พระโพธิสัตว์ท่านใดที่ลงมาจากดุสิตบ้างครับ

ในห้อง 'พุทธภูมิ - พระโพธิสัตว์' ตั้งกระทู้โดย noom8a, 19 กรกฎาคม 2011.

  1. พระยาเดโชชัยมือศึก

    พระยาเดโชชัยมือศึก สินธพอมรินทร์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 เมษายน 2005
    โพสต์:
    2,742
    ค่าพลัง:
    +12,024
    ----
    คุณมาทางสายบ้านพลูหลวงเหมือนกันนะ เห็นหลวงปู่เจี๊ยะ วัดป่าภูริทัตต ดัง
    นั้น ลองสังเกตดูท่านที่เกี่ยวเนื่องกับบ้านพลูหลวง เป็นพิเศษแล้วกัน จะไปทางหลวงตาม้า ถ้ำเมืองนะก็ได้ เกี่ยวข้องทางสายกรรมนี้เช่นกัน
     
  2. phank

    phank เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กันยายน 2008
    โพสต์:
    411
    ค่าพลัง:
    +1,278
    ขอบคุณ คุณพระยาเดโชชัยมือศึก มากเลยนะครับ ที่ช่วยชี้แนะ :VO

     
  3. HAYATE

    HAYATE เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    104
    ค่าพลัง:
    +759
    คุณ พระยาเดโชชัยมือศึก นี่เก่งอ่ะ อนุโมทนาสาธุครับ

