พระวังหน้า ที่หลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรเสก ถ้าต้องการที่จะได้.....

ยอดคงเหลือพระพิมพ์ครับ

 

สำหรับท่านที่ไม่ได้เป็นสมาชิกเว็บไซด์พลังจิต ผมได้ไปเปิดกระทู้ [ กระทู้ยอดนิยม ]: ขอเชิญร่วมสร้างพระเจดีย์ศรีชัยผาผึ้ง ณ สำนักสงฆ์ผาผึ้ง อ.บ้านเขว้า จ.ชัยภูมิ http://www.agalico.com/board/showthread.php?t=9798

หากท่านใดที่มีความประสงค์ที่จะร่วมบุญสร้างพระเจดีย์ศรีชัยผาผึ้ง สามารถแจ้งความประสงค์ได้ที่กระทู้ดังกล่าวนะครับ

ขอขอบพระคุณและโมทนาสาธุครับ

 

ที่มา การทำบุญ เพื่อให้ได้บุญ
http://larndham.net/cgi-bin/kratoo.pl/004748.htm


<TABLE width="100%" bgColor=#bbddff border=0><TBODY><TR><TD colSpan=2>เนื้อความ :

จริงไหมที่ว่า การทำบุญ จะได้ผลบุญก็ต่อเมื่อ เลือกทำกับ
พระสงฆที่ปฏิบัติดี ปฏิบัติชอบเท่านั้น (แล้วจะไปรู้ได้อย่างไรกัน)​

</TD></TR><TR><TD colSpan=2> จากคุณ : อวิชชา [ 29 มี.ค. 2545 / 18:09:04 น. ]
[SIZE=-1] [ IP Address : 203.148.162.88 ][/SIZE] </TD></TR></TBODY></TABLE>


<TABLE width="100%" bgColor=#e4f3f3 border=0><TBODY><TR><TD colSpan=2> ความคิดเห็นที่ 3 : ( รณจักร)

ไม่จริง ครับ การทำบุญ นั้นไม่จำเป็นที่จะต้องทำกับ พระปฏิบัติดี ปฏิบัติชอบ ก็ สามารถได้ผล บุญ เหมือนกันครับ เช่นทำกับพระทั่วไป หรือ ทำกับคนที่ไม่ใช่พระเช่น ขอทานก็ได้ครับ แต่อาจได้ผลน้อยกว่า การทำบุญกับพระปฏิบัติดี-ชอบ

การทำบุญให้ได้บุญมากหรือน้อยนั้น ประกอบด้วย factor 3 อย่างครับ
1. ผู้ให้
- ก่อนให้ ขณะให้ หลังให้ มีจิตยินดีมากก็ยิ่งได้ผลบุญมาก เช่น ถ้าก่อนให้ ขณะให้ ก็ยินดีอยู่ แต่พอมารู้ภายหลังว่า เช่น เสียดาย หรือ รู้ว่าเป็นโจรไม่น่าให้เลย อันนี้ก็ผลบุญลดหลั่นตามกันไปครับ
- เจตนาในการให้ คือ ถ้ามีเจตนาเป็นบุญกุศลแรง ก็ยิ่งได้ผลบุญมากครับ

2. ของที่ให้
- ความบริสุทธิ์ ถ้าของที่ให้นั้นได้มาโดย บริสุทธิ์ เช่น ไม่ได้ไปขโมยมา หรือ ไม่ได้ไปเล่นการพนันมา คือ ของยิ่งบริสุทธิ์ก็ยิ่งได้บุญมากครับ เช่นกรณี ที่ยายแฟงแม่เล้าในสมัยรัชกาลที่ 5 สร้างวัดคณิกาผล จากเงินที่ได้จากการทำธุรกิจซ่อง สมเด็จพระพุทธาจารย์(โต) กล่าวว่า ได้ผลบุญแค่สลึงเฟื้อง เดียว เพราะเงินที่ได้มาไม่บริสุทธิ์ เพราะได้มาจากการประกอบ มิจฉาอาชีพ คือ ค้ามนุษย์
- ปริมาณ ก็มีส่วนสำคัญครับ ยิ่งมากก็ได้บุญมากขึ้น แต่สำคัญสู้เจตนาไม่ได้ครับ ถ้ามีเจตนามาก ถึงแม้จะให้น้อยตามกำลังของตน ก็อาจได้บุญมากกว่า เศรษฐีที่ให้มากแต่ สักแต่ว่าให้ครับ

3. ผู้รับ
ถ้าผู้รับมีศีลบริสุทธิ์ หรือ เป็นพระผู้ปฏิบัติดี-ชอบ ก็ยิ่งได้บุญมากครับ

ส่วนการจะรู้ได้อย่างไรว่าเป็นพระผู้ปฏิบัติดี ปฏิบัติชอบ ก็คงต้องดูจากพฤติกรรม ภายนอกของท่านน่ะครับ ว่ามีประวัติเสียไหม ด่างพร้อยตรงไหนหรือ ไม่ กิริยาท่าทาง สุขุม เรียบร้อย หรือ ไม่ เป็นต้น ครับ

แต่อย่าลืมนะครับ ว่าผลบุญมากน้อยไม่ได้เกิดจากผู้รับอย่างเดียว
เจริญในธรรมครับ
^__^
​

</TD></TR><TR><TD colSpan=2> จากคุณ : รณจักร [ 29 มี.ค. 2545 / 21:51:13 น. ] [SIZE=-1]
[ IP Address : 161.200.129.61 ][/SIZE] </TD></TR></TBODY></TABLE>

ความเห็นอื่นๆ ลองอ่านดูในกระทู้นะครับ
.

