หมดแล้ว <<ฟ้าสร้าง>> หนุมานเกราะเพชรมากประสบการณ์ หลวงปู่หริ

ในห้อง 'พระเครื่อง วัตถุมงคล' ตั้งกระทู้โดย ฟ้าสร้าง, 24 พฤศจิกายน 2009.

  1. โก๋เอี่ยม

    โก๋เอี่ยม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    1,784
    ค่าพลัง:
    +730
    สวัสดียามเช้าจ้า
     
  2. K_P

    K_P เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    1,151
    ค่าพลัง:
    +3,536
    สวัสดีพี่โก๋ว วันนี้ไม่ทำงานหรอ
     
  3. odinid

    odinid เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มกราคม 2010
    โพสต์:
    218
    ค่าพลัง:
    +878
    สวัสดียามสายครับ
     
  4. โก๋เอี่ยม

    โก๋เอี่ยม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    1,784
    ค่าพลัง:
    +730
    เพิ่งตื่น จะไปกินข้า่วอาบน้ำละ บรรยากาศน่านอนจิงๆ
     
  5. ฟ้าสร้าง

    ฟ้าสร้าง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2009
    โพสต์:
    2,917
    ค่าพลัง:
    +1,995
    น้องก็สายเลยวันนี้.....
     
  6. ฟ้าสร้าง

    ฟ้าสร้าง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2009
    โพสต์:
    2,917
    ค่าพลัง:
    +1,995
    ประคำมหาวิมุตติ ครูบาศรีวัยท่านปลุกเสก 2 รอบเลยค่ะ

    [​IMG]

    [​IMG]
     
  7. ฟ้าสร้าง

    ฟ้าสร้าง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2009
    โพสต์:
    2,917
    ค่าพลัง:
    +1,995
    :boo::boo::boo::boo: หายกันหมดเลย 555
     
  8. พิมาน

    พิมาน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 กันยายน 2009
    โพสต์:
    828
    ค่าพลัง:
    +3,953
    ผมได้รับอิ่น 6 องค์แล้วครับ คุณฟ้าสร้าง
     
  9. ฟ้าสร้าง

    ฟ้าสร้าง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2009
    โพสต์:
    2,917
    ค่าพลัง:
    +1,995

    ค่ะพี่.............
     
  10. เย็นวันศุกร์

    เย็นวันศุกร์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 มกราคม 2009
    โพสต์:
    176
    ค่าพลัง:
    +581
    ได้รับอิ่นเรียบร้อยแล้วนะครับ
     
  11. ฟ้าสร้าง

    ฟ้าสร้าง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2009
    โพสต์:
    2,917
    ค่าพลัง:
    +1,995
    รับทราบค่ะ
     
  12. numkitti

    numkitti เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มกราคม 2008
    โพสต์:
    343
    ค่าพลัง:
    +844
    คุณฟ้าสร้าง
    ได้รับของทั้ง 2 ครั้งเรียบร้อยแล้วครับ
     
  13. ฟ้าสร้าง

    ฟ้าสร้าง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2009
    โพสต์:
    2,917
    ค่าพลัง:
    +1,995
    ค่ะพี่..........
     
  14. ฟ้าสร้าง

    ฟ้าสร้าง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2009
    โพสต์:
    2,917
    ค่าพลัง:
    +1,995
    วันที่ ๖,๗ กพ.ครูบาธรลงมากทม. เข้ากราบได้ทุกวัน
    วันเสาร์ห้าที่ ๒๐-๒๑ มีค.มีงานใหญ่สมโภชน์ บรมครูปู่ฤๅษีทันใจ พิธีกรรมตลอดคืน รวมเกจิ เป่ายันต์ เสกวัตถุมงคล สัก ลงทอง และอื่นๆตามสายวิชาครูบาอาจารย์แต่ละท่านให้เตรียมตัวไว้นะค่ะ งานนี้จะนิมนต์มามากมายทั้งรุ่นเล็กรุ่นใหญ่
    <!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end -->
     
