พระวังหน้า ที่หลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรเสก ถ้าต้องการที่จะได้.....

ในห้อง 'งานบุญอื่นๆ' ตั้งกระทู้โดย sithiphong, 23 ธันวาคม 2005.

  1. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    พี่ก็รอเช่นกันครับ

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]



    .
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  2. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    พระพิมพ์ กรุเมียหลวง และ พระพิมพ์กรุเมียน้อย

    แตกต่างกันในเรื่องของพลังอิทธิคุณขององค์ผู้อธิษฐานจิตครับ

    พระพิมพ์กรุเมียหลวง เด่นด้าน อำนาจ , แคล้วคลาด เป็นหลัก
    พระพิมพ์กรุเมียน้อย เด่นด้าน เมตตามหานิยม

    อยากทราบว่า พระพิมพ์กรุเมียหลวง และ พระพิมพ์กรุเมียน้อย คืออะไร อย่างไร หลังไมค์(โทร.สอบถาม หรือ ไปไปคุยกันที่ชลบุรี) ครับ

    .

    .
     
  3. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    [​IMG]
    <TABLE class=tborder cellSpacing=1 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=thead>ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 25 คน ( เป็นสมาชิก 5 คน และ บุคคลทั่วไป 20 คน ) </TD><TD class=thead width="14%"><CENTER">[ แนะนำเรื่องเด่น ] </TD></TR><TR><TD class=alt1 width="100%" colSpan=2>sithiphong, nongnooo+, noppadon_2553, psombat+, sittiporn.s+ </TD></TR></TBODY></TABLE>

    ผมลงให้อ่านแล้วนะครับพี่สิทธิพร
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 30 กรกฎาคม 2010
  4. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
  5. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    ผมอ่านแล้วก็ทราบ เนื่องจากผมเองใช้สวดอยู่ทุกวัน หุหุหุ



    .
     
  6. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    สำหรับบทนี้ หากท่านสมาชิกชมรมรักษ์พระวังหน้า , ท่านสมาชิกคณะกองทุนหาพระถวายวัด และ ท่านสมาชิกคณะพระวังหน้าทุกๆท่าน ต้องการที่จะนำไปสวด

    ให้แจ้งผมนะครับ ผมจะส่งให้ทุกๆท่าน ทางEmail

    และขอความกรุณา อย่านำไปเผยแพร่ที่อื่น หรือ บุคคลอื่น เนื่องจากบทนี้เป็นบทที่ท่านอาจารย์ประถม ท่านเรียนมาจาก......

    โมทนาสาธุครับ


    .
     
  7. Natachai

    Natachai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 กันยายน 2009
    โพสต์:
    309
    ค่าพลัง:
    +937
    ............ขอด้วยครับ...โมทนาสาธุครับ
     
  8. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
  9. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    โลกร้อน น้ำแข็งจะละลายหมดโลกภายใน 40 ปีข้างหน้า


    เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
    ขอขอบคุณภาพประกอบจาก en.rian.ru

    เมื่อวันที่ 24 กรกฎาคมที่ผ่านมา กรมอุตุนิยมวิทยาของรัสเซียเปิดเผยว่า น้ำแข็งในมหาสมุทรอาร์กติก และน้ำแข็งที่ปกคลุมบริเวณขั้วโลกเหนือ กำลังจะละลายกลายเป็นน้ำภายในปี ค.ศ. 2050 นี้

    โดย นายอเล็กซานเดอร์ โฟรลอฟ เจ้าหน้าที่จากกรมอุตุนิยมวิทยา กล่าวโดยอ้างข้อมูลจากคณะกรรมการระหว่างรัฐบาลเรื่องการเปลี่ยนแปลงของสภาพลมฟ้าอากาศว่า ในอีก 30-40 ปีข้างหน้า มหาสมุทรอาร์กติกอาจจะไม่มีน้ำแข็งในช่วงฤดูร้อนอีกต่อไปแล้ว รวมถึงในบริเวณขั้วโลกเหนือด้วย

    นอกจากนี้ เขายังบอกอีกว่า น้ำแข็งที่ละลายในบริเวณมหาสมุทรอาร์กติกและขั้วโลกเหนือนี้มากเกิน ปริมาณเฉลี่ยมานานมากแล้ว ซึ่งตอนนี้ปริมาณน้ำแข็งมีน้อยมาก จากแต่ก่อนที่เคยอยู่ที่ 11 ล้านตารางกิโลเมตร แต่ขณะนี้เหลืออยู่เพียงแค่ประมาณ 10.8 ตารางกิโลเมตรเท่านั้น โฟรลอฟกล่าว



    .


    .
     
  10. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    คุณเป็นใครในกลุ่มเพื่อน

    คุณเป็นใครในกลุ่มเพื่อน

    1. เพื่อนจะจัดปาร์ตี้รับปิดเทอม คุณรับหน้าที่ใด

    ก. เป็นแม่งาน รับผิดชอบภาพรวม แบ่งงานให้เพื่อน ๆ
    ข. ออกไอเดียแปลก ๆ เช่น ให้ทุกคนแต่งตัวเป็นเพศตรงข้าม
    ค. หลบอยู่หลังโต๊ะเครื่องเสียง คอยเปิดเพลง

    2. คุณจะทำอย่างไรเมื่อเพื่อนอกหัก

    ก. ไปปลอบเพื่อนพร้อมทิชชูม้วนใหญ่
    ข. ชวนเพื่อนคุยเรื่องตลก เพื่อให้เพื่อนลืมเรื่องเศร้า
    ค. พาเพื่อนไปห้าง เผื่อเจอใครใหม่ ๆ

    3. ถ้าต้องทำภารกิจเสี่ยงตายทีละคน คุณจะลุยเป็นคนที่เท่าไหร่

    ก. ที่2 ขอเรียนรู้ประสบการณ์ก่อนดีกว่า
    ข. ไปคนแรก ให้มันรู้แล้วรู้รอดไปเลย
    ค. แน่นอน!.....คนสุดท้าย

    4. ถ้าเพื่อนทำให้คุณโกรธ คุณจะบอกเขาอย่างไร

    ก. บอกตรงๆเข้าใจได้ดีที่สุด
    ข. เก็บเงียบ เขาคงจะสังเกตเห็นเอง
    ค. หาทางพูดด้วยคำที่ตลก ๆ ในเวลาที่ผ่อนคลาย

    5. คุณคิดว่าตัวเองเป็นไงในสายตาเพื่อน

    ก. กระตือรือร้น โววาย ใจร้อน
    ข. ตลก ยิ้มง่าย เจ้าชู้นิด ๆ
    ค. ซื่อสัตย์ ใจดี เป็นมิตร

    6. เพื่อนมีแฟนและตัวติดกันตลอดเวลาจนลืมคุณ

    ก. รู้สึกแย่แต่เข้าใจ ถ้าเรามีแฟนก็คงเป็นเหมือนกัน
    ข. หาโอกาสเปิดอก บอกเพื่อนว่าแกทำไม่ถูก!
    ค. ปล่อยมัน เดี๋ยวอกหักก็กลับมาซบอกเราเหมือนเดิม

    7. เพื่อนยืมซีดีเพลงโปรด แต่น้องชายเพื่อนทำมันหัก...

    ก. ซื้อใช้เราก็จบเรื่อง
    ข. ไม่เป็นไร ไม่มีใครอยากให้เป็นแบบนี้
    ค. ซื้อใหม่แต่ออกตังคนละครึ่ง

    8. เพื่อนรักกระซิบว่าเขาหรือเธอคนนั้นน่ะโดนใจมาก แต่เธอหรือเขาคนนั้นกำลังแอบกิ๊ก กับคุณอยู่!

