มาดูสมเด็จกัน

ในห้อง 'วิธีดูพระเครื่อง-เครื่องรางของขลัง' ตั้งกระทู้โดย wasabi san, 25 พฤศจิกายน 2009.

สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้
  1. kepper

    kepper เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 พฤศจิกายน 2010
    โพสต์:
    154
    ค่าพลัง:
    +128
    รบกวน คุณ วาซาบิ และ คุณ xlmen ช่วยดูพระหลวงพ่อปานกับพระผงสุพรรณ พระรอด ให้ด้วยครับขอบคุณครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • SAM_2397.JPG
      SAM_2397.JPG
      ขนาดไฟล์:
      209.6 KB
      เปิดดู:
      105
    • SAM_2398.JPG
      SAM_2398.JPG
      ขนาดไฟล์:
      237.9 KB
      เปิดดู:
      39
    • SAM_2399.JPG
      SAM_2399.JPG
      ขนาดไฟล์:
      313.8 KB
      เปิดดู:
      42
    • SAM_2400.JPG
      SAM_2400.JPG
      ขนาดไฟล์:
      1.7 MB
      เปิดดู:
      55
    • SAM_2401.JPG
      SAM_2401.JPG
      ขนาดไฟล์:
      1.9 MB
      เปิดดู:
      100
    • SAM_2402.JPG
      SAM_2402.JPG
      ขนาดไฟล์:
      1.9 MB
      เปิดดู:
      69
    • SAM_2403.JPG
      SAM_2403.JPG
      ขนาดไฟล์:
      1.7 MB
      เปิดดู:
      54
    • SAM_2410.JPG
      SAM_2410.JPG
      ขนาดไฟล์:
      1.7 MB
      เปิดดู:
      109
    • SAM_2411.JPG
      SAM_2411.JPG
      ขนาดไฟล์:
      1.8 MB
      เปิดดู:
      82
  2. sitcy

    sitcy เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 พฤศจิกายน 2010
    โพสต์:
    226
    ค่าพลัง:
    +151
    ยังไงขอยลโฉม อกครุฑของคุณthanit line เป็นวิทยาธานด้วยนะครับเจ้านาย:'(
     
  3. chaiyaput

    chaiyaput เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    904
    ค่าพลัง:
    +1,146
    วันนี้ลองล้างดูแล้วครับ ท่านอาจารย์ตอนล้างสีก็สวยโอเคครับ แต่พอแห้งแล้วคราบแป้งขาวกลับขึ้นมาอีกครับ แต่ก็น่าจะโอเคกว่าเดิมครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  4. xlmen

    xlmen เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    1,428
    ค่าพลัง:
    +3,291
    [​IMG][​IMG][​IMG]

    ขออภัยที่ตอบช้าครับ....
    สำหรับพระชุดนี้....เรียนตามตรงครับว่าผิวเนื้อลักษณะนี้ดูไม่ดีนักครับเลี่ยงได้ก็ควรเลี่ยงดีกว่าครับ....เอาเป็นว่าผมขอผ่านนะครับ
     
  5. xlmen

    xlmen เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    1,428
    ค่าพลัง:
    +3,291
    [​IMG][​IMG][​IMG][​IMG]

    โดยส่วนตัวคิดว่าผิวเนื้อพระค่อนข้างจะดูใหม่ไปนิดทั้ง 3 องค์นะครับ....
    เดี๋ยวรอคุณวาซาบิซังมาช่วยดูให้ดีกว่าครับ...ผมไม่ค่อยถนัดพระของลพ.ปานครับ
     
  6. xlmen

    xlmen เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    1,428
    ค่าพลัง:
    +3,291
    [​IMG]
    หลังจากที่คุณชัยฯ ได้ล้างพระแล้วจะเห็นได้ว่าผิวเนื้อที่เคยหนึกนุ่มนั้นได้หายไปเกือบจะหมดนะครับ....
    ผมก็ไม่แน่ใจว่าความหนึกนุ่มหายไปเพราะรูปไม่ชัดหรือเพราะผลของการล้างกันแน่ครับ...

    ส่วนสาเหตุที่เวลาพระแห้งแล้วเกิดคราบแป้งโรยพิมพ์ลอยจับผิวพระชัดอยู่ก็เพราะแป้งที่โรยพิมพ์นั้นจะเกาะติดกับเนื้อ.....ถ้าล้างน้ำเปล่าธรรมดาแป้งจะไม่หลุดออกทั้งหมดครับ...

    แต่ถ้าใช้น้ำอุ่นหรือน้ำร้อนแป้งจะเกิดการสุกและหลุดออกได้ไม่ยากครับ...
    คราวนี้ก็ต้องมาลุ้นกันแล้วครับว่าแป้งที่ใช้โรยพิมพ์ในพระองค์นี้เป็นแป้งที่ทำมาจากธัญพืช หรือเป็นแป้งที่มาจากดินสอพอง...

    ถ้าเป็นพระสมเด็จที่เก่าถึงยุคจริงความเก่าจะต้องเก่าเข้าไปถึงเนื้อในของพระครับ...
    คุณชัยอยากลองวัดใจดูไหมหละครับ....สูตร 1 ล้างด้วยน้ำร้อน สูตร 2 ล้างด้วยน้ำมะนาว

    หลังจากล้างแล้วคราวนี้รบกวนถ่ายรูปมาให้ชมใหม่อีกรอบนะครับ....
    ขอแบบซูมชัดๆ ถ่ายผ่านกล้องส่องพระมาเลยก็ได้ครับ....แล้วเราค่อยมาวิเคราะห์กันต่อครับ อิอิ

    (ปล. น้ำมะนาวถือว่าเป็นการล้างที่แรงสุดนะครับ....โปรดใช้วิจารณญาณในการล้างครับ อิอิ)
     
  7. chaiyaput

    chaiyaput เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    904
    ค่าพลัง:
    +1,146
    ขอบคุณครับ ท่านอาจารย์xlmen รูปผมถ่ายด้วยกล้องมือถือครับ แล้วผมจะลองถ่ายรูปใหม่ดูครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 22 พฤศจิกายน 2010
  8. โปตยา

    โปตยา Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กันยายน 2008
    โพสต์:
    52
    ค่าพลัง:
    +35
    ขอบคุณครับ พี่ xlmen ทุกคำชี้แนะถือเป็นสิ่งมีค่าครับ ไม่ว่าช้าหรือเร็ว

    ท่าทางชุดนี้จะโดนเรียบ :'( องค์ที่เหลือน่าจะออกแนวบางขุนพรหม และหรือ พระเกจิ ขอความกรุณาพี่ๆ อีกรอบละกันครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • DSC01163.JPG
      DSC01163.JPG
      ขนาดไฟล์:
      317.6 KB
      เปิดดู:
      124
    • DSC01164.JPG
      DSC01164.JPG
      ขนาดไฟล์:
      340.8 KB
      เปิดดู:
      62
    • DSC01165.JPG
      DSC01165.JPG
      ขนาดไฟล์:
      343.1 KB
      เปิดดู:
      115
    • DSC01166.JPG
      DSC01166.JPG
      ขนาดไฟล์:
      392.4 KB
      เปิดดู:
      58
    • DSC01183.JPG
      DSC01183.JPG
      ขนาดไฟล์:
      377.6 KB
      เปิดดู:
      117
    • DSC01184.JPG
      DSC01184.JPG
      ขนาดไฟล์:
      373.9 KB
      เปิดดู:
      64
  9. kepper

    kepper เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 พฤศจิกายน 2010
    โพสต์:
    154
    ค่าพลัง:
    +128
    ขอบคุณ คุณ xlmen มากครับ
     
  10. kepper

    kepper เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 พฤศจิกายน 2010
    โพสต์:
    154
    ค่าพลัง:
    +128
    รบกวนเพิ่มเติมอีก 2 องค์ ครับ
    ขอบคุณครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • SAM_2413.JPG
      SAM_2413.JPG
      ขนาดไฟล์:
      1.7 MB
      เปิดดู:
      51
    • SAM_2414.JPG
      SAM_2414.JPG
      ขนาดไฟล์:
      1.7 MB
      เปิดดู:
      43
    • SAM_2415.JPG
      SAM_2415.JPG
      ขนาดไฟล์:
      1.7 MB
      เปิดดู:
      53
    • SAM_2416.JPG
      SAM_2416.JPG
      ขนาดไฟล์:
      1.7 MB
      เปิดดู:
      39
  11. ทรงกลด999

    ทรงกลด999 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    1,284
    ค่าพลัง:
    +1,510
    ขอเริ่มบทแรกของคาถาชินบัญชรครับ

    จาก ��оط����� �� ���ͧ�� �ҡ ������ ʹء! ������
    <TABLE class=fontblacksm cellSpacing=8 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR><TD colSpan=2>พระพุทธเจ้า ๒๘ พระองค์


    </TD></TR><!-- <tr><td> [ แก้ไข ][ เก็บไว้เป็นเรื่องที่ติดตาม ]
    สร้างเมือ 21-10-2008 </td><td align="right"></td> </tr> --></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top bgColor=#f7fafe><TABLE class=fontblacksm cellSpacing=0 cellPadding=5 width="100%" border=0><TBODY><TR vAlign=top><TD>ในการสร้างบารมีเพื่อพระปรมาภิเษกสัมโพธิญาณของพระโพธิสัตว์เจ้านั้น พระองค์ได้ทรงพบพระพุทธเจ้ามาแล้วทั้งหมดรวม ๒๗ พระองค์ รวมทั้งพระองค์เองด้วยที่ได้มาตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้าจึงรวมเป็นพระพุทธเจ้าทั้งหมด ๒๘ พระองค์ ดังมีลำดับพระนามดังต่อไปนี้ คือ

    ๑. สมเด็จพระตัณหังกรพุทธเจ้า
    ๒. สมเด็จพระเมธังกรพุทธเจ้า
    ๓. สมเด็จพระสรณังกรพุทธเจ้า
    ๔. สมเด็จพระทีปังกรพุทธเจ้า
    ๕. สมเด็จพระโกณฑัญญะพุทธเจ้า
    ๖. สมเด็จพระสุมังคละพุทธเจ้า
    ๗. สมเด็จพระสุมนะพุทธเจ้า
    ๘. สมเด็จพระเรวตะพุทธเจ้า
    ๙. สมเด็จพระโสภิตะพุทธเจ้า
    ๑๐. สมเด็จพระอโนมทัสสีพุทธเจ้า
    ๑๑. สมเด็จพระปทุมะพุทธเจ้า
    ๑๒. สมเด็จพระนารทะพุทธเจ้า
    ๑๓. สมเด็จพระปทุมุตระพุทธเจ้า
    ๑๔. สมเด็จพระสุเมธะพุทธเจ้า
    ๑๕. สมเด็จพระสุชาตะพุทธเจ้า
    ๑๖. สมเด็จพระปิยทัสสีพุทธเจ้า
    ๑๗. สมเด็จพระอัตถทัสสีพุทธเจ้า
    ๑๘. สมเด็จพระธรรมทัสสีพุทธเจ้า
    ๑๙. สมเด็จพระสิทธัตถะพุทธเจ้า
    ๒๐. สมเด็จพระติสสะพุทธเจ้า
    ๒๑. สมเด็จพระมหาปุสสะพุทธเจ้า
    ๒๒. สมเด็จพระวิปัสสีพุทธเจ้า
    ๒๓. สมเด็จพระสิขีพุทธเจ้า
    ๒๔. สมเด็จพระเวสสภูพุทธเจ้า
    ๒๕. สมเด็จพระกกุสันธพุทธเจ้า
    ๒๖. สมเด็จพระโกนาคมนะพุทธเจ้า
    ๒๗. สมเด็จพระกัสสปะพุทธเจ้า
    ๒๘. สมเด็จพระศรีศากยมุนีโคดม “สิทธัตถะ”พุทธเจ้า (องค์ปัจจุบัน)
    ๒๙. สมเด็จพระศรีอริยเมตไตรพุทธเจ้า (ในอนาคต)

    ซึ่งในการทรงสร้างพระบารมีของพระพุทธเจ้านั้น ในแต่ละพระชาติที่ทรงพบพระพุทธเจ้าแต่ละพระองค์นั้น พระองค์ทรงเกิดเป็นใครและพบพระพุทธเจ้าพระองค์ไหน ซึ่งพระพุทธเจ้า ๓ พระองค์แรกนั้น คือ สมเด็จพระตัณหังกรพุทธเจ้า สมเด็จพระเมธังกรพุทธเจ้า และสมเด็จพระสรณังกรพุทธเจ้า นั้น พระโพธิสัตว์ทรงได้พบแต่ยังไม่ได้รับคำพยากรณ์ทั้งนี้เพราะธรรมสโมธานยังไม่บริบูรณ์ การได้รับคำพยากรณ์นั้นเริ่มตั้งแต่พระพุทธเจ้าทรงพระนามว่า สมเด็จพระปุราณทีปังกรพุทธเจ้า และองค์ต่อ ๆ มา ดังนี้

    • สมเด็จพระโกณฑัญญพุทธเจ้าทรงอุบัติ
    กาลครั้งนี้พระโพธิสัตว์เจ้าทรงอุบัติเกิดเป็นสมเด็จพระเจ้าจักรพรรดิราชทรงพระนามว่า “สมเด็จพระเจ้าวิชิตาวีบรมจักรพรรดิ” ทรงได้รับพุทธพยากรณ์จากสมเด็จพระโกณฑัญญพุทธเจ้า” ว่า
    “พระบรมขัตติยาธิบดีวิชิตาวีบรมจักรพรรดิพระองค์นี้
    คือหน่อพระชินสีห์โพธิสัตว์ สืบไปเมื่อหน้าในอนาคตกาล
    พระองค์จะได้ตรัสเป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์หนึ่ง
    ทรงพระนามว่า “สมเด็จพระศรีศากยมุนีโคดมบรมครูจ้า
    เป็นแน่แท้”

