พระวังหน้า ที่หลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรเสก ถ้าต้องการที่จะได้.....

ในห้อง 'งานบุญอื่นๆ' ตั้งกระทู้โดย sithiphong, 23 ธันวาคม 2005.

  1. Settsan

    Settsan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    40
    ค่าพลัง:
    +341
    เรียนคุณ Sithiphong .คุณนักเดินทาง ,ท่านผู้รู้
    ผม เพิ่งเป็นสมาชิกใหม่ของweb นี่ไม่นาน ได้อ่านฺBoard ที่คุณมีความตั้งใจช่วยเหลือและส่งเสริมให้ผู้อื่นร่วมทำบุญสร้างบารมี รู้สึกศรัทธาเป็นอย่างยิ่ง วันนี้ผมได้ไปโอนเงินเข้าจำนวน 1000 บาท เพื่อเป็นกองทุนช่วยเหลือสามเณร และภิกษุ ส.น.ส บ่อเงินบ่อทอง และได้ไปบริจาคโลหิตเป็นครั้งแรกในชีวิต บังเอิญเลือดผมเป็นกรุ๊ป O ซึ่งน่าจะช่วยเหลือองค์กรที่ขาดแคลนได้ พร้อมกันนี้ได้นำแบบฟอร์มบริจาคอวัยวะร่างกายมากรอกรายละเอียดและหาพยานเซ็นกำกับ เพื่อสภากาชาดจะได้นำอวัยวะของผมไม่ว่าจะเป็น ปอด หัวใจ ม้าม ตับ ไต ไปใช้ให้เป็นประโยชน์ต่อผู้อื่นยามที่ผมเสียชีวิต ทั้งนี้สิ่งที่ผมทำผมก็มีจิตหวังว่ากุศลผลบุญที่ผมทำจะสามารถส่งไปถึงบิดา มารดา บรรพบุรุษ ผู้มีพระคุณ เทพเทวาที่ปกป้กรักษผม พระมหากษัตริย์ผู้ทำคุณให้กับประเทศชาติ รวมทั้งเจ้ากรรมนายเวร ที่ผมเคยล่วงเกินทั้งที่ระลึกได้และระลึกไม่ได้ ขอให้ทุกท่านได้รับผลบุญที่ผมได้ทำในภพนี้และภพที่ผ่านมา คุณSithipong ครับ ในชาตินี้ตั้งแต่เด็กจำความได้จนถึง อายุ 41 นี้ผมไม่เคยฆ่าสัตว์ใหญ่ไม่เคยเบียดบังสร้างความเดือดร้อนให้คนอื่น อีกทั้งหากมีโอกาศก็จะหมั่นทำบุญทำกุศล ให้ทาน ปล่อยชีวิตปลาที่จะถูกฆ่าในตลาด โดยเฉพาะปลายปี 2547 ก่อนเกิดสินามิ 1 วันได้ขอลาพักร้อนและสละสิทธิ์รางวัลการไปเที่ยวต่างประเทศ เพื่อนำวันหยุดรวบรวมไปใช้เพื่อลาบวช 40 วัน ระหว่างออกบวชก็ตั้งใจปฎิบัติโดยไปพำนักที่ที่วัดป่าแห่งหนึ่งที่อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่ ระหว่างเป็นพระก่อนไปที่วัดป่านั้น ได้ไปสอนการใช้คอมพิวเตอร์เบื้องต้นให้แก่เจ้าอาวาสวัดน้ำฮู อ.ปาย จ.แม่ฮ่องสอน 5 วัน จนท่านใช้คอมพิวเตอร์เป็น(วัดที่บรรจุพระอัฐของพระพี่นางสุพรรณกัลยา) เนื่องจากวัดดังกล่าวก่อนผมบวชผมเคยไปเที่ยวและพูดคุยกับว่าเจ้าอาวาสจึงทราบว่าท่านต้องมีหน้าที่สอนศาสนาพุทธให้แก่เด็กๆในหมู่บ้านในวันสุดสัปดาห์ แต่ขาดแคลนอุปกรณ์สื่อการสอน ผมจึงชักชวนเพื่อนร่วมกันซื้อคอมพิวเตอร์และสิ่งจำเป็นต่างๆถวายให้แก่วัดนั้นไว้ใช้งานเพื่อใช้เผยแพร่พระศาสนา ที่กล่าวมาทั้งหมดนี้ ผมเชื่อว่าบุญคงจะไปถึงยังทุกท่านที่ผมได้เอ่ยข้างต้น แต่ผมรู้สึกว่ากรรมเก่าผมคงหนักหนา ชีวิตผมตกต่ำลง ผมไม่มีความสุขในที่ทำงาน ถูกให้ร้าย ในที่สุดผมขอลาออก ผมทำคุณกับใครไม่ขึ้นทั้งให้การช่วยเหลือลูกน้องทั้งต่อหน้าและลับหลัง แต่จะได้ผลลัพธ์กลับมาคือการใส่ความผิดๆจากลูกน้อง ผู้บังคับบัญาชาไม่สนับสนุนเอ็นดู จนผมมาเปิดบริษัทร่วมกับเพื่อน เพื่อนก็ไม่ทำตามที่ตกลงปล่อยผมลอยแพ จนเงินออมผมหมดสิ้น พนักงานก็ไม่ช่วยเหลือในการงานทั้งที่ผมใจดีต่อพวกเขา ในที่สุดผมคงต้องปิดกิจการและไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรกับหนี้สินที่เกิดขึ้น จากผู้จัดการในบริษัท มหาชน เงินเดือน ห้าหมื่นบาทเศษ รถประจำตำแหน่ง เบี้ยเลี้ยงและสวัสดิการต่างๆ ที่เคยได้ ปัจจุบันนี้ผมหมดสิ้นทุกอย่าง ผมอยากปรึกษาว่าผมต้องทำอย่างไรถึงจะให้กรรมเก่าที่มีอยู่เบาบางลงได้ ทำอย่างไรเจ้ากรรมนายเวรถึงจะเบาบางลง ช่วยแนะนำผมด้วยครับ


    สำหรับพระที่คุณจะมอบให้แก่ผู้ที่บริจาคเลือด และบริจาคเงินให้แก่ สนส.บ่อเงินบ่อทอง ผมได้ส่งเมล์ไปที่กล่องข้อความส่วนตัวของคุณ Sithipong และคุณนักเดินทางแล้วครับ ขอให้คุณช่วยเลือกองค์ที่ท่านมีบารมีด้านโชคลาภ เงินทอง เพื่อขอบารมีท่านให้ผมชนะซึ่งความขัดสน และให้ผมเป็นที่เมตตาแก่บุคคลทั่วไป รวมทั้งเพื่อให้ผมได้มีบริวารที่ดีในอนาคต
     
  2. Settsan

    Settsan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    40
    ค่าพลัง:
    +341
    เรียนคุณ Sithiphong .คุณนักเดินทาง ,ท่านผู้รู้
    ผม เพิ่งเป็นสมาชิกใหม่ของweb นี่ไม่นาน ได้อ่านฺBoard ที่คุณมีความตั้งใจช่วยเหลือและส่งเสริมให้ผู้อื่นร่วมทำบุญสร้างบารมี รู้สึกศรัทธาเป็นอย่างยิ่ง วันนี้ผมได้ไปโอนเงินเข้าจำนวน 1000 บาท เพื่อเป็นกองทุนช่วยเหลือสามเณร และภิกษุ ส.น.ส บ่อเงินบ่อทอง และได้ไปบริจาคโลหิตเป็นครั้งแรกในชีวิต บังเอิญเลือดผมเป็นกรุ๊ป O ซึ่งน่าจะช่วยเหลือองค์กรที่ขาดแคลนได้ พร้อมกันนี้ได้นำแบบฟอร์มบริจาคอวัยวะร่างกายมากรอกรายละเอียดและหาพยานเซ็นกำกับ เพื่อสภากาชาดจะได้นำอวัยวะของผมไม่ว่าจะเป็น ปอด หัวใจ ม้าม ตับ ไต ไปใช้ให้เป็นประโยชน์ต่อผู้อื่นยามที่ผมเสียชีวิต ทั้งนี้สิ่งที่ผมทำผมก็มีจิตหวังว่ากุศลผลบุญที่ผมทำจะสามารถส่งไปถึงบิดา มารดา บรรพบุรุษ ผู้มีพระคุณ เทพเทวาที่ปกป้กรักษผม พระมหากษัตริย์ผู้ทำคุณให้กับประเทศชาติ รวมทั้งเจ้ากรรมนายเวร ที่ผมเคยล่วงเกินทั้งที่ระลึกได้และระลึกไม่ได้ ขอให้ทุกท่านได้รับผลบุญที่ผมได้ทำในภพนี้และภพที่ผ่านมา คุณSithipong ครับ ในชาตินี้ตั้งแต่เด็กจำความได้จนถึง อายุ 41 นี้ผมไม่เคยฆ่าสัตว์ใหญ่ไม่เคยเบียดบังสร้างความเดือดร้อนให้คนอื่น อีกทั้งหากมีโอกาศก็จะหมั่นทำบุญทำกุศล ให้ทาน ปล่อยชีวิตปลาที่จะถูกฆ่าในตลาด โดยเฉพาะปลายปี 2547 ก่อนเกิดสินามิ 1 วันได้ขอลาพักร้อนและสละสิทธิ์รางวัลการไปเที่ยวต่างประเทศ เพื่อนำวันหยุดรวบรวมไปใช้เพื่อลาบวช 40 วัน ระหว่างออกบวชก็ตั้งใจปฎิบัติโดยไปพำนักที่ที่วัดป่าแห่งหนึ่งที่อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่ ระหว่างเป็นพระก่อนไปที่วัดป่านั้น ได้ไปสอนการใช้คอมพิวเตอร์เบื้องต้นให้แก่เจ้าอาวาสวัดน้ำฮู อ.ปาย จ.แม่ฮ่องสอน 5 วัน จนท่านใช้คอมพิวเตอร์เป็น(วัดที่บรรจุพระอัฐของพระพี่นางสุพรรณกัลยา) เนื่องจากวัดดังกล่าวก่อนผมบวชผมเคยไปเที่ยวและพูดคุยกับว่าเจ้าอาวาสจึงทราบว่าท่านต้องมีหน้าที่สอนศาสนาพุทธให้แก่เด็กๆในหมู่บ้านในวันสุดสัปดาห์ แต่ขาดแคลนอุปกรณ์สื่อการสอน ผมจึงชักชวนเพื่อนร่วมกันซื้อคอมพิวเตอร์และสิ่งจำเป็นต่างๆถวายให้แก่วัดนั้นไว้ใช้งานเพื่อใช้เผยแพร่พระศาสนา ที่กล่าวมาทั้งหมดนี้ ผมเชื่อว่าบุญคงจะไปถึงยังทุกท่านที่ผมได้เอ่ยข้างต้น แต่ผมรู้สึกว่ากรรมเก่าผมคงหนักหนา ชีวิตผมตกต่ำลง ผมไม่มีความสุขในที่ทำงาน ถูกให้ร้าย ในที่สุดผมขอลาออก ผมทำคุณกับใครไม่ขึ้นทั้งให้การช่วยเหลือลูกน้องทั้งต่อหน้าและลับหลัง แต่จะได้ผลลัพธ์กลับมาคือการใส่ความผิดๆจากลูกน้อง ผู้บังคับบัญาชาไม่สนับสนุนเอ็นดู จนผมมาเปิดบริษัทร่วมกับเพื่อน เพื่อนก็ไม่ทำตามที่ตกลงปล่อยผมลอยแพ จนเงินออมผมหมดสิ้น พนักงานก็ไม่ช่วยเหลือในการงานทั้งที่ผมใจดีต่อพวกเขา ในที่สุดผมคงต้องปิดกิจการและไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรกับหนี้สินที่เกิดขึ้น จากผู้จัดการในบริษัท มหาชน เงินเดือน ห้าหมื่นบาทเศษ รถประจำตำแหน่ง เบี้ยเลี้ยงและสวัสดิการต่างๆ ที่เคยได้ ปัจจุบันนี้ผมหมดสิ้นทุกอย่าง ผมอยากปรึกษาว่าผมต้องทำอย่างไรถึงจะให้กรรมเก่าที่มีอยู่เบาบางลงได้ ทำอย่างไรเจ้ากรรมนายเวรถึงจะเบาบางลง ช่วยแนะนำผมด้วยครับ


