พระวังหน้า ที่หลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรเสก ถ้าต้องการที่จะได้.....

รูปบนล็อคเก็ตนั้น จะมีรูปพระพุทธเจ้าอยู่ตรงกลางด้านบน ถัดลงมาด้านซ้ายจะเป็นหลวงปู่พระอุตรเถระเจ้า ด้านขวาจะเป็นหลวงปู่พระโสณเถระเจ้า ถัดมาตรงกลางจะเป็นหลวงปู่พระมูนียะเถระเจ้า(หลวงปู่อิเกสาโร) ถัดลงมาด้านซ้ายจะเป็นหลวงปู่พระฌาณียะเถระเจ้า(หลวงปู่ขรัวขี้เถ้า) ด้านขวาจะเป็นหลวงปู่พระภูริยะเถระเจ้า(หลวงปู่หน้าปาน) ถัดลงมาด้านซ้ายจะเป็นหลวงปู่แจ้งฌาณ(ครูฝึก) ถัดลงมาด้านขวาจะเป็นหลวงปู่ท่านเจ้า(กรมพระราชวังบวรวิชัยชาญ) ด้านล่างสุดจะมีข้อความว่า คณะพระธรรมทูต พ.ศ.๒๓๕ ครับ

โมทนาสาธุครับ

 

บทแผ่เมตตาให้ตนเอง<O</O
อะหัง สุขิโต โหมิ ขอให้ข้าพเจ้ามีความสุข<O</O
อะหัง นิททุกโข โหมิ ขอให้ข้าพเจ้าปราศจากความทุกข์<O</O
อะหัง อะเวโร โหมิ ขอให้ข้าพเจ้าปราศจากเวร<O</O
อะหังอัพยาปัชโณ โหมิ ขอให้ข้าพเจ้าปราศจากอุปสรรคอันตรายทั้งปวง<O</O
สุขี อัตตานัง ปะริหะรามิ ขอให้ข้าพเจ้าจงมีสติสัมปชัญญะอยู่ทุกเมื่อ รักษา กาย วาจา ใจ ให้พ้นจากความทุกข์ภัยทั้งปวงเถิด
<O</O
หรือ<O</O

อะหัง สุขิโต โหมิ, นิทุกโข โหมิ, อะเวโร โหมิ, อัพยาปัชโฌ โหมิ, อะนีโฆ โหมิ, อะโรโค โหมิ, สุขี อัตตานัง ปะริหะรามิ.<O</O
ขอให้ตัวของเราเอง จงมีความสุข ปราศจากทุกข์ ไม่มีเวร ไม่มีภัย ไม่มีความเบียดเบียน ไม่มีความเดือดร้อน ไม่มีความลำบาก ปราศจากโรคภัย รักษาตนอยู่เถิด<O</O

<O</O​

คำแผ่เมตตา<O</O
สัพเพ สัตตา สัตว์ทั้งหลาย ที่เป็นเพื่อนทุกข์เกิดแก่เจ็บตายด้วยกันหมดทั้งสิ้น<O</O
อะเวรา จงเป็นสุข ๆ เถิด อย่าได้มีเวรแก่กันและกันเลย<O</O
สัพเพ สัตตา สัตว์ทั้งหลายที่เป็นเพื่อนทุกข์เกิดแก่เจ็บตายด้วยกันหมดทั้งสิ้น<O</O
อัพพะยา ปัชณา จงเป็นสุข ๆ เถิด อย่าได้เบียดเบียนซึ่งกันและกันเลย<O</O
สัพเพ สัตตา สัตว์ทั้งหลาย ที่เป็นเพื่อนทุกข์เกิดแก่เจ็บตายด้วยกันหมดทั้งสิ้น<O</O
อะนีฆา จงเป็นสุข ๆ เถิด อย่าได้มีความทุกข์กายทุกข์ใจเลย<O</O
สัพเพ สัตตา สัตว์ทั้งหลาย ที่เป็นเพื่อนทุกข์เกิดแก่เจ็บตายด้วยกันหมดทั้งสิ้น<O</O
สุขี อัตตานัง ปะริหะรันตุ จงมีความสุขกายสุขใจ รักษาตนให้พ้นจากทุกข์ภัยทั้งสิ้นเทอญ ท่านทั้งหลาย ที่ท่านได้ทุกข์ขอให้ท่านมีความสุข ท่านทั้งหลายที่ท่านได้สุข ขอให้สุขยิ่ง ๆ ขึ้นไป<O</O
สัพเพ สัตตา สัตว์ทั้งหลายที่เกิดเป็นชะลาพุชะ ที่เกิดเป็นอัณฑะชะ ที่เกิดเป็นสังเสทะชะ ที่เกิดเป็นโอปปาติกะ จงมารับกุศลผลบุญให้ถ้วนทั่วทุกตัวสัตว์<O</O
<O</O

บทแผ่ เมตตา กรุณา มุทิตา อุเบกขา<O</O
<O</O

เมตตา<O</O

สัพเพ สัตตา สัตว์ทั้งหลายทั้งปวง ที่เป็นเพื่อนทุกข์ เกิด แก่ เจ็บ ตาย ด้วยกันหมดทั้งสิ้น<O</O
อะเวรา โหนตุ จงเป็นสุข เป็นสุขเถิด อย่าได้มีเวรแก่กันและกันเลย<O</O
อัพะยาปัชณา โหนตุ จงเป็นสุข เป็นสุขเถิด อย่าได้เบียดเบียนซึ่งกันและกันเลย<O</O
อะนีฆา โหนตุ จงเป็นสุข เป็นสุขเถิด อย่าได้มีความทุกข์กายทุกข์ใจเลย<O</O
สุขี อัตตานัง ปะริหะรันตุ จงมีความสุขกาย สุขใจ รักษาตนให้พ้นจากทุกข์ภัยทั้ง สิ้นเทอญ<O</O
<O</O

กรุณา<O</O

สัพเพ สัตตา สัตว์ทั้งหลายทั้งปวง<O</O
สัพพะทุกขา ปะมุจจันตุ จงพ้นจากทุกข์เถิด<O</O
<O</O

มุทิตา<O</O

สัพเพ สัตตา สัตว์ทั้งหลายทั้งปวง<O</O
ลัทธะสัมปัตติโต มา วิคัจฉันตุ จงอย่าไปปราศจากสมบัติอันตนได้แล้วเถิด<O</O
<O</O

อุเบกขา<O</O

สัพเพ สัตตา สัตว์ทั้งหลายทั้งปวง<O</O
กัมมัสสะกา เป็นผู้มีกรรมเป็นของของตน<O</O
กัมมะทายาทา เป็นผู้รับผลของกรรม<O</O
กัมมะโยนิ เป็นผู้มีกรรมเป็นกำเนิด<O</O
กัมมะพันธุ เป็นผู้มีกรรมเป็นเผ่าพันธุ์<O</O
กัมมะปะฏิสะระณา เป็นผู้มีกรรมเป็นที่พึ่งพาอาศัย<O</O
ยัง กัมมัง กะริสสันติ กระทำกรรมอันใดไว้<O</O
กัลละยาณัง วา ปาปะกัง วา ดีหรือชั่ว<O</O
ตัสสะ ทายาทา ภะวิสสันติ จักเป็นผู้รับผลของกรรมนั้น<O</O
สัตว์ทั้งหลายที่เกิดมาในโลกนี้ จงอย่าได้มีเวรเบียดเบียนกันและกัน <O</O
จงอย่าได้มีความลำบากเจ็บไข้เลย จงเป็นผู้มีสุขพ้นทุกข์ภัยทั้งสิ้น กับขอจงเป็นผู้มีส่วนได้เสวยผลบุญอันเราได้กระทำแล้วทุกเมื่อเทอญ<O</O

<O</O

คำแผ่เมตตา ( หลวงปู่ชา วัดหนองป่าพง อุบลราชธานี )<O</O
( หันทะ มะยัง เมตตาผะระนัง กะโรมะ เส )<O</O​

อะหัง สุขิโต โหมิ ขอให้ข้าพเจ้าจงเป็นผู้ถึงสุข<O
นิททุกโข โหมิ จงเป็นผู้ไร้ทุกข์<O</O
อะเวโร โหมิ จงเป็นผู้ไม่มีเวร<O</O
อัพะยาปัชโฌ โหมิ จงเป็นผู้ไม่เบียดเบียนซึ่งกันและกัน<O</O
อะนีโฆ โหมิ จงเป็นผู้ไม่มีทุกข์<O</O
สุขี อัตตานังปะริหะรามิ จงรักษาตนอยู่เป็นสุขเถิด<O</O
สัพเพ สัตตา สุขิตา โหนตุ ขอสัตว์ทั้งหลายทั้งปวง จงเป็นผู้ถึงความสุข<O</O
สัพเพ สัตตา อะเวรา โหนตุ ขอสัตว์ทั้งหลายทั้งปวงจงเป็นผู้ไม่มีเวร<O</O
สัพเพ สัตตา อัพะยาปัชณาโหตุ ขอสัตว์ทั้งหลายทั้งปวงจงอย่าได้เบียดเบียนซึ่งกันและกัน<O</O
สัพเพ สัตตา อะนีฆา โหนตุ ขอสัตว์ทั้งหลายทั้งปวงจงเป็นผู้ไม่มีทุกข์<O</O
สัพเพ สัตตา สุขี อัตตานัง ขอสัตว์ทั้งหลายทั้งปวงจงรักษาตนอยู่เป็นสุขเถิด<O</O
ปะริหะรันตุ <O</O
สัพเพ สัตตา สัพพะทุกขา ขอสัตว์ทั้งหลายทั้งปวงจงพ้นจากทุกข์ทั้งมวล<O</O
ปะมุญจันตุ<O</O
สัพเพ สัตตา ลัทธะสัมปัตติโตมา วิคัจฉันตุ ขอสัตว์ทั้งหลายทั้งปวงจงอย่าได้พรากจากสมบัติอันตนได้แล้ว<O</O
สัพเพ สัตตา กัมมัสสะกา สัตว์ทั้งหลายทั้งปวงมีกรรมเป็นของๆตน มีกรรม<O</O
กัมมะทายาทา กัมมะโยนิ เป็นผู้ให้ผล มีกรรมเป็นแดนเกิด มีกรรมเป็นผู้ติด<O</O
กัมมะพันธุ กัมมะปะฏิสะระณา ตาม มีกรรมเป็นที่พึ่งอาศัย<O</O
ยัง กัมมัง กะริสสันติ, จักทำกรรมอันใดไว้ เป็นบุญหรือเป็นบาป จักต้อง<O</O
กัลยาณัง วา ปาปะกัง วา,ตัสสะทายาทา ภะวิสสันติ เป็นผู้ได้รับผลของกรรมนั้นๆสืบไป<O</O
<O</O

 

<TABLE class=tborder id=post529010 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 0px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid"><!-- / status icon and date --></TD><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 0px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid" align=right> #428 </TD></TR><TR vAlign=top><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 0px solid" width=175>พรหมประกาศิต<SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_529010", true); </SCRIPT>
สมาชิก



เข้ามาครั้งสุดท้ายเมื่อ: วันนี้ 09:42 AM
วันที่สมัคร: Jun 2006
สถานที่: ย้ายที่อยู่บ่อย แล้วแต่สถานที่ทำงาน
ข้อความ: 571 <!-- Start Post Thank You Hack -->
ได้ให้อนุโมทนา 15,538 ครั้ง
ได้รับอนุโมทนา 5,771 ครั้ง ใน 568 โพส <!-- End Post Thank You Hack -->
พลังการให้คะแนน: 642



</TD><TD class=alt1 id=td_post_529010 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid"><!-- message -->อ้างอิง:
<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: 1px inset; BORDER-TOP: 1px inset; BORDER-LEFT: 1px inset; BORDER-BOTTOM: 1px inset">ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ sithiphong
เมื่อคืนนี้ ผมได้โทรศัพท์ไปเรียนสายกับพระอาจารย์ชยางกูร ได้สอบถามถึงสุขภาพของท่านว่าเป็นอย่างไร ท่านได้แจ้งผมว่าตอนนี้สุขภาพดีเป็นปกติแล้ว แต่ช่วงที่สร้างพระกันนั้น ไม่ค่อยดี แต่พระอาจารย์ท่านบอกผมว่า ช่วงนั้นท่านถือไม้ครูติดตัวอยู่ตลอดเวลา ผมได้ฟังก็ปลื้มใจมาก ที่ท่านได้นำไม้ครูไปใช้เพื่อประโยชน์กับพระพุทธศาสนา ในช่วงที่ท่านสร้างพระนั้น ครูบาอาจารย์ได้มากันเยอะมากๆ มีเรื่องแปลกอยู่เรื่องหนึ่ง ท่านเล่าให้ฟังว่า มีพระภิกษุที่ท่านได้มาที่วัด ในตอนกลางคืนท่านนอนและนิมิตไปว่ามีพระรูปหนึ่งมาหาในนิมิต พอตอนเช้าพระอาจารย์ชยางกูรท่านได้ถวายรูปหลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรทั้ง 5 พระองค์ให้กับคณะพระภิกษุ หลังจากทำวัตรเช้า พระภิกษุรูปที่ท่านได้นิมิตเห็นพระรูปหนึ่งนั้น ก็ได้พิจารณารูปคณะหลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดร ก็ไปสะดุดกับรูปหลวงปู่พระภูริยะเถระเจ้า(หลวงปู่หน้าปานหรือหลวงพ่อโอภาสี วัดโอภาสี กรุงเทพฯ) แล้วท่านก็ได้บอกกับพระอาจารย์ชยางกูรว่า หลวงพ่อองค์นี้ที่มาหาในนิมิต เรื่องเหล่านี้ก็เป็นเรื่องที่คณะของหลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดร ท่านก็ได้ไปสอนพระปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ ซึ่งบางครั้งพระภิกษุที่หลวงปู่ท่านสอนก็ไม่ทราบว่าเป็นหลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดร พระอาจารย์ชยางกูรท่านก็บอกกับผมว่า ในขณะนี้ หลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรท่านมาที่วัดรวมทั้งหมดแล้ว 4 องค์ ยังเหลือหลวงปู่พระฌาณียะเถระเจ้า(หลวงปู่ขรัวขี้เถ้า หรือหลวงพ่อกบ วัดเขาสาริกา ลพบุรี)อีกองค์ที่ท่านยังไม่ได้มาโปรด เวลาที่พระอาจารย์ชยางกูรท่านเล่าให้ผมฟังนั้น ผมเองขนลุกซู่ๆอยู่ตลอดเวลา ผมขอกราบคณะหลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดร ที่คณะท่านได้มีพระคุณอย่างใหญ่หลวงต่อพระศาสนา คณะท่านเป็นคณะพระธรรมทูตที่เดินทางมาเผยแพร่พระพุทธศาสนาในสุวรรณภูมิครับ<O</O
<O</O

