พระวังหน้า ที่หลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรเสก ถ้าต้องการที่จะได้.....

โมทนาบุญกับทุกๆๆท่านที่ร่วมทำบุญสร้างพระเจดีย์ ครับ

 

พรุ่งนี้ รอบที่ 6 จะโอนให้ใหม่ครับ

สาธุ

ประมาณ 3050 บาท รวมแล้ว 13090 ครับ

ขออนุโมทนาครับ


โอนไปแล้วเมื่อเช้า 4050 บาท รวม 14,090 บาท

ขออนุโมทนายิ่งครับ

รอบที่ 7 มีแล้วครับ อีก 500 บาท รอท่านอื่นสมทบครับ

สาธุ<!-- edit note --><!-- / message --><!-- edit note --><!-- / message -->

 

เปลี่ยนรูปใหม่แล้วครับ อยากให้เหตุการณ์ร้ายๆๆผ่านไปเร็วๆๆจังเลยครับ

 

วันนี้ ได้ไปโอนเงินทำบุญร่วมสร้างเจดีย์แล้วครับ งวดแรกเป็นเงิน 2000 บาท ขอบคุณครับ

 

รายชื่อมวลสารจะส่งให้เป็นแผ่นซีดี เพราะว่าต้องใช้เนื้อที่เยอะมาก ส่งทางเน็ตไม่ได้

พรุ่งนี้จะนำอาหารมังสวิรัติไปถวายเพลพระอาจารย์นิลด้วยค่ะ

นำรูปคืนที่ผสมมวลสารมาให้ดูกันก่อนนะคะ

 

"ให้ร่วมกันสร้าง เราจะมาโปรดสัตว์ไม่ให้สร้างคนเดียว"
http://www.palungjit.org/board/showthread.php?t=57546&page=136&&

<TABLE class=tborder id=post584941 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 0px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid">เมื่อวานนี้, 03:35 PM <!-- / status icon and date --></TD><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 0px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid" align=right>#1351 </TD></TR><TR vAlign=top><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 0px solid" width=175>พสภัธ<SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_584941", true); </SCRIPT>
สมาชิก ยอดนิยม
สมาชิกยอดฮิต



เข้ามาครั้งสุดท้ายเมื่อ: วันนี้ 03:41 PM
วันที่สมัคร: Nov 2005
สถานที่: //////////////
ข้อความ: 2,573 <!-- Start Post Thank You Hack -->
ได้ให้อนุโมทนา 3,867 ครั้ง
ได้รับอนุโมทนา 19,711 ครั้ง ใน 2,420 โพส <!-- End Post Thank You Hack -->
พลังการให้คะแนน: 2343




</TD><TD class=alt1 id=td_post_584941 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid"><!-- message -->โต (กุมารน้อย) เมื่อวานนี้ (20/5/50)พระภิกษุ-สามเณร ที่สำนักเรียนบ่อเงินบ่อทอง สุดแสนที่จะปลื้มอย่างที่สุดๆ เลย...เพราะเป็นวันที่พระ อ. (หลวงพ่อของเขา)ได้มีโอกาสเข้าเฝ้ารับพระราชขทาน "พระบรมสารีริกธาตุขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า" พระธาตุสูงสุดกว่าอื่นๆ ใดทั้งปวง..และผู้มอบให้ก็เป็นพระเถรที่สูงสุดในสังฆมณฑล..พระ อ. ท่านบอกว่า..ดีกว่าที่ฉันได้รับพัดท่านเจ้าคุณ..นะ..(เพราะมันอาจจะทำให้ฉันมีกิเลสเพิ่มขึ้น เพราะลืมตัวเอง) ตอนที่เข้าเฝ้ารับพระธาตุนะ...พระ อ. ท่านเล่าให้ฟังว่า..เขามีหนังสือให้อ่านเพื่อกราบทูล..แต่ก็ลืมหมดเลย...ก็ใช้ศัพท์ไม่กี่ประโยคเพราะ..ตื่นเต้น..และปิติเป็นอย่างยิ่ง....มีคณะของคุณอมรรัตน์..และท่านอ๋อง..และก็ใครอีกก็ไม่ทราบที่ไปด้วยกัน....เป็นศิริมงคล..นะ..จ๊ะ..เพราะออกมายังไม่พ้นชายคาตึกที่ประทับ..ฝนตกอย่างหนัก..เย็นช่ำชื่นใจ..จังเลย...(เทวดาอนุโมทนาบุญ ช่วยพรหมน้ำทิพย์ให้..ฮิๆๆๆๆๆ)
พระ อ. ท่านบอกว่า..ฉันอุทิศตนเพื่อการศึกษากับเด็กเหล่านี้มาเป็นเวล 11 ปีแล้ว...นี้แหละผลของความดี..ที่ไม่เคยคิดและไม่เคยหวังที่จะได้เข้าเฝ้า..อย่างนี้เลย...พระองค์ท่านมองฉันเหมื่อว่า..ท่านให้กำลังใจแผ่บารมีให้..สาธุ..สาธุ..สาธุ..(การทำงานก็ต้องมีกำลังใจ..นะ..)
พระ อ. ท่านฝากขอบคุณ..ขอบใจคุณอมรัตน์และคณะของคุณโยม..มา ณ. ที่นี้เป็นอย่างยิ่ง..และก็คุณโต..กับพีสาว (คุณอ้อ)ที่อาสาเอารถราคาเป็นล้าน..นำคณะพระ อ. มารับพระสารีริกธาตุในครั้งนี้ด้วย...ขากลับสำนักเรียนฝนก็ตามตกตลอดทาง..จนมาถึงทางแยก..หนองปลาตะเพียนฝนก็สั่งลา...อาตมาภาพเห็นพระ อ. ท่านสมความปราถนาของท่าน..ส่วนนี้เป็นกำลังใจให้ท่านได้ มีความภาคภูมิใจในการทำงาน..การศึกษาแก่เด็กๆ เหล่านี้ต่อไป....(กุมารน้อยก็ปลื้ม..ปิติ..น้ำตาปีติมันก็ใหล..เหมือนกัน..นะ...เป็นอย่างยิ่งแล้ว)...รูปภาพของคุณอมรรัตน์ชัดเจนจังเลย..ของพระ อ. ท่านมัวๆๆ..ก็เลยก๊อบปี้ส่งไปล้างทำเป็นภาพใหญ่ๆ..สาธุ..สาธุ..สาธุ...
<!-- / message --><!-- sig -->
____________________________________________________________

toe
ขอความเมตตาช่วยต่อชีวิต พระเณร​

<!-- / sig --><!-- edit note -->
</TD></TR></TBODY></TABLE>

<TABLE class=tborder id=post585932 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 0px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid">วันนี้, 03:39 PM <!-- / status icon and date --></TD><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 0px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid" align=right> #1363 </TD></TR><TR vAlign=top><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 0px solid" width=175>พสภัธ<SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_585932", true); </SCRIPT>
สมาชิก ยอดนิยม
สมาชิกยอดฮิต