    สำหรับพระที่คุณจะมอบให้แก่ผู้ที่บริจาคเลือด และบริจาคเงินให้แก่ สนส.บ่อเงินบ่อทอง ผมได้ส่งเมล์ไปที่กล่องข้อความส่วนตัวของคุณ Sithipong และคุณนักเดินทางแล้วครับ ขอให้คุณช่วยเลือกองค์ที่ท่านมีบารมีด้านโชคลาภ เงินทอง เพื่อขอบารมีท่านให้ผมชนะซึ่งความขัดสน และให้ผมเป็นที่เมตตาแก่บุคคลทั่วไป รวมทั้งเพื่อให้ผมได้มีบริวารที่ดีในอนาคต
     
  3. นักเดินทาง

    นักเดินทาง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กรกฎาคม 2005
    โพสต์:
    726
    ค่าพลัง:
    +9,112
    อ่าน ๆ ดูแล้วชีวิตของคุณ settsan คล้าย ๆ กับชีวิตผมเลยครับ เริ่มจากทำงานบริษัทฯ จนมาทำธุรกิจตัวเอง และจบลงด้วยความขัดแย้งกับเพื่อนที่ร่วมกันทำธุรกิจจนเลิกคบกัน เงินที่เก็บออมมาก็หายหมดสิ้น เหลือแต่หนี้สินกองโต จากนั้นแม่ผมก็เริ่มป่วยหนัก ค่าหมอค่ายาก็มาพอกพูนกับหนี้สินเดิมเข้าไปอีก สุดท้ายแม่ก็จากไป ผมเหลือแค่ตัวคนเดียว ตอนนี้ก็ปากกัดตีนถีบใช้หนี้ เดือน ๆ แทบจะไม่รอดชีวิต แต่ก็เจียดเงินเล็ก ๆ น้อย ๆ ร่วมทำบุญบ้างตามมีตามเกิด ใช้แรงกายแรงใจช่วยงานบุญบ้างตามสภาพที่จะช่วยได้

    เรื่องของกรรมนั้นยุติธรรมที่สุด ไม่มีใครอยู่เหนือกรรม ผมเองก็กำลังรับผลของมันทั้งกรรมเก่าจากอดีตชาติและกรรมปัจจุบัน ความทุกข์มันทำให้เราได้เข้าใจธรรมได้ดีขึ้น ถ้าผมอยู่แบบสุขสบายได้ทุกอย่างที่ต้องการ วันนี้ผมก็คงไม่สนใจกับการปฏิบัติธรรมและสร้างบุญกุศล ขอเป็นกำลังใจให้คุณ settsan ต่อสู้และพยายามต่อไป อย่าได้คิดท้อแท้น้อยเนื้อต่ำใจกับวาสนานะครับ ขอให้อดทนชดใช้กรรมอย่างมีสติ และอย่าทิ้งเรื่องการปฏิบัติธรรมและสร้างบุญกุศลนะครับ

    เรื่องพระ พรุ่งนี้ผมจะส่งไปให้ครับ ขอให้เจริญในธรรมนะครับ
     
  4. นักเดินทาง

    นักเดินทาง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กรกฎาคม 2005
    โพสต์:
    726
    ค่าพลัง:
    +9,112
    ถ้ามีอะไรอยากระบาย มาคุยกับพวกเราได้เสมอนะครับคุณ settsan ยินดีรับฟังเสมอครับ
     
  5. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    ในสิ่งต่างๆที่ คุณsettsan ได้พบประสบอยู่นั้น นอกเหนือจากกฎแห่งกรรมแล้ว ตัวเราเองก็เป็นอีกส่วนหนึ่ง การที่มีผลที่เกิดขึ้นนั้น ย่อมมีเหตุปัจจัยต่างๆ เข้ามามีส่วน มีผลกระทบในชีวิตมากมาย การที่เราจะดำเนินชีวิตต่อจากนี้ไปนั้น ส่วนที่สำคัญที่สุดคือ กำลังใจของตนเอง <O:p</O:p
    <O:p</O:p

    ลองมองกลับไปดูสิ่งต่างๆที่ผ่านมา แล้วนำมันมาใช้ให้เป็นประโยชน์ พลิกวิกฤต ให้เป็นโอกาส (ตามคำเทศน์ของท่านพระพยอม วัดสวนแก้ว) ให้ได้<O:p</O:p
    <O:p</O:p

    ก่อนอื่นในความคิดของผมเอง คุณsettsan ควรสำรวจตัวเองก่อน ( ดั่งคำเทศน์ของสมเด็จพระพุฒาจารย์โต พรหมรังสี ว่า คนเราทุกวันนี้ ดีแต่ส่องกระจกแต่เพียงด้านหน้า แต่เพียงด้านเดียว ให้เอากระจกหกด้าน มาส่องเสียบ้าง แล้วจะเห็นเอง ) ทำไมถึงเกิดเหตุการณ์อย่างนี้ขึ้น ลองกลับไปทบทวนการกระทำของตนเอง และการกระทำของคนอื่นว่า ทำอย่างไร ทำไมถึงเกิดเหตุการณ์อย่างนี้ขึ้น <O:p</O:p
    <O:p</O:p

    ต่อมา ควรวางแผนในชีวิตที่เราจะดำเนินต่อไป เราจะทำอะไร บางคนล้มมาไม่รู้กี่ครั้ง แต่ก็ยังลุกขึ้นสู้ ไม่ยอมแพ้อะไรง่ายๆ ผู้พันแซนด้า ผู้ที่คนสมัยนี้รู้จักกันดี เป็นคนที่คิดสูตรไก่ทอดที่ดังอยู่คือ KFC กว่าจะประสบความสำเร็จ อายุก็ปาเข้าไป 62 ปี แล้ว และเสียชีวิตเมื่ออายุประมาณ 68 ปี สุดท้าย KFC ดังมากตอนที่ผู้พันแซนด้า เสียชีวิตไปแล้ว<O:p</O:p
    <O:p</O:p

    อีกหนึ่งประการ เราควรจะทำบุญอยู่ตลอด การทำบุญนั้น ไม่จำเป็นที่จะต้องใช้เงินเสมอไป อาจจะสวดมนต์ นั่งสมาธิ การนั่งสมาธินั้น ดีมาก จะทำให้เรามีสติ มีความคิดที่จะทำอะไรต่อไป แต่ถ้าต่อไปมีเงินเหลือพอที่จะทำบุญ ก็แล้วแต่ว่าจะทำบุญนะครับ ขอย้ำการบริจาคเงินต้องเป็นเงินที่เหลือจากการดำรงชีวิต และการเก็บออมนะครับ เรื่องการสวดมนต์ ผมแนะนำให้สวดบทอิติปิโส พาหุง กับชินบัญชร เป็นหลักนะครับ หรือไม่ก็บริจาคเลือด การบริจาคเลือด เป็นการให้ชีวิตผู้อื่น เป็นอานิสงค์ที่ยิ่งใหญ่ครับ ผมเองก็บริจาคเลือดอยู่เหมือนกัน ส่วนการบริจาคดวงตาหรืออวัยวะนั้น ก็เป็นสิ่งที่ดี ผมเองก็แจ้งความประสงค์การบริจาคดวงตาและบริจาคอวัยวะแล้วเมื่อประมาณ 5 ปีที่ผ่านมา การทำบุญทุกครั้ง อย่าลืมแผ่เมตตาและกรวดน้ำด้วยทุกครั้ง ที่สำคัญอย่าลืมกรวดน้ำให้ตนเองด้วยนะครับ บทกรวดน้ำก็มีอยู่ในกระทู้นี้แล้ว ผมใช้บทกรวดน้ำบทนี้อยู่ครับ<O:p</O:p
    <O:p</O:p

