พระวังหน้า ที่หลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรเสก ถ้าต้องการที่จะได้.....

เตือนอันตรายเห็ดป่าบริโภคอาจตายได้ ไม่รู้จักอย่าแตะห้ามเก็บมารับประทาน
<HR style="COLOR: #ffffff" SIZE=1><!-- / icon and title --><!-- message -->เตือนอันตรายเห็ดป่าบริโภคอาจตายได้ ไม่รู้จักอย่าแตะห้ามเก็บมารับประทาน
<TABLE style="WIDTH: 480px"><TBODY><TR><TD vAlign=top></TD><TD vAlign=top>นายแพทย์วิวรรธน์ ก่อวิริยกมล นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดเลย เปิดเผยว่า ขณะนี้เป็นฤดูฝน ฝนตกชุกในทุกพื้นที่จังหวัดเลย ทำให้มีเห็ดป่าออกมาวางขายมากมายในตลาดต่าง ๆ ประชาชนชอบซื้อมารับประทาน บางครั้งขาดความระมัดระวัง อาจเก็บเห็ด/ซื้อเห็ดที่มีพิษปะปนเข้ามาด้วย บริโภคเข้าไปแล้วพิษจากเห็ดก่อให้เกิดอันตรายต่อร่างกายจนถึงแก่เสียชีวิตได้ จากรายงานระบาดวิทยา สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเลย ตั้งแต่มกราคม-พฤษภาคม 2550 พบผู้ป่วยแล้ว จำนวน 1 ราย เนื่องจากกินเห็ดเผาะสีแดง จึงขอเตือนมายังประชาชนอย่านำเห็ดที่ไม่รู้จักดี หรือเห็ดที่รู้จัก แต่มีลักษณะผิดไปจากปกติ เห็ดที่เก็บตามป่า มารับประทานโดยเด็ดขาด ธรรมชาติของเห็ดพิษสังเกตง่าย ๆ ดอกเห็ดจะมีรูปร่างสวยงามแตกต่างกัน แล้วแต่ชนิดของเชื้อมักจะมีสีสันที่ฉูดฉาด เช่น สีส้ม สีเหลือง สีเทา สีขาว เมื่อบริโภคเข้าไปแล้วอาจจะเกิดอาการขึ้นทันทีหลังจากรับประทาน หรืออาจใช้เวลาหลายชั่วโมง หรือเป็นวัน บางชนิดพิษของเห็ดออกฤทธิ์ช้าได้ถึง 14 วัน

สำหรับความรุนแรงของอาการแล้วแต่ชนิดของเห็ดพิษ และปริมาณที่รับประทานเข้าไป มีอาการเริ่มแรกคือ คลื่นไส้ อาเจียน ปวดท้อง ถ่ายเหลว บางรายอาจมึนงง เจ็บหน้าอก หน้าแดง ง่วงซึม ปากชา น้ำลายไหล ใจสั่น เป็นตะคริว อ่อนเพลีย ถ้าพบอาการดังกล่าวให้รีบไปรักษาที่สถานบริการสาธารณสุขทันที เห็ดพิษที่ทำให้ผู้ป่วยเสียชีวิตได้ส่วนใหญ่เป็นเห็ดกลุ่มเห็ดระโงก เห็ดระโงกมีหลายสี หลายชนิด เช่น เห็ดระโงกหิน หรือเห็ดไข่ตายซาก หมวกเห็ดเป็นรูปวงกลม ขอบไม่มีริ้ว ผิวด้านในของเยื่อหุ้มรูปถ้วยแนบกับโคนก้าน เมื่อบานออกมาเป็นรูปกระทะคว่ำ เห็ดระโงกหินหรือเห็ดไข่เป็ด หมวกเห็ดเป็นรูปกระทะคว่ำสีขาว ลักษณะคล้ายเห็ดตายซาก แตกต่างกันที่มีขนรุงรังก้านดอก เห็ดระโงกตีนเปาพิษร้ายแรงมาก เมื่อดอกยังตูมจะแยกไม่ออกว่าเป็นเห็ดระโงก มีพิษหรือไม่ เพราะเหมือนกับเห็ดระโงกที่รับประทานได้ จึงขอเตือนห้ามเก็บเห็ดที่มีลักษณะดังนี้มารับประทาน มีสีน้ำตาล, มีหมวกเห็ดสีขาว, มีปลอกหุ้มโคน, มีวงแหวนใต้หมวก, มีโคนอวบใหญ่, มีปุ่มปม, เห็ดที่มีหมวกเห็ดเป็นรู ๆ แทนที่จะมีช่องคล้ายครีบปลา, มีลักษณะคล้ายสมอง หรืออานม้า เพราะบางชนิดต้มแล้วกินได้ แต่บางชนิดมีพิษร้ายแรง, เห็ดตูมที่มีเนื้อในสีขาว, เห็ดที่ขึ้นที่มูลสัตว์ หรือใกล้มูลสัตว์.
</TD></TR></TBODY></TABLE>


วันอาทิตย์ที่ 27 พฤษภาคม พ.ศ. 2550 เวลา 17:38 น.
http://www.dailynews.co.th/web/html/...e=1&Template=1
<!-- / message --><!-- sig -->

 

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>อย.แนะรับประทานนม-อาหารทะเล-ผัก ป้องกันโรคกระดูกพรุน</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>27 พฤษภาคม 2550 09:22 น.</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left> นายนิรัตน์ เตียสุวรรณ ผู้อำนวยการกองพัฒนาศักยภาพผู้บริโภค สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) กล่าวว่า โรคกระดูกพรุนเป็นภาวะที่ความหนาแน่นของเนื้อกระดูกบางลง เนื่องจากมีการเสริมสร้างกระดูกน้อยลง ทำให้กระดูกเปราะบางลงเรื่อยๆ กระดูกไม่สามารถรับน้ำหนัก หรือแรงกดดันได้ตามปกติ มีโอกาสหักหรือยุบตัวได้ง่าย โดยผู้ที่มีความเสี่ยงต่อการเกิดโรคกระดูกพรุน ส่วนใหญ่เป็นสตรีวัยหมดประจำเดือน ผู้สูงอายุ ผู้ที่นิยมดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ กาแฟ น้ำอัดลม สำหรับอาการที่เกิดจากโรคกระดูกพรุนสามารถสังเกตได้ เช่น ปวดหลัง กระดูกสันหลังยุบตัว หลังค่อม ตัวเตี้ยลง กระดูกแขนขาเปราะ เพียงแค่ล้มเบาๆ กระดูกก็อาจหักได้
นายนิรัตน์ เตียสุวรรณ กล่าวว่า อย่างไรก็ตาม ประชาชนสามารถป้องกันโรคกระดูกพรุนในเบื้องต้น โดยรับประทานอาหารจำพวกแคลเซียม อย่างสม่ำเสมอ เช่น นม โยเกิร์ต อาหารทะเล ปลาตัวเล็กที่สามารถกินได้ทั้งกระดูก รวมทั้งอาหารจำพวกผัก เช่น ใบยอ ผักกระเฉด ยอดแค ผักคะน้า ตำลึง และใบขี้เหล็ก ซึ่งอาหารเหล่านี้สามารถหาบริโภคได้ทั่วไป และควรรับประทานควบคู่กับอาหารประเภทอื่น เพื่อเป็นการป้องกันการขาดสารอาหาร
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