 

ที่มา http://www.matichon.co.th/matichon/...g=01lad10010550&day=2007/05/01&sectionid=0115

วันที่ 01 พฤษภาคม พ.ศ. 2550 ปีที่ 30 ฉบับที่ 10643​

แก๊งมิจฉาชีพในห้าง

คอลัมน์ ภัยสังคม



แฟนคอลัมน์ "ภัยสังคม" โทรศัพท์สายตรงมายังสำนักพิมพ์ แจ้งเหตุที่เกิดกับตัวเองเพื่อเป็นอุทาหรณ์ให้กับทุกๆ คนที่มักจับจ่ายสินค้าในห้างสรรพสินค้าแบบซุปเปอร์มาร์เก็ต

ผู้หญิงเจ้าของเรื่องเริ่มเล่าว่า เมื่อวันศุกร์ที่ 20 เมษายนที่ผ่านมา เดินทางไปซื้อของที่ห้างบิ๊กซี สาขาแจ้งวัฒนะ ซึ่งเป็นสาขาที่อยู่ใกล้บ้าน หลังจากเลือกสินค้าในแผนกซุปเปอร์มาร์เก็ตชั้น 1 เรียบร้อยแล้ว เธอจึงขึ้นไปยังแผนกของใช้ที่ชั้น 2 เข็นรถเข็นสำหรับใส่ของใช้ต่างๆ ตามปกติ เมื่อได้ของเป็นที่ต้องการแล้ว จึงเข็นรถไปที่แคชเชียร์ ชำระเงิน แต่มีสินค้าอยู่ชิ้นหนึ่งอยู่ในกระบะลดราคา ซึ่งไม่มีบาร์โค้ด ด้วยความเกรงใจเพราะมีคนต่อคิวชำระเงิน จึงชำระเงินแล้วฝากของไว้ที่แคชเชียร์ แล้วเดินไปพร้อมกับพนักงานแคชเชียร์เพื่อตรวจสอบราคาที่ถูกต้อง จะได้ไม่เกิดปัญหา พร้อมกับรถเข็นคันใหม่ เพื่อซื้อของในกระบะนั้นเพิ่ม ระหว่างที่เธอกำลังเอี้ยวตัวคุยกับพนักงาน ที่กระบะสินค้าลดราคา หันมาอีกทีกระเป๋าสะพายที่เธอวางไว้บนรถเข็นอันตรธานหายไปเสียแล้ว

ผู้เสียหายเล่าต่อด้วยว่า ปกติแล้วเธอเป็นคนระมัดระวังตัวอยู่เสมอ ทุกครั้งที่มาจับจ่ายซื้อของก็จะสะพายกระเป๋าไว้กับตัวเสมอ แต่ครั้งนี้เธอชะล่าใจคิดว่าวางแป๊บเดียว ไม่น่ามีปัญหา แต่ก็เกิดปัญหาจนได้

หลังจากที่รู้ว่ามีคน "ฉก" กระเป๋า เธอตะโกนขอให้เจ้าหน้าที่ช่วยตรวจดู และขอดูภาพวงจรปิด ซึ่งพบว่า คนร้ายเป็นผู้หญิงวัยกลางคนประมาณ 45-50 ปี ลักษณะท้วมๆ เหมือนแม่บ้านทั่วไป สะพายกระเป๋าใบใหญ่มากๆ ซึ่งสะกดรอยตามเธอมาตั้งแต่อยู่ชั้น 1 แล้ว เมื่อเห็น "เหยื่อ" เผลอจึงฉกกระเป๋า พร้อมกับเดินเลี่ยงกล้องวงจรปิดไปยังแผนกชุดชั้นในสตรี แล้วเดินออกทางด้านหลังลงบันไดเลื่อนแล้วออกจากห้าง

ปฏิบัติการครั้งนี้ใช้เวลาเพียงแค่ 3.4 วินาทีเท่านั้น

ผู้หญิงคนนี้ฝากเตือนด้วยว่า ผู้ร้ายลักษณะนี้ต้องระวังให้มาก เพราะทำเป็นอาชีพ รู้มุมกล้องวงจรปิดทุกทาง เมื่อถึงจุดกล้องจะจับใบหน้า จะใช้มือเสยผม หรือเอามือบังหน้าทุกครั้ง และจะมีการแปลงโฉมด้วย คือ เข้ามาในห้างผมจะยุ่งปิดหน้า จากนั้นจะเข้าห้องน้ำ รวบผม เปลี่ยนเสื้อผ้า เป็นอีกคนหนึ่ง แล้วเข็นรถเข็นไปเรื่อยๆ มองหาเหยื่อหลายๆ คน หากใครชะล่าใจหรือเผลอ ก็จะลงมือ

สังคมทุกวันนี้ "ห้าม" เผลอแม้แต่วินาทีเดียว



#พบเหตุการณ์ที่เป็นภัยต่อเด็ก สตรีและครอบครัว โทร.มาแจ้งที่ 0-2589-0020 ต่อ 1441 หรือส่งมาที่ family@mitichon.co.th#

 

ระเบียบปฏิบัติของชาวพุทธ เรื่องการประกอบพิธีศพ<O</O

พระธรรมวโรดม ( บุญมา คุณสมปนโน ปธ. ๙ ) ผู้เขียน<O</O

วัดเบญจมบพิตรดุสิตวนาราม กรุงเทพฯ<O</O

( จากหนังสือพุทธคุณ ฉบับที่ ๕๕ วันที่ ๑๐ มิถุนายน - ๑๐ กรกฎาคม ๒๕๔๓ )<O</O​

<O</O

ระเบียบปฏิบัติการจัดพิธีศพ<O</O

วิธีปฏิบัติเบื้องต้นเกี่ยวกับศพ<O</O

คนตายโรคธรรมดา ผู้เกี่ยวกับศพนิยมใช้ผ้าคลุมศพตั้งแต่ศีรษะตลอดเท้า ถ้าศพอยู่ภายในห้องก็ปิดประตูเสีย ถ้าศพอยู่ห้องโถงนิยมกางมุ้งครอบไว้<O></O>
คนตายด้วยโรคติดต่ออันตราย หรือตายด้วยอุบัติเหตุ หรือถูกฆาตกรรมนิยมไม่แตะต้อง หรือเคลื่อนย้ายศพ เพื่อเปิดโอกาสให้แพทย์หรือตำรวจได้ทำการตรวจโรค หรือชันสูตรศพก่อน ซึ่งจะเป็นประโยชน์ด้วยกันทุกฝ่าย<O</O
<O</O

