พระวังหน้า ที่หลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรเสก ถ้าต้องการที่จะได้.....

ในห้อง 'งานบุญอื่นๆ' ตั้งกระทู้โดย sithiphong, 23 ธันวาคม 2005.

  1. psombat

    psombat เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    1,334
    ค่าพลัง:
    +5,431
    ทราบมาว่า ... เนื่องจาก ซากสัตว์ ... เทพเทวาจะไม่สิงสถิตแน่นอน ใช่มั๊ยครับท่านเลขาฯ (กรณีเขี้ยวเสือหลวงปู่ปาน ศักดิ์สิทธิ์ได้ด้วยอำนาจจิตของท่าน)
     
  2. Phocharoen

    Phocharoen เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    109
    ค่าพลัง:
    +225
    ขอบคุณครับ
     
  3. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    สำหรับสมาชิกชมรมรักษ์พระวังหน้า ผมอยากให้นำเรื่องนี้ไปใช้ ในกรณี สำนวน “ควาฟู่จู๋ยื่อ” หรือ “ควาฟู่ไล่ตามตะวัน” ถูกนำมาใช้ในความหมายทั้งทางบวก โดยความหมายทางบวกหมายถึง ผู้ที่มีปณิธานแรงกล้า

    โมทนาสาธุครับ
     
  4. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    ใช่แล้วครับ

    เรื่องของเครื่องราง วังหน้าเองก็สร้างเครื่องรางไว้มาก สร้างไว้หลายๆรุ่น หลายๆแบบ การใช้และคุณสมบัติก็แตกต่างกัน ไม่ว่าจะเป็นพระแม่ธรณี , นางกวัก , ลูกอม , ลูกสะกด ,ตะกรุด , เบี้ยแก้ หรือ พิมพ์ขุนแผน ขุนช้าง ฯลฯ นี่เป็นความชาญฉลาดของบรรพบุรุธของเราครับ
     
  5. มูริญโญ่

    มูริญโญ่ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    408
    ค่าพลัง:
    +583
    ผมชักงงแล้วครับลืมไปสนิทเลยครับ
    เรียนถามคุณหนุ่มเรื่องหนึ่งครับ สมเด็จองค์เล็กที่คุณหนุ่มมอบให้อาจารย์ ประถมแจกใช่ TOP 4 หรือเปล่าครับ เพราะถ้าใช่แสดงว่าผมก็ใช้ติดตัวตลอดเลยสิครับแสดงว่าผมไม่เคยลืม TOP 4 ติดตัวตลอดเลยสิครับ
    เพราะผมใส่แหนบติดตัวตั้งแต่วันที่ได้รับมาจนถึงวันนี้
    ส่วนองค์ที่ใหญ่หน่อยผมเปลี่ยนบ้างเป็นบางครั้ง
    แสดงว่าผมสับสนเองแน่นอนเลยครับ ฮิฮิฮิฮิฮิฮิ

    catt1 catt1 catt1
     
  6. nongnooo

    nongnooo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 พฤศจิกายน 2006
    โพสต์:
    4,139
    ค่าพลัง:
    +9,446
  7. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    <TABLE class=tborder cellSpacing=1 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=thead>ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 77 คน ( เป็นสมาชิก 3 คน และ บุคคลทั่วไป 74 คน ) </TD><TD class=thead width="14%"><CENTER">[ แนะนำเรื่องเด่น ] </TD></TR><TR><TD class=alt1 width="100%" colSpan=2>sithiphong, nongnooo+, มูริญโญ่ </TD></TR></TBODY></TABLE>

    <TABLE class=tborder cellSpacing=1 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=thead>ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 83 คน ( เป็นสมาชิก 3 คน และ บุคคลทั่วไป 80 คน ) </TD><TD class=thead width="14%"><CENTER">[ แนะนำเรื่องเด่น ] </TD></TR><TR><TD class=alt1 width="100%" colSpan=2>sithiphong, nongnooo+, มูริญโญ่ </TD></TR></TBODY></TABLE>

    แม่นแล้ว

    อ่า สงสัยจะอายุมากแล้วเนี่ย หลงๆลืมๆ อิอิ
     
  8. มูริญโญ่

    มูริญโญ่ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    408
    ค่าพลัง:
    +583


