ามาจากสาเหตุต่างๆ ดังต่อไปนี้คือ

    </TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=right border=0><TBODY><TR><TD width=5>[​IMG]</TD><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=200 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=200>[​IMG] </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>ภาพจากอินเทอร์เน็ต</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE> 1. “นิสัยและความเคยชินส่วนตัว”

    เป็นสิ่งที่เปลี่ยนแปลงกันยากมาก เพราะเป็นนิสัยติดตัวมานาน เคยปฏิบัติซ้ำๆ มาแล้วในอดีต ถึงแม้จะเปลี่ยนได้ แต่ก็เป็นเพียงชั่วระยะหนึ่งเท่านั้น ฉะนั้นสามีภรรยาจะต้องยอมรับ และทำใจให้ได้แล้วปรับตัวเข้าหากัน ผ่อนสั้นผ่อนยาว ถึงจะอยู่ด้วยกันยืนยาว

    2. “ขาดความตระหนักในบทบาทและหน้าที่”

    สมัยก่อนสามีมีบทบาทเป็นผู้นำ หาเงินเลี้ยงครอบครัว ปัจจุบันสตรีมีบทบาทในการทำงาน หาเงินมาเลี้ยงดูครอบครัวเช่นกัน แต่สตรีก็ยังต้องมารับผิดชอบงานในบ้าน และอบรมสั่งสอนบุตรธิดาอีก จึงทำให้บางครั้งภรรยารู้สึกหงุดหงิด และจุกจิกจู้จี้ไปบ้าง ทำให้เกิดความขัดแย้งได้

    และสามีบางคนก็ไม่รับผิดชอบหน้าที่ของตนเอง คอยตำหนิ ดุด่าภรรยาว่าไม่อบรมเลี้ยงดูบุตร ทั้งๆ ที่งานอบรมเลี้ยงดูบุตรก็เป็นหน้าที่โดยตรงของทั้งพ่อและแม่ ฉะนั้น ทั้งสองคนต้องช่วยเหลือกันในการอบรมเลี้ยงดูบุตร ตลอดจนการงานในบ้านที่ต้องช่วยเหลือซึ่งกันและกัน

    3. “ไม่มีเวลาให้กันและกัน”

    เนื่องมาจากต่างฝ่ายต่างมีภารกิจต้องทำงาน บางทีก็แยกกันอยู่ ทำให้ไม่มีเวลาพูดคุย รับรู้สารทุกข์สุกดิบของกันและกัน ครอบครัวจึงควรมีวันแห่งครอบครัว สัปดาห์ละ 1 วัน หรือแล้วแต่ตกลงกัน มีเวลาอยู่พร้อมหน้ากัน พ่อ แม่ ลูก มีกิจกรรมร่วมกัน

    4. “ใช้ความรุนแรงตัดสินปัญหาในครอบครัว”

    การทะเลาะ ดุด่า ข่มขู่ จนกระทั่งลงมือตบตีกัน นับเป็นทางออกที่เรียกได้ว่าเป็นการลงมือ ลงแรง โดยปราศจากสติปัญญา ซึ่งส่วนใหญ่เกิดจากการพูดยั่วยุของฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง ทำให้อีกฝ่ายโกรธจนทนไม่ได้ ลงมือทำร้าย เพื่อระงับเหตุ

    </TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=left border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=250 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=250>[​IMG] </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>ภาพจากอินเทอร์เน็ต</TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD width=5>[​IMG]</TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE> 5. “ไม่ซื่อสัตย์”

    การนอกใจกันของสามีหรือภรรยา นับเป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้หลายครอบครัวพังมาแล้วนับไม่ถ้วน

    และเมื่อทราบถึงสาเหตุของการนำไปสู่ความแตกร้าวในครอบครัว เราลองมาดูแนวทางการแก้ไขกันบ้าง

    1. “ไม่ควรพูดยั่วยุ” เพราะการพูดจายั่วโมโหใส่กันนอกจากจะทำให้อีกฝ่ายไม่พอใจแล้ว ยังทำให้คุณค่าในตัวเองลดน้อยลงไปด้วย

    2. “ตั้งกติกาครอบครัว” เช่น ไม่โกรธกันนานเกิน 1 อาทิตย์ ผู้ใดเป็นฝ่ายผิดต้องขอโทษก่อน และอีกฝ่ายต้องรีบให้อภัย และไม่ทำให้อีกฝ่ายหนึ่งรู้สึกเสียหน้า

    3. “หลีกเลี่ยงการเผชิญหน้า”ถ้าทนไม่ไหวต่อการยั่วยุจริงๆ ให้หลีกเลี่ยงการลงไม้ลงมือ โดยการเดินหนีไปสักระยะหนึ่ง เมื่อหายโกรธค่อยกลับมา

    4. “ไว้ใจซึ่งกันและกัน” เมื่อเรื่องเพศเป็นเรื่องธรรมดาของชีวิตคู่ จึงต้องมีความเข้าใจกัน และร่วมมือร่วมใจกันเพื่อความสุขของทั้งสองฝ่าย

    ดังนั้นความไม่เข้าใจกัน มีความระแวง สงสัย ไม่ไว้วางใจกันและกัน แสดงตนเป็นเจ้าเข้าเจ้าของ จู้จี้บ่นมากเกินไป อาจบั่นทอนความสุขในชีวิตครอบครัวได้

    อย่างไรก็ดี นอกจากสาเหตุและแนวทางแก้ไขที่กล่าวมาข้างต้นนั้น ยังมีเคล็ดลับ 3 ไม่ 4 มี เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันให้คนในครอบครัวดังนี้ คือ

    </TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=right border=0><TBODY><TR><TD width=5>[​IMG]</TD><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=230 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=230>[​IMG] </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>ภาพจากอินเทอร์เน็ต</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE> 3 ไม่

    1. ไม่จุกจิก จู้จี้

    2. ไม่เป็นเจ้าของหัวใจ

    3. ไม่ตำหนิติเตียน

    4 มี

    1. ยกย่องให้เกียรติ

    2. เอาอกเอาใจยามป่วยไข้ควรดูแล

    3. วาจาสุภาพอ่อนโยน

    4. มีความรู้เรื่องเพศ

    และหากสามีนอกใจภรรยา สิ่งที่ผู้หญิงควรคำนึงถึงคือ ปัญญัติ 8 ประการ เมื่อสามีนอกใจ ดังนี้

    1. หาความรู้เรื่องเพศ

    2. ไม่ตัดสินใจหย่าง่ายๆ

    3. ไม่แก้แค้นแบบเกลือจิ้มเกลือ

    4. ไม่แก้แค้นแบบไม่ให้สามีนอนด้วย

    5. ไม่แก้แค้นโดยคาดคั้นให้สามียอมรับ

    6. ไม่สืบสวนโดยจ้างทนายสืบ

    7. ไม่โพนทะนา

    อย่างไรก็ดี หากคนในครอบครัวมีปัญหากัน ไม่ว่าจะเป็นสามีภรรยา หรือสมาชิกคนอื่นๆ ไม่ควรปล่อยทิ้งไว้ให้มันค้างคาจนกลายเป็นปัญหาที่รุกรามเพราะความไม่เข้าใจกัน

    ทุกคนควรหันหน้าเข้าพูดจากัน หาวิธีแก้ไขปัญหาร่วมกันไม่ผลักภาระความรับผิดชอบให้ฝ่ายหนึ่งรับผิดชอบ สื่อสารด้วยวาจาสุภาพอ่อนโยน ไม่ใช้อารมณ์ในการแก้ปัญหาแล้วความขัดแย้งต่างๆ จะคลี่คลายไปในทางที่ดีขึ้น เพราะอย่าลืมว่า คงไม่มีใครคนไหนจะมีความสุขได้ถ้าคนในบ้านไม่รักกัน

    เรียบเรียงข้อมูลจาก มูลนิธิเครือข่ายครอบครัว
    ที่มา: โรงพยาบาลพระศรีมหาโพธิ์ กรมสุขภาพจิต
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  3. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    อย.รุดตรวจเจลล้างมือ แนะใช้สบู่ก็ฆ่าเชื้อโรคได้ ถ้าล้างมือถูกวิธี

    ไข้หวัด2009 อย.ตรวจ เจลล้างมือ ปลอม


    [​IMG]


    อย.รุดตรวจเจลล้างมือ แนะใช้สบู่ก็ฆ่าเชื้อโรคได้ ถ้าล้างมือถูกวิธี พร้อมสร้างงาน สร้างอาชีพ กลุ่มแม่บ้านโอทอป ผลิตหน้ากากอนามัยที่ได้คุณภาพ (กองพัฒนาศักยภาพผู้บริโภค อย.)

