พระวังหน้า ที่หลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรเสก ถ้าต้องการที่จะได้.....

ในห้อง 'งานบุญอื่นๆ' ตั้งกระทู้โดย sithiphong, 23 ธันวาคม 2005.

  1. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    ผมโทร.ไปแล้วครับ

    ช่วยกันโทร.ด้วย สำหรับคนที่โพส หมิ่นพระบรมเดชานุภาพองค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ต้องไปลาออกจากสัญชาติไทยไปซะ อยู่ไปก็หนักแผ่นดิน

    อย่าไปด่าว่า เหี้ย หรือ ควาย นะครับ เพราะว่า ทั้งเหี้ย และ ควาย ยังมีประโยชน์ต่อแผ่นดิน มากกว่าพวกนี้

    สำหรับท่านที่เป็นสมาชิกชมรมรักษ์พระวังหน้า อย่าลืมในคำตั้งจิต ตั้งสัจจะและสาบาน ที่จะช่วยกันดูแล ปกป้อง สถาบันพระมหากษัตริย์ กันด้วย ต้องร่วมด้วยช่วยกันครับ
     
  2. :::เพชร:::

    :::เพชร::: เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    8,584
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +36,137
    ผมเพิ่งวางสายทางเจ้าหน้าที่ไป แจ้งเขาไปเรียบร้อยแล้ว บอกเจ้าหน้าที่เขาไปว่า ขอเอาให้ติดคุกซักที...เบื่อเต็มทนไอ้..อี..พวกนี้ เจอหน้าจะเอาให้หนัก...หนักแผ่นดิน ชิงเหี้ยเกิด
     
  3. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    อย่าเอาพวกนี้ไปติดคุกเลยครับคุณเพชร

    เปลืองข้าว เปลืองกับ เปลืองเนื้อที่แผ่นดินให้ยืนครับ

    ยิงทิ้งแล้วเอาศพไปทิ้งไว้นอกประเทศครับ

    .
     
  4. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    จาก pm ผม

    ข้อความส่วนตัว: รบกวนถามหน่อยนะครับ <TABLE class=tborder id=post cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 0px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid">[​IMG] วันนี้, 01:18 PM </TD><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 0px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid" align=right> </TD></TR><TR vAlign=top><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 0px solid" width=175>JinAkanishi<SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_", true); </SCRIPT>
    สมาชิก

    วันที่สมัคร: Oct 2009
    ข้อความ: 113
    Groans: 0
    Groaned at 0 Times in 0 Posts
    ได้ให้อนุโมทนา: 3
    ได้รับอนุโมทนา 63 ครั้ง ใน 38 โพส
    พลังการให้คะแนน: 21 [​IMG]


    </TD><TD class=alt1 id=td_post_ style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid"><CENTER>รบกวนถามหน่อยนะครับ

    </CENTER>
    <HR style="COLOR: #ffffff; BACKGROUND-COLOR: #ffffff" SIZE=1>คือผมอยากทราบว่า พระสมเ็ด็จเบญจรงค์ มีพิมพ์ ที่เป็นพระสมเด็จ 2 หน้าบ้างไหมครับ
    </TD></TR></TBODY></TABLE>

    -------------------------

    ขออนุญาตไม่ตอบคำถามนะครับ

    เนื่องจากต้องเห็นองค์จริงและผมเคยแจ้งจะไม่ดูให้บนบอร์ดครับ

    .
     
  5. :::เพชร:::

    :::เพชร::: เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    8,584
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +36,137
    มาดูการกดสเลอปี้ขั้นเทพ แบบนี้เพื่อนคุณnew อาจจะกระเทือนได้ หุ..หุ...
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  6. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    แปรงถูกวิธีป้องกันอาการเสียวฟัน
    Daily News Online > หน้าสตรี > แปรงถูกวิธีป้องกันอาการเสียวฟัน

    การรักษาสุขภาพฟันให้ขาว สะอาดอยู่เสมอเป็นเรื่องสำคัญ เพราะฟันเป็นส่วนประกอบของร่างกายที่สามารถมองเห็นโดยง่าย ฟันสวย ขาว สะอาด มีสุขภาพดีส่งผลถึงการมีบุคลิกภาพที่ดี ในปัจจุบันทันตแพทย์ส่วนใหญ่เน้นการดูแลรักษาสุขภาพช่องปากเป็นสิ่งสำคัญที่สุด นอกจากเรื่องบุคลิกภาพแล้ว ยังเป็นส่วนสำคัญหลักในการให้ได้รับอรรถรสระหว่างรับประทานอาหารด้วย เพื่อสุขภาพฟันที่ดี ยาสีฟันเซ็นโซดายน์ จัดกิจกรรมโรดโชว์ เผยแพร่วิธีป้องกันและลดการเสียวฟัน เพื่อต่ออายุฟันให้ยืนยาว

    น.ท.ทพญ.สิริวิภา อำนรรฆสรเดช กล่าวว่า อาการเสียวฟันเกิดจากผิวเคลือบฟันสึกและบางลงจนถึงชั้นเนื้อฟัน ซึ่งอยู่ใกล้กับโพรงประสาทฟันที่มีเส้นประสาทจำนวนมาก หากรับประทานของเย็นเข้าไปผู้มีผิวเนื้อฟันบางจะเกิดการเสียวฟัน เนื่องจากของเหลวในท่อเนื้อฟันเคลื่อนตัวรุนแรง กระทบถึงโพรงประสาทฟันได้ง่าย เมื่อเกิดอาการเสียวฟันนอกจากไปพบทันตแพทย์แล้ว การใช้ยาสีฟันที่มีส่วนผสมของโพแทสเซียม ไนเตรท และฟลูออไรด์ ซึ่งมีคุณสมบัติแทรกซึมตาม ท่อเนื้อฟัน หรือบริเวณผิวเคลือบฟันบ้าง สามารถยับยั้งและลดการเสียวฟันอย่างได้ผล

    “การดูแลสุขภาพช่องปากไม่ใช่ เรื่องยาก แต่ต้องใส่ใจให้ครอบคลุมทุกด้านของฟัน อีกทั้งการแปรงฟันเพียงอย่างเดียวไม่พอ จำเป็นต้องใช้ไหมขัดฟันร่วมด้วย จึงทำให้สะอาดและป้องกันการเกิดโรคในช่องปาก ทั้งโรคเหงือกและโรคฟัน นอกจากนี้พฤติกรรมการบริโภคอาหาร เช่นการกินอาหารที่มีรสเปรี้ยวจัด หรือมีความเป็นกรดสูง พบว่าเป็นต้นเหตุของอาการเสียวฟันได้ เช่นกัน”

    น.ท.ทพญ.สิริวิภา กล่าวว่า อีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้เกิดอาการเสียวฟันคือ การแปรงฟันที่รุนแรงและผิดวิธี ทำให้ผิวเคลือบฟันบริเวณคอฟันสึกกร่อน ลดปัญหาเหล่านี้ด้วยการแปรงฟันให้ถูกวิธี ไม่รุนแรง เลือกแปรงสีฟันที่ดีเหมาะกับช่องปาก ซึ่งมีลักษณะมีด้ามตรงจับถนัด กระชับมือ, มีขนแปรงอ่อนนุ่ม, มีหน้าตัดขนแปรงตรง และ ควรมีปลายขนแปรงมน โดยควรแปรงฟันอย่างน้อย 3 ครั้งหลังอาหารต่อวัน ใช้ไหมขัดฟันเป็นประจำทุกครั้งก่อนนอน และควรเข้ารับการตรวจสุขภาพฟันอย่างสม่ำเสมอทุก 6 เดือน.
     
  7. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    ปลาแห้งแตงโม

    เปิดเมนูสัปดาห์นี้ เดลินิวส์ออนไลน์ มีเมนูอาหารว่างตำรับไทยโบราณที่คนรุ่นใหม่อาจไม่เคยรู้จักมาก่อน อย่าง ‘ปลาแห้งแตงโม’ ซึ่งคุณป้าไฉไล พึ่งบุญ ณ อยุธยา เชฟใหญ่ประจำห้องอาหารไทย Forget Me Not โรงแรมรามาการ์เด้นส์ เป็นผู้เปิดกรุอาหารเก่าเก็บมาจัดเสิร์ฟดับร้อน

    คุณป้าไฉไล เล่าถึงประวัติความเป็นมาว่า ปลาแห้งแตงโมเป็นเมนูอาหารชาววังที่มีมาตั้งแต่สมัย ร.4 คนโบราณนิยมรับประทานเป็นอาหารว่างยามบ่ายในช่วงหน้าร้อน จัดเตรียมไม่ยากเพราะมีเพียงปลาแห้งเคล้าน้ำตาล หอมเจียว แตงโม และข้าวสวย

    ขั้นตอนในการเตรียม คุณป้าไฉไล ให้เริ่มที่ปลาแห้ง สามารถใช้ปลาตากแห้งชนิดใดก็ได้ แต่ส่วนใหญ่นิยมปลาช่อน ก่อนย่างควรล้างและแช่ปลานาน 1 ชั่วโมง แล้วจึงนำไปย่างไฟอ่อนจนเหลือง ลอกหนัง เลาะก้าง ใช้เฉพาะเนื้อปลาโขลกให้ละเอียด

    จากนั้นซอยหอมแดงนำไปเจียวให้เหลืองกรอบ ใส่ปลาแห้งที่โขลกรอไว้ ผัดต่อจนแห้งแล้วพักไว้ให้เย็นจึงคลุกด้วยน้ำตาลทราย

    ส่วนแตงโม ในสูตรต้นตำรับจะใช้แตงโมเนื้อแดง แต่ปัจจุบันมีแตงโมเนื้อเหลือง หรือแตงโมน้ำผึ้ง ก็สามารถนำมารับประทานได้เช่นกัน เพราะไม่ว่าจะสายพันธุ์ใด แตงโมก็ยังช่วยลดความร้อนภายในร่างกายได้ แถมช่วยในการขับปัสสาวะ ล้างไตและกระเพาะปัสสาวะ เพื่อไม่ให้ร่างกายสะสมกรดยูริก ที่เป็นตัวการให้เกิดโรคเก๊าท์ อีกทั้งยังอุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระป้องกันโรคมะเร็ง

    นอกจากนี้ยังมีข้าว ซึ่งคนโบราณจะใช้ข้าวสวย ขณะที่คุณป้าไฉไลแนะนำเพิ่มเติมว่าสามารถเปลี่ยนเป็นข้าวเหนียวมูนแบบไม่ต้องราดน้ำกะทิแทนข้าวสวยได้

    สู่กรรมวิธีในการรับประทาน แบ่งข้าวออกเป็นคำ ๆ โรยหน้าด้วยปลาแห้งเคล้าน้ำตาลและหอมเจียว แล้วจึงตักใส่ปาก ตามด้วยแตงโมอีกคำ

    หากเลือกรับประทานโดยใช้ข้าวสวย รสชาติก็จะหวานเค็มกลมกรอบ แต่ถ้าเลือกข้าวเหนียวมูนก็จะได้รสหวานมันเพิ่มเติม ซึ่งทั้งหมดจะทำให้รู้สึกฉ่ำเย็น สดชื่น ผ่อนคลาย เมื่อรับประทานแตงโมตามเข้าไป ทั้งยังสามารถเลือกเครื่องดื่มสมุนไพร อาทิ น้ำตะไคร้ มาดื่มให้คล่องคอด้วยยิ่งดี

    หรือถ้าผู้อ่านท่านใดอยากลิ้มลองปลาแห้งแตงโมฝีมือคุณป้าไฉไล ลองโทรสอบถามเพิ่มเติมที่ 0-2558-7888

    ที่มา Daily News Online > โทรโข่ง > หน้าไลฟ์สไตล์ > ปลาแห้งแตงโม

    deflying@gmail.com

    [​IMG]
    [​IMG]
    [​IMG]
    [​IMG]
    [​IMG]

    [​IMG]
    [​IMG]

     
  8. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    กรรมของคนไทย คำสั่งกทช. ขึ้นค่าโทรมือถือ
    กรรมของคนไทย คำสั่งกทช. ขึ้นค่าโทรมือถือ - ข่าวไทยรัฐออนไลน์

    บอร์ด กทช.มีมติให้ผู้ประกอบการกิจการโทรศัพท์เคลื่อนที่ คิดค่าบริการโทรเครือข่ายเดียวกัน-ข้ามเครือข่าย ในอัตราเพดานสูงสุด 3 บาทเท่ากัน รอเวลาดำเนินการ ขณะที่มีโอเปอร์เรเตอร์บางรายไม่เห็นด้วยเพิ่มภาระผู้บริโภค...