    OK ครับทราบแล้วเปลี่ยนครับ แต่เรื่องอายุปีนี้เพิ่ง 25 เองครับ
    ฮิฮิฮิฮิฮิฮิฮิ
    catt1 catt1 catt1
     
  9. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    อ่า อย่าไปฝากแบงค์ไว้นะครับ เพราะถ้าฝากแบงค์ เดี๋ยวแบงค์จ่ายดอกเบี้ยให้แล้วจะยุ่ง เหอๆๆๆ

    ผมเองก็ 19 เท่านั้นครับ แถมผมยังไม่ฝากแบงค์เลยครับ ไปฝากไว้กับ ผบทบ.แทนครับ
    .
     
  10. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
  11. psombat

    psombat เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    1,334
    ค่าพลัง:
    +5,431
    <table class="tborder" border="0" cellpadding="6" cellspacing="1" width="100%"><tbody><tr><td class="thead">ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 18 คน ( เป็นสมาชิก 2 คน และ บุคคลทั่วไป 16 คน ) </td> <td class="thead" width="14%"> <center"> [ แนะนำเรื่องเด่น ] </center"></td> </tr> <tr> <td class="alt1" colspan="2" width="100%"> psombat, sithiphong+</td></tr></tbody></table>
    ขอบคุณมากครับ ท่านเลขาฯ ที่เตือน ... จำต้องทำการบ้านเยอะๆครับ :) เพื่อจะได้ตามให้ทันท่านอื่นๆที่ศึกษามานานเป็นปี เพราะผมพึ่งเริ่มต้นได้เพียง 6 เดือนเอง ... อ่อ ผมต่อ Laptop ออก LCD 19" set Res.=1280x1024 - 32 bits , Refresh rate = 75 Hertz ช่วยได้เยอะครับ หุหุ

    แถม Browser ให้อีกเรื่องครับ ผมใช้ Cometbird (มีดีคือเร็ว+แปลภาษาในตัว) กับ The World Browser (มีดีตรง Save Page เป็นรูปภาพได้) ทั้งนี้ ทั้งสองตัวจะ integrate กับ IE แนะนำให้ปรับเป็น IE 8.0 version ล่าสุดก่อนติดตั้งนะครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 3 กันยายน 2009
  12. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    การประชุมชมรมรักษ์พระวังหน้าในครั้งต่อไป ผมแจ้งให้ท่านประธาน , ท่านรองประธาน และสมาชิกชมรมทุกท่านทราบทาง Email แล้วนะครับ

    วาระคร่าวๆ จะมีเรื่องของการจัดทำหนังสือ "ปู่เล่าให้ฟัง ฉบับสมบูรณ์" ,การขอความเห็นในเรื่องของการตั้งรองประธานอีกท่าน และงานใหญ่ปลายปีนี้ครับ

    ขอบคุณครับ
     
  13. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    อืมมมมมมมมมมมมม

    ใช้เต็มที่เลยเนี่ย

    catt15
     
  14. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
  15. chantasakuldecha

    chantasakuldecha เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 เมษายน 2008
    โพสต์:
    991
    ค่าพลัง:
    +2,331
    เห็นด้วยอย่างยิ่งครับ ขอบูชาด้วยคนครับ
     
  16. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    จราจรรัชโยธินเริ่มเข้าที่ ปิดบางพลัด 15 ก.ย.นี้

    ?荁ʐ?ҹ ?Դʐ?ҹ ?ҧ?ő? 15 ?ѹ’¹?թ


    [​IMG]
    ซ่อมสะพาน


    จราจรรัชโยธินเริ่มเข้าที่ ปิดบางพลัด15 กันยายน (ไทยรัฐ)