    อย.รุดตรวจเจลล้างมือทั้งในและนอกห้างสรรพสินค้า พบมีจำหน่ายนับสิบยี่ห้อ เก็บตัวอย่างตรวจสอบมาตรฐานการผลิตกับผู้ผลิตต่อไป โดยพบ 2 ผลิตภัณฑ์ไม่มีฉลากภาษาไทย ได้แก่ Bath & Body Works กลิ่น Japanese Cherry Blossom และกลิ่น Midnight Pomegranate ซึ่งนำเข้าจากประเทศสหรัฐอเมริกา ตรวจพบไม่มีฉลากภาษาไทย แนะใช้สบู่ล้างมือให้สะอาดก็สามารถฆ่าเชื้อโรคได้ และเพื่อช่วยสนับสนุนให้ชาวบ้านได้เข้าถึงการใช้หน้ากากอนามัยในการป้องกันตนเองจากไข้หวัดใหญ่ 2009 หรือป้องกันการแพร่เชื้อ เตรียมจัดอบรมส่งเสริมอาชีพ สร้างงาน สร้างรายได้ ให้กลุ่มแม่บ้านโอทอปผลิตหน้ากากอนามัย เพื่อใช้เองและส่วนหนึ่งสามารถนำมาจำหน่าย เพื่อให้หาซื้อได้ง่ายขึ้น ในช่วงที่มีความต้องการสูงขณะนี้ กระจายให้ทั่วถึง ทั้งในกรุงเทพและต่างจังหวัด หวังประชาชนทุกคนมีหน้ากากอนามัยสวมเพื่อป้องกันการติดเชื้อไข้หวัดใหญ่ 2009

    นายแพทย์พิพัฒน์ ยิ่งเสรี เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา เปิดเผยว่า จากปัญหาไข้หวัดใหญ่ 2009 ทำให้มีพ่อค้าหัวใสผลิตเจลแอลกอฮอล์ปลอมออกมาวางขายตามท้องตลาด และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขได้สั่งการให้สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ออกตรวจสอบเจลล้างมือในท้องตลาดนั้น

    ในวันนี้ (14 ก.ค.52) อย. ได้ส่งเจ้าหน้าที่กลุ่มควบคุมเครื่องสำอางออกตรวจสอบการจำหน่ายเจลล้างมือทั้งในและนอกห้างสรรพสินค้า ซึ่งมีการจำหน่ายอยู่นับสิบยี่ห้อ จากการตรวจสอบปรากฏว่า พบ 2 ผลิตภัณฑ์ ได้แก่ Bath &Body Works กลิ่น Japanese Cherry Blossom และกลิ่น Midnight Pomegranate ซึ่งนำเข้าจากประเทศสหรัฐอเมริกา ไม่มีฉลากภาษาไทย ซึ่งจะได้ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป อย่างไรก็ตาม อย. ได้เก็บตัวอย่างผลิตภัณฑ์มาตรวจสอบข้อมูลว่า ตรงตามที่มีการจดแจ้งไว้หรือไม่ ซึ่งจะได้ติดตามไปยังผู้ผลิตว่ามีการผลิตอย่างมีคุณภาพมาตรฐานหรือไม่ต่อไป

    ทั้งนี้ ผู้บริโภคก่อนจะซื้อผลิตภัณฑ์ล้างมือในรูปแบบเจลหรือแบบสเปรย์ ควรสังเกตฉลากภาษาไทย แสดงชื่อผลิตภัณฑ์ สารที่ใช้เป็นส่วนผสม ชื่อและที่ตั้งผู้ผลิตหรือผู้นำเข้า วันเดือนปีที่ผลิต วิธีใช้และปริมาณสุทธิ โดยเลือกซื้อจากร้านค้าที่มีหลักแหล่งแน่นอนเชื่อถือได้ เพราะหากมีปัญหาสามารถติดต่อหาผู้รับผิดชอบได้ อย่างไรก็ตาม การล้างมือไม่จำเป็นต้องใช้น้ำยาฆ่าเชื้อโรค เพียงแค่ใช้สบู่กับน้ำสะอาด ล้างอย่างถูกวิธีตามขั้นตอน อย่างน้อยนาน 15 - 20 วินาที ก็จะสามารถลดการติดเชื้อได้อย่างดีมากแล้ว

    เลขาธิการ อย. กล่าวต่อไปว่า จากการที่มีการรณรงค์ให้ประชาชนป้องกันตนเองและไม่ให้มีการแพร่เชื้อ โดยการสวมหน้ากากอนามัยมากขึ้นนั้น อย. มีแนวคิดที่จะส่งเสริมการผลิตหน้ากากอนามัย เพื่อให้ประชาชนทั้งในกรุงเทพและต่างจังหวัดได้เข้าถึงการใช้หน้ากากอนามัย และหาซื้อได้ง่ายขึ้นในราคาที่ไม่แพง โดยการสนับสนุนส่งเสริมวิสาหกิจชุมชน ด้วยการสร้างงาน สร้างอาชีพ ให้แก่กลุ่มแม่บ้านโอทอป หันมาผลิตหน้ากากอนามัยที่ถูกหลักอนามัยได้มาตรฐานตามเกณฑ์เครื่องมือแพทย์ โดยในเร็ววันนี้ อย. จะจัดประชุมเชิงปฏิบัติการให้แก่แม่บ้าน ชุมชนทั่วประเทศ จำนวน 2 รุ่น ให้รู้วิธีการผลิตหน้ากากอนามัยที่ได้มาตรฐาน สามารถผลิตเพื่อใช้ป้องกันตนเองและใช้เองในชุมชน รวมทั้งเพื่อการป้องกันการแพร่เชื้อไปสู่ผู้อื่น

    เลขาธิการ อย. กล่าวในตอนท้ายว่า ขอปลุกจิตสำนึกให้แก่ประชาชนป้องกันมิให้ตนเองติดเชื้อได้ หรือมิให้แพร่เชื้อให้แก่ผู้อื่นในกรณีเป็นไข้หวัดใหญ่ 2009 ด้วยการสวมหน้ากากอนามัย และขอให้สร้างสุขนิสัยใหม่โดยไม่ใช้มือสัมผัสหน้าตา เช่น ขยี้ตา จมูก ปาก เป็นต้น และยึดถือหลัก กินร้อน ใช้ช้อนกลาง และหมั่นล้างมือบ่อยๆ รักษาสุขภาพให้แข็งแรง และสวมหน้ากากอนามัยเมื่ออยู่ในที่ชุมชนแออัด เพียงเท่านี้ก็จะช่วยมิให้ได้รับเชื้อไข้หวัดใหญ่ 2009 ได้ทางหนึ่ง


    ขอขอบคุณข้อมูลจาก
    กองพัฒนาศักยภาพผู้บริโภค องค์การอาหารและยา 14 กรกฎาคม 2552
     
  4. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    ตะลึง!ใช้มือถือ ถูกเอาข้อมูลส่วนตัวไปขาย