    เมื่อวันที่ 12 พ.ค. นายพิทยาพล จันทนะสาโร รองเลขาธิการ กิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กทช.) กล่าวว่า จากกรณีคณะกรรมการ (บอร์ด) กทช. มีมติให้ผู้บริการเครือข่าย (โอเปอเรเตอร์) โทรศัพท์มือถือ ยกเลิกการออกโปรโมชันโทรในเครือข่าย-ข้ามเครือข่าย (ออนเน็ต-ออฟเน็ต) นั้น ล่าสุด วันที่ 12 พ.ค. ที่ประชุมบอร์ดมีมติให้ผู้ประกอบกิจการโทรศัพท์เคลื่อนที่ต้องคิดค่าบริการดังกล่าวในอัตราเท่ากัน ซึ่งปกติแล้วผู้บริโภคจะไม่ทราบว่าเลขหมายที่เรียกไปนั้นเป็นการเรียกภายในโครงข่ายเดียวกันหรือต่างโครงข่ายกัน ทำให้ผู้บริโภคไม่ทราบว่าการใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่แต่ละครั้งเป็นการให้บริการประเภทใดและมีอัตราค่าบริการเท่าใด

    รองเลขาธิการ กทช. กล่าวต่อว่า ช่วงเวลาที่มีผู้ใช้งานสูงสุดกับช่วงเวลาที่มีผู้ใช้งานน้อยยังไม่ได้กำหนดค่าบริการ เพราะเรื่องดังกล่าว ถือเป็นรายละเอียดย่อย ดังนั้น โอเปอร์เรเตอร์ จึงต้องหารือเพื่อศึกษารายละเอียดเรื่องดังกล่าวอีกครั้ง อย่างไรก็ตาม แม้จะมีการกำหนดให้บริการออนเน็ต- ออฟเน็ต เป็นอัตราที่เท่ากันในอัตราสูงสุด 3 บาทต่อนาที

    ก่อนหน้านี้มี ตัวแทนทั้ง 3 โอเปอร์เรเตอร์คือ บริษัท แอดวานซ์ อินโฟ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ เอไอเอส บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ ดีแทค และ บริษัท ทรูมูฟ จำกัด เข้าหารือ กับ กทช. โดยสาระสำคัญของการหารือส่วนใหญ่เป็นการชี้แจงของ กทช. ในการออกมติดังกล่าว แต่ในส่วนของโอเปอร์เรเตอร์เอง ยังมีบางรายไม่เห็นด้วย และบอกว่าเป็นการก้าวก่าย ขณะที่โอเปอร์เตอร์ได้กำหนดคิดค่าเชื่อมโยงโครงข่ายอินเตอร์คอนเนคชั่นชาร์จ (ไอซี) ไว้ที่ 1.07 บาท ต่อนาที ซึ่งถือเป็นต้นทุนขั้นต่ำอยู่แล้ว

    นายธนา เธียรอัจฉริยะ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มพาณิชย์ บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ ดีแทค กล่าวว่า การยกเลิกค่าบริการบริการออนเน็ตและออฟเน็ตเป็นอัตราเดียวนั้น ต้องรอดูคำสั่งที่ชัดเจนจาก กทช. ขณะนี้ยังไม่ได้รับคำสั่งใดๆ จึงไม่สามารถคาดการณ์แนวทางดำเนินการหลังจากนี้จะเป็นอย่างไร

    ทั้งนี้ การดำเนินการดังกล่าวเนื่องจาก พ.ร.บ.ประกอบกิจการโทรคมนาคม พ.ศ. 2544 บริการ ประเภทเดียวกันจะต้องมีอัตราค่าบริการเดียวกัน ประกอบกับเคยมีผู้รับบริการร้องเรียนเรื่องการคิดค่าบริการในและนอกเครือข่ายต่างกัน และ กทช.ได้นำเรื่องมาเมื่อพิจารณากระทั่งสามารถหาข้อสรุปได้ใน กทช.ชุดนี้

    "การยกเลิกดังกล่าวจะส่งผลดีต่อผู้ประกอบการ เพราะสามารถปรับขึ้นราคาค่าบริการให้เท่ากับต้นทุนค่าไอซี 1 บาท จากเดิมค่าบริการออนเน็ตเฉลี่ยอยู่ที่นาทีละ 0.25 บาท ค่าบริการออฟเน็ตอยู่ที่นาทีละ 1 บาท แม้อัตราค่าบริการจะถูกคุมให้อยู่ในอัตราเดียวกัน แต่เชื่อว่า กทช.จะสามารถอนุญาตให้เอกชนทำโปรโมชันสำหรับการแข่งขันได้ ผู้ประกอบการได้เข้าพบ กทช. เมื่อวันที่ 11 พ.ค. โดย กทช.ระบุว่าจะพบผู้ประกอบการบ่อยขึ้นเพื่อทำความเข้าใจและรับฟังปัญหาจากเอกชนก่อนจะมีการลงมติใดๆ ป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาตามมาภายหลัง" นายธนากล่าว

    ผู้สื่อข่าวได้สอบถามความเห็นจากประชาชนผู้ใช้บริการต่างวิพากษ์วิจารณ์ว่า กทช.คงไม่มีงานทำ มติครั้งนี้จะส่งผลกระทบคือผู้ประกอบการจะได้รับประโยชน์เนื่องจากสามารถปรับราคาออนเน็ตและออฟเน็ตขึ้นมาเท่าอัตราต้นทุนไอซี แต่ผู้บริโภคจะแย่เพราะต้องจ่ายค่าบริการสูงขึ้นโดยไม่สามารถออกมาโต้แย้ง เพราะสมาคมผู้บริโภคไทยยังอ่อนแอ ซึ่งผู้ประกอบการรายเล็กจะอยู่ในตลาดอย่างลำบาก เพราะไม่สามารถทำราคาให้สามารถแข่งขันกับรายใหญ่ได้ ขณะที่ผู้ประกอบการรายใหม่ก็จะหมดสิทธิ์เข้าสู่ตลาดได้ นอกจากนี้การกระทำดังกล่าวของ กทช.อาจขัดต่อเจตนารมณ์ส่งเสริมให้เกิดการแข่งขันที่เสรีและเป็นธรรม.
     
  9. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    ฮีตเวฟ ... คลื่นความร้อนที่ควรระวัง

    ฮีตเวฟ ... คลื่นความร้อนที่ควรระวัง



    [​IMG]


    เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม

    ด้วยสภาพอากาศแปรปรวนอย่างหนัก อันเป็นผลจากความวิปริตแปรปรวนของปรากฏการณ์เอลนีโญ ทำให้อุณหภูมิแทบจะทุกตารางนิ้วของประเทศไทยพุ่งพรวดเหยียบ 40 องศาเซลเซียส ติดต่อกันมาหลายวัน ส่งผลให้อากาศร้อนอบอ้าวผิดปกติ โดยเฉพาะที่จังหวัดลำปาง อุณหภูมิสูงถึง 43 องศาเซลเซียส ซึ่งไม่เคยปรากฏมาก่อน

    นอกจากนี้ ยังส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตจาก "ภาวะคลื่นความร้อน" หรือ "ฮีตเวฟ" ไปแล้ว 15 ราย ทำให้หลายฝ่ายกังวลว่าประเทศไทยกำลังเผชิญกับปรากฏการณ์ "ฮีตเวฟ" อย่างหนัก

    เอ่ยมาถึงตรงนี้หลายคนอาจสงสัยและยังไม่รู้ว่า "ฮีตเวฟ" คืออะไร น่ากลัวอย่างไร วันนี้กระปุกดอทคอมมีคำตอบดี ๆ มาอธิบายกันค่ะ...

    ภาวะคลื่นความร้อน หรือ ฮีตเวฟ (Heat wave) หมายถึง อากาศร้อนจัดที่สะสมอยู่พื้นที่บริเวณหนึ่ง แบ่งเป็น 2 ประเภทคือ

    - แบบสะสมความร้อน เกิดในพื้นที่ซึ่งสะสมความร้อนเป็นเวลานาน อากาศแห้ง ลมนิ่ง ทำให้ความร้อนจากแสงอาทิตย์ไม่เคลื่อนที่ เมื่ออุณหภูมิร้อนสะสมหลายวันจะเกิดคลื่นความร้อนมากขึ้น เช่น หากพื้นที่ไหนมีอุณหภูมิ 38-41 องศาเซลเซียส แล้วไม่มีลมพัดต่อเนื่อง 3-6 วัน ไอร้อนจะสะสมจนกลายเป็นคลื่นความร้อน

    - แบบพัดพาความร้อน ซึ่งคลื่นความร้อนชนิดนี้เกิดจากลมแรงหอบความร้อนจากทะเลทราย ขึ้นไปในเขตหนาว ซึ่งมักเกิดในยุโรป

    ทั้งนี้ ประเทศไทยเรียกว่าแทบจะไม่มีโอกาสเกิด "คลื่นความร้อน" หรือ "ฮีตเวฟ" ได้เลย เนื่องจากไม่ได้ตั้งอยู่ในพื้นที่มีมวลอากาศร้อนจัด ประกอบกับไม่มีทะเลทราย นอกจากนี้ ฮีทเวฟจะเกิดได้ก็ต่อเมื่ออุณหภูมิร้อนเกิน 40 องศาต่อเนื่องกันหลายสัปดาห์ แต่สภาพอากาศของไทยมีมวลอากาศเย็นจากประเทศจีนแผ่ลงมาทุก 7-10 วัน ทำให้เกิดฝนตก ช่วยลดอุณหภูมิไม่ให้ไต่ระดับสูงถึงขั้นเป็นอันตรายต่อสุขภาพ แต่ปี 2553 ด้วยสภาพอากาศที่ร้อนขึ้น อันเนื่องจากปรากฏการณ์เอลนีโญ่ ทำให้ฤดูร้อนปีนี้ของประเทศไทยอุณหภูมิเฉลี่ย 42-43 องศา ทำให้ผู้เชี่ยวชาญด้านโลกร้อนยืนยันว่า ไทยเสี่ยงต่อปรากฏการณ์ "ฮีตเวฟ" เป็นอย่างมาก

