มงคลวัตถุ สิริแห่งชีวิต ที่สุดแห่งศรัทธา : รูปถ่ายนิโรธสมาบัติ มหาจักร มหาสังข์ โคนนทสูร

ขอยกเลิกจองครับรายการที่ 193 พระขรรค์จักรพรรดิ์เล็ก หลวงปู่ศรี มหาวีโร
ขอบคุณครับ

 

รายการที่ 197 ตะกรุดยันต์ดาบสะหลี๋กัญไชยด้ามแก้ว ครูบากฤษดา สุเมโธ
ปิดรายการ ค่าจัดส่ง 60 บาท จองแล้ว

ครูบาจารมือทุกดอก เหมาะมากสำหรับคนที่ไม่ชอบพกมีดหมอ อาราธนาใส่ไปต่างที่ต่างถิ่นป้องกันคุณไสย์ วิญญาณร้าย คุณผีคุณคน

ครูบากฤษดา สุเมโธ พระโพธิสัตว์ผู้เปี่ยมไปด้วยเมตตาบารมี ครูบาท่านอายุไม่มากแต่ได้รับการรับรองถึงบารมีท่านจากพระมหาเถระมากมาย หนึ่งในนั้นคือองค์หลวงปู่พิศดู ที่รับรองว่าครูบาท่านคือองค์พระพระโพธิสัตว์ ที่สำคัญยังเป็นสายที่มีความเกี่ยวข้องสัมพันธุ์กับองค์พระอุปคุตอีกด้วย หลวงปู่พิศดูยังรับรองถึงบารมีและพลังจิตของครูบาท่าน ว่ามีอยู่มาก ลูกศิษย์ท่านทั้งตนไทยและฮ่องกง ทั้งข้าราชการผู้ใหญ่ ชาวบ้านธรรมดา คนรวย คนจน ท่านเมตตาเสมอกันหมด ประสบการณ์จากองค์ท่านเองและวัตถุมงคลของท่านมากมายนับไม่ถ้วน หลายคนเคยปรามาสท่านเพราะเห็นเป็นพระที่ยังอายุน้อย แต่เมื่อได้มีโอกาสกราบท่านจริงๆกลับพูดไม่ออกกันทุกคน

ตะกรุดยันต์ดาบสะหลี๋กัญไชยด้ามแก้ว ครูบากฤษดา สุเมโธ สร้างตามรูปแบบขององค์ครูบาขันแก้ว ซึ่งเป็นอดีตเจ้าอาวาส โดยตำราสืบทอดมาจาก ครูบาชุ่มซึ่งรับมาจากครูบาเจ้าศรีวิชัย (ครูบาศรีวิชัย ท่านได้มาเมื่อครั้งท่านได้ไปเข้านิโรธสมาบัติที่ถ้ำเชียงดาว) ซึ่งยันต์ดาบสะหลี๋กัญไชยนี้เป็นยันต์ที่ใช้ลง มีดพระขรรค์ไชยศรีของพ่อขุนผาเมือง พ่อขุนผาเมืองได้มอบตำราและพระเวทย์ที่ใช้กับพระขรรค์ไชยศรีให้ไว้กับพ่อขุนเม็งราย ซึ่งเป็นศิษย์ของท่าน จึงได้ตกมาอยู่ที่เมืองเหนือ จนถึงสมัยองค์ครูบาศรีวิชัยได้พบตำราเมื่อธุดงค์ไปที่ถ้ำเชียงดาว

พุทธคุณของตระกรุดสะหรี๋กัญไชย ใช้ป้องกันภัยอันตรายต่างๆ และเป็นตบะมหาอำนาจ หนุ่นดวงคำ้ดวง กันคุณไสย์สิ่งไม่ดี ทำน้ำมนต์แล้วแต่จะอฐิธาน (ฝอยท่วมหลังช้าง)
รวมๆก็คือ เหมือนพกพระขรรค์หรือมีดหมอดีๆนี่เอง

ประสบการณ์มีอยู่เรื่อยๆ ในทางป้องกันอันตราย ที่ชัดเจนคือประสบการณ์จากศิษย์ที่พกแล้วไม่ผ่านเครื่องเอ็กซเรย์ที่สนามบิน เพราะเจ้าหน้าที่มองเห็นเป็นมีดเล่มเล็ก หลังจากโดนค้นกระเป๋าในจุดที่เห็นเป็นมีด เปิดออกมาเป็นตระกรุด

เชื่อว่าตระกรุดนี้ต่อไปจะหายาก และด้วยลักษณะของครูบาท่าน คือ ถ้าท่านไม่รู้จริงท่านไม่สร้างแน่นอน ท่านบวชมาตั้งแต่เณร สนใจศึกษาตำราเก่าแก่ล้านนามากมาย ศึกษาเล่าเรียนวิชากับองค์ครูบาอินตา ตลอดจนใฝ่หาความรู้จากครูบาอาจารย์มากมาย และด้วยบารมีเก่าทำให้ท่านแตกฉานในทุกสิ่งที่ท่านเรียน

ปัจจุบันครูบาท่านมีศิษย์เพิ่มมากขึ้นอย่างก้าวกระโดด ด้วยบารมีองค์ท่านและบารมีครูบาอาจารย์ที่เกี่ยวข้องกับท่าน วัตถุมงคลของท่านจึงเป็นที่ต้องการมาก และอนาคตจะหาได้ยาก เพราะทุกสิ่งที่ทำ ครูบาท่านเป็นผู้คิดและตัดสินใจทั้งหมด ที่วัดไม่มีตู้วัตถุมงคล ท่านเคยบอกว่าช่วงนี้สร้างมากหน่อย เพราะวัดกำลังบูรณะครั้งใหญ่ ต่อไปเมื่อวัดเสร็จ ก็ไม่มีความจำเป็นต้อสร้างออกมาเยอะ

 

รายการที่ 198 แม่นางกวัก พ่อท่านเขียว อินทมุนี วัดหรงบน เนื้อผงว่านผสมมวลสาร
ปิดรายการ ค่าจัดส่ง 60 บาท จองแล้ว

แม่นางกวัก หลวงพ่อท่านเขียว วัดหรงบน เนื้อผงว่าน รุ่นแรก ประมาณปี 2511-13 เป็นพระที่ทำขึ้นในสมัยที่พ่อท่านเขียวยังไม่เป็นที่รู้จักในวงกว้างเหมือนปัจจุบันโดยผงที่หลวงพ่อเขียวรวบรวมและว่านต่างๆที่มีสรรพคุณในทางเมตตามหานิยมจำนวนมากผสมกับผงและมวลสารมงคลที่หลวงพ่อลบและเก็บรักษาไว้ บางองค์พบมีฝังมวลสารต่างๆบ้าง น่าบูชามาก
การสร้างพระในสมัยก่อนนั้น ผงและมวลสารจะพิถีพิถันและคัดเลือกมาเป็นอย่างดี ในสายใต้นั้น พ่อท่านเขียว เป็นที่เคารพศรัทธาของชาวบ้านในสมัยนั้นมาก นอกจากเรื่องเหนียวแล้ว วิชาทางด้านเมตตานั้นไม่ธรรมดาแน่นอน พระโบราณนั้นถ้าไม่เป็นเสกไม่ขึ้นท่านไม่สร้างแน่นอน