    • สมเด็จพระสุมังคละพุทธเจ้าทรงอุบัติ
    กาลครั้งนี้พระโพธิสัตว์เจ้าทรงอุบัติเกิดในตระกูลพราหมณ์มหาศาล มีนามว่า “สุรุจิพราหมณ์” ทรงได้รับพุทธพยากรณ์จากสมเด็จพระสุมังคละพุทธเจ้าว่า
    “ดูกรมหาพราหมณ์! กาลล่วงไปในอนาคตกำหนดได้ ๒ อสงไขย
    เศษอีกหนึ่งแสนมหากัป ในเบื้องหน้านั้น ตัวท่านจะได้ตรัสเป็น
    พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ทรงนามว่า พระศรีศากยมุนีโคดม ในภัทรกัป
    อันจักมี ณ ที่สุด ๒ อสงไขยกับเศษแสนมหากัปนั้น”

    • สมเด็จพระสุมนะพุทธเจ้าอุบัติ
    กาลครั้งนี้พระโพธิสัตว์เจ้าทรงอุบัติเกิดในภุชงคตระกูล เป็นพญานาคราชน มีนามว่า “พญาอดุลยวาสุกรี” ทรงได้รับพุทธพยากรณ์จากสมเด็จพระสุมนะพุทธเจ้าว่า
    “พญาอดุลยนาคราชนี้ นานไปในอนาคตกำหนดได้ ๒ อสงไขย
    เศษอีกหนึ่งแสนมหากัป จะได้ตรัสเป็นพระสัพพัญญูพุทธเจ้า
    พระองค์หนึ่งทรงนามว่า พระศรีศากยมุนีโคดม ในภัทรกัป
    อันจักมี ณ ที่สุด ๒ อสงไขยกับเศษแสนมหากัปนั้น”

    • สมเด็จพระเรวตะพุทธเจ้าอุบัติ
    กาลครั้งนี้พระโพธิสัตว์เจ้าทรงอุบัติเกิดในตระกูลพราหมณ์ มีนามว่า “อติเทวมานพ” ทรงได้รับพุทธพยากรณ์จากสมเด็จพระเรวตะพุทธเจ้าว่า
    “อติเทวมานพนี้ นานไปในอนาคตกำหนดได้ ๒ อสงไขย
    เศษอีกหนึ่งแสนมหากัป จะได้ตรัสเป็นพระสัพพัญญูพุทธเจ้า
    พระองค์หนึ่งทรงนามว่า พระศรีศากยมุนีโคดม ในภัทรกัป
    อันจักมี ณ ที่สุด ๒ อสงไขยกับเศษแสนมหากัปนั้น”

    • สมเด็จพระโสภิตะพุทธเจ้าอุบัติ
    กาลครั้งนี้พระโพธิสัตว์เจ้าทรงอุบัติเกิดในตระกูลพราหมณ์มหาศาล มีนามว่า “อชิตพราหมณ์” ทรงได้รับพุทธพยากรณ์จากสมเด็จพระโสภิตะพุทธเจ้าว่า
    “อชิตพราหมณ์นี้ นานไปในอนาคตกำหนดได้ ๒ อสงไขย
    เศษอีกหนึ่งแสนมหากัป จะได้ตรัสเป็นพระสัพพัญญูพุทธเจ้า
    พระองค์หนึ่งทรงนามว่า พระศรีศากยมุนีโคดม ในภัทรกัป
    อันจักมี ณ ที่สุด ๒ อสงไขยกับเศษแสนมหากัปนั้น”

    • สมเด็จพระอโนมทัสสีพุทธเจ้าอุบัติ
    กาลครั้งนี้พระโพธิสัตว์เจ้าทรงอุบัติเกิดเป็น “พญายักขเสนาบดี” ทรงได้รับพุทธยากรณ์ จากสมเด็จพระอโนมทัสสีพุทธเจ้าว่า
    “ท่านพญายักขเสนาบดีนี้ นานไปในอนาคตกำหนดได้ ๑ อสงไขย
    เศษอีกหนึ่งแสนมหากัป จะได้ตรัสเป็นพระสัพพัญญูพุทธเจ้า
    พระองค์หนึ่งทรงนามว่า พระศรีศากยมุนีโคดม ในภัทรกัป
    อันจักมี ณ ที่สุด ๑ อสงไขยกับเศษแสนมหากัปนั้น”

    • สมเด็จพระปทุมะพุทธเจ้าอุบัติ
    กาลครั้งนี้พระโพธิสัตว์เจ้าทรงอุบัติเกิดในเดียรัจฉานภูมิ มีนามว่า “พญาไกรสรสีหราช” ได้ทรงพบสมเด็จพระปทุมะพุทธเจ้าพร้อมกับพระสงฆ์สาวกกำลังทรงนั่งเข้านิโรธสมาบัติอยู่ ณ รุกขมูลโคนต้นไม้มีจิตเลื่อมใสจึงเดินวนรอบอารักขาอยู่ ๗ วันโดยไม่ได้รับอาหาร จึงเป็นการกระทำอธิการคือสละชีวิต จึงได้รับพุทธพยากรณ์จากสมเด็จพระปทุมะพุทธเจ้าว่า
    “พญาไกรสรสีหราชนี้ นานไปในอนาคตกำหนดได้ ๑ อสงไขย
    เศษอีกหนึ่งแสนมหากัป จะได้ตรัสเป็นพระสัพพัญญูพุทธเจ้า
    พระองค์หนึ่งทรงนามว่า พระศรีศากยมุนีโคดม ในภัทรกัป
    อันจักมี ณ ที่สุด ๑ อสงไขยกับเศษแสนมหากัปนั้น”

    • สมเด็จพระนารทะพุทธเจ้าอุบัติ
    กาลครั้งนี้พระโพธิสัตว์เจ้าทรงอุบัติเกิดเป็นพระฤาษี ทรงได้รับพุทธพยากรณ์จากสมเด็จพระนารทะพุทธเจ้าว่า
    “มหาฤาษีผู้มีมหานุภาพนี้ นานไปในอนาคตกำหนดได้ ๑ อสงไขย
    เศษอีกหนึ่งแสนมหากัป จะได้ตรัสเป็นพระสัพพัญญูพุทธเจ้า
    พระองค์หนึ่งทรงนามว่า พระศรีศากยมุนีโคดม ในภัทรกัป
    อันจักมี ณ ที่สุด ๑ อสงไขยกับเศษแสนมหากัปนั้น”

    • สมเด็จพระปทุมุตระพุทธเจ้าอุบัติ
    กาลครั้งนี้พระโพธิสัตว์เจ้าทรงอุบัติเกิดเป็นนายบ้านชื่อชฏิล ต่อมาได้ทรงเพศเป็นดาบส ทรงได้รับพุทธพยากรณ์จากสมเด็จพระปทุมุตระพุทธเจ้าว่า
    “ชฏิลดาบสผู้นี้ นานไปในอนาคต จักได้ตรัสเป็น
    พระพุทธเจ้าพระองค์หนึ่งทรงนามว่า พระศรีศากยมุนีโคดม
    ในภัทรกัปอันจักมี ณ ที่สุด หนึ่งแสนมหากัปนั้น”

    • สมเด็จพระสุเมธะพุทธเจ้าอุบัติ
    กาลครั้งนี้พระโพธิสัตว์เจ้าทรงอุบัติเกิดเป็นมานพหนุ่ม มีนามว่า “อุตตรมานพ” ผู้บริจาคทรัพย์มหาศาล ต่อมาได้มีศรัทธาออกบวชมีนามว่า “อุตตรภิกขุ” ทรงได้รับพุทธพยากรณ์จากสมเด็จพระสุเมธะพุทธเจ้าว่า
    “อุตตรภิกขุนี้ นานไปในอนาคต จักได้ตรัสเป็น
    พระพุทธเจ้าพระองค์หนึ่งทรงนามว่า พระศรีศากยมุนีโคดม
    ในภัทรกัปอันจักมีในอนาคตกาล”

    • สมเด็จพระสุชาตะพุทธเจ้าอุบัติ
    กาลครั้งนี้พระโพธิสัตว์เจ้าทรงอุบัติเกิดเป็นสมเด็จพระบรมจักรพรรดิราชเจ้า ทรงบริจาคทรัพย์มหาศาล ต่อมาได้มีศรัทธาออกบวช ทรงได้รับพุทธพยากรณ์จากสมเด็จพระสุชาตะพุทธเจ้าว่า
    “บรมจักรพรรดิภิกขุนี้ นานไปในอนาคตกาลภายหน้า จักได้ตรัสเป็น
    พระพุทธเจ้าพระองค์หนึ่งทรงนามว่า พระศรีศากยมุนีโคดม
    ในภัทรกัปอันจักมีปรากฏในอนาคตกาล”

    • สมเด็จพระปิยทัสสีพุทธเจ้าอุบัติ
    กาลครั้งนี้พระโพธิสัตว์เจ้าทรงอุบัติเกิดในตระกูลพราหมณ์ มีนามว่า “กัสสปมาณพ” ทรงบริจาคทรัพย์มหาศาล ทรงได้รับพุทธพยากรณ์จากสมเด็จพระสุชาตะพุทธเจ้าว่า
    “กัสสปมาณพผู้นี้ นานไปในอนาคตกาลภายหน้า จักได้ตรัสเป็น
    พระพุทธเจ้าพระองค์หนึ่งทรงนามว่า พระศรีศากยมุนีโคดม
    ในภัทรกัปอันจักมีปรากฏในอนาคตกาล”

    • สมเด็จพระอัตถทัสสีพุทธเจ้าอุบัติ
    กาลครั้งนี้พระโพธิสัตว์เจ้าทรงอุบัติเกิดในตระกูลพราหมณ์มหาศาล มีนามว่า “สุสิมพราหมณ์” ได้มีศรัทธาออกบวชเป็นฤาษี ทรงได้รับพุทธพยากรณ์จากสมเด็จพระอัตถทัสสีพุทธเจ้าว่า
    “สุสสิมมหาฤาษีผู้นี้ นานไปในอนาคตกาลภายหน้า จักได้ตรัสเป็น
    พระพุทธเจ้าพระองค์หนึ่งทรงนามว่า พระศรีศากยมุนีโคดม
    ในภัทรกัปหนึ่งอันจักมีปรากฏในอนาคตกาล”

    • สมเด็จพระธรรมทัสสีพุทธเจ้าอุบัติ
    กาลครั้งนี้พระโพธิสัตว์เจ้าทรงอุบัติเกิดเป็นเทพเจ้า “สมเด็จพระอมรินทราธิราช”หรือ พระอินทร์ ทรงได้รับพุทธพยากรณ์จากสมเด็จพระธรรมทัสสีพุทธเจ้าว่า
    “สมเด็จพระอมรินทราธิราชนี้ นานไปในอนาคตกาลภายหน้า จักได้ตรัสเป็น พระพุทธเจ้าพระองค์หนึ่งทรงนามว่า พระศรีศากยมุนีโคดม
    ในภัทรกัปหนึ่งอันจักมีปรากฏในอนาคตกาล”

    • สมเด็จพระสิทธัตถะพุทธเจ้าอุบัติ
    กาลครั้งนี้พระโพธิสัตว์เจ้าทรงอุบัติเกิดในตระกูลพราหมณ์มหาศาล มีนามว่า “มังคมาณพ” ได้มีศรัทธาออกบวชเป็นดาบส ทรงได้รับพุทธพยากรณ์จากสมเด็จพระสิทธัตถะพุทธเจ้าว่า
    “มังคดาบสนี้ นานไปในอนาคตกำหนดได้ ๙๔ มหากัปแต่กาลนี้ไป
    จักได้ตรัสเป็น พระพุทธเจ้าพระองค์หนึ่งทรงนามว่า พระศรีศากยมุนีโคดม
    ในภัทรกัปหนึ่งอันจักมีปรากฏในอนาคตกาล”

    • สมเด็จพระติสสะพุทธเจ้าอุบัติ
    กาลครั้งนี้พระโพธิสัตว์เจ้าทรงอุบัติเกิดในตระกูลกษัตริย์ ทรงพระนามว่า “สมเด็จพระเจ้าสุชาตมหาราช” ได้มีศรัทธาออกบวชเป็นดาบส ทรงได้รับพุทธพยากรณ์จากสมเด็จพระติสสะพุทธเจ้าว่า
    “พระสุชาตดาบสนี้ นานไปในอนาคตกำหนดได้ ๙๒ มหากัปแต่กาลนี้ไป
    จักได้ตรัสเป็น พระพุทธเจ้าพระองค์หนึ่งทรงนามว่า พระศรีศากยมุนีโคดม
    ในภัทรกัปหนึ่งอันจักมีปรากฏในอนาคตกาล”

    • สมเด็จพระมหาปุสสะพุทธเจ้าอุบัติ
    กาลครั้งนี้พระโพธิสัตว์เจ้าทรงอุบัติเกิดในตระกูลขัตติยวงศ์ ทรงพระนามว่า “สมเด็จพระเจ้าวิชิตบรมกษัตริย์” ได้มีศรัทธาออกบวชเป็นพระภิกษุ ทรงได้รับพุทธพยากรณ์จากสมเด็จพระมหาปุสสะพุทธเจ้าว่า
    “พระวิชิตขัตติยภิกขุหรือพระเตปิฏกธราจารย์นี้ นานไปในอนาคต
    กำหนดได้ ๙๒ มหากัปแต่กาลนี้ไป จักได้ตรัสเป็น พระพุทธเจ้าพระองค์หนึ่ง ทรงนามว่า พระศรีศากยมุนีโคดม ในภัทรกัปหนึ่งอันจักมีปรากฏในอนาคตกาล”

