พระวังหน้า ที่หลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรเสก ถ้าต้องการที่จะได้.....

ในห้อง 'งานบุญอื่นๆ' ตั้งกระทู้โดย sithiphong, 23 ธันวาคม 2005.

  1. THANOP

    THANOP เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 ตุลาคม 2009
    โพสต์:
    58
    ค่าพลัง:
    +421
    ผมว่าไม่เก๊นะครับ ผมได้ทำบุญและรับพระวังหน้าจากพี่เค้า ผมอาราธนาแล้วเอาไว้บนหัวนอน ฝันเห็นเลยครับ และเจอหลายองค์ด้วย ผมก็เลยได้กราบเกจิหลายรูปในฝัน วันต่อมาก็โดนหวยอีก โชคสามชั้นเลยครับ ได้ทำบุญ ได้กราบเกจิ ได้โชคลาภ ไม่เชื่อเพื่อนๆที่ทำงานเป็นพยานได้ครับ เขายังอยากร่วมบุญเลย คนกรรมหนาอย่างคุณคงไม่เคยเจออย่างผมละซิ คงว่างมากละนะวันนี้

    เคล็ดลับสู่ความสำเร็จ
    ...ท่านเจ้าประคุณสมเด็จพระพุฒาจารย์ ( โต ) กล่าวว่า เคล็ดลับสู่ความสำเร็จสุดยอดในทางธรรม คือ จะต้องมีสัจจะอันแน่วแน่และมีขันติธรรมอันมั่นคง จึงจะฝ่าฟันอุปสรรค บรรลุความสำเร็จได้
    ...อาตมามีกฎอยู่ว่า เช้าตีห้าไม่ว่าฝนจะตก ฟ้าจะร้อง อากาศจะหนาว ต้องตื่นทันที ไม่มีการผัดเวลา แล้วเข้าสรงน้ำ ชำระกายให้สะอาด แล้วจึงได้สวดมนต์และปฏิบัติสมถกรรมฐานหนึ่งชั่วโมง พอหกโมงตรงก็ออกบิณฑบาต เพื่อปฏิบัติตามปฏิปทาขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
    ...ฝึกจิตให้ได้ผลต้องตรงต่อเวลา กลับจากบิณฑบาตแล้ว ก็เอาอาหารตั้งไว้ ตักน้ำใส่ตุ่ม เสร็จแล้วฉันอาหารเช้า โดยปกติอาตมาฉันมื้อเดียวเว้นไว้มีกิจนิมนต์ จึงฉันสองมื้อ สี่โมงเช้าถึงเที่ยง ถ้ามีรายการไปเทศน์ ก็ไปเทศน์ตามที่นัดไว้ วันไหนไม่ติดเทศน์ก็จะปิดประตูกุฏิทันที ไม่ให้ใครๆเข้าไป ในช่วงเวลานั้นเป็นเวลาศึกษาตำรา เวลาบ่ายโมงจึงออกรับแขก บ่ายสามโมงไม่ว่าใครจะมาอาตมาจะให้ออกจากกุฏิไปหมด เพราะถึงเวลาปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐาน ฉะนั้น จุดสำคัญจงจำไว้ เราจะปฏิบัติเพื่อหลุดพ้น ต้องมีสัจจะเพื่อตน โดยไม่เห็นแก่หน้าใคร ถึงเวลาทำสมาธิต้องทำ ไม่มีการผัดผ่อนใดๆ ทั้งสิน
    หลักการปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐาน
    1.จะต้องมีสัจจะต่อตนเอง
    2.จะต้องไม่คล้อยตามอารมณ์ของมนุษย์
    3.พยายามตัดงานในด้านสังคมออก และไม่นัดหมายใครในเวลาปฏิบัติกรรมฐาน
    ดังนั้นเมื่อจะเป็นนักปฏิบัติธรรมจำเป็นจะต้องมีกฎเกณฑ์ของเราเพื่อฝึกจิตให้เข้มแข็ง
    ทางแห่งความหลุดพ้น
    ...เจ้าประคุณสมเด็จฯ มักจะกล่าวกับสานุศิษย์ทั้งหลายอยู่เสมอว่าชีวิตมนุษย์อยู่ได้ไม่ถึงหนึ่งร้อยปีก็ต้องตายและถูกหามเข้าป่าช้า ดังนั้นจึงควรประพฤติปฏิบัติอยู่ใน ศีล สมาธิ และปัญญา เพื่อให้หลุดพ้นจากสังสารวัฏท่านเปรียบเทียบว่า มนุษย์อาบน้ำ ชำระกายวันละสองครั้งเพื่อกำจัดเหงื่อไคลสิ่งโสโครกที่เกาะร่างกาย แต่ไม่เคยคิดจะชำระจิตให้สะอาดแม้เพียงนาที ด้วยเหตุนี้ ทำให้จิตใจของมนุษย์ ยุคปัจจุบันเศร้าหมองเคร่งเครียดและดุดัน ก่อให้เกิดปัญหาความพิการในสังคมความแก่งแย่งชิงดีชิงเด่นกัน จนกระทั่งเกิดความขัดแย้ง และกลายเป็นสงครามมนุษย์ฆ่ามนุษย์ด้วยกัน
    แต่งใจ