พ่อท่านเขียว ถือกำเนิดขึ้นในตะกูลชาวนา เมื่อวันอาทิตย์ ขึ้นแรมไม่ปรากฏ เดือนยี่ ปีมะเมีย พ.ศ.2424  เมื่อยังเยาว์วัย พ่อท่านเขียวอาศัยพระในบ้านช่วยสอนหนังสือให้อ่านเขียนได้ตามอักขระสมัย ท่านชอบศึกษาเล่าเรียนเป็นชีวิตจิตใจ

"พ่อท่านเขียว"ท่านตัดสินใจสละเพศฆราวาส เข้าสู่วัดเมื่ออายุได้ 22ปี อุปสมบท ณ วัดคงคาวดี (วัดกลาง) ปีเถาะ พ.ศ.2446 พระครูสมัยนั้น เป็นพระอุปัชฌายะ พระครูบริหารสังฆกิจ (เต็ง) เป็นพระอนุสาวนาจารย์ พระเกื้อเป็นพระกรรมวาจา ได้รับฉายาว่า "อินทมุนี"ได้ปรนนิบัติรับใช้ รับฟังโอวาทจากพระอุปัชฌายะชั่วระยะเวลาหนึ่ง หลังจากนั้น พ่อท่านเขียว ก็กราบลาพระอุปัชฌายะ ไปศึกษาเล่าเรียนต่อกับพระอาจารย์เอียด วัดบน พระอาจารย์เอียดเก่งทั้งทางโลก และทางธรรม อบรมนิสัยให้เหมาะแก่สมณเพศ จนท่านตั้งใจว่า ขอถือบวชอยู่ในพุทธศาสนาตลอดไป หาทางพ้นทุกข์ตัดอาสวะกิเลสให้สิ้น พ่อท่านเขียวท่านตัดสินใจเดินธุดงค์เป็นวัตร คือ ถือผ้านุ่งห่มบังสกุล 3ชิ้น มีผ้าสบง อังสะ จีวร บิณฑบาตร และฉันอาหารมื้อเดียว(เอกา)เป็นวัตร จึงกราบลาอาจารย์เดินธุดงค์สู่ป่าเขาลำเนาไพร หลวงปู่เขียวเดินธุดงค์ติดต่อกันหลายปี ผ่านจังหวัดกระบี่ ตรังสุราษฎร์ธานี ชุมพร สงขลา ปัตตานี นราธิวาส ภูเก็ต พังงา และจังหวัดอื่นๆอีกหลายแห่ง

ในปี พ.ศ.2467 พ่อท่านเขียวอายุได้ 53 ปีพอดี ท่านพระครูพิบูลย์ศีลาจารย์(เกลื่อม)เจ้าคณะ ต.บางตะพง อ.ปากพนัง ปกครองวัดกลาง(คงคาวดี)ศรัทธาต่อพ่อท่านเขียว ซึ่งเป็นอาจารย์ของท่านเอง ต้องการได้ของดีของอาจารย์เป็นที่ระลึก จึงหาผ้าขาวมา หาขมิ้นผงมาผสมน้ำทาใต้เท้า ใต้มือท่านแล้ว นิมนต์ท่านอฐิษญานจิตกดเป็นผ้ายันต์แต่ไม่ค่อยชัดนัก ต่อมามีผู้ต้องการมากขึ้น จึงคิดหาหมึกจีนเป็นแท่งมาฝนกับฝาละมีทาเท้าบ้าง ทามือบ้าง ให้พ่อท่านอธิษฐานจิตกดลงบนผ้าขาวเป็นผ้ายันต์ ปรากฏว่าชัดเจนสวยงามดี นับว่าผ้ายันต์รอยมือรอยเท้าพ่อท่านเขียวปรากฏแพร่หลายขึ้นเป็นครั้งแรกในภาคใต้ เมื่อมีผู้ศรัทธามาขึ้นจึงแพร่หลายบอกต่อกันไป มีประชาชนมาขอลูกอมท่านบ้าง พ่อท่านเขียวท่านเคี้ยวชานหมากเสร็จคลึงเป็นลูกอมแล้วมอบให้ บางคนท่านก็เอากระดาษฟางมาลงอักขระเป็นตัวหนังสือขอม หัวใจพระเจ้า 5พระองค์ นะโมพุทธายะ เสร็จแล้วเอาเทียนสีผึ้งห่อหุ้มปั้นเป็นลูกอม พ่อท่านเขียวเป็นพระใจดี พูดน้อยใครขออะไรท่านก็จะทำให้

วัตถุมงคลที่พ่อท่านเขียว ท่านสร้างมีหลายอย่าง เช่น ผ้ายันต์รอยมือรอยเท้า เชือกคาด ลูกอมเทียน ชานหมาก พระปิดตา เหรียญ และรูปหล่อลอยองค์ พระเครื่องหลวงปู่เขียว เป็นที่ต้องการกันมาก

ความศักดิ์สิทธิ์ของ พ่อท่านเขียว วัดหรงบล อีกอย่างหนึ่งที่เกือบทุกคนรู้กันดีทั่วบ้านทั่วเมือง ก็คือหลังจากพ่อท่านเขียวท่านมรณภาพแล้ว ทางวัดได้เก็บรักษาสรีระของพ่อท่านไว้ระยะหนึ่ง ซึ่งปรากฏว่า สรีระร่างกายของพ่อท่านเขียวท่านไม่เน่าเปื่อย และไม่มีกลิ่นเหม็นแต่อย่างใด และเมื่อถึงวันครบกำหนดประชุมเพลิง สรีระของท่านเผาไฟไม่ไหม้ แม้แต่ จีวร ที่ห่อหุ้ม สร้างความมหัศจรรย์เป็นยิ่งนัก ปัจจุบัน สรีระร่างอันอมตะของ พ่อท่านเขียว ก็ยังประดิษฐานอยู่ในโลงแก้วที่วัดหรงบน ทุกวันนี้จะมีผู้คนไปกราบไหว้สักการบูชาอยู่เป็นประจำ

 

รายการที่ 199 เบี้ยแก้หุ้มเงิน หลวงพ่อสืบ วัดสิงห์ ขนาดเล็ก เลี่ยมเดิมจากวัด
ค่าจัดส่ง 60 บาท จองแล้ว