    ตะลึง!ใช้มือถือ ถูกเอาข้อมูลส่วนตัวไปขาย

    เจอแล้ว30ล้านเลขหมาย เหตุส่ง"เอสเอ็มเอส"กวน ตื๊อทำประกัน-เร่งกม.คุม

    พบขายข้อมูลส่วนตัวของผู้ใช้โทรศัพทม์มือถือมากถึง 30 ล้านเลขหมาย ชี้กทช.มีบทลงโทษฟันผู้ขายและโอเปอเรเตอร์ที่โทร.เข้ามา กก.คุ้มครองผู้บริโภค เรียก 3 บิ๊กมือถือคุยแก้"เอสเอ็มเอส-โฆษณา"ขยะ เปิดสายด่วน 1186 แจ้งเลิกฮัลโหลขายประกัน จับ สคบ.-ผอ.ทีวีทุกช่อง-สมาคมโฆษณาถกคุมเข้ม"โฆษณาแฝง-เกินเวลา"

    นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงผลการประชุมคณะกรรมการผู้บริโภค (คคบ.) ครั้งที่ 5/2552 ที่ทำเนียบรัฐบาล เมื่อวันที่ 15 กรกฎาคม ว่า ที่ประชุมได้พิจารณาความเดือดร้อนของประชาชน ที่เกี่ยวข้องกับการโฆษณารวม 3 เรื่อง 1.การส่งเอสเอ็มเอส (ข้อความสั้น) โฆษณาเข้าโทรศัพท์มือถือของประชาชนทั่วไป ที่ประชุมเชิญผู้ให้บริการโทรศัพท์มือถือมาร่วมประชุมด้วย และมีมติว่า ผู้ใช้บริการโทรศัพท์มือถือของบริษัทใด หากไม่ต้องการรับเอสเอ็มเอสโฆษณาอีกให้โทรศัพท์ไประงับที่คอลล์เซ็นเตอร์ของบริษัทนั้นๆ โดยสัปดาห์หน้าสำนักงานคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) จะนัดผู้ให้บริการโทรศัพท์มือถือ ทั้งเอไอเอส ดีแทค ทรู และฮัทช์ มาพูดคุยอย่างเป็นทางการ เชื่อว่าน่าจะสามารถแก้ปัญหาเอสเอ็มเอสโฆษณาได้ระดับหนึ่ง เพราะผู้ส่งต้องลงทะเบียนกับผู้ให้บริการด้วย อย่างไรก็ตาม ยังมีปัญหากรณีที่ผู้ส่งโฆษณาส่งเอสเอ็มเอสข้ามเครือข่าย ซึ่งเรื่องนี้ทางผู้ให้บริการโทรศัพท์มือถือแจ้งว่า ได้ร่วมมือกันพัฒนาโปรแกรมแอนตี้สแปม (ต่อต้านไฟล์ขยะ) ขึ้นมา คาดว่าจะสามารถใช้ได้ต้นเดือนสิงหาคมนี้

    นายสาทิตย์กล่าวว่า 2.การขายประกันผ่านโทรศัพท์ ทั้งโทรศัพท์บ้านและมือถือ ทางคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) แจ้งว่า ประชาชนที่รู้สึกเดือดร้อนรำคาญให้โทรศัพท์ไปที่หมายเลข 1186 พร้อมแจ้งหมายเลขที่ไม่ต้องให้โทรศัพท์มาขายประกันอีก ทั้งนี้ กำชับให้ สคบ.และกรมการประกันภัย เร่งประชาสัมพันธ์ต่อประชาชน ซึ่ง คปภ.ระบุว่า มีระเบียบออกมาตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2552 ว่า ผู้ขายกรมธรรม์จะต้องแจ้งชื่อและหมายเลขโทรศัพท์ที่สามารถติดต่อได้ และผู้รับโทรศัพท์สามารถปฏิเสธ ทำให้ผู้ขายไม่สามารถโทรศัพท์มาหาได้อีกเป็นเวลาอย่างน้อย 6 เดือน แต่คนไม่ค่อยทราบ จึงกำชับให้ คปภ.เร่งประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับระเบียบดังกล่าว

    "ส่วนข้อสงสัยว่าทั้งผู้ส่งเอสเอ็มเอสและขายประกันผ่านโทรศัพท์ นำเบอร์โทรศัพท์มาจากไหน เท่าที่ทราบมีทั้งได้มาอย่างถูกต้อง คือการไปกรอกเอกสารตามงานแสดงสินค้าต่างๆ และได้มาอย่างไม่ถูกต้อง เช่น ขายข้อมูลระหว่างกัน จากข้อมูลเชิงลึกพบว่า มีขายข้อมูลกันกว่า 30 ล้านหมายเลข เรื่องนี้คณะกรรมการกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กทช.) มีบทลงโทษ ทั้งผู้ที่ขายข้อมูลและโอเปอเรเตอร์ที่โทรศัพท์เข้ามา ประชาชนที่เดือดร้อนสามารถโทรศัพท์แจ้ง กทช.ได้ ขณะที่รัฐบาลจะเร่งผลักดันร่าง พ.ร.บ.คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่จะเข้าสู่การประชุมสภาผู้แทนราษฎร สมัยนิติบัญญัตินี้ให้ออกมาให้เร็วที่สุด" นายสาทิตย์กล่าว

    นายสาทิตย์กล่าวว่า 3.การโฆษณาทางโทรทัศน์ ทั้งโฆษณาเกินเวลาและโฆษณาแฝง เดิมเคยมีระเบียบกรมประชาสัมพันธ์โฆษณาได้ชั่วโมงละไม่เกิน 12 นาที มีการตั้งคณะกรรมการบริหารวิทยุกระจายเสียงและวิทยุโทรทัศน์ (กบว.) ขึ้นมาดูแล แต่ภายหลังรัฐธรรมนูญ 2540 ได้ตัดอำนาจทิ้ง ปัจจุบันจึงไม่มีกฎหมายหรือหน่วยงานใดมาคุ้มครองการโฆษณาโดยโทรทัศน์ แต่เป็นเรื่องที่ทางสถานีโทรทัศน์ร่วมกับสมาคมโฆษณาตั้งคณะกรรมการขึ้นมาดูแลกันเอง และพยายามควบคุมให้อยู่ที่ 12 นาที ซึ่งนายวิทวัส ชัยปราณี นายกสมาคมธุรกิจโฆษณาไทย ยอมรับว่ามีการตั้งคณะกรรมการขึ้นมาเซ็นเซอร์กันเอง แต่ก็ยังมีการโฆษณาเกินอยู่ เบื้องต้นจะให้ สคบ.เชิญผู้อำนวยการสถานีโทรทัศน์แต่ละแห่งและสมาคมโฆษณามาพูดคุยเพื่อขอความร่วมมือ ส่วนระยะถัดไปคือ การเร่งรัดให้ออกกฎหมายตั้งองค์จัดสรรคลื่นความถี่เพื่อตั้งหน่วยงานมาดูแลโดยเฉพาะ

    "เวลานี้โฆษณาแฝง ที่มาทุกรูปแบบทั้งในเกมโชว์ ละคร ทีวี ที่ประชุมพบว่าไม่มีหลักเกณฑ์ขึ้นมาดูแล จึงขอให้ สคบ.จัดประชุมร่วมกับผู้อำนวยการสถานีโทรทัศน์และสมาคมโฆษณา เพื่อหาหลักเกณฑ์กลางในการควบคุมโฆษณาแฝง ก่อนเสนอเข้าสู่ที่ประชุม คคบ.ครั้งต่อไปในเดือนสิงหาคม" นายสาทิตย์กล่าว


    ขอขอบคุณข้อมูลจาก มติชน
    [​IMG]
     
