พระสันตปาปาองค์สุดท้าย ตามคำทำนายของนอสตราดามุส

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย Army56, 25 สิงหาคม 2011.

  1. mobilelizard

    mobilelizard เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    558
    ค่าพลัง:
    +4,678
    Antichrist มันจะคล้ายกับ Messiah Christ ตรงไหนฟะ มั่วจริงๆ ตามหลักแล้วคนละคนด้วยซ้ำ Messiah Christ คือคนที่ชาวยิวรอมานานแสนนาน ว่าจะกลับมา

    Antichrist ตามหลักศาสนาคริสต์คือคนไม่ดี ที่จะมาหลอกให้คนเชื่อว่าเขาคือ Christ ตัวจริง ซึ่งศาสนาคริสต์เชื่อว่า Jesus คือ Messiah Christ แต่ศาสนายิวยังไม่ค่อยยอมรับ เพราะการกลับมาของ Messiah มีการบอกไว้ชัดเจนว่าจะมายังไง จะทำอะไร แต่ Jesus ไม่ได้มาในแบบนั้น ทำให้ชาวยิวจำนวนมากไม่เชื่อว่า Jesus คือ Christ

    ก็เล่ยแต่จะโยงเข้าเรื่องพระศรีอาริย์ให้ได้ มันดันทุลังจริงๆ...
     
  2. testewer

    testewer เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มกราคม 2008
    โพสต์:
    237
    ค่าพลัง:
    +758
    โทษที "แอนตี้ไครสต์ " ตรงข้ามกับ" เมสสิยาห์ไครสต์ "

    แอนตี้ไครสต์ คือ ผู้ต่อต้าน เมสสิยาห์ไครสต์

    ไปหาจาก google ได้แบบนี้
     
  3. testewer

    testewer เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มกราคม 2008
    โพสต์:
    237
    ค่าพลัง:
    +758
    ผิดอย่างเดียวเอาใหญ่เลยนะ เกิดมาไม่เคยผิดพลาดบ้างหรือไง
    ผิดแล้วแก้ไข ยังดีกว่าผิดแล้ว ไม่รู้ตัว

    แต่ในอดีตที่อ้างถึงกระทู้ก่อนหน้านี้ ถูกหมด เวลาจะบอกอะไรให้ผิดใครถูก ถูกชี้ตรงๆ ว่าตรงไหน มาอ้างโย้งกันมั่ว เหมือนเคย ......แบบนี้พูดมั่วๆนะ
     
  4. mobilelizard

    mobilelizard เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    558
    ค่าพลัง:
    +4,678
    ขอโทษที ที่มายุ่ง ไปละครับ
     
  5. testewer

    testewer เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มกราคม 2008
    โพสต์:
    237
    ค่าพลัง:
    +758
    ในคำทำนาย แอนตี้ไครสต์
    "แอนตี้ไครสต์ " คือ ผู้ที่พยายามทำตนให้เหมือนกับ " เมสสิยาห์ไครสต์ " หรือ เมสสิยาห์ไครสต์ ตัวปลอมนั้นเอง
     
  6. testewer

    testewer เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มกราคม 2008
    โพสต์:
    237
    ค่าพลัง:
    +758
    หมอดูอีทีคำนายประเทศไทยปี 2013 King same like GOD

    นาทีที่ 26.20 ไปแล้วพิธีกรได้ถามถึงอนาคตของประเทศไทย และเราจะได้รู้คำตอบหลังจากนี้ครับ 2012 ไม่มีปัญหา แต่ 2013 มีปัญหา
    <iframe width="420" height="315" src="http://www.youtube.com/embed/hkxp2JGjA1Q" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>

    ก่อนนาทีที่ 32.58 รายการเสาร์ 5 ได้ตัดบางช่วงออกไป ซึ่งน่าจะเป็นช่วงที่คุณบอยร้องไห้ ซึ่งในรายการตอนท้ายแจ้งไว้ว่า " คำทำนายกระทบกับบุคคลที่สาม บางคำทำนายกระทบกับสังคมโดยรวม ทางรายการเสาร์ 5 จำเป็นอย่างยิ่งที่ไม่สามารถนำออกอากาศได้ "
    และมานาทีที่ 33.00 ไม่ทราบว่าก่อนหน้านั้น มีเรื่องอะไร ที่ทำให้คุณบอยถึงกับร้องไห้ มาจบที่ King same like GOD

    King same like GOD ในโลกนี้มีท่านเดียว คือ องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระบรมมหาจักรพรรดิ์

    ที่แน่นอนที่สุด คือ หลังจากให้สัมภาษณ์รายการเสาร์ 5 และหมอดูอีทีได้มาเมืองไทย หมอดูอีทีแจ้งว่าจะไม่พูดถึงเรื่องการเมืองของประเทศไทยโดยเด็ดขาดซึ่งก็ไม่รู้เพราะอะไร แต่คาดได้ว่า คำทำนายนั้นกระทบกับบุคคลที่สาม บางคำทำนายกระทบกับสังคมโดยรวมตามที่รายได้ เสาร์ 5 แจ้งไว้เป็นแน่

    ในเรื่องการเปลี่ยนแปลงเราอาจพูดได้ทุกเรื่องยกเว้ณบางเรื่อง และทุกอย่างเป็นเรื่องของอนาคตที่มีคำทำนายมาเป็นจำนวนมาก ที่คนทั่วไปยากที่จะรู้ได้
     
  7. testewer

    testewer เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มกราคม 2008
    โพสต์:
    237
    ค่าพลัง:
    +758
    คำทำนายสมเด็จพระพุทธาจารย์ (โต พรหมรังสี)