    เมื่อวันที่ 2 กันยายน พ.ต.ต.นภสินธุ์ ภูมี สว.จร.สน.พหลโยธิน เปิดเผยการจราจรภาพรวมวันที่สองหลังปิดซ่อมสะพานข้ามแยกรัชโยธิน ว่า มีสภาพดีกว่าวันแรก ยกเว้นถนนพหลโยธินขาเข้า ยังมีปัญหารถจะหนาแน่นมากช่วง 07.00-08.00 น. ท้ายแถวติดถึงอู่รถเมล์บางเขน บริเวณวัดพระศรีมหาธาตุฯ บางเขน หลังจาก 08.00 น. แล้วการจราจรคล่องตัวขึ้น คาดว่าผู้ใช้ทางปรับตัวและหลีกเลี่ยงไปใช้เส้นทางอื่น ทำให้ปริมาณรถผ่านแยกรัชโยธินลดลงจากวันแรก และรถบางส่วนเปลี่ยนมาใช้ถนนพื้นราบแทนรอคิวขึ้นสะพาน ทำให้การจราจรถนนรัชดาภิเษกมีปัญหาน้อยลง นอกจากนี้ ยังได้ปรับสัญญาณไฟพื้นที่ราบแยกรัชโยธิน โดยเฉลี่ยรอบไฟเขียวแต่ละด้านให้ถี่ขึ้น ซึ่งช่วยได้มาก วันนี้การจราจรเริ่มจะเข้าที่เข้าทางแล้ว ส่วนจะมีการปรับเปลี่ยนจุดใดจะต้องรอดูผลการประเมินอีก 1 สัปดาห์

    ด้าน นายทรงชัย เลิศวรสิริกุล ผู้อำนวยการกองควบคุมการก่อสร้าง สำนักการโยธา กทม. กล่าวถึงการปิดสะพานข้ามแยกบางพลัด ซึ่งเป็นสะพานตัวที่ 2 ที่จะปิดทำการซ่อมแซมในวันที่ 15 กันยายนนี้ ว่า ขณะนี้สำนักการโยธาได้ประชุมเตรียมความพร้อมในการเข้าพื้นที่และการจัดการ จราจรร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจแล้ว โดยจะเริ่มปิดซ่อมสะพานในวันที่ 15 กันยายนนี้ รวมระยะเวลาปิดสะพาน 90 วัน โดยปิดฝั่งละ 45 วัน ส่วนเส้นทางเลี่ยงผู้ใช้รถสามารถไปใช้เส้นทางในแนวถนนปิ่นเกล้า บรมราชชนนี เป็นต้น

    พ.ต.ท.ยศวริศ ปรุงประทิน รอง ผกก.จร.สน. บางพลัด กล่าวว่า สะพานข้ามแยกบางพลัดจะปิด ซ่อมต่อจากสะพานรัชโยธิน โดยจะเริ่มปิดหลังเที่ยงคืนวันที่ 15 กันยายนนี้ โดยจะปิดสะพานฝั่งขาออก 2 ช่องทาง จากสะพานกรุงธนมุ่งหน้าบางพลัด ช่วงเช้าจะเปิดให้รถขึ้นสะพานขาเข้าเมืองปกติ 2 ช่อง ส่วนขาออกเมืองให้ใช้พื้นราบ และตั้งแต่เวลา 15.30-19.00 น. จะเปิดให้รถขาออกวิ่งสวนขึ้นสะพานได้ 1 ช่องทาง ใช้เวลาก่อสร้าง 45 วัน และวันที่ 1 ธันวาคม จะย้ายมาปิดสะพานฝั่งขาเข้า โดยช่วงเช้าจะให้รถขาเข้าวิ่งเบี่ยงขึ้นสะพานขาออก 2 ช่องทาง ส่วนรถขาออกให้ใช้พื้นราบ และหลังเวลา 15.30-19.00 น. จะเปิดให้รถวิ่งสวนบนสะพานได้ฝั่งละ 1 ช่องทาง

    "ทั้งนี้ ถ้าปริมาณรถหนาแน่นอาจจะปรับเปลี่ยนการจราจรตามความเหมาะสม อย่างไรก็ตาม ผู้ที่จะขึ้นสะพานกรุงธนฯ ขอแนะนำให้เลี่ยงถนนสิรินธร บางพลัด ไปใช้ถนนคู่ขนานลอยฟ้า สะพานพระปิ่นเกล้า สะพานพระราม 8 หรือถ้าจะไปสะพานพระราม 7 ให้ไปถนนราชพฤกษ์ สะพานพระราม 5 ไปลงถนนพิบูลสงคราม หรือจะเข้าซอยรุ่งประชาลัดออกบางกรวย-ไทรน้อยก็ได้" รอง ผกก.จร.สน. บางพลัด กล่าว


    ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก
    [​IMG]
     
  17. newcomer

    newcomer เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 กันยายน 2007
    โพสต์:
    1,317
    ค่าพลัง:
    +3,934
    วันนี้ ราคาทอง ทำให้ ชาว(ติด)ดอย ยิ้มได้ ครับ หุ หุ
     
  18. nongnooo

    nongnooo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 พฤศจิกายน 2006
    โพสต์:
    4,139
    ค่าพลัง:
    +9,446
  19. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    ทัน 'ไวรัสโรต้า' วายร้ายทำเด็กเล็ก 'ท้องร่วงรุนแรง'
    Life & Family - Manager Online
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>3 กันยายน 2552 07:23 น.</TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left> เม็ดฝนสาดโปรยเข้ามาในประเทศไทยอีกระลอก ทำให้เชื้อโรคทั้งหลายต่างเริงระบำต้อนรับหน้าฝนกันอย่างพร้อมหน้า เพราะเป็นช่วงที่ฟัก และแพร่เชื้อไปสู่คน หรือสัตว์ได้ดี และหนึ่งในเชื้อนั้นคือ “เชื้อไวรัสโรต้า” สาเหตุทำให้เกิดโรคท้องร่วงในเด็กเล็ก โดยเฉพาะเด็กวัย 6 เดือนถึง 2 ขวบ ซึ่งนับเป็นกลุ่มเสี่ยงต่อการติดเชื้อไวรัสโรต้ามากที่สุด

    </TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=400 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=400>[​IMG] </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>เด็กได้รับเชื้อจะมีไข้สูง เกิดภาวะขาดน้ำ นำไปสู่การช็อกได้</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE> จากข้อมูลสถิติทั่วโลก แสดงให้เห็นถึงจำนวนเด็กเสียชีวิตด้วยเชื้อไวรัสโรต้า 5 แสนรายต่อปีทั่วโลก โดยร้อยละ 90 เป็นเด็กเล็กที่อยู่ในภูมิภาคเอเชีย และแอฟริกา ด้วยเหตุผลที่พ่อแม่ในหลายประเทศของภูมิภาคนี้ ยังขาดความรู้ที่ถูกต้องเกี่ยวกับ “เชื้อไวรัสโรต้า” จึงขาดการเตรียมตัว เพื่อปกป้องลูกน้อยให้รอดพ้นจากเชื้อไวรัสดังกล่าวนี้ได้ทันการณ์

    โรคท้องร่วงที่เกิดจากเชื้อไวรัสโรต้านี้ “นพ.พรเทพ สวนดอก” กุมารแพทย์สาขาโรคติดเชื้อ ศูนย์การแพทย์โรงพยาบาลกรุงเทพ เคยให้ข้อมูลกับทีมงานในข่าว “รวมฮิตโรคเด่น-เด็กเสี่ยงเป็นมากที่สุดในหน้าฝน” ว่า โรคท้องเสีย เกิดขึ้นเพราะลำไส้อักเสบจากการติดเชื้อโรต้าไวรัส ซึ่งมาจากของเล่น อาหาร ของใช้ใกล้ตัวเด็กที่ไม่สะอาด โดยเฉพาะเด็กเล็กที่รู้เท่าไม่ถึงการณ์ และไม่เข้าใจเรื่องของสุขอนามัย จึงมักนำของเล่น หรือของใช้ที่มีเชื้อนี้เข้าปากโดยไม่รู้ตัว จากนั้นจะถูกขับออกทางอุจจาระของผู้ป่วย เกิดการแพร่ระบาดได้ง่าย ซึ่งมีการศึกษาวิจัยพบว่า ในเด็กแรกเกิดถึงอายุ 5 ขวบแทบทุกคนจะเคยติดเชื้อนี้มาแล้ว

    อาการส่วนใหญ่ที่พบ คุณหมอบอกว่า เด็กจะมีอาการท่วงเสีย อาเจียน บางรายจะมีไข้สูง กินได้น้อย งอแง ร่างกายเกิดภาวะขาดน้ำ ดังนั้นเด็กทารกควรให้กินนมแม่จะช่วยได้ระดับหนึ่ง และดูแลสุขลักษณะการกิน การเล่นให้เหมาะสม ต้องสะอาด และปลอดภัย ขณะเดียวกันไม่ควรพาเด็กเข้าเนอสเซอรี่เร็วเกินไป เพราะเด็กที่อยู่ด้วยกันเยอะๆ การแพร่กระจายของเชื้อจะมีได้ง่าย