เบี้ยสมัยหลวงพ่อยังแข็งแรง น่าบูชามากครับ

หลวงพ่อสร้างเบี้ย ตามวิชาสายวัดกลางบางแก้ว หลวงปู่เจือท่านเมตตาหลวงพ่อสืบมาก ท่านมาครอบครูจับมือตอกเบี้ยให้ที่วัดสิงห์เลย ไม่ต้องลุ้นว่าเรียนมาจริงหรือปล่าว หากใครเคยเห็นเวลาท่านทำเบี้ยจะเห็นคุณค่ามาก เพราะท่านตั้งใจทำมาก แม้ระยะหลังจะมีพระอาจารย์ลูกศิษย์ท่านช่วย แต่ท่านก็ยังพิถีพิถัน และเสกจนท่านว่าใช้ได้เหมือนเดิม เบี้ยหลวงพ่อสืบตัวเองก็บูชาติดกระเป๋าตลอด เพราะผมเจอประสบการณ์เบี้ยสั่นได้มาแล้ว

วัตถุมงคลของหลวงพ่อสืบนั้น แนะนำให้หาเก็บไว้บูชากันครับ หลวงพ่อท่านรำ่เรียนวิชามาเยอะ และมีนิสัยเด็ดเดี่ยว วัตถุมงคลท่านจะทำเฉพาะในสิ่งที่ท่านได้รำ่เรียนมา และท่านทำเองเสกเองทุกขั้นตอน สมัยก่อนตะกรุดทุกดอกท่านจารเอง และเสกจนขึ้นทุกดอก อันนี้เป็นที่รู้กันว่าท่านจะเสกจนท่านว่าใช้ได้แล้ว จึงนำออกมาให้บูชา เคยมีบางครั้งพระท่านเห็นหลวงพ่อเสกนานแล้วจึงนำมาเตรียมให้บูชา หลวงพ่อเห็นเข้าได้สั่งให้ยกขึ้นไปเก็บ เพราะท่านยังเสกไม่เสร็จ ระยะหลังที่ท่านอาพาธมาก ตระกรุดและเบี้ยท่านได้ให้พระอาจารย์ศิษย์ที่ท่านครอบครูให้มาช่วยทำ แต่ก็ให้มาทำที่กุฏิท่าน เพราะท่านจะเสกไปด้วยอย่างตั้งใจ ให้เหมือนกับที่ท่านทำเองทุกขั้นตอน เวลาเช่าวัตถุมงคลแล้ว นำไปให้ท่านเสก ท่านก็จะเสกให้อีกเป็นเวลานาน แม้ท่านอาพาธท่านก็เสกให้อย่างเต็มที่

หลวงพ่อสืบ เกิดที่ อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 23 กุมภาพันธ์ 2475 ท่านเคยศึกษาธรรมและปฏิบัติรับใช้ " หลวงพ่อห่วง วัดท่าใน (ซึ่งเป็นสหธรรมกับ หลวงพ่อ เงิน วัดดอนยายหอม และ หลวงพ่อ น้อย วัดธรรมศาลา แม้แต่หลวงพ่อเงินเองก็ยังกล่าวยกย่องในความสามารถของหลวงพ่อห่วง ) หลวงพ่อม้วน" วัดไทร องค์นี้เป็นศิษย์พุทธคมของหลวงพ่อสุข วัดห้วยจรเข้ ซึ่งได้รับการถ่ายทอดวิชามาจาก "หลวงปู่ นาค วัดห้วยจรเข้" ผู้สร้างพระปิดตาเนื้อเมฆพัด ได้ขลังโด่งดัง นอกจากนี้หลวงพ่อสืบท่านยังศึกษาวิชาจากครูบาอาจารย์องค์อื่นๆอีกมากมาย และ เป็นหนึ่งในศิษย์ผู้สืบทอดวืชาการทำเบี้ยแก้สายสำนักวัดกลางบางแก้วจากหลวงปู่เจือ โดยหลวงปู่เจือก็ได้ทำการครอบครู อนุญาตและทำการจับมือหลวงพ่อสืบตีเบี้ยแก้นำฤกษ์หรือที่เรียกว่าเบี้ยครู เป็นการแสดงว่าหลวงพ่อสืบท่านได้สำเร็จวิชาการทำเบี้ยแก้จากหลวงปู่เจือแล้ว

“พระครูพิทักษ์วีรธรรม” หรือ “หลวงพ่อสืบ ปริมุตฺโต” ละสังขารด้วยโรคชรา สิริอายุ 84 ปี 45 พรรษา ท่านได้บริจาคร่างกายให้กับโรงพยาบาลศิริราช

เบี้ยชุดนี้ผมบูชามาจากวัดก่อนท่านสิ้น 1 วัน แปลกมากบังเอิญขับรถผ่านไปทางนั้น อยู่ๆก็นึกถึงท่านมาก เลยแวะเข้าไปวัด ทราบจากหลวงตาว่าท่านไปโรงพยาบาล พอวันรุ่งขึ้นท่านก็สิ้น ทั้งๆที่ตอนฉลองอายุ 84ปี 7 รอบ ท่านก็ยังดูแข็งแรงดี ส่วนตัวคิดว่าวัตถุมงคลที่ท่านทิ้งท้ายไว้นั้นดีมากๆ เพราะดูท่านตั้งใจสร้างมาก โดยเฉพาะตอนเสกวัตถุมงคลรุ่นสุดท้าย เหมือนท่านรู้ว่าเป็นรุ่นสุดท้ายแล้ว จึงตั้งใจสร้างอย่างเต็มที่

 

รายการที่ 200 พระกริ่งหลวงพ่อดำ(พระพุทธแก้วสารพัดนึก) ปี 2553
หลวงพ่อจรัญ วัดอัมพวัน สิงห์บุรี
ค่าจัดส่ง 60 บาท

หลวงพ่อดำเป็นพระพุทธรูปที่ศักดิ์สิทธิ์มาก ใครขออะไรมักจะสมหวังเสมือนดังแก้วสารพัดนึก ลูกศิษย์หลวงพ่อโดยเฉพาะศิษย์กรรมฐานล้วนแต่เคารพบูชาหลวงพ่อดำ บางท่านมีความเชื่อโยงไปถึง หลวงพ่อดำ(หลวงพ่อในป่า) ซึ่งเป็นพระอาจารย์องค์หนึ่งของหลวงพ่อ
เชื่อว่าอธิษฐานขอพรให้เจริญได้ทั้งทางโลกและทางธรรม

หลวงพ่อดำ(พระพุทธแก้วสารพัดนึก) เป็นพระพุทธรูปแบบเชียงแสน ทรงเครื่องสิงห์สาม ประยุกต์ ทวาราวดีกับลพบุรี

ประวัติของหลวงพ่อดำ รัศมีหรือพระเกศเป็นของเก่า ส่วนองค์ของท่านไปอยู่พม่า ในสมัยที่พม่ายกทัพเข้ามาตีไทย พระเกศได้หลุดอยู่บริเวณถ้ำ แถวอำเภอฝาง จังหวัดเชียงใหม่ ได้มอบให้ ดร.กิ่งแก้ว อัตถากร เมื่อเดือนเมษายน ๒๕๑๔ คราวไปออกค่ายอาสาพัฒนาของวิทยาลัยวิชาการศึกษาพระนคร เพื่อสร้างโรงเรียน บ้านสันป่าข่า กิ่งอำเภอแม่อาย จังหวัดเชียงใหม่