    ...ขอให้ท่านได้พิจารณาไตร่ตรองให้จงดีเถิดว่า ร่างกายของเรานี้ไฉนจึงต้องชำระทุกวันทั้งเช้าและเย็นจะขาดเสียไม่ได้ทั้งที่หมั่นทำความสะอาดอยู่เป็นนิจ แต่ยังมีกลิ่นไม่น่าอภิรมย์ออกมา แม้จะพยายามหาของหอมมาทาทับ ก็ปกปิดกลิ่นนั้นไม่ได้ ...ใจของเราล่ะ ซึ่งเป็นใหญ่กว่าร่างกายเป็นผู้สั่งบัญชางาน ให้กายแท้ๆ มีใครเอาใจใส่ชำระสิ่งสกปรกออกบ้าง ตั้งแต่เล็กจนเติบโตเป็นผู้ใหญ่ มันสั่งสมสิ่งไม่ดีไว้มากเพียงใด หรือว่ามองไม่เห็นจึงไม่มีความจำเป็นที่จะต้อง ทำความสะอาดหรือ?
    กรรมลิขิต
    ...เราทั้งหลายเกิดมาเป็นมนุษย์ชาติแล้ว ล้วนแต่มีกรรมผูกพันกันมาทั้งสิ้น ผูกพันในความเป็นมิตรบ้างเป็นศัตรูบ้าง แต่ละชีวิตก็ย่อมที่จะเดินไปตามกรรมวิบากของตนที่ได้กระทำไว้ ทุกชีวิตล้วนมีกรรมเป็นเครื่องลิขิต
    อดีตกรรม ถ้ากรรมดี เสวยอยู่
    ปัจจุบันกรรม สร้างกรรมชั่ว ย่อมลบล้าง
    อดีตกรรม กรรมแห่งอกุศล วิบากตน
    ปัจจุบัน สร้างกรรมดี ย่อมผดุง
    เรื่องกฎแห่งกรรม ถ้าเป็นชาวพุทธแล้ว เขาถือว่าเป็นกฎแห่งปัจจังตัง ผู้ที่ต้องการรู้ ต้องทำเอง รู้เอง ถึงเอง แล้วจึงจะเข้าใจ
    นักบุญ
    ...การทำบุญก็ดี การทำสิ่งใดก็ดี ถ้าเป็นการทำตนให้ละทิฏฐิมานะทำเพื่อให้จิตเบิกบาน ย่อมเสวยบุญนั้นในปรภพ มนุษย์ทุกวันนี้ทำแบบมีกิเลส ดังนั้น บางคนนึกว่าเข้าสร้างโบสถ์เป็นหลังๆ แล้วเขาจะไปสวรรค์หรือเปล่า เขาตายไปอาจจะต้องตกนรก เพราะอะไรเล่า เพราะถ้าเขาสร้างด้วยเจตนาไม่บริสุทธิ์ เป็นการทำเพื่อเอาบุญบังหน้าในการเสวยความสุขส่วนตัวก็มี บางคนอาจเรียกได้ว่าหน้าเนื้อใจเสือ คือข้างหน้าเป็นนักบุญ ข้างหลังเป็นนักปล้น
    ละความตระหนี่มีสุข
    ...ดังนั้นบุญที่เขาทำนี้ถือว่า ไม่เป็นสุข หากมาจากการก่อกรรม บุญนั้นจึงมีกระแสคลื่นน้อยกว่าบาปที่เขาทำเอาไว้หากมีใครเข้าใจคำว่า บุญ นี้ดีแล้ว การทำบุญนี้จุดแรกในการทำก็เพื่อไม่ให้เรานี้เป็นคนตระหนี่ รู้จักเสียสละเพื่อความสุขของผู้อื่น ธรรมดาเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน เมื่อมีทุกข์ก็ควรจะทุกข์ด้วย เมื่อมีความสุขก็ควรสุขด้วยกัน
    อย่าเอาเปรียบเทวดา
    ...ในการทำบุญ สิ่งที่จะได้ก็คือ ระหว่างเราผู้เป็นมนุษย์เรารู้ว่าสิ่งที่เราทำนี้จะเป็นมงคล ทำให้จิตใจเบิกบานดีนี่คือการเสวยผลแห่งบุญในปัจจุบัน ทีนี้การทำบุญเพื่อจะเอาผลตอบแทนนั้น มนุษย์นี้ออกจะเอาเปรียบเทวดา ทำบุญครั้งใด ก็ปรารถนาเอาวิมานหนึ่งหลังสองหลัง การทำบุญแบบนี้เรียกว่า ทำเพราะหวังผลตอบแทนด้วยความโลภ บุญนั้นก็ย่อมจะไม่มีผล ท่านอย่าลืมว่า ในโลกวิญญาณเขามีกระแสทิพย์รับทราบในการทำของมนุษย์แต่ละคนเขามีห้องเก็บบุญและบาปแห่งหนึ่งอันเป็นที่เก็บบุญและบาปของใครต่อใครและของเรื่องราวนั้นๆ กรรมของใครก็จะติดตามความเคลื่อนไหวของตนๆนั้น ไปตลอดระหว่างที่เขายังไม่สิ้นอายุขัย
    บุญบริสุทธิ์
    ...การที่สอนให้ทำบุญโดยไม่ปรารถนานั้นก็เพื่อให้กระแสบุญนั้นบริสุทธิเป็นขั้นที่นึ่ง จะได้ตามให้ผลทันในปัจจุบันชาติ แต่ถ้าตามไม่ทันในปัจจุบันชาติ ก็ติดตามไปให้เสวยผลในปรภพ คือ เมื่อสิ้นอายุขัยจากโลกมนุษย์ไปแล้ว ฉะนั้น เขาจึงสอนไม่ให้ทำบุญเอาหน้า ทำบุญอย่าหวังผลตอบแทน สิ่งดีที่ท่านทำไปย่อมได้รับสนองดีแน่นอน
    สั่งสมบารมี