    • สมเด็จพระวิปัสสีพุทธเจ้าอุบัติ
    กาลครั้งนี้พระโพธิสัตว์เจ้าทรงอุบัติเกิดเป็น “พญาภุชงคนาคราช” ได้มีศรัทธาเนรมิตมณฑปใหญ่ถวายพระพุทธเจ้า ทรงได้รับพุทธพยากรณ์จากสมเด็จพระวิปัสสีพุทธเจ้าว่า
    “พญาภุชงคนาคราชนี้ นานไปในอนาคตกำหนดได้ ๙๑ มหากัปแต่กาลนี้ไป
    จักได้ตรัสเป็น พระพุทธเจ้าพระองค์หนึ่งทรงนามว่า พระศรีศากยมุนีโคดม
    ในภัทรกัปหนึ่งอันจักมีปรากฏในอนาคตกาล”

    • สมเด็จพระสิขีพุทธเจ้าอุบัติ
    กาลครั้งนี้พระโพธิสัตว์เจ้าทรงอุบัติเกิดในตระกูลกษัตริย์ ทรงพระนามว่า “สมเด็จพระเจ้าอรินทมราชาธิราช” ได้มีศรัทธาบริจาคทรัพย์มาก ทรงได้รับพุทธพยากรณ์จากสมเด็จพระสิขีพุทธเจ้าว่า
    “สมเด็จพระเจ้าอรินทมราชาธิราชนี้ นานไปในอนาคตกำหนดได้ ๓๑ มหากัป
    แต่กาลนี้ไป จักได้ตรัสเป็นพระพุทธเจ้าพระองค์หนึ่งทรงพระนามว่า
    พระศรีศากยมุนีโคดม ในภัทรกัปหนึ่งอันจักมีปรากฏในที่สุดแห่ง ๓๑ มหากัป
    ในอนาคตกาลภายภาคหน้า”

    • สมเด็จพระเวสสภูพุทธเจ้าอุบัติ
    กาลครั้งนี้พระโพธิสัตว์เจ้าทรงอุบัติเกิดในตระกูลกษัตริย์ ทรงพระนามว่า “สมเด็จพระเจ้าสุทัสสนมหาราช” ได้มีศรัทธาบริจาคทรัพย์มากและทรงออกผนวช ทรงได้รับพุทธพยากรณ์จากสมเด็จพระเวสสภูพุทธเจ้าว่า
    “สุทัสสนบรมขัตติยภิกษุนี้ นานไปในอนาคตกำหนดได้ ๓๑ มหากัป
    แต่กาลนี้ไป จักได้ตรัสเป็นพระพุทธเจ้าพระองค์หนึ่งทรงพระนามว่า
    พระศรีศากยมุนีโคดม ในภัทรกัปหนึ่งอันจักมีปรากฏในที่สุดแห่ง ๓๑ มหากัป
    ในอนาคตกาลภายภาคหน้า”

    • สมเด็จพระมิ่งมงกุฏกกุสันธพุทธเจ้าอุบัติ
    กาลครั้งนี้พระโพธิสัตว์เจ้าทรงอุบัติเกิดในตระกูลกษัตริย์ ทรงพระนามว่า “สมเด็จพระเจ้าเขมนราธิราช” ได้มีศรัทธาบริจาคทรัพย์มาก ทรงมีจิตศรัทธาออกผนวชได้ศึกษาพระ ไตรปิฏกจนแตกฉานได้รับฉายาว่า “พระธรรมปิฏกธราธิราชภิกขุ” ทรงได้รับพุทธพยากรณ์จากสมเด็จพระมิ่งมงกุฏกกุสันธพุทธเจ้าว่า
    “พระเขมราชภิกขุนี้ เป็นนิยตโพธิสัตว์ เที่ยงแท้ที่จะได้ตรัสเป็น
    พระสัพพัญญูสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์หนึ่งทรงพระนามว่า
    พระศรีศากยมุนีโคดม ในอนาคตกำหนดนับเป็นลำดับองค์ที่ ๔
    ในภัทรกัปนี้”

    • สมเด็จพระมิ่งมงกุฎโกนาคมนะพุทธเจ้าอุบัติ
    กาลครั้งนี้พระโพธิสัตว์เจ้าทรงอุบัติเกิดในตระกูลกษัตริย์ ทรงพระนามว่า “สมเด็จพระเจ้าบรรพตบรมขัตติยาธิบดี” ได้มีศรัทธาบริจาคไตรจีวรอันวิจิตร ทรงมีจิตศรัทธาออกผนวช ทรงได้รับพุทธพยากรณ์จากสมเด็จพระมิ่งมงกุฎโกนาคมนะพุทธเจ้าว่า
    “พระบรรพตราชภิกขุนี้ เป็นนิยตโพธิสัตว์ เที่ยงแท้ที่จะได้ตรัสเป็น
    พระสัพพัญญูสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์หนึ่งทรงพระนามว่า
    พระศรีศากยมุนีโคดม ณ กาลใกล้ในอนาคตกำหนดนับเป็น
    ลำดับองค์ที่ ๔ ในภัทรกัปนี้”

    • สมเด็จพระมิ่งมงกุฎกัสสปะพุทธเจ้าอุบัติ
    กาลครั้งนี้พระโพธิสัตว์เจ้าทรงอุบัติเกิดเป็นมาณพหนุ่ม นามว่า “โชติปาลมาณพ” ได้ศึกษาเจนแจ้งในไตรเพทางคศาสตร์ มีจิตศรัทธาออกบวชได้ ทรงได้รับพุทธพยากรณ์จากสมเด็จพระมิ่งมงกุฎกัสสปะพุทธเจ้าว่า
    “พระโชติปาลภิกขุนี้ เป็นนิยตโพธิสัตว์ เที่ยงแท้ที่จะได้ตรัสเป็น
    พระสัพพัญญูสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์หนึ่งทรงพระนามว่า
    พระศรีศากยมุนีโคดม ในอนาคตกาลภายภาคหน้า เมื่อศาสนา
    แห่งเราตถาคตเสื่อมสูญสิ้นหมดไปแล้ว พระโชติปาลภิกขุ
    จักได้ตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้าต่อจากเราตถาคต กำหนดนับเป็นลำดับ
    องค์ที่ ๔ ในภัทรกัปนี้”

    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  12. THANIT LINE

    THANIT LINE เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 พฤศจิกายน 2010
    โพสต์:
    145
    ค่าพลัง:
    +261
    ย่องๆๆมาอ่านครับผม ขอบคุณความรู้ที่นำมาแบ่งปันครับ
     
  13. ทรงกลด999

    ทรงกลด999 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    1,284
    ค่าพลัง:
    +1,510
    จากพระพุทธเจ้าในอดีต - วิกิพีเดีย
    พระพุทธเจ้าในอดีต

    <!-- /firstHeading --><!-- bodyContent --><!-- tagline -->จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
    <!-- /tagline --><!-- subtitle -->
    <!-- /subtitle --><!-- jumpto -->ไปที่: ป้ายบอกทาง, ค้นหา
    <!-- /jumpto --><!-- bodytext -->[​IMG]
    พระพุทธเจ้าที่ล่วงมาแล้วหลายพระองค์ มีจำนวนมากมายนับไม่ถ้วน อุปมาว่าจำนวนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าที่ได้ล่วงไปแล้วมีจำนวนมากกว่าเม็ดทรายในมหาสมุทรทั้งสี่ พระพุทธเจ้าทรงแนะว่าไม่ควรคิดถึงเรื่องของพระพุทธเจ้า เพราะเป็นอจินไตย (แปลว่า เป็นเรื่องที่มนุษย์ปุถุชนอย่างเราไม่ควรคิดเพราะเป็นเรื่องที่ลึกลำเหนือจินตนาการของมนุษย์)
    ในหลักฐานฝ่ายเถรวาทกล่าวถึงพระพุทธเจ้าในอดีตไว้ 28 พระองค์ คือ พระสัมมาสัมพุทธเจ้าที่พระโคดมพุทธเจ้า (พระพุทธเจ้าองค์ปัจจุบัน) ได้ทรงพบและ พระโคดมพุทธเจ้าทรงได้รับคำพยากรณ์ ว่าจะได้สำเร็จเป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเรานิยมนับรวมพระพุทธเจ้าองค์ปัจจุบัน โดยเรียกว่า "พระพุทธเจ้า 28 พระองค์"
    <TABLE class="" style="WIDTH: 100%; BACKGROUND-COLOR: transparent" cellSpacing=0 cellPadding=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=left width="50%">
    </TD><TD vAlign=top align=left width="50%">
    </TD></TR></TBODY></TABLE>หากแบ่งตามกัปป์ โดยการนับอสงไขยในที่นี้ จะนับอสงไขยแรกโดยเริ่มนับจากช่วงเวลาที่ อดีตชาติของพระโคตมสัมมาสัมพุทธเจ้า เริ่มสร้างบารมี โดยการอธิษฐานในใจต่อหน้าพระพักตร์ของพระสัมมาพุทธเจ้าเป็นครั้งแรก จะมีพระพุทธเจ้าในอดีตดังต่อไปนี้
    • กัปแรกในต้นอสงไขยที่ 17 เป็นสารมณฑกัป คือ กัปที่มีพระพุทธเจ้า 4 พระองค์<SUP class=reference id=cite_ref-0>[1]</SUP>
      1. พระตัณหังกรพุทธเจ้า
      2. พระเมธังกรพุทธเจ้า
      3. พระสรนังกรพุทธเจ้า
      4. พระทีปังกรพุทธเจ้า
    • กัปหนึ่งในอสงไขยที่ 18 เป็นสารกัป คือ กัปที่มีพระพุทธเจ้า 1 พระองค์
      1. พระโกณฑัญญะพุทธเจ้า
    • กัปหนึ่งในอสงไขยที่ 19 เป็นสารมณฑกัป คือ กัปที่มีพระพุทธเจ้า 4 พระองค์
      1. พระสุมังคละสัมมาสัมพุทธเจ้า
      2. พระสุมนะสัมมาสัมพุทธเจ้า
      3. พระเรวตะสัมมาสัมพุทธเจ้า
      4. พระโสภิตะสัมมาสัมพุทธเจ้า
    • กัปหนึ่งในอสงไขยที่ 20 เป็นสารวรกัป คือ กัปที่มีพระพุทธเจ้า 3 พระองค์
      1. สมเด็จพระอโนมทัสสีสัมพุทธเจ้า
      2. สมเด้จพระปทุมะสัมพุทธเจ้า
      3. สมเด็จพระนารทะสัมพุทธเจ้า
    • ช่วงเศษแสนมหากัป ของ อสงไขยปัจจุบัน<SUP class=reference id=cite_ref-1>[2]</SUP>
      1. กัปหนึ่งมีพระพุทธเจ้า 1 พระองค์. บางตำราว่าเป็นมัณฑกัป บางตำราก็ว่าเป็นสารกัป.
        1. พระปทุมมุตระพุทธเจ้า
      2. สูญกัป (กัปที่ไม่มีพระพุทธเจ้าบังเกิดขึ้น) 30,000 กัป
      3. มัณฑกัป คือ มีพระพุทธเจ้า 2 พระองค์
        1. พระสุเมธสัมมาสัมพุทธเจ้า
        2. พระสุชาตะสัมมาสัมพุทธเจ้า
      4. สูญกัป 60,000 กัป
      5. วรกัป คือ มีพระพุทธเจ้า 3 พระองค์
        1. พระปียทัสสีสัมมาสัมพุทธเจ้า
        2. พระอัตถทัสสีสัมมาสัมพุทธเจ้า
        3. พระธรรมทัสสีสัมมาสัมพุทธเจ้า
      6. สูญกัป 24 กัป
      7. สารกัป คือ มีพระพุทธเจ้า 1 พระองค์
        1. พระสิทธัตถะสัมมาสัมพุทธเจ้า
      8. สูญกัป 1 กัป
      9. มัณฑกัป คือ มีพระพุทธเจ้า 2 พระองค์
        1. พระติสสะสัมมาสัมพุทธเจ้า
        2. พระมหาปุสสะสัมมาสัมพุทธเจ้า
      10. สารกัป คือ มีพระพุทธเจ้า 1 พระองค์
        1. พระวิปัสสีสัมมาสัมพุทธเจ้า
      11. สูญกัป 60 กัป
      12. มัณฑกัป คือ มีพระพุทธเจ้า 2 พระองค์
        1. พระสิขีสัมมาสัมพุทธเจ้า
        2. พระเวสสภูสัมมาสัมพุทธเจ้า
      13. สูญกัป 30 กัป
      14. กัปปัจจุบัน เป็น ภัทรกัป คือ มีพระพุทธเจ้า 5 พระองค์
        1. พระกกุสันธะสัมมาสัมพุทธเจ้า
        2. พระโกนาคมสัมมาสัมพุทธเจ้า
        3. พระกัสสปะสัมมาสัมพุทธเจ้า
        4. พระศรีศากยมุนีโคดมสัมมาสัมพุทธเจ้า (พระพุทธเจ้าองค์ปัจจุบัน 80 ปีก่อนพุทธกาล)
        5. พระศรีอริยเมตไตรยสัมพุทธเจ้า (อนาคต พุทธศักราช 5,000 เป็นต้นไป)
      15. สูญกัป 1 อสงไขย
      16. มัณฑกัป คือ มีพระพุทธเจ้า 2 พระองค์
        1. พระรามะสัมมาสัมพุทธเจ้า
        2. พระธรรมราชาสัมพุทธเจ้า
      17. สารกัป คือ มีพระพุทธเจ้า 1 พระองค์
        1. พระธรรมสามีสัมมาสัมพุทธเจ้า
    [แก้] อ้างอิง

    1. <LI id=cite_note-0>^ http://geocities.com/ss12345_th/poti/P204.html
    2. ^ http://geocities.com/ss12345_th/poti/P205.html
    [แก้] ดูเพิ่ม
     