เมื่อ ดร.กิ่งแก้ว ได้รับพระเกศมาแล้ว ได้เกิดความคิดขึ้นว่าจะสร้างพระถวาย จนเวลาได้ล่วงเลยมาได้ ๑๐ ปี ดร.กิ่งแก้ว เห็นว่าเป็นกาลเวลาอันควรแล้ว จึงได้นำมาถวายไว้กับหลวงพ่อจรัญ

ต่อมาเมื่อกลางปี พ.ศ.๒๕๒๖ นายบุญถิ่น อัตถากร บิดาของ ดร.กิ่งแก้ว ดำริที่จะสร้างองค์พระถวาย จึงได้ขอให้หลวงพ่อเป็นผู้หาแบบสร้างองค์พระเพื่อสวมพระเกศ
หลวงพ่อได้นำพระเกศไปปรึกษากับช่างหล่อหลายราย บรรดาช่างก็ไม่สามารถจะบอกได้ว่าเป็นพระเกศ พระอะไร หลวงพ่อจึงได้ถามในกรรมฐาน จึงมีเสียงบอกมาว่า อีกสามวันจะมีคนมาหา คนแรกก็ให้ไป

เมื่อครบสามวันแล้ว ปรากฏว่า คุณเทียนชัย ภู่พิพัฒน์ ได้มาหาหลวงพ่อที่วัดอัมพวันเป็นคนแรก หลวงพ่อก็แปลกใจว่า คุณเทียนชัยมีอาชีพทางทำแร่ จะมีความรู้ทางหล่อพระได้อย่างไร แม้กระทั่งช่างหล่อที่มีอาชีพทางด้านนี้ก็ไม่สามารถจะรู้ได้ จึงลองปฏิบัติตามเสียงในกรรมฐานที่บอกไว้ โดยหลวงพ่อได้นำพระเกศให้คุณเทียนชัยดู คุณเทียนชัยก็รับกับหลวงพ่อว่าจะนำไปปรึกษากับพรรคพวกดู

ต่อมาประมาณหนึ่งอาทิตย์ คุณเทียนชัยได้กลับไปหาหลวงพ่อที่วัด พร้อมกับรูปสเก๊ตช์พระพุทธรูปเชียงแสนทรงเครื่อง หน้าตักกว้าง ๓๐ นิ้ว ไปให้หลวงพ่อดูพร้อมกับเล่ารายละเอียดให้ฟังว่า ตนได้นำพระเกศนี้ไปให้ จ่าเอก อำนวย แสงวิรุฬ ทหารเรือนอกราชการ ช่างหล่อพระแถวบ้าน ช่างหล่อดู จ่าอำนวย ก็ไม่ทราบว่าเป็นพระเกศพระอะไร จึงได้นำไปปรึกษา นายจำรัส จันทร์รัตนแสงสี ช่างปั้นพระ ซึ่งเป็นที่รู้จักกันว่ามือชั้นอาจารย์ อาจารย์จำรัสได้นำไปเทียบกับหนังสือภาษาอังกฤษเล่มหนึ่งได้รู้ว่าพระเกศนี้ เป็นพระเกศขององค์พระเชียงแสนทรงเครื่อง จึงได้วาดภาพเหมือนออกมา และบอกว่า พระรุ่นนี้ เป็นพระที่กษัตริย์สร้าง ประชาชนไม่กล้าแตะต้องสิ่งของที่กษัตริย์สร้าง จึงไม่นิยมหรือกล้าสร้างกันในสมัยนั้น จึงพบน้อยมาก

หลวงพ่อเห็นภาพสเก๊ตช์แล้วจึงได้ปรึกษากันสร้าง โดยคุณเทียนชัยได้เสนอว่าจะทำการเททองหล่อกันที่วัด หลวงพ่อท่านเกรงว่าจะเป็นที่ครหาว่าวัดจัดพิธีหล่อพระหาเงิน คุณเทียนชัยได้เสนอไปหล่อที่บ้าน นายเกษม นางฮงไล้ ภู่พิพัฒน์ ที่บ้านตลาด ท่าวุ้ง จังหวัดลพบุรี อันเป็นบ้านบิดาของคุณเทียนชัยเอง หลวงพ่อได้ตกลงตามที่คุณเทียนชัยเสนอ โดยได้กำหนดเททองในวันที่ ๑๒ ตุลาคม ๒๕๒๖

ในวันเททองเป็นวันที่มีพายุดีเปรสชั่นเข้าภาคกลาง ฝนยังตกหนัก แต่บริเวณพิธีหล่อกลับไม่มีฝนตก มีแต่ท้องฟ้ามืดครึ้ม เมื่อเททองหล่อเสร็จ ฝนจึงได้ตกลงมาเทใหญ่ แต่ก็ไม่เป็นอุปสรรคในการหล่อ บรรดาผู้มีจิตศรัทธาทั้งจากลูกศิษย์หลวงพ่อและมิใช่ ได้ร่วมใจสละทั้งเงิน ทองคำ นาค ทองแดง ทองเหลือง และเวลาอย่างเต็มใจ โดยเฉพาะโกศอดีตเจ้าเมืองลพบุรี ต้นสกุล “สุจริตจันทร์” มีทองคำพระราชทานผสมอยู่ในโกศหนักแปดบาท ลูกหลายได้สละมาลงเบ้าหลอมเป็นองค์พระแก้วสารพัดนึกหรือหลวงพ่อดำ

ส่วนอภินิหารที่เกิดขึ้นกับคุณเทียนชัยเองก็ดี กับผู้มาปฏิบัติธรรม หรือบุคคลอื่น ๆ อีกหลายคน รวมทั้งจ่าอำนวย ช่างหล่อพระองค์นี้ จะขอให้คุณเทียนชัยเป็นผู้เล่า แต่เป็นที่น่าสังเกตว่า การหล่อพระพุทธรูปแทนองค์สมเด็จสัมมาสัมพุทธเจ้าของเรานั้น จะเกิดความศักดิ์สิทธิได้ เจ้าภาพในการหล่อ ผู้ร่วมหล่อก็ดีต้องทำใจให้สะอาดบริสุทธิ์ เสียสละ ปฏิบัติตามรอยพระพุทธองค์ต้องไม่มีกิเลสใด ๆ เข้ามาแฝงไว้นั้นแหละ พระพุทธองค์จะประสาทความศักดิ์สิทธิ์ให้เหมือนหลวงพ่อดำองค์นี้

จากหนังสือประวัติและผลงานของพระคุณภาวนาวิสุทธิ์ พ.ศ. ๒๕๓๐

พระพุทธแก้วสารพัดนึก(หลวงพ่อดำ) รุ่นนี้
ทางวัดตาลเอน อยุธยา ซึ่งเป็นวัดสาขาของวัดอัมพวันได้มาขออนุญาตหลวงพ่อจัดสร้างเพื่อหาปัจจัยบำรุงวัด
โดยมี คุณกิตติ เรืองพัชร เป็นผู้ดำเนินงานให้
คุณกิตติจึงได้ขออนุญาตหลวงพ่อสร้างเป็นการส่วนตัวขึ้นจำนวนหนึ่ง นำเข้าพิธีเดียวกัน
โดยรุ่นของคุณกิตติจะมีการสลักชื่อที่ใต้ฐานเอาไว้