    ...โดยเฉพาะอย่างยิ่ง สำหรับนักปฏิบัติธรรมแล้ว การทำบุญทำทานย่อมเป็นการส่งเสริมการปฏิบัติจิตให้บรรลุธรรมได้เร็วขึ้นเป็นบารมีอย่างหนึ่ง ในบารมีสิบทัศที่ต้องสั่งสม เพื่อให้สำเร็จมรรคผลนิพพาน
    เมตตาบารมี
    ...การทำบุญให้ทานเพียงแต่เรียกว่า ทานบารมี หากบำเพ็ญสมาธิจิตจนได้ญาณบารมี และโดยเฉพาะการบำเพ็ญทุกอย่างนั้น ถ้าท่านให้โดยไม่มีเจตนาแห่งการให้ ให้สักแต่ว่าให้เขาท่านก็ย่อมได้กุศลเรียกว่าไม่มากและทัศนคติของอาตมาว่าการบำเพ็ญเมตตาบารมีในภาวนาบารมีนั้นได้กุศลกรรมกว่าการให้ทาน
    แผ่เมตตาจิต
    ...ทุกสิ่งทุกอย่างที่จะสัมฤทธิ์ผลนั้น เกิดจากกรรม 3 อย่าง คือ มโนกรรม เป็นใหญ่ แล้วค่อยแสดงออกมาทางวจีกรรม หรือกายกรรมที่เป็นรูป การบำเพ็ญสมาธิจิตเป็นกุศลดีกว่า เพราะว่า การแผ่เมตตา 1 ครั้ง ได้กุศลมากกว่าสร้างโบสถ์ 1 หลัง ขณะจิตที่แผ่เมตตานั้น จะเกิดอารมณ์แจ่มใส สรรพสัตว์ไม่มีโทษภัย ตัวท่านก็ไม่มีโทษภัย ฉะนั้น เขาจึงว่านามธรรมมีความสำคัญกว่า
    อานิสงส์การแผ่เมตตา
    ...ผู้ปฏิบัติธรรมนั้น ต้องรู้จักคำว่า แผ่เมตตา คือต้องเข้าใจว่า ความวิเวกวังเวงแห่งการคิดนึกของเราแต่ละบุคคลนั้น มีกระแสแห่งธาตุไฟผสมอยู่ในจิตและวิญญาณกระจายออกไปเมื่อจิตของเรามีเจตนาบริสุทธิ์ เมื่อจิตของเราเป็นมิตรกับทุกคน เมื่อนั้นเขาก็ย่อมเป็นมิตรกับเรา เสมือนหนึ่งเราให้เขากินอาหาร คนที่กินอาหารนั้นย่อมคิดถึงคุณของเรา หรืออีกนัยหนึ่งว่าเราผูกมิตรกับเขาๆก็ย่อมเป็นมิตรกับเรา แม้แต่คนอันธพาล เราแผ่เมตตาจิตให้ทุกๆวัน สักวันหนึ่งเขาก็ต้องเป็นมิตรกับเราจนได้ เมื่อจิตเรามีเจตนาดีต่อดวงวิญญาณทุกๆดวง ดวงวิญญาณทุกๆดวงย่อมรู้กระแสแห่งจิตของเรา เรียกว่ามนุษย์เรานี้มีกระแสธาตุไฟออกจากสังขาร เพราะเป็นพลังแห่งการนั่งสมาธิจิต วิญญาณจะสงบ ธาตุทั้ง 4 นั้น จะเสมอแล้วจะเปล่งเป็นพลังงานออกไป ฉะนั้น ผู้ที่นั่งสมาธิปฏิบัติอย่างสม่ำเสมอ จิตแน่วแน่แล้ว โรคที่เป็นอยู่มันจะหายไป ถ้าสังขารนั้นไม่ใช่จะพังเต็มทีแล้ว คือไม่ถึงวาระสิ้นอายุขัย หรือว่าสังขารนั้นร่วงโรยเกินไปแล้ว ก็จะรักษาให้มันกระชุ่มกระชวยได้หรือจะให้มันสบายหายเป็นปกติดั่งเดิมได้
    ประโยชน์จากการฝึกจิต
    ...ผู้ที่ปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐาน จนมีสมาธิแน่วแน่ เมื่อจิตนิ่งก็รู้ตน เริ่มพิจารณาตน รู้ตนเองได้ ปัญญาก็เกิดขึ้น ปัญญานี้เรียกว่า ปัญญาภายในจากจิตวิญญาณ ซึ่งเราจะใช้ปัญญานี้ได้แน่นอน เมื่อเกิดมีปัญหาขึ้นในชีวิตตลอดระยะเวลาอันยาวนานข้างหน้า นี่คือประโยชน์ของการฝึกจิตแล้ว คุณของสมาธิยังเป็นพลังป้องกันไม่ให้เกิดโรคภัย เจ็บป่วยได้ กล่าวคือ การบำเพ็ญจิต จนจิตสงบนิ่งแล้ว ระบบต่างๆทางประสาทจะได้รับการพักผ่อน เป็นการปรับธาตุในกายให้เกิดพลังจิตเข้มแข็ง กายเนื้อก็จะแข็งแรงกระชุ่มกระชวยด้วย โลหิตในร่างกายจะหมุนเวียนสะดวกขึ้น ความตึงเครียดตามร่างกายและประสาทต่างๆ จะผ่อนคลายเป็นปกติ โรคต่างๆจะลดน้อยลงโดยเฉพาะผู้ที่ป่วยเป็นโรคความดันโลหิตสูง หายป่วยได้ด้วยการฝึกจิตและเดินจงกรม
    คัดลอกจากหนังสือ เรียน ธรรมะบูชาพระสุปฏิปันโน เล่มของ สมเด็จพระพุฒาจารย์ โตพรหมรังสี
     