วันที่ 27 พฤษภาคม 2550




พระพิมพ์ชุดพิเศษ 3

ได้รับพระเมตตา,พระกรุณา และขอพระบารมีองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระนามกุกกุสันโธ ,หลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรทั้ง 5 พระองค์ และสมเด็จพระพุฒาจารย์โต พรหมรังสี อธิษฐานจิตพระพิมพ์ให้ (ส่วนองค์ผู้อธิษฐานจิตพระพิมพ์เดิม ผมขอสงวนสิทธิ์ไม่แจ้งให้ทราบครับ เนื่องจากองค์ผู้อธิษฐานจิตใหม่ พลังองค์ผู้อธิษฐานจิตใหม่คลุมพลังองค์ผู้อธิษฐานจิตเดิมครับ) พลังอิทธิคุณครอบจักรวาล<O</O

วันนี้ผมนำล็อคเก็ตพร้อมพระสมเด็จผงยาวาสนา,พระสมเด็จผงยาจินดามณี,พระสมเด็จวังหน้าเนื้อขาวและพระสมเด็จวังหน้าเนื้อปัญจสิริ มามอบให้ผู้ร่วมทำบุญในกระทู้ ขอเชิญร่วมสร้างพระเจดีย์ศรีชัยผาผึ้ง ณ สำนักสงฆ์ผาผึ้ง อ.บ้านเขว้า จ.ชัยภูมิ บมจ.ธนาคารกรุงไทย สาขาลาดพร้าว 102 บัญชีออมทรัพย์เลขที่ 189-0-13128-8 ชื่อบัญชี นางพิชญ์สินี ชาญปารีชญา ,นายอุเทน งามศิริ ,นายสิรเชษฏ์ ลีละสุนทเลิศ ตามนี้ครับ<O</O
<O</O

1.ชุดล็อคเก็ตใหญ่ ด้านหลังติดพระนาคปรกหลวงปู่ม่น วัดเนินตามาก จำนวน 2 ชุด <O</O
ประกอบด้วย <O</O
1.1ล็อคเก็ตขนาดใหญ่ ขนาด กว้าง 2.7 * ยาว 3.5 ซม. จำนวน 1 องค์ <O</O
1.2พระสมเด็จเนื้อผงยาวาสนา จำนวน 2 องค์ <O</O
1.3พระสมเด็จผงยาวาสนา คะแนนร้อย จำนวน 3 องค์ <O</O
1.4พระสมเด็จเนื้อผงยาจินดามณี จำนวน 1 องค์ <O</O
1.5พระสมเด็จเนื้อผงยาจินดามณี คะแนนร้อย จำนวน 2 องค์ <O</O
1.6พระสมเด็จวังหน้า เนื้อขาวคะแนนร้อย จำนวน 1 องค์ <O</O
1.7พระสมเด็จวังหน้า เนื้อปัญจสิริคะแนนร้อย จำนวน 1 องค์<O</O
<O</O
มอบให้ผู้ร่วมทำบุญจำนวน 10,000 บาทเพื่อสร้างพระเจดีย์ศรีชัยผาผึ้ง<O</O
หมายเหตุ ทั้งสองชุดนี้ มีผู้จองทั้งหมดแล้วครับ
<O</O
<O</O
2.ชุดล็อคเก็ตเล็ก ด้านหลังติดพระนาคปรกหลวงปู่ม่น วัดเนินตามาก จำนวน 4 ชุด<O</O
ประกอบด้วย <O</O
2.1ล็อคเก็ตขนาดเล็ก ขนาด กว้าง 2.0 * ยาว 2.8 ซม. จำนวน 1 องค์ <O</O
2.2พระสมเด็จเนื้อผงยาวาสนา จำนวน 2 องค์ <O</O
2.3พระสมเด็จผงยาวาสนา คะแนนร้อย จำนวน 3 องค์ <O</O
2.4พระสมเด็จเนื้อผงยาจินดามณี จำนวน 1 องค์ <O</O
2.5พระสมเด็จเนื้อผงยาจินดามณี คะแนนร้อย จำนวน 2 องค์ <O</O
2.6พระสมเด็จวังหน้า เนื้อขาวคะแนนร้อย จำนวน 1 องค์ <O</O
2.7พระสมเด็จวังหน้า เนื้อปัญจสิริคะแนนร้อย จำนวน 1 องค์<O</O
<O</O
มอบให้ผู้ร่วมทำบุญจำนวน 9,000 บาทเพื่อสร้างพระเจดีย์ศรีชัยผาผึ้ง <O</O
<O</O

3.ชุดล็อคเก็ตเล็ก ด้านหลังติดพระสมเด็จจิ๋ว เนื้อปัญจสิริ จำนวน 1 ชุด<O</O
ประกอบด้วย <O</O
3.1ล็อคเก็ตขนาดเล็ก ขนาด กว้าง 2.0 * ยาว 2.8 ซม. จำนวน 1 องค์ <O</O
3.2พระสมเด็จเนื้อผงยาวาสนา จำนวน 2 องค์ <O</O
3.3พระสมเด็จผงยาวาสนา คะแนนร้อย จำนวน 3 องค์ <O</O
3.4พระสมเด็จเนื้อผงยาจินดามณี จำนวน 1 องค์ <O</O
3.5พระสมเด็จเนื้อผงยาจินดามณี คะแนนร้อย จำนวน 2 องค์ <O</O
3.6พระสมเด็จวังหน้า เนื้อขาวคะแนนร้อย จำนวน 1 องค์ <O</O
3.7พระสมเด็จวังหน้า เนื้อปัญจสิริคะแนนร้อย จำนวน 1 องค์<O</O
<O</O
มอบให้ผู้ร่วมทำบุญจำนวน 9,000 บาทเพื่อสร้างพระเจดีย์ศรีชัยผาผึ้ง <O</O
<O</O

4.ชุดล็อคเก็ตเล็ก ด้านหลังติดพระธาตุพระสิวลี(ผงพระวังหน้า) จำนวน 2 ชุด<O</O
ประกอบด้วย <O</O
4.1ล็อคเก็ตขนาดเล็ก ขนาด กว้าง 2.0 * ยาว 2.8 ซม. จำนวน 1 องค์ <O</O
4.2พระสมเด็จเนื้อผงยาวาสนา จำนวน 2 องค์ <O</O
4.3พระสมเด็จผงยาวาสนา คะแนนร้อย จำนวน 3 องค์ <O</O
4.4พระสมเด็จเนื้อผงยาจินดามณี จำนวน 1 องค์ <O</O
4.5พระสมเด็จเนื้อผงยาจินดามณี คะแนนร้อย จำนวน 2 องค์ <O</O
4.6พระสมเด็จวังหน้า เนื้อขาวคะแนนร้อย จำนวน 1 องค์ <O</O
4.7พระสมเด็จวังหน้า เนื้อปัญจสิริคะแนนร้อย จำนวน 1 องค์<O</O
<O</O
มอบให้ผู้ร่วมทำบุญจำนวน 8,000 บาทเพื่อสร้างพระเจดีย์ศรีชัยผาผึ้ง <O</O
<O</O

