พระวังหน้า ที่หลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรเสก ถ้าต้องการที่จะได้.....

ในห้อง 'งานบุญอื่นๆ' ตั้งกระทู้โดย sithiphong, 23 ธันวาคม 2005.

  1. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
  2. นักเดินทาง

    นักเดินทาง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กรกฎาคม 2005
    โพสต์:
    726
    ค่าพลัง:
    +9,112
    ประสบการณ์ ตอนที่ 2 (ต่อ)


    2. นะจังงัง

    รายที่ 1 เป็นอดีตผู้ใหญ่บ้านตำบลไร่หลักทอง อ.พนัสนิคม จ.ชลบุรี ชื่อนายชุน แสงชัยโรจน์ เราไปพบกันที่ร้านขายยาแผนปัจจุบันชื่อร้านโอสถสามัคคีเภสัช ผู้ใหญ่ชุนชอบและนิยมพระเครื่องตามพื้นเพของเมืองนักเลง ก็ถอดสร้อยพวงใหญ่ให้ผมชมพระเครื่องในคอ ผมถามว่าทำไมใช้พระมากเหลือเกิน เขาตอบว่าไม่ทราบจะเชื่อองค์ไหนเลยแขวนมาก ๆ จากนั้นผมก็รับพระมาตรวจ เป็นพระรุ่นใหม่บ้างสร้างเสริมบ้างเก๊บ้าง แล้วผมก็คืนพวงพระให้แก่เขา บอกว่าใช้คุ้มกันอะไรไม่ได้ หลักของผมใช้พระเพียงองค์เดียว และกำชับเขาว่า ให้ไปขอพระที่คุณหมอเพลิน บอกว่าขอพระพิมพ์สมเด็จวัดพระแก้วองค์หนึ่ง จะเป็นสีอะไรก็ได้ นอกนั้นให้เก็บขึ้นหิ้งพระให้หมด หนักคอเปล่า ๆ จนประมาณ 1 เดือนให้หลัง ผมได้แวะไปที่ร้านโอสถสามัคคีเภสัชอีก และได้พบผู้ใหญ่ชุนนั่งอยู่พอดี พอพบหน้าผมผู้ใหญ่ชุนยิ้มร่าดีใจบอกว่าได้ผล ถามว่าได้ผลอะไร เขาบอกว่าหลังจากที่ได้รับพระพิมพ์จากคุณหมอเพลินแล้ว มีกิจธุระต้องไปพบคุณประโยชน์ เนื่องจำนงค์ อดีต รมช อุตสาหกรรม ที่บ้านพักตำบลบ้านบึง ขณะนั้นไม่มีใครอยู่บ้าน ปล่อยสุนัขพันธุ์โดเบอร์แมนเฝ้าบ้านเพียงตัวเดียว ไอ้ตัวนี้ดุชงัดกักคนมามาก แต่ไม่เอาถึงตาย มันกระโดดกัดสูงและมีคนมาช่วยทัน แต่วันของผู้ใหญ่ชุนกลับไม่มีคนอยู่บ้าน เจ้าโดเบอร์แมนพอเห็นอาคันตุกะไม่คุ้นตาคุ้นกลิ่น มาเยือนถึงถิ่นก็ต้อนรับด้วยอัธยาศัยไมตรีที่ดี คือโดดเข้ากัดหวังเป้าที่คอหอย ผู่ใหญ่ชุนเล่าว่ามันเพียรพยายามกระโดดเข้างับอย่างสุดแรงถึง 7 ครั้ง แต่ถูกพลังลึกลับผลักกระเด็นหงายหลังอย่างไม่เป็นท่าทุกครั้ง พอครั้งที่ 7 มีเสียงเอะอะ คุณประโยชน์กลับมาถึงบ้านพอดี ก็ตกใจถามว่าถูกกัดลึกไหมไอ้ตัวนี้กัดใครไม่เคยพลาด ผู่ใหญ่ชุนตอบว่าไม่เป็นอะไร ทำให้คุณประโยชน์เกิดอาการงุนงงไปพักใหญ่ ผมขอชมพระพิมพ์องค์นั้นปรากฏว่าเป็นพระพิมพ์วรรณสีเหลืองหรดาร ตรงกับคำ "ซิ่ว" อายุยืนนาน

    รายที่ 2 ชายผู้หนึ่งเป็นญาติทางภรรยาคุณหมอเพลิน ได้ทราบข่าวว่า คุณหมอเพลินมีพระสมเด็จสกุลวังหน้า ก็อยากจะได้กับเขาบ้าง คุณหมอเพลินแกก็ให้ไป อาชีพของเธอเป็นชาวไร่อ้อยอยู่บ้านหนองสองห้อง อำเภอบ้านบึง และได้ชนิดวรรณสีแดง "จูซาอั้ง" ตรงกับคำฮก บารมีเกริกไกร ก็ใช้ติดตัวเป็นประจำหวังความสิริมงคลและคุ้มตรองป้องกัน เพราะสถานที่อยู่เป็นทำเลเปลี่ยว อยู่ต่อมาวันหนึ่งเป็นฤดูกาลที่นายฮ้อยค้าควายทางภาคอิสาน นำฝูงควายมาขายก่อนจะถึงฤดูทำนา มีผู้คนไปเที่ยวหาซื้อควายกันมากมาย และสนนราคาตามแต่จะตกลงกัน ชายคนที่กล่าวก็ประสงค์อยากได้ควายกับเขาบ้าง แต่มีควายงามตัวหนึ่งยังไม่ได้ตอนเรียกกันว่า ควายเปลี่ยว ถูกต้อนมาขายในฝูงด้วย มันกำลังอยู่ในวัยหนุ่มกะว่าใช้งานได้นานปี เสียแต่ว่ามันตื่นคนไม่ยอมให้ใครเข้าไกล้จนขายไม่ออก ทั้งตั้งราคาไว้ถึง 2,000 บาท จนผลสุดท้าย นายฮ้อยกระบือบาลประกาศว่า "ควายตัวนี้หากผู้ใดสามารถจูงออกจากฝูงได้ ยินดีขายให้ในราคาเพียง 1,000 บาทเท่านั้น" ก็ไม่มีผู้ใดกล้าเข้าไปไกล้เกรงโดนขวิดไส้ทะลัก พอได้ฟังดังนั้นชายคนที่กล่าวก็ทำการอาราธนาพระสมเด็จจูซาอั้งองค์เก่ง แล้วเดินเข้าไปในฝูงจูงควายเปลี่ยวออกมาในลักษณะเชื่องคน ซึ่งตัวนายฮ้อยเองยังไม่สู้ ผู้คนพากันฮือฮาด้วยความประหลาดใจ และผู้ที่ประหลาดใจมากกว่าเพื่อนคือนายฮ้อยผู้บังคับการฝูงกระบือ ถึงกับมีการซักถามและขอเพิ่มควายให้ฟรีอีก 1 ตัว เพื่อแลกกับพระพิมพ์ แต่เจ้าของพระไม่ยอมรีบจูงควายกลับสู่บ้าน

    3. ปลิงเกาะไม่ติด

    คุณหมอเพลิน อุชุวัฒน์ กับ อาจารย์เดชา กิตติยารักษ์ มักจะไปไหนมาไหนด้วยกันเสมอ ท่านมีที่ดินมรดกอยู่ทางอำเภอบ้านโพธิ์ จังหวัดฉะเชิงเทราแปลงหนึ่ง ตอนที่กำลังบูมเห็นว่าปล่อยทิ้งให้คนเช่าก็ได้รับประโยชน์น้อย ควรจัดการขายเอาเงินไปหมุนทางอื่นจะเป็นการดีกว่าที่เป็นอยู่ อาจารย์เดชาก็ขับรถยนต์ไปส่งถึงที่ ตอนนั้นประจวบกับเป็นฤดูฝนน้ำเจิ่งนองไม่มีการทำนา คุณหมอทราบดีว่าในพื้นนาอันไพศาลนั้นชุกชุมไปด้วยฝูงปลิงควายกระหายเลือด ครั้นจะบอกให้อาจารย์เดชาทราบก็จะไม่มีเพื่อนลงไปลุยที่นาซึ่งมีน้ำท่วมถึงหัวเข่า เข้าใจว่าคงจะลุยดูหลักเขต ถลกขากางเกงเสร็จก็ลงลุยกันเลย ฝ่ายว่าปลิงควายที่อดอยากปากแห้งมานานวัน ก็พากันดีใจเหมือนพระมาโปรด หรือคนมาโปรดทอดกฐิน ผ้าป่า พอเสียงน้ำจ๋อม ๆ ก็ตะโกนลั่นน้ำว่าพวกเราโว้ยจะรีรออยู่ไย รีบตั้งม็อบเป็นหน้ากระดาน ตรงเข้าประจัญบานโดยเร็วพลัน เทวดาโปรดพวกเราแล้ว มันก็แหวกว่ายเข้าต้อนรับเป็นฝูงใหญ่ ตรงเข้าทักทายคุณหมอเพลินก่อน เกาะเท่าไหร่ก็ลื่นหลุดหมด เบื่อหนักเข้าก็เบนเข็มเข้าใส่อาจารย์เดชา ยิ่งไปกันใหญ่ รีบเบนหนีจากอาจารย์เดชายังกับถูกไล่ คือว่ายหนีห่างเลย จากการสอบสวนของผมปรากฏว่า คุณหมอเพลินแขวนพระสมเด็จเจ้าคุณกรมท่า อาจารย์เดชาแขวนพระบรมครูเทพโลกอุดร