    โอ้วว แล้วอย่างผมนี่มาทางใครหว่า อยากรู้จัง อิอิ ^^
     
  4. JKV

    JKV เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 พฤษภาคม 2010
    โพสต์:
    421
    ค่าพลัง:
    +201
    อิอิอิ.....ขอกล่าวอะไรตามความเข้าใจอันน้อยนิด.....
    1.บางอย่างที่มันฝังรากลึกในจิตใจถึงตนแจ่มแจ้งเพียงใดมันอธิบายให้คนอื่นเข้าใจด้วยยาก มันปัจจัตตัง (เทียบหยาบๆ อย่งเรากินข้าวมาครึ่งท้องแล้ว คนถามว่าหิวไหม มันก้อไม่หิว เขาถามอิ่มไหม มันก้อยังไม่อิ่ม ผู้เคยสร้างมาแล้วยังไม่เต็มภูมิกำลังใจมันยังไม่แน่นอนมันละได้ หรืออธิฐานละแล้วอย่าดิบดีเกิดมาชาติใหม่ดันลืมแล้วปราถนาใหม่ก้อเยอะถ้าบารมีมากแต่ขี้เกียจเกิดตายซ้ำๆซากๆก้อหนีไปนิพพานซะก้อมาก ส่วนผู้ที่กำลังใจดี นรกขุมไหน มนุษย์สัตว์อีกยาวไกล ก็ เกิดตายไปตามหน้าที่ เพื่อสั่งสมบารมีให้ถึงที่สุด ส่วนเรื่องสร้างบารมีชาตินี้ให้มากแล้วแอบไปหลบอยู่วิมาณที่ดุสิต ไม่มีในดวงจิตดวงใจของ พระโพธิสัตว์ อย่าลืมว่า หนึ่งวันหนึ่งคืน จาตุม ห้าสิบปี ดาวดึง ร้อยปี ยามา สองร้อย ดุสิต ตั้ง สี่ร้อยปี มนุษย์ ไปโน่นวันเดียวเกิดใหม่ได้ตั้งสี่ครั้ง ยัิ่งสมัยสิ้นตอนพุทธศาสนา อายุคนเหลือแค่ สิบปี เกิดใหม่ได้ ได้ตั้ง สี่สิบชาติ )
    2. ถ้าอยากปราถนา ไม่จำเป็นต้องให้ใครยืนยัน เริ่มวินาทีนี้ก้อได้ขั้นตอนวิธีการก้อรู้ๆกันแล้วเพราะเกิดเป็นชาวพุทธ ตั้งใจไว้ จะเป้นพระพุทธเจ้าให้ได้องค์หนึ่งข้างหน้าโน้นๆๆๆๆๆๆกัปล์ไหนไม่รู้ละข้างหน้าตามบารมีที่จะสร้างถ้ากำลังใจเด็วเดียวจริง ต้องแซงท่านที่ปราถนามาก่อนแน่นอนเพราะผู้ปราถนามานั้นมากมายนัก มากกว่าเม็ดดินเม็ดทรายในก้อนโลกนี้หลายเท่านักตั้งแต่ผู้ปราถนามาสมัยพระพุทะเจ้าองค์แรกๆจนตอนนี้บารมียังไม่เต้มก้อมี เมือนการเรียนใครตั้งใจไม่หลีกไม่แวะก้อไปได้ไว ส่วนท่านที่เกิดวิมารแล้วที่ดุสิตนั้นท่านสร้างมามากแล้วและมักจะลงมาตอนมีพระพุทธเจ้าเพราะจะได้ไม่หลงทางเสียเวลาไปพบอื่นที่ไม่เหมาะเช่นเผลอทำบาปไปเกิดเป็นสัตว์หรือลงนรกจะเสียเวลา ส่วนเรื่องกลัวทุกข์ทรมารนั้นท่านไม่ค่อยใส่ใจเพราะเข้าใจดีอยู่แล้ว
    3. บางอย่างไม่ต้องคลำหาถึงเวลามันรู้ได้เองแค่เดินเหยียบรอยเดิมหรือแนวทางเดิมมันก้อผุดขั้นเอง อย่างท่านที่เคยมีชาณ แค่ท่านภาวนามันก้อรวมได้เร็วและฉลาด ระเอียดแยบคายในวิธีการเป็นอัตโนมัติ
    4.ผู้สร้างบารมีย่อมสั่งสมบริวารยิ่งมีบริวารมากยิ่งขนไปได้มาก ผู้ที่จะได้ติดตามคือผู้ที่เคยสร้างมาด้วยกันเป็นส่วนมากจะภพไหนชาติไดไม่ทราบแม้แต่เชื้อโรคแบคทีเรียในกายแต่ละชาติท่านยังหวังให้เขาได้เลื่อนถูมิขึ้นมาจนเป็นสัตว์เล็กสัตว์น้อยคนเป็นคนในที่สุด รวมทั้งนายเวรและศรูทั้งหลายถึงเขาจะฆ่าเรามาแล้วหลายชาติก้อช่างแต่ข้างหน้าหวังให้เขาร่าวสร้างบารมีไปตามกำลังของเขาเพราะมันยาวไกลมากย่อมมีโอกาสได้หลุดพ้นในการข้างหน้าได้
    5.ที่หวังคือให้ให้ทุกดวงจิตเขาพ้นทุกข์ได้ในวันข้างหน้าจะก่อนตนเองหรือพร้อมตนเองหรือตามตนเองก้อดีหรืออย่างน้อยก้อให้เขาเห็นทางแล้วไปต่อยอดเอากับองค์ข้างหน้าถ้าตนเองหมดภาระแล้ว ท่านไม่ได้หวังหรือสนใจในสิ่งเหล่านี้ แต่มันมีเองเพราะสร้างมาหลายกัปล์หลายกัลล์อย่างยาวนาน

    น้ำใจท่านที่ปราถนาพุทธะฯ.หนักแน่นและละเอียดแยบคายกว่าที่ผมกล่าวมากเพราะจิตใจเราๆเข้าไม่ถึงและไม่เข้าใจได้ง่ายๆ

    ส่วนตัวผมเอง กิเลสยังหนาตัณหายังหนัก ไม่ขอกล่าวถึง
     
  5. phank

    phank เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กันยายน 2008
    โพสต์:
    411
    ค่าพลัง:
    +1,278
    ขอบคุณครับ ^.^

     
  6. JKV

    JKV เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 พฤษภาคม 2010
    โพสต์:
    421
    ค่าพลัง:
    +201
    4shared.com - ??????????????????????????????????????????????????????