    คำทำนายสมเด็จพระพุทธาจารย์ (โต พรหมรังสี)
    รัชกาลที่ 1 ทำนายว่า มหากาฬ (ทำลายเพื่อน-พี่น้อง)
    รัชกาลที่ 2 ทำนายว่า ฌานยักษ์ (ชำนาญเวทย์มนต์)
    รัชกาลที่ 3 ทำนายว่า รักมิตร (มีการค้าขายกับต่างชาติมากมาย)
    รัชกาลที่ 4 ทำนายว่า สนิทคำ (ออกบวช)
    ในปีจอนี้ ในเมืองจันทร์จะมีฤาองค์ทองคำ สิกขาเพศออกมาเป็นพ่อค้า ในปีจอขึ้น 8 ค่ำ ห้ามบ่(ไม่)ให้ตักน้ำอาบ น้ำกิน ตามห้วยหนองคลองบึง หลังพระอาทิตย์ตกดิน(ก่อนค่ำ) พระยายมราชจะนำเอายาพิษพ่นใส่โลกมนุษย์
    รัชกาลที่ 5 ทำนายว่า จำแขนขาด (คือ ต้องยอมเสียดินแดนฝั่งซ้ายแม่น้ำโขงและเขมร เพื่อป้องกันอธิปไตย)
    รัชกาลที่ 6 ทำนายว่า ราชโจร (เกิดสงครามโลกครั้งที่ 1 เกิดกลุ่มโจรมากมาย มีการก่อตั้งกองลุกเสือป่าครั้งแรกของไทย)
    รัชกาลที่ 7 ทำนายว่า ชนร้องทุกข์ (เกิดการเดินขบวนเพื่อเรียกร้องประชาธิปไตย)
    รัชกาลที่ 8 ทำนายว่า ยุคทมิฬ (พระเจ้าแผ่นดินถูกลอบปลงพระชนม์)
    รัชกาลที่ 9 ทำนายว่า ถิ่นกาขาว (ปัจจุบันนี้ครับ)

    รัชกาลที่ 10 ทำนายว่า ชาวศิวิไลซ์ (จะเหลือเฉพาะผู้มีบุญเท่านั้น ที่รอคอยเป็นยุคของพระศรีอาริยเมตไตย)
     
  8. mobilelizard

    mobilelizard เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    558
    ค่าพลัง:
    +4,678
    อันนี้ขอทีเหอะ ไม่มีเหตุผลเลย ก็อยากจะให้ทุกเรื่องมาเป็นเรื่องพระเจ้าจักรพรรดิ ระบบความคิดไม่มีเหตุผลเลยนะครับ

    หมอดู อีที เขาหมายถึงพระเจ้าอยู่หัวของเรา 32:33 เขาพูดไว้ชัด "Your king" ราชาของคุณก็หมายถึงพระเจ้าอยู่หัว ดังนั้น King same like god ก็หมายถึงพระเจ้าอยู่หัว

    คุณเล่นจะหานั่นนี่มาแปะๆ รวมกันเพื่อสนับสนุนความคิดที่ว่าพระเจ้าจักรพรรดิกำลังจะปรากฏ เห็นอะไรก็กลายเป็นเกี่ยวกับเรื่องนี้
     
  9. testewer

    testewer เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มกราคม 2008
    โพสต์:
    237
    ค่าพลัง:
    +758
    ตั้งแต่วันที่ 21 ธันวาคม 2012 จัดเป็นยุคใหม่ เป็นยุคศิวิไลซ์

    King same like GOD แปลว่า พระมหากษัตริย์ ที่คล้าย/เหมือนกับองค์สมเด็จพระอรหันต์สัมมาสัมพุทธเจ้า ซึ่งก็มีท่านเดียวในโลก คือ สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระบรมมหาจักรพรรดิ์ เป็นผู้ตรัสรู้เองโดยชอบ

    [​IMG]
     
  10. testewer

    testewer เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มกราคม 2008
    โพสต์:
    237
    ค่าพลัง:
    +758
    คำทำนายของนอสตราดามุส ที่ยังไม่เกิดขึ้น

    "The Moon in the full of night over the high mountain,
    The new wise one with a lone brain seen there:
    By her disciples invited to be immortal,
    Eyes at noon, Hands on bosoms, bodies in the fire."
    Century 4:31

    ในคืนที่พระจันทร์เต็มดวงลอยอยู่เหนือภูเขาสูง
    ศาสดาองค์ใหม่ที่ตรัสรู้ด้วยตนเอง
    ซึ่งสาวกของพระองค์จะได้ลิ้มรสอมตะธรรม
    สายตามุ่งสู่ทิศใต้ มือประนมอก รัศมีออกจากกาย

     
  11. testewer

    testewer เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มกราคม 2008
    โพสต์:
    237
    ค่าพลัง:
    +758
    [​IMG]

    The law of the Sun and of Venus in strife,
    Appropriating the spirit of prophecy:
    Neither the one nor the other will be understood,
    The law of the great Messiah will hold through the Sun.

    " เมื่อวงโคจรของดวงอาทิตย์และดาวศุกร์อยู่แนวเดียวกัน
    จะเป็นเวลาที่เหมาะสมแห่งจิตวิญญาณของคณาจารย์
    ไม่เพียงคนหนึ่งหรือคนใดเท่านั้นที่จะเข้าใจ (เข้าถึงและเข้าใจกันทุกคน)
    พระธรรมเทศนาของ เมสสิอาห์ ผู้ยิ่งใหญ่ (พระศรีอริยเมตไตร)จะสว่างไสวดุจดวงอาทิตย์ "


    คำทำนายมีก็รู้ไปก่อนๆ ถ้าไม่อยากรู้ก็ปิดกระทู้นี้ไปก่อนนะครับ คำทำนายนี้ของจริงจะไปลบจากต้นฉบับ คงเป็นไปไม่ได้ ตรงไหนไม่จริงแจ้งได้เลยนะครับ
     
  12. testewer

    testewer เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มกราคม 2008
    โพสต์:
    237
    ค่าพลัง:
    +758
    หลักฐานหนังสือหลวงพ่อฤาษีลิงดำ ชื่อ หนังสือลูกศิษย์บันทึกพิเศษ วัดจันทาราม(ท่าซุง)

    พระพุทธเจ้าท่านทรงพยากรณ์ไว้ว่า ...