พิธีพุทธาภิเษก
ครั้งที่ 1 หลวงพ่อจรัญ วัดอัมพวัน สิงห์บุรี อธิษฐานจิตเดี่ยวเป็นปฐมฤกษ์
ครั้งที่ 2 ณ วัดตาลเอน อยุธยา เมื่อกันยายน 2553 โดยเกจิสายอยุธยาเกือบทั้งหมด

หลังจากนั้นคุณกิตติได้นำในส่วนของคุณกิตติเองมาถวายให้กับทางวัดอัมพวัน ซึ่งหลวงพ่อจรัญได้เมตตาปลุกเสกเดี่ยวอีกครั้งหนึ่ง
และได้มอบให้เอาไปแจกเป็นที่ระลึกกับคนที่ทำบุญสร้างโรงทานที่ขอนแก่น เท่ากับรุ่นของคุณกิตติหลวงพ่อจรัญได้เสกให้ถึง 2 ครั้งด้วยกัน

พระกริ่งหลวงพ่อดำ ได้มีการสร้างมาถึง 3 วาระ เป็นที่ต้องการของลูกศิษย์มาก
โดยเฉพาะรุ่นแรกค่านิยมเป็นหมื่นแล้ว

(ขออนุญาติข้อมูลจากคุณ anuchang)


ธนาคารไทยพาณิชย์
เลขบัญชี 114-220116-0 WANNARAT

 

รายการที่ 201 แผ่นศิลา(หินอ่อน)ทำน้ำมนต์ หลวงพ่อทรง ฉันทโสภี วัดศาลาดิน
ปิดรายการ ค่าจัดส่ง 60 บาท จองแล้ว

แผ่นหินอ่อนขนาดประมาณ 4x4 นิ้ว เป็นวัตถุมงคลรุ่นท้ายๆของหลวงพ่อ ใช้อาราธนาแช่น้ำเพื่ออธิษฐานทำน้ำมนต์

“ยันต์สุกิตติมา” จัดเป็นมหายันต์ มีอุปเท่ห์การใช้สารพัด ไม่มีอดไม่มีอยาก มีอำนาจ บารมี เป็นนะจังงัง เมตตามหานิยม หนุนดวงพลิกฟื้นดวงชะตา พุทธคุณครบทุกด้าน จึงเหมาะมากที่จะใช้อาราธนาทำน้ำมนต์ ยันต์มีสัณฐานดังดอกบัวบาน ประกอบด้วยอักขระสำคัญอยู่สี่บทคือ สุกิตติมา พระเจ้าสิบหกพระองค์ บารมีสามสิบทัศ และหัวใจพญาเต่าเรือน

สมเด็จพระสังฆราช (แพ) วัดสุทัศน์เทพวราราม ท่านสร้างครอบน้ำมนต์ ท่านจะใช้ยันต์สุกิตติมา ประทับก้นครอบน้ำมนต์เสมอ

ในสมัยโบราณนิยมเขียนไว้ในตลับสีผึ้งหรือลงแผ่นทองแดง แผ่นตะกั่วแช่น้ำมันจันทน์หอมเอาแตะหน้าผากเช้าเย็นเป็นมหานิยมมาก มีคติความเชื่อของพุทธคุณแห่งยันต์สุกิตติมาว่า ถือเป็นสุดยอดของยันต์วิเศษชนิดหนึ่งที่ผู้ทำต้องมีพลังสมาธิขั้นสูงจึงจะทำสำเร็จได้ ส่งผลให้มีพุทธคุณด้านหนุนดวงพลิกฟื้นดวงชะตาให้กลับร้ายกลายเป็นดีและขับไล่เสนียดจัญไรต่างๆ

 

ขอจองรายการนี้ครับ

 

ขอจองด้วยครับ

 

รายการที่ 202 รูปหล่อหลวงปู่พิศดู หน้าตัก 1 นิ้ว (วัตถุมงคลชุดโลกุตรธรรม) เนื้อทองชนวน
xxx

รูปหล่อหลวงปู่ชุดนี้มวลสารใต้ฐานผสมผงอังคารธาตุหลวงปู่ ปิดด้วยจีวรท่าน และแผ่นตะกรุดที่ฝังก็ยังเป็นแผ่นที่เข้าพิธีพร้อมกับรูปหล่อพระธรรมธาตุซึ่งเป็นพิธีที่สุดยอดแล้วที่หลวงปู่เมตตา จึงไม่แปลกที่รูปหล่อรุ่นนี้แม้จะไม่ทันหลวงปู่แต่ประสบการณ์คนที่บูชาไปแล้วหมั่นสวดมนต์ภาวนามักมีพระธาตุเสด็จมาที่รูปหล่อหลวงปู่ มีอยู่มากมาย

องค์ที่มีพระธาตุขนาดเล็กที่บริเวณฐาน

รูปหล่อหลวงปู่พิศดู หน้าตัก 1 นิ้ว ได้นำเข้าพิธีดังนี้
1.พิธีเททองหล่อ พร้อมกับรูปเหมือนองค์หลวงปู่พิศดู ขนาดเท่าองค์จริง เพื่อประดิษฐานไว้ในพระมหาเจดีย์ ธัมมะจารีสุขังเสติ

2.พิธีพุทธาภิเษกใหญ่ และพิธีตักบาตรพระมหาอุปคุต ในวันเพ็ญพุธ ณ พระมหาเจดีย์ ที่วัดเทพธารทอง โดยพระเกจิครูบาอาจารย์ผู้ทรงคุณ อาทิ..
- หลวงพ่อมหาพร้อม วัดพลับบางกะจะ
- หลวงพ่ออ่อง ถ้ำเขาวงกต
- หลวงพ่อบุญส่ง วัดเขาน้ำตก
- หลวงพ่อมนัส สำนักกรรมฐานฟื้นฟูจิต เขาแหลม
- ฯลฯ
และพระสวดพิธีธรรมอีก 9 รูป และช่วงบ่ายในวันเดียวกัน พระสงฆ์ได้ลงสวดพระปาฏิโมกข์ถวาย โดยในพระมหาเจดีย์ ได้นำรูปหล่อองค์หลวงปู่มาประดิษฐานเอาไว้ก่อนหน้านั้นแล้ว (โดยในงานพิธีพุทธาภิเษก ได้มีการบวงสรวงอัญเชิญบารมีธรรมขององค์พระมหาอุปคุต ท่านพ่อลี และองค์หลวงปู่พิศดูมาประสิทธิด้วย)

3.พิธีวางศิลาฤกษ์ ธัมมะจารีมณฑป ณ วัดเทพธารทอง โดยพ่อแม่ครูบาอาจารย์สายกรรมฐาน ฯ หลายรูป