    </TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=400 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=400>[​IMG] </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>"เชื้อไวรัสโรต้า" ชนวนเหตุของโรคท้องร่วงในเด็กเล็ก</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE> อย่างไรก็ดี ปัจจุบันมีวัคซีนป้องกันที่มีประสิทธิภาพ และปลอดภัย ซึ่งได้รับอนุมัติใช้ทั้งหมด 2 ชนิด คือวัคซีนที่มีส่วนประกอบของเชื้อโรต้า 1 สายพันธุ์ และ 5 สายพันธุ์ ซึ่งเป็นวัคซีนชนิดรับประทาน (หยอด) ที่มีข้อมูลความปลอดภัย และสามารถเริ่มให้กับทารกอายุตั้งแต่ประมาณ 6-12 สัปดาห์ การต้องเริ่มให้ในช่วงอายุดังกล่าวนั้น เป็นเพราะในช่วงสัปดาห์แรกๆ เด็กทารกจะยังได้รับภูมิคุ้มกันที่สร้างจากรก และการกินนมแม่ การสร้างภูมิคุ้มกันต่อไวรัสโรต้า จึงควรเริ่มต้นในช่วงอายุประมาณ 2 เดือน และครั้งที่สองตอนอายุครบ 4 เดือน ซึ่งเด็กอาจจะเริ่มมีโอกาสสัมผัสกับเชื้อโรคที่อยู่รอบๆ ตัวแล้ว

    ทั้งนี้ เมื่อต้นปีได้เกิดความเคลื่อนไหวครั้งสำคัญ ในแวดวงสาธารณสุขโลก เมื่อกลุ่มผู้เชี่ยวชาญที่ให้คำปรึกษาเชิงกลยุทธิ์ขององค์การอนามัยโลก หรือ SAGE ออกมาแนะนำให้มีการนำวัคซีนป้องกันไวรัสโรต้าบรรจุในแผนสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรค เพื่อช่วยปกป้องเด็กเล็กทั่วโลกให้รอดพ้นจากการนอนรักษาตัวที่โรงพยาบาล หรือเสียชีวิตจากโรคอุจจาระร่วงจากเชื้อไวรัสโรต้า

    </TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=400 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=400>[​IMG] </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>มันแฝงอยู่ในของเล่นที่สกปรก</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE> ด้านความเคลื่อนไหวของกลุ่มผู้เชี่ยวชาญในครั้งนี้ เท่ากับเป็นการส่งสัญญาณเตือนภัยครั้งสำคัญอีกครั้ง เพื่อสร้างความตระหนักถึงภัยของเชื้อไวรัสโรต้าให้กับพ่อแม่ที่มีลูกเล็ก และในกลุ่มคู่สมรสที่เตรียมตัวมีบุตรคนใหม่ ทั้งนี้เพื่อลดความสูญเสียที่จะเกิดขึ้น ซึ่งวัคซีนตัวนี้ทารกสามารถรับได้ไปพร้อมๆ กับวัคซีนตัวอื่นๆ ในเวลาเดียวกันได้ ซึ่งทารกที่ได้รับวัคซีนนี้แล้ว จะมีความเสี่ยงต่ำกว่าทารก หรือเด็กอื่นๆ ที่ต้องนอนโรงพยาบาลด้วยอาการท้องร่วงจากเชื้อไวรัสโรต้า

    อย่างไรก็ตาม ในหลายประเทศทั่วโลกทั้งในทวีปอเมริกา และยุโรป ได้มีการบรรจุวัคซีนโรต้าลงในแผนสร้างเสริมภูมิคุ้มกันแห่งชาติแล้ว เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันต่อโรคอุจจาระร่วงจากไวรัสโรต้าให้กับเด็กทารกทุกๆ คน เช่นเดียวกับวัคซีนป้องกันโรคพื้นฐานอื่นๆ เช่น คอตีบ ไอกรน บาดทะยัก เป็นต้น