    เกี่ยวกับเรื่องนี้ ดร.สมิทธ ธรรมสโรช ประธานมูลนิธิเตือนภัยพิบัติแห่งชาติ กล่าวว่า สภาพอากาศของไทยช่วงนี้มีความแปรปรวนสูง โดยเฉพาะอากาศร้อนจัดและที่มีแนวโน้มจะร้อนเรื่อย ๆ ซึ่งเป็นเรื่องอันตรายอย่างยิ่ง เพราะอุณหภูมิสูงติดต่อกันเกิน 3 วันขึ้นไปจะทำให้เกิด "คลื่นความร้อน" และคนที่ได้รับคลื่นความร้อนอาจถึงขั้นเสียชีวิตได้ และตามรายงานมีผู้เสียชีวิตจากความร้อนแล้ว 15 คน ซึ่งถือว่าเยอะเป็นประวัติการณ์ จึงขอฝากบอกไปยังกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ให้รีบออกประกาศเตือนภัย เพราะหากปรับสภาพร่างกายไม่ทัน อาจทำให้หัวใจวายและเสียชีวิตในที่สุด หากทุกคนยังไม่ตระหนักถึงเรื่องนี้ แนวโน้มความรุนแรงของสภาพอากาศจะยิ่งสูงขึ้นอีกในปีต่อ ๆ ไป โดยเฉพาะในปี 2554 จะมีปรากฏการเอลนินโญ่เกิดขึ้นในมหาสมุทรแปซิฟิก ก็ยิ่งจะทำให้สภาพอากาศเลวร้ายและประชาชนจะต้องประสบกับปัญหาภัยแล้ง และเผชิญกับคลื่นความร้อนที่รุนแรงมากขึ้นอีก

    อย่างไรก็ตาม ไม่เฉพาะในประเทศไทยเท่านั้นที่กำลังเผชิญหน้ากับ "ฮีตเวฟ" อันเนื่องมาจากผลของภาวะโลกร้อน เพราะทั่วโลกก็กำลังได้รับผลกระทบเหมือน ๆ กัน ซึ่งทำให้เกิดคำถามตามมาว่า ... ถึงเวลาแล้วหรือยังที่เราจะหันมาศึกษาและป้องกันภัยจาก "ภาวะโลกร้อน" อย่างจริงจัง

    สำหรับวิธีปฏิบัติตัวเพื่อบรรเทาความร้อน ได้แก่...

    1. ให้หลีกเลี่ยงการอยู่กลางแดดที่ร้อนจัด พยายามอยู่ในที่ร่มโดยเฉพาะเด็ก ผู้สูงอายุ และผู้ที่มีโรคประจำตัว

    2. ให้ดื่มน้ำมาก ๆ ไม่น้อยกว่าวันละ 8 แก้ว หรือ 2 ลิตรต่อวัน มีวิธีสังเกตง่าย ๆ ว่าร่างกายได้รับน้ำเหมาะสมหรือไม่ คือสังเกตจากสีของปัสสาวะ ถ้าปัสสาวะมีสีเหลืองจาง ๆ แสดงว่าได้รับน้ำเพียงพอ แต่ถ้าปัสสาวะสีเหลืองเข้มและปัสสาวะออกน้อย แสดงว่าได้รับน้ำไม่เพียงพอ จะต้องดื่มน้ำให้มาก ๆ

    3. หลีกเลี่ยงการออกกำลังกายกลางแจ้ง

    4. หากร้อนจัดแล้วเหงื่อไม่ออกให้ใช้ผ้าชุบน้ำเช็ดตัว เพื่อระบายความร้อนในตัวออกมา และเป็นการลดความร้อนออกจากร่างกาย

    5. หากมีอาการของโรคลมแดด คืออาการกระหายน้ำ ตัวร้อนแต่ไม่มีเหงื่อออก หายใจถี่ ปากคอแห้งและอาจวิงเวียนศีรษะ ขอให้รีบไปพบแพทย์
     
  10. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    อาการถูกมอมยา...และการป้องกันไม่ให้ถูกมอมยา (ศูนย์เตือนภัยผู้หญิง)

    http://icare.kapook.com/content_detail.php?t_id=0&id=2543

    ภัยสังคมมีเยอะ..บทความนี้คงมีประโยชน์สำหรับ สาว ๆ ทุกวัย...ไม่มากก็น้อย

    ปัจจุบัน มักมีข่าวเกี่ยวกับยานอนหลับซึ่งใช้ในการก่ออาชญากรรมปรากฏเป็นข่าวหน้า 1 ของหนังสือพิมพ์อยู่เป็นระยะๆ จากอดีตที่เคยใช้เพียงเครื่องดื่มผสมแอลกอฮอล์หรือเหล้าสำหรับมอมเหยื่อ เพื่อล่วงละเมิดทางเพศ แต่ระยะหลังได้หันมาใช้ยานอนหลับเป็นเครื่องมือสำหรับการมอมเหยื่ออย่างง่าย ดายและรวดเร็ว เพียงอาศัยการพูดคุย ทำท่าทางให้สนิทสนม เมื่อเหยื่อเผลอจึงแอบใส่ยาลงไปในเครื่องดื่มหรืออาหาร

    ยานอนหลับ (Hypnotic) ที่ ถูกนำไปใช้นั้น เป็นยาที่ออกฤทธิ์ต่อระบบประสาทส่วนกลาง โดยมีฤทธิ์ทำให้หลับ คลายกล้ามเนื้อ จัดเป็นวัตถุออกฤทธิ์ ตาม พ.ร.บ.วัตถุที่ออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาท พ.ศ.2518 ซึ่งผู้ที่มีสิทธิสั่งจ่ายได้แก่ แพทย์ ทันตแพทย์ และผู้ที่จะใช้ยาในกลุ่มนี้ต้องใช้ตามคำสั่งของแพทย์เท่านั้น ผู้ได้รับ

    ยากลุ่ม นี้ (กลุ่มเบนโซไดอาเซปีนส์ที่มีการออกฤทธิ์เร็ว) จะมีอาการง่วงซึม มึนงง เดินเซ ปวดศีรษะ และสูญเสียความทรงจำ ความจำในระหว่างที่ได้รับยาลดลง การตัดสินใจไม่ดี ผู้ป่วยบางรายอาจมีอาการสั่นและฝันร้าย หากได้รับมากเกินไป หรือได้รับร่วมกับแอลกอฮอล์ อาจกดการหายใจ ทำให้เสียชีวิตได้

    การถูกมอมยามักเกิดจากการจงใจวางแผนของมิจฉาชีพ ดังนั้นจึงต้องระวังตนเองอยู่เสมอ เพื่อหลีกเลี่ยงโอกาสการถูกมอมยา โดยมีแนวทางการปฏิบัติดังต่อไปนี้

    1. กรณีที่ไปงานเลี้ยงหรืองานสังสรรค์ ไม่ควรดื่มเครื่องดื่มผสมแอลกอฮอล์
    2. หากต้องดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ ให้ดื่มพอประมาณ เพื่อให้มีสติอยู่ตลอดเวลา
    3. รับเครื่องดื่มจากบุคคลหรือเพื่อนที่ไว้ใจได้ อย่ารับเครื่องดื่มจากผู้ที่เราไม่รู้จักดี หรือไม่สามารถเชื่อใจได้ และเครื่องดื่มนั้นต้องไม่ได้ผ่านการเปิดฝามาก่อน ไม่ว่าจะเป็นเครื่องดื่มแอลกอฮอล์หรือน้ำอัดลม สำรวจภาชนะบรรจุว่าอยู่ในสภาพเรียบร้อย ไม่มีร่องรอยถูกเจาะหรือรอยปิดด้วยเทป หากเป็นเครื่องดื่มที่ต้องผสมควรไปดูการเตรียมเครื่องดื่มที่เคาน์เตอร์และ รับมาด้วยตนเอง
    4. ต้องมีเพื่อนไปด้วยเสมอ และเป็นเพื่อนที่แน่ใจว่าสามารถดูแลซึ่งกันและกันได้
    5. ดื่มและกลืนอย่างช้า ๆ เพราะหากเครื่องดื่มถูกใส่ยาลงไป จะทำให้มีเวลาพอที่จะระวังตัวได้ทัน
    6. อย่าแบ่งหรือแลกเปลี่ยนเครื่องดื่มและอาหารกับผู้อื่น
    7. อย่าดื่มเครื่องดื่มที่อยู่ในจากภาชนะส่วนรวม หรือภาชนะเปิด เช่น อ่างใส่พั้นซ์ เพราะง่ายต่อการถูกใส่ยา หรืออาจถูกใส่ยาไปแล้ว
    8. หากรู้สึกว่ารสหรือกลิ่นของเครื่องดื่มเปลี่ยนไปจากเดิม ควรหลีกเลี่ยงการดื่มเครื่องดื่มนั้นต่อยามอมบางชนิดมีรสเค็ม
    9. ไม่ควรละสายตาจากเครื่องดื่มของตน หากเป็นไปได้ควรใช้มือปิดที่ปากแก้วหรือภาชนะ ก่อนที่จะต้องหันไปทางอื่นหรือสนทนากับบุคคลอื่น
    10. เมื่อต้องเข้าห้องน้ำหรือออกไปเต้นรำ กลับมาแล้วอย่าลืมที่จะเปลี่ยนแก้วใหม่
    11. หาก เริ่มรู้สึกว่ามีอาการแปลก ๆ หรือรู้สึกเมาหลังจากดื่มไปได้เพียงเล็กน้อย ให้รีบขอความช่วยเหลือจากเพื่อนที่ไว้ใจได้ พึงปฏิเสธความช่วยเหลือจากคนแปลกหน้า เพราะอาจจะเป็นคนที่ลอบวางยาเรา

    อาการที่บ่งบอกกว่าเราถูกมอมยา

    >> รู้สึกเมาโดยไม่ได้ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ หรือดื่มเพียงเล็กน้อย
    >> รู้สึกมึนงงและง่วงนอนโดยไม่ทราบสาเหตุ

    นอกจากนี้เราควรศึกษาหาความรู้เกี่ยวกับยาต่างๆ ที่ใช้ในการมอมเหยื่อ ให้ทราบถึงรูปแบบการใช้และผลที่เกิดขึ้น เพื่อเป็นการป้องกันตนเองหรือสามารถให้คำแนะนำแก่ผู้อื่นได้



    <HR align=center width="100%" SIZE=2>


    ขอขอบคุณข้อมูลจาก


    ศูนย์เตือนภัยผู้หญิง


    http://www.paiphuying.com/modules.php?name=Forums&file=viewtopic&t=628#1264


    วันจันทร์ที่ 10 พฤษภาคม พ.ศ. 2553
     
  11. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    เค้าว่าเป็นสูตรฟันหญิงอะ เอามาให้อ่านเตือนสาวๆที่กำลังโดนสูตรนี้อยู่