เข้ามาครั้งสุดท้ายเมื่อ: วันนี้ 03:41 PM
วันที่สมัคร: Nov 2005
สถานที่: //////////////
ข้อความ: 2,573 <!-- Start Post Thank You Hack -->
ได้ให้อนุโมทนา 3,867 ครั้ง
ได้รับอนุโมทนา 19,712 ครั้ง ใน 2,421 โพส <!-- End Post Thank You Hack -->
พลังการให้คะแนน: 2343



</TD><TD class=alt1 id=td_post_585932 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid"><!-- message -->
พระสานส์อำนวยพร
พี่ๆทุกท่านและเพื่อนๆทุกๆคนล้วนเป็นกำลังใหญ่จริงๆในการงานของพระพุทธศาสนา โตขอกราบโมทนาในบุญกุศลทุกๆอย่างที่ทุกท่านได้ลงแรงลงใจกันอย่างเต็มที่เพื่อพระพุทธศาสนา สาธุ สาธุ สาธุ อนุโมทามิ
<!-- / message --><!-- sig --></TD></TR></TBODY></TABLE>

*******************************************************************

ติดตามในส่วนอื่นๆได้ในกระทู้นะครับ

โมทนาสาธุครับ
.

 

ขอบคุณมากครับ

โมทนาสาธุในทุกๆบุญของพี่อ้อยด้วยครับ

.

 

รับทราบครับ

โมทนาสาธุครับ

.

 

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>"ฉลองภพ"เผย ครม.ไฟเขียวค่าลดหย่อนภาษี ดบ.ซื้อบ้านได้ 1 แสนบ.</TD><TD vAlign=baseline align=right width=85></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>29 พฤษภาคม 2550 13:57 น.</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left> ครม.ให้เพิ่มค่าลดหย่อนจากดอกเบี้ยซื้อบ้าน นำมาคำนวณภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาเป็น 1 แสนบาท จากเดิมจำนวน 5 หมื่นบาท นอกจากนี้ ยังอนุมัติร่าง พ.ร.บ.ทรัสต์เพื่อธุรกรรมในตลาดทุน การผ่อนปรนแบงก์รัฐกรณีปฏิบัติตามเกณฑ์มาตรฐานบัญชีใหม่ ตามที่คลังเสนอ รวมถึงเห็นชอบให้ปรับปรุงแผนบริหารหนี้สาธารณะรัฐวิสาหกิจ

วันนี้(29 พ.ค.) นายฉลองภพ สุสังกร์กาญจน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวถึงผลการประชุมคณะรัฐมนตรี วันนี้ ครม.มีมติอนุมัติมาตรการเพิ่มวงเงินหักลดหย่อนจากดอกเบี้ยเงินกู้เพื่อซื้อที่อยู่อาศัยในการคำนวณภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา จากไม่เกิน 5 หมื่นบาท เป็นไม่เกิน 1 แสนบาท คาดว่าจะช่วยกระตุ้นธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ได้ ซึ่งมาตรการดังกล่าวจะทำให้รัฐบาลสูญเสียรายได้ประมาณปีละ 2.5-4.0 พันล้านบาท

จากนี้จะไม่มีมาตรการอื่นเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจอีก แต่ในส่วนของสถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐจะมีมาตรการออกมาเสริมกับมาตรการของภาครัฐ

รมว.คลัง ยังยอมรับว่าในปีงบประมาณ 50 รัฐบาลจะจัดเก็บรายได้ต่ำกว่าเป้าหมาย 3 หมื่นล้านบาท ซึ่งจะทำให้ปี 50 ขาดดุลงบประมาณเพิ่มขึ้น

สำหรับงบประมาณในปี 51 ซึ่งจะมีการปรับเพิ่มการขาดดุลงบประมาณจากที่ตั้งไว้เดิม 1.2 แสนล้านบาทนั้น คาดว่าจะมีการปรับลดในส่วนของประมาณการรายได้ลงประมาณ 2 หมื่นล้านบาท ส่วนการปรับเปลี่ยนด้านรายจ่ายยังอยู่ในระหว่างการพิจารณา โดยจะมีการหารือกับนายโฆสิต ปั้นเปี่ยมรัษฎ์ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.อุตสาหกรรมในช่วงเช้าวันพรุ่งนี้

นายโชติชัย สุวรรณาภรณ์ ผู้ช่วยโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบร่าง พ.ร.บ.ทรัสต์เพื่อธุรกรรมในตลาดทุน ตามข้อเสนอของกระทรวงการคลัง เพื่อเป็นเครื่องมือช่วยดำเนินธุรกรรมต่างๆ ในตลาดทุนให้มีประสิทธิภาพและเหมาะสม โดยจะมีการกำหนดบทลงโทษ การปิดบัญชีต่างๆ โดยจะให้มีการแยกบัญชีของกองทุนในสถาบันการเงินของแต่ละประเภทอย่างชัดเจน เพื่อไม่ให้กองทุนใด ๆ นำผลกำไรหรือขาดทุนมารวมบัญชีกัน โดยเฉพาะเมื่อมีปัญหาขาดทุน จะได้ไม่กระทบต่อผู้ลงทุนรายอื่น หรือกรณีการปิดกิจการจะสามารถแยกบัญชีชัดเจนสำหรับผู้ฝากเงินหรือเจ้าหนี้ ซึ่งจะได้รับเงินคืน โดยเงินฝากหรือเงินลงทุนดังกล่าวจะไม่ถูกนำไปนับรวมเพื่อชดใช้หนี้ เพื่อชำระหนี้ของบริษัท

นอกจากนี้ ครม.ยังอนุมัติการปรับปรุงแผนการบริหารหนี้สาธารณะประจำปีงบ 2550 ครั้งที่ 2 เพื่อจัดการเงินกู้ในประเทศของรัฐวิสาหกิจ โดยให้เพิ่มวงเงินกู้อีก 806 ล้านบาท จากเดิมกำหนดไว้ 240,351 ล้านบาท เพิ่มเป็น 241,158 ล้านบาท เพื่อรองรับความต้องการกู้เงินของรัฐวิสากิจ นอกจากนี้ ครม.ยังอนุมัติตามข้อเสนอของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) ให้ติดตั้งเครื่องกำเนิดไฟฟ้าสำรองฉุกเฉินให้กับระบบไฟฟ้าสาธารณะใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้และ 4 อำเภอจังหวัดสงขลา 142 จุด วงเงินงบประมาณ 200 ล้านบาท เพื่อแก้ปัญหากรณีฝ่ายตรงข้ามก่อเหตุวางระเบิดเสาไฟฟ้า ดังนั้น รัฐบาลจึงจัดหางบประมาณเพื่อแก้ปัญหาดังกล่าวโดยใช้งบของปี 2551