    โปรดติดตามตอนต่อไป
     
  3. นักเดินทาง

    นักเดินทาง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กรกฎาคม 2005
    โพสต์:
    726
    ค่าพลัง:
    +9,112
    ประสบการณ์ตอนที่ 3 (ตอนจบ)

    ตอนนี้มีเรื่องที่น่าสนใจ คือเรื่องของโชคลาภ ขอให้ท่านอ่านแล้วพิจารณาดู จะได้ไม่ถูกเขาหลอกขายพระราคาแพง ๆ

    3. ปลิงเกาะไม่ติด

    คุณหมอเพลิน อุชุวัฒน์ กับ อาจารย์เดชา กิตติยารักษ์ มักจะไปไหนมาไหนด้วยกันเสมอ ท่านมีที่ดินมรดกอยู่ทางอำเภอบ้านโพธิ์ จังหวัดฉะเชิงเทราแปลงหนึ่ง ตอนที่กำลังบูมเห็นว่าปล่อยทิ้งให้คนเช่าก็ได้รับประโยชน์น้อย ควรจัดการขายเอาเงินไปหมุนทางอื่นจะเป็นการดีกว่าที่เป็นอยู่ อาจารย์เดชาก็ขับรถยนต์ไปส่งถึงที่ ตอนนั้นประจวบกับเป็นฤดูฝนน้ำเจิ่งนองไม่มีการทำนา คุณหมอทราบดีว่าในพื้นนาอันไพศาลนั้นชุกชุมไปด้วยฝูงปลิงควายกระหายเลือด ครั้นจะบอกให้อาจารย์เดชาทราบก็จะไม่มีเพื่อนลงไปลุยที่นาซึ่งมีน้ำท่วมถึงหัวเข่า เข้าใจว่าคงจะลุยดูหลักเขต ถลกขากางเกงเสร็จก็ลงลุยกันเลย ฝ่ายว่าปลิงควายที่อดอยากปากแห้งมานานวัน ก็พากันดีใจเหมือนพระมาโปรด หรือคนมาโปรดทอดกฐิน ผ้าป่า พอเสียงน้ำจ๋อม ๆ ก็ตะโกนลั่นน้ำว่าพวกเราโว้ยจะรีรออยู่ไย รีบตั้งม็อบเป็นหน้ากระดาน ตรงเข้าประจัญบานโดยเร็วพลัน เทวดาโปรดพวกเราแล้ว มันก็แหวกว่ายเข้าต้อนรับเป็นฝูงใหญ่ ตรงเข้าทักทายคุณหมอเพลินก่อน เกาะเท่าไหร่ก็ลื่นหลุดหมด เบื่อหนักเข้าก็เบนเข็มเข้าใส่อาจารย์เดชา ยิ่งไปกันใหญ่ รีบเบนหนีจากอาจารย์เดชายังกับถูกไล่ คือว่ายหนีห่างเลย จากการสอบสวนของผมปรากฏว่า คุณหมอเพลินแขวนพระสมเด็จเจ้าคุณกรมท่า อาจารย์เดชาแขวนพระบรมครูเทพโลกอุดร

    4. คุ้มกันอุบัติเหตุ

    รายนี้ห้อยพระสมเด็จเจ้าคุณกรมท่าวรรณสีขาวติดตัวองค์เดียว ขับรถเครื่องมีเพื่อนซ้อนท้าย ขณะเกิดฝนตกหนักและไม่ยอมพักฝน ดันทุรังจะไปก็จ๊ะเอ๋กับรถบรรทุก 6 ล้อ เข้าเต็มรักเต็มแค้น พระสมเด็จที่แขวนในคอหักถึง 8 เสี่ยง คนขับไม่เป็นอะไรเลย คนซ้อนท้ายไปตายที่โรงพยาบาล เจ้าตัวคิดจะซ่อมพระจึงนำมาผึ่งแดดที่ริมถนนหน้าบ้าน สุนัขอดโซตัวหนึ่งเดินทางผ่านมาตรงเข้ากินพระด้วยความหิวจัด เจ้าของพระเกิดหน้ามืดคว้าปืนขนาด 9 มม ยิงสุนัขชนิดเผาขน 4 นัดซ้อน ปรากฏกระสุนปืนเด้ง ต้องพากันหัวเราะด้วยความขบขัน ลือกันว่าหมาหนังเหนียว

    5. ทำมาค้าขึ้น

    การทำมาค้าขึ้นจัดเป็นลาภชนิดหนึ่ง คือ ลาภจากการแสวงหาลาภมีอยู่ด้วยกันหลายชนิด เช่น ลาภแบบพระสงฆ์บิณฑบาตร อยู่ดี ๆ มีคนนำเครื่องอุปโภคบริโภคมาให้ ลาภการพนันพวกนี้มักมีสมบัตินักเลงเล่นไปเถอะ ไม่ต้องกลัวจนหากินทางพนัน หากใครไม่มีบารมีทางนี้รับรองหายนะทุกคน แต่ลาภที่ควรได้คือ ลาภจากการแสวงหา การทำมาค้าขาย ลาภฟลุค ก็สืบเนื่องจากผลแห่งการกระทำหรืออาศัยบารมีเดิม ถ้าหากเราจะตั้งคำถามว่าอยากได้พระอะไร แทบทุกคนจะตอบว่า อยากได้ทางลาภ ก็จะต้องถามเขาว่า คุณนับถือศาสนาอะไร ถ้าเขาตอบว่านับถือพระพุทธศาสนา ก็จงถามว่าปรัชญาของพระพุทธศาสนามีอยู่อย่างไร ความจริงเขาไม่ได้ถือศาสนาอะไรทั้งสิ้น เพียงถือตามสำมะโนครัว คนเช่นนี้มีมากในแผ่นดิน ปรัชญาของพระศาสนาคือ เยธัมมาฯ ผลเกิดจากเหตุดับเหตุเสียได้ผลก็ไม่เกิด ทีนี้จะคิดเอาลูกเดียวความดีไม่เคยสร้าง บุญทานไม่เคยทำ แม้อดีตชาติหรือปัจจุบันชาติ สมมุติว่าเราไม่เคยเปิดบัญชีเงินฝากแบบเอทีเอ็ม ถามว่าจะกดเอาเงินได้ไหม ตอบว่าไม่ได้ เพราะฉะนั้นเราจึงจำเป็นต้องสร้างเหตุก่อน ผลจึงจะตามมา มิใช่ว่ามีพระเครื่องแล้วจะมีแต่ลาภสักการะ มีกูไว้ ไม่จน รวยล้นเหลือ รวยอภิมหาเศรษฐี ปลดหนี้ รวยไม่หยุด(หมายถึง ชื่อของรุ่นพระ) ล้วนเป็นการหลอกลวงทั้งสิ้น หากเป็นเรื่องของทางศาสนาก็พาให้ศาสนามัวหมอง แต่เรื่องเครื่องลางของขลังมันมิใช่เรื่องของศาสนา ก็ไม่เห็นมีใครว่ากระไร ทุกสิ่งย่อมเกิดจากการกระทำทั้งสิ้น ผมขอร้องให้คุณหมอเพลินแจกพระสมเด็จสกุลวังหน้าฟรี เพื่อหาข้อมูลในการวิเคราะห์ ก็ได้รับรายงานมากขึ้นตามลำดับ จนมากเกินที่จะเขียนบรรยาย เพราะเราต้องการทราบเพียงข้อเท็จจริงและมีตัวตนจริง และเอาเฉพาะคนที่เห็นว่าไปไม่ไหวแล้ว ไม่ใช่นำไปให้คนรวยคนที่มีทุนรอนมาก ๆ ซึ่งมีบารมีอยุ่แล้วทำการทดลอง มันอาจรวยขึ้นเพราะไหวพริบจังหวะโอกาสการริเริ่มที่ดี เช่นนี้วิเคราะห์ผลไม่ได้ นำไปให้คนที่เห็นอยู่โต้ง ๆ ว่าไปไม่ไหวแน่ บ้อท่าแทบหมดอาลัยตายอยาก เพราะทำอะไรก็ขาดทุน เพียรพยายามทำทุกวิถีทางก็ปราศจากผล ทำนาฝนก็แล้ง ขายพืชราคาพืชก็ตกต่ำไม่มีกำไร ก็พอแปรเปลี่ยนฐานะได้บ้าง เช่น บางคนขอรับพระไปก็ขอบารมีให้ถูกรางวัลสลากกินแบ่ง หาค่าเลี่ยมทอง ก็ประสบผลมากราย น่าจะเป็นบุญเก่าที่เขาทำมา ไม่ถือเป็นทฤษฎีว่าจะต้องได้ทุกคนเสมอไป คือขอให้เข้าใจว่าทุกคนอย่างน้อยก็พอที่จะมีอะไรอยู่บ้าง มันยังเก็บตัวนิ่งอยู่ พระดีเปรียบเสมือนกุญแจไข มันก็จะได้เร็วขึ้น หากตู้นั้นไม่มีเงินก็ฟาล์วไป หรือใช้ทุนเก่าไปหมดแล้ว ไม่สร้างสมขึ้นมาใหม่ บางคนซื้อข้าวสารเลี้ยงครอบครัวครั้งละลิตร ได้พระไปจับอะไรก็เป็นเงินเป็นทองไปหมด พักเดียวนำข้าวสารมาให้คุณหมอเพลินครั้งละหนึ่งกระสอบ ว่าไปได้งานอะไรดีก็ไม่ทราบ บางคนบ้านก็จะถูกยึดเงินก็ไม่มีจะผ่อน ก็ยังรอดตัวมาได้ คุณหมอก็ไปนำตัวมาให้ผมพบเห็น เรียกว่าดีกว่าเก่ามากแล้วกัน