  15. ฟ้าสร้าง

    ฟ้าสร้าง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2009
    โพสต์:
    2,917
    ค่าพลัง:
    +1,995
    หลวงปู่ครูบาทั้ง ๙ องค์อัญเชิญญาณปู่ฤาษีปลุกเสกบรมครูปู่ฤาษีพัดโบกกันแบบเห็นๆ จะๆ เต็มๆ เพราะของมีเฉพาะที่อยู่ในพานรวม 1000 องค์เท่านั้น
    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]
     
  16. ฟ้าสร้าง

    ฟ้าสร้าง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2009
    โพสต์:
    2,917
    ค่าพลัง:
    +1,995

    ประวัติหลวงปู่ครูบาบุญทา วัดเจดีย์สามยอด
    <O:p
    ปัจจุบันอายุ๗๗ปี เกิด ๒๒ มิย. ๒๔๗๕ ที่ บ้านหนองเกิ๊ด อ.ป่าซาง จ.ลำพูน พออายุ ๑๑ ปี หลวงปู่ครูบาส้อ เกจิชื่อดังองค์หนึ่งของอ.ป่าซางซึ่งขณะนั้นเป็นเจ้าอาวาสอยู่วัดหนองเกิ๊ด ขอท่านมาเป็นขโยมวัด แล้วสอนให้อ่านเขียนตัวเมืองล้านนา หัดสวดมนต์ หัดเทศน์ธรรม จนได้คล่องแคล่วแล้วจึงให้บวชเป็นสามเณร เมื่ออายุ ๑๕ ปี หลังจากเป็นสามเณรแล้วก็ยังได้อยู่อุปฐากรับใช้ ศึกษาวิทยาคมรวมถึงกรรมฐานกับหลวงปู่ครูบาส้อจนเจริญรุดหน้าอย่างรวดเร็ว กระทั่งอายุ ๒๒ ปีได้อุปสมบทเป็นพระภิกษุแล้วย้ายตามหลวงปู่ครูบาส้อไปปกครองวัดท่าตุ้ม จากนั้นอีก ๔ ปีต่อมาหลวงปู่ครูบาบุญทาถูกส่งไปเป็นเจ้าอาวาสวัดหัวข่วงอยู่เกือบสิบพรรษาจนเกิดความเบื่อหน่ายจึงลาออกแล้วเดินทางไปอยู่อ.เชียงดาว ศึกษาพระเวทย์วิทยาคมแปลกๆในสายพระฤๅษี กระทั่งหลวงปู่ ครูบาส้อ วัดท่าตุ้ม เกิดมรณภาพ จึงรีบกลับมา เมื๋อเสร็จจากงานศพแล้วหลวงปู่ครูบาสม เจ้าอาวาสวัดเจดีย์สามยอดศิษย์ผู้พี่ได้นิมนต์ให้อยู่กับท่านเพื่อช่วยงานพัฒนาวัดฯ ต่อมาหลวงปู่ครูบาสมมรณภาพ หลวงปู่ครูบาบุญทาจึงได้รับแต่งตั้งเป็นเจ้าอาวาสสืบมากระทั่งปัจจุบัน หลวงปู่ครูบาบุญทาเมื่อเป็นเจ้าอาวาสแล้วก็ได้เป็นที่พึ่งของชาวบ้านย่านนั้นมาตลอด ใครๆก็มาให้ท่านสงเคราะห์จนมีสานุศิษย์นับถือมากมาย กระทั่งเรื่องอำนาจจิตและเวทย์วิทยาคมของท่านเริ่มเป็นที่รู้จักขจรขจายไปทั่ว งานพุทธาภิเษกของวัดต่างๆในพื้นที่ต้องมาอาราธนาขอให้ท่านไปนั่งปลุกเสกทุกครั้ง แต่ท่านเองกลับไม่เคยจัดสร้างวัตถุมงคลของท่านเองสักครั้ง จนกระทั่งปัจจุบันคณะศิษย์ได้ดำเนินการขออนุญาติท่านสำเร็จ หลวงปู่จึงปรารภให้สร้างลูกสุนทรีตามวิชาของหลวงปู่ครูบาส้อผู้เป็นพระอาจารย์ (เหมือนที่ภาคกลางเรียกว่า ปรอทกรอ) ตะกุรดดอกคำ(ตะกรุดดอกทอง) และ สายคาดเอวตะกรุด ๑๐๘ ดอก ขึ้นเป็นวัตถุมงคลรุ่นแรกอย่างเป็นทางการ โดยปลุกเสกเดี่ยวจนเกิดปาฏิหารย์เสียงลูกสุนทรี(ปรอทกรอ)ดังเกรียวกราว<O:p
    <O:p
    สำหรับหลวงปู่ครูบาส้อพระอาจารย์ของหลวงปู่นั้นท่านเก่งในทุกๆด้าน ไม่ว่าจะเป็นด้านเมตตามหาเสน่ห์หรือด้านข่ามคง แต่ถึงแม้ท่านจะเก่งขนาดไหน?ท่านก็ยังพกลูกสุนทรี(ปรอทกรอ)ตลอดเวลา และในการปลุกเสกทุกครั้งต้องอัญเชิญกระแสพลังจากลูกสุนทรีนี้ลงประจุในวัตถุมงคลด้วยตลอด โดยใส่ไว้ในบาตรน้ำมนต์ พอปลุกเสกจนได้ที่น้ำมนต์จะสั่นมีเสียงร้องวิ๊งๆจากปรอทเสร็จแล้วจึงใช้น้ำพระพุทธมนต์นี้ประพรหม ต่อมาเมื่อหลวงปู่ครูบาส้อมรณภาพลูกสุนทรี(ปรอทกรอ)นี้ได้ตกทอดสู่หลวงปู่ครูบาบุญทาและหลวงปู่ครูบาบุญทาก็ได้นำมาใช้ในพิธีกรรมปลุกเสกตามแบบของหลวงปู่ครูบาส้อผู้เป็นพระอาจารย์กระทั่งปัจจุบัน<O:p