  2. มูริญโญ่

    มูริญโญ่ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    408
    ค่าพลัง:
    +583
    บางครั้งการเข้ามาโพสที่กระทู้นี้ผมว่าเปรียบเสมือนการเข้ามาพูดคุย
    กับเพื่อนรวมแล้วมันก็คือเสมือนคนในครอบครัวเดียวกันเท่าที่รู้จักทุกคนน่าคบหมดครับ
    มีแต่ความจริงใจผมเลยคิดว่า การที่มีบุคคลบางคนหรือบางกลุ่มพยายามเข้ามาตำหนิหรือ
    ด่าทอต่อว่าจะด้วยความมันหรืออะไรก็แล้วแต่นะครับ อันที่จริงผมถามตรงๆเลยนะครับ
    1. เงินที่ร่วมทำบุญมันเงินของพวกผมใช่มั้ยครับ
    2. ผมไม่ได้เกี่ยวดองเป็นญาติกับคุณไม่ทราบว่าคุณเดือดร้อนอะไรครับ
    3. การร่วมบุญของผมหรือเพื่อนๆเกิดจากความเต็มใจไม่ได้มีใครบังคับ
    ไม่ว่าพระที่ได้จากคุณหนุ่มในความรู้สึกของคุณจะดีหรือไม่ผมว่า
    อันที่จริงผมเป็นผู้ทำบุญออกเงินเองไม่ได้ไปรบกวนเงินของพวกคุณ
    ไม่ทราบว่า คุณเดือดร้อนอะไรครับ หรือว่าอยู่ว่างๆเลยเข้ามากวนมันเล่นๆ
    4. ผมไม่สนใจว่าคุณจาทำอะไรมีไร่นามากมายทำงานด้านไหน แต่ .......
    ,,,,,,,, ผมว่าการกระทำแบบนี้เค้าเรียกว่าไม่มีมารยาทครับ ,,,,,,,,,,
     
  3. มูริญโญ่

    มูริญโญ่ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    408
    ค่าพลัง:
    +583
    จริงๆผมเบื่อเรื่องคุยตำแหน่งใหญ่โตผมเบื่อพวกอวดรวย
    เพื่อนที่รู้จักในชมรมผมว่ามีทุกอย่างมีหลายชนชั้น แต่
    เวลาผมไปนั่งคุยกัน " ไม่เคยมีใครคุยใหญ่โตซักคน "
    ทั้งๆที่ในความรู้สึกผม " ไม่ธรรมดานะครับ "
     