    "ณ บริเวณแห่งนี้ต่อไป ความเจริญรุ่งเรืองจะมีมาก มีผู้คนเข้ามาถึงมรรคผลเป็นจำนวนหลายล้านคน ส่วนพระโพธิสัตว์ที่ได้รับคำพยากรณ์ จากพระพุทธเจ้าก็จะมารวมอยู่ที่แห่งนี้ด้วย จากนั้นจะมีผู้มีบุญใหญ่ที่ชาวโลกทั้งหลาย รอคอยกันมานานจะมาปรากฏกายให้เห็น...ซึ่งท่านผู้นี้จะเป็นผู้สอนอริย ประเพณี และพุทธประเพณี และท่านจะพาผู้ที่มีใจอยู่ในธรรม ไปเยี่ยมโลกธาตุจักรวาลอื่น ดุจฝูงนกบินขึ้นไปในอากาศ และอีกไม่นาน พระศาสดาทั้งหลายจะถูกรวมเป็นหนึ่งโดยท่านผู้นี้" จบคำพยากรณ์

    จากนั้น พระพุทธเจ้าท่านตรัสว่า "พระ โพธิสัตว์ใหญ่ ในขณะที่ท่านบำเพ็ญบารมีสำคัญๆ อยู่ และก็ผ่านอุปสรรคบารมีนั้นไปได้แล้ว ชาวโลกก็เห็นความสำคัญของท่านเป็นพิเศษ ยกย่องท่านเป็น "พระเจ้า" เพราะท่านมีฤทธิ์ มีคุณธรรมประจำใจ มีความบริสุทธิ์ใจต่อสัตว์โลกทั้งหลาย แม้ตถาคตเอง ขณะบำเพ็ญบารมีในปลายศาสนาพระพุทธกัสสป ชาวโลกทั้งหลายก็ยกย่องตถาคตให้เป็นพระเจ้า ๕๐๐ ชาติ และพระโพธิสัตว์อีกหลายท่าน ที่เป็นพระพุทธเจ้าต่อจากตถาคตในกัปนี้ ขณะที่บำเพ็ญบารมีอยู่ในโลกมนุษย์ บริวารก็ยกย่องและเรียกท่านว่า "พระเจ้า"

    ที่มาหนังสือหลวงพ่อฤาษีลิงดำ ชื่อ หนังสือลูกศิษย์บันทึกพิเศษ วัดจันทาราม(ท่าซุง) จังหวัดอุทัยธานี พฤษาคม 2540 หน้าที่ 261
     
  13. testewer

    testewer เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มกราคม 2008
    โพสต์:
    237
    ค่าพลัง:
    +758
    ที่ยกมาให้ลองดูว่า เจ้าของคำทำนายท่านใดไม่มีเหตุผล ตามที่คุณmobilelizard หรือท่านใดกล่าวเท็จลองชี้มาหน่อยซิครับ คนอื่นจะได้รู้ด้วย คำทำนายมีอีกมากมายเลย
     
  14. testewer

    testewer เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มกราคม 2008
    โพสต์:
    237
    ค่าพลัง:
    +758
    หลักฐานหนังสือทิพยอำนาจ ของลูกศิษย์ท่าน หลวงปู่มั่น

    หลักฐานหนังสือทิพยอำนาจ ของลูกศิษย์ท่าน หลวงปู่มั่น และหลวงปู่มั่นท่านก็ยืนยันว่าเป็นจริง มีรายละเอียดดังนี้

    " พุทธ ปรินิพพานมา พระพุทธศาสนาจะกลับเจริญรุ่งเรืองถึงขีดสูงสุดคล้ายสมัยพุทธกาล พระมหาเถระโพธิสัตว์ ผู้ มีบุญญาภิสมภาร มีอิทธาภินิหาร เชี่ยวชาญทางอภิญญาในสุวรรณภูมิ จะได้เป็นประธานาธิบดีสงฆ์ ทำการเผยแผ่พระพุทธศาสนาไปยังนานาประเทศ เริ่มต้นที่อินเดียไปยุโรปและอเมริกา "

    หลักฐานหนังสือทิพยอำนาจ หน้า 312-313 และหน้า 328-329
     
  15. testewer

    testewer เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มกราคม 2008
    โพสต์:
    237
    ค่าพลัง:
    +758
    พุทธทำนายถอดความจากศิลาจารึก เชตมหาวิหาร สวนมฤคทายวัน ประเทศอินเดีย

    "พระธรรมจะเริ่มเปล่งแสงรัศมีฉายส่องโลกอีกวาระหนึ่ง เมื่อมีธรรมิกราชโพธิญาณ(พระศรีอาริยเมตตไตรย์)บังเกิดขึ้น อยู่ในความอุปถัมภ์ของพระเถระผู้ทรงธรรมฤทธิ์....จะเสด็จมาเสริมสร้างพระศาสนาของตถาคตให้รุ่งเรืองสืบไปอีก 5,000 พระวรรษา"

    พระเถระ ผู้ทรงธรรมฤทธิ์ คือ พระมหาเถระโพธิสัตว์ เชี่ยวชาญทางอภิญญาในสุวรรณภูมิ ที่อยู่ในหนังสือทิพย์อำนาจ หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต เป็นผู้บอกไว้
     
  16. testewer

    testewer เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มกราคม 2008
    โพสต์:
    237
    ค่าพลัง:
    +758
    สิ่งเดียวที่เปลี่ยนแปลงไม่ได้ คือ ความเป็นจริง
     
  17. testewer

    testewer เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มกราคม 2008
    โพสต์:
    237
    ค่าพลัง:
    +758
    "พระเจ้าจักรพรรดิ์" ในจิตทัศน์ของนอสตราดามุส

    โดยพี่เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิตพิเศษ

    " เสียงนุ่มนวลแห่งมิตรไมตรีอันศักดิ์สิทธิ์ ได้ยินจากแผ่นดินทิพย์ แสงเพลิงมนุษย์ ฉายรองรับเสียงประเสริฐนั้น จะเป็นเหตุให้โลกต้องเปื้อนเลือด สมณเพศทั้งหลายที่ไม่ยึดถือศีล (พรหมจรรย์) และนำไปสู่การทำลายโบสถ์วิหารที่ไร้ความบริสุทธิ์ "
    (ซ.1 ค.96 )