</TD></TR></TBODY></TABLE>
เท่าที่ผมสังเกตุเห็นนะครับ วันบวงสรวงวันแรก ท่านถือไม้ครูแค่อันเดียว
พอวันบวงสรวงวันที่สอง (องค์ที่สอง) ท่านถือไม้ครูสองอัน (ตามรูป)
พอวันบวงสรวงวันสุดท้าย (สร้างเสร็จแล้วทั้งสององค์) ท่านถือไม้ครูสามอัน
เลยเชียวแหล่ะครับ โดยไม้ครูทั้งสามอันท่านเอาเทปใสมัดไว้รวมกัน แล้วถือ
และมีบางส่วนท่านได้เอาใส่ไว้ในเศียรพระองค์ที่สองด้วย แต่ไม่ทราบว่ากี่อัน
เพราะโดนผ้าเหลืองปิดหมด เดี๋ยวเอารูปให้ดูด้วยครับ (เอาใจเสี่ยหนุ่มหน่อย)
และท่านเล่าให้ผมฟังอีกด้วยว่า หลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรองค์ที่สามนั้น ท่านได้ประจำอยู่ที่วัดป่าโนนจ่าหอมแล้วครับ
<!-- / message --><!-- attachments --><FIELDSET class=fieldset><LEGEND>รูปขนาดเล็ก</LEGEND>


</FIELDSET>
<!-- / attachments --><!-- sig -->
____________________________________________________________
</TD></TR></TBODY></TABLE>

 

ขอบคุณน้าแผนและลุงเม้าด้วยนะครับที่แจ้งข่าวให้ทราบครับ

โมทนาสาธุครับ

.

 

<TABLE class=tborder id=post529050 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 0px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid">วันนี้, 10:07 AM <!-- / status icon and date --></TD><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 0px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid" align=right> #429 </TD></TR><TR vAlign=top><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 0px solid" width=175>พรหมประกาศิต<SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_529050", true); </SCRIPT>
สมาชิก



เข้ามาครั้งสุดท้ายเมื่อ: วันนี้ 10:36 AM
วันที่สมัคร: Jun 2006
สถานที่: ย้ายที่อยู่บ่อย แล้วแต่สถานที่ทำงาน
ข้อความ: 572 <!-- Start Post Thank You Hack -->
ได้ให้อนุโมทนา 15,545 ครั้ง
ได้รับอนุโมทนา 5,785 ครั้ง ใน 569 โพส <!-- End Post Thank You Hack -->
พลังการให้คะแนน: 643



</TD><TD class=alt1 id=td_post_529050 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid"><!-- message -->ภาพพระบรมสารีริกธาตุและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ รวมทั้งไม้ครูของหลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดร ที่นำมารวมกันและได้นำไปประดิษฐาน อยู่บนพระเศียรของพระพุทธรูปองค์ที่สองที่สร้างใหม่ หรือเป็นองค์ที่ 4 ที่สร้างไว้ ณ วัดป่าฯ แห่งนี้
ทราบมาว่า องค์นี้ทำจะเป็นสีแดง(โกเมน)โดยการพ่นสีครับ และองค์นี้ได้มีความแตกต่างในรายละเอียด ขององค์พระ มากกว่าองค์อื่นๆเล็กน้อย คือ.........เอาไว้ต่อตอนหน้าดีกว่าครับ
(ผมเคยถามคุณนักเดินทางว่า องค์นี้แตกต่างจากองค์อื่นตรงไหน ยังให้คำตอบผมไม่ได้เลยครับ 555) พระอาจารย์ท่านบอกว่า เทวดาท่านขอมาไม่ให้เหมือนกับองค์อื่นๆ ไม่เช่นนั้นมันจะดูเหมือนกันหมดทุกอย่าง
เอ...ไม่ทราบพอจะมีใครรู้บ้างไหมเนี่ย..อิ..อิ..ให้ลองทายกันเล่นๆครับ ลองย้อนกลับไปดูรูปก่อนหน้าที่โพสไว้แล้ว เปรียบเทียบกันนะครับ ดูจากองค์เก่าสององค์ด้วย..อะไรเอ่ย...ติ๊กต่อก ๆ....
</TD></TR></TBODY></TABLE>





ขอบคุณน้าแผนที่ช่วยแจ้งข่าวนะครับ

.

 

จากกระทู้ ร่วมส่งมวลสารมาช่วยกันสร้างหลวงปู่ทวดเหยียบน้ำทะเลจืด และสมเด็จโตเนื้อว่าน

ผมได้โอนเงินจำนวน 500 บาทเข้าบัญชีธนาคารกสิกรไทย สาขานานา บัญชีเลขที่ 0632-50363-6 เมื่อเวลา 10.55 น.เรียบร้อยแล้ว โมทนาสาธุกับทุกๆท่านครับ

วันนี้ข้าพเจ้า,ภรรยา และครอบครัว ได้ทำบุญสร้างอาสนะให้หลวงปู่ทวดและสมเด็จพระพุฒาจารย์โต พรหมรังสี ขอให้ คุณบิดา มารดา พระพุทธเจ้าทุกๆพระองค์ ,พระปัจเจกพุทธเจ้าทุกๆพระองค์ , คณะหลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรทั้งหมด ,พระอรหันต์ทุกๆพระองค์,พระมหาโพธิสัตว์และพระโพธิสัตว์ทุกๆพระองค์ และทั้ง ๑๖ ชั้นฟ้า ๑๕ ชั้นดิน ผู้มีพระคุณ ญาติกาครูอุปัชฌาย์อาจารย์ ญาติสี่สกุลเจ็ดชั่วโคตรของข้าพเจ้า เจ้ากรรมนายเวร ปู่ ย่า ตา ยาย เทวดาประจำตัวข้าพเจ้า ,เทวดาประจำองค์พระพิมพ์ทุกองค์ ,พระมหากษัตริย์ทุกๆพระองค์ สมเด็จพระนเรศวรมหาราช,สมเด็จพระเอกาทศรถ,สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช, พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ,พระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้า ,พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว กรมพระราชวังบวรมหาสุรสิงหนาท ,พระยาพิชัยดาบหัก ,กรมพระราชวังบวรวิชัยชาญ ,กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ ,พระสยามเทวาธิราช ,พระภูมิ-เจ้าที่ที่บ้านข้าพเจ้า ,แม่ย่านางรถของข้าพเจ้า,ผู้ที่เสียสละให้กับแผ่นดินไทยทุกท่าน ,ท่านผู้เสกทุกท่าน ,เจ้าของและผู้สร้างพระพิมพ์หลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดร-พระพิมพ์สมเด็จเจ้าคุณกรมท่าทุกท่าน-พระพิมพ์ของวังหน้าและพระกรุวัดพระแก้วทุกท่าน,ท่านผู้เสกทุกท่าน ,เจ้าของและผู้สร้างวัตถุมงคลของวังหน้า-กรุวัดพระแก้ว-วัตถุมงคลหลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรทุกประเภทที่ข้าพเจ้ามีอยู่ , เพื่อนสนิทมิตรสหายทั้งหลาย เพื่อนสาราสัตว์น้อยใหญ่ เจ้ากรุงพาลี แม่พระธรณี แม่พระคงคา พระเพลิง พระพาย แม่พระโพสพ พระภูมิ-เจ้าที่ พระมหาฤาษีและพระฤาษีทุกๆตน พระพิรุณ พยายมราช นายนิริยบาล ทั้งท้าวจตุโลกะบาลทั้งสี่ ศิริพุทธอำมาตย์ ชั้นจาตุมะหาราชิกาเบื้องบนจนถึงที่สุด พรหมาเบื้องต่ำตั้งแต่อเวจีขึ้นมาจนถึงมนุษย์โลก โดยรอบสุดขอบจักรวาลอนันตะจักรวาล คุณพระศรีรัตนตรัยและเทพยดาทั้งหลายตลอดทั้งอินทร์ พรหม ยม ยักษ์ คนธรรพ์ นาคา ขอให้มาอนุโมทนาในบุญกุศลที่ข้าพเจ้าได้ทำในครั้งนี้ด้วยเทอญ<O</O
<O</O

อิมินาปุญญะกัมเมนะ ด้วยเดชะผลบุญแห่งข้าพเจ้า,ภรรยา และครอบครัว ได้ทำบุญสร้างอาสนะให้หลวงปู่ทวดและสมเด็จพระพุฒาจารย์โต พรหมรังสี ขออุทิศส่วนกุศลให้แก่ คุณบิดา มารดา พระพุทธเจ้าทุกๆพระองค์ ,พระปัจเจกพุทธเจ้าทุกๆพระองค์ ,คณะหลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรทั้งหมด ,พระอรหันต์ทุกๆพระองค์ ,พระมหาโพธิสัตว์และพระโพธิสัตว์ทุกๆพระองค์ ,ตัวข้าพเจ้าและทั้ง ๑๖ ชั้นฟ้า ๑๕ ชั้นดิน ผู้มีพระคุณ ญาติกาครูอุปัชฌาย์อาจารย์ ญาติสี่สกุลเจ็ดชั่วโคตรของข้าพเจ้า เจ้ากรรมนายเวร ปู่ ย่า ตา ยาย เทวดาประจำตัวข้าพเจ้า ,เทวดาประจำองค์พระพิมพ์ทุกองค์ ,พระมหากษัตริย์ทุกๆพระองค์ สมเด็จพระนเรศวรมหาราช,สมเด็จพระเอกาทศรถ,สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช, พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ,พระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้า ,พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว กรมพระราชวังบวรมหาสุรสิงหนาท ,พระยาพิชัยดาบหัก ,กรมพระราชวังบวรวิชัยชาญ ,กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ ,พระสยามเทวาธิราช ,พระภูมิ-เจ้าที่ที่บ้านข้าพเจ้า ,แม่ย่านางรถของข้าพเจ้า,ผู้ที่เสียสละให้กับแผ่นดินไทยทุกท่าน ,ท่านผู้เสกทุกท่าน ,เจ้าของและผู้สร้างพระพิมพ์หลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดร-พระพิมพ์สมเด็จเจ้าคุณกรมท่าทุกท่าน-พระพิมพ์ของวังหน้าและพระกรุวัดพระแก้วทุกท่าน, ท่านผู้เสกทุกท่าน เจ้าของและผู้สร้างวัตถุมงคลของวังหน้า-กรุวัดพระแก้ว-วัตถุมงคลหลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรทุกประเภทที่ข้าพเจ้ามีอยู่ , เพื่อนสนิทมิตรสหายทั้งหลาย เพื่อนสาราสัตว์น้อยใหญ่ เจ้ากรุงพาลี แม่พระธรณี แม่พระคงคา พระเพลิง พระพาย แม่พระโพสพ พระภูมิ-เจ้าที่ พระมหาฤาษีและพระฤาษีทุกๆตน พระพิรุณ พยายมราช นายนิริยบาล ทั้งท้าวจตุโลกะบาลทั้งสี่ ศิริพุทธอำมาตย์ ชั้นจาตุมะหาราชิกาเบื้องบนจนถึงที่สุด พรหมาเบื้องต่ำตั้งแต่อเวจีขึ้นมาจนถึงมนุษย์โลก โดยรอบสุดขอบจักรวาลอนันตะจักรวาล คุณพระศรีรัตนตรัยและเทพยดาทั้งหลายตลอดทั้งอินทร์ พรหม ยม ยักษ์ คนธรรพ์ นาคา ท่านทั้งหลายที่ต้องทุกข์ ขอให้พ้นจากทุกข์ ท่านทั้งหลายที่ท่านได้สุข ขอให้สุขยิ่งๆขึ้นไป ด้วยเดชะผลบุญแห่งข้าพเจ้าอุทิศไปให้นี้ จงเป็นอุปนิสัยปัจจัยให้ถึงพระนิพพานในปัจจุบันและอนาคตเบื้องหน้าโน้นเทอญ ฯ

พุทธังอนันตัง ธัมมังจัรวาลัง สังฆังนิพพานัง ปัจจโยโหนตุ

 