    ก. ฟังเพื่อนพร่ำเพ้อโดยไม่บอกความจริง
    ข. บอกกิ๊กคุณว่าเพื่อนคุณน่ารัก และเขาทั้งสองเหมาะสมกัน
    ค. บอกความจริงกับเพื่อน ยอมเสี่ยงกับการแตกหัก (และหวังว่าเพื่อนคงเข้าใจ)



    รวมคะแนน

    1. ก./0 ข./5 ค./10
    2. ก./10 ข./5 ค./0
    3. ก.5 ข./0 ค./10
    4. ก./0 ข./10 ค./5
    5. ก./0 ข./5 ค.10
    6. ก./10 ข./0 ค./5
    7. ก./0 ข./10 ค./5
    8. ก/10 ข/5 ค./0

    ที่มา กระปุกดอทคอม
     
  11. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    [​IMG] คะแนน 0-25 หัวโจก

    คุณเป็นคนใจกว้าง แต่ก็เจ้าอารมณ์ไม่ใช่เล่น คุณมีเพื่อนเยอะ ชอบทำตัวเป็นดาวในหมู่ เพื่อนมีความเป็นผู้นำ เวลาเพื่อนเดือดร้อน คุณก็สามารถช่วยเหลือและเป็นที่ปรึกษาเพื่อนได้ดี แต่ถ้ามีใครมาออกคำสั่ง คุณจะไม่สนใจเพราะคุณรู้จักตัวเองดีและค่อนข้างทะนงตน ด้วยความเจ้ากี้เจ้าการจึงมีคนไม่ค่อยพอใจคุณอยู่เหมือนกัน แต่เพื่อนสนิทจะรู้จักตัว คุณดีว่าคุณเป็นคนยุติธรรมและจริงใจ

    [​IMG] คะแนน 30-55 ตัวฮา

    คุณทำให้เพื่อนหัวเราะประจำ ใครอยู่ใกล้ก็มีความสุข นิสัยสนุกสนานนี่เอง ทำให้คุณป๊อบทั้งในหมู่ชายและหญิง คุณน่ารัก มีความร่าเริงสดใส มองโลกในแง่ดี ถ้าใครทำให้พอใจคุณไม่พอใจ คุณจะเห็นว่ามันเป็นเรื่องตลกมากกว่าจะขุ่นเคือง เมื่อเพื่อนรู้สึกแย่คุณเหมาะสมที่สุดที่จะให้กำลังใจ

    [​IMG] คะแนน 60-80 นักฟัง

    คุณรักสงบ ไม่ชอบทะเลาะกับใครและมักคล้อยตามเพื่อน ๆ มากกว่าจะเสนอความคิดเห็น คุณอยู่เคียงข้างเพื่อนเมื่อยามทุกข์ มีความสุภาพใจดี ทำให้เพศตรงข้ามสนใจคุณ มีความสุขง่าย ยิ้มง่าย บางครั้งขี้อาย แต่นั่นเป็นเพราะคุณเป็นคนเงียบ ๆ ไม่ได้หมายความว่าคุณไม่สนุกสักหน่อย


    ข้อมูลจาก Forward Mail

    แบบทดสอบ เกมส์ทายใจ คุณเป็นใครในกลุ่มเพื่อน

    .


    .


    .


    .
     
  12. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
  13. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    ผมทราบแล้วครับ


    ขอบคุณครับ

    .
     
  14. psombat

    psombat เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    1,334
    ค่าพลัง:
    +5,431
    สวัสดีครับ

    วันนี้ถือว่าเป็นที่โชคดีของผมกับคณะที่ได้มีโอกาสถวาย...
    1. พระบรมสารีริกธาตุของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระนามกกุสันโธ
    2. พระบรมสารีริกธาตุของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระนามกัสสะโป
    3. พระบรมสารีริกธาตุของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระนามสมณะโคดม
    4. พระพิมพ์วังหน้า TOP1,...4
    5. ปัจจัย
    แด่...หลวงตามหาบัว ณ วัดป่าบ้านตาด จ.อุดรธานี เวลาราว 12:43 พอถวายเสร็จในเสี้ยววินาที (43) เห็นท่านหลับตานิ่งซักพักหนึ่งครับ (ตามรูป)

    โมทนาสาธุร่วมกันครับ


    ลืมบอกว่าระหว่างการรอถวายก็ได้มีญาติโยม-พระ ห้ามว่า... อย่าถวายท่านเลย เพราะเป็นวัตถุมงคลและแม้จักถวายท่านก็ไม่เก็บไว้หรอก พร้อมทั้งระบุเวลาที่ท่านจะออกมาก็บ่ายๆ 2-3 หรือเย็นนู่น(ผมไปถึงวัด ~11:00) บางคนก็บอกว่าท่านไม่อยู่ออกไปข้างนอก พอถามว่าไปไหนก็ตอบไม่ได้ เหมือนไม่อยากให้เราถวายจริงๆ ซึ่งในเรื่องนี้ผมเองก็เคยได้ยินมาบ่อยๆ แต่ด้วยความตั้งใจอยากมาถวายท่านจริงๆอะไรจะเกิดก็ไม่กลัวแล้ว พร้อมทั้งอธิบายให้เข้าใจเจตนาทุกคนก็ได้ชี้แนะให้ไปรอท่านที่ไหน

    และที่สำคัญงานนี้ผมได้รับแจกพระที่เป็นมวลสารของหลวงตามหาบัว ประกอบด้วย ชานหมาก ข้าวก้นบาตรและเกศาครูบาอาจารย์มาอีกด้วย เมื่อพิจารณาดูดีๆกลับมีพระธาตุสีสันเหมือนเพชรปรากฏอยู่จำนวนมาก (ตามรูป ไม่กล้าเอาออกมาถ่ายข้างนอก เกรงว่าจะหายหรือหลุดไป) ทั้งนี้ก็ได้ขอดูพระจากคนอื่นๆก็เป็นพิมพ์อื่นและเห็นมีน้อยมาก ปีติและปลื้มใจจริงๆครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • P1150472.JPG
      P1150472.JPG
      ขนาดไฟล์:
      126.2 KB
      เปิดดู:
      870
    • P1150505.JPG
      P1150505.JPG
      ขนาดไฟล์:
      133.7 KB
      เปิดดู:
      15,786
    • P1150507.JPG
      P1150507.JPG
      ขนาดไฟล์:
      121.9 KB
      เปิดดู:
      13,025
    • P1150521.JPG
      P1150521.JPG
      ขนาดไฟล์:
      107.3 KB
      เปิดดู:
      12,240
    • P1150470.JPG
      P1150470.JPG
      ขนาดไฟล์:
      110.6 KB
      เปิดดู:
      418
    • P1150469.JPG
      P1150469.JPG
      ขนาดไฟล์:
      113.8 KB
      เปิดดู:
      386
    • P1150468.JPG
      P1150468.JPG
      ขนาดไฟล์:
      127.2 KB
      เปิดดู:
      378
    • P1150473.JPG
      P1150473.JPG
      ขนาดไฟล์:
      154.2 KB
      เปิดดู:
      396
    • P1150486.JPG
      P1150486.JPG
      ขนาดไฟล์:
      109 KB
      เปิดดู:
      361
    • P1150477.jpg
      P1150477.jpg
      ขนาดไฟล์:
      97.1 KB
      เปิดดู:
      395
    • P1150484.jpg
      P1150484.jpg
      ขนาดไฟล์:
      166.3 KB
      เปิดดู:
      451
    • P1150577.jpg
      P1150577.jpg
      ขนาดไฟล์:
      91.3 KB
      เปิดดู:
      109
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 31 กรกฎาคม 2010
  15. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>พบช่องโหว่แฮกตู้ ATM คายเงินสด</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=center align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=center align=left>29 กรกฎาคม 2553 21:07 น.</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=right border=0><TBODY><TR><TD width=5>[​IMG]</TD><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=150 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle>คลิกที่ภาพเพื่อดูขนาดใหญ่ขึ้น</TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle width=150>[​IMG] </TD></TR><CAPTION align=bottom>บาร์นาบี แจ็ค แฮกเกอร์อเมริกันที่ประกาศตัวว่าสามารถเจาะระบบซอฟต์แวร์ตู้เอทีเอ็มซึ่งทำให้ตู้สามารถคายเงินสดได้ตามต้องการ</CAPTION></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>แฮกเกอร์อเมริกันประกาศตัวว่าสามารถเจาะระบบซอฟต์แวร์ตู้เอทีเอ็มซึ่งทำให้ตู้สามารถคายเงินสดได้ตามต้องการ ระบุว่าวิธีที่ค้นพบสามารถเจาะระบบตู้เอทีเอ็มทุกตู้ที่ผลิตโดยบริษัทเดียวกัน โดยขณะนี้ได้กระตุ้นให้ผู้ผลิตตู้ทราบจุดอ่อนและทำการแก้ไขแล้ว