    ขณะที่อีกหลายประเทศ ในแถบเอเชีย และแอฟริกา รัฐบาลยังไม่มีการบรรจุวัคซีนป้องกันเชื้อไวรัสโรต้าในแผนสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรค ดังนั้น จึงตกเป็นหน้าที่ของพ่อแม่ผู้ปกครองที่ต้องให้ความสำคัญกับสุขภาพของลูกน้อย พร้อมกับหาข้อมูลสุขภาพให้มากที่สุด ทั้งนี้เพื่อรู้เท่าทันเชื้อโรคใหม่ๆ ที่จะเตรียมคุกคามเด็กเล็กให้เจ็บป่วย และเสียชีวิตก่อนวัยอันควรในแต่ละปี

    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  20. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>10 ข้อนี้ ใครมีลูกสาวควรอ่าน!
    Life & Family - Manager Online
    </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>3 กันยายน 2552 12:47 น.</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left> โบราณว่ากันว่า “มีลูกสาวเหมือนมีส้วมอยู่หน้าบ้าน” หรือบางคนอาจเปรยขึ้นมาดีหน่อยคือจาก “ส้วม” เปลี่ยนเป็น “ดอกไม้” แต่ไม่ว่าจะเปลี่ยนไปเป็นอะไร ความหมายก็ยังคงเดิมไม่เปลี่ยนไปตามคำนามนั้นๆ

    ซึ่งหมายความว่า หากพ่อแม่ดูแลลูกสาวไม่ดี ชื่อเสียงก็จะเสียหายไปตามๆกัน ความไม่ดีตรงนั้น ในสมัยก่อนอาจหมายถึงการท้องไม่มีพ่อ หรือท้องก่อนแต่ง ซึ่งคนสมัยก่อนถือว่าเป็นเรื่องเสื่อมเสีย ผิดกับสมัยนี้ที่ไม่ค่อยถือสากันแล้ว

    อย่างไรก็ดี ในปัจจุบันนี้แม้เรื่องท้องก่อนแต่ง หรือท้องไม่มีพ่อ อาจดูเบาบางกว่าในอดีต แต่ก็ยังถือว่าเป็นเรื่องที่ไม่น่าเกิดขึ้นกับเด็กผู้หญิงอยู่ดี ซึ่งนอกจากเรื่องท้องโดยไม่ได้ตั้งใจของเด็กสาวแล้ว ยังมีอีกหลายเรื่องร้ายๆ ที่พ่อแม่ รวมไปถึงทุกคนในครอบครัวควรเป็นหูเป็นตา ให้ความรักความอบอุ่น และสอนให้ลูกสาวรู้จักรักตัวเองให้มากขึ้น อย่าไปตามกระแสสังคมของคนกลุ่มหนึ่งที่ไม่แคร์ต่อขนบธรรมเนียมประเพณีไทยและไม่เคารพตัวเอง

    ทั้งนี้ เรื่องร้ายๆ ที่จะกล่าวต่อไปนี้ นับเป็น 10 ข้อสำคัญที่เกิดจากการชิงสุกก่อนห่าม ที่นับวันอายุเฉลี่ยของเด็กสาวก็เริ่มมีอายุที่ตัวเลขน้อยลงเรื่อยๆ โดยทั้ง 10 ข้อมีดังนี้

    1. ท้อง-แท้ง

    ยิ่งในวัยเรียนการได้รับปริญญาใจก่อนกำหนด 4 ปีการศึกษานั้น มันทำลายชีวิตมาหลายต่อหลายคนแล้ว เพราะจะมีสักกี่คนที่จะทนอุ้มท้องไปนั่งร่วมชั้นเรียนกับเพื่อน และเชื่อเลยว่าคงไม่มีสถานศึกษาใดสนับสนุนด้วย เมื่อชีวิตของการเป็นแม่เริ่มต้นขึ้น ความพร้อมสำหรับทารกน้อยๆ ย่อมปัญหาปากท้องและสังคมก็จะตามมาทีหลัง ส่วนใครที่ไม่เกรงต่อบาปยืนยันว่าฉันจะทำแท้งนั่นก็เท่ากับว่าทำร้ายตัวเองไปเสียแล้ว