ส่วนการผ่อนปรนให้สถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐ 8 แห่ง ได้แก่ ธนาคารออมสิน ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) ทยอยกันสำรองตามมาตรฐานบัญชีระหว่างประเทศ ฉบับที่ 39 (ไอเอเอส 39) ซึ่งมีผลบังคับใช้ในปี 2551 และธนาคารพาณิชย์ทั่วไปได้เริ่มทยอยกันสำรอง เพื่อให้ได้ตามมาตรฐานของ ธปท. แต่กระทรวงการคลังเห็นว่า ธนาคารของรัฐยังไม่มีความชัดเจนว่าจะใช้มาตรฐานบัญชีในลักษณะเดียวกับธนาคารพาณิชย์ทั่วไป จึงไม่ได้เตรียมพร้อมรองรับกันสำรองตามมาตรฐานใหม่ดังกล่าว

ทั้งนี้ หากดำเนินการกันสำรองตามไอเอเอส 39 จะทำให้เงินกองทุนลดลง และอาจส่งผลให้ต้องมีการเพิ่มทุน ซึ่งกระทรวงการคลังอยู่ระหว่างการพิจารณาเพิ่มทุนของแต่ละแห่งให้ชัดเจน รวมถึงจะกระทบต่อการนำเงินส่งกระทรวงการคลัง เพราะจะทำให้สถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐนำเงินส่งน้อยลงถึง 2,469 ล้านบาท ในปี 2549 และลดลง 636 ล้านบาท ในปี 2550 ซึ่งจะกระทบต่อกำไรและเงินจ่ายโบนัสของพนักงาน จึงเห็นควรให้สถาบันการเงินเฉพาะกิจทยอยปฏิบัติตามกฎเกณฑ์ดังกล่าวเป็นเวลา 3 ปี ในปี 2552-2554 โดยให้นำค่าเผื่อหนี้สูญที่ต้องทยอยสำรองเพิ่มเติมมาบวกในกำไรสุทธิ เพื่อคำนวณเป็นกำไรในการคำนวณโบนัสและรายได้ส่งกระทรวงการคลังในช่วง 3 ปี ดังกล่าว
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

http://www.manager.co.th/Around/ViewNews.aspx?NewsID=9500000061721

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>ดื่มน้ำอัดลมระวัง! ดีเอ็นเอถูกทำลาย ที่มาโรคพาร์กินสัน-ตับแข็ง</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>29 พฤษภาคม 2550 12:22 น.</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=left border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=172 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=172> </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>การดื่มน้ำอัดลมอาจทำให้เซลล์สำคัญในดีเอ็นเอถูกทำลาย นำไปสู่โรคพาร์คินสันและตับแข็ง</TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD width=5></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5></TD></TR></TBODY></TABLE> อินดิเพนเดนต์ - ข่าวร้ายสำหรับคอน้ำอัดลม นักวิจัยเผยน้ำอัดลมบางยี่ห้อมีส่วนผสมที่อาจทำลายองค์ประกอบสำคัญในดีเอ็นเอ ซึ่งอาจนำไปสู่โรคพาร์กินสัน และตับแข็ง

การค้นพบนี้อาจส่งผลต่อคนนับล้านทั่วโลกที่ดื่มน้ำอัดลมเป็นประจำ รวมถึงตอกย้ำข้อวิพากษ์วิจารณ์เกี่ยวกับวัตถุเจือปนอาหาร ซึ่งหลายอย่างเกี่ยวข้องกับโรคสมาธิสั้นในเด็ก

ศูนย์กลางของความกังวลล่าสุดอยู่ที่ความปลอดภัยของ E211 หรือโซเดียมเบนโซเอต ซึ่งเป็นวัตถุกันเสียที่ใช้ในอุตสาหกรรมน้ำอัดลมมาหลายสิบปี

โซเดียมเบนโซเอต มาจากกรดเบนโซอิก ซึ่งเกิดขึ้นตามธรรมชาติในเบอร์รี แต่ถูกนำมาใช้ในปริมาณมากเพื่อป้องกันเชื้อราในน้ำอัดลม เช่น สไปรท์, โอเอซิส และดร.เป๊ปเปอร์ นอกจากนั้นยังใส่ในผักดอง และซอสปรุงรส

โซเดียมเบนโซเอตยังเป็นประเด็นที่สร้างความกังวลเกี่ยวกับโรคมะเร็ง เนื่องจากเมื่อผสมกับวิตามินซีที่เติมลงในน้ำอัดลมจะทำให้เกิดเบนซินซึ่งเป็นสารก่อมะเร็ง

ในการสำรวจเบนซินในน้ำอัดลมเมื่อปีที่แล้ว สำนักงานมาตรฐานด้านอาหารของอังกฤษ (เอฟเอสเอ) พบน้ำอัดลม 4 ยี่ห้อมีส่วนผสมเบนซินในสัดส่วนสูง จึงสั่งห้ามจำหน่ายน้ำอัดลมเหล่านั้น

ล่าสุด ศาสตราจารย์ปีเตอร์ ไปเปอร์ ผู้เชี่ยวชาญด้านภาวะชราภาพของมหาวิทยาลัยเชฟฟิลด์ของอังกฤษ ที่ศึกษาเกี่ยวกับโซเดียมเบนโซเอตมาตั้งแต่ตีพิมพ์ผลงานวิจัยในปี 1999 ตัดสินใจออกมาเตือนอันตรายที่ค้นพบใหม่ของสารนี้

จากการทดสอบผลของโซเดียมเบนโซเอตที่มีต่อเซลล์ของยีสต์ที่มีชีวิตในห้องทดลอง ไปเปอร์พบว่า เบนโซเอตทำลายเซลล์ไมโทคอนเดีย ซึ่งถือเป็น 'สถานีพลังงาน' ของดีเอ็นเอ

ทั้งนี้ ไมโทคอนเดียทำหน้าที่บริโภคออกซิเจนเพื่อแปรเป็นพลังงานให้ร่างกาย ดังนั้น หากเซลล์นี้ถูกทำลายอาจเป็นสาเหตุของโรคที่เกิดจากความเสื่อมของร่างกาย เช่น โรคพาร์คินสัน และโรคเซลล์ประสาทเสื่อมอย่างรุนแรง