  14. ทรงกลด999

    ทรงกลด999 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    1,284
    ค่าพลัง:
    +1,510
    อันนี้อธิบายได้ละเอียด ยาวหน่อยนะครับ แต่เราจะได้ลึกซึ้งกับคาถาชินบัณชร มากขึ้น
    พระพุทธเจ้า 28 พระองค์ - พระไตรปิฎกออนไลน
    ที่มาจาก..เวปพลังจิตครับ โดยคุณมหาหิน.. ความแตกต่างขององค์สมเด็จพระสัมาสัมพุทธเจ้า บางประการ....
    1. วรรณะของพระองค์ (เท่าที่พบ มี พราหมณ์ และ กษัตริย์)
    2. พุทธลักษณะ ขนาดพระวรกาย
    3. พาหนะที่ทรงเสด็จออกบรรพชา
    4. ไม้ศรีมหาโพธิ์ที่ตรัสรู้
    5. ระยะเวลา ที่ทรงบำเพ็ญเพียรเพื่อตรัสรู้
    6. พระรัศมีแผ่ออกโดยรอบพระวรกาย
    7. จำนวนพระอรหันต์ ที่เป็นพุทธบริวารแวดล้อมตามเสด็จ
    8. พระชนมายุของพระพุทธองค์
    9. อายุ การประกาศพระศาสนา
    สมเด็จพระผู้มีพระภาคเจ้า ย้อนขึ้นไป 28 พระองค์(นับตั้งแต่ สมเด็จองค์ปัจจุบัน) คัดลอกจากหนังสือ หลวงปู่สอนหลาน หน้า 142-170 พระพุทธเจ้า 28 พระองค์ นี้ หลวงปู่ครูบาชัยยะวงศาพัฒนา ได้คัดลอกจากภาษาล้านนา และแปลเก็บไว้ในหอพระไตรปิฎก ณ วัดพระพุทธบาทห้วยต้ม อำเภอ ลี้ ลำพูน
    <TABLE class=toc id=toc summary=เนื้อหา sizset="110" sizcache="181"><TBODY sizset="110" sizcache="181"><TR sizset="110" sizcache="181"><TD sizset="110" sizcache="181">เนื้อหา

    [แสดง]
    </TD></TR></TBODY></TABLE><SCRIPT type=text/javascript>wgAfterContentAndJS.push(function() { if (window.showTocToggle) { window.tocShowText = "แสดง"; window.tocHideText = "ซ่อน"; showTocToggle();}});</SCRIPT>
    องค์สมเด็จพระพุทธตัณหังกร[​IMG] Edit

    • องค์สมเด็จพระพุทธตัณหังกร - ผู้กล้าหาญ
    • ประสูติในตระกูล กษัตริย์
    • พระพุทธบิดา พระนามว่า พระเจ้านันทราช
    • พระพุทธมารดา พระนามว่า พระนางสุนันทราชาเทวี
    • เสด็จออกบรรพชาหลังจากครองราชย์ได้ 10,000 ปี
    • ทรงบำเพ็ญเพียรเพื่อตรัสรู้ นาน 7 วัน
    • พระวรกายสูง 18 ศอก
    • ปรินิพพานเมื่อพระชนมายุ 20,000 ปี
    องค์สมเด็จพระพุทธเมธังกร[​IMG] Edit

    • องค์สมเด็จพระพุทธเมธังกร – ผู้มียศใหญ่
    • ประสูติในตระกูล กษัตริย์
    • พระพุทธบิดา พระนามว่า พระเจ้า เทโว
    • พระพุทธมารดา พระนามว่า พระนาง ยะสุนทราชาเทวี
    • เสด็จออกบรรพชาหลังจากครองราชย์ได้ 80,000 ปี
    • ทรงบำเพ็ญเพียรเพื่อตรัสรู้ นาน 15 วัน
    • พระวรกายสูง 18 ศอก
    • ปรินิพพานเมื่อพระชนมายุ 90,000 ปี
    องค์สมเด็จพระพุทธสรณังกร[​IMG] Edit

    • องค์สมเด็จพระพุทธสรณังกร – ผู้เกื้อกูลแก่โลก
    • ประสูติในตระกูล กษัตริย์
    • พระพุทธบิดา พระนามว่า พระเจ้า สุมาเลราชา
    • พระพุทธมารดา พระนามว่า พระนาง ยสะเทวี
    • เสด็จออกบรรพชาหลังจากครองราชย์ได้ 10,000 ปี
    • ทรงบำเพ็ญเพียรเพื่อตรัสรู้ นาน 2 เดือน กับ 20 วัน
    • พระวรกายสูง 18 ศอก
    • ปรินิพพานเมื่อพระชนมายุ 60,000 ปี
    องค์สมเด็จพระพุทธทีปังกร[​IMG] Edit

    • องค์สมเด็จพระพุทธทีปังกร – ผู้ทรงไว้ซึ่งปัญญาอันรุ่งเรือง
    • สถานที่ประสูติ กรุงรัมมวดีมหานคร
    • ประสูติเมื่อ วันเพ็ญ เดือน 8 อาสาฬหนักขัตฤกษ์
    • ประสูติในตระกูล กษัตริย์
    • พระพุทธบิดา พระนามว่า พระเจ้า นรเทวราช(พระเจ้าสุเทพ)
    • พระพุทธมารดา พระนามว่า พระนางเจ้า สุเมธา
    • พระอัครมเหสี พระนามว่า พระนาง ปทุมาราชเทวี
    • พระราชโอรส พระนามว่า พระอสุภขันธกุมาร
    • เสด็จออกบรรพชาหลังจากครองราชย์ เมื่อพระชนมายุ 10,000 ปี
    • พาหนะที่ทรงออกบรรพชา ช้างพระที่นั่ง
    • รัตนบัลลังก์ที่ประทับนั่งวันตรัสรู้ กว้าง-ยาว-สูง 9 ศอก
    • ไม้ศรีมหาโพธิ์ที่ตรัสรู้ชื่อว่า ต้นปิปผลิ
    • ทรงบำเพ็ญเพียรเพื่อตรัสรู้ นาน 10 เดือน
    • วันที่ตรัสรู้ วันเพ็ญเดือน 6 วิสาขปุณณมี
    • พระอัครสาวก ได้แก่ พระสุมังคลเถร และพระติสสเถร
    • พระอุปัฏฐาก ชื่อว่า พระสาคตเถร
    • พระอัครสาวิกา ชื่อว่า พระนันทาเถรี และพระสุนันทาเถรี
    • อัครอุปัฏฐาก ชื่อว่า ตปุสสะ และภัลลิกะ มหาอุบาสก
    • อัครอุปัฎฐายิกา ชื่อว่า นางสิริมา และนางโสณา มหาอุบาสิกา
    • มีพระอรหันต์เป็นพุทธบริวารแวดล้อม จำนวน 400,000 องค์
    • พระวรกายสูง 80 ศอก
    • พระรัศมีแผ่ออกโดยรอบพระวรกาย กว้างไกล 10 โยชน์
    • ปรินิพพานเมื่อพระชนมายุ 100,000 ปี
    • อายุพระศาสนา 100,000 ปี
    องค์สมเด็จพระพุทธพระโกณฑัญญะ[​IMG] Edit

    • องค์สมเด็จพระพุทธพระโกณฑัญญะ – ผู้เป็นประมุขแห่งหมู่ชน
    • สถานที่ประสูติ กรุงรัมมวดีมหานคร
    • ประสูติในตระกูล กษัตริย์
    • พระพุทธบิดา พระนามว่า พระเจ้า สุนันทราช
    • พระพุทธมารดา พระนามว่า พระนาง สุชาดาราชเทวี
    • พระอัครมเหสี พระนามว่า พระนาง รุจิราชเทวี
    • พระราชโอรส พระนามว่า พระวิชิตเสนกุมาร
    • เสด็จออกบรรพชาหลังจากครองราชย์ เมื่อพระชนมายุได้ 10,000 ปี
    • พาหนะที่ทรงออกบรรพชา รถพระที่นั่งเทียมม้าอาชาไนยคู่
    • รัตนบัลลังก์ที่ประทับนั่งในวันตรัสรู้ กว้าง-ยาว-สูง 58 ศอก
    • ไม้ศรีมหาโพธิ์ที่ตรัสรู้ชื่อว่า ต้นพญารัง
    • ทรงบำเพ็ญเพียรเพื่อตรัสรู้ นาน 10 เดือน
    • วันที่ตรัสรู้ วันเพ็ญเดือน 6 วิสาขปุณณมี
    • พระอัครสาวก ได้แก่ พระภัททเถร และพระสุภัททเถร
    • พระอุปัฏฐาก ชื่อว่า พระอนุรุทธเถร
    • พระอัครสาวิกา ชื่อว่า พระติสสาเถรี และพระอุปัสสนาเถรี
    • มีพระอรหันต์เป็นพุทธบริวารแวดล้อม จำนวน แสนโกฏิ องค์
    • พระวรกายสูง 18 ศอก
    • พระรัศมีแผ่ออกโดยรอบพระวรกาย กว้างไกลหาประมาณมิได้
    • ปรินิพพานเมื่อพระชนมายุ 200,000 ปี
    • อายุพระศาสนา 100,000 ปี
    องค์สมเด็จพระพุทธพระสุมังคละ[​IMG] Edit

    • องค์สมเด็จพระพุทธพระสุมังคละ – ผู้เป็นบุรุษประเสริฐ
    • สถานที่ประสูติ อุตตรนคร
    • ประสูติในตระกูล กษัตริย์
    • พระพุทธที่มาจาก..เวปพลังจิตครับ โดยคุณมหาหิน.. ความแตกต่างขององค์สมเด็จพระสัมาสัมพุทธเจ้า บางประการ....
    1.วรรณะของพระองค์ (เท่าที่พบ มี พราหมณ์ และ กษัตริย์) 2.พุทธลักษณะ ขนาดพระวรกาย 3.พาหนะที่ทรงเสด็จออกบรรพชา 4.ไม้ศรีมหาโพธิ์ที่ตรัสรู้ 5.ระยะเวลา ที่ทรงบำเพ็ญเพียรเพื่อตรัสรู้ 6.พระรัศมีแผ่ออกโดยรอบพระวรกาย 7.จำนวนพระอรหันต์ ที่เป็นพุทธบริวารแวดล้อมตามเสด็จ 8.พระชนมายุของพระพุทธองค์ 9.อายุ การประกาศพระศาสนา สมเด็จพระผู้มีพระภาคเจ้า ย้อนขึ้นไป 28 พระองค์(นับตั้งแต่ สมเด็จองค์ปัจจุบัน) คัดลอกจากหนังสือ หลวงปู่สอนหลาน หน้า 142-170 พระพุทธเจ้า 28 พระองค์ นี้ หลวงปู่ครูบาชัยยะวงศาพัฒนา ได้คัดลอกจากภาษาล้านนา และแปลเก็บไว้ในหอพระไตรปิฎก ณ วัดพระพุทธบาทห้วยต้ม อำเภอ ลี้ ลำพูน บิดา พระนามว่า พระเจ้า อุตตรมหาราช
    • พระพุทธมารดา พระนามว่า พระนางอุตตรราชเทวี
    • พระอัครมเหสี พระนามว่า พระนาง ยสาวดี
    • พระราชโอรส พระนามว่า พระสีวระราชกุมาร
    • เสด็จออกบรรพชาหลังจากครองราชย์ เมื่อพระชนมายุ 70,000 ปี
    • พาหนะที่ทรงออกบรรพชา ม้าพระที่นั่ง
    • รัตนบัลลังก์ที่ประทับนั่งในวันตรัสรู้ กว้าง-ยาว-สูง 57 ศอก
    • ไม้ศรีมหาโพธิ์ที่ตรัสรู้ชื่อว่า ต้นนาคพฤกษ์(กากะทิง)
    • ทรงบำเพ็ญเพียรเพื่อตรัสรู้ นาน 8 เดือน
    • วันที่ตรัสรู้ วันเพ็ญเดือน 6 วิสาขปุณณมี
    • พระอัครสาวก ได้แก่ พระเทวเถร และพระธรรมเสนเถร
    • พระอุปัฏฐาก ชื่อว่า พระปาลิตเถร
    • พระอัครสาวิกา ชื่อว่า พระสีวราเถรี และพระอโสกาเถรี
    • อัครอุปัฏฐาก ชื่อว่า นันทะ และวิสาขะ มหาอุบาสก
    • อัครอุปัฏฐายิกา ชื่อว่า อนุฬา และสุมนา มหาอุบาสิกา
    • พระวรกายสูง 80 ศอก
    • พระรัศมีแผ่ออกโดยรอบพระวรกาย กว้างไกล 10,000 โยชน์
    • ปรินิพพานเมื่อพระชนมายุ 90,000ปี
    องค์สมเด็จพระพุทธสุมนะ[​IMG] Edit