4.พิธีบวงสรวง อัญเชิญบารมีองค์พระมหาอุปคุต และบารมีธรรมขององค์หลวงปู่พิศดู และสวดเจริญพระพุทธมนต์ เนื่องในวันเพ็ญพุธ ณ ลานพิธีริมหน้าผาอ่าวคุ้งกระเบน โดยท่านพระอาจารย์หนึ่ง พร้อมด้วยพระภิกษุสงฆ์

5.พิธีพุทธาภิเษกสมโภชน์ใหญ่ เนื่องในวันเททองหล่อพระพุทธรูปทรงเครื่องมหาจักรพรรดิ์ 4 ปาง ณ สำนักสงฆ์เขาน้ำซับ โดยพระเกจิครูบาอาจารย์กว่า 10 รูป อาทิ..
- หลวงพ่อสิริ วัดตาล จ.นนทบุรี
- หลวงพ่อพูน วัดบ้านแพน จ.อยุธยา
- หลวงปู่ฉอ้อน วัดแหลมหิน จ.ปราจีนบุรี
- หลวงปู่อั้น วัดโรงโค จ.อุทัยธานี
- หลวงพ่ออ่อง ถ้ำเขาวงกต จ.จันทบุรี
- หลวงปู่เจียง วัดเนินหย่อง จ.ระยอง
- หลวงปู่บุญอุ้ม วัดป่าโนนแพง จ.นครพนม
- หลวงปู่สวาท ว่าป่าโป่งจันทร์ จ.จันทบุรี
- หลวงพ่อแจ่ม วัดเขาสำเภาทอง จ.ระยอง
- ... ฯลฯ
และพระสวดพิธีธรรมอีกรวมเกือบ 100 รูป

ซึ่งพิธีเหล่านี้ถือได้ว่าเป็นพิธีที่ตั้งใจจัดขึ้นเพื่อบูชาคุณแด่องค์ครูบาอาจารย์ อันมีองค์หลวงปู่พิศดู ธัมมะจารีเป็นที่สุด ซึ่งเชื่อเป็นอย่างยิ่งว่า ดวงจิตอันบริสุทธิ์ขององค์หลวงปู่ท่านจะต้องรับทราบและมาร่วมพิธีด้วยอย่างแน่นอน

ส่วนมวลสารที่ใช้บรรจุในองค์รูปหล่อหลวงปู่นั้น เป็นมวลสารที่เคยใช้บรรจุในรูปหล่อพระมหาอุปคุตปางปราบมาร..ซึ่งรวมสุดยอดมวลสาร มวลสารเหล่านี้ ได้ใช้บรรจุไว้ใต้ฐานรูปหล่อหลวงปู่พิศดูขนาด 1 นิ้ว ส่วนตัวประสานเนื้อผงให้เข้ากันนั้น ได้ใช้น้ำมันอนันตคุณ108 น้ำผึ้งเสก น้ำอ้อยผงเสกของหลวงปู่พิศดู ข้าวก้นบาตรครูบาอาจารย์(ชนิดเปียก) สีผึ้ง น้ำหมาก น้ำมนต์ ของเหล่าครูบาอาจารย์ กล้วยน้ำไทย และกาว ฯลฯ เป็นตัวประสานหลัก..

ส่วนของมงคลที่ใช้บรรจุนอกเหนือจากผงมวลสารนี้ ได้แก่..
- อังคารธาตุ หลวงปู่พิศดู
- จีวรหลวงปู่พิศดู
- แผ่นตะกรุดที่เข้าพิธีพร้อมกับรูปหล่อพระธรรมธาตุ

 

รายการที่ 203 พระพรหมสยบราหู หลวงพ่อชำนาญ วัดบางกุฎีทอง
ปิดรายการ ค่าจัดส่ง 60 บาท จอง

พระพรหมสยบราหู
เนื้อผงขาวดินทะเลชุบศร ผสม ข้าวร้อยนา ประชาร่วมใจ(ข้าวสารจากที่ต่างๆที่คนนำมาถวายวัด เป็นเคล็ดว่าความอุดมสมบูรณ์มีกินมีใช้อยู่ที่ไหนก็วิ่งมาหาเรา ) หรือเรียกว่าเนื้อข้าวทิพย์

พระพรหม กับ หลวงพ่อชำนาญดูเหมือนจะเป็นวัตถุมงคลที่คู่กัน ถูกฝาถูกตัวที่สุด ยิ่งมีคำพูดในแวดวงของผู้ชื่นชอบพระเครื่องว่า ใช้พระพรหมที่ใหนก็ไม่เหมือนใช้พระพรหมของหลวงพ่อชำนาญ เพราะ ศักดิ์สิทธิ์จนสัมผัสได้ หลวงพ่อสร้างพระพรหมไว้หลายรุ่น คู่กับพิธีเป่ายันต์พรหมสี่หน้า ที่จัดขึ้นทุกปี พระพรหมของหลวงพ่อไม่ใช่การเสกพระพรหมธรรมดาทั่วไป แต่เป็นการเชิญองค์พระพรหม มาสถิต หรือที่ภาษาเทพจะเรียกว่า ?แบ่งภาคญาณพระพรหม ให้มาสถิตประจำที่วัตถุมงคลองค์ท่าน? การที่จะเชิญพระพรหมได้หรือไม่นั้นขึ้นอยู่กับญาณบารมีของผู้ปลุกเสกหรือผู้เชิญ หลวงพ่อ ท่านสำเร็จวิชา ของพระพรหมถึงกับ ?พระ?อนุญาตให้ท่านทำพิธีเป่ายันต์พรหมสี่หน้าช่วยคนเป็นสาธารณะทุกปี ในทุกปีพระพรหมจะมาแสดงปฎิหาริย์ให้เห็นประจักรในพิธี

พระพรหมของหลวงพ่อจะมีอานุภาพเป็นพระพรหมไม่ไช่เป็นพระเครื่องทั่วไป มีอานุภาพ ดังการเป่ายันต์ 4 อย่าง สรุปคือ

1)เป็นเลิศ ทาง เมตตามหานิยมเป็นที่สุด เจ้านายลูกน้องเห็นหน้าเป็นต้องมนต์สะกด เจอหน้าใครมีแต่ความรักให้ เรื่องนี้มีประสบการณ์มากนัก เช่น เจ้าหนี้จะมาทวงหนี้เจอหน้าลูกหนี้ที่ใส่พระพรหมของหลวงพ่อ เกิดพูดไม่ออกสงสารมากถึงขนาดควักเงินของตัวเองให้ลูกหนี้ไปอีก
2) แคล้วคลาดจากภัยอันตรายทั้งปวง กันภัย กันคุณไสย กันผี ลมเพลมพัด อาถรรพ์ต่างๆ
3) เงิน ทอง เร่งโชคลาภให้ไหลมาเทมาง่ายไม่ติดขัด การงานธุรกิจเจริญรุ่งเรือง ทำมาค้าขายดี เป็นเศรษฐี
4) แก้ดวงไม่ดี ดวงตก ทุกโทษภัยจากดวงดาว ราศี พระราหู และ เบญจเพสด้วย
ปีนี้ คนไทยจะได้รับทุกโทษ จากดวงดาวราศีอยู่มาก จะเห็นว่า ปัญหาเรื่องข้าวของแพง เศรษฐกิจไม่ดีการเงินไม่คล่อง หลวงพ่อจึงให้สร้างพระพรหมปีนี้เป็นพระพรหมกรอบกระจก(เหมือนกรอบรูป)ด้านล่างเป็นพระราหู เรียกว่า พระพรหมสยบพระราหู หมายถึงพระพรหมมีอำนาจข่มดวงดาว ราศี สิ่งอัปมงคลอาถรรพ์ ทั้งปวง ในยุคสมัยอย่างนี้ ใช้พระพรหมสยบพระราหูจึงจะดีที่สุด