เอฟเอสเอสนับสนุนการใช้โซเดียมเบนโซเอตในอังกฤษ สารชนิดนี้ยังได้รับการอนุมัติให้ใช้ในสหภาพยุโรป กระนั้น ภายหลังรายงานของไปเปอร์เผยแพร่ออกมา นอร์แมน เบเกอร์ ประธานกลุ่มสิ่งแวดล้อมในรัฐสภา จากพรรคลิเบอร์รัล เดโมแครต เรียกร้องให้มีการตรวจสอบเรื่องนี้โดยด่วน เนื่องจากวัตถุเจือปนอาหารมากมายเป็นสิ่งใหม่ซึ่งยังไม่มีใครรู้ผลระยะยาว จึงควรมีการตรวจสอบเพิ่มเติม

อนึ่ง การทบทวนความปลอดภัยของโซเดียมเบนโซเอตโดยองค์การอนามัยโลก (ฮู) ในปี 2000 สรุปว่า สารชนิดนี้ปลอดภัย กระนั้นฮูตั้งข้อสังเกตว่า มีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ที่ยืนยันความปลอดภัยของสารชนิดนี้เพียงจำกัด

ด้านไปเปอร์ยืนยันว่า การทดสอบของสำนักงานอาหารและยาสหรัฐฯ (เอฟดีเอ) ล้าสมัยแล้ว

ไปเปอร์ยังแนะนำให้พ่อแม่ผู้ปกครองคิดให้รอบคอบก่อนซื้อน้ำอัดลมให้ลูก โดยเฉพาะประเด็นวัตถุกันเสีย

ทั้งนี้ ทั้งโคคา-โคลา, เป๊ปซี่แม็กซ์, ไดเอตเป๊ปซี่ ล้วนมีส่วนผสมของโซเดียมเบนโซเอต และผู้ผลิตเหล่านี้ต่างออกมายืนยันว่ามั่นใจในมาตรฐานความปลอดภัยของวัตถุเจือปนอาหารที่รัฐบาลให้การรับรอง
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

เว็บไซด์ "เรื่องจริงผ่านจอ" มีเรื่องราวต่างๆน่าสนใจ หากว่าไม่ได้ดูรายการ ลองติดตามดูครับ

http://www.thairealtv.com/index.html

 

http://www.manager.co.th/MetroLife/ViewNews.aspx?NewsID=9500000060305

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>เฟ้นหาไอเดียเจ๋ง...ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>28 พฤษภาคม 2550 07:01 น.</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>
<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=bottom align=right width=1 height=1></TD><TD vAlign=bottom align=middle background=/images/linedot_hori.gif height=1></TD><TD vAlign=bottom align=left width=1 height=1></TD></TR><TR><TD vAlign=center align=middle width=1 background=/images/linedot_vert.gif></TD><TD><TABLE cellSpacing=5 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD vAlign=center align=middle width=1 background=/images/linedot_vert.gif></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=right width=1 height=1></TD><TD vAlign=top align=middle background=/images/linedot_hori.gif height=1></TD><TD vAlign=top align=left width=1 height=1></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=bottom align=left height=12></TD></TR><TR><TD bgColor=#cccccc><TABLE cellSpacing=1 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle bgColor=#ffffff><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=160><TABLE cellSpacing=4 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=middle>คลิกที่ภาพเพื่อดูขนาดใหญ่ขึ้น</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR><TR><TD vAlign=baseline align=middle>ดร. สุเมธ ตันติเวชกุล</TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR><TR><TD vAlign=baseline align=middle>เฉลิมเกียรติ แสนวิเศษ, ปกรณ์ สัตยวณิช</TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR><TR><TD vAlign=baseline align=middle>เกศินี วิฑูรชาติ, ดุสิต นนทะนาคร </TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle width=165 height=1></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD width=4 background=/images/linedot_vert3.gif></TD><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=7 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>ถึงเวลาปวงพสกนิกรจะร่วมถวายความจงรักภักดีอย่างเป็นรูปธรรมอีกครั้ง เมื่อ ดร.สุเมธ ตันติเวชกุล เลขาธิการมูลนิธิชัยพัฒนาและที่ปรึกษาสำนักงานคณะกรรมการพิเศษเพื่อประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ (สำนักงาน กปร.) นำทีมคณะทำงานผู้ทรงคุณวุฒิ แถลงถึง โครงการ “80 พรรษา ปวงประชาเป็นสุขศานต์”


โอกาสครั้งสำคัญที่คนไทยทุกคน จะมีโอกาสตอบแทนพระคุณพ่อหลวงของแผ่นดิน ด้วยการส่งประกวดผลงานตามปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงในโอกาสมหามงคล เพื่อให้สาธารณชนได้รับทราบถึงพระปรีชาสามารถ พระอัจฉริยภาพและพระมหากรุณาธิคุณในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ที่ได้พระราชทานพระราชดำริด้านการพัฒนาประเทศในด้านต่างๆ เรื่อยมา


ปีนี้นับเป็นปีแรกที่ทางคณะทำงานจัดให้มีการประกวดผลงานขยายวงกว้าง ไม่เพียงแต่ ประเภทบุคคล และ ด้านเกษตรทฤษฎีใหม่ เท่านั้น แต่ยังจัดประกวดใน ประเภทธุรกิจ ทั้ง ธุรกิจขนาดใหญ่, ขนาดกลาง และขนาดย่อม อีกด้วย โดยมีเงื่อนไขการประกวดแบ่งแยกตามคุณสมบัติเฉพาะในแต่ละด้าน ที่ขอย้ำว่าไม่ยุ่งยากแต่อย่างใด


ประเภทของการประกวดทั้งหมดแบ่งออกเป็น 5 สาขา ด้านประชาชนทั่วไป ขอเพียงเป็นผู้หนึ่งที่คิดว่า ตัวเองได้นำปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงไปใช้นำทางชีวิตจนเกิดความมั่งคง เกิดความสุขและความสำเร็จในชีวิต ที่แม้จะเป็นเร่องเล็กน้อย แต่หากเรื่องนั้นสามารถนำกระแสพระราชดำรัสอยู่อย่างพอเพียงไปใช้อย่างเกิดประโยชน์สูงสุด ในฐานะประชาชนคนธรรมดาคนหนึ่ง ก็ขอยื่นใบสมัครได้แน่นอน


ส่วน กลุ่มเกษตรกร ที่ทรงมีพระมหากรุณาธิคุณ พระราชทานแนวบริหารจัดการพื้นที่การเกษตรตามแนวทางเกษตรทฤษฎีใหม่ หากว่าที่ผ่านมาใครสามารถนำไปปรับใช้และประสบความสำเร็จ ก็สามารถส่งเข้าประกวดได้ในทุกกรณีเช่นกัน