    ถูกต้องถูกต้อง ต้องกล้า แต่ห้ามคิดขอเบอร์ ในครั้งแรกที่คุยด้วย คุยทุกอย่าง อย่าให้เธอต้องรู้สึกไม่ดี คุยเรื่องเธอเข้าไว้ เซียนเขาจีบหญิงกฏข้อแรก ห้ามขอเบอร์ ข้อสองห้ามถามตรงว่าเป็นแฟนเราไหม มีแค่สองข้อทำได้ไหม


    แล้วพยายาม ชวนกินข้าว+ดูหนัง+ฟังเพลง ตามสูตร แค่นี้ก็เสร็จ ถ้าเป็นพวกชอบกินเหล้าก็เสร็จง่าย ถ้าเป็นคุณหนูบ้านรวยก็ต้องหาโอกาสไปในที่สองต่อสองให้บ่อยๆเดี๋ยวเสร็จเอง


    ที่สำคัญ ชายนั้นต้องสปอร์ต จ่ายให้มากๆเข้าไว้ในครั้งแรกๆ อย่าเหนียวให้เขาเห็น อย่าแชร์ อย่าแสดงทุกอย่างว่ามีรสนิยมต่ำ

    จนกว่าจะฟันได้แล้วค่อยๆเริ่มแผนการดูดเงินของเธฮ หรือปลอกลอกทรัพย์สินให้หมด หรือให้พาไปค้ำประกันสัญญากู้ต่างๆนาๆ ถ้าหลงเรามากก็ให้ออกดาวน์ของไปด้วยแล้วโกหกหลอกว่าจะใช้ให้ว่าจะใช้คืนไม่กี่วัน หรือถ้าไม่สำเร็จให้ใช้แผนสงสารขอเงินหรือยืมเงินไปรักษาญาติ หรือเพราะญาติป่วย หรือ อื่นๆ (ตอนนี้ยังคิดไม่ออก) หรือทางที่ดีให้เนียนให้หลอกพาไปลงทุนด้วยกัน เปิดร้านทำโน้นทำนี้ หรือทำอะไรก็ได้ทำนองนี้

    ปล. ขอเตือนมีพวกที่ทำอย่างนี้อยู่มากมายแล้วสุดท้ายหลอกเอาเงินหญิงเป็นร้อยเป็นพัน หลอกพร้อมๆกันเป็นสิบๆๆคนก็มี โดนฟันพร้อมๆกันด้วย(สับรางรถไฟ 1อาทิตย์ 7วัน)ก็เคยมี ประวัติศาสตร์มักจะเกิดขึ้นซ้ำบ่อยๆ เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นมามากแล้ว คนทำมีรายได้มหาศาล มีคนในสังคมรวยมามากเพราะหลอกผู้หญิงก็มีมากมาย หลอกร้อยแปดจนคุณหลงเชื่อ เสียทั้งเงินทั้งตัว หรือหลอกว่าให้ลงทุนด้วยกัน หรือทำประกันชีวิต แล้ว ฆาตกรรม ทั้งหมดต่างๆที่กล่าวมาไม่ได้ต้องการในตัวเธอแต่ต้องการชีวิตและวิญญาณ ให้เธอตายทั้งเป็น

    ป.ล. แล้วพวกตัวอย่างที่มีนักเลงผู้หญิงทางอินเตอร์เน็ตที่ถูกจับเพราะไปฟันสาวทางอินเตอร์เน็ตแล้วฉกเอาทรัพย์ตอนเผลอหลังเอาเสร็จแล้วนะ พวกนี้คิดสั้นเอาแค่มือถือกับเงินไม่กีบาทในกระเป๋าตอนผู้หญิงเข้าห้องน้ำหลังมีอะไรกันเสร็จนะ พวกนี้มันกระจอกมากๆนะ ขอบอกถ้าเจอของจริงต้องพวกดูดเงินหมดตัวทั้งครอบครัว เอาให้ตายทั้งเป็น แล้วให้เธอตายไปไม่มีโรงให้ฝั่งก็มีถมไป แถมคนทำไม่ติดคุกด้วย อีกทั้งร่ำรวยมหาศาล


    http://www.guitarthai.com/musicboard/question.asp?QID=2728
     
  12. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    <CENTER>ศูนย์เตือนภัยผู้หญิง</CENTER>

    [​IMG]

    คุณผู้หญิงทุกท่านครับ จากประสบการณ์ในการทำงานเป็น ผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ 17 ปีมานี้ สิ่งที่ผมได้พบก็คือการที่ผู้หญิงตกเป็นเหยื่อของอาชญากรรมมากกว่าผู้ชายเหมือนกันทั่วทั้งโลก และไม่มีแนวโน้มที่จะลดจำนวนลงเลย องค์กรเอกชนหรือหน่วยงานของรัฐที่ทำหน้าที่ช่วยเหลือผู้หญิงก็มีน้อย และในความน้อยนั้น ก็เป็นองค์กรที่เข้ามาเยียวยาผู้หญิงภายหลังจากที่เกิดเหตุแล้ว แต่ยังไม่มีองค์กรใดที่คอยเตือนภัยผู้หญิงก่อนเกิดเหตุเลย ปัจจุบันสถานการณ์ด้านอาชญากรรมทำให้เราต้องพึ่งตนเองมากขึ้น และต้องรู้เท่าทันสารพัดภัยก่อนที่จะสายเกินไป ก่อนที่ภัยจะเกิดกับคุณหรือคนที่คุณรัก
    ผมจึงตัดสินใจตั้ง “ศูนย์เตือนภัยผู้หญิง” ขึ้นเพื่อนำความรู้และประสบการณ์ในการป้องกันภัยที่ถูกวิธีมาเผยแพร่ และใช้เวบไซต์นี้เป็นศูนย์กลางในการแลกเปลี่ยนความคิดเห็น เพื่อสร้างเครือข่ายความปลอดภัยสำหรับคุณผู้หญิง ทุกคน หวังเป็นอย่างยิ่งว่าผู้หญิงไทยกว่า 30 ล้านคน จะสามารถปกป้องดูแลตัวเองได้นับตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป

    ด้วยรักและห่วงใย
    พ.ต.ท. โชติวิเชียร วิเชียรโชติ
    ผู้อำนวยการศูนย์เตือนภัยผู้หญิง
    Email : paiphuying@hotmail.com
    หรือ โทร. 081-626-9677


    http://www.paiphuying.com/index.php
    .
     
  13. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    ชื่อกระทู้: ภัยขอทานสะพานลอย
    zuzuclub

    http://www.paiphuying.com/modules.php?name=Forums&file=viewtopic&t=562#1261

    เตือนภัยผู้หญิง เราโดนขอทานตรงสะพานลอยไล่ตาม
    ปกติ เราเคย แต่อ่านกระทู้​และฟอร์เวิร์ดเมล์เตือนภัยผู้หญิง​ที่คนอื่นเขียน ไม่นึกว่าวันนี้​จะ​ต้องมาตั้งกระทู้เสียเอง โชคดี​ที่เรา​กับ​เพื่อนยังปลอดภัย แต่เหตุการณ์นี้เพิ่งเกิดขึ้น​ไม่นาน ทำให้เรายังคงไม่หายเสียขวัญ

    เรื่อง​มีอยู่​ว่า ​เมื่อวันอาทิตย์​ที่ 20 สิงหาคม ​ที่ผ่านมา ประมาณหกโมงเย็น (ยังไม่มืดเลย​) เรา​กับ​เพื่อนผู้หญิงเดินลงมาจากสะพานลอยฝั่งโรงแรมเชอราตัน ซึ่งอยู่​ระหว่างสถานีรถไฟฟ้าอโศก​และสถานีรถไฟฟ้านานา

    บนบันไดขั้นสุดท้าย มีขอทานคนหนึ่ง​ ​เป็นชายหนุ่ม ซึ่งดูปกติดีทุกอย่าง ไม่ใช่คนพิการ (แต่ไม่รู้ว่า ​เป็นโรคจิตหรือเปล่า) อีก​ทั้งยังมีรูปร่างกำยำ ใส่เสื้อยืดสีส้มนั่งอยู่​บนบันไดขั้นสุดท้ายของสะพานลอย ข้างหน้าของ​เขามีเหรียญต่าง ๆ ​และแบ็งค์ยี่สิบกระจายอยู่​ พอ​เขาเห็นเรา​กับ​เพื่อนเดินลงมา ก็หมอบลงมาขวางทางเราสองคนไว้ไม่ให้เดินผ่าน​ไป เรา​กับ​เพื่อนก็เลย​เดินข้าม​เขา​ไป​เนื่องจากไม่มีทาง​ที่ให้เดินเลี่ยง​ไป

    หลังจากเดินผ่าน​ไปไม่นาน ก็​ได้ยินเสียงเรียก 'เฮ้ย ๆ ๆ ' ข้างหลัง พอหัน​ไป ก็เห็นขอทานคนนั้น​เดินตามพวกเรามา ทำหน้าโหดมาก เรา​กับ​เพื่อนก็เลย​จูงมือกันวิ่งหนี พอหัน​ไปอีกก็ยังเห็นตามมาอยู่​ คราวนี้​เขากำหมัดชูขึ้น​ขู่ด้วย แต่โชคดี​ที่พวกเราวิ่งมาถึงป้ายรถเมล์​พอดี เราก็เลย​ร้องว่า 'ช่วยด้วยค่ะ ' พวกคน​ที่นั่งอยู่​ตรงป้ายรถเมล์ก็คง​จะงงเหมือนกันว่า ผู้หญิงสองคนนี้วิ่งกระหืดกระหอบมาทำไม
    แต่​ได้ผล พอหัน​ไปอีกที ขอทานคนนั้น​ก็เลิกตามเรามาแล้ว​ค่ะ

    โชคดี​ที่​เขาไม่มีอาวุธอยู่​ในมือ ​และยังมีคนพลุกพล่านอยู่​ ไม่อย่างนั้น​ ดูจากรูปร่างแล้ว​ ​แม้ว่า เรา​กับ​เพื่อนสองคนก็คง​จะสู้ไม่​ได้ ​ถ้าเกิด​เขาวิ่งตามมาทัน ในครั้งนี้ ถึง​เขา​จะไม่​ได้ทำร้ายร่างกายเรา แต่ทำให้เราเสียสุขภาพจิตมาก เพราะว่า เรายังคงกลัว​และหวาดระแวงเวลาออก​ไปนอกบ้านอยู่​

    อยาก​จะเตือนให้ทุกคน​โดยเฉพาะสาว ๆ ระวังตัวไว้ด้วย ขอทานสมัยนี้พัฒนา​ไปในทางร้ายขึ้น​ทุกวัน
     
  14. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    @@@@ ขอเตือนภัย ผู้หญิง ที่ใช้บริการรถแท๊กซี่ นะคะ @@@@

    PANTIP.COM : F8481981 @@@@ �����͹��� ���˭ԧ ��������ԡ��ö��ꡫ�� �Ф� @@@@ []

    สวัสดีค่ะ

    พอดีนิวได้เห็นกระทู้ ของคุณ แม่น้องเอลฟี่ จากห้องชานเรือนนะคะ
    http://www.pantip.com/cafe/family/topic/N8476905/N8476905.html
    เกี่ยวกับภัยแท๊กซี่ ขออนุญาต นำมาลงให้ทราบนะคะ
    จะได้ระวังกันไว้ค่ะ ^__________^