  5. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>คุณ “ฟิต” แค่ไหน? รีเช็กง่ายๆ ด้วยตัวเอง
    Quality of Life - Manager Online
    </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>16 กรกฎาคม 2552 07:59 น.</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=455 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=455>[​IMG] </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE> จนถึงวันนี้ (15 ก.ค.) ยอดผู้เสียชีวิตจากโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 ยังคงพุ่งสูงอย่างต่อเนื่อง แทบไม่มีวันไหนในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาที่ไม่มีรายงานการขึ้นทะเบียนผู้เสียชีวิต เช่นเดียวกับยอดผู้ติดเชื้อที่ตัวเลขทะยานไต่ระดับเลยสี่พันรายไปเรียบร้อยแล้ว และยังไม่มีทีท่าว่าหน่วยงานที่รับผิดชอบอย่าง “กระทรวงสาธารณสุข” จะสามารถทำให้สถานการณ์ดังกล่าวดีขึ้นได้เลย

    ดังนั้น ประชาชนตาดำๆ อย่างเราๆ ท่านๆ เห็นทีจะรอนโยบายการควบคุมการระบาดของ ฯพณฯ ทั้งหลายกันไม่ไหวแน่ ดีที่สุดในขณะนี้ที่ทำได้ ก็คือ การป้องกันตัวเองให้ห่างไกลเจ้าโรคระบาดรุนแรงนี้ให้ได้มากที่สุด ซึ่งหนทางที่ดีหนทางหนึ่งคือการสร้างภูมิคุ้มกันให้แก่ร่างกายของเรา ด้วยการออกกำลังกาย

    สุรศักดิ์ เกิดจันทึก หัวหน้างานทดสอบและส่งเสริมสมรรถภาพการกีฬา กองสมรรถภาพการกีฬา ศูนย์วิทยาศาสตร์การกีฬา กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ให้ข้อมูลถึงประโยชน์ของการออกกำลังกายในเชิงวิทยาศาสตร์สุขภาพ ว่า การออกกำลังกายจะทำให้ช่วยเพิ่มปริมาณของเม็ดเลือด ทั้งเม็ดเลือดขาวและเม็ดเลือดแดง ซึ่งเม็ดเลือดนี้จะมีส่วนในการสร้างภูมิคุ้มกันให้ร่างกาย ทำให้ไม่อ่อนแอและไม่เจ็บป่วยง่าย และในทางตรงข้าม สำหรับผู้ที่ไม่ค่อยได้ออกกำลังกาย ร่างกายจะไม่แข็งแรง เมื่อเจอเชื้อโรคก็จะเข้าสู่ร่างกายง่าย อากาศเปลี่ยนก็จะมีอาการเจ็บป่วยง่ายกว่า

    “การออกกำลังกาย เราจะรู้สึกเหนื่อย ก็จะสูดเอาออกซิเจนเข้าไปมากขึ้น การสร้างเม็ดเลือดก็เพิ่มขึ้น ปอดก็จะขยายมากขึ้น ปอดแข็งแรง หัวใจก็จะสูบฉีดเลือดมากขึ้น หัวใจก็จะแข็งแรง”

    </TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=250 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=250>[​IMG] </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE> สำหรับผู้ที่ออกกำลังกายเป็นประจำหรือเริ่มต้นใส่ใจสุขภาพด้วยการเริ่มต้นออกกำลังกายบ้างแล้ว สุรศักดิ์ก็มีวิธีการเช็คร่างกายแบบง่ายๆ ว่า ร่างกายของเรานั้น ฟิตหรือไม่ฟิตหรือไม่อย่างไร และควรทำอย่างไรหากยังไม่ฟิตพอ

    “ประการแรกที่ดูได้เลยนะครับคือสัดส่วน ไม่ควรจะอ้วนเกินไปหรือผอมเกินไป หรือถ้าจะให้ชัดเจนก็วัดด้วยการหาดัชนีมวลกาย BMI หรือวัดด้วยสายวัด โดยวัดบริเวณรอบเอวและรอบสะโพก แล้วเอาผลวัดสะโพกหารด้วยผลวัดเอว ผู้ชายไม่ควรจะได้เกิน 1 และผู้หญิงไม่ควรจะได้เกิน 0.85 ถ้าเกินว่าถืออ้วน”

    “ต่อมาคือความแข็งแรงอดทนของกล้ามเนื้อ ว่า เราออกกำลังกายได้นานไหม เราเคลื่อนไหวได้รวดเร็วหรือไม่ อย่างที่สามคือความยืดหยุ่น วิธีการเช็คความยืดหยุ่นง่ายๆ คือเหยียดขาตรงแล้วก้มลงแตะข้อเท้า ส่วนกล้ามเนื้อส่วนบนให้ทดสอบด้วยการยกมือหนึ่งข้ามไหล่ไปด้านหลังและอีกมือหนึ่งอ้อมด้านหลังไป ให้มือสองข้างแตะกันได้ ถ้าแตะได้จึงจะถือว่าร่างกายมีความยืดหยุ่น”

    หัวหน้างานทดสอบ ยังได้แนะวิธีรีเช็กความฟิตของร่างกายด้วยการออกกำลังกายง่ายๆ ต่อไปอีกว่า เราสามารถเช็กความสมบูรณ์แข็งแรงของร่างกายได้ด้วยการวิดพื้น หากเป็นชายให้วิดโดยเหยียดขาใช้ปลายเท้าดัน แต่ผู้หญิงใช้วิธีคุกเข่าวิดพื้น โดยใน 1 นาที ไม่ควรจะได้ต่ำกว่า 30 ครั้งทั้งในเพศชายและเพศหญิง

    </TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=400 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=400>[​IMG] </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE> อีกวิธีหนึ่งคือ การก้าวขึ้นและก้าวถอยหลังลงจากพื้น หรือขั้นบันไดที่สูงต่างระดับกันประมาณ 1 ฟุต ต่อเนื่องกัน 3 นาที เสร็จแล้ววัดชีพจร ซึ่งชีพจรควรจะอยู่ที่ประมาณ 120-130 ครั้งต่อนาที หากสูงกว่านี้ถือว่าหัวใจไม่ฟิต

    ส่วนวิธีการวัดกล้ามเนื้อลำตัวว่าแข็งแรงหรือไม่ ให้ลองนอนหงายและซิต-อัปดู หากไม่ขึ้นแสดงว่ากล้ามเนื้อลำตัวต้องการการพัฒนาให้แข็งแรงอย่างรีบด่วน

    ขณะที่ในผู้สูงอายุหรือผู้ที่ไม่สามารถออกกำลังกายหนักๆ ได้ก็มีวิธีวัดความฟิตเฟิร์มเช่นกัน วิธีการก็ง่ายๆ โดยมี “เก้าอี้” เป็นอุปกรณ์ช่วย วิธีการก็คือ นั่งบนเก้าอี้ และลุกขึ้นยืน และนั่งลงสลับกันอย่างต่อเนื่อง หากได้ถึง 30 ครั้งโดยไม่หยุดเลย ถือว่าร่างกายฟิต

    “ส่วนผู้ที่เช็กแล้วพบว่าตัวเองไม่ฟิตก็ไม่ต้องตกใจ เพียงปรับพฤติกรรมการใช้ชีวิต สละเวลาแค่ 15-30 นาทีต่อวันมาออกกำลังกาย อย่างน้อยสัปดาห์ละ 3 ครั้ง แต่ละครั้งเพื่อเตรียมความพร้อมให้ร่างกายก่อนการออกกำลังกาย ความวอร์มอัปอุ่นเครื่องร่างกายเสียก่อน ด้วยการยืดเหยียดกล้ามเนื้อแขนขา สะบัดและเหวี่ยงข้อต่อต่างๆ สัก 5-10 นาที”

    “เมื่อออกกำลังเสร็จก็ควรคูลดาวน์ร่างกายเพื่อให้ร่างกายค่อยๆ เย็นลง และเป็นการไล่กรดแลคติกซึ่งเป็นของเสียที่เกิดจากขบวนการ anaerobic metabolism กรดแลคติกเป็นสาเหตุของการปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ และการวอร์มอัพและคูลดาวน์จะช่วยกำจัดมันไปได้”