เมื่อกี้นี้เห็นรายชื่อแล้วแปลกดี มีนักเดินทาง 2 คนแล้วครับทุกๆท่าน

<TABLE class=tborder cellSpacing=1 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR><TD class=thead colSpan=2> คน Online อยู่บนบอร์ดในขณะนี้: 1168 ( เป็นสมาชิก 177 คน และ บุคคลทั่วไป 991 คน) </TD></TR></TBODY><TBODY id=collapseobj_forumhome_activeusers><TR><TD class=alt2></TD><TD class=alt1 width="100%">สถิติที่เคยมีคน online พร้อมกันมากที่สุด 2,452 คน, เมื่อ วันที่10-12-2006 เวลา 11:12 AM.
sithiphong, 2fish, 6953697, :::เพชร:::+, แม่ทัพธรรม, มะยม22, add_uefa, admax, adonisiac, ย่าชอบรู้, แสบสนิท, akira_s, alovesab2002, ampika_cartoon, AOk, Aotowa, aries2947, ariyachot, Attawat_Rx, aumm, แก้วบูรพา, เกียรติ, โคมฉาย, เช้าใหม่, เด็กฝั่งธนฯ, เทวตา, แน่งน้อย, มุ่งเต็มใจ, Babie123, baodang, black_crystal, bubby, bundhit, Catt Bewer, cha-m, changclub, Chatchaic, chatyman, chuanpit, chulahoop, chumpol007, comkung, cop1976, cwyp, Depump, dragonlord, duangv, สมยายจัง, สร้างบารมี, Falkman, first, gamblerx, GARU, GodAngel, goldmango, golffer, HELL HAMMER, อัครพลปุลิน, iofeast, isi, jaet, jarawoot, Jaturaphat24, jeney9, jen_q, jinkwang94, johot, jomthep_2550, jooju, Keadkaew.r, KeLBeRoS, kokonarakmak, kook1519, kundongwon, LADYTUT, lighthouse-sky, ligore, littlelucky+, maysa79, mc, MEA, mead, MONGKHOLYUT, montri_tee, my child, NaCl, narutoiv, na_boon_2, nehan, Newone, NiceFaiz, noodle, noone, Nu_Bombam, oar_oar, off_chanzoonzen, Oldone, ole19, P Banglampoo, paeyim, pannusa, panup, patz_bkk, paweepawee, phanit, phop, piggie, pinai, pires_afc, pondkantana, poohchi, pop158, praewongkot, prakan357, PRP2520, rahatw, Ratanatai, Rattanaporn, rinsss, sam-sbcc, santosos, Silerblue, Songhekheaw, Specialized, spiderman5390, T D-Da, tadah., tamsak, teemaster, thejirayu, the_club, TM, TMpersonal, toe, Toutou, varagorn, vena, vichian, warinui, werapong, willy, win_por@, wudi, wutti, zz, ลุงหมูบิน, กรุงเก่า, ก้อง_ฉัตรชัย, กสินไฟ, ข้าวใจ, ครึ่งชีวิต, คลิก, คนกิเลสหนา, จิรัฏฐ์, จิตต์ปภัสสร, ชายเสรี, ชนิตา, ตลับนาค, ธ.เธียรไท, นว, นักเดินทาง+,นักเดินทาง(^^), นักรบโบราณ, นิพพาน108, ประเสริฐ, ปู่ชอบเรียน, พระณัฐ, พรหมประกาศิต, พี่อ้วน


</TD></TR></TBODY></TABLE>


.
<!-- / message --><!-- sig -->

 

<TABLE class=tborder cellSpacing=1 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=thead>ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 10 คน ( เป็นสมาชิก 7 คน และ บุคคลทั่วไป 3 คน ) </TD><TD class=thead width="14%">

[ แนะนำเรื่องเด่น ]​

</TD></TR><TR><TD class=alt1 width="100%" colSpan=2>sithiphong, โสระ+, chaipat, jumpuk, neobanana, pasit_ok, pondkantana </TD></TR></TBODY></TABLE>

วันนี้สมาชิกเข้ามากันเยอะครับ
ขอให้มีความสุขกับการอ่าน โมทนาสาธุครับ

.

 

คุณอย่าไปรู้เลยว่า พระผมได้มาจากไหน องค์ละเท่าไร ส่วนเรื่องบาปกรรมนั้น ผมยิ่งไม่กล้วใหญ่เลย เงินทุกบาททุกสตางค์ ผมไม่เคยนำเข้ากระเป๋าผมแม้แต่สตางค์แดงเดียว แถมถ้ามีเพื่อนร่วมทำบุญ ค่าธรรมเนียมการโอนเงินไปต่างจังหวัด ผมยังเป็นคนที่ออกให้ ค่าจัดส่งพระนั้น แรกๆผมก็เป็นคนจ่ายเงินค่ากล่องพัศดุ ,ค่าพลาสติคกันกระแทก ,ค่ากระดาษทิชชู ,ค่าหนังยาง และค่าไปรษณีย์ ระยะต่อมาก็มีเพื่อนในกลุ่มมาร่วมทำบุญค่าจัดส่ง ช่วงหลังนี้ก็มีหลายๆท่านมาร่วมทำบุญค่าจัดส่งกับผม ก็คิดเอาเองว่าผมจะรับบาปกรรมมากน้อยแค่ไหน

พระวังหน้าหรือพระวังหลวง ที่เรียกกันรวมๆว่า พระกรุวัดพระแก้วนั้น ได้ออกมาทุกทิศทุกทาง แต่ผมคงไม่อธิบายต่อดีกว่า คุณคงมีวาสนาบารมีที่ได้รู้เพียงเท่านี้
.

 

<TABLE class=tborder id=post530311 style="MARGIN: 6px 0px" cellSpacing=1 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR><TD class=thead style="FONT-WEIGHT: normal">วันนี้, 12:33 PM </TD></TR><TR><TD class=alt1>คำตอบ: 4,253
แนะนำ พระวังหน้า ที่หลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรเสก ถ้าต้องการที่จะได้.....
เปิดอ่าน: 98,002
ถูกเขียนโดย เชน
พระของคุณเอามาจากไหนนักหนานะ...

พระของคุณเอามาจากไหนนักหนานะ ผมคุ้นๆเคยเห็นวางขายตามตลาดพระเกลื่อนไปหมดเลยนะครับที่คุณสิทธิพงเอาลงมาโชวทั้งหมด องค์ละ 20 กว่าบาทเอง ไม่กลัวบาปกรรมกันเหรอครับ...

</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE class=tborder id=post530228 style="MARGIN: 6px 0px" cellSpacing=1 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR><TD class=thead style="FONT-WEIGHT: normal">ห้อง: พระเครื่อง - วัตถุมงคล วันนี้, 11:33 AM </TD></TR><TR><TD class=alt1>คำตอบ: 1
พระสมเด็จกรุวังหน้า 2411
เปิดอ่าน: 46
ถูกเขียนโดย เชน
พระสมเด็จกรุวังหน้า 2411

ต้องการขายด่วนมีจำนวนจำกัด สนใจติดต่อด่วน 0868765548 ราคาอยู่ที่ 5000 สนใจต่อรองกันได้

</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE class=tborder id=post530187 style="MARGIN: 6px 0px" cellSpacing=1 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR><TD class=thead style="FONT-WEIGHT: normal">ห้อง: พระเครื่อง - วัตถุมงคล วันนี้, 11:07 AM </TD></TR><TR><TD class=alt1>คำตอบ: 0
พระสมเด็จเกศไชโยหกชั้นอกตัน
เปิดอ่าน: 19
ถูกเขียนโดย เชน
พระสมเด็จเกศไชโยหกชั้นอกตัน

ต้องการขายด่วนเดือดร้อนเรื่องเงิน 0868765548 ไห้บูชาองค์ละ 30000 เท่านั้น

</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE class=tborder id=post419486 style="MARGIN: 6px 0px" cellSpacing=1 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR><TD class=thead style="FONT-WEIGHT: normal">ห้อง: พระเครื่อง - วัตถุมงคล 17-12-2006, 01:10 PM </TD></TR><TR><TD class=alt1>คำตอบ: 4,253
แนะนำ พระวังหน้า ที่หลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรเสก ถ้าต้องการที่จะได้.....
เปิดอ่าน: 98,002
ถูกเขียนโดย เชน
สวัสดีครับ พระของคุณ grasib...

สวัสดีครับ พระของคุณ grasib สวยดีจังนะครับมวาสนาจังเลยนะครับที่มีพระดีๆไว้ในครอบครองตั้งหลายองค์ อยากได้บ้างจัง มีเยอะก็แลกๆกันได้นะครับ
เจตสิก 068765548

</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE class=tborder id=post418386 style="MARGIN: 6px 0px" cellSpacing=1 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR><TD class=thead style="FONT-WEIGHT: normal">ห้อง: พระเครื่อง - วัตถุมงคล 16-12-2006, 05:09 PM </TD></TR><TR><TD class=alt1>คำตอบ: 4,253
แนะนำ พระวังหน้า ที่หลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรเสก ถ้าต้องการที่จะได้.....
เปิดอ่าน: 98,002
ถูกเขียนโดย เชน
พระกรุวังหน้า

สวัสดีครับพี่ๆผมส่งรูปมาไห้ช่วยดูหน่อยครับว่าแท้ทันหลวงปู่เทพหรือป่าว และองค์พระธาตุพนมทันหลวงปู่หรือไม่ครับ

</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE class=tborder id=post414749 style="MARGIN: 6px 0px" cellSpacing=1 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR><TD class=thead style="FONT-WEIGHT: normal">ห้อง: พระเครื่อง - วัตถุมงคล 13-12-2006, 07:45 PM </TD></TR><TR><TD class=alt1>คำตอบ: 4,253
แนะนำ พระวังหน้า ที่หลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรเสก ถ้าต้องการที่จะได้.....
เปิดอ่าน: 98,002
ถูกเขียนโดย เชน
ไม่เห็นมีไครตอบคำถามพระที่ผมโพสมานี้เลย......พระธา...

ไม่เห็นมีไครตอบคำถามพระที่ผมโพสมานี้เลย......พระธาตุพนมแท้มั้ยครับทันหลวงปู่เทพหรือป่าวครับ

</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE class=tborder id=post414709 style="MARGIN: 6px 0px" cellSpacing=1 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR><TD class=thead style="FONT-WEIGHT: normal">ห้อง: พระเครื่อง - วัตถุมงคล 13-12-2006, 06:29 PM </TD></TR><TR><TD class=alt1>คำตอบ: 4,253
แนะนำ พระวังหน้า ที่หลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรเสก ถ้าต้องการที่จะได้.....
เปิดอ่าน: 98,002
ถูกเขียนโดย เชน
วิธีการถ่ายรูปพระของผมนะครับพี่ๆ ...

วิธีการถ่ายรูปพระของผมนะครับพี่ๆ ...

</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE class=tborder id=post414705 style="MARGIN: 6px 0px" cellSpacing=1 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR><TD class=thead style="FONT-WEIGHT: normal">ห้อง: พระเครื่อง - วัตถุมงคล 13-12-2006, 06:16 PM </TD></TR><TR><TD class=alt1>คำตอบ: 4,253
แนะนำ พระวังหน้า ที่หลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรเสก ถ้าต้องการที่จะได้.....
เปิดอ่าน: 98,002
ถูกเขียนโดย เชน
รบกวนพี่ๆและพี่สุทธิพงษ์ช่วยดูไห้ด้วยนะครับ

สวัสดีครับพี่ๆผมอยากได้พระที่หลวงปู่ปลุกเสกทันแต่ไม่รู้ว่าองค์ไหนพอจะมีบ้างตามที่ส่งรูปมานี้ไห้พี่ๆช่วยดูไห้ด้วยนะครับหรือถ้าพี่ๆสนใจอยากแลกกับผมก็เชิญได้นะครับขอแค่สมเด็จวังหน้าแท้ๆสักองค์ก็พอ.ขอบคุณ...

</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE class=tborder id=post414693 style="MARGIN: 6px 0px" cellSpacing=1 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR><TD class=thead style="FONT-WEIGHT: normal">ห้อง: พระเครื่อง - วัตถุมงคล 13-12-2006, 06:01 PM </TD></TR><TR><TD class=alt1>คำตอบ: 4,253
แนะนำ พระวังหน้า ที่หลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรเสก ถ้าต้องการที่จะได้.....
เปิดอ่าน: 98,002
ถูกเขียนโดย เชน
ขอบพระคุณครับพี่สุทธิพงที่ไห้ความกระจ่างไว้ผมจะเอา...

ขอบพระคุณครับพี่สุทธิพงที่ไห้ความกระจ่างไว้ผมจะเอามาลงไห้พี่ดูอีกนะครับ

</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE class=tborder id=post414678 style="MARGIN: 6px 0px" cellSpacing=1 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR><TD class=thead style="FONT-WEIGHT: normal">ห้อง: พระเครื่อง - วัตถุมงคล 13-12-2006, 05:52 PM </TD></TR><TR><TD class=alt1>คำตอบ: 4,253
แนะนำ พระวังหน้า ที่หลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรเสก ถ้าต้องการที่จะได้.....
เปิดอ่าน: 98,002
ถูกเขียนโดย เชน
พระสมเด็จไม่รู้ที่ครับ

สวัสดีครับพี่ๆทุกท่าน ช่วยดูพระทั้ง 2...