สำหรับ ประเภทธุรกิจ แม้หลายคนจะสงสัยว่า ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงนั้นจะนำไปใช้กับส่วนนี้ได้หรือไม่ เลขาฯ มูลนิธิชัยพัฒนา ขอยืนยันว่า แนวทางพระราชดำรินี้สามารถนำมาปรับใช้ได้แน่นอน หากนำปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงไปใช้ได้จริงตามที่ทรงชี้แนะไว้ จะเห็นเลยว่า ความเสี่ยงในเรื่องของผลประกอบการ การล้มละลายอย่างที่เคยเกิดขึ้นจะลดน้อยลงไปอย่างมาก


“ความจริงแล้วแนวเศรษฐกิจพอเพียงที่พระองค์พระราชทาน เป็นธรรมะ ซึ่งมีอยู่ไม่กี่ประการ คำหลักๆ นั้นคือ เวลาทำอะไรก็ให้ยึดคำว่า พอประมาณ มีเหตุมีผล และ ภูมิคุ้มกัน ซึ่งหมายความว่า อย่าทำอะไรเกินตัว ก่อนอื่นต้องรู้จักตัวซะก่อน ซึ่งก่อนที่จะประมาณตัวเองได้ ต้องเห็นว่าตัวเองอยู่ที่ไหน ขนาดไหน จากนั้นเมื่อรู้จักตัวเองแล้ว ก็ใช้เหตุใช้ผล ใช้สติปัญญา อย่าใช้อารมณ์ หรือ ใช้ความโลภ อยากจะร่ำรวยโดยไม่มีเหตุมีผล ในการดำรงธุรกิจ ซึ่งก็ต้องทำอะไรต่างๆ ให้พอเหมาะพอควรกับต้นทุนที่มีอยู่ ทั้งทรัพย์สินและกำลังคน”


นอกจากนี้ 3 คำหลักๆ ที่อธิบายไปแล้ว พระองค์ท่านยังมีเงื่อนไขที่ประกอบด้วย ว่า... จะทำอะไรนั้น ต้องมีความรู้ ความรอบรู้ และความรอบคอบด้วย เพราะโลกเปลี่ยนทุกวัน ฉะนั้น ต้องตามโลกให้เท่าทัน ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงไม่ใช่การถอยหลัง หากเป็นการอยู่อย่างเผชิญโลกนี้อย่างมั่นคง สมบูรณ์และอย่างยั่งยืนได้ ซึ่งความรอบรู้และความรอบคอบอะไรต่างๆ ก็ต้องตามมาด้วย


ที่สำคัญ ดร.สุเมธ ยังย้ำด้วยว่า ต้องซื่อสัตย์สุจริต มีจริยธรรม คุณธรรม ใช่ว่ารวยแล้วจะปล่อยปละละเลย โดยคิดว่าตัวเองไม่ได้เบียดเบียนใคร และคงเป็นการไม่เหมาะสมที่จะคิดเพียงว่า ได้กำไรมากขึ้นแต่คุณภาพสินค้าและบริการลดลง ดังนั้น ความสัตย์สุจริต หรือที่สมัยนี้ เรียกว่า ธรรมาภิบาล ก็ต้องมีควบคู่ไปด้วย


สุดท้าย เมื่อมั่นคงแล้วในส่วนของเรา ย่อมมีส่วนเกินเสมอ อย่าลืม! ที่จะเผื่อแผ่ให้คนอื่น ซึ่งถ้าทำแบบนี้ได้ สังคม ก็จะอยู่ร่วมกันได้อย่างสมบูรณ์ มั่นคง และอยู่กันอย่างยั่งยืน


หากสนใจส่งผลงานเข้าประกวด มีเวลาจนถึง 31 ก.ค.นี้ รายละเอียดเพิ่มเติม โทร. 0-2280-6193-9 ต่อ 251-254 , 402 , 0-2629-9192 หรือ www.rdpb.go.th


</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

http://www.rdpb.go.th/rdpb/TH/BRANDSITE/logo60.aspx





ตราสัญลักษณ์ ๘๐ พรรษา ซึ่งการออกแบบได้ใช้ตราสัญลักษณ์ มีพระราชลัญจกร รัชกาลที่ ๙ หมายถึง แทนพระองค์พระบาทสมเด็จ พระเจ้าอยู่หัว ภูมิพลอดุลยเดช มีพระมหาพิชัยมงกุฎ พระนพปฎลมหาเศวตฉัตร และพระเศวตฉัตร ที่หมายถึงเครื่องประกอบ พระบรมราชอิสริยยศ ของพระมหากษัตริย์ ด้านล่างมีเลขไทย ๘๐ และเพชร ๘๐ เม็ด ที่หมายถึงพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงมี พระชนมพรรษา ๘๐ พรรษา พร้อมแถบแพรสีชมพู หมายถึงสีอายุตามโหราศาสตร์ทักษาพยากรณ์ ตรงกับวันอังคารของพระองค์ และบอก ชื่อตราสัญลักษณ์ พระราชพิธีมหามงคล เฉลิมพระชนมพรรษา ๘๐ พรรษา ๕ ธันวาคม ๒๕๕๐ ในการนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ทรงให้เขียนดอกพิกุลทอง ๕ ดอก ดอกพิกุลเงิน ๔ ดอก เพิ่มเติมที่แท่นแปดเหลี่ยมรองรับพระที่นั่งอัฐทิศอุทุมพรราชอาสน์ ที่มีความหมายถึงความอุดมสมบูรณ์

 

รายนามผู้ร่วมทำบุญสร้างพระเจดีย์ศรีชัยผาผึ้งครับ
ขอเชิญร่วมสร้างพระเจดีย์ศรีชัยผาผึ้ง ณ สำนักสงฆ์ผาผึ้ง อ.บ้านเขว้า จ.ชัยภูมิ บมจ.ธนาคารกรุงไทย สาขาลาดพร้าว 102 บัญชีออมทรัพย์เลขที่ 189-0-13128-8 ชื่อบัญชี นางพิชญ์สินี ชาญปารีชญา ,นายอุเทน งามศิริ ,นายสิรเชษฏ์ ลีละสุนทเลิศ

 

รายละเอียดพระพิมพ์ที่มอบให้กับผู้ร่วมทำบุญสร้างพระเจดีย์ศรีชัยผาผึ้งครับ
ขอเชิญร่วมสร้างพระเจดีย์ศรีชัยผาผึ้ง ณ สำนักสงฆ์ผาผึ้ง อ.บ้านเขว้า จ.ชัยภูมิ บมจ.ธนาคารกรุงไทย สาขาลาดพร้าว 102 บัญชีออมทรัพย์เลขที่ 189-0-13128-8 ชื่อบัญชี นางพิชญ์สินี ชาญปารีชญา ,นายอุเทน งามศิริ ,นายสิรเชษฏ์ ลีละสุนทเลิศ