    เพียงเท่านี้ ความฟิตและความเฟิร์มก็จะมาเยือนสุขภาพร่างกายของคุณแบบไม่มีเงื่อนไข แต่อย่างไรก็ดี สุรศักดิ์ได้ทิ้งท้ายว่า แม้การออกกำลังกายจะช่วยให้แข็งแรง แต่การทำตามคำแนะนำของกระทรวงสาธารณสุขก็สำคัญ ดังนั้นสิ่งที่ต้องทำควบคู่ไปด้วยอย่างเคร่งครัดก็คือ การสวมหน้ากากอนามัยทุกครั้งเมื่อออกจากบ้านไปอยู่ในที่ชุมชนที่อากาศถ่ายเทไม่สะดวก และการล้างมือบ่อยๆ

    “และหากคุณทำตามคำแนะนำของกระทรวงฯ บวกกันกับการใส่ใจสุขภาพโดยการหมั่นออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ คุณก็จะลดความเสี่ยงในการติดหวัด 2009 ลงไปได้มากทีเดียวครับ” สุรศักดิ์ สรุปทิ้งท้าย
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  6. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>แฉเด็กแห่ซื้อบัตร ปชช.-ใบขับขี่ปลอมสูง 7 พันบาท มั่วแนวเข้าผับ-กินเหล้า
    Quality of Life - Manager Online
    </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>16 กรกฎาคม 2552 12:07 น.</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=300 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=300>[​IMG] </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>ภาพประกอบข่าวจากอินเทอร์เน็ต</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE> แฉนักศึกษาแห่ซื้อบัตรประชาชน-ใบขับขี่ปลอม ใบละ 5-7 พันบาท เข้าผับ บาร์ กินเหล้า “มานิต” จี้ มท.1 ตรวจสอบขบวนการปลอมแปลง สั่งมหาวิทยาลัยทั่วประเทศ ทำโซนนิงร้านเหล้า เตรียมล่อซื้อ ตรวจจับ หากพบทำผิด ก.คลัง จ่อยึดใบอนุญาตขายสุราทันที พร้อมขึ้นบัญชีดำ ไม่ให้ใบอนุญาตอีก

    นายมานิต นพอมรบดี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า ขณะนี้พบว่ามีขบวนการลักลอบทำบัตรประจำตัวประชาชนและใบอนุญาตขับขี่รถยนต์ปลอมแปลงจำนวนมาก โดยขายในราคา ใบละ 5,000-7,000 บาท ซึ่งมีนักศึกษาจำนวนมากที่ซื้อบัตรประจำตัวประชาชนปลอม เพื่อเข้าไปใช้บริการในสถานบันเทิงต่างๆ และซื้อเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ซึ่งกฎหมายจำกัดอายุผู้ซื้อต้องอายุ 20 ปีขึ้นไป จึงจะเข้าไปใช้บริการได้ โดยแหล่งที่ขายบัตรปลอมเหล่านี้ส่วนใหญ่อยู่ในย่านแหล่งท่องเที่ยวในกรุงเทพฯ เช่น ถ.ข้างสาร เป็นต้น ซึ่งเรื่องนี้ตนได้รายงานให้นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย รับทราบแล้ว ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบ

    “สำหรับร้านเหล้ารอบมหาวิทยาลัยนั้น ได้มอบหมายให้ผู้บริหารมหาวิทยาลัยทุกแห่งทั่วประเทศ ดำเนินการตรวจสอบพื้นที่รอบมหาวิทยาลัยของตนเอง เพื่อจัดทำแผนที่และโซนนิงควบคุมร้านเหล้า ผับ บาร์ รวมถึงร้านสะดวกซื้อที่อยู่บริเวณหน้ามหาวิทยาลัย เพื่อให้ทราบว่ามีร้านจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์กี่แห่ง ที่ใดบ้าง ซึ่งจะควบคุมเป็นช่วงถนนแทนรัศมี 500 เมตร รอบมหาวิทยาลัยแทน โดยให้จัดทำให้แล้วเสร็จภายในเดือนกรกฎาคมนี้ เพื่อนำเข้าที่ประชุมคณะทำงานที่มีผมเป็นประธาน โดยจะประชุมเพื่อวางกรอบการควบคุมร้านเหล้ารอบมหาวิทยาลัยในช่วงต้นเดือนสิงหาคมนี้” นายมานิต กล่าว

    นายมานิต กล่าวว่า เบื้องต้นการจัดโซนนิงจะควบคุมให้ร้านเหล้า ผับ บาร์ ที่อยู่ในโซนนิงรอบมหาวิทยาลัยยังไม่ยกเลิกหรือห้ามขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์อย่างเด็ดขาด แต่จะควบคุมไม่ให้มีร้านเหล้าเพิ่มจำนวนมากขึ้น ส่วนร้านที่มีอยู่เดิมให้ปฏิบัติตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกฉบับอย่างเคร่งครัด โดย สธ.จะร่วมกับกระทรวงการคลัง ตำรวจ สุ่มตรวจเป็นประจำ รวมถึงการล่อซื้อด้วย หากพบว่าทำผิดกฎหมาย เช่น จัดโปรโมชั่น ขายเหล้าให้กับผู้มีอายุไม่ถึง 20 ปีบริบูรณ์ ขายนอกเวลา เป็นต้น โดยจะยึดใบอนุญาตจำหน่ายสุราทันที และจะขึ้นบัญชีดำไม่มีการให้ใบอนุญาตจำหน่ายสุราอีก รวมทั้งการจับเปรียบเทียบปรับด้วย

    “จากการลงพื้นที่ตรวจสอบร้านเหล้ารอบมหาวิทยาลัยนำร่อง 2 แห่ง คือ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ รังสิต และมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย พบว่า ยังมีร้านเหล้าเปิดให้บริการหน้ามหาวิทยาลัยจำนวนมาก และมีนักศึกษามาใช้บริการอยู่ ซึ่งฝ่าฝืนกฎหมายที่ห้ามขายเหล้าให้กับผู้ที่อายุไม่ถึง 20 ปีบริบูรณ์ ที่สำคัญ มีการจัดโปรโมชั่นลดราคาด้วย รวมถึงร้านค้าสะดวกซื้อชื่อดังที่มีสาขามากที่สุดในประเทศไทย ซึ่งตั้งอยู่หน้ามหาวิทยาลัย ซึ่งมีเครื่องดื่มแอลกอฮอล์จำหน่ายด้วย ซึ่งนักศึกษาสามารถหาซื้อเหล้า เบียร์ได้อย่างสะดวก” นายมานิต กล่าว
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  7. มูริญโญ่

    มูริญโญ่ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    408
    ค่าพลัง:
    +583
    <TABLE class=tborder id=post2261449 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR vAlign=top><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 0px solid" width=175><!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->sithiphong<!-- google_ad_section_end --><SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_2261449", true); </SCRIPT>
    สมาชิก

    [​IMG]

    วันที่สมัคร: Dec 2005
    ข้อความ: 31,585
    Groans: 109
    Groaned at 106 Times in 58 Posts
    ได้ให้อนุโมทนา: 20,318
    ได้รับอนุโมทนา 207,111 ครั้ง ใน 26,036 โพส
    พลังการให้คะแนน: 14760 [​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG]


    </TD><TD class=alt1 id=td_post_2261449 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid"><!-- google_ad_section_start -->เรียนคุณมูริญโญ่

    ผมยังไม่ได้รับใบสม้ครสมาชิกชมรมรักษ์พระวังหน้า หากว่ายังไม่ได้ส่ง ก็สามารถนำไปส่งได้ในวันประชุม รวมทั้งค่าบำรุงชมรมแรกเข้าด้วย