    เผื่ออยากทราบว่า สามสิบองค์ข้างหน้านั้นยาวไกลแค่ไหน นั่นยังไม่รวมท่านที่บารมีเต็มแล้ว มากกว่าเป็นแสนองค์ที่ สุสิต ที่เทียวเกิดเทียวตายเพื่อช่วยเหลือสัตว์โลกตามกำลังใจจนกว่าจะถึงวาระ

    เสียงของท่านดังกล่าวตอนนี้ท่านยังดำรงขันธ์ อยู่นะครับตอนนี้ อายุกว่าร้อยปีแล้ว แต่ไม่่ขอกล่าวนามนะครับ
     
  7. phank

    phank เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กันยายน 2008
    โพสต์:
    411
    ค่าพลัง:
    +1,278
    รู้สึกว่าลิงค์จะไม่ถูกต้องนะครับ

    นิตยโพธิสัตว์ และทุกท่านที่บารมีเต็มแล้ว ถึงแม้ว่าจะมีจำนวนมากก็ตามที แต่ถ้าเทียบกับสรรพสัตว์ที่ยังคงเวียนว่ายตายเกิดในวัฎสงสารนี้ เรียกว่าจำนวนมันผิดกันมาก พระพุทธเจ้าองค์หนึ่งที่ตรัสรู้ จะมีดวงจิตจำนวนไม่มากที่มีบุญบารมีถึงที่จะได้สดับรับฟังธรรมจากพระพุทธเจ้า รวมไปถึงพระสงฆ์สมัยที่พระพุทธเจ้ายังทรงพระชนม์อยู่แล้วสำเร็จเป็นพระอรหันต์ก็มีอยู่จำนวนหนึ่ง ส่วนพระสงฆ์ที่สามารถก้าวเข้าสู่การเป็นพระอรหันต์หลังจากที่พระพุทธองค์ปรินิพพานไปแล้วก็มีจำนวนน้อยลงเรื่อยๆทุกที ในช่วงพระศาสนาของพระพุทธเจ้าพระองค์หนึ่งดำรงอยู่ได้ มีจำนวนดวงจิตหลุดพ้นจากสังสารวัฎนี้จำนวนเท่าไหร่ แล้วที่ยังหลงเหลือเป็น คนที่มีมิจฉาทิฏฐิ เป็นมนุษย์ที่รู้มรรคแต่ยังทำไปไม่ถึงผล เป็นสัตว์ดิรัจฉาน เป็นมาร เป็นอสุรกาย เป็นสัมภเวสี เป็นผู้ที่อยู่ในสุขคติภูมิแต่ไม่ได้ปฏิบัติตามคำสอนของพุทธองค์ หรือกำลังใช้กรรมในอบายภูมิ เหล่านี้มีจำนวนที่ประมาณไม่ได้เลย แล้วกว่าดวงจิตทั้งหลายจะบำเพ็ญบุญกุศล สร้างบารมีเพียงพอจนถึงขั้นที่สามารถไปพระนิพพานได้ต้องใช้เวลากันประมาณเท่าไหร่ ต้องให้คำจำกัดความว่าจำนวนนิตยโพธิสัตว์ที่รอต่อคิวตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้า อนิตยโพธิสัตว์ที่บารมีเต็มแล้วนั้นที่มีจำนวนมากมายยังเรียกว่านับรู้ถ้วน แต่ดวงจิตที่ยังวนเวียนอยู่ในสังสารวัฏนี้นั้นนับไม่รู้ถ้วน