    แต่ถ้ามั่นใจว่า “ไม่ท้องแน่นอนเพราะป้องกันดี” จากการวิจัยก็ยังระบุว่า แม่จะใช้ถุงยางอนามัย แต่ยังมีโอกาสพลาดได้สูงถึง 21% เนื่องจากคุณภาพของถุงยางเสื่อมหรือใช้ไม่ถูกต้องและการใช้ยาเม็ดคุมกำเนิดก็มีโอกาสพลาดได้สูงถึง 5%

    2. ซึมเศร้า

    วัยรุ่นยังไม่ใช่วัยที่จะตั้งหลักปักฐานกับใครผู้ใด ยังเป็นวัยแห่งการแสวง เพราะฉะนั้น การเปลี่ยนคู่นอนจึงเกิดเสมอๆ การซึมเศร้าที่เกิดจากภาวะความล้มเหลวเรื่องความรัก ทั้งๆ ที่ยังไม่ถึงวัยที่จะคิดเรื่องรักสักเท่าไหร่

    </TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=left border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=187 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=187>[​IMG] </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>ภาพจาก www.mables.com</TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD width=5>[​IMG]</TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE> 3. ติดโรค

    ข้อนี้นับเป็นผลมาจากข้อ 2 ที่ว่าวัยรุ่นเป็นเพียงวัยแสวงหา น้อยคนนักที่จะพบรักแท้ยืนยาวเหมือนชีวิตคู่ผู้ใหญ่ การเปลี่ยนคู่นอนบ่อยๆ ย่อมเกิดโรคตามมาแม้จะป้องกันก็ตาม หากพ่อแม่ไม่ดูแลเอาใจใส่ก็อาจทำให้เด็กตกอยุ่ในความเสี่ยงมากขึ้นกว่าเดิม

    4. เรียนถอยหลัง

    หากมัวแต่หมกมุ่นเรื่องรัก คิดหนักแต่เรื่องผู้ชาย ร้องไห้ไม่ยอมเรียน เจ้าตัวเตรียมเรียนซ้ำชั้นอีกรอบได้เลย หรือไม่พ่อแม่ก็ต้องหาที่เรียนใหม่ให้เพราะมุ่งมั่นทำแต่คะแนนรักไม่สนใจการเรียน

    5. ติฉินนินทา

    อย่างที่กล่าวไว้ข้างต้นว่า หากการมีลูกสาวยังคงเเหมือนการมีส้วมอยู่หน้าบ้าน ท่อแตกวันไหน จะกลิ่นที่เหม็นอยู่แล้ว อาจกลายเป็นกลิ่นส้วมแต่กเลยก็ว่าได้

    หากลูกสาวเกิดไปทำเรื่องฉาวโฉ่ขึ้นมา กลายเป็นขี้ปากชาวบ้าน โดยเฉพาะพวกขี้อิจฉา โดนนินทาว่าเสียตัวแล้วบ้าง เปลี่ยนแฟนอีกแล้ว โดนแฟนทิ้งอีกแล้วบ้าง ซึ่งสำหรับผู้ชายก็อาจจะเป็นที่รังเกียจของสาวดีๆ โดยข้อหานักล่าผู้หญิง หรือนักล่าพรหมจรรย์ พ่อแม่เองก็จะพลอยโดนผลกระทบไปด้วย

    6. ไร้ค่า

    อาจเกิดการหมิ่นเกียรติกันและกันระหว่างชายหญิง ต่างฝ่ายมองว่าอีกฝ่ายเป็นเพียงตัวสนองความใคร่ ไม่มีรักแท้จีรัง ก่อนที่จะรู้จักกันอย่างแน่นแฟ้นเราอาจจะมองเขาในแง่อื่นไปเสียแล้ว โดยเฉพาะผู้ชายที่หลังจากได้เสียกับผู้หญิงแล้ว หากคนไหนใจง่าย ไม่รักตัวเอง ก็จะไร้ค่าทันทีเมื่อตกเป็นของเขา และในที่สุดพ่อแม่ก็ต้องเป็นผู้ให้อภัยและให้โอกาสลูกสาว...อีกครั้งหนึ่ง