    อีกรายหนึ่งรับจ้างทำโต๊ะจีน ก็ที่อำเภอพนัสนิคมมีการหากินทางรับทำโต๊ะจีนกว่า 50 ราย มันก็แย่งกันถึงขนาดต้องแบ่งงานกันหรือประมูลทำไปเพียงได้เงินเลี้ยงลูกจ้าง ไม่เช่นนั้นลูกจ้างหนีหมด การงานจะเกิดอุปสรรค เมื่อได้พระไปแล้วมีคนมาสั่งทำโต๊ะจีนถึงบ้าน ไม่ต้องไปเที่ยวหาลูกค้า พลิกฐานะดีกว่าเดิมเป็นอันมาก และมีกฏอยู่ว่าพระทุกองค์จะต้องเลี่ยมเปิดหรือเจาะรู จนช่างเลี่ยมพระรู้ดีว่านี่เป็นพระของหมอเพลินให้มา หมอเพลินกำชับว่าหากไม่ทำเช่นนี้ตายสิ้นไม่มีเหลือ พระที่หมอเพลินแจกบางองค์ ไปถูกยิงด้วยปืนขนาด 11 มม กระสุนปืนเด้ง ใช้พระของหมอเพลินองค์เดียว ไหนใครว่าพระสมเด็จไม่มีคุณสมบัติทางคงกระพัน แล้วท่านหละจะเล่นพระชนิดไหน จะเลือกพระราคาถูกที่เลิศด้วยอิทธิคุณ หรือจะใช้พระราคาแพงที่มีพุทธคุณอย่างเขาแล้วพากันตาย หวังว่าแฟน ๆ คงได้รับความกระจ่างพอสมควรนะครับ

     
  4. นักเดินทาง

    นักเดินทาง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กรกฎาคม 2005
    โพสต์:
    726
    ค่าพลัง:
    +9,112
    ศิลปการใช้พระเครื่อง

    ศิลปการใช้พระเครื่อง

    โดย อ.ประถม อาจสาคร


    คนไทยนิยมใช้และบูชาพระเครื่องพระพิมพ์มาช้านานไม่มีวันเบื่อหน่ายคลายจาง ทั้งนี้น่าจะเริ่มในสมัยกรุงสุโขทัยเป็นราชธานีหลังหลุดพ้นจากอิทธิพลของขอมแล้ว นิยมสร้างพระเครื่องพระพิมพ์บรรจุกรุตามเจดีย์และศาสนสถานต่าง ๆ โดยการนำขององค์พระมหากษัตริย์และคณาจารย์ต่างๆ นับเป็นต้นฉบับสืบเนื่องกันต่อมาทุกยุคสมัย เช่น สมัยอยุธยาตอนต้นที่เราเรียกกันว่าสมัยอู่ทอง สมัยอยุธยากลาง สมัยอยุธยาปลาย จนถึงสมัยรัตนโกสินทร์ยุคปัจจุบัน พระเครื่องนับว่ามีบทบาทเกี่ยวกับชีวิตความเป็นอยู่ของคนไทยจนแทบจะกำหนดได้ทุกครัวเรือนที่เป็นชาวพุทธ ยามสงบก็ใช้พระเครื่องเป็นสิ่งคุ้มกันในการผจญภัยต่าง ๆ ใช้เป็นสื่อในการทำมาค้าขาย ในยามสงครามใช้สำหรับปกป้องคุ้มครองประเทศชาติ เพราะเป็นการรบแบบประชิดตัวในดงหอกดงดาบ ใครดีใครอยู่ ใครไม่ดีก็ตายไป ทำให้เกิดกำลังใจอันห้าวหาญ เป็นพละปัจจัยในการสู้รบ พระเครื่องจึงอาจมีบทบาทในการทำสงครามกู้ชาติขับไล่อริราชศัตรู

    ศิลปการใช้พระเครื่องในสมัยโบราณนิยมอมไว้ในปาก จนมีคำพังเพยว่า "ถึงอมพระมาพูดก็ไม่อยากเชื่อ" ใช้ผูกแขนด้วยผ้าประเจียด ใช้คล้องสะพายแบบสังวาลย์ หรือคล้องคอ ใช้บรรจุในมงคลคาดศีรษะสำหรับพวกแทงกระบี่ตีกระบอง เคยมีการค้นพบพระวัดตะไกรพิมพ์หนึ่ง นิยมซ่อนอยู่ในมงคลคาดศีรษะ เลยนิยมเรียกกันว่า พระวัดตะไกรหน้ามงคล เป็นต้น สมัยต่อมาใช้วิธีถักด้วยเชือกหรือลวดเงิน ทอง ทองแดง หรือเลี่ยมเปิดหน้าหลัง หรือบางทีก็เจาะด้านหลังเป็นรูปใบโพ สอบถามได้ความว่าเพื่อจะให้สัมผัสกับธาตุทั้ง ๔ ในกายตัว ที่เจาะเป็นรูปใบโพเรียกว่า "พระเจ้าเปิดโลก" และปรากฏประสบการณ์สูง แต่ในด้านการอนุรักษ์แล้วใช้การไม่ได้ สุนทรีภาพขององค์พระจะสึกกร่อนมาก

    ในสมัยปัจจุบันพระเครื่องที่อยู่ในเกณฑ์นิยม กลายเป็นสินค้าราคาแพงจนน่าใจหาย ยิ่งแพงยิ่งเป็นสิ่งที่นิยมชมชอบ แม้จะไม่มีปัญญาเป็นเจ้าของก็ยังสนับสนุน ประกอบกับพระเครื่องโบราณชักฝืดและหายาก จึงคิดอนุรักษ์สุนทรีภาพขององค์พระด้วยการเลี่ยมตลับอย่างดี หรือบางที่ก็ใช้พลาสติคอย่างหนาเลี่ยมปิดสนิทแบบน้ำไม่เข้าลมไม่ออก แต่การใช้พระไม่ประสบผล คือถ้าเกิดอุบัติเหตุหากไม่ตายก็เลี้ยงไม่โตทุกรายไป เป็นเพราะปราศจากวิทยาการในการใช้พระเครื่อง ไม่ศึกษาถึงรังสีของพระเครื่อง และเรื่องของธาตุรู้หรือวิญญาณธาตุย่อมต้องเดินในอากาศธาตุ เมื่อไปปิดกั้นพลังคุ้มครองซึ่งเสมือนสนามแม่เหล็กพลังจึงไม่สามารถกระจายออกได้ จึงทำให้ลดคุณภาพจนถึงปราศจากคุณภาพ

    สำหรับเรื่องนี้ได้อธิบายมานานปีแล้ว มีบุคคลเชื่อเป็น ๒ ฝ่าย ส่วนช่างเลี่ยมพระจะไม่แนะนำอะไร เพียงแต่รับเลี่ยมอย่างเดียว หากสั่งให้เจาะก็จะทักท้วงว่าไม่มีใครเขาเจาะกัน ดีไม่ดีเชยแหลก การกล่าวเช่นนี้ผมจัดว่า "เป็นสื่อมัจจุราชสี่มุมเมืองทีเดียว" คือเป็นเหตุให้ผู้จ้างเลี่ยมพระนั้นได้ตายสนิทไม่มีทางแก้ไข ผู้ที่คบคุ้นกับผมจะเชื่อโดยเหตุผลและประสบการณ์ ผมเองก็ได้มีผู้หวังดีมาแนะนำอบรมสั่งสอนเพื่อคลายสโลแกนที่ว่า "เปิดไว้ปลอดภัยกว่า" ซึ่งตัวผมเองก็คิดคำนึงว่ามันเปรียบเสมือนมีดสองคม หากผู้คิดมิชอบนำไปใช้ก็จะเป็นเรื่องน่าหนักใจ เพราะอิทธิคุณที่บรรจุไว้ท่านมักตรงไปตรงมา ยัดใส่ปากปลาก็คุ้มกันมีดได้ แขวนคอสุนัขก็เคยลองกันยิงได้ ท่านคุ้มหมดเว้นแต่ถึงคราวจะสิ้นอายุขัยจริง ๆ