</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE class=tborder id=post414597 style="MARGIN: 6px 0px" cellSpacing=1 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR><TD class=thead style="FONT-WEIGHT: normal">ห้อง: พระเครื่อง - วัตถุมงคล 13-12-2006, 04:12 PM </TD></TR><TR><TD class=alt1>คำตอบ: 4,253
แนะนำ พระวังหน้า ที่หลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรเสก ถ้าต้องการที่จะได้.....
เปิดอ่าน: 98,002
ถูกเขียนโดย เชน
ไช่พระกรุวังหน้ามั้ยครับ

สวัสดีครับพี่ๆทุกท่านผมพึ่งเข้ามาไหม่นะครับรบกวนพี่สุทธิพงช่วยดูไห้หน่อยครับว่าไช่วังหน้าทันหลวงปู่เสกหรือป่าวพระ 2 องค์นี้เป็นองค์เดียวกันนะครับแต่เป็นด้านหน้าและหลัง

</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE class=tborder id=post413764 style="MARGIN: 6px 0px" cellSpacing=1 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR><TD class=thead style="FONT-WEIGHT: normal">ห้อง: วิธีดู พระเครื่อง-เครื่องรางของขลัง 12-12-2006, 06:20 PM </TD></TR><TR><TD class=alt1>คำตอบ: 41
ขอถามท่านผู้รู้ " พระสมเด็จ "
เปิดอ่าน: 1,045
ถูกเขียนโดย เชน
พระธาตุพนมและ กรุวังหน้า 2411

สนใจอยากได้พระของหลวงปู่เทพโลกอุดรไว้ไช้ครับไครสนใจแลกกับพระที่ผมมีได้นะครับ 086-8765548

</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE class=tborder id=post413709 style="MARGIN: 6px 0px" cellSpacing=1 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR><TD class=thead style="FONT-WEIGHT: normal">ห้อง: พระเครื่อง - วัตถุมงคล 12-12-2006, 05:38 PM </TD></TR><TR><TD class=alt1>คำตอบ: 0
พระสมเด็จกรุวังหน้า 2411 และพระธาตุพนม 2401
เปิดอ่าน: 161
ถูกเขียนโดย เชน
พระสมเด็จกรุวังหน้า 2411 และพระธาตุพนม 2401

ต้องการเปิดไห้บูชาราคากันเองมีจำนวนจำกัด ติดต่อได้ที่ 086-8765548
สนใจต้องการชมรูปองค์พระติดต่อส่งเมลมาที่ jatasig@hotmail.com
โพสรูปลงโชวในนี้ไม่ได้ทำไม่เป็น

</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE class=tborder id=post413625 style="MARGIN: 6px 0px" cellSpacing=1 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR><TD class=thead style="FONT-WEIGHT: normal">ห้อง: พระเครื่อง - วัตถุมงคล 12-12-2006, 03:36 PM </TD></TR><TR><TD class=alt1>คำตอบ: 280
พระสมเด็จ
เปิดอ่าน: 10,530
ถูกเขียนโดย เชน
สวัสดีครับผมเองก็มีอยู่จำนวนหนึ่งไม่มากหรอกแค่...

สวัสดีครับผมเองก็มีอยู่จำนวนหนึ่งไม่มากหรอกแค่ 6องค์ท่านได้สนใจอยากได้ไว้บูชาจะแบ่งไห้นะครับ องค์ละ 500 แต่ต้อง2 องค์ขึ้นไปนะครับ

</TD></TR></TBODY></TABLE>

 

พระสมเด็จเกศไชโยหกชั้นอกตัน​

<!-- currently active users --><TABLE class=tborder cellSpacing=1 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=thead>ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 1 คน และ บุคคลทั่วไป 0 คน ) </TD><TD class=thead width="14%">

[ แนะนำเรื่องเด่น ]​

</TD></TR><TR><TD class=alt1 width="100%" colSpan=2>sithiphong </TD></TR></TBODY></TABLE><!-- currently active users -->
<!-- controls above postbits --><TABLE style="MARGIN-BOTTOM: 3px" cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR vAlign=bottom><TD class=smallfont></TD></TR></TBODY></TABLE><!-- / controls above postbits --><!-- toolbar --><TABLE class=tborder style="BORDER-BOTTOM-WIDTH: 0px" cellSpacing=1 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR><TD class=tcat width="100%"> ดูอันแรกที่ยังไม่ได้อ่าน
</TD><TD class=vbmenu_control id=threadtools style="CURSOR: hand" noWrap state="false" unselectable="true">คำสั่งเพิ่มเติม<SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("threadtools"); </SCRIPT> </TD><TD class=vbmenu_control id=threadsearch style="CURSOR: hand" noWrap state="false" unselectable="true">ค้นหาในกระทู้นี้<SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("threadsearch"); </SCRIPT> </TD><TD class=vbmenu_control id=threadrating style="CURSOR: hand" noWrap state="false" unselectable="true">ให้คะแนนกระทู้<SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("threadrating"); </SCRIPT> </TD><TD class=vbmenu_control id=displaymodes style="CURSOR: hand" noWrap state="false" unselectable="true">เรียบเรียงคำตอบ<SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("displaymodes"); </SCRIPT> </TD></TR></TBODY></TABLE><!-- / toolbar --><!-- end content table --><!-- / close content container --><!-- / end content table --><SCRIPT src="clientscript/vbulletin_ajax_reputation.js?v=362" type=text/javascript></SCRIPT>
<!-- post #530187 --><!-- open content container -->

<TABLE class=tborder id=post530187 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR><TD class=thead id=currentPost style="BORDER-RIGHT: #ffffff 0px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid"><!-- status icon and date --> วันนี้, 11:07 AM <!-- / status icon and date --></TD><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 0px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid" align=right> #1 </TD></TR><TR vAlign=top><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 0px solid" width=175>เชน<SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_530187", true); </SCRIPT>
สมาชิก

เข้ามาครั้งสุดท้ายเมื่อ: วันนี้ 03:54 PM
วันที่สมัคร: Dec 2006
อายุ: 34 ปี
ข้อความ: 14 <!-- Start Post Thank You Hack -->
ได้ให้อนุโมทนา 2 ครั้ง
ได้รับอนุโมทนา 63 ครั้ง ใน 10 โพส <!-- End Post Thank You Hack -->
พลังการให้คะแนน: 0


</TD><TD class=alt1 id=td_post_530187 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid"><!-- icon and title -->พระสมเด็จเกศไชโยหกชั้นอกตัน
<HR style="COLOR: #ffffff" SIZE=1><!-- / icon and title --><!-- message -->ต้องการขายด่วนเดือดร้อนเรื่องเงิน 0868765548 ไห้บูชาองค์ละ 30000 เท่านั้น
<!-- / message --><!-- attachments --><FIELDSET class=fieldset><LEGEND>รูปขนาดเล็ก</LEGEND>


</FIELDSET>
<!-- / attachments --><!-- edit note --><HR style="COLOR: #ffffff" SIZE=1>แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เชน : วันนี้ เมื่อ 11:11 AM.
<!-- / edit note --></TD></TR></TBODY></TABLE>

​

 

พระสมเด็จกรุวังหน้า 2411​

<!-- currently active users --><TABLE class=tborder cellSpacing=1 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=thead>ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 1 คน และ บุคคลทั่วไป 0 คน ) </TD><TD class=thead width="14%">

[ แนะนำเรื่องเด่น ]​

</TD></TR><TR><TD class=alt1 width="100%" colSpan=2>sithiphong </TD></TR></TBODY></TABLE><!-- currently active users -->
<!-- controls above postbits --><TABLE style="MARGIN-BOTTOM: 3px" cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR vAlign=bottom><TD class=smallfont></TD></TR></TBODY></TABLE><!-- / controls above postbits --><!-- toolbar --><TABLE class=tborder style="BORDER-BOTTOM-WIDTH: 0px" cellSpacing=1 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR><TD class=tcat width="100%"> ดูอันแรกที่ยังไม่ได้อ่าน

</TD><TD class=vbmenu_control id=threadtools style="CURSOR: hand" noWrap state="false" unselectable="true">คำสั่งเพิ่มเติม<SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("threadtools"); </SCRIPT> </TD><TD class=vbmenu_control id=threadsearch style="CURSOR: hand" noWrap state="false" unselectable="true">ค้นหาในกระทู้นี้<SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("threadsearch"); </SCRIPT> </TD><TD class=vbmenu_control id=threadrating style="CURSOR: hand" noWrap state="false" unselectable="true">ให้คะแนนกระทู้<SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("threadrating"); </SCRIPT> </TD><TD class=vbmenu_control id=displaymodes style="CURSOR: hand" noWrap state="false" unselectable="true">เรียบเรียงคำตอบ<SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("displaymodes"); </SCRIPT> </TD></TR></TBODY></TABLE><!-- / toolbar --><!-- end content table --><!-- / close content container --><!-- / end content table --><SCRIPT src="clientscript/vbulletin_ajax_reputation.js?v=362" type=text/javascript></SCRIPT>

<!-- post #530228 --><!-- open content container -->

<!-- this is not the last post shown on the page --><TABLE class=tborder id=post530228 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 0px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid"><!-- status icon and date --> วันนี้, 11:33 AM <!-- / status icon and date --></TD><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 0px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid" align=right>#1 </TD></TR><TR vAlign=top><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 0px solid" width=175>เชน<SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_530228", true); </SCRIPT>

สมาชิก​

เข้ามาครั้งสุดท้ายเมื่อ: วันนี้ 03:54 PM


วันที่สมัคร: Dec 2006


อายุ: 34 ปี


ข้อความ: 14 <!-- Start Post Thank You Hack -->


ได้ให้อนุโมทนา 2 ครั้ง


ได้รับอนุโมทนา 63 ครั้ง ใน 10 โพส <!-- End Post Thank You Hack -->


พลังการให้คะแนน: 0 ​

​

</TD><TD class=alt1 id=td_post_530228 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid"><!-- icon and title -->พระสมเด็จกรุวังหน้า 2411

<HR style="COLOR: #ffffff" SIZE=1><!-- / icon and title --><!-- message -->ต้องการขายด่วนมีจำนวนจำกัด สนใจติดต่อด่วน 0868765548 ราคาอยู่ที่ 5000 สนใจต่อรองกันได้


<!-- / message --><!-- attachments --><FIELDSET class=fieldset><LEGEND>รูปขนาดเล็ก</LEGEND> </FIELDSET>​

​

<FIELDSET></FIELDSET>


​

</TD></TR></TBODY></TABLE>​

องค์นี้ผมฟันธง เก๊สนิทครับ ด้านหลังจะมีทั้งแผ่นทองเหลืองเขียนข้อความ มีพ.ศ. 2401 , 2411 ครับ

แต่ยังมีบางรุ่นที่เก๊ และด้านหลังก็ไม่มีแผ่นทองเหลือก็มีครับ ให้ระวังกันด้วยครับ

ผมเองมีอยู่ 2 องค์ ได้นำไปให้ท่านที่มีญาณลาภีตรวจสอบถึง 2 ท่านแล้ว และทั้งสองท่านฟันธงมาว่าเก๊ครับ
.
.

 

http://www.palungjit.org/board/showthread.php?p=419486#post419486

http://www.palungjit.org/board/showthread.php?p=418386#post418386

http://www.palungjit.org/board/showthread.php?p=414749#post414749

http://www.palungjit.org/board/showthread.php?p=414709#post414709

http://www.palungjit.org/board/showthread.php?p=414705#post414705

http://www.palungjit.org/board/showthread.php?p=414693#post414693

http://www.palungjit.org/board/showthread.php?p=414678#post414678

http://www.palungjit.org/board/showthread.php?p=413764#post413764

http://www.palungjit.org/board/showthread.php?p=414597#post414597

http://www.palungjit.org/board/showthread.php?p=413709#post413709

http://www.palungjit.org/board/showthread.php?p=413625#post413625

 

<TABLE class=tborder id=post418386 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR><TD class=thead id=currentPost style="BORDER-RIGHT: #ffffff 0px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid">16-12-2006, 05:09 PM <!-- / status icon and date --></TD><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 0px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid" align=right>#2681 </TD></TR><TR vAlign=top><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 0px solid" width=175>เชน<SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_418386", true); </SCRIPT>
สมาชิก

เข้ามาครั้งสุดท้ายเมื่อ: วันนี้ 03:54 PM
วันที่สมัคร: Dec 2006
อายุ: 34 ปี
ข้อความ: 14 <!-- Start Post Thank You Hack -->
ได้ให้อนุโมทนา 2 ครั้ง
ได้รับอนุโมทนา 63 ครั้ง ใน 10 โพส <!-- End Post Thank You Hack -->
พลังการให้คะแนน: 0



</TD><TD class=alt1 id=td_post_418386 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid"><!-- icon and title -->พระกรุวังหน้า

<HR style="COLOR: #ffffff" SIZE=1><!-- / icon and title --><!-- message -->สวัสดีครับพี่ๆผมส่งรูปมาไห้ช่วยดูหน่อยครับว่าแท้ทันหลวงปู่เทพหรือป่าว และองค์พระธาตุพนมทันหลวงปู่หรือไม่ครับ





</TD></TR></TBODY></TABLE>

 

<TABLE class=tborder id=post418592 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 0px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid">16-12-2006, 09:56 PM <!-- / status icon and date --></TD><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 0px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid" align=right> #2684 </TD></TR><TR vAlign=top><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 0px solid" width=175>sithiphong<SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_418592", true); </SCRIPT>
สมาชิก GOLD
สมาชิกยอดฮิต



เข้ามาครั้งสุดท้ายเมื่อ: วันนี้ 07:59 PM
วันที่สมัคร: Dec 2005
ข้อความ: 10,063 <!-- Start Post Thank You Hack -->
ได้ให้อนุโมทนา 10,173 ครั้ง
ได้รับอนุโมทนา 47,386 ครั้ง ใน 6,922 โพส <!-- End Post Thank You Hack -->
พลังการให้คะแนน: 5768