    การปรารถนาพุทธภูมินี้ ไม่ใช่เรื่องสนุก ไม่ใช่ความโก้ แต่เป็นความปรารถนาจะให้ผู้อื่นได้พ้นทุกข์ โดยตัวเองยอมลำบาก สั่งสมบารมีมากมาย ในระยะเวลาที่ยาวนานมาก แต่สิ่งเหล่านี้ก็ยังมีจุดสิ้นสุด พิจารณาดูว่าดวงจิตต้นกำเนิดนั้นมีมาอย่างยาวนาน รวมๆเฉพาะกาลตั้งแต่สมัยที่สมเด็จองค์ปฐมทรงสั่งสมบารมีจนเวลาล่วงเลยมาจน ณ ตอนนี้ เป็นเวลายาวนานมากจนไม่อาจประมาณได้ แต่ก็ยังมีผู้ที่ยังวนเวียนในวัฏสงสารนี้เต็มไปหมด แค่เฉพาะมนุษย์บนโลกอย่างเดียวก็ปาไปเท่าไหร่แล้ว ยังจะมีในส่วนอื่นๆของวัฏสงสารอีก จะเห็นว่าการเข้าถึงซึ่งพระนิพพานเพื่อหลุดพ้นนั้นไม่ง่าย ผมว่ารวมๆแล้วกว่าจะไม่ผู้ที่ตกอยู่ในสังสารวัฏนี้ ณ เวลาปัจจุบันจำนวนผู้ปรานาพุทธภูมิที่กำลังสั่งสมบารมีกันอยู่ ไม่มั่นใจว่าถ้าหากได้ตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้ากันหมดแล้ว จะเพียงพอเพื่อยุติวัฏสงสารนี้หรือเปล่า

    แชร์ความคิดเห็นนะครับ ถูกผิด อยากจะแนะนำอะไรผม เชิญตามสบายเลยนะครับ

     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 24 กรกฎาคม 2011
  8. หยุดดี

    หยุดดี สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 พฤษภาคม 2011
    โพสต์:
    49
    ค่าพลัง:
    +12
    คิดว่าตัวข้าพเจ้าคงไม่ได้มาจากดุสิต แต่จะขอลองตอบดู

    พระโพธิสัตว์ ลงมาสร้างบารมี ถ้าบารมีสูง ๆ มาก เช่น พวกโพธิสัตว์ใหญ่ ๆ ก็คงยากที่จะลงมาแล้วทำกรรมไม่ดี แต่ถ้าโพธิสัตว์ที่บารมียังอ่อน ๆ อยู่ หรือโพธิสัตว์ที่เพิ่งเริ่มสร้างบารมีในช่วงแรก ก็อาจผิดพลาด และก็น่าจะต้องชดใช้กรรมที่ทำผิด และอีกกรณีหนึ่ง คือ
    พระโพธิสัตว์ อย่างชาตินักรบสมัยก่อน แต่เป็นพระโพธิสัตว์ที่ลงมาทำหน้าที่ปกป้องบ้านเมือง เท่าที่รู้มาก็ต้องชดใช้กรรม แต่ก็น่าจะได้บารมีตรงที่เป็นชาติพลี
    เท่าที่รู้มา ผู้ที่บำเพ็ญบารมีเป็นพระโพธิสัตว์ อย่างน้อยน่าจะต้องมีชาติที่ลงมาสร้างบารมี เป็นชาติพลีแต่อาจไม่ต้องเป็นนักรบก็ได้มั้งคะ
    และอีกพวกคือ พระโพธิสัตว์ ที่ลงมาเพื่อเผยแพร่พระพุทธศาสนา ลงมาอย่างนี้ก็ดี ตรงที่ลงมาไม่ได้สร้างเวรกรรมไม่ดี ก็ไม่มีเวรมีกรรมไม่ดีที่สร้างในชาติที่มาเกิด
    ป.ล. ข้อมูลดังกล่าวข้างต้น ควรปรึกษาผู้รู้จริง คะ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 25 กรกฎาคม 2011
  9. หยุดดี

    หยุดดี สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 พฤษภาคม 2011
    โพสต์:
    49
    ค่าพลัง:
    +12
    สร้างบารมี

    โดยส่วนตัวข้าพเจ้า ก็คิดว่า บางทีข้าพเจ้าอาจอธิษฐานจิตบารมีลงมาเพื่อมาสร้างบารมี ทศบารมีต่อ เคยมีท่านผู้รู้กล่าว ประมาณว่าลงมาต่อบารมีเดิมและใช้หนี้กรรมเก่าด้วย ข้าพเจ้าก็ไม่ค่อยแน่ใจว่า ที่ท่านผู้รู้พูดนั้นหมายถึง เราหรือเปล่า แต่ก็มีท่านอีกท่านหนึ่งผู้รู้กล่าว ว่าตัวข้าพเจ้านั้นได้อธิษฐานลงมาสร้างบารมี คะ
     
