พุทธวจน-วงจรปฏิจจสมุปบาท คือ ทางสายกลางในการปฏิบัติครับ

ที่สุดของอวิชชาคือการบังคับนิมิตได้ วิชาจูนิเบียวผม ผมคงต้องพอแค่นี้ ต้องไปแก้เรื่องฝันก่อน อย่ามาเลียนแบบนาหาว่าไม่เตือน

 

รู้ผัสสะแต่ละนันทิราคะได้ทัน(หรือไม่เอาจิตออกจากลมหายใจ-หรือกายคตาสติเลย-เพื่อไม่ให้ผัสสะเกิด-ทรงสติปัฏฐานสี่ไว้ได้ตลอดเวลาครับ)..เขาเรียกละนันทิราคะ อารมณ์ยังไม่ทันเกิด-เราดึงจิตกลับมาที่ลมหายใจ-หรือกายคตาสติก่อนไงครับ ..ผู้ที่มีอินทรีย์ภาวนาชั้นเลิศ คือผู้ที่ละนันทิราคะได้ดุจกระพริบตานี่ พุทธวจน..

 

..อ้าวไหงเป็นงั้นไปอีก..อุตส่าห์เหนื่อยมาตอบให้ นึกว่าเข้าใจ-สนใจจริง-ดันมาอวดเก่งรู้กว่า พุทธวจนอีกแน๊..
..ห้องนี้มันจะมีแต่คนบ้ารึไงนี่วุ๊ยไปดีกว่าถ้างี้นะ...เอ๊ยยยย

 

ถ้าเคยฝึกมา จะตามทันหมดแหล่ะ

ความรู้สึก เป็นผัสสะทางกาย ตาหูจมูกลิ้นกาย
ความคิด การปรุงแต่ง เป็น ผัสสะรวมที่ใจ ใจรับมารู้ มาปรุง มาคิด
จิตวิญญาณคือตัว รู้ ที่มันเรียก..มันกำหนด ความรู้สึกว่าเป็น เวทนา สุขทุกข์ แล้วก็ อุปทานเป็นกิเลสตัณหา เกิดภพเกิดชาติต่อไป

ทีนี้ถ้าใครฝึกตามทัน(ฝึกดูรู้ตาม โดยเอาจิตวิญญาณมาตั้งนิ่งๆให้เป็นตัวสติที่เฝ้าดูเฝ้ารู้..ผัสสะของกาย และใจ ทัน(และมันมีวันทัน)
ช่วงแรก สติจะช้ากว่า ตาม ไม่ทัน ผัสสะกายและความคิดที่เกิด ตั้งอยู่ และดับไป
ช่วงที่สองจะตามทันมันเกิดแล้ว และตามดูจนดับทัน
ช่วงสามจะรู้ทันก่อนที่ความคิดจะเกิด .(ตรงนี้คือที่จะเกิดปัญญา)

 

ไปฝึกวิชาสังขารมาใหม่ แก่แล้วก็ต้องเข้าวัด นี่มาฝึกวิชา ไม่ปกติกันหมดแหละ วิชาที่ดีคือไม่ต้องฝึกเลย

 

ก็ท่านพูด ยกตัวอย่างแก่สาวก...
ท่านไม่ได้พูดว่าท่านต้องคอยทำแบบที่คุณเข้าใจนี่..อย่าคิดเองสิครับ

 

แล้วไงต่อ
...

 

ตอบอะไร...ยกแต่ยูทูปมาอ้าง เหนื่อยตรงไหน
ตอบอะไรก็ ไม่ชัดเจนสักอย่าง...ถามอย่างนึง ตอบอีกอย่างนึง
ไปเล่น ปาหี่ ที่อื่นเถอะ...

 

ถามเพื่อ..?

 

นี่ถ้าต่อได้
จะ ขอตบเข่าสักป๊าป
มันส์

แต่ ตอบแบบนี้
โอน ให้พี่เกิดละกัน ฮิ้วว

 

ต่อได้จนจบ นั่นแหล่ะ ทะลุจักรวาล ถึงนิพพานไปเลย
แต่จะตอบแก่คนที่เขาฝึกถึงเท่านั้น
พวกแมวเห่าใบตองแห้ง..ตอบไปก็เท่านั้น

 

ขอเพลง ธรณี กรรแสงหน่อยครับ อาจารย์ นิวรณ์ ผมไปละเหนื่อยใจแต่ก็น่าสงสารนะนี่..พลังโรคจิต เต็มเวบเลยครับ บายๆๆ

 

ไหงงั้นละพี่เกิด
ผมบ่แม่น นิวรณ์ คนละคน
...

ถึงพ่อลูกสอง
เคยได้ยินไหมฮับ

พระจักขุบาล
ท่านเห็นแบบปี้นี่แหละ
แต่ทั้งหมดพันจักวาล
แต่ก็ไม่พ้นสักกะที

เพราะอะไร ?
ท่านเลยไปถามพระสารีบุตร
...
ติ๊ง จบ
โอนให้พระไตรปิฏก

 

ไป ไบโพล่า ที่อื่นเถอะ...บาย
หัดสงสารตัวเองบ้างนะ...รู้ตัวป๊ะ

 

ก็ถามไปเรื่อย แล้วไง...ได้คำตอบที่จริงมั้ยล่ะ
แล้วรู้เหรอว่า เป็นคำตอบ ที่มันจริง
555

 

โทษที ไม่ใช่พระจักขุบาล
พระอนุรุท
จำผิด สรรพ...อนัตตา

ไปหาน้ำใบบัวบกกินแปป...

 

อย่าลืมครีมทาหน้าแตก
ยาทาสีข้างถลอก
หมวกเหล็กเวลามุดดินหนีด้วยนะ...ฮิ้วววว?

 

ของแกมัน พลังโรคจิต กับวันละโรค และไบโพล่า รวมกัน
เขาเรียก พวก ไม่เอาถ่าน...สติแตก ขันติแตก....เพราะมีบาปในใจเยอะกว่ากุศล...บอกให้หุบปากแผ่เมตตารักษา ตนเอง
นี่ยัง...ไม่ทำ...ตายไปก็ลงนรก ...ไปเกิดเป็นสัตว์เดรัจฉาน...ต่ออีกยาว

 

ไม่เรียนปฏิจจสมุปบาทได้ไหม เรียนรู้ทุกข์ในปัจจุบันลูกเดียว

 

ดูคำตอบครับ..ดูคำตอบ..ท่านทั้งหลายดูคำตอบ

มีผัสสะ แต่ละนันทิราคะได้ทัน...คราวแรกตอบว่า ไม่ผัสสะ หยุดผัสสะ
หรือไม่ก็..เอาจิตออกจากลมหายใจ..(ไม่รู้หมายถึงอะไร)
หรือกายตยคติเลยเพื่อไม่ให้ผัสสะเกิด..(ทำได้จริงเหรอ เขาทำกันแบบนี้เหรอ )
ทำกายตยคติ ทำสติปัฏฐานสี่ เพื่อ ไม่ให้ผัสสะเกิด..ได้งั้นเหรอ..ใครสอนมา

เขาเรียกละนันทิราคะ อารมณ์ยังไม่เกิด..แปลว่าราคะยังไม่เกิด
แล้วเอาราคะที่ไหนมาละ เอาอารมณ์ที่ไหนมาละ กันน้อ

ชั้นเลิศ ละนันทิราคะได้ดุจกระพริบตา...ละตอนไหน ครับ
ขนาดผัสสะยังกลัว ยังไม่ยอมให้ผัสสะเกิด..อารมณ์มามีให้ละตอนไหนครับ