</TD><TD class=alt1 id=td_post_418592 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid"><!-- message -->อ้างอิง:
<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: 1px inset; BORDER-TOP: 1px inset; BORDER-LEFT: 1px inset; BORDER-BOTTOM: 1px inset">ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ เชน
สวัสดีครับพี่ๆผมส่งรูปมาไห้ช่วยดูหน่อยครับว่าแท้ทันหลวงปู่เทพหรือป่าว และองค์พระธาตุพนมทันหลวงปู่หรือไม่ครับ
</TD></TR></TBODY></TABLE>

พระธาตุพนมองค์นี้น่าจะเป็นพระพิมพ์ในพระราชพิธี ปี พ.ศ.2451ครับ




ส่วนหลวงปู่นั้น เป็นพระกรุใหม่ครับ ดูแล้วน่าจะทันหลวงปู่เสกครับ

ผมเองดูพระจากรูปได้แค่ 50-60 % เท่านั้นครับ
.
<!-- / message --><!-- sig -->
</TD></TR></TBODY></TABLE>

 

<TABLE class=tborder id=post414775 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 0px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid">13-12-2006, 08:31 PM <!-- / status icon and date --></TD><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 0px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid" align=right> #2620 </TD></TR><TR vAlign=top><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 0px solid" width=175>sithiphong<SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_414775", true); </SCRIPT>
สมาชิก GOLD
สมาชิกยอดฮิต



เข้ามาครั้งสุดท้ายเมื่อ: วันนี้ 07:59 PM
วันที่สมัคร: Dec 2005
ข้อความ: 10,063 <!-- Start Post Thank You Hack -->
ได้ให้อนุโมทนา 10,173 ครั้ง
ได้รับอนุโมทนา 47,386 ครั้ง ใน 6,922 โพส <!-- End Post Thank You Hack -->
พลังการให้คะแนน: 5768



</TD><TD class=alt1 id=td_post_414775 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid"><!-- message -->อ้างอิง:
<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: 1px inset; BORDER-TOP: 1px inset; BORDER-LEFT: 1px inset; BORDER-BOTTOM: 1px inset">ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ เชน
สวัสดีครับพี่ๆผมอยากได้พระที่หลวงปู่ปลุกเสกทันแต่ไม่รู้ว่าองค์ไหนพอจะมีบ้างตามที่ส่งรูปมานี้ไห้พี่ๆช่วยดูไห้ด้วยนะครับหรือถ้าพี่ๆสนใจอยากแลกกับผมก็เชิญได้นะครับขอแค่สมเด็จวังหน้าแท้ๆสักองค์ก็พอ.ขอบคุณครับjatasig@hotmail.com
</TD></TR></TBODY></TABLE>
ผมกำลังจะตอบแล้วครับ

พระพิมพ์ถ้าจะดูจริงๆ ต้องดูจากพระพิมพ์องค์จริง ต้องดูทั้งรูปและนาม(เนื้อหาทรงพิมพ์และพลังอิทธิคุณขององค์พระ) ผมเองไม่สามารถที่จะดูได้ 100 % ดูได้แค่ 50 % นะครับ



พระสมเด็จนี้ ผมไม่ทราบครับครับ



พระสมเด็จกรุพระธาตุพนมนี้ ดูแล้วจะเป็นพระในพระราชพิธีหลวงปี พ.ศ.2451



พระสมเด็จทั้งสี่องค์นี้ เป็นพระในพระราชพิธีหลวงปี พ.ศ.2451ครับ




พระสมเด็จสององค์นี้ ไม่เคยเห็นเลยครับ



พระสมเด็จน่าจะเป็นเจ้าคุณกรมท่า แต่ผมเองก็ไม่เคยเห็นครับ

.
<!-- / message --><!-- sig -->
</TD></TR></TBODY></TABLE>

 

โต (กุมารน้อย) ช่วงนี้เป็นช่วงปิดเทอมของ ร.ร. ครูอาจารย์พระเณรก็ทยอยกันเดินทางกับ..ไปสู่ภูมิลำเนาของตน..เมื่อวานนี้ก็ไปส่งสามเณรที่ จ. บุรีรัมย์..วันที่ 27 นี้ก็จะไปส่งที่ จ. ศรีสะเกษ..โดยจัดรถทางสำนักเรียนไปส่ง..ปีนี้ไม่ต้องเช่ารถ เพราะที่สำนักมีรถ 6 ล้อคันใหม่วิ่งส่งสบายๆ ที่สำนักเรียนก็จะเงี่ยบไร้เสียงด้วยผู้คนที่เคยอยู่กันมาก..ก็จะมีแต่เสียงไก่ และเสียงนกร้อง..ก็กลับสู่ธรรมชาติอีกวารหนึ่ง...(หนึ่งเดือน) เด็กๆ ก็คงไปไม่กี่วันก็คงจะทยอยกันกลับมาสำนักเรียนบ้าง..เพราะปีนี้ที่อีสานแห้งแร้งมากๆ
บุคคลที่จะต้องอยู่ต่อก็พระ อ. ท่านต้องอยู่เฝ้าวัดไปก่อน..ชีวิตของท่านพระ อ. เกิบ 30 ปีแล้วที่ท่านอยู่ของท่านอย่างนี้..ดูเหมือนว่าท่านจะไม่มีญาติ (คงจะเป็นเพราะ..หมู่ญาติละอา) ตอนนี้ก็ทำเรื่องส่งขอตั้งเป็นวัดแล้ว...กำลังอยู่ในขั้นตอนของนวยงานราชการ..ก็คิดว่าไม่น่าจะมีปัญหาอะไร..โฉดที่ดินก็มีครบ..ที่ดินก็มีถึง 14 ปี อาคารก่อสร้างก็น่าจะหลายล้านแล้ว...แต่ติดปัญหาอยู่หนิดหนึ่ง คือว่าในกฏหมายการขอตั้งวัดนั้น..จะต้องอยู่ห่างกับวัดที่มีอยู่แล้วอย่างน้อยต้อง 2 กิโล..แต่ที่สำนักเรียนนี่..อยู่ใกล้กับวัดสระสองตอนประมาณ 1 กิโลได้..แต่ในกฏหมายก็บอกว่า..มีข้อเว้นถ้ามีเหตุจำเป็นให้อ้างไป..ที่สำนักสงฆ์นี้..มีการตั้งให้เป็นสำนักเรียนของพระ-เณร..(คิดว่าไม่น่ามีปัญหา) เมื่อเป็นวัดแล้วการดำเดินงานกับ ร.ร. ก็จะสดวกไม่ต้องลำบาก การพัฒนาก็จะมีมากขึ้น..และก็จะมั่นคงในการทำงานสิ้นกาลนาน...วันนี้จะเก็บรูปภาพภายในวัดที่ก่อสร้างอยู่และที่ก่อสร้างเสร็จแล้ว..มาให้ทุกๆ ท่านได้อนุโมทนาบุญกันที่ท่านได้ส่งปัจจัยมาสงเคราะห์..
<!-- / message --><!-- sig -->

 

จะตือนอะไรใคร อย่าลืมดูตนเองก่อนนะครับ ว่าดีพอหรือยัง


ผมเรียนกับทุกๆท่านที่ได้เข้ามาอ่านในกระทู้นี้ ผมเองไม่ใช่พึ่งจะมาทำ ผมช่วยบอกบุญและมีหลายๆท่านที่ร่วมบริจาคในหลายๆกระทู้ ผมคาดว่าเงินที่ร่วมทำบุญทั้งหมดไม่ต่ำ 2,000,000 บาท เงินที่ทุกๆท่านบริจาคไปที่ สนส.บ่อเงินบ่อทอง จ.ฉะเชิงเทรา ,วัดภูเหล่าเงินฮาง จ.อุบลราชธานี ,วัดป่าโนนจ่าหอม จ.อุบลราชธานี และสนส.ผาผึ้ง จ.ชัยภูมิ (การสร้างพระเจดีย์ศรีชัยผาผึ้ง)

เงินทุกบาททุกสตางค์ ผมไม่เคยได้รับเข้ากระเป๋าตนเองเลย พระพิมพ์ของผมเองนั้น เดิมผมจะเก็บสะสมไว้เองและนำไปบรรจุกรุเพื่อสืบทอดอายุพระศาสนา แต่มาคิดอีกครั้ง ผมเองได้หาพระพิมพ์ของหลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรมาเป็น 10 ปี กว่าจะเจอ ผมเลยนำออกมาให้บูชากันโดยเงินที่บูชานั้นนำไปทำประโยชน์กับพระพุทธศาสนาทั้งหมด

โมทนาสาธุครับ
.

 

อีกเรื่องก็คือ การนำเรื่องราวของหลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรมาเผยแพร่ โดยเรื่องราวนั้นไม่ได้ถูกต้องตรงกับความเป็นจริง ทั้งผู้เขียนบทความและผู้ที่นำมาเผยแพร่นั้น เป็นกรรมหนักครับ กรรมที่บิดเบือนข้อมูลของพระอรหันต์ ให้ระวังกันครับ

 

ที่มา http://www2.manager.co.th/mwebboard/listComment.aspx?QNumber=773&Mbrowse=8

<TABLE cellSpacing=2 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=top width="23%"><TABLE cellSpacing=5 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body align=middle height=45>

ผู้เริ่มรู้เพียงเสี้ยวหนึ่ง
ความคิดเห็นที่ 1
​

</TD></TR></TBODY></TABLE>

</TD><TD vAlign=top width="77%" bgColor=#eef3f5><TABLE class=body height=100 cellSpacing=0 cellPadding=5 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top>Excerpts from http://www.pantip.com/cafe/library/topic/K2108035/K2108035.html

- - - - - - - - -
สวัสดีครับท่านผู้สนใจในพระพุทธศาสนา เรื่องที่คุณถามมานั้น ล้วนมีหลักฐานชัดเจนครับผม
มาจากหนังสือคู่มือปฏิบัติธรรม(ฉบับพิเศษ)



พระพุทธเจ้า 28 พระองค์

1.พระตัณหังกรพุทธเจ้า (ผู้กล้าหาญ)

2.พระเมธังกรพุทธเจ้า (ผู้มียศใหญ่)

3.พระสรณังกรพุทธเจ้า (ผู้เกื้อกูลแก่ชาวโลก)

4.พระทีปังกรพุทธเจ้า (ผู้ทรงไว้ซึ่งปัญญาอันรุ่งเรือง)

5.พระโกณฑัญญพุทธเจ้า (ผู้เป็นประมุขแห่งหมู่ชน)

6.พระสุมังคลพุทธเจ้า (ผู้เป็นบุรุษประเสริฐ)

7.พระสุมนพุทธเจ้า (ผู้เป็นวีรบุรุษมีพระหฤทัยงาม)

8.พระเรวตพุทธเจ้า (ผู้เพิ่มพูนความยินดี)

9.พระโสภิตพุทธเจ้า (ผู้สมบูรณ์ด้วยพระคุณ)

10.พระอโนมทัสสีพุทธเจ้า (ผู้สูงสุดในหมู่ชน)

11.พระปทุมพุทธเจ้า (ผู้ทำให้โลกสว่าง)

12.พระนารทพุทธเจ้า (ผู้เป็นสารภีประเสริฐ)

13.พระปทุมุตตระพุทธเจ้า (ผู้เป็นที่พึ่งของหมู่สัตว์)

14.พระสุเมธพุทธเจ้า (ผู้หาบุคคลเปรียบมิได้)

15.พระสุชาตพุทธเจ้า (ผู้เลิศกว่าสัตว์โลกทั้งปวง)

16.พระปิยทัสสีพุทธเจ้า (ผู้ประเสริฐกว่าหมู่นรชน)

17.พระอัตถทัสสีพุทธเจ้า (ผู้มีพระกรุณา)

18.พระธัมทัสสีพุทธเจ้า (ผู้บรรเทาความมืด)

19.พระสิทธัตถพุทธเจ้า (ผู้หาบุคคลเสมอมิได้ในโลก)

20.พระติสสพุทธเจ้า (ผู้ประเสริฐกว่านักปราชญ์ทั้งหลาย)

21.พระปุสสพุทธเจ้า (ผู้ประทานธรรมอันประเสริฐ)

22.พระวิปัสสีพุทธเจ้า (ผู้หาที่เปรียบมิได้)

23.พระสิขีพุทธเจ้า (ผู้เป็นศาสดาเกื้อกูลแก่สรรพสัตว์)

24.พระเวสสภูพุทธเจ้า (ผู้ประทานความสุข)

25.พระกกุสันโธพุทธเจ้า (ผู้นำสัตว์ออกจากกันดารตัวกิเลส)

26.พระโกนาคมนพุทธเจ้า (ผู้หักเสียซึ่งข้าศึก คือ กิเลส)

27.พระกัสสปพุทธเจ้า (ผู้สมบูรณ์ด้วยสิริ)

28.พระโคตมพุทธเจ้า (ผู้ประเสริฐแห่งหมู่ศากยราช)


อนาคตวงศ์ ของพระโพธิสัตว์ที่จะมาตรัสรู้เป็น
พระพุทธเจ้า 10 พระองค์
ที่พระพุทธเจ้าทรงตรัสแก่พระสารีบุตร
ที่บุพพาราม ซึ่งนางวิสาขาสร้างถวาย มีดังต่อไปนี้