    ครูบาบุญทาท่านทำการปลุกเสกวัตถุมงคลรุ่นแรกของท่านเต็มที่เลยค่ะ

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]<!-- google_ad_section_end -->



    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]
     
  17. ฟ้าสร้าง

    ฟ้าสร้าง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2009
    โพสต์:
    2,917
    ค่าพลัง:
    +1,995
    ตะกรุดดอกคำครูบาบุญทา สร้าง 99 ดอกค่ะ

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]
    ตะกรุดดอกคำภายในบรรจุผงว่านดอกทองไว้ด้วยค่ะ<!-- google_ad_section_end -->


    <CENTER>[​IMG]
    </CENTER>



    ว่านดอกทองหรือรากราคะ

    "รากราคะ" หรือที่ชาวบ้านเรียกกันว่า "ว่านดอกทอง"ซึ่งเป็นว่านโบราณที่หายากและใกล้จะสูญพันธุ์ว่านนี้เป็นพืชตระกูลเดียวกับขิงลักษณะลำต้นใต้ดินเป็นเหง้ากลม แตกแง่งเป็นไหลเล็กยาว 5-10 นิ้วเนื้อในหัวถ้าเป็นตัวผู้จะมีสีเหลือง ส่วนตัวเมียเนื้อสีขาวมีกลิ่นคาวจัดคล้ายกับอสุจิของคนพบมากทางภาคตะวันตกและภาคเหนือแถบจังหวัดกาญจนบุรี ตาก ลำปาง ใบเป็นรูปหอกสีเขียวมีขนาดเล็กเส้นกลางใบสีแดงทั้งต้นสูงประมาณ 1 ฟุต ออกดอกในหน้าฝน คล้ายดอกกระเจียวแต่ไม่มีก้านดอกจะอยู่ติดกับพื้นดิน มีสีขาวอมเหลืองกลิ่นหอมเย็น ดอกจะแทงขึ้นจากเหง้าหลักที่อยู่ใต้ดินก่อนการงอกของใบ