    • องค์สมเด็จพระพุทธสุมนะ – ผู้เป็นธีรบุรุษมีพระหทัยงาม
    • สถานที่ประสูติ เมขละนคร
    • ประสูติในตระกูล กษัตริย์
    • พระพุทธบิดา พระนามว่า พระเจ้า สุทัตตมหาราชา
    • พระพุทธมารดา พระนามว่า พระนางเจ้า สิริมา
    • พระอัครมเหสี พระนามว่า พระนาง ฏังสกี
    • พระราชโอรส พระนามว่า พระอนุปมราชกุมาร
    • เสด็จออกบรรพชาหลังจากครองราชย์ อยู่นาน 9,000 ปี
    • พาหนะที่ทรงออกบรรพชา ช้างพระที่นั่ง
    • รัตนบัลลังก์ที่ประทับนั่งในวันตรัสรู้ กว้าง-ยาว-สูง 60 ศอก
    • ไม้ศรีมหาโพธิ์ที่ตรัสรู้ชื่อว่า ต้นนาคพฤกษ์(กากะทิง)
    • ทรงบำเพ็ญเพียรเพื่อตรัสรู้ นาน 10 เดือน
    • วันที่ตรัสรู้ วันเพ็ญเดือน 6 วิสาขปุณณมี
    • พระอัครสาวก ได้แก่ พระสรณเถร และพระภาวิตัตตเถร
    • พระอุปัฏฐาก ชื่อว่า พระอุเทนเถร
    • พระอัครสาวิกา ชื่อว่า พระโสณาเถรี และพระอุปโสณาเถรี
    • อัครอุปัฏฐาก ชื่อว่า วรุณะ และสรณะ มหาอุบาสก
    • อัครอุปัฏฐายิกา ชื่อว่า จารา และอุปจารา มหาอุบาสิกา
    • พระวรกายสูง 90 ศอก
    • พระรัศมีแผ่ออกโดยรอบพระวรกาย กว้างไกลหาประมาณมิได้
    • ปรินิพพานเมื่อพระชนมายุ 90,000 ปี
    • อายุพระศาสนา 90,000 ปี
    องค์สมเด็จพระพุทธเรวตะ[​IMG] Edit

    • องค์สมเด็จพระพุทธเรวตะ – ผู้เพิ่มพูนความยินดี
    • สถานที่ประสูติ สุธัญญวดีนคร
    • ประสูติในตระกูล กษัตริย์
    • พระพุทธบิดา พระนามว่า พระเจ้าวิปุลราชา
    • พระพุทธมารดา พระนามว่า พระนางวิปุลาราชเทวี
    • พระอัครมเหสี พระนามว่า พระนาง สุทัสนา
    • พระราชโอรส พระนามว่า พระวรุณราชกุมาร
    • เสด็จออกบรรพชาหลังจากครองฆราวาสอยู่ 6,000 ปี
    • พาหนะที่ทรงออกบรรพชา รถพระที่นั่งเทียบม้าอาชาไนย
    • รัตนบัลลังก์ที่ประทับนั่งในวันตรัสรู้ กว้าง-ยาว-สูง 53 ศอก
    • ไม้ศรีมหาโพธิ์ที่ตรัสรู้ชื่อว่า นาคพฤกษ์
    • ทรงบำเพ็ญเพียรเพื่อตรัสรู้ นาน 7 เดือน
    • วันที่ตรัสรู้ วันเพ็ญเดือน 6 วิสาขปุณณมี
    • พระอัครสาวก ได้แก่ พระวรุณเถร และพรหมเทวะเถร
    • พระอุปัฏฐาก ชื่อว่า พระสัมภวะเถร
    • พระอัครสาวิกา ชื่อว่า พระภัททราเถรี และพระสุภัททราเถรี
    • อัครอุปัฏฐาก ชื่อว่า วรุณ และสรภะมหาอุบาสก
    • อัครอุปัฏฐายิกา ชื่อว่า ปาลา และอุปปาลา มหาอุบาสิกา
    • พระวรกายสูง 80 ศอก
    • พระรัศมีแผ่ออกโดยรอบพระวรกาย กว้างไกล 1 โยชน์
    • ปรินิพพานเมื่อพระชนมายุ 60,000 ปี
    องค์สมเด็จพระพุทธโสภิตะ[​IMG] Edit

    • องค์สมเด็จพระพุทธโสภิตะ – ผู้สมบูรณ์ด้วยพระคุณ
    • สถานที่ประสูติ สุธรรมนคร
    • ประสูติในตระกูล กษัตริย์
    • พระพุทธบิดา พระนามว่า พระเจ้าสุธรรมราช
    • พระพุทธมารดา พระนามว่า พระนาง สุธรรมาเทวี
    • พระอัครมเหสี พระนามว่า พระนาง มจิลาราชเทวี
    • พระราชโอรส พระนามว่า พระสีหราชกุมาร
    • เสด็จออกบรรพชาหลังจากครองฆราวาสอยู่ 9,000 ปี
    • พาหนะที่ทรงออกบรรพชา ปราสาทที่ลอยไปในอากาศ
    • รัตนบัลลังก์ที่ประทับนั่งวันตรัสรู้ กว้าง-ยาว-สูง 38 ศอก
    • ไม้ศรีมหาโพธิ์ที่ตรัสรู้ชื่อว่า นาคพฤกษ์ (ไม้กากะทิง)
    • ทรงบำเพ็ญเพียรเพื่อตรัสรู้ นาน 7 วัน
    • วันที่ตรัสรู้ วันเพ็ญเดือน 6 วิสาขปุณณมี
    • พระอัครสาวก ได้แก่ พระอสมเถร และ สุเมธเถร
    • พระอุปัฏฐาก ชื่อว่า พระอโนมเถร
    • พระอัครสาวิกา ชื่อว่า พระนกุฬาเถรี และพระสุชาตาเถรี
    • อัครอุปัฏฐาก ชื่อว่า นายรัมมะ และ นายสุเนตตะ มหาอุบาสก
    • อัครอุปัฏฐายิกา ชื่อว่า นางนกุฬา และนางสุชาตา มหาอุบาสิกา
    • พระวรกายสูง 58 ศอก
    • พระรัศมีแผ่ออกโดยรอบพระวรกาย กว้างไกลหาประมาณมิได้
    • ปรินิพพานเมื่อพระชนมายุ 90,000 ปี
    องค์สมเด็จพระอโนมทัสสีพุทธเจ้า[​IMG] Edit

    • องค์สมเด็จพระอโนมทัสสีพุทธเจ้า – ผู้อุดมสูงสุดในหมู่ชน
    • สถานที่ประสูติ จันทวดีนคร
    • ประสูติในตระกูล กษัตริย์
    • พระพุทธบิดา พระนามว่า พระเจ้า ยศวราช
    • พระพุทธมารดา พระนามว่า พระนางยโสธรา
    • พระอัครมเหสี พระนามว่า พระนาง สิริมา
    • พระราชโอรส พระนามว่า พระอุปสารราชกุมาร
    • เสด็จออกบรรพชาหลังจากครองราชย์ได้ เมื่อพระชนมายุ 10,000 ปี
    • พาหนะที่ทรงออกบรรพชา สีวิกากาญจนมาศ (วอทอง)
    • รัตนบัลลังก์ที่ประทับนั่งวันตรัสรู้ กว้าง-ยาว-สูง 38 ศอก
    • ไม้ศรีมหาโพธิ์ที่ตรัสรู้ชื่อว่า ต้นอชุนะ (ไม้รกฟ้า)
    • ทรงบำเพ็ญเพียรเพื่อตรัสรู้ นาน 10 เดือน
    • วันที่ตรัสรู้ วันเพ็ญเดือน 6 วิสาขปุณณมี
    • พระอัครสาวก ได้แก่ พระนิสภเถร และอโนมเถร
    • พระอุปัฏฐาก ได้แก่ พระวรุณเถร
    • พระอัครสาวิกา ได้แก่ พระสุนทราเถรี และพระสุมนาเถรี
    • อัครอุปัฏฐาก ชื่อว่า นายนันทิวัฒนะ และสิริวัฑฒะ มหาอุบาสก
    • อัครอุปัฏฐายิกา ชื่อว่า นางอุปรา และนางปทุมา มหาอุบาสิกา
    • พระวรกายสูง 58 ศอก
    • พระรัศมีแผ่ออกโดยรอบพระวรกาย กว้างไกล 80 ศอก
    • ปรินิพพานเมื่อพระชนมายุ 100,000 ปี
    องค์สมเด็จพระพุทธปทุมะ[​IMG] Edit

    • องค์สมเด็จพระพุทธปทุมะ – ผู้ทำให้โลกสว่าง
    • สถานที่ประสูติ จัมปานคร
    • ประสูติในตระกูล กษัตริย์
    • พระพุทธบิดา พระนามว่า พระเจ้า อสมราช
    • พระพุทธมารดา พระนามว่า พระนางอสมาราชเทวี
    • พระอัครมเหสี พระนามว่า พระนาง อุตตราเทวี
    • พระราชโอรส พระนามว่า พระรัมมราชกุมาร
    • เสด็จออกบรรพชาหลังจากครองฆราวาส อยู่ 10,000 ปี
    • พาหนะที่ทรงออกบรรพชา รถพระที่นั่งเทียมม้าอาชาไนย
    • รัตนบัลลังก์ที่ประทับนั่งในวันตรัสรู้ กว้าง-ยาว-สูง 38 ศอก
    • ไม้ศรีมหาโพธิ์ที่ตรัสรู้ชื่อว่า มหาโสณพฤกษ์
    • ทรงบำเพ็ญเพียรเพื่อตรัสรู้ นาน 8 เดือน
    • วันที่ตรัสรู้ วันเพ็ญเดือน 6 วิสาขปุณณมี
    • พระอัครสาวก ได้แก่ พระสาลเถร และพระอุปสาลเถร
    • พระอุปัฏฐาก ชื่อว่า พระวรุณเถร
    • พระอัครสาวิกา ชื่อว่า พระราธาเถรี และพระสุราธาเถรี
    • อัครอุปัฏฐาก ชื่อว่า นายสภิยะ และนายอสมะ มหาอุบาสก
    • อัครอุปัฏฐายิกา ชื่อว่า นางรุจิ และนางนันทิมาลา มหาอุบาสิกา
    • พระวรกายสูง 58 ศอก
    • พระรัศมีแผ่ออกโดยรอบพระวรกาย กว้างไกลหาประมาณมิได้
    • ปรินิพพานเมื่อพระชนมายุ 100,000 ปี
    องค์สมเด็จพระพุทธนารทะ[​IMG] Edit

    • องค์สมเด็จพระพุทธนารทะ – ผู้เป็นสารถีประเสริฐ
    • สถานที่ประสูติ ธัญญวดีมหานคร
    • ประสูติในตระกูล กษัตริย์
    • พระพุทธบิดา พระนามว่า พระเจ้า สุเมธราชา
    • พระพุทธมารดา พระนามว่า พระนางอโนมาเทวี
    • พระอัครมเหสี พระนามว่า พระนาง วิชิตเสนาเทวี
    • พระราชโอรส พระนามว่า พระยันทุตรราชกุมาร
    • เสด็จออกบรรพชาหลังจากครองราชย์ได้ 9,000 ปี
    • พาหนะที่ทรงออกบรรพชา ทรงดำเนินไปด้วยพระองค์เอง
    • รัตนบัลลังก์ที่ประทับนั่งวันตรัสรู้ กว้าง-ยาว-สูง 57 ศอก
    • ไม้ศรีมหาโพธิ์ที่ตรัสรู้ชื่อว่า มหาโสณพฤกษ์
    • ทรงบำเพ็ญเพียรเพื่อตรัสรู้ นาน 7 วัน ตรง
    • วันที่ตรัสรู้ วันเพ็ญเดือน 6 วิสาขปุณณมี
    • พระอัครสาวก ได้แก่ พระภัททสาลเถร และพระพิชิตมิตตเถร
    • พระอุปัฏฐาก ได้แก่ พระวาเสฏฐเถร
    • พระอัครสาวิกา ได้แก่ พระอุตตราเถรี และพระผักขุนีเถรี
    • อัครอุปัฏฐาก ชื่อว่า อุตรินท์ และวสะ มหาอุบาสก
    • อัครอุปัฏฐายิกา ชื่อว่า นางอินทอรี และนางคัณฑี มหาอุบาสิกา
    • มีพระอรหันต์เป็นพุทธบริวารแวดล้อม จำนวน 100,000 องค์
    • พระวรกายสูง 88 ศอก
    • พระรัศมีแผ่ออกโดยรอบพระวรกาย กว้างไกล 1 โยชน์
    • ปรินิพพานเมื่อพระชนมายุ 90,000 ปี
    • อายุพระศาสนา 1 อสงไขย
    องค์สมเด็จพระพุทธปทุมุตระ[​IMG] Edit

    • องค์สมเด็จพระพุทธปทุมุตระ – ผู้เป็นที่พึ่งของหมู่สัตว์
    • สถานที่ประสูติ หงสวดีนคร
    • ประสูติในตระกูล กษัตริย์
    • พระพุทธบิดา พระนามว่า พระเจ้า อานันทมหาราช
    • พระพุทธมารดา พระนามว่า พระนางสุชาดาราชเทวี
    • พระอัครมเหสี พระนามว่า พระนาง สุละทัคคเทวี
    • พระราชโอรส พระนามว่า พระอุตตรราชกุมาร
    • เสด็จออกบรรพชาหลังจากครองฆราวาสอยู่ 90,000 ปี
    • พาหนะที่ทรงออกบรรพชา ปราสาทที่ลอยไปในอากาศ
    • รัตนบัลลังก์ที่ประทับนั่งวันตรัสรู้ กว้าง-ยาว-สูง 38 ศอก
    • ไม้ศรีมหาโพธิ์ที่ตรัสรู้ชื่อว่า ต้นสาละ หรือต้นรัง
    • ทรงบำเพ็ญเพียรเพื่อตรัสรู้ นาน 7 วัน
    • วันที่ตรัสรู้ วันเพ็ญเดือน 6 วิสาขปุณณมี
    • พระอัครสาวก ได้แก่ พระเทวลเถร และพระสุชาตเถร
    • พระอุปัฏฐาก ได้แก่ พระสุมนเถร
    • พระอัครสาวิกา ได้แก่ พระอมิตตาเถรี และพระอสมาเถรี
    • อัครอุปัฏฐาก ชื่อว่า อมิตตะ และติสสะ มหาอุบาสก
    • อัครอุปัฏฐายิกา ชื่อว่า นางหัตถา และนางสุจิตตา มหาอุบาสิกา
    • พระวรกายสูง 58 ศอก
    • พระรัศมีแผ่ออกโดยรอบพระวรกาย กว้างไกล 12 โยชน์
    • ปรินิพพานเมื่อพระชนมายุ 100,000 ปี
    • อายุพระศาสนา 30,000 กัลป์
    องค์สมเด็จพระพุทธสุเมธะ[​IMG] Edit