    นักเจาะระบบเมืองลุงแซมรายนี้มีนามบาร์นาบี แจ็ค (Barnaby Jack) มีตำแหน่งเป็นผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยความปลอดภัย บริษัท IOActive Inc ใช้เวทีในงานประชุมเทคโนโลยีนักเจาะระบบหรือ Black Hat technology conference ในสหรัฐฯเมื่อวันพุธที่ 28 กรกฎาคม 53 สาธิตวิธีการเจาะระบบตู้กดเงินสดเอทีเอ็มแบบตั้งเดี่ยวหรือ standalone ซึ่งเหล่าแฮกเกอร์อาจใช้วิธีเดียวกันในการเจาะระบบหลากตู้เอทีเอ็มของธนาคารใหญ่ในโลกได้

    ที่ผ่านมา เหล่าโจรร้ายทราบกันดีว่าตู้เอทีเอ็มนั้นไม่ได้มีความปลอดภัย 100% แต่กลโกงส่วนใหญ่เป็นการใช้เทคนิคเพื่อขโมยรหัสประจำตัวแต่ละบัญชี ไม่ใช่การเจาะระบบเพื่อควบคุมการทำงานของตู้แบบที่แจ็คทำได้ เช่น การใช้เครื่องอ่านบัตรปลอมเพื่อขโมยรหัสบัตร และการใช้กล้องดิจิตอลแอบถ่ายรหัส PIN เป็นต้น รวมถึงการใช้เทคนิคปิดกั้นไม่ให้เจ้าของบัญชีดึงเงินออกมาได้ทั้งที่กดไว้แล้ว ก่อนที่โจรจะเข้าไปดึงเงินออกมาภายหลัง

    ทั้งหมดนี้แตกต่างจากวิธีของแจ็ค ซึ่งใช้เวลา 2 ปีทำการทดลองกับตู้เอทีเอ็มซึ่งแจ็คสั่งซื้อทางออนไลน์ภายในอพาร์ทเมนท์ในซิลิกอนวัลเลย์ ทั้งหมดเป็นตู้เอทีเอ็มแบบตั้งเดี่ยวลักษณะเดียวกับที่ตั้งหน้าร้านสะดวกซื้อ ไม่ใช้ชนิดที่ตั้งไว้หน้าธนาคาร จุดประสงค์ของการทดลองคือเพื่อค้นหาวิธีการควบคุมเครื่องเอทีเอ็มด้วยการควบคุมเครื่องจากช่องโหว่ในคอมพิวเตอร์ซึ่งทำงานเบื้องหลังเครื่อง

    จากการสาธิต แจ็คสามารถทำให้ตู้เอทีเอ็มคายเงินออกมาจนหมด แถมแจ็คย้ำว่าวิธีการนี้สามารถใช้ได้กับตู้เอทีเอ็มหลากรุ่นหลายรูปแบบ ซึ่งขณะนี้ผู้ผลิตได้รับทราบ และได้เร่งดำเนินการแก้ไขแล้ว

    ทำได้อย่างไร

    แจ็คพบว่ากุญแจตู้เอทีเอ็มซึ่งมาพร้อมกับตู้เอทีเอ็มที่สั่งซื้อทางออนไลน์ด้วยเงินหลักพันเหรียญต่อเครื่องนั้นสามารถใช้งานกับเครื่องเอทีเอ็มรุ่นเดียวกันซึ่งผลิตโดยบริษัทเดียวกัน สิ่งที่ทำให้แจ็คสามารถสรุปข้อเท็จจริงนี้ได้คือการสั่งซื้อตู้เอทีเอ็ม 3 รุ่นจากคนละบริษัท จากนั้นจึงเทียบเคียงภาพกุญแจที่ได้รับมากับภาพกุญแจอื่นๆในอินเทอร์เน็ต

    จากนั้น แจ็คจึงใช้กุญแจนี้ปลดล็อกส่วนประกอบในตู้ เมื่อพบช่องต่อ USB แจ็คจึงติดตั้งโปรแกรมเพื่อสั่งให้เครื่องถ่ายโอนข้อมูลภายใน ก่อนจะพยายามสื่อสารกับเครื่องในวิธีเดียวกับที่ผู้ผลิตตู้เอทีเอ็มใช้สั่งการตู้ผ่านอินเทอร์เน็ต ซึ่งสามารถทำได้หากมีการใช้เทคนิคพิเศษเพื่อให้ผ่านขั้นตอนการใส่รหัสผ่านไป

    แจ็คไม่ได้อธิบายลงลึกถึงวิธีการเพื่อป้องกันไม่ให้เป็นการชี้โพรงให้กระรอก โดยย้ำว่าวิธีการนี้ไม่เพียงทำให้ตู้คายธนบัตรออกมาจนหมด แต่ยังทำให้โจรร้ายสามารถเก็บข้อมูลบัตรเอทีเอ็มจากตู้โดยไม่ทิ้งร่องรอยใดๆ

    ทั้งหมดนี้เป็นการชี้ให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องกับการให้บริการเอทีเอ็มรับรู้ถึงความเสี่ยงของปัญหาที่อาจเกิดขึ้น โดยเฉพาะบริษัท Tranax Technologies Inc ที่ถูกระบุว่าเป็นหนึ่งในบริษัทผู้ผลิตเครื่องซึ่งแจ็คสามารถเจาะระบบได้ อย่างไรก็ตาม ไม่มีรายงานว่าเอทีเอ็มซึ่งผลิตโดย Tranax Technologies Inc นั้นถูกติดตั้งในประเทศใดบ้าง และยังไม่มีรายงานความเห็นใดๆจาก Tranax ในขณะนี้

    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>


    .


    .


    .


    CyberBiz - Manager Online -
    .


    </TD></TR></TBODY></TABLE>
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 1 สิงหาคม 2010
  16. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>ครึ่งศตวรรษแห่งการกำเนิดเลเซอร์ (1)</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=center align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=center align=left>23 กรกฎาคม 2553 11:03 น.</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=160><TABLE cellSpacing=4 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=middle>คลิกที่ภาพเพื่อดูขนาดใหญ่ขึ้น</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR><TR><TD vAlign=baseline align=middle>Albert Einstein ผู้ให้กำเนิดความคิดในการประดิษฐ์เลเซอร์</TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR><TR><TD vAlign=baseline align=middle>กระบวนการปล่อยแสงที่เกิดเอง ซึ่งเกิดเวลาอิเล็กตรอนที่ถูกกระตุ้นด้วยแสงจากภายนอกกลับสู่สถานะปกติด้วยการลดระดับพลังงาน</TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR><TR><TD vAlign=baseline align=middle>กระบวนการปล่อยแสงที่เกิดจากการเร้า ซึ่งเกิดเวลาอิเล็กตรอนในสถานะกระตุ้นได้รับแสงจากภายนอกเวลากลับสู่สถานะปกติ จะปล่อยแสงที่มีสมบัติเหมือนแสงภายนอกทุกประการ เป็นแสงเลเซอร์</TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR><TR><TD vAlign=baseline align=middle>การปล่อยแสงเลเซอร์เกิดขึ้น เมื่อมีอิเล็กตรอนในสถานะกระตุ้นมากกว่าในสถานะปกติ (population inversion)</TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR><TR><TD vAlign=baseline align=middle>Charles Townes</TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR><TR><TD vAlign=baseline align=middle>Nikolai Basov</TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR><TR><TD vAlign=baseline align=middle>Aleksandr Prokhorov</TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR><TR><TD vAlign=baseline align=middle>Theodore Maiman</TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle width=165 height=1>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD width=4 background=/images/linedot_vert3.gif>[​IMG]</TD><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=7 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>นักวิทยาศาสตร์มักจะถูกสังคมถามอยู่เสมอว่า การวิจัยวิทยาศาสตร์มีประโยชน์อย่างไร และถ้าเขาตอบว่าการวิจัยนั้นๆ ไม่มีประโยชน์เชิงรูปธรรม คือเพียงเพื่อสนองความอยากรู้อยากเห็นเท่านั้นเอง นักวิทยาศาสตร์คนนั้นก็จะถูกมองว่ากำลังทำงานวิจัยโดยใช้เงินของประชาชนอย่างฟุ่มเฟือย