    นับ ว่าเป็นเรื่องที่น่าแปลกน่าอัศจรรย์อย่างมากเลยทีเดียว ที่นอสตราดามุสได้เขียนโคลงทำนายบทนี้ขึ้นเมื่อ 450 ปีก่อน ภายใต้สังฆจักรโรมันคาทอลิก สมมุติว่าท่านได้มีโอกาสศึกษาพระธรรมคำสั่งสอนของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ซึ่งมีประวัติยาวนานถึง 2,000 ปีกว่ามาแล้วในสมัยนั้น ท่านคงจะไม่กล่าวถึงพระศรีอาริยเมตไตรยอย่างแน่นอน

    ถ้า ในจิตทัศน์ของท่านไม่ได้เห็น สัจธรรมบางอย่างที่จะเกิดขึ้นในอนาคต และมีส่วนสัมพันธ์กับศรัทธาใหม่ของโลกโดยตรง คำว่า " มิตรไมตรีอันศักดิ์สิทธิ์ " นี้จะเป็นอื่นไปไม่ได้นอกจากพระนามของพระศรีอาริยเมตไตรย เพราะคำว่า " เมตไตรย " นี้ แปลว่า " เพื่อน " ในความหมายของภาษาบาลี สันสกฤต บุคคลผู้นี้เป็น Sacred Friend จะเป็นใครก็ตาม แต่การใช้คำว่า " มิตรไมตรีอันศักดิ์สิทธิ์ " หรือ " เพื่อนผู้ศักดิ์สิทธิ์ " แสดงให้เห็นว่าผู้ที่จะมาโปรดสัตว์ในโลกยุคนี้ จะไม่ใช่เป็นบุคคลธรรมดาอย่างแน่นอน

    อีกทั้งมาจากแผ่นดินอันศักดิ์สิทธิ์ หรือ Holy Ground อีกด้วย ก็ยิ่งชี้ชัดว่าน่าจะเป็นองค์พระศรีอาริยเมตไตรย ซึ่งนายจอห์น ฮอค ฟันธงว่าจะเสด็จมาในโลกนี้ประมาณ ระหว่างคริสต์ศักราช 2000 ( พ.ศ.2543 ) หรือกว่านั้นเล็กน้อย ซึ่งใกล้เคียงกับวันเวลาที่พระเยซู หรือพระมาซิอาร์ พระมะฮุดีย์ ตามความเชื่อของมุสลิม จะเสด็จมาในวันพิพากษาโลกนี้ ซึ่งหลายฝ่ายเชื่อกันอย่างเงียบๆ ว่าอาจจะเป็นพระศาสดาโพธิสัตว์องค์เดียวกันก็ได้

    การ เสด็จมาของพระศรีอาริยเมตไตรย ก็คงต้องมาชำระสะสางความเสื่อมของศาสนาอยู่แล้ว ในภาวะที่มีการวิวัฒนาการ บรรดาพระสงฆ์สมณเพศผู้ยึดถือพรหมจรรย์ ก็คงไม่แตกต่างอะไรกับนักบุญทั้งหลายผู้เสียสละในอดีต วันเวลาแห่งการเปลี่ยนแปลงนั้นคงต้องผ่านขั้นตอนตามปรกติวิสัย ซึ่งบางครั้งอาจต้องมีความเจ็บปวดอันเกิดจากการต่อต้าน หรือขัดแย้งทางอุดมการณ์และความคิดเกิดขึ้น ซึ่งในหลายๆ กรณีที่เกิดขึ้นในอดีต การเสียสละของนักบุญอาจถึงกับต้องเลือดตกยางออก

    " อังคารกับคฑาของจูปิเตอร์ (พฤหัส) เล็งลัคน์
    เกิดสงครามมหาวิบัติภายใต้ราศีกรกฎ
    หลังจากนั้นไม่นาน กษัตริย์ใหม่จะถูกสถาปนา เป็นผู้นำสันติสุขมาสู่โลกมนุษย์เป็นเวลายาวนาน "
    ( ซ.6 ค.24 )

    วรรค ที่น่าสนใจในโคลงบทนี้ ได้แก่วรรคที่มีคำว่ากษัตริย์ ที่จะนำสันติสุขมาสู่โลกมนุษย์ หลายฝ่ายตีความกันว่า นอสตราดามุสกำลังพูดถึงวันที่โลกชำระบาปแล้ว หลังจากกลียุคอันเกิดจากสงคราม ภัยพิบัติอันเกิดจากธรรมชาติ หรือโรคระบาด โลกจะปรากฎผู้นำใหม่ที่มาในมิติที่อยู่เหนือธรรมชาติ อาจจะเป็นพระศรีอาริยเมตไตรย พระมาซิอา พระมะฮุดีย์ หรือพระยาธรรมิกราช ที่เสด็จมาโปรดสัตว์ตามพุทธทำนาย ตามคำทำนายในพระคัมภีร์ไบเบิ้ล หรือตามพระวัจนะในพระคัมภีร์อัลกุรอ่านก็ได้

    " บรรยากาศ ท้องฟ้า แผ่นดินโลกจะมืดลง และถูกบดบังจนมืดครึ้ม แม้แต่คนไม่เชื่อศาสนา ยังพร่ำเรียกหาพระผู้เป็นเจ้ากับนักบุญ.... "
    ( ซ.9 ค.83 )

    คำทำนายของนอสตราดามุสข้างต้น นี้ คล้องจองกับพุทธทำนายที่บอกว่า ท้องฟ้าจะมืดเจ็ดวันเจ็ดคืน ครุฑจะบินกลับถิ่นสถาพร คนจรจะกลับกรุง ฟูกจะมีหนาม ผีป่าจะเข้าบ้าน ผีบ้านจะเข้าไพร....และในพระคัมภีร์ไบเบิลกับพระคัมภีร์อัลกุรอ่าน ทำนายว่าพระอาทิตย์จะมืดลง ดวงจันทร์จะหยุดส่องแสง ดวงดาวบนท้องฟ้าจะร่วงหล่น...ช่างเป็นภาพที่น่าสะพรึงกลัวอย่างยิ่งเลยที เดียว.....