    ----------------------------------------------------------------------------
    [​IMG]
    ข้อความของ แม่น้องเอลฟี่ นะคะ

    เราเป็นคนนึงที่ใช้บริการแท็กซี่บ่อยมากค่ะ
    เคยได้รับ forward mail จากการนั่งแท็กซี่
    จากผู้ชายท่านนึง ส่งมาเตือนภัยผู้หญิงค่ะ
    ว่าเวลานั่งแท็กซี่ ควรสังเกตุที่บังแดดของคนขับ
    ถ้ามีกระจกเล็กๆ นั่นหมายถึงว่า คุณตกอยู่ภายใต้สายตา
    แท็กซี่ "หื่น"อยู่ค่ะ

    และแล้วเมื่อ 2 วันก่อนโน้นเราได้แวะไปทำธุระโดยการใช้บริการแท็กซี่
    ก็สังเกตุเห็น "กระจกเล็กๆ"ค่ะ เป็นไปตาม forward mail เลยค่ะ
    วันนั้นใส่กระโปรง เหนือเข่าเล็กน้อย เป็นแซ็กค่ะ เวลานั่งทำให้
    ประโปรงดูสั้นขึ้นไปอีก เราก็เอากระเป๋าวางหน้าตักเลย (กันไว้ก่อน)
    แล้วก็ มีโทรศัพท์มาเราก็รับสาย ในระหว่างนั้น ไอ่เจ้าคนขับ ก็เริ่ม
    ขยับบังแดด(ที่ติดกระจกไว้แล้ว) ให้ใด้ระดับที่มองเห็น มันแอบชำเลืองมอง
    เป็นบางครั้ง มันคงนึกอยู่ว่า "ไอ่กระเป๋ามันบังจัง" เราก็แอบถ่ายรูปมันมา
    ได้ตามที่เห็นค่ะ โดยการเอาโทรศัพท์วางตรงที่คิดว่าเป็นจุดที่มันมองค่ะ
    เอียงกล้องให้ได้ตรงกระจกเล็กๆอันนั้น ได้ภาพอย่างที่เห็นค่ะ..

    แต่เค้าชวนคุยดีนะคะ พูดเพราะ (พูดออกเจ้าชู้ๆ)
    ก่อนลงมีมาขอเบอร์โทรด้วยค่ะพร้อมสายตาที่พยายามจ้องมองกระโปรง ในระหว่างเราลงรถค่ะ เราก็เลยบอกว่า..

    "ขอโทษนะคะ ชั้นมีสามีแล้ว และรบกวนนิดนึง เรื่องกระจกที่คุณดูอยู่อ่ะค่ะ
    (พร้อมกับชี้ไป)คิดดีแล้วหรือค่ะที่ติดไว้มอง อย่าคิดว่าผู้โดยสารเค้าไม่รู้นะ
    อยู่ที่ว่า เค้าจะพูดหรือเปล่า!!"

    มันรีบบอก"ครับๆๆๆ" ขับหนีไปอย่างรวดเร็ว
    เราเลยโทรแจ้งร้องเรียน ขนส่งทางบกเลย เอาให้หนัก เป็นภัยกับสังคมมากๆเลยค่ะ (มัวแต่จ้องอาจเกิดอุบัติเหตุได้ และคดีข่มขืนตามข่าว)


    คุณผู้หญิงและแม่ๆอย่างเราระวังนะคะ
    ขึ้นรถแท็กซี่อย่าลืมสังเกตุค่ะ ^^
    [​IMG]

    -------------------------------------------------

    ชัดๆ ปรับกระจกมองหลัง ตรงหน้าเราอีกต่างหาก...
    [​IMG]

    วางโทรศัพท์ตรงกระโปรง
    ได้มุมนี้ค่ะ

    [​IMG]

    [​IMG]




    <TABLE cellSpacing=1 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=bottom width="10%">จากคุณ</TD><TD>: <!--MsgFrom=0-->อลิซ ในดินแดนไม่มหัศจรรย์ [​IMG] [​IMG] </TD></TR><TR><TD vAlign=bottom width="10%">เขียนเมื่อ</TD><TD vAlign=bottom>: <!--MsgTime=0-->28 ต.ค. 52 12:53:16 <!--MsgIP=0-->[​IMG] </TD></TR></TBODY></TABLE><!--MsgFile=0-->
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • F8481981-0.jpg
      F8481981-0.jpg
      ขนาดไฟล์:
      54.1 KB
      เปิดดู:
      534
    • F8481981-1.jpg
      F8481981-1.jpg
      ขนาดไฟล์:
      122.6 KB
      เปิดดู:
      506
    • F8481981-3.jpg
      F8481981-3.jpg
      ขนาดไฟล์:
      125.8 KB
      เปิดดู:
      506
    • F8481981-4.jpg
      F8481981-4.jpg
      ขนาดไฟล์:
      119.4 KB
      เปิดดู:
      495
  15. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>วิบากกรรมของหมอดูอยากดัง เมื่อหมอ (ดู) ตายเพราะปาก
    Daily News - Manager Online
    </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ASTVผู้จัดการรายวัน</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>12 พฤษภาคม 2553 22:45 น.</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=bottom align=right width=1 height=1>[​IMG]</TD><TD vAlign=bottom align=middle background=/images/linedot_hori.gif height=1>[​IMG]</TD><TD vAlign=bottom align=left width=1 height=1>[​IMG]</TD></TR><TR><TD vAlign=center align=middle width=1 background=/images/linedot_vert.gif>[​IMG]</TD><TD><TABLE cellSpacing=5 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD vAlign=center align=middle width=1 background=/images/linedot_vert.gif>[​IMG]</TD></TR><TR><TD vAlign=top align=right width=1 height=1>[​IMG]</TD><TD vAlign=top align=middle background=/images/linedot_hori.gif height=1>[​IMG]</TD><TD vAlign=top align=left width=1 height=1>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
    </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=bottom align=left height=12>[​IMG]</TD></TR><TR><TD bgColor=#cccccc><TABLE cellSpacing=1 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle bgColor=#ffffff><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=160><TABLE cellSpacing=4 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=middle>คลิกที่ภาพเพื่อดูขนาดใหญ่ขึ้น</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle width=165 height=1>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD width=4 background=/images/linedot_vert3.gif>[​IMG]</TD><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=7 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>หลังจากขึ้นโรงขึ้นศาลมาพักหนึ่ง สุดท้าย ศุกฤษฎ์ ปทุมศรีวิโรจน์ หรือหมอกฤษฎ์ คอนเฟิร์ม หมอดูหนุ่มชื่อดังก็ถูก ศาลอาญาพิพากษาลงโทษจำคุก 8 เดือน ปรับเงินอีก 100,000 บาท แต่เนื่องจากจำเลยให้การเป็นประโยชน์ จึงลดโทษให้เหลือ จำคุก 6 เดือน และปรับเงิน 75,000 บาท โดยโทษจำคุกนั้นได้มีการรอลงอาญาไว้ก่อน

    ทั้งนี้เนื่องมาจากหมอกฤษฎ์ คอนเฟิร์ม ให้สัมภาษณ์ผ่านรายการทีวีรายการหนึ่งว่า ตามดวงชะตาของลีเดีย (ศรัณย์รัชต์ วิสุทธิธาดา) มีเกณฑ์ตั้งครรภ์ นั่นทำให้ลีเดียไม่รีรอที่จะฟ้องหมอกฤษฎ์ในข้อหาหมิ่นประมาทผู้อื่นด้วยการโฆษณา และเมื่อผลการพิพากษาออกมา หมอกฤษฎ์ ก็ได้แต่บอกสั้นๆ ว่า ตนพร้อมจะยื่นอุทธรณ์เพื่อสู้คดีในชั้นต่อไป

    ถึงวินาทีนี้ใครๆ ก็รู้ว่าหมอกฤษฎ์ ปากกล้า กำลังตกที่นั่งลำบากอยู่แน่ๆ โดยที่ไม่ต้องรอให้ใครหน้าไหนมา คอนเฟิร์ม

    และเมื่อถอยออกมามองปรากฏการณ์เรื่อง ‘หมอกฤษฎ์กับลีเดีย’ ห่างๆ ก็มีสองประเด็นใหญ่ๆ ที่ทับซ้อนกันอยู่ อย่างแรกก็คือขอบเขตของการทำนายทายทักของหมอดูว่าอะไรควรพูด อะไรไม่ควรพูด (สรุปเป็นคำสั้นๆ ได้ว่า 'จรรยาบรรณ') และความอยากเด่นอยากดังของตัวหมอดูเอง ที่ชักจูงให้หมอดูต้องออกมาพูดจาเอามันเข้าไว้เพื่อที่จะได้กลายเป็นคนเด่นคนดังสมใจ

    เมื่อคนดูดวงอยากจะไปเป็นดาว

    “สมัยก่อนนั้น กว่าจะได้เป็นนักโหราศาสตร์นี่ยากมาก เพราะต้องมีคนรับรอง มีความแม่นยำ และเขาก็จะไม่ยกตัวเองเป็นโหร คนที่เป็นโหรนี่จะมีก็อยู่แต่ในวังเท่านั้น และนักพยากรณ์ทุกคนก็จะมีจรรยาบรรณในการทำนายมาก คำทำนายของใครก็ตาม ถือเป็นความลับทั้งหมด จะไม่มีการเที่ยวเอามาป่าวประกาศ โหรสมัยก่อน ถ้าจะมีการตีพิมพ์คำทำนายลงในหนังสือพิมพ์ เขาจะต้องขออนุญาตเจ้าของดวงก่อน และเผยแพร่เฉพาะด้านที่ดีหรือด้านที่เป็นมงคลกับคนคนนั้น จะไม่เอาเรื่องส่วนตัวมาทาย”

    ที่กล่าวมาทั้งหมดคือจรรยาบรรณของหมอดูรุ่นก่อน ที่ออกมาจากปากของหมอไพศาล ซอยพิบูลเวศม์ หมอดูชื่อดังที่มีประสบการณ์ในวงการทำนายมากว่า 40 ปี

    “ในสมัยก่อน หมอดูนั้นมีไม่มาก การดูดวงแบบมีการผูกดวงนั้น เป็นที่นิยมในหมู่คนทั่วไปก็สัก 40 ปีที่ผ่านมานี่เอง เพราะเมื่อก่อนนั้นคนไทยทั่วไปไม่ได้มีการผูกดวงกัน จะมีก็แต่ลูกเจ้าฟ้าเจ้าแผ่นดินและลูกหลานคหบดีเท่านั้นที่มีการผูกดวงเวลาเกิด การดูดวงในสมัยก่อนหน้านั้นจึงนิยมการดูลายมือเป็นส่วนมาก แต่พอมาในสมัยนี้ หมอดูนั้นหาง่าย ใครมีความรู้นิดๆ หน่อยๆ ก็เรียกตัวเองว่าเป็นหมอดูกันหมด”