    แต่ในช่วง 50 ปีที่ผ่านมานี้ มีงานวิจัยเรื่องหนึ่งที่ได้แสดงให้เห็นว่าการวิจัยฟิสิกส์ทฤษฎี ซึ่งเป็นวิทยาศาสตร์บริสุทธิ์ชิ้นงานหนึ่ง ที่ศึกษาอันตรกิริยาระหว่างอะตอมกับแสง ซึ่งได้ทำให้โลกพบวิธีสร้างเลเซอร์ (laser) มีประโยชน์อเนกอนันต์ต่อมนุษย์

    ดังใน ค.ศ. 1960 Theodore Maiman แห่งบริษัท Hughes Aircraft Company ที่ Malibu ใน California ได้ประสบความสำเร็จในการประดิษฐ์อุปกรณ์ที่ให้แสงเลเซอร์ได้เป็นคนแรก และผลงานนี้ได้ทำให้ความฝันของ Einstein เป็นความจริง เพราะ Einstein เคยปรารถนาเพียงจะเข้าใจเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเวลาอะตอมได้รับแสงเท่านั้นเอง และ Maiman ได้นำความรู้เรื่องนี้มาประยุกต์ จนพบวิธีสร้างเลเซอร์ ซึ่งเป็นสิ่งประดิษฐ์ที่มีคุณค่ามากที่สุดรูปแบบหนึ่งในคริสต์ศตวรรษที่ 20

    เพราะเลเซอร์นอกจากจะมีประโยชน์ทางเทคโนโลยี เช่น แพทย์ใช้ในการผ่าตัด ฆ่าเซลล์มะเร็ง สลายนิ่ว วิศวกรใช้ในการส่งสัญญาณโทรศัพท์ เครื่องเล่น CD สื่อสารในอวกาศ กองทัพใช้เลเซอร์ทำสงคราม ช่างใช้เชื่อมและตัดโลหะ ส่วนพนักงานในร้านขายของใช้เลเซอร์ในการอ่าน bar code ฯลฯ เลเซอร์ยังมีประโยชน์ต่อวงการวิทยาศาสตร์บริสุทธิ์มากด้วย เช่น ในการกักอะตอมให้อยู่ภายในบริเวณที่กำหนด ศึกษากลไกการเกิดปฏิกิริยาเคมี ตรวจหาคลื่นโน้มถ่วง ทดสอบความถูกต้องแม่นยำของทฤษฎีสัมพัทธภาพ และทฤษฎีควอนตัม รวมถึงช่วยกระตุ้น DNA ให้เคลื่อนที่ ฯลฯ

    สำหรับประวัติความเป็นมาของแนวคิดในการประดิษฐ์เลเซอร์นั้น ก่อน ค.ศ. 1916 นักฟิสิกส์รู้เพียงว่า อิเล็กตรอนที่โคจรรอบนิวเคลียส เมื่อได้รับพลังงานจะมีพลังงานสูงขึ้น (จึงอยู่ในสถานะกระตุ้น) แต่อิเล็กตรอนที่ถูกกระตุ้นจะอยู่ในวงโคจรได้ไม่นาน จึงเคลื่อนที่ลงสู่วงโคจรวงใน และปล่อยพลังงานส่วนเกินออกมาในรูปของแสง นักฟิสิกส์เรียกกระบวนการปล่อยแสงลักษณะนี้ว่า การปล่อย (แสง) ที่เกิดเอง (spontaneous emission)

    แต่เมื่อ Einstein สนใจศึกษาธรรมชาติของอะตอมเวลาได้รับแสง เขาได้พบกระบวนการปล่อยแสงอีกรูปแบบหนึ่ง คือ ถ้าอะตอมมีอิเล็กตรอนในสถานะกระตุ้นอยู่แล้ว/และมีแสงจากภายนอกมากระทบอิเล็กตรอน และแสงดังกล่าวมีพลังงานพอเหมาะ อิเล็กตรอนที่ถูกกระตุ้นตัวนั้นจะถูกเร้าให้ปล่อยแสงออกมา โดย Einstein ได้เรียกกระบวนการปล่อยแสงวิธีนี้ว่า การปล่อย (แสง) ที่เกิดจากการเร้า (stimulated emission) ดังนั้น จากเริ่มต้นที่มีแสงปริมาณหนึ่ง ในที่สุด แสงที่ได้จะมีปริมาณสองเท่าของเดิม คือแสงเดิมและแสงใหม่ซึ่งแสงทั้งสองส่วนนี้ นอกจากจะมีความยาวคลื่นเท่ากันแล้ว ยังเคลื่อนที่ไปในทิศทางเดียวกันอย่างเป็นจังหวะพร้อมเพรียงกันด้วย เหมือนเหล่าทหารที่กำลังเดินสวนสนาม นักฟิสิกส์จึงเรียกแสงลักษณะนี้ว่า แสงอาพันธ์ (coherent light) เพราะคลื่นแสงทุกคลื่นมีพลังงาน และมีโมเมนตัมเท่ากัน

    แต่กว่านักฟิสิกส์จะสามารถนำความคิดของ Einstein ไปประยุกต์ใช้ได้ วันเวลาก็ได้ผ่านไปร่วม 30 ปี จนถึงช่วงเวลาที่เกิดสงครามโลกครั้งที่ 2 นักฟิสิกส์และวิศวกรจึงได้ระดมทำงานรับใช้ประเทศชาติ โดยการประดิษฐ์ เรดาร์ ที่ใช้คลื่นวิทยุ ค้นหาเครื่องบินข้าศึกและเมื่อสงครามยุติ กองทัพสหรัฐฯ จึงมีอุปกรณ์เรดาร์ที่เหลือใช้เกลื่อนกลาด ให้ Charles Townes แห่งมหาวิทยาลัย Columbia ในสหรัฐอเมริกาใช้ศึกษาธรรมชาติของการดูดกลืนคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า โดยโมเลกุล เพราะ Townes ตระหนักว่าอะตอมและโมเลกุลสามารถดูดกลืนคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าที่มีความยาวคลื่นค่อนข้างสั้นได้เป็นอย่างดี เขาจึงคิดใช้คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าลักษณะนี้ศึกษาโครงสร้างของโมเลกุล

    แต่ ณ เวลานั้น ไม่มีใครในโลกรู้วิธีผลิตลำคลื่นไมโครเวฟที่มีความยาวคลื่นระดับมิลลิเมตรเลย ใน ค.ศ. 1954 Townes ผู้เข้าใจทฤษฎีการแผ่รังสีของ Einstein ดี จึงคิดหาวิธีที่จะทำให้ระบบอะตอมที่มีอิเล็กตรอนที่อยู่ในสถานะกระตุ้นเป็นจำนวนมาก แทนที่จะอยู่ตามธรรมชาติในสถานะปกติ (population inversion) และ Townes ก็ได้พบว่า ถ้าเขาใช้แก๊สแอมโมเนีย (NH3) ที่มีธาตุ deuterium เป็นองค์ประกอบ แล้วใช้สนามไฟฟ้าแยกแอมโมเนียให้กลุ่มที่มีอิเล็กตรอนพลังงานมาก อยู่แยกจากกลุ่มที่มีพลังงานน้อย เพื่อนำกลุ่มพลังงานมากมาบรรจุภายในโพรง (cavity) แล้วส่งคลื่นไมโครเวฟเข้าไป คลื่นจะเร้าอิเล็กตรอนที่มีพลังงานมากให้ปล่อยคลื่นไมโครเวฟออกมา จากนั้นคลื่นใหม่นี้ก็จะสะท้อนกลับไปกลับมาในโพรง เพื่อเร้าอิเล็กตรอนอื่นๆ ที่อยู่ในสถานะกระตุ้นให้ปล่อยคลื่นไมโครเวฟออกมา ต่อไปเป็นปฏิกิริยาลูกโซ่ทำให้ได้ลำคลื่นไมโครเวฟออกมาจากโพรงในที่สุด Townes จึงประสบความสำเร็จในการสร้างอุปกรณ์เมเซอร์ (maser) ซึ่งปล่อยคลื่นไมโครเวฟได้ในปริมาณมากเป็นคนแรก คำ maser มาจากอักษรต้นของ Microwave Amplification by Stimulated Emission of Radiation และในขณะเดียวกัน Aleksandr Prokhorov กับ Nikolai Basov แห่ง Lebedev Physical Institute ที่ Moscow ก็ประสบความสำเร็จในการผลิตเมเซอร์ โดยใช้แก๊ส alkali halide เป็นตัวกลาง

    เมื่อนักวิทยาศาสตร์มีเมเซอร์ใช้ในการทดลองแล้ว งานขั้นตอนต่อไปคือ การผลิตแสงอาพันธ์ที่มีความยาวคลื่นสั้นกว่าคลื่นไมโครเวฟ หรือเป็นแสงที่ตาเห็น (visible light) นักวิจัยหลายกลุ่มได้แข่งขันกันสร้าง optical maser นี้ เช่น ที่ Bell Laboratories ในสหรัฐอเมริกามี Arthur Schawlow ซึ่งคิดใช้แท่งของแข็งเป็นตัวกลางให้กำเนิดเลเซอร์ ส่วน Ali Javan ได้คิดใช้แก๊สนีออน เป็นต้น (อ่านต่อวันศุกร์หน้า)

    สุทัศน์ ยกส้าน เมธีวิจัยอาวุโส สกว.