วิธีปฏิบัติการแจ้งขอมรณบัตร<O</O​

ตามพระราชบัญญัติทะเบียนราษฎร์ พ.ศ. ๒๔๙๙ มาตรา ๑๔ เมื่อมีคนตาย ให้แจ้งดังต่อไปนี้<O</O
ก. คนตายในบ้าน ให้เจ้าบ้านแจ้งต่อนายทะเบียนผู้รับแจ้งแห่งท้องที่ที่มีคนตายภายใน ๒๔ ชั่วโมงนับแต่เวลาตาย ในกรณีที่ไม่มีเจ้าบ้าน ให้ผู้พบศพแจ้งความในวรรคก่อน นับแต่เวลาพบศพ<O</O
ข. คนตายนอกบ้าน ให้บุคคลที่ไปกับผู้ตาย หรือผู้พบศพแจ้งต่อนายทะเบียนผู้รับแจ้งแห่งท้องที่ที่ตาย หรือพบศพ แล้วแต่กรณี หรือแห่งท้องที่ที่จะเพิ่งแจ้งได้ในโอกาสแรกภายใน ๒๔ ชั่วโมงนับแต่เวลาตาย หรือพบศพ ในกรณีเช่นนี้ จะแจ้งต่อเจ้าพนักงานฝ่ายปกครองหรือตำรวจที่สะดวกกว่าก็ได้ ฯลฯ<O</O
<O> </O>
ตามพระราชบัญญัตินี้ นิยมปฏิบัติดังนี้<O</O
๑. เมื่อมีคนตายในบ้าน เจ้าของบ้านหรือผู้แทนเจ้าของบ้านต้องไปแจ้งการตาย ขอมรณบัตรต่อนายทะเบียนผู้รับแจ้ง คือในเขตเทศบาลแจ้งต่อนายทะเบียนท้องถิ่น นอกเขตเทศบาลแจ้งต่อนายทะเบียนตำบล คือกำนัน และต้องแจ้งภายใน ๒๔ ชั่วโมงนับแต่เวลาตาย<O</O
๒. คนตายนอกบ้าน บุคคลที่ไปกับผู้ตาย หรือผู้พบศพต้องแจ้งต่อนายทะเบียนท้องที่ที่ตาย หรือจะแจ้งแก่พนักงานฝ่ายปกครอง หรือตำรวจท้องที่นั้นก็ได้ และต้องแจ้งภายใน ๒๔ ชั่วโมงหรือนับแต่เวลาตายหรือเวลาพบศพเป็นต้นไป<O</O
<O</O

การขอพระราชทานน้ำอาบศพและเครื่องประกอบเกียรติยศ<O</O​

ผู้ถึงแก่กรรมมีสิทธิขอรับพระราชทานน้ำอาบศพ เครื่องประกอบเกียรติศพ และขอพระราชทานเพลิงศพ ดังต่อไปนี้<O</O
๑. พระสงฆ์ทรงสมณศักดิ์ตั้งแต่พระครูฐานานุกรมขึ้นไป<O</O
๒. พระบรมวงศานุวงศ์ ตั้งแต่หม่อมเจ้าขึ้นไป<O</O
๓. ผู้ที่ได้รับพระราชทานบรรดาศักดิ์รองเสวกตรี หรือรองอำมาตย์ตรีขึ้นไป<O</O
๔. ข้าราชการพลเรือนชั้นตรีขึ้นไป<O</O
๕. ข้าราชการฝ่ายพลทหาร และตำรวจ ยศชั้นร้อยตรี เรือตรี ร้อยตำรวจตรีขึ้นไป<O</O
๖. สมาชิกกองอาสารักษาดินแดนที่ได้รับพระราชทานยศ ตั้งแต่ชั้นนายหมวดขึ้นไป<O</O
๗. ผู้ที่ได้รับพระราชทานราชอิสริยาภรณ์ ตั้งแต่ชั้นเบญมาภรณ์มงกุฏไทย หรือ ตติยจุลจอมเกล้า หรือ จตุตถจุลจอมเกล้าขึ้นไป<O</O
๘. ผู้ได้รับพระราชทานราชอิสริยาภรณ์เหรียญรัตนาภรณ์รัชกาลปัจจุบัน<O</O
๙. พนักงานเทศบาลตรีขึ้นไป<O</O
๑๐. สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร สมาชิกวุฒิสภา สมาชิกสภาเทศบาล ที่ถึงแก่กรรมในขณะดำรงตำแหน่ง<O</O
๑๑. รัฐมนตรี ที่ถึงแก่กรรมในขณะดำรงตำแหน่ง<O</O
๑๒. ผู้ที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ เป็นกรณีพิเศษ<O</O
๑๒.๑ ผู้ที่เคยเป็นสมาชิกผู้แทนราษฎร สมาชิกวุฒิสภา สมาชิกสภาจังหวัด สมาชิกสภาเทศบาล หรือ รัฐมนตรีถึงแก่กรรมเมื่อพ้นตำแหน่งแล้ว หากได้รับพระราชทานราชอิสริยาภรณ์ดังกล่าวแล้ว ก็มีสิทธิ์ขอพระราชทานน้ำอาบศพ เครื่องประกอบเกียรติศพ และขอพระราชทานเพลิงศพได้<O</O
๑๒.๒ ในการที่จะขอพระราชทานนี้ มีข้อแม้ว่า ผู้ถึงแก่กรรมนั้น จะต้องถึงแก่กรรมโดยไม่ใช่อัตวินิบาตกรรม ( คือการฆ่าตัวตาย )<O</O
<O</O