    ว่านดังกล่าวปัจจุบันใกล้จะสูญพันธุ์แล้วตามตำราโบราณระบุว่ามีอำนาจทางเพศรุนแรงมากโดยเฉพาะกับผู้หญิง ถ้าเอาหัว ใบหรือต้นใส่โอ่งน้ำหรือบ่อน้ำให้กินหากใครกินเข้าไปจะมีความรู้สึกทางเพศรุนแรงและโดยเฉพาะดอก ผู้ที่ได้กลิ่นทั้งหญิงและชายจะพากันมัวเมาในกามโลกีย์ ฉะนั้นจึงต้องเด็ดดอกออกเสียก่อนที่ดอกจะบานหากปลูกในบ้าน

    นอกจากนี้ตามความเชื่อโบราณปลูกไว้ที่บ้าน ร้านค้ามีสรรพคุณทางเมตตามหานิยม ทำให้มีลูกค้าอุดหนุนอย่างไม่ขาดสายและพกติดตัวด้วยมีความเชื่อว่าหากสตรีใดต่อคารมด้วยมักใจอ่อนคล้อยตามได้ง่าย<O:p

    หลวงพ่ออั๊ป วัดท้องไทร เคยเล่าให้ฟังว่า อาจารย์ฆราวาสชาวเขมรที่สอนวิชานางพิมดำเซนให้ก็พกว่านดอกทองตลอดเวลา อาจารย์ชาวเขมรผู้นี้มาปักหลักอยู่ไม่ไกลจากวัดนัก ประกอบอาชีพเกษตรกรรม ได้เมียคนไทย 3-4 คน อยู่บ้านเดียวกันช่วยทำสวนทำไร่จนร่ำรวย

    ที่เขาหมอน อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี มีว่านดอกทองจริง ๆ และมีมากพอสมควรจะออกดอกในหน้าหนาว สังเกตุได้จาก มีหมู่บ้านหนึ่งช่วงหน้าหนาวนี้จะมีการเล่นชู้กันมากเนื่องจากลมหนาวพัดเอาเกสรของว่านดอกทองผ่านหมู่บ้านพอดี ผมเคยขึ้นไปบนเขาแลเห็นว่ามีว่านชนิดนี้อยู่มากมาย ออกดอกเต็มไปหมด แถวอ.สัตหีบจะรังเกียจว่านชนิดนี้มาก เพราะจะทำให้คนเล่นชู้กัน

    <O:pที่ภาคเหนือ คนพื้นเมืองถือเป็นเรื่องปกติครับแต่ว่าคนแถวนั้นเขาจะเรียกว่า ว่านมหาเสน่ห์มากกว่าจะให้คุณเฉพาะผู้ที่บูชาเท่านั้น แต่มีปัญหาว่า ดูอย่างไรว่าเป็นว่านแท้เพราะว่าลำต้น ใบ เหมือนต้นไม้หลายชนิดมาก ต้องดูกันละเอียด

    หลวงปู่ครูบาบุญทา ได้นำมาปลุกเสกบรรจุลงในหลอดตะกรุด ตามตำราที่ท่านได้ร่ำเรียนมา<O:p



    คาถาตะกรุดดอกคำ(ดอกทอง)หลวงปู่ครูบาบุญทา วัดเจดีย์สามยอด<O:p



    วิวะ อะวะ สุสะตะ วิวะ สวาหุม<O:p
    <!-- google_ad_section_end -->
     
  18. ฟ้าสร้าง

    ฟ้าสร้าง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2009
    โพสต์:
    2,917
    ค่าพลัง:
    +1,995
    ละงั่ง มหาเสน่ห์

    [​IMG]

    ครูบาแม้วท่านลงยันต์หัวใจละงั่ง 108 แผ่นเพื่อหลอมเป็นชนวนด้วยนะคะ
    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]
     
  19. ฟ้าสร้าง

    ฟ้าสร้าง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2009
    โพสต์:
    2,917
    ค่าพลัง:
    +1,995
    <TABLE class=tborder id=post2817317 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR vAlign=top><TD class=alt1 id=td_post_2817317 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid">ฝูงแมงวันคำครูบาธร