    อันศิลปการใช้พระเครื่องของขลังมีอยู่มากมายหลายประการ สิ่งที่สำคัญที่สุดก่อนที่จะนำพระแขวนคอฝากชีวิตกันต้องศึกษาหาความรู้ว่าพระที่จะนำมาแขวนคอมีอิทธิคุณคุ้มครองทางด้านใด หรือมีผลทางด้านไหนสูง เช่น แคล้วคลาด เมตตามหานิยม อยู่ยงคงกระพัน ฯลฯ การตรวจพระมิใช่ตรวจเพียงวัตถุธาตุหรือรูปธรรม คุณพระหรืออิทธิคุณเป็นนามธรรม สร้างจากจิตจึงจำเป็นต้องตรวจด้วยจิตอย่างปฏิเสธมิได้ การตรวจด้วยแว่นส่องเพียงอย่างเดียวไม่สามารถเห็นหรือทราบอิทธิคุณได้ แม้จะมั่นใจว่าพระที่ได้มาเป็นของแท้ เพราะได้มาจากวัดหรือรับมาจากมือก็ไม่ควรประมาท จากประสบการณ์อันยาวนานพบว่า พิมพ์ใช่ถูกต้อง แต่พลังไม่มี เพราะเหตุใด? ที่นี่มีคำตอบคือ
    ๑. ฤกษ์ในขณะสร้างพระ พิมพ์พระ ปั๊มพระ ไม่ถูกต้อง ตรงกับฤกษ์ไม่ดีที่เรียกว่าลูกพิษ แม้จะผ่านการปลุกเสกนานเท่าใดก็ปราศจากอิทธิคุณ คือยังมีค่าเท่ากับศูนย์เช่นเดิม
    ๒. สร้างพระไว้เกินจำนวนมิได้ผ่านพิธีปลุกเสก แอบสร้างเกินไว้เพื่อหวังผลทางพาณิชย์
    ๓. เป็นพระเสื่อม หมดพลัง ไม่มีเทพรักษาคุ้มครอง เพราะผู้ใช้นำไปสู่สถานที่อันไม่สมควร
    ๔. เป็นของทำเลียนแบบ ไม่ผ่านการปลุกเสก เรียกว่าเก๊นอก เก๊ใน
    ๕. เป็นของทำเลียนแบบ แต่ผ่านการปลุกเสก สำหรับผู้ที่เชี่ยวชาญทางปรจิตจะทราบได้ว่าพลังต่างจากของแท้ และบางครั้งมีอิทธิคุณสูงไม่แพ้ของเดิม หรือพลังสูงกว่าก็ยังมี แต่ทางรูปเขาบอกว่าเก๊

    ดังนั้นการใช้พระเครื่องจึงเป็นศาสตร์และศิลป์ที่ละเอียดลึกซึ้ง ไม่ใช่มีแว่นส่องพระจำชื่อพระจำรูปจำแบบจำโค๊ดก็ถือว่าเก่งแล้ว คราวนี้ถ้าเรามีพระดีมีอิทธิคุณและใช้ให้ถูกต้องย่อมได้รับผลสูงสุด การใช้พระเครื่องแต่ไม่ได้เข้าอยู่ในหลักวิชา เพียงนึกคิดเอาเองหรือทำตาม ๆ กันไป เช่นบางคนแขวนพระคี่ คือ ๑, ๓, ๕, ๗, ๙ บางคนถือว่าพระปิดตาเป็นพระที่ขัดลาภ เช่นนี้ก็ควรทดสอบดู คือผู้ใดมีพระปิดทวารวัดหนังสักร้อยองค์ พระปิดตาวัดทองสุวรรณารามอีกร้อยองค์ เป็นพระแท้ทั้งสิ้น รับรองบันไดบ้านไม่แห้งแน่ ก็ลองเอาหลักแสนคูณด้วย ๒๐๐ ดูเถอะ หรือพระปิดตาหลวงปู่โต๊ะวัดประดู่ฉิมพลี รุ่นปลดหนี้ ก็ไม่รู้ปลดหนี้คนขายหรือคนซื้อ บางท่านก็ยึดถือพระพิมพ์ประจำวันเกิดเป็นหหลัก ทีนี้พระนอกวันเกิด เช่น พระลีลา พระควัมปติ พระปิดทวารทั้งเก้า พระปางมารวิชัย พระตรีกาย พระนารายณ์ทรงปืน จะจัดกันอย่างไร ก็เห็นใช้กันไปตมเขานิยม ตามหลักวิชาที่ทดสอบด้านรังสีแล้ว พระหมวดคงกระพันเข้ากันได้ พระหมวดเมตตาก็เข้ากันได้เป็นสมังคีธรรมไป หากไปจัดแบบเบญจภาคีเข้า รังสีพระจะขัดกัน ไม่ตายก็เลี้ยงไม่โต เพราะพระแต่ละชนิดประกอบด้วยพลังต่างกัน ถ้าอยู่ในองค์เดียวกันย่อมไม่มีการขัดแย้ง เปรียบเสมือนเรามีทีวีเครื่องหนึ่ง จะเปิดช่อง ๓, ๕, ๗, ๙ จะไม่มีช่องอื่นมาแทรกและเลือกเปิดได้ทีละช่อง การใช้พระหลายองค์ที่ไม่อยู่ในแนวทางเดียวกัน เปรียบเสมือนมีทีวีหลายเครื่อง เปิดหลายช่องไม่ทราบจะดูช่องไหนดี การที่โบราณกล่าวว่า "พระท่านเกี่ยงกัน" น่าจะเป็นข้อคิด มิใช่คำพูดที่ตลกขบขัน ดังนั้นการใช้พระองค์เดียวที่มีพลังครบทุกด้านจึงให้ผลสูงสุด เพราะผู้ใช้จะมีจิตเป็นหนึ่งเป็นสมาธิ เมื่อประสบเหตุก็มีจิตตั้งมั่นไม่ซัดส่าย หากท่านใดคิดจะศึกษาศิลปการใช้พระเครื่องก็ควรใช้หลักโหราศาสตร์ เป็นเครื่องประกอบ เพราะหลักโหราศาสตร์มีความสัมพันธ์อันแนบแน่น ตั้งแต่การสร้าง การเสก การประกอบพิธีปลุกเสก ฯ

    ก่อนอื่นทำความรู้จักกับ พระประจำวัน สีประจำวัน สีที่ควรเว้น
    ๑. วันอาทิตย์ พระปางถวายเนตร สีบริวารสีแดง สีที่ควรเว้นคือสีฟ้า
    ๒. วันจันทร์ พระปางห้ามญาติ สีบริวารสีเหลือง สีที่ควรเว้นคือสีแดง
    ๓. วันอังคาร พระปางไสยาสน์ สีบริวารสีชมพู สีที่ควรเว้นคือสีเหลือง
    ๔. วันพุธ พระปางอุ้มบาตร สีบริวารสีเขียว สีที่ควรเว้นคือสีชมพู
    ๕. วันพฤหัส พระปางสมาธิ สีบริวารสีน้ำตาลหรือสีส้ม สีที่ควรเว้นคือสีดำ
    ๖. วันศุกร์ พระปางรำพึง สีบริวารสีฟ้า สีที่ควรเว้นคือสีน้ำเงินและสีม่วง
    ๗. วันเสาร์ พระปางนาคปรก สีบริวารสีดำหรือสีเทา สีที่ควรเว้นคือสีเขียว
    ๘. วันราหู (วันพุธกลางคืน) พระปางปาลิไลยก์ สีบริวารสีน้ำเงินหรือสีม่วง สีที่ควรเว้นคือสีน้ำตาล

    วันคู่มิตรที่ใช้แทนกันได้
    ๑. อาทิตย์เป็นมิตรกับครู พระปางถวายเนตรกับพระปางสมาธิ
    ๒. จันทร์โฉมตรูพุธนงเยาว์ พระปางห้ามญาติกับพระปางอุ้มบาตร
    ๓. ศุกร์ปากหวานอังคารรับเอา พระปางรำพึงกับพระปางไสยาสน์
    ๔. ราหูกับเสาร์เป็นมิตรแก่กัน พระปางนาคปรกกับพระปางปาลิไลยก์