    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>


    .


    .

    Science - Manager Online -
     
  17. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>ครึ่งศตวรรษแห่งการกำเนิดเลเซอร์ (จบ)</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=center align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=center align=left>30 กรกฎาคม 2553 11:07 น.</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=160><TABLE cellSpacing=4 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=middle>คลิกที่ภาพเพื่อดูขนาดใหญ่ขึ้น</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR><TR><TD vAlign=baseline align=middle>การใช้เลเซอร์ทำความสะอาดภาพวาด</TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR><TR><TD vAlign=baseline align=middle>แพทย์ใช้เลเซอร์ในการผ่าตัดตาเป็นครั้งแรกในปี 1987</TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR><TR><TD vAlign=baseline align=middle>นักฟิสิกส์ใช้เลเซอร์ในการสร้างปฏิกิริยา fusion</TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR><TR><TD vAlign=baseline align=middle>ใยแก้วที่นำแสงเลเซอร์ในการคมนาคม</TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR><TR><TD vAlign=baseline align=middle>ใช้เลเซอร์ในการอ่านบัตร ID</TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle width=165 height=1>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD width=4 background=/images/linedot_vert3.gif>[​IMG]</TD><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=7 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>ลุถึงเดือนพฤษภาคม ค.ศ. 1960 T. Maiman ได้ทดลองใช้แท่งทับทิมที่ถูกโด๊ปด้วยอะตอมของโครเมียม แล้วนำแท่งทับทิมมาฉาบเงินที่ปลายทั้งสอง เพื่อให้เงินสะท้อนแสงกลับไปกลับมา และให้แท่งทับทิมนี้มีหลอดไฟแฟลช (flashlamp) พันไปรอบๆ เป็นเกลียว ดังนั้นเวลาเปิดหลอดไฟแฟลชเป็นจังหวะให้แสงที่มีพลังงานเหมาะสม แสงนี้จะเร้าอิเล็กตรอนที่ถูกกระตุ้นในไอออนของโครเมียม ให้ปล่อยแสงที่มีสมบัติเหมือนมันทุกประการออกมา จากนั้นแสงที่ถูกปล่อยออกมาก็จะสะท้อนกลับไปกลับมาในแท่งทับทิม จนในที่สุด Maiman ก็ได้ลำแสงที่ตาเห็นและมีความเข้มสูง เป็นแสง laser ซึ่งมาจากคำ Light Amplifications by Stimulated Emission of Radiation

    Maiman ได้เรียบเรียงผลงานนี้ส่งไปลงพิมพ์ในวารสาร Physical Review Letters แต่ถูกบรรณาธิการวารสารปฏิเสธไม่ให้ตีพิมพ์ เพราะคิดว่าผลงานนี้ไม่แตกต่างจาก maser ของ Townes แต่วารสาร Nature ซึ่งเป็นวารสารคู่แข่งของ Physical Review Letters ยอมรับให้ลงพิมพ์ งานวิจัยของ Maiman จึงปรากฏต่อสายตาของชาวโลกในเดือนสิงหาคม ค.ศ. 1960

    เมื่อถึงเดือนธันวาคมของปีเดียวกัน Ali Javan William Bennett และ Donald Herriott ก็ประสบความสำเร็จในการผลิตลำแสงเลเซอร์โดยใช้แก๊สฮีเลียมผสมกับนีออนเป็นตัวกลางปล่อยแสงเลเซอร์

    ใน ค.ศ. 1964 Townes, Basov และ Prokhorov ได้รับการประกาศให้เป็นผู้พิชิตรางวัลโนเบลสาขาฟิสิกส์ ด้วยผลงานการสร้าง maser ซึ่งเป็นพื้นฐานให้ Maiman ได้ประสบความสำเร็จในการสร้าง laser ในเวลาต่อมา

    ปัจจุบันเทคนิคการสร้างเลเซอร์ได้พัฒนาไปมาก จากแท่งทับทิมที่ถูกโด๊ปด้วยธาตุ rare earth และผลิตแสงสีแดงที่มีความยาวคลื่น 694 นาโนเมตร นักฟิสิกส์ใช้แท่ง yttrium aluminum garnet ที่โด๊ปด้วย neodymium เพื่อปล่อยคลื่นอินฟราเรดที่มีความยาวคลื่น 1,064 นาโนเมตร เหล่านี้คือตัวอย่างของตัวกำเนิดเลเซอร์ที่เป็นของแข็ง (solid-state laser)

    นอกจากตัวกลางที่เป็นของแข็งแล้ว เรายังมี dye laser ซึ่งใช้สารละลายสีย้อมอินทรีย์ เช่น rhodamine 6G ที่ให้แสงที่มีความยาวคลื่นต่างๆ ตั้งแต่ infrared จนกระทั่งถึง ultraviolet ด้วย

    ส่วนที่ตัวกลางเป็นแก๊สหรือ gas laser นั้น ก็มี เช่น ใช้ helium-neon ซึ่งให้แสงสีแดง ความยาวคลื่น 632.8 นาโนเมตร และแสงสีเขียว สำหรับเลเซอร์ที่ใช้คาร์บอนไดออกไซด์จะให้แสงความยาวคลื่น 10.6 ไมโครเมตร ในขณะที่ argon-ion laser จะให้แสงที่มีความยาวคลื่น 350 นาโนเมตร เพื่อใช้ในการผ่าตัด

    ด้าน free-electron laser มีตัวกลางที่เป็นลำอิเล็กตรอนซึ่งถูกเร่งจนมีความเร็วใกล้แสง และถ้าปล่อยอิเล็กตรอนเหล่านี้ให้ผ่านสนามแม่เหล็กที่มีลักษณะเป็นคลื่น อิเล็กตรอนจะสามารถปล่อยแสงเลเซอร์ออกมาได้ โดยแสงนี้จะมีความยาวคลื่นได้มากมาย ตั้งแต่ far-infrared, visible, ultraviolet และ x-ray ขึ้นกับความเร่งของอิเล็กตรอนนั้น เลเซอร์ชนิดนี้นิยมใช้ในการแยกไอโซโทป หรือทำ plasma ให้ร้อน และใช้ในเครื่องเร่งอนุภาค เป็นต้น

    ส่วนในกรณี semiconductor laser นั้น ใช้สารกึ่งตัวนำแทนแท่งทับทิม เช่น ใช้ gallium arsenide หรือ gallium phosphide เป็นตัวกลาง ซึ่งจะให้แสง infrared เพราะเลเซอร์รูปแบบนี้มีขนาดเล็ก จึงมักพบในเครื่องเล่น CD และใช้ในอุปกรณ์ชี้ (pointer)

    ปัจจุบันแสงเลเซอร์ได้ถูกนำไปใช้เป็นประโยชน์ทั้งทางเทคโนโลยี และวิทยาศาสตร์มากมาย เช่น ใช้ในการรักษาความปลอดภัย โดยเวลาผู้บุกรุกเดินตัดแสงโดยไม่รู้ตัว สัญญาณเสียงจะดัง และใช้ในการบันเทิง เช่น ทำให้เกิด special effects ใช้ในการสงครามเวลายิงจรวดนำวิถี แสงเลเซอร์จะนำจรวดพุ่งสู่เป้าหมายอย่างไม่ผิดพลาด ในวงการมาตรวิทยาก็ใช้เลเซอร์เวลาต้องการวัดระยะทาง โดยการยิงแสงเลเซอร์ไปกระทบเป้า การรู้เวลาที่แสงเดินทางไปกลับและความเร็วแสงจะทำให้รู้ระยะทาง