    [​IMG]

    [​IMG]<!-- google_ad_section_end -->

    ครูบาธรท่านลงแผ่นยันต์เพื่อเป็นชนวนจัดสร้างแมงวันคำอุดผงมหาเสน่ห์ค่ะ
    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]


    [​IMG]

    [​IMG]

    ประวัติครูบาธร(พระครูใบฎีกากำธร กิตติโสภโณ)
    วัดหนองแขม ต.แม่ก๊า อ.สันป่าตอง จ.เชียงใหม่



    เดิมชื่อ กำธร กาวี เกิดเมื่อ ๔ กย. พศ.๒๕๑๔ เป็นบุตร นางบัวแก้ว และพ่อหนานรัตน์ กาวี ชาวบ้านหนองแขม ผู้เป็นศิษย์ของครูบาแก้ว วัดปากร้อง เกจิดัง อ.ป่าซาง จ.ลำพูน พ่อเสียชีวิตลงตั้งแต่ท่านอายุ ๓ ขวบ ดช.ธร ในสมัยนั้นเกิดมาในตะกูลหมอเมืองรักษาคนมาตลอด เนื่องจากปู่เป็นหมอไสยศาสตร์และยาโบราณโดยเรียนมาจากเจ้าน้อยแสนคำ พระเวทย์ต่างๆได้ของตะกูลได้สืบทอดมาถึง ดช.ธร อย่างไม่รู้ตัวเนื่องจากในขณะที่ยังเล็กนั้นพ่อแม่ต้องออกไปทำการเกษตรทิ้ง ท่านไว้ให้ปู่เป็นคนเลี้ยงจนกลายเป็นหลานรักของปู่ขนาดพ่อแม่ว่ายังไม่ได้ เพราะปู่จะห้าม การที่ท่านได้อยู่กับปู่นั้นทำให้ท่านได้เห็นปู่ใช้ไสยศาสตร์คาถาอาคม สงเคราะห์คนตลอดตั้งแต่จำความได้ พิธีการต่างๆคาถาทุกๆบทถูกซึมซับเข้าสู่ความจำของเด็กน้อยอย่างรวดเร็ว การเรียนสมาธิจิตก้าวหน้าเกินผู้ใหญ่ไปไกลเพราะเด็กเล็กมีจิตใจสะอาด บริสุทธิ์และสมองอยู่ในระยะจดจำเรียนรู้ ทำให้เมื่อท่านอายุ ๕ ขวบปู่จึงให้เริ่มปัดเป่ารักษาคนซึ่งก็ได้ผลดี ส่งผลให้ดช.กำธร กลายเป็นเด็กเหนือธรรมดาและเป็นอีกที่พึ่งหนึ่งของชาวบ้าน แต่ขณะเดียวกันก็ทำให้เด็กชายกำธร มีวิถีการดำเนินชีวิตที่ผิดแปลกไปคือไม่ชอบเรียนหนังสือเหมือนเด็กอื่นๆ จนกระทั่งปู่เสียชีวิตลง ดช.