    หากไม่พิจารณาให้ดีแล้วจะเห็นว่าเป็นไปได้ยาก คณาจารย์ใดจะจัดสร้างพระสีพิสดารอะไรเช่นนั้น การที่ลงไว้ก็เพื่อให้ครบสูตร สิ่งที่ว่านั้นมีอยุ่หรือหาทดแทนกันได้ และพระพิมพ์ที่สร้างจากพระราชวังหน้าก็มีครบแทบทุกปางทุกสี ต้องศึกษาค้นคว้าด้วยความละเอียดอ่อน อย่ามองข้ามพระสี อย่าดูถูกว่าพระลิเก พระนอกระบบ ปราชญ์โบราณท่านฉลาดรอบรู้ ท่านบรรจงสร้างด้วยจิตวิญญาณ แต่ลูกหลานไม่สนใจ มองข้ามด้วยสายตาที่ดูแคลน ถ้าเห็นใครแขวนพระสีก็ว่าเชย ไม่มีคุณค่า ไร้ราคา ฯลฯ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 30 มิถุนายน 2006
  5. นักเดินทาง

    นักเดินทาง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กรกฎาคม 2005
    โพสต์:
    726
    ค่าพลัง:
    +9,112
    (ต่อ)

    สีแห่งธาตุวิเศษ ๕ ประการ

    ธาตุวิเศษ ๕ ประการของนักปราชญ์จีนในสมัยโบราณ กำหนดไว้ ๕ ธาตุด้วยกันคือ ดิน น้ำ ลม ไฟ ทอง จัดเป็นอาถรรพ์และมงคลสูงสุด และนับถือสืบต่อกันมาจนถึงปัจจุบัน
    ๑. ธาตุดิน สีเหลือง ตรงกับความหมายของคำว่า "ซิ่ว" อายุวัฒนะยืนยาว
    ๒. ธาตุน้ำ สีดำ ตรงกำความหมายว่า "ซิ่ว" อายุวัฒนะยืนยาว ปกติ ดิน ทราย น้ำ ย่อมเป็นสิ่งคู่กันตามธรรมชาติ ดินมีอายุยาวนาน น้ำก็มีอายุยาวนาน เปรียบอายุของคนดุจเพียงดาวกระพริบแสง
    ๓. ธาตุลม ไม่มีสี จึงใช้ธาตุไม้สีเขียวแทน ตรงกับคำว่า "ลก" บริวาร
    ๔. ธาตุไฟ สีแดงหรือสีแสด ตรงกับความหมายของคำว่า "ฮก" บารมีเกริกไกร ดาวในจักรวาลดวงใดเล่าจะมีอิทธิพลเท่าดวงอาทิตย์
    ๕. ธาตุทอง สีขาว ตรงกับความหมายของคำว่า "ลก" บริบูรณ์ด้วยโภคทรัพย์ควบคู่กับบริวาร

    รวมคุณวิเศษทั้งหมดเข้าสู่องค์พระ งามดั่งจิตกรรมฝาผนัง ศิลปแห่งมรดกไทย เป็นปริศนาธรรมอันลึกล้ำ สนองภูมิปัญญาของผู้ที่เรียกตนเองว่านักพระเครื่อง ซึ่งจะได้ช่วยอนุรักษ์มรดกไทย ผมถวายพระนามพระชนิดนี้ว่า "พระสมเด็จปัญจสิริ" นับเป็นโบราณวัตถุอันทรงคุณค่ายิ่ง

    เพื่อให้ครบหลักเกณฑ์ทางวิชาการ จำเป็นต้องเข้าใจกับทักษาพิศดารให้เข้าใจก่อน คำว่าทักษาคือ บริวาร อายุ เดช ศรี มูละ อุตสาหะ มนตรี กาลกิณี มีอยู่ด้วยกัน ๘ อย่าง จัดเป็นมูลพยากรณ์ในการใช้พระอย่างพิศดาร หากพิจารณาให้ลึกซึ้งจะเห็นว่าให้ผลดีเลิศกว่าการใช้พระแบบทั่วไป

    บริวาร หมายถึงผู้แวดล้อมคอยรับใช้ ผู้ห้อมล้อมติดตาม ผู้ไกล้ชิดและบริวารทั่วไป สิ่งอยู่รอบตัวเรารวมถึงเสื้อผ้าของใช้ ตรงกับความหมายว่า "ลก"
    อายุ หมายถึงความแข็งแรง ปราศจากโรคภัยไข้เจ็บ ความยั่งยืน ตรงกับความหมายว่า "ซิ่ว" อายุยืนยาว
    เดช หมายถึงอำนาจ ความงาม ความสุกใส ชื่อเสียงเกียรติยศ ความสง่างาม ตรงกับคำว่า "ฮก" บารมีเกริกไกร
    ศรี หมายถึงความงาม ความดี ความน่ารัก ความเจริญ ความร่ำรวย ความสำเร็จ มงคล ความเป็นใหญ่ อำนาจ ราชศักดิ์
    มูละ หมายถึงทุนทรัพย์ เหตุ ที่ตั้ง มีพื้นฐานมั่นคง สถานที่ประกอบธุรกิจ สถานที่อยู่อาศัย
    อุตสาหะ หมายถึงความพยายาม ความขยัน ความอดทน การประกอบอาชีพการงาน
    มนตรี หมายถึงมีผู้คอยช่วยเหลือ ให้คำปรึกษา ให้คำแนะนำหรือเป็นที่ปรึกษา
    กาลกิณี หมายถึงความชั่วร้าย ความสูญเสีย ความบกพร่อง อุปสรรค โรคร้าย

    สรุปต้องทำความเข้าใจกับตัวเองก่อน ว่าเราคือใคร มีอาชีพความเป็นอยู่อย่างไร ต้องการอะไรให้กับชีวิต แล้วมาพิจารณาว่าสมควรใช้พระแบบไหน สีอะไร ประการแรกให้ตัดสีที่เป็นกาลกิณีออกไป แล้วค่อย ๆ ใช้ปัญญาพิจารณาไตร่ตรองดู ก็จะประสบความสำเร็จขั้นสูงสุดในศาสตร์และศิลป์การใช้พระ

    สำหรับผู้ที่ศึกษาแล้วเกิดความท้อแท้ โบราณท่านกล่าวว่า รู้มากยากนาน รู้น้อยพลอยรำคาญ เรื่องอะไรที่เราไม่คุ้นเคยมันก็ดูยากไปทุกเรื่อง หาพระสีที่ต้องการไม่ได้ พระประจำวันก็หาลำบาก เคยเห็นพระกำลังแผ่นดินไหม ทำไมต้องเป็นปางสมาธิสีน้ำตาล พระองค์ท่านเป็นปราชญ์ทรงรอบรู้สารพัดศาสตร์ ทรงพิจารณาแล้วว่าสีน้ำตาลนี่แหละที่สะดวกเข้าได้ทั้ง ๗ วัน ยกเว้นราหูก็ช่วยตนเองหน่อย เพื่อความสะดวกเป็นตัวอย่างให้พิจารณาดังนี้

    ผู้เกิดวันอาทิตย์ พระปางสมาธิสีน้ำตาลจัดเป็นอุตสาหะ ปางสมาธิสีแดง/ชมพูจัดเป็นเดช(ฮก)
    ปางสมาธิเป็นบริวาร(ลก) ปางสมาธิสีนวล/เหลืองเป็นอายุ(ซิ่ว) พระสมเด็จปัญจสิริ สีแดง ชมพู ขาว เหลือง ฯ เว้นสีฟ้า
    ผู้เกิดวันจันทร์ พระปางสมาธิสีน้ำตาลจัดเป็นมูละ ปางสมาธิสีเขียวเป็นเดช(ฮก)
    ปางสมาธิสีนวล/เหลืองเป็นบริวาร(ลก) ปางสมาธิสีเหลือง/ชมพูเป็นอายุ(ซิ่ว)
    พระสมเด็จปัญจสิริ สีเขียว ขาว เหลือง ชมพู ฯ เว้นสีแดง
    ผู้ที่เกิดวันอังคาร พระปางสมาธิจัดเป็นศรี ปางสมาธิสีแดง/ดำเป็นเดช(ฮก)
    ปางสมาธิสีชมพูเป็นบริวาร(ลก) ปางสมาธิสีเขียวเป็นอายุ(ซิ่ว)
    พระสมเด็จปัญจสิริ สีแดง ดำ นวล ชมพู เขียว ฯ เว้นสีเหลือง
    ผู้ที่เกิดวันพุธ พระปางสมาะสีน้ำตาลเป็นเดช(ฮก) ปางสมาธิสีเขียวเป็นบริวาร(ลก)
    ปางสมาธิสีดำเป็นอายุ(ซิ่ว)
    พระสมเด็จปัญจสิริ สีแดง น้ำตาล ขาว เขียว เหลือง ดำ ฯ เว้นสีชมพู
    ผู้ที่เกิดวันพฤหัส พระปางสมาธิสีฟ้าจัดเป็นเดช(ฮก) ปางสมาธิสีน้ำตาลเป็นบริวาร(ลก)
    ปางสมาธิสีน้ำเงินเป็นอายุ(ซิ่ว)
    พระสมเด็จปัญจสิริ สีแดง ฟ้า ขาว น้ำตาล เหลือง น้ำเงินเข้ม ฯ เว้นสีดำ
    ผู่ที่เกิดวันศุกร์ พระปางสมาธิสีน้ำตาลเป็นมนตรี ปางสมาธิสีเหลืองเป็นเดช(ฮก)
    ปางสมาธิสีฟ้าเป็นบริวาร(ลก) ปางสมาธิสีแดงเป็นอายุ(ซิ่ว)
    พระสมเด็จปัญจสิริ สีแดง เหลือง ขาว ฟ้า ฯ เว้นสีน้ำเงินเข้ม/ม่วง
    ผู้ที่เกิดวันเสาร์ พระปางสมาธิสีน้ำตาลเป็นอายุ(ซิ่ว) ปางสมาธิสีน้ำเงินเป็นเดช(ฮก)
    ปางสมาธิสีดำเป็นบริวาร(ลก)
    พระสมเด็จปัญจสิริ สีแดง น้ำเงินเข้ม ขาว ดำ เหลือง น้ำตาล ฯ เว้นสีเขียว
    ผู้เกิดวันราห
    (วันพุธกลางคืน) พระปางปาลิไลยก์ ปางอุ้มบาตร หรือปางนาคปรก สีแดงเป็นเดช(ฮก)
    สีน้ำเงินเป็นบริวาร(ลก) สีฟ้าเป็นอายุ(ซิ่ว) เว้นสีน้ำตาล