    แต่หากว่า ไม่แน่ใจในการสมัครสมาชิกชมรมรักษ์พระวังหน้า หรือปัจจุบันไม่ต้องการสมัคร ผมรบกวนให้แจ้งผมด้วยครับ

    ขอบคุณครับ<!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end -->
    __________________
    <!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->คณะหลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดร 1.หลวงปู่พระอุตรเถระเจ้า 2.หลวงปู่พระโสณเถระเจ้า 3.หลวงปู่พระมูนียะเถระเจ้า(หลวงปู่อิเกสาโร)4.หลวงปู่พระฌาณียะเถระเจ้า(หลวงปู่ขรัวขี้เถ้า) 5.หลวงปู่พระภูริยะเถระเจ้า(หลวงปู่หน้าปาน)
    ขอความเมตตาช่วยต่อชีวิตพระเณรบช.ออมทรัพย์ 2030-06304-5 บัญชี รร.พระปริยัติธรรมบ่อเงินบ่อทองบมจ.ธ.กรุงไทย สาขาพนมสารคาม
    ขอเชิญร่วมสร้างพระเจดีย์ศรีชัยผาผึ้ง ณ สำนักสงฆ์ผาผึ้ง อ.บ้านเขว้า จ.ชัยภูมิ บมจ.ธ.กรุงไทย สาขาลาดพร้าว102 บช.ออมทรัพย์เลขที่1890-13128-8 บัญชี นางพิชญ์สินี ชาญปารีสชญา,นายอุเทน งามศิริ,นายสิรเชษฎ์ ลีละสุนทเลิศ
    หลวงปู่โลกอุดร ประวัติหลวงปู่ โลกอุดร"พระวังหน้า อกาลิโก" พระวังหน้า กองทุนผู้ป่วยโรคมะเร็ง<!-- google_ad_section_end -->
    </TD></TR></TBODY></TABLE>
    เรียน คุณ sithiphong ครับ
    ต้องขออภัยมากจริงๆครับเพราะผมติดประชุมมา 3 วันเต็มต้องกราบขออภัยจริงๆครับและที่สำคัญ รหัสที่ผมเข้าที่พลังจิตไม่สามารถเข้าได้ผมเพิ่งได้รหัสใหม่ครับปรกคิที่ผ่านมาก็เลยเข้าตอนกลางคืนแต่ไม่มีชื่อสมาชิกเท่านั้นเองครับ
    เรื่องใบสมัครผมส่งไปให้แล้วตั้งแต่วันนั้นเลยครับแต่สงสัยจะตกหล่นกลางทางครับจึงขอเป็นผมจะพิมพ์แบบฟอร์มและเซ็นชื่อไปให้ในวันอาทิตย์เลยได้มั้ยครับคุณ sithiphong ( แบบฟอร์มของคุณsithiphong นะครับ )
    วันนี้ผมจะลองส่งไปอีกครั้งนะครับ ขอความกรุณาด้วยนะครับ
    อีกอย่างครับผมจะต้องแต่งกายแบบไหนครับต้องเรียนถามตรงๆครับเพราะการที่จะไปในบ้านของผู้อาวุโส ผมกลัวว่าจะเป็นการเสียมารยาทครับเพราะปรกติเวลาไปต่างจังหวัดผมชอบใส่ยีนส์รองเท้าวิ่งครับผม จึงขอความกระจ่างด้วยครับ และผมต้องเตรียมอะไรไปบ้างครับจึงจะเรียบร้อยครับต้องขอความกรุณาจากคุณ sithiphong ด้วยนะครับถือว่าช่วยแนะนำผมด้วยนะครับ
    ส่วนเวลาที่คุยกันไว้ผมคิดว่าคงจะไปประมาณ 9.30 ถึง 10.00 ครับผม
    และถ้าคุณ sithiphong อนุญาตผมพาภรรยาไปด้วยได้ไหมครับถ้าได้คงจะพาไปครับถ้าไม่ได้ผมจะไปคนเดียวครับพอดีเค้าจะกลับจากสวิสเซอร์แลนด์วันเสาร์นี้ตอนเที่ยงพอดี ( บริษัทให้ไปเที่ยว 7 วัน ) เค้าทำงานที่บริษัทเดียวกับผมแต่เค้าอยู่สำนักงานใหญ่ครับ
    จึงเรียนมาเพื่อขอความช่วยเหลือครับ
    *** จากใจจริงครับ ไพบูลย์ พัชราวลัย *****:z1
    <TABLE class=tborder id=post2261449 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR vAlign=top><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 0px solid" width=175>
    </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE class=tborder id=post2261449 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR vAlign=top><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 0px solid" width=175>
    </TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  8. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    ในวันประชุมชมรมรักษ์พระวังหน้า

    จะมีการแจ้งเรื่องของราคาล็อกเก็ตที่จะทำกัน

    พี่สิทธิพรได้ทำตัวอย่างซึ่งมีรูปหลวงปู่อยู่ 9 องค์ คือ หลวงปู่พระอุปคุตเถระเจ้า , หลวงปู่พระอุตรเถระเจ้า ,หลวงปู่พระโสณเถระเจ้า ,หลวงปู่พระมูนียะเถระเจ้า(หลวงปู่อิเกสาโร),หลวงปู่พระฌาณียะเถระเจ้า(หลวงปู่ขรัวขี้เถ้า) ,หลวงปู่พระภูริยะเถระเจ้า(หลวงปู่หน้าปาน) ,หลวงปู่แจ้งฌาณ ,สมเด็จพระพุฒาจารย์โต พรหมรังสี ,หลวงปู่กรมพระราชวังบวรวิชัยชาญ จะมี 2 เกรด คือ เกรด A และ เกรด B

    เกรด A จะมี 3 ราคาก็คือ 800.- , 700.- , 600.-

    แต่ถ้ามีรูปองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าด้วย ผมว่าราคาน่าจะแพงกว่านี้อีกนิดหน่อย

    ผมจะมาสอบถามอีกครั้งนะครับว่า ว่าตกลงแล้วจะทำกันหรือไม่ ถ้าทำต่อ จะจองกันท่านละกี่องค์

    ในวันประชุมชมรมรักษ์พระว้งหน้า จะปรึกษาเรื่องนี้กันอีกครั้งครับ

    โมทนาสาธุครับ
     
  9. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    เรื่องแบบฟอร์มใบสมัคร ผมมีอยู่ในแฟ้มอยู่แล้ว ไปลงนามในใบสมัครที่นั่นได้เลยครับ

    การแต่งกาย ไม่ซีเรียสครับ เว้นแต่กางเกงขาสั้น บางท่านยังใส่กางเกงสามส่วนไปเลยครับ ไม่เป็นไร ผมก็ใส่ยีนส์ เสื้อยืด รองเท้าแตะครับ

    ส่วนเรื่องจะพาภรรยาไปด้วย ก็ไม่เป็นไรอีกเช่นกัน ยินดีครับ จะได้ให้มารู้ว่า คุณมูริญโญ่มาทำอะไร อย่างไร ภรรยาคุณจะได้สบายใจด้วย

    ผมเองเคยพาไปแล้ว แต่ภรรยาผมไม่ชอบเนื่องจากว่า คุยกันแต่เรื่องดูพระ เขาไม่ค่อยชอบครับ
     
  10. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    ลืมบอกไปว่า พื้นหลังของล็อกเก็ต เขาใช้แผ่นทองคำเปลว

    พี่สิทธิพรบอกผมว่า สวยมาก วันประชุมชมรมรักษ์พระวังหน้า พี่เขาจะให้ลูกน้องนำล็อกเก็ตมาให้ผมดู เป็นตัวอย่างในการตัดสินใจครับ

    .
     