วิธีขอพระราชทานน้ำอาบศพ และเครื่องประกอบเกียรติศพ<O</O​

ผู้เกี่ยวข้องกับผู้ถึงแก่กรรมนั้น ประสงค์จะขอพระราชทานน้ำอาบศพ และเครื่องประกอบเกียรติศพ จะต้องปฏิบัติดังนี้<O</O
๑. จัดดอกไม้ธูปเทียน ( คือ ดอกไม้ 1 กระทง ธูปไม้ระกำ 1 ดอก เทียนขี้ผึ้ง 1 เล่ม ) วางบนพานพร้อมกับหนังสือกราบถวายบังคมลาตาย และใบมรณบัตร นำไปยังแผนกพระราชพิธี สำนักพระราชวัง ในพระบรมมหาราชวัง โดยนำพานเครื่องสักการะพร้อมกับหนังสือกราบถวายบังคมลาตายนี้ วางไว้ที่ข้างหน้าพระบรมฉายาทิศลักษณ์ ( คือ พระบรมรูปของในหลวงรัชกาลปัจจุบัน ) แล้วถวายความเคารพพระบรมฉายาสาทิศลักษณ์<O</O
๒. เจ้าหน้าที่แผนกพระราชพิธีจะสอบถามรายละเอียดต่างๆ แล้ว ให้กรอกข้อความลงในแบบพิมพ์เป็นอันเสร็จพิธีขอพระราชทานเพียงนี้<O</O
๓. หนังสือขอพระราชทานถวายบังคมลาตายนี้ ไม่ต้องลงนาม<O</O
<O</O

***********************************************
แบบหนังสือขอพระราชทานกราบถวายบังคมลาตาย<O</O​

<O</O
วันที่ ... เดือน .................... พ.ศ. ....<O</O
ขอเดชะฝ่าละอองธุลีพระบาทปกเกล้าปกกระหม่อม<O</O
ดอกไม้ธูปเทียนของข้าพระพุทธเจ้า ..................................... ( ชื่อผู้ถึงแก่กรรม )<O</O
.................... เครื่องอิสริยาภรณ์ อายุ .... ปี ข้าราชการ ...........................ชั้น.............<O</O
สังกัด .......................................................................<O</O
ขอพระราชทานกราบถวายบังคมลาตาย...........................................................<O</O
ด้วยโรค.................ที่.....................................อำเภอ....................จังหวัด .....................<O</O
เมื่อวันที่ ..... เดือน .................... พ.ศ. .... เวลา .................<O</O
ควรมิควรสุดแล้วแต่จะทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ ขอเดชะ<O</O
<O</O

<O</O
<O</O

**************************************************
การกำหนดการรับพระราชทานน้ำอาบศพ<O</O​

......................................................... ( ใส่นามผู้ตายพร้อมทั้งเครื่องราชอิสริยาภรณ์ )<O</O
ได้ถึงแก่กรรมด้วยโรค ................................... เมื่อวันที่..... เดือน ............... พ.ศ..... เวลา ........ น.<O</O
กำหนดการรับพระราชทานน้ำอาบศพ วันที่..... เดือน ............... พ.ศ..... เวลา ........ น. ณ ............................................................<O</O

......................................... ( เจ้าภาพ )<O</O​

*******************************************************

ไว้มาต่อกัน ยังไม่จบครับ
.<O</O

 

การที่ผมนำบทความต่างๆ มาลงในกระทู้นี้นั้น ผมมีความประสงค์ที่จะได้ให้ความรู้ต่างๆเป็นธรรมทาน นอกจากจะได้ร่วมบุญกันไม่ว่าจะเป็นการสร้างพระเจดีย์ศรีชัยผาผึ้ง หรือการร่วมทำบุญกับ สนส.บ่อเงินบ่อทอง ก็ยังได้ความรู้ต่างๆเพื่อการดำรงชีวิตของท่าน(แม้เพียงเล็กน้อยก็ยังดี) ที่ได้เข้ามาอ่านในกระทู้นี้

หากท่านใดมีความรู้ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของธรรมะ หรือความรู้ต่างๆที่สามารถนำไปใช้ในชีวิตประจำวันได้ หากจะนำมาลงในกระทู้นี้ ผมมีความยินดีเป็นอย่างมากครับ

โมทนาสาธุครับ

.

 

สำหรับพระพิมพ์ชุดพิเศษ 3 ซึ่งได้รับความเมตตาจากองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระนามกุกุธสันโธ ,หลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรทั้ง 5 พระองค์ และสมเด็จพระพุฒาจารย์โต พรหมรังสี อธิษฐานจิตนั้น ต้องแยกออกจากพระพิมพ์ทั่วๆไป และต้องแยกออกจากพระพิมพ์ของวังหน้าหรือวังหลวง ต้องบูชาในที่สูง หากจะห้อยพระพิมพ์ชุดพิเศษ 3 ต้องปฏิบัติตนให้อยู่ในศีลธรรมอันดี ที่สำคัญให้ระวังเรื่องการปรามาสให้จงหนักด้วยครับ

 

ยอดคงเหลือพระพิมพ์ครับ

 

พระนามพระพุทธเจ้า กุกกุสันโธ น่าจะเป็นคำที่ถูกต้องครับ ผมไปค้นในเวปพระไตรปิฏกมาดังนี้ครับ..

<CENTER>พระไตรปิฎก เล่มที่ ๓๓ พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๒๕
ขุททกนิกาย อปทาน ภาค ๒ -พุทธวังสะ-จริยาปิฎก</CENTER><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="90%" align=center background="" border=0><TBODY><TR><TD></TD><TR><TD width="100%" bgColor=darkblue hspace="0" vspace="0"></TD></TR></TBODY></TABLE>