หมายเหตุ ล็อคเก็ตและพระพิมพ์ทั้งหมดได้ผ่านพิธีพุทธาภิเษก ซึ่งอยู่ในพระชุดพิเศษ 3 เกือบทุกองค์ยกเว้น พระสมเด็จผงยาวาสนาคะแนนร้อย องค์แรกในแถวล่าง และพระสมเด็จผงยาจินดามณี องค์ที่สามในแถวล่าง จะผ่านพิธีพุทธาภิเษกเชิญหลวงปู่พระสิวลีเถระเจ้า ,หลวงปู่พระอนุรุทเถระเจ้า ,หลวงปู่พระอุปคุตเถระเจ้า และหลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรทั้ง 5 พระองค์ และทุกๆท่านสามารถจองและทยอยร่วมทำบุญไปได้เรื่อยๆ เช่นในท่านมีความประสงค์จะร่วมทำบุญและรับชุดล็อคเก็ตเล็ก ด้านหลังติดพระนาคปรกหลวงปู่ม่น จำนวน 9,000 บาท แต่ละเดือนท่านอาจจะร่วมทำบุญเดือนละ 500 บาท ก็จะเป็นระยะเวลาที่ท่านร่วมทำบุญแค่ 18 เดือน เมื่อท่านร่วมบุญครบแล้ว ผมจะจัดส่งชุดล็อคเก็ตไปให้ท่านครับ<O</O

 

ผมขอขอบพระคุณพี่ตุ่น (ได้มอบล็อคเก็ตเล็ก 2 องค์ ด้านหลังติดพระนาคปรกหลวงปู่ม่น วัดเนินตามาก 1 องค์และด้านหลังติดพระสมเด็จจิ๋ว เนื้อปัญจสิริ 1 องค์) และน้องguawn (ได้มอบล็อคเก็ตใหญ่ 1 องค์ และล็อคเก็ตเล็ก 2 องค์ ด้านหลังติดพระนาคปรกหลวงปู่ม่นทั้ง 3 องค์)

โมทนาสาธุกับทั้งสองท่านด้วยครับ

.

 

http://www.matichon.co.th/prachacha...g=02p0101240550&day=2007/05/24&sectionid=0201

หนังสือพิมพ์ประชาชาติธุรกิจ

วันที่ 24 พฤษภาคม พ.ศ. 2550 ปีที่ 30 ฉบับที่ 3899 (3099)​

มือถือปลอมลามหนักทั่วไทย ดีลเลอร์ร้องลั่น-โนเกียมึนN99โผล่

มือถือปลอมจากจีนทะลักชายแดน ขยายวงลามทั่วประเทศ แบรนด์ดัง "โนเกีย" โดนหนักสุด เหลือเชื่อ ! ส่งรุ่นใหม่ N99 ฟังก์ชันครบ ราคาแค่ 5,900 บาทตีตลาด เผยสถานการณ์ชักหนักข้อ พัฒนาจากกองทัพมดกลายเป็นขบวนการ วางเกลื่อนมาบุญครอง ดีลเลอร์มือถือหนองคายกุมขมับ ยอดขายโนเกียทรุดกว่า 90% วอนบริษัทแม่เร่งแก้ปัญหา "เจมาร์ท" เชนสโตร์รายใหญ่เชื่อสัดส่วนยังน้อย ด้าน "โนเกีย" เต้นไม่มีมือถือรุ่น N97 และ N99 ในสายการผลิต

ผู้สื่อข่าวรายงานจากจังหวัดหนองคายว่า จากการสำรวจตลาดโทรศัพท์มือถือที่จังหวัดหนองคาย พบว่าขณะนี้โทรศัพท์มือถือปลอมจากประเทศจีนที่มีการก๊อบปี้แบรนด์ดัง โดยเฉพาะโนเกียมีการระบาดในตลาดจังหวัดหนองคายมากขึ้น หลังจากที่มือถือดังกล่าววางจำหน่ายในร้านค้าปลอดภาษี หรือดิวตี้ฟรีลาว ซึ่งตั้งอยู่บริเวณด่านพรมแดนสะพานมิตรภาพลาว-ไทย ด้านฝั่งลาวและนครหลวงเวียงจันทน์ ทำให้ประชาชนให้ความนิยมมากขึ้นเรื่อยๆ แม้ว่าคุณภาพจะห่างจากโนเกียของจริงก็ตาม เนื่องจากผู้ซื้อเห็นว่ามีราคาถูกกว่าหลายเท่าตัว และยังมีการเลียนแบบได้เหมือนกับเครื่องจริงมากขึ้น รวมทั้งมีฟังก์ชันที่ทันสมัย

ทั้งนี้มือถือที่มาจากประเทศจีนนั้นจะมีทั้งประเภทที่เป็นมือถือเลียนแบบแต่ไม่มีแบรนด์ กับประเภทที่เป็นมือถือปลอมที่ติดแบรนด์ต่างๆ แต่ที่ได้รับความนิยมสูงสุดก็คือแบรนด์โนเกียด้วย

กระแสตลาดมือถือปลอมเริ่มตั้งแต่ช่วงต้นปี 2550 เป็นต้นมา โดยฝั่งผู้ผลิตมือถือในเมืองจีนได้ทยอยออกรุ่นใหม่ๆ ออกมาหลายรุ่น จากที่เคยผลิตเป็นเฮาส์แบรนด์ แต่ในระยะหลังมือถือเฮาส์แบรนด์ของจีนไม่ได้รับความนิยมเท่าไหร่ จึงมีผู้ผลิตบางรายหันมาผลิตเครื่องก๊อบปี้แบรนด์ดังทำให้มีสินค้าเข้ามาระบาดในตลาดเมืองไทยมากขึ้น โดยเฉพาะโนเกียรุ่นใหม่ๆ เช่น รุ่น 6308, N70, N97 รุ่นที่กำลังฮิตสุดคือ N70 ตัวใหม่ที่ผลิตออกมา เพราะผลิตได้เหมือนกับแบรนด์จริงมากขึ้น

และล่าสุดก็มีรุ่นใหม่เข้ามาทำตลาดคือโนเกีย N99 ซึ่งรุ่นนี้กำลังได้รับความนิยมในตลาดหนองคายอย่างรวดเร็ว ถือเป็นรุ่นท็อปสุดในตอนนี้ มีคุณสมบัติมากขึ้นกว่ารุ่น N94 และ N97 คือเป็นระบบหน้าจอสัมผัส พร้อมปากกาสไตลัส และยังสามารถใช้ซิมได้ 2 ซิม โดยเปิดใช้พร้อมกันได้ ทำให้เหมือนมีโทรศัพท์ 2 เครื่องอยู่ในเครื่องเดียว