    ส่วนพระพิมพ์นั้น ผมอยากให้คิดว่า ท่านเป็นกำลังใจให้เราต่อสู้กับอุปสรรค มีความเพียร มีความอดทน ต่อสิ่งต่างๆ , เป็นสิ่งเตือนใจให้เราทำความดี ในส่วนเรื่องพลังอิทธิคุณที่อยู่ในพระพิมพ์เป็นของแถมนะครับ บทสวดพาหุงนั้น ผมจะนำมาลงให้ในกระทู้พระวังหน้านะครับ<O:p</O:p
    <O:p</O:p

    ถ้ามีเรื่องอะไร จะระบายหรือขอคำแนะนำ ผม , คุณนักเดินทาง หรือท่านอื่นๆ ยินดีเสมอครับ<O:p</O:p
    <O:p</O:p
    <O:p
    </O:p
    เรื่องพระพิมพ์นั้น ผมจะขอไปปรึกษากับท่านอาจารย์ประถมก่อนนะครับ แล้วถึงจะส่งพระพิมพ์ไปให้อีกครั้ง
    เป็นกำลังใจให้นะครับ<O:p</O:p
    <O:p</O:p

    อย่าท้อถอย หรือน้อยใจ
    ถ้างานไม่สัมฤทธิผล<O:p</O:p
    จงสุขุมและอดทน
    พิจารณาคนด้วยปัญญา<O:p</O:p
    พระบรมราโชวาท รัชกาลที่ 9<O:p</O:p
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 23 มีนาคม 2006
  6. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    ชุมนุมเทวดา<O:p</O:p

    (*สะรัชชัง สะเสนัง สะพันธุง นะรินทัง ปะริตตานุภาโว สะทา รักขะตูติ ผะริตตะวานะ เมตตัง สะเมตตา ภะทันตา อะวิกขิตตะจิตตา ปะริตตัง ภะณันตุ)<O:p></O:p>
    สัคเค กาเม จะ รูเป คิริสิขะระตะเฏ จันตะลิกเข วิมาเน ทีเป รัฏเฐ จะ คาเม ตะรุวะนะคะหะเน เคหะวัตถุมหิ เขตเต ภุมมา จายันตุ เทวา ชะละถะละวิสะเม ยักขะคันธัพพะนาคา ติฏฐันตา สันติเก ยัง มุนิวะระวะจะนัง สาธะโว เม สุณันตุ ฯ ธัมมัสสะวะนะกาโล อะยัมภะทันตา ธัมมัสสะวะนะกาโล อะยัมภะทันตา ธัมมัสสะวะนะกาโล อะยัมภะทันตา ฯ <O:p</O:p
    <O:p</O:p

    (**สะมันตา จักกะวาเฬสุ อัตตะราคัจฉันตุ เทวะตา สัทธัมมัง มุนิราชัสสะ สุณันตุ สัคคะโมกขะทัง ฯ )<O:p</O:p
    <O:p</O:p


    หมายเหตุสวดเจ็ดตำนาน ใช้ * <O:p</O:p

    ; สวดสิบสองตำนานใช้ **<O:p</O:p
    <O:p</O:p

    บทอัญเชิญเทวดากลับ<O:p</O:p
    ทุกขัปปัตตา จะ นิททุขาภะยัปปัตตา จะ นิพภะยา โสกัปปัตตา จะ นิสโสกา โหนตุ สัพเพปิ ปาณิโน เอตตาวะตา จะ อัมเหหิ สัมภะตัง ปุญญะสัมปะทัง สัพเพ เทวานุโมทันตุ สัพพะสัมปัตติสิทธิยา ทานัง ทะทันตุ สัทธายะ สีลัง รักขันตุ สัพพะทา ภาวะนาภิระตา โหนตุ คัจฉันตุ เทวะตาคะตา ฯ สัพเพ พุทธา พะลัปปัตตา ปัจเจกานัญจะ ยัง พะลัง อะระหันตานัญจะ เตเชนะ พันธามิ สัพพะโส
    <O:p

    ขอขมาพระรัตนตรัย<O:p</O:p

    วันทามิ พุทธัง , สัพพะ เมโทสัง , ขะถะเม ภันเต , วันทามิ ธัมมัง , สัพพะ เมโทสัง , ขะถะเม ภันเต , วันทามิ สังฆัง , สัพพะ เมโทสัง , ขะถะเม ภันเต<O:p</O:p
    <O:p</O:p
    <O:p</O:p

    ถวายพรพระ<O:p</O:p


    นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ ฯ ( ๓ จบ )<O:p</O:p

    อิติปิ โส ภะคะวา อะระหัง สัมมาสัมพุทโธ วิชชาจะระณะสัมปันโน สุคะโต โลกะวิทู อะนุตตะโร ปุริสะทัมมะสาระถิ สัตถาเทวะมะนุสสานัง พุทโธ ภะคะวาติ ฯ<O:p</O:p
    สวากขาโต ภะคะวะตา ธัมโม สันทิฎฐิโก อะกาลิโก เอสิปัสสิโก โอปะนะยิโก ปัจจัตตัง เวทิตัพโพ วิญญูหีติ ฯ<O:p</O:p
    สุปะฎิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ อุชุปะฎิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ ญายะปะฎิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ สามีจิปะฎิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ ยะทิทัง จัตตาริ ปะริสะยุคานิ อัฎฐะ ปุริสะปุคคะลา เอสะ ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ อาหุเนยโย ปาหุเนยโย ทักขิเณยโย อัญชะลีกะระณีโย อะนุตตะรัง ปุญญักเขตตัง โลกัสสาติ ฯ
    <O:p</O:p

    พระพุทธชัยมงคลคาถา<O:p</O:p

    พาหุง สะหัสสะมะภินิมมิตะสาวุธันตัง<O:p</O:p
    คะรีเมขะลัง อุทิตะโฆระสะเสนะมารัง<O:p</O:p
    ทานาทิธัมมะวิธินา ชิตะวา มุนินโท<O:p</O:p
    ตันเตชะสา ภะวะตุ เต ชะยะมังคะลานิ ฯ<O:p</O:p

    มาราติเรกะมะภิยุชฌิตะสัพพะรัตติง<O:p</O:p
    โฆรัมปะนาฬะวะกะมักขะถัทธะยักขัง<O:p</O:p
    ขันตีสุทันตะวิธินา ชิตะวา มุนินโท<O:p</O:p
    ตันเตชะสา ภะวะตุ เต ชะยะมังคะลานิ ฯ<O:p</O:p

    นาฬาคิริง คะชะวะรัง อะติมัตตะภูตัง<O:p</O:p
    ทาวัคคิจักกะมะสะนีวะ สุทารุณันตัง<O:p</O:p
    เมตตัมพุเสกะวิธินา ชิตะวา มุนินโท<O:p</O:p
    ตันเตชะสา ภะวะตุ เต ชะยะมังคะลานิ ฯ<O:p</O:p
    <O:p</O:p
    อุกขิตตะขัคคะมะติหัตถะสุทารุณันตัง<O:p</O:p
    ธาวันติโยชะนะปะถังคุลิมาละวันตัง<O:p</O:p
    อิทธีภิสังขะตะมะโน ชิตะวา มุนินโท<O:p</O:p
    ตันเตชะสา ภะวะตุ เต ชะยะมังคะลานิ ฯ
    <O:p</O:p
    กัตตะวานะ กัฎฐะมุทะรัง อิวะ คัพภินียา<O:p</O:p
    จิญจายะ ทุฏฐะวะจะนัง ชะนะกายะมัชเฌ<O:p</O:p
    สันเตนะ โสมะวิธินา ชิตะวา มุนินโท<O:p</O:p
    ตันเตชะสา ภะวะตุ เต ชะยะมังคะลานิ ฯ
    <O:p</O:p
    สัจจัง วิหายะ มะติสัจจะกะวาทะเกตุง<O:p</O:p
    วาทาภิโรปิตะมะนัง อะติอันธะภูตัง<O:p</O:p
    ปัญญาปะทีปะชะลิโต ชิตะวา มุนินโท<O:p</O:p
    ตันเตชะสา ภะวะตุ เต ชะยะมังคะลานิ ฯ
    <O:p</O:p
    นันโทปะนันทะภุชะคัง วิพุธัง มะหิทธิง<O:p</O:p
    ปุตเตนะ เถระภุชะเคนะ ทะมาปะยันโต<O:p</O:p
    อิทธูปะเทสะวิธินา ชิตะวา มุนินโท<O:p</O:p
    ตันเตชะสา ภะวะตุ เต ชะยะมังคะลานิ ฯ
    <O:p</O:p
    ทุคคาหะทิฏฐิภุชะเคนะ สุทัฏฐะหัตถัง<O:p</O:p
    พรัหมัง วิสุทธิชุติมิทธิพะกาภิธานัง<O:p</O:p
    ญาณาคะเทนะ วิธินา ชิระวา มุนินโท<O:p</O:p
    ตันเตชะสา ภะวะตุ เต ชะยะมังคะลานิ ฯ
    <O:p</O:p
    เอตาปิ พุทธะชะยะมังคะละอัฏฐะคาถา<O:p</O:p
    โย วาจะโน ทินะทิเน สะระเต มะตันที<O:p</O:p
    หิตตะวานะเนกะวิวิธานิ จุปัททะวานิ<O:p</O:p
    โมกขัง สุขัง อะธิคะเมยยะ นะโร สะปัญโญ ฯ<O:p</O:p
    มะหาการุณิโก นาโถหิตายะ สัพพะปาณินัง<O:p</O:p
    ปูเรตตะวา ปาระมี สัพพาปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง<O:p</O:p
    เอเตนะ สัจจะวัชเชนะโหตุ เต ชะยะมังคะลัง ฯ<O:p</O:p