<CENTER></CENTER><CENTER>กุกกุสันธพุทธวงศ์ที่ ๒๒</CENTER><CENTER>ว่าด้วยพระประวัติพระกกุสันธพุทธเจ้า</CENTER> [๒๓] สมัยต่อมาจากพระเวสสภูพุทธเจ้า มีพระสัมพุทธเจ้าผู้อุดมกว่าสัตว์ พระนามว่า กุกกุสันธะ มีพระคุณประมาณมิได้ยากที่จะเทียมถึง ทรงเพิกภพทั้งปวง ถึงที่สุดแห่งจริยา ทรงทำลายกิเลสดังราชสีห์ทำ ลายกรงแล้ว ทรงบรรลุสัมโพธิญาณอันอุดม เมื่อพระกุกกุสันธะ พุทธเจ้าผู้เป็นนายกของโลก ทรงประกาศพระธรรมจักร ธรรมาภิสมัย ครั้งที่ ๑ ได้มีแก่สัตว์สี่หมื่นโกฏิ ในคราวเมื่อพระองค์ทรงแผลงฤทธิ์ กระทำยมกปาฏิหาริย์ในอากาศ พระองค์ทรงยังเทวดาและมนุษย์ให้ ตรัสรู้สามหมื่นโกฏิ ในคราวเมื่อทรงประกาศจตุราริยสัจ แก่มนุษย์ เทวดาและยักษ์ ธรรมาภิสมัยครั้งนั้น จะคำนวณนับมิได้ พระผู้มี พระภาคกุกกุสันธะ ทรงมีการประชุมพระภิกษุขีณาสพผู้ปราศจาก มนทิน ผู้มีจิตสงบระงับ ผู้คงที่ ครั้งเดียวในกาลนั้น พระภิกษุขีณาสพ ผู้บรรลุถึงภูมิที่ฝึกแล้ว เพราะสิ้นกิเลสเหตุให้เป็นหมู่คณะมีอาสวะ เป็นต้น มาประชุมกันสี่หมื่น สมัยนั้น เราเป็นกษัตริย์ มีพระนามว่า เขมะ เราได้ถวายทานมิใช่น้อยแด่พระตถาคตและพระสาวก เรา ถวายบาตร จีวร ยาหยอดตา ชะเอมเครือ เราถวายของดีๆ ทุกอย่าง ตามที่ภิกษุสงฆ์ปรารถนา แม้พระมุนีกุกกุสันธะผู้เป็นนายกชั้นพิเศษ

--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------หน้าที่ ๓๕๘.​

พระองค์นั้น ก็ทรงพยากรณ์เราว่าในภัทรกัปนี้ ผู้นี้จักได้เป็นพระ พุทธเจ้าในโลก ....... ข้ามแม่น้ำใหญ่ ฉะนั้น เราได้ฟังพระพุทธ พยากรณ์แม้นั้นแล้ว ก็ยังจิตให้เลื่อมใสอย่างยิ่ง เราอธิษฐานวัตร ในการบำเพ็ญบารมี ๑๐ ประการยิ่งขึ้น นครชื่อว่าเขมวดี ในกาลนั้น เรามีชื่อว่าเขมะ เมื่อแสวงหาพระสัพพัญญุตญาณจึงออกบวชใน สำนักของพระองค์ พราหมณ์นามว่าอัคคิทัตตะเป็นพุทธบิดา นางพราหมณีชื่อว่าวิสาขา เป็นพุทธมารดา ตระกูลใหญ่ของพระ- สัมพุทธเจ้าเป็นตระกูลที่ประเสริฐสุดกว่าตระกูลอื่นๆ มีชาติสูง มียศมาก อยู่ในเขมนครนั้น พระองค์ครอบครองอาคารสถานอยู่ สี่พันปี มีปราสาทอันประเสริฐ ๓ ปราสาท ชื่อกามวัฑฒะ กามสุทธิ และรติวัฑฒนะ มีนางสาวนารีสามหมื่นนาง บุตรชายนามว่าอุตระ พระพิชิตมารทรงเห็นนิมิต ๔ ประการ จึงออกผนวชด้วยรถอันเป็น ยานพาหนะ บำเพ็ญเพียรอยู่ ๘ เดือนเต็ม พระกุกกุสันธมหาวีรเจ้า ผู้อุดมกว่านรชน ทรงประกาศพระธรรมจักรที่มฤคทายวัน ทรงมี พระวิธุรเถระและพระสัญชีวนามเถระเป็นพระอัครสาวก พระเถระ ชื่อว่าพุทธิชะเป็นพระพุทธอุปัฏฐาก พระสามาเถรีและพระจัมปนามา เถรีเป็นพระอัครสาวิกา ไม้โพธิพฤกษ์ของพระองค์เรียกชื่อว่าไม้ซึก อัจจุคตอุบาสก และสุมนอุบาสกเป็นอัครอุปัฏฐาก นันทาอุบาสิกา และสุนันทาอุบาสิกา เป็นอัครอุปัฏฐายิกา พระมหามุนีมีพระองค์ สูง ๔๐ ศอก พระรัศมีสีเปล่งปลั่งดังทองคำ เปล่งออกไป ๑๐ โยชน์ โดยรอบ พระองค์มีพระชนมายุสี่หมื่นปี เมื่อทรงดำรงอยู่เท่านั้น ทรงช่วยให้ประชุมชนข้ามพ้นวัฏสงสารได้มากมาย ทรงแจกจ่าย ตลาดธรรมให้แก่บุรุษและสตรี ทรงบันลือสีหนาทในโลกพร้อมทั้ง เทวโลกแล้ว เสด็จนิพพานพร้อมด้วยพระสาวก พระองค์ ทรงถึง

--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------หน้าที่ ๓๕๙.​

พร้อมด้วยพระดำรัสมีองค์ ๘ ไม่มีช่องเนืองนิตย์ ทุกอย่างหายไป หมดแล้ว สังขารทั้งปวงว่างเปล่าหนอ พระกุกกุสันธชินเจ้าผู้ ประเสริฐเสด็จนิพพานที่เขมาราม พระสถูปอันประเสริฐของ พระองค์สูงคาวุตหนึ่ง ประดิษฐานอยู่ ณ เขมารามนั้น ฉะนี้แล.<CENTER>จบกุกกุสันธพุทธวงศ์ที่ ๒๒</CENTER>

เนื้อความพระไตรปิฎก เล่มที่ ๓๓ บรรทัดที่ ๘๓๔๗ - ๘๓๙๓. หน้าที่ ๓๕๗ - ๓๕๙.http://www.84000.org/tipitaka/read/v.php?B=33&A=8347&Z=8393&pagebreak=1 อ่านโดยใช้เครื่องหมาย [เลขข้อ] เป็น เกณฑ์แบ่งข้อ ที่ :-http://www.84000.org/tipitaka/read/byitem.php?book=33.2&item=23&items=1&preline=0&pagebreak=1&mode=[]
สารบัญพระไตรปิฎกเล่มที่ ๓๓http://www.84000.org/tipitaka/read/?สารบัญพระไตรปิฎกเล่มที่_๓๓</U>http://www.84000.org/tipitaka/pitaka_item/mean_reverse.php?text=33&Aindex=%CA%D2%C3%BA%D1%AD<CENTER></CENTER></PRE>

 

โมทนาสาธุครับคุณเพชร

.