    • องค์สมเด็จพระพุทธสุเมธะ – ผู้หาบุคคลเปรียบมิได้
    • สถานที่ประสูติ สุทัสสนนคร
    • ประสูติในตระกูล กษัตริย์
    • พระพุทธบิดา พระนามว่า พระเจ้า สุทัสสนมหาราช
    • พระพุทธมารดา พระนามว่า พระนางสุทัตตาราชเทวี
    • พระอัครมเหสี พระนามว่า พระนาง สุมนาเทวี
    • พระราชโอรส พระนามว่า พระปุนัพพราชกุมาร
    • เสด็จออกบรรพชาหลังจากครองราชย์ได้ 9,000 ปี
    • พาหนะที่ทรงออกบรรพชา ช้างพระที่นั่ง
    • รัตนบัลลังก์ที่ประทับนั่งวันตรัสรู้ กว้าง-ยาว-สูง 20 ศอก
    • ไม้ศรีมหาโพธิ์ที่ตรัสรู้ชื่อว่า ไม้มหานิมพะ (ไม้สะเดา)
    • ทรงบำเพ็ญเพียรเพื่อตรัสรู้ นาน 8 เดือน
    • วันที่ตรัสรู้ วันเพ็ญเดือน 6 วิสาขปุณณมี
    • พระอัครสาวก ได้แก่ พระสุมนเถร และพระสัพพกามเถร
    • พระอุปัฏฐาก ได้แก่ พระสาครเถร
    • พระอัครสาวิกา ได้แก่ พระรามาเถรี และพระสุรมาเถรี
    • อัครอุปัฏฐาก ชื่อว่า อุรุเวฬ และยสวา มหาอุบาสก
    • อัครอุปัฏฐายิกา ชื่อว่า นางยสา และนางสิริมา มหาอุบาสิกา
    • พระวรกายสูง 88 ศอก
    • พระรัศมีแผ่ออกโดยรอบพระวรกาย กว้างไกล 1 โยชน์
    • ปรินิพพานเมื่อพระชนมายุ 90,000 ปี
    องค์สมเด็จพระพุทธสุชาตะ[​IMG] Edit

    • องค์สมเด็จพระพุทธสุชาตะ - ผู้เลิศกว่าสัตว์โลกทั้งปวง
    • สถานที่ประสูติ สุมังคลนคร
    • ประสูติในตระกูล กษัตริย์
    • พระพุทธบิดา พระนามว่า พระเจ้าอุคคตราช
    • พระพุทธมารดา พระนามว่า พระนางปภาวดีราชเทวี
    • พระอัครมเหสี พระนามว่า พระนางสิรินันทาเทวี
    • พระราชโอรส พระนามว่า พระอุปเสนราชกุมาร
    • เสด็จออกบรรพชาหลังจากครองราชย์ เมื่อพระชนมายุ 9,000 ปี
    • พาหนะที่ทรงออกบรรพชา ม้าพระที่นั่ง ชื่อ หังสวาสภราชา
    • รัตนบัลลังก์ที่ประทับนั่งวันตรัสรู้ กว้าง-ยาว-สูง 33 ศอก
    • ไม้ศรีมหาโพธิ์ที่ตรัสรู้ชื่อว่า ไม้มหาเวฬุ (ไม้ไผ่ใหญ่)
    • ทรงบำเพ็ญเพียรเพื่อตรัสรู้ นาน 9 เดือน
    • วันที่ตรัสรู้ วันเพ็ญเดือน 6 วิสาขปุณณมี
    • พระอัครสาวก ได้แก่ พระสุสุทัสสนเถร และพระสุเทวเถร
    • พระอุปัฏฐาก ได้แก่ พระนารทเถร
    • พระอัครสาวิกา ได้แก่ พระนาคาเถรี และพระนาคสมาราเถรี
    • อัครอุปัฏฐาก ชื่อว่า สุทัตต และจิตต มหาอุบาสก
    • อัครอุปัฏฐายิกา ชื่อว่า นางสุภัททา และนางปทุมา มหาอุบาสิกา
    • พระวรกายสูง 50 ศอก
    • พระรัศมีแผ่ออกโดยรอบพระวรกาย กว้างไกลกาประมาณมิได้
    • ปรินิพพานเมื่อพระชนมายุ 90,000 ปี
    องค์สมเด็จพระพุทธปิยทัสสี[​IMG] Edit

    • องค์สมเด็จพระพุทธปิยทัสสี – ผู้ประเสริฐกว่าหมู่นรชน
    • สถานที่ประสูติ สุธัญญราชธานี
    • ประสูติในตระกูล กษัตริย์
    • พระพุทธบิดา พระนามว่า พระเจ้าสุทัตตราช
    • พระพุทธมารดา พระนามว่า พระนางจันทราราชเทวี
    • พระอัครมเหสี พระนามว่า พระนางวิมาลาเทวี
    • พระราชโอรส พระนามว่า พระกัญจนเวฬกุมาร
    • เสด็จออกบรรพชาหลังจากครองราชย์ เมื่อพระชนมายุ 9,000 ปี
    • พาหนะที่ทรงออกบรรพชา รถพระที่นั่ง
    • รัตนบัลลังก์ที่ประทับนั่งวันตรัสรู้ กว้าง-ยาว-สูง 53 ศอก
    • ไม้ศรีมหาโพธิ์ที่ตรัสรู้ชื่อว่า ไม้กุ่ม
    • ทรงบำเพ็ญเพียรเพื่อตรัสรู้ นาน 6 เดือน
    • วันที่ตรัสรู้ วันเพ็ญเดือน 6 วิสาขปุณณมี
    • พระอัครสาวก ได้แก่ พระปาลิตเถร และพระสัพพทัสสีเถร
    • พระอุปัฏฐาก ได้แก่ พระโสภิตเถร
    • พระอัครสาวิกา ได้แก่ พระสุชาดาเถรี และพระธัมมทินนาเถรี
    • อัครอุปัฏฐาก ชื่อว่า สันตกะ และธัมมิก มหาอุบาสก
    • อัครอุปัฏฐายิกา ชื่อว่า นางวิสาขา และนางธัมมทินนา มหาอุบาสิกา
    • พระวรกายสูง 80 ศอก
    • พระรัศมีแผ่ออกโดยรอบพระวรกาย กว้างไกลหาประมาณมิได้
    • ปรินิพพานเมื่อพระชนมายุ 90,000 ปี
    องค์สมเด็จพระพุทธอัตถทัสสี[​IMG] Edit

    • องค์สมเด็จพระพุทธอัตถทัสสี – ผู้มีพระกรุณา
    • สถานที่ประสูติ สุจิรัตถราชอุทยานแห่งสาครราชธานี
    • ประสูติในตระกูล กษัตริย์
    • พระพุทธบิดา พระนามว่า พระเจ้าสาครราช
    • พระพุทธมารดา พระนามว่า พระนางสุทัสสนาราชเทวี
    • พระอัครมเหสี พระนามว่า พระนางวิสาขาราชเทวี
    • พระราชโอรส พระนามว่า พระเสลราชกุมาร
    • เสด็จออกบรรพชาหลังจากครองฆราวาสได้ 10,000 ปี
    • พาหนะที่ทรงออกบรรพชา ม้าพระที่นั่ง
    • รัตนบัลลังก์ที่ประทับนั่งวันตรัสรู้ กว้าง-ยาว-สูง 53 ศอก
    • ไม้ศรีมหาโพธิ์ที่ตรัสรู้ชื่อว่า ไม้จำปา
    • ทรงบำเพ็ญเพียรเพื่อตรัสรู้ นาน 8 เดือน
    • วันที่ตรัสรู้ วันเพ็ญเดือน 6 วิสาขปุณณมี
    • พระอัครสาวก ได้แก่ พระสันตเถร และพระอุปสันตเถร
    • พระอุปัฏฐาก ได้แก่ พระอภัยเถร
    • พระอัครสาวิกา ได้แก่ พระธรรมาเถรี และพระสุธรรมาเถรี
    • อัครอุปัฏฐาก ชื่อว่า นกุละ และนิสภะ มหาอุบาสก
    • อัครอุปัฏฐายิกา ชื่อว่า นางมจิลา และนางสุนันทา มหาอุบาสิกา
    • มีพระอรหันต์เป็นพุทธบริวารแวดล้อม จำนวน 9 โกฏิ
    • พระวรกายสูง 80 ศอก
    • พระรัศมีแผ่ออกโดยรอบพระวรกาย กว้างไกล 100 โยชน์
    • ปรินิพพานเมื่อพระชนมายุ 100,000 ปี
    องค์สมเด็จพระพุทธธรรมทัสสี[​IMG] Edit

    • องค์สมเด็จพระพุทธธรรมทัสสี – ผู้บรรเทามืด
    • สถานที่ประสูติ สรณราชอุทยานแห่งสรณราชธานี
    • ประสูติในตระกูล กษัตริย์
    • พระพุทธบิดา พระนามว่า พระเจ้าสรณราชา
    • พระพุทธมารดา พระนามว่า พระนางสุนันทาราชเทวี
    • พระอัครมเหสี พระนามว่า พระนางวิจิโกลี
    • พระราชโอรส พระนามว่า พระวัฒนราชกุมาร
    • เสด็จออกบรรพชาหลังจากครองฆราวาสได้ 8,000 ปี
    • พาหนะที่ทรงออกบรรพชา ปราสาทที่ลอยไปในอากาศ
    • รัตนบัลลังก์ที่ประทับนั่งวันตรัสรู้ กว้าง-ยาว-สูง 50 ศอก
    • ไม้ศรีมหาโพธิ์ที่ตรัสรู้ชื่อว่า ไม้ไทรย้อย
    • ทรงบำเพ็ญเพียรเพื่อตรัสรู้ นาน 8 วัน
    • วันที่ตรัสรู้ วันเพ็ญเดือน 6 วิสาขปุณณมี
    • พระอัครสาวก ได้แก่ พระปทุมเถร และปุสสเทวเถร
    • พระอุปัฏฐาก ได้แก่ พระสุเนตตเถร
    • พระอัครสาวิกา ได้แก่ พระเขมาเถรี และพระสัจจนามาเถรี
    • อัครอุปัฏฐาก ชื่อว่า สุภัททะ และกฏิสหะ มหาอุบาสก
    • อัครอุปัฏฐายิกา ชื่อว่า นางสาฬสา และนางกฬิสสา มหาอุบาสิกา
    • พระวรกายสูง 80 ศอก
    • พระรัศมีแผ่ออกโดยรอบพระวรกาย กว้างไกล 10,000 โยชน์
    • ปรินิพพานเมื่อพระชนมายุ 100,000 ปี
    องค์สมเด็จพระพุทธสิทธัตถะ[​IMG] Edit

    • องค์สมเด็จพระพุทธสิทธัตถะ – ผู้หาบุคคลเสมอมิได้ในโลก
    • สถานที่ประสูติ เวภารนคร
    • ประสูติในตระกูล กษัตริย์
    • พระพุทธบิดา พระนามว่า พระเจ้าอุเทน
    • พระพุทธมารดา พระนามว่า พระนางสุผัสสาเทวี
    • พระอัครมเหสี พระนามว่า พระนางสุมนาราชเทวี
    • พระราชโอรส พระนามว่า พระอนุปนราชกุมาร
    • เสด็จออกบรรพชาหลังจากครองฆราวาสได้ 10,000 ปี
    • พาหนะที่ทรงออกบรรพชา สีวิกากาญจมาศ (วอทอง)
    • รัตนบัลลังก์ที่ประทับนั่งวันตรัสรู้ กว้าง-ยาว-สูง 40 ศอก
    • ไม้ศรีมหาโพธิ์ที่ตรัสรู้ชื่อว่า ต้นกรรณิการ์
    • ทรงบำเพ็ญเพียรเพื่อตรัสรู้ นาน 10 เดือน
    • วันที่ตรัสรู้ วันเพ็ญเดือน 6 วิสาขปุณณมี
    • พระอัครสาวก ได้แก่ พระสัมพลเถร และพระสุมิตตเถร
    • พระอุปัฏฐาก ได้แก่ พระเรวตเถร
    • พระอัครสาวิกา ได้แก่ พระสิวลาเถรี และพระสุรามาเถรี
    • อัครอุปัฏฐาก ชื่อว่า สุปิยะ และสัมพุทธะ มหาอุบาสก
    • อัครอุปัฏฐายิกา ชื่อว่า นางรัมมา และนางสุรัมมา มหาอุบาสิกา
    • มีพระอรหันต์เป็นพุทธบริวารแวดล้อม จำนวน 100,000 โกฏิ
    • พระวรกายสูง 60 ศอก
    • พระรัศมีแผ่ออกโดยรอบพระวรกาย กว้างไกล 10,000 โยชน์
    • ปรินิพพานเมื่อพระชนมายุ 100,000 ปี
    องค์สมเด็จพระพุทธติสสะ[​IMG] Edit