    ชะยันโต โพธิยา มูเลสักกะยานัง นันทิวัฑฒะโน<O:p</O:p
    เอวัง ตะวัง วิชะโย โหหิชะยัสสุ ชะยะมังคะเล<O:p</O:p
    อะปะราชิตะปัลลังเกสีเส ปะฐะวิโปกขะเร<O:p</O:p
    อะภิเสเก สัพพะพุทธานังอัคคัปปัตโต ปะโมทะติ ฯ<O:p</O:p
    สุนักขัตตัง สุมังคะลังสุปะภาตัง สุหุฎฐิตัง<O:p</O:p
    สุขะโณ สุมุหุตโต จะสุยิฏฐัง พรัหมะจาริสุ<O:p</O:p
    ปะทักขินัง กายะกัมมังวาจากัมมัง ปะทักขินัง<O:p</O:p
    ปะทักขิณัง มะโนกัมมังปะณิธี เต ปะทักขิณา<O:p</O:p
    ปะทักขิณานิ กัตตะวานะละภันตัตเถ ปะทักขิเณ
    <O:p</O:p
    ภะวะตุ สัพพะมังคะลังรักขันตุ สัพพะเทวะตา<O:p</O:p
    สัพพะพุทธานุภาเวนะสะทา โสตถี ภะวันตุ เต<O:p</O:p
    ภะวะตุ สัพพะมังคะลังรักขันตุ สัพพะเทวะตา<O:p</O:p
    สัพพะธัมมานุภาเวนะสะทา โสตถี ภะวันตุ เต<O:p</O:p
    ภะวะตุ สัพพะมังคะลังรักขันตุ สัพพะเทวะตา<O:p</O:p
    สัพพะสังฆานุภาเวนะสะทา โสตถี ภะวันตุ เต<O:p</O:p
    <O:p</O:p

    หมายเหตุ ถ้าต้องการสวดให้กับตัวเอง ให้เปลี่ยนจากภะวะตุ เต เป็น เม<O:p</O:p
    <O:p</O:p


    คำแปลพุทธชัยมงคลคาถา<O:p</O:p

    .พระจอมมุนี ได้ชนะพญามาร ผู้นิรมิตแขนมากตั้งพัน ถืออาวุธครบมือ ขี่คชสารครีเมขละ พร้อมด้วยเสนามารโห่ร้องก้องกึก ด้วยธรรมวิธีทานบารมีเป็นต้น ขอชัยมงคลทั้งหลาย จงมีแก่ท่าน ด้วยเดชแห่งพระพุทธชัยมงคลนั้น<O:p></O:p>

    .พระจอมมุนี ได้ชนะอาฬวกยักษ์ ผู้มีจิตกระด้าง ปราศจากความอดทน มีฤทธิ์พิลึกยิ่งกว่าพญามารเข้ามาต่อสู้ยิ่งนักจนตลอดรุ่ง ด้วยวิธีทรมาณเป็นอันดี คือ พระขันตี (ความอดทน) ขอชัยมงคลทั้งหลาย จงมีแก่ท่าน ด้วยเดชแห่งพระพุทธชัยมงคลนั้น<O:p</O:p

    .พระจอมมุนี ได้ชนะช้างตัวประเสริฐชื่อ นาฬาคิรี เป็นช้างเมายิ่งนัก แสนที่จะทารุณ ประดุจไฟป่าและจักราวุธและสายฟ้า ด้วยวิธีรดลงด้วยน้ำ คือพระเมตตา ขอชัยมงคลทั้งหลาย จงมีแก่ท่าน ด้วยเดชแห่งพระพุทธชัยมงคลนั้น<O:p</O:p

    .พระจอมมุนี มีพระหฤทัยไปในที่จะกระทำอิทธิปาฏิหาริย์ ได้ชนะโจรชื่อองคุลิมาล (ผู้มีพวงคือนิ้วมนุษย์) แสนร้ายกาจมีฝีมือ ถือดาบวิ่งไล่พระองค์ ไปสิ้น ๓ โยชน์ ขอชัยมงคลทั้งหลาย จงมีแก่ท่าน ด้วยเดชแห่งพระพุทธชัยมงคลนั้น<O:p</O:p

    .พระจอมมุนี ได้ชนะความกล่าวร้ายของนางจิญจมาณวิกา ทำอาการประหนึ่งว่ามีครรภ์ เพราะทำไม้มีสัณฐานอันกลม ให้เป็นประดุจมีท้อง ด้วยวิธีสมาธิอันงาม คือความระงับพระหฤทัยในท่ามกลางหมู่ชน ขอชัยมงคลทั้งหลาย จงมีแก่ท่าน ด้วยเดชแห่งพระพุทธชัยมงคลนั้น<O:p</O:p

    .พระจอมมุนี รุ่งเรืองแล้วด้วยประทีป คือปัญญา ได้ชนะสัจจกนิครนถ์ ผู้มีอัชฌาสัยที่จะสละเสียซึ่งความสัตย์ มีใจในที่จะยกถ้อยคำของตน ให้สูงดุจยกธง เป็นผู้มืดมนยิ่งนัก ด้วยเทศนาญาณวิธี คือรู้อัชฌาสัยแล้ว ตรัสเทศนา ขอชัยมงคลทั้งหลาย จงมีแก่ท่าน ด้วยเดชแห่งพระพุทธชัยมงคลนั้น
    <O:p</O:p
    .พระจอมมุนีโปรดให้พระโมคคัลลานเถระพุทธชิโนรส นิรมิตกายเป็นนาคราชไปทรมาน พญานาคราช ชื่อนันโทปนันทะ ผู้มีความรู้ผิด มีฤทธิ์มาก ด้วยวิธีอันให้อุปเทห์แห่งฤทธิ์ แก่พระเถระ ขอชัยมงคลทั้งหลาย จงมีแก่ท่าน ด้วยเดชแห่งพระพุทธชัยมงคลนั้น
    <O:p</O:p
    .พระจอมมุนี ได้ชนะพรหมผู้มีนามว่า ท้าวพกา ผู้มีฤทธิ์ มีอันสำคัญตนว่า เป็นผู้รุ่งเรืองด้วยคุณอันบริสุทธิ์ มีมืออันท้าวภุชงค์ คือทิฏฐิที่ตนถือผิดรัดตรึงไว้แน่นแฟ้นแล้ว ด้วยวิธีวางยาอันพิเศษคือเทศนาญาณ ขอชัยมงคลทั้งหลาย จงมีแก่ท่าน ด้วยเดชแห่งพระพุทธชัยมงคลนั้น
    <O:p</O:p
    นรชนใด มีปัญญา ไม่เกียจคร้าน สวดก็ดี ระลึกก็ดี ซึ่งพระพุทธชัยมงคล ๘ คาถา แม้เหล่านี้ทุก ๆ วัน นรชนนั้นจะพึงละเสียได้ ซึ่งอุปัทวันอันตรายทั้งหลาย มีประการต่าง ๆ เป็นเอนก ถึงซึ่งวิโมกขสิวาลัย อันเป็นบรมสุขแล . <O:p</O:p
    มหาการุณิโก นาโถ ผู้เป็นที่พึ่งของสัตว์ประกอบแล้วด้วย พระมหากรุณา หิตายะสัพพะปาณินัง ปูเรตวา ปาระมี สัพพา ยังบารมีทั้งหลายทั้งปวงให้เต็ม เพื่อประโยชน์แก่สรรพสัตว์ทั้งหลาย ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง ถึงแล้วซึ่งความตรัสรู้อันอุดม เอเตนะ สัจจะวัชเชนะ ด้วยความกล่าวคำสัตย์นี้ โหตุ เต ชะยะมังคะลัง ขอชัยมงคลจงมีแก่ท่าน .<O:p</O:p
    <O:p</O:p