    (คัดลอกมาจาก หนังสือนอสตราดามุส ฉบับเพิ่มเติมเกี่ยวกับศรัทธาใหม่ เขียนโดยศาสตราจารย์เจริญ วรรธนะสิน)
     
  18. ณ เขาควง

    ณ เขาควง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    80
    ค่าพลัง:
    +304
    กระทู้นี้ น่าสนใจครับ เพราะเป็นกระทู้ที่ตั้งไว้ตั้งแต่ 25-08-2011, 08:39 AM

    จึงน่าสนใจ เพราะเขียนมาก่อน ไม่ใช้เกิดมาแล้วค่อยมาวิเคราะห์แล้วเขียนไป อย่างไร ก็อย่างเพิ่งเชื่อ จนกว่าจะได้พิสูจน์ ข้อเท็จจริง ก็อีก 8 เดือนก็รู้แล้วนี่นา รออีกนิด ถ้าเป็นอย่างนั้น โลกคงวุ่น

    สิ่งที่ควรทำ คือ ถือศีล 5 อย่าเป็นพวกตื่นข่าว ถ้าคำทำนายเป็นจริง มันก็จริง ก็ช่วงมัน อะไรจะเกิดก็ต้องเกิด อย่าไปหลงบ้าทำบุญ ตามพวกที่หลอก ว่าโลกจะเกิดวิบัติ ชวนไปสร้างโน้้นสร้างนี้ ไปซื้อที่ดินตรงนั้นตรงนี้จะปลอดภัย ส่วนใหญ่คนที่บอก มักจะมีที่ดินอย่างนั้นอยู่แล้ว แล้วก็หลอกให้คนหลงชื่อ แล้วไปซื้อในราคาแพงๆ เราก็โดนพวกคนบาปหยาบช้าพวกนี้ใช้เป็นเครื่องมือทำมาหากินครับ

    หากท่านเชื่อพระพุทธเจ้า ก็จงพิจารณา คำสอนของพระพุทธเจ้าอย่างถ่องแท้ หากท่านกลัวตาย ก็ให้เร่งสร้างบุญ แล้วบุญที่ใหญ่ที่สุดที่ควรสร้าง ก็คือ บุญที่เกิดจากการปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐาน ไม่ใช้ไปสร้างโน้น สร้างนี่ บริจาคเงินเพื่อสร้างโน้นนี่นั่น ตามคำหลอกลวงของพวกนักต้มตุ๋น

    ศาสนาของพระพุทธ เป็นศาสนาแห่งเหตุผล อย่าปล่อยให้ คนชั่ว มาชักจูงในสิ่งที่ผิด

    ลำดับบุญในพระพุทธศาสนา
    1. น้อยที่สุดคือ ทาน (สร้างพระสร้างโน้นนี่นั้น รวมในข้อนี้)
    2. บุญระดับกลาง ศีล (รักษาศีล 5 แค่ 1 วันได้บุญมากกว่า ให้ทานตั้ง 100 ปี)
    3. บุญระดับสูงสุด ภาวนา หรือ การปฏิบัติวิปัสนากรรมฐาน (นี่คือสุดยอดแห่งบุญ ยิ่งใหญ่กว่าบุญทั้งปวง ท่านเปรียบว่า การปฏิบัติวิปัสนากรรมฐาน โดยจิตอยู่ในกรรมฐาน เพียงแค่ งูแลบลิ้น ได้บุญมากกว่าการรักษาศีล 5 ตั้ง 100 ปี)

    เห็นไหมครับ พระพุทธเจ้าสอนเราให้รู้ว่า บุญที่ใหญ่มากๆ ไม่ได้ใช้เงินอะไรเลยครับ

    อีกประการหนึ่ง หากคำทำนายที่ว่า โลกจะเกิดวิบัติจะเป็นจริง ท่านก็ไม่ต้องหนีไปไหนมากมายหรอกครับ แค่อย่างน้อยรักษาศีล 5 ท่านก็รอดแล้วครับ (ยกเว้นสิ้นอายุขัย หรือกรรมตามทัน อันนี้ยังไงก็ไม่รอด) ไม่ต้องไปเที่ยวซื้ออะไรหรอกครับ เพราะคำทำนายบอกว่า ทุกอย่างจะมากันทั่วสารทิศ ทั้งภัยดิน (แผ่นดินไหว ภูเขาถล่ม) ทั้งภัยน้ำ (น้ำท่วมจากฝนตก สึนามิ ) ทั้งภัยจาก ลม (พายุพัดอย่างมากศาล) ทั้งภายจากไฟ ( ภูเขาไฟระเบิด) ถามหน่อยเจอครบอย่างนี้ท่านจะหนีไหน หนีลมไปอยู่ใกล้เขาก็โดนภูเขาไฟระเบิด ดินถล่ม หนีน้ำไปอยู่ที่โล่ง ก็เจอพายุอย่างมากศาล สรุปแล้วถ้าคำทำนายเรื่องโลกวิบัติ มีจริง สิ่งหนึ่งที่มีอยู่ในคำทำนายว่าผู้รอด คือ ผู้รักษาศีล นั่นไง ทางรอด ถ้าคำทำนายเรื่องโลกวิบัติ เป็นจริง ผู้รักษาศีล ที่อยู่ในคำทำนายว่ารอด ก็ต้องจริงด้วย นั่นไง เร่งรักษาศีล 5 และปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐานกันเท่านั้นก็รอดแล้ว

    อีกประการหนึ่ง อยากจะบอก ว่าไม่ต้องว่าพระศรีอริยะเมตตไตร จะมาตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้าอีกองค์หนึ่ง ท่านไม่มีทางมาตรัสรู้ อาจมาเกิด มาเป็นผู้นำอะไรบ้างนั้น ก็อาจใช้ แต่พระองค์จะไม่มาตรัสรู้ซ้อนศาสนาของพระพุทธเจ้าองค์ปัจจุบันแน่นอน ไม่มีทางเป็นไปได้ เหตุที่ท่านไม่ทำเช่นนั้น เพราะ พระศรีอริยะเมตไตร มาตรัสรู้ เหมือนพระพุทธเจ้าของเราทุกประการ สอนเหมือนกันทุกประการ ท่านจึงไม่มาตรัสรู้ซ้อนกัน แต่ถ้าท่านมากอบกู้พระศาสนาเพื่อบำเพ็ญบารมีต่อให้ยิ่งๆ ขึ้นไป ก็อาจจะเป็นได้ครับ และก็น่าจะเป็นเช่นนั้นด้วยครับ