รายละเอียดพระพิมพ์และวัตถุมงคล (ตามลิงค์นี้นะครับ)
http://www.palungjit.org/board/showthread.php?t=68899

ส่วนยอดคงเหลือตามนี้ครับ

 

ผมจะนำบทความที่ผมเคยนำมาลงแล้ว ซึ่งเป็นบทความของท่านอาจารย์ประถม อาจสาครมาลงให้อ่านกับอีกครั้ง สำหรับท่านที่เพิ่งเข้ามาในกระทู้นี้ให้ได้อ่านกันอีกครั้ง ผมจะทยอยลงเรื่องของคุณให้อ่านกันไปเรื่อยๆครับ

ขอบคุณและโมทนาสาธุครับ

 

วิธีใช้กริชและพระขรรค์วังหน้า

ผมได้เสาะหาวิธีใช้กริชและพระขรรค์มาซักระยะแล้วแต่ไม่มีใครให้คำตอบผมได้เมื่อวานมีโอกาสถาม.........ได้คำตอบดังนี้

พระขรรค์และกริชวังหน้ามีอิทธิคุณครอบจักรวาล(ไม่มีพุทธคุณ)แต่จะเด่นเป็นพิเศษด้านกันสิ่งไม่ดี, สิ่งชั่วร้าย, กันภัย, ภูติผีเปรตสัมภเวสี และใช้ทำน้ำมนต์ วิธีใช้ก็คือถ้าหากจะเดินทางให้จับพระขรรค์หรือกริช โดยให้ด้ามตั้งขึ้นให้หน้าพระหรือเทพตามด้ามหันไปทิศทางที่เราจะเดินทาง ตั้งนะโม 3 จบ ตามด้วยโลกุตตะโรปัญจะมะหาเถโร อะหังวันทามิตังสะทา อาราธนาบารมีหลวงปู่และเทพตามรูปด้ามอธิษฐานขอให้เดินทางแคล้วคลาดปลอดภัย ให้พระแม่ธรณีเปิดทางให้ด้วยเสร็จแล้ววางพระขรรค์หรือกริชไว้หน้ารถโดยให้ปลายกริชหรือพระขรรค์ชี้ไปข้างหน้ารถและให้หน้าของเทพหรือพระตามด้ามหงายขึ้น หากใช้ทำน้ำมนต์ก็ให้ด้ามชี้ขึ้นข้างบนตั้งนะโม 3 จบ ตามด้วย โลกุตตะโรจะมะหาเถโร อะหังวันทามิตังสะทาอาราธนาบารมีหลวงปู่แล้วก็อธิษฐานตามต้องการจากนั้นใช้ปลายพระขรรค์หรือกริชจุ่มลงในขันน้ำวน 3 รอบ ก็เป็นอันเรียบร้อยสามารถเอาน้ำมนต์ไปใช้ได้ตามต้องการ

หากเดินทางเข้าป่าให้จับพระขรรค์หรือกริช โดยให้ด้ามตั้งขึ้นให้หน้าพระหรือเทพตามด้ามหันไปทิศทางที่เราจะเดินทาง ตั้งนะโม 3 จบ ตามด้วยโลกุตตะโรปัญจะมหาเถโร อะหังวันทามิตังสะทา อาราธนาบารมีหลวงปู่และเทพตามรูปด้ามอธิษฐานขอให้แคล้วคลาดปลอดภัย สิ่งชั่วร้ายต่าง ๆ อย่าได้มาแผ้วพานเสร็จแล้วใช้ปลายพระขรรค์หรือกริชเขียนกากบาทลงบนพื้นดินและขอพระแม่ธรณีให้เปิดทางให้ลูกด้วย วิธีนี้อย่าว่าแต่ผีเลยครับแม้แต่เทวดายังกระเจิดกระเจิง ถ้าไม่จำเป็นก็อย่าใช้วิธีนี้เพราะพลอยทำให้เทวดาเดือดร้อนไปด้วยแค่พกติดตัวก็คุ้มครองได้ทั้งคณะแล้วครับ

พระขรรค์และกริชเป็นของสูงให้ตั้งบูชาในที่สูง อย่านำมาไว้ใต้หมอนแค่ตั้งบูชาไว้ในบ้านก็คุ้มครองได้ทั้งบ้านแล้วครับ สาธุครับ<O</O
<O</O
โดยคุณนักเดินทาง<O</O
<O</O
<O
</O
หมายเหตุ ในความคิดเห็นส่วนตัวผม พระขรรค์ ,กฤช และไม้ครู(หรือคฑา) นั้น เป็นสิ่งที่คู่กัน(ตามคำบอกเล่าของพระอาจารย์รูปหนึ่ง) หากมีทั้งพระขรรค์หรือกฤช (อย่างใดอย่างหนึ่ง) และไม้ครู(หรือคฑา) สามารถที่จะใช้ได้ในทุกๆเรื่อง พระขรรค์กับกฤชที่อยู่กับผมในเวลานี้(30 พฤษภาคม 2550)นั้น บางชุดผมเองได้นำเข้าพิธีพุทธาภิเษกการอาราธนาพระบารมีองค์พระสิวลีเถระเจ้า ,องค์พระอนุรุทเถระเจ้า ,องค์พระอุปคุตเถระเจ้า และหลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรทั้ง 5 พระองค์ บางชุดผมได้นำเข้าพิธีพุทธาภิเษกการอาราธนาพระบารมีองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้ากุกกุสันโธ ,หลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรทั้ง 5 พระองค์ และสมเด็จพระพุฒาจารย์โต พรหมรังสี แต่ว่าทั้งพระขรรค์และกฤชนั้น ผมได้ยุติการมอบให้กับผู้ร่วมทำบุญแล้ว ส่วนไม้ครู(หรือคฑา)นั้น ผมไม่ได้นำมามอบให้กับผู้ร่วมทำบุญ เพราะเป็นสิ่งที่หาได้ยาก หากผู้ครอบครองนำไปทำในสิ่งที่ไม่ดี ผลที่เกิดกับผู้ถูกกระทำจะรุนแรงมาก ไม้ครูที่อยู่กับผมในตอนนี้นั้นก็เช่นกัน ผมได้นำเข้าพิธีพุทธาภิเษกการอาราธนาพระบารมีองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้ากุกกุสันโธ ,หลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรทั้ง 5 พระองค์ และสมเด็จพระพุฒาจารย์โต พรหมรังสีครับ

 

http://www.bbznet.com/scripts/view.php?user=myongy&board=1&id=76&c=1&order=numview
กระทู้โดย : a