    นอกจากนี้นักวิทยาศาสตร์สภาพแวดล้อมยังใช้เลเซอร์ตรวจดูการเคลื่อนไหวอย่างช้าๆ ของธารน้ำแข็ง การขยายตัวของภูเขาไฟใกล้จะระเบิด ศึกษาการกร่อนสลายของชายฝั่ง ตรวจหาความสกปรกของฝุ่นในบรรยากาศ ส่วนตำรวจก็ใช้เลเซอร์ตรวจจับคนขับรถเร็วเกินความเร็วที่กำหนด วงการอุตสาหกรรมใช้เลเซอร์ในการตัดเหล็ก ตัดกระดาษ เชื่อมวัตถุ วงการฟิสิกส์ใช้เลเซอร์กักขังอะตอมให้อะตอมมีอุณหภูมิลดต่ำมากจนใกล้ศูนย์องศาสัมบูรณ์ เพื่อศึกษาสภาพของอะตอมขณะใกล้หยุดนิ่ง และใช้เลเซอร์วัดระยะทางจากโลกถึงดวงจันทร์เพื่อตรวจสอบความถูกต้องทฤษฎีสัมพัทธภาพทั่วไปของ Einstein

    คุณอ่านเพิ่มเติมเรื่องประวัติเลเซอร์จาก A History of Engineering and Science in the Bell System : Physical Sciences (1925-1980) ที่มี S. Millman เป็นบรรณาธิการและจัดพิมพ์โดย AT&T Bell Laboratories, Murray Hill, New Jersey (1983) ครับ.

    สุทัศน์ ยกส้าน เมธีวิจัยอาวุโส สกว.

    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>



    .


    .


    .


    .

    Science - Manager Online - �����ȵ������觡�á���Դ������� (��)
    .
     
  18. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>ทำไงดี! เมื่อตัด TV ออกจากชีวิตเด็กไม่ได้</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=center align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=center align=left>30 กรกฎาคม 2553 11:56 น.</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><IFRAME style="BORDER-RIGHT: medium none; BORDER-TOP: medium none; OVERFLOW: hidden; BORDER-LEFT: medium none; WIDTH: 450px; BORDER-BOTTOM: medium none; HEIGHT: 35px" src="http://www.facebook.com/plugins/like.php?href=http://www.manager.co.th/Family/ViewNews.aspx?NewsID=9530000105072&layout=standard&show_faces=false&width=450&action=like&colorscheme=light&height=35" frameBorder=0 scrolling=no allowTransparency></IFRAME></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=left border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=240 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=240>[​IMG] </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>ขอบคุณภาพประกอบจากอินเทอร์เน็ต</TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD width=5>[​IMG]</TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE> ยากที่จะปฏิเสธได้ว่า เมื่อสังคมทำให้ความอยู่รอดของครอบครัวเป็นไปได้ยากขึ้น ส่งผลให้บทบาทของพ่อแม่กับการเลี้ยงดูลูกในยุคแห่งความเจริญนี้มีช่องว่างห่างกันมากขึ้นตามไปด้วย เนื่องจากต้องออกแสวงหาเพื่อสร้างความมั่นคงให้กับครอบครัว ทำให้สื่อใหญ่ และสื่อใหม่ อย่างโทรทัศน์ และอินเทอร์เน็ตได้ก้าวเข้ามาแทนที่บทบาทของพ่อแม่จนเกือบจะเต็มหมดแล้ว

    เมื่อบทบาทของพ่อแม่น้อยลง สื่อได้กลายเป็นเพื่อนสนิทกับเด็ก จึงไม่แปลกที่เด็กจะซึมซับ และเลียนแบบพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมจากสื่อ จนเกิดเป็นข่าวในแง่ลบหลายๆ ข่าวตามหน้าหนังสือพิมพ์ หรือสื่อต่างๆ อย่างล่าสุดพบเด็ก 6 ขวบผูกคอตาย เหตุเพราะเลียนแบบพฤติกรรมจากตัวละคร ซึ่งหลายๆ กรณีที่เกิดขึ้นกับเด็ก ไม่เพียงแต่กรณีข้างต้นเท่านั้น ถึงแม้จะเป็นเรื่องเก่าที่ยังสด และได้มีการนำไปเปิดประเด็นถกเถียงกันหลายต่อหลายเวที แต่ปัญหาก็ดูเหมือนว่า ยังเกาไม่ถูกที่คันเสียที

    กับเรื่องนี้ นพ.พงษ์ศักดิ์ น้อยพยัคฆ์ หัวหน้าหน่วยพัฒนาการเด็กและวัยรุ่น วิทยาลัยแพทยศาสตร์ และวชิรพยาบาล ให้แนวทางว่า พ่อแม่เท่านั้นที่จะช่วยสร้างเกราะคุ้มกันให้ลูกรู้เท่าทันสื่อได้ โดยเปลี่ยนวิกฤตให้เป็นโอกาส ใช้ประโยชน์จากความไม่สมบูรณ์ และความไม่เหมาะสมของสื่อมาสอนลูก ด้วยการนั่งดูกับลูก ถึงแม้วิธีดังกล่าว จะเป็นแนวทางที่พูดถึงกันมาตลอด แต่ถ้านำไปใช้อย่างจริงจังย่อมเกิดผลสำเร็จแน่นอน

    "เมื่อมีภาพ หรือเสียงจากสื่อ แสดงสิ่งที่ไม่เหมาะสมกับวัฒนธรรมไทย หรือไม่เหมาะสมกับบรรทัดฐานของครอบครัว พ่อแม่ต้องรีบพลิกวิกฤตให้เป็นโอกาส เช่น แบบนี้บ้านเราไม่ทำนะลูก แม่ไม่ชอบเลย โดยพูดเนียนๆ ไม่ใช่สั่งลูกว่า ห้ามทำแบบนี้นะ เพราะเด็กบางคนยิ่งห้ามเหมือนยิ่งยุ" นพ.พงษ์ศักดิ์กล่าว

    อย่างไรก็ดี คุณหมอด้านพัฒนาการเด็กและวัยรุ่น กล่าวเตือนว่า เด็กอายุต่ำกว่า 2 ขวบไม่แนะนำให้ดูโทรทัศน์เลย จากนั้นเมื่ออายุ 2 ขวบขึ้นไป แนะนำให้ดูได้ไม่เกิน 2 ชั่วโมงต่อวัน ซึ่งในส่วนหลังนี้ พ่อแม่ต้องพูดคุยกับลูกทุกครั้งที่เห็นสิ่งไม่ดีจากสื่อ เพื่อที่ลูกจะได้ซึมซับบรรทัดฐานที่ถูกต้อง เวลาที่เด็กคิดจะทำสิ่งไม่ดี จะเกิดความรู้สึกผิดลึกๆ และพยายามควบคุมตัวเอง เป็นการสร้างฐานการเลือกรับ และแยกแยะให้ลูกรู้ว่า สิ่งที่ควรทำ และไม่ควรทำคืออะไร

    นอกจากเด็กเล็กแล้ว คุณหมอด้านพัฒนาการเด็กท่านนี้ แสดงความเป็นห่วงว่า เด็กรุ่นใหม่ มีวุฒิภาวะน้องลง ส่วนหนึ่งเกิดจากพ่อแม่ประคบประหงม ตามใจ และช่วยเหลืออยู่ตลอด ส่งผลให้เด็กคิด หรือทำอะไรไม่ค่อยเป็น ขาดเกราะป้องกันในการรู้เท่าทันสิ่งต่างๆ โดยเฉพาะสิ่งเลวร้ายจากสิ่งแวดล้อมรอบตัว ซึ่งเป็นเรื่องน่าห่วงที่พ่อแม่ต้องใส่ใจ

    "เมื่อสื่อกับเด็กแยกจากกันไม่ได้ สิ่งที่ควรทำมากกว่าไปบอกให้ผู้ผลิตเลิกทำละคร พ่อแม่ควรสอนให้ลูกเห็นว่า การกระทำในสื่อ เป็นแค่การแสดง การแสดงไม่ใช่เรื่องจริง หรืออาจจะเปิดคำถามกับลูกว่า ตัวละครกำลังใช้เชือกผูกคอ ถ้าเป็นหนูๆ จะทำแบบเขาไหม หรือถ้ามีเชือกลูกจะเอาไปทำอะไร เป็นการพูดคุยแลกเปลี่ยน และนั่งวิเคราะห์ร่วมกันเพื่อให้ลูกเข้าใจถึงสิ่งที่ถูกต้อง และเหมาะสม ตลอดจนเท่าทันสื่อก่อนจะถูกสื่อครอบงำอย่างที่เด็กหลายๆ คนเป็น" คุณหมอด้านพัฒนาการเด็กและวัยรุ่นสรุปทิ้งท้าย</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>


    .