  4. THANOP

    THANOP เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 ตุลาคม 2009
    โพสต์:
    58
    ค่าพลัง:
    +421
    ผมไม่ได้เข้าข้างนะครับแต่ การที่คุณ joni ทำตัวเป็นสายตรวจควรจะมีหลักฐาน และเหตุผลมากกว่าอรมณ์นะครับ คิดก่อนพูด แล้วค่อยลงมือกระทำ จะได้สบายใจหลายๆฝ่าย ไม่ไช่คิดอะไรก็โพล่งออกมา ทำให้เค้าเสียหาย การกระทำของคุณไม่ถูกต้องนะครับ ไม่รู้ว่าคุณได้รับการอบรมณ์มามากน้อยแค่ไหน ทำอะไรโง่ๆ ไร่นาสาโทมีมาก ก็กลับไปกินหญ้าแถวนาคุณนั่นละ จะได้ไม่ค่อยมีเวลาว่างเผื่อจะฉลาดขึ้น ยังขาดมากสำหรับคนอย่างคุณ ขอบคุณครับ
     
  5. ปฐม

    ปฐม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    638
    ค่าพลัง:
    +1,618
    พักผ่อนบ้างนะครับพี่ท่าน ผมก็กำลังทำบ้านเหมือนกันเข้าใจดีครับ แต่สุขภาพก็สำคัญถ้าเราไม่สบายด้วยจะยิ่งแย่นะครับพี่ท่าน
     
  6. THANOP

    THANOP เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 ตุลาคม 2009
    โพสต์:
    58
    ค่าพลัง:
    +421
    คาถามีอะไรบ้างครับบอกน้องบ้างsi พี่ สมบัติ อยากได้ไว้สวดบ้างครับ ถือว่าเผื่อแผ่น้องๆ ขอบคุณครับ
     
  7. THANOP

    THANOP เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 ตุลาคม 2009
    โพสต์:
    58
    ค่าพลัง:
    +421
    ผมว่าเอางี้ดีมั้ยพี่หนุ่ม อาจจะมีภาพความคืบหน้าการก่อสร้างเจดีย์ มาประกอบบ้างเป็นระยะก็ดีนะครับหรือรูปพระเณร หรืออะไรต่าง ที่เป็นองค์ประกอบ คนทั่วๆไปจะได้เข้าใจครับ ผมว่าอย่างนี้ก็แฟร์ดี จะได้ลบคำสบประมาทจากพวก.........ทั้งหลาย โปร่งใสดีพี่
     
  8. THANOP

    THANOP เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 ตุลาคม 2009
    โพสต์:
    58
    ค่าพลัง:
    +421
    ผมว่าเอางี้ดีมั้ยพี่หนุ่ม อาจจะมีภาพความคืบหน้าการก่อสร้างเจดีย์ มาประกอบบ้างเป็นระยะก็ดีนะครับหรือรูปพระเณร หรืออะไรต่าง ที่เป็นองค์ประกอบ คนทั่วๆไปจะได้เข้าใจครับ ผมว่าอย่างนี้ก็แฟร์ดี จะได้ลบคำสบประมาทจากพวก.........ทั้งหลาย โปร่งใสดีพี่
     
  9. nongnooo

    nongnooo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 พฤศจิกายน 2006
    โพสต์:
    4,139
    ค่าพลัง:
    +9,446
    เริ่มเลยครับ
    ผมว่าตั้งแต่ที่ได้เข้ามาในกระทู้จนได้เป็นสมาชิกและร่วมงาน บุญกันนั้น ปัญหานี้พบมาโดยตลอด ผู้ที่ไม่เชื่อก็จะว่ามือผี ฝีมือท่าพระจันทร์ ขายหน้าร้านขายยาที่บางรัก ต่างๆนานา แล้วก้จะตามมาด้วยคุณหนุ่มชวนท้าสาบาน ซึ่งทุกครั้งก็จะมาเป็นรูปแบบนี้ทุกครั้งครับ
    1. วัตถุประสงค์ที่คุณหนุ่มชวนไปสาบานเพราะพวกคุณไม่เชื่อกัน บอกว่าเก๊ท่าพระจันทร์ ถึงเวลาก็จะตอบว่าผมไม่อยากจะไปสบงสบาน เกลือกกลั่วกับพวกคุณหรอก ในความเป็นจริงก็คือ คุณหนุ่มกำลังหลอกให้พวกคุณปรามาส พระรัตนตรัย อยู่ครับ ใจลึกๆคุณก็คงกลัวบ้างเช่นกัน
    2. ผมขอค้านคุณหนุ่มในประเด็นที่ว่าเพราะการท้าสาบานจึงมีวันนี้ ผมเห็นต่างครับ ผมเห็นว่าถ้าคุณหนุ่มไม่ทำเช่นนี้ปล่อยให้เป็นไปตามกรรมของสัตว์โลก กระทู้และพระวังหน้าจะดังกว่าวันนี้มากๆครับ
    3.กรณียายผีป่า เข้ามาช่วยตอบโต้เรื่องพระวังหน้า ก็เพราะว่าของมันมีจริงจะปฎิเสธได้อย่างไร ส่วนกรณีของตัวยายผีป่าเป็นเรื่องระหว่าง บุคคล 2ฝ่าย เราเป็นบุคคลที่3ไม่อาจทราบได้ว่า ความจริงคืออะไร ย่อมไม่สามารถ ตอบหรือให้ความเห็นได้ พวกที่พูดไปว่าทำไมไม่เข้าไปช่วย จริงๆแล้วไม่น่าพูดออกมาเลย มันแสดงถึงภูมิปัญญาของผู้พูดจริงๆครับ
    4. เรื่องของงานบุญ จะหาว่าแอบตั้งวงเชียร์กันแล้ว เมื่อขายพระนำเงินมาแบ่งกัน โหคิดไปนั่น คิดน่ะคิดได้ครับ แต่กาลเวลา และความจริงพิสูจน์ตัวเองเสมอ ไม่จำเป็นต้องบรรยายอีก
    5.ผมว่าเราก็กลับไปสู่จุดเดิมที่คุยกันหลายครั้งว่า คุณหนุ่มก็อย่าอารมณ์ ใครอยากพูดอะไรทำอะไร ก็เป็นเรื่องของตัวเค้าเอง เราก็เรา เค้าก็เค้า ครับ
     