    • องค์สมเด็จพระพุทธติสสะ – ผู้ประเสริฐกว่านักปราชญ์ทั้งหลาย
    • สถานที่ประสูติ อโนมราชอุทยานแห่งเขมราชธานี
    • ประสูติในตระกูล กษัตริย์
    • พระพุทธบิดา พระนามว่า พระเจ้าชนสันธราช
    • พระพุทธมารดา พระนามว่า พระนางปทุมาเทวี
    • พระอัครมเหสี พระนามว่า พระนางสุภัทราเทวี
    • พระราชโอรส พระนามว่า พระอานนทราชกุมาร
    • เสด็จออกบรรพชาหลังจากครองฆราวาสได้ 8,000[[สื่อ:]] ปี
    • พาหนะที่ทรงออกบรรพชา ม้าพระที่นั่ง
    • รัตนบัลลังก์ที่ประทับนั่งวันตรัสรู้ กว้าง-ยาว-สูง 40 ศอก
    • ไม้ศรีมหาโพธิ์ที่ตรัสรู้ชื่อว่า ไม้อาสนะ (ต้นประดู่)[[ไฟล์:]]
    • ทรงบำเพ็ญเพียรเพื่อตรัสรู้ นาน 15 วัน
    • วันที่ตรัสรู้ วันเพ็ญเดือน 6 วิสาขปุณณมี
    • พระอัครสาวก ได้แก่ พระพรหมเทพเถร และพระอุทัยเถร
    • พระอุปัฏฐาก ได้แก่ พระสัมภวเถร
    • พระอัครสาวิกา ได้แก่ พระปุสสาเถรี และพระสุทัตตาเถรี
    • อัครอุปัฏฐาก ชื่อว่า สัมภระ และสิริ มหาอุบาสก
    • อัครอุปัฏฐายิกา ชื่อว่า นางกีสาโคตมี และนางอุปเสนา มหาอุบาสิกา
    • มีพระอรหันต์เป็นพุทธบริวารแวดล้อม จำนวน 100,000 องค์
    • พระวรกายสูง 60 ศอก
    • พระรัศมีแผ่ออกโดยรอบพระวรกาย กว้างไกลหาประมาณมิได้
    • ปรินิพพานเมื่อพระชนมายุ 100,000 ปี
    องค์สมเด็จพระพุทธปุสสะ[​IMG] Edit

    • องค์สมเด็จพระพุทธปุสสะ – ผู้ประทานธรรมอันประเสริฐ
    • สถานที่ประสูติ กาสีราชธานี
    • ประสูติในตระกูล กษัตริย์
    • พระพุทธบิดา พระนามว่า พระเจ้าชัยเสน
    • พระพุทธมารดา พระนามว่า พระนางสิริมาราชเทวี
    • พระอัครมเหสี พระนามว่า พระนางกีสาโคตมีราชเทวี
    • พระราชโอรส พระนามว่า พระอานนทราชกุมาร
    • เสด็จออกบรรพชาหลังจากครองฆราวาสได้ 9,000 ปี
    • พาหนะที่ทรงออกบรรพชา ช้างพระที่นั่ง
    • รัตนบัลลังก์ที่ประทับนั่งวันตรัสรู้ กว้าง-ยาว-สูง 38 ศอก
    • ไม้ศรีมหาโพธิ์ที่ตรัสรู้ชื่อว่า ไม้มลกะ (ไม้มะขามป้อม)
    • ทรงบำเพ็ญเพียรเพื่อตรัสรู้ นาน 7 วัน
    • วันที่ตรัสรู้ วันเพ็ญเดือน 6 วิสาขปุณณมี
    • พระอัครสาวก ได้แก่ พระสุรักขิตเถร และพระธัมมเสนเถร
    • พระอุปัฏฐาก ได้แก่ พระโสภิยเถร
    • พระอัครสาวิกา ได้แก่ พระจาลาเถรี และพระอุปจาลาเถรี
    • อัครอุปัฏฐาก ชื่อว่า นายธนัญชัย และนายวิสาข มหาอุบาสก
    • อัครอุปัฏฐายิกา ชื่อว่า นางปทุมา และนางสิรินาคา มหาอุบาสิกา
    • มีพระอรหันต์เป็นพุทธบริวารแวดล้อม จำนวน 400,000 องค์
    • พระวรกายสูง 58 ศอก
    • พระรัศมีแผ่ออกโดยรอบพระวรกาย กว้างไกลหาประมาณมิได้
    • ปรินิพพานเมื่อพระชนมายุ 90,000 ปี
    • อายุพระศาสนา 91 กัลป์
    องค์สมเด็จพระพุทธวิปัสสี[​IMG] Edit

    • องค์สมเด็จพระพุทธวิปัสสี – ผู้หาที่เปรียบมิได้
    • สถานที่ประสูติ พันธุมดีราชธานี
    • ประสูติในตระกูล กษัตริย์
    • พระพุทธบิดา พระนามว่า พระเจ้าพันธุมหาราชา
    • พระพุทธมารดา พระนามว่า พระนางพันธุมดีราชเทวี
    • พระอัครมเหสี พระนามว่า พระนางสุทัสสนาราชเทวี
    • พระราชโอรส พระนามว่า พระสมวัตตขันธราชกุมาร
    • เสด็จออกบรรพชาหลังจากครองฆราวาสได้ 8,000 ปี
    • พาหนะที่ทรงออกบรรพชา รถพระที่นั่ง
    • รัตนบัลลังก์ที่ประทับนั่งวันตรัสรู้ กว้าง-ยาว-สูง 50 ศอก
    • ไม้ศรีมหาโพธิ์ที่ตรัสรู้ชื่อว่า ไม้แคฝอย
    • ทรงบำเพ็ญเพียรเพื่อตรัสรู้ นาน 8 เดือน
    • วันที่ตรัสรู้ วันเพ็ญเดือน 6 วิสาขปุณณมี
    • พระอัครสาวก ได้แก่ พระขันธเถร และพระติสสเถร
    • พระอุปัฏฐาก ได้แก่ พระอโสกเถร
    • พระอัครสาวิกา ได้แก่ พระจันทราเถรี และพระจันทมิตตาเถรี
    • อัครอุปัฏฐาก ชื่อว่า ปุณณสุมิตต และนาคะ มหาอุบาสก
    • อัครอุปัฏฐายิกา ชื่อว่า นางสิริมา และนางอุตตรา มหาอุบาสิกา
    • มีพระอรหันต์เป็นพุทธบริวารแวดล้อม จำนวน 84,000 องค์
    • พระวรกายสูง 80 ศอก
    • พระรัศมีแผ่ออกโดยรอบพระวรกาย กว้างไกล 7 โยชน์
    • ปรินิพพานเมื่อพระชนมายุ 80,000 ปี
    • อายุพระศาสนา 49 กัลป์
    องค์สมเด็จพระพุทธสิขี[​IMG] Edit

    • องค์สมเด็จพระพุทธสิขี – ผู้เป็นศาสดาเกื้อกูลแก่สัตว์
    • สถานที่ประสูติ มิสกราชอุทยานแห่งอรุณวดีนคร
    • ประสูติในตระกูล กษัตริย์
    • พระพุทธบิดา พระนามว่า พระเจ้าอรุณราชา
    • พระพุทธมารดา พระนามว่า พระนางปภาวดีราชเทวี
    • พระอัครมเหสี พระนามว่า พระนางสัพพกามาเทวี
    • พระราชโอรส พระนามว่า พระอตุลราชกุมาร
    • เสด็จออกบรรพชาหลังจากครองฆราวาสได้ 7,000 ปี
    • พาหนะที่ทรงออกบรรพชา ช้างพระที่นั่ง
    • รัตนบัลลังก์ที่ประทับนั่งวันตรัสรู้ กว้าง-ยาว-สูง 24 ศอก
    • ไม้ศรีมหาโพธิ์ที่ตรัสรู้ชื่อว่า ต้นปุณฑริกะ (ไม้ซึก) คล้ายกับไม้ปาตลี
    • ทรงบำเพ็ญเพียรเพื่อตรัสรู้ นาน 8 เดือน
    • วันที่ตรัสรู้ วันเพ็ญเดือน 6 วิสาขปุณณมี
    • พระอัครสาวก ได้แก่ พระอภิภูเถร และพระสัมภวเถร
    • พระอุปัฏฐาก ได้แก่ พระเขมังกรเถร
    • พระอัครสาวิกา ได้แก่ พระเขมาเถรี และพระประทุมเถรี
    • อัครอุปัฏฐาก ชื่อว่า สิริวัฒนะ และนันทะ มหาอุบาสก
    • อัครอุปัฏฐายิกา ชื่อว่า นางจิตรา และนางสุจิตรา มหาอุบาสิกา
    • มีพระอรหันต์เป็นพุทธบริวารแวดล้อม จำนวน 70,000 องค์
    • พระวรกายสูง 70 ศอก
    • พระรัศมีแผ่ออกโดยรอบพระวรกาย กว้างไกล 3 โยชน์
    • ปรินิพพานเมื่อพระชนมายุ 70,000 ปี
    องค์สมเด็จพระพุทธเวสสภู[​IMG] Edit

    • องค์สมเด็จพระพุทธเวสสภู – ผู้ประทานความสุข
    • สถานที่ประสูติ อโนมนคร
    • ประสูติในตระกูล กษัตริย์
    • พระพุทธบิดา พระนามว่า พระเจ้าสุปตีตราชา
    • พระพุทธมารดา พระนามว่า พระนางยสวดีราชเทวี
    • พระอัครมเหสี พระนามว่า พระนางสุจิตราเทวี
    • พระราชโอรส พระนามว่า พระสุปปพุทธราชกุมาร
    • เสด็จออกบรรพชาหลังจากครองราชย์ เมื่อพระชนมายุ 6,000 ปี
    • พาหนะที่ทรงออกบรรพชา สีวิกากาญจนมาศ (วอทอง)
    • รัตนบัลลังก์ที่ประทับนั่งวันตรัสรู้ กว้าง-ยาว-สูง 40 ศอก
    • ไม้ศรีมหาโพธิ์ที่ตรัสรู้ชื่อว่า ไม้รัง
    • ทรงบำเพ็ญเพียรเพื่อตรัสรู้ นาน 6 เดือน
    • วันที่ตรัสรู้ วันเพ็ญเดือน 6 วิสาขปุณณมี
    • พระอัครสาวก ได้แก่ พระโสณเถร และพระอุตตรเถร
    • พระอุปัฏฐาก ได้แก่ พระอุปสันตเถร
    • พระอัครสาวิกา ได้แก่ พระรามาเถรี และพระสุมาลาเถรี
    • อัครอุปัฏฐาก ชื่อว่า โสตถิกะ และรัมมะ มหาอุบาสก
    • อัครอุปัฏฐายิกา ชื่อว่า นางโคตมี และนางสิริมา มหาอุบาสิกา
    • มีพระอรหันต์เป็นพุทธบริวารแวดล้อม จำนวน 40,000 องค์
    • พระวรกายสูง 60 ศอก
    • พระรัศมีแผ่ออกโดยรอบพระวรกาย กว้างไกลประมาณมิได้
    • ปรินิพพานเมื่อพระชนมายุ 60,000 ปี
    • อายุพระศาสนา 70,000 ปี
    องค์สมเด็จพระพุทธกุกกุสันธะ[​IMG] Edit

    • องค์สมเด็จพระพุทธกุกกุสันธะ – ผู้นำสัตว์ออกจากกันดาร คือ กิเลส
    • สถานที่ประสูติ เขมวันราชอุทยานแห่งเขมนคร
    • ประสูติในตระกูล พราหมณ์
    • พระพุทธบิดา พระนามว่า อัคคิทัตตพราหมณ์
    • พระพุทธมารดา พระนามว่า วิสาขาพราหมณี
    • พระอัครมเหสี พระนามว่า โสภิณีพราหมณี
    • พระราชโอรส พระนามว่า อุตตรกุมาร
    • เสด็จออกบรรพชาหลังจากครองฆราวาสอยู่ 4,000 ปี
    • พาหนะที่ทรงออกบรรพชา รถเทียมม้าอาชาไนย
    • รัตนบัลลังก์ที่ประทับนั่งวันตรัสรู้ กว้าง-ยาว-สูง 80 ศอก
    • ไม้ศรีมหาโพธิ์ที่ตรัสรู้ชื่อว่า ไม้ซึกใหญ่
    • ทรงบำเพ็ญเพียรเพื่อตรัสรู้ นาน 8 เดือน
    • วันที่ตรัสรู้ วันเพ็ญเดือน 6 วิสาขปุณณมี
    • พระอัครสาวก ได้แก่ พระวิธูรเถร และพระสัญชีวเถร
    • พระอุปัฏฐาก ได้แก่ พระพุทธิยะเถร
    • พระอัครสาวิกา ได้แก่ พระสามาเถรี และพระจัมปนามาเถรี
    • อัครอุปัฏฐาก ชื่อว่า อัจจุคาตะ และสุมนะ มหาอุบาสก
    • อัครอุปัฏฐายิกา ชื่อว่า นางนันทา และนางสุนันทา มหาอุบาสิกา
    • มีพระอรหันต์เป็นพุทธบริวารแวดล้อม จำนวน 40,000 องค์
    • พระวรกายสูง 40 ศอก
    • พระรัศมีแผ่ออกโดยรอบพระวรกาย กว้างไกล 11 โยชน์
    • ปรินิพพานเมื่อพระชนมายุ 40,000 ปี
    องค์สมเด็จพระพุทธโกนาคมนะ[​IMG] Edit

    • องค์สมเด็จพระพุทธโกนาคมนะ – ผู้หักเสียซึ่งข้าศึก คือ กิเลส
    • สถานที่ประสูติ โสภวดีราชอุทยานแห่งโสภวดีนคร
    • ประสูติในตระกูล พราหมณ์
    • พระพุทธบิดา พระนามว่า ยัญญทัตตพราหมณ์
    • พระพุทธมารดา พระนามว่า อุตตราพราหมณี
    • พระอัครมเหสี พระนามว่า รุจิคัตตาพราหมณี
    • พระราชโอรส พระนามว่า สัททวาหกุมาร
    • เสด็จออกบรรพชาหลังจากครองฆราวาสอยู่ได้ 3,000 ปี
    • พาหนะที่ทรงออกบรรพชา ช้างพระที่นั่ง
    • รัตนบัลลังก์ที่ประทับนั่งวันตรัสรู้ กว้าง-ยาว-สูง 20 ศอก
    • ไม้ศรีมหาโพธิ์ที่ตรัสรู้ชื่อว่า ไม้อุทุมพร (ไม้มะเดื่อ)
    • ทรงบำเพ็ญเพียรเพื่อตรัสรู้ นาน 6 เดือน
    • วันที่ตรัสรู้ วันเพ็ญเดือน 6 วิสาขปุณณมี
    • พระอัครสาวก ได้แก่ พระภิโยสเถร และพระอุตตรเถร
    • พระอุปัฏฐาก ได้แก่ พระโสทิชเถร
    • พระอัครสาวิกา ได้แก่ พระสมุทาเถรี และพระอุตตราเถรี
    • อัครอุปัฏฐาก ชื่อว่า อุคคะ และโสมเทว มหาอุบาสก
    • อัครอุปัฏฐายิกา ชื่อว่า นางวรา และนางสามา มหาอุบาสิกา
    • มีพระอรหันต์เป็นพุทธบริวารแวดล้อม จำนวน 30,000 องค์
    • พระวรกายสูง 30 ศอก
    • พระรัศมีแผ่ออกโดยรอบพระวรกาย กว้างไกลประมาณมิได้
    • ปรินิพพานเมื่อพระชนมายุ 30,000 ปี
    องค์สมเด็จพระพุทธกัสสปะ[​IMG] Edit