    ขอสรุปคือ
    1. อะไรจะเกิดก็ช่างมัน หมั่นรักษาศีล 5 และปฏิบัติวัปัสสนากรรมฐาน เข้าไว้ ไม่ต้องเสียเงินสักบาท ทำได้เอง ถึงแม้ภัยพิบัติไม่เกิดก็มีแต่ข้อดีกับดี

    2. อย่าไปเชื่อแล้วบริจาคเงิน หรือไปซื้อที่ดินที่พวกหลอกลวงมันหลอกไปซื้อที่ดินที่มันหลอกพวกท่านให้ไปซื้อ คนที่รวยคือพวกชั่วๆ นี่

    3. อย่าเชื่อว่าพระศรีอารย์ จะมาบรรลุเป็นพระพุทธเจ้า แต่อาจจะมาเป็นผู้กอบกู้พระศาสนา แต่ไม่ได้บรรลุเป็นพระพุทธเจ้า แต่มาบำเพ็ญบารมี อาจจะมาเป็นในรูปแบบของนายกก็ได้

    สุดท้ายจริงๆ ศาสนาของพระพุทธเจ้าเป็นศาสนาแห่ง เหตุ - ผล ดังนั้นให้ทุกคนใชัปัญญา
     
  19. testewer

    testewer เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มกราคม 2008
    โพสต์:
    237
    ค่าพลัง:
    +758
    ช้างเผือกกับคำทำนายของหลวงปู่มั่น

    ช้างเผือกกับคำทำนายของหลวงปู่มั่น


    หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต
    [​IMG]
    ช่วงอาทิตย์ที่ผ่านหลังจากว่างจากการส่งงานอันหนักหน่วงในช่วงเดือนที่ผ่าน ผมได้มีโอกาสอ่านประวัติคร่าวๆของพระสุปัฏิปันโนแห่งอุดรธานี(บ้านเกิดของผมเอง ซึ่งผมไม่เคยมีบุญได้กราบท่านเลย จนปัจจุบันนี้ท่านละสังขารไปได้สองปีแล้ว) คือ พระปัญญาพิศาลเถร หรือ หลวงพ่อทูล ขิปฺปปัญโญ อดีตเจ้าอาวาสวัดป่าบ้านค้อ



    ตัวท่านหลวงพ่อทูลนี้ ท่านเป็นลูกศิษย์ของหลวงปู่ขาว อนาลาโยแห่งวัดถ้ำกลองเพล (วัดนี้ผมเคยไปตอนเด็กๆ ไปบ่อยมากเพราะเวลาไปหาน้าที่จังหวัดหนองบัวลำภู จะต้องผ่านวัดนี้เป็นประจำ) ซึ่งในอัตโนประวัติที่ท่านเขียนนี้ มีตอนหนึ่งที่ผมอ่านแล้วรู้สึกปลาบปลื้มใจมาก เลยอยากให้เพื่อนๆทุกท่านได้มีโอกาสได้รับรู้ด้วย ซึ่งเป็นการสนทนาระหว่างหลวงปู่ขาว กับ หลวงพ่อทูล เรื่องคำทำนายของหลวงปู่มั่น เกี่ยวกับช้างเผือก ซึ่งมีเนื้อความดังนี้

    _/|\__/|\__/|\__/|\__/|\__/|\__/|\__/|\__/|\__/|\__/|\__/|\__/|\__/|\__/|\__/|\__/|\__/|\__/|\__/|\__/|\__


    หลวงปู่ขาวเล่าเรื่องช้างเผือกให้ฟัง

    [​IMG]
    หลวงปู่ขาว อนาลโย


    เมื่อเสร็จธุระจากกฐินวัดป่าหนองแซงแล้ว ก็ได้กลับไปวัดถ้ำกลองเพล ได้พูดคุยธรรมกับหลวงปู่ตามปกติในวันหนึ่งได้อยู่กับหลวงปู่สององค์ หลวงปู่ได้ถามข้าพเจ้าว่า


    "ทูล เคยนิมิตว่าได้ขี่ช้างเผือกไหม"

    ขอโอกาสหลวงปู่ กระผมเคยนิมิตว่าได้ขี่ช้างเผือกครั้งหนึ่ง หลวงปู่พูดว่า

    "ขี่อย่างไร เล่าให้เฮาฟังซิ"


    ก็ขอโอกาสเล่าให้หลวงปู่ฟังดังนี้ ในคืนหนึ่งเมื่อเข้าสมาธิได้ที่แล้ว ในโลกนี้มีความสว่างเห็นไปหมดทุกที่ มองขึ้นไปบนอากาศก็มีความสว่างไสวเช่นกัน ในขณะนั้นเห็นหลวงปู่มั่นนั่งอยู่บนหลังช้างเผือกขนาดใหญ่ และมีครูอาจารย์องค์อื่นๆนั่งอยู่บนหลังช้างเผือกยืนเรียงแถวกันอยู่หลายองค์ จากนั้นช้างเผือกที่หลวงปู่มั่นนั่งอยู่ก็ลอยขึ้นสู่อากาศ และช้างเผือกตัวอื่นๆก็พาครูอาจารย์ลอยขึ้นสู่อากาศเช่นกัน จากนั้นก็มาถึงตัวช้างเผือกที่กระผมนั่งอยู่ก็ได้ลอยขึ้นไปตามช้างเผือกกลุ่มใหญ่ ได้ลอยอยู่บนอากาศเป็นวงกลม ช้างเผือกแต่ละตัวมีการประดับประดา ด้วยเครื่องเพชรนิลจินดา ประดับด้วยผ้าสีทองที่มีความสวยงามมาก ในท้องฟ้าอากาศมีรัศมีระยิบระยับแพรวพราว สว่างเต็มท้องฟ้าไปหมด แล้วมีเสียงประกาศว่า


    "นี้เป็นกลุ่มคณะช้างเผือก ที่หลวงปู่มั่นได้พาหมู่คณะไปสู่พระบรมสุข คือ วิมุตตินิพพานในกาลครั้งนี้"