  11. nongnooo

    nongnooo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 พฤศจิกายน 2006
    โพสต์:
    4,139
    ค่าพลัง:
    +9,446
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=lotto1>000816</TD><TD class=lotto2>005</TD><TD class=lotto2>177</TD><TD class=lotto2>356</TD><TD class=lotto2>836</TD><TD class=lotto1>94</TD></TR></TBODY></TABLE>


    อ่ะ สำหรับผมคราวนี้ไม่เฉียดเลย หุ หุ
     
  12. psombat

    psombat เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    1,334
    ค่าพลัง:
    +5,431
    ขอบพระคุณที่แจ้งความคืบหน้าครับ ทำทั้งที ผมขอเลือกที่ดีที่สุด(โดยไม่มีเงื่อนไข)เท่าที่จะเป็นไปได้ในจำนวนเท่าเดิมหรือมากกว่าครับ โมทนาสาธุครับผม
     
  13. nongnooo

    nongnooo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 พฤศจิกายน 2006
    โพสต์:
    4,139
    ค่าพลัง:
    +9,446
  14. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
  15. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    อ่า น่าจะเป็นพระฤาษีอธิษฐานจิต หรือเปล่าครับ

    สงสัยต้องนำมาให้ผมแล้วมั้งครับ ผมว่า อยู่กับคุณnongnooo ไม่ดีมั้งครับ แต่ถ้าอยู่กับผม ดีครับ คิคิคิ

    .
     
  16. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    อ้างอิง:
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: 1px inset; BORDER-TOP: 1px inset; BORDER-LEFT: 1px inset; BORDER-BOTTOM: 1px inset">ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ sithiphong [​IMG]
    ในวันประชุมชมรมรักษ์พระวังหน้า

    จะมีการแจ้งเรื่องของราคาล็อกเก็ตที่จะทำกัน

    พี่สิทธิพรได้ทำตัวอย่างซึ่งมีรูปหลวงปู่อยู่ 9 องค์ คือ หลวงปู่พระอุปคุตเถระเจ้า , หลวงปู่พระอุตรเถระเจ้า ,หลวงปู่พระโสณเถระเจ้า ,หลวงปู่พระมูนียะเถระเจ้า(หลวงปู่อิเกสาโร),หลวงปู่พระฌาณียะเถระเจ้า(หลวงปู่ขรัวขี้เถ้า) ,หลวงปู่พระภูริยะเถระเจ้า(หลวงปู่หน้าปาน) ,หลวงปู่แจ้งฌาณ ,สมเด็จพระพุฒาจารย์โต พรหมรังสี ,หลวงปู่กรมพระราชวังบวรวิชัยชาญ จะมี 2 เกรด คือ เกรด A และ เกรด B

    เกรด A จะมี 3 ราคาก็คือ 800.- , 700.- , 600.-

    แต่ถ้ามีรูปองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าด้วย ผมว่าราคาน่าจะแพงกว่านี้อีกนิดหน่อย

    ผมจะมาสอบถามอีกครั้งนะครับว่า ว่าตกลงแล้วจะทำกันหรือไม่ ถ้าทำต่อ จะจองกันท่านละกี่องค์

    ในวันประชุมชมรมรักษ์พระว้งหน้า จะปรึกษาเรื่องนี้กันอีกครั้งครับ

    โมทนาสาธุครับ
    </TD></TR></TBODY></TABLE>

    ผมเองสงสัยต้องลดลงนิดหน่อยครับ

    วันประชุมชมรม จะได้เห็นตัวอย่างกันแน่นอนครับ
     
  17. nongnooo

    nongnooo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 พฤศจิกายน 2006
    โพสต์:
    4,139
    ค่าพลัง:
    +9,446
    อ่ะ อารายกันท่านปาทานที่ระยองไงครับ หุ หุ
     
  18. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
  19. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    สาวปี 4 ติดหวัดเสียชีวิตเป็นรายที่ 26 - สุพร แกนนำ นปช.ก็ติดหวัด

    ไข้หวัด2009 สาวปี 4 เสียชีวิตด้วย ไข้หวัดใหญ่ เป็นรายที่ 26



    [​IMG]


    สรุปประเด็นโดยกระปุกดอทคอม
    ขอขอบคุณภาพประกอบจาก หนังสือพิมพ์คมชัดลึก

    ที่อำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี ทางเจ้าหน้าที่ของสาธารณสุขอำเภอศรีราชา เปิดเผยว่า มีผู้เสียชีวิตจากไข้หวัดสายพันธุ์ใหม่ 2009 อีก 1 ราย เป็นนักศึกษาชั้นปีที่ 4 ของสถาบันการศึกษาชื่อดังแห่งหนึ่งใน อำเภอศรีราชา และนับเป็นรายที่ 4 ของ จังหวัดชลบุรี ที่เสียชีวิตจากโรคนี้ โดยที่เป็นรายที่ 2 ของอำเภอศรีราชา ที่เสียชีวิตด้วยไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 นี้

    ทั้งนี้ ผู้เสียชีวิต น.ส.กาดา นามสมมุติ เป็นนักศึกษาสาว ชั้นปี 4 โดยทางเพื่อนสนิทได้เปิดเผยให้ผู้สื่อข่าวทราบว่า ก่อนที่ น.ส.กาดา จะเสียชีวิตนั้นได้เดินทางไปเที่ยวร้องเพลงที่ร้านคาราโอเกะ ย่านแหลมฉบัง อำเภอศรีราชา ในช่วงวันเสาร์ที่ 20 มิถุนายน ที่ผ่านมากับเพื่อนๆ กลุ่มใหญ่ และในวันที่ 21 มิถุนายน ได้เดินทางไปเที่ยวที่ตลาดน้ำที่พัทยาอีก ซึ่งหลังจากนั้นในวันที่ 22 มิถุนายน ก็เริ่มมีอาการตัวร้อนและเจ็บคอ จึงได้ไปซื้อยามารับประทานเอง แต่ปรากฏว่าอาการไม่ดีขึ้น ทางญาติจึงได้พาตัวไปรักษาที่โรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่งใน อำเภอศรีราชา ตั้งแต่วันที่ 22 มิถุนายน 2552

    หลังจากนั้นก็นอนรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลมาโดยตลอด และอาการก็ทรงตัวมาตลอดโดย ซึ่งแพทย์ได้ใช้เครื่องช่วยหายใจ จนกระทั่งมาเสียชีวิตเมื่อวันที่ 15 กรกฎาคมที่ผ่านมา ในช่วงบ่าย ซึ่งทางญาติผู้ตายก็ได้บอกว่า จริงๆ แล้ว น.ส.กาดา มีโรคประจำตัว เป็นโรคหอบหืด แต่ก็รักษาตัวมาโดยตลอด ซึ่งอาจจะเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ติดเชื้อไข้หวัดใหญ่ 2009 ได้ง่าย และเสียชีวิตลง เพราะที่ผ่านมาพบว่า ผู้ป่วยส่วนใหญ่ที่มีโรคประจำตัว หรือร่างกายไม่แข็งแรง อาจเป็นสาเหตุการเสียชีวิตในครั้งนี้

    สำหรับ น.ส.กาดา อายุ 21 ปี ที่เสียชีวิตจากโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธ์ใหม่ 2009 นี้ เรียนอยู่คณะวิทยาการการจัดการ ปี 4 มหาวิทยาลัยชื่อดังแห่งหนึ่งในอำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี โดยพักอยู่ที่หอพักย่านแหลมฉบัง ซึ่งในการเสียชีวิตครั้งนี้ ได้นำความโศกเศร้ามาสู่ญาติ และคณาจารย์ รวมทั้งเพื่อนร่วมสถาบันการศึกษาเป็นอย่างมาก เนื่องจากผู้ตายเป็นเด็กเรียนดี และขยัน