 

เรื่องราวต่างๆในพระพุทธศาสนานั้น เราควรจะยึดถือพระไตรปิฎกเป็นหลักสำคัญที่สุด และอีกประการหนึ่งก็คือ สิ่งใดที่เราไม่รู้ ไม่ใช่ว่าไม่มี เราเองอาจจะรู้ไม่หมด จึงต้องศึกษากันไปตลอดชีวิต

หากสิ่งใดเรื่องใดที่เรารู้จริงแล้วก็สามารถนำมาเผยแพร่ให้บุคคลอื่นๆที่ไม่รู้ได้รู้กัน จะเป็นการดี แต่ว่าขึ้นอยู่กับวาสนาบารมีของแต่ละคนด้วย

โมทนาสาธุครับ
.

 

ได้รับพระแล้วครับ พระสมเด็จวังหน้าเนื้อขาว ๒ องค์ครับ

 

สำหรับเรื่องหนังสือประวัติหลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดร ซึ่งท่านอาจารย์ประถม อาจสาครเป็นผู้เขียนนั้น คงได้ข้อสรุปกันในสัปดาห์หน้าครับ

ส่วนผู้ที่มีสิทธิในการจองนั้น ต้องเป็นผู้ที่ร่วมบุญสร้างพระเจดีย์ศรีชัยผาผึ้งเท่านั้น และผมเป็นผู้ที่สงวนสิทธิ์ในการรับจองหรือไม่รับจอง ผมไม่ต้องการให้หนังสือนี้ ตกไปอยู่ในมือคนที่ไม่ดี กลุ่มคนที่ปลอมแปลงพระ หรืออาจจะนำไปเป็นสิ่งที่การันตีพระของตนเอง รวมทั้งหาผลประโยชน์จากหนังสือเล่มนี้ทั้งทางตรงและทางอ้อมครับ

.

 

วันนี้ลุงเม้าได้มารับล็อคเก็ตหลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรกับผมแล้ว ลุงเม้าลองอาราธนาขอชมพระบารมีแป๊บเดียว บอกว่าแรงมากๆ แค่ผงด้านหลังอย่างเดียวก็เหลือกินเหลือใช้แล้วครับ ผงราชวรมันต์อายุผงเป็นพันปี

ผมขอขอบพระคุณท่านอาจารย์ประถม อาจสาครเป็นอย่างสูงที่ท่านได้มอบผงนี้เพื่อเป็นมวลสารในการสร้างล็อคเก็ตและมอบพระปรกใบมะขามหลวงปู่ม่น (วัดเนินตามาก ชลบุรี) อีกทั้งขอขอบพระคุณทุกๆท่าน(คุณนายสติ ,คุณเพชร ,พี่แอ๊ว ,น้องชา ,พี่ตุ่น ,คุณพันวฤทธิ์ และท่านอื่นๆที่ไม่ได้เอ่ยนาม) ที่สำคัญที่สุดก็คือพี่จิ๋ว(ลูกชายท่านอาจารย์ประถม อาจสาคร เป็นผู้ที่ผสมผงคลุกรักและปิดหลังล็อคเก็ต)และอาจารย์จเร (แห่งบ้านดวงธรรม ที่ได้ช่วยเหลือในการสร้างล็อคเก็ต) ที่ได้มีส่วนร่วมในการจัดสร้างล็อคเก็ตนี้ครับ

 

อ่านแล้ว อยากบูชา ล็อคเก็ตหลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดร
เหลือเกินครับ

 

ระเบียบปฏิบัติของชาวพุทธ เรื่องการประกอบพิธีศพ (จบครับ)

พระธรรมวโรดม ( บุญมา คุณสมปนโน ปธ. ๙ ) ผู้เขียน<O</O


วัดเบญจมบพิตรดุสิตวนาราม กรุงเทพฯ<O</O

( จากหนังสือพุทธคุณ ฉบับที่ ๕๕ วันที่ ๑๐ มิถุนายน - ๑๐ กรกฎาคม ๒๕๔๓ )<O</O​

การพิมพ์การ์ดกำหนดการรดน้ำศพ<O</O​

ถ้าผู้ตายเป็นผู้ใหญ่ หรือเป็นผู้มีชื่อเสียงปรากฎในสังคม นิยมพิมพ์การ์ดและลงประกาศแจ้งความทางสื่อสารมวลชน ซึ่งมีข้อความเพียงสั้นๆ ดังนี้<O</O
หมายเหตุ คำว่า

 

ล็อคเก็ตอีกส่วนหนึ่ง ด้านหลังจะเป็นพระสมเด็จปัญจสิริจิ๋ว(ได้ผ่านพิธีพุทธาภิเษก เชิญพระสิวลีเถระเจ้า , พระอนุรุทเถระเจ้า ,พระอุปคุตเถระเจ้า และหลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรทั้ง 5 พระองค์) ประมาณ 58 องค์ ซึ่งน้อยกว่าด้านหลังที่ติดพระนาคปรกหลวงปู่ม่น วัดเนินตามาก ส่วนอีก 5 องค์นั้น ผมได้ติดหลวงพ่อเงิน วัดบางคลานพิมพ์จอบเล็ก อีก 5 องค์ ผมใช้ผงพระวังหน้าและพระธาตุพระสิวลี( 5 องค์นี้ อ.จเร เป็นผู้ติดผงให้)ครับ

.