    จากนั้นจิตก็ได้ถอนออกจากสมาธิ ก็ได้พิจรณาว่า เป็นเรื่องปกติี่ที่ผู้ปฏิบัติได้มาถึงจุดนี้แล้ว ถือเป็นความสมบูรณ์ เป็นอุดมมงคล เพราะช้างเผือกเป็นช้างทรงของพระราชา จะตีความว่า ราชาธรรมนี้ก็เป็นได้ หมายถึงผู้จบในภาคการศึกษา คือจบในอาตยนะนั่นเอง หรือจะเรียกว่าเป็นผู้ที่เรียนจบในประโยค ๖ คือ ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ ได้แล้วอย่างสมบูรณ์


    จากนั้นหลวงปู่ขาวเพียงแต่ยิ้มแล้วพูดว่า


    "ในสมัยเฮาอยู่กับหลวงปู่มั่น หลวงปู่มั่นเคยประกาศให้คณะสงฆ์ทั้งหลาย ได้รับรู้ไว้ว่า เมื่อเราได้ตายไปแล้ว จะมีช้างเผือกหนุ่มตัวหนึ่ง เหาะไปมา แสดงอภินิหาร ให้คนทั้งหลายได้รู้เห็นในความสามารถต่างๆ มากมาย พระเถระทั้งหลายได้ฟังแล้ว ก็มีความเข้าใจความหมายว่า ในยุคต่อไป จะมีพระอรหันต์หนุ่มเกิดขึ้น จะได้แสดงความรู้ึความสามารถ เผยแผ่ธรรมให้คนทั้งหลายได้รับรู้ความจริงในสัจธรรม จะมีผู้ปฏิบัติตามได้รับผลมากทีเดียว"


    ข้าพเจ้าก็ถามหลวงปู่ขาวว่า ขอโอกาสหลวงปู่ ช้างเผือกหนุ่มเชือกนั้นเกิดขึ้นหรือยัง หลวงปู่ก็พูดว่า

    "เกิดขึ้นแล้ว"


    ข้าพเจ้าก็ถามหลวงปู่ต่อไปว่า ช้างเผือกหนุ่มนั้นอยู่ที่ไหน กระผมอยากรู้ อยากไปกราบท่าน หลวงปู่ยิ้มๆแล้วพูดว่า "ไม่บอก หาเอาเองแล้วกัน" เรื่องช้างเผือกหนุ่มนั้น พระอาจารย์วัน อุตฺตโม และพระอาจารย์จวน กุลเชฏโฐ ก็เคยพูดในเรื่องช้างเผือกหนุ่มนี้ให้ข้าพเจ้าฟังเช่นกัน เมื่อถามท่านว่าเป็นอาจารย์องค์ใด ท่านก็ไม่บอกเช่นกัน



    หลวงพ่อทูล ขิปฺปปัญโญ
    [​IMG]
    หากมีคำถามข้าพเจ้าว่า ช้างเผือกหนุ่มเชือกนั้นเกิดขึ้นหรือยัง ข้าพเจ้าก็จะตอบว่าเกิดขึ้นแล้วเช่นกัน แต่ไม่รู้ว่าช้างเผือกเชือกนั้นอยู่ที่ไหน หรือท่านอาจจะเห็นอยู่แ่ต่ไม่รู้ว่าเป็นช้างเผือก เพราะช้างเผือกนั้นอาจใช้สีดำทาเพื่ออำพรางตัวเอาไว้จึงไม่มีใครรู้ ขอให้พวกเราค้นหาช้างเผือกหนุ่มนั้นให้พบ เมื่อพบแล้ว กรุณามาบอกข้าพเจ้าก็แล้วกัน เพื่อจะได้ไปกราบคารวะและฟังธรรมจากช้างเผือกหนุ่มเชือกนั้นให้สมใจ การทำนายของหลวงปู่มั่นนั้น หลวงปู่ขาวพูดว่า "มีความแม่นยำมาก พูดคำใดคำนั้น เพราะหลวงปู่มั่นมีความชำนาญด้วยญาณ อตีตังสญาณ ท่านรู้ในเรื่องอดีตที่ผ่านมาแล้ว อนาคตังสญาณ ท่านรู้ในเรื่องอนาคต"



    อภินิหาร ๓ อย่าง

    ที่หลวงปู่มั่นว่าช้างเผือกหนุ่มมีอภินิหารนั้น หลายคนอาจตีความหมาย ไม่ตรงตามหลวงปู่มั่นก็อาจเป็นได้ เพราะคนส่วนใหญ่ได้อ่านในตำรา หรือได้ฟังจากครูอาจารย์มามากว่า อภินิหารต้องเป็นผู้มีฤทธิ์ สามารถดำดินเหาะเหินไปบนอากาศได้ เช่นได้อ่านเรื่องอภิญญา มีจักขุญาณ มีญาณทางตาที่เรียกว่าตาทิพย์ กำหนดจิตให้เห็นรูปเทวดา นรก และสิ่งอื่นๆได้ โสตญาณ มีญาณทางหู เรียกว่าหูทิพย์ กำหนดจิตฟังเสียงในหมู่เทวดาและสัตว์นรก และกำหนดฟังเสียงอื่นๆได้ เจโตปริยญาณ เป็นญาณรู้ทางใจ กำหนดจิตรู้ในความคิดความเห็นของคนอื่นได้ มโนมอิทธิญาณ เป็นฤทธิ์ทางใจ กำหนดจิตให้เป็นนั่นเป็นนี่ หรือเป็นหลายคนได้ อิืทธิวิธี เป็นอภินิหารทางใจ สามารถเหาะเหินไปมาที่ไหนได้ คนส่วนใหญ่จะมาเข้าใจว่า อภินิหารต้องเป็นอย่างนี้


    ในความหมายของหลวงปู่มั่น ว่าช้างเผือกหนุ่มมีอภินิหารนั้น หมายถึงอภินิหาร ๓ อย่าง

    อิทธิปาฏิหารย์ แสดงฤทธิ์ได้นานาประการ
    อาเทสนาปาฏิหารย์ มีญาณรู้วาระจิตคนอื่น แล้วพูดดักใจคนอื่นได้
    อนุสาสนีปาฏิหารย์ มีความสามารถแสดงธรรมได้อย่างมีเหตุผล ทำให้คนที่ฟังเข้าใจในความหมายได้อธิบายธรรมหมวดที่คนเข้าใจได้ยาก มาอธิบายให้คนเข้าใจง่าย อธิบายธรรมหมวดยาว สามารถย่นย่อธรรมที่ยาว มาอธิบายโดยย่อให้คนเข้าใจได้