    .


    .
    Life & Family - Manager Online -
     
  19. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    จับแล้ว! แก๊งคอลเซ็นเตอร์ หลอกเงิน ซีแนม AF1


    เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
    ขอขอบคุณภาพประกอบจาก zeenam.com , รายการเรื่องเด่นเย็นนี้

    ตร.สอบสวนกลาง รวบแก๊งคอลเซ็นเตอร์ 4 คน เป็น ชาวจีน-ไต้หวัน เชื่อเป็นแก๊งเดียวกับที่หลอกเงิน ซีแนม AF1

    วันที่ 30 ก.ค. พล.ต.ต.ปัญญา มาเม่น รอง ผบช.ก. พร้อมด้วย พล.ต.ต.อดิศร์ งามจิตสุขศรี ผบก.ทท. ได้ร่วมกันแถลงข่าวจับกุม แก๊งคอลเซ็นเตอร์ รายใหญ่ 4 คน ประกอบไปด้วย นายหลิน หยาง เจิ้น อายุ 26 ปี ชาวไต้หวัน นายหวัง เซิง หง อายุ 26 ปี ชาวไต้หวัน นายเลี่ยว ไค่ย หมิง อายุ 22 ปี ชาวไต้หวัน และ น.ส.เฉิน หยิง อายุ 29 ปี ชาวจีน

    โดยจับได้พร้อมของกลาง บัตรเดบิต ของธนาคารกรุงเทพ จำนวน 4 ใบ บัตรเดบิต ของธนาคารกสิกรไทย จำนวน 4 ใบ สมุดบัญชีเงินฝากสะสมทรัพย์ของธนาคารกรุงเทพ จำนวน 6 เล่ม สมุดบัญชีเงินฝากประเภทออมทรัพย์ของธนาคารกสิกรไทย จำนวน 3 เล่ม โทรศัพท์มือถือ จำนวน 18 เครื่อง เงินสดจำนวน 18,000 บาท

    ซึ่งทางตำรวจได้แจ้งข้อหา ร่วมกันใช้และมีไว้เพื่อนำออกมาใช้ซึ่งบัตรอิเล็คทรอนิกส์ของผู้อื่นในประการที่น่าจะก่อให้เกิดความเสียหายต่อผู้อื่นหรือประชาชน ซึ่งเป็นบัตรที่ผู้ออกได้ออกแก่ผู้มีสิทธิ์ใช้ เพื่อใช้ประโยชน์ในการชำระค่าสินค้า ค่าบริการหรือหนี้แทนการชำระเงินสดหรือใช้เบิกถอนเงินสด โดยตำรวจเชื่อว่าคนร้ายจ้างให้คนไทยเปิดบัญชีธนาคารให้ และใช้บัตรเอทีเอ็มทำการกดเงินสดออกมาใช้ หลังหลอกเหยื่อได้สำเร็จ

    ทั้งนี้ การจับกุม แก๊งคอลเซ็นเตอร์ดังกล่าว ทางเจ้าหน้าที่ได้มีการวางแผนกับผู้เสียหายที่ได้รับโทรศัพท์หลอกลวงจากกลุ่มโจรกลุ่มนี้ และร่วมมือกับทางธนาคาร จนได้เลขที่บัญชีที่คนร้ายใช้รองรับการโอนเงินจากเหยื่อ จากนั้นจึงขอบันทึกรายการการกดเงินจากตู้เอทีเอ็ม เพื่อวิเคราะห์จุดกดเงินต่างๆ ของคนร้าย จนกระทั่งสามารถจับกุม นายหลิน หยาง เจิ้น ได้ที่บริเวณด้านข้างตู้เอทีเอ็ม ธนาคารกสิกรไทย สาขาห้างสรรพสินค้าไอทีสแควร์ บางกะปิ

    ขณะเดียวกัน ก็ได้มีการขยายผลเข้าจับกุมคนร้ายอีก 3 คนที่เหลือ โดยจับกุม นายหวังเซิน หง กับนายเลี่ยว ไค่ย หมิง ได้ที่บริเวณถนนสุทธิสาร และจับกุม น.ส.เฉิน หยิง ได้ที่หน้าศูนย์การค้าฟอร์จูน ถนนรัชดาภิเษก ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ได้ประสานงานไปถึงทางการจีน เพื่อให้สืบสวนและตามจับกุมผู้ร่วมขบวนการที่เหลือแล้ว และทราบว่ายังมีผู้ร่วมขบวนการในประเทศไทย ที่ยังหลบหนีอยู่อีก 2 ราย

    อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่เชื่อว่า คนร้ายกลุ่มนี้ เป็นกลุ่มเดียวกับที่หลอกลวงเงินจำนวน 160,000 บาท ของ น.ส.ซีแนม สุนทร หรือ ซีแนม AF1 ไปเมื่อวันที่ 24 ก.ค.ที่ผ่านมาด้วย


    อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก ไทยรัฐ , MCOT.net

    [​IMG] [​IMG]

    .



    .



    .
     
  20. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    หยุดธุรกิจบาป ขอทาน-ค้ามนุษย์

    นุเทพ สารภิรมย์



    <TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=left border=0><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>[​IMG]

    </TD></TR></TBODY></TABLE>ภาพหญิงอุ้มทารก หรือเด็กน้อยนั่งพนมมือไหว้ขอเศษเงินตามสะพานลอย หรือริมฟุตปาธ เป็นภาพชินตาของผู้คนในสังคม โดยเฉพาะในเมืองหลวงอย่างกรุงเทพฯ หรือเมืองท่องเที่ยวชื่อดังต่างจังหวัด จนกลายเป็นภาพปกติที่พบเห็นได้ทั่วไป

    เบื้องหน้าเต็มไปด้วยความเวทนาสงสาร แต่เบื้องหลังสลดหดหู่เลวร้ายยิ่งกว่า เพราะทำเป็นธุรกิจ เป็นขบวนการหนึ่งของแก๊งค้ามนุษย์ ที่นับวันจะขยายแพร่หลายมากขึ้น

    ยิ่งถ้าสังคมไม่ตระหนัก หรือให้เงินแก่พวกเขามากขึ้นเท่าไหร่ จำนวนเด็กที่จะถูกนำมาทารุณกรรมในธุรกิจนี้ ก็จะเพิ่มมากขึ้นเป็นเงาตามตัว

    มูลนิธิกระจกเงา เล็งเห็นปัญหาที่สั่งสมมานานหลายปี จึงร่วมมือกับสถานแรกรับคนไร้ที่พึ่ง จ.นนทบุรี สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ร่วมกันพูดคุยถึงปัญหานี้ เพื่อหาแนวทางการแก้ไขปัญหาเด็กขอทานในประเทศไทย พร้อมทั้งเปิดตัวสื่อโฆษณารณรงค์เพื่อยุติธุรกิจเด็กขอทาน หยุดยั้งขบวนการค้ามนุษย์

    นายวิธนะพัฒน์ รัตนาวลีพงษ์ หัวหน้าโครงการรณรงค์ยุติธุรกิจเด็กขอทาน มูลนิธิกระจกเงา กล่าวถึงที่มาว่า มูลนิธิเริ่มรณรงค์ต้านการนำเด็กมาเป็นเครื่องมือขอทานอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปีพ.ศ.2549 กระทั่งปีนี้จึงจัดโครงการรณรงค์ยุติธุรกิจเด็กขอทานขึ้นอีกครั้ง หวังให้เกิดผลเป็นรูปธรรมยิ่งขึ้น เพื่อกระตุ้นเตือนสังคมให้ยุติการสนับสนุนธุรกิจเด็กขอทาน ภายใต้คำจำกัดความ "หยุดทำบุญบนธุรกิจบาป"