1.พระอชิตราชกุมาร เป็น พระศรีอาริยเมตไตรย์

2.พระราม เป็น พระรามสัมพุทโธ

3.พระเจ้าปัสเสนทิโกศล เป็น พระธรรมราขสัมพุ
ทโธ

4.พระยามาราธิราช เป็น พระธรรมสามีพุทโธ

5.พระยาอสุรินทราหู เป็น พระนารทสัมพุทโธ

6.พระโสณะพราหมณ์ เป็น พระพุทธรังษี

7.พระสุภะพราหมณ์ เป็น พระเทวเทพพุทโธ

8.พระโตเทยยะพราหมณ์ เป็น พระนรสีหะ

9.ช้างนาฬาคีรีหัตถี เป็น พระติสสะพุทโธ

10.ช้างป่าเลไลยก์ เป็น พระสุมังคะละ



โดย เณรชิต [6 ส.ค. 2545 , 08:45:58 น.]
- - - - - - - - -

ถ้าอยากรู้รายละเอียดเกี่วยกับประวัติก็ลองไปดู "ตำนานมูลศาสนา" สิครับ บอกไว้หมดเลย อ้อ ที่ "วิมุตติรัตนมาลี" ด้วย

จากคุณ : อ่านแล้ว - [ 7 มี.ค. 46 22:44:48 A:203.113.51.68 X: ]
- - - - - - - - -

http://www.moe.go.th/webrad/tree/tree.htm

อีกเวบ
http://202.44.204.76/tipitaka/
เข้าไปแล้วเลือก คลิคที่
พระสุตตันตปิฎก (อยู่ข้างล่างพระสุตตันตปิฎกความย่อ)
แล้วเลือก
พระสุตตันตปิฎก เล่ม ๒๕
จากนั้นเลือก
พุทธวงศ์

จากนั้นก็...เชิญอ่านตามสบายค่ะ อนุโมทนา

จากคุณ : โยทะกา - [ 8 มี.ค. 46 02:28:12 A:128.125.228.244 X: ]
- - - - - - - - -

... ขออธิบายเพิ่มเติม บางคนเข้าใจว่า ในวงเล็บเป็นคำแปลของชื่อท่าน เช่น

... 1. พระตัณหังกรพุทธเจ้า (ผู้กล้าหาญ) แปลว่า ผู้กล้าหาญ
... 2. พระเมธังกรพุทธเจ้า (ผู้มียศใหญ่) แปลว่า ผู้มียศใหญ่
... 3. พระสรณังกรพุทธเจ้า (ผู้เกื้อกูลแก่ชาวโลก) แปลว่า ผู้เกื้อกูลแก่ชาวโลก

... ความจริงไม่ใช่คำแปล แต่เป็นสมญานามชื่อท่าน



นะโม เม สัพพะพุทธานัง อุปปันนานัง มะเหสินัง
ตัณหังกะโร มะหาวีโร เมธังกะโร มะหายะโส

สะระณังกะโร โลกะหิโต ทีปังกะโร ชุตินธะโร
โกณฑัญโญ ชะนะปาโมกโข มังคะโล ปุริสาสะโภ

สุมะโน สุมะโน ธีโร เรวะโต ระติวัฑฒะโน
โสภีโต คุณสัมปันโน อะโนมะทัสสี ชะนุตตะโม

ปะทุโม โลกะปัชโชโต นาระโท วะระสาระถิ
ปะทุมุตตะโร สัตตะสาโร สุเมโธ อัปปะฎิปุคคะโล

สุชาโต สัพพะโลกัคโค ปิยะทัสสี นะราสะโภ
อัตถะทัสสี การุณิโก ธัมมะทัสสี ตะโมนุโท

สิทธัตโถ อะสะโม โลเก ติสโส จะ วะทะตัง วะโร
ปุสโส จะ วะระโท พุทโธ วิปัสสี จะ อะนูปะโม

สีขี สัพพะหิโต สัตถา เวสสะภู สุขะทายะโก
กะกุสันโธ สัตถะวาโห โกนาคะมะโน ระณัญชะโห

กัสสะโป สิริสัมปันโน โคตะโม สักยปุงคะโว
เอเต จัญเญ จะ สัมพุทธา อะเนกะสะตะโกฎิโย



จากคุณ : ท่านฃุน (005) - [ 8 มี.ค. 46 09:42:47 A:202.133.163.253 X: ]
- - - - - - - - -
</TD></TR><TR><TD vAlign=bottom align=right><TABLE class=body cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=right>8 มีนาคม 46 21:13 </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

<TABLE cellSpacing=2 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=top width="23%">

<TABLE cellSpacing=5 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body align=middle height=45>
บังเอิญไปพบ
ความคิดเห็นที่ 6
</TD></TR></TBODY></TABLE>​

</TD><TD vAlign=top width="77%" bgColor=#eef3f5><TABLE class=body height=100 cellSpacing=0 cellPadding=5 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top>การนับอสงไขย...เป็นการสรุปความจากกระทู้ที่ 1321
จาก
http://www.thaimisc.com/freewebboard/php/vreply.php?user=konmeungbua&topic=1657

--------------------------------------------------------------------------------

เรื่องของอสงไขย
หลายวันก่อนได้อ่าน กระทู้ที่ 1321 เป็นเรื่องของการนับเวลา ของอสงไขย คุณ คนธรรมดา ได้พยายามหาคำตอบมาให้อ่าน อย่างมาก แต่หลังจากผมอ่านแล้ว พบว่า มีการแก้ไขอยู่มาก(พี่คนธรรมดา เป็นคนพบข้อบกพร่องและแก้ไขอันนั้นเองนะครับ) ประกอบกับเรื่องนี้เป็นเรื่องที่น่าสนใจอยู่มาก และเป็นเรื่องที่ผมเองก็ใคร่อยากจะรู้อยู่ไม่น้อย

หลังจากได้อ่านกระทู้นั้นแล้ว ก็ได้พยายามค้นหา ข้อมูลเท่าที่ผมจะมี และนำมาทำสรุปให้ เพื่อ เพื่อนๆ พี่ๆ และน้องๆ ท่านใดสนใจ จะได้นำไปใช้ประโยชน์ได้อีกต่อหนึ่ง

การนับ อสงไขย นั้น จะต้องรู้จักกับคำหลายคำต่อไปนี้นะครับ....
1. อสงไขยปี
2. รอบอสงไขยปี
3. อันตรกัป
4. อสงไขยกัป
5. มหากัป

คำทั้งหมดนั้นมีความหมาย และมีความสัมพันธ์ กันดังนี้ครับ
1 รอบอสงไขยปี เป็น 1 อันตรกัป
64 อันตรกัป เป็น 1 อสงไขยกัป
4 อสงไขยกัป เป็น 1 มหากัป


โดย กวางน้อย [25 ส.ค. 2546 , 20:21:03 น.]

ข้อความ 1

อสงไขยปี เป็นอย่างไร
ในยุคแรกๆ มนุษย์นั้น จะมีอายุขัยที่ยืนยาวมาก คือจะมีอายุ เท่ากับ เอาเลข 1 นำหน้า แล้วตามด้วยเลข 0 อีก 140 ตัว จำนวนทั้งหมดนี้แหละครับที่เขาเรียกกันว่า อสงไขยปี

หนึ่งรอบอสงไขยปี เป็นอย่างไร
ในทุก 100 ปี มนุษย์เราจะมีอายุขัยสั้นลง 1 ปี และจะเป็นอยู่อย่างนี้เรื่อยมา คือ จะมีอายุขัยสั้นลงๆ จนกว่าจะมีอายุขัยที่ต่ำสุด คือ 10 ปี การลดลงของอายุขัยก็จะหยุดลง และจะเริ่มต้น การมีอายุที่ยืนยาวขึ้น จาก 10 ปี เป็น 11 ปี โดยใช้วิวัฒนาการ ทุกๆ 100 ปีเช่นกัน และจะมีการพัฒนาเช่นนี้ ต่อไปเรื่อยๆ จนกว่า อายุ จะเท่ากับ อสงไขยปี เช่นเดิม คือ 1 แล้วตามด้วย 140 ศุนย์ กำหนดระยะเวลาทั้งหมดนี้ เราเรียกว่า หนึ่งรอบอสงไขยปี และการที่ครบรอบหนึ่งอสงไขยปีนี้แหละ ก็จะเท่ากับ หนึ่ง อันตรกัป

อสงไขยกัป เป็นอย่างไร
เมื่อนับจำนวนอันตรกัป ตามที่พูดมานั้น ได้ครบ 64 อันตรกัป นั้น จึงเรียกว่า อสงไขยกัป
ทีนี้ผมขอขยายความ คำว่า อสงไขยกัป นิดหนึ่งนะครับ

อสงไขยกัปนี้ มีอยู่ 4 อสงไขยกัป ด้วยกัน โดยแบ่งเป็นตอนๆ ดังนี้ คือ
1. สังวัฏฏอสงไขยกัป เป็นอสงไขยกัป ที่ปรากฏในตอนที่โลกถูกทำลาย ซึ่งได้แก่คำว่า สงวฏฏตีต สงวัฏโฏ คือ กัปที่กำลังพินาศอยู่
2. สังวัฏฏฐายีอสงไขยกัป เป็นอสงไขยกัป ที่ปรากฏในตอนที่โลกถูกทำลายเสร็จเรียบร้อยแล้ว ซึ่งได้แก่คำว่า สงวฏโฏ หุตวา ติฏฐตีติ สงวฏฏฐยี คือ กับที่มีแต่ความพินาศตั้งอยู่
3. วิวัฏฏอสงไขยกัป เป็นอสงไขยกัป ที่ปรากฏในตอนที่โลกกำลังจะเริ่มพัฒนาเข้าสู่สภาวะปกติซึ่งได้แก่คำว่า วิวฏฏตีติ วิวฏโฏ คือกัปที่กำลังเริ่มเจริญขึ้น
4. วิวัฏฏฐายีอสงไขยกัป เป็นอสงไขยกัป ที่ปรากฏในตอนที่โลกเจริญขึ้น พัฒนาเรียบร้อยเป็นปกติตามเดิมแล้ว ซึ่งได้แก่คำว่า วิวฏโฏ หุตวา ติฏฐตีติ วิวฏฏฐายี คือกัปที่เจริญขึ้น พร้อมแล้วทุกอย่างตั้งอยู่ตามปกติ


โดย ต่อ [25 ส.ค. 2546 , 20:21:45 น.]

ข้อความ 2

ทีนี้มีข้อควรทราบไว้คือ สัตว์โลกทั้งหลายเช่นมนุษย์และเดีย_ร_ฉ_า_น เป็นต้น จะมีชีวิตอยู่ในโลกนี้ได้ก็เฉพาะตอน อสงไขยกัปสุดท้าย คือ วิวัฏฏฐายีอสงไขยกัปนี้เท่านั้น ส่วนในตอน 3 อสงไขยกัปข้างต้น จะไม่มีสิ่งที่มีชีวิตอาศัยอยู่ในโลกนี้เลย

มหากัป เป็นอย่างไร
เมื่อนับจำนวนทั้ง 4 อสงไขยรวมกัน เราจะเรียกว่า 1 มหากัป คือ
1. สังวัฏฏอสงไขยกัป นานถึง 64 อันตรกัป
2. สังวัฏฏฐายีอสงไขยกัป นานถึง 64 อันตรกัป
3. วิวัฏฏอสงไขยกัป นานถึง 64 อันตรกัป
4. วิวัฏฏฐายีอสงไขยกัป นานถึง 64 อันตรกัป
รวม 4 อสงไขยกัป ก็เป็น 256 อันตรกัป ซึ่งจะเท่ากับ 1 มหากัป

แต่ทีนี้เวลาบอกว่า พระพุทธเจ้าได้บำเพ็ญเพียร สั่งสมบารมี เป็น 4 อสงไขยกับหนึ่งแสนมหากัป นั้น คำว่า อสงไขยในที่นี้ หมายถึง การนับจำนวนของมหากัป เป็นอสงไขย กับ อีกหนึ่ง แสน มหากัป ครับ

ตรงนี้แหละครับที่ผมเองก็ยังไม่ค่อยเข้าใจสักเท่าไหร่ว่า การนับ จำนวนของ มหากัปได้ เท่ากับ อสงไขยนั้น เป็นจำนวนเท่าไหร่ ขอฝากไว้ให้ลองคิดกันดูแล้วกันนะครับ

หมายเหตุ คำว่ากัปและกัลนั้น ต่างก็มีความหมายเหมือนกัน แตกต่างกันที่ คำหนึ่งเป็น ภาษาบาลี อีกคำหนึ่งเป็น ภาษาสันสกฤต แต่ไม่แน่ใจว่าคำใดเป็นบาลี คำใดเป็นภาษาสันสกฤต

แหล่งข้อมูล จากหนังสือชื่อ ศาสตร์ว่าด้วยการเป็นพระพุทธเจ้า (มุนีนาถทีปนี) สำนักพิมพ์ คณะสังคมผาสุก ผู้แต่ง พระเทพมุนี (วิลาส ญาณวโร) ISBN: 974-7437-92-9

ขอขอบคุณท่านเจ้าของกระทู้ที่ 1321 และ คุณคนธรรมดาด้วยครับ ที่จุดประกายความอยากรู้ให้กับผม


โดย กวางน้อย [25 ส.ค. 2546 , 20:24:00 น.] </TD></TR><TR><TD vAlign=bottom align=right><TABLE class=body cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=right> 26 สิงหาคม 46 12:57 </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

<TABLE cellSpacing=2 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=top width="23%">

<TABLE cellSpacing=5 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body align=middle height=45>
บังเอิญไปพบ
ความคิดเห็นที่ 7
</TD></TR></TBODY></TABLE>​

</TD><TD vAlign=top width="77%" bgColor=#eef3f5><TABLE class=body height=100 cellSpacing=0 cellPadding=5 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top>กัปหรือกัลป์
จาก
http://www.thaimisc.com/freewebboard/php/vreply.php?user=konmeungbua&topic=1425