    หมายเหตุ การภาวนาพระพุทธชัยมงคลคาถา<O:p</O:p

    <O:p</O:p

    . เมื่อเผชิญกับศัตรูหมู่มาก ซึ่งมุ่งจะทำลายความมุ่งมั่นตั้งใจ ในการสร้างสรรค์สิ่งดีงามของเรา ทำให้เราท้อถอยและท้อแท้ด้วยเหตุผลต่างๆ ให้ภาวนาบทที่ ๑ ( มั่นใจในการทำความดี ในเจตนาดี และหวังดีของเราเอง แล้วมุ่งหน้ากระทำต่อไป จึงจะชนะศัตรูและผ่านเหตุการณ์นี้ไปได้ )
    <O:p</O:p
    . เมื่อเผชิญกับผู้ที่มีจิตใจหยาบกระด้าง ไม่ได้ฝึกฝนตนเองในเรื่องวินัยและมารยาท ให้ภาวนาบทที่ ๒ ( ในการที่เราเจอกับคนที่จิตใจกระด้าง หยาบคาย นับว่าเป็นโอกาสให้เราฝึกขันติธรรม และหากเราฝึกได้ดี ก็จะสามารถชนะใจคนแข็งกระด้าง ทำให้เขายอมรับข้อเสนอของเราและทำประโยชน์ร่วมกันได้ )
    <O:p</O:p
    . เมื่อเผชิญกับสัตว์ดุร้าย ให้ภาวนาบทที่ ๓ ( แม้ว่าสัตว์จะดุร้าย เราก็ควรแผ่เมตตาให้ความเอ็นดู ไม่ควรฆ่า หรือใช้วิธีรุนแรง ด้วยความเมตตานี้ จะทำให้มนุษย์กับสัตว์อยู่ร่วมกันอย่างสันติสุขได้ )
    <O:p</O:p
    . เมื่อเผชิญกับโจร มุ่งทำร้ายเราหรือก่อนที่จะไปต่อสู้กับผู้ร้ายในสถานการณ์ที่ต้องสู้ไม่มีทางเลือกอื่น ให้ภาวนาบทที่ ๔ ( วิธีที่ดี คือ ต้องพยายามทำให้เราเป็นฝ่ายเหนือกว่าเพื่อควบคุมสถานการณ์ให้ได้เสมอ เมื่อเราทำให้เขายอมจำนนได้แล้ว จึงค่อยหาโอกาสแนะนำสิ่งที่ดีแก่เขาภายหลัง ด้วยเจตนาดีและมีเมตตา )
    <O:p</O:p
    . เมื่อต้องเจอกับคำครหา นินทา การใส่ความให้เสียหาย ให้ภาวนาบทที่ ๕ ( เบื้องต้นต้องสงบจิตใจไว้ก่อน อย่างน้อยก็ตระหนักถึงข้อที่ว่า การนินทานั้น เป็นหนึ่งในโลกธรรม คือ เป็นสิ่งประจำโลก แม้พระพุทธองค์ยังมีคนกล่าวร้ายได้ จากนั้นจึงพิจารณาเรื่องที่เกิดขึ้นด้วยสติสัมปชัญญะ หากจะโต้ตอบต้องตอบโต้ตามความเป็นจริง หากเรื่องที่เกิดขึ้นไม่จริง ผู้กล่าวหาย่อมแพ้ภัยตนเองไปในที่สุด)
    <O:p</O:p
    . เมื่อต้องตอบโต้คำถามจากผู้มีความเห็นผิดทะนงตัว หรือต้องโต้วาทีเพื่อหาข้อยุติด้วยหลักการและเหตุผลที่ถูกต้อง ให้ภาวนาบทที่ ๖ ( เมื่อเผชิญกับผู้ที่โอ้อวดยกเหตุผลต่างๆ เพื่อมาหักล้างศีลธรรม ความถูกต้องดีงาม เราจำเป็นต้องโต้ด้วยเหตุผลที่ชัดเจนกว่า โดยแยกแยะให้เขาเห็นข้อบกพร่องในเหตุผลของเขา ถ้าเป็นปัญหา ที่ต้องตอบตรงๆ ก็ยกความเป็นจริงขึ้นหักล้าง บางอย่างอาจถามย้อนก่อนตอบ เพื่อให้ผู้ถามเห็นข้อบกพร่องในคำถามและเหตุผลที่ตนยกขึ้นถาม อย่างไรก็ตาม บางคำถามที่ควรงดเว้นไม่ควรตอบให้เสียเวลา )
    <O:p</O:p
    . เมื่อต้องเผชิญกับผู้ที่มีเล่ห์เหลี่ยม มากด้วยอุบาย ให้ภาวนาบทที่ ๗ ( เหตุการณ์บางอย่าง เราอาจพึ่งผู้อื่น เพื่อช่วยคลีคลายสถานการณ์ โดยเลือกผู้ที่มีประสบการณ์ในเรื่องนั้นๆ ช่วยจัดการให้เรียบร้อย )
    <O:p</O:p
    . เมื่อต้องเผชิญกับผู้ใหญ่ที่มีความเห็นผิด ผู้มีทิฐิมานะมาก ทั้งมีอำนาจในสังคม เป็นที่รู้จัก และนับถือของคนทั่วไป ต้องทำใจให้เป็นสมาธิด้วย การภาวนาบทที่ ๘ ( เมื่อเราเผชิญกับปัญหาที่สำคัญในระดับที่เป็นหลักการ หรือนโยบาย ซึ่งแม้ผู้ใหญ่มีอำนาจวาสนา เป็นที่ยอมรับนับถึอของคนทั่วไป ยังมีความเห็นผิดจากหลักการตามความเป็นจริง เราต้องแม่นยำในหลักการพิจารณาหลักการ หรือนโยบายนั้นอย่างรอบคอบ แล้วชี้แจงให้เห็นถึงความบกพร่องและผลเสียที่เกิดขึ้นในระยะยาว ทั้งนี้การชี้แจงกับผู้ใหญ่ต้องมีเหตุผลชัดเจน ชี้แจงให้แจ่มแจ้งว่าหลักการ วิธีการ และเป้าหมายของกิจการนั้นๆ มีความขัดแย้งกันอย่างไร มีจุดบกพร่องที่สำคัญตรงไหนบ้าง และอย่าลืมว่าหลังจากกระบวนการทางปัญญาสิ้นสุดลง เรากับผู้ใหญ่นั้น ยังคงมีความสัมพันธ์ร่วมงานกันได้ดังเดิม หรืออาจจะดีกว่าเดิม เพราะได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันด้วยความบริสุทธิ์ใจ )
    <O:p</O:p
    <O:p</O:p
    อานิสงส์เบื้องต้น ในการภาวนาชัยมงคลคาถานั้น เป็นการยับยั้งการตัดสินใจ อย่างหุนหันพลันแล่น ไม่รอบคอบ ซึ่งอาจให้ผลร้ายตามมาอย่างคาดไม่ถึง และที่สำคัญ เป็นการ เรียกสติกลับคืนมา เพื่อให้จิตใจมั่นคง เมื่อจิตใจมั่นคงแล้ว จะทำให้เราจัดการกับสถานการณ์ต่างๆ ได้อย่างรอบคอบมากขึ้น และได้ผลดีย้อนกลับมามากขึ้นด้วย<O:p</O:p
    <O:p
     
  7. Settsan

    Settsan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    40
    ค่าพลัง:
    +341
    ขอบคุณ คุณ Sithiphong ,คุณนักเดินทางมากครับ ที่ให้คำปรึกษาและคำแนะนำ สำหรับบทสวดอิติปิโส . พาหุงนี้ผมใช้สวดเป็นประจำ พร้อมกับ บทสวดมหากา ครับ แต่สำหรับบทสวดชินบัญชร จะสวดเป็นบางคร้งบางคราวครับ ผมได้ใช้ธรรมะเป็นสิ่งที่ช่วยยึดเหนี่ยวไว้ สำหรับการทำงานที่ผ่านมาตัวผมบังเอิญอยู่ในบทบาทหัวโขนที่ต้องควบคุมให้ผู้ใต้บังคับบัญชาทำงานอย่างมีจรรยาบัน ไม่ทำความเสียหายให้แก่สินค้าบริการที่บริษัทดำเนินการอยู่ และต้องควบคุมให้คนเหล่านั้นปฏิบัติตามกติกาของบริท ซึ่งเป็นธรรมทั้งสองฝ่าย แต่จะมีบ้างที่ต้องให้โทษแก่พวกที่ฝ่าฝืนซึ่งทุกครั้งก็จะมีการพูดคุยและตักเตือนด้วยวาจาฉันพี่น้องทุกครั้ง เมื่อจำเป็นต้องลงโทษผมก็จะชี้แจงและอธิบายให้ฟังถึงความผิดและให้โอกาศทุกคนเพื่อปรับปรุงตัวทุกครั้ง นอกเหนือจากนั้นก็จะบำรุงขวัญกำลังใจมีการเสนอรางวัลให้สำหรับผู้ปฎิบัติดี ซึ่งบางครั้งผมอดเปรียบกับคนที่ทำงานในบริษัทตำแหน่งเดียวกันไม่ได้ เพราะคนอื่นนั้นไม่เคยเข้าไปใกล้ชิดแก้ปัญหา หรือรวมทั้งออกภาคสนามเพื่อสร้างขวัญกำลังใจ แต่ผู้นั้นจะมีลูกน้องที่เกรงใจและรักใคร่ บางครั้งบางสิ่งอาจหาเหตุผลได้บางสิ่งอาจหาเหตุผลไม่ได้ ผมจึงหาที่พึ่งทางใจโดยปลอบตัวเองว่าเป็นเพราะกรรมเก่า จึงได้พยายามหาทางเพื่อที่จะละลายบรรเทากรรมเก่าโดยพยายามเติมกรรมดี บางท่านแนะนำว่าการถือศีลไปอยู่ที่วัดจะช่วยบรรเทาได้ ผมจึงตัดสินใจบวชเป็นภิกษุโดยระหว่างบวชก็พยายามทำตนให้สมกับที่เป็นตัวแทนของพุทธศาสนา หลังจากบวชได้นำข้อคิดและแนวทางมาทำเป็นหนังสือพร้อมบทสวดมนต์แจกให้แก่ผู้ที่สนใจ โดยหวังว่าบุญที่สะสมดังกล่าวนี้จะไปถึงยังเจ้ากรรมนายเวรที่ผมเคยล่วงเกิน อนึ่งมี ผู้ทักทายผม 2 คนซึ่งให้ข้อมูลตรงกันว่าผมเคยเป็นทหารเอกของมหากษัตริย์ไทยองค์หนึ่งซึ่งเคยมีส่วนร่วมกอบกู้บ้านเมืองกับพระองค์ท่าน ทำให้ต้องทำกรรมผิดศีลข้อ 1 ซึ่งผมไม่สามารถระลึกได้ในภพภูมินี้ แต่ทุกครั้งที่ทำบุญก็จะอุทิศบุญให้แก่เจ้าเวรนายกรรมทุกท่าน หากท่านใดสามารถแนะนำให้ผมละลายกรรมเก่าได้ ขอให้ช่วยแนะนำหนทางที่ถูกวิธีด้วยครับ
     
  8. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    ไม่มีอะไรที่จะละลายกรรมเก่าได้ นอกจากอโหสิกรรม หรือการทำบุญ ,ทำความดี ให้มาก ทำให้กรรมเก่าของเราตามไม่ทัน จนกระทั่งเป็นอโหสิกรรม เหมือนกับ เราเป็นแก้วน้ำที่มีน้ำโคลนอยู่เต็มแก้ว เราต้องนำน้ำใหม่ซึ่งเป็นน้ำดีค่อยๆเติมลงไป จนกว่าน้ำที่เป็นโคลนที่อยู่ในแก้วจะใสสะอาด มันอาจใช้เวลานาน แต่ต้องอดทนนะครับ
    หมั่นทำบุญที่ให้ชีวิตมากๆ เช่นการบริจาคเลือด ,การปล่อยนก ,ปล่อยปลา ,ปล่อยเต่า แต่ต้องฉลาดในการปล่อยด้วยนะครับ ส่วนตัวผมเวลาที่จะปล่อยปลา ผมจะไปซื้อในตลาดสด แล้วนำไปปล่อยตามแม่น้ำ ,เต่า ผมจะซื้อในตลาดสด แล้วนำไปปล่อยที่พุทธมณฑล นครปฐม ครับ (เวลาที่จะปล่อยเต่านั้น ต้องดูสถานที่ๆจะปล่อยด้วย เพราะว่าเต่าเป็นสัตว์ครึ่งบกครึ่งน้ำ ผมเคยเห็นเต่าจมน้ำตายหลายครั้งแล้ว เพราะว่ามีผู้นำเต่าไปปล่อยที่บ่อน้ำของวัดเบญจมบพิตร ซึ่งบ่อน้ำจะไม่มีที่ให้เต่าขึ้นมาพักบนบกได้เลย) อย่าลืมกรวดน้ำทุกครั้งนะครับ<O:p</O:p
    <O:p</O:p

    คุณsettsanต้องอดทน และมีความเพียรในการทำความดีนะครับ เป็นกำลังใจให้เสมอครับ<O:p</O:p
     