     
  6. นักเดินทาง

    นักเดินทาง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กรกฎาคม 2005
    โพสต์:
    726
    ค่าพลัง:
    +9,112
    (ต่อ)

    พระสีหาได้ที่ไหนจะบอกลายแทงให้ ก็เจดีย์วัดทองนพคุณเคยกรุแตกมาครั้งหนึ่งประมาณปี ๒๕๑๑ มีพระสมเด็จสีทะลักออกมามากมาย คนเป็นพระจริง ๆ จะมีสักกี่คนครับ พอเห็นเข้าก็เบือนหน้าหนี เท่าที่พบเห็นมีสีแดงชาด(จูซาอั้ง) สีเหลืองหรดาร สีฟ้าสีเขียว ดุเหมือนจะมีครบสีนะครับ พระนี้สร้างที่วัดระฆัง แล้วนำมาบรรจุกรุที่วัดทองนพคุณ พระเจดีย์ใหญ่วัดทองนพคุณนี้ ออกทุนสร้างโดยพระยาโชดึก ราชเศรษฐีผู้อุปการะวัดทองนพคุณ นามสกุลท่านโชติพุกนะ ท่านมีอาชีพทางค้าขายเครื่องกังไสลายคราม โดยติดต่อืางประเทศจีน ต่อมาท่านชราภาพลงก็รามือ ท่านมีคนสนิทผู้หนึ่งชื่อนายกิ๊ด แซ่ตั้ง พูดจีนได้ไทยชัด เป็นผู้ติดต่อทางการค้าระหว่างประเทศไทยกับจีน ต่อมาภายหลังนายกิ๊ดผู้นี้ได้ร่วมงานกับเจ้าคุณกรมท่า และกรมพระราชวังบวรวิชัยชาญ ในการติดต่อจัดหาหุ่นถ้วยชาม เพื่อจัดสร้างเครื่องเบญจรงค์ขึ้นเป็นเตาแรกในสมัยรัตนโกสินทร์ และคงได้พบเห็นการสร้างพระพิมพ์สมเด็จสีของพระราชวังหน้า จึงคิดสร้างพระสีโดยใช้พิมพ์ของวัดระฆังเป็นหลักและแกะพิมพ์อื่น ๆ เพิ่มเติม แล้วนำปบรรจุในองค์เจดีย์วัดทองนพคุณ พระพิมพ์นี้ได้รับการอธิษฐานจิตจากเจ้าประคุณสมเด็จโตแน่นอน เพราะทันยุคสมัยและได้รับการพิจารณาทางนามแล้วอย่างไม่ต้องสงสัย และที่มีมากอีกแห่งหนึ่งก็คือพระพิมพ์ที่สร้างจากพระราชวังหน้า ใครว่าไม่จริงก็แล้วแต่ภูมิปัญญา ไม่ว่ากัน การใช้พระพิมพ์ปางสมาธิองค์เดียว เป็นพระสีน้ำตาลที่ว่านี้มิใช่สมเด็จธรรมดา จากการตรวจสอบทางจิตทราบว่าประกอบด้วยผงวิเศษเป็นผงยาจินดามณี มีอานุภาพครอบคลุมไปหมด อธิษฐานจิตโดยบรมครูพระเทพโลกอุดร ซึ่งเป็นปรมาจารย์ที่ท่านวังหน้าทรงเคารพอย่างสูงสุด (เหมือนการอัญเชิญหลวงปู่ทวดอธิษฐานจิตวัตถุมงคล) ราคาถูกเกินความคาดหมายและหาได้ไม่ยากหากมีความชำนาญเพียงพอ องค์เดียวเกินพอแล้วครับ เลิกเล่นเลิกหาได้แล้ว จบแล้วซึ่งวิทยาการ อายุการสร้างกว่า ๑๓๐ ปี ถ้าหาไม่ได้ก็ใช้พระกำลังแผ่นดินพิมพ์สามเหลี่ยมปางสมาธิ สีของวันพฤหัสบดีทุกองค์ หรือจะศึกษาพระสมเด็จปัญจสิริ ซึ่งมีสีตามต้องการในองค์เดียวก็ยังพอหาได้

    สีของวัตถุมงคลที่ให้คุณต่าง ๆ
    [​IMG]

    ตัวอย่างพระสีต่าง ๆ (พระพิมพ์ชุดนี้ได้รับการตรวจสอบทางนามแล้ว ทราบว่าผู้เสกคือเจ้าประคุณสมเด็จโต น่าจะเป็นพระจากกรุวัดทองนพคุณที่กล่าวข้างบน)

    [​IMG]

    สีแดง

    [​IMG]

    สีเหลือง

    [​IMG]
    สีชมพู

    [​IMG]
    สีเขียว

    [​IMG]
    สีน้ำตาล

    [​IMG]
    สีฟ้า

    [​IMG]
    สีม่วง

    [​IMG]
    พระสมเด็จปัญจสิริวังหน้าิ(เสกโดยหลวงปู่อิเกสาโร - คนละชุดกับพระสมเด็จสีข้างบน)


    ลิขสิทธิ์ของ อ.ประถม อาจสาคร

     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • table.gif
      table.gif
      ขนาดไฟล์:
      23.2 KB
      เปิดดู:
      12,648
    • red.jpg
      red.jpg
      ขนาดไฟล์:
      12.9 KB
      เปิดดู:
      3,871
    • yellow.jpg
      yellow.jpg
      ขนาดไฟล์:
      13.6 KB
      เปิดดู:
      3,597
    • pink.jpg
      pink.jpg
      ขนาดไฟล์:
      16.3 KB
      เปิดดู:
      3,568
    • green.jpg
      green.jpg
      ขนาดไฟล์:
      9.6 KB
      เปิดดู:
      3,586
    • brown.jpg
      brown.jpg
      ขนาดไฟล์:
      10.4 KB
      เปิดดู:
      3,601
    • blue.jpg
      blue.jpg
      ขนาดไฟล์:
      10.5 KB
      เปิดดู:
      3,583
    • purple.jpg
      purple.jpg
      ขนาดไฟล์:
      12.6 KB
      เปิดดู:
      3,663
    • panchasiri.jpg
      panchasiri.jpg
      ขนาดไฟล์:
      18.5 KB
      เปิดดู:
      3,968
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 30 มิถุนายน 2006
  7. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    ขอขอบคุณ คุณโต้ง ที่พิมพ์และช่วย post ให้ครับ

    และที่สำคัญ บทความที่นำมาเสนอนี้ได้รับการอนุญาตในการคัดลอกและเรียบเรียงเพื่อเผยแพรเป็นวิทยาทานจาก ท่าน อาจารย์ ประถม อาจสาคร เป็นที่เรียบร้อยแล้ว นับเป็นพระคุณและความกรุณาอย่างยิ่ง ขอขอบพระคุณท่านอาจารย์ประถม อาจสาคร มา ณ ที่นี้ด้วยครับ
     
  8. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    <TABLE class=tborder id=post271734 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR><TD class=thead style="FONT-WEIGHT: normal"><!-- status icon and date -->[​IMG] วันนี้, 12:59 PM <!-- / status icon and date --></TD><TD class=thead style="FONT-WEIGHT: normal" align=right> #370 </TD></TR><TR vAlign=top><TD class=alt2 width=175>hongsanart<SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_271734", true); </SCRIPT>
    สมาชิก

    เข้ามาครั้งสุดท้ายเมื่อ: วันนี้ 01:00 PM
    วันที่สมัคร: Jun 2005
    อายุ: 50
    ข้อความ: 59 <!-- Start Post Thank You Hack -->
    Thanks: 278
    Thanked 254 Times in 43 Posts <!-- End Post Thank You Hack -->
    พลังการให้คะแนน: 43[​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG]


    </TD><TD class=alt1 id=td_post_271734><!-- message -->ได้รับพระเรียบร้อยแล้ว อนุโมทนาบุญค่ะ
    </TD></TR></TBODY></TABLE>
    ขออนุโมทนาในบุญกุศลด้วยครับ

    .
     