    "เรายืนยันว่า การรณรงค์นี้ไม่ขัดต่อหลักมนุษยธรรม ศีลธรรม แน่นอน แต่หากเราปล่อยเด็กพวกนี้ขอทานต่อไป เด็กจะโดนทารุณกรรมต่อไปเรื่อยๆ ขาดอิสรภาพ ทั้งที่เด็กๆ เหล่านี้ไม่สมควรจะมาอยู่ตามท้องถนน แต่วัยของเขาน่าจะเล่นสนุกไปตามประสาเด็กๆ แต่หากเราไม่หยุดธุรกิจนี้ อนาคตอาจบานปลายกลายไปเป็นธุรกิจการค้าประเวณี ในที่สุดอาจติดตามมาด้วยการก่ออาชญากรรมในรูปแบบต่างๆ เมื่อพิจารณาแล้วการหยุดให้เป็นวิธีตัดไฟแต่ต้นลม" <TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=right border=0><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>[​IMG]

    </TD></TR></TBODY></TABLE>

    หัวหน้าโครงการรณรงค์ยุติธุรกิจเด็กขอทาน มูลนิธิกระจกเงา อธิบายถึงเส้นทางการนำเด็กมาขอทานว่า ส่วนใหญ่เป็นชาวกัมพูชา เข้ามาสู่ประเทศไทย 2 เส้นทาง คือทางรถไฟสายกรุงเทพฯ-อรัญประเทศ โดยนายหน้าค้ามนุษย์จะนำมาขึ้นรถไฟ และปล่อยตัวตามจุดนัดหมาย เพื่อกระจายเด็กขอทานไปตามจุดต่างๆ ทั่วกรุงเทพฯ ส่วนทางรถยนต์จะใช้รถตู้หลายคันในการขนส่ง เพื่อให้ยากต่อการจับกุม

    จากการเก็บข้อมูลเด็กขอทาน พบว่า 80 เปอร์เซ็นต์เป็นชาวเขมร ที่เหลือเป็นกะเหรี่ยง และไทย เด็กที่ถูกนำมาขอทานมีอายุต่ำสุด 10 วัน เพื่อเรียกความสงสารให้คนทำทานเยอะๆ

    วิธนะพัฒน์ให้ข้อมูลว่า ที่น่าตกใจคือ การที่เด็กพวกนี้เข้ามาเป็นขอทาน เพราะเกิดจากความสมัครใจของพ่อแม่เด็ก ที่นำตัวเองและลูกเข้าสู่ขบวนการค้ามนุษย์ เพราะถูกหลอกว่าจะมีชีวิตที่ดีกว่า ขบวนการเหล่านี้จะย้ายที่อยู่ และเปลี่ยนจุดขอทานไปเรื่อยๆ เพื่อเลี่ยงการถูกจับกุม ส่วนผลประโยชน์ที่ได้รับเฉลี่ยวันละ 1,000 บาท

    "ปัจจุบันสังคมยังเห็นว่า การให้เงินเด็กขอทาน แล้วเด็กยกมือไหว้ถือเป็นการทำบุญ ตรงนี้ถือเป็นความเชื่อที่ผิด เพราะไม่เพียงแต่ไม่ใช่เรื่องการทำบุญ แต่กลับไปช่วยส่งเสริมธุรกิจค้ามนุษย์ และการใช้แรงงานเด็กอย่างทารุณ เมื่อให้เงินเด็กขอทานอย่างต่อเนื่อง ผลลัพธ์คือจะเกิดผู้รับมากขึ้น เราจึงต้องหยุดธุรกิจเด็กขอทานนับแต่วันนี้" <TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=left border=0><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>[​IMG]

    </TD></TR></TBODY></TABLE>

    "เพราะนี่คือจุดเริ่มต้นของขบวนการค้ามนุษย์ เราจึงต้องเปลี่ยนทัศนคติของสังคม จากการให้เงินมาเป็นการแจ้งข้อมูลผ่านทางศูนย์ประชาบดี 1300 มูลนิธิกระจกเงา 0-2941-4194 สำนักเทศกิจ 1555 หรือแจ้งตรงถึงตำรวจ เมื่อได้รับสาย ก็จะได้เข้าไปดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายทันที"

    ตัวแทนจากมูลนิธิกระจกเงา ตั้งเป้าไว้ว่าอยากให้หน่วยงานภาคเอกชน และภาครัฐ โดยเฉพาะกระทรวงการพัฒนาสังคมฯ เข้ามาช่วยแก้ไขปัญหาเด็กขอทานอย่างจริงจัง ด้วยการช่วยกันรณรงค์ให้ประชาชนตระหนักรู้ และหยุดการให้เงินเด็กขอทานอย่างต่อเนื่อง ผ่านทุกช่องทาง ทั้งสื่อโทรทัศน์ วิทยุ หนังสือพิมพ์ สื่อออนไลน์ เฟซบุ๊ก

    นอกจากนี้ มูลนิธิกระจกเงา ยังจัดทำ ซีดี โปส เตอร์ และหนังสือรณรงค์ต่อต้านธุรกิจเด็กขอทาน พร้อมทั้งจะเดินทางไปยังจังหวัดใหญ่ๆ เพื่อเร่งประชาสัมพันธ์ให้ทั่วทั้งประเทศ เชื่อว่าหากช่วยกันอย่างจริงจัง เป้าหมายอีก 1 ปี จะต้องไม่มีเด็กขอทานอยู่ข้างถนนนั้น จะบรรลุวัตถุประสงค์แน่นอน

    ด้าน นางสมจิตร ตันติวณิชชานนท์ ผู้ปกครองสถานแรกรับคนไร้ที่พึ่ง จ.นนทบุรี ร่วมให้ข้อมูลว่า รับแม่ลูกชาวกัมพูชามาดูแล 2,893 คน ทุกคนถูกส่งกลับประเทศแล้ว และจากการคัดแยกชาวกัมพูชาด้วยระบบสแกนนิ้วมือ พบว่ากลุ่มคนเหล่านี้ยังคงหลบหนีวนเวียนเข้ามาประเทศไทย คิดเป็น 53 เปอร์เซ็นต์ เป็นกลุ่มเข้ามาใหม่ 47 เปอร์เซ็นต์ ส่วนใหญ่เป็นชาวเมืองปอยเปต เข้ามาทาง จ.สระแก้ว

    ดังนั้น หลังจากนี้สถานแรกรับคนไร้ที่พึ่ง จ.นนทบุรี จะนำข้อมูลประวัติเชิงลึก ส่งไปยังกระทรวงกิจการสังคม ประเทศกัมพูชา เพื่อช่วยรณรงค์ พร้อมทั้งสกัดกั้นกลุ่มคนเหล่านี้ไม่ให้หลบหนีเข‰ามาในประเทศไทยอีก

    ขณะที่ พ.ต.ต.หญิง ฉันฉาย รัตนพานิช รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ หน่วยงานที่มีหน้าที่จับกุมโดยตรง บอกว่า หากใครพบเห็นเด็กที่ถูกใช้เป็นเครื่องมือขอทาน สามารถติดต่อสายด่วน 1191 หรือ 191 เจ้าหน้าที่จะเข้าไปตรวจสอบในทันที เพื่อนำตัวเด็กส่งให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปดำเนินการตามขั้นตอนทางกฎหมาย ส่วนนายหน้าค้ามนุษย์นั้น ทางตำรวจจะสอบขยายผล เพื่อนำตัวมาดำเนินคดีอาญาต่อไป

    "การหยุดให้เงินทางธุรกิจบาป ด้วยการไม่หยอดเหรียญลงกระป๋อง แต่หยอดเหรียญแจ้งมายังเจ้าหน้าที่ตำรวจ เราจะมาดำเนินการทันที โดยจะนำกฎหมายมาบังคับใช้อย่างเคร่งครัด ภายใต้แผนพิทักษ์เด็ก สตรี เยาวชน และป้องกันปราบปรามการค้ามนุษย์ 2553" รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าว

    หลังจากนี้ก่อนจะให้ทาน คิดสักนิด เพราะเศษเงินของท่านจะไปส่งเสริมสนับสนุนขบวนการค้ามนุษย์ และเหล่านายหน้าก็จะนำเด็กมาสู่ธุรกิจบาปมากยิ่งขึ้น






    .



    .



    .

    ˹ѧ
     

แชร์หน้านี้

Loading...