 

รายการที่ 203 ขวานเพชรอินทราธิราช ขนาดเล็ก หลวงพ่อหนุน สุวิชโย วัดพุทธโมกข์
ค่าจัดส่ง 60 บาท

เนื้อขวานฟ้าฟาดแท้ สร้างจากขวานฟ้าผ่าถึง 3 อัน จากสามที่
อันแรกได้จากตาปะขาวพรหม หวงสุดๆๆ ท่านว่าได้จากหลวงพระบาง
อันที่สองได้จากลำปาง จากโยมที่เก็บสะสมของโบราณ
อันที่สามจาก ผอ.โครงการชัยพัฒนาภาคเหนือตอนล่าง เป็นของต้นตระกูลสมัยเจ้าเมือง อายุร้อยกว่าปีครับ
และแถมด้วยพระขรรค์สำริดโบราณ 1 เล่ม

แร่ขวานฟ้า เป็นธาตุกายสิทธิ์มีฤทธิ์ในตนเอง ไม่เสกก็ขลังแล้ว ครูบาอาจารย์ที่ธุดงค์ไปตามที่สูงหรือตามถ้ำตามเขา จึงมีโอกาสได้พบเจอ นำมาใส่บาตรทำน้ำมนต์ แร่ขวานฟ้าเกิดจากฟ้าผ่า ลงดินบ้าง ใส่หินบ้าง ต้นไม้บ้าง จะมีแร่ที่เกิดจากฟ้าผ่าลงมาเป็นลักษณะวัตถุคล้ายขวานแต่ก็ไม่ใช่ลักษณะขวานเสมอไป รูปทรงไม่แน่นอน เพราะธรรมชาติสร้างเอง เกิดเอง ใครมีบุญมีวาสนาจึงจะได้พบ จึงเป็นที่มาของคำว่า " ขวานฟ้า "
อานุภาพของแร่ขวานฟ้า กล่าวกันไม่หมด เพราะครูบาอาจารย์ท่านเคยเล่าให้ฟังว่า ทำลายอาถรรพณ์ได้ทั้งปวง โชคลาภความมั่งมีจะบังเกิดกับผู้ที่ได้ครอบครอง อาจารย์วุ่นยังนำแร่ขวานฟ้าไปตัดเหล็กไหล เหล็กไหลยังอ่อน ยอมให้ตัดแต่โดยดี เพราะแพ้ฤทธิ์แร่จากฟ้า

ขวานฟ้า ทนสิทธิ์ที่หายาก กันคุณไสย ตัดเหล็กไหล กันฟ้าผ่า ทำน้ำมนต์ ล้างอาถรรพณ์ สารพัดใช้ ขวานฟ้าเป็นเครื่องรางของขลังที่ถือว่าหายากอย่างหนึ่งในบรรดาเครื่องรางของขลังทั้งหลาย แต่ก็ยังสามารถพอหาได้แต่ต้องเป็นนักแสวงหาของทนสิทธิ์หรือกายสิทธิ์ประเภทนี้

ขวานฟ้าฟาดนั้น เหมาะสำหรับผู้ที่สนใจศึกษาของทนสิทธิ์ กายสิทธิ์ ผู้ที่ปฏิบัติธรรมมักพกติดย่ามเข้าป่าเอาไว้ป้องกันเหตุเภทภัยต่างๆนาๆ ผู้ที่ศึกษาทางด้านไสยศาสตร์ควรค่าเก็บไว้คู่กายสักเล่มจะดีไม่น้อย มีดหมอก็มีแล้ว หาขวานฟ้าแท้ๆสักเล่มราคาเช่าหากันได้ไม่ลำบากถือว่าครบสูตรกันและแก้คุณไสยได้ครับ

โบราณเชื่อว่าขวานฟ้ามีฤทธานุภาพอันศักดิ์สิทธิ์ จะพบได้ที่บริเวณที่มีฟ้าผ่าลงดินซึ่งก็ดูไม่ยากเพราะหลุมค่อนข้างลึก และที่ก้นหลุมนั่นเองจะปรากฏแร่ชนิดหนึ่งที่มีรูปร่างลักษณะคล้ายกับขวาน และนั่นคือที่มาของคำว่า "ขวานฟ้า" และคนที่มีบุญบารมีเท่านั้นที่จะขุดพบ นอกจากนี้ยังใช้เป็นเครื่องมือรักษาโรค กดที่บวม และบดเป็นยา เชื่อกันว่าหากนำขวานฟ้าไว้ในยุ้งข้าว ข้าวจะไม่พร่อง วางขวานฟ้าไว้ที่ลานตากข้าวเปลือก ไก่ป่าจะไม่เข้ามาจิกกิน บางจังหวัดในภาคกลางใช้ไล่ผีโดยเอาขวานฟ้าซุกไว้ใต้ที่นอนคนที่ถูกผีเข้าสิง นอกจากนี้ในบ่อนไก่บางแห่งยังใช้ขวานฟ้าบด เพื่อใช้รักษาตาไก่ที่แตกเป็นแผล

อานุภาพนั้น ครอบจักรวาล สุดวิเศษมหัศจรรย์ด้วยเป็นเทพศาสตราจึงมีฤทธานุภาพสูงและชิ้นนี้ยังเป็นคดขวานฟ้าทองดำอีกด้วยจึงเป็นกายสิทธิ์ซ้อนกายสิทธิ์ที่หาได้ยากยิ่ง ทรงคุณค่าทางมหาปราบ เรืองเดชมหาอำนาจ กันและแก้อาถรรพณ์ทุกชนิด กันไฟกันฟ้า ป้องกันคุณไสยมนต์ดำ ภูตผีปีศาจขยาดกลัว เสริมหนุนดวงไม่ให้ตกต่ำ ป้องกันภัยได้สารพัดสุดวิเศษเหนือที่จะพรรณา

สร้าง 200 ชิ้น พุทธาภิเษก 10 พฤษภาคม 2558

 

2 รายการที่จองไว้ โอนเงินเรียบร้อยแล้วครับ

ณัชพล อนุสรณ์สกุล
15/286 หมู่บ่านภาสกร หมู่9 ถนนสุขาภิบาล1 แขวงบางบอน เขตบางบอน กรุงเทพ10150