รวมอานิสงส์ของการทำบุญที่ควรรู้ไว้
มาทำบุญกันเถอะค่ะ การช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์หรือสังคมด้วยวิธีต่างๆ ทำให้เราได้รับบุญกุศลต่างๆ มากมาย ซึ่งในที่นี้ได้รวบรวมอานิสงส์ต่างๆ ที่ได้จากการทำบุญในรูปแบบต่างๆ ให้รู้ไว้ค่ะ แต่อย่างไรก็ตามนะคะ การทำบุญก็ควรทำด้วยจิตใจที่ต้องการทำบุญจริงๆ ไม่หวังผลตอบแทน จึงจะเกิดอานิสงส์อย่างแท้จริงค่ะ
อานิสงส์10ข้อของการไม่กินเนื้อสัตว์
1. เป็นที่รักของบรรดาเทพ พรหม ตลอดจนมนุษย์และสัตว์ทั้งหลาย
2. จิตอันเป็นมหาเมตตาย่อมบังเกิดขึ้น
3. สามารถตัดขาดความอาฆาต ดับอารมณ์เหี้ยมโหดเครียดแค้นในใจลงได้
4. ปราศจากโรคภัยร้ายแรงมาเบียดเบียนร่างกาย
5. มีอายุมั่นขวัญยืน
6. ได้รับการปกป้องคุ้มครองจากเทพทั้งปวง
7. ยามหลับนิมิตเห็นแต่สิ่งที่ดีงามเป็นสิริมงคล
8. ย่อมระงับการจองเวร สลายความอาฆาตแค้นซึ่งกันและกัน
9. สามารถดำรงอยู่ในกระแสพระนิพพาน ไม่พลัดหลงตกลงสูอบายภูมิ
10. ทันทีที่ละสังขารจากโลกนี้ จิตจะมุ่งสู่สุคติภพ

อานิสงส์การจัดสร้างพระพุทธรูปหรือสิ่งพิมพ์อันเกี่ยวกับพระธรรมคำสอนเป็นกุศลดังนี้
1. อกุศลกรรมในอดีตชาติแต่ปางก่อน จะเปลี่ยนจากหนักเป็นเบา จากเบาเป็นสูญ
2. สิ่งศักดิ์สิทธิ์คุ้มครอง สรรพภยันตรายสลาย ปวงภัยไม่มีคนคิดร้ายไม่สำเร็จ
3. เจ้ากรรมนายเวรในอดีตชาติแต่ปางก่อน เมื่อได้รับส่วนบุญไปแล้ว ก็จะเลิกจองเวรจองกรรม
4. เหล่ายักษ์ผีรากษส งูพิษเสือร้าย ไม่อาจเป็นภัย อยู่ในที่ใดก็แคล้วคลาดจากภัย
5. จิตใจสงบ ราศีผ่องใส สุขภาพแข็งแรง กิจการงานเป็นมงคล รุ่งเรืองก้าวหน้า ผู้คนนับถือ
6. มั่นคงในคุณธรรม ความอุดมสมบูรณ์ปรากฏ (เกินความคาดฝัน) ครอบครัวสุขสันต์ วาสนายั่งยืน
7. คำกล่าวเป็นสัจจ์ ฟ้าดินปราณี ทวยเทพยินดี มิตรสหายปรีดา หนี้สินจะหมดไป
8. คนโง่สิ้นเขลา คนเจ็บหายได้ คนป่วยหายดี ความทุกข์หายเข็ญ สตรีจะได้เกิดเป็นชายเพื่อบวช
9. พ้นจากมวลอกุศล เกิดใหม่บุญเกื้อหนุน มีปัญญาล้ำเลิศ บุญกุศลเรืองรอง
10. สิ่งที่สร้างจะบังเกิดเป็นกุศลจิตแก่ทุกคนที่ได้พบเห็น เป็นเนื้อนาบุญอย่างเอนกทุกชาติของผู้สร้างที่เกิด จะได้ฟังธรรมจากพระอริยเจ้าปัญญาในธรรมแก่กล้าสามารถได้อภิญญาหก สำเร็จโพธิญาณ

อานิสงส์การบวชพระบวชชีพรามณ์ (บวชชั่วคราวเพื่อสร้างบุญ,อุทิศให้พ่อแม่เจ้ากรรมนายเวร)
1. หน้าที่การงานจะเจริญรุ่งเรือง ได้ลาภ ยศ สรรเสริญตามปรารถนา
2. เจ้ากรรมนายเวรจะอโหสิกรรม หนี้กรรมในอดีตจะคลี่คลาย
3. สุขภาพแข็งแรง สติปัญญาแจ่มใส ปัญหาชีวิตคลี่คลาย
4. เป็นปัจจัยสู่พระนิพพานในภพต่อๆไป
5. สิ่งศักดิ์สิทธิ์คุ้มครอง โพยภัยอันตรายผ่อนหนักเป็นเบา
6. จิตใจสงบ ปล่อยวางได้ง่าย มองเห็นสัจธรรมแห่งชีวิต
7. เป็นที่รักที่เมตตามหานิยมของมวลมนุษย์มวลสัตว์และเหล่าเทวดา
8. ทำมาค้าขึ้น ไม่อับจน การเงินไม่ขาดสายไม่ขาดมือ
9. โรคภัยของตนเอง ของพ่อแม่ และของคนใกล้ชิดจะเบาบางและรักษาหาย
10. ตอบแทนพระคุณของพ่อแม่ได้เต็มที่ สำหรับผู้ที่บวชไม่ได้เพราะติดภาระกิจต่างๆ ก็สามารถได้รับอานิสงส์เหล่านี้ได้ด้วยการสร้างคนให้ได้บวชสนับสนุนส่งเสริมอาสาจัดการให้คนได้บวช มาสร้างบุญบารมีกันเถอะ


1. นั่งสมาธิอย่างน้อยวันละ15นาที(หรือเดินจงกรมก็ได้) อานิสงส์ เพื่อสติปัญญาที่เฉลียวฉลาดขึ้นทั้งภพนี้และภพหน้า เพื่อจิตใจที่สว่างผ่อนปรนจากกิเลส ปล่อยวางได้ง่าย จิตจะรู้วิธีแก้ปัญหาชีวิตโดยอัตโนมัติ ชีวิตจะเจริญรุ่งเรืองไม่มีวันอับจน ผิวพรรณผ่องใส สุขภาพกายและจิตแข็งแรง เจ้ากรรมนายเวรและญาติมิตรที่ล่วงลับจะได้บุญกุศล