--------------------------------------------------------------------------------

๔๕ พรรษาพระพุทธเจ้า
พระนิพนธ์ในสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช

กัปหรือกัลป์

เมื่อกล่าวถึงพระพุทธเจ้าหลายพระองค์และพระโพธิ์สัตว์ก็ควรจะกล่าวถึงเรื่องกัปหรือกัลป์บ้าง เพราะท่านกล่าวไว้ว่า พระโพธิสัตว์ของเราทั้งหลายได้ทรงบำเพ็ญพระบารมีมาถึงสี่อสงไขยแสนกัลป์

นับแต่เมื่อเสวยพระชาติเป็นสุเมธดาบส กล่าวตามสำนวนเก่าว่า สี่อสงไขยกำไรแสนกัลป์ หรือ สี่อสงไขกำไรแสนมหากัลป์"

ความคิดในเรื่องกาลเวลาอันยืดยาวของโลก ได้มีกล่าวในคัมภีร์ทางพระพุทธศาสนา ซึ่งเป็นคัมภีร์ชั้นแรกก็มี ชั้นหลังก็มี ในคัมภีร์ทางศาสนาพราหมณ์ก็มี

ความคิดในเรื่องนี้น่าจะมีตั้งแต่เก่าก่อนพุทธกาลช้านาน วิธีหมายรู้ในเรื่องกาลเวลาในคัมภีร์ทั้งหลายดังกล่าว น่าจะสรุปได้เป็น ๒ วิธี คือ

๑. นับด้วยจำนวนสังขยา หรือนับด้วยตัวเลข เช่น ๑-๒-๓ เป็นต้น

๒. กำหนดด้วยอุปมา หรือด้วยเครื่องกำหนดอย่างใดอย่างหนึ่ง ในเมื่อมากเกินไปที่จะนับด้วยสังขยาหรือเลข

การกำหนดดังกล่าวในวิธีที่ ๒ นี้แหละ เป็นที่มาของคำว่ากัป (กัปปะในภาษามคธ) หรือ กัลป์ (ในภาษาสันสกฤต) เพราะคำนี้แปลอย่างหนึ่งว่า กำหนด แต่ก็ใช้ในความหมายหลายอย่าง เช่น ในความหมายว่า "สมควร" เป็นต้น

และที่ใช้ในความหมายถึงกาลเวลาแห่งอายุตามยุคตามสมัยก็มีเช่น ในคราวที่พระพุทธเจ้าปลงอายุสังขาร ว่าอีกสามเดือนจะเสด็จปรินิพพาน พระอานนท์ได้กราบทูลอาราธนาขอให้เสด็จอยู่กัปหนึ่ง เพราะได้เคยสดับพระพุทธเจ้าตรัสว่า

ผู้ที่เจริญอิทธิบาท ๓ ประการ ถ้าจำนงใจจะดำรงรูปกายอยู่ก็จะพึงอยู่ได้กัปหนึ่งหรือเหลือกว่ากัปหนึ่ง


โดย สุวิมล [2 ก.ค. 2546 , 17:07:21 น.]

ข้อความ 1

พระอาจารย์อธิบายว่า คำว่ากัป ในที่นี้ หมายถึง อายุกัป คือกำหนดอายุของคนในยุคปัจจุบัน ซึ่งมีประมาณร้อยปี

ฉะนั้น กัปหนึ่งจึงกำหนดว่าร้อยปี ส่วนคำว่า กัป กัลป์ ที่จะกล่าวต่อไปนี้ มิได้หมายถึงกัปที่ใช้ในความหมายต่าง ๆ ดังกล่าวนั้น แต่หมายถึงระยะเวลายืดยาวเกินที่จะนับด้วยสังขยาหรือเลขต้องกำหนดด้วยวิธีอุปมา

ในเบื้องต้นพึงทราบความหมายอย่างกว้างก่อนว่า กัป หรือ กัลป์ คือ กำหนดอายุของโลก หมายถึงระยะเวลาตั้งแต่เกิดโลกจนถึงโลกสลาย เหมือนอย่างกำหนดอายุของบุคคล หมายถึงตั้งแต่เกิดจนตาย

กำหนดอายุของโลกดังกล่าวคราวหนึ่ง ๆ เรียกว่ากัปหนึ่ง ๆ มีระยะเวลายืดยาวมาก ไม่เป็นการง่ายที่จะนับว่ามีจำนวนกี่หมื่นกี่แสนปี แต่อาจจะกำหนดได้โดยอุปมา

เหมือนอย่างภูเขาหินใหญ่ยาวโยชน์หนึ่ง กว้างโยชน์หนึ่ง สูงโยชน์หนึ่ง ไม่มีช่องไม่มีโพรงเป็นก้อนหินแท่งทึบ ถึงร้อยปีหนหนึ่ง มีบุรุษใช้ผ้าทอที่แคว้นกาสี (ผ้าเนื้อดี) มาลูบครั้งหนึ่งทุก ๆ ร้อยปี ภูเขาหินนั้นก็จะพึงราบเรียบไปก่อน แต่กัปยังไม่สิ้น

อีกอุปมาหนึ่ง เหมือนอย่างนครยาวหนึ่งโยชน์ กว้างหนึ่งโยชน์ กำแพงสูงหนึ่งโยชน์ เต็มด้วยเมล็ดพันธุ์ผักกาดแน่นขนัด

ถึงร้อยปีหนหนึ่งมีบุรุษหนึ่งมาหยิบพันธ์ผักกาดไปเมล็ดหนึ่งทุก ๆ ร้อยปี กองเมล็ดพันธุ์ผักกาดนั้นก็จะพึงสิ้นไปก่อน ส่วนกัปยังไม่สิ้น กัปที่ยาวมากดังนี้เรียกว่า มหากัป ก็มี

กัปหนึ่ง ๆ แม้จะมีระยะเวลายืดยาวจนต้องกำหนดด้วยอุปมาดังกล่าว แต่ก็ยังมีคติความคิดของคนในสมัยเก่าแก่ว่า ได้มีกัปจำนวนมากมายล่วงไปแล้วในอดีต หมายความว่าโลกได้เคยเกิดดับหรือดับมาแล้วในอดีตมากครั้งจนนับไม่ถ้วน

จนถึงต้องกำหนดด้วยอุปมาเหมือนกัน คือเหมือนอย่างสาวกสี่คนมีอายุร้อยปี ระลึกถึงกัปในอดีตได้วันละแสนกัป ระลึกอยู่ถึงร้อยปีก็ยังไม่หมดกัปที่ล่วงไปแล้ว ต้องตายไปเสียก่อน

อีกอย่างหนึ่ง เปรียบเหมือนทรายในเนื้อที่ตั้งแต่ต้นแม่น้ำคงคา จนจดถึงมหาสมุทร ซึ่งนับไม่ได้ว่ามีจำนวนเท่าไรเม็ด กัปในอดีตมีจำนวนมากมายเหลือที่จะนับดังกล่าว เรียกว่า อสงไขย ตรงกับคำว่า นับไม่ถ้วน


โดย สุวิมล [2 ก.ค. 2546 , 17:08:56 น.]

ข้อความ 2

สงสาร คือ ความท่องเที่ยวเวียนตายเกิด หรือเกิดตายของสัตว์โลกทุกสัตว์ทุกบุคคลในกัปทั้งหลายนับไม่ถ้วน จึงเรียกว่า อนมตัคคะ แปลว่า มีที่สุด (ที่สุดเบื้องต้นและที่สุดเบื้องปลาย) ที่ไม่รู้

ท่านแสดงว่าพระโพธิสัตว์ได้ทรงบำเพ็ญพระบารมีมาตลอดเวลาสี่อสงไขย คือตลอดกัปที่นับไม่ถ้วนนั้นสี่ครั้ง มีปัญหาว่า มีเกณฑ์อะไรเป็นเครื่องกำหนดว่า อสงไขยหนึ่ง ๆ

เรื่องนี้ตรวจดูในพุทธวงศ์พอจับความได้ว่า ถือเอาเกณฑ์พระพุทธเจ้าในอดีตดังที่ได้กล่าวมาแล้ว คือพระพุทธเจ้าองค์ต้น ๆ ได้ตรัสรู้ในกัปหนึ่ง แล้วเว้นไปนับไม่ถ้วนกัปจึงมาตรัสรู้ขึ้นอีก

ระยะเว้นว่างของพระพุทธเจ้าตลอดเวลาเป็นกัปจนนับไม่ถ้วนนี้ เรียกอสงไขยหนึ่ง ๆ เป็นดังนี้สี่อสงไขยจึงถึงระยะที่นับได้แสนกัป ย้อนกลับไปจากกัปปัจจุบัน ซึ่งได้มีพระพุทธเจ้ามาตรัสโดยลำดับ มาจนถึงพระองค์ปัจจุบัน ฉะนั้นจึงกล่าวว่า สี่อสงไขยกำไรแสนมหากัลป์

เรื่องกัปที่นับไม่ถ้วน ซึ่งเรียกว่าอสงไขยและที่นับได้แสนหนึ่งนี้ ท่านกล่าวว่าได้ปรากฏในปุพเพนิวาสญาณ คือ ความรู้ระลึกชาติหนหลังได้ของพระพุทธเจ้า นึกทำความเข้าใจตามคำของท่านเอาเองว่า

เมื่อระลึกย้อนกลับไปยาวไกลเหมือนอย่างดูออกไปสุดลูกตา ก็คงจะปรากฏเป็นห้วง ๆ เหมือนอย่างมองไปในอากาศในเวลากลางคืน เห็นดวงดาวทั้งหลาย แต่จะกำหนดระยะห่างกันของดวงดาวเหล่านั้นว่าเท่าไรก็นับได้ยาก (เช่นในบัดนี้ก็ต้องคิดนับด้วยปีแสง)

เมื่อมาถึงระยะใกล้จึงนับพอได้ ในระยะแสนกัปก็น่าจะปรากฏพอนับได้เหมือนกันฉะนั้น


โดย สุวิมล [2 ก.ค. 2546 , 17:11:04 น.]

ข้อความ 3

กล่าวถึงการกำหนดนับในพุทธวงศ์ พระพุทธเจ้าองค์ที่ ๑ ถึงองค์ที่ ๔ อุบัติในกัปหนึ่ง องค์ที่ ๕ อุบัติขึ้นในอีกกัปหนึ่ง แต่ในระหว่างองค์ที่ ๔ ถึงองค์ที่ ๕ มีระยะห่างกันมากจนนับกัปไม่ถ้วน (เป็นอสงไขยที่ ๑)

พระพุทธเจ้าองค์ที่ ๖-๗-๘-๙ อุบัติขึ้นในอีกกัปหนึ่ง แต่ในระหว่างองค์ที่ ๕ และองค์ที่ ๖ มีระยะห่างกันมากจนนับกัปไม่ถ้วน (อสงไขยที่ ๒)

องค์ที่ ๑๐-๑๑-๑๒ อุบัติขึ้นในอีกกัปหนึ่ง แต่ในระหว่างองค์ที่ ๙ และองค์ที่ ๑๐ มีระยะห่างกันมากจนนับกัปไม่ถ้วน (อสงไขยที่ ๓)

องค์ที่ ๑๓ อุบัติขึ้นในอีกกัปหนึ่ง แต่ในระหว่างองค์ที่ ๑๒ และองค์ที่ ๑๓ มีระยะห่างกันมากจนนับกัปไม่ถ้วน (อสงไขยที่ ๔)

นับตั้งแต่องค์ที่ ๑๓ นั้นมาจนถึงปัจจุบัน หรือว่านับตั้งแต่ภัทรกัปในปัจจุบันนี้ย้อนไปจนถึงองค์ที่ ๑๓ อุบัติขึ้นรวมได้แสนกัป

ท่านใช้วิธีนับย้อนกลับไปแบบวิธีระลึกชาติ คือย้อนกลับไปแสนกัป องค์ที่ ๑๓ ดังกล่าวองค์เดียวอุบัติขึ้นในกัปนั้น

ย้อนกลับไปสามหมื่นกัปองค์ที่ ๑๔-๑๕ อุบัติขึ้นในกัปนั้น

ย้อนกลับไปหมื่นแปดพันกัป องค์ที่ ๑๖-๑๗-๑๘ อุบัติขึ้นในกัปนั้น

ย้อนกลับไปเก้าสิบสี่กัปองค์ที่ ๑๙ อุบัติขึ้นองค์เดียวในกัปนั้น

ย้อนกลับไปเก้าสิบสองกัปองค์ที่ ๒๐ - ๒๑ อุบัติขึ้นในกัปนั้น

ย้อนกลับไปเก้าสิบเอ็ดกัป องค์ที่ ๒๒ องค์เดียวอุบัติขึ้นในกัปนั้น (นี้คือพระวิปัสสีที่กล่าวถึงเป็นองค์แรกในพระพุทธเจ้าจำนวนเจ็ดพระองค์ในภาณยักษ์ภาณพระ)

ย้อนกลับไปสามสิบเอ็ดกัปองค์ที่ ๒๓-๒๔ อุบัติขึ้นในกัปนั้น

ต่อจากนั้นก็มาถึงภัทรกัปปัจจุบัน องค์ ๒๕-๒๖-๒๗-๒๘ ได้อุบัติขึ้นแล้วโดยลำดับ และจะอุบัติขึ้นข้างหน้าอีกพระองค์หนึ่งรวมเป็นพระเจ้า ๕ พระองค์

ในกัปนี้ เพราะกัปนี้มีพระพุทธเจ้าอุบัติขึ้นมากกว่ากัปอื่น ๆ ในอดีตที่ท่านระลึกไปถึง จึงเรียกว่า ภัททกัป หรือ ภัทรกัป แปลว่า กัปเจริญ


โดย สุวิมล [2 ก.ค. 2546 , 17:12:03 น.]