 

ขอเชิญร่วมสร้างพระเจดีย์ศรีชัยผาผึ้ง ณ สำนักสงฆ์ผาผึ้ง อ.บ้านเขว้า จ.ชัยภูมิบมจ.ธนาคารกรุงไทย สาขาลาดพร้าว 102 บัญชีออมทรัพย์เลขที่ 189-0-13128-8 ชื่อบัญชี นางพิชญ์สินี ชาญปารีชญา ,นายอุเทน งามศิริ ,นายสิรเชษฏ์ ลีละสุนทเลิศ


พระพิมพ์ชุดพิเศษ 2 องค์ผู้อธิษฐานจิต พระสิวลีเถระเจ้า ,พระอนุรุทเถระเจ้า,พระอุปคุตเถระเจ้าและหลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดร อธิษฐานจิตให้ ส่วนองค์ผู้อธิษฐานจิตเดิม ผมไม่แจ้งให้ทราบ เนื่องจากองค์ผู้อธิษฐานจิตใหม่ พลังองค์ผู้อธิษฐานจิตใหม่คลุมพลังองค์ผู้อธิษฐานจิตเดิมครับ

มีพระพิมพ์ 6 พิมพ์ดังนี้


<O</O
<O</O
1.พระสมเด็จวังหน้า เนื้อขาวลงชาด(รักสีแดง) ไม่ใช่เนื้อจูซาอั้ง (สีแดง) ปิดทองร่องชาด จำนวน 20 องค์ มอบพระพิมพ์ 1 องค์ให้กับผู้ร่วมทำบุญ 1,800 บาท

<O</O

2.พระสมเด็จวังหน้า เนื้อสีขาว ปิดทองร่องชาด จำนวน 20 องค์ มอบพระพิมพ์ 1 องค์ให้กับผู้ร่วมทำบุญ 1,500 บาท

<O</O

3.สมเด็จวังหน้า เนื้อปัญจศิริ จำนวน 30 องค์ มอบพระพิมพ์ 1 องค์ให้กับผู้ร่วมทำบุญ 1,300 บาท



<O</O
4.พระพิมพ์พุทธประวัติ เนื้อสีขาว จำนวน 15 องค์ มอบพระพิมพ์ 1 องค์ให้กับผู้ร่วมทำบุญ 1,200 บาท


<O</O
5.พระพิมพ์พุทธประวัติ เนื้อสีขาวแตกลายงา จำนวน 10 องค์ มอบพระพิมพ์ 1 องค์ให้กับผู้ร่วมทำบุญ 1,100 บาท



<O</O
6.พระพิมพ์ปิดตาวังหน้าสองหน้า จำนวน 30 องค์ มอบพระพิมพ์ 1 องค์ให้กับผู้ร่วมทำบุญ 1,000 บาท



เมื่อโอนแล้วแจ้งยอดเงินและชื่อที่อยู่เพื่อจัดส่งไว้ในกระทู้ หรือส่งข้อความส่วนตัวมาที่ผม แล้วผมจะจัดส่งให้ครับ

ยอดคงเหลือพระพิมพ์ ผมจะแจ้งให้ทราบในกระทู้เป็นระยะนะครับ

ขอขอบพระคุณและโมทนาสาธุกับทุกท่านที่เมตตาครับ

 

วันที่ 8 มีนาคม พ.ศ.2550
พระพิมพ์ชุดใหม่ที่จะมอบให้กับผู้ร่วมทำบุญสร้างพระเจดีย์ศรีชัยผาผึ้ง ณ สำนักสงฆ์ผาผึ้ง อ.บ้านเขว้า จ.ชัยภูมิ ครับ
บมจ.ธนาคารกรุงไทย สาขาลาดพร้าว 102 บัญชีออมทรัพย์เลขที่ 189-0-13128-8 ชื่อบัญชี นางพิชญ์สินี ชาญปารีชญา ,นายอุเทน งามศิริ ,นายสิรเชษฏ์ ลีละสุนทเลิศ



1. พระพิมพ์สมเด็จปัญจสิริพิมพ์จิ๋ว ขนาด 1 x 1.50 ซม จำนวน 10 องค์ เสกโดยหลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดร
มอบให้ผู้ร่วมทำบุญ 800 บาท




2. พระพิมพ์สมเด็จต้นรังคู่ปัญจสิริ ขนาด 1.7 x 2.7 ซม เสกโดยหลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดร
มีจำนวน 10 องค์ มอบให้ผู้ร่วมทำบุญ 800 บาท
<O</O




3. พระพิมพ์อุ้มบาตรปัญจสิริสี่เหลี่ยม ขนาด 2 x 3.5 ซม เสกโดยหลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดร
มีจำนวน 5 องค์ มอบให้ผู้ร่วมทำบุญ 500 บาท
<O</O




4. พระพิมพ์อุ้มบาตรปัญจสิริสามเหลี่ยม ขนาด 2 x 3.5 ซม เสกโดยหลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดร
มีจำนวน 5 องค์ มอบให้ผู้ร่วมทำบุญ 500 บาท
<O</O




5. พระพิมพ์สมเด็จต้นรังคู่เนื้อขาวลงรักแดง ขนาด 2 x 3 ซม เสกโดยหลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดร
มีจำนวน 5 องค์ มอบให้ผู้ร่วมทำบุญ 500 บาท
<O</O




6. พระพิมพ์วัดพลับเนื้อขาว ขนาด 2 x 2.8 ซม เสกโดยหลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดร
มีจำนวน 10 องค์ มอบให้ผู้ร่วมทำบุญ 300 บาท
<O</O




7. พระพิมพ์สมเด็จจิ๋วเนื้อขาวลงรักน้ำเงิน ขนาด 1.7 x 2.4 ซม เสกโดยหลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดร
มีจำนวน 21 องค์ มอบให้ผู้ร่วมทำบุญ 500 บาท
<O</O




8. พระพิมพ์โสณะอุตระเนื้อปัญจสิริ ขนาด 1.8 x 2.8 ซม
มีจำนวน 5 องค์ มอบให้ผู้ร่วมทำบุญ 800 บาท




9. พระพิมพ์สมเด็จจิ๋วไกเซอร์เนื้อปัญจสิริ ขนาด 2 x 3.1 ซม เสกโดยหลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดร
มีจำนวน 15 องค์ มอบให้ผู้ร่วมทำบุญ 500 บาท
<O</O