  10. พุทธางกูรน้อย

    พุทธางกูรน้อย Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 ธันวาคม 2006
    โพสต์:
    45
    ค่าพลัง:
    +68
    อยากลองไปดุสิตดูบ้างเหมือนกัน แต่เมื่อหมดวาระแล้วเราจะกลับวิมารของเราก่อน

    ชาตินี้เราหวัง พรหมวิหาร 4 เป็นที่ยิ่ง มีปฏิสัมภิทาญาณเป็นพื้นฐาน มีนโนยิทธิเป็นเครื่องใช้

    มีอานาปานสติเป็นเครื่องประคองจิต เราคงกลับไปยังวิหารพรหมอันที่ประทับแห่งเราก่อน

    แล้วเราจึงจะคิดตรองดูอีกครั้ง เราไม่ชินกับการเป็นเทวดา หรือมนุษย์เลย
     
  11. พุทธางกูรน้อย

    พุทธางกูรน้อย Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 ธันวาคม 2006
    โพสต์:
    45
    ค่าพลัง:
    +68
    ตอบ แบบพุทธภูมิคนหนึ่ง

    1. ตกอบายไม่กลัวครับ เจ็บมาเยอะจนชิน แต่เสียดายเวลาครับ
    แทนที่จะเอาไปสร้างบารมีกลับเอามาใช้กรรม
    อีกอย่างเดี๋ยวโดนพระองค์ท่านว่าอีก ไม่ดีครับ
    อารมณ์พระโสดาบันควรต้องทำให้ได้ในทุกชาติครับ

    2. สร้างบารมีแล้วมีกรรมติดไป ไม่กลัวครับ อธิฐานมาแล้วว่า
    กรรมใดที่ไม่ดีที่สร้างในชาตินี้ ขอใช้ให้จบในชาตินี้ครับ
    หรือเป็นอโหสิกรรมไปในชาตินี้ครับ ทั้งกรรมที่ทำต่อคนอื่น
    และกรรมที่คนอื่นทำกับเรา (เฉพาะกรรมดำนะครับ เก็บแต่กรรมขาวไปเนื้อๆ)
    ไปชาติหน้าจะได้ไม่เป็นภาระ และขอให้อย่าสร้างกรรมหนัก
    ทั้งที่ทั้งเลวทั้งชั่วมามาก แต่ก็ทำกรรมไม่ขึ้นเลยครับ ได้ผล

    3. ผมอธิฐานกลับพรหมครับ อยากไปดุสิตเหมือนกัน แต่ไม่คุ้น
    ญาติๆ เพื่อนๆ ที่สนิท ไม่เป็นมาร ก็เป็นพรหมกันหมด

    4. ตอนจะตายจากมนุษย์ ถ้ายังไม่บรรลุอรหัต
    คงไม่สามารถอธิฐานไปนิพพานได้ครับ

    5. ถ้าปรารถนาสัมโพธิญาณ หรืออยากเป็นพระปัจเจก
    ก็ต้องมาได้ในโลกมนุษย์ครับ ถ้าต้องการแค่สาวกภูมิ
    ก็สามารถเข้าอรหัตผลในสวรรค์ได้ครับ
     
  12. คุรุวาโร

    คุรุวาโร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 พฤษภาคม 2011
    โพสต์:
    3,465
    ค่าพลัง:
    +13,431
    อยากถามผู้รู้ครับ คำถามอาจจะยากสักนิดนะครับ
    1.ถ้าสัญญาเก่า เกิดมาเพื่อทำอะไรบางอย่าง โชคชะตาบังคับให้เราเป็นอย่างนั้น แล้วเราจะแก้ไขได้หรือไม่ครับ เช่น เกิดมาเพื่อใช้กรรม แต่เราปราถนาเป็นเทวดาทำนองนั้นนะครับ
    2.ถ้าชาติที่แล้วเรามาจากสวรรค์ ชาติต่อไปเราจะกลับไปสถานะเดิมหรือไม่ครับ(หลวงพ่อองค์หนึ่งบอกมาว่าผมมาจากสวรรค์นะครับ) ขอขอบคุณสำหรับคำตอบครับ
     