ข้อความ 4

ในคัมภีร์ฝ่ายเถรวาทนี้ ได้มีกล่าวถึงพระโพธิสัตว์ของเราทั้งหลาย ได้ทรงบำเพ็ญพระบารมีมาตั้งแต่สมัยพระพุทธเจ้าองค์ที่ ๔ จนมาตรัสเป็นองค์ที่ ๒๘ กำหนดนับได้สี่อสงไขยกำไรแสน มหากัลป์

ด้วยวิธีกำหนดนับดังกล่าวนี้ ได้มีฝ่ายที่นับถือเรื่องนี้อยู่ไม่น้อย ที่กาบาเอ้ประเทศสหภาพพม่า ได้ปลูกไม้ตรัสรู้ของพระพุทธเจ้าทั้งหมดไว้ แต่ถึงจะไม่นับถือ เมื่อทราบวิธีกำหนดนับของท่าน

ก็อาจจะเข้าใจหนังสือที่ได้อ่านหรือได้ฟัง ซึ่งมีอยู่ไม่น้อยในสำนวนเก่า โดยเฉพาะก็จะได้ทราบว่า ความคิดของคนเก่าแก่นั้นมีอยู่ในเรื่องอายุโลกว่าอย่างไร

เมื่อสรุปความเข้าแล้ว คนรุ่นเก่าแก่ได้เห็นแล้วว่าโลกนี้มีเกิดดับเช่นเดียวกับสังขารมนุษย์ และมีความเชื่อว่าโลกนี้

เมื่อดับแล้วก็เกิดขึ้นอีก คล้ายกับมีชาติภพ และชาติหนึ่ง ๆ ของโลกมีระยะเวลายาวนานไกลเรียกว่ากัปหรือกัลป์ ดังกล่าวมานั้นแล

ระยะเวลาเกิดดับของโลกคราวหนึ่ง ๆ อันเรียกว่ากัปหนึ่ง ๆ ตามที่กล่าวมาแล้ว ท่านจำแนกออกเป็น ๔ ส่วนคือ

๑. สังวัฏกัป แปลว่ากัปเสื่อม

๒. สังวัฏฐายีกัป แปลว่า กัปที่ตั้งอยู่เนื่องด้วยกัปเสื่อม

๓. วิวัฏกัป แปลว่า กัปเจริญ

๔. วิวัฏฐายีกัป แปลว่ากัปที่ตั้งอยู่เนื่องด้วยกัปเจริญ

กัปทั้ง ๔ นี้ เป็นกัปย่อย คือ จำแนกกัปที่เป็นอายุโลกออกเป็น ๔ กัปย่อย เพื่อเรียกให้ต่างกัน จึงเรียกกัปที่เป็นอายุโลกทั้งหมดว่ามหากัป

แม้แยกย่อยออกเป็น ๔ ก็เป็นการไม่ง่ายที่จะนับว่าเท่านั้นเท่านี้ปี หรือร้อยปี พันปี แสนปี จึงเรียกว่า อสงไขยเหมือนกัน หมายความว่านับไม่ถ้วน

ฉะนั้นกัปย่อยทั้ง ๔ จึงเรียกว่าอสงไขยทั้ง ๔ รวมความว่าแบ่งกัปใหญ่ที่เป็นอายุโลกทั้งหมดออกเป็น ๔ กัป หรือ ๔ อสงไขย

แต่พึงเข้าใจว่า ๔ อสงไขยในที่นี้ หมายถึง ๔ กัปย่อยดังกล่าวเท่านั้น มิใช่หมายถึง ๔ อสงไขย ที่กล่าวมาแล้วในตอนที่ว่าด้วยเรื่องสี่อสงไขย กำไรแสนมหากัลป์

โดย สุวิมล [2 ก.ค. 2546 , 17:13:11 น.] </TD></TR><TR><TD vAlign=bottom align=right><TABLE class=body cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=right> 26 สิงหาคม 46 13:14 </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

<TABLE cellSpacing=2 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=top width="23%">

<TABLE cellSpacing=5 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body align=middle height=45>
บังเอิญไปพบ
ความคิดเห็นที่ 8
</TD></TR></TBODY></TABLE>​

</TD><TD vAlign=top width="77%" bgColor=#eef3f5><TABLE class=body height=100 cellSpacing=0 cellPadding=5 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top>ข้อความ 5

ฉะนั้นอสงไขยในที่นี้เท่ากับเป็นอสงไขยย่อย เช่นเดียวกับกัปย่อย บางทีก็เรียกรวมว่าอสงไขยกัป

อันหมายถึงส่วนย่อยทั้ง ๔ ของอายุโลกดังกล่าวเท่านั้น และใช้เรียกว่าอสงไขยก็เพราะแม้เป็นส่วนย่อยก็นับปีไม่ถ้วนเหมือนกัน

(อสงไขยในตอนนี้หมายถึงนับปีไม่ถ้วน ส่วนในตอนโน้นหมายถึงนับกัปไม่ถ้วน)

ในกัปย่อยทั้ง ๔ นั้น จะกล่าวถึงกัปเสื่อมก่อน หมายความว่าระยะเวลาที่โลกวินาศ คือสลายหรือดับ ความวินาศของโลกมี ๓ อย่าง
คือ

อาโปสังวัฏฏะ วินาศเพราะน้ำ
เตโชสังวัฏฏะ วินาศเพราะไฟ
วาโยสังวัฏฏะ วินาศเพราะลม

อธิบายตามคติเก่าแก่นั้นว่า เมื่อโลกวินาศเพราะไฟ จะเกิดมหาเมฆกัปวินาศ คือ เกิดฝนตกใหญ่ทั่วโลกก่อน ครั้นฝนนั้นหยุดแล้ว จะไม่มีฝนตกอีก จะเกิดความแห้งแล้วไปโดยลำดับ

จะมีดวงอาทิตย์ดวงที่ ๒ ปรากฏขึ้น จนถึงดวงที่ ๗ จึงจะเกิดไฟประลัยกัลป์ไหม้โลกจนหมดสิ้น อากาศเบื้องบนจะเป็นอันเดียวกับอากาศเบื้องล่าง หมายความว่าเหลือแต่อากาศว่างเปล่ามีความมืดมิดทั่วไป

ครั้นแล้ว มหาเมฆกัปสมบัติ (ก่อเกิดกัป) จะตั้งพื้น ฝนจะตกทั่วที่ซึ่งถูกไฟไหม้ ลมจะประคองรวมน้ำฝนให้รวมกันเป็นก้อนกลมเหมือนหยาดน้ำบนใบบัว แล้วก็แห้งขอดลงไป ปรากฏโลกขึ้นใหม่ จึงถึงวาระที่เรียกว่ากัปเจริญ

สัตว์ที่บังเกิดขึ้นเป็นพวกแรกนั้นเป็นพวกพรหมในพรหมชั้นที่ไฟไหม้ขึ้นไปไม่ถึง ลงมาเกิดเป็นพวก อุปปาติกะ (แปลว่าลอยเกิด หมายความว่าเกิดเป็นตัวตนใหญ่โตปรากฏขึ้นทีเดียว)


โดย สุวิมล [2 ก.ค. 2546 , 17:17:24 น.]

ข้อความ 6

พากันบริโภคง้วนดิน (ปฐวิรส คือเมื่อน้ำแห้งขอด ก็เกิดเป็นแผ่นฝ้าขึ้นในเบื้องบน มีสีงาม มีรสหอมหวาน) สะเก็ดดิน (ปฐวีปัปปฎก) เครือดิน (ปทาลตา) หมดไปโดยลำดับ

จากนั้นจึงบริโภคธัญชาติ เป็นต้นว่าข้าวสาลีสืบต่อมา สัตว์โลกจำพวกแรกเหล่านั้นจึงมีร่างกายหยาบขึ้นโดยลำดับ

จนปรากฏเป็นบุรุษสตรีสร้างบ้านเรือนสืบพันธุ์กันมา ในชั้นแรกมีอายุยืนยาวเป็นอสงไขย (นับปีไม่ถ้วน)

ต่อมาพากันประพฤติอกุศลกรรมด้วยอำนาจของราคะ โทสะ โมหะ มากขึ้น อายุก็ลดน้อยถอยลงโดยลำดับจนถึง ๑๐ ปี ก็พากันถึงความพินาศเป็นส่วนมาก เพราะภัย ๓ อย่าง คือ

ศัสตราวุธ โรค ทุพภิกขภัย คือ ความขาดแคลนอาหาร


เรียกว่าถึงสมัย มิคสัญญี แปลว่า มีความสำคัญในกันแลกันว่าเหมือนอย่างเนื้อ คือเห็นกันฆ่ากันเหมือนอย่างเนื้อถึก แต่ก็ยังไม่พินาศกันหมดทั้งโลก

ยังมีสัตว์ที่เหลือตายหลบหลีกไป และกลับได้ความสังเวชสลดจิต พากันประพฤติกุศลกรรมมากขึ้น ก็พากันเจริญอายุมากขึ้นด้วยอำนาจกุศลโดยลำดับ

จนถึงอสงไขย แล้วกลับอายุถอยลงมาด้วยอำนาจอกุศลกรรมจนถึงอายุ ๑๐ ปี แล้วก็กลับเจริญอายุขึ้นใหม่อีก

วนขึ้นวนลงอยู่อย่างนี้ จนกว่าจะถึงคราวโลกวินาศอีกครั้งหนึ่ง ระยะเวลาทั้งหมดนี้จัดเป็นกัปย่อยทั้ง ๔ ได้ดังนี้

สังวัฏกัป กัปเสื่อม ตั้งแต่เกิดมหาเมฆกัปวินาศตกใหญ่จนถึงไฟประลัยกัลป์ไหม้โลกจนหมดสิ้นดับลงแล้ว

สังวัฏฐายีกัป กัปที่ตั้งอยู่เนื่องด้วยกัปเสื่อม ตั้งแต่ไฟไหม้โลกดับ จนถึงมหาเมฆกัปสมบัติ ตกใหญ่เริ่มก่อกำเนิดโลกขึ้นใหม่

วิวัฏกัป กัปเจริญ ตั้งแต่มหาเมฆกัปสมบัติ จนถึงปรากฏดวงจันทร์ ดวงอาทิตย์

วิวัฏฐายีกัป กัปที่ตั้งเนื่องอยู่ด้วยกัปเจริญ ตั้งแต่บัดนั้นจนถึงมหาเมฆกัปวินาศบังเกิดขึ้นอีก


โดย สุวิมล [2 ก.ค. 2546 , 17:18:42 น.]

ข้อความ 7

ส่วนความวินาศด้วยน้ำนั้น เกิดมหาเมฆกัปวินาศขึ้นเช่นเดียวกันก่อน แล้วจึงเกิดมหาเมฆน้ำต่างตกลงมาเป็นน้ำประลัยกัลป์ ย่อยโลกให้วินาศไปเช่นเดียวกับไฟไหม้โลก

และความวินาศด้วยลม นั้นก็เกิดมหาเมฆกัปวินาศขึ้นก่อน แล้วเกิดลมกัปวินาศเป็นลมประลัยกัลป์พัดผันโลกให้ย่อยยับเป็นจุณวิจุณไปเช่นเดียวกับไฟไหม้โลก

เกณฑ์โลกวินาศดังกล่าวนี้ คติเก่าแก่นั้นกล่าวไว้ว่า วินาศด้วยไฟ ๗ ครั้ง แล้ววินาศด้วยน้ำในครั้งที่ ๘ ครั้นวินาศด้วยไฟและน้ำดังนี้ครบ ๘ ครั้ง ๘ หนแล้ว จึงวินาศด้วยลมครั้ง ๑

และส่วนที่ ๔ ของกัปย่อย (วิวัฏฐายีกัป) ระยะเวลาสัตว์โลกมีอายุ ๑๐ ปี เพิ่มขึ้นจนถึงอสงไขย แล้วถอยลงจนถึง ๑๐ ปีอีก เรียกว่า อันตรกัป

(กัปในระหว่าง) ๑ ประมาณ ๖๔ อันตรกัปจึงเป็นกับย่อยที่ ๔ นั้น

แต่บางอาจารย์กล่าวว่าประมาณ ๒๐ อันตรกัป และระยะเวลาที่พระพุทธเจ้ามาตรัสนั้นในยุคที่มนุษย์มีอายุ ๑ แสนกัปลงมาถึง ๑๐๐ ปี

เพราะเมื่อมนุษย์มีอายุมากเกินไปก็เห็นทุกข์ได้ยาก มีอายุน้อยเกินไปก็มีกิเลสหนาแน่น มากยากที่จะตรัสรู้ธรรมได้เช่นเดียวกัน

เรื่องโลกวินาศและโลกสมบัติ หรือโลกดับโลกเกิดตามคติความคิดเก่าแก่ ซึ่งติดมาในคัมภีร์ทางพระพุทธศาสนามีดังที่กล่าวมาโดยย่อฉะนี้


โดย สุวิมล [2 ก.ค. 2546 , 17:20:10 น.]

ข้อความ 8

จาก: พ้นโลก
นิตยสารแห่งจิตและฤทธิ์อภิญญา

ปีที่ ๕ ฉบับที่ ๕๐
พฤษภาคม ๒๕๓๘

โดย สุวิมล [2 ก.ค. 2546 , 17:26:40 น.] </TD></TR><TR><TD vAlign=bottom align=right><TABLE class=body cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=right> 26 สิงหาคม 46 13:14 </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>​