  9. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
  10. Akkra1978

    Akkra1978 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 ตุลาคม 2004
    โพสต์:
    254
    ค่าพลัง:
    +1,486
    สวัสดีครับคุณ sithiphong
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • slip1.jpg
      slip1.jpg
      ขนาดไฟล์:
      62.4 KB
      เปิดดู:
      1,416
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 4 เมษายน 2010
  11. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    ถ้าต้องการพระปิดตา ของวังหน้า จะเป็นลักษณะปิดตาคล้ายของหลวงพ่อแก้ว วัดเครือวัลย์นะครับ แต่ถ้าบริจาคเพิ่ม โดยบริจาคในกระทู้ขอความเมตตาต่อชีวิตพระเณร อีก 1,000 บาท ผมจะให้พระฐานผ้าทิพย์ พิมพ์ควัมปติ (ปิดตา) ให้ครับ

    แจ้งผมมาอีกครั้งนะครับ ว่าต้องการพระปิดตา หรือพระฐานผ้าทิพย์ พิมพ์ควัมปติ ครับ
     
  12. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    วิธีการไหว้ ๕ ครั้ง ( มนต์พิธี )
    คนเราทุกคน ในวันหนึ่งๆ จะต้องไหว้ให้ได้ ๕ ครั้ง เป็นอย่างน้อยคือ ในเวลาค่ำใกล้จะนอน ตั้งใจระลึกถึงพระรัตนตรัยอันเป็นสรณะอันสูงสุดและท่านผู้มีพระคุณแก่ตน คือ มารดาบิดา และครูอาจารย์ โดยประนมมือ<O:p></O:p>
    ๑. นมัสการพระอรหันต์สัมมาสัมพุทธเจ้ากล่าวว่า<O:p></O:p>
    อะระหัง สัมมา สัมพุทโธ ภะคะวา พุทธัง ภะคะวันตัง อะภิวาเทมิ กราบลงหนหนึ่ง<O:p></O:p>
    ๒. ไหว้พระธรรมคำสอนของพระพุทธเจ้า ว่า<O:p></O:p>
    สวากขาโต ภะคะวะตา ธัมโม ธัมมัง นะมัสสามิ กราบลงหนหนึ่ง<O:p></O:p>
    ๓. ไหว้พระสงฆ์สาวกของพระพุทธเจ้า ว่า<O:p></O:p>
    สุปะฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ สังฆัง นะมามิ กราบลงหนหนึ่ง<O:p></O:p>
    ๔. ไหว้คุณมารดาบิดา ว่า<O:p></O:p>
    มัยหัง มาตาปิตูนังวะปาเท วันทามิ สาทะรัง กราบลงหนหนึ่ง<O:p></O:p>
    ๕. ไหว้ครูอาจารย์ ว่า<O:p></O:p>
    ปัญญาวุฑฒิกะเร เต เต ทินโน วาเท นะมามิหัง กราบลงหนหนึ่ง<O:p></O:p>
    ต่อจากนั้น พึงตั้งใจแผ่เมตตาจิตไปในเพื่อนมนุษย์ และสัตว์ทั้งหลายทั้งปวง ว่า ขอท่านทั้งหลายอย่าได้มีเวรแก่กันและกันเลย อย่าได้เบียดเบียนซึ่งกันและกันเลย อย่าได้มีความทุกข์กายทุกข์ใจเลย จงมีความสุขกายสุขใจ รักษาตนให้พ้นจากทุกข์ภัยด้วยกันหมดทั้งสิ้น เทอญ.

    ****************************************************************


    <O:p>อานิสงส์ของการให้ทานด้วยตนเองและชวนผู้อื่น
    http://www.pratatlanna.com/index.php?lay=boardshow&ac=webboard_show&Category=pratatlannacom&thispage=1&No=131570
    ffice<O:p</O:p

    พระพุทธพจน์
    "บุคคลบางคนในโลกนี้ให้ทานด้วยตน (แต่) ไม่ชักชวนผู้อื่น, เขาย่อมได้โภคสมบัติ
    (แต่) ไม่ได้บริวารสมบัติ ในที่แห่งตนเกิดแล้วๆ,
    บางคนไม่ให้ทานด้วยตน ชักชวนแต่คนอื่น, เขาย่อมได้บริวารสมบัติ (แต่)
    ไม่ได้โภคสมบัติ ในที่แห่งตนเกิดแล้วๆ;
    บางคนไม่ให้ทานด้วยตนด้วย ไม่ชักชวนคนอื่นด้วย,
    เขาย่อมไม่ได้โภคสมบัติไม่ได้บริวารสมบัติ ในที่แห่งตนเกิดแล้วๆ;
    เป็นคนเที่ยวกินเดน
    บางคนให้ทานด้วยตนด้วย ชักชวนคนอื่นด้วย, เขาย่อมได้ทั้งโภคสมบัติและบริวารสมบัติ
    ในที่แห่งตนเกิดแล้วๆ."


    บริวาร ความหมายคือ ผู้แวดล้อม, ผู้ห้อมล้อม ติดตาม, ผู้รับใช้

    คนบางคนมีสมบัติมาก แต่เพื่อนแท้ไม่มี ลูกน้องไม่ดี ไม่เชื่อฟัง (คนที่แวดล้อม
    ไม่ได้เข้ามาด้วยความผูกพันในบุญกุศล บางทีอาจจะรู้สึกว่าไม่มีใครที่จริงใจเลย)
    คนบางคนไม่ได้ร่ำรวย แต่พร้อมไปด้วยเพื่อนดีๆ
    และผู้ที่คอยรับใช้ช่วยเหลืออย่างจริงใจ
    คนบางคนไม่รวยด้วย ไม่มีเพื่อนด้วย
    คนบางคนพร้อมด้วยสมบัติและเพื่อนที่ดี ผู้คอยช่วยเหลือ บริวารทั้งหลายดี
    ด้วยกำลังของบุญกุศล การที่เคยร่วมบุญกันมา



    วัตถุสิ่งของใดๆที่นำไปทำทาน จะเกิดผลบุญมากน้อยอย่างไร ก็เกิดที่ใจ
    ไม่ได้เกิดตามวัตถุที่มากน้อยนั้นๆเลย
    วัตถุที่เราหวงแหน สมบัติที่หามาได้ยากลำบาก
    เรายอมแบ่งส่วนสละออกให้ผู้อื่นไปใช้ประโยชน์บ้าง ใจอย่างนี้จึงประเสริฐ
    หลักการให้ทานพึงให้ทานโดยเคารพ ให้ทานด้วยมือของตน ให้ทานด้วยความนอบน้อม
    มิได้ให้ทานอย่างทิ้งให้

    การทำทานด้วยจิตอนุเคราะห์ ให้ แม้ของเพียงเล็กน้อยแล้วชื่นหัวใจ
    ความชื่นหัวใจนี่หล่ะเป็นยาบำรุงใจชั้นดีเชียว
    ผมเคยเห็นเด็กพิการคนหนึ่งที่หูหนวก บ้านอยู่ลึกในป่า ความเป็นอยู่อัตคัต
    เห็นพระและเณรผ่านมา ได้ตักน้ำเปล่าประเคนให้
    พระเณรท่านฉันแล้วชื่นใจคลายร้อน ผมยังปลื้มถึงบุญของเขาไม่หายเชียว

    บางคนทำบุญด้วยเงิน สมบัติต่างๆ อยากได้ผลอะไรเหมือนการลงทุน ซื้อสวรรค์
    ชื้อความปลอดภัยจากเจ้ากรรมนายเวร ฯลฯ ไม่ได้ทำด้วยทานจิต
    ผลบุญนั้นได้น้อยมาก
    เพราะความโลภซึ่งเป็นขั้วตรงข้ามกับความสละออกความโลภเอาไปกินหมด
    ทำทานด้วยความเข้าใจผิดๆ
    เคยมีเจ้าของซ่องโสเภณี บริจาคสร้างวัด(ชื่อวัดคณิกาผล) สมัยสมเด็จพระพุฒาจารย์โต
    วัดระฆัง
    สมัยนั้นเป็นแฟชั่น คนมีเงินจริงต้องแสดงออกด้วยการสร้างวัด
    เจ้าของซ่องโสเภณีก็อยากมีหน้ามีตา
    สมเด็จฯ ท่านเทศน์สอนในงานที่ฉลองวัดใหม่ว่า ได้บุญเพียงสลึงเฟื้อง

    แม้บุญเล็กน้อยก็อย่าประมาท ค่อยๆสะสมบุญที่เกิดจากใจสละที่ถูกต้อง
    ผ่านกาลเวลาไปกองบุญย่อมเพิ่มพูน ต่อยอดอย่างคาดไม่ถึง
    เหมือนคนจีนเสื่อผืนหมอนใบ ขยันประหยัดสร้างตัวมาเป็นเศรษฐี
    ด้วยความที่เคารพในการเก็บเงินแม้เงินเล็กน้อยก็ตาม


    ผู้ตั้งกระทู้ นันทภพ ::วันที่ลงประกาศ 07-01-2006 21:20:25
    </O:p
     
  13. Settsan

    Settsan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    40
    ค่าพลัง:
    +341
    คุณ Sithiphong
    ผมใคร่ขอขอบพระคุณคุณเป็นอย่างยิ่งที่ได้ช่วยชี้แนะนำผม แต่รบกวนช่วยอธิบายความหมายในวงเล็บ ของย่อหน้าสุดท้ายด้วยครับ คำอธิฐานที่คุณแนะนำผมครั้งสุดท้ายนี้เหมือนจะล่วงรู้ชีวิตผมโดยเฉพาะในด้านที่เกี่ยวกับคู่ครอง หากไม่เป็นการรบกวนคุณจนเกินไป และไม่เป็นการผิดกฎใดๆช่วยชี้แนะผมเป็นการส่วนตัวที่settsan9@yahoo.com .จักขอบพระคุณอย่างสูงครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 24 มีนาคม 2006
  14. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    เราคุยกัน ไม่มีกฎใดๆ อยู่แล้วครับ ผมจะส่งเมล์ไปให้วันพรุ่งนี้นะครับ