  13. phank

    phank เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กันยายน 2008
    โพสต์:
    411
    ค่าพลัง:
    +1,278
    สำหรับข้อ 1 คุณต้องแยกแยะนะครับ ในสภาพของความเป็นมนุษย์คุณก็มีชะตากรรมแบบนึง แต่ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นมนุษย์ผลกรรมเก่าทั้งหลายย่อมมาให้ผลคุณได้แน่นอน ส่วนการเกิดเป็นเทวดานั้น คือมันต้องหลังจากความเป็นมนุษย์ไปแล้วนะครับ พูดง่ายๆตายจากการเป็นคนไปน่ะครับ ดังนั้นผลกรรมเมื่อเกิดเป็นมนุษย์ไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ ซึ่งจะให้ผลทั้งกรรมดีและกรรมไม่ดีกันทั้งสิ้น แต่ผมรู้สึกว่าคุณอาจจะต้องการสื่อเกี่ยวกับข้อ 2 อาจมีใครบอกคุณว่าเกิดมามีหน้าที่ช่วยเหลือคน แต่เกิดมาเป็นมนุษย์แล้วรู้สึกวุ่นวาย น่าเบื่อหน่าย คือไม่ได้อยากจะช่วยเหลือคนถึงขนาดเป็นหน้าที่หลักของชีวิต หรืออาจจะไม่ต้องการช่วยเหลือเลยก็ตามที ถ้าเป็นแบบนี้ ถ้าถามว่าไม่ทำได้มั้ย ก็ต้องบอกว่าได้ แต่ชะตามักจะพาให้คุณไปในทางที่ควรจะเดิน หรืออาจได้รับประสบการณ์หรือเหตุการณ์บางอย่างที่ครูบาอาจารย์ของท่านนั้นต้องการจะสอนท่านด้วยเหตุผลของท่านหลากหลายประการ แต่ถ้าถึงที่สุดเจ้าตัวไม่พิจารณาสิ่งต่างๆที่ผ่านเข้ามาในชีวิต ครูบาอาจารย์ของท่านนั้นๆก็อาจจะปล่อยให้ท่านได้ทำอย่างที่ใจต้องการ ถ้ามีโอกาสท่านก็อยากจะดึงเข้ามาทางบุญทางกุศล แต่ถ้าดื้อด้านจริงๆ ในที่สุดท่านก็จะอุเบกขาไปเอง


    สำหรับข้อที่ 2 ต้องบอกว่าดินแดนมนุษย์เป็นดินแดนที่เหมาะกับการแสวงบุญมาก ให้ผลได้รวดเร็ว หมั่นทำบุญกุศลตอนลงมาเกิดเป็นมนุษย์ไว้ ถ้าสิ้นภพจากการเป็นมนุษย์ถ้าได้ไปเกิดในสุคติภูมิเป็นเทวดาแล้วล่ะก็ น่าจะอยู่ในชั้นที่สูงขึ้นซะด้วยซ้ำ ถ้าปฏิบัติในสิ่งที่รู้ว่าระดับชั้นไหนความเข้มข้นของบุญกุศลต้องเป็นอย่างไร แต่สิ่งที่จะมั่นใจได้ว่าตายจากความเป็นคนแล้วจะไม่ลงนรกก็มีอยู่ทางเดียวที่แน่นอนที่สุดคือ เป็นพระโสดาบัน ครับ


     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 26 กรกฎาคม 2011
  14. JKV

    JKV เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 พฤษภาคม 2010
    โพสต์:
    421
    ค่าพลัง:
    +201