    ในสมัยก่อน หมอดูที่ขึ้นชื่อว่ามีฝีมือ ก็จะมีลูกค้าแน่นเอี้ยด และแน่นอนว่าในบรรดาลูกค้าเหล่านั้น ก็จะมีดาราและคนดังแวะเวียนมาด้วยส่วนหนึ่ง ซึ่งถ้ามองย้อนหลังกลับไป สถานที่ที่รวมหมอดูเก่งๆ ไว้ด้วยกัน และเป็นที่ที่คนดังและดาราเดินทางไปหาหมอดูนั้น ก็คงจะหนีไม่พ้น ‘ระเบียงโหร’ ของโรงแรมมณเฑียร

    “ที่ระเบียงโหรนั้น คุณบุญเนตร ตันตระกิจ (เจ้าของโรงแรมมณเฑียร) ซึ่งชื่นชอบโหราศาสตร์ เป็นคนไปเสาะหาหมอดูมานั่งที่ระเบียงโหร จนทำให้ที่นั่นมีชื่อเสียงขึ้นมา อย่างน้อยๆ ก็ 15 ปีผ่านมาแล้ว ผมก็เคยไปช่วยที่นั่นอยู่บ้าง ในช่วงวันศุกร์-เสาร์-อาทิตย์ ซึ่งธรรมเนียมการดูดวงของที่นั่น ก็จะไม่ถามชื่อ ไม่ขอนามบัตร ซึ่งกับบางคนเราก็รู้ว่าเขาเป็นใคร เพราะเราจำหน้าได้ แต่เราก็ไม่เคยไปเปิดเผยคำทำนายของคนที่มาดู แม้นักข่าวเข้ามาถามถึงดวงคนที่มาดูกับเรา เราก็ไม่บอกเด็ดขาด ถึงขนาดที่ดูให้สามีเรายังเอาดวงของสามีไปบอกภรรยาไม่ได้เลย

    “หมอดูเขาถือกันมาก เขาไม่บอกคนอื่นหรอกว่าคนที่ดูเมื่อกี้เป็นใครหรือทำอาชีพอะไร และจะไม่รับนามบัตรของคนที่มาดูด้วย นอกจากหมอดูที่โฆษณาตนเอง ก็จะขอนามบัตรไว้ แล้วก็จะเอาไปโชว์ว่าเคยดูคนนั้นคนนู้นมาแล้ว บางทีก็ถ่ายรูปคู่กับคนที่มาดูติดไว้เต็มห้องเลย”

    แต่สุดท้ายแล้วทุกวงการก็มักจะมีแกะดำอยู่เสมอ นั่นทำให้หมอดูที่อยากมีชื่อเสียงทางลัด ต้องทำลายกรอบจรรยาบรรณของหมอดูอย่างไม่ไยดี

    “ชื่อเสียงของหมอดูนั้น มันบอกต่อกันปากต่อปากว่ามีคนไปดูมาแล้วแม่น อยู่บ้านเฉยๆ ก็มีคนมาหา อยากมาดูด้วย แต่สำหรับหมอดูที่อยากดังเร็วๆ เขาก็ตัดสินใจลงทุนเพื่อโปรโมตตัวเอง ทำการตลาด ตัวอย่างที่เห็นกันมากก็คือการเข้ามาในวงการบันเทิง ทำนายให้กับดารา ซึ่งเริ่มต้นจากการทายฟรีก่อน ทีนี้ นักข่าวจากหนังสือดาราที่มีมากมาย ก็อาศัยหมอดูเป็นแหล่งข่าว จนมันกลายเป็นแฟชั่น ซึ่งปรากฏการณ์นี้มันเพิ่งมามีแค่ 6 – 7 ปีที่ผ่านมาเองนะ แล้วมันก็ทำให้ดารานั้นเสียหาย ช่วงนี้หมอดูเลวๆ ก็เกิดขึ้นมาเยอะและหมอดูเหล่านี้ทำให้วงการโหราศาสตร์นั้นเสื่อมลงๆ”

    และนับแต่นั้นเป็นต้นมา เราก็มีหมอดูพันทางที่เป็นลูกครึ่งระหว่างนักพยากรณ์กับดาราออกมาเพ่นพ่านในวงการบันเทิง และคนเหล่านี้ก็ยินดีที่จะทำทุกวิถีทางเพื่อที่จะให้ตัวเอง 'ดัง'

    บทเรียนสำคัญของ 'หมอดูอยากดัง'

    ความอยากดังของหมอดูบางคนส่งผลให้เขาเหล่านั้น ต้องทำตัวหมิ่นเหม่กับจรรยาบรรณที่หมอดูรุ่นก่อนยึดถือกันมา แต่สุดท้ายการพูดจาโผงผางและไม่ระมัดระวังก็ย้อนกลับมาทำร้ายตัวเอง

    “คำพิพากษาของศาลในกรณีหมอกฤษฎ์ ผมถือว่าเป็นบทเรียนสำคัญ เป็นเครื่องสอนใจให้กับหมอดูคนอื่นๆ ได้ตระหนักว่าอาชีพหมอดูหรือโหรที่คอยทำนายดวงชะตาของผู้อื่นนั้น ควรจะทำหน้าที่ของตนเองอย่างรับผิดชอบ มีมารยาท มีจรรยาบรรณ”

    ธนกร สินเกษม นายกสมาคมโหราศาสตร์แห่งประเทศไทย เอ่ยถึงบทเรียนที่สังคมได้รับจากคำพิพากษาของศาลในคดีหมอกฤษฎ์ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เป็นคำพิพากษาที่ทำให้ผู้ซึ่งเรียกตนเองว่า 'หมอดู' คำนึงถึงการเคารพสิทธิของผู้อื่น ไม่ก้าวล่วงต่อ 'ดวงชะตา' ของใครต่อใครโดยไม่ได้รับอนุญาต แล้วนำมาเผยแพร่ต่อสาธารณะอย่างเสียหาย

    “หมอดูเป็นอาชีพที่ต้องมีจรรยาบรรณ ไม่ต่างกับอาชีพอื่นๆ ไม่ต่างจากแพทย์ หรือสื่อมวลชน ที่ก็ต้องมีจรรยาบรรณ เคารพวิชาชีพของตนเอง ซึ่งจรรยาบรรณของหมอดูนั้น ก็คือมารยาท คือการเคารพต่อสิทธิของผู้อื่น ไม่นำดวงชะตาของใครก็ตามมาเผยแพร่ในที่สาธารณะ เพราะสำหรับหมอดูแล้ว ข้อมูลของลูกค้าถือเป็นสิ่งสำคัญที่ไม่ควรเผยแพร่ออกไป ต้องเก็บรักษาไว้เป็นความลับ หรือแม้แต่ดวงชะตาของใครก็ตาม ไม่ควรและไม่เหมาะสมอย่างยิ่งที่เราจะไปดูโดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าตัวแล้วนำมาเผยแพร่ ทำให้บุคคลคนนั้นได้รับความเสียหาย”

    และเพราะยึดถือในจรรยาบรรณและการเคารพสิทธิผู้อื่นเป็นอย่างยิ่ง นายกสมาคมโหราศาสตร์แห่งประเทศไทยจึงยืนยันว่า หากสมาคมโหรฯ พบว่า ผู้ใดนำดวงชะตาผู้อื่นมาใช้หาผลประโยชน์และทำให้คนผู้นั้นเสื่อมเสีย ก็จะถูกเชิญออกจากสมาคม ไม่ถือว่าเป็นนักโหราศาสตร์ของสมาคมอีกต่อไป

    เพราะถึงที่สุดแล้ว แม้แต่คำว่า 'ยึดมั่นในหลักวิชาโหราศาสตร์' ก็ยังไม่สำคัญเท่าการเคารพสิทธิผู้อื่น

    “การที่หมอกฤษฎ์บอกว่า เขาทำนายไปตามหลักวิชาของโหรนั้น ผมก็ขอแสดงความเห็นว่า หลักวิชาใดๆ ก็ตาม หากยึดมั่นหรือทำนายไปตามหลักใดๆ ที่คุณว่า แล้วสร้างความเสียหาย สร้างความเสื่อมเสียให้แก่ผู้อื่น ก็ไม่สมควรทำ เพราะถือเป็นการละเมิดสิทธิของเขา การนำเอาความทุกข์ของคนอื่นมาทำให้เราเด่นดัง เป็นสิ่งที่ไม่สมควรทำอย่างยิ่ง”

    ไม่ใช่แต่เฉพาะแง่มุมของจรรยาบรรณเท่านั้นที่ถูกล่วงละเมิด แต่การทำนายเอามันของหมอดูอยากดังนั้น บางครั้ง ก็ไปละเมิดแง่มุมด้านกฎหมายด้วย

    ประมาณ เลืองวัฒนะวณิช ทนายความชื่อดัง และ ประธานบริหารบริษัท อาณาจักรกฎหมาย จำกัด เล่าย้อนให้ฟังว่า เมื่อมีข่าวกอสซิปในแง่ลบของดาราหรือคนดัง แล้วสื่อให้หมอดูทำนายทายทักว่าดาราคนนั้นคนนี้ประพฤติตัวเหลวแหลกหรือเป็นคนไม่ดีไม่งามเหมือนดังที่ข่าวว่าไว้หรือไม่ เพื่อเอาคำทำนายของหมอดูไปเผยแพร่ผ่านสื่อ โดยที่คนดังไม่อนุญาตให้สื่อนำดวงไปให้หมอดูทำนาย หากมีการฟ้องร้องขึ้นโรงขึ้นศาล นอกจากหมอดูจะผิดข้อหาหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา สื่อที่นำเสนอคำทำนายดังกล่าวของหมอดูก็ผิดข้อหาหมิ่นประมาทฯ ด้วยเช่นกัน เพราะทำการเผยแพร่หรือนำเสนอคำพูดที่มีลักษณะหมิ่นประมาท

    ทนายความชื่อดังมองว่าคดีนี้ส่งผลสะเทือนต่อวงการหมอดูได้ไม่น้อย และเป็นบทเรียนให้กับหมอดูที่มีลักษณะการทำงานคล้ายๆ กับหมอกฤษฎ์ ที่เน้นไปที่การดูดวงให้ดาราหรือคนดังเป็นหลัก

    “หลังคดีนี้ถูกตัดสินออกมา อย่างน้อยที่สุดมันจะทำให้หมอดูเกิดความระมัดระวังในการทำงานมากขึ้น เพื่อจะไม่ไปดูดวงแล้วทำให้ผู้อื่นเกิดความเสียหาย...การดูดวงเนี่ยเป็นการเดา ไม่มีใครล่วงรู้อนาคตได้จริงแท้แน่นอนร้อยเปอร์เซ็นต์หรอก ดังนั้น การดูดวงของหมอดูจึงไม่ต่างจากการพูดลอยๆ ออกมาซึ่งอาจทำให้ผู้อื่นเสียหาย”

    ทั้งนี้ทั้งนั้น ประมาณกล่าวเพิ่มเติมว่า หากหมอดูดูดวงให้กับดาราเป็นการส่วนตัว 2 คน แต่ไม่นำไปเผยแพร่หรือพูดป่าวประกาศให้บุคคลที่ 3 รับรู้ก็ไม่ถือว่าผิดกฎหมาย ขณะเดียวกัน หากหมอดูทำนายในเรื่องมงคลที่ไม่ได้สร้างความเสียหายให้กับดารา แล้วมีการนำไปเผยแพร่หรือพูดให้คนอื่นฟัง ก็ไม่ถือว่าผิดกฎหมาย หลังพูดเสร็จเขาปิดท้ายด้วยเสียงหัวเราะที่เป็นเอกลักษณ์ตามสไตล์ทนายอารมณ์ดี

    เรื่องราวทั้งหมดที่เกิดขึ้น ก็เป็นเครื่องสะท้อนให้เห็นถึงผลเสียของการอยากดังทางลัดของหมอดูรุ่นใหม่ๆ ได้เป็นอย่างดี ซึ่งถ้าใครดูแม่นและโชคดีไม่โดนฟ้องกลับก็ดังกันไป แต่ถ้าใครซวยทายไม่แม่นแล้วโดนดำเนินคดี ก็คงจะหักมุมชีวิตเข้าสู่จุดอับ กลายเป็นดาวดับแทนที่จะเป็นดาวเด่นอย่างที่วาดหวังเอาไว้

    ……….