 

ขอจองพระขรรค์จักรพรรดิ์เล็กครับ

ขอจองพระขรรค์จักรพรรดิ์เล็กครับ (รบกวนช่วยยืนยันให้ด้วยนะครับ)
ขอบคุณครับ

 

จอง รายการที่ 203 พระพรหมสยบราหู หลวงพ่อชำนาญ วัดบางกุฎีทอง ครับ

 

ชำระรายการที่ 193 พระขรรค์จักรพรรดิ์เล็ก หลวงปู่ศรี มหาวีโร
1140 บาท ค่าจัดส่ง 60 บาท เรียบร้อยแล้วครับ จาก KTB 0131753061:
1200 บ.เมื่อ อ.27 ก.ย.59:17.37น. รายละเอียดที่อยู่จะแจ้งใน PM นะครับ
ขอบคุณครับ

 

มีพระกริ่ง หรือ พระชัยชุดนี้หรือป่าวคับขอบคุณคับ(วัตถุมงคลชุดโลกุตรธรรม)

 

็ขอจองเพิ่มรายการที่ 65 , 120 , 142 ,144 ครับ เดี๋ยวโอนทีเดียว
นะครับ

 

ได้รับพระขรรค์แล้วครับ ขอบคุณครับ

 

รายการที่ 204 ท้าวเวสสุวรรณ หลวงปู่หงษ์ พรหมปัญโญ สุสานทุ่งมน
ค่าจัดส่ง 60 บาท

ท้าวเวสสุวรรณ หลวงปู่หงษ์ พรหมปัญโญ สุสานทุ่งมน ศิลปะแบบขอม องค์ยืนสูง 3 ซ.ม รุ่น แซยิค 96 รูปลักษณ์เป็นท้าวเวสสุวรรณประทับยืนกุมกระบอง 8 เหลี่ยม ฉลองรัดเครื่องทรงด้วยลายลักษณ์ศิลปะขอมโบราณ ทรงเทริดสวมศรีษะประทับแท่นฐานทรงกลม องค์ท้าวเวสสุวรรณมีฤทธิเดชทางคุ้มครองป้องกันภัยนานา มีเมตตามหานิยม ซึ่งท้าวเวสสุวรรณเป็นเทพจตุมหาโลกบาลผู้พิทักษ์รักษาโลกทิศอุดร เป้นนายแห่งยักษ์ ภูตผีปีศาจในภาคของอิทธิฤทธิ์ และในทางบุญฤทธิ์มีนามว่า"พระธนบดี" เทพเจ้าแห่งโชคลาภทรัพย์สมบัติเงินทอง เป็นของดีที่ควรบูชาเป็นอย่างยิ่ง เทพเจ้าแห่งโชคลาภ ขับไล่ภูติผีปีศาจ คุณไสย บ้านไหนมีคนป่วยหนักหลวงปู่บอกว่า ให้เอาท้าวเวสสุวรรณของท่านปักไว้หน้าบ้าน หากไม่ถึงอายุขัยจริงๆ ยมทูตจะไม่เอาไป

คาถาท้าวเวสสุวรรณ ใช้อาราธนาของ หลวงปู่หงษ์ พรหมปัญโญ
"เวสสะ พุสะ นะมะพะทะ จะภะกะสะนะเมติ" 9-12 จบ

ท้าวเวสสุวรรณทุกรุ่นของหลวงปู่มีประสบการณ์มาก ส่วนใหญ่เป็นเรื่องคุ้มครองป้องกัน และปลอดภัยจากอุบัติเหตุ หลวงปู่ท่านเชี่ยวชาญการเสกท้าวเวสสุวรรณ ของทุกอย่างท่านไม่ใช่สักแต่เสก ท่านมีวิชาเฉพาะอย่าง อาราธนาบารมีพระรัตนตรัย และบรมครูทุกองค์ของท่านมาช่วย ท่านสอนให้ศิษย์กตัญญู ท่านเป็นแบบอย่าง ท่านทำอะไรจะนึกถึงครูเสมอ ท่านให้ความสำคัญและบูชาครูด้วยความนอบน้อมเสมอ

วัตถุมงคลของหลวงปู่ เป็นของสูง ท่านย้ำมากว่าจะให้ดีที่สุด ศิษย์ท่านจะต้องถือศิล5ให้ได้มากที่สุด พระจะรักษา ครูจะคุ้มครอง

โทรศัพท์ 094 949 4633
ธนาคารไทยพาณิชย์
เลขบัญชี 114-220116-0 WANNARAT

 

รายการที่ 205 เหรียญรูปเหมือนทรงแปดเหลี่ยมลงยา รุ่นคุ้มภัยแปดทิศ หลวงพ่อเกษม เขมโก
ค่าจัดส่ง 60 บาท

เหรียญรูปเหมือนทรงแปดเหลี่ยมลงยา รุ่นคุ้มภัยแปดทิศ หลวงพ่อเกษม เขมโก สำนักสุสานไตรลักษณ์ จ.ลำปาง วันที่ 11 กรกฎาคม พ.ศ. 2538

ยันต์ 8 ทิศ นี้เรียกอีกชื่อหนึ่งว่ายันต์ปากัว หรือ ยันต์โป๊ยข่วย เป็นเครื่องรางที่นิยมใช้กันมากในการแก้ฮวงจุ้ยได้ หลากหลาย เพราะเชื่อถือกันว่า ยันต์โป๊ยข่วยจะแผ่รังสีไปได้กว้างไกลทั้งแปดทิศ จึงสามารถป้องกันและสะท้อนพลังร้ายๆ ต่างๆ ให้หักเหไปทางอื่น มิสามารถเข้าบ้านได้ พิธีกรรมที่พึงกระทำก็คือ การหากระดาษเงินกระดาษทองมาเช็ดโป๊ยข่วย แล้วเผากระดาษ เงินกระดาทองก่อนอธิษฐานภาวนาขอให้โป๊ยข่วยช่วยปกปักรักษาบ้านด้วย ถ้ารู้จัก พระจีนจะขอน้ำมนต์พระจีนมาประพรมโป๊ยข่วยสักหน่อยก็ดีเหมือนกัน โป๊ยข่วยหรือยันต์ 8 ทิศเป็นวัตถุมงคลที่ควรติดไว้กันพลังร้ายของทางสามแพร่งได้ ถ้าบ้านตรงข้ามมีประตูตรงกับเราอย่างที่เรียกว่า ประตูเล้งกัน ก็ควรติดโป๊ยข่วยไว้ หรือถ้าหน้าบ้านมีสะพานตรงมาหา มีมุมแหลมคมของ ตึกฝั่งตรงข้ามชี้พุ่งเข้าใส่ ก็สมควรติดโป๊ยข่วยป้องกันไว้เป็นสำคัญ

โทรศัพท์ 094 949 4633
ธนาคารไทยพาณิชย์
เลขบัญชี 114-220116-0 WANNARAT