ธรจึงได้บวชลูกแก้วเป็นสามเณรเมื่ออายุ๑๒ปี ณ.อุโบสถ วัดหนองแขมมีพระครูวิบูลย์วิหารกา วัดเวฬุวนาราม สันป่าตอง เป็นอุปัชฌาย์ โดยบวชแล้วไปอยู่กับครูบาบุญทา ปัญญาวุฒิโท ตุ๊ลุง(ญาติข้างแม่)ผู้เชี่ยวชาญโหราศาสตร์ วัดหลักพัน อ.สันทราย ช่วงที่อยู่กับตุ๊ลุงนั้นท่านพาเณรธรไปฝากเรียนหนังสือตามโรงเรียนโดยเรียน รวมกับเด็กปกติทั่วไป เณรธรมิอาจขัดได้ทั้งๆที่ใจไม่ชอบ ท่านเลยไปตามใจตุ๊ลุงแต่ไปโรงเรียนละวัน เปลี่ยนไปหลายโรงเรียนจนตุ๊ลุงเริ่มท้อ ในที่สุดตุ๊ลุงและญาติๆเริ่มคิดว่าท่านเป็นเณรไม่เหมือนเด็กอื่นจึงอายที่จะ เรียนร่วมกัน จึงให้ท่านสึกออกมาเมื่ออายุ ๑๕ ปี แต่ความจริงญาติๆไม่รู้ว่าที่เณรธรไม่อยากเรียนหนังสือนั้นเพราะท่านชอบที่ จะเรียนพระเวทย์มากกว่า มีเวลาครั้งใดท่านต้องเที่ยวไปเสาะหาหนานแก่ๆต่อคาถาอาคม
    ระหว่างที่สึกจากเณรมานั้น ท่านก็ยังไม่ไปเรียนหนังสือต่ออยู่ดี เพราะวันๆหนึ่งได้แต่ศึกษาวิชาอาคมกับรักษาสงเคราะห์ชาวบ้านที่มาพึ่งเด็ก หนุ่มวัยรุ่นผู้เรืองอาคมอย่างท่าน จนขนาดสวยดอก(กรวยดอกไม้ธูปเทียนที่ผู้มาหานำมาบูชาครู)เสียบเต็มชายหลังคา บ้าน
    กระทั่งอายุ ๑๘ ย่าง ๑๙ ปี วัดหนองแขมล้างพระจำวัด เหลือเณรเพียงรูปเดียวกำลังจะสึกอีกต่างหาก ชาวบ้านและพ่อหลวง(ผู้ใหญ่บ้าน)จึงรวมตัวกันมาขอร้องให้ท่านบรรพชาไปรักษา วัด ทำให้ท่านไม่อาจปฏิเสธได้จึงทำการบวชเณรอีกครั้ง และบวชพระในเวลาต่อมาเมืออายุครบ ๒๐ เป็นพระอยู่ ๑ ปีได้สึกไปเป็นทหารรับใช้ชาติ จนปลดจากทหารพระครูอาทรตันติธรรมเจ้าคณะตำบลและชาวบ้านจึงไปรับกลับมาบวชใน ปี พศ.๒๕๓๗กระทั่งปัจจุบัน