    อภินิหาร ๓ ข้อนี้ ข้อ ๑ ข้อ ๒ ที่ทำให้เกิดขึ้นได้ แต่พระุพุทธเจ้าไม่สรรเสริญ แต่พระพุทธเจ้ามาสรรเสริญ อนุสาสนีปาฏิหารย์ ในข้อ ๓ เพราะเกี่ยวกับพระพุทธศาสนาและมรรคผลนิพพาน ฉะนั้นหลวงปู่มั่นว่ามีช้างเผือกหนุ่มมีอภินิหารนั้น หมายถึง อนุสาสนีปาฏิหารย์ เป็นผู้มีความสามารถแสดงธรรม ให้เป็นไปในคำสอนของพระพุทธเจ้าได้อย่างถูกต้อง ทำให้คนมีสัมมาทิฏฐิ ความเห็นชอบ ตามแนวทางที่เป็นจริง แสดงธรรมให้คนเข้าใจในอุบายการปฏิบัติ เพื่อเป็นไปในมรรคผลนิพพาน หลวงปู่มั่นมีความหมายเป็นอย่างนี้ ขอให้พวกเราได้เข้าใจ เพื่อจะได้ค้นหาช้างเผือกหนุ่มได้ง่ายขึ้น มิใช่ว่าคอยไปดู เมื่อไรหนอท่านจะเหาะขึ้นสู่อากาศ เมื่ิอไหร่หนอท่านจะดำดินและหายตัวให้ดู ถ้าจะหาในวิธีนี้ รับรองได้ว่า จะไม่พบช้างเผือกหนุ่มอย่างแน่นอน เพราะตีความหมายในอภินิหารผิดไป จึงทำความเข้าใจแก่ท่านดังนี้

    ที่มา http://palungjit.org/threads/%E0%B8%8A%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%87%E0%B9%80%E0%B8%9C%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B8%81%E0%B8%81%E0%B8%B1%E0%B8%9A%E0%B8%84%E0%B8%B3%E0%B8%97%E0%B8%B3%E0%B8%99%E0%B8%B2%E0%B8%A2%E0%B8%82%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%AB%E0%B8%A5%E0%B8%A7%E0%B8%87%E0%B8%9B%E0%B8%B9%E0%B9%88%E0%B8%A1%E0%B8%B1%E0%B9%88%E0%B8%99.267118/
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 15 กุมภาพันธ์ 2013
  20. testewer

    testewer เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มกราคม 2008
    โพสต์:
    237
    ค่าพลัง:
    +758
    ความหมายของช้างเผือกมีได้ 2 ประการ

    ความหมายของช้างเผือกมีได้ 2 ประการ
    1.พระอรหันต์สัมมาสัมพุทธเจ้า
    2.พระบรมมหาจักรพรรดิ์

    พระนางสิริมหามายาทรงสุบินนิมิต
    [​IMG]

    ซึ่งในคืนวันเพ็ญเดือน ๘ พระนางสิริมหามายาผู้จะได้เป็นพระพุทธมารดา ทรงอธิษฐานสมาทานอุโบสถศีล ในยามใกล้รุ่งได้ทรงสุบินนิมมิตว่า ท้าวจตุมหาราชทั้งสี่ได้มายกพระองค์พร้อมกับพระแท่นที่บรรทมทูลเชิญไปยังป่าหิมพานต์ เหล่าเทพธิดาทั้ง ๔ ได้ทูลเชิญพระนางเสด็จไปสรงน้ำในสระอโนดาต ชำระล้างมลทินแห่งมนุษย์ แล้วทรงผลัดด้วยผ้าทิพย์ ลูบไล้ด้วยของหอม ทรงประดับบุปผชาติอันเป็นทิพย์ แล้วเชิญเสด็จเข้าที่บรรทมบนพระแท่นในวิมานทอง ในภูเขาเงิน ทรงบ่ายพระเศียรไปยังทิศตะวันออก ขณะนั้นมีพระยาช้างเผือกชูงวงจับดอกบัวขาวที่เพิ่งแย้มบานกลิ่นจากภูเขาทองด้านทิศตะวันออก ร้องก้องโกญจนาทเดินเข้าไปในวิมาน กระทำประทักษิณาวัตรเวียนพระแท่น ๓ รอบ

    ซึ่งในวันรุ่งขึ้นพระนางได้ทรงกราบทูลถึงพระสุบินนิมิตนั้นแด่พระสวามี พระเจ้าสุทโธทนะจึงทรงมีรับสั่งให้พราหมณ์ประจำราชสำนักทำนายนิมิตฝันนั้น เหล่าพราหมณ์ได้พากันทำนายว่า

    “พระนางสิริมหามายาทรงพระครรภ์พระองค์จักมีพระราชโอรส
    พระโอรสนั้นถ้าอยู่ครองราชก็จักเป็นพระเจ้าจักรพรรดิ
    แต่ถ้าเสด็จออกบวช จักได้เป็นพระพุทธเจ้า”


    เมื่อพระโพธิสัตว์ทรงถือปฏิสนธิในพระครรภ์นั้น พระครรภ์บริสุทธิ์ไม่แปดเปื้อนด้วยครรภ์มลทินและประทับนั่งสมาธิอยู่ในพระครรภ์ ไม่คุดคู้เหมือนเด็กทารกอื่น พระราชมารดาทรงทอดพระเนตรเห็นพระโพธิสัตว์ซึ่งอยู่ในพระครรภ์ ท้าวจตุมหาราชทั้ง ๔ ได้ถวายการอารักขาเพื่อป้องกันมิให้เกิดอุปัทวันตรายแก่พระโพธิสัตว์และพระราชมารดา

    ที่มา พระนางสิริมหามายาทรงสุบินนิมิต
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 15 กุมภาพันธ์ 2013

แชร์หน้านี้

Loading...