  10. tawatd

    tawatd เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กุมภาพันธ์ 2006
    โพสต์:
    506
    ค่าพลัง:
    +2,020
    ผมขอยืนยันในความบริสุทธิ์ของทีมงานชมรมรักษ์พระวังหน้าฯ ว่าไม่ได้หาผลประโยชน์จากเงินทำบุญแต่ประการใด
    ผมได้ร่วมบริจาคทำบุญกับคุณหนุ่มและคณะมานาน ทราบว่าคุณหนุ่มได้เสียสละเวลา ทรัพย์สิน ความรู้ความสามารถให้กับพระวังหน้าเป็นอย่างมาก คนที่ได้ร่วมงานย่อมรู้ดีและยืนยันได้ว่าคุณสิทธิพงษ์เป็นคนดีและเสียสละอย่างไร
    ผมเชื่อว่าสิ่งที่คุณมันตรัยเขียนคนทั่วไปไม่เชื่อถือหรอก ลงคะแนนดูก็ได้ ผมรู้จักตัวตนของคุณสิทธิพงษ์แล้ว แต่ยังไม่รู้จักตัวตนจริงของคุณมันตรัยเลย
     
  11. tawatd

    tawatd เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กุมภาพันธ์ 2006
    โพสต์:
    506
    ค่าพลัง:
    +2,020
    ได้รับข้อมูลจากท่านไฟดูดว่า บางคนที่โจมตีในกระทู้พระวังหน้าว่า พระวังหน้าเป็นพระเก๊ เป็นพวกซื้อขายพระกำไรแค่ 100-200 ก็เอา จึงทำให้เชื่อได้ว่า คำที่โพสไม่มีน้ำหนักเพียงพอที่จะทำให้เชื่อถือได้
    คณะพระวังหน้าที่ผมรู้จักทุกคน มีอาชีพ ความรู้ และฐานะทางสังคมที่เชื่อถือได้ ดังนั้นการกล่าวหาว่าคณะฯ หรอกหาเงินจากการทำบุญ จึงเป็นสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ ขอยืนยัน
    ขอโมทนาบุญครับ
     
  12. เอ๋เชียงใหม่

    เอ๋เชียงใหม่ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    843
    ค่าพลัง:
    +1,791
    ผมยืนยันด้วยอีกคนครับ เท่าที่ผมเคยคุยกับสมาชิกชมรมหลายคน เขาเป็นคนจริงครับ โดยเฉพาะคุณหนุ่มนอกจากจะเป็นคนจริงแล้วยังเป็นคนตรงครับ ใครแรงมาก็แรงไปเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวเลยล่ะ แต่โดยรวมแล้วน่าคบครับคนนี้
     
  13. kongpak

    kongpak เลื่อมใสอย่างยิ่งในตถาคต ถึงที่สุดโดยส่วนเดียว

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กันยายน 2009
    โพสต์:
    802
    ค่าพลัง:
    +6,118
    พฤษก พกาสร อีกกุญชรอันปลดปลง โททนต์เสน่งคงสำคัญหมายในกายมี นรชาติวางวายมลายสิ้นทั้งอินทรีย์ สถิตทั่วแต่ชั่วดี ประดับไว้ในโลกา