    ลิงค์ใช้ไม่ได้เอาไฟล์ละกัน ประมาณ เกือบๆนาทีที่ 10 มั้ง ท่านเทสหลายปีที่แล้ว

    ถ้าถามเรื่องจิต มันไม่หมดหรอก พระพุทธะเจ้ามาแต่ละองค์ก้อเอาไปตามบารมี ดวงจิตในแต่ละภพมากมหาสาร เอาแค่ในยาคู้ขวดนึงไม่รู้มีแบททีเรียเท่าไหร่ จนกว่ามันจะเปลี่ยนภพชาติขึ้นมาเป็นสัตว์เล็กสัตว์น้อยจนรุ้ประสาก้ออีกยาวไกล ก้นปลวกตัวนึงมีแบคทีเรียจุรินทรียืไม่รู้กี่ล้านๆๆๆๆๆ ไม่อยากคิดเรื่องไกลตัวเพราะตัวเองยังรู้น้อย คริๆๆๆ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  15. คุรุวาโร

    คุรุวาโร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 พฤษภาคม 2011
    โพสต์:
    3,465
    ค่าพลัง:
    +13,431
    ขออนุญาติถามอีกสักเล็กน้อยครับ
    1.เมื่อคนเราเกิดมาเป็นคนแล้ว ความสามารถของชาติที่แล้วจะตามมาบ้างไหมครับ เช่น การสัมผัสได้ถึงโลกวิญญาน หรือว่ามันมาจากการฝึกฝนของเราเอง เพราะผมได้มาตั้งแต่เด็กเลยครับ เรียกว่าฝึกจากตำราครั้งแรกผมก็ทำได้เลยครับ (อายุน้อยมากแค่ 6ขวบเอง)
    2.คำว่าบารมีนั้นจะตามมาอีกบ้างไหม เพราะผมสวดมนต์บางบทไม่ได้ เช่น ชุมนุมเทวดา
    เมื่อสวดเสร็จคืนนั้นเทวดาที่อยู่รอบๆก็จะมาเข้าฝันทุกครั้งว่าไม่ให้สวดมนต์บทนี้นะครับ
    ขอขอบคุณสำหรับคำตอบครับ(ผมมาจากสวรรค์ชั้น4 เท่าที่ระลึกชาตินะครับ)
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 27 กรกฎาคม 2011
  16. Naiky

    Naiky Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    42
    ค่าพลัง:
    +85
    ผมรู้สึกว่าจะมาจากสวรรค์ แต่เพื่อนๆชอบบอกผมว่า "ไอ้นรกมาเกิด" 555
     
  17. phank

    phank เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กันยายน 2008
    โพสต์:
    411
    ค่าพลัง:
    +1,278
    สำหรับข้อแรกนะครับ ตามมาครับ พอมาเกิดชาติใหม่ถ้าสามารถสกิดได้ถูกจุด แป๊ปเดียวเท่านั้นล่ะครับมาเลย หรือบางรายถ้าของเก่าไม่เข้มข้น มาชาติใหม่ฝึกต่ออีกเล็กน้อยก็จะได้ครับ

    สำหรับข้อสอง ไม่ว่า บุญ บารมี บาป หรือว่ากรรมต่างๆจะติดตามเราไปทุกภพทุกชาติเสมอ แต่ก็ขึ้นอยู่ว่าการอยู่ภพไหนมีอะไรให้ผลได้บ้าง และไม่สามารถให้ผลได้บ้าง เช่น ได้จุติเป็นเทวดาอยู่ในเทวโลกซึ่งเป็นดินแดนสุคติภูมิ บาปกรรมสมัยยังเป็นมนุษย์อยู่นั้นจะยังไม่ให้ผล ให้ได้เสวยผลบุญกุศลไปก่อน หากหมดบุญหรืออายุขัยจากการเป็นเทวดา ก็จะไปจุติยังนรกภูมิเพื่อชดใช้กรรม เป็นต้น (อันนี้ยกตัวอย่างให้เห็นนะครับว่าในเทวโลกผลบาปอกุศลกรรมจะยังไม่ให้ผล ส่วนการไปจุติยังภพภูมิต่างๆต่อไปนั้นยังมีตัวแปรอื่นๆที่เกี่ยวข้องอีก เช่น การประพฤติตนขณะเป็นเทวดา ก็เกี่ยวข้องครับ)