    อย่าท้อถอยหรือน้อยใจ
    ถ้างานไม่สัมฤทธิ์ผล
    จงสุขุมและอดทน
    พิจารณาคนด้วยปัญญา
    พระบรมราโชวาท รัชกาลที่9
     
  15. Chayaporn

    Chayaporn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    768
    ค่าพลัง:
    +4,641
    คุณสิทธิพงษ์ค่ะ,

    พี่โอนเงินทำบุญ 1,100.-บาทกับ สนส.บ่อเงินบ่อทอง
    แล้ววันนี้ 24.03.49 เวลา 20.03 น.ค่ะ

    คุณฉัตรพร เสถียรสถาพร
    106/71 ซ.เพชรเกษม 60
    ภาษีเจริญ,กทม.10160
     
  16. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    คิดสักนิด ก่อนจะ forward mail <O:p</O:p
    <O:p</O:p

    ที่มาจาก FWD,เค้าบอกว่า.., เนี่ยๆ ในเมล์เค้าส่งมา...
    จากหลากหลายข้อความที่มาโผล่ บนเว็บไซต์อย่าง Mthai ทั้งที่มีข้อความว่า <O:p</O:p

    บอกว่า เป็นเรื่องของเด็กคนนึง ให้เราช่วยกันฟอร์เวิร์ด เมล์ ไปเยอะ
    ยิ่งเยอะ พ่อแม่เด็กยิ่งได้เงินเยอะ <O:p</O:p

    ก่อนหน้านี้ มีใครไม่รู้ ไม่ทราบชื่อ ส่งเมล์มาให้ว่า
    hotmail จะเก็บเงินค่าใช้ msn แต่ให้คุณส่งเมล์ไปหาคนอื่นๆ อีก 18 คน
    จะได้รับการยกเว้น <O:p</O:p

    ก่อนหน้านู๊น มีผู้ใดมิรู้ ส่งเมล์มาให้ว่า ต้องการเลือดกรุ๊ป นั้น กรุ๊ปนี้
    ให้ช่วยไปบริจาคกัน <O:p</O:p

    <O:p</O:p

    ซึ่งจริงๆแล้ว ลองมาวิเคราะห์กันนะครับ <O:p</O:p
    สำหรับกรณี แรก
    การฟอร์เวิร์ด เมล์เยอะ แล้ว คนนั้น คนนี้จะได้เงิน ส่วนแบ่งจากเมล์
    เราลองมาคิดเล่นว่า <O:p</O:p

    1.พ่อแม่เด็กจะได้เงินจากไหน
    2. แล้วต่อมา เช็คยังไง
    3. เมล์ล่ะ เท่าไหร่ <O:p</O:p

    อ่าน จากสามข้อ ดูแล้วไม่น่าสงสัยแต่ คิดกันง่ายๆ การที่ผู้ให้บริการ จะต้องมานั่ง ติดตามเมล์ฉบับ นึง
    ที่วิ่งผ่านไปผ่านมา บน server นั้น เป็นเรื่องที่ยากมาก ที่ยากเพราะ <O:p</O:p

    1. เมล์ มิได้อยู่บน server เดียว เหมือนอย่างกระทู้ แต่กลับถูกส่งไป มา เช่น hotmail ไปยาฮู เป็นต้น
    การที่จะปล่อยให้ ใครก็ตามมานั่ง เขียนโปรแกรมตามเมล์ เข้าไปถึงใน server ส่วนตัวแล้ว ยิ่งเป็นไปไม่ได้
    เพราะทุก server ต่างก็ต้องการจะทำระบบให้ปลอดภัยที่สุด รวมทั้ง เหตุผลสำคัญทางธุรกิจอีกด้วย <O:p</O:p

    2. แม้ว่า เมล์จะอยู่หรือ ส่งแค่ในระบบของ Hotmail หรือ แค่ yahoo คุณรู้หรือไม่ว่า yahoo และ hotmail มี server หลายสิบตัวด้วยกัน ที่ไว้รองรับ ผู้ใช้งานนับล้านคน ดังนั้น การที่วิ่งจับ อีเมล์ฉบับเดียว เพื่อแจกเงิน นั้น หาก yahoo หรือ hotmail จะทำ แจกเงินไปเลย ง่ายกว่า เห็นๆ<O:p></O:p>
    3.นอกจากนี้ เมล์ เหล่านี้ บางที มีทั้งภาษาไทย ภาษาอังกฤษ การที่จะต้องมานั่งเขียนโปรแกรมเช็ค ข้อความ ไทย - อังกฤษ ก็ยากแล้ว ยังไม่นับการเปลี่ยนเป็นภาษาอื่นๆ อีก<O:p</O:p
    สรุป กรณี ที่แรก Game Over โกหก ชัดๆ <O:p</O:p
    .....................................................................................................................
    กรณีที่สอง
    คิดอันแรกง่ายๆ ตามแบบ กรณีที่ 1 คือ การที่ hotmail จะต้องมานั่ง ตามจดหมายนั้น แม้ว่าจะอยู่ในระบบของ Hotmail เอง เป็นเรื่องที่ยาก (ใครเคยเขียนโปรแกรมในรูปแบบ Regular Expresion จะรู้ว่ายากกกก)<O:p</O:p

    โปรแกรมเมอร์ จะต้องมาเขียนนับด้วยว่า อ่า มันส่งไปกี่คน ครบ 18 หรือยัง โอ้ว
    มัน ยิ่งซับซ้อนไปใหญ่ แค่คิดก็จะบ้าแล้วล่ะครับ <O:p</O:p

    ต่อมาคือ ที่เราเห็น มีทั้งไทย อังกฤษ เหมือนกัน ดังนั้น คงต้องเขียนโปรแกรม กันปวดหัวแน่ๆ <O:p</O:p
    ประเด็นต่อมาคือ ปัจจุบัน เราจะเห็นว่า โปรแกรมสนทนา จะมีหลายค่ายด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็น
    MSN, Yahoo messenger,google talk,skype,icq,aol,qq (เอาแค่ตัวดังๆ ที่ผมเคยเล่นนะ)
    ทุกตัวฟรีหมด ดังนั้น หาค่ายใดค่ายหนึ่ง เก็บเงิน แล้ว เหล่าผู้ใช้ส่วนใหญ่ที่นิยมของฟรี จะหันไปยังคู่แข่งทันที แล้วเรื่องอะไร ล่ะ ที่ผู้ให้บริการเหล่านั้น จะยอมเสียฐานลูกค้าไป เพราะเพียงแค่ค่าโฆษณา ก็ได้เงินมหาศาลแล้ว<O:p</O:p

    สรุป กรณีที่ สอง Impossible <O:p</O:p
    .........................................................................................................
    กรณีสุดท้าย
    อันนี้ ต้องบอกก่อนว่า มิได้มีจิตใจ คับแคบ หรือ อกุศล
    แต่ เคยเจอมาแล้ว ก็เลยเอามาคิดเล่นๆ ให้ดูครับผม <O:p</O:p

    สมมุติว่า ผมจะต้องตายล่ะ พรุ่งนี้ ต้องใช้เลือดด่วนมากๆ ทางแรกที่ผมคิดคือ โทรหาเพื่อนๆ
    พ่อ แม่ พี่น้อง อะไรก็ตามแต่ จากนั้น ถ้าจะขอตามเว็บคงจะโพสต์ขอตรงๆ ล่ะครับ
    ถามว่า ทำไม ผมไม่เลือกส่งเมล์ <O:p</O:p

    1. การส่งเมล์ ลองคิดง่ายๆ ครับว่า ลองส่งเมล์จาก yahoo ไป hotmail แล้วจับเวลาดูครับ
    อย่างน้อย 10 นาที อย่างมาก 7 วัน ดังนั้น ถ้ามันติดอยู่ตรงกลาง คือ 3 วัน ผมก็คงตายไปแล้ว
    ดังนั้น ทางเลือกในการส่ง forword เมล์จึงกลายเป็นทางเลือกน้อยๆ ที่ควรไว้หลัง <O:p</O:p

    2. หลายๆ ครั้งที่เราจะเห็นว่า มีฟอร์เวิร์ดมา ให้ลองอ่านเนื้อเรื่อง กับวันที่ส่งก่อนหน้านี้ ในช่วงแรกๆ
    เอาว่าดูเลยว่า คนส่งคนแรก ส่งมาตั้งแต่เมื่อไหร่ แล้วดูวันนี้ ว่าห่างกันกี่วัน ถ้าเกิน 7 วัน อย่างที่บอก ผมคงตายไปแล้ว
    ดังนั้น เราจึงจำเป็นที่จะต้องดูระยะเวลา ตั้งแต่ต้น-จนถึงวันที่ได้รับด้วย <O:p</O:p

    เพราะบางครั้ง ผมยังเคยได้รับเมล์ในรูปแบบนี้ ซึ่งวันที่คนแรกส่ง กับวันที่ผมได้รับ มันข้ามปีกันแล้วครับ
    ผู้ที่ต้องการเหล่านั้น คงจะหายดีเป็นปรกติเสียแล้วกระมังครับ <O:p</O:p

    3. และมีส่วนหนึ่ง ที่ผม ได้รับ ทั้งจากข้างนอก และจากในองค์กร ซึ่งในองค์กร จะมีระบุชัดเจนว่า
    ใคร เป็นอะไร ที่ไหนอย่างไร และส่งภายใน ในองค์กร เอาง่ายๆ ว่ามีที่มาที่ไปแน่นอน ค่อนข้างเชื่อถือได้
    ในขณะที่จากข้างนอก บอกชื่อ ที่อยู่ (ส่วนมากเป็น รพ.) พร้อมเบอร์โทร ซึ่งเคยลองโทรไปครับ พบว่า เป็นเบอร์ที่เพื่อนเอามาแกล้งบ้าง บางครั้งชื่อโรงพยาบาลก้อไม่ใช่ <O:p</O:p