    ไ่ม่มีกรรมใด ไม่ตอบสนองผู้กระทำ - เป็นกำลังใจให้คุณหนุ่มครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 2 ตุลาคม 2010
  14. kongpak

    kongpak เลื่อมใสอย่างยิ่งในตถาคต ถึงที่สุดโดยส่วนเดียว

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กันยายน 2009
    โพสต์:
    802
    ค่าพลัง:
    +6,118
    ถ้าท่านใดได้เคยอ่านนวนิยายที่ยาวที่สุดในโลก ใช้เวลาเขียนนานที่สุดในโลก นาม "เพชรพระอุมา" ของคุณอาฉัตรชัย วิเศษสุวรรณภูมิ แล้วจะทราบว่าชื่อ "มันตรัย" นั้นคือตัวอะไรในเรื่องนี้ครับ เชิญชวนอ่านครับ ถ้ายังไม่ได้อ่าน แล้วท่านจะไม่ผิดหวัง
     
  15. กำธร นครปฐม

    กำธร นครปฐม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กรกฎาคม 2007
    โพสต์:
    2,756
    ค่าพลัง:
    +7,203
    ผมมาแล้วครับคุณหนุ่ม ก่อนอื่นผมขอบอกไว้ก่อนเลยว่า ผมไม่เคยเข้าไปดูในกระทู้ของคุณ ที่ขายพระวังหน้า เข้าไปดูก็ในวันนี้ที่คุณ pm มาให้ผมเข้าในกระทู้ของคุณ ที่คุณขายพระวังหน้าก็ไม่เกี่ยวกับผม ผมไม่เคยพาดพิงคุณ เพราะไม่รู้จักกับคุณมาก่อน การที่ผมตอบคุณมันตรัยในกระทู้นั้น คุณมันตรัยก็ไม่ได้เอ่ยชื่อคุณ และผมก็ไม่รู้ว่าคุณเคยมีอะไรกับคุณมันตรัยมาก่อน หรือไม่ ผมเข้ามาเป็นสมาชิกในเว็บพลังจิต ผมไม่เคยเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับการขายพระวังหน้าของคุณ หรือของใครมาก่อน คุณดูกระทู้ของคุณในนี้ก็รู้ เพราะผมถือว่าทางใครทางมันครับ อาชีพใครอาชีพมัน ตรงกันข้าม เมื่อผมเข้ามาดูตามที่คุณ pm บอกผม ผมกลับชื่นชมคุณด้วยซ้ำว่าเป็นสะพานบุญที่ดี แต่เรื่องที่คุณท้าผมให้ไปหักพระแล้วเอาเท้าถีบลงแม่น้ำนั้น ผมไม่ทำครับ และตัวผมเองก็ไม่ชอบสาบถสาบานอะไรกับใคร และลบหลู่พระรัตนตรัยครับ และผมไม่ทราบว่าคุณเป็นลูกศิษย์ใคร หรือใครเป็นโคตรพ่อ โคตรแม่ ครูบาอาจารย์ของคุณครับ ที่ไม่สอนคุณถึงเรื่องพระรัตนตรับ ทำให้คุณท้าทายผม คุณมันตรัย และคุณจอนนี่ โดยการลบหลู่พระรัตนตรัย จำไว้นะครับ ผมไม่เคยรู้จักคุณมาก่อน ส่วนคุณมันตรัยรู้จักกันตอนไปวัดทุ่งสามัคคีธรรม และคุณจอนนี่นั้น ผมเจอตอนที่ไปวัดหลวงปู่เรือง แค่ครั้งเดียวทั้งสองคน ส่วนผม ๆ บอกได้ครับว่าผมเป็นลูกศิษย์หลวงพ่อสังวาลย์ วัดทุ่งสามัคคีธรรม และหลวงพ่อมี วัดมารวิชัย รวมทั้งหลวงพ่อเปิ่น วัดบางพระ หลวงพ่อจรัญ วัดอัมพวัน และอีกหลายหลวงพ่อ หลวงปู่ ที่ผมไปกราบและร่วมทำบุญกับท่าน ส่วนหลวงปู่เทพโลกอุดร จะมีจริงหรือไม่นั้น ผมไม่รู้ และไม่ลบหลู่ ครูบาอาจารย์ของคนอื่น เพราะครูบาอาจารย์ของผมสอนและพ่อแม่ผมสอนไว้ว่า ครูบาอาจารย์ของใครใครก็รักและเคารพครับ หวังว่าคุณคงเข้าใจนะครับและโปรดดูกระทู้ของคุณให้ดี สองพันกว่าหน้านั้น ผมไม่เคยมาโพสต์พาดพิงของคุณในกระทู้ของคุณ และไม่เคยมาดูซักเท่าไหร่ และอย่างที่บอก ผมก็ไม่รู้ว่าใครเป็นพวกคุณยายผีป่า บ้าง ปล.ขออนุโมทนากับกุศลผลบุญของคุณที่ได้เป็นสะพานบุญมา ณ ที่นี้ และ ผมคงไม่ไปสาบานกับคุณ ไม่ใช่ว่าผมไม่กล้า แต่ผมกลัวบาป และเสียเวลาทำงานของผม ผมทำงานราชการครับ ส่วนวันเสาร์ อาทิตย์ บางวัน ก็ไปทำงาน และเลี้ยงลูก ทำบุญบ้างเป็นบางครั้ง คงไม่มีเวลาแน่ ๆ หวังว่าคุณคงจะเข้าใจ
     