    7. ถูกหลอกซ้ำซาก

    เหตุนี้เป็นเพราะเคยปล่อยตัวและใจให้คนก่อนและความต้องการรักแท้ เพราะฉะนั้น คำว่ารักก็อาจจะกลายเป็นแค่ตะขอเบ็ดเกี่ยวเหยื่อเท่านั้น

    8. ใคร่มากกว่ารัก

    วัยรุ่นอาจจะต้องการมีเพศสัมพันธ์มากกว่ารัก และเข้าใจคำว่ารักผิดไป สุดท้ายส่งผลให้ไม่เข้าใจกันในที่สุด จึงมีที่มาให้ครอบครัวเปิดโอกาสพูดคุยกับลูกมากขึ้น

    โดยเฉพาะเรื่องเพศศึกษาที่นับวันเด็กที่พ้น ป.6 มาไม่กี่วันอาจจะอยากรู้ อยากลองแล้วก็ได้ เพราะจากข่าวสารที่ผ่านๆ มาก็พบว่า เด็กที่ตั้งครรภ์ตอนอายุน้อยที่สุดอยู่ในระหว่าง 11-12 ปีเท่านั้น

    9. ผิดหวังในรัก

    เมื่อคนดีที่เหมาะกับเราเข้ามาในชีวิต เมื่อเขารู้เรื่องราวในอดีตก็อาจจะหลีกหายไปได้ หรือเราเองอาจจะรู้สึกผิดกับอดีตไม่กล้าสู้หน้าเขาหรือเธอคนนั้น จนกลายเป็นคำว่า เธอดีเกินไป หรือเธอไม่คู่ควรกับฉัน เพราะเธอมันช่ำชอง ไม่น่าไว้วางใจ ฯลฯ

    10. สร้างความร้าวฉานในชีวิตคู่

    เรื่องราวในอดีตไม่สามารถลบมันได้ แม้เราจะพยายามลืมไปเท่าไหร่ก็ตาม เมื่อคู่ชีวิตล่วงรู้อดีตกาลของเราย่อมเกิดความไม่ไว้เนื้อเชื่อใจ ชีวิตคู่จะมีความสุขได้อย่างไร แก้วเริ่มร้าวไม่นานก็แตก และไม่อาจประกอบได้ดั่งเดิม


    ท้ายนี้ เด็กๆผู้หญิงคนไหนที่คิดว่าการมีเพศสัมพันธ์นั้นเป็นเรื่องธรรมดา ก็ลองกลับมาทบทวนกันใหม่นะคะ เพราะเชื่อว่าบางคนเห็นร่างกายและอวัยวะของตัวเองเป็นเพียงสิ่งของที่ไม่จำเป็นต้องสงวนไว้อย่างที่ผู้ใหญ่มักจะพูดกันอยู่เสมอ ซึ่งจริงๆแล้ว การที่ผู้ใหญ่คอยเตือน ไม่ว่าจะเป็น พ่อ แม่ ญาติผู้ใหญ่ หรือครูเองคอยสอนนั้น สิ่งที่สำคัญที่สุดนั่นก็คือ ทุกคนต้องการให้เด็กผู้หญิงเคารพและรักตนเอง

    ขณะที่พ่อแม่เองก็ควรเป็นตัวอย่างที่ดีด้วย อย่าให้ลูกเห็นตัวอย่างที่ไม่ดี โดยเฉพาะพฤติกรรมที่เกี่ยวข้องกับเรื่องเพศสัมพันธ์ ขณะเดียวกันก็ควรเปิดโอกาสและให้เวลาพูดคุยกับลูกบ้าง

    อีกทั้งควรให้เขาได้ใกล้ชิดศาสนาเป็นระยะ เพราะหลักการสอนของแต่ละศาสนาต่างมุ่งเน้นให้ทุกคนทำดี คิดดี และมีจิตที่บริสุทธิ์ หากลูกรู้จักบาป บุญ คุณ โทษ และเวรกรรม ในสิ่งที่ทำ แน่นอนว่า 10 สิ่งร้ายๆ ข้างต้นจะไม่เกิดขึ้นแน่นอน และลูกสาวก็จะไม่ถูกเปรียบเปรยให้เป็นส้วมอีกต่อไป

    ขอขอบคุณข้อมูลบางส่วนจาก www.bearber.com
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
     

แชร์หน้านี้

Loading...