อย่างไรก็ตามได้รับการชี้แจงจากทางบริษัทโนเกียว่า กรณีที่มีมือถือโนเกีย รุ่น N97 และ N99 วางขายนั้นเป็นของปลอมทั้งหมด เพราะโนเกียไม่มีสินค้ารุ่นดังกล่าวแต่อย่างใด

สำหรับราคาซื้อ-ขายมือถือปลอมในฝั่ง สปป. ลาวขึ้นอยู่กับจำนวนการสั่งซื้อและความสามารถในการต่อรอง หากเป็นวันธรรมดาที่ลูกค้าไม่มากนักก็ต่อรองราคาได้ค่อนข้างมาก เนื่องจากมีร้านจำหน่ายจำนวนมาก แต่หากเป็นวันหยุดที่มีลูกค้าเข้าร้านจำนวนมากก็ต่อรองได้น้อย

การระบาดของมือถือปลอมดังกล่าวได้ส่งผลกระทบโดยตรงกับร้านจำหน่ายโทรศัพท์ในจังหวัดหนองคาย โดยยอดขายลดลงเกินกว่า 90% แล้ว ทำให้ร้านที่จำหน่ายโทรศัพท์ใหม่เพียงอย่างเดียวอยู่ไม่ได้ ต้องมีการปรับกลยุทธ์หันมาจำหน่ายโทรศัพท์มือสอง เปิดรับซ่อม รับซื้อ-ขายแลกเปลี่ยนและจำนำมือถือมากขึ้น

ผู้ค้าที่นำเข้ามาจำหน่ายอ้างว่าเป็นสินค้ารุ่นใหม่หนีภาษีที่ยังไม่เข้ามาเมืองไทย ทำให้ผู้บริโภคบางกลุ่มที่ตัดสินใจซื้อก็ไม่รู้ว่าเป็นมือถือปลอม

แหล่งข่าวจากฝ่ายความมั่นคงจังหวัดหนองคายเปิดเผยว่า กระแสความนิยมโทรศัพท์มือถือจากจีนทำให้เกิดขบวนการลักลอบขนโทรศัพท์มือถือเข้ามาจำหน่ายในประเทศไทยมากขึ้น มีทั้งเป็นแบบกองทัพมดที่นำเข้ามาครั้งละ 2-3 เครื่อง นำมารวบรวมไว้ให้ได้จำนวนมากแล้วส่งต่อ ส่วนที่เป็นขบวนการนั้นจะลักลอบนำเข้าครั้งละ 10-50 ตัว เพื่อส่งให้กับร้านค้าในจังหวัดหนองคายและร้านค้าจังหวัดใกล้เคียง รวมไปถึงกรุงเทพฯที่เริ่มเป็นตลาดใหญ่ โดยราคาจำหน่าย N99 อยู่ที่ 5,900-8,000 บาท ขึ้นอยู่กับระยะทางขนส่งด้วย

ล่าสุดเมื่อปลายเดือนเมษายนที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับกุมขบวนการได้ โดยผู้ต้องหาเป็นคนกรุงเทพฯและคนจังหวัดชลบุรีรวม 3 คน ได้ของกลางเป็นโทรศัพท์มือถือโนเกียปลอมจากจีนรุ่น N99, N97, 6308 พร้อมอุปกรณ์เสริมถึง 36 เครื่อง ผู้ต้องหาทั้งหมดบอกว่าซื้อมาจากร้านค้าปลอดภาษีที่ฝั่ง สปป.ลาว ในราคา 3,100-5,000 บาท เพื่อที่จะนำไปใช้และนำไปขายต่อที่กรุงเทพฯ

ในส่วนของการปราบปรามจับกุมนั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ให้ความสำคัญในเรื่องนี้มากขึ้น เนื่อง จากพบว่าตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา เริ่มมีการลักลอบนำโทรศัพท์มือถือปลอมจากจีนเข้ามาในประเทศมากขึ้นเรื่อยๆ จากกองทัพมดกลายเป็นขบวนการ เนื่องจากได้กำไรสูงมาก นอกจากนี้ยังมีขบวนการที่นำโทรศัพท์จากจีนไปจำนำหรือขายให้กับร้านเล็กๆ ที่อยู่อำเภอรอบนอก โดยหลอกว่าเป็นโทรศัพท์โนเกียรุ่นใหม่ ทำให้ร้านค้าหลายแห่งต้องเสียเงินไปโดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์

รายงานข่าวแจ้งว่า ปัจจุบันมือถือจีนที่ลอกเลียนแบบแบรนด์ดังกำลังได้รับความนิยมในลูกค้าระดับล่าง โดยเฉพาะยี่ห้อโนเกียรุ่น N70 และ N73 เป็นที่นิยมกันมาก โดยใช้วิธีซื้อแล้วนำเข้ามาครั้งละไม่กี่เครื่อง ปะปนมากับสินค้าชายแดน และเข้า-ออกแบบนักท่องเที่ยว ซึ่งเจ้าหน้าที่ชายแดนจะอนุโลมเพื่อไม่ให้เสียการท่องเที่ยว และอีกส่วนหนึ่งลักลอบนำเข้าทางแม่น้ำสาย ชายแดนไทย-พม่า

ด้านนายธนา เธียรอัจฉริยะ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มพาณิชย์ บมจ.โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (แทค) เปิดเผย "ประชาชาติธุรกิจ" เกี่ยวกับสถานการณ์ของตลาดผู้ค้าเครื่องโทรศัพท์มือถือว่า ขณะนี้ผู้ค้าต้องเผชิญทั้งสงครามตัดราคาที่ผู้ค้าเปิดเกมเข้าใส่กันจนทำให้ผู้ประกอบการรายใหญ่ หรือกลุ่มที่ลงทุนสร้างเครือข่ายเอาต์เลตมาตรฐานแทบจะอยู่ไม่ได้ และอีกด้านหนึ่งยังเจอกับปัญหาเครื่องปลอม หรือเครื่องก๊อบปี้เพิ่มขึ้นทั้งในกรุงเทพฯและตลาดต่างจังหวัด

"ประเด็นเครื่องปลอม หรือก๊อบปี้ เท่าที่ทราบจะมีมากในต่างจังหวัดแถวชายแดน ซึ่งจะเป็นเครื่องก๊อบปี้รุ่นที่ราคาสูงๆ ฟังก์ชันเยอะ แต่ขายในราคาแค่ 5,000-6,000 บาท ขณะที่ของจริงขายกัน 2-3 หมื่น ส่วนหนึ่งอาจซื้อเพราะไม่รู้ เมื่อเร็วๆ นี้ทีมของคุณซิคเว่ลงสำรวจตลาดในต่างจังหวัดก็เคยพบ ยังส่งรูปมาให้ดูกันเลย แต่ยังเชื่อว่าคนใช้ที่พอรู้ก็จะดูออก ยกเว้นคนที่ยอมซื้อของก๊อบปี้เพราะราคาล่อใจ ซึ่งก็คงมีบ้างเหมือนกัน" นายธนากล่าว