    ประวัติการเรียนวิชาอาคม

    นอกจากวิชาอาคมสายเจ้าน้อยแสนที่สืบมาจากปู่และคาถาอาคมที่ต่อมาจากหนานอุ๊ย ต่างๆแล้ว ครูบาธรท่านยังร่ำเรียนจากครูบาอาจารย์ต่างๆดังนี้

    พ่อหนานปัน บ้านสบทา ป่าซาง ลำพูน เรียนหัวใจพระรอด แก้ ของรักษาคน
    พ่อหนานเจริญ บ้านสันทราย สันป่าตอง เชียงใหม่ เรียนกำแพง๗ชั้น ๙ยอด
    พ่อหนานแก้ว เมือง๑๒ ปันนา เมืองจีน เรียนสักยันต์ว่านยา กลองสะท้อน ๙ ยอด หัวใจอ้ายงั่ง วีคำ
    พ่อหลวงสุข บ้านแม่ปู ดอยเต่า เชียงใหม่ เรียนแก้ของ
    พ่อหนานจัน บ้านทุ่งปุย ดอยหล่อ เชียงใหม่ เรียนวิชาทั้งหมดของท่าน แต่ที่โดดเด่น คือ แมงวันคำ กับ เสือ ๗ ป๊อด(ชิ้น)หรือเสือแยกร่างนั่นเองแต่ ถ้ารวมเป็นร่างเดียวกันจะแรงมาก หากจะสัก คนที่รับการสักต้องคาบเนื้อและต้องสักในป่าช้าจะขลังมากแต่ขณะเดียวกันการ ถือของวิชานี้ก็มีข้อห้ามมากมายเช่นกัน พ่อหนานจันนี้เป็นหลานครูบาอิน วัดฟ้าหรั่ง เป็นผู้อยู่เบื้องหลังทำตะกรุดกาสะท้อน และทำวัตถุมงคลหลายๆอย่างส่งให้ครูบาอิน วัดฟ้าหลั่งและครูบาดวงดี วัดท่าจำปี และพ่อหนานจันนี้เป็นลุงเขยของครูบาธรจึงได้ถ่ายทอดเคล็ดวิชาเต็มๆที่ทำได้ ผลให้อย่างไม่ปิดบังเพราะเป็นญาติกันไม่ต้องกลัวศิษย์ล้างครูจึงไม่บังวิชา ไว้ ให้แบบเต็มๆ โดยเฉพาะวิชาแมลงวันคำ ที่ครูบาธรทำได้ผลเป็นที่ประจักษ์มาตลอด
    พ่อน้อยมูล บ้านหนองห้า สันป่าตอง เชียงใหม่ เรียนแผงยันต์เตียนปารมี๓๐ทัศ ของครูบาเจ้าศรีวิชัย ที่ครูบาวงศ์ วัดพระพุทธบาทห้วยต้มใช้อยู่ก็มาสืบไปจากพ่อน้อยมูลนี้เนื่องจากพ่อน้อยมูล เป็นผู้สืบทอดมาจากครูบาศรีวิชัย
    พ่อน้อยเจย บ้านดงขี้เหล็ก สันป่าตอง เชียงใหม่ เรียนไล่ผี
    พ่อน้อยเป็ง กะเหรี่ยงบ้านปง แม่ทา ลำพูน เรียนวิชาอิ่นแต่งงาน
    ลุงปะระ กะเหรี่ยงบ้านแม่ตื่น อมก๋อย เชียงใหม่ เรียนสักว่านยาเมตตา
    ครูบาจันติ๊บ วัดไชยชนะ เมือง ลำพูน เรียนกรรมฐานและวิชาของครูบาชุ่ม วัดวังมุย ทั้งหมดเพราะครูบาจันติ๊บเป็นศิษย์เอกผู้ลงตะกรุดกาสะท้อนแทนครูบาชุ่ม
    ครูบาคำ สุสานไตรลักษณ์ แม่วาง เชียงใหม่ เรียนกรรมฐาน
    ครูบาโสภา วัดสันคะยอม แม่วาง เชียงใหม่ เรียนกะปุ๋งแก้ว<!-- google_ad_section_end -->
    </TD></TR><TR><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid">[​IMG] [​IMG]<SCRIPT type=text/javascript> vbrep_register("2817317")</SCRIPT> [​IMG] </TD><TD class=alt1 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 0px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid" align=right>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  20. ฟ้าสร้าง

    ฟ้าสร้าง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2009
    โพสต์:
    2,917
    ค่าพลัง:
    +1,995
    [​IMG]


    ตำนานและความเป็นมาของยันต์พระยาจักรแก้ว<!-- google_ad_section_end -->
    <HR style="COLOR: #ffffff; BACKGROUND-COLOR: #ffffff" SIZE=1><!-- google_ad_section_start -->พระยาจักรพรรดิราชเป็นพระราชาผู้ยิ่งใหญ่ยิ่งกว่าพระราชาทั้งปวงคือเป็นพระราชาผู้มีจักรหรือล้อแห่งรถเลื่อนแล่นไปได้รอบโลกโดยปราศจากการขัดขวางหรือปราบปรามทั่วโลก
    พระยาจักรพรรดิราชนั้นเมื่อชาติก่อนเป็นคนแต่ทำบุญไว้มากเมื่อตายไปจึงไปเกิดในสวรรค์ในบางครั้งก็มาเกิดเป็นพระยาที่มีอำนาจยิ่งใหญ่ได้รับพระนามว่า พระยาจักรพรรดิราช


    เป็นพระยาที่ทรงคุณธรรมทุกประการเป็นเจ้านายคนทั้งหลายพระองค์ทรงตั้งอยู่ในทศพิศราชธรรมพระยาจักรพรรดิราชมีแก้ว 7 ประการเกิดคู่บารมีมาด้วยได้แก่