    หัวอกคนดัง...ดวงใคร ใครก็หวง

    “ในความเห็นของหนู หนูมองว่าดาราก็ถือเป็นคนสาธารณะ มีหน้าที่ให้ความสุขให้ความบันเทิงกับผู้คน ดังนั้น ถ้าหมอดูจะดูดวงดาราแล้วเผยแพร่ตามสื่อ หนูก็คิดว่าเป็นเรื่องที่ทำได้ เพราะดาราเป็นคนของประชาชน แต่การดูดวงก็ต้องมีลิมิต มีขอบเขตที่เหมาะสมด้วย ถ้าดูแค่เรื่องความรัก เรื่องทั่วๆ ไปก็ได้ ไม่เป็นไร แต่ถ้าเรื่องอื่นๆ ที่มันเป็นเรื่องส่วนตัวมากๆ หรืออย่างการดูแล้วบอกว่าใครท้อง ไม่ท้อง แบบนี้ก็ไม่เหมาะ มันเป็นการละเมิดเรื่องส่วนตัวมากเกินไป”

    เป็นคำตอบอย่างตรงไปตรงมา ของ ม.ร.ว .แม้นนฤมาส ยุคล หรือ 'หญิงแม้น' เซเลบฯ สาวมั่นมาแรงคนหนึ่งของวงการบันเทิง ที่ครั้งหนึ่งเธอก็เคยมีประสบการณ์ถูกหมอดูทักว่าจะเกิดอุบัติเหตุ ซึ่งแม้จะไม่เกี่ยวกับเรื่องส่วนตัวที่ถึงขั้นทำให้เกิดความเสื่อมเสีย แต่เธอก็สะท้อนมุมมองกรณี 'หมอดูกับดารา' ได้น่าสนใจไม่น้อย

    “ปรกติ หนูเป็นคนไม่เชื่อหมอดูอยู่แล้ว เพราะหนูถือว่าทุกอย่างขึ้นอยู่ที่การกระทำของเรา ขึ้นอยู่กับตัวเราเอง แล้วถ้าถามหนูเกี่ยวกับอาชีพหมอดู หนูก็อยากให้หมอดูมีจรรยาบรรณ ไม่เอาดวงชะตาของเราไปดูโดยที่ไม่ได้รับอนุญาต เพราะหนูก็เคยได้ยินมานะ ว่าดูดวงบ่อยๆ ก็ไม่ดี แล้วถ้าเขามาดูดวงของเราโดยที่ไม่ได้รับอนุญาตจากเรา มันก็ถือเป็นการละเมิดความเป็นส่วนตัวของเรา”

    ..........
    เรื่อง : ทีมข่าว Click
    ภาพ : ทีมภาพ Click
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  16. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>รวบแล้วคนขับรถตู้หื่นทำร้ายผู้โดยสารสาวปางตาย!
    Crime - Manager Online

    </TD><TD vAlign=baseline align=right width=85>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ทีมข่าวอาชญากรรม</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>13 พฤษภาคม 2553 02:00 น.</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=bottom align=left height=12>[​IMG]</TD></TR><TR><TD bgColor=#cccccc><TABLE cellSpacing=1 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle bgColor=#ffffff><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=160><TABLE cellSpacing=4 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=middle>คลิกที่ภาพเพื่อดูขนาดใหญ่ขึ้น</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR><TR><TD vAlign=baseline align=middle>พล.ต.ท.กฤษกา พันธุ์คงชื่น ผบช.ภ.1 แถลงข่าวผลการจับกุมตัวโชเฟอร์รถตู้หื่น</TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR><TR><TD vAlign=baseline align=middle>รถตู้ที่ผู้ต้องหาใช้ก่อเหตุ</TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle width=165 height=1>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD width=4 background=/images/linedot_vert3.gif>[​IMG]</TD><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=7 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>คนขับรถตู้หื่นลวนลามและทำร้ายผู้โดยสารสาว ถูกตร.ภาค 1 ตะครุบตัวทันควัน เจ้าตัวอ้างหน้าตาเฉยมองไม่เห็นเหยื่ออยู่บนรถ เลยขับออกนอกเส้นทาง หลังรู้ข่าวถูกตามล่าตัวรีบขโมยทะเบียนรถมาเปลี่ยนตบตาตำรวจ แต่ไปไม่รอดถูกจับคารถตู้ตัวเอง



    วานนี้(12 พ.ค.) เมื่อเวลา 23.30 น. พล.ต.ท.กฤษฏา พันธุ์คงชื่น ผบช.ภ.1 พล.ต.ต.ธัชชัย หงษ์ทอง ผบก.สส.ภ.1 พ.ต.อ.ชยานนท์ มีสติ ผกก.สส.1 บก.สส.ภ.1 ร่วมกันแถลงข่าวผลการจับกุมตัว นายวัชรพล โคตรประทุม อายุ 30 ปี อยู่บ้านเลขที่ 875 หมู่ 7 ต.วังแขม อ.คลองขลุง จ.กำแพงเพชร ซึ่งเป็นคนขับรถตู้ที่พยามยามจะข่มขืนและทำร้ายร่างกายผู้โดยสารจนได้รับบาดเจ็บสาหัส พร้อมของกลาง รถตู้ สาย ต.96 วิ่งระหว่าง รังสิต-สะพ่านใหม่-มาบุญครอง-ท่าน้ำสี่พระยา หมายเลขทะเบียนป้ายเหลือง 13-4565 กรุงเทพมหานคร เครื่องมือซ่อมรถยนต์ที่บรรจุอยู่ในกระเป๋าสีดำ และแผ่นป้ายทะเบียนป้ายแดง อ 3736 กรุงเทพมหานคร จำนวน 2 แผ่น โดยจับกุมตัวผู้ต้องหาได้ที่บริเวณแยกสามเหลี่ยมดินแดง

    พล.ต.ต.กฤษฏา กล่าวว่า สืบเนื่องมาจาก เมื่อวันที่ 9 พ.ค.53 เวลาประมาณ 22.00 น. ที่ผ่านมา น.ส.ธัญลักษณ์ ชุมมิ่ง อายุ 26 ปี ได้ถูกคนขับรถตู้พยายามข่มขืน แต่ไม่สำเร็จ จึงถูกทำร้ายร่างกายจนได้รับบาดเจ็บสาหัส ก่อนที่จะถูกคนขับรถตู้นำตัวไปทิ้งไว้ ภายในซอยคันแอน ถนน 345 ใกล้โรงผสมปูนซีเมนต์ หมู่ 4 ต.คลองข่อย อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี กระทั่งมีผู้ให้การช่วยเหลือนำส่งโรงพยาบาล เจ้าหน้าที่จึงทำการสอบปากคำผู้เสียหายและพยาน พร้อมทั้งรวบรวมพยานหลักฐานจนกระทั่งทราบว่า ผู้ต้องหารายนี้ คือนายวัชรพล ชุดจับกุมจึงเฝ้าติดตามพฤติกรรม และเข้าจับกุมตัวเมื่อช่วงเวลาประมาณ 19.00 น. วานนี้ ขณะที่ผู้ต้องหากำลังขับรถรับส่งผู้โดยสาร ซึ่งผู้ต้องหาได้ทำการเปลี่ยนป้ายทะเบียนรถจากป้ายแดงเป็นป้ายเหลือง หลังจากทราบข่าวว่ากำลังถูกตามล่าตัว แต่ก็ไม่สามารถหลบหนีการจับกุมของตำรวจไปได้

    จากการสอบสวนนายวัชรพล ให้การอ้างว่า ตนเพิ่งจะมาขับรถตู้ได้ 2 อาทิตย์ โดยที่ยังไม่ได้ขึ้นทะเบียนกับทางวินรถตู้ เนื่องจากอยู่ระหว่างการติดต่อ ก่อนเกิดเหตุได้รับผู้เสียหายมาจากกลางทาง โดยบอกกับตนว่าจะไปลงที่สถานีรถไฟใต้ดิน ลาดพร้าว ระหว่างทางผู้โดยสารได้พากันทยอยลง จนกระทั่งส่งผู้โดยสารคนสุดท้ายลงที่ย่านมาบุญครอง ตนคิดว่าไม่มีผู้โดยสารแล้วจึงปิดไฟรถและจะขับกลับบ้าน และวกรถไปขึ้นทางด่วน แต่ก็มาทราบว่ายังเหลือผู้เสียหายที่ไม่ได้ลง ตนจึงอาสาจะไปส่งที่บ้าน พร้อมกับบอกให้มานั่งข้างหน้า แต่ผู้เสียหายคิดว่าตนจะพาไปข่มขืน จึงต่อสู้และชกต่อยตน ตนจึงใช้ด้ามเกียร์ฟาดไปที่ศีรษะ ผู้เสียหายก็พยายามสู้อีก จึงกระหน่ำตีจนผู้เสียหายแน่นิ่งไป ตนคิดว่าเสียชีวิตแล้ว จึงนำผู้เสียหายไปทิ้งไว้ที่ถนน 345 ก่อนจะรีบขับรถหนีไป ส่วนทรัพย์สินของผู้เสียหายตนไม่ได้ขโมย เพียงแค่จะเอาไปทิ้งเพื่อทำลายหลักฐาน

    ด้าน พล.ต.ต.ธัชชัย กล่าว่า ผู้ต้องหายังให้การวกไปวนมา แต่ทั้งนี้ก็ได้รับสารภาพว่า ตั้งใจที่จะพาผู้เสียหายไปข่มขืนจริง โดยมองผู้เสียหายขณะที่นั่งอยู่บนรถอยู่นานแล้ว ประกอบกับผู้เสียหายเองก็ไม่ชำนาญทาง เมื่อได้โอกาสจึงพาออกนอกเส้นทาง แต่ผู้เสียหายขัดขืนและต่อสู้ ผู้ต้องหาเลยทำร้ายจนบาดเจ็บสาหัส เมื่อผู้เสียหายแกล้งตาย ผู้ต้องหาจึงพาไปทิ้งที่ถนน 345 ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบประวัติของพบว่าเคยถูกดำเนินคดีในข้อหาเสพยาเสพติดมาก่อน เบื้องต้นได้แจ้งข้อหาพยายามข่มขืน ก่อนควบคุมตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.คลองข่อย เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

    โชเฟอร์รถตู้หื่น! ซิ่งโทลล์เวย์กะข่มขืน เหยื่อสู้ยิบตาแกล้งสลบรอดหวุดหวิด

    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  17. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    วิธีป้องกันภัยtaxi อีกแล้ว

