พุทธภูมิ: ปรารถนาแรงกล้า ก็อาจไม่ได้ดังฝัน...

ในห้อง 'พุทธภูมิ - พระโพธิสัตว์' ตั้งกระทู้โดย พลายนิล, 6 กันยายน 2007.

  1. vera_p

    vera_p เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 เมษายน 2009
    โพสต์:
    260
    ค่าพลัง:
    +588


    รับทราบด้วยความเคารพครับท่านอาวุโส เป็นจริงอย่างที่ท่านศรี...อรรถาธิืบายมาครับ

    ปล.ผมรู้ว่าท่านศรีมีจุดประสงค์หมายเช่นนั้นครับ ผมถึงไม่ได้ตอบอะไรปล่อยให้ว่างๆ ไป สาธุกับมหากิริยานั้นๆครับ
     
  2. Lokudtradham

    Lokudtradham เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    218
    ค่าพลัง:
    +339
    อย่าให้กิเลสหลอกสิครับ อยู่ที่ใจครับ
     
  3. Sriaraya5

    Sriaraya5 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    3,079
    ค่าพลัง:
    +12,852
    ถึงผู้ยังต้องศึกษา ควรเป็นมหาอกิริยา

    การกระทำ อันเนื่องมาจาก ไม่มีผลของบุญ และ บาป

    จึงเรียก อกิริยา กิริยา ที่ไม่มีกรรม ท่านผู้จะหักยอดฉัตรในอนาคต ไม่ใช่แค่ประดับ ดาว
     
  4. vera_p

    vera_p เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 เมษายน 2009
    โพสต์:
    260
    ค่าพลัง:
    +588
    ท่านศรีน่ะ ท่านศรี
     
  5. คนนะ

    คนนะ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    76
    ค่าพลัง:
    +221
    ขอเรียกร้องความสนใจมั่ง อิอิ

    บอกตามตรงครับ ผมอ่านแล้ว งง กับคนที่มา้ตอบหลายข้อความ (อาจเพราะไม่ฉลาดมาแต่เดิม อ๊ะ อิอิ)


    แต่โดยส่วนตัวนะครับ ผมเห็นด้วยกับ ข้อความที่เจ้าของกระทู้ เอามาให้อ่าน
    เพราะดูจากทุกวันนี้ มีคนมาก........มาย.........ที่มีจุดหมาย ที่จะรวยกันทั้งนั้น
    แต่คนที่รวยได้จริงๆ มีไม่กี่คนเอง
    ในทางสายพุทธภูมิเอง ก็ไม่(น่า)แตกต่าง หากไม่ใช่คนที่เกิดมาด้วยเหตุ ที่สมบูณร์พร้อม และ ตลอดรอดฝั่งจริงๆ ก็หมดสิทธิ์
    หากตกนรกสักอสงไขย์ นึ่ง คุณคิดรึว่าจะไม่ลืม ปนิธานที่ตั้งใจไว้ หรือ หากหลงไปเกิดเป็นพรหมลูกผักสักหนึ่งรอบ คิดว่ายังจะมีอยู่มั๊ย ปนิธานธรรม ที่เคยตั้งไว้
    กิเลสเป็นของประจำอยู่แล้วในขันธ์ทุกๆขันธ์ เกิดกี่ครั้งก็ยังมีอยู่แขงแรงอยู่
    แต่ปนิธานธรรมเพื่อสิ่งบริสุทธิ์ ที่ไม่มีของอะไรตอบแทนเช่นโพธิญาณนั้น ไม่ใช่ของที่ๆ ไครก็จะมีตลอดรอดฝั่งได้ ความเป็นพุทธไม่ใช่สิ่งที่สำเร็จได้ โดยเจตนา หรือโดยความตั้งใจ ของตนเอง

    (สำหรับคนที่คิดว่าตัวเองบารมีเติมแล้ว รอตรัสรู้อย่างเดียว ก็รองรอดูครับ ของมันรองกันได้ อิอิ )

    ปล.แค่อยากบอกว่าคุณคงพอจะรู้ได้ว่า คุณทำเพราะมีธาตุแห่งพุทธมาแต่เดิม หรือ ทำเพราะหลงในรูปแห่งพุทธเท่านั้น

    ผมพึ่งจะเคยตอบกระทู้กะเขา หากผมใช้ภาษาไทยไม่ถูกต้อง หรือ พิมผิดพราด
    เห็นผิดพลาดจากทำนองครองธรรม ต้องกราบขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยครับ
     
  6. ขอมจำแลง

    ขอมจำแลง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 กรกฎาคม 2007
    โพสต์:
    407
    ค่าพลัง:
    +1,273

    คุณทั้งคู่นี่สงสัย จะพอใจเรื่องการมีคู่อยู่ ผมคนหนึ่งที่พอใจทีไรแล้วรู้สึกว่ามันทุกข์ เวลาเรามีอะไรขัดใจ อารมณ์โทสะจะเกิด เราจะทุกข์เพราะแรงตัณหา ก็มาคิดย้อนหลังไปว่าเวลาแฟนเราโกรธ(ไม่ว่าจะโกรธเรา โกรธใคร) เราจะทุกข์ไปด้วยไหม หรืออาจจะวุ่นวายเรื่องอื่นๆไปด้วยไหม มันก็จริง เวลาต้องกิน ต้องใช้เงิน ต้องทำงาน เราทุกข์ แฟนเราทุกข์ เราก็ทุกข์เพราะเกี่ยวเนื่องกัน ............

    *** แต่...เวลาทำ...ทำไม พวกคุณคิดว่าสุข ...ก็มนุษย์ทุกคนสุขอยู่ได้จากกาม เป็นเหตุทั้งสิ้นมิใช่เหรือ มนุษย์ที่พอมีปัญญาทางธรรม เห็นโทษจากกามก็พากันรักษาศีล เพื่อควบคุมตัณหาให้อยู่ในขอบเขตที่พอจะทุกข์ไม่มากได้ เท่านั้น...กามก็ยังต้องการสนองอยู่..แต่ทุกข์อยู่คนเดี่ยวไม่ดีหรือ

    *** ผมว่าสำหรับนักปฏิบัติ เรื่องคู่ครองนั้น เข้าตำราคนในอยากออก คนนอกอยากเข้า แต่มันเป็นหน้าที่จะออกไปไหนก็ไม่ได้...มาๆ มาทำต่อไป 555555....

    *** หากเราระงับกามราคะได้สัก 3 วัน ติดต่อกัน(ลองรักษาศีล8 แล้วระวังกามฉันทะ หากเกิดก็เอาใจที่อธิษฐานจิตรักษาศีลนี่ข่มมันไว้) แล้วมาพิจารณาอย่างที่ว่า แล้วจะไม่ค่อยอยากมีแฟน เพราะชีวิตที่สงบจากกามมันสุขกว่าเยอะเลย เว้นคุณต้องการที่พึ่งหรือเพื่อน ......ซึ่งผมว่าพระรัตนไตรพึ่งได้ดีที่สุด เที่ยงตรงมั่นคง ตอบต่อเรามากที่สุด แต่หากมันมาจริงๆ แบบคู่กันจริงๆ ผมว่าหลบยาก...ถึงยากมากที่สุด หุหุหุหุหุ.....
    *** vera_p ... โชคดี.....เดี๋ยวนี่ชื่อมันเยอะเวฟนี้ จำกันไม่ค่อยได้
     

แชร์หน้านี้

Loading...