    1.
    จักรแก้วคือแก้วอย่างที่หนึ่งจักรแก้วหรือจักรรัตน์จมอยู่ใต้ท้องทะเลลึกได้ 84,000 โยชน์เมื่อเกิดจักรพรรดิราชขึ้นในโลก จักรแก้วซึ่งเป็นคู่บุญบารมีและจมอยู่ในมหาสมุทรก็จะผุดขึ้นมาจากท้องทะเลพุ่งขึ้นไปในอากาศเกิดเป็นแสงส่องอันงดงามมาน้อมนบ

    เมื่อพระยาผู้ครองเมืองนั้นทราบว่าพระองค์จะได้เป็นพระยาจักรพรรดิราชปราบทั่วจักรวาลเพราะมีจักรแก้วมาสู่พระองค์พระยาจักรพรรดิราชก็จะเสด็จปราบทวีปทั้งสี่แล้วประทานโอวาทให้ชาวทวีปเหล่านั้นประพฤติและตั้งอยู่ในคุณงามความดีแล้วจึงเสด็จกลับพระนคร


    2.
    ช้างแก้ว (หัสดีรัตน์)คือแก้วอย่างที่สอง ซึ่งเป็นช้างที่มีความงดงาม ตัวเป็นสีขาวตีนและงวงสีแดง เหาะได้รวดเร็ว

    3.
    ม้าแก้ว (อัศวรัตน์)คือแก้วอย่างที่สาม เป็นม้าที่มีขนงามดังสีเมฆหมอกกีบเท้าและหน้าผากแดงดั่งน้ำครั่งเหาะได้รวดเร็วเช่นเดียวกับช้างแก้ว

    4.
    แก้วดวง (มณีรัตน์)คือแก้วอย่างที่สี่ เป็นแก้วที่มีขนาดยาวได้ 4 ศอก ใหญ่เท่าดุมเกวียนใหญ่สองหัวแก้วมีดอกบัวทอง เมื่อมีความมืดแก้วนี้จะส่องสว่างให้เห็นทุกหนแห่งดังเช่นเวลากลางวัน

    แก้วนี้จะอยู่กับพระยาจักรพรรดิราชจนตราบเท่าเสด็จสวรรคาลัยจึงจะคืนไปอยู่ยอดเขาพิปูลบรรพตตามเดิม


    5.
    นางแก้ว (อิตถีรัตน์)คือแก้วอย่างที่ห้า เป็นหญิงที่จะมาเป็นมเหสีคู่บารมีของพระยาจักรพรรดิราชนางแก้วนี้จะต้องเป็นหญิงที่ได้ทำบุญมาแต่ชาติก่อน

    และมาเกิดในแผ่นดินของพระยาจักรพรรดิราชในตระกูลกษัตริย์นางแก้วนี้จะเป็นหญิงที่มีลักษณะงดงามไปทุกส่วนจะทำหน้าที่เป็นภรรยาที่ดีของพระยาจักรพรรดิราช


    6.
    ขุนคลังแก้วคือแก้วอย่างที่หก เกิดขึ้นเพื่อบุญแห่งพระยาจักรพรรดิราช และจะเป็นมหาเศรษฐีขุนคลังแก้วจะสามารถกระทำได้ทุกอย่างที่พระยาจักรพรรดิราชต้องการ

    เพราะขุนคลังแก้วมีหูทิพย์ตาทิพย์ดังเทวดาในสวรรค์หากว่าพระยาจักรพรรดิราชต้องการทรัพย์สินสิ่งใดขุนคลังก็จะสามารถนำมาถวายได้

    7.
    ลูกแก้วคือแก้วประการสุดท้ายของพระยาจักรพรรดิราช หรือโอรสของพระยาจักรพรรดิราชมีรูปโฉมอันงดงาม กล้าหาญ เฉลียวฉลาด สามารถบริหารกิจการบ้านเมืองได้ทุกประการบางตำราก็ว่าเป็นขุนพลแก้ว<!-- google_ad_section_end -->
     

แชร์หน้านี้

Loading...