    • องค์สมเด็จพระพุทธกัสสปะ – ผู้สมบูรณ์ด้วยสิริ
    • สถานที่ประสูติ อิสิปตนมิคทายวันแห่งนครพาราณสี
    • ประสูติในตระกูล พราหมณ์
    • พระพุทธบิดา พระนามว่า พรหมทัตตพราหมณ์
    • พระพุทธมารดา พระนามว่า ธนวดีพราหมณี
    • พระอัครมเหสี พระนามว่า สุนันทาพราหมณี
    • พระราชโอรส พระนามว่า วิชิตเสนกุมาร
    • เสด็จออกบรรพชาหลังจากครองฆราวาสอยู่ได้ 2,000 ปี
    • พาหนะที่ทรงออกบรรพชา ปราสาทที่ลอยไปในอากาศ
    • รัตนบัลลังก์ที่ประทับนั่งวันตรัสรู้ กว้าง-ยาว-สูง 15 ศอก
    • ไม้ศรีมหาโพธิ์ที่ตรัสรู้ชื่อว่า ไม้นิโครธ
    • ทรงบำเพ็ญเพียรเพื่อตรัสรู้ นาน 7 วัน
    • วันที่ตรัสรู้ วันเพ็ญเดือน 6 วิสาขปุณณมี
    • พระอัครสาวก ได้แก่ พระติสสเถร และพระภารทวาชเถร
    • พระอุปัฏฐาก ได้แก่ พระสัพพมิตตเถร
    • พระอัครสาวิกา ได้แก่ พระอนุฬาเถรี และพระอุรุเวลาเถรี
    • อัครอุปัฏฐาก ชื่อว่า สุมังคละ และฆฏิการะ มหาอุบาสก
    • อัครอุปัฏฐายิกา ชื่อว่า นางวิชิตเสนา และนางภัตรา มหาอุบาสิกา
    • มีพระอรหันต์เป็นพุทธบริวารแวดล้อม จำนวน 1 โกฏิ
    • พระวรกายสูง 20 ศอก
    • พระรัศมีแผ่ออกโดยรอบพระวรกาย กว้างไกลหาประมาณมิได้
    • ปรินิพพานเมื่อพระชนมายุ 20,000 ปี
    องค์สมเด็จพระพุทธโคตมะ[​IMG] Edit

    • องค์สมเด็จพระพุทธโคตมะ – ผู้ประเสริฐแห่งหมู่ศากยราช
    • สถานที่ประสูติ กรุงกบิลพัสดุ์
    • ประสูติเมื่อ วันเพ็ญ เดือน 6
    • ประสูติในตระกูล กษัตริย์ แห่งศากยวงศ์
    • พระพุทธบิดา พระนามว่า พระเจ้าสุทโธทนะมหาราช
    • พระพุทธมารดา พระนามว่า พระนางสิริมหามายา
    • พระอัครมเหสี พระนามว่า พระนางยโสธรา(พิมพา)
    • พระราชโอรส พระนามว่า พระราหุลราชกุมาร
    • เสด็จออกบรรพชาหลังจากครองฆราวาสอยู่ได้ 29 ปี
    • พาหนะที่ทรงออกบรรพชา ม้ากัณฑกะ กับ นายฉันนะ
    • รัตนบัลลังก์ที่ประทับนั่งวันตรัสรู้ กว้าง-ยาว-สูง 14 ศอก
    • ไม้ศรีมหาโพธิ์ที่ตรัสรู้ชื่อว่า ไม้อัสสัตถะ (ไม้ปาเป้ง)
    • ทรงบำเพ็ญเพียรเพื่อตรัสรู้ นาน 6 ปี
    • วันที่ตรัสรู้ วันเพ็ญเดือน 6 วิสาขปุณณมี
    • พระอัครสาวก ได้แก่ พระสารีบุตร พระโมคคัลลานะ
    • พระอุปัฏฐาก ได้แก่ พระอานนทเถร
    • พระอัครสาวิกา ได้แก่ พระเขมาเถรี และพระอุบลวัณณาเถรี
    • อัครอุปัฏฐาก ชื่อว่า จิตตะ และหัตถอาฬวก มหาอุบาสก
    • อัครอุปัฏฐายิกา ชื่อว่า นางนันทมาตา และนางอุตตรา มหาอุบาสิกา
    • พระวรกายสูง 4 ศอก
    • พระรัศมีแผ่ออกโดยรอบพระวรกาย กว้างไกล 1 วา
    • ปรินิพพานเมื่อพระชนมายุ 80 ปี
    • อายุพระศาสนา 5,000 ปี
    • หลักธรรมที่ตรัสรู้ อริยสัจ4(ทุกข์ สมุทัย นิโรธ มรรค)
    <!-- NewPP limit reportPreprocessor node count: 29/1000000Post-expand include size: 0/2097152 bytesTemplate argument size: 0/2097152 bytesExpensive parser function count: 0/100--><!-- Saved in parser cache with key tripitaka:pcache:idhash:1560-0!1!0!!th!2 and timestamp 20101113024441 -->รับข้อมูลจาก "http://tripitaka.wikia.com/wiki/%E0%B8%9E%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%9E%E0%B8%B8%E0%B8%97%E0%B8%98%E0%B9%80%E0%B8%88%E0%B9%89%E0%B8%B2_28_%E0%B8%9E%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%84%E0%B9%8C"
     
  15. xlmen

    xlmen เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    1,428
    ค่าพลัง:
    +3,291
    โอววว.....คุณทรงกลดนำธรรมะชุดใหญ่มาฝากสุดยอดมากครับ โมทนาสาธุด้วยครับ /\
    คำว่า "สุญกัป" ฟังดูเหมือนไม่มีอะไร...แต่นัยลึกๆ แล้วหมายถึงช่วงเวลาที่ว่างจากการบังเกิดขึ้นของพระพุทธเจ้า....

    ดังนั้นคำสอนของพระพุทธองค์ก็จะพลอยอันตรธานหายไปด้วยในช่วงเวลาสุญกัปนั้น....ซึ่งก็จะหมายความว่า...สัตว์โลกที่บังเกิดขึ้นในช่วง "สุญกัป" มีโอกาสที่จะกระทำกรรมที่ไม่ดีให้ต้องไปเกิดในอบายทุคติภูมิได้ง่าย....
    ผมอ่านจบแล้วก็หนาวเลยครับ แหมะแดดออกจะแรงทำไมถึงหนาวจังครับคุณทรงกลด อิอิ

    ============================================

    [​IMG]
    สำหรับพิมพ์อกครุฑเศียรบาตร องค์นี้นั้นถ้าเทียบกับพิมพ์ที่สากลนิยมถือว่าผิดพิมพ์หลายจุดนะครับ.....
    แต่เนื่องจากพิมพ์นี้ตามหลักแล้วก็น่าจะมีหลายบล๊อคอยู่บางทีพิมพ์นี้อาจจะมีก็ได้เพียงแต่คนส่วนใหญ่อาจจะยังไม่รู้.....

    ลักษณะเนื้อ ความพรุน การยุบตัวด้านหลังดูดีมีลุ้นอยู่เหมือนกันครับ....
    เสียดายที่รูปไม่ชัดเวลาขยายใหญ่แล้วผมมองไม่เห็นมวลสารครับ....

    [​IMG]
    ส่วนองค์นี้นั้นลักษณะพิมพ์ดูไม่เหมือนเกศไชโยที่สากลนิยมรู้จักนะครับ...จะบอกว่าเป็นพระเกจิสร้างยุคหลังก็แปลกกอีกว่า....เกจิท่านนั้นทำไมจึงใส่เศษอิฐลงไปในพระด้วย...

    เพราะเท่าที่ผมทราบมาพระพิมพ์สี่เหลี่ยมชิ้นฟักนี้นอกจากสมเด็จที่ใส่เศษอิฐพระกำแพงแล้วก็ยังไม่ปรากฎว่ามีเกจิในยุคหลังท่านใดที่ใส่ตามท่านนะครับ...

    สรุป องค์นี้โดยส่วนตัวผมว่าน่าสงสัยมิใช่น้อยครับ....จะบอกว่าเป็นเกจิสร้างก็ไม่แน่ใจเหมือนกันครับ

    [​IMG]
    ลักษณะผิวเนื้อดูเหมือนพระโรงงานมากครับ....แค่เห็นเนื้อก็แทบจะไม่ต้องพิจารณาพิมพ์ทรงต่อเลยครับ....จบข่าวครับ
     
  16. xlmen

    xlmen เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    1,428
    ค่าพลัง:
    +3,291
    [​IMG][​IMG]
    ถ้าคุณ Kepper เดินตลาดล่างบ่อยๆ จะพบว่าเดี๋ยวนี้ในตลาดพระเริ่มที่จะมีการทำพระปลอมชนิดพระใหม่ก็ปลอมแล้ว....
    มีทั้งชนิดมีกล่องเดิมๆ จากวัด เรียกได้ว่าถ้าคิดจะเล่นพระใหม่บ้านๆ เห็นทีงานนี้จะยากครับ....

    อย่างล่าสุดที่ผมเห็นมาขนาดหนุมานมหาปราบของลป.ฟู เพิ่งออกได้ไม่นานของปลอมก็ออกมาตีตลาดแล้วติดๆ....
    กริ่งวัดสุทัศน์พร้อมกล่องเพิ่งออกแค่ไม่กี่ปีมานี้ประมาณ 254x กว่าๆ หรืองัยนี่แหละก็ยังมีปลอมออกมาแล้ว...

    ดังนั้นการเล่นหาพระดิน....ถ้าเห็นดินเผาใหม่ ผิวมันลื่นปราศจากความพรุนเนื้อแน่นไม่ซึมน้ำขอให้...สันนิษฐานได้เลยครับว่าเป็นดินเผาใหม่ไม่ใช่พระกรุแน่ๆ ครับ
     
  17. paraw

    paraw เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 พฤศจิกายน 2010
    โพสต์:
    1,269
    ค่าพลัง:
    +868
    ดู บอร์ดนี้ คึกคักมาก ฝากพิจารณา หน่อยครับ
    ขอบคุณครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • _MG_4664.jpg
      _MG_4664.jpg
      ขนาดไฟล์:
      428.3 KB
      เปิดดู:
      127
    • _MG_4679.jpg
      _MG_4679.jpg
      ขนาดไฟล์:
      371.8 KB
      เปิดดู:
      85
    • ข้าง.jpg
      ข้าง.jpg
      ขนาดไฟล์:
      162.7 KB
      เปิดดู:
      35
    • ข้าง 3.jpg
      ข้าง 3.jpg
      ขนาดไฟล์:
      137.5 KB
      เปิดดู:
      38
    • PG WEB.jpg
      PG WEB.jpg
      ขนาดไฟล์:
      207 KB
      เปิดดู:
      40
  18. kepper

    kepper เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 พฤศจิกายน 2010
    โพสต์:
    154
    ค่าพลัง:
    +128
    ขอบคุณ คุณ xlmen มากครับ
     
  19. ทรงกลด999

    ทรงกลด999 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    1,284
    ค่าพลัง:
    +1,510
    ผมก็หนาวครับ ทำกรรมไม่ดีไว้พอควรเหมือนกันครับ อยากเจาะลึกพระคาถาชินบัญชรครับ อยากรู้อะไรให้ลึกซึ้งครับ เพราะว่าคาถานี้ต้องมีอะไรพิเศษมากๆครับ ถึงได้ศักดิ์สิทธิ์มากครับ แค่ดูคำว่าพระนราสภายังแจกแจงได้ขนาดนี้ ท่านใดที่ต้องการปลูกต้นไม้มงคล ดูได้นะครับ เพราะต้นไม้ที่พระพุทธเจ้าต่างๆตรัสรู้นี่สุดยอด ไม่ต้องไปหาไม้แพงๆมาปลูกครับ
    ผมแนะนำ ไปวัดคราวหน้าหาไม้มงคลเหล่านี้ไปปลูก หรือไปปลูกสมุนไพรถวายวัดก็ได้ครับ
    ถ้านึกอะไรไม่ออกกล้วยครับ ทานได้ตั้งแต่ยอดถึงราก เรื่องปลูกสมุนไพรถวายวัดผมติดไว้ก่อน เป็นโครงการหน้าครับ เพราะเดี๋ยวนีหลายวัดไม่ค่อยมีต้นไม้โดยเฉพาะในเมืองใหญ่ๆครับ
     
  20. THANIT LINE

    THANIT LINE เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 พฤศจิกายน 2010
    โพสต์:
    145
    ค่าพลัง:
    +261
    ย่องๆมาอ่านครับ อ่านไปหลับไปครับ ข้อมูลดีดีมีเยอะมาก สาธุฯ
     
สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้

แชร์หน้านี้

Loading...