ขณะที่นายกิตติพงศ์ กนกวิไลรัตน์ ผู้อำนวยการสายงานการตลาดและการขาย บริษัท เจ มาร์ท จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ตนเคยได้รับข้อมูลเกี่ยวกับการขายเครื่องปลอมในตลาดบ้างเช่นกันตามโฆษณาในเว็บไซต์ ซึ่งเมื่อดูจากภายนอกแล้วตัวเครื่องจะมีความคล้ายกับสินค้าเจ้าของลิขสิทธิ์ แต่วิธีการใช้งานและฟังก์ชันต่างๆ ไม่เหมือนกันซึ่งก็เป็นการทำให้ผู้บริโภคในตลาดสับสน

อย่างไรก็ตามคิดว่าปริมาณการขายเครื่องปลอมไม่น่าจะมีจำนวนมากนัก เนื่องจากเป็นการละเมิดเครื่องหมายการค้าและลิขสิทธิ์ ดังนั้นจึงต้องขายแบบหลบๆ ซ่อนๆ ซึ่งเมื่อเปรียบเทียบกับยอดขายในตลาดแล้วน่าจะมียอดขายน้อยกว่าเครื่องเฮาส์แบรนด์เสียอีก และไม่น่าจะเกิดผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญกับตลาดมากนัก

โดยก่อนหน้านี้ผู้สื่อข่าว "ประชาชาติธุรกิจ" ได้สำรวจที่ชั้น 4 มาบุญครอง แหล่งรวมการขายโทรศัพท์มือถือที่ใหญ่ที่สุด พบว่ามีร้านค้าที่ขายโทรศัพท์มือถือปลอมปะปนอยู่เช่นเดียวกัน ซึ่งมองโดยทั่วไปจะไม่ทราบเพราะทางร้านก็ไม่กล้าขึ้นป้ายราคาโดดเด่น เนื่องจากเกรงว่าจะโดนตำรวจจับเพราะเป็นการขายสินค้าปลอม แต่จากการสอบถามราคาก็จะพบว่าร้านดังกล่าวขายต่ำกว่าราคาปกติมาก และเมื่อได้ทดสอบการใช้เครื่องจึงจะรู้ว่าไม่ใช่ของจริง โดยทางผู้ค้าก็แจ้งว่าเป็นสินค้าก๊อบปี้ที่หิ้วเข้ามาจากประเทศจีน ทั้งนี้มือถือปลอมที่วางขายจะมีทั้งโนเกีย, โมโตโรล่า, ซัมซุง และแอลจี แต่ส่วนใหญ่ก็จะเป็นโนเกียซึ่งมีรุ่นให้เลือกค่อนข้างหลากหลาย

ทั้งนี้จากการสอบถามกรณีปัญหาดังกล่าวไปยังบริษัทโนเกีย (ประเทศไทย) จำกัด ซึ่งได้รับการชี้แจงว่า โนเกียรับทราบปัญหาที่เกิดขึ้นเช่นกัน โดยที่โนเกียจะมีแผนกที่ดูแลเรื่องละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาอยู่ที่สิงคโปร์แต่ดูแลทั้งภูมิภาคเพื่อดำเนินการทางกฎหมาย ส่วนประเทศไทยก็จะทำหน้าที่ส่งข้อมูลไปที่สิงคโปร์เท่านั้น

 

http://www.komchadluek.net/2007/05/27/i001_119694.php?news_id=119694
วันอาทิตย์ที่ 27 พฤษภาคม พ.ศ. 2550