2. สวดมนต์ด้วยพระคาถาต่างๆอย่างน้อยวันละครั้งก่อนนอน อานิสงส์ เพื่อให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์คุ้มครอง ชีวิตหน้าที่การงานเจริญก้าวหน้า เงินทองไหลมาเทมา แคล้วคลาดจากอุปสรรคทั้งปวง จิตจะเป็นสมาธิได้เร็ว แนะนำพระคาถาพาหุงมหากา,พระคาถาชินบัญชร,พระคาถายอดพระกัณฑ์ไตรปิฎก เป็นต้นเมื่อสวดเสร็จต้องแผ่เมตตาทุกครั้ง

3. ถวายยารักษาโรคให้วัด,ออกเงินค่ารักษาให้พระตามโรงพยาบาลสงฆ์ อานิสงส์ ก่อให้เกิดสุขภาพร่มเย็นทั้งครอบครัว โรคที่ไม่หายจะทุเลา สุขภาพกายจิตแข็งแรง อายุยืนทั้งภพนี้และภพหน้า ถ้าป่วยก็จะไม่ขาดแคลนการรักษา

4. ทำบุญตักบาตรทุกเช้า อานิสงฆ์ได้ช่วยเหลือศาสนาต่อไปทั้งภพนี้และภพหน้า ไม่ขาดแคลนอาหาร ตายไปไม่หิวโหย อยู่ในภพที่ไม่ขาดแคลน ข้าวปลาอาหารอุดมสมบูรณ์

5. ทำหนังสือหรือสื่อต่างๆเกี่ยวกับธรรมะแจกฟรีแก่ผู้คนเป็นธรรมทาน อานิสงส์ เพราะธรรมทานชนะการให้ทานทั้งปวง ผู้ให้ธรรมจึงสว่างไปด้วยลาภยศ สรรเสริญ ปัญญา และบุญบารมีอย่างท่วมท้น เจ้ากรรมนายเวรอโหสิกรรมให้ชีวิตจะเจริญรุ่งเรืองอย่างไม่คาดฝัน

6. สร้างพระถวายวัด อานิสงส์ ผ่อนปรนหนี้กรรมให้บางเบา ให้ชีวิตเจริญรุ่งเรือง สิ่งศักดิ์สิทธิ์คุ้มครอง แคล้วคลาดจากอุปสรรคทั้งปวง ครอบครัวเป็นสุขได้เกิดมาอยู่ในร่มโพธิ์ของพุทธศาสนาตลอดไป

7. แบ่งเวลาชีวิตไปบวชชีพรามณ์หรือบวชพระอย่างน้อย9วันขึ้นไป อานิสงส์ ได้ตอบแทนคุณพ่อแม่อย่างเต็มที่ ผ่อนปรนหนี้กรรมอุทิศผลบุญให้ญาติมิตรและเจ้ากรรมนายเวร สร้างปัจจัยไปสู่นิพพานในภพต่อๆไป ได้เกิดมาอยู่ในร่มโพธิ์ของพุทธศาสนาจิตเป็นกุศล

8. บริจาคเลือดหรือร่างกาย อานิสงส์ ผิวพรรณผ่องใส สุขภาพแข็งแรง ช่วยต่ออายุ ต่อไปจะมีผู้คอยช่วยเหลือไม่ให้ตกทุกข์ได้ยาก เทพยดาปกปักรักษาได้เกิดมามีร่างกายที่งดงามในภพหน้า ส่วนภพนี้ก็จะมีราศีผุดผ่อง

9. ปล่อยปลาที่ซื้อมาจากตลาดรวมทั้งปล่อยสัตว์ไถ่ชีวิตสัตว์ต่างๆ อานิสงส์ ช่วยต่ออายุ ขจัดอุปสรรคในชีวิต ชดใช้หนี้กรรมให้เจ้ากรรมนายเวรที่เคยกินเข้าไป ให้ทำมาค้าขึ้น หน้าที่การงานคล่องตัวไม่ติดขัด ชีวิตที่ผิดหวังจะค่อยๆฟื้นคืนสภาพที่สดใส เป็นอิสระ

10. ให้ทุนการศึกษา,บริจาคหนังสือหรือสื่อการเรียนต่างๆ,อาสาสอนหนังสือ อานิสงส์ ทำให้มีสติปัญญาดี ในภพต่อๆไปจะฉลาดเฉลียวมีปัญญา ได้มีโอกาสศึกษาเล่าเรียนอย่างรอบรู้ สติปัญญาสมบูรณ์พร้อม

11. ให้เงินขอทาน,ให้เงินคนที่เดือดร้อน(ไม่ใช่การให้ยืม) อานิสงส์ ทำให้เกิดลาภไม่ขาดสายทั้งภพนี้และภพหน้า ไม่ตกทุกข์ได้ยาก เกิดมาชาติหน้าจะร่ำรวยและไม่มีหนี้สิน ความยากจนในชาตินี้จะทุเลาลงจะได้เงินทองกลับมาอย่างไม่คาดฝัน

12. รักษาศีล5หรือศีล8 อานิสงส์ ไม่ต้องไปเกิดเป็นเปรตหรือสัตว์นรก ได้เกิดมาเป็นมนุษย์ผู้ประเสริฐครบบริบูรณ์ ชีวิตเจริญรุ่งเรือง กรรมเวรจะไม่ถ่าโถม ภัยอันตรายไม่ย่างกราย เทวดานางฟ้าปกปักรักษา ทั้ง12ข้อนี้เป็นเพียงตัวอย่างบุญที่ยกขึ้นมาเพื่อแสดงให้เห็นถึงอานิสงส์ที่ท่านพึงจะได้รับ จงเร่งทำบุญเสียแต่วันนี้ เพราะเมื่อท่านล่วงลับ ท่านไม่สามารถสร้างบุญได้อีกจนกว่าจะได้เกิด หากท่านไม่มีบุญมาหนุนนำ แรงกรรมอาจดึงให้ท่านไปสู่ภพเดรัจฉาน ภพเปรต ภพสัตว์นรก ที่ไม่อาจสร้างบุญสร้างกุศลได้ ต่อให้ญาติโยมทำบุญอุทิศให้ก็อาจไม่ได้รับบุญ ดังนั้นท่านจงพึ่งตนเองด้วยการสร้างสมบุญบารมี ซึ่งเป็นทรัพย์สินที่ท่านจะนำติดตัวไปได้ทุกภพทุกชาติเสียแต่วันนี้ด้วยเทอญ

 

118. chaipat โอนแล้วครับ

ขอขอบคุณครับ

 

ได้รับพระแล้ว ตอนอันเชิญขึ้นโต๊ะหมู่บูชา มีฝนตกลงมาด้วย ไม่เกิน 10 วินาทีแล้วก็หยุดตก เทวดาท่านยินดี