  9. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    ขออนุญาตท่าน อ.ประถม อาจสาคร นำเรื่องราวประสบการณ์ของผู้ที่มีพระพิมพ์สมเด็จฯ ไว้บูชา เพื่อเป็นอุทาหรณ์และเป็นประโยชน์แก่ท่านที่เพิ่งจะรู้จักหรือยังไม่รู้จักพระพิมพ์สกุลนี้

    หมายเหตุุ เรื่องราวต่อไปนี้คัดลอกมาจากหนังสือ "วิเคราะห์พระพิมพ์สมเด็จฯ และพระสมเด็จท่านเจ้าคุณกรมท่า" ซึ่งเป็นลิขสิทธิ์ของ อ.ประถม อาจสาคร และคำว่า "ผม" หมายถึงตัวท่าน อ.ประถม อาจสาคร

    ประสบการณ์ของผู้ที่บูชาพระสมเด็จฯ (ตอนที่ 1 ) นั้น อยู่ที่หน้า 25 #750 ครับ

    หรือ http://www.palungjit.org/board/showthread.php?t=22445&page=25
     
  10. komkrij

    komkrij Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 ธันวาคม 2004
    โพสต์:
    11
    ค่าพลัง:
    +57
    พระกรุวันพระแก้ววังหน้า ของจริงๆ มีดังนี้ครับที่แจกนี้เป็นของ ท่านเจ้าคุณวังหน้าจริงๆ เหรอครับ
    http://pralokudon.tripod.com/prapimm.html
     
  11. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    เว็บไซด์ที่คุณแจ้งมานั้น ลูกศิษย์ของท่านอาจารย์ประถม อาจสาคร กำลังดำเนินการทำอยู่(เป็นเว็บไซด์ที่ผมรอให้เสร็จเรียบร้อยแล้วผมจะนำมาประชาสัมพันธ์ให้ทราบ) เพียงแต่ว่ารูปประมาณ 4 -5 รูปนั้น ยังupload ขึ้นไม่สมบูรณ์ครับ อยู่ระหว่างการดำเนินการแก้ไขอยู่ ผู้ที่ทำเว็บไซด์นี้ จะไปงานผ้าป่ามหากุศลพร้อมกับผม ส่วนพระพิมพ์เจ้าคุณกรมท่า ก็จะมีการทำเว็บไซด์เรื่องราวของพระพิมพ์เจ้าคุณกรมท่าด้วยครับ

    ส่วนพระที่ผมนำมาแจกนั้น เป็นพระที่สร้างขึ้นที่วังหน้าจริง โดยผมนำพระไปตรวจสอบกับท่านอาจารย์ประถม อาจสาครเรียบร้อยแล้ว พระของวังหน้า ไม่ได้มีเพียงแค่ 15 พิมพ์นี้เท่านั้นนะครับ เพียงแต่ว่าพระ15 พิมพ์นี้เป็นพระกรุแรกในยุครัตนโกสินทร์แต่ไม่ใช่พระพิมพ์ที่หลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรเสกเป็นครั้งแรกนะครับ (รายละเอียดนั้น อยู่ในหนังสือประวัติหลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดร ที่ท่านอาจารย์ประถม อาจสาครและท่านพันเอกชม สุคนธรัตน์เป็นผู้เขียน ซึ่งมีทั้งเนื้อหาเรื่องราวต่างๆ รวมทั้งรูปพระพิมพ์ หนังสือประวัติหลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรและหนังสือวิเคราะห์พระสมเด็จและสมเด็จเจ้าคุณกรมท่า ผมเองก็ได้นำไปถวายหลวงพ่อแผนไว้ด้วย แต่ถ้าท่านใดมีความประสงค์ที่จะได้ ก็ให้ไปซื้อกับท่านอาจารย์ประถม ได้ที่ชลบุรีครับ) ถ้าท่านใดมีความประสงค์ที่จะได้พระพิมพ์ทั้ง 15 พิมพ์ ต้องไปบูชาที่ท่านอาจารย์ประถมเอง ส่วนรูปในเว็บไซด์นั้น เป็นรูปพระของท่านอาจารย์ประถมครับ ราคาของพระทั้ง 15 พิมพ์ ปัจจุบันอยู่ที่ราคา ประมาณ 15,000 บาทครับ แต่ในส่วนพระที่ผมได้นำมาแจกนั้น เป็นพระที่สร้างขึ้นที่วังหน้าเช่นเดียวกันครับ

    ส่วนพระที่ผมนำมาแจกนั้น ผมได้ปรึกษากับผู้ทำเว็บไซด์นี้ ว่าจะนำไปลงในเว็บไซด์ เพื่อที่จะให้ได้ศึกษากันครับ ว่าพระวังหน้านั้น มีลักษณะเป็นอย่างไรกันบ้าง

    พระวังหน้า ไม่ใช่พระท่านเจ้าคุณวังหน้านะครับ แต่เป็นท่านเจ้า(กรมพระราชวังบวรวิชัยชาญ) ตำแหน่งท่านเป็นวังหน้าในรัชกาลที่ 5 ท่านมีพระบัณฑูรย์(คำสั่ง)ให้สร้างขึ้นนะครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 30 มิถุนายน 2006
  12. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    วันอาทิตย์ที่ 9 กรกฎาคม 2549 วัดงานผ้าป่ามหากุศลวัดบ่อเงินบ่อทอง ผู้ที่ทำเว็บไซด์(www.pratheplokudon.com) จะไปผ้าป่ามหากุศลพร้อมกับผม และผมเองได้เชิญท่านอาจารย์ประถม อาจสาคร ไปงานนี้ด้วย แต่ว่าท่านอาจารย์ประถม ท่านขอปรึกษากับลูกชายท่านก่อนว่า ลูกชายท่านว่างหรือไม่ แต่ผมเองคิดว่า ท่านคงไปงานผ้าป่าด้วยนะครับ

    ผมขอเชิญคุณkomkrij ไปร่วมงานผ้าป่ามหากุศลด้วยกันนะครับ จะได้ไปสอบถามข้อสงสัย ให้หายสงสัยได้ครับ ถ้าอ่านเรื่องราวต่างๆในกระทู้นี้ ไม่ชัดเจน ส่วนบทความที่คุณนักเดินทางได้นำมาลง ก็นำมาจากหนังสือที่ท่านอาจารย์ประถม อาจสาครเป็นผู้ที่เขียนขึ้น
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 30 มิถุนายน 2006
  13. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    รูปพระพิมพ์ที่คุณนักเดินทาง นำมาลงนั้น เป็นพระพิมพ์ที่ผมได้นำไปให้ท่านอาจารย์ประถม ท่านตรวจสอบให้เมื่อวันที่ 25 มิถุนายน 2549 นี้ เป็นพระพิมพ์ที่สมเด็จพระพุฒาจารย์โต พรหมรังสี ท่านเป็นผู้ที่เสกให้ครับ

    ในวันนั้น ผมเองก็ได้แจกพระพิมพ์ให้กับผู้ที่ไปหาท่านอาจารย์ประถมทุกท่านด้วย ผู้ที่ไปหาท่านอาจารย์ประถมในวันนั้น ก็มีคุณนักเดินทาง ,พี่ตุ่น Chayaporn ,คุณพุทธันดร และเพื่อนของคุณพุทธันดร พระพิมพ์ที่ผมแจกในวันนั้น จะมีทั้งพระพิมพ์ที่หลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดร(หลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดร มีทั้งหมด 5 องค์) ,สมเด็จพระพุฒาจารย์โต พรหมรังสี หรือองค์ใดองค์หนึ่ง เป็นผู้เสกครับ
     
  14. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR vAlign=top><TD></TD><TD width="100%"><!-- main page contents --><FORM action=private.php method=post><TABLE class=tborder cellSpacing=1 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR><TD class=tcat colSpan=2>ข้อความส่วนตัว: สวัสดีครับ พี่ Sithiphong</TD></TR></TBODY></TABLE><!-- post # --><TABLE class=tborder id=post cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR><TD class=thead style="FONT-WEIGHT: normal"><!-- status icon and date -->[​IMG] เมื่อวานนี้, 10:20 PM <!-- / status icon and date --></TD><TD class=thead style="FONT-WEIGHT: normal" align=right></TD></TR><TR vAlign=top><TD class=alt2 width=175>littlelucky<SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_", true); </SCRIPT>
    สมาชิก

    เข้ามาครั้งสุดท้ายเมื่อ: เมื่อวานนี้ 11:02 PM
    วันที่สมัคร: Oct 2005
    ข้อความ: 59 <!-- Start Post Thank You Hack -->
    Thanks: 1,148
    Thanked 158 Times in 35 Posts <!-- End Post Thank You Hack -->
    พลังการให้คะแนน: 30[​IMG][​IMG][​IMG][​IMG]