<TABLE cellSpacing=5 cellPadding=0 width=567 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top>ดูแลชีวิตให้ "มีสุข" ท่ามกลางสังคมในปัจจุบัน</TD></TR><TR><TD vAlign=top>25 พฤษภาคม 2550 18:23 น.</TD></TR><TR><TD class=Text_Story vAlign=top><!-- ด้วยปัญหาเศรษฐกิจที่รุมเร้า รวมไปถึงปัญหาส่วนตัวของแต่ละคน ส่งผลให้คนในสังคมต้องจมปลักอยู่กับความเครียดหลากหลายรูปแบบ และหลายครั้งที่เรามักจะเห็นการหาทางออก ด้วยวิธีวิ่งเข้าหาความตายเพื่อหนีปัญหา โผล่ขึ้นมาตามหน้าหนังสือพิมพ์เกือบทุกวัน
คงไม่มีใครปฏิเสธว่าอยากมี "ความสุข" อยู่บนโลกนี้ จวบจนวาระสุดท้ายของชีวิต ซึ่ง น.พ.อภิชัย มงคล รองอธิบดีกรมสุขภาพจิต ได้ให้ความกระจ่างเกี่ยวกับสุขภาพจิตของมนุษย์ว่า สุขภาพจิตของคนเรามีความสัมพันธ์กับระดับความเจริญทางสังคมเป็นหลัก จากนั้นจึงสัมพันธ์กับเศรษฐกิจ สิ่งแวดล้อม ซึ่งสิ่งเหล่านี้สังคมเราจะเป็นตัวกำหนด ที่จะทำให้มนุษย์มีความสุขเพิ่มมากขึ้นหรือน้อยลง
"การที่เราจะมีสุขภาพจิตที่ดีได้ ต้องเริ่มจากการดูแลตัวเอง คนรอบข้างให้ดีก่อน จากนั้นถึงจะหันมาดูแลชุมชนใกล้เคียงหรือเพื่อนบ้าน เพราะถ้าบุคคลคนใดบุคคลหนึ่งมีความทุกข์ ความเครียดก็จะมีเพิ่มขึ้น ซึ่งเป็นปัจเจกบุคคลว่าเครียดแล้วต้องคลายเครียด ฝึกวิธีป้องกันไม่ให้เกิดความเครียดง่าย ซึ่งวิธีคลายความเครียดมีอยู่หลายวิธี แต่จากการวิจัยของกรมสาธารณสุขพบว่าวิธีการคลายความเครียดที่ดีที่สุด คือ การออกกำลังกายที่ทำอย่างต่อเนื่องนาน 30 นาที อาทิตย์ละ 3 วัน หรือเรียกว่าวันเว้นวัน รองลงมาคือการทำสมาธิ เล่นโยคะ ไทเก็ก หรือผู้หญิงนิยมใช้การพูดคุยปรึกษาหารือกัน ซึ่งสิ่งเหล่านี้สามารถทำให้ความเครียดลดลงได้" รองอธิบดีกรมสุขภาพจิต แนะนำ
พร้อมกับบอกด้วยว่า การระบายความเครียดด้วยการพูดคุยนั้น สิ่งสำคัญคือผู้ฟังต้องเป็นผู้ฟังที่ดี อย่าแนะนำหรือเทศน์สอน เพราะผู้ที่ต้องการระบาย อยากที่จะให้มีคนอื่นฟังความเครียดของตัวเองมากกว่า และวิธีการที่กรมสุขภาพจิตแนะนำ คือการฝึกหายใจ ซึ่งอาจยากในทางปฏิบัติหากทำได้จะช่วยผ่อนคลายความเครียดได้ดียิ่งขึ้น
"การฝึกลมหายใจเป็นเรื่องง่ายๆ ที่ใครก็สามารถฝึกกันได้ ซึ่งการหายใจที่ดีต้องหายใจช้าๆ เวลาหายใจเข้าท้องจะต้องป่อง หายใจออกท้องจะแฟบ แต่เวลาที่เราเครียดจะทำตรงกันข้าม การฝึกหายใจเข้าออกต้องทำ 5-10 นาที ซึ่งเป็นพื้นฐานของการนั่งสมาธิอยู่แล้ว ทุกคนสามารถทำได้และเป็นวิธีที่ง่ายๆ
"การฝึกหายใจอาจจะเป็นการฝืนธรรมชาติสักหน่อย แต่ถ้าตั้งสติกับการหายใจเข้าออกช้าๆ สามารถทำได้ ซึ่งการหายใจที่ดีที่สุดต้องหายใจให้ได้ 6-10 ครั้ง/นาที แต่คนธรรมดาจะไม่ค่อยได้ คนส่วนใหญ่หายใจเร็วซึ่งทำให้ออกซิเจนไม่เข้าปอด ออกซิเจนเข้าไปในกระแสเลือดได้ไม่เต็มที่ แล้วเวลาเครียดเขาจะแขม่วท้อง ทำให้อากาศเข้าไปไม่เต็มที่ ต้องหันมาฝึกหายใจกันให้ถูกวิธีด้วย แรกๆ อาจจะทำยากหน่อย แต่ถ้าทำบ่อยๆ เดี๋ยวก็ทำได้โดยอัตโนมัติ" น.พ.อภิชัย แจกแจง
นอกจากนี้สถิติการฆ่าตัวตายของคนไทย ไม่ได้มีมากขึ้นหากเทียบกับเมื่อ 7-8 ปีที่ผ่านมา ตรงกันข้ามกลับมีอัตราการฆ่าตัวตายลดลงอย่างเห็นได้ชัด เนื่องจากเมื่อ 7-8 ปีก่อน ผู้คนประสบกับปัญหาเศรษฐกิจ ทำให้มีคนฆ่าตัวตายประมาณ 5,000 กว่าคนต่อปี แต่ระยะหลังมีคนฆ่าตัวตายประมาณ 3,000 คนต่อปี แปลว่าเมื่อก่อน 1 วันมีคนฆ่าตัวตาย 15-16 คน แต่ปัจจุบันมีคนฆ่าตัวตายลดลงเฉลี่ย 10 วันต่อคน ซึ่งประชากรทางภาคเหนือตอนบน อย่างจังหวัดลำพูน เชียงใหม่ และเชียงราย จะมีอัตราการฆ่าตัวตายมากที่สุด
แม้ภาวะความเครียดจะอยู่ใกล้แค่เอื้อม หากมีสติและรู้จักวิธีกำจัดความเครียดเหล่านั้น เราก็สามารถหาความสุขได้อย่างง่ายดาย ซึ่ง น.พ.อภิชัย แนะวิธีการใช้ชีวิตอย่างมีความสุขด้วยหลักง่ายๆ เพียง 3 ข้อว่า
"อย่างแรกเลยคือ เราต้องควบคุมตัวเองเรื่องของการอยากได้ อยากมีให้ได้ก่อน เหมือนอย่างที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงมีพระราชดำริเอาไว้เรื่องความพอประมาณ อย่าไปตั้งเป้าหมายสูงมาก ตั้งเอาไว้เป็นขั้นๆ เริ่มจาก 0 จนถึง 10 แต่คนส่วนมากจะตั้งความหวังไว้ที่ 10 พอไม่ได้อย่างหวังก็เครียดจนกลายเป็นความทุกข์ ทางที่ดีควรทำอะไรเป็นขั้นเป็นตอน และต้องใช้ความเพียรพยายามเพื่อไปให้ถึงในแต่ละขั้น
สองเราต้องฝึกการพูดจากับคนรอบข้าง คอยสังเกตว่าคำพูดที่เราพูดไปแล้วจะไปกระทบความรู้สึกของคนรอบข้างหรือเปล่า ซึ่งเรื่องนี้เป็นเรื่องของอีคิวแต่ละคน จะทำให้เรารู้ว่าคนที่เรากำลังคุยด้วยเขามีอารมณ์ความรู้สึกอย่างไร เหมือนจังหวะไหนที่เราควรจะพูด ไม่ว่าจะเป็นการสื่อสารกับใครก็ตาม
สิ่งสุดท้ายที่จะทำให้เรามีความสุขที่สุด คือ การทำบุญ ซึ่งมีการวิจัยออกมาอย่างชัดเจนแล้วว่า การทำบุญช่วยเหลือผู้ที่ตกทุกข์ได้ยาก โดยใช้ความพยายามอย่างเต็มที่ จะทำให้ผู้ทำบุญมีความสุขมากขึ้นกว่าการทำบุญด้วยการบริจาคเงิน แต่ถ้าการบริจาคเงินจะก่อเกิดความสุขได้ ต้องแน่ใจว่าเราได้พยายามกับการบริจาคเงินเหล่านั้นจริงๆ เพราะเมื่อเราทำให้คนอื่นมีความสุขแล้ว เราก็จะมีความสุขตามไปด้วย" น.พ.อภิชัย กล่าวทิ้งท้าย
แบบนี้ "การทำชีวิตให้มีความสุข" ก็ไม่ใช่เรื่องยากแล้วล่ะค่ะ แค่รู้จักตัวเองให้มากขึ้น เรื่องอะไรที่คิดว่ายากก็จะกลายเป็นเรื่องง่ายสำหรับเราทั้งนั้นแหละค่ะ
++++++++++++++++++++++++

-->
ด้วยปัญหาเศรษฐกิจที่รุมเร้า รวมไปถึงปัญหาส่วนตัวของแต่ละคน ส่งผลให้คนในสังคมต้องจมปลักอยู่กับความเครียดหลากหลายรูปแบบ และหลายครั้งที่เรามักจะเห็นการหาทางออก ด้วยวิธีวิ่งเข้าหาความตายเพื่อหนีปัญหา โผล่ขึ้นมาตามหน้าหนังสือพิมพ์เกือบทุกวัน
คงไม่มีใครปฏิเสธว่าอยากมี "ความสุข" อยู่บนโลกนี้ จวบจนวาระสุดท้ายของชีวิต ซึ่ง น.พ.อภิชัย มงคล รองอธิบดีกรมสุขภาพจิต ได้ให้ความกระจ่างเกี่ยวกับสุขภาพจิตของมนุษย์ว่า สุขภาพจิตของคนเรามีความสัมพันธ์กับระดับความเจริญทางสังคมเป็นหลัก จากนั้นจึงสัมพันธ์กับเศรษฐกิจ สิ่งแวดล้อม ซึ่งสิ่งเหล่านี้สังคมเราจะเป็นตัวกำหนด ที่จะทำให้มนุษย์มีความสุขเพิ่มมากขึ้นหรือน้อยลง
"การที่เราจะมีสุขภาพจิตที่ดีได้ ต้องเริ่มจากการดูแลตัวเอง คนรอบข้างให้ดีก่อน จากนั้นถึงจะหันมาดูแลชุมชนใกล้เคียงหรือเพื่อนบ้าน เพราะถ้าบุคคลคนใดบุคคลหนึ่งมีความทุกข์ ความเครียดก็จะมีเพิ่มขึ้น ซึ่งเป็นปัจเจกบุคคลว่าเครียดแล้วต้องคลายเครียด ฝึกวิธีป้องกันไม่ให้เกิดความเครียดง่าย ซึ่งวิธีคลายความเครียดมีอยู่หลายวิธี แต่จากการวิจัยของกรมสาธารณสุขพบว่าวิธีการคลายความเครียดที่ดีที่สุด คือ การออกกำลังกายที่ทำอย่างต่อเนื่องนาน 30 นาที อาทิตย์ละ 3 วัน หรือเรียกว่าวันเว้นวัน รองลงมาคือการทำสมาธิ เล่นโยคะ ไทเก็ก หรือผู้หญิงนิยมใช้การพูดคุยปรึกษาหารือกัน ซึ่งสิ่งเหล่านี้สามารถทำให้ความเครียดลดลงได้" รองอธิบดีกรมสุขภาพจิต แนะนำ
พร้อมกับบอกด้วยว่า การระบายความเครียดด้วยการพูดคุยนั้น สิ่งสำคัญคือผู้ฟังต้องเป็นผู้ฟังที่ดี อย่าแนะนำหรือเทศน์สอน เพราะผู้ที่ต้องการระบาย อยากที่จะให้มีคนอื่นฟังความเครียดของตัวเองมากกว่า และวิธีการที่กรมสุขภาพจิตแนะนำ คือการฝึกหายใจ ซึ่งอาจยากในทางปฏิบัติหากทำได้จะช่วยผ่อนคลายความเครียดได้ดียิ่งขึ้น
"การฝึกลมหายใจเป็นเรื่องง่ายๆ ที่ใครก็สามารถฝึกกันได้ ซึ่งการหายใจที่ดีต้องหายใจช้าๆ เวลาหายใจเข้าท้องจะต้องป่อง หายใจออกท้องจะแฟบ แต่เวลาที่เราเครียดจะทำตรงกันข้าม การฝึกหายใจเข้าออกต้องทำ 5-10 นาที ซึ่งเป็นพื้นฐานของการนั่งสมาธิอยู่แล้ว ทุกคนสามารถทำได้และเป็นวิธีที่ง่ายๆ
"การฝึกหายใจอาจจะเป็นการฝืนธรรมชาติสักหน่อย แต่ถ้าตั้งสติกับการหายใจเข้าออกช้าๆ สามารถทำได้ ซึ่งการหายใจที่ดีที่สุดต้องหายใจให้ได้ 6-10 ครั้ง/นาที แต่คนธรรมดาจะไม่ค่อยได้ คนส่วนใหญ่หายใจเร็วซึ่งทำให้ออกซิเจนไม่เข้าปอด ออกซิเจนเข้าไปในกระแสเลือดได้ไม่เต็มที่ แล้วเวลาเครียดเขาจะแขม่วท้อง ทำให้อากาศเข้าไปไม่เต็มที่ ต้องหันมาฝึกหายใจกันให้ถูกวิธีด้วย แรกๆ อาจจะทำยากหน่อย แต่ถ้าทำบ่อยๆ เดี๋ยวก็ทำได้โดยอัตโนมัติ" น.พ.อภิชัย แจกแจง
นอกจากนี้สถิติการฆ่าตัวตายของคนไทย ไม่ได้มีมากขึ้นหากเทียบกับเมื่อ 7-8 ปีที่ผ่านมา ตรงกันข้ามกลับมีอัตราการฆ่าตัวตายลดลงอย่างเห็นได้ชัด เนื่องจากเมื่อ 7-8 ปีก่อน ผู้คนประสบกับปัญหาเศรษฐกิจ ทำให้มีคนฆ่าตัวตายประมาณ 5,000 กว่าคนต่อปี แต่ระยะหลังมีคนฆ่าตัวตายประมาณ 3,000 คนต่อปี แปลว่าเมื่อก่อน 1 วันมีคนฆ่าตัวตาย 15-16 คน แต่ปัจจุบันมีคนฆ่าตัวตายลดลงเฉลี่ย 10 วันต่อคน ซึ่งประชากรทางภาคเหนือตอนบน อย่างจังหวัดลำพูน เชียงใหม่ และเชียงราย จะมีอัตราการฆ่าตัวตายมากที่สุด
แม้ภาวะความเครียดจะอยู่ใกล้แค่เอื้อม หากมีสติและรู้จักวิธีกำจัดความเครียดเหล่านั้น เราก็สามารถหาความสุขได้อย่างง่ายดาย ซึ่ง น.พ.อภิชัย แนะวิธีการใช้ชีวิตอย่างมีความสุขด้วยหลักง่ายๆ เพียง 3 ข้อว่า
"อย่างแรกเลยคือ เราต้องควบคุมตัวเองเรื่องของการอยากได้ อยากมีให้ได้ก่อน เหมือนอย่างที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงมีพระราชดำริเอาไว้เรื่องความพอประมาณ อย่าไปตั้งเป้าหมายสูงมาก ตั้งเอาไว้เป็นขั้นๆ เริ่มจาก 0 จนถึง 10 แต่คนส่วนมากจะตั้งความหวังไว้ที่ 10 พอไม่ได้อย่างหวังก็เครียดจนกลายเป็นความทุกข์ ทางที่ดีควรทำอะไรเป็นขั้นเป็นตอน และต้องใช้ความเพียรพยายามเพื่อไปให้ถึงในแต่ละขั้น
สองเราต้องฝึกการพูดจากับคนรอบข้าง คอยสังเกตว่าคำพูดที่เราพูดไปแล้วจะไปกระทบความรู้สึกของคนรอบข้างหรือเปล่า ซึ่งเรื่องนี้เป็นเรื่องของอีคิวแต่ละคน จะทำให้เรารู้ว่าคนที่เรากำลังคุยด้วยเขามีอารมณ์ความรู้สึกอย่างไร เหมือนจังหวะไหนที่เราควรจะพูด ไม่ว่าจะเป็นการสื่อสารกับใครก็ตาม
สิ่งสุดท้ายที่จะทำให้เรามีความสุขที่สุด คือ การทำบุญ ซึ่งมีการวิจัยออกมาอย่างชัดเจนแล้วว่า การทำบุญช่วยเหลือผู้ที่ตกทุกข์ได้ยาก โดยใช้ความพยายามอย่างเต็มที่ จะทำให้ผู้ทำบุญมีความสุขมากขึ้นกว่าการทำบุญด้วยการบริจาคเงิน แต่ถ้าการบริจาคเงินจะก่อเกิดความสุขได้ ต้องแน่ใจว่าเราได้พยายามกับการบริจาคเงินเหล่านั้นจริงๆ เพราะเมื่อเราทำให้คนอื่นมีความสุขแล้ว เราก็จะมีความสุขตามไปด้วย" น.พ.อภิชัย กล่าวทิ้งท้าย แบบนี้ "การทำชีวิตให้มีความสุข" ก็ไม่ใช่เรื่องยากแล้วล่ะค่ะ แค่รู้จักตัวเองให้มากขึ้น เรื่องอะไรที่คิดว่ายากก็จะกลายเป็นเรื่องง่ายสำหรับเราทั้งนั้นแหละค่ะ ++++++++++++++++++++++++
</TD></TR></TBODY></TABLE>

​

 

รอบที่ 4 โอนแล้วตอนบ่าย รวมเป็น 1800 บาท รวมเป็น 6,100 บาท 9 คน

ขออนุโมทนาครับ

<!-- / message -->
รอบที่ 5 จะโอนตอนบ่าย (28-5-50) ครับ 3340 3 ท่าน รวมเป็น 9440 บาท 12 คน ผมรอกำลังเสริมเพิ่มเติมครับ

ขอขอบคุณครับ <!-- edit note --><!-- / message --><!-- edit note -->

 

โอนเงิน

โอนเงินเรียบร้อยแล้วนะคะ

 

รอบที่ 5 จะโอนตอนบ่าย (28-5-50) ครับ 3340 3 ท่าน รวมเป็น 9440 บาท 12 คน ผมรอกำลังเสริมเพิ่มเติมครับ

ขอขอบคุณครับ

รอบที่ 5 โอนแล้ว 3940 บาท รวมเป็น 10040 บาท (หลายคนแล้วครับ)

ขอกราบอนุโมทนาทุกๆ ท่านครับ

พรุ่งนี้ รอบที่ 6 จะโอนให้ใหม่ครับ

สาธุ<!-- edit note --><!-- / message --><!-- edit note --><!-- / message -->

 

โมทนาสาธุครับ

.

 

จากกระทู้ "ให้ร่วมกันสร้าง เราจะมาโปรดสัตว์ไม่ให้สร้างคนเดียว"

http://www.palungjit.org/board/showthread.php?t=57546&page=135

หลวงพ่อแผน สนส.บ่อเงินบ่อทอง ได้เข้าเฝ้าสมเด็จพระสังฆราชฯ พระองค์ท่านได้พระราชทานพระบรมสารีริกธาตุ ,หน่อพระศรีมหาโพธิ์ ให้กับ สนส.บ่อเงินบ่อทองครับ

ติดตามชมภาพมหามงคลได้ในกระทู้นะครับ

โมทนาสาธุกับทุกๆท่านด้วยครับ

 

พรุ่งนี้ รอบที่ 6 จะโอนให้ใหม่ครับ

สาธุ

ประมาณ 3050 บาท รวมแล้ว 13090 ครับ

ขออนุโมทนาครับ<!-- edit note --><!-- / message --><!-- edit note --><!-- / message -->

 

พรุ่งนี้ รอบที่ 6 จะโอนให้ใหม่ครับ

สาธุ

ประมาณ 3050 บาท รวมแล้ว 13090 ครับ

ขออนุโมทนาครับ<!-- edit note --><!-- / message --><!-- edit note --><!-- / message -->

 

วันนี้ผมจะส่งพระพิมพ์ให้กับคุณพระยาเดโชชัยมือศึกและคุณชัยยาครับ

โมทนาสาธุครับ

.

 

รายนามผู้ร่วมทำบุญร่วมสร้างพระเจดีย์ศรีชัยผาผึ้ง ณ สำนักสงฆ์ผาผึ้ง อ.บ้านเขว้า จ.ชัยภูมิ บมจ.ธนาคารกรุงไทย สาขาลาดพร้าว 102 บัญชีออมทรัพย์เลขที่ 189-0-13128-8 ชื่อบัญชี นางพิชญ์สินี ชาญปารีชญา ,นายอุเทน งามศิริ ,นายสิรเชษฏ์ ลีละสุนทเลิศ

โมทนาสาธุครับ

 

ยอดคงเหลือพระพิมพ์
ส่วนรายละเอียดพระพิมพ์ ผมขอความกรุณาดูหน้าแรกของกระทู้ ขอเชิญร่วมสร้างพระเจดีย์ศรีชัยผาผึ้ง ณ สำนักสงฆ์ผาผึ้ง อ.บ้านเขว้า จ.ชัยภูมิ (เป็นลิงค์) ครับ

 

"ให้ร่วมกันสร้าง เราจะมาโปรดสัตว์ไม่ให้สร้างคนเดียว"
http://www.palungjit.org/board/showthread.php?p=585598#post585598

<TABLE class=tborder id=post585407 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 0px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid">วันนี้, 01:32 AM <!-- / status icon and date --></TD><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 0px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid" align=right>#1356 </TD></TR><TR vAlign=top><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 0px solid" width=175>พสภัธ<SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_585407", true); </SCRIPT>
สมาชิก ยอดนิยม
สมาชิกยอดฮิต



เข้ามาครั้งสุดท้ายเมื่อ: วันนี้ 06:00 AM
วันที่สมัคร: Nov 2005
สถานที่: //////////////
ข้อความ: 2,571 <!-- Start Post Thank You Hack -->
ได้ให้อนุโมทนา 3,866 ครั้ง
ได้รับอนุโมทนา 19,680 ครั้ง ใน 2,420 โพส <!-- End Post Thank You Hack -->
พลังการให้คะแนน: 2340




</TD><TD class=alt1 id=td_post_585407 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid"><!-- message -->พี่หนุ่ม(คุณสิทธิ์พงษ์)และพี่เม้าตาอินเป็นตัวแทนของพวกเราทั้งหลายที่ช่วยกันทำความดีมาตั้งแต่ต้น รับพระสานส์อำนวยพร 2ฉบับจากวัดบวร เดี๋ยวโตจะส่งไปให้ครับ สาธุ สาธุ สาธุ
(verygood) (verygood) (verygood)
<!-- / message --><!-- sig -->
____________________________________________________________

toe
ขอความเมตตาช่วยต่อชีวิต พระเณร​

<!-- / sig --><!-- edit note -->
</TD></TR></TBODY></TABLE>

***********************************************

พี่จะรอรับพระสานส์อำนวยพรครับ
โมทนาสาธุครับคุณโต

 

กรรมดีย่อมส่งให้ผู้กระทำกรรมดีนั้น ประสพความสุข ความเจริญ
โมทนา สาธุ

 

ยินดีด้วยครับ ทั้ง คุณsithiphong และ เฮียเม้า ครับเป็นผู้ปิดทองหลังพระมาโดยตลอด
โมทนาสาธุครับ

 

ขอบคุณครับ

ผมไม่เคยคิดว่าจะมีวันนี้ครับ เคยแต่อ่านเรื่องที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวของพวกเราทุกคน พระองค์ท่านเคยตรัสว่า ให้ปิดทองหลังพระ ปิดไปเรื่อยๆทองจะล้นออกมาหน้าพระเอง ขอพระองค์ทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อม ขอเดชะ