    เกิดเหตุข่มขืนบน taxi อีกแล้วครับ วอนคุณผู้หญิงทุกท่านช่วยฟอร์เวิร์ดวิธีป้องกันภัย taxi ไปให้มากที่สุดนะครับ
    1.เมื่อขึ้นรถให้นั่งด้านหลังของคนขับ ชิดประตูหลังด้านขวาเท่านั้นและจดทะเบียนรถที่ประตูด้านในรถไว้ทันที อย่าใช้วิธีจำ เพราะเมื่อเกิดเหตุจะตกใจจนลืม
    2.อย่าเมา อย่าหลับ อย่าคุยเรื่องส่วนตัวกับคนขับ
    3. ทำทีโทรศัพท์คุยกับเพื่อนแล้วบอกกับปลายสายว่า " อะไรนะ ! อ๋อ รถแท๊กซี่สี.....ทะเบียน........( คันที่เรานั่ง) ตอนนี้ผ่าน ถนน.....แล้ว อีก 30 นาทีมารอรับด้วยนะบอกพ่อด้วยว่าตอนเย็นจะไปหาที่โรงพัก " เพื่อแสดงให้คนขับรู้ว่าปลายสายของเรารู้หมายเลขทะเบียนรถคันนี้แล้ว จะได้ไม่กล้าลงมือกระทำผิด
    4.หมั่นมองกระจกเงา(กระจกมองหลัง) ที่ติดที่กระจกหน้ารถว่าคนขับจ้องมองเราบ่อยๆหรือไม่ถ้าสบตากับคนขับบ่อยๆแสดงว่าต้องระวังตัวแล้ว เตรียมอุปกรณ์ป้องกันตัวให้พร้อม
    5.ถ้าคนขับขับออกนอกเส้นทางให้ปฏิเสธ โดยแจ้งว่าเรายินดีจ่ายค่าโดยสารตามมิเตอร์แต่ขอให้ไปเส้นทางที่เราคุ้นเคยเท่านั้น
    6.ถ้าเห็นว่าไม่ปลอดภัยแน่แล้ว อย่ามัวนั่งนิ่ง ให้สั่งคนขับจอดในจุดที่ปลอดภัยเช่นตลาด ชุมชน ปั๊มน้ำมัน ที่มีผู้คน อย่าปล่อยให้คนขับพาเราไปในที่เปลี่ยว เพราะจะไม่มีใครได้ยินเสียงตะโกนร้องของคุณ
    7.ถ้าคนขับยังไม่จอดให้เอื้อมมือไปเปิดประตูหลังด้านซ้ายให้เปิดออกไป ปัดไปปัดมาเพื่อให้คนสังเกตุเห็นสิ่งผิดปกติและจะตามมาช่วยคุณ แต่อย่ากระโดดลงจากรถขณะที่รถยังแล่นอยู่
    8.ระหว่างนี้ถ้ามีโทรศัพท์มือถือให้โทร 191 แจ้งตำรวจให้มาช่วยคุณตามเส้นทางที่ผ่านเช่นถนนอะไร ซอยที่เท่าไหร่ จะง่ายที่สุด แล้วเปิดกระจกตะโกนให้คนช่วย
    9.ถ้าคนขับจอดรถในที่เปลี่ยว อย่าปล่อยให้เขาเข้าถึงตัวคุณระหว่างที่เขาออกจากประตูรถหรือปีมข้ามเบาะมาด้านหลัง เราต้องรีบออกจากรถอีกด้านหนึ่งทันที แล้วใช้อุปกรณ์ป้องกันตัวที่มีเช่นสเปรย์พริกไทยฉีดใส่หน้าคนร้าย แล้ววิ่งหนีให้เร็วที่สุด
    10.หากไม่มีอุปกรณ์ป้องกันตัว และยังไม่มีใครมาช่วยให้วิ่งวนรอบรถเพราะเขาไม่สามารถข้ามรถมาจับเราได้หรือมุดไปใต้ท้องรถด้านฝากระโปรงท้ายเพราะเขาไม่สามารถลากเราออกไปได้ ให้ใช้เท้าถีบๆๆๆ แล้วตะโกนต่อเนื่อง แต่หากคนร้ายขึ้นรถจะขับออกไปให้ระวังคนร้ายขับถอยมาชนหรือทับเราด้วย
    11.หากเสียทีถูกจับตัวได้ให้เจรจาต่อรอง ยอมให้ทรัพย์สินไปเพื่อเอาชีวิตรอด
    12.หากคนร้ายจะข่มขืนให้ทำทีสมยอมไปก่อนเพื่อถ่วงเวลารอคนร้ายเผลอ อย่าปล่อยให้คนร้ายทำให้เราหมดสติ เพราะเราอาจถูกฆ่าตายได้
    13.ตั้งสติให้ดีเมื่อคนร้ายเผลอให้โจมตีจุดอ่อนเช่น ตา ลูกกระเดือก เป้ากางเกง หักนิ้ว กัดลิ้น แล้วรีบหนีให้เร็วที่สุด
    ท่องจำให้ดีแล้วสมมุติสถานการณ์นี้บ่อยๆ ปลอดภัยแน่นอนครับ
    พ.ต.ท.โชติวิเชียร วิเชียรโชติ
    ผอ.ศูนย์เตือนภัยผู้หญิง
    www.paiphuying.com

    http://www.paiphuying.com/modules.php?name=Forums&file=viewtopic&t=612
     
  18. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    ภัยหลอกโอนเงินแบบใหม่อีกแล้วครับ
    zuzuclub
    ศุกร์ที่ 28 มี นา มีคนโทรเข้ามาบอกว่าเป็นพนักงานแบงค์กรุงเทพฯ บอกว่ามีลูกค้าโอนเงิน เข้ามาที่บัญชีเราผิด บอกเลขบัญชีทุกอย่างถูกหมด แล้วก็บอกให้โอนเงินกลับด้วย เพราะว่าลูกค้าคนนั้น เดือดร้อนมาก เราก็บอกว่าขอไปเช็คก่อน
    พอวันเสาร์เราไปกดตังค์ก็พบว่ามีเงินเข้ามาบัญชีเราผิดตามจำนวนที่เค้าบอกจริงๆ ก็เลยโอนคืนไปให้... ก็ไม่คิดว่ามีอะไร เพราะมันก็ไม่ใช่เงินเราจริง....
    จนมาวันนี้ได้รับใบ แจ้งหนี้ CITIBANK มี ยอด Call for cash ให้ผ่อนจ่ายรายเดือน ก็เลยโทรไปเช็คที่ call center เค้าบอกว่าเราโทรไปขอเบิกเงินสดเข้าบัญชีเราเอง เมื่อวันที่ 25 มีนา เราก็บอกว่าไม่ได้ทำ.. .อย่างนี้ก็โดนหลอกแล้วซิ พนักงาน call center ก็ได้แต่บอกให้ไปแจ้งความ ซึ่งก็ยังดีที่เราเก็บ slip ที่เราโอน เงินไว้นะ......
    จะรบกวนผู้รู้ค่ะ ว่าจะทำอย่างไรต่อดี จะไปแจ้งความที่ไหน แล้วตำรวจจะช่วยเราได้ไหม เพราะจำนวนเงินนั้นก็หลายหมื่นเลยค่ะ
    จากคุณ : jupjib - [ 19 เม .ย. 51 14:36:15 ]
    วิธีแก้ไข
    หากเจอแบบนี้ ไม่ต้องทำรายการโอนครับ ถึงจะมีการโอนเข้ามาผิดจริง
    ทางธนาคารสามารถทำรายการแก้ไขได้เองอยู่แล้ว การทำรายการโอนเงิน
    เท่ากับเราเป็นผู้สั่งโอน การแก้ไขจะทำได้ลำบากขึ้น
    หรือหากเป็นการโอนจาก ATM หรือ CDM ให้ขอหลักฐานเป็นหนังสือออก โดยธนาคารมาให้เราก่อน ( ตัวจริงนะครับ)
    แล้ว เช็คข้อมูลกับธนาคารต้นทางก่อนจนแน่ใจ
    อีก 4-5 วันค่อยโอนก้อไม่เสียหาย เพราะไม่ได้มีเจตนาโกง ฟ้องมาก้อชนะแน่นอน
    ถ้า เป็นการทำรายการ โอนผิด ธนาคารแค่แจ้งลูกค้าปลายทาง แล้วจัดการเองได้เลยแน่นอน
    นี่เป็นวิธีหลอกลวงแบบใหม่ เพื่อนๆ โปรดระวัง แจ้งเตือนกันให้ทั่ว
    คนส่วนใหญ่ในสังคมเป็นคนดี...อยากคืนเงินคนที่เดือดร้อนแน่อยู่แล้ว ดังนั้นมีโอกาสตกหลุมนี้ได้ไม่ยากเลย
    เจ้าของบัญชีที่รับโอนกลับคงเป็นคนบ้านนอก ไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไรนัก
    ถูกจ้างให้เปิดบัญชี พร้อมบัตร ATM ได้ เงิน 200-300 บาทก็เอาแล้ว
    คนโกงก็กด ATM เชิดไปแล้วหลายหมื่น
    ข้อควรระวังเรื่องนี้
    1. ถ้าโอนผิดจริง แบงก์สาขาจะสามารถจัดการได้เองเลย เราไม่ต้องทำอะไรครับ
    2. เบอร์โทรเข้ามา ถ้าแปลกๆ แบบไม่แสดงเบอร์ หรือ เป็นแบบโทรจาก internet ให้ระวังไว้ก่อนเลยครับ
    3. ใบแจ้งหนี้บัตรเครดิต ควรทำลายอย่าให้เหลือเห็นข้อมูลต่างๆ เช่น วงเงินสินเชื่อ หรือ
    เลขบัญชีธนาคารที่ตัดอัตโนมัติ
    โปรดกระจาย! ข่าวเรื่ องนี้ไปยังเพื่อนและญาติๆ โดยด่วน เพื่อป้องกันการหลอกลวงเช่นนี้
     
  19. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
  20. psombat

    psombat เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    1,334
    ค่าพลัง:
    +5,431
    [​IMG]
    เนื่องวันพระใหญ่

    ผมได้เตรียมพระบรมฯ ขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า จำนวน 3 ผอบแก้ว พร้อมด้วยพระพิมพ์ 3 ชุด พร้อมประวัติ (1 ชุด มี ~20 องค์)

    มอบให้แด่เพื่อนสหธรรมิก เพื่อกระจายไปถวายวัดในจังหวัดต่างๆ (ยังไม่สามารถระบุได้)

    ออกเดินทางจากแม่สอดในคืนนี้ราว 3 ทุ่ม ไปตั้งแถวที่ กทม.
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • P1140435.jpg
      P1140435.jpg
      ขนาดไฟล์:
      74.6 KB
      เปิดดู:
      1,664
    • P1140436.jpg
      P1140436.jpg
      ขนาดไฟล์:
      72.5 KB
      เปิดดู:
      82
    • P1140437.jpg
      P1140437.jpg
      ขนาดไฟล์:
      52.9 KB
      เปิดดู:
      87

แชร์หน้านี้

Loading...