    นอกจากนี้ ยังมีรายงานว่า นายสุพร อัตถาวงศ์ อดีต ส.ส.นครราชสีมา และเป็นหนึ่งในแกนนำ นปช. ได้ติดโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 เช่นกัน ขณะนี้ได้นอนพักรักษาตัวเป็นวันที่ 4 แล้ว ที่โรงพยาบาลพระราม 9 โดยเจ้าตัวเผยว่า มีอาการไข้ และไอติดต่อกันมา 4 วัน ซึ่งแพทย์วินิจฉัยว่าเป็นหวัด 2009 และถูกกักตัวเพื่อเฝ้าดูอาการ 7 วัน แต่ตั้งใจจะทำเรื่องขอหมอ ไปติดตามอาการต่อนอกโรงพยาบาล เนื่องจากมีค่าใช้จ่ายสูง


    ขอขอบคุณข้อมูลจาก
    [​IMG] [​IMG]
    <!-- / message --><!-- sig -->
     
  20. พุทธันดร

    พุทธันดร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    565
    ค่าพลัง:
    +3,969
    <TABLE class=contentpaneopen><TBODY><TR><TD class=contentheading width="100%">เภสัชกรวิจัยยกระดับ"จันทลีลา" ยาไทยเทียบชั้นพาราเซตามอล </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE class=contentpaneopen><TBODY><TR><TD vAlign=top colSpan=2>[FONT=tahoma,arial,helvetica,sans-serif]<TABLE class=htmtableborders style="WIDTH: 100%" cellSpacing=1 cellPadding=1 border=0><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD><TD>เภสัชกรไทยยึดขั้นตอนการวิจัยวิทยาศาสตร์ ยกระดับยาลดไข้ตำรับแผนโบราณ "จันทลีลา เบญจโลกวิเชียร" เทียบชั้นยาลดไข้แก้ปวด "พาราเซตามอล" เผยผลวิจัยเบื้องต้น ตำรับยาไทยออกฤทธิ์ลดไข้ได้ดี ไม่ทำอันตรายต่อตับ ประกาศรับสมัครอาสาสมัคร 25 คนยืนยันประสิทธิภาพยา คาดกลางปีหน้ารู้ผล [/FONT]
    [FONT=tahoma,arial,helvetica,sans-serif]รศ.ดร.ชยันต์ พิเชียรสุนทร ภาคีสมาชิกสาขาวิชาเภสัชศาสตร์ ประเภทวิชาวิทยาศาสตร์สุขภาพ สำนักวิทยาศาสตร์ ราชบัณฑิตยสถาน กล่าวว่า ทีมวิจัยเพื่อยกระดับยาลดไข้หรือจันทลีลาและเบญจโลกวิเชียร ซึ่งเป็นยาแผนโบราณในบัญชียาหลักแห่งชาติ สำหรับใช้ทดแทนยาแก้ปวดหรือพาราเซตามอล และลดอันตรายต่อตับจากผลข้างเคียงของการใช้ยาระยะยาว "จันทลีลา" เป็นตำรับลดไข้ในเด็กและผู้ใหญ่ ส่วนผสมหลักมาจากสมุนไพรหลายชนิด เช่น จันทน์ขาว จันทน์แดง โกฐสอ ลูกกระดอม บอระเพ็ดและรากปลาไหลเผือก เป็นต้น โดยการวิจัยและพัฒนาดังกล่าว เน้นสร้างมาตรฐานหลัก 3 ด้าน ได้แก่ ประสิทธิผลของยาหลังการผลิต [/FONT][FONT=tahoma,arial,helvetica,sans-serif][/FONT]
    </TD></TR></TBODY></TABLE>
    [FONT=tahoma,arial,helvetica,sans-serif]คุณภาพวัตถุดิบที่นำมาทำเป็นยา และความปลอดภัยของตัวยาหลังการใช้ [/FONT]

    [FONT=tahoma,arial,helvetica,sans-serif]ขณะนี้การวิจัยยาลดไข้ตำรับจันทลีลาได้ดำเนินการเป็นปีที่ 3 และอยู่ระหว่างคัดเลือกอาสาสมัคร 25 คนเพื่อทดสอบยารายปัจจุบันมีผู้ที่ผ่านการคัดเลือกแล้ว 5 คน สำหรับเก็บข้อมูลด้านผลข้างเคียง ความปลอดภัย ความแพ้ที่อาจเกิดขึ้น ตลอดจนฤทธิ์ของยาที่สม่ำเสมอ จากนั้นจะเป็นการทดสอบขั้นตอนต่อไปในอาสาสมัครกลุ่มใหญ่ขึ้น ก่อนที่จะใช้เพื่อการรักษาจริงในอนาคต [/FONT]
    [FONT=tahoma,arial,helvetica,sans-serif]ก่อนหน้านี้ทีมวิจัยนำตำรับยาที่พัฒนาขึ้น ทดสอบในสัตว์ทดลองโดยเปรียบเทียบระหว่างกลุ่มให้ยาพาราเซตามอล กลุ่มไม่ให้ยาพาราเซตามอล และกลุ่มให้ยาลดไข้ที่พัฒนาขึ้น พบว่ายาลดไข้จันทลีลาตำรับที่พัฒนาขึ้นใหม่ ออกฤทธิ์ลดไข้ได้ดีไม่แพ้ยาพาราเซตามอล อีกทั้งไม่มีผลข้างเคียงและการสะสมในตับระยะยาวแต่อย่างใด [/FONT]

    [FONT=tahoma,arial,helvetica,sans-serif]"การพัฒนายารักษาโรคหนึ่งชนิด ระยะแรกยาอาจมีราคาแพง เนื่องจากความต้องการใช้ยังไม่มาก แต่หากภาครัฐให้การสนับสนุนและส่งเสริมการนำไปใช้แพร่หลายยิ่งขึ้น อนาคตก็จะช่วยให้ต้นทุนถูกลง" รศ.ดร.ชยันต์ กล่าว นอกจากยาลดไข้จันทลีลาที่ใกล้จะแล้วเสร็จในกลางปี 2551 แล้ว ทีมวิจัยยังนำยาลดไข้ตำรับเบญจโลกวิเชียร ซึ่งเป็นที่นิยมใช้ในแพทย์แผนไทย มาสร้างมาตรฐานการผลิตด้วยวิธีการอย่างเดียวกัน เป้าหมายเพื่อพัฒนาตำรับยาไทยให้ใช้ได้ถูกต้องตามหลักวิทยาศาสตร์ ทั้งนี้ ตำรับเบญจโลกวิเชียรแตกต่างจากยาลดไข้ตำรับแรกในส่วนของส่วนผสม ที่ใช้รากไม้ 5 ชนิดเป็นสูตรผสมหลัก ได้แก่ รากชิงชี่ รากคนทา รากไม้เท้ายายม่อม รากย่านางและรากมะเดื่ออุทุมพร การวิจัยจะเริ่มก่อนสิ้นปีนี้ โดยใช้วิธีการเดียวกับยาลดไข้จันทลีลา [/FONT]

    [FONT=tahoma,arial,helvetica,sans-serif]“การวิจัยและพัฒนาสมุนไพรไทยไม่ค่อยประสบความสำเร็จ เนื่องจากนักวิจัยไทยมีความเข้าใจเรื่องความรู้พื้นฐานที่แตกต่างกัน เช่น ชื่อเรียก สรรพคุณและแนวทางการนำไปใช้ รวมทั้งมุมมองด้านวิทยาศาสตร์กับมุมมองด้านภูมิปัญญา ทำให้การพัฒนายาไทยเป็นแนวทางที่ต่างคนต่างทำ” นักวิจัยกล่าว[/FONT]

    [FONT=tahoma,arial,helvetica,sans-serif]
    [FONT=tahoma,arial,helvetica,sans-serif]คัดจาก กรุงเทพธุรกิจออนไลน์ : 18 กันยายน พ.ศ. 2550 [/FONT]
    [FONT=tahoma,arial,helvetica,sans-serif]www.herbalone.net -
     

แชร์หน้านี้

Loading...