    </TD><TD class=alt1 id=td_post_><!-- icon and title -->[​IMG] สวัสดีครับ พี่ Sithiphong
    <HR style="COLOR: #ffffff" SIZE=1><!-- / icon and title --><!-- message -->สวัสดีครับ พี่ Sithiphong
    วันนี้ผมได้รับพระพิมพ์ที่พี่ส่งมาให้แล้วครับ


    " ผมขออุทิศส่วนบุญที่ผมทำนี้ให้แก่ ท่านเทวดาประจำพระบรมสารีริกธาตุและเทวดาประจำพระที่ผมห้อยคออยู่
    ขอได้โปรดอภัยในการที่ผมเคยทำประมาทพลาดพลั้ง โดยตั้งใจ หรือไม่ได้ตั้งใจ ทั้งทางกาย วาจา ใจ ขออย่าได้ถือโทษโกรธลูกเลย ลูกขอให้ท่านงดโทษให้ด้วย ขอให้ท่านคุ้มครองผมและคนที่ผมรักด้วยเถิด และให้เจ้ากรรมนายเวร และ หมู่สรรพสัตว์น้อยใหญ่ ทั้ง สามโลก และ เทวดาที่รักษาข้าพเจ้า รวมถึงครูอาจารย์ทั้งทางโลกและทางธรรม ตลอดจน ผู้มีพระคุณของข้าพเจ้า ทั้งบิดามารดา พี่น้อง เพื่อน ญาติ โดยเฉพาะ คุณย่าของี่ผม ขอให้ท่านมีสุขภาพที่แข็งแรง และกัลยานมิตรทั้งทางโลกและทางธรรม
    เช่น พี่ Sithipong คุณโต คุณนักเดินทาง คุณเม้าตาอิน และ ผู้ปฎิบัติงานในงานบุญนี้ ตลอดจนพี่ ๆ น้อง ๆที่มาร่วมสร้างกุศล ทั้งหลายที่ผมมีบุญได้ทำบุญร่วมกัน ตลอดจน บุคคลที่สร้างเวรกรรมต่อข้าพเจ้า ข้าพเจ้าจะพยายามอโหสิกรรมให้ และขอถวายบุญทั้งหลายที่ข้าฝ่าพระบาททำแด่ พระมหากษัตริย์ไทยทุกพระองค์ ตลอดจน ท่านทั้งหลายที่เป็นกำลังของแผ่นดินซึ่ง เล็งเห็นคุณค่าและรักษาสิ่งมีค่าให้ข้าพเจ้าจนถึงปัจจุบัน
    และขออุทิศให้แก่ เหล่าทหาร ขุนศึก ผู้หาญกล้า เสียสละเพื่อแผ่นดิน และ ประชาชนทั้งหลายที่ได้รับ
    เคราะห์กรรมจากสงคราม และอโหสิกรรมให้แก่ ผู้ที่มาสร้างความเดือดร้อนให้กับประเทศไทย ซึ่งได้เสียชีวิตไป ขอจงมาร่วมรับและอนุโมทนาในผลบุญที่ข้าพเจ้าได้ทำนี้ด้วยเถิด"

    </TD></TR></TBODY></TABLE></FORM></TD></TR></TBODY></TABLE>
    ขออนุโมทนาในบุญกุศลด้วยครับ

    .
     
  15. นักเดินทาง

    นักเดินทาง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กรกฎาคม 2005
    โพสต์:
    726
    ค่าพลัง:
    +9,112
    เรื่องรถที่จะไปงานทอดผ้าป่า ณ วัดบ่อเงินบ่อทอง วันอาทิตย์ที่ 9 กรกฎาคม 2549 เราเปลี่ยนเป็นรถตู้นะครับ ค่ารถประมาณ 300 บาท วันนี้เปิดรับจองเป็นวันสุดท้าย ถ้าท่านจะร่วมเดินทางไปด้วย รีบลงชื่อไว้เลยครับ
     
  16. นักเดินทาง

    นักเดินทาง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กรกฎาคม 2005
    โพสต์:
    726
    ค่าพลัง:
    +9,112
    คงสับสนระหว่าง ท่านเจ้าคุณกรมท่า(ขุนนาง) และ ท่านเจ้าวังหน้า(กรมพระราชวังบวรวิชัยชาญ - เชื้อพระวงศ์)
     
  17. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    <TABLE class=tborder cellSpacing=1 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR><TD class=tcat colSpan=2>ข้อความส่วนตัว: Re: สอบถามครับ</TD></TR></TBODY></TABLE><!-- post # --><TABLE class=tborder id=post cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR><TD class=thead style="FONT-WEIGHT: normal"><!-- status icon and date -->[​IMG] วันนี้, 11:44 AM <!-- / status icon and date --></TD><TD class=thead style="FONT-WEIGHT: normal" align=right></TD></TR><TR vAlign=top><TD class=alt2 width=175>BiMode<SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_", true); </SCRIPT>
    สมาชิก

    [​IMG]

    เข้ามาครั้งสุดท้ายเมื่อ: วันนี้ 05:00 PM
    วันที่สมัคร: Nov 2005
    สถานที่: -
    ข้อความ: 66 <!-- Start Post Thank You Hack -->
    Thanks: 711
    Thanked 57 Times in 29 Posts <!-- End Post Thank You Hack -->
    พลังการให้คะแนน: 21[​IMG][​IMG]
    [​IMG]



    </TD><TD class=alt1 id=td_post_><!-- icon and title -->[​IMG] Re: สอบถามครับ
    <HR style="COLOR: #ffffff" SIZE=1><!-- / icon and title --><!-- message -->อ้างอิง:
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: 1px inset; BORDER-TOP: 1px inset; BORDER-LEFT: 1px inset; BORDER-BOTTOM: 1px inset">ทำบุญผ้าป่ามหากุศล วัดบ่อเงินบ่อทอง</TD></TR></TBODY></TABLE>

    ได้โอนไปแล้วครับแบบไม่ใช้ ATM ครับ. โอนจากสาขานครนายกเวลาประมาณ 11:15 น่ะครับเป็นจำนวนเงิน 500 บาทครับ.

    CR 21503 211858000-1H59001


    สาธุๆๆ
    <!-- / message -->

    </TD></TR></TBODY></TABLE>

    ขออนุโมทนาในบุญกุศลด้วยครับ

    .
     
  18. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    คุณlittleluckt และคุณbundit16 แจ้งผมว่า ได้รับพระเรียบร้อยแล้ว ส่วนคุณคุณs3057780 ,คุณthejirayu หากได้รับพระแล้ว ผมรบกวนให้แจ้งให้ทราบด้วยนะครับ จะได้ไม่ต้องเป็นห่วงว่าพระถึงมือผู้รับแล้วครับ

    ขออนุโมทนาในบุญกุศลด้วยครับ
     
  19. sanya

    sanya เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กันยายน 2005
    โพสต์:
    455
    ค่าพลัง:
    +2,687
    ขอรวมทำบุญผ้าป่ามหากุศล สบทบทุนสร้างโรงเรียนพระปริยัติธรรม วัดบ่อเงินบ่อทอง
    ด้วยคน ได้โอนเงินเมื่อวันที่ 2 ก.ค. เวลา 7.47 จำนวน 1000 บาท
    จากเลขที่บัญชี 1574882
    นายสัญญา มนต์เทวัญ
    8 หมู่2 ซอยแสงจันทร์เนรมิตร ตำบลเนินพระ อ.เมือง จ.ระยอง 21000
     
  20. sanya

    sanya เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กันยายน 2005
    โพสต์:
    455
    ค่าพลัง:
    +2,687
    ขอถามเพื่อเป็นความรู้ครับ
    เมือได้อ่านข้อความที่อธิบายมา ทำให้เกิดความสงสัยว่า อำนาจแห่งพระพุทธคุณ หรือ
    อิทธิคุณ หรืออะไรก็ตาม ที่ผู้ปลุกเสกพระ ด้วยวิธีการใดใดก็ตาม
    จะถูกจำกัด หรือลดทอนความศักสิทธิ์ โดยการหุ้มพลาสติก หรือใส่กรอบปิดมิดชิดใช่หรือไม่
    การหุ้มโดยเปิดองค์พระ ให้สัมผัสกับผิวหนัง เคยได้ยินว่าเป็นอุบายอย่างหนึ่งของคนในอดีต
    แต่จำไม่ได้ว่าด้วยเหตุผลใด
    แล้วตะกรุดที่มีการทักหุ้มปิดมิดชิด จะสามารถแสดงอิทธิฤทธิ์ได้อย่างไร
    ในเมื่อ รอยจารต่าง ๆ ถูกหุ้มอยู่ด้านใน
    ถ้าต้องเจาะรูจริง ต้องเจาะกี่รู ขนาดเท่าไร ถึงจะดี
    แล้วที่เขาห้อยพระไว้ในเสื้อปิดไว้ จะคุ้มครองได้แค่ไหน ในเมื่อ การหุ้มพระ
    ทำให้อำนาจลดลง การห้อยพระไว้ในเสื้อก็น่าจะมีผลเช่นกัน หรือไม่ครับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...