10. พระพิมพ์สมเด็จสีเขียวก้านมะลิ ขนาด 2.4 x 3.6 ซม เสกโดยสมเด็จโต
มีจำนวน 7 องค์ มอบให้ผู้ร่วมทำบุญ 300 บาท




11. พระพิมพ์สมเด็จสีฟ้าอ่อน ขนาด 2.4 x 3.6 ซม เสกโดยสมเด็จโต
มีจำนวน 3 องค์ มอบให้ผู้ร่วมทำบุญ 300 บาท
<O</O




12. พระพิมพ์หลวงพ่อเงินเนื้อขาว ขนาด 2.9 x 2.5 ซม
มอบให้ผู้ร่วมทำบุญ 500 บาท มีจำนวน 10 องค์
<O</O






เมื่อร่วมบุญและโอนเงินแล้ว ขอความกรุณาแจ้งให้ผมทราบด้วย ผมจะเป็นผู้ส่งพระพิมพ์และวัตถุมงคลให้ครับ

<!-- / message --><!-- sig -->

 

จากกระทู้ขอเชิญร่วมสร้างพระเจดีย์ศรีชัยผาผึ้ง ณ สำนักสงฆ์ผาผึ้ง อ.บ้านเขว้า จ.ชัยภูมิ
บมจ.ธนาคารกรุงไทย สาขาลาดพร้าว 102 บัญชีออมทรัพย์เลขที่ 189-0-13128-8 ชื่อบัญชี นางพิชญ์สินี ชาญปารีชญา ,นายอุเทน งามศิริ ,นายสิรเชษฏ์ ลีละสุนทเลิศ

พระพิมพ์ชุดพิเศษ 3<O</O
<O</O

ได้รับพระเมตตา,พระกรุณา และขอพระบารมีองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระนามกุกุธสันโธ ,หลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรทั้ง 5 พระองค์ และสมเด็จพระพุฒาจารย์โต พรหมรังสี อธิษฐานจิตพระพิมพ์ให้ (ส่วนองค์ผู้อธิษฐานจิตพระพิมพ์เดิม ผมขอสงวนสิทธิ์ไม่แจ้งให้ทราบครับ เนื่องจากองค์ผู้อธิษฐานจิตใหม่ พลังองค์ผู้อธิษฐานจิตใหม่คลุมพลังองค์ผู้อธิษฐานจิตเดิมครับ) พลังอิทธิคุณครอบจักรวาล<O</O
<O</O


ท่านใดที่บูชาไปแล้ว ขอให้แยกเก็บจากพระพิมพ์ทั่วๆไป และเก็บไว้ในที่สูง อีกเรื่องคือให้ระวังการปรามาสให้จงหนัก กรรมเร็วและแรงมากครับ<O</O

1.สมเด็จวังหน้า (เนื้อสีแดง)<O</O
มอบให้ผู้ร่วมทำบุญ 1 องค์ ร่วมทำบุญ 1,000 บาท
<O</O
<O</O

2.สมเด็จวังหน้า (เนื้อสีเหลือง)<O</O
มอบให้ผู้ร่วมทำบุญ 1 องค์ ร่วมทำบุญ 1,000 บาท
<O</O

3.สมเด็จวังหน้า (เนื้อสีชมพู)<O</O
มอบให้ผู้ร่วมทำบุญ 1 องค์ ร่วมทำบุญ 1,000 บาท
<O</O
<O</O

4.สมเด็จวังหน้า (เนื้อสีเขียว)<O</O
มอบให้ผู้ร่วมทำบุญ 1 องค์ ร่วมทำบุญ 1,000 บาท
<O</O
<O</O

5.สมเด็จวังหน้า (เนื้อสีน้ำเงิน)<O</O
มอบให้ผู้ร่วมทำบุญ 1 องค์ ร่วมทำบุญ 1,000 บาท
<O</O



6.พระจิตรดา (ด้านบนองค์ซ้าย) (เนื้อกรมท่า)<O</O
มอบให้ผู้ร่วมทำบุญ 1 องค์ ร่วมทำบุญ 800 บาท
<O</O
<O</O

7.พระจิตรดา (ด้านบนองค์ขวา) (เนื้อกรมท่า)<O</O
มอบให้ผู้ร่วมทำบุญ 1 องค์ ร่วมทำบุญ 800 บาท
<O</O
<O</O

8.พระพิมพ์ไตรโลกอุดร (เนื้อกรมท่า) ด้านล่างองค์ซ๊าย<O</O
มอบให้ผู้ร่วมทำบุญ 1 องค์ ร่วมทำบุญ 500 บาท
<O</O

9.สมเด็จวังหน้า (เนื้อสีขาว) ด้านล่างองค์กลางและองค์ขวา<O</O
มอบให้ผู้ร่วมทำบุญ 1 องค์ ร่วมทำบุญ 400 บาท
<O</O
<O</O



10.สมเด็จเจ้าคุณกรมท่า (รักสมุ รักพม่า สีน้ำเงิน)<O</O
มอบให้ผู้ร่วมทำบุญ 1 องค์ ร่วมทำบุญ 300 บาท
<O</O



11.สมเด็จเจ้าคุณกรมท่า (รักไทย สีดำ)<O</O
มอบให้ผู้ร่วมทำบุญ 1 องค์ ร่วมทำบุญ 300 บาท
<O</O
<O</O



12.สมเด็จเจ้าคุณกรมท่า (ชาด รักจีน สีแดง)<O</O
มอบให้ผู้ร่วมทำบุญ 1 องค์ ร่วมทำบุญ 300 บาท
<O</O



เมื่อโอนแล้วแจ้งยอดเงินและชื่อที่อยู่เพื่อจัดส่งไว้ในกระทู้ หรือส่งข้อความส่วนตัวมาที่ผม แล้วผมจะจัดส่งให้ครับ

ขอขอบพระคุณและโมทนาสาธุกับทุกท่านที่เมตตาครับ

ส่วนยอดคงเหลือพระพิมพ์ ผมจะแจ้งให้ทราบในกระทู้เป็นระยะนะครับ

โมทนาสาธุครับ
<!-- / message --><!-- sig -->