    ซึ่งกรณีหลังนี่ ก้ำกึ่งมาก เหมือนกันครับว่า ฉบับไหนจริง หรือไม่จริง แยกยาก แต่ก็มีเป็นส่วนใหญ่ ที่
    - แกล้งกันเอง มักจะแนบเป็นเบอร์มือถือมา ดังนั้น ควรโทรเช็ค ก่อนที่จะเสียเวลาออกไป
    - แกล้งคนอื่นที่ใจบุญ มักจะให้ที่อยู่ ไม่ใช้เบอร์ ส่วนใหญ่เป็น โรงพยาบาล จึงควรโทรเช็คก่อนเช่นกัน
    - ทำสนุกๆ มันส์ มักจะให้ที่อยู่ และเบอร์ 02 แนะนำให้ลองตรวจสอบเบอร์ก่อนว่า ที่นั่นที่ไหน <O:p</O:p

    สรุปง่ายๆ ก็คือ ตรวจสอบก่อนที่จะลงมือออกไปช่วยเหลือ หรือ ฟอร์เวิร์ดต่อ<O:p</O:p
    หลายท่านอาจจะคิดว่า Forward ไปก่อนไม่เป็นไรหรอก ไม่เสียเงินนี่
    แต่ท่านลองนึกสิครับว่า ถ้าสมมติว่า ผมตั้งใจออกไปช่วยเหลือจริงๆ เสียเงินเดินทาง เสียเวลา แต่ผลคือ ผมถูกหลอก!!! แล้วครั้งต่อไปล่ะ ผมคงคิดหนัก ก่อนที่จะทำแน่ๆ
    ยิ่งกลายเป็นว่า ทำให้คนที่ถูกหลอกไม่เชื่อ อีกต่อไป <O:p</O:p

    <O:p</O:p
    <O:p</O:p
    <O:p+++++++++++++++++++++++++++++++++</O:p
    <O:p</O:p
    <O:pส่วนFile แนบมานั้น ลองเปิดกันดูนะครับ </O:p
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • NoAPA__oQ.wmv
      ขนาดไฟล์:
      1.2 MB
      เปิดดู:
      45
  17. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    ผมจะไปหาท่านอาจารย์ประถม ในเดือนเมษายน 2549 นี้ ผมเลยมาขอแจ้งคุณAkkra1978 ว่าหลังจากผมไปหาท่านอาจารย์ประถม แล้วผมจะมาส่งพระพิมพ์ให้นะครับ

    <!-- / message --><!-- sig -->
     
  18. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    <TABLE class=tborder id=post217065 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR><TD class=thead style="FONT-WEIGHT: normal"><!-- status icon and date -->[​IMG] 23-03-2006, 02:04 PM <!-- / status icon and date --></TD><TD class=thead style="FONT-WEIGHT: normal" align=right> #464 </TD></TR><TR vAlign=top><TD class=alt2 width=175>Settsan<SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_217065", true); </SCRIPT>
    สมาชิก
    [​IMG] อัลบั้มรูปส่วนตัว
    วันที่สมัคร: Mar 2006
    ข้อความ: 17 <!-- Start Post Thank You Hack -->
    ได้ให้อนุโมทนา: 13
    ได้รับอนุโมทนา 38 ครั้ง ใน 14 โพส <!-- End Post Thank You Hack -->
    พลังการให้คะแนน: 0[​IMG]


    </TD><TD class=alt1 id=td_post_217065><!-- message -->เรียนคุณ Sithiphong .คุณนักเดินทาง ,ท่านผู้รู้
    ผม เพิ่งเป็นสมาชิกใหม่ของweb นี่ไม่นาน ได้อ่านฺBoard ที่คุณมีความตั้งใจช่วยเหลือและส่งเสริมให้ผู้อื่นร่วมทำบุญสร้างบารมี รู้สึกศรัทธาเป็นอย่างยิ่ง วันนี้ผมได้ไปโอนเงินเข้าจำนวน 1000 บาท เพื่อเป็นกองทุนช่วยเหลือสามเณร และภิกษุ ส.น.ส บ่อเงินบ่อทอง และได้ไปบริจาคโลหิตเป็นครั้งแรกในชีวิต
    </TD></TR></TBODY></TABLE>

    ผมจะไปหาท่านอาจารย์ประถม ในเดือนเมษายน 2549 นี้ ผมเลยมาขอแจ้งคุณsettsan ว่าหลังจากผมไปหาท่านอาจารย์ประถม แล้วผมจะมาส่งพระพิมพ์ให้นะครับ
     
  19. Akkra1978

    Akkra1978 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 ตุลาคม 2004
    โพสต์:
    254
    ค่าพลัง:
    +1,486
    สวัสดีครับคุณ sithiphong
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 4 เมษายน 2010
  20. นักเดินทาง

    นักเดินทาง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กรกฎาคม 2005
    โพสต์:
    726
    ค่าพลัง:
    +9,112
    วันนี้ผมออกเดินทางไปที่วัดบ่อเงินบ่อทองมา ออกแต่เช้าไปกับญาติอีกหลายคน ไปแวะแก้บนที่วัดโสธร คนเยอะมากแทบจะเหยียบกันตาย จนประมาณเที่ยงจึงออกจากวัดโสธร แวะซื้อของทำบุญที่ big c ฉะเชิงเทรา พวกข้าวสารอาหารแห้ง อาหารสด ผัก เครื่องปรุงต่าง ๆ ซื้อของเสร็จก็มุ่งหน้าสู่วัดบ่อเงินบ่อทอง ผมจำแยกที่จะเลี้ยวไม่ได้ ขับรถเลยไปจนถึงพนมสารคาม เลยโดนด่าซะยับเลย แต่ก็หาทางไปจนถึงที่จนได้

    พอไปถึงที่วัด วันนี้รู้สึกเงียบเหงาแปลกตา เพราะตอนนี้ปิดเทอม เณรบางส่วนกลับไปเยี่ยมบ้าน เหลือพระเณรอยู่ที่วัดตอนนี้ประมาณ 30 รูป วันนี้ตอนเช้ามีเด็ก ๆ มาบวชประมาณ 5-6 คน แต่บวชเทอดพระเกียรติในหลวงแค่ 15 วัน ดูท่าทางหลวงพ่อแผนท่านเหนื่อยมาก เพราะภาระงานก่อสร้างอาคารเรียนท่านต้องคุมทุกอย่างเอง พอถวายสังฆทานเสร็จหลวงพ่อก็พาผมเดินดูรอบวัด อธิบายความคืบหน้าต่าง ๆ ให้ผมฟัง

    หลังจากนั้นก็มานั่งคุยต่อที่ศาลาสวดมนต์ ผมก็ถามท่านว่ามีอะไรขาดบ้าง ผมขอสรุปเป็นข้อ ๆ ให้เพื่อน ๆ พี่ ๆ ฟังนะครับ
    1. ประมาณต้นเดือนพฤษภาคมนี้ จะมีเณรใหม่มาบวชจำนวนมากเพื่อเข้าศึกษาโนโรงเรียนพระปริยัตบ่อเงินบ่อทอง ตอนนี้ยังไม่มีผ้าไตรเตรียมไว้สำหรับเณรเลยครับ หากท่านใดพอรู้จักวัดที่มีผ้าไตรเก่าที่ไม่ใช้แล้ว อยากจะขอรับบริจาคครับ อันนี้อยากได้ด่วนครับ เพราะไกล้ถึงเวลาแล้ว จำเป็นต้องเตรียมไว้ล่วงหน้าให้เพียงพอ

    2. ห้องคอมพิวเตอร์(เล็ก ๆ เองครับ) ตอนนี้สร้างเสร็จเกือบสมบูรณ์แล้ว หลวงพ่อบอกว่าอยากได้คอมพิวเตอร์ซักจำนวนหนึ่ง เพื่อเป็นการศึกษาสำหรับเณร ถ้าเป็นไปได้อยากให้เรียบร้อยในตอนเปิดเทอม คือประมาณกลางเดือนพฤษภาคมนี้ เพื่อน ๆ พี่ ๆ ท่านใดมีคอมพิวเตอร์ไม่ใช้แล้ว เก่า ๆ ก็ได้ครับ แค่พอใช้ได้ก็พอ ถ้าต้องการบริจาคแจ้งที่ผมหรือคุณโตก็ได้ครับ แล้วก็ก่อนหน้านี้มีคนนำจอคอมฯ มาบริจาคประมาณ 10 กว่าตัว(มีแต่จอนะครับ) เพราะฉนั้นจะบริจาคเฉพาะชุด CPU ก็ได้ครับ

    3. วัสดุและเครื่องมือก่อสร้าง เช่น อิฐ หิน ปูน ทราย ฆ้อน สว่าน สายไฟ โคมไฟ หลอดไฟฯลฯ ยังขาดแคลน และแน่นอนเงินสำหรับใช้จ่ายยังขาดอีกเยอะ

    4. เมื่อถึงเวลาเปิดเทอม จะมีเณรเพิ่มขึ้นจากเดิมอีก เพราะฉนั้นค่าใช้จ่ายต่าง ๆ เช่น ค่าอาหาร ค่าสาธารณูปโภค ฯลฯ ก็จะเพิ่มตามไปด้วย ก็อยากวอนขอเพื่อน ๆ พี่ ๆ โปรดเมตตากันต่อไปด้วยครับ

    ระหว่างที่คุยกันหลวงพ่อย้ำกับผมหลายครั้งว่า อย่าเพิ่งทิ้งกันนะ ถ้าพวกเราไม่ช่วย ท่านคงทำต่อไปไม่ได้แน่ สงสารเด็ก ๆ จะไม่มีที่เรียนที่อยู่ที่กิน ผมก็รับปากท่านไปว่าจะช่วยไปจนกว่างานจะสำเร็จ และท่านฝากมาบอกคุณเม้าตาอิน คุณสิทธิพงศ์ และท่านอื่น ๆ ทุก ๆ ท่าน(ท่านจำชื่อได้ไม่หมด) ขอความเมตตาช่วยให้โรงเรียนนี้สำเร็จด้วยครั

    วันนี้ทำบุญมา 2 วัด มอบให้เจ้ากรรมนายเวรไปแล้ว แบ่งให้เพื่อน ๆ พี่ ๆ ทุกคนด้วย โมทนาเอาด้วยนะครับ สาธุ ๆ ๆ

    ส่วนรูปของการก่อสร้าง พรุงนี้ผมจะนำมาลงให้ดูครับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...