  16. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    เวลาที่โพสอะไรก็ตาม หัดดูความจริงบ้าง เดี๋ยวนี้ ข้าราชการต้องพัฒนา ซึ่งข้าราชการที่ผมรู้จัก ได้ีมีการพัฒนากันมาก ปรับปรุงตัวเพราะมีตัวชี้วัด น้องชายผมเอง ก็เป็นผู้ที่เข้าไปประเมินการทำงานของหน่วยงานราชการหลายๆหน่วยงาน

    เงินที่ร่วมทำบุญ ผู้ที่ทำบุญก็โอนเข้าไปบัญชี ซึ่งแต่ละบัญชีผมไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้อง หรือ เป็นผู้มีอำนาจลงนามในการสั่งจ่ายเงิน

    หัดดูบ้าง ไม่ใช่ว่าเฮตามกันไป

    ผมเองก็มีงานทำ ไม่ได้มีอาชีพขายพระ

    เวลาที่ผมบอกให้โทร.ไปหาพระอาจารย์นิล ที่ท่านสร้างพระเจดีย์ศรีชัยผาผึ้ง หรือ หลวงพ่อแผน ที่ สนส.บ่อเงินบ่อทอง ก็ไม่ยักมีคนไหนที่โทร.ไปสอบถามเรื่องเงินสักคนเดียว

    เรื่องของการลบหลู่พระรัตนตรัย ผมนับถือคุณกำธรมาก ที่เวลาเห็นรูปพระพุทธรูปตามหนังสือพิมพ์ หรือ โบว์ชัวร์ขายพระ หรือ อยู่ตามข้างทาง หยิบเก็บกลับบ้านเพื่อสักการะบูชา นี่คือการไม่ลบหลู่พระรัตนตรัย


    เรื่องของการเกรงกลัวต่อบาปเป็นสิ่งที่ดี เพราะสิ่งที่ไม่รู้ ยังมีอีกมากนัก หัดวางอุเบกขาไว้บ้าง เพราะกรรมที่ปรามาสพระวังหน้า เป็นกรรมหนัก จะหนักอย่างไร ผมเคยอธิบายไว้ในกระทู้ที่คุณบอกว่า ยาวกว่า 2,000 หน้านี่ครับ


    .
     
  17. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    ถูกต้องที่สุดครับ

    คนที่เขาใหญ่จริง มีเงินมากจริง ไม่คุยโวครับ

    ผมเองรู้จักกับคนที่ผมคิดว่า ต่อให้ใช้โดยไม่หาเงินเพิ่ม ใช้อีกล้านชาติ ก็ใช้ไม่หมดครับ

    คนที่เขาใหญ่จริง ก็ไม่เห็นมาคุยโวว่า ข้านี่ใหญ่โต แต่เวลาพูดจา ทำให้เรายิ่งเกรงใจมากขึ้นไปอีก

    ไม่เคยเห็นจริงๆ
    .
     
  18. chantasakuldecha

    chantasakuldecha เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 เมษายน 2008
    โพสต์:
    991
    ค่าพลัง:
    +2,331
    สวัสดีครับพ่อแม่พี่น้องที่เคารพรักทุกท่าน ผมเป็นสมาชิกชมรมฯคนนึง การที่เราจะร่วมบุญหรืออยากจะทำบุญนั้นใจต้องมาก่อนครับ ผมนั้นเคยไปร่วมบุญกับคุณหนุ่มมาก็หลายครั้งทุกครั้งก็มีประสบการณ์ อย่างที่คนไม่เคยเจอก็ต้องอึ้ง ผมขอยืนยันว่า
    - ของแท้ต้องพิสูจน์ได้
    - พระท่านเลือกคน
     
  19. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    ผมเองพยายามนำมาโพสในกระทู้ ขอเชิญร่วมสร้างพระเจดีย์ศรีชัยผาผึ้ง ณ สำนักสงฆ์ผาผึ้ง อ.บ้านเขว้า จ.ชัยภูมิ บมจ.ธ.กรุง ไทย สาขาลาดพร้าว102 บช.ออมทรัพย์เลขที่1890-13128-8 บัญชี นางพิชญ์สินี ชาญปารีสชญา,นายอุเทน งามศิริ,นายสิรเชษฎ์ ลีละสุนทเลิศ

    แต่อีกส่วนหนึ่ง ผมจะแ้จ้งให้พี่แอ๊วทราบ

    อีกเรื่อง หากใครสงสัย ให้ pm เข้ามาหาผม ผมจะส่งเบอร์โทร.ของพระอาจารย์นิล ให้ จะได้โทร.สอบถามท่านโดยตรงเอง จะได้หายสงสัย




    .
     
  20. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    เหอๆๆ รู้ทันผมจริงๆเลย



    .
     

แชร์หน้านี้

Loading...