    กับบทชุมนุมเทวดา ถ้าไหนๆเค้ามาเข้าฝันคุณแล้วก็ลองกำหนดจิตถามเลยครับ ว่าเพราะด้วยเหตุอะไร แต่ถ้ายังไม่มีโอกาส คุณก็สวดบทชุมนุมเทวดาตอนเริ่มต้น พอสวดมนต์เสร็จคุณก็สวดบทเชิญเทวดากลับปิดท้ายด้วยนะครับ ลองดูนะครับว่าผลที่เกิดขึ้นยังเหมือนเดิมหรือเปล่า แต่โดยตามความเข้าใจการสวดบทชุมนุมเทวดาคือการเชื้อเชิญท่านเทวดาทั้งหลายอย่างเป็นทางการ แต่ก็ไม่ได้หมายถึงว่าถ้าไม่เชิญแล้วท่านจะไม่มา บางบทสวดเป็นบทสวดใหญ่ท่านเทวดาทั้งหลายยินดีมาอยู่แล้ว หรือแม้กระทั่งสวดมนต์บททั่วๆไปท่านที่ทราบก็มาร่วมสวดกับเราเป็นปกติอยู่แล้วเช่นกัน ดังนั้นถ้าเห็นว่าท่านเทวดาทั้งหลายที่มาเข้าฝันไม่อยากให้สวด ถ้าทำตามแล้วรู้สึกสบายใจก็ทำตามปกติที่ทำนะครับ สำหรับปัญหาเรื่องการห้ามสวดบทชุมนุมเทวดาผมเองก็ไม่สามารถหาคำตอบได้ แต่สำหรับเหตุผลบางประการที่ให้ไปในเรื่องการสวดบทเชิญเทวดากลับ ด้วยเพราะเหตุที่ว่าเมื่อเรียกชุมนุมท่านทั้งหลายแล้ว ถ้าไม่ได้เชิญท่านกลับ ท่านจะต้องอยู่รอจนกว่าจะ 6 โมงเช้าของอีกวันนึง ซึ่งเรื่องนี้มีหลากหลายองค์ความรู้ อยู่ที่แต่ละท่านจะพิจารณาเอาเองนะครับ ว่าจะสวดหรือไม่สวดบทเชิญเทวดากลับครับ

     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 27 กรกฎาคม 2011
  18. johappy

    johappy สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 สิงหาคม 2011
    โพสต์:
    21
    ค่าพลัง:
    +1
    บุญไม่ค่อยพอหากเกิดตายฉับพลันขึ้นมาจะอธิษฐานจิตได้ไม่ครับท่าพระยา

    กลัวพอตายสงสัยไปนรกภูมิมากกว่าช่วงนี้เพลินกับความรักมากไปหน่อย
    เจอด่านทดสอบเก่าอยู๋นะครับ ไม่ค่อยได้ทำบุญเท่าไร
     
  19. พระยาเดโชชัยมือศึก

    พระยาเดโชชัยมือศึก สินธพอมรินทร์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 เมษายน 2005
    โพสต์:
    2,742
    ค่าพลัง:
    +12,024
    ---ดังนั้น ในชาตินี้ ก็ต้องสวดมนต์ภาวนาสร้างบุญไว้ไง สวดมนต์บทพระจักรพรรดิ ร่วมสร้างสิ่งที่เป็นประโยชน์ให้พระศาสนา เรื่องความรักมันก็มีเป็นธรรมดา ขึ้นชื่อว่าคน ย่อมมีรักโลภโกธรหลง แต่ถ้ามาทางสายนี้ ต้องให้น้อยลง และต้องใช้ปัญญาพิจารณาให้มาก หลายครั้งที่ตัวขี้เกียจมาเยือน แต่ก็อาจจะเป็นบุญเก่าให้มีการกระตุ้นให้ขยันขึ้นมา มันเป็นไปตามกรรมเก่าด้วย กรรมการกระทำในปัจจุบันด้วย
     
  20. johappy

    johappy สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 สิงหาคม 2011
    โพสต์:
    21
    ค่าพลัง:
    +1
    สอบถามท่านพระยาเดโชผมมาจากสายไหนเหรอครับ

    ต้องปฎิบัติอย่างไรจึงสามารถสร้างบารมีให้เต็มได